สหรัฐอเมริกา United States of America เมืองหลวง วอชิงตนั ด.ี ซ.ี ที่ตั้ง อยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ ระหว่างเส้นละติจูดท่ี 25-49 องศาเหนือกับเส้นลองจิจูดที่ 67-124 องศา ตะวันตก มีขนาดใหญเ่ ปน็ ลำดับ 3 ของโลก รองจากสหพนั ธรัฐรสั เซียและแคนาดา (ใหญ่กว่าไทยเกือบ 18-19 เท่า) มพี น้ื ที่ 9,631,420 ตร.กม. ชายฝั่งทะเลยาว 19,924 กม. อาณาเขต ทศิ เหนือ ติดกบั แคนาดา ทศิ ใต้ ตดิ กับเมก็ ซิโก ทิศตะวนั ออก ติดกับมหาสมทุ รแอตแลนตกิ ทิศตะวันต ติดกับมหาสมทุ รแปซฟิ ิก ภาคกลางเป็นที่ราบระหว่างเทือกเขาสูงทางตะวันตกกับที่ราบสูงทางตะวันออกภาคเหนือมีอาณาบริเวณ กวา้ งขวาง จากชายฝ่ังมหาสมุทรอารก์ ตกิ ไปจนถึงชายฝ่งั อา่ วเม็กซิโก ภาคตะวนั ออกเป็นเขตหนิ เกา่ มเี ทือกเขา และทรี่ าบสูงจาก ทศิ ตะวันออกเฉียงเหนือไปทิศตะวันตกเฉียงใต้ ท่สี ำคัญ ได้แก่ ที่ราบนวิ ฟาวแลนด์และลาบ ราดอร์ และเทือกเขา แอพพาลาเชียน ภมู ิอากาศ สหรฐั ฯ มี 4 ฤดู อุณหภมู ใิ นแต่ละรัฐแตกต่างกัน พ้ืนทีเ่ กอื บทง้ั หมดอยู่ในเขตอบอุน่ แต่ รัฐฮาวาย และรัฐฟลอริดามีอากาศรอ้ นชนื้ รัฐอะแลสกามีอากาศหนาวจดั บรเิ วณท่ีราบฝัง่ ตะวนั ตกของแมน่ ำ้ มสิ ซสิ ซปิ ปี มีอากาศกึ่งแห้งแล้ง ส่วนบริเวณ Great Basin ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศมีอากาศแห้งแล้ง สําหรบั ฤดูใบไม้ผลิ (ม.ี ค.-พ.ค.) อณุ หภมู ิ 9-23 องศาเซลเซียส ฤดหู นาว (ธ.ค.-ก.พ.) อุณหภมู ิ -12 ถงึ -8 องศา เซลเซียส ฤดูร้อน (ม.ิ ย.-ส.ค.) อุณหภูมิ 20-34 องศาเซลเซียส ฤดูใบไมร้ ่วง (ก.ย.-พ.ย.) อุณหภูมิ 7-25 องศา เซลเซียส
ประชากร ประมาณ 332 ล้านคน (ก.ค.2563) มากเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากจีนและอินเดยี เป็น คนผวิ ขาว 72 % เชอื้ สายลาติน 17.8% แอฟริกา 12.6% เอเชีย 4.8% รัฐท่ีมีประชากรมากทสี่ ดุ 5 อันดบั แรก ได้แก่ รัฐแคลิฟอร์เนีย รัฐเทกซัส รัฐฟลอริดา รัฐนิวยอรก์ และรัฐเพนซิลเวเนีย ทั้งนี้ สหรัฐฯ ประกอบด้วย 50 รัฐ และเขตปกครองพเิ ศษ District of Columbia ซ่งึ เป็นท่ีต้งั ของเมืองหลวง คอื วอชงิ ตัน ด.ี ซ.ี ศาสนา คริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ 46.5% โรมันคาทอลิก 20.8% มอร์มอน 1.6% ยิว 1.9% พุทธ 0.7% อสิ ลาม 0.9% ฮนิ ดู 0.7% อน่ื ๆ 4 % และไม่นับถอื ศาสนา 22.8% ภาษา ภาษาประจำชาติ : ภาษาอังกฤษมีผู้ใช้ประมาณ 231.1 ล้านคน (78.2%) ภาษาสเปนประมาณ 37.4 ล้านคน (13.4%) ภาษาอื่นที่สำคัญ ได้แก่ ภาษาจีนประมาณ 2.8 ล้านคน ภาษาฝรั่งเศสประมาณ 2 ล้านคน ภาษาตากาล็อกประมาณ 1.6 ล้านคน ภาษาเวียดนามประมาณ 1.3 ล้านคน ภาษาเกาหลีประมาณ 1.1 ล้าน คน และภาษาเยอรมันประมาณ 1.0 ลา้ นคน รัฐฮาวายใชภ้ าษาฮาวายเป็นภาษาราชการ ความสมั พันธ์ไทย-สหรัฐฯ ไทยกับสหรัฐฯ มีความสัมพันธ์ทใ่ี กล้ชิด โดยมีการลงนามในวิสัยทัศน์ร่วมว่าด้วยการเป็นพันธมิตรด้าน การ ป้องกันประเทศระหว่างสหรัฐอเมริกาและไทย (Joint Vision Statement 2020 for the U.S. – Thai Defense Alliance) เพื่อขับเคลื่อนการเป็นหุ้นส่วน การดำรงบทบาท ความร่วมมือด้านความมั่นคงท่ียั่งยนื การเป็นผู้นำ และส่งเสริมกลไกความมั่นคงในภูมิภาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดบั สูงของสหรัฐฯ เยือนไทยอย่าง ต่อเน่ือง ทั้งนี้ ความรว่ มมือดา้ นความม่นั คงเป็นไปโดยราบร่ืนมากกว่าความร่วมมือดา้ นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี การเดินหน้าสานต่อความร่วมมอื ด้านความมั่นคงและการค้าในประเด็นที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน จะทำให้ ความสมั พนั ธ์ท้ังสองประเทศไปในเชงิ บวกมากขน้ึ นอกจากนี้ การทไ่ี ทยมีความร่วมมือด้านการแพทยท์ หารกับ สหรัฐฯ ทำให้สหรัฐฯ เล็งเห็นศักยภาพของไทยที่จะรว่ มมือกับสหรัฐฯ ด้านการแพทย์มากขึ้นในห้วงที่มกี าร แพร่ ระบาดของโรค COVID-19 ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ กับไทยเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนด้านพลังงาน ระหว่างกนั เพื่อขยายกิจกรรมความรว่ มมอื ทางเศรษฐกจิ และการลงทุนระหว่างสหรฐั ฯ และไทย เพื่อพัฒนา ห่วงโซ่อุปทาน ของพลังงานสะอาด นำ้ มันและกา๊ ซ และพลงั งานทางเลือก ประเด็นที่อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ได้แก่ ประเด็นเศรษฐกิจและ การค้า เนื่องจากสหรฐั ฯ มีเป้าหมายลดการขาดดุลการค้ากบั ไทย สหรัฐฯ จงึ ใชม้ าตรการฝ่ายเดยี วเพ่ือกดดัน ไทยให้ ปรับนโยบายการค้าทเี่ อื้อต่อผลประโยชนข์ องสหรัฐฯมากข้ึน เช่น การระงบั สิทธิพิเศษทางศุลกากรเป็น การ ทั่วไป (Generalized System of Preference-GSP) ต่อสินค้าไทย การวิจารณ์ไทยว่ามีปัญหาสิทธิ แรงงาน การละเมิดทรพั ยส์ นิ ทางปัญญา และการใชแ้ รงงานเดก็ เพือ่ กดดนั ไทยใหป้ รบั เปล่ียนกฎหมาย และ เปดิ ตลาด ให้สินคา้ และการลงทนุ จากสหรฐั ฯ
การดำเนนิ นโยบายต่อภมู ิภาคเอเชียท่สี หรฐั ฯ ใหค้ วามสำคญั อยา่ งยิ่งในการสกัดก้นั การขยายอทิ ธิพล ของจีน การกดดนั จีนในทกุ มติ ิ และการจัดการกบั ภยั คกุ คามจากนิวเคลยี ร์ของเกาหลเี หนอื ทำใหส้ หรฐั ฯ จะขอความ ร่วมมอื จากไทยในเรือ่ งนม้ี ากขึ้นและเกินขอบเขตในมาตรการของ UNSC นอกจากนี้ การท่สี หรัฐฯ จะดำเนิน นโยบายกดดันจนี มากขนึ้ ท้งั ในมิติความมน่ั คง เศรษฐกิจ การเมือง และสิทธมิ นุษยชน ก็อาจส่งผล กระทบต่อ ไทยทางอ้อมจากการที่สหรัฐฯ จะติดตามความสัมพันธ์ของไทยกับจีน และกดดันไทยให้ร่วมมือกับ สหรัฐฯ มากขึ้นเช่นกัน เช่น การที่ไทยซื้ออาวุธจากจีนและมีการซ้อมรบระหว่างกัน การที่สหรัฐฯ ต้องการลด การ เสียเปรยี บดุลการค้ากับจีนจงึ มุ่งดำเนนิ นโยบายกดดนั ทางการคา้ กับจนี โดยเชือ่ มโยงกับประเด็นความ มั่นคง เช่น กรณกี ารควาํ่ บาตรบริษทั หวั เวย่ และ ZTE และการกดดันไทยไม่ให้ร่วมมือกบั จนี ในการสง่ ตัว ชาวมสุ ลิมอุย กูร์กลับไปใหจ้ นี เป็นตน้ สหรัฐฯ เปน็ ตลาดส่งออกและนำเขา้ อันดบั ท่ี 2 ของไทยเปน็ มลู คา่ 31,550 ล้านดอลลาร์สหรฐั สว่ นไทยเป็นคู่ ค้าอันดับที่20ของสหรัฐฯปริมาณการค้าในห้วงม.ค.-ส.ค.2563ไทยส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ มูลค่า 23,944 ลา้ นดอลลาร์สหรัฐ และนำเขา้ สนิ ค้าจากสหรัฐฯ มูลค่า 7,606 ล้านดอลลารส์ หรัฐ โดยไทยเป็น ฝา่ ยได้เปรียบ ดุลการค้าสหรัฐฯ 16,338 ล้านดอลลารส์ หรฐั สนิ คา้ ส่งออกไปยงั สหรฐั ฯ ได้แก่ เครือ่ งคอมพวิ เตอร์ ผลิตภัณฑ์ ยาง อัญมณแี ละเครื่องประดับ เครื่องนุ่งหม่ เคร่อื งจกั รกลและสว่ นประกอบ เหล็ก เหล็กกลา้ และ ผลิตภัณฑ์ แผงวงจรไฟฟ้า อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบรถยนต์ เครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์และส่วนประกอบ ส่วนสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช เครื่องจกั รกลและส่วนประกอบ เคมีภณั ฑ์ เครอ่ื งบิน เครอื่ งรอ่ น อุปกรณ์การบินและส่วนประกอบ เครือ่ งจักร ไฟฟา้ และสว่ นประกอบ นำ้ มนั ดิบ สว่ นประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เครอ่ื งมอื วทิ ยาศาสตร์ เครอ่ื งมือแพทย์ เครือ่ งเพชรพลอย อญั มณี เงินแทง่ และทองคำ การค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ มีประเด็นที่ยังคงน่าห่วงกังวล คือ การที่สหรัฐฯ กีดกันไทยด้านการค้า และ เศรษฐกิจ โดยใช้ค่านิยมดา้ นสิทธิมนษุ ยชนเป็นข้ออา้ งในการโจมตีไทยว่ามีปญั หาค้ามนุษย์ ไม่คุ้มครอง สิทธิ แรงงาน ไม่ปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา ใช้แรงงานเด็กและสตรี และบังคับใช้แรงงาน ตามมาตรฐานของ สหรัฐฯ เป็นเงอื่ นไขเชื่อมโยงกับการพิจารณาให้สิทธิพเิ ศษทางการค้าของไทย เชน่ การให้สิทธิพิเศษทางภาษี ศุลกากรเป็นการทั่วไป (Generalized System of Preference-GSP) รวมทั้งนำประเด็นการค้ามนษุ ยก์ ดดนั ผลประโยชนด์ ้านการคา้ และเศรษฐกจิ ของไทย ซึง่ จะสง่ ผลกระทบตอ่ การส่งออกและภาพลกั ษณ์สนิ ค้าของไทย ในสายตาผู้บรโิ ภคทั่วโลก ทำให้ไทยสญู เสียโอกาสส่งออกสินคา้ มากข้ึน ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้ประเทศ อ่นื ส่งออกสนิ ค้าแข่งขนั กบั ไทยได้มากข้ึน โดยสนิ คา้ ไทยท่จี ะได้รบั ผลกระทบมากท่ีสุด คือ สินคา้ ประมง ข้อตกลงสำคัญ : หนังสอื สญั ญาทางพระราชไมตรี ค.ศ.1856 (ลงนามเม่ือ 20 มี.ค.2376) หนังสอื สัญญาทาง พระราชไมตรีการค้าและพิกัด ค.ศ.1856 (29 พ.ค.2399) สนธิสัญญาทางไมตรีพาณิชย์และการเดินเรือ (13 พ.ย.2480) ความตกลงว่าดว้ ยความร่วมมือทางเศรษฐกิจและทางเทคนคิ (19 ก.ย.2493) สนธิสัญญาทาง ไมตรี
และความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหวา่ งราชอาณาจักรไทยและสหรัฐฯ (29 พ.ค.2509) บันทึกความเข้าใจ ว่า ด้วยการควบคมุ ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ (28 ก.ย.2514) ความตกลงว่าด้วยความรว่ มมือทางเศรษฐกจิ และวิชาการ (2 ม.ิ ย.2520) ความตกลงว่าด้วยการขนสง่ ทางอากาศ (7 ธ.ค.2522) สนธสิ ญั ญาวา่ ด้วยความร่วมมือในการ บงั คับ ใหเ้ ปน็ ไปตามคำพพิ ากษาในคดีอาญา (29 ต.ค.2525) สนธิสญั ญาวา่ ด้วยการสง่ ผรู้ ้ายขา้ มแดน (14 ธ.ค.2526) ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (13 เม.ย.2527) สนธิสัญญาว่า ด้วยความ ช่วยเหลือซ่งึ กนั และกนั ทางอาญา (19 ม.ี ค.2529) เทศบาลนครเชยี งใหม-่ เมืองซาน ราฟาเอล รฐั แคลฟิ อร์เนีย (13 มี.ค.2533) ปฏิญญาแห่งมิตรภาพเทศบาลนครอุดรธานี-เมืองรีโน รัฐเนวาดา (18 ธ.ค.2535) ประกาศ สมั พนั ธภาพเทศบาลตำบลแหลมฉบงั -เมอื งคารส์ ันซติ ้ี รฐั เนวาดา (26 ก.ค.2536) ความตกลงวา่ ดว้ ย การขนส่ง ทางอากาศ (8 พ.ค.2539) อนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนและการป้องกันการเลี่ยงภาษี ในส่วนท่ี เกี่ยวกับเงินได้ (29 พ.ย.2539) ความตกลงการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องที่ลงนามแล้ว ได้แก่ เทศบาลเมืองภูเก็ต-เทศบาลนครลาสเวกัส (10 ก.พ.2540) ความตกลงว่าด้วยการจัดตั้งสถาบันฝึกอบรม ระหว่างประเทศว่าด้วยการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย (30 ก.ย.2541) การสถาปนาความสัมพันธ์ เทศบาล เมอื งลำ-เทศบาลเมืองโอรนิ ดา รฐั แคลิฟอร์เนยี (14 ธ.ค.2541) กรอบความรว่ มมือทางเศรษฐกิจ (14 ธ.ค.2544) ข้อตกลงกรอบการค้าและการลงทุน (23 ต.ค.2545) บันทึกความตั้งใจตามโครงการติดตั้งศูนย์ ข้อมลู บคุ คล (11 ม.ี ค.2547) ความตกลงว่าด้วยความรว่ มมือดา้ นวทิ ยาศาสตร์และวิชาการ (6 ส.ค.2556) และ วสิ ยั ทศั น์รว่ ม ว่าดว้ ยการเป็นพนั ธมิตรด้านการป้องกนั ประเทศระหวา่ งสหรัฐอเมรกิ าและไทย (พ.ย.2562)
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ทอมสั แอลวา เอดิสัน (Thomas Alva Edison) ทอมสั แอลวา เอดสิ นั (องั กฤษ: Thomas Alva Edison)เกิดเมอ่ื วันท่ี 11 กุมภาพันธK ค.ศ. 1847 ทอมสั เอดิ สัน เปนS นักประดษิ ฐKและนกั ธุรกิจชาวอเมริกัน ผ[ซู ึ่งประดษิ ฐอK ุปกรณทK สี่ ำคัญตาb ง ๆ มากมาย ไดฉ[ ายา \"พbอมด แหbงเมนโลพารKก\" เปSนหนึ่งในผู[ริเริ่มนำหลักการของ การผลิตจำนวนมาก และ กระบวนการประดิษฐK มา ประยุกตKรวมกนั ทอมัส เอดิสัน มักจะถูกเข[าใจผิดวbาเปSนผู[คิดค[นหลอดไฟ แตbในความเปSนจริงเขาเปSนบุคคลแรกที่จด สิทธิบตั รในการประดิษฐKหลอดไฟจากนักวิทยาศาสตรKกวbา 20 คนทีค่ ดิ ค[นหลอดไฟ และสามารถนำมาทำเปSน ธุรกิจได[ เอดิสันยังคงเปSนหนึ่งในผูก[ อb ตั้งบริษัทเจเนอรลั อิเลก็ ทริก (General Electric) บริษัทเครื่องใช[ไฟฟxา ขนาดใหญขb องโลก และกbอตัง้ อีกหลายบรษิ ัทในด[านไฟฟxา หนง่ึ ในบรษิ ัทของเอดสิ นั ยงั เปSนผ[ูคิดค[นเก[าอี้ไฟฟxา สำหรับประหารชวี ติ นกั เอดิสันยังคงเปนS บุคคลสำคัญในสงครามกระแสไฟฟxา (War of Currents) โดยเอดิสันพยายามผลักดนั ระบบไฟฟxากระแสตรงของบริษัท แขbงกับระบบไฟฟxากระแสสลับของจอรKจ เวสติงเฮาสK (George Westinghouse) เอดิสัน นนั้ กลbาวได[วbาเปSนนกั ประดษิ ฐKทีม่ ีผลงานมากทสี่ ดุ ในยุคนนั้ เขามสี ทิ ธิบตั รส่งิ ประดษิ ฐKภายใต[ชื่อ ของเขาเปนS จำนวนถงึ 1,093 ชน้ิ สิง่ ประดษิ ฐเK หลาb นี้ สวb นใหญไb มไb ด[เปนS ส่งิ ประดิษฐKทีเ่ ขาคิดค[นข้ึนมาเอง แตb เปSนการพฒั นาจากสงิ่ ประดษิ ฐKดงั้ เดิมท่คี ิดคน[ ข้ึนโดยลูกจา[ งของเขา เพราะเหตนุ ้ีทำใหเ[ ขาถกู วพิ ากษKวิจารณKอยbู เสมอ ในเรื่องการอ[างผลงานเปSนของตวั แตbผูเ[ ดียว โดยไมbแบbงปนƒ ใหก[ บั ผูค[ ิดค[นด้ังเดิม นอกจากสิทธบิ ัตรของ เขาซึ่งมอี ยูทb ั่วโลกแลว[ เอดิสันก็ยังได[กอb ตัง้ บริษทั ผลติ ภาพยนตรK ภายใต[ชอื่ Edison Trust ในความเปSนจริงแล[ว เอดิสันไมbได[เปSนผู[ริเริ่มประดิษฐKหลอดไฟฟxาตามที่คนทั่วไปเข[าใจแตbอยbางใด หลักการของหลอดไฟฟxาถูกพัฒนามากbอนหน[านี้โดยนักประดิษฐKหลายทbาน เชbน จูเซ็ปป„ สวอน (Juseph
Swan) หรอื ไฮนรK ชิ เกอเบิล (Heinrich Goebel) อยbางไรก็ตามเอดสิ ันไดค[ ำนึงถงึ การนำหลอดไฟฟาx ไปใชง[ าน จริงในชวี ิตประจำวันอยbางจรงิ จงั โดยเอดิสนั ไดท[ ำใหอ[ ายุการใช[งานของหลอดไฟฟาx ยาวนานพอท่ีจะนำไปใช[ได[ อยาb งสะดวกสบายในบ[านเรอื นหรือรา[ นคา[ นอกจากนั้นเอดิสนั ยังได[สรา[ งระบบผลติ และแจกจbายไฟฟxา อทิ ธพิ ลการใชDหลอดไฟฟาH ในประเทศไทย โทมัส เอดิสัน คิดทำหลอดไฟฟxาสำเร็จเมื่อป‹ 1880 และได[สร[างโรงไฟฟxาขึ้นที่นิวยอรKคเมื่อป‹ 1882 จากนัน้ ไฟฟxากข็ [ามไปสวbางทกี่ รงุ ลอนดอน และเริ่มกระจายไปในยุโรป ตอb มาในป‹ 1884 ไฟจากฟาx น้ีก็ข[ามโลก มาสวbางท่ีกรงุ เทพฯหลังการกำเนิดขึน้ ในโลกไดไ[ มนb าน และกลับดับมืดทั่วทั้งเมอื งอีก ในป‹ 1942 ถึงป‹ 1945 ทง้ั กรุงเทพฯตอ[ งกลับไปใช[ตะเกียงเหมือนเมื่อตน[ รชั กาลท่ี 5 ทงั้ นใ้ี นป‹ 1878 จอมพล เจ[าพระยาสรุ ศกั ดมิ์ นตรี (เจมิ แสงชูโต) คร้ังยงั เปนS เจา[ หมน่ื ไวยวรนาถ ได[รbวม เปSนคณะราชทูตสยามไปอังกฤษ เห็นความสวbางไสวของกรุงลอนดอนยามราตรี จึงเกิดความคิดวbาเมืองไทย นbาจะนำไฟฟxามาใช[บ[าง แตbเมื่อนำความขึ้นกราบบังคมทูล พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล[าฯ ทรงรับสั่งวbา “ไฟฟxา หลังคาตัด ขา[ ไมเb ช่ือ” ทั้งนี้ยามน้นั เมืองไทยยังอยใูb นยคุ ใช[ตะเกยี ง ใครจะคิดวาb แสงสวาb งจะเดนิ มาตาม สายใหค[ วามสวbางได[ และคำวbา “ไฟฟxา” ท่ีเกิดข้นึ ในสมัยนัน้ กค็ งหมายถงึ ไฟประหลาดท่ีมาจากฟxา เจา[ หมน่ื ไวยฯ ซง่ึ ขณะนนั้ มีตำแหนงb เปSนผูบ[ ังคบั การทหารหน[า หรือผ[ูบัญชาการทหารบก จงึ คดิ ท่ีจะทำให[ ทอดพระเนตรให[ได[ จึงนำที่ดินมรดกแปลงหนึ่งไปกราบทลู ขอพระราชทานให[สมเด็จพระบรมราชเทวที รงรับ ซื้อไว[ ไดเ[ งนิ มา 180 ชง่ั หรือ 14,400 บาท จากนัน้ จงึ ให[ นายมาโยลา ครูฝ’กทหารชาวอติ าเลยี น เดนิ ทางไปซอื้ เครอื่ งกำเนิดไฟฟาx ท่ีกรุงลอนดอน นายมาโยลาได[เครื่องกำเนิดไฟฟxามา 2 เครื่องพร[อมอุปกรณK สาย และหลอด เจ[าหมื่นไวยฯจึงติดตั้ง ทดลองขน้ึ ทีศ่ าลากรมทหารหนา[ ซ่งึ กค็ อื ศาลากระทรวงกลาโหมในปจƒ จุบัน กbอนทีจ่ ะวางสายเขา[ ไปที่พระที่น่ัง จักรีมหาปราสาทที่กำลังจะมีงานใหญb และเดินเครื่องจbายไฟในวันที่ 20 กันยายน 1884 ซึ่งเปSนวันคล[ายวัน พระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา[ เจ[าอยbหู วั จึงถือได[วาb กรุงสยามมีไฟฟาx คร้งั แรกในวันนนั้ สมเดจ็ พระพุทธเจา[ หลวงได[ทอดพระเนตรแสงสวาb งจากไฟฟาx แลว[ ก็มีพระราชดำริวbา ไฟฟxานบั วาb เปนS ส่ิง ทจี่ ะเกดิ ประโยชนอK ยาb งมาก ซงึ่ จะสะดวกและประหยดั คbาใช[จbายกวาb การใช[น้ำมนั และแก“สทใี่ ช[จุดโคมไฟในยาม นั้น ไมbเพียงแตbในพระบรมมหาราชวัง ราษฎรทั่วไปก็ควรจะได[ใช[ประโยชนKจากไฟฟxาด[วย นอกจากจะ พระราชทานเงนิ คาb เครอ่ื งกำเนดิ ไฟฟาx คืนให[เจ[าหมื่นไวยวรนาถแล[ว ยังทรงวางแผนจะใหม[ โี รงไฟฟxาขนาดใหญb ขนึ้ เพอ่ื ประชาชนตอb ไป กbอนสงครามโลกครงั้ ท่ี 2 กรุงเทพฯมโี รงไฟฟาx อยูb 2 โรง คือที่วัดเลยี บ เชิงสะพานพุทธฯโรงหนงึ่ เปSนของ บริษัทไฟฟxาไทยคอรKเปอเรชั่น จำกัด ที่ฝรั่งชาติเดนมารKคได[รับสมั ปทานมาตั้งแตbสมัยรชั กาลที่ 5 จbายไฟให[ จังหวัดพระนคร-ธนบุรเี ขตใต[ กับโรงไฟฟxาหลวงสามเสน สร[างในป‹ 1912 สมัยรัชกาลที่ 6 จbายไฟฟxาให[พระ นคร-ธนบรุ เี ขตเหนือ โดยใช[แนวคลองบางลำพแู ละคลองบางกอกน[อยแบbงเขตกนั แตใb นป‹ 1942 จนถงึ ถึงป‹ 1945 ซึง่ อยูใb นชbวงสงครามโลกครัง้ ที่ 2 คนกรงุ เทพฯก็ตอ[ งกลับไปสบbู รรยากาศ สมัยต[นรชั กาลที่ 5 กนั อีกครงั้ เน่อื งจากโรงไฟฟาx ท้งั ที่วัดเลยี บและสามเสนถูกระเบดิ จากเครอ่ื งบนิ ถลมb พังทั้งคbู ตอ[ งกลบั ไปใชต[ ะเกียงกนั
มารี กรู ี (Marie Curie) มารี สกวอดอฟสกา-กูวร์ ี หรือ มาเรยี ซาลอแมอา สกวอดอฟสกา เป็นชาวโปแลนด์ เกดิ เม่ือวันท่ี 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 1867 ท่ีเมืองวอร์ซอ เขตวิสทูลา จักรวรรดิรัสเซีย ซึ่งปัจจุบันเป็นประเทศโปแลนด์เป็น บุตรของบรอนีสวาวา กับววาดึสวอฟ ววาดึสวอฟ (บิดา) เป็นครูสอนวิทยาศาสตร์ และมักพาเธอมาท่ี ห้องปฏิบัติการเสมอ จึงทำให้เธอสนใจวิชาด้านวิทยาศาสตร์ตั้งแต่เด็ก แม้จะมีเหตุการณ์ทางการเมืองเมื่อ รสั เซียมาปกครองโปแลนด์และบงั คบั ใหใ้ ช้ภาษารัสเซยี เป็นภาษาทางการกต็ าม ในสมยั น้ันค่านิยมในสงั คมของ ผู้หญิงส่วนใหญ่จะต้องเรียนการเป็นแม่บ้าน ซึ่งมารี กูว์รี แตกต่างโดยสิ้นเชิง ที่ใส่ใจค้นคว้าทางด้าน วิทยาศาสตร์ มารี กรู ีเปน็ นักเคมผี คู้ ้นพบรังสเี รเดยี ม ท่ีใช้ยับยัง้ การขยายตัวของมะเรง็ ซงึ่ เป็นโรคร้ายท่ีไม่สามารถรักษาให้ หายขาดไดแ้ ตม่ อี ัตราการตายของคนไขเ้ ปน็ อันดบั หนึง่ มาทกุ ยคุ สมยั ดว้ ยผลงานทมี่ คี วามสำคญั ต่อมนุษยชาติ เหล่านี้ ทำให้มารี กูว์รีได้รับรางวัลโนเบลถึง 2 ครั้งด้วยกัน เธอ ทดลองไปเรื่อย ๆ จนมาพบรังสีแร่ธาตุ เรเดียม โดยได้มาจากแร่พิตช์เบลนด์ที่เป็นออกไซต์ชนิดหนึ่งสามารถแผ่กระจายรังสีได้ จากการทดลองมา หลายปใี นการสกัดแร่ชนดิ ต่าง ๆ จนมาพบรงั สดี ังกลา่ วทำให้เธอไดร้ ับปรญิ ญาเอกในการค้นพบแรธ่ าตุเรเดียม จนใน ค.ศ. 1902 เธอก็สามารถสกัดแร่เรเดียมให้บริสุทธิ์ได้ เรียกว่า เรเดียมคลอไรด์ ที่สามารถแผ่รังสีได้ มากกว่ายูเรเนียมหลายเท่า มีคุณสมบัติคือ ให้แสงสว่างและความร้อนได้ และเมื่อแร่นี้แผ่รังสีไปถูกวัตถุอ่นื วัตถุนั้นจะเปล่ียนสภาพเป็นธาตุกัมมันตรังสี และสามารถแผ่รังสีได้เช่นเดียวกันกับแร่เรเดียม จนทำให้เธอ ได้รับรางวลั โนเบลตอ่ มา นอกเหนือจากบทบาทในทางการแพทย์ ชว่ งสงครามโลกครั้งที่ 1 มารแี ละลูกสาวก็ ใช้ประโยชน์จากรังสีตั้งรถเอ็กซ์เรย์เคลื่อนที่ช่วยเหลือทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากสงคราม ตลอดเวลาที่เธอ ทำงาน เธอต้องเผชิญกับทัศนคติของคนในสังคมเวลานั้นที่มองว่าสตรีมีความรู้ไมเ่ ทียบเท่าผู้ชาย แต่บทบาท และการทำงานหนักของเธอย่อมพิสูจน์ว่าเรื่องนี้ไมเ่ ป็นความจริง ภายหลังสงครามจบลง มารี คูรี ก็กลับมา ทำงานศกึ ษาเรเดียมต่อ รังสีบำบัดได้ผลอยา่ งเหลือเชื่อสำหรบั มะเรง็ เฉพาะท่ีบางชนิด แตก่ ารรกั ษาดว้ ยรังสกี ็มี
ข้อจำกัด อาทิ วางทิศทางได้เฉพาะจุด การรักษามะเรง็ ที่กระจายตัวแล้วก็มีข้อจำกัดในการรักษา หากเพ่ิม พลงั งานของแสงเปน็ 2-4 เทา่ มีแต่จะทำใหผ้ ้ปู ่วยตาพร่า และไดร้ บั ผลกระทบเนื่องจากร่างกายไมส่ ามารถทน รับปรมิ าณรงั สีได้ มนั ไมไ่ ด้เกดิ ประโยชน์อะไรตอ่ การรักษาแบบทจ่ี ะใหห้ ายขาดได้ อิทธพิ ลการใชร้ ังสีเรเดียมตอ่ ประเทศไทย รังสีรักษาในประเทศไทย นับตงั้ แต่ นายแพทยพ์ ิณ เมืองแมน (หลวงพิณ พากยพ์ ทิ ยาเภท) ซึ่งเป็น รังสีแพทย์ คนแรกของประเทศไทยไดต้ ิดต้ังเครื่องเอกซเรยเ์ คร่อื ง แรกของโรงพยาบาลศริ ริ าช โดยในระยะแรก ใชใ้ นการ ถา่ ยภาพเพ่อื การวินิจฉยั โรค หนงึ่ ปีตอ่ มาท่านไดม้ ี ผู้ชว่ ยเข้ามารว่ มงาน คอื นายแพทย์อำนวย เสมร สุต มาเปน็ รังสีแพทยท์ ่านท่สี อง โรงพยาบาลมีผปู้ ว่ ยมาก ขนึ้ ตามลำดับ ในปพี .ศ. 2472 (ค.ศ. 1929) ไดเ้ ริ่มใช้ เอกซเรย์ในการรกั ษาโรคผวิ หนงั เปน็ ครง้ั แรก นบั ว่า เปน็ จุดเริ่มตน้ ของรงั สรี กั ษาในประเทศไทย ในปีพ.ศ 2475 (ค.ศ. 1932) ได้มีเครื่องเอกซเรย์เครื่องที่สอง จึงได้มีการรักษามะเร็งด้วยการฉายแสงมากขึ้นตั้งแต่ นั้นมา นายแพทย์อำนวย เสมรสุต ได้รับทนุ มหิดล ไปศึกษาวิชารังสวี ิทยาและดูงานด้านเรเดียม ณ ประเทศอังกฤษ ท่านได้กลบั มาเปน็ ผู้บุกเบิกงาน ทางด้านรงั สรี ักษา โดยเฉพาะอย่างย่ิงการใส่แร่ เรเดียม ท่านทำเป็นคนแรก ของประเทศไทยเมื่อปี พ .ศ. 2481 (ค.ศ. 1938) และได้สร้างความ เจริญก้าวหน้าให้แก่วิชารังสรี ักษาอย่าง รวดเร็ว จึง นับว่า ศาสตราจารย์นายแพทย์อ านวย เสมรสุต เป็น ปูชนียบุคคลทีส่ ำคัญของรังสีรักษา เป็นผู้ วางรากฐาน ให้รังสรี ักษาเจรญิ งอกงามมาจนถงึ ปจั จบุ นั อเล็กซานเดอรO เกรแฮม เบลลO (Alexander Graham Bell) อเล็กซานเดอรK เกรแฮม เบลลK เกดิ เม่ือวันที่ 3 มีนาคม ค.ศ. 1847 นกั ประดิษฐKชาวสก“อตทอี่ พยพเข[ามา ตั้งถิ่นฐานในสหรัฐอเมริกา เขาเปSนผู[สอนวิชาสรีวิทยาการเปลbงเสียง (Vocal Physiology) ที่มหาวิทยาลัย บอสตัน จึงสนใจประดษิ ฐเK ครื่องสื่อสารทางโทรเลขด[วยเสยี ง ใน ค.ศ. 1876 เบลลแK ละผ[ชู วb ยชอื่ โทมัส เอ.วัต สัน (Thmos A.Watson) ประสบความสำเร็จในการทดลองพดู ผbานเครือ่ งรับโทรศัพทK หลังจากน้นั เบลลKและ
หุ[นสbวนได[กbอตั้งบริษัทที่พัฒนาระบบและให[บริการการส่ือสารทางโทรศัพทK ตbอมาบริษัทของเบลลKได[ขยาย กจิ การและเปลย่ี นชอ่ื กระทั่งใน ค.ศ. 1899 ไดก[ ลายเปนS บริษทั อเมริกันเทเลโฟนแอนดKเทเลกราว (American Telephone and Telegraph) หรือทีร่ [ูจักกนั วbาบริษทั AT&T ซ่ึงเปSนบรษิ ทั ท่ใี หญbทส่ี ดุ ในโลกในครสิ ตศK ตวรรษ ที่ 20 โดยเปSนเจ[าของโทรศัพทK 182 ล[านเลขหมาย มีการติดตั้งสายเคเบิลโทรศัพทKยาวมากกวbา 1,000 ล[าน ไมลK และมีการจ[างงานคนเกอื บ 1 ล[านคน กอb นท่จี ะเลิกกิจการเม่อื วันท่ี 1 มกราคม ค.ศ. 1984 ระบบส่อื สารทางโทรศพั ทชK วb ยเป›ดโลกของการสื่อสารใหผ[ ค[ู นในสงั คมและตbางสงั คมไดต[ ดิ ตอb สมั พันธKกัน โดยสะดวก และเปลีย่ นวิธีชีวิตของชาวอเมริกนั และชาวโลกในเวลาตbอมา ระบบโทรศัพทKชbวยให[ระบบธุรกิจ เติบโตอยbางรวดเร็วและคลbองตัวเพราะนักธุรกิจสามารถติดตbอสื่อสารกันได[ทันที และทำให[เกิดการพัฒนา อุตสาหกรรมอืน่ ๆ ตามมา เชbน การผลิตสายโทรศัพทKและเครื่องรับโทรศัพทK รวมทั้งการจ[างงานภาคบริการ จำนวนมากทัว่ โลก ที่สำคัญยงั ทำให[เกิดการพฒั นานวัตกรรมระบบสื่อสารใหมb ๆ อยbางไมหb ยุดยั้งจนถึงปƒจจบุ นั มีความเก่ียวขDองอยา\\ งไรกับประเทศไทย ผู[เปSนคนต[นคิดทำเครื่องโทรศัพทKแบบที่คนนิยมใช[ทั่วโลก เปSนชาวสกอตชื่อ อเล็กซานเดอรK เกรแฮม เบลลK ในปลายป‹ พ.ศ. 2418 เขาไดน[ ำเครื่องโทรศพั ทขK องเขาไปแสดงในงานนทิ รรศการประดิษฐกรรมใหมb ๆ ในเมืองฟล› าเดลเฟย‹ ประเทศสหรฐั อเมรกิ า คณะกรรมการตดั สนิ ไดย[ กยbองเครอ่ื งโทรศัพทKของเขาวbาเปSนของ วเิ ศษทสี่ ุดอยาb งหนง่ึ ตbอจากนั้นประเทศทเ่ี จริญก[าวหน[าทว่ั โลก ตาb งกด็ ำเนนิ การโทรศพั ทขK ึ้นในประเทศของตน โดยใชเ[ ครื่องโทรศัพทแK บบทนี่ ายเบลประดษิ ฐK พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล[าเจ[าอยูbหัว ทรงต[องการให[เมืองไทยเจริญก[าวหน[าทัดเทียมกับ อารยประเทศทั้งหลาย จึงมีรับสั่งพระสยามธุรพาหKให[ซื้อเครื่องโทรศัพทK พร[อมทั้งอุปกรณKตbาง ๆ สbงมายงั เมืองไทยโดยดbวนมรี ายงานกลbาวถึงเครื่องโทรศพั ทKเครื่องแรกในเมืองไทย ในจดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน เม่ือ พ.ศ. 2421 วbา “อลาบาสเตอถวายตัวอยbางเตลิโฟนที่เมซนั สงb เข[ามา ได[รับสัง่ ให[ลองเอาไปที่ประตูพรหม เบา ๆ “ รฐั บาลมอบงานโทรศัพทใK หก[ รมพระกลาโหมเปนS ผ[ดู ำเนนิ งาน “กรมพระกระลาโหมไดน[ ำเครอ่ื งโทรศพั ทK เข[ามาทดลองใช[ ในระหวาb งกรุงเทพฯกบั สมทุ รปราการเมอ่ื พ.ศ. 2424 โทรศพั ทนK ต้ี ้งั ทก่ี รงุ เทพฯ 1 เครือ่ ง และ ท่ีสมุทรปราการ 1 เครื่อง ใชพ[ ูดตดิ ตอb กนั โดยทางสายโทรเลข ซงึ่ มอี ยbแู ล[ว” เมืองสมทุ รปราการมคี วามสำคัญอยbางใด รัฐบาลจึงไดว[ างสายโทรเลขและตดิ ตงั้ เคร่ืองโทรเลขและติดตง้ั เครื่องโทรศัพททK ่เี มืองน้ีกอb นเมอื งอื่น ในรัชกาลที่ ๕ น้ี ข[าศกึ ที่ไทยหวาดหวัน่ ไมใb ชbพมาb คbอู าฆาตอยbางสมัยกbอน แล[ว เพราะพมาb รบแพ[อังกฤษถึงสองครั้ง เสียดินแดนแกอb ังกฤษไปมากมายจนคลายความเข[มแข็งลงไปมาก ไทยจึงไมกb ลัวเกรงพมbาอกี ตbอไป แตหb ันมากลัวฝรง่ั เศสและองั กฤษ ซึง่ เปนS นกั ลาb อาณานคิ มตัวฉกาจ และเกง็ วbา ถ[าอังกฤษหรือฝร่งั เศสจะรุกรานเมืองไทยกค็ งจะสงb ทัพเรอื เข[ามาในแมbนำ้ เจ[าพระยา ถ[าจะปxองกันเรอื รบขา[ ศึก มิให[ขึน้ มาถึงกรุงเทพฯ ก็จำต[องสร[างปxอมปราการท่ีเมืองสมุทรปราการ และสbงทหารไปปxองกันรักษาเมืองน้ี อยbางแขง็ แรง ไมใb หเ[ สียแกbขา[ ศกึ ได[ เมืองสมุทรปราการจึงกลายเปนS เมอื งดาb นหน[าของกรงุ เทพฯ เมื่อเปSนเมือง หนา[ ดbานก็จำเปSนจะต[องมเี ครอื่ งสื่อสารทันสมัยอยาb งครบครัน
จอหOน วอน นอยแมน (John von Neumann) เปSนนักคณติ ศาสตรชK าวอเมริกันเชอื้ สายฮงั การี มีผลงานสำคัญในหลายสาขา ทง้ั ควอนตมั ฟส› กิ ส,K ทฤษฎี เซ็ต, วิทยาการคอมพิวเตอร,K เศรษฐศาสตรK เขาเปSนบุตรชายคนโต ในพี่น[อง 3 คน เกิดที่เมอื งบูดาเปส บิดา เปSนนักการธนาคาร นอยแมนมีชื่อเลbน วbา “Jancsi” เขาเติบโตมาในครอบครัวชาวยิวที่ไมbเครbงครดั และได[ แสดงถึงความจำท่ีเปนS เลศิ มาตั้งแตยb ังเปนS เด็ก โดยสามารถทำการหารเลข 8 หลักในใจไดต[ อนอายุ 6 ป‹ ในป‹ ค.ศ. 1911 กเ็ ข[าเรยี นที่ Lutheran Gymnasium (ในประเทศเยอรมนี gymnasium หมายถึง โรงเรยี นมัธยม ปลาย) พอป‹ ค.ศ. 1913 เน่ืองจากคุณพbอของเขาไดร[ บั ตำแหนbง (ยศ) เขาจงึ ไดร[ ับช่อื เยอรมนั von จงึ ใชช[ ่อื เต็ม เปนS Janos von Neumann เขาเรียนจบปริญญาเอกสาขาคณติ ศาสตรK จาก มหาวิทยาลยั บูดาเปสตK ตอนอายุ 23 ป‹ ระหวbางป‹ ค.ศ. 1926 ถึง 1930 เขาทำงานเปSนอาจารยKอิสระ อยูbในกรงุ เบอรลK ิน ประเทศเยอรมนี ในป‹ ค.ศ. 1930 นอยแมน ไดร[ ับเชญิ จาก มหาวิทยาลยั ปรนิ ซตนั เขาเปSนหน่งึ ในหกคน คอื (J W Alexander, A Einstein, M Morse, O Veblen, J von Neumann and H Weyl) ที่ได[รับเลือกให[เปSนอาจารยKในสถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูง (Institute for Advanced Study) โดยเขาเปSนอาจารยใK นสาขาวชิ าคณติ ศาสตรK ในชวb งสงครามโลกครงั้ ทีส่ อง นอยแมนได[มสี bวนรbวมใน โครงการแมนฮตั ตนั (Manhattan Project) ซ่งึ เปนS โครงการสรา[ งระเบดิ ปรมาณู ผูDรว\\ มโครงการแมนฮัตตัน นอยแมนนั้น ได[รับการขนานนามวbาเปSน บิดาของทฤษฎีเกม เขาได[ตีพิมพKหนังสือ Theory of Games and Economic Behavior โดยรbวมเขียนกับออสการK มอรKแกนสเติรKน (Oskar Morgenstern) ในป‹ ค.ศ. 1944 เขาได[คดิ หลกั การ “MAD” (mutually assured destruction) ซง่ึ เปนS หลกั การซง่ึ ใชเ[ ปนS หลกั สำคัญ ใน การวางแผนกลยุทธKทางด[านอาวุธนวิ เคลียรขK องอเมริกา ในชวb งสงครามเย็น
นอยแมนเปSนคนคิดสถาปƒตยกรรมแบบ วอน นอยแมน ซึ่งใช[กันในคอมพิวเตอรKสbวนใหญb คอมพิวเตอรK เกือบทั้งหมดในโลกนี้ เปSนเครื่องจักรแบบ วอน นอยแมน เขาเปSนผู[ริเริ่มสาขา cellular automata และได[ สร[างตัวอยbางชุดแรกของ selff-replicating automata โดยใช[แคbกระดาษกราฟ กับ ดินสอธรรมดาๆ คำวbา เคร่อื งจักรแบบ วอน นอยแมน ยงั หมายความถึง เคร่อื งจกั รท่ีสร[างตนเองซำ้ ได[ (self-replicating machine). สบื ค้นเมอื่ 10 ตุลาคม 2564.จาก เคร่ืองจกั รทีส่ ราD งตนเองซ้ำไดD (self-replicating machine) นอยแมนได[พิสจู นวK bา การใช[เครอ่ื งจกั รที่สรา[ งตนเองซำ้ ได[ เปนS วธิ ีทมี่ ีประสทิ ธิภาพทส่ี ดุ ในการทำเหมือง ขนาดใหญbมากๆ อยbางการทำเหมืองบนดวงจนั ทรK หรือ แถบดาวเคราะหKน[อย เนื่องจากกลไกแบบน้จี ะมีการ เตบิ โตอยbางรวดเรว็ มากแบบ exponential สถาปƒตยกรรมแรกเร่มิ ท่เี รียกวbา ฟอนนอยแมนนK (von Neumann Architecture) คิดคน[ โดยจอหนK ฟอน นอยแมนนK (John von Neumann) ที่ครั้งแรกออกแบบตามแนวความคิดให[เปSนเครื่องจัดเก็บโปรแกรม (Stored-program Concept) มาตั้งแตbป‹ พ . ศ . 2488 เรียกชื่อเครื่องนี้วbา IAS ฟอนนอยแมนนKได[เสนอ คำอธิบายสำหรับสถาปƒตยกรรมคอมพวิ เตอรKซ่ึงปจƒ จบุ ันรูจ[ กั กนั ในชื่ อสถาปƒตยกรรมฟอนนอยแมนนK ซงึ่ รวมถงึ พ้ืนฐานของคอมพิวเตอรKดิจิทัลอิเล็กทรอนิกสKสมยั ใหมb ได[แกb - หนbวยประมวลผลทม่ี หี นbวยตรรกะเลขคณิตและตัวประมวลผลรจี ิสเตอรK - ชุดควบคุมที่มรี ีจิสเตอรKคำสงั่ และตัวนับโปรแกรม - หนbวยความจำท่สี ามารถจดั เกบ็ ข[อมลู และคำส่ัง - จัดเก็บขอ[ มลู ภายนอก - กลไกอนิ พุตและเอาตKพตุ
John von Neumann กบั เครอื่ ง IAS ซ่ึงบางคร้ังเรียกว@า \"von Neumann Machine\" ซึง่ เกบ็ ไวGในหอG งใตGดิน ของ Fuld Hall ตงั้ แตป@ Uพ. ศ. 2485-2481 (ภาพ: Alan Richards) มคี วามเกยี่ วขDองอยา\\ งไรกบั ไทย ประเทศไทยถือวbา เปSนประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต[ ที่มีเครื่องคอมพิวเตอรKแบบ Digital คอื เครื่อง IBM รนbุ 1620 (เปนS Bit Machine) เพราะการผลกั ดัน และสนับสนนุ ของศาสตราจารยK ดร. บัณฑิต กันตะบุตร ในป‹ พ.ศ. 2506 ขณะที่ดำรงตำแหนbงเปSนเลขาธิการสำนักงานสถติ ิแหงb ชาติ และหัวหนา[ ภาควิชาสถิติคณะพาณิชยศาสตรK และการบัญชี จุฬาลงกรณKมหาวิทยาลัย โดยขอรับความชbวยเหลือจาก รัฐบาลสหรัฐอเมริกา เครื่องคอมพิวเตอรKรุbนนี้ เปSนระบบ Punch Card ไมbมี System Disc ในการใช[งาน โปรแกรมจะถูกปxอนเขา[ ระบบดว[ ยเครอื่ งอาb นบตั รเปSน Machine Language ระบบดังกลbาว นอกจากใช[ในการ สอน Programing ภาษา ASSEMBLY, FORTRAN และ COBOL แล[วยังใช[กับงานด[านสถิติอีกด[วย ตbอมาป‹ พ.ศ. 2507 คอมพิวเตอรKเครื่องที่ 2 ของประเทศ คือ เครื่อง IBM รุbน 1401 (เปSน Bit Machine) ได[รับการ นำมาตดิ ตงั้ ท่ีสำนกั งานสถิตแิ หbงชาติ เพื่อใชท[ ำงานดา[ นสำมะโนประชากร ซ่งึ ทำไดร[ วดเร็วมากข้ึนกวbาเดิมเปSน อยbางมาก นอกจากนี้ ยังอนุญาตใหห[ นวb ยราชการ และรัฐวสิ าหกจิ เข[าใช[ระบบนไี้ ด[ดว[ ย ในยคุ แรก เครือ่ งคอมพวิ เตอรแK ตลb ะเคร่อื งมรี าคาสงู มาก ในการอนมุ ัตงิ บประมาณ ให[หนbวยงานของรัฐจึง จำเปSนต[องตรวจสอบความพร[อม และความจำเปSนอยbางเครbงครัด รัฐบาล จึงได[แตbงตั้งคณะกรรมการ คอมพิวเตอรKของรัฐขึ้น คณะกรรมการชุดนี้ จะต[องให[ความเห็นชอบตbอโครงการ ขอมี และใช[ระบบ คอมพิวเตอรKในหนbวยงานของรฐั กbอนทีส่ ำนักงบประมาณจะพิจารณาจัดสรรงบประมาณให[ โดยที่สำนักงาน สถิติแหงb ชาติได[รับการยอมรับวbา เปSนผ[ูทม่ี คี วามเชี่ยวชาญดา[ นคอมพิวเตอรK จงึ ใหม[ ีผูแ[ ทนของสำนักงานฯ ทำ หน[าที่เปSนเลขานุการคณะกรรมการคอมพิวเตอรKของรัฐโดยตำแหนbง นอกจากบทบาททางคณะกรรมการ คอมพวิ เตอรKของรัฐแลว[ สำนักงานสถติ แิ หงb ชาติยังทำหน[าท่ีให[บริการฝ’กอบรมความร[คู วามชำนาญด[านการใช[
เครื่องคอมพิวเตอรK และการเขียนโปรแกรม ซึ่งหนbวยงานของรัฐสามารถขอใช[เครื่องคอมพิวเตอรKของ สำนักงานสถติ ิแหงb ชาติได[ สถติ จิ ำนวนเวลาทใ่ี ชเ[ ครอื่ งกบั จำนวนบุคลากรทผี่ าb นการฝ’กอบรม เปนS เกณฑพK ื้นฐาน ในการแสดงความพรอ[ ม ทีห่ นวb ยงานนนั้ ๆ จะสามารถขอมี และใช[เครื่องคอมพวิ เตอรใK นหนbวยงานของตน ตbอ คณะกรรมการคอมพิวเตอรKของรัฐ แตbเมือ่ เครื่องคอมพิวเตอรไK ด[นำมาใช[งานอยาb งแพรbหลายมากขึ้น บทบาท ของสำนักงานสถิติแหbงชาติ ก็ถูกโอนย[ายไปอยูbที่สำนักงบประมาณ กbอนที่จะถูกยุบเลกิ ไปประมาณป‹ พ.ศ. 2534 สำหรับผูท[ ำธรุ กิจคอมพวิ เตอรKในประเทศไทยเปนS รายแรกน้ัน คาดวbาคอื บริษทั ไอบีเอม็ (ประเทศไทย) ซ่ึง เปSนผูต[ ดิ ตั้ง และบำรงุ รักษาเครอ่ื งคอมพวิ เตอรรK ุbนแรกๆ ของประเทศ ไดแ[ กbเคร่ือง IBM1620 และ IBM1401 (เปSน Bit Machine) การทำธุรกจิ คอมพิวเตอรKเมนเฟรมในอดตี จะตอ[ งใช[บคุ ลากรท่ีมีความรูค[ วามเชยี่ วชาญสงู และการลงทุนจำนวนมาก ในขณะทีค่ วามตอ[ งการในตลาดยงั จำกัดอยูb ผ[ูค[าจึงจำกัดอยูทb ี่บริษทั สาขาของผ[ูผลติ เอง และบริษัทท[องถิ่นขนาดใหญbที่เปSนตัวแทนจำหนbายเครื่องคอมพิวเตอรKจากผู[ผลิตอีกตbอหนึ่ง โดยผู[ค[า ประเภทหลัง อาจมีความจำเปนS ทจ่ี ะใช[เครอ่ื งคอมพิวเตอรใK นกิจการหลักของตนอยูbแลว[ ก็ได[ ธรุ กจิ ในกลมุb น้ี สำหรบั การดำเนินงานของบริษทั ยิบอินซอย จำกัด น้ัน ในยคุ แรกๆ ของการรุกเข[าสbูธรุ กจิ ไอทีเมื่อป‹ พ.ศ. 2497 บริษทั ฯ เปSนตวั แทนจำหนาb ยเครือ่ งจกั รลงบญั ชี เคร่ืองบวกเลขชนดิ ไฟฟาx และธรรมดายห่ี [อ Burroughs หรอื Unisys (ในปจƒ จบุ นั ) ให[แกbธนาคารตbางๆในประเทศไทย ทัง้ นี้ ยงั มีธุรกจิ อกี กลุมb คือ กลุbมผคู[ [าเคร่ืองจักร ลงบัญชี ซ่ึงพัฒนาขีดความสามารถเทยี บชนั้ คอมพิวเตอรK เชbน Burroughs โดย บริษัท ยบิ อนิ ซอย จำกดั NCR โดย บริษัท เคย่ี นหงวน จำกดั และ Olivetti โดย บริษัทล็อกซเK ลbยK มหาชน จำกัด โดยผ[คู า[ กลbมุ น้ี จะขายให[กับ กลุbมธนาคารพาณชิ ยเK ปSนสbวนใหญbเพอื่ ใช[สำหรับงานลงบญั ชีลกู ค[าของธนาคาร ในลกั ษณะการทำประมวลผล คอมพิวเตอรโK ดยใช[แถบแมเb หลก็ ด[านหลัง Ledger Cards เปSนตัวกลางการเก็บข[อมูลรายธรุ กรรม ธุรกิจคอมพวิ เตอรK Main Frame ในยุคแรกๆ ของประเทศไทยนน้ั แทบจะผูกขาดอยกbู ับบรษิ ัทไอบีเอ็ม แตb เพียงผู[เดียว โดยในชbวงป‹ พ.ศ.2517 บริษัท ยิบอินซอย จำกัด ได[ขยายกิจการจากเครื่องจักรลงบัญชีไปสbู เมนเฟรม โดยขายเคร่ืองขนาดกลางรุbน B3700 (เปSน Decimal Machine) ให[กับธนาคารกสิกรไทย เปนS ลำดบั แรก ตbอมาได[ขายเครื่องขนาดเล็ก (Small Main Frame) รุbน B1700 (เปSน Stack Machine) ให[กับสถาบัน บัณฑิตพัฒนบริหารศาสตรK (NIDA) และติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอรKขนาดกลาง ซึ่งเปนS Decimal Machine ท่ี บริษัทศูนยKคอมพิวเตอรKประเทศไทยจำกัดซึ่งเปSนบริษัทในเครือของยิบอินซอย ตbอมา ธุรกิจได[ขยายไปสูb กองทัพอากาศ การไฟฟxานครหลวง กระทรวงการคลัง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงกลาโหม กรม ศุลกากร กรมบญั ชีกลาง ธนาคารกรงุ ไทย (เปนS Stack Machine รนbุ 1800) และหนวb ยงานราชการอน่ื ๆ สbวน บริษัท ซัมมิท จำกัด ก็ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจกับทางราชการพอสมควร มีลูกค[าสำคัญคือ การ ไฟฟxาฝ®ายผลิต กระทรวงการคลัง และธนาคารแหbงประเทศไทย เปSนต[น สำหรับบริษัท คอนโทรล ดาต[า ประสบความสำเรจ็ ในโครงการขนาดใหญทb สี่ ำนักงานทะเบยี นราษฎรK กระทรวงมหาดไทย นอกน้นั เปSนเคร่ือง ขนาดเลก็ ในหนวb ยงานตาb งๆ
จอหนO วนิ เซนตO อตานาซอฟ ( John Vincent Atanasoff ) (4 ตุลาคม พ.ศ. 2446 – 15 มิถุนายน พ.ศ. 2538) เปSนนกั ฟ›สกิ สแK ละนกั ประดิษฐชK าวอเมรกิ นั เปนS ท่ี ร[จู ักกนั เปนS อยาb งดวี าb เปนS ผ[ูประดิษฐคK อมพวิ เตอรKดิจติ อลอิเลก็ ทรอนกิ สเK ครื่องแรก Atanasoff ได[คิดค[นคอมพิวเตอรดK ิจิตอลอเิ ล็กทรอนิกสKเครื่องแรกในชวb งทศวรรษที่ 1930 ที่ Iowa State College (ปจƒ จบุ นั รู[จกั กันในชอ่ื Iowa State University) ความท[าทายในการอ[างสทิ ธิ์ของเขาไดร[ ับการ แก[ไขในป‹ 1973 เมื่อคดีความของHoneywell v. Sperry Rand ตัดสินวbา Atanasoff เปSนผู[ประดิษฐK คอมพวิ เตอรK เคร่ืองวตั ถุประสงคKพิเศษของเขาไดม[ าจะเรยี กวbา Atanasoff-Berry คอมพิวเตอรK Atanasoff เกดิ เม่อื วนั ท่ี 4 ตลุ าคม พ.ศ. 2446 ในเมอื งแฮมลิ ตันรฐั นิวยอรกK เพ่อื เปนS วศิ วกรไฟฟxาและ ครูในโรงเรียน [6]พbอ Atanasoff ของอีวาน Atanasov เปSนบัลแกเรียกำเนิดเกิดในป‹ 1876 ในหมูbบ[านของ Boyadzhikใกลก[ บั Yambolแล[วในจักรวรรดอิ อตโต ในขณะที่ยังคง Atanasov ทารกพbอของเขาเองถกู ฆาb ตาย โดยทหารออตโตมันหลังจากที่บัลแกเรียเมษายนกบฏ ในป‹ พ.ศ. 2432 Atanasov อพยพไปยังสหรัฐอเมริกา พร[อมกับลุงของเขา พbอของ Atanasoff ตbอมากลายเปSนวิศวกรไฟฟxา ในขณะที่แมbของเขา Iva Lucena Purdy (ลูกผสมฝรั่งเศสและไอริชบรรพบรุ ุษ) เปSนครูสอนคณิตศาสตรK ความทะเยอทะยานและการแสวงหา ทางปƒญญาของ Atanasoff สbวนหนึ่งได[รับอิทธิพลจากพbอแมbของเขา ซึ่งความสนใจในธรรมชาติและ วทิ ยาศาสตรKประยุกตไK ด[ปลูกฝƒงความรูส[ กึ อยากร[ูอยากเหน็ และความมั่นใจอยbางมวี จิ ารณญาณในตวั เขา Atanasoff ถูกเลี้ยงดูมาในบรูวKส, ฟลอริด[า เมื่ออายุได[เก[าขวบ เขาเรียนรู[ที่จะใช[กฎสไลดKตามด[วย การศึกษาลอการิทึมไมbนานและตbอมาก็สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายท่ีMulberry High Schoolในเวลาสองป‹ ในป‹ 1925 Atanasoff เขาได[รับปริญญาวิทยาศาสตรบK ัณฑิตในสาขาวิศวกรรมไฟฟxา จากมหาวิทยาลัยฟลอริดา เขาศึกษาตbอที่ Iowa State College และใน 1,926 ได[รับปริญญาโทในวิชา คณิตศาสตรK เขาสำเร็จการศึกษาอยbางเปSนทางการในป‹ 2473 โดยได[รับปริญญาเอก ในวิชาฟ›สิกสKจาก มหาวิทยาลยั วิสคอนซนิ แมดสิ นั กับวทิ ยานิพนธKของเขาอยbางตbอเน่ืองเปนS ฉนวนของฮีเลยี ม [6]เมือ่ เสร็จส้ินการ ปริญญาเอกของเขาได[รับการยอมรับ Atanasoff ผู[ชbวยศาสตราจารยKที่ไอโอวาสเตทคอลเลจในวิชา คณติ ศาสตรK และ ฟ›สิก
สbวนหนงึ่ เน่อื งจากความนาb เบื่อหนbายของการใชเ[ ครอ่ื งคดิ เลขแบบกลไกMonroeซ่ึงเปSนเคร่ืองมือที่ดี ที่สุดสำหรับเขาในขณะที่เขากำลังเขียนวิทยานิพนธKระดับปริญญาเอก Atanasoff เริ่มค[นหาวิธีคำนวณท่ี รวดเร็วขึ้น ที่รัฐไอโอวา Atanasoff ได[ทำการวิจัยเกี่ยวกับการใช[เครื่องคิดเลข Monroe ที่เปSนทาสและ เครอ่ื ง tabulators ของIBMสำหรับปญƒ หาทางวิทยาศาสตรK ซง่ึ ควบคมุ Monroe โดยใช[ผลลัพธKของ IBM ในป‹ ค.ศ. 1936 เขาไดค[ ิดคน[ เครอ่ื งคิดเลขแบบแอนะลอ็ กสำหรบั วเิ คราะหเK รขาคณิตพนื้ ผิว ณ จุดนี้ เขาได[ผลักดัน ขอบเขตของสิ่งที่เกียรKสามารถทำได[ และความคลาดเคลื่อนทางกลที่ดีซึ่งจำเปSนสำหรับความแมbนยำที่ดี ผลักดนั ให[เขาพิจารณาโซลูชนั ดจิ ทิ ลั ด[วยสิทธิข์ อง $ 650 ได[รับในเดือนกันยายน 1939 ความชbวยเหลือของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา ของเขาClifford Berryที่Atanasoff-Berry คอมพิวเตอรK (ABC) คือการเปนS ตน[ แบบในเดอื นพฤศจกิ ายนของป‹ นั้น อ[างอิงจากสbู Atanasoff หลักการปฏิบัติการหลายอยbางของ ABC เกิดขึ้นโดยเขาในชbวงฤดหู นาวป‹ 1938 หลังจากขับรถไป Rock Island รัฐอิลลินอยสKความคิดที่สำคัญที่ใช[ในการเอบีซีรวมไบนารคี ณิตศาสตรKและ ตรรกะบูลีนในการแก[ถึง 29 สมการเชิงเส[นพร[อมกัน ABC ไมbมีหนbวยประมวลผลกลาง (CPU) แตbได[รับการ ออกแบบเปSนอุปกรณKอิเล็กทรอนิกสKโดยใช[หลอดสุญญากาศสำหรับการคำนวณแบบดิจิทัล นอกจากนี้ยังมี หนวb ยความจำตวั เกบ็ ประจแุ บบสรา[ งใหมbที่ทำงานโดยกระบวนการท่ีคล[ายกับทใ่ี ชใ[ นหนbวยความจำ DRAMใน ปจƒ จบุ ัน อทิ ธพิ ลทมี่ ตี อ\\ ประเทศไทย ปจƒ จบุ ันความเจรญิ กา[ วหน[าทางวทิ ยาศาสตรK และเทคโนโลยีไดพ[ ฒั นาอยbาง รวดเร็ว เทคโนโลยีขั้น พื้นฐานที่จำเปSนสำหรับการดำเนินชีวิต คือเทคโนโลยีสารสนเทศและคอมพิวเตอรK กำลังมีบทบาทอยbาง กว[างขวางในด[านตbาง ๆ โดยเฉพาะทางดา[ นเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม การบริการ สังคม สิ่งแวดล[อมไปจนถงึ ดา[ นการศกึ ษา และในขณะทสี่ ังคมโลกกำลงั กา[ วเข[าสูมb ติ ใิ หมb เทคโนโลยีสารสนเทศนับเปSนหนง่ึ ในเทคโนโลยีท่ี นำสมัยมีผลตbอการดำรงชีวิตของประชาชนเพราะเทคโนโลยีสารสนเทศ คือ กุญแจสำคญั ที่ไขไปสูbการพัฒนา ทรพั ยากรมนุษยKให[มคี ุณภาพตามความต[องการของประเทศ และเนื่องจากเทคโนโลยสี ารสนเทศนำมาซง่ึ ความ เปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิต การทำงาน การเรียน และเลbน ถือได[วbาเปSนการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญb ซึ่งสbงผล ตbอ คุณสมบัติในการเปSนเทคโนโลยีที่สามารถสอดแทรก และเสริมสร[างสมรรถนะใน กิจกรรมและการ ดำเนินการตbาง ๆ ด[วยเหตุน้ีสงั คมไทยในปจƒ จุบันจงึ กลายเปSนสงั คม สารสนเทศ (Infomation society) ไมb วbาบุคคลจะอยูbในอาชีพใด วัยใดก็ตาม จำเปSนต[องได[รับข[อมูลขbาวสารจากแหลbงตbาง ๆ เพื่อนำไปใช[ในการ พัฒนาตนเอง พัฒนาอาชีพรวมทัง้ พัฒนาสังคมและประเทศชาติ
เฮนรี ฟอรด์ (Henry Ford) เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทฟอร์ดมอเตอร์ และได้ชื่อว่าเป็นผู้หนึ่งที่มีส่วนก่อให้เกิด “ชนชั้นกลาง” ขึ้นมาในสังคม อเมริกัน ฟอร์ดเป็นผู้แรกที่ประยุกต์ระบบสายพานการผลิตเข้ากับการผลิตยานยนต์ในจำนวนมาก ๆ ความสำเรจ็ นีไ้ มเ่ พียงแต่ปฏวิ ัติการผลติ เชิงอตุ สาหกรรมเทา่ น้ัน แตย่ งั มีอิทธพิ ลอย่างมากกบั วฒั นธรรมสมยั ใหม่ โดยนักทฤษฎีสังคมหลายคนถึงกับเรียกช่วงประวัติศาสตร์เศรษฐกิจและสังคมช่วงนี้ว่า “แบบฟอร์ด” (Fordism) ประวัตคิ วามเปน็ มา ฟอร์ด เป็นวิศวกรของบริษัทเอดิสัน ในเมืองดีทรอยต์ เขาได้รับมอบหมายให้ศึกษาและพัฒนา เคร่อื งยนตท์ ่ใี ช้เชอ้ื เพลงิ จากนำ้ มัน จนกระทัง่ สามารถพัฒนารถยนตส์ ีล่ ้อคนั แรกสำเรจ็ ในปี 2439 เขาตั้งช่ือว่า “ฟอร์ด ควอดริไซเคิล” (Ford Quadricycle) ต่อมา ในปี 2446 เขาได้ตั้ง “บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์” (Ford Motor Company) ร่วมกับเพื่อน ๆ นกั ประดิษฐ์ พ.ศ. 2446 เขารเิ ริ่ม นำระบบสายพานมาใชใ้ นการผลติ โดย ให้อุปกรณ์ไหลไปตามสายพานและให้คนงานประกอบรถยนต์ทีละส่วน และทำให้ผลิตรถยนต์หนึ่งคันเพียง ชั่วโมงครึ่ง เขาผลิตรถยนต์ ฟอร์ด โมเดล ที จากเดิมราคา 850 ดอลลาร์ เหลือเพียง 360 ดอลลาร์ ออกจำหน่ายเปน็ คร้ังแรก ปรากฏวา่ ไดร้ บั การตอบรบั จากอเมริกนั ชนเปน็ อย่างดี เพราะเปน็ รถยนต์ที่สวยงาม มีความแข็งแรงทนทาน และมีราคาถูกกว่ารถยนต์ยี่ห้ออื่นในตลาดเกือบครึ่ง รถยนต์รุ่นนี้ผลติ จนถึงปี 2470 จำหนา่ ยได้ท้งั หมดราว 15 ลา้ นคัน ต่อมาเกดิ สงครามโลกครั้งท่ี 1 บริษทั ฟอรด์ ก็ยงั ประสบความสำเร็จในการผลติ เครอื่ งบิน “ฟอรด์ 4เอที ไตรมอเตอร์” (Ford 4AT Trimotor) ฟอร์ดมสี ่วนในการพัฒนาอตุ สาหกรรมรถยนต์ให้ก้าวหน้าขึ้นกลายเปน็ ธุรกิจท่ใี หญท่ ่ีสุดในชว่ งตน้ คริสต์ศตวรรษท่ี 20 ฟอรด์ ถึงแก่กรรม 7 เมษายน 2490 ฟอรด์ ไดร้ ับการยกย่องให้ เปน็ “บดิ าแห่งการผลิตระบบสายพาน” ปจั จบุ นั บรษิ ัท ฟอร์ด มอเตอร์ ไดข้ ยายกจิ การธุรกิจรถยนต์ไปทั่วโลก
โดยเป็นเจ้าของธุรกิจรถยนต์แบรนด์อเมริกันคือ “ฟอรด์ ” (Ford) “ลินคอล์น” (Lincoln) และ “เมอร์คิวรี” (Mercury) และปัจจุบนั ยังมหี ุ้น แอสตันมาร์ติน (Aston Martin) อยู่ นอกจากนี้ยังร่วมลงทุนกับบริษัทผลติ รถยนต์ของญี่ปุ่นคือ “มาสด้า” (Mazda) และเคยเป็นเจ้าของแบรนด์อังกฤษคือ จากัวร์ (Jaguar) แลนด์ โร เวอร์ (Land Rover) และแบรนด์สวีเดนคือ “วอลโว่” (Volvo) ฟอร์ด มอเตอร์ทำรายได้ต่อปปี ระมาณ 12.6 พันล้านบาท (ปี 2549) มคี นพนกั งานทวั่ โลกราว 280,000 คน (ปี 2549) ประวตั ิความเปน็ มา ฟอร์ด เป็นวิศวกรของบริษัทเอดิสัน ในเมืองดีทรอยต์ เขาได้รับมอบหมายให้ศึกษาและพัฒนา เคร่ืองยนตท์ ใี่ ช้เช้ือเพลงิ จากนำ้ มนั จนกระท่ังสามารถพัฒนารถยนตส์ ลี่ ้อคันแรกสำเรจ็ ในปี 2439 เขาต้ังชื่อว่า “ฟอร์ด ควอดริไซเคิล” (Ford Quadricycle) ต่อมา ในปี 2446 เขาได้ตั้ง “บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์” (Ford Motor Company) ร่วมกับเพอ่ื น ๆ นักประดิษฐ์ พ.ศ. 2446 เขารเิ รมิ่ นำระบบสายพานมาใช้ในการผลิต โดย ให้อุปกรณ์ไหลไปตามสายพานและให้คนงานประกอบรถยนต์ทีละส่วน และทำให้ผลติ รถยนต์หนึ่งคันเพียง ชั่วโมงครึ่ง เขาผลิตรถยนต์ ฟอร์ด โมเดล ที จากเดิมราคา 850 ดอลลาร์ เหลือเพียง 360 ดอลลาร์ ออกจำหน่ายเป็นครงั้ แรก ปรากฏวา่ ได้รับการตอบรับจากอเมรกิ ันชนเป็นอยา่ งดี เพราะเปน็ รถยนตท์ ี่สวยงาม มีความแข็งแรงทนทาน และมีราคาถูกกว่ารถยนต์ย่ีห้ออื่นในตลาดเกือบครึ่ง รถยนต์รุ่นน้ีผลิตจนถงึ ปี 2470 จำหนา่ ยได้ท้ังหมดราว 15 ล้านคนั ตอ่ มาเกดิ สงครามโลกครัง้ ท่ี 1 บริษทั ฟอรด์ กย็ งั ประสบความสำเรจ็ ในการผลติ เคร่ืองบนิ “ฟอรด์ 4เอที ไตรมอเตอร์” (Ford 4AT Trimotor) ฟอร์ดมีส่วนในการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ให้ก้าวหน้าขึน้ กลายเปน็ ธุรกิจท่ใี หญ่ทีส่ ุดในชว่ งต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ฟอร์ดถงึ แก่กรรม 7 เมษายน 2490 ฟอรด์ ไดร้ ับการยกย่องให้ เป็น “บดิ าแห่งการผลิตระบบสายพาน” ปจั จบุ ันบริษัท ฟอรด์ มอเตอร์ ไดข้ ยายกจิ การธรุ กจิ รถยนตไ์ ปทั่วโลก โดยเป็นเจ้าของธุรกิจรถยนต์แบรนด์อเมริกนั คือ “ฟอร์ด” (Ford) “ลินคอล์น” (Lincoln) และ “เมอร์คิวรี” (Mercury) และปัจจุบันยังมีหุ้น แอสตันมาร์ติน (Aston Martin) อยู่ นอกจากนี้ยังร่วมลงทุนกับบริษัทผลิต รถยนต์ของญี่ปุ่นคือ “มาสด้า” (Mazda) และเคยเป็นเจ้าของแบรนด์อังกฤษคือ จากัวร์ (Jaguar) แลนด์ โร เวอร์ (Land Rover) และแบรนด์สวีเดนคือ “วอลโว่” (Volvo) ฟอร์ด มอเตอร์ทำรายได้ต่อปปี ระมาณ 12.6 พนั ล้านบาท (ปี 2549) มีคนพนักงานทัว่ โลกราว 280,000 คน (ปี 2549) ฟอรด์ ประเทศไทย ทุกวนั นี้ ฟอร์ดมีบทบาทสำคญั ในอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย “ดีทรอยต์แห่งเอเชีย” และฟอรด์ ตงั้ ใจ ท่จี ะเพมิ่ การผลิตข้ึนอีกเพ่อื ทำใหธ้ ุรกจิ เติบโตและสรา้ งความพึงพอใจสูงสุดให้ลูกค้า แต่การดำเนินการในช่วง เร่มิ แรกนั้นไมร่ าบเรยี บเทา่ ใดนกั
ในปี 2503 ฟอร์ดไดถ้ อื กำเนดิ ข้ึนมาเป็นคร้งั แรกในประเทศไทย ในเวลานัน้ บริษทั ไทย มอเตอร์ อินดัสทรี ได้ กอ่ ต้ังขน้ึ มาเพือ่ เป็นบริษัทรว่ มทนุ ระหวา่ ง แองโกล-ไทย มอเตอร์ส กบั ฟอร์ด ยู.เค. และบรษิ ัทน้ีก็เริ่มทำงาน ประกอบชิน้ ส่วนรถยนตอ์ ย่างรวดเร็ว ตอ่ มาในปี 2516 ไดม้ กี ารจดั ต้งั กจิ การรว่ มทนุ ดงั กล่าวเป็นบรษิ ัทลูกของ ฟอรด์ ในชื่อของ ฟอร์ด ประเทศไทย แต่บริษัทนยี้ ตุ กิ ารดำเนนิ การในปี 2519 แต่ฟอร์ดยงั คงไมล่ ะท้งิ ความพยายามโดยรุกตลาดไทยอีกครงั้ หนึง่ ในปี 2538 พรอ้ มการก่อต้ัง บริษทั ออโต อลิ อนั ซ์ จำกดั ขนึ้ ซงึ่ ตั้งอยู่ในจงั หวัดระยอง ออโต อลอิ นั ซ์ มฟี อร์ดเป็นเจา้ ของรว่ ม (รอ้ ยละ 48) มาสดา (ร้อยละ 45) เคพีเอ็น (ร้อยละ 2) และเอสเอ็มซี (ร้อยละ 5) โรงงานดังกล่าวเป็นการลงทุนมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ และมีหน้าทหี่ ลกั ในการผลติ รถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ และ มาสดา ไฟท์เตอร์ บ-ี ซรี ีส์ บรษิ ทั ฟอรด์ เซลส์ & เซอรว์ ิส (ประเทศไทย) จำกดั กอ่ ตง้ั ขึ้นในเดือนกรกฎาคม ปี 2539 และบริหารงานโดย บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ในสหรัฐอเมริกาซึ่งถือหุ้นทั้งหมดและรับผิดชอบด้านกิจกรรมการตลาดทั้งหมดของ ฟอร์ดในประเทศไทยตลอดจนควบคุมการจดั จำหน่ายท่ัวประเทศ สง่ ผลให้ฟอรด์ สามารถศึกษาความต้องการ ของลูกค้าชาวไทย เพื่อให้เจา้ ของรถฟอรด์ ชาวไทยไดร้ ับประสิทธภิ าพสูงสดุ จากรถยนต์ฟอร์ด ตลอดจนตวั แทน จำหนา่ ยและบรกิ ารในประเทศไทยทกุ รายผ่านการคัดเลอื กเปน็ อยา่ งดแี ลว้ ว่ามีคุณสมบตั คิ รบถว้ นเพื่อใหบ้ รษิ ทั สามารถนำความพงึ พอใจสงู สดุ แกล่ ูกค้าได้ตามเปา้ ประสงค์ ในเดอื นกรกฎาคม ปี 2541 ออโต อลิอนั ซ์ (ประเทศไทย) ได้เปิดตวั รถกระบะ ฟอรด์ เรนเจอร์ ทโี่ รงงานผลิต แห่งใหม่ในจังหวัดระยอง โดยคาดไว้ว่าจะมีการผลิตรถรุ่นนี้ 130,000 คันต่อปี แยกเป็นรถยนต์ที่ประกอบ สำเร็จ 100,000 คนั และชุดชนิ้ สว่ นอกี 30,000 ชุดสำหรับสง่ ออกไปโรงงานประกอบแห่งอน่ื ๆ จากนี้ต่อไป ฟอร์ด ไทยแลนด์ จะริเริ่มการคิดค้นพัฒนาที่สำคัญ ทำการลงทุนอย่างต่อเนื่องและร่วมรักษา สง่ิ แวดลอ้ มเพ่ือสงั คม ฟอรด์ เป็นผ้บู ุกเบิกดา้ นเทคโนโลยแี กสโซฮอล์ของโลก และบรษิ ัทที่ตง้ั อยใู่ นประเทศไทย ก็กำลังเพยี รพยายามเพือ่ เปิดตวั เทคโนโลยดี ังกล่าวในประเทศไทยในอนาคตเพือ่ ประโยชนข์ องลูกค้าฟอร์ดใน ประเทศไทย
อาD งองิ จากแหล\\งขอD มูล สำนักพิมพ์มหาวิทยาลยั แหง่ รัฐไอโอวา.สบื ค้นเมือ่ 10 ตลุ าคม 2564.จาก http://www.vcharkarn.com/blog/43315 สหรัฐอเมรกิ า(2564).ความสมั พนั ธ์ไทย-สหรฐั ฯ, สบื ค้นเมอ่ื 10 ตุลาคม 2564.จาก https://www.nia.go.th/newsnow/almanac-files/static/pdf/2564/สหรัฐอเมริกา_2564.pdf เฮนรี ฟอร์ด.สืบคน้ เม่อื 10 ตุลาคม 2564.จาก https://www.ch-erawan.com/ford/about-ford/ ฟอนนอยมนั น,์ จอหน์ ; เบิรก์ ส,์ อาเธอร์ ดับเบลิ ย.ู (1966),ทฤษฎีการสบื พันธ์อุ ตั โนมตั ขิ องออโตมาตะ (สแกน หนังสอื ออนไลน์) , สำนกั พมิ พม์ หาวิทยาลยั อลิ ลินอยส,์ ประวตั ิคอมพวิ เตอร์ และการดำเนนิ ธรุ กจิ คอมพวิ เตอร์ ในประเทศไทย.สบื คน้ เมื่อ 10 ตุลาคม 2564.จาก https://eitcomputer.com/articles/161-1 สถาปัตยกรรมของ von Neumann.สืบค้นเม่ือ 10 ตลุ าคม 2564.จาก http://www.il.mahidol.ac.th/e- media/computer/evolution/Pioneers_Neumann.htm อจั ฉริยะที่ไม่มีใครเทยี บไดข้ อง John von Neumann .สบื คน้ เม่อื 10 ตุลาคม 2564.จาก https://ichi.pro/th/xacchriya-thi-mimi-khir-theiyb-di-khxng-john-von-neumann- 133159990864429 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วงเดือน นาราสจั จ์ (2561). นวัตกรรมกับการเตบิ โตทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ในปลายคริสตศ์ ตวรรษที่ 19 (หนา้ 104-105). สำนักพิมพร์ าชบณั ฑิตยสถาน. มกุ เคอรจ์ ี, สทิ ธัตถะ. จักรพรรดแิ ห่งโรคร้าย ชีวประวตั ิโรคมะเรง็ . กรุงเทพฯ : มติชน, 2556. สทุ ัศน์ ยกสา้ น. “Marie Curie นกั เคมสี ตรแี ห่งปเี คมสี ากล 2011”. สารคดี. ออนไลน.์ เผยแพร่ 10 มีนาคม 2011. เข้าถงึ มอื 27 มีนาคม 2020. มารี กวู ร์ ี นกั วิทยาศาสตรห์ ญงิ ผูม้ จี ติ ใจอันประเสรฐิ วมิ ล สขุ ถมยา. 9 ทศวรรษ รงั สีวิทยาประเทศไทย. วารสารวชิ าการราช วิทยาลัยจฬุ าภรณ์2563;2(4):1-11. อวริ ุทธ์ ศรีสุธาพรรณ และ พรรณจริ า ทศิ าวิภาต. (2553). “ความรพู้ นื้ ฐานเก่ยี วกับหลอดไฟฟา้ ” (หนา้ 27- 45). โรงพมิ พม์ หาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร.์
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: