Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ ม5.3

แผนการจัดการเรียนรู้ ม5.3

Published by muangphui1242, 2021-02-14 14:32:55

Description: แผน ม5.3

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 16 เรอื่ ง การสรา้ งประโยชนจ์ ากผลงานนักเรียน รหัสวชิ า ว 31103 รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ม.5/3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 3 เรอื่ ง การสร้างประโยชนจ์ ากผลงาน เวลา 50 นาที วันที่ 2 มนี าคม 2564 ครูผ้สู อน นายภุมริน ยมหา 1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชีว้ ดั มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์และ ศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือ พัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่าง เหมาะสม โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชวี ิต สงั คม และส่ิงแวดลอ้ ม ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ ว. 4.1 ม.5/1 วิเคราะห์แนวคิดหลักของเทคโนโลยี ความสัมพันธ์กับศาสตร์อื่น โดยเฉพาะ วิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์ รวมทั้งประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อมนุษย์ สังคม เศรษฐกิจ และ สง่ิ แวดลอ้ ม เพ่ือเปน็ แนวทางในการพัฒนาเทคโนโลยี 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรูส้ ่ตู วั ชว้ี ดั 1. นักเรียนสามารถอธบิ ายความหมายของการสร้างประโยชนจ์ ากผลงานได้ 3. สาระสำคญั การสรา้ งประโยชนจ์ ากผลงาน เปน็ การพฒั นาผลงานท้งั ที่เป็นชน้ิ งาน (ผลิตภณั ฑ)์ หรือท่ีเป็นวิธีการ ในการแก้ปัญหา ศกึ ษา คน้ ควา้ วิจยั และพัฒนา คิดสร้างสรรค์ โดยบรู ณาการความรทู้ างวิทยาศาสตร์ร่วมกับ ศาสตร์ต่าง ๆ เพื่อให้ผลงานมีมูลค่าเพิ่มขึ้น คำาว่า “มูลค่า” นอกจากจะหมายถึงราคาของสิ่งของนั้นแล้ว ในทางการตลาดยังหมายถงึ คุณค่าทางจิตใจท่ไี ด้จากการประเมนิ ค่าสง่ิ ใดสิ่งหน่งึ หากผลงานที่พัฒนาข้ึนน้ันมี ความแปลกใหม่ และไม่เคยมีผู้ใดคิดทำามาก่อน ผู้สร้างก็จะได้ผลงานใหม่ที่เรียกว่านวัตกรรรมซึ่งเป็น ทรัพย์สินทางปัญญาของผูส้ ร้าง และได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย นอกจากนี้ยงั สามารถสร้างประโยชน์ ดว้ ยการนำาเสนอผลงานตอ่ สาธารณะเพ่ือพัฒนาต่อยอดผลงานในเชิงพาณิชย์ หรอื เพ่อื การประกอบอาชีพใน อนาคต 4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น (ให้เลือกเขยี นเฉพาะหวั ข้อท่ีสอดคล้องกบั กิจกรรมการเรียนในแตล่ ะหน่วย และต้องประเมินได้จรงิ ) 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. สาระการเรยี นรู้ 5.1 ความรู้ (K) - นักเรียนสามารถอธิบายความหมายของการสรา้ งประโยชนจ์ ากผลงานได้ 5.2 ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด (P) - นักเรยี นสามารถใช้ความคิดเชงิ สรา้ งสรรค์ในการสรา้ งประโยชนจ์ ากผลงานได้ 5.3 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) - นักเรียนมคี วามกระตือรือร้นในการเรยี น 6. สาระการเรยี นรสู้ ่กู ารบรู ณาการ - 7. การจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน 1. ขนั้ สรา้ งแรงจูงใจ 1. ครูนำเขา้ สบู่ ทเรียนโดยถามนกั เรียนถึงประเด็นทว่ี ่า นกั เรยี นคิดวา่ การสร้างประโยชนจ์ ากผลงานคืออะไร และสามารถทำไดด้ ้วยวธิ ใี ดบ้าง 2. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันอภปิ รายและตอบคำถามในประเด็นดงั กล่าว 2. ข้นั การเรียนรู้ 1. ครูอธบิ ายการสรา้ งประโยชนจ์ ากผลงาน เปน็ การพัฒนาผลงานทัง้ ที่เปน็ ชิ้นงาน (ผลติ ภณั ฑ)์ หรือ ที่เป็นวิธีการในการแก้ปัญหา ศึกษา ค้นคว้า วิจัยและพัฒนา คิดสร้างสรรค์ โดยบูรณาการความรู้ทาง วิทยาศาสตร์รว่ มกบั ศาสตร์ตา่ ง ๆ เพื่อให้ผลงานมีมูลค่าเพมิ่ ขึน้ คำวา่ “มูลคา่ ” นอกจากจะหมายถึงราคาของ สิ่งของนั้นแลว้ ในทางการตลาดยังหมายถึงคุณคา่ ทางจติ ใจท่ไี ดจ้ ากการประเมนิ ค่าสิ่งใดสิ่งหนึง่ หากผลงานที่ พัฒนาขน้ึ นัน้ มคี วามแปลกใหม่ และไม่เคยมผี ู้ใดคิดทำมาก่อน ผู้สร้างก็จะได้ผลงานใหม่ที่เรียกว่านวัตกรรรม ซึ่งเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของผู้สร้าง และได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย นอกจากนี้ยังสามารถสร้าง ประโยชน์ด้วยการนำเสนอผลงานต่อสาธารณะเพ่อื พฒั นาตอ่ ยอดผลงานในเชิงพาณิชย์ หรือเพ่อื การประกอบ อาชีพในอนาคต การสร้างประโยชน์จากผลงานเป็นการประยุกต์ใช้ความคิดสรา้ งสรรค์เพ่ือตอ่ ยอดหรือพัฒนา ผลงานซึ่งทำได้ในสองแนวทาง ได้แก่ การสร้างสรรค์ผลงานโดยผู้สร้างตั้งแต่แรกเริม่ และการพัฒนาตอ่ ยอด ผลงานของผู้อื่นโดยอ้างองิ ผลงานนั้นอย่างชดั เจน แนวทางการสร้างประโยชน์จากผลงานสามารถทำได้ด้วย วิธกี ารเพ่มิ มลู คา่ และการสรา้ งมูลค่าใหก้ ับผลงาน ซง่ึ มูลค่าน้นั สามารถเปน็ ไดท้ งั้ ท่ีเป็นราคาและเปน็ มูลค่าทาง จติ ใจ 2. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม (อาจเป็นกลุ่มเดิม หรือ กลุ่มใหม่ก็ได้) สืบค้นข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ใน หวั ขอ้ วธิ ีการสร้างประโยชนจ์ ากผลงาน โดยทำส่ือการนำเสนอเปน็ my mapping 3. ครูให้นำเสนองานและร่วมกนั อภิปราย 3. ขน้ั สรปุ องค์ความรู้ 1. ครูและนักเรยี นสรุปรว่ มกนั การสรา้ งประโชน์อาจสร้างรายไดใ้ หก้ ับเจา้ ของผลงาน แตก่ อ็ าจตอ้ งใช้ งบประมาณในการลงทุน ผู้สร้างจึงต้องคำนึงถึงต้นทุนการผลิต มองหาช่องทางในการหาเงินลงทุน คำนวน จุดคุ้มทุนและผลตอบแทนที่จะได้รับ หาช่องทางจำหน่าย และที่สำคัญ เมื่อมีรายได้จากการประกอบธรุ กจิ แล้ว ต้องมกี ารชำระภาษี เพ่อื พฒั นาประเทศด้วย

8. ส่อื การเรยี นรู้/แหล่งเรียนรู้ 1. Power point เร่อื ง การสรา้ งประโยชนจ์ ากผลงาน 2. เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เนต็ 9. การวัดและประเมินผล จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ชนิ้ งาน/ วิธีการประเมนิ เครอื่ งมือ ผปู้ ระเมิน เกณฑ์ ส่ตู ัวชี้วดั ภาระงาน การประเมิน ประเมนิ ตรวจใหค้ ะแนน 1.อธิบายความหมาย my ระดับคณุ ภาพ ครู ระดับ 2 ขัน้ ไป ของการสร้าง mapping ประโยชนจ์ ากผลงาน ประโยชน์จาก ได้ ผลงาน การแปลความหมาย ระดบั 4 หมายถึง มรี ะดบั คุณภาพดมี าก ระดับ 3 หมายถงึ มรี ะดบั คณุ ภาพดี ระดบั 2 หมายถงึ มรี ะดบั คุณภาพพอใช้ ระดับ 1 หมายถึง มรี ะดบั คุณภาพปรับปรุง 10. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน 10.1 สรปุ ผลการเรียนการสอน 10.1 นักเรียนจำนวน................................คน ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้...............คน คิดเปน็ ร้อยละ................................. ไมผ่ า่ นจุดประสงค.์ ...........................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ................................. ไดแ้ ก่ .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... 10.2 ปัญหา/อปุ สรรค (ผลการประเมนิ ท่ีไม่เปน็ ไปตามจุดประสงคส์ ู่ตัวชวี้ ัด คุณลักษณะหรือสมรรถนะ ของผู้เรียน) ............................................................................................................................................................................ ...................................................................................................................................................................... 10.3 แนวทางแก้ไข /แนวทางการพฒั นา (แนวทางการแก้ปญั หา/พัฒนานกั เรยี นให้ได้ ตามตวั ชี้วดั คณุ ลักษณะ หรือสมรรถนะของผเู้ รียน) ......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................... ลงช่ือ................................................................. (นายภมุ รนิ ยมหา)

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 17 เร่อื ง สทิ ธแิ ละการคุ้มครองผลงาน รหัสวิชา ว 31103 รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ ม.5/3 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2563 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 เรอ่ื ง การสร้างประโยชน์จากผลงาน เวลา 50 นาที วนั ท่ี 9 มีนาคม 2564 ครผู ู้สอน นายภมุ ริน ยมหา 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์และ ศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือ พัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่าง เหมาะสม โดยคำนึงถงึ ผลกระทบต่อชีวิต สังคม และสิง่ แวดล้อม ตัวชว้ี ัด/ผลการเรยี นรู้ ว. 4.1 ม.5/1 วิเคราะห์แนวคิดหลักของเทคโนโลยี ความสัมพันธ์กับศาสตร์อื่น โดยเฉพาะ วิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์ รวมทั้งประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อมนุษย์ สังคม เศรษฐกิจ และ ส่งิ แวดลอ้ ม เพ่อื เป็นแนวทางในการพฒั นาเทคโนโลยี 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวช้ีวดั 1. นักเรียนสามารถอธิบายความหมายของสิทธแิ ละการคมุ้ ครองผลงานได้ 3. สาระสำคญั การสรา้ งประโยชน์จากผลงาน เปน็ การพัฒนาผลงานทั้งที่เปน็ ชนิ้ งาน (ผลติ ภณั ฑ์) หรือท่ีเป็นวิธีการ ในการแก้ปญั หา ศกึ ษา คน้ ควา้ วจิ ยั และพฒั นา คิดสร้างสรรค์ โดยบูรณาการความรูท้ างวิทยาศาสตร์ร่วมกับ ศาสตร์ต่าง ๆ เพื่อให้ผลงานมีมูลค่าเพิ่มขึ้น คำาว่า “มูลค่า” นอกจากจะหมายถึงราคาของสิ่งของนั้นแล้ว ในทางการตลาดยังหมายถงึ คุณค่าทางจิตใจที่ได้จากการประเมินค่าสงิ่ ใดสงิ่ หน่งึ หากผลงานท่ีพัฒนาข้ึนนั้นมี ความแปลกใหม่ และไม่เคยมีผู้ใดคิดทำามาก่อน ผู้สร้างก็จะได้ผลงานใหม่ที่เรียกว่านวัตกรรรมซึ่งเป็น ทรัพย์สินทางปัญญาของผู้สร้าง และได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย นอกจากนี้ยังสามารถสร้างประโยชน์ ด้วยการนำาเสนอผลงานตอ่ สาธารณะเพื่อพฒั นาต่อยอดผลงานในเชิงพาณิชย์ หรอื เพอ่ื การประกอบอาชีพใน อนาคต 4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น (ให้เลือกเขียนเฉพาะหวั ข้อท่สี อดคลอ้ งกับกจิ กรรมการเรียนในแต่ละหน่วย และต้องประเมินได้จริง) 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร

2. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. สาระการเรียนรู้ 5.1 ความรู้ (K) - นกั เรียนสามารถอธิบายความหมายของสิทธิและการคุ้มครองผลงานได้ 5.2 ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด (P) - นกั เรียนสามารถใช้ความคิดเชิงสร้างสรรค์ในการสร้างประโยชนจ์ ากผลงานได้ 5.3 คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A) - นกั เรียนมคี วามกระตือรือร้นในการเรียน 6. สาระการเรยี นร้สู ู่การบูรณาการ - 7. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน 1. ข้ันสร้างแรงจงู ใจ 1. ครูนำเข้าสบู่ ทเรยี นโดยถามนกั เรยี นถึงประเดน็ ทวี่ า่ นกั เรยี นคิดว่าการจดทะเบยี นคมุ้ ครองผลงานกบั การ ไม่จดทะเบยี นคุ้มครองผลงาน มีขอ้ ดีและขอ้ จำกัดอย่างไร 2. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั อภปิ รายและตอบคำถามในประเดน็ ดงั กลา่ ว 2. ข้นั การเรียนรู้ 1. ครูอธบิ ายการคมุ้ ครองผลงานต่าง ๆ ซ่ึงจดั เปน็ ทรพั ยส์ นิ ทางปญั ญาของผู้สรา้ งด้วย กรมทรัพย์สิน ทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ จัดทรัพย์สินทางปัญญาเป็น 2 ประเภท คือ ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรม (Industrial Property) และลิขสิทธิ์ (Copyright) การคุ้มครองจะมีผลตามกฏหมายก็ต่อเมื่อ ผู้สร้างนำ ผลงานน้นั ไปจดทะเบยี นคมุ้ ครองกับกรมทรพั ย์สินทางปญั ญา กระทรวงพาณิชย์ ยกเว้นผลงานที่เป็นลิขสิทธิ์ จะไดร้ ับการคุม้ ครองทนั ทที มี่ ีผู้สร้างผลงานนน้ั เรียบร้อยแล้ว โดยไมต่ ้องไปจดทะเบียนค้มุ ครอง 2. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม สืบค้นข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ในหัวข้อทรัพย์สินทางอุตสาหกรรม (Industrial Property) และลขิ สิทธ์ิ (Copyright) และให้นักเรียนในกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์ว่าผลงานของกลุ่ม นักเรียนเป็นทรัพย์สินทางปัญญาหรือไม่ เพราะเหตุใด และเป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทใด 3. ครูให้นำเสนองานและร่วมกนั อภปิ ราย 3. ขน้ั สรุปองคค์ วามรู้ 1. ครูสรุปทรัพย์สินทางปัญญาเป็น 2 ประเภท คือ ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรม (Industrial Property) และลิขสทิ ธ์ิ (Copyright) ให้นกั เรียนเข้าใจ 8. สือ่ การเรียนรู้/แหลง่ เรียนรู้ 1. Power point เร่อื ง การสร้างประโยชน์จากผลงาน 2. เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ และอินเทอร์เนต็

9. การวัดและประเมนิ ผล จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ชิ้นงาน/ วิธกี ารประเมนิ เครื่องมือ ผปู้ ระเมิน เกณฑ์ ส่ตู ัวชี้วัด ภาระงาน การประเมิน ประเมนิ ตรวจให้คะแนน 1.อธบิ ายความหมาย วิเคราะห์ว่า ระดบั คณุ ภาพ ครู ระดบั 2 ขัน้ ไป ของสทิ ธแิ ละการ ผลงาน คมุ้ ครองผลงานได้ การแปลความหมาย ระดบั 4 หมายถึง มรี ะดับคุณภาพดมี าก ระดบั 3 หมายถงึ มรี ะดบั คุณภาพดี ระดับ 2 หมายถงึ มรี ะดบั คุณภาพพอใช้ ระดบั 1 หมายถงึ มรี ะดับคุณภาพปรับปรุง 10. บันทึกผลหลงั การสอน 10.1 สรปุ ผลการเรียนการสอน 10.1 นักเรยี นจำนวน................................คน ผ่านจุดประสงคก์ ารเรียนรู้...............คน คดิ เป็นร้อยละ................................. ไม่ผา่ นจุดประสงค์............................คน คิดเป็นรอ้ ยละ................................. ได้แก่ .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... 10.2 ปญั หา/อปุ สรรค (ผลการประเมินทีไ่ ม่เป็นไปตามจุดประสงคส์ ่ตู ัวชี้วัด คุณลกั ษณะหรือสมรรถนะ ของผเู้ รยี น) ............................................................................................................................................................................ ...................................................................................................................................................................... 10.3 แนวทางแกไ้ ข /แนวทางการพัฒนา (แนวทางการแก้ปัญหา/พฒั นานกั เรยี นให้ได้ ตามตัวชี้วัด คณุ ลักษณะ หรือสมรรถนะของผูเ้ รยี น) ......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ................................................................. (นายภุมริน ยมหา) ตำแหน่ง ครูผชู้ ว่ ย

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 18 เรือ่ ง การนำเสนอผลงานอย่างมอื อาชพี รหัสวชิ า ว 31103 รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ม.5/3 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 เร่อื ง การสร้างประโยชน์จากผลงาน เวลา 50 นาที วนั ที่ 16 มนี าคม 2564 ครผู ู้สอน นายภุมรนิ ยมหา 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์และ ศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือ พัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่าง เหมาะสม โดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบตอ่ ชวี ติ สังคม และสงิ่ แวดล้อม ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ ว. 4.1 ม.5/1 วิเคราะห์แนวคิดหลักของเทคโนโลยี ความสัมพันธ์กับศาสตร์อื่น โดยเฉพาะ วิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์ รวมทั้งประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อมนุษย์ สังคม เศรษฐกิจ และ สิง่ แวดล้อม เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาเทคโนโลยี 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรสู้ ่ตู วั ช้วี ดั 1. นักเรยี นสามารถอธิบายความหมายของการนำเสนอผลงาน 3. สาระสำคัญ การสร้างประโยชนจ์ ากผลงาน เป็นการพฒั นาผลงานทัง้ ท่ีเป็นชิ้นงาน (ผลติ ภณั ฑ์) หรือท่ีเป็นวิธีการ ในการแกป้ ัญหา ศึกษา คน้ คว้า วิจยั และพัฒนา คดิ สรา้ งสรรค์ โดยบูรณาการความรูท้ างวิทยาศาสตร์ร่วมกับ ศาสตร์ต่าง ๆ เพื่อให้ผลงานมีมูลค่าเพิ่มขึ้น คำาว่า “มูลค่า” นอกจากจะหมายถึงราคาของสิ่งของนั้นแล้ว ในทางการตลาดยังหมายถงึ คุณค่าทางจิตใจที่ได้จากการประเมนิ ค่าสงิ่ ใดสิ่งหนึ่ง หากผลงานท่ีพัฒนาขึ้นน้ันมี ความแปลกใหม่ และไม่เคยมีผู้ใดคิดทำามาก่อน ผู้สร้างก็จะได้ผลงานใหม่ที่เรียกว่านวัตกรรรมซึ่งเป็น ทรัพย์สินทางปัญญาของผู้สร้าง และได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย นอกจากน้ียังสามารถสร้างประโยชน์ ด้วยการนำาเสนอผลงานตอ่ สาธารณะเพ่ือพฒั นาต่อยอดผลงานในเชิงพาณิชย์ หรอื เพือ่ การประกอบอาชีพใน อนาคต 4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น (ให้เลือกเขยี นเฉพาะหัวข้อท่ีสอดคลอ้ งกบั กิจกรรมการเรียนในแต่ละหน่วย และตอ้ งประเมินได้จริง) 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. สาระการเรียนรู้ 5.1 ความรู้ (K) - นักเรียนสามารถอธบิ ายความหมายของการนำเสนอผลงาน 5.2 ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ (P) - นักเรียนสามารถใช้ความคิดเชงิ สรา้ งสรรค์ในการนำเสนอผลงาน 5.3 คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) - นักเรยี นมีความกระตอื รือร้นในการเรียน 6. สาระการเรยี นรู้สูก่ ารบูรณาการ - 7. การจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน 1. ขัน้ สร้างแรงจงู ใจ 1. ครูนำเขา้ สู่บทเรยี นโดยถามนกั เรยี นถึงประเด็นทวี่ ่า การนำเสนอผลงานโดยท่วั ไปตอ้ งคำนึงถงึ ปจั จัยใดบ้าง 2. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั อภิปรายและตอบคำถามในประเดน็ ดงั กล่าว 2. ขน้ั การเรียนรู้ 1. ครูอธบิ ายการนำเสนอผลงานโดยทัว่ ไปตอ้ งคำนึงถงึ ปจั จัยทส่ี ำคัญ 3 ประการ คือ 1. ผูน้ ำเสนอ 2. เนือ้ หา 3. ผ้ฟู ัง การนำเสนอผลงานของนกั เรียนนอกจากเผยแพร่ใหส้ าธารณชนทัว่ ไปแลว้ ยังมี วตั ถุประสงคเ์ พอ่ื “เสนอขายแนวคดิ ” หรอื “Pitching” ซึ่งหมายถงึ การนำเสนอให้กับผูฟ้ ังเฉพาะกลมุ่ ใน ชว่ งเวลาทจี่ ำกัด เพ่อื ประโยชนใ์ นการเขา้ ถึงแหลง่ เงนิ ทุนสำหรับประกอบธรุ กิจ หรอื โนม้ นา้ วผฟู้ งั ใหซ้ ื้อผลงาน ไปผลติ ในเชงิ พาณชิ ย์ 2. ครูใหน้ กั เรียนแบง่ กลุม่ ใหน้ กั เรยี นใชห้ ลกั การนำเสนอผลงาน ผลงานกลุ่มของนกั เรยี น ให้มีความ น่าสนใจและโน้มนา้ วใหผ้ ชู้ มใหซ้ ื้อผลงานของนักเรียน 3. ครูและนกั เรียนร่วมกนั อภปิ รายการนำเสนอผลงานแตล่ ะกลุ่มเปน็ อยา่ งไรน่าสนใจหรือไม่ 3. ขั้นสรปุ องค์ความรู้ 1. ครูสรุปการนำเสนอของนักเรียนแต่ละกลุ่มและให้คำเสนอแนะว่าทำอย่างไรถงึ น่าสนใจเพิ่มมาก ขนึ้ 8. สอ่ื การเรยี นรู้/แหล่งเรยี นรู้ 1. เครอื่ งคอมพิวเตอร์ และอนิ เทอร์เน็ต

9. การวัดและประเมนิ ผล จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ชิ้นงาน/ วธิ ีการประเมิน เครื่องมอื ผปู้ ระเมิน เกณฑ์ สู่ตัวชวี้ ดั ภาระงาน การประเมิน ประเมนิ ตรวจใหค้ ะแนน 1.อธบิ ายความหมาย นำเสนอ ระดบั คุณภาพ ครู ระดบั 2 ขน้ั ไป ของการนำเสนอ ผลงาน ผลงาน การแปลความหมาย ระดบั 4 หมายถึง มรี ะดบั คุณภาพดมี าก ระดบั 3 หมายถงึ มรี ะดับคณุ ภาพดี ระดับ 2 หมายถึง มรี ะดับคุณภาพพอใช้ ระดับ 1 หมายถงึ มีระดับคุณภาพปรบั ปรงุ 10. บนั ทกึ ผลหลังการสอน 10.1 สรปุ ผลการเรียนการสอน 10.1 นักเรียนจำนวน................................คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู้...............คน คิดเปน็ ร้อยละ................................. ไม่ผา่ นจุดประสงค.์ ...........................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ................................. ได้แก่ .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... 10.2 ปญั หา/อปุ สรรค (ผลการประเมนิ ที่ไม่เป็นไปตามจุดประสงคส์ ่ตู ัวชวี้ ัด คุณลกั ษณะหรือสมรรถนะ ของผเู้ รยี น) ............................................................................................................................................................................ ...................................................................................................................................................................... 10.3 แนวทางแกไ้ ข /แนวทางการพฒั นา (แนวทางการแกป้ ัญหา/พัฒนานกั เรยี นให้ได้ ตามตวั ชีว้ ดั คุณลักษณะ หรอื สมรรถนะของผเู้ รยี น) ......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ................................................................. (นายภุมริน ยมหา) ตำแหน่ง ครูผ้ชู ว่ ย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook