ม.ปลาย-ส่งจังหวัด

ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย สาระความรู้พืน้ ฐาน ฯ ภาษาไทย จานวน 20 ขอ้ 1. ในการกล่าวตอ้ นรับสมาชิกใหม่ ไม่ควรกล่าวตามข้อใด 1. พวกเราอยู่ดว้ ยกนั ด้วยความรกั ใคร่สามัคคเี มอื่ มคี นใหมเ่ ขา้ มาเรากไ็ ม่ว่าอะไร 2. ยินดตี ้อนรบั สมาชกิ ใหม่ทกุ ท่าน นบั เป็นโอกาสดที ี่พวกเราได้มาร่วมงานกัน 3. นอ้ งทุกคนล้วนแต่เป็นผู้มีความสามารถทัง้ นน้ั พีข่ อต้อนรับดว้ ยความยนิ ดยี ิง่ 4. แม้เราจะเปน็ องค์กรเล็กๆ แตเ่ ช่อื ไดว้ ่าพวกเราทุกคนจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข 5. ทกุ คนทเี่ ขา้ มาใหม่ล้วนมคี วามสาคัญตอ่ องคก์ ร ขอใหพ้ วกเราผนกึ กาลังทางานร่วมกัน 2. คนทมี่ ีความสุขไมใ่ ชค่ นทม่ี ีทกุ อยา่ ง แต่คือคนท่ีหาความสุขได้จากทุก ๆ อย่างท่ีมี ข้อความน้ีตีความได้ ตรงกับข้อใด 1. ไม่ประมาทกับชีวติ 2. จงพอใจในสง่ิ ทตี่ นมอี ยู่ 3. ความทุกขเ์ ปน็ เร่ืองธรรมดา 4. อยา่ ตามหาความสขุ ทต่ี นไมม่ ี 5. คนท่ีมีทุกอย่างยอ่ มมคี วามสขุ 3. อนง่ึ เขฬะอย่าถ่มเมื่อลมพัด ไปถูกสตั วเ์ สือ่ มมนต์ดลคาถา อนึง่ พบปะพระสงฆท์ รงศีล ไม่วนั ทาถอยถดทงั้ ยศทรพั ย์ คาประพนั ธ์นี้ถอดความได้ไม่ตรงกับข้อใด 1. อย่าถ่มน้าลายเมื่อลมพัดจะปลิวไปถูกผู้อืน่ 2. ถา้ นา้ ลายปลิวไปถกู ผ้อู ่ืนจะเสื่อมมนต์ขลงั 3. หากพบพระภิกษสุ งฆ์ควรแสดงความเคารพ 4. หากไม่ทาความเคารพผู้มคี าถาอาจถกู ปลดทรพั ยไ์ ด้ 5. หากไมเ่ คารพพระหรอื ผูท้ ี่ควรเคารพกจ็ ะเสื่อมเกียรตยิ ศตน 4. เราทุกคนต่างมีข้อเสีย จึงควรอภัยให้แก่กัน ทุกคนล้วนมีข้อดี จึงควรชื่นชมกัน ทุกคนล้วนมีเร่ืองเศร้า เสียใจจงึ ควรใหค้ าปลอบโยนกัน ทุกคนล้วนมคี วามสขุ กค็ วรแบ่งปน ใหแ้ กก่ ัน................ ควรเตมิ ขอ้ ใดลงในชอ่ งว่าง จึงจะไดค้ วามสอดคลอ้ งและจบความ 1. อยา่ ปลอ่ ยใหช้ วี ิตเตม็ ไปด้วยขอ้ สงสยั 2. เมอ่ื ทกุ คนเอือ้ เฟ้อื แก่กันโลกนี้กจ็ ะสวยงาม 3. ความเข้าใจกนั คือความสมั พันธแ์ บบเครือญาติ 4. จิตใจที่เป็นสขุ คือทรพั ย์สมบัติที่ใครไมอ่ าจแย่งไปได้ 5. ปล่อยวางอดตี ที่เลวร้ายหันมาใสใ่ จกับปจจบุ ันแล้วทามันใหด้ ที ี่สุด

ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย 5. การใช้ภาษาข้อใด ไม่สมเหตสุ มผล 1. ชวี ิตที่ไรค้ แู่ สดงวา่ เราอย่คู นเดยี วได้ 2. ไดก้ นิ อาหารแสดงวา่ เรายังไม่อดตาย 3. ตืน่ นอนตอนเช้าแสดงวา่ เรายงั มีชีวิตอยู่ 4. ทางานจนเหน่ือยแสดงว่าเรายังไม่ตกงาน 5. วันนีอ้ อกกาลังกายตอนเชา้ แสดงวา่ เมอ่ื วานเปน็ วันศกุ ร์ 6. ขอ้ ใดมสี านวนไทยทหี่ มายกวามว่า \"เก่ียวดอง\" ด้วยการแต่งงาน 1. เชญิ เสด็จเข้าเหยียบเวียงชัย ไพรพ่ ลจะได้สโมสร 2. ฝุายเราจะแต่งกานลั ไปบาเรอผูกพันขุนมาร 3. หวังเป็นเกอื กทองรองบาทา พระผูว้ งศเ์ ทวาอันปรากฏ 4. จะเอาผ้าผูกพนั กระสันรดั เกี่ยวกระหวดั กับก่ิงโศกใหญ่ 5. อันกรงุ ไกรไอศูรย์ทงั้ สอง จะเปน็ ทองแผน่ เดยี วไปวนั หน้า 7. แต่คติบุราณท่านย่อมวา่ ลางเน้ือชอบลางยาอชั ฌาสยั ปลกู เรอื นตามผจู้ ะอยู่ไป ถา้ ตดั ไม้สานอู่ตามผ้นู อน สานวนไทยทข่ี ีดเส้นใตห้ มายความตรงกับข้อใด 1. ทานองเดียวกนั แบบเดียวกัน 2. ทาสง่ิ ใด ๆ ให้พอสมควรกับฐานะของตน 3. ทาตามความพอใจของผูท้ จ่ี ะไดร้ บั ผลโดยตรง 4. หาเร่อื งเดือดร้อนหรือความลาบากใสต่ ัวโดยใชท่ ่ี 5. ของสง่ิ เดยี วกนั ถูกกับคนหนึ่งแตไ่ มถ่ กู กับอกี คนหน่งึ 8. ขอ้ ใดใช้สานวนไทยไม่ถูกตอ้ ง 1. งานนบ้ี วกลบคูณหารแล้วคุม้ ยงิ่ กวา่ คมุ้ 2. เด็กคนนีเ้ ดอื นอะไรไปก็ทาเปน็ ทองไมร่ ู้ร้อน 3. ข่าวเศรา้ สามภี รรยาร่วมหอลงโรงตายพรอ้ มกัน 4. ลูกนอ้ งผมเปน็ พวกฆ้องปากแตก ใหร้ ้เู ร่ืองอะไรไมไ่ ด้ 5. ผู้อานวยการจะกวดขันเรอื่ งอะไรก็ทาไมไ่ ดเ้ ขา้ ทานองลูบหน้าปะจมูก 9. ประโยคในข้อใดมเี จตนาแจ้งใหท้ ราบ 2. ขนมใสไ่ ส้แมพ่ ิกุลทาเสร็จแล้ว 1. ใครจะไปกบั ครูให้ตามมา 4. เม่อื วานน้ีเธอได้ไปพบอาจารยห์ รอื เปลา่ 3. เดนิ ทางด้วยรถไฟฟูาดีกว่าไหม 5. น้าใบบวั บกกับน้าลาไยอะไรอร่อยกวา่ กัน 10. คาราชาศัพท์ทใ่ี ชก้ บั พระมหากษัตริย์ ขอ้ ใดไมถ่ ูกต้อง 1. คดิ ใชว้ ่า ทรงพระราชดาริ 2. เจ็บไข้ ใชว้ ่า ทรงพระประชวร 3. มีความสขุ ใชว้ ่า ทรงพระเกษมสาราญ 4. ทาบญุ ใชว้ ่า ทรงบาเพ็ญพระราชกศุ ล 5. พดู ทกั ทาย ใชว้ ่า ทรงมีพระราชปฏสิ นั ถาร

ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 11. ขอ้ ใดมเี จตนาขอรอ้ ง 1. เธออยา่ มาโปรยเสนห่ ์แถวนนี้ ะ 2. คนเราอย่าดีแต่พูดแตต่ อ้ งทาให้เหน็ เป็นแบบอย่าง 3. การทาความดหี ากทาสาเร็จ ผู้ทาจะเกิดความภมู ิใจ 4.ทมี เวริ ์กเป็นส่งิ สาคัญในการเลน่ กีฬา นักกฬี าทกุ คนตอ้ งจาไว้ 5. ขอให้พวกเราทุกคนช่วยกนั ทางานทค่ี รมู อบหมายให้สาเร็จนะคะ 12. เวลาแห่งการเรียนในช้ันมัธยมปลายของลูกใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว พ่อสังเกตว่าลูกไม่ม่ันใจและหนักใจ มากขึ้นเพราะต้องตัดสินใจว่าจะยึดอาชีพอะไรดี ไม่ใช่ลูกคนเดียวท่ีวุ่นวายใจเช่นน้ีพ่อกับแม่ก็กังวลไม่ น้อยเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไรพ่อกับแม่มีเพื่อนมากเราสามารถหาคนในแขนงอาชีพที่ลูกตัดสินใจเลือกให้ ช่วยแนะนาได้ ก่อนจบจดหมายนข้ี ออย่าไดม้ องข้ามข้อท่ีว่าเร่ืองนี้เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น ลูกกาลังอยู่ระหว่าง การตดั สินใจว่าจะเป็นอะไรดีหยุดและมองย้อนกลับไปทบทวนใหด้ ี ขอ้ ความทข่ี ีดเสน้ ใตม้ ีความหมายตรงกบั ข้อใด 1. การไปพบคนจานวนมาก 2. การเตรียมตวั ลงมือปฏิบตั งิ าน 3. การเตรยี มตัวศึกษาต่อในต่างแดน 4. การตัดสินใจเลอื กสาขาที่จะศึกษาตอ่ 5. การไปปรกึ ษากบั เพ่อื นของบิดามารดา 13. สระน้าในบ้าน เป็นสระต้ืน ๆ มีรั้วรอบขอบชิด จึงมีความปลอดภัยสูง เป็นท่ีเล่นสนุกสนาน ของเด็ก ๆ ที่อยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ ครั้งหนึ่งเม่ือน้องยังเล็กมากกาลังหัดเดินเตาะแตะอยู่ขอบ สระ แล้วพลัดตกลงไปในน้า พ่อมองเห็นแต่ไม่ลงไปช่วย เห็นลูกจมหายไปเพียงพริบตาเดียวก็ตะกุย ตะกายเข้าหาบันไดทา่ น้า แมร่ บี วิง่ ออกมาดึงลูกขึ้นจากน้า ต่อว่าพ่อเป็นการใหญ่ พ่อบอกว่าปล่อยให้เขา ชว่ ยตัวเอง หมาดกนา้ ยงั รจู้ ักตะกยุ ตะกาย คนกน็ า่ จะทาอย่างนัน้ ได้ ขอ้ ความน้พี ่อต้องการสอนลูกตามขอ้ ใด 1. ฝึกให้ลกู เตือนตนด้วยตนเอง 2. อบรมบม่ นิสัยใหล้ ูกอย่ใู นโอวาท 3. ฝึกใหล้ กู รจู้ ักแก้ปญหาด้วยตนเอง 4. บอกให้ลกู รูจ้ กั ใชส้ ติปอู งกนั อุบตั ิภยั 5. สอนการออกกาลงั กายดว้ ยการปฏบิ ัตจิ รงิ 14. ขอ้ ใดใช้ภาพพกนต์ ่างจากขอ้ อื่น 1. งามโอษฐด์ งั ใบไม้อ่อน งามกรดงั ลายเลขา 2. ดูแฉล้มเหมือนแก้มกัญญา โสภาแรกรุ่นดรณุ ราม 3. เหลอื บเหน็ กวางขาดาขลับ งามสรรพสะพร่ังดังเลขา 4. งามเขาเป็นกิ่งกาญจนา งามตานิลรัตน์รูจี 5. เหลียวหน้ามาดภู มู ี งามดังนารชี าเลืองอาย

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย 15. อันตน้ ไมเ้ มืองไทยสมัยน้ี ผมเห็นมีปญหาน่าพศิ วง เพราะบรรดาแมกไม้…………. ถกู ตัดลงเปน็ เบือ่ ไม่เหลือไพร ส่วนบรรดามง่ิ ไมใ้ นกรงุ ศรี ล้วนแต่มเี ทวดา……………. ถงึ ก้ันท่ีกดี ถนนตอ้ งทนไป ตดั ไมไ่ ดเ้ ทวตาจะว่าเอา ข้อใดเติมในชอ่ งว่างไดถ้ ูกต้องและเหมาะสมตามลาดบั 1. ตามปาุ เขา เขา้ มาอยู่ 2. ที่ในดง เขา้ อาศยั 3. ล้วนปลดิ ปลง อาคมกลา้ 4. มหี ลายองค์ ถกู เด้งไป 5. ไมเ่ หลือหลง หากนิ ไป 16. ภาษาไทยใช้คาทกั ทาย วา่ \"สวัสด\"ี ภาษาลาวใช้วา่ \"สะบ๋ายดีเจา้ \" ภาษาเขมรใช้คาว่า \"ซวั ซเดีย\" ภาษาพมา่ ใช้ว่า \"มนี กะลาบา\" ขอ้ ความน้ี แสดงลักษณะธรรมชาตขิ องภาษาตามข้อใด 1. ภาษาใชเ้ สยี งสือ่ ความหมาย 2. คาในภาษาเสยี งสมั พันธก์ ับความหมาย 3. ภาษาเป็นการตกลงของคนในแตล่ ะกลมุ่ แต่ละพวก 4. ภาษาเกดิ จากการสร้างจากหนว่ ยเล็ก ๆ เป็นหนว่ ยทใี่ หญ่ 5. เสยี งหนึ่งมีความหมายอย่างหนึ่งเพราะลักษณะของเสยี งทาให้มคี วามหมายเชน่ น้นั 17. อันคาบุราณกลา่ วไว้ อยา่ ใหห้ ลงคลทั้งสี่ คอื รปู รสวาจาพาที ดรุ ิยางกดั นตรีนี้หา้ มนกั คาประทันธน์ ี้ขอ้ ใดไม่เกย่ี วขอ้ งกับอุบายท้ังสี่ประการ 1. รูป 2. รส 3. คาพดู 4. กลิน่ หอม 5. เสียงดนตรี 18. อันตัวของลูกครงั้ น้ี ทจ่ี ะรอดชวี ีนนั้ หาไม่ แม้นได้ประมาทสงิ่ ใด ใหเ้ คืองใตเ้ บอ้ื งบาทา ดว้ ยกายวาจามโนกรรม ซงึ่ จะนาให้ทุกขไ์ ปภายหน้า พระแม่เจ้าจงไดเ้ มตตา อยา่ ใหม้ ีเวราแกล่ กู รกั คาประพันธน์ ี้แสดงพฤติกรรมของตัวละครตามขอ้ ใด 1. ขออโหสกิ รรม 2. กลา่ วคาลาบวช 3. ขอพรจากมารดา 4. กลา่ วคาสารภาพผดิ 5. ออ้ นวอนขอความเหน็ ใจ

ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 19. ประกาศรับสมคั รงานตาแหน่ง \"พนกั งานบริการ\" ของหน่วยงานแห่งหน่ึงคุณสมบัติของผู้สมัครท่ีควร จะต้องสอดกล้องกบั ลกั ษณะงานที่ปฏบิ ตั ิด้านใดด้านหนึ่ง หรอื หลายดา้ นดังนี้ 1) สนับสนุนการปฏิบัติงานโดยร่วมกับทีมงานให้บริการต้อนรับ รับรองแขก หรือผู้มาใช้บริการ พรอ้ มใหบ้ รกิ ารอาหารเครอื่ งดม่ื ตามความจาเปน็ และถกู ต้องเหมาะสมตามมาตรฐาน 2) ให้บริการด้านการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ ในการติดต่อต้อนรับ ชี้แจงทั่วไปเพ่ือไขข้อข้องใจ และชว่ ยคอบคาถามท่เี ปน็ ประโยชนแ์ กผ่ ู้มาตดิ ตอ่ และรับบรกิ าร 3) งานบริหารจดั ทาความสะอาด รักษาความปลอดภยั ทรัพยส์ นิ สถานท่ีให้ปลอดภยั และมี ประสทิ ธิภาพ 4) ขบั รถยนตป์ ระเภทต่าง ๆ ซ่อมบารุงรักษา ทาความสะอาด เพือ่ ให้มสี ภาพพร้อมใชง้ านอย่างมี ประสทิ ธภิ าพ 5) สรุปสถติ ริ ายงานเกย่ี วกับการดาเนนิ งานเสนอผบู้ งั กับบัญชา 6) รว่ มพฒั นางานคุณภาพเกีย่ วกบั งานด้านบรกิ ารลกู ค้าและประชาชนผมู้ าตดิ ตอ่ 7) ประสานการทางานรว่ มกนั ทงั้ ภายในและภายนอกทมี งานหรอื หน่วยงาน เพือ่ ให้เกิดความ ร่วมมือและผลสัมฤทธิ์ทก่ี าหนด 8) ตอบปญหา ช้แี จง และใหค้ าแนะนางานในความรับผดิ ชอบแกผ่ ูป้ ฏบิ ัตงิ านเพือ่ เพม่ิ ประสทิ ธิภาพ จากขอ้ ความข้างตน้ ผู้ท่ีมายน่ื ใบสมคั รควรมคี ณุ สมบัติตามข้อใด 1. มคี วามรใู้ นการบริหารจัดการองค์กรใหก้ ้าวหนา้ ทันยคุ ไทยแลนด์ 4.0 2. มคี วามพร้อมในการให้บริการข้อมูลเฉพาะหน้าในส่วนทีต่ นรบั ผิดชอบเท่านนั้ 3. มจี ติ บรกิ ารอาหารและเครอ่ื งด่ืมแก่ผูบ้ ริหารองค์กรตามมาตรฐาน สภุ าพ แตง่ กายดี 4. มจี ติ ชว่ ยผู้อน่ื เอ้ือเฟ้ือผู้มาติดต่อและใหข้ อ้ มูลได้ มมี นุษยส์ มั พันธด์ ี แนะนาการทางานได้ 5. มคี วามพร้อมที่จะพัฒนาองค์กรเคยี งบ่าเคียงไหลไปพร้อมกับผูบ้ ริหารและเพอื่ นร่วมงาน 20. คาพูดตามข้อใดไม่เหมาะสมกบั คณุ สมบตั ิของพนักงานบรกิ าร 1. พนกั งานในโรงพยาบาล: ขอเชญิ ด้านนี้ค่ะ ปุวยเป็นอะไรมาคะ 2. พนักงานรกั ษาความปลอดภัย: เชญิ ขา้ งหนา้ ครบั ที่น่ีไม่มคี นชอื่ น้ี 3. พนักงานประชาสมั พันธ์: เชญิ น่ังรอสักครู่ค่ะ รบั ชาหรอื กาแฟดีคะ 4. พนกั งานขับรถ: รถพร้อมแลว้ ครบั เชญิ ขึน้ รถไดท้ ่ีประตทู างออกครับ 5. พนักงานรับสง่ พัสด:ุ สวัสดคี รบั ขอเชิญรบั พัสดุดา้ นน้แี ละลงชือ่ รบั ด้วยครบั

ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย สาระความรู้พืน้ ฐาน ฯ ภาษาองั กฤษ จานวน 20 ข้อ Questions 1 - 8: Read the following conversations/questions and choose the correct responses. At a library Librarian : How can I help you? Jack : I'd like to check out these three books, please. Librarian : Certainly. Tack : I'm a staff member. I can have them for three weeks, can't I? Librarian : Oh yes! OK. Here you arc, Jack: _____1____ Have a nice day. 1. 1. Remind me when the return date is nearing. 2. I'm very happy to your sympathy. 3. . What kinds of' books are these? 4. What wonderful news! 5. Great! 2. The librarian's reaction to Jack's request can best be described as …………………… 1. hurried 2. Willing 3. Cautious 4. Appreciated 5. sympathetic 3. The sign means that drivers………… 1. Can go faster than 60 km/h 2. must go faster than 60 km/h 3. can reduce the speed to 60 km/h 4. must reduce the speed to 60 km/h 5. can stop the car at the speed of 60 km/E

ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย At an airline office Officer: Good morning, Japan Airways. How can I help you? Duncan: Hello. I'm calling to ask about the points I transferred from my credit card. Officer:____4____,sir? Duncan: It's 5588066495. Officer:___5___Could you repeat it, please? Duncan: My number is 5-5-8-8-0-6-6-4-9-5. Officer: Thank you, sir. Please hold the line. 4. 1. Would you like to leave your phone number 2. Would you like to tell me your points 3. What's your membership number 4. What's your ticket number 5. Are you sure 5. 1. All right. 2. I wasn't listening to you. 3. I didn't quite catch that. 4. Would you say that again, please? 5. Would you like me to take a message for you? At home Dad: Christmas Eve is just round the corner, isn't it? Mum: yes!___6___ Dad: How should we celebrate this year? Mum: Let's start with decorations? Any ideas? Dad: Last year we had the Christmas wreath and the electric Christmas tree from the mall. Mum : More traditional decorations this year? I'm thinking of having __7__ Dad: Sounds great! Should we bring the kids to see the fireworks too? Mum: I don't fancy that. Too many people and too dangerous.___8____

ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 6. 1. Christmas isn't my cup of tea, really. 2. Father Christmas is taking a rest. 3. 23 December is over a month ahead. 4. 24 December is coming very soon. 5. 25 December in just a few days. 7. 1. a turkey and gingerbread 2. a holly and poinsettias 3. a pumpkin pie and milk 4. an alpine and lavender 5. an egg tart and chips 8. 1. No man is an island. 2. Don't play with fire. 3. The sooner, the better. 4. Better late than never. 5. Prevention is better than cure. Questions 9 - 15: Read the following text and choose the correct responses for the questions below. News Article (Item 9 - 12) Indonesia's president has announced his plan to move the country's capital city. Overcrowded, sinking and polluted Jakarta is moving to thinly populated East Kalimantan province on Borneo island, known for rainforests and orang- utans. President Joko Widodo said the decision was made not to move the capital elsewhere on the island of Java because the country's wealth and people were highly concentrated there and should be spread out. Currently 54 percent of the country's 270 million people live on Java, the country's most densely populated area. Adapted from https://www.kidsnews.com.au/

ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย 9. Which would be the best headline of the news article? 1. Indonesia is overcrowded and sinking 2. Indonesia is known for its rainforests 3. Indonesia plans to relocate its capital from Jakarta to Borneo 4. Indonesia plans to improve life quality by moving closer to the nature 5. Indonesia plans to solve its poverty problems caused by overpopulation 10. Which of the following is the lead of the news article? 1. Indonesia's president has announced his plan to move the capital city. 2. Currently 54 per cent of the country's 270 million population live on Java. 3. Overcrowded, sinking and polluted Jakarta is moving to East Kalimantan province. 4. The president said the decision was made not to move the capital elsewhere on Java. 5. The country's wealth and people were highly concentrated there and should be spread out. 11. Under which section of a newspaper will you likely find this news article? 1. Culture 2. Education 3. Economics 4. Technology 5. Environment 12. According to the news article, which is the most thickly populated area of Indonesia? 1. East Kalimantan 2. West Kalimantan 3. Jakarta 4. Borneo 5. Java

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย Self-Sufficiency Economy (item 13- 15) sufficiency Economy is very easy to understand as it is based on three principles that can guide any economic transaction. These principles are: 1. Moderation. King Bhumibol understood that most financial troubles avoidable by living within one's means. A good way to apply to avoid debt and buy items that you can afford. 2. Reasonableness. All choices made should be justified by ethics, law justice, and social norms. For example, a person should not offend his or her neighbors by driving a car that is far more expensive than theirs. Another example is willing to pay taxes to support the nation. 3. Self-immunity. This concept is also known as resilience. It means developing the strength and resources to survive. Adapted from http://www.krungsti.com/bank/th/pleanpleam/kine-philosophy-of- sufficiency-cconomy.htm 13. If one earns a living by trading reserved animals, one does NOT follow the principle of_______ 1. moderation 2. self-immunity 3. reasonableness 4. economic transaction 5. strength development 14. Sufficiency Economy is easy to understand because______ 1. most financial troubles can be avoided 2. all choices can be justified by the rule of law 3. it makes sense to buy only items that you can afford 4. developing strength and resources to survive can create self-immunity 5. it is a simple philosophy that can be applied for any purpose or situation 15. Which of the following is \"resilience\" known as? 1. Moderation 2. Self-immunity 3. Reasonableness 4. Sufficiency Economy 5. Social Norms and Orders

ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย Questions 16-18: Read the following conversation and choose the correct responses. At a clinic Doctor: What brought you here today? Patient: __16 __ Doctor: How long have you had these symptoms? Patient: About a few days. I'm also very tired. Doctor: It sounds like you’ve got the flu. Let me take your temperature. Patient: Oh, OK. Doctor: Yes, you've got the flu. Are you allergic to aspirin? Patient: ___17___I was prescribed aspirin last time I had the flu. I was fine. Doctor: I'm going to prescribe you aspirin. Take one tablet every 4 hours with plenty of water. Remember while taking aspirin, __18____Also have a lot of rest. Patient: Thank you very much. 16. 1. I really have no ideas. 2. My legs brought me here. 3. My mum said I might have diarrhea. 4. I have a bad cough and a sore throat. 5. My previous doctor advised me to see you. 17. 1. Not that I know of. 2. Please run a test on me. 3. I feel sick whenever I take it. 4. How come you don't know if I am? 5. Why did you have to ask me that? 18. 1. you must have a large amount of juice 2. you must abstain from alcoholic drinks 3. you must go to bed earlier every night 4. you may have a higher body temperature 5. you may continue with your workout as usual

ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย Questions 19 - 20: Read the following text and choose the correct responses for the questions below. Saving Energy Think about it like this: when you open the door to your fridge or freezer warm air from your kitchen comes in and replaces the cool air inside. Your fridge now needs to use more energy to maintain temperature. So, the more empty space you have the more warm air will enter your fridge, and the more energy your fridge will use. We're not telling you to stuff your cold-storage box to the gills with perishables, but in general, full is good. The refrigerator should be full, but there should still be enough empty space around your items for the air to circulate efficiently. The freezer should be more tightly packed, since your items will help to keep each other cool. Source: https://www.momentumenergy.com.au/habitat/at-home/creative-ways to-save- energy-july 19. According to the text, all of the following can prevent loss of energy EXCEPT________. 1. packing more food into the fridge 2. replacing warm air inside with cool air 3. keeping the fridge or freezer door closed 4. leaving a lot of empty space in the fridge 5. preventing warm air from entering the fridge 20. The text suggests that it is best to reduce fridge energy consumption by________. 1. maintaining efficient air flow in the fridge 2. placing as many items in the fridge as possible 3. putting items in the fridge close to each other 4. adjusting the fridge temperature to the right level 5. cooling the kitchen by turning on an air conditioner

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย สาระความรู้พื้นฐาน ฯ คณิตศาสตร์ จานวน 15 ขอ้ 1. ข้อความใดถูกตอ้ ง 1. ทศนยิ มทกุ จานวนเป็นจานวนตรรกยะ 2.จานวนตรรกยะทกุ จานวนเป็นจานวนจริง 3. มีจานวนเตม็ บางจานวนเปน็ จานวนอตรรกยะ 4. ทศนยิ มทุกจานวนสามารถเขียนในรูปเศษส่วน 5. มีจานวนจริงบางจานวนเปน็ ทง้ั จานวนตรรกยะและอตรรกยะ 2. √ √ √ √ √ √ เท่ากบั เท่าใด 1. -42 2. -42√ 3. 2-44√ 4. 14-14√ 5. 42-84√ 3. ถ้า แล้ว เท่ากับเท่าใด 1. 2. 3 3. 12 4. 14 5. 4. กาหนด A = {x € Z+ | -1 < x < 6 } เซต A ตรงกบั ข้อใด 1. A = {1,2,3,4,5} 2. A = {0,1,2,3,4,5} 3. A = {1,2,3,4,5,6} 4. A = {0,1,2,3,4,5,6} 5. A = {-1,0,1,2,3,4,5,6} 5. จากการสารวจนักเรียน 45 คน พบว่านักเรียน 27 คนชอบสีแดง นักเรียน 14 คนชอบสีน้าเงิน และ นกั เรยี น 8 คนชอบสแี ดงและสนี ้าเงิน นักเรียนท่ไี ม่ชอบทงั้ และสีน้าเงนิ มกี ีค่ น 1. 5 คน 2. 12 คน 3. 21 คน 4. 24 คน 5. 40 คน 6. ถา้ 0 3 8 15 ... เปน็ แบบรูปของจานวนแลว้ พจนท์ ่ี 9 คือจานวนใด 1. 70 2. 72 3. 80 4. 82 5. 85 7. ถา้ พิกัดของรปู สี่เหลยี่ มผืนผ้า ABCD คือ A(-1,2) , B(6,2) และ D(-1,7) C มพี ิกดั เป็นเท่าใด 1. (-1,6) 2. (6,-1) 3. (6,7) 4. (7,2) 5. (7,7)

ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 8. กาหนดเหตุดังน้ี 1. ทกุ คนทกี่ ินนักอย่างสม่าเสมอ จะมรี ่างกายแข็งแรง 2. ทกุ คนทีก่ ินอาหารรถเค็ม รา่ งกายจะไม่แขง็ แรง 3. วิชยั มีรา่ งกายแขง็ แรง แต่วโิ รจนม์ ีรา่ งกายไมแ่ ข็งแรง ขอ้ ใดสรูปไดอ้ ย่างสมเหตุสมผล 1. วิชยั กนิ ผักสมา่ เสมอ 2. วิชยั ไมก่ ินอาหารรสเค็ม 3. วโิ รจนก์ นิ ผกั สมา่ เสมอ 4. วโิ รจน์กินอาหารรสเค็ม 5. วิโรจน์ไมก่ ินอาหารรสเคม็ 9. sin2 30º – cos2 30º + tan2 60º – cot2 60º เท่ากับเท่าใด 1. 2. 3. 4 5. 10. เต่าตัวหนึ่งอยู่บนพ้ืนดินมองไปท่ียอดต้นไม้เป็นมุมเงย 45 องศา แล้วคลานไปยังโคนต้นไม้ตามแนว เส้นตรงเป็นระยะทาง 150 เซนติเมตร จากน้ันมองไปยังยอดต้นไม้ต้นเดิมเป็นมุมเงย 60 องศา เต่าต้อง คลานอกี เทา่ ใดจงึ จะถึงโคนตน้ ไม้ 1. 75√ เซนติเมตร 2. 75 √ เซนติเมตร 3. 75 √ เซนติเมตร 4. 75 √ ) เซนตเิ มตร 5. 75 √ เซนตเิ มตร 11. น้าหนึ่งซ้ือเงาะ 3 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 27 บาท ซ้ือส้ม 2 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 52 บาท และซ้ือ มงั คดุ 2 กิโลกรมั กโิ ลกรมั ละ 20 บาท น้าหนงึ่ ซ้ือผลไม้ท้ังสามชนิดราคาเฉล่ียกิโลกรัมละก่ีบาท 1. 24.75 บาท 2. 32.14 บาท 3. 33.00 บาท 4. 37.50 บาท 5. 45.00 บาท

ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย 12. พกิ ดั ของรูปตน้ แบบของรปู สามเหลี่ยม ABC เป็น A(4,6) , B(1,1) และ C(5,1) ถ้าสะท้อนจุด A โดยมี แกน Y เป็นเส้นสะท้อน แล้วพื้นที่ของรูปสามเหล่ียม ABC กับพื้นท่ีของรูปสามเหล่ียม A’BC มี ความสัมพันธ์กนั อยา่ งไร 1. รูปต้นแบบกบั ภาพมพี ้ืนท่เี ท่ากัน 2. รูปตน้ แบบมีพืน้ ทน่ี อ้ ยกวา่ ภาพอยู่ 2 ตารางหน่วย 3. รปู ต้นแบบมพี ื้นทมี่ ากกว่าภาพอยู่ 2 ตารางหนว่ ย 4. รปู ตน้ แบบมพี นื้ ทน่ี ้อยกวา่ ภาพอยู่ 6 ตารางหน่วย 5. รูปต้นแบบมีพ้ืนที่มากกวา่ ภาพอยู่ 6 ตารางหน่วย 13. ขอ้ ใดถูกตอ้ ง 1. เอกหาค่าเฉลย่ี เลขคณิตของเลขท่ีบา้ นในหมบู่ ้านที่อาศัย 2. จอยหาค่าเฉลยี่ เลขคณิตของหมายเลขบตั รประชาชน 13 หลกั 3. หญงิ หาคา่ เฉลย่ี เลขคณิตของขนาดรองเท้าของสมาชกิ ในกรอบกรัว 4. เพชรหาค่าเฉลี่ยเลขคณิตของหมายเลขทะเบียนรถยนตท์ ่ีจดทะเบียนในปี 2562 5. ครูหาค่าเฉลีย่ เลขคณิตของคะแนนสอบวชิ าภาษาไทยครง้ั หน่ึงทมี่ คี ะแนนเตม็ 20คะแนน 14. มีเสื้อ 4 ตัว ท่ีแตกต่างกัน กางเกง 3 ตัว ที่แตกต่างกัน และรองเท้า 2 ดู่ ที่แตกต่างกัน ถ้า ต้องการจะแต่งตัวโดยใสเ่ ส้อื กางเกง และรองเท้า จะแตง่ ตวั ได้แตกตา่ งกนั ทั้งหมดกี่แบบ 1. 9 แบบ 2. 10 แบบ 3. 11 แบบ 4. 14 แบบ 5. 24 แบบ 15. โยนลกู เต๋า 2 ถกู พร้อมกัน 1 คร้ัง โอกาสที่จะได้ผลรวมแต้มของถกู เต๋าทีห่ งายมากกว่า 9 เปน็ เท่าใด 1. 2. 3. 4. 5.

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย สาระความรู้พื้นฐาน ฯ วทิ ยาศาสตร์ จานวน 15 ขอ้ 1. ขอ้ ใดไม่เหมาะสมในการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ท่ีเกี่ยวข้องกบั ส่ิงประดิษฐ์ 1. ใชง้ บประมาณให้น้อยท่ีสุดท่ีเปน็ ไปได้ 2. สามารถทาเปน็ สินคา้ ขายได้ 3. ลอกเลียนส่ิงประดษิ ฐ์ของผอู้ นื่ 4. ใชว้ สั ดทุ ี่หาได้งา่ ยในท้องถ่ิน 5. ทาสาเร็จได้ในเวลาไมน่ าน 2. ในการทดลองจับเวลาการเดินของมด เพ่ือเปรียบเทียบความเร็วในการเดินระหว่างมดที่เดินแบก อาหารตวั เดยี ว กบั มดท่ีแบกอาหารกันสองตัว ขอ้ ใดคอื ตัวแปรต้น 1. ชนิดของมด 2. ชนดิ ของอาหาร 3. จานวนมดทแ่ี บกอาหาร 4. เวลาท่ีมดเดนิ 5. ระยะทางทม่ี ดเดนิ 3. ออรแ์ กเนลใดทาหน้าที่เป็นแหล่งสร้างพลงั งานของเซกล์โดยการหายใจระดับเซลล์ 1. กอลจิบอดี 2. ไมโทคอนเดรีย 3. คลอโรพลาสต์ 4. เอนโดพลาสมิกเรตกิ ลู ัม 5. ไลโซโซม 4. ข้อใดถูกตอ้ ง 1. ไมโทซสิ ทาให้จานวนโครโมโซมของเซลล์ใหม่ลดลงเหลือคร่ึงหนง่ึ 2. ไมโทซิสมีการเกิดครอสซงิ โอเวอร์ 3. ไมโ่ ทชิสเกดิ เพื่อสรา้ งเซลลส์ บื พนั ธ์ุ 4. ไมโทชิสมกี ารแบ่งเซลล์คร้งั เดียวไดเ้ ปน็ 2 เซลลใ์ หม่ แตไ่ มโอชสิ มกี ารแบ่งเซลล์สองครัง้ ได้ 4 เซลล์ใหม่ 5. เซลลท์ ี่เกดิ จากไมโทชิสจะไม่สามารถแบ่งตัวได้อีก 5. ข้อใดคือส่ิงทโ่ี พรทสิ ตาต่างจากพืช 1. โพรทสิ ตาไม่มคี ลอโรพลาสต์ 2. โพรทิสตามเี ยอ่ื ห้มุ นิวเกลียส 3. โพรทสิ ตาไม่มผี นงั เซลล์ 4. ชนิดของสารบนผนังเซลล์ 5. มจี านวนเซลล์เพียงเซลล์เดียว

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย 6. ถา้ ตัวอกั ษรภาษาองั กฤษ TT แทนยนี ของถ่วั ลนั เตาตน้ สูง ซงึ่ เปน็ ยีนเดน่ และ tt แทนยนี ของถั่วลันเตา ต้นเต้ีย ถ้ารุ่นพ่อแม่เป็น TT และ tt แล้วรุ่นลูกรุ่นท่ีสองที่เกิดจากรุ่นลูกรุ่นที่หนึ่งผสมกัน จะมีจานวน ต้นเตยี้ รอ้ ยละเท่าใด 1, 0 2. 25 3. 50 4. 75 5. 100 7. ขอ้ ใดทาใหเ้ กิดการเปลี่ยนแปลงของรหสั พันธกุ รรม 1. การออกกาลังกาย 2. การได้รบั รงั สี 3. การที่อายุมากขึ้น 4. การกนิ อาหาร 5. การเปล่ียนถิ่นที่อยู่ 8. ข้อใดไม่ใช่คลน่ื แม่เหล็กไฟฟาู 1. รังสแี อลฟา 2. คลื่นวทิ ยุ 3. รังสีแกมมา 4. แสงสแี ดง 5. แสงสขี าว 9. ขอ้ ใดเป็นการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี 1. การระเหยของน้า 2. การท่ีน้าแข็งละลายกลายเป็นน้า 3. การเกดิ สนิมขนึ้ ที่ผวิ ของเครอื่ งประดับเงนิ 4. การเกิดหยดนา้ เกาะท่ีด้านนอกแก้วทใ่ี ส่นา้ เย็น 5. การขยายขนาดของถงุ ขนมขบเคย้ี วเมือ่ นาขึน้ ไปบนภูเขาสูง 10. ขอ้ ใดเป็นน้าตาลโมเลกุลเดี่ยว 2. ชูโกรส 1. กาแลคโตส 4. แลคโตส 3. มอลโตส 5. ไกลโคเจน 11. ขอ้ ใดเปน็ ปริมาณที่ตอ้ งระบุทงั้ ขนาดและทศิ ทาง 1. แรง 2. มวล 3. งาน 4. พลงั งาน 5. ความดนั

ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย 12. กล่องวางนงิ่ บนพนื้ ข้อใดเป็นแรงดูคิริยา-ปฏิกิรยิ า ของแรงทพี่ นื้ ดันกลอ่ ง 1. แรงท่โี ลกดงึ ดดู กล่อง 2. แรงที่กลอ่ งดงึ ดดู โลก 3. แรงกล่องดงึ ดูดพ้ืน 4. แรงทก่ี ล่องกดพื้น 5. แรงเสียดทาน 13. ข้อใดมคี วามเร่งเปน็ ศูนย์ 1. ก้อนหนิ กาลงั ตกอย่างอิสระในแนวดิง่ 2. ก้อนหินถูกโยนขึ้น ขณะกาลงั เคลอื่ นทขี่ ึน้ ในแนวด่งิ 3. กอ้ นหนิ ถูกโยนขึ้น ขณะกาลังอยทู่ จ่ี ดุ สูงสดุ กอ่ นตกกลับลงมา 4. รถยนตก์ าลงั เข้าโก้ง 5. ดันกลอ่ งบนพ้ืนทม่ี ีแรงเสยี ดทานโดยทกี่ ล่องมีความเร็วกงตวั 14. ข้อใดมีผลต่อระยะเวลาในการโคจรรอบโลกของดาวเทียม 1. ขนาดของดาวเทยี ม 2. มวลของดาวเทยี ม 3. อายุการใชง้ านของดาวเทยี ม 4. กวามสงู ของระยะโกจรของดาวเทยี มจากผิวโลก 5. กวามเร็วในการหมุนรอบตัวเองของโลก 15. ข้อใดเรยี งลาดับขนาดของดาวเคราะห์จากเล็กไปใหญ่ในระบบสรุ ิยะไดเ้ หมาะสม 1. ดวงจนั ทร์ โลก ดาวพฤหสั 2. โลก ดาวพธุ ดาวเสาร์ 3. ดาวเสาร์ ดาวพลูโด ดาวพฤหัส 4. ดาวพฤหัส ดาวเสาร์ ดาวยเู รนสั 5. ดาวพธุ โลก ดาวพฤหัส

ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย สาระการพฒั นาสังคม สังคมศึกษา จานวน 10 ข้อ 1. ประเทศไทยอยู่ในภมู ภิ าคใด 2. เอเชียตะวันออก 1. เอเชยี 4. เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื 3. เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ 5. เอเชียตะวนั ออกกลาง 2. ขอ้ ใดไม่จัดเป็นทรัพยากรธรรมชาติ 1. ดนิ 2. น้า 3. ลม 4. ปาุ ไม้ 5. แร่ธาตุ 3. ขอ้ ใดเป็นสภาวการณ์ที่เกิดขึน้ ในบรเิ วณใดบริเวณหน่ึงชว่ งระยะเวลาส้ัน ๆ 1. ลมฟาู อากาศ 2. ภูมิอากาศ 3. อณุ หภมู ิ 4. ความชน้ื 5. กวามกดอากาศ 4. ในกรณที ี่ประเทศไทยมีลมมรสมุ ตะวันออกเอยี งเหนอื พดั ผ่านจะทาให้เกิดลักษภูมอิ ากาศตามขอ้ ใด 1. อากาศร้อนขึ้น 2. อากาศหนาวเย็น 3. อากาศแหง้ แลง้ และมีหมอก 4. อากาศหนาวเยน็ และแหง้ แลง้ 5. ฝนตกชกุ และนาความชมุ่ ชน้ื มาสแู่ ผน่ ดนิ 5. นกั ประวตั ิศาสตรแ์ ละนักโบราณคดไี ด้แบง่ ยุคสมัยทางประวัดิศาสตร์ตามลักษณะหลักฐานยุคสมัยเป็น ก่สี มัย 1. 2 2. 3 3. 4 4. 5 5. 6 6. อารยธรรมอยี ปิ ต์มีความเชอ่ื วา่ นา้ ข้ึนน้าลงเป็นเพราะอทิ ธพิ ลของใคร 1. เฮโรโดตสั 2. โอสริ สิ 3. ฟาโรห์ 4. อาบู ซมิ เบล 5. โอเบลสิ ต์ 7. ข้อใดไม่ใช่ขอบเขตการศึกษาการคลงั 1. รายรับรายจ่ายของรัฐบาล 2. รายรบั รายจ่ายของรัฐวิสาหกจิ 3. งบประมาณแผน่ ดิน 4. นโยบายการคลังและระบบภาษี 5. หน้ีสาธารณะ

ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 8. แผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 8 – 12 ใช้แนวคิดและยึดหลกั ในการพัฒนาตามขอ้ ใด 1. ศูนยก์ ลางการพฒั นา 2. การกระลายรายได้ 3. การพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ 4. เศรษฐกิจพอเพียง 5. คุณภาพการศกึ ษา 9. ข้อใดไมใ่ ช่สิทธขิ ้นั พน้ื ฐานของประชาชนตามกฎหมายรฐั ธรรมนญู ไทย 1. การนบั ถือศาสนา 2. ความเทา่ เทียมกนั ของชายหญิง 3. การได้รับความคมุ้ ครอง 4. การร้องทุกข์ 5. สทิ ธทิ างการเมือง 10. องคก์ รนิตบิ ญั ญัติของญป่ี ุนตรงกบั ขอ้ ใด 1. สภานติ บิ ญั ญัตแิ ห่งชาติ 2. รฐั ธรรมนญู 3. สภานิตบิ ัญญัติ 4. สภาผู้แทนราษฎร 5. วุฒิสภา

ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย สาระการพฒั นาสงั คม ศาสนาและหนา้ ทพ่ี ลเมือง จานวน 10 ข้อ 1. ชาดกที่แสดงถงึ การบาเพญ็ วริ ยิ บารมี ตรงกับข้อใด 1. เตมยี ช์ าดก 2. มโหสถชาดก 3. เนมริ าชชาดก 4. มหาชนกชาดก 5. สุวรรณสามชาดก 2. หลักธรรมใดเป็นเคร่ืองยึดเหนี่ยวจิตใจของคน ท่ียังไม่เคยรักใคร่นับถือให้กลับมามีความรักใคร่นับถือ ช่วยผูกไมตรซี งึ่ กันและกันใหแ้ นน่ แฟนย่ิงขึน้ 1. อรยิ สจั 4 2. อทิ ธิบาท 4 3. สังคหวัตถุ 4 4. สตปิ ฏฐาน 4 5. ฆราวาสธรรม 4 3. พระเถระรูปใดได้รับการยกยอ่ งจากพระพทุ ธเจ้าว่าเปน็ เลิศในดา้ นผ้มู ปี ญญามาก 1. พระอานนท์ 2. พระสารบี ตุ ร 3. พระมหากัสสปะ 4. พระมหาโมกคลั ลานะ 5. พระอัญญาโกณฑญั ญะ 4. พระราชพธิ ตี รียัมปวาย เปน็ พิธีสง่ ท้ายปีเก่าตอ้ นรับปีใหม่ของศาสนาใด 1. ซิกข์ 2. พุทธ 3. คริสต์ 4. อสิ ลาม 5. พราหมณ์ 5. ขอ้ ใดไม่ใช่ค่านยิ มท่ีสาคัญของสงั คมไทย 2. ความซื่อสัตยส์ ุจริต 1. การรักสงั คมไทย 4. การเคารพญาตสิ นทิ มิตรสหาย 3. การนบั ถอื พุทธศาสนา 5. การเคารพเทิดทูนพระมหากษตั ริย์ 6. การพจิ ารณาตดั สินคดีในศาลเปน็ อานาจของฝุายใด 1. อานาจบรหิ าร 2. อานาจตุลาการ 3. อานาจปกครอง 4. อานาจยุตธิ รรม 5. อานาจนิตบิ ัญญตั ิ

ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 7. ชาวไทยทุกคนย่อมได้รับความคุ้มครองในการอาศัยและครอบครองเคหสถานโดยปกติสุข การเข้า ไปในเคหสถานของผูอ้ นื่ โดยปราศจากการยนิ ยอมของผคู้ รอบครอง หรือการเข้าไปตรวจค้นเคหสถานโดย ไม่มหี มายคน้ จากศาลย่อมทาไม่ได้ จดั เปน็ เสรภี าพของปวงชนชาวไทยตามขอ้ ใด 1. ในเคหสถาน 2. ในการชุมนมุ โดยสงบ 3. ในการประกอบอาชพี 4. ในการเดินทางและการเลอื กถ่นิ ท่ีอยู่ 5. ในการแสดงความคิดเห็นผ่านการพดู การเขียน การพมิ พ์ 8. นายดาเนนิ ดารงตาเหน่งนายกรฐั มนตรี ร่ารวยผิดปกติ สอ่ ไปในทางทจุ ริตต่อหนา้ ที่ ส่อว่ากระทาผิดต่อ ตาแหน่งหน้าท่ีราชการฯ หรือฝุาฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ผู้ที่สามารถ ถอดถอนออกจากตาแหนง่ ได้ ตรงกับข้อใด 1. วุฒิสภา 2. ประธานสภา 3. นายกรัฐมนตรี 4. ประธานศาลฎกี า 5. ประธานศาลรัฐธรรมนูญ 9. การแสดงความคิดเหน็ พดู เขียน พมิ พ์ การเขา้ รว่ มกจิ กรรมทางการเมอื งและการนบั ถอื ศาสนาโดย เสรี จัดเป็นหลักการพ้นื ฐานของสทิ ธมิ นุษยชนตามข้อใด 1. เสรีภาพ 2. ภราดรภาพ 3. ธรรมาภิบาล 4. ความยุตธิ รรม 5. ความเสมอภาค 10. สิทธิของบคุ คลเริม่ ต้ังแตเ่ ม่ือใด 1. เมอ่ื อยูใ่ นครรภม์ ารดานับตง้ั แตม่ ารดาเร่มิ ต้ังครรภ์ 2. เมอ่ื คลอดจากครรภม์ ารดาดว้ ยความปลอดภยั 3. เมื่อบิดามารดารบั รองว่าเป็นบุตร 4. เมื่อรู้เพศต้งั แต่อยู่ในครรภม์ ารดา 5. เมื่อบดิ ามารดาแจง้ การเกิดตอ่ เจา้ หนา้ ท่ีภายในระยะเวลาทีก่ ฎหมายกาหนด

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย สาระการพัฒนาสังคม การพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สงั คม จานวน 10 ข้อ 1. สมชายเปดิ ธุรกจิ ออนไลน์ มคี วามต้องการหาความรเู้ พ่มิ เติมเก่ียวกับการใช้งานธุรกรรม ทางการเงินอิเลก็ ทรอนกิ ส์ เพือ่ ขยายชอ่ งทางการรบั เงิน จากสถานการณ์ วิธีการท่ีสมชายสามารถหาความรู้เพิ่มเติมไดเ้ หมาะสมท่สี ุด คือขอ้ ใด 1. ทาวจิ ัย 2. อ่านหนังสอื 3. ศกึ ษาดงู าน 4. เขา้ ร่วมโครงการต่าง ๆ 5. รว่ มกิจกรรมกบั องค์การต่าง ๆ 2. รัฐบาลใหก้ ารช่วยเหลือสนับสนุนให้ประชาชนได้มีความรใู้ นการประกอบอาชพี ในท้องถน่ิ ของตนเอง จากสถานการณ์ เป็นแนวคิดการพฒั นาชมุ ชนตามขอ้ ใด 1. การศึกษาภาคชวี ิต 2. การชว่ ยเหลือตนเอง 3. การรเิ รม่ิ ของประชาชน 4. ความตอ้ งการของชมุ ชน 5. การมสี ว่ นร่วมของประชาชน 3. ข้อใดคือขน้ั ตอนการเก็บรวบรวมขอ้ มูลได้ถูกตอ้ ง 1. กาหนดแหล่งข้อมลู กาหนดข้อมลู เลอื กวิธกี ารเก็บรวบรวมขอ้ มลู ลงมอื เก็บรวบรวมข้อมูล 2. เลอื กวิธกี ารเกบ็ รวบรวมข้อมูล กาหนดข้อมูล กาหนดแหลง่ ข้อมลู ลงมือเก็บรวบรวมขอ้ มูล 3. กาหนดข้อมลู กาหนดแหลง่ ข้อมูล เลือกวิธีการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล ลงมือเก็บรวบรวมขอ้ มูล 4. กาหนดแหลง่ ข้อมลู เลอื กวิธีการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล กาหนดขอ้ มูล ลงมือเก็บรวบรวมข้อมลู 5. กาหนดขอ้ มลู เลือกวิธกี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู กาหนดแหลง่ ขอ้ มลู ลงมอื เกบ็ รวบรวมขอ้ มูล 4. นักวิจยั คนหนง่ึ เกบ็ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั วถิ ชี วี ิตของชาวบ้าน เป็นข้อมลู เชิงคณุ ภาพและ ต้องการตรวจสอบคุณภาพก่อนนาไปใช้ จากสถานการณ์ ข้อใดไมใ่ ช่วธิ ีการตรวจสอบคณุ ภาพของข้อมลู 1. ใชว้ ิธีการที่หลากหลาย 2. ใชผ้ เู้ ก็บรวบรวมหลายคน 3. ใช้แหลง่ ขอ้ มลู จากหลายแหล่ง 4. ใชเ้ ครื่องมือทเี่ ป็นมาตรฐานหลายรูปแบบ 5. ใช้การเกบ็ ขอ้ มูลตามสถานท่ีตา่ ง ๆ หลายแหง่ 5. ขอ้ ใดไมใ่ ช่เงอื่ นไขพ้นื ฐานของการมีสว่ นรว่ มของประชาชน 1. ความเสมอภาค 2. ความตรงต่อเวลา 3. การยอมรบั ความคดิ เห็นท่ีแตกต่าง 4. การมอี ิสรภาพในการแสดงความคดิ เห็น 5. ความรูค้ วามสามารถในการร่วมดาเนินงาน

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ฟารม์หมูแห่งหน่ึงมีลูกหมู 5 คอก แต่ละคอกมีจานวนลูกหมูเท่ากัน มีน้าหนักเฉลี่ยของ 6. ลกู หมูแตล่ ะคอก เท่ากับ 1.5 , 2.0 , 1.5 , 2.4, และ 2.5 กิโลกรมั จากสถานการณ์ ลูกหมูทง้ั 5 คอก มีนา้ หนักเฉลี่ยตามขอ้ ใด 1. 1.80 2. 1.88 3. 1.95 4. 1.98 5. 2.00 7. นกั วิจัยคนหนึ่ง ตอ้ งการนาเสนอขอ้ มูลรายไดเ้ ฉล่ียของประชาชนในชุมชนโดยจาแนกตามศาสนา จากสถานการณ์ ข้อใดเปน็ การเสนอข้อมลู ทเี่ หมาะสมท่สี ุด 1. ขอ้ ความบรรยาย 2. กราฟเสน้ 3. แผนภมู ิแท่ง 4. แผนภูมิวงกลม 5. ตาราง 8. นักวจิ ัยต้องการข้อมูลเกยี่ วกับวถิ ีชีวิตของประชาชนเกย่ี วกบั ความเปน็ อยู่ สุขภาพ รายได้ของครอบครัว และความเชอื่ โดยมีระยะเวลาในการเก็บข้อมูลเพียง 2 วัน จากสถานการณ์ ข้อใดเป็นวธิ ีการเก็บขอ้ มูลที่เหมาะสมทส่ี ดุ 1. สังเกต 2. สารวจ 3. สัมภาษณ์ 4. ประชามติ 5. สนทนากลุม่ 9. อมรเปน็ ผูน้ าชุมชนแหง่ หนึ่ง ทางานอย่างทุ่มเทและอุทิศตนเพอ่ื ส่วนรวมจนเป็นที่ ยอมรบั ของบคุ คลท่ัวไป จากสถานการณ์ อมรเป็นผ้นู าตรงตามข้อใด 1. ผูน้ าตามธรรมชาติ 2. ผนู้ าเผดจ็ การ 3. ผู้นาสัญลกั ษณ์ 4. ผนู้ าลักษณะพิเศษ 5. ผู้นาตกทอด 10. บุคคลในขอ้ ใดมีคุณลักษณะของผนู้ าทดี่ ี 1. เมธีเปน็ ตัวแทนนาเสนองานทกุ คร้ัง 2. สชุ าติช่วยอธิบายเมื่อยุพินตอบไมไ่ ด้ 3. มนัสชอบเสนอชือ่ บรรพตเปน็ หัวหนา้ 4. อทุ ัยสอบไดค้ ะแนนสูงสุดของห้องเสมอ 5. กนกถกู เพื่อนเลือกให้พูดโต้วาทเี ปน็ คนแรก สาระทกั ษะการเรยี นรู้ จานวน 30 ข้อ

ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย 1. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ความสาคัญของการเรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง 1. ทาใหผ้ ู้เรยี นมีความรับผิดชอบ 2. ทาให้ผู้เรยี นคดิ อย่างเป็นระบบ 3. ทาให้ผู้เรียนตัดสินใจเร่ืองตา่ ง ๆ ดว้ ยตนเอง 4. ทาใหผ้ ู้เรยี นมคี วามตั้งใจและมุ่งม่ันในการเรียนรู้ 5. ทาให้ผู้เรียนอย่รู อดในสังคมทมี่ ีการเปล่ยี นแปลงอยู่เสมอ 2. นายสมคดิ เกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงฟงวิทยากรบรรยายเร่ืองการส่งออกมะม่วงอินทรีย์ จึงทาการกันหา ขอ้ มูลเกย่ี วกับเกษตรอินทรียเ์ พิ่มเตมิ และนามาเขียนแผนการปรับปรุงสวนของตนเอง นายสมคิดมีทักษะ พนื้ ฐานทางการศึกษาหาความรู้ตามข้อใด 1. พดู อ่าน และฟง 2. พดู ฟง และเขียน 3. อ่าน เขยี น และฟง 4. อา่ น พูด และเขียน 5. ฟง พดู อ่าน และเขยี น 3. ครูอ่านคาอธิบายรายวิชาให้ผู้เรียนรับทราบ จากนั้นผู้เรียนได้แบ่งกลุ่มอภิปรายเก่ียวกับความต้องการ ในการเรียนของตนเอง เปน็ การวางเผนการเรียนรู้ด้วยตนเองขัน้ ตอนใด 1. การดาเนินการเรียนรู้ 2. การประเมินผลการเรยี นรู้ 3. การออกแบบแผนการเรยี นรู้ 4. การกาหนดจดุ มุ่งหมายในการเรียนรู้ 5. การวินิจฉยั ความตอ้ งการในการเรียนรู้ 4. ครูอธิบายประวัติตาสตร์สมัยอยุธยาผ่านการเล่านิทานด้วยเรื่องราวและน้าเสียงท่ีชวนให้เด็กอนุบาล ติดตาม เปน็ การใช้ทกั ษะการพูดดามข้อใด 1. เปน็ ธรรมชาติ และอารมณข์ ัน 2. กิริยาทา่ ทางดี และให้ผฟู้ งมีส่วนร่วม 3. ถูกจังหวะเวลา และภาษาที่เหมาะสม 4. เน้อื หาชวนคิดตาม และน้าเสยี งชวนฟง 5. ให้ผู้ฟงมสี ่วนร่วม และเป็นตัวของตวั เอง 5. นายนติ ิ ทาแผนผงั กวามคิดโดยเร่มิ ตน้ วาดภาพ เขยี นคาเหนือเส้นท่ีเชื่อมตอ่ กับเส้นอ่นื ๆ และระบายสี อยา่ สวยงาม การทาแผนผังกวามคดิ จะสมบรู ณค์ วรเพม่ิ เตมิ ขัน้ ตอนสาคัญในข้อใด 1. การใส่รหัสข้อความต่าง ๆ 2. เขยี นคาตัวบรรจงขนาดใหญ่ 3. การสรุปรวมกวามรเู้ ป็นหมวดหมู่ 4. การเขยี นกลอนเพอื่ เช่ือมโยงหมวดหมู่ 5. การร่างแผนผงั ความคิดกอ่ นการลงมือ 6. ในช่ัวโมงเรียนวิชาทักษะการเรียนรู้ นายอาทิตย์ได้ทาการนาเสนอวิธีการและเกณฑ์ประเมินผลหน้าช้ัน เรยี นและรบั ฟงขังเสนอแนะจากครู นายอาทิตยไ์ ดฝ้ กึ ปฏิบัติทกั ษะพ้ืนฐานทางการศึกษาหาความร้ตู ามขอ้ ใด

ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย 1. การฟง และการพูด 2. การพูด และการอ่าน 3. การฟง และการเขยี น 4. การเขียน และการพดู 5. การอ่าน และการเขียน 7. ปจจยั สาคัญที่สุดทีท่ าให้การเรียนร้ดู ว้ ยตนเองประสบความสาเร็จ คอื ขอ้ ใด 1. ความคดิ สรา้ งสรรค์ 2. การมองอนาคตในแงด่ ี 3. ความคดิ รเิ ริ่ม 4. ความพร้อมในการเรยี นรู้ 5. ความรบั ผิดชอบต่อการเรียนรู้ 8. ข้อใดไม่ใช่ความสาคญั ของแหล่งเรยี นรู้ 1. ช่วยเปลี่ยนแปลงทัศนคติ 2. มนษุ ย์สามารถเข้าไปปฏิบตั ไิ ด้จริง 3. มนุษย์สามารถยอ้ นเร่ืองราวในอดีดได้ 4. สง่ เสริมความสมั พันธอ์ นั ดีของคนในท้องถน่ิ 5. ช่วยเสริมการเรยี นรขู้ องการศึกษาประเภทต่าง ๆ 9. แหล่งเรียนรู้ทแ่ี สดงถงึ ความก้าวหน้าทางนวตั กรรมและเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ คือประเภทใด 1. สอ่ื 2. เทคนิค 3. กิจกรรม 4. ธรรมชาติ 5. วัสดแุ ละสถานที่ 10. เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบลต้องการจัดกิจกรรมให้ความรู้เร่ืองการปูองกันโรค ไข้เลือดออกในเดก็ สาหรับผ้ปู กกรอง ควรเลือกแหลง่ เรยี นรู้ใดในการจัดกิจกรรม 1. ศูนย์ขา่ วสารข้อมูลของชุมชน 2. ศนู ย์เผยแพรข่ ่าวสารของชมุ ชน 3. ศนู ย์กลางจัดกจิ กรรมของชมุ ชน 4. ศนู ยส์ ง่ เสรมิ การเรียนรู้ของชุมชน 5. ศนู ยก์ ลางสนบั สนุนเครือขา่ ยการเรยี นรู้ในชุมชน 11. การบริการแนะแนวให้คาปรึกษาสาหรับบุกคลท่ีมีความสนใจและต้องการสร้างโอกาสในการศึกษา นอกระบบโรงเรียน ควรเป็นบทบาทหน้าทีข่ องห้องสมดุ ประเภทใด 1. หอ้ งสมดุ มหาวทิ ยาลัย 2. หอ้ งสมุดประชาชน 3. ห้องสมุดโรงเรียน 4. หอ้ งสมุดเฉพาะ 5. หอ้ งสมุดท่ัวไป 12. ขอ้ ใดเปน็ ความสัมพันธร์ ะหว่างแหล่งเรียนรแู้ ละความรู้ทปี่ รากฎในแหล่งเรยี นรู้ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 1. หอ้ งสมุดลาดหลุมแกว้ แสดงนิทรรศการวฒั นธรรมมอญ - ประวตั ิศาสตร์

ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 2. ห้องสมดุ บางปะกงแสดงนทิ รรศการปุาชายเลน - ภมู ิศาสตร์และสิง่ แวดลอ้ ม 3. ห้องสมดุ อ่าวลึกแสดงนทิ รรศการถา้ หวั กะโหลกและลกู ปดโบราณ - ศิลปวัฒนธรรมประเพณี 4. ท้องสมุดหนองบัวลาภูแสดงนิทรรศการเร่ืองคณุ ค่าทางโภชนาการของพืชผกั พ้นื เมือง - อาชพี 5. ห้องสมุดสิงหนครแสดงนิทรรศการสร้างความตระหนักในเร่อื งทะเลลาบสงขลา - การสง่ เสริมคุณภาพชีวิต 13. หากต้องการศึกษาเรอื่ งเพนยี ดคลอ้ งชา้ งสมัยโบราณ ควรเลือกศกึ ษาจากแหลง่ เรียนรใู้ ด เพราะเหตุใด 1. อทุ ยานประวัตศิ าสตร์ เพราะให้ประสบการณ์ตรงท่เี ป็นรปู ธรรม ทาให้เขา้ ใจสภาพที่แทจ้ รงิ ได้ 2. พพิ ธิ ภัณฑสถานแห่งชาติ เพราะรวบรวมประวัตติ าสตร์และเหตกุ ารณใ์ นอดตี ไวม้ ากทสี่ ดุ 3. ห้องสมดุ ประชาชน เพราะสามารถสอบถามขอ้ มลู จากบรรณารกั ษ์ไดต้ ลอดเวลา 4. ควาญช้างท่ีจังหวัดพระนครศรอี ยุธยา เพราะเป็นบุคคลทม่ี ีความรู้ และน่าเช่อื ถือ 5. อินเทอร์เน็ต เพราะมีข้อมลู ทห่ี ลากหลาย รวดเร็ว เขา้ ถงึ งา่ ย 14. ข้อใดไม่ใช่การจดั กจิ กรรมการศกึ ษาของอุทยานแหง่ ชาติ 1. ศึกษาด้านธรรมชาตวิ ิทยา 2. พฒั นาคุณภาพกายและจิตใจ 3. นันทนาการเพ่ือพัฒนาคุณภาพชวี ิตมนุษย์ 4. ใหค้ วามรู้เรอื่ งการรกั ษาสง่ิ แวดลอ้ มทางธรรมชาติ 5. จาหน่ายหนงั สือและของท่รี ะลึกเกี่ยวกับสัตว์ปุาหายาก 15. ข้อใดเรยี งลาดับขั้นของการเรียนรู้ไดถ้ ูกต้อง 1. ขอ้ มูล สารสนเทศ ความรู้ ภูมิปญญา 2. ข้อมลู ความรู้ สารสนเทศ ภูมิปญญา 3. ความรู้ ขอ้ มูล สารสนเทศ ภูมปิ ญญา 4. ความรู้ สารสนเทศ ขอ้ มลู ภมู ิปญญา 5. สารสนเทศ ข้อมูล ความรู้ ภูมิปญญา 17. ระบบแผนที่ความรู้ (Knowledge Mapping) เป็นระบบท่ีใหท้ ราบว่าความรูท้ ี่ต้องการ ถามารถหาได้ จากทใี่ ดหรือจากบดุ กลใด เป็นการจัดการความรใู้ นส่วนใดของโมเดลปลาทู 1. หวั ปลา 2. ตาปลา 3. ตวั ปลา 4. หางปลา 5. ทอ้ งปลา 19. ข้อใดคือผลสาเรจ็ ที่เกิดจากการจัดการความรขู้ องชุมชนเร่ืองการปอู งกนั และลดความรุนแรงใน ครอบครัว 1. ชุมชนมสี ภาพแวดลอ้ มท่ดี ี 2. ชมุ ชนมรี ายไดเ้ พ่ิมขน้ึ 3. ชุมชนปลอดภยั 4. ชุมชนพอเพยี ง 5. ชุมชนนา่ อยู่ 16. ข้อใดไมใ่ ช่เปาู หมายของการจดั การความรใู้ นองคก์ ร 1. พัฒนาผลผลติ และใหเ้ กิดนวัตกรรม

ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย 2. พฒั นารายได้จากการลดต้นทนุ การผลติ 3. พัฒนากระบวนการทางานให้เกดิ ประสิทธภิ าพ 4. พฒั นากระบวนการให้ทันต่อสถานการณท์ ่ีเปลี่ยนแปลง 5. พฒั นาองคก์ รให้บรรลุเปูาหมายท่ีกาหนดไว้ตามวิสยั ทศั น์ 18. บุคคลใดทาหน้าที่เปน็ \"คณุ อานวย\" ในการจัดการความรู้ 1. หนุ่ม ไดร้ บั มอบหมายให้รับผิดชอบตามหนา้ ท่ขี องตนในองคก์ ร 2. โหน่ง จัดทาเป็นคลงั ความรขู้ ององค์กรเพอ่ื ช่วยให้ง่ายตอ่ การใช้งาน 3. หนอ่ ย ชว่ ยผู้สูงอายุและเยาวชนสามารถสอ่ื สารกันจนเกิดความเขา้ ใจไม่มชี ่องว่างระหวา่ งวัย 4. หนิง สอบถามและสมั ภาษณเ์ ชงิ ลึกความรู้เรื่องการรกั ษาโรคดว้ ยสมนุ ไพรของท้องถ่ินจาก ปราชญ์ชาวบ้าน 5. หนยุ่ เปิดโอกาสให้ทุกคนเปน็ ผูน้ าในการนาประสบการณข์ องตนเองมาแลกเปลยี่ นเรียนรูก้ บั เพื่อนรว่ มงาน 20. มนุษย์ทุกคนเกิดมาแตกต่างกัน แต่ละคนจึงมีเปูาหมายในชีวิตท่ีแตกต่างกันตามแต่ท่ีตนเองเลือก และย่อมมี สิทธิทจ่ี ะแสวงหาความรู้ตามแบบท่ีตนเองสนใจได้เอง ข้อความข้างต้นเป็นหลักพื้นฐานเก่ียวกับปรัชญาการคิดเป็น ทางการศึกษาผ้ใู หญ่ท่ถี กู ตอ้ งหรอื ไม่ เพราะเหตุใด 1. ถกู ตอ้ ง เพราะสทิ ธใิ นการเรียนรู้เป็นสิทธขิ องแตล่ ะบุคกลทีจ่ ะเลอื กเรยี นรกู้ บั ใครกไ็ ด้ 2. ถูกตอ้ ง เพราะมนษุ ยท์ กุ คนแม้วา่ จะเกดิ มาต่างกันแตท่ ุกคนตอ้ งไดร้ บั การศึกษา/เรยี นรู้ 3. ถูกตอ้ ง เพราะมนุษย์ทกุ คนเกิดมาเหมือนกันแตต่ า่ งกม็ ีเปูาหมายชวี ิตของตนเองไม่จาเป็นต้องมีเปูาหมายเดียวกัน 4. ไม่ถูกตอ้ ง เพราะมนุษย์ทุกคนมเี ปูาหมายท่ตี ่างกันแต่วธิ ีการทาให้เราไปถึงเปูาหมายในชวี ติ ได้คอื การไดร้ บั การศึกษา 5. ไม่ถกู ตอ้ ง เพราะแม้มนุษย์ทุกคนเกดิ มาตา่ งกนั และมีวธิ ีการเรยี นรู้ต่างกนั แตท่ กุ คนมีเปูาหมายเดียวกนั คือชีวิต ทมี่ คี วามสุข 21. บคุ คลใดทาหน้าท่ีของตนได้ถูกต้องตามหลกั การกัดกระบวนการเรียนร้ตู ามทศิ ทางของการคิดเป็น 1. ครูกัมพล ออกแบบและอานวยความสะดวกในการเรียนรู้ใหก้ บั ผ้เู รียนเทา่ น้นั 2. ครสู าครและผ้เู รยี นในชัน้ ช่วยกันจดั ทาแฟมู ขอ้ มลู ความรเู้ กย่ี วกับเร่อื งทผี่ เู้ รียนตอ้ งการทกุ สัปดาห์ 3. สารณิ ี เปน็ ผู้เรียนจะเกิดกระบวนการคดิ ไดก้ ต็ ่อเมื่อได้เรียนกับครูเท่านน้ั 4. ครูอาทร ทาทุกวิธที ่ีจะหาทางเลือกในการแก้ปญหาใหก้ บั ผู้เรียน 5. ไพลนิ พยายามชว่ ยครูออกแบบและจดั มุมการเรียนรู้ที่เหมาะสมให้กบั หอ้ งเรยี น 22. บคุ คลใดเปน็ ผู้ใช้ขอ้ มูลวชิ าการในการแกไ้ ขปญหาของตนเอง

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย 1. สมสุดา ใชว้ ัฒนธรรมและประเพณีในชุมชน ประกอบการแกไ้ ขปญหาความขัดแย้งระหวา่ ง ครอบครัว 2. กรกมล ใช้สถติ ิจานวนสมาชิกชายและหญิงในกรัวเรือน ประกอบการแกไ้ ขปญหาการติดสรุ า เรอื้ รงั ของบดิ า 3. สุพรใชข้ ้อมลู จากการสอบถามเรอื่ งอาหารการกินของคนในชมุ ชน ประกอบการแก้ไขปญหา ภาวะทพุ โภชนา 4. เฉลมิ วฒุ ิ ใช้เอกสารรายงานวจิ ัยการจดั การปญหาขยะจากบ้านเรือนในต่างประเทศ ประกอบการแกไ้ ขปญหาขยะในชุมชน 5. ชุติมาใชข้ ้อมูลแนวทางการบาบัดผู้ติดบุหรี่ ประกอบการตัดสนิ ใจรักษาอาการติดบหุ ร่ขี องตนเอง 23. ขอ้ ใดอธบิ ายลกั ษณะข้อมลู ไดถ้ กู ตอ้ ง 1. ข้อมลู เชิงปรมิ าณ ความเชื่อเรอื่ งโชคลางของพนักงานบริษทั เอกชน 2. ข้อมลู เชงิ กณุ ภาพ ค่าเฉลย่ี อายขุ ยั ของคนในชุมชน 3. ขอ้ มลู เชิงปริมาณ รอ้ ยละของเดก็ ในชุมชนที่ไม่ไดศ้ ึกษาตอ่ ระดบั มหาวิทยาลัย 4. ข้อมลู เชิงคุณภาพ อัตราส่วนระหว่างเพศชายและหญิงท่ีปฏบิ ตั ิงานบรกิ ารสาธารณสขุ ใน จงั หวดั ลาปาง 5. ข้อมลู เชงิ ปริมาณ วิถีวัฒนธรรมของชาวไทยพุทธกับชาวไทยมุสลิมในชมุ ชน 24. ขอ้ ใดอธบิ ายลกั ษณะของขอ้ มลู ปญหาชงิ กณุ ธรรม จรยิ ธรรม ไดถ้ กู ต้อง 1. ผลสารวจทัศนคตแิ ละพฤตกิ รรมของวัยรุน่ ชายต่อการคกุ คามทางเพศบนโลกออนไลน์ 2. ข้อมูลรายงานจานวนกรอบครวั แม่วยั ใสในประเทศไทยประจาปี 2561 3. ข้อมูลความถ่ีในการทาบุญเพื่ออทุ ิศใหก้ ับสัตวข์ องพนกั งานโรงงานฆ่าสัตวเ์ อกชนในจังหวดั สระแกว้ 4. ขอ้ มูลร้อยละของกล่มุ คนวยั หลังเกษียณอายุท่ีเข้ามาใชบ้ ริการสถานปฏบิ ัติธรรม 5. ขอ้ มูลสถติ ิกวามถข่ี องการดม่ื สุราในกล่มุ ผชู้ ายวยั ทางานในประเทศไทย 25. บคุ คลใดใชห้ ลกั ความมีเหตผุ ล คุณธรรมและจริยธรรมในการแก้ไขปญหาอยา่ งคนคิดเปน็ ได้ถูกต้อง 1. ทนงศกั ด์ิ แสวงหาวิธกี ารแก้ไขปญหาดว้ ยการนัง่ สมาธิเพ่อื ใหจ้ ิตน่ิง และพบทางออกของปญหา 2. อัจฉราวดีใช้หลักอริยสจั 4 ในการวิเคราะห์สาเหตทุ ่ีทาให้เกดิ ความวิตกกังวลเรอ่ื งทที่ างาน 3. ณัฐพงศ์ ทาบญุ กรวดน้าในวันรงุ่ ขึน้ ทุกคร้งั หลงั จากทะเลาะกบั เพือ่ นร่วมงาน 4. มนตช์ ยั พยายามปล่อยวาง ไมโ่ กรธหัวหน้างานทว่ี ่ากล่าวตกั เตอื นเขาตอ่ หนา้ เพ่ือนรว่ มงาน 5. พรรณี สวดมนตท์ ุกเช้าเพราะเช่ือว่าจะทาให้โชคดใี นการทางาน

ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย 26. ข้นั ตอน การเขยี นโครงการวิจยั มคี วามสากญั ต่อกระบวนการวิจัยตามข้อใด 1. เป็นข้นั ตอนที่จะทาให้รู้ว่าผู้วิจัยอยากรอู้ ะไร 2. เป็นข้ันตอนการรายงานกระบวนการในการพิสจู น์ หรอื แสวงหาคาตอบท่ีต้องการจะศึกษาใน เรอ่ื งนนั้ ๆ 3. เป็นข้ันตอนการสรปุ สังเคราะห์ เรียบเรียงเพ่ือนาเสนอขอ้ ค้นพบของการวิจยั 4. เป็นขน้ั ตอนการนาขอ้ มูลทีเ่ กบ็ รวบรวมได้มาสร้างขอ้ สรุปตามคาถามวิจัย 5. เป็นขน้ั ตอนการวางแผนกระบวนการวจิ ยั ว่าควรเริ่มจากการทาส่งิ ใดและมลี าดับอย่างไร 27. ศูนยก์ ารศึกษานอกโรงเรยี น วังมะนาว มผี ู้เรียนจานวนทั้งสิ้น 90 กน ประกอบด้วยชาย 29 คน หญิง 61 คน หากต้องการหาจานวนเพศชายท่ีเรียนในศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนแห่งนี้ มีก่ีเปอร์เซ็นต์ จะ ใช้กค่าสถิตใดในการคานวณและไดผ้ ลลัพธเ์ ท่าใด 1. ค่าเฉล่ยี เท่ากับ 29 2. คา่ เฉลี่ย เท่ากับ 32 3. คา่ ความถี่ เทา่ กับ 62 4. คา่ รอ้ ยละ เทา่ กับ 68 5. ค่าร้อยละ เทา่ กับ 32 28. มณฑกานต์ ตอ้ งการทราบข้อมูลปญหาเรอ่ื งค่าใช้จา่ ยต่อบุคคลในการเรียนของผเู้ รยี นโรงเรียนบ้านไล่ โปฺะที่ต้องเรียน online ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดกติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ควร เลือกใชเ้ ครื่องมอื การวจิ ยั เหมาะสมท่สี ดุ เพราะเหตใุ ด 1. การสัมภาษณผ์ ู้เรยี นทกุ คน เพราะะไดข้ ้อมูลที่ถกู ตอ้ งแม่นยาทส่ี ดุ 2. การสงั เกต เพราะจะทาใหเ้ หน็ พฤตกิ รรมและวัสดอุ ุปกรณท์ างการเรียนผู้เรียนทุกคน 3. แบบสังเกต เพราะจะฝากให้ครูประจาชนั้ ทุกคนออกไปเย่ียมบ้านผู้เรยี นเพ่อื เก็บขอ้ มลู 4. แบบสอบถามผปู้ กกรอง เพราะจะทาใหไ้ ด้ชุดข้อมลู เชงิ เอกสารมาวิเคราะหโ์ ดยไมต่ อ้ ง เผชิญหนา้ กนั 5. แบบสัมภาษณผ์ เู้ รียน เพราะจะทาให้ได้ข้อมลู เรือ่ งคา่ ใชง้ ่ายจรงิ จากตวั ผู้เรียนเอง 29. หากต้องการศึกษาเหตุผลการหยุดเรียนกลางกันของผู้เรียนในศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนบ้านท่า แรง้ ควรต้งั ชือ่ โครงการวิจัยตามข้อใด 1. การศกึ ษาสาเหตทุ ีผ่ เู้ รยี นหยดุ เรียนหลกั สตู รการศึกษานอกโรงเรยี นในวนั เสาร์และอาทติ ย์ 2. การศึกษาร้อยละของการหยดุ เรยี นกลางกันของผูเ้ รียนศูนยก์ ารศกึ ษานอกโรงเรียนบา้ นท่าแร้ง 3. การดารวจเหตผุ ลท่ีผู้เรียนหยุดเรียนหลกั สูตรการศกึ บานอกโรงเรียนกลางกนั 4. ปจจัยท่มี ีผลตอ่ การหยดุ เรียนกลางกันของผ้เู รยี นในศูนยก์ ารศกึ ษานอกโรงเรียนบ้านทา่ แร้ง 5. เดก็ หลุดระบบ: การหยุดเรียนกลางกันของผู้เรยี นศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนบา้ นทา่ แร้ง

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย 30. สงิ่ สาคญั ที่สดุ ในการนาเสนอผลการวิภัยคอื ขอ้ ใด เพราะเหตุใด 1. วิธดี าเนนิ การวจิ ัย เพราะเปน็ ส่ิงที่บอกว่าใช้เครื่องมอื อะไรในการคน้ หาคาตอบและคาตอบทไ่ี ด้ น่าเชื่อถอื หรือไม่ 2. น้าเสยี งทีช่ ัดเจน ภาษาท่สี ละสลวย ถูกต้อง เพราะจะทาให้ผ้ฟู งสนใจและสามารถเข้าใจเนื้อหาของการ วจิ ยั ครั้งนีไ้ ด้ดี 3. Power Point นาเสนอโครงการวิจยั ท่ีสะดดุ ตา ไม่เหมือนใคร เพราะจะทาให้ผู้ฟงให้ความสนใจกับ งานวจิ ัย 4. ข้อสรปุ ผลการวจิ ัย เพราะเป็นส่งิ สาคญั ท่แี สดงให้เหน็ ว่าจากคาถามวจิ ยั พบคาตอบอะไรบ้าง 5. การรายงานทุกหัวข้อของโกรงการวจิ ัยเพราะจะทาใหผ้ ู้อา่ นเข้าใจกระบวนการวจิ ัยทุกขน้ั ตอน

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย สาระการประกอบอาชีพ ชอ่ งทางการขยายอาชีพ จานวน 10 ข้อ 1. อารียม์ อี าชีพเยบ็ ผ้าในโรงงานซง่ึ มคี วามชานาญในการเย็บผา้ และต้องหาเงนิ เล้ยี งดูครอบครัว จงึ ต้องการหาอาชีพเสริม จากสถานการณ์ ข้อใดเป็นอาชีพเสริมที่เหมาะกบั ความสามารถของอารียม์ ากที่สุด 1. ขายส่งเสือ้ ผ้า 2. รับซกั รดี เส้ือผา้ 3. ขายเสอ้ื ผ้ามอื สอง 4. รบั ซ่อมแซมเส้อื ผา้ 5. ขายปลกี เส้ือผ้าจากโรงงาน 2. ขอ้ ใดเปน็ การขยายขอบข่ายอาชพี จากการสร้างเครอื ข่ายอาชีพ 1. แฟรนไชส์ชานม 2. ผลติ สนิ ค้าจากชาเขยี ว 3. ผลติ แยมจากผลไม้ปลอดสารพิษ 4. แปรรูปสินคา้ จากนมววั เปน็ ลูกอม 5. อบกรอบมะเขอื เทศใหเ้ ปน็ ของรบั ประทานเลน่ 3. สุทนิ พบว่ากลว้ ยท่ีเขาปลกู ขายมีสนิ คา้ ล้นตลาด ทาใหก้ ลว้ ยเน่าเสียจานวนมาก จากสถานการณ์ สุทินควรแก้ปญหาในเบอ้ื งตน้ ตามข้อใด 1. แจกจา่ ยฟรพี ร้อมกบั การขาย 2. แปรรูปกล้วยเปน็ กลว้ ยอบแห้ง 3. ลดราคาเพ่อื เร่งจาหนา่ ยใหห้ มด 4. หาแหล่งตลาดใหมท่ ไ่ี กลจากเดิม 5. เปล่ยี นจากการปลกู กล้วยเปน็ ผลไม้อ่ืนแทน 4. เกสรมีอาชีพขายผลไม้ในรถเขน็ โดยได้ตั้งรถเขน็ ขายบริเวณทางเทา้ ตอ่ มาไดถ้ ูกรอ้ งเรียน ว่ารถเข็นกีดขวางทางเดินเทา้ ของคนที่เดินผา่ นไปมา จากสถานการณ์ ขอ้ ใดเป็นสิง่ ท่ีเกสรควรปฏิบัตมิ ากท่ีสุด 1. ตดิ ปูายแสดงความเห็นใจ 2. ยงั คงขายท่ีเดมิ ตอ่ ไปสักระยะ 3. ขายในช่วงเวลาท่คี นเดินผ่านน้อย 4. ย้ายไปขายบริเวณท่ไี ม่กดี ขวางทางเดนิ 5. เปลย่ี นจากการขายบนรถเข็นเป็นบนโตะ๊ 5. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ข้อคานึงถึงในการขยายอาชพี 2. กระบวนการผลิต 1. แผนการผลิต 4. ปจจัยนาเข้าการผลติ 3. การบรหิ ารจัดการ 5. ความชอบของผูป้ ระกอบการ

ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 6. ข้อใดไม่เก่ียวข้องกบั ความเป็นไปไดใ้ นการขยายอาชีพ 1. การยอมรับไดข้ องลูกค้า 2. การยอมรบั ไดข้ องสังกม 3. รปู แบบการขยายอาชพี 4. การยอมรับได้ของผู้ประกอบการ 5. ความยากง่ายของการดาเนินการ 7. ขั้นตอนการขยายอาชพี ตามวงจรเดมมิ่งในขอ้ ใด เกยี่ วกบั การหาขอ้ บกพร่องในการทางาน 1. เอกชัย วจิ ัยหาวัตถุดบิ ทีด่ ีทส่ี ุดเพื่อการผลิต 2. วโิ รจน์ วเิ คราะห์แผนการตลาดเพือ่ ขยายตลาด 3. วมิ ล บารงุ พันธต์ุ ้นไม้เพื่อปอู งกนั แมลงที่เข้ามาทาลาย 4. วนิ ัย ตดิ ต่อประสานกบั ฝาุ ยการตลาดเพือ่ กระจายสนิ ค้า 5. อนุทิน ตรวจสอบของเหลวทไ่ี หลเกินออกมาจากลายการผลิต 8. ชิตชัยดาเนินการผลิตผลไม้กระปูอง ข้อใดไม่เก่ียวข้องกับวิธีการ ขั้นตอนการขยายอาชีพ และเหตุผลของการ ขยายอาชีพ 1. ลดต้นทนุ แรงงานในสายการผลติ 2. วิเคราะห์คัดเลือกผลไม้ให้สดใหม่ 3. ควบคมุ ความสดใหม่ของผลไม่ให้ไดม้ าตรฐาน 4. ปฏิบัติการแกไ้ ขข้อบกพร่องในการบรรจุผลไม้ 5. ตดิ ตามตรวจสอบหาข้อบกพร่องของสายการผลติ 9. การประกอบอาชีพจากต้นแบบทป่ี ระทบั ใจ ได้รบั อทิ ธิพลจากขอ้ ใด 1. ค่านยิ ม 2. สติปญญา 3. ความถนดั 4. ความสนใจ 5. บคุ คลแวดลอ้ ม 10. สมยศต้องการประกอบอาชีพให้คาปรึกษาทางด้านชีวิตความเป็นอยู่และการประกอบ อาชีพของคนในชมุ ชน อยากจัดการชมุ ชนในด้านตา่ ง ๆ เพือ่ ให้คนในชุมชนมคี ุณภาพชวี ติ ที่ดีขึ้น จากสถานการณ์ สมยศตอ้ งมีคณุ ลกั ษณะตามข้อใด จงึ จะเหมาะสมกบั อาชพี ดังกลา่ ว 1. ชอบคดิ คนั้ 2. ชอบเดนิ ทาง 3. ชอบเป็นผนู้ า 4. ชอบช่วยเหลอื ผู้อื่น 5. ชอบทาตามระเบยี บ

ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย สาระการประกอบอาชีพ ทกั ษะการขยายอาชีพ จานวน 20 ขอ้ ใช้สถานการณต์ อ่ ไปน้ี ตอบกาถามขอ้ 1 – 2 พลอยใสเปดิ ร้านขายกาแฟสดในสถานศกึ ษาแหง่ หนึง่ ต่อมาต้องการขยายกิจการโดยประมูล พ้นื ทจ่ี าหนา่ ยในโรงพยาบาลไดอ้ ีกหน่งึ แหง่ 1. กาแฟสดทจี่ าหนา่ ยในร้าน เป็นองคป์ ระกอบทางธุรกิจด้านใด 1. ทุน 2. ลกู คา้ 3. สังคม 4. ตนเอง 5. ผลติ ภณั ฑ์ 2. ข้อใดเปน็ การดาเนินการเกี่ยวกบั องก็ประกอบทางธุรกจิ ด้านลูกคา้ ของพลอยใสเพ่ือรองรบั การขยาย กจิ การ 1. ศึกษาระเบยี บขอ้ ปฏบิ ัติของโรงพยาบาล 2. อบรมพนักงานในการชงกาแฟและเครอ่ื งด่ืมชนดิ ตา่ ง ๆ 3. ซอื้ เครื่องชงกาแฟแบบ 2 หวั รุน่ ใหมม่ าจากตา่ งประเทศ 4. จัดทาบตั รสมาชกิ เพ่อื ใช้ลดราคาเครอ่ื งดืม่ ของรา้ นทุกสาขา 5. เขา้ พบธนาการเพ่ือขอกเู้ งินในการซ้ือเครอ่ื งมือและอปุ กรณต์ า่ ง ๆ 3. ร้านจาหน่ายกะหร่ีป๊ปทอดบรรจุกล่อง ต่อมามีความคิดผลิตกะหรี่ป๊ปสดบรรจุถุงสุญญากาศ แช่เย็น เพื่อถูกค้านาไปทอดรับประทานเองท่ีบ้านได้ ข้อใดคือความจาเป็นของร้านในการฝึกทักษะอาชีพโดยใช้ นวัตกรรมหรอื เทคโนโลยกี ารผลิตกะหรีป่ ป๊ สด 1. ศกึ ษาวธิ ีการทากะหร่ีป๊ปไส้ตา่ ง ๆ จากเวบ็ ไซต์ 2. จา้ งแรงงานคนและสอนวธิ กี ารทากะหรี่ป๊ปสด 3. ตกึ ษาและฝึกทักษะการใชเ้ คร่อื งบรรจสุ ญุ ญากาศ 4. ศึกษาการใช้สอื่ ออนไลนต์ า่ ง ๆ ในการจาหน่ายกะหรป่ี ป๊ 5. ฝกึ การป้นแปงู กะหรีป่ ๊ปใหข้ นึ้ ลวดลายสวยงามจากคลิปในชอ่ งทางยูทูป

ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย ใช้สถานการณต์ ่อไปน้ี ดอบคาถามข้อ 4 – 5 กลมุ่ วสิ าหกิจชุมชนแห่งหนึง่ ในจงั หวดั พระนครศรีอยุธยา ประกอบอาชีพจักสานตะกร้าหวาย ท่ีมีลวดลายเดียว ต่อมาได้เพ่ิมลวดลายใหม่ท่ีเป็นเอกลักษณ์ของกลุ่มนอกจากนี้กลุ่มยังต้องการส่ง ผลติ ภัณฑเ์ ขา้ กดั สรรตามโครงการกัดสรรสุดยอดหนง่ึ ตาบลหนง่ึ ผลิตภัณฑ์อีกด้วย 4. กลุ่มตอ้ งวางแผนปฏิบตั ิการอยา่ งไรในการพัฒนาตนเอง เพอื่ ให้ผลิตภณั ฑส์ ามารถผ่านการกัดสรรสุดยอดหน่ึง ตาบล หน่งึ ผลิตภัณฑ์ 1. นาสนิ ค้าเข้ารว่ มประกวดและจดั แสดงในงานกาชาดของจงั หวดั 2. นาสนิ คา้ จาหน่ายในงานแสดงสนิ ค้าที่ศนู ย์แสดงสนิ คา้ เมืองทองธานี 3. ศึกษาเกณฑ์ในการกดั เลือกการกดั สรรสุดยอดหนึ่งตาบล หนึง่ ผลติ ภัณฑ์ 4. ศกึ ษาประวตั ิศาสตร์ เพ่ือคน้ หาเอกลักษณข์ องจังหวดั พระนครศรีอยธุ ยา 5. ศึกษาเคร่ืองจกั รหรือเทคโนโลยที ่ีนามาใช้ในการอบตะกรา้ หวายให้คงทน 5. ข้อใดเป็นการดาเนินการตามหลกั การมภี มู คิ ้มุ กันตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 1. ออกแบบลวดลายใหม่ใหเ้ ป็นเอกลักษณข์ องกลุ่ม 2. สมาชิกกลุ่มเรียนรู้การสานตะกรา้ หวายลวดลายใหม่ 3. กาหนดราคาในการจัดจาหนา่ ยตะกร้าหวายให้เหมาะสม 4. เชญิ วิทยากรมาใหค้ วามรเู้ รือ่ งสนิ ค้าหน่ึงตาบล หนงึ่ ผลติ ภัณฑ์ 5. การไดร้ ับการกัดสรรให้เป็นตะกรา้ หวายสินคา้ สุดยอดหน่งึ ตาบล หนงึ่ ผลิตภัณฑ์ ใช้สถานการณต์ อ่ ไปนี้ ตอบคาถามข้อ 6 – 7 กลุ่มเกษตรกรปลกู มันเทศญี่ปนุ จงั หวัดยโสธร นอกจากมีรายได้จากการขายมันเทศแล้ว ต้องการนามาแปรรปู เป็นผลิตภัณฑ์มันฉาบหวาน โดยกาหนดราดาไว้ท่ถี งุ ละ 100 บาท 6. การสารวจความต้องการบรโิ ภคมนั ฉาบหวานเป็นกิจกรรมการจดั การตลาดขอ้ ใด 1. โฆษณา 2. กระจายสนิ คา้ 3. วิจยั การตลาด 4. ประชาสมั พันธ์ 5. ส่งเสริมการขาย 7. ขอ้ ใดเป็นการส่งเสริมการขายที่ทาใหข้ ายมนั ฉาบหวานได้จานวนมากใน 1 คร้งั 1. ซอ้ื 2 ถงุ ลด 10% 2. ซือ้ 5 ถุงแถม 1 ถงุ 3. ซอ้ื 5 ครงั้ แถม 1 ถุง 4. ซอื้ 5 ถงุ เป็นเงิน 400 บาท 5. ซ้ือ 1 ถุงแถมมนั เทศเผา 1 หวั

ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย ใช้สถานการณ์ตอ่ ไปนี้ ตอบคาถามข้อ 8 - 9 ตารางการกาหนดเกณฑใ์ นการพจิ ารณาระดบั ความรนุ แรงของความเส่ียงของโรงงานผลิตภณั ฑห์ มูแปรรูป ความเสยี หาย ความรนุ แรง มาก ปานกลาง น้อย ดา้ นทรพั ย์สิน ค่าชดใช้ความเสียหายทกุ ค่าชดใช้ความเสยี หาย คา่ ชดใช้ความเสียหาย กรณี มีมูลค่ารวม1,000,000 ทกุ กรณี มมี ูลค่ารวม ทกุ กรณี มีมูลค่ารวม บาท ข้นึ ไป 500,000 บาท ถงึ ตา่ กวา่ 500,000 บาท 1,000,000 บาท ด้านพนกั งาน พนกั งานฝุายผลิตลาออก พนกั งานฝาุ ยผลิต พนกั งานฝาุ ยผลิต มากกว่า 30% ลาออก20-30% ลาออกน้อยกว่า 20% ด้านลกู ค้า ยอดสงั่ ซือ้ จากลกู คา้ ลดลง ยอดสง่ั ซือ้ จากลูกคา้ ยอดส่ังซื้อจากลูกคา้ มากกว่า 50% จากปกี ่อน ลดลง 30-50% จากปี ลดลง ก่อน นอ้ ยกว่า 30% จากปี ก่อน ดา้ นคุณภาพ มสี ินคา้ ทผี่ ลติ ไมผ่ ่าน มสี นิ คา้ ท่ีผลิตไมผ่ า่ น มสี นิ คา้ ทผ่ี ลติ ไมผ่ า่ น สนิ ค้า มาตรฐานมากกว่า 10% มาตรฐาน 5-10% มาตรฐานตา่ กว่า 5% ด้านภาพลกั ษณ์ สง่ ผลในระดับองคก์ ร สง่ ผลในระดับฝาุ ย สง่ ผลในระดับ พนักงาน ในรอบปที ี่ผ่านมา หลังจากโรงงานไดข้ ยายกิจการโดยเพิ่มโรงงานผลิตอีกหนึ่งแห่งพบว่า โรงานสาขาใหม่ ประสบปญหาด้านการติดตั้งระบบของเครื่องจักรในการบดเน้ือหมู ทาให้เสียค่าซ่อมแซมไปประมาณ 500,000 บาท มีสินค้าที่ผลิตไม่ผ่านมาตรฐานถึง ร้อยละ 9 มีการลาออกของพนักงานฝุายผลิต ประมาณ 350 คน จากท่ีเร่ิมรับ 1,000 คน แต่ทั้งน้ีไม่กระทบต่อยอดชั่งซื้อของลูกค้าและไม่ส่งผลต่อ ชื่อเสียงของโรงงาน 8. ความเส่ยี งดา้ นใดของโรงงานทีต่ อ้ งดาเนินการจดั การเปน็ ลาดบั แรก 1. ลูกคา้ 2. ทรัพย์สิน 3. พนักงาน 4. ภาพลกั ษณ์ 5. คณุ ภาพสนิ คา้

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย 9. ปญหาการลาออกของพนกั งานฝุายผลติ เปน็ ความเสี่ยงด้านใด 1. การเงิน 2. การผลติ 3. การตลาด 4. บคุ ลากร 5. ศักยภาพ 10. ขอ้ ใดเป็นการสารวจความเสี่ยงดา้ นการตลาดในการขยายธุรกิจของบริษทั ผลิตและจาหน่ายน้าปลา หวาน 1. ตรวจสอบเครื่องจกั รที่ใช้ผลิตน้าปลาหวานทุกวัน 2. อบรมพนกั งานใหม่เกี่ยวกบั ขั้นตอนการผลติ 3. หาทาเลท่ีตงั้ ของโรงงานผลิตแห่งใหม่ใหอ้ ยใู่ กลช้ ุมชน 4. สารวจผลติ ภณั ฑ์น้าปลาหวานที่วางจาหน่ายในท้องตลาด 5. ทดสอบคณุ สมบตั ิของพนักงานตรวจสอบคุณภาพน้าปลาหวานให้เปน็ ไปตามมาตรฐาน 11. ขอ้ ใดเปน็ การควบคุมคุณภาพการผลิตในขนั้ ตอนการกาหนดนโยบาย 1. คดั เลือกวัตถุดิบทีม่ คี ณุ ภาพ 2. คัดแยกสนิ คา้ ท่ไี ม่ไดม้ าตรฐาน 3. ออกแบบการใชง้ านของผลิตภัณฑ์ 4. ผลิตสนิ ค้าเจาะกลุม่ ผ้บู รโิ ภคเพื่อสขุ ภาพ 5. สง่ ช่างตรวจสอบคุณภาพเคร่ืองจักรทุก 6 เดอื น 12. กลุ่มแม่บ้านชุมชนนาเศษผ้าจากผ้าไทยท่ีเหลือจากการตัดเย็บเสื้อผ้าสาเร็จรูปมาทาต่างหูเพ่ือ จาหนา่ ยผา่ นช่องทางออนไลน์ ขอ้ ใดเป็นการควบคมุ การดาเนินงานให้เป็นไปตามแผนการผลติ 1. ขายเส้ือผ้าสาเร็จรปู ผา่ นชอ่ งทางออนไลน์ 2. ศกึ ษาความรเู้ กี่ยวกับลวดลายของผา้ ไทย 3. ดาเนินการจดั หาบรษิ ทั เพอื่ ขนสง่ สนิ ค้า 4. ผลติ ต่างหใู หไ้ ดอ้ ยา่ งนอ้ ยสปั ดาห์ละ 300 คู่ 5. กาหนดตวั แทนอย่างห้อย 5 รายเพ่อื จาหน่ายต่างหอู อนไลน์ 13. นายเอ ทาสลัดโรลขาย มตี ้นทุนในการซือ้ ผกั แตล่ ะวัน ตอ้ งลงในบญั ชีใด 1. บญั ชีหน้สี นิ 2. บัญชีรบั -จา่ ย 3. บัญชีสนิ ทรพั ย์ 4. บญั ชคี รวั เรือน 5. บัญชที รพั ย์และหนี้สิน

ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 14. ขอ้ ใดไมใ่ ชบ่ ญั ชธี รุ กิจ 2. บัญชรี ับ-จ่าย 1. บัญชีการเงนิ 4. บญั ชีสนิ ทรัพย์ 3. บัญชีครวั เรือน 5. บญั ชีทรัพย์-หน้ีสนิ 15. ต้ัมเป็นเจ้าของฟาร์มหอยนางรมชายฝ่งทะเลในอาเภอหน่ึงของจังหวัดสงขลา พบว่าตลาดมีความ ตอ้ งการหอยนางรมมากขนึ้ พ้นื ที่ชายฝง่ ทะเลของจังหวัดมีคุณภาพน้าที่เหมาะสมต่อการเลี้ยงหอยนางรม ภาครัฐให้การสนับสนุนการเพาะเล้ียง ข้อใดเป็นแผนปฏิบัติการขยายธุรกิจที่เหมาะสมกับสถานการณ์ ดงั กล่าว 1. เชญิ ใหล้ กู คา้ มาชมฟาร์มเลีย้ งหอยนางรม 2. ทาฐานขอ้ มลู ลูกคา้ ทีต่ ิดตอ่ ซ้อื ขายหอยนางรมเป็นประจา 3. ตดิ ตามข่าวสารเทคโนโลยใี หม่ ๆ ในการเพาะเล้ียงหอยนางรม 4. ขยายฟาร์มเพาะเลี้ยงหอยนางรมในพนื้ ทชี่ ายฝง่ ทะเลอาเภออ่นื 5. ตรวจสอบคุณภาพน้ากับสถาบันวจิ ยั การเพาะเล้ยี งสัตวน์ า้ ชายฝง่ 16. แพรวเป็นเจา้ ของร้านผัดไทยกุ้งแม่น้าราคาสงู มีจุดเด่น คอื ลูกค้าตอ้ งได้รบั ผัดไทยภายใน 10 นาที หลังจากสั่งอาหารแล้ว แพรวตอ้ งการขยายกจิ การไปยังแหลง่ ท่องเท่ียวจังหวัดอ่ืนอกี 3 แหง่ ข้อใดคอื ระบบควบคุมในการจดั ทาแผนปฏบิ ัตกิ ารขยายอาชีพ 1. ใช้วัตถดุ บิ ที่หาไดง้ า่ ยในแตล่ ะทอ้ งถน่ิ 2. ทกุ สาขา ลกู คา้ ต้องไดร้ ับผัดไทย ภายใน 10 นาที 3. เชิญดารา นกั ชมิ มาถา่ ยทารายการท่ีรา้ นสาขาใหม่ 4. มขี องทร่ี ะลึกใหแ้ กล่ ูกค้า 1 สปั ดาหแ์ รกของการเปดิ ร้าน 5. สารวจแหลง่ เงินทุนในการเช่าและตกแตง่ ร้านอาหารให้เหมือนรา้ นสาขาเดิม 17. รา้ นทาขนมไหวพ้ ระจันทร์ ผลิตขนมไดไ้ มท่ นั ตามคาสง่ั ซอ้ื จึงเรียกประชุมพนักงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหา สาเหตขุ องการผลิตขนมที่ลา่ ช้า การเรียกประชุมดังกล่าวเป็นข้ันตอนใดของการดาเนินงานตาม แผนปฏิบัติการ 1. การกากับ ดูแล 2. การจดั ทากฎระเบียบ 3. การแก้ไขข้อบกพรอ่ ง 4. การตรวจหาข้อบกพรอ่ ง 5. การสรปุ ผลการดาเนินงาน

ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 18. ข้อความ \"ขยายสาขาร้านไอศกรมี ให้แลว้ เสรจ็ 2 สาขาภายในเดอื นธนั วาคม 2564\" อย่ใู นหัวขอ้ ใด ของโครงการขยายอาชีพ 1. เปาู หมายโครงการ 2. ผลไดข้ องโครงการ 3. งบประมาณดาเนนิ การ 4. ผลการดาเนินโครงการ 5. หลกั การและเหตุผลของโครงการ 19. ลาวัลย์ ปลกู ผักบุ้งจนี ส่งขายตลาดค้าส่งพืชผกั ตอ่ มาต้องการขยายอาชีพโดยปลูกผกั บุง้ จนี ปลอด สารพษิ ส่งขายตา่ งประเทศ ข้อใดเป็นชอื่ โครงการขยายอาชีพทีเ่ หมาะสมท่สี ดุ 1. โครงการขยายอาชพี การปลูกผักบุ้งจนี 2. โครงการขยายอาชีพการปลกู ผักบุง้ จนี ปลอดสารพิษ 3. โครงการขยายอาชพี การปลกู ผกั บุ้งจนี เพ่ือขอสินเชอ่ื 4. โครงการขยายอาชพี การปลกู ผกั บงุ้ จีนเพอื่ ส่งตลาดคา้ ส่งพืชผกั 5. โครงการขย่ายอาชพี การปถกู ผักบ้งุ จีนปลอดสารพษิ ส่งออกเพื่อขอสินเช่อื จากธนาคารเพอ่ื การเกษตร และสหกรณก์ ารเกษตร 20. กล่มุ ชาวสวนผลไมแ้ ห่งหน่งึ เล้ียงผ้ึงโพรงควบคกู่ ับการทาสวนผลไม้ จาหน่ายผลิตภณั ฑ์จากผึง้ เชน่ นา้ ผง้ึ เกสรผึง้ นมผึ้ง ในเขตอาเภอ ตอ่ มาตอ้ งการขยายอาชีพด้วยการจาหน่ายผลิตภัณฑด์ ังกล่าวในเขต จังหวดั จะตอ้ งเขียนเปูาหมายโครงการเพอ่ื เสนอตอ่ องค์การบริหารสว่ นตาบลตามข้อใด 1. ประโยชนข์ องการรับประทานนา้ ผง้ึ 2. เพ่ือสนับสนนุ ชาวสวนให้สามารถเลยี้ งผง้ึ โพรงได้ 3. เรียนรู้วธิ เี ลี้ยงผึ้งโพรงกับศูนยว์ ิจยั และพฒั นาพันธ์ุผึ้ง 4. ค่าจัดซือ้ พันธุผ์ ึง้ พรอ้ มเลี้ยงจากศูนยว์ ิจยั และพฒั นาพนั ธ์ุผึ้งในราคากลอ่ งละ 2,500 บาท 5. ภายในปี 2564 ต้องมีอย่างน้อย 50 ครอบกรัว ท่ีเลยี้ งผึง้ ครอบครัวละไม่น้อยกวา่ 100 รัง

ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย สาระการประกอบอาชีพ พัฒนาอาชพี ใหม้ ีความมั่นคง จานวน 10 ขอ้ 1. หนูนาได้ศึกษาการจาหน่ายสินค้าของสถานประกอบการแห่งหน่ึงที่เปิดบริการมา 2 -3 ปี ผลการศึกมาพบว่าสินค้ายอดขายเพ่ิม กาไรสูง เร่ิมเป็นท่ียอมรับมีความต้องการของดลาดเพิ่มขึ้น แตเ่ ร่ิมมีคแู่ ขง่ ขนั เข้าสูต่ ลาด จากสถานการณ์ ผลการวิเคราะห์ตาแหนง่ ธุรกจิ อยูใ่ นระยะใด 1. เริม่ ต้น 2. ทรงตัว 3. สร้างตัว 4. ตกตา่ 5. สงู ข้ึน 2. เมอื่ พจิ ารณาตามหลักการวเิ คราะห์ SWOT ข้อใดไม่ใช่จุดอ่อนของสถานประกอบการร้านอาหารทะเล เผาทม่ี ยี อดขายลดลงเป็นเวลา 6 เดอื นแลว้ 1. มสี ว่ นแบ่งการตลาดสูง 2. ต้แู ชเ่ ก็บอาหารไม่เพยี งพอ 3. เครื่องปรับอากาศในรา้ นไมเ่ ย็น 4. ขาดความรเู้ ร่ืองการประกอบการประเภทนงึ่ 5. รา้ นต้งั อยตู่ ดิ ถนนจึงไมม่ ีทีจ่ อดรถสาหรับลกู คา้ 3. บรษิ ัทผลิตผลไม้ดองแหง่ หน่ึง ตอ้ งการขยายจดุ จาหน่ายสินค้าเพ่มิ อกี 5 สาขาใน ปม๊ นา้ มัน ภายในระยะเวลา 1 ปี จากสถานการณ์ ความตอ้ งการของบรษิ ัทควรอยู่ในหวั ขอ้ ใดของโครงการ 1. เปาู หมาย 2. งบประมาณ 3. วิธีดาเนนิ การ 4. เครือข่ายโครงการ 5. ตัวช้ีวดั ความสาเร็จ 4. ขอ้ ใดไมใ่ ช่การบริการของร้านน้าแข็งไสเพ่ือให้ยอดจาหนา่ ยเพ่มิ ขึ้น 1. บริการน้าดืม่ ฟรี 2. ซือ้ 2 แถม 1 ถว้ ย 3. ขยายเวลาเปิด และปดิ รา้ น 4. ขยายขนาดภาชนะให้ใหญ่ข้นึ 5. เพิ่มบรรจภุ ัณฑส์ ินคา้ ใหม้ ีหลายขนาดหลายราคา

ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 5. บริษัทผลิตสมุดบันทึกแห่งหนึ่งสารวจความต้องการสินค้าจากกลุ่มนักศึกษาเพ่ือวางแผนใน การพัฒนาและปรับปรงุ สินค้าและไดเ้ ตรยี มการโฆษณากบั กลุ่มเปาู หมายผา่ นชอ่ งทางออนไลน์ จากสถานการณ์ บริษทั น้เี น้นกลยทุ ธ์ทางการตลาดตามข้อใด 1. การพัฒนาผลติ ภัณฑ์ และการเจาะตลาด 2. การพัฒนาผลิตภณั ฑ์ และการจดั จาหน่าย 3. การกาหนดราคาสินคา้ และการจัดจาหนา่ ย 4. การกาหนดกล่มุ เปูาหมาย และการจัดจาหน่าย 5. การกาหนดกลุม่ เปูาหมาย และการกาหนดราคา 6. ช่างตัดผมเปิดร้านมา 2 ปี ได้ถัดร้านใหม่เพื่อเพิ่มบริการรับแต่งหน้าและทาเล็บสไตล์เกาหลี ท่ไี ปอบรมมา โดยกั้นหอ้ งหลังบ้าน ใช้วัสดุและอุปกรณ์ท่ีมีคุณภาพดีในการให้บริการ และจ้างลูกจ้าง เพิม่ 2 คน จากสถานการณ์ ข้อใดไม่ใช่กลยทุ ธ์ิในด้านการผลติ และบรกิ าร 1. สถานท่ี 2. การกระจายสนิ ค้า 3. การเจาะกลุ่มเปูาหมาย 4. การสรา้ งเอกลกั ษณต์ ราสินค้า 5. การสร้างเครือข่ายธรุ กิจชุมชน 7. หมตู อ้ งการเปดิ รา้ นคาร์แคร์ มกี ารวางแผนการใช้ทนุ ในการดาเนนิ ธุรกจิ โดยคานงึ ถึง 1. เครอ่ื งดดู ฝุน 2. คา่ สารเคมี 3. คา่ เช่าสถานที่ จากสถานการณ์ ขอ้ ใดระบุประเภทของทุนได้ถกู ต้องตามลาดับ 1. ทนุ คงท่ี ทุนคงที่ และทุนหมุนเวยี น 2. ทนุ คงท่ี ทุนหมุนเวียน และทุนคงที่ 3. ทุนคงท่ี ทุนหมุนเวยี น และทุนหมุนเวยี น 4. ทุนหมนุ เวียน ทุนหมนุ เวยี น และทนุ คงท่ี 5. ทุนหมุนเวียน ทนุ หมุนเวยี น และทุนหมุนเวียน

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย 8. อ้อยทาธุรกิจน้าพริกเผาบรรจุขวด ปจจุบันยอดขายคงท่ี จึงสารวจตลาดพบว่าคนนิยม รับประทานน้าพริกกุ้งเสียบ เพราะไม่มัน มีไอโอดีน และมีคอเลสเตอรอลน้อยกว่า จึงผลิตน้าพริก กุ้งเสียบเพิ่มอีกชนิดหนง่ึ ทาให้ธุรกิจเติบโตขึน้ จากสถานการณ์ ขอ้ ใดกล่าวถึงการดาเนินกิจกรรมเพื่อเพมิ่ ยอดขายสนิ ค้า 1. สรา้ งตราสญั ลักษณข์ องสินคา้ ใหเ้ ป็นทีร่ ู้จกั มากขน้ึ 2. ใชเ้ ทคโนโลยีที่ทันสมัยในผลติ สนิ ค้า 3. ประชาสัมพันธเ์ พื่อส่งเสรมิ การตลาด 4. แทรกความนยิ มของผู้บริโภคลงในสนิ ค้า 5. สรา้ งความเช่อื มั่นใหก้ ับลกู ค้าในการผลิตสนิ ค้า 9. ข้อใดไม่ใช่ปจจัยท่ีต้องพิจารณาในการดาเนินการธุรกิจปลูกและจาหน่ายทุเรียนเพ่ือส่งออก ต่างประเทศ 1. แหล่งจาหนา่ ยสินค้า 2. ลกู คา้ ภายในชมุ ชน 3. ชอ่ งทางในการขนสง่ 4. การจัดหาพนั ธุ์ตน้ กล้า 5. ปริมาณคู่แขง่ ขันในตลาด 10. สมควรประกอบธุรกิจจัดจาหน่ายกล้วยไม้เพ่ือส่งออกต่างประเทศ แต่ยังไม่มีความชานาญ เพียงพอ การจัดจาหนา่ ยเสยี หายถึงร้อยละ 40 ในการส่งออกแต่ละครัง้ ทาใหก้ าไรท่ไี ด้ลดลง จากสถานการณ์ ควรมกี ารดาเนินการแกป้ ญหาขา้ งต้นตามขอ้ ใดเปน็ ลาดับแรก 1. เปล่ยี นระบบการขนสง่ ใหม่ 2. เปล่ียนบรรจุภณั ฑ์ทใี่ ส่กลว้ ยไม้ 3. หาความรแู้ ละประสบการณ์เพิ่มเตมิ 4. หาสาเหตุของความเสียหายที่เกดิ ข้นึ 5. เพ่มิ จานวนกล้วยไม้ทีส่ ่งออกใหม้ ากขึ้น

ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย สาระทักษะการดาเนนิ ชวี ิต เศรษฐกจิ พอเพียง จานวน 10 ข้อ 1. ขอ้ ใดเป็นการปฏบิ ัติหน้าทอ่ี ยูบ่ นฐานของทางสายกลาง 1. ซอื้ อาหารมารบั ประทานปรมิ าณมากและนาสว่ นท่ีเหลือให้สตั ว์เล้ยี ง 2. เลือกวิธีการพฒั นาผลิตภัณฑ์ตามวฒั นธรรมของหม่บู า้ นใกลเ้ คียง 3. ตดั สินใจแกป้ ญหาโดยยึดความคิดของตนเองเป็นหลกั 4. วางแผนการปฏบิ ตั งิ านโดยเนน้ ผลลัพธ์ ณ ปจจบุ ัน 5. ปฏบิ ตั ิตนตามหลกั ศาสนาของตนเอง 2. ข้อใดสมั พนั ธ์กนั ระหว่าง วิธีการนาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยกุ ตใ์ ช้ 1. พ่อสอนใหถ้ กู รจู้ กั การให้อภัยเพือ่ นที่ทาผิด - การมภี มู คิ มุ้ กันท่ดี ใี นตัว 2. การตดั สินใจผลิตผลติ ภณั ฑต์ ามความตอ้ งการของหวั หนา้ งาน - ความมีเหตุผล 3. ผู้อานวยการโรงเรียนจัดเลยี้ งครูทมี่ ีผลงานดเี ย่ียมเดอื นละ 1 คร้งั - ความพอประมาณ 4. การเตรยี มตัวพร้อมรบั ผลกระทบและการเปล่ียนแปลงดา้ นตา่ ง ๆ - การมีภูมคิ มุ้ กันทดี่ ี 5. ผ้ใู หญบ่ า้ นแนะนาให้ลูกบ้านประหยัดทรัพยากรของตนเองโดยไปขอซ้ือทรัพยากรจากหมู่บ้านใกล้เคียง – ความพอประมาณ 3. การบริหารจัดการชุมชน องคก์ ร ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมปี ระโยชน์หรือส่งผลดตี ามข้อใด 1. ชุมชนสามารถจัดต้ังกลุ่มออมทรัพย์เพื่อความสะดวกในการปล่อยสินเช่ือในอัตราดอกเบ้ีย เท่ากับธนาคาร 2. ชมุ ชนมีความเข้มแขง็ ด้านการผลติ สนิ ค้าจากทรัพยากรธรรมชาติในทอ้ งถิน่ ของตน 3. คนในชุมชนทางานมากขน้ึ เพราะทุกชุมชนมผี ลิตภัณฑ์เปน็ ของตนเอง 4. มีผนู้ าทีด่ ีในชุมชนเพ่ือการบรหิ ารจัดการชมุ ชน 5. เยาวชนในชมุ ชนสนใจใฝุเรยี นรูม้ ากขนึ้

ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 4. หมู่บ้านฟูาสว่าง คนในชุมชนประกอบอาชีพที่หลากหลาย เช่น ค้าขาย ผลิตสินค้าจาก ท้องถิ่น ทานา ปลูกพืชผักสวนครัว เป็นต้น รายได้ของคนในชุมชนมีความแตกต่างกัน เช่น บาง ครอบครัวมีรายไดส้ ูง บางครอบครัวมรี ายได้น้อยบางครอบครวั ไมม่ ีรายได้เลย และการศึกษาของคน ในชมุ ชนสว่ นใหญจ่ บการศึกษาระดับประถมศกึ ษา จากสถานการณ์ ผ้นู าชุมชนควรมแี นวทางการบริหารจัดการชุมชนตามขอ้ ใด 1. จัดต้งั สหกรณอ์ อมทรพั ยเ์ พือ่ ใหค้ นในชมุ ชนกู้เงนิ ไปเป็นทุนในการประกอบอาชพี 2. ให้ความร้กู ับคนในชมุ ชนที่มีการศึกษาน้อยและครอบครวั ที่ไมไ่ ดป้ ระกอบอาชพี 3. จดั ประชุมคนในชุมชนเพื่อรว่ มกันหาแนวทางทด่ี ใี นการประกอบอาชพี 4. ให้คนในชุมชนประกอบอาชีพเหมือนครอบครัวที่มีรายได้สูงเลือกผู้นาชุมชนคนใหม่จากคนใน กรอบครัวที่มรี ายไดส้ ูง 5. ขอ้ ใดเป็นปญหาของชมุ ชนดา้ นสังคม 1. ชุมชนคิดดี วัยรนุ่ เข้าร่วมประเพณีทอ้ งถ่นิ นอ้ ย 2. ชุมชนขน้ั เทพ มพี ่อค้าคนกลางช่วยในการสง่ ต่อสินค้า 3. ชมุ ชนเปน็ ต่อ คนในชุมชนไดร้ ับการศกึ ษาไม่เท่าเทยี มกัน 4. ชมุ ชนพอใจ มีปรมิ าณขยะมากเพราะมีถังขยะไม่เพยี งพอ 5. ชมุ ชนวันนา ผู้ใหญบ่ า้ นจดั สรรพืน้ ที่ให้คนในชมุ ชนปลกู ผลไม้ 6. ข้อใดเปน็ แนวทางการพฒั นาชุมชนที่เหมาะสมและควรปฏบิ ตั เิ ปน็ ลาดับแรก 1. ความขดั แย้งทางการเมือง - ชมุ ชนพฒั นารูปแบบการปกครองเฉพาะชมุ ชนตนเอง 2. คนในชมุ ชนมหี นสี้ นิ จากการพนนั - ตั้งหกรณ์เพื่อให้คนในชุมชนยืมเงนิ 3. ความเหลือ่ มล้าทางสงั คม - การกระจายอานาจให้คนในชมุ ชนบรหิ ารชมุ ชน 4. ทรพั ยากรไม่เพียงพอ - ปิดโรงงานอตุ สาหกรรมและปลูกต้นไมท้ ดแทน 5. วนั รุ่นปฏิบตั ิตามคา่ นิยมต่างชาติ – กรอบครวั พดู คุยกนั มากข้ึน 7. การมสี ว่ นร่วมของประชาชนในการแกป้ ญหาชุมชน ขอ้ ใดเปน็ ขนั้ ตอนแรกทคี่ วรดาเนนิ การ 1. เสริมสร้างใหค้ นในชุมชนเห็นความสาคญั ของปญหา 2. ผู้นาชมุ ชนร่วมกันแกป้ ญหากบั ครอบครัวทีเ่ กิดปญหาโดยตรง 3. เมอ่ื เกิดปญหาใหแ้ ก้ไขปญหาด้วยตนเองก่อน หากไมส่ าเรจ็ คอ่ ยมาแจ้งผู้นาชมุ ชน 4. รวบรวมปญหาที่เกดิ ขน้ึ ใหไ้ ดจ้ านวนมาก ๆ แลว้ ใหค้ นในชุมชนร่วมกันแกป้ ญหาพร้อมกัน 5. ทกุ ปญหาที่เกดิ ขึ้นในชมุ ชนตอ้ งให้คนในชมุ ชนรว่ มกนั ลาดบั ความสาคญั ของปญหาและแก้ไข ตามความสาคัญ

ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ใช้สถานการณต์ ่อไปน้ี ตอบคาถามข้อ 8 – 9 8. จากสถานการณ์ ผู้นาชุมชนควรเรมิ่ ต้นการพัฒนาชมุ ชนตามขอ้ ใดเพื่อไม่ใหเ้ กิดปญหาการพนนั ออนไลน์ในชมุ ชนของตนเอง 1. ส่งเสริมใหเ้ ยาวชนอ่านหนังสือ 2. ประชมุ คนในชมุ ชนเพ่ือหาแนวทางการแก้ปญหา 3. ใหเ้ ยาวชนใช้ส่อื ออนไลนเ์ ฉพาะเวลาที่อยกู่ ับครอบครัว 4. ประชุมเยาวชนเพือ่ ใหค้ วามรเู้ ก่ียวกบั โทษของการพนนั 5. ครอบครวั ลดค่าใช้งา่ ยประจาวนั ของถกู หรือหลานใหน้ ้อยลง 9. จากสถานการณ์ ข้อใดเปน็ การประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการดาเนินชีวติ เพอ่ื ปูองกันการติดพนันออนไลนข์ องเยาวชน 1. ไมเ่ ลน่ อนิ เทอร์เน็ต 2. ไมย่ อมรับการใช้เทคโนโลยี เชน่ มอื ถอื 3. เลอื กเล่นอนิ เทอร์เนต็ เฉพาะท่ีให้ความรู้ 4. เล่นอนิ เทอรเ์ น็ตน้อยกว่า 5 ช่วั โมงต่อวัน 5. ลองเลน่ การพนันแบบไม่ออนไลน์เพื่อเรียนรูป้ ระโยชนแ์ ละโทษของการพนนั

ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 10. จากสถานการณ์ ขอ้ ใดนาหลักการพึ่งตนเองมาใชไ้ ด้เหมาะสมท่ีสุด 1. เลอื กวธิ กี ารปฏบิ ตั ผิ ่านโฆษณาตามส่ือต่าง ๆ - การพง่ึ พาตนเองดา้ นจติ ใจ 2. ใชเ้ วลาวา่ งโดยการอยู่ในบา้ นกบั ครอบครัว - การพง่ึ พาตนเองดา้ นครอบครัว 3. เลน่ การพนนั โดยใช้ทรัพยากรท้องถนิ่ - การพงึ่ พาตนเองด้านทรัพยากรธรรมชาดิ 4. ดาเนนิ ชวี ติ โดยใชเ้ ทคโนโลยีดว้ ยความรอบคอบ - การพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยี 5. ชวนเพื่อนทต่ี ดิ การพนันออนไลนไ์ ปเล่นเกมสอ์ อนไลน์แทน – การพึ่งตนเองด้านเศรษฐกิจ

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย สาระทักษะการดาเนนิ ชวี ิต สขุ ศกึ ษา พลศึกษา จานวน 10 ขอ้ 1. พฤติกรรมการดูแลสขุ ภาพขอ้ ใดไม่สัมพันธ์กบั การเกิดโรคแผลในกระเพาะอาหาร 1. ดม่ื ชา/ กาแฟเปน็ ประจา 2. รบั ประทานอาหารเฉพาะเวลาหิว 3. รบั ประทานยาแกป้ วดทันทีเมอื่ ปวด 4. รบั ประทานข้าวกล้องแทนขา้ วขาว 5. ทางานแขง่ กับเวลาเพ่อื ให้งานออกมาดี 2. หากตอ้ งไปงานเลี้ยงกลางคนื กับเพ่ือนควรหลกี เลี่ยงการปฏิบัตใิ นข้อใด 1. ควรบอกให้พอ่ แมห่ รือผู้ปกครองทราบ 2. อยู่กับกล่มุ เพือ่ นเสมอไม่แยกตัวตามลาพงั 3. มีสติ ไมห่ ลงไหลเคลิบเคล้มิ ไปกับบรรยากาศ 4. ร้จู ักวิธปี ฏเิ สธเมือ่ อยู่ในสถานการณอ์ ันตราย 5. ดม่ื เคร่อื งดื่มแอลกอฮอล์เล็กน้อยตามมารยาทสงั คม 3. อทิ ธพิ ลทางสังคมข้อใดไม่ส่งผลใหเ้ กิดปญหาเร่อื งเพศของวยั รนุ่ ไทยในปจจุบัน 1. การแพรร่ ะบาดของสารเสพตดิ 2. การแต่งกายตามสมยั นิยม 3. ออกกาลังกายตามกระแส 4. การอยใู่ กลแ้ หลง่ อบายมุข 5. การใชส้ ื่อสงั คมออนไลน์ 4. อาการในขอ้ ใดท่คี วรแนะนาใหร้ บั ประทานผักใบเขียว และผกั ผลไม้ทมี่ ีสีเหลือง 1. มีเลอื ดออกตามไรฟน 2. เปน็ เหน็บชาที่มอื และเท้า 3. มองไม่เห็นในที่สลัวหรือมดื 4. กลา้ มเน้ือแขนขาไม่มีคาลัง 5. เปน็ แผลหรอื รอยแตกทม่ี ุมปากท้ังสองข้าง 5. การสร้างเสริมสขุ ภาพผู้สงู อายุในชมุ ชน ควรจัดกิจกรรมในขอ้ ใด 1. การแข่งขันกินวิบาก 2. กจิ กรรมทอ่ งเทย่ี ว 3. การประกวดร้องเพลง 4. จิตอาสาเกบ็ ขยะในลาคลอง 5. การประกวดราวงในผสู้ ูงอายุ 6. คนทม่ี ีอาการปสสาวะบอ่ ยในชว่ งกลางคนื หิวน้าบอ่ ย อ่อนเพลีย กินแก่งแต่น้าหนักลดแผลหายช้า มัก มีสาเหตุจากการทางานผดิ ปกติของอวยั วะใด 1. ตับอ่อน 2. ไทรอยด์ 3. หวั ใจ 4. มา้ ม 5. ไต

ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 7. ข้อใดเป็นการใช้ยาได้ถกู เวลา 1. รับประท่านยาปฏชิ ีวนะกอ่ นอาหารคร่ึงชัว่ โมง 2. รับประทานยาแก้ปวดกลา้ มเนื้อหลังอาหารกลางวันหนง่ึ ชั่วโมง 3. รับประทานยาแกแ้ พ้กอ่ นขับรถไปทางานในทมี่ ีฝุนละอองจานวนมาก 4. รบั ประทานยาแกป้ วดลดไข้ 2 เม็ด ห่างกนั 2 ชั่วโมงเมือ่ ยังพบว่ามไี ข้สงู 5. รบั ประทานยาลดความดนั โลหิตรวมกันสองเมด็ ช่วงกลางวนั เมื่อลมื ในมอ้ื เช้า 8. ปจจุบนั มกี ารนาผลิตภัณฑ์กัญชามาใช้ทางการแพทย์ เพื่อชว่ ยรักษาอาการตามขอ้ ใด 1. ตอ้ กระจก 2. ลมชักท่ีรกั ษายาก 3. สมองเสื่อมในผู้สูงอายุ 4. เสน้ เลอื ดในสมองตบี ตนั 5. แพท้ ้องรนุ แรงในหญงิ ต้ังครรภ์ 9. กจิ กรรมตามข้อใด เป็นการชว่ ยเหลือผ้ทู ีต่ ิดสารเสพติดไม่ใหก้ ลบั ไปติดชา้ 1. ให้ความรู้เร่อื งพษิ ภยั บุหรใ่ี นชุมชน 2. จดั ตงั้ ชมรมเยาวชนรุ่นใหมห่ ่างไกลยาเสพตดิ 3. ตรวจปสสาวะหาสารเสพตดิ ในนักเรยี นกลมุ่ เส่ียง 4. ฝกึ อาชีพเพือ่ ส่งเสรมิ การใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ 5. เป็นตัวอยา่ งทีด่ ใี หเ้ ด็กและเยาวชนในชุมชนเห็นตัวอยา่ งท่ดี ี 10. ข้อใดเป็นการแสดงความเข้าใจและเห็นใจเพื่อนร่วมชน้ั เรยี นท่ีมผี ลการเรียนไมด่ ี 1. ชวนเพ่อื นไปผอ่ นคลายความเครียดนอกสถานท่ี 2. พดู ให้กาลงั ใจและไมเ่ ปรยี บเทยี บกับคนอื่น 3. แนะนาให้ปรึกษาครแู นะแนว 4. บอกเพอ่ื นให้ทาใจยอมรบั 5. ทาการบา้ นให้เพ่ือน

ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย สาระทักษะการดาเนนิ ชีวิต ศิลปศึกษา จานวน 10 ข้อ 1. การถ่ายทอดภาพดอกทานตะวันใหม้ ีรปู แบบเหมือนจรงิ ควรเลือกสร้างผลงานประเภทใด 1. การป้น 2. ภาพพิมพ์ 3. จติ รกรรม 4. ประติมากรรม 5. การแกะสลกั 2. การพมิ พ์ลงบนเสือ้ ยืด หรือเส้อื กีฬาเปน็ การใชแ้ ม่พิมพล์ ักษณะใด 1. แมพ่ ิมพ์นูน 2. แมพ่ มิ พ์ฉลุ 3. แมพ่ ิมพร์ ่องลกึ 4. แม่พมิ พ์พนื้ ราบ 5. แม่พมิ พ์จากเศษวัสดุ 3. การวจิ ารณ์คณุ ค่าของผลงานภาพเขียนโมนาลิซา่ ตอ้ งใชท้ ฤษฎกี ารวิจารณง์ านศิลปะในขอ้ ใด 1. รูปทรงนยิ ม 2. บาศกนยิ ม 3. จติ วสิ ยั นิยม 4. อารมณ์นิยม 5. เลียนแบบนยิ ม 4. การจัดภาพมีความกลมกลืนกัน มีกระท่อมปลายนาเป็นจุดเด่น ชาวนากาลังก้มปกดานา เรียงรายบน ผืนนาเปน็ จงั หวะแบบต่อเนื่อง อยา่ งนา่ สนใจ เปน็ ขั้นตอนใดของการวิจารณ์ 1. ข้นั การบรรยาย 2. ขน้ั การวิเคราะห์ 3. ขนั้ ตคี วามหมาย 4. ขัน้ การประเมินคุณค่า 5. ขน้ั การสงั เคราะหข์ ้อมลู 5. กากล่าวท่ีว่า มีการใช้เสียงดนตรีท่ีเน้นถึงอารมณ์อย่างเด่นชัด เป็นยุคที่คนตรีเจริญถึงขีดสูงสุดเป็น \"ยุคทองของคนตรี\" หมายถงึ ดนตรีในยุกใด 1. Modern Period 2. Baroque Period 3. Classical Period 4. Romantic Period 5. Polyphonic Period

ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 6. คาวา่ \"สสี ันของเสยี ง (Tone Colour)\" มีคณุ ค่าในทางดนตรีสากลตามข้อใด 1. ทาให้เกดิ คุณภาพของแหล่งกาเนดิ เสียงท่ีแตกตา่ งกัน 2. ทาให้รูปแบบของเพลงทห่ี ลอมรวมเอาจงั หวะ ทานอง พ้ืนผิว ใหเ้ คลือ่ นทไี่ ป 3. ทาให้เกดิ ลกั ษณะหรอื รูปแบบของเสยี ง ทง้ั ทป่ี ระสาน และไมป่ ระสานสมั พันธ์กนั 4. เกดิ การจัดระเบยี บของเสยี ง ที่เกยี่ วข้องกบั ความสูง - ตา่ ความสนั้ – ยาว ความช้า - เร็วของ ดนตรี 5. เป็นคณุ ลักษณะของเสียงท่ีกาเนดิ จากแหล่งของเสยี งท่แี ตกต่างกัน อนั เกดิ จากการบรรเลง ดนตรี 7. คาวา่ สนุ ทรียะทางนาฏศิลป์สากล แสดงขอบเขตของความหมายได้ตามข้อใด 1. ท่าราในทางดนตรีนาฏศิลปส์ ากล 2. การแสดงนาฏศิลปส์ ากล ดว้ ย ระบา รา ฟูอน 3. ความวิจิตรงดงาม ของการแสดงนาฏศิลปส์ ากล 4. ลลี าท่ารา และการเคล่ือนไหว ที่ประกอบคนตรีสากล 5. รูปแบบของการร้อง รา ทา เพลง:ในการแสดงนาฏศิลปส์ ากล 8. ข้อใดเป็นลีลาศมาตรฐาน 1. รุมบา้ 2. ดิสโก้ 3. แซมบา้ 4. วอลทซ์ 5. ช่า ชา่ ช่า 9. จะประเมินคณุ คา่ การรับรู้คุณคา่ ของละครไดจ้ ากคนกลุ่มใด 1. ผู้ประพันธ์ 2. ผชู้ มละคร 3. นกั วิชาการ 4. ผู้สนับสนนุ 5. ผู้แสดงละคร 10. ข้อใดเป็นจงั หวะของการสลี าศแบบบอลรูม (Ballroom หรอื Standard) 1. วอลทซ์ แทงโก 2. วอลทซ์ แซมบา้ 3. แทงโก แซมบ้า 4. ควกิ สเต็ป แซมบ้า 5. แซมบ้า ชา่ ช่า ช่า