Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบสอบถามความพึงพอใจในการใช้ห้องสมุด

แบบสอบถามความพึงพอใจในการใช้ห้องสมุด

Published by Ggoy, 2019-09-12 05:58:17

Description: แบบสอบถามความพึงพอใจในการใช้ห้องสมุด

Search

Read the Text Version

โปรแกรมสำเร็จรปู ทำงสถิติเพ่ือกำรวิจยั แบบสอบถามความพึงพอใจในการใชบ้ ริการ หอ้ งสมุดวิทยาลยั เทคนิคปทุมธานี ของนกั เรียน-นกั ศึกษา สาขาวิชาคอมพิวเตอรธ์ ุรกิจ ประจาปีการศึกษา 2562

การศกึ ษาความพงึ พอใจการใชบ้ รกิ ารหอ้ งสมุดวทิ ยาลัยเทคนคิ ปทุมธานี ของ นักเรียน-นกั ศึกษา แผนกคอมพวิ เตอร์ธรุ กจิ นางสาว ธณฐั ชา การะเกตุ รหสั ประจาตัว 6132040035 นางสาว กรรภริ มย์ แกว้ คา รหัสประจาตัว 6132040057 การวจิ ัยคร้ังน้เี ปน็ ส่วนหนง่ึ ของวิชาโปรแกรมสาเร็จรปู ทางสถิตเิ พอื่ การวิจัย รหสั วชิ า 3204-2104 แผนกคอมพิวเตอรธ์ ุรกจิ วิทยาลัยเทคนิคปทมุ ธานี สานักอาชีวะศกึ ษา

กติ ตกิ รรมประกาศ การศึกษาค้นคว้าอิสระเล่มนี้สามารถสาเร็จลุล่วงได้ด้วยความอนุเคราะห์และความกรุณา อย่างสงู จากอาจารย์วลิ าวัลย์ วัชโรทยั ท่ไี ด้สละเวลาใหก้ ารใหค้ าปรึกษาตรวจสอบแก้ไขขอ้ บกพร่อง ต่างๆ อันเป็นประโยชน์เพ่ือการศึกษาค้นคว้าอิสระในครั้งนี้ ให้มีความสมบูรณ์จึงขอบพระคุณเปน็ อย่างสูงมา ณ โอกาสนี้ขอขอบพระคุณอาจารย์ท่ีช่วยประสิทธิ์ประสาทความรู้และถ่ายทอด ประสบการณอ์ นั มีค่าขอขอบคุณเจ้าของเอกสารบทความตาราหนังสือทุกท่านที่ใช้ในการสบื คน้ ข้อมูล ที่ไม่ได้กลา่ วนามไว้ ณ ท่ีนี้ ขอขอบคุณเพื่อนประกาศนยี บตั รวิชาชีพช้ันสงู ทุกท่านท่ีคอยให้กาลังใจ ให้คาปรึกษาและช่วยเหลือกันมาโดยตลอดระยะเวลาท่ีศึกษาร่วมกันมา ขอขอบคุณผู้ตอบ แบบสอบถามที่ได้ให้ความร่วมมือในการทาแบบสอบถามจนทาให้การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้สาเร็จ ลลุ ว่ ง ขอกราบขอบพระคุณบดิ ามารดาและครอบครวั ท่ีใหก้ าลังใจและสง่ เสริมสนบั สนุนการศึกษามา โดยตลอดคุณค่าและประโยชน์จากการค้นคว้าอนั พึ่งมขี องวิทยานพิ นธ์ฉบับน้ีขอมอบทดแทนบญุ คณุ ค่าต่อบดิ ามารดาและครูอาจารยท์ ุกทา่ นทไี่ ดอ้ บรมสง่ั สอนศิษย์มาตลอดการศึกษาตลอดจนผมู้ ีพระคณุ ทุกทา่ น คณะผจู้ ัดทา นางสาว ธณัฐชา การะเกตุ นางสาว กรรภิรมย์ แกว้ คา

หัวขอ้ งานวจิ ัย แบบสารวจความพงึ พอใจการใช้บรกิ ารหอ้ งสมุดวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ของนักศกึ ษาสาขาวิชา คอมพิวเตอรธ์ รุ กิจ ประจาปกี ารศึกษา 2562 คณะผวู้ จิ ัย นางสาว กรรภริ มย์ แกว้ คา นางสาว ธณฐั ชา การะเกตุ สาขางานวิชา พณชิ ยการ สาขางาน คอมพิวเตอร์ธุรกิจ ที่ปรกึ ษางานวิจัย นางวลิ าวลั ย์ วัชโรทยั ปกี ารศึกษา 2562 บทคดั ยอ่ ก า ร ศึ ก ษ า วิ จั ย น้ี มี วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค์ เ พ่ื อ ศึ ก ษ า ค ว า ม พึ ง พ อ ใ จ ใ น ก า ร ใ ช้ บ ริ ก า ร ห้ อ ง ส มุ ด วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ คือ นักเรียน-นักศึกษา แผนกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยเทคนิคปทมุ ธานี ที่เข้าใช้บริการหอ้ งสมดุ วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี จานวน 271 คน โดยใช้ แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลสถิติท่ีใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าร้อยละ, คา่ เฉล่ียและส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐานสถติ ิ ผลการวิจัยพบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพงึ พอใจในการใชบ้ ริการห้องสมุด ของนักเรยี น นักศึกษาแผนกคอมพิวเตอร์ธรุ กิจ อยใู่ นระดบั มาก (ค่าเฉลีย่ = 3.73 และสว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน = 0.56) เม่ือแยกตามรายดา้ นจะพบว่า ด้านทางส่ิงแวดล้อมทางกายภาพ ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (คา่ เฉล่ีย = 3.51 และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน = 0.58) เมือ่ แยกตามรายการประเมินดังน้ี ห้องสมดุ มี จานวนโต๊ะ และเก้าอี้ เพียงพอสาหรับการใช้บริการ อยู่ในระดับมาก (ค่าเฉล่ีย=3.76 และส่วน เบยี่ งเบนมาตรฐาน=0.91) รองลงมา หอ้ งสมดุ สะอาด เปน็ ระเบียบ มีความน่าสนใจในการคน้ ควา้ อยู่ ในระดับ มาก (คา่ เฉล่ยี = 3.71และสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน =0.99 ) รองลงมา บรรยากาศในหอ้ งสมดุ เอื้อต่อการนั่งอ่าน ค้นคว้า ไม่เสียงดังอยู่ในระดับ ปานกลาง (ค่าเฉลี่ย = 2.30และส่วนเบ่ียงเบน มาตรฐาน = 0.83) และ ห้องสมุดจัดตู้เอกสาร ช้ันวางหนังสือ วารสาร ไว้ท่ีเหมาะสม อยู่ในระดับ ปานกลาง (ค่าเฉลี่ย =3.28 และสว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน = 0.78)

ด้านทรัพยากรสารสนเทศมีจานวนเพียงพอ เหมาะสม หลากหลาย ทันสมัยต่อการศึกษา คน้ คว้า ผูต้ อบแบบสอบถามมีความพงึ พอใจอยูใ่ นระดับปานกลาง (ค่าเฉลีย่ = 3.48และสว่ นเบยี่ งเบน มาตรฐาน=1.00) เม่ือแยกตามรายการประเมินดังนี้ หนังสือภาษาไทยอยู่ในระดับ มาก (ค่าเฉลี่ย =3.93 และสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน =0.63) รองลงมา จุลสาร/ขา่ วสาร อยู่ในระดบั มาก (ค่าเฉลยี่ = 3.79และส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน =0.87) รองลงมา หนังสือพมิ พ์ อยใู่ นระดบั มาก (ค่าเฉล่ีย = 3.73 และสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน = 0.86) รองลงมา โสตทัศนวัสดุ ( CD-ROM , VCD , VDO , DVD ) อยู่ ในระดับ มาก (คา่ เฉล่ีย = 3.66 และสว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน = 0.76) รองลงมา วารสารวชิ าการ อยู่ ในระดบั มาก (ค่าเฉลี่ย = 3.65 และส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน = 0.89) รองลงมา คอมพวิ เตอรแ์ ละอิน เทอรใ์ นการใช้บรกิ าร อยใู่ นระดบั ปานกลาง (ค่าเฉล่ีย = 3.46 และส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน = 0.88) รองลงมา วารสาร/นิตยาสาร บันเทิง อยู่ในระดับ ปานกลาง (ค่าเฉล่ีย = 3.38 และส่วนเบ่ียงเบน มาตรฐาน =1.11) รองลงมา หนังสืออ้างอิง (พจนานุกรม สารานุกรม) อยู่ในระดับ ปานกลาง (ค่าเฉล่ีย = 3.16 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน =1.13) และหนังสือภาษาต่างประเทศ อยู่ในระดับ ปานกลาง (ค่าเฉล่ีย = 3.12และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน = 1.18) ด้านขอ้ เสนอการจัดการห้องสมุดยุคใหม่ (Modern Library) เพื่อการพัฒนาให้เปน็ ห้องสมุด ท่ีมีชีวิต (Living library) ผู้ตอบแบบสอบถามมคี วามพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 3.57และ สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน=0.59) เม่ือแยกตามรายการประเมนิ ดงั น้ี มีเทคโนโลยีสารสนเทศการจัดการ ห้องสมุดทเี่ อ้ือตอ่ เจ้าหนา้ ที่และการให้บริการ อยู่ในระดับ มาก (ค่าเฉลยี่ = 4.03 และส่วนเบย่ี งเบน มาตรฐาน =0.96 ) รองลงมา E-journal วารสารอเิ ล็กทรอนิกสอ์ อนไลน์ อยใู่ นระดับ มาก (คา่ เฉลี่ย = 3.78 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน =0.98 ) รองลงมา มี E-book หนังสอื อเิ ล็กทรอนกิ สอ์ อนไลน์อยใู่ น ระดับ ปานกลาง (ค่าเฉล่ีย = 3.56 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0..84) รองลองมา มีการจัด กิจกรรมรักการอา่ นเพอ่ื สง่ เสริมการอ่านและมกี ารใหร้ างวลั เปน็ ประจา อยใู่ นระดบั มาก (คา่ เฉลยี่ = 3.54 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.79 ) รองลงมา มีคอมพิวเตอร์ มากกว่า 1 เครื่องที่ใช้แลว้ สืบค้นข้อมูลท่ีต้องการ ไว้ให้บริการ อยู่ในระดับ ปานกลาง (ค่าเฉล่ีย = 3.43และส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน =0.78) มี Data-base ฐานข้อมูลออนไลน์ทางด้านการแพทย์และการพยาบาล อยู่ใน ระดับ ปานกลาง (ค่าเฉล่ีย = 3.40 และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน =0.78) รองลงมา มีการจัดมุม นิทรรศการต่างๆอยู่ในระดับ ปานกลาง (ค่าเฉลี่ย = 3.41 และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน = 0.82) และ มีตู้รับคืนหนังสือนอกเวลา และนอกห้องสมุด อยู่ในระดับ ปานกลาง (ค่าเฉลี่ย = 3.41 และ สว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน = 0.82) คาสาคัญ : หอ้ งสมุด,ความพึงพอใจ,ผู้ตอบแบบสอบถาม,วทิ ยาลยั เทคนคิ ปทุมธานี

สารบญั หน้า กิตติกรรมประกาศ (ก) บทคดั ยอ่ (ข) สารบญั (ค) สารบัญตาราง (ง) บทที่ 1 บทนา ความสาคญั และท่มี าของปัญหา……………………………………………………………………………… 1 วัตถปุ ระสงค์ของการวิจัย………………………………………………………………………………………. 2 ขอบเขตของ………………………………………………………………………………………………………… 1 นยิ ามศพั ท์…………………………………………………………………………...……………………………… 2 บทท่ี 2 ทฤษฎแี ละงานวจิ ัยทเ่ี ก่ยี วข้อง ความพงึ พอใจ……………………………………………………………………….……….……………………. .3 การบรกิ าร 3 หอ้ งสมดุ ..............……………………………………………………………………….………………… …… 4 วทิ ยาลยั เทคนิคปทมุ ธานี …………………………………………………………………….………………. .5 งานวิจยั ท่เี กีย่ วขอ้ ง………………………………………………………………………………….……………. 8 บทท่ี 3 การดาเนนิ การวจิ ยั ประชากรและกลุ่มตวั อย่าง……………………………………………………………………………………. 9 เครอ่ื งมอื ท่ีใชใ้ นการศกึ ษา 9 การสรา้ งและการทดสอบเครื่องมอื 10

สารบัญ(ต่อ) หนา้ 11 วิธีการเก็บรวบรวมขอ้ มลู 11 การวเิ คราะห์ข้อมูล…………………………………………………………………………….. บทท่ี 4 การวเิ คราะหข์ อ้ มูล 13 การวิเคราะห์ข้อมูลเกย่ี วกบั สถานภาพของผูต้ อบแบบสอบถาม…………………………… … 16 การวเิ คราะหข์ ้อมลู เกีย่ วกับการสารวจการใชบ้ ริการหอ้ งสมดุ วิทยาลัยเทคนคิ ปทมุ ธานี บทท่ี 5 สรปุ ผลการวจิ ัยอภิปรายและขอ้ เสนอแนะ .20 วตั ถุประสงค์ของการวิจยั ………………………………………………………………………………..… 20 ประชากรและกลุ่มตวั อยา่ ง…………………………………………………………………………..…… 20 เครอื่ งมือทีใ่ ชใ้ นการวิจัย…………………………………………………………………………………….. 20 การวิเคราะห์ขอ้ มลู …………………………………………………………………………………………… 21 ผลการวจิ ัย……………………………………………………………………………………………………….. 21 อภิปรายผล………………………………………………………………………………………………………. 21 ขอ้ เสนอแนะ…………………………………………………………………………………………………….. 22 บรรณานกุ รม………………………………………………………………………………………………………………… 23 ภาคผนวก ก ประวตั ผิ ู้เขียน………………………………………………………………………………………….. . 26 ภาคผนวก ข แบบสอบถามเพื่อการวจิ ยั ………………………………………………………………………….. 31 ภาคผนวก ค ผลการวเิ คราะห์ PSPP………………………………………………..…………………………….. 32 ภาคผนวก ฅ รปู ภาพอ้างอิง…………………………………………………………………………………………...

สารบญั ตาราง ตารางที่ หน้า ตารางท่ี4.1 ข้อมูลเกี่ยวกบั การใชบ้ ริการห้องสมุดแยกตามเพศ……………………………………13 ตารางที่4.2 ข้อมลู เกี่ยวกบั การใช้บริการหอ้ งสมุดแยกตามอายุ……………………………………14 ตารางที่4.3 ข้อมลู เกย่ี วกบั การใชบ้ รกิ ารหอ้ งสมุดแยกตามดระดบั ชั้น 14 ตารางที่4.4 ข้อมูลเก่ยี วกบั การใช้บรกิ ารห้องสมดุ แยกตามสาขาวิชา 16 ตารางท่ี4.5 ขอ้ มลู เกี่ยวกบั การใช้บรกิ ารหอ้ งสมดุ แยกตามดา้ นสง่ิ แวดล้องทางกายภาพ 16 ตารางท4่ี .6 ขอ้ มูลเกยี่ วกับการใช้บรกิ ารหอ้ งสมดุ แยกตามดา้ นสิ่งแวดล้องทางกายภาพ 16 ตารางที่4.7 ข้อมูลเก่ียวกับการใช้บริการห้องสมดุ แยกตามด้านข้อเสนอการจัดการห้องสมดุ ยุคใหม่ เพ่อื พัฒนาให้เป็นห้องสมุดทมี่ ชี วี ติ 18 ตารางท4่ี .8 ข้อมลู เกยี่ วกบั การใชบ้ รกิ ารห้องสมดุ รวมปัจจัยทั้งหมด 19

บทที่ 1 บทนา 1.1ความเป็นมาและความสาคัญของปัญหา ห้องสมุดคอื แหลง่ รวบรวมทรัพยากรสารสนเทศทกุ ประเภททงั้ ทเ่ี ปน็ วสั ดตุ ีพิมพ์ วสั ดุไมต่ ีพิมพ์และ สื่ออเิ ลก็ ทรอนกิ สม์ ีการคดั เลือกและจดั หาเขา้ มาอย่างทันสมยั สอดคล้องกบั ความตอ้ งการและความสนใจของ ผใู้ ช้มีบรรณารกั ษเ์ ป็นผู้ดาเนนิ งานและจดั บรกิ ารตา่ งๆเป็นระบบความสาคัญของหอ้ งสมดุ การศึกษาในปัจจุบันมุ่งใหผ้ เู้ รยี นมีโอกาสค้นควา้ หาความรูจ้ ากแหลง่ เรียนรูอ้ ่นื ๆมาประกอบความรู้ทไี่ ดร้ บั จาก การเรยี นในช้ันผูเ้ รียนจะตอ้ งหาความรเู้ พ่ิมเตมิ โดยการเข้าใชห้ อ้ งสมดุ เพอื่ คน้ ควา้ หาความรเู้ พม่ิ ขน้ึ ความสาคัญ มดี ังนี้ 1.ห้องสมดุ เป็นทรี่ วมของทรัพยากรสารสนเทศตา่ งๆทผ่ี ใู้ ช้สามารคน้ ควา้ หาความรทู้ ุกสาขาวิชาทมี่ กี ารเรยี น การสอนในสถาบันการศึกษานั้น 2.หอ้ งสมุดเปน็ ทที่ ีท่ ุกคนจะเลือกอา่ นหนงั สือและค้นคว้าหาความรู้ตา่ งๆได้โดยอสิ ระตามความสนใจของแต่ละ บุคคล 3. ห้องสมุดชว่ ยใหผ้ ู้ใชห้ อ้ งสมดุ พอใจทจ่ี ะอา่ นหนงั สอื ต่างๆโดยไม่รจู้ ักจบสิน้ เป็นการช่วยปลกู ฝังนสิ ัยรกั การ อ่าน 4.ช่วยใหผ้ ้ใู ชห้ อ้ งสมดุ มีความรู้ทนั สมยั อยเู่ สมอ 5.ช่วยใหผ้ ู้ใชห้ อ้ งสมุดมีนสิ ยั รกั การค้นคว้าหาความรู้ดว้ ยตนเอง 6.ช่วยให้รู้จักใชเ้ วลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ 7. หอ้ งสมุดจะชว่ ยใหผ้ ใู้ ชห้ ้องสมุดรบั รใู้ นสมบัตสิ าธารณะ รจู้ ักใช้และระวงั รกั ษาอย่างถูกตอ้ ง ห้องสมุดวิทยาลัยเทคนคิ ปทมุ ธานี ต้ังอย๋เู ลขท่ี 79 หมู่ 5 ถนนติวานนท์ ตาบลบา้ นกลาง อาเภอเมอื ง จังหวัดปทธุ านี 12000 ซง่ึ มหี อ้ งสมุดอยู่ที่ อาคารเฉลมิ พระเกยี รติช้นั 2 เปิดโอกาสใหน้ ักเรยี น-นักศึกษาไดเ้ ข้า ไปใช้บรกิ ารอย่างเสรี ไดค้ ้นควา้ หาความรหู้ รอื เปน็ การทางานกลุ่มแลกเปลยี่ นความคิดเห็นซง่ึ กันและกัน—เปน็ การฝกึ ทกั ษะคนไทยให้มนี สิ ยั รกั การอา่ นมากขน้ึ ใชเ้ วลาวา่ งให้เกดิ ประโยชน์ จากทก่ี ลา่ วมาขา้ งต้นน้ี คณะผู้วิจัยซง่ึ เป็นสว่ นหน่งึ ของผู้ใชบ้ รกิ ารหอ้ งสมุด วิทยาลยั เทคนิคปทมุ ธานี- จึงมคี วามสนใจทจ่ี ะศึกษา-พฤตกิ รรมการใชห้ อ้ งสมุดของนกั เรียน-นักศกึ ษา-แผนกวชิ าคอมพิวเตอรธ์ ุรกจิ วทิ ยาลัยเทคนิคปทุมธานี ใหเ้ ป็นไปในแนวทางที่ดขี ้ึน 1.2 วัตถุประสงค์ เพ่อื ศึกษาความพงึ พอใจและความต้องการใชห้ ้องสมดุ วทิ ยาลัยเทคนิคปทุมธานี ของ เรียน-นักศึกษาแผนกวิชาคอมพิวเตอรธ์ รุ กจิ วทิ ยาลัยเทคนคิ ปทุมธานี 1.3 ขอบเขตการวจิ ยั การวจิ ัยน้เี ป็นการศึกษาพฤติกรรมการใชห้ ้องสมุด ของนกั เรยี น-นกั ศึกษา แผนกวิชา คอมพิวเตอรธ์ รุ กิจ ไดม้ ีประชากรจานวน

1.4 กรอบแนวคดิ การวจิ ัย ตวั แปรตาม ตวั แปรอสิ ระ ความพงึ พอใจในการใชบ้ รกิ ารโรงอาหาร ข้อมลู ทว่ั ไป 1. ด้านสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ 1. เพศ 2. ทรัพยากรสารสนเทศ 2. อายุ 3. ข้อเสนอการจดั การห้องสมุดยุคใหม่ 3. ระดับชั้น 4. สาขาวชิ า เพ่อื การพฒั นา ภาพท่1ี -1 กรอบแนวคดิ การวจิ ยั 1.5 นิยามศัพท์ นักเรียน หมายถึง นักเรียนที่ศึกษาในวิทยาลยั เทคนิคปทุมธานีระดบั ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และลงทะเบยี นเรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2562 นักศึกษา หมายถึงนักศึกษาท่ีอยู่ในวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และลงทะเบยี นเรยี นในภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2562 วทิ ยาลยั เทคนคิ ปทุมธานี หมายถึง สถาบนั การศึกชั้นนาของจังหวัดปทมุ ธานีที่เปิดสอนในสายวิชาชีพ ต้ังแต่ระดับช้ันประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) จนถึงระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง (ปวส.) โดยเป็น สถาบันการศกึ ษาในสงั กดั สานกั งานคณะกรรมการอาชีวศึกษา ความพึงพอใจในการใช้บริการห้องสมดุ หมายถึง การแสดงความรู้สึกในทางบวกต่อสง่ิ ทไี่ ด้รบั การ ตอบสนองความตอ้ งการหรอื ตามความคาดหวังของผู้ใชบ้ ริการหรอื มีความรูส้ ึกชอบพอใจ ที่ไดร้ บั ความรตู้ า่ งๆ บทที่2 แนวทางทฤษฎี และ งานวจิ ัยที่เก่ียวข้อง ในการวิจัยคร้ังน้ีผู้วิจัยได้ศึกษาเอกสารงานท่ีเกี่ยวข้องกับความพึงพอใจของนักเรียนนักศึกษาท่ีใช้ บรกิ ารห้องสมุดของวทิ ยาลัยเทคนิคปทมุ ธานแี ละเพอ่ื ใหท้ ราบถึงแนวคิดทฤษฎแี ละหลักการที่เก่ยี วขอ้ งกันการ คน้ คว้าวิจัยได้ศึกษาและจดั ลาตน้ เนื้อหาสาระทเ่ี กยี่ วขอ้ งดงั นี้

2.1. ความพงึ พอใจ 2.2.การบริหาร 2.3. ห้องสมดุ 2.4. วิทยาลยั เทคนิคปทุมธานี 2.5. งานวิจยั ท่ีเกีย่ วข้อง 2.1. ความพงึ พอใจ ดิเรก (2528) กล่าวว่า ความพึงพอใจ หมายถึง ทัศนคติทางบวกของบคุ คลทม่ี ีต่อสง่ิ ใดสิ่งหนึ่ง เปน็ ความรู้สึกหรือทัศนคติที่ดีต่องานที่ทาของบุคคลท่ีมีต่องานในทางบวก ความสุขของบุคคลอันเกิดจากการ ปฏบิ ัติงานและได้รับผลเปน็ ทพี่ ึงพอใจ ทาใหบ้ คุ คลเกดิ ความกระตอื รอื ร้น มคี วามสขุ ความม่งุ มนั่ ท่ีจะทางาน มี ขวัญและมีกาลังใจ มีความผูกพันกับหน่วยงาน มคี วามภาคภมู ิใจในความสาเร็จของงานทท่ี า และสิง่ เหลา่ น้ีจะ ส่งผลตอ่ ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธิผลในการทางานสง่ ผลตอ่ ถึงความกา้ วหน้าและความสาเร็จขององคก์ ารอีก ด้วย วริ ฬุ (2542) กล่าววา่ ความพึงพอใจเป็นความรู้สกึ ภายในจิตใจของมนุษย์ท่ไี ม่เหมือนกัน ข้นึ อยู่กบั แต่ ละบุคคลว่าจะมีความคาดหมายกับส่ิงหน่ึงส่ิงใดอย่างไร ถ้าคาดหวังหรือมีความตั้งใจมากและได้รับการ ตอบสนองด้วยดีจะมคี วามพงึ พอใจมากแตใ่ นทางตรงกนั ข้ามอาจผดิ หวงั หรือไม่พึงพอใจเปน็ อยา่ งยิง่ เมื่อไม่ได้ รบั การตอบสนองตามท่ีคาดหวังไว้ทั้งนี้ขน้ึ อยกู่ บั สง่ิ ทีต่ ัง้ ใจไวว้ ่าจะมีมากหรอื นอ้ ยสอดคล้องกับ เทพพนม และสวิง (2540) กล่าวว่า ความพึงพอใจเป็นภาวะของความพึงใจหรือภาวะทมี่ ีอารมณใ์ น ทางบวกทีเ่ กิดขึน้ เนื่องจากการประเมินประสบการณข์ องคนๆหนึง่ สิ่งทีข่ าดหายไประหวา่ งการเสนอใหก้ บั สิ่ง ท่ีได้รบั จะเป็นรากฐานของการพอใจและไมพ่ อใจได้ สรุปได้ว่า ความพึงพอใจ หมายถึง ความรู้สึกท่ีดีหรอื ทัศนคติทดี่ ีของบคุ คล ซ่ึงมักเกิดจากการได้รับ การตอบสนองตามที่ตนต้องการ ก็จะเกิดความรู้สึกท่ีดตี อ่ สิง่ นัน้ ตรงกันขา้ มหากความตอ้ งการของตนไม่ได้รับ การตอบสนองความไม่พงึ พอใจกจ็ ะเกดิ ขนึ้ 2.2 การบรหิ าร การบริการ (Service) คือ การให้ความช่วยเหลือ หรือการดาเนินการเพื่อประโยชน์ของผู้อื่นการ บริการท่ีดี ผู้รับบริการก็จะได้รบั ความประทับใจ และชื่นชมองค์กร ซึ่งเป็นส่ิงดีสิ่งหนึ่งอันเปน็ ผลดีกบั องคก์ ร ของเรา เบื้องหลงั ความสาเรจ็ เกือบทุกงาน มักพบว่างานบริการเป็นเครื่องมือสนับสนุนงานด้านต่าง ๆ เช่น งานประชาสัมพันธ์ งานบริการวิชาการ เป็นต้น ดังน้ัน ถ้าบริการดี ผู้รับบริการเกิดความประทับใจ ซ่ึงการ บรกิ ารถอื เปน็ หน้าเปน็ ตาขององคก์ ร ภาพลักษณข์ ององค์กรก็จะดีไปด้วย

คาว่า “Service” แยกอกั ษรออกเป็นความหมายดงั นี้ S = Smile (อา่ นวา่ สมาย) แปลวา่ ยิม้ แยม้ E = enthusiasm (อา่ นว่า เอนทูซิแอสซึม) แปลวา่ ความกระตือรอื รน้ R = rapidness (อ่านว่า เรปปิดเนส) แปลว่า ความรวดเรว็ ครบถ้วน มคี ณุ ภาพ V = value (อ่านวา่ วาลล)ู แปลว่า มีคุณคา่ I = impression (อา่ นว่า อิมเพรสชัน) แปลวา่ ความประทับใจ C = courtesy (อา่ นว่า เคอติซ)ี แปลวา่ มีความสภุ าพออ่ นโยน E = endurance (อา่ นวา่ เอนดเู รน) แปลวา่ ความอดทน เก็บอารมณ์ การบริการทด่ี ีต้องเกิดข้ึนจากใจ เพราะการบรกิ ารเปน็ การอานวยความสะดวกให้กับผู้ใชเ้ พื่อให้เกิด ความรวดเร็ว สบายใจและพอใจ คนสว่ นใหญค่ ิดว่า งานบริการเปน็ เรอื่ งของบริการ เปน็ เรือ่ งของการรับใช้ แท้ที่จรงิ ไมใ่ ช่งานบรกิ ารคืองานใด ๆ ก็ได้ท่ีเกิดจากมผี ู้ให้และมผี รู้ บั อย่างมีเงือ่ นไขกลา่ วคือ เป็นบริการทดี่ ี แลว้ ผู้รับต้องพึงพอใจต้องให้บริการ สรุปได้ว่า การให้ความสาคัญกับการให้บริการนั้นมีความสาคัญมาก ซ่ึงส่วนหน่ึงต้องได้รับความ รว่ มมือจากผู้รับบริการ และผใู้ หบ้ ริการต้องเปน็ บุคคลทม่ี ีใจในการให้บริการเปน็ สาคญั ดังนัน้ ผูใ้ ห้บริการคือ พนักงานผ้ใู หบ้ รกิ ารทกุ ๆ ด้าน ไมว่ า่ จะใหข้ อ้ มลู ขา่ วสาร การประชาสัมพันธ์ การต้อนรับบุคคลทั้งภายในและ ภายนอก รวมถงึ ผู้มาติดต่อทกุ ประเภท 2.3 หอ้ งสมดุ ห้องสมดุ หมายถึง แหลง่ รวบรวมข้อมลู ขา่ วสาร ความรู้ต่างๆ ทั้งในรปู ของสิง่ ตพี มิ พ์ และไม่ตีพมิ พ์ เพือ่ ใหผ้ ใู้ ช้ห้องสมดุ ได้ใช้ มีการบรกิ ารและจดั อย่างเป็นระบบ เป็นหมวดหมู่ เพ่ือสะดวกแกผ่ ู้ใชใ้ นการค้นหา วสั ดสุ ารนเิ ทศดงั กล่าว บรรณารกั ษ์ และเจ้าหน้าทห่ี อ้ งสมุดจะเป็นผรู้ ับผดิ ชอบในการดาเนนิ งาน ไม่วา่ จะเปน็ การจดั หา จัดซื้อ จดั หมทู่ าบตั รรายการซ่อมหนงั สอื วัตถุประสงค์ของหอ้ งสมุด 1. เพ่ือการศึกษา 2. เพือ่ การค้นควา้ วจิ ัย 3. เพ่ือการจรรโลงใจ 4. เพ่ือการพักผ่อนหยอ่ นใจ

5. เพ่ือบรกิ ารดา้ นข่าวสารให้แกป่ ระชาชนและผทู้ ่สี นใจ ประเภทของห้องสมดุ ห้องสมดุ สามารถแบ่งไดเป็น 5 ประเภท ตามวัตถุประสงคใ์ นการใหบ้ รกิ ารและประเภทของผใู้ ช้ 1. ห้องสมดุ โรงเรียน ใหบ้ รกิ ารนกั เรยี นและบุคลากรภายในโรงเรียน 2. ห้องสมดุ มหาวิทยาลยั /วทิ ยาลัย ใหบ้ ริการนกั ศกึ ษาและบุคลากรในสถานศึกษา 3. ห้องสมุดประชาชน ให้บรกิ ารแกป่ ระชาชนทว่ั ไป และผ้ทู ส่ี นใจ 4. หอ้ งสมดุ แหง่ ชาติหรอื หอสมดุ แห่งชาติ 5. ห้องสมุดเฉพาะ ได้แก่หอ้ งสมดุ ของหนว่ ยงาน บริษัท สมาคม โรงพยาบาล โรงงาน เปน็ ต้น ห้องสมดุ ประเภทนจี้ ะมผี ู้ใช้เฉพาะกลมุ่ หนงั สือหรอื ทรพั ยากรกจ็ ะมจี ากดั เฉพาะวชิ าเฉพาะกลมุ่ ลงไป ประโยชนแ์ ละความสาคัญของห้องสมดุ 1. หอ้ งสมุดเปน็ แหล่งรวบรวมขอ้ มลู ขา่ วสาร ความรู้ และวิชาการต่าง ๆ ทสี่ ามารถคน้ ควา้ หาความรู้ เพ่มิ เตมิ ไดต้ ลอดเวลา 2. ห้องสมดุ เป็นแหลง่ ทสี่ ามารถเลอื กหาความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร ไดอ้ ยา่ งหลากหลาย ตามความสนใจ และความตอ้ งการของตนเอง 3. หอ้ งสมุดช่วยให้ผทู้ ส่ี นใจเป็นผทู้ ีท่ นั สมัยทันตอ่ เหตกุ ารณ์ เนอ่ื งจากขอ้ มลู ขา่ วสาร ความรู้ และ วชิ าการตา่ ง ๆ เกดิ ข้ึนใหม่ตลอดเวลา 4. ห้องสมดุ ชว่ ยใหเ้ กิดความคดิ ริเรม่ิ สรา้ งสรรค์ เกิดนสิ ัยรกั การอ่าน และการศึกษาคน้ คว้าด้วย ตนเอง เกิดความรอู้ นั เป็นรากฐานในการค้นควา้ วจิ ยั สรา้ งสรรค์สิง่ ใหม่ ๆ 5. ห้องสมุดชว่ ยปลกู ฝงั ให้ทกุ คนเปน็ พลเมอื งดี เป็นนักประชาธปิ ไตย มจี รรยาบรรณรู้จักปฏบิ ตั ติ น ตามกฎเกณฑข์ องสงั คม 2.4. วทิ ยาลยั เทคนิคปทุมธานี สังกดั คณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศกึ ษาธิการ สถานที่ตั้ง เลขที่ ๙๗ หมู่ ๕ ตาบลบา้ นกลาง อาเภอเมอื ง จงั หวดั ปทมุ ธานี ๑๒๐๐๐ เบอร์โทร : ๐๒-๕๘๑๖๕๖๐ , ๐๒-๔๕๑๖๙๒๐ โทรสาร : ๐๒-๙๗๕๖๔๒๖ ประวัตวิ ทิ ยาลัยเทคนิคปทมุ ธานี ไดก้ ่อตัง้ ขน้ึ มาตามลาดบั ดงั ตอ่ ไปน้ี

พ.ศ. 2482 กระทรวงศกึ ษาธิการไดป้ ระกาศตงั้ โรงเรยี นช่างไมข้ นึ้ โดยมสี ถานทต่ี งั้ อยทู่ ี่วัดเม่ยี ง ตาบลบา้ น งิว้ อาเภอสามโคก จงั หวัดปทุมธานี เปดิ รบั นกั เรยี นสาเรจ็ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 4 เข้าเรียนวิชาชา่ งไม้และ ช่างปนู ใชเ้ วลาเรียน 3 ปี พ.ศ. 2490 ยา้ ยมาต้งั ที่วัดโพธนิ์ อก ตาบลบางปรอก อาเภอเมอื ง จังหวดั ปทมุ ธานี เนอ่ื งมาจากทีต่ งั้ เดมิ อยู่ ห่างไกลชมุ ชน การเดนิ ทางไปมาของนกั เรียนไม่สะดวก พ.ศ. 2495 ไดย้ ้ายจากวัดบางโพธิน์ อกข้ามฝงั่ แม่น้าเจ้าพระยา มาอยูบ่ รเิ วณวัดล่มุ ซง่ึ เปน็ ท่ีตง้ั ปจั จบุ นั และปรับปรงุ หลกั สตู รการเรยี นใหม่ แบง่ เปน็ 2 ระดบั คือ ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ รบั ผสู้ าเรจ็ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 เข้าเรยี น 3 ปี และไดร้ บั ประกาศนียบัตรมัธยมอาชวี ศึกษาตอนตน้ แผนกช่างไม้ สว่ น ระดบั มธั ยมอาชีวศกึ ษาตอนปลาย รบั นักเรียนทสี่ าเรจ็ การศกึ ษาระดบั มธั ยมอาชีวศึกษาตอนต้นแผนกชา่ ง ไม้ เรยี นต่ออกี 3 ปี สาเรจ็ การศึกษาแลว้ ได้ประกาศนยี บตั รมธั ยมอาชวี ศกึ ษาตอนปลาย แผนกช่างไม้ พ.ศ. 2502 กรมอาชีวศึกษาประกาศเปลี่ยนฐานะโรงเรียนชา่ งไม้ปทมุ ธานี เป็นโรงเรียนการช่างปทมุ ธานี ใช้หลักสตู รใหมข่ องกรมอาชวี ศึกษา พ.ศ. 2501 พ.ศ. 2512 กรมอาชีวศึกษาไดป้ ระกาศรวมโรงเรียนการช่างชายปทุมธานี เขา้ กับโรงเรยี นการชา่ งสตรี ปทุมธานี ซึง่ ตง้ั อยใู่ นบรเิ วณเดยี วกัน เรียกช่ือว่า โรงเรยี นการช่างปทมุ ธานี พ.ศ. 2518 เปิดสอนแผนกวิชาช่างยนต์ และเปลี่ยนมาใชห้ ลกั สตู รอาชวี ศึกษา พ.ศ. 2518 พ.ศ. 2519 เปดิ สอนแผนกวิชาช่างเชื่อมโลหะ อีก 1 แผนก แลว้ ยบุ ชั้น มศ.3 แผนกตา่ ง ๆ ที่มอี ยเู่ ดิมและ เปลย่ี นชอ่ื จากโรงเรยี นการชา่ งปทมุ ธานี เป็น \"โรงเรยี นเทคนิคปทมุ ธานี\" พ.ศ. 2520-2521 เปดิ สอนแผนกวชิ าชา่ งอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ แผนกวชิ าชา่ งไฟฟ้ากาลงั และแผนกพณชิ ยการ พ.ศ. 2523 กรมอาชีวศึกษาได้ประกาศยกฐานะเป็น วทิ ยาลยั เทคนคิ ปทมุ ธานี เมอ่ื วันท่ี 1 เมษายน 2523 พ.ศ. 2527 เปิดสอนระดบั ประกาศนยี บตั รวิชาชพี ชัน้ สงู (ปวส.) 3 แผนกวชิ า คอื 1. แผนกวชิ าช่างไฟฟา้ กาลงั 2. แผนกวิชาการตลาด 3. แผนกวชิ าคหกรรมทว่ั ไป พ.ศ. 2529 เปิดสอนระดบั ประกาศนียบตั รวิชาชีพชนั้ สูง (ปวส.) 2 แผนกวิชา คอื 1. แผนกวชิ าชา่ งอเิ ล็กทรอนกิ ส์ 2. แผนกวิชาคอมพวิ เตอรธ์ ุรกิจ

พ.ศ. 2532 เปิดสอนระดบั ประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.) 1 แผนกวิชา คือ แผนกวิชาช่างกลโรงงาน พ.ศ. 2533 เปิดสอนระดับประกาศนยี บัตรวิชาชพี ชน้ั สูง (ปวส.) 2 แผนกวชิ า คือ 1. แผนกวชิ าช่างยนต์ 2. แผนกวิชาชา่ งเทคนิคการผลติ พ.ศ. 2534 เปิดสอนระดบั ประกาศนยี บัตรวิชาชพี ชน้ั สงู (ปวส.) 3 แผนกวชิ า 1. แผนกวิชาชา่ งก่อสร้าง 2. แผนกวชิ าชา่ งเทคนิคโลหะ 3. แผนกวชิ าช่างเครอ่ื งมือวดั และควบคมุ ในอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2536 เปดิ สอนระดับประกาศนียบตั รวิชาชพี ชนั้ สงู (ปวส.) แผนกวชิ าการบญั ชี พ.ศ. 2537 -เปิดสอนระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชพี (ปวช.) แผนกวิชาคหกรรมธุรกิจ -เปดิ สอนระดบั ประกาศนียบัตรวิชาชพี ชั้นสงู (ปวส.) แผนกวชิ าคอมพวิ เตอรธ์ รุ กจิ (ภาคสมทบ) พ.ศ. 2540 เปิดสอนระดับประกาศนียบัตรวชิ าชพี ชน้ั สงู (ปวส.) 2 สาขาวิชา คอื 1. สาขาวิชาชา่ งไฟฟา้ กาลัง(ภาคสมทบ) 2. สาขาวิชาคหกรรมธรุ กิจ เปดิ สอนระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชพี (ปวช.) 3 สาขาวชิ า คือ 1. สาขาวิชาช่างยนต(์ ภาคสมทบ) 2. สาขาวิชาช่างก่อสร้าง(ภาคสมทบ) 3. สาขาวิชาคอมพวิ เตอรธ์ รุ กจิ (ภาคสมทบ) พ.ศ. 2545 ไดย้ กเลิกการใชห้ ลกั สตู ร ระดับประกาศนยี บตั รวิชาชีพ (ปวช.) พุทธศักราช 2538 และเร่ิมใช้ หลักสูตร ระดับประกาศนียบัตรวชิ าชพี (ปวช.) พทุ ธศักราช 2545 พ.ศ. 2547 เปดิ สอนระดบั ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ(ปวช.) 2 สาขาวชิ า คือ 1. สาขาวิชาการโรงแรม (ระบบทวิภาคี)

2. สาขาวิชาธรุ กจิ ค้าปลกี พ.ศ. 2548 เปิดสอนระดบั ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ(ปวช.) สาขาไฟฟา้ กาลงั (โปรแกรมเครอ่ื งมอื วดั และ ควบคุม) พ.ศ. 2549 เปิดสอนระดบั ประกาศนยี บตั รวิชาชีพชนั้ สงู (ปวส.) สาขาวชิ าการจัดการโลจสิ ตกิ ส์ พ.ศ. 2551 เปิดสอนระดบั ประกาศนยี บตั รวิชาชพี ชน้ั สูง(ปวส.) 2 สาขาวิชา คือ 1. สาขาวิชาการจัดการทวั่ ไป 2. สาขางานการโรงแรม(ระบบทวภิ าคี) พ.ศ. 2556 -เปดิ สอนระดบั ปรญิ าตรี สาขาวิชาเทคโนโลยีแม่พิมพ์ -เรมิ่ ใช้หลกั สูตร ระดบั ประกาศนียบัตรวชิ าชีพ (ปวช.) พุทธศกั ราช 2556 พ.ศ. 2557 เปดิ สอนระดับปริญาตรี สาขาวชิ าเทคโนโลยีอิเลก็ ทรอนกิ ส์ พ.ศ. 2558 เปิดสอนในระดบั ประกาศนียบัตรวิชาชพี ชนั้ สงู (ปวส.) สาขาคอมพิวเตอรธ์ รุ กจิ (ระบบทวิภาคี) 2.5. งานวจิ ยั ท่เี กี่ยวขอ้ ง ความพึ่งพอใจในการใช้บรกิ ารห้องสมดุ ของนักเรยี นโรงเรยี นชลราษฎรอารงุ ปกี ารศกึ ษา 2556 การศกึ ษาคร้งั นมี้ ีวตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อศึกษาความพงึ พอใจของนกั เรียนโรงเรียนชลราษฎรอารงุ ตอ่ การ ใหบ้ รกิ ารห้องสมดุ ทั้งหมด3 ด้าน ดังนี้ ดา้ นสง่ิ อานวยความสะดวก ด้านบคุ ลากร ดา้ นบรกิ าร กลุม่ ตัวอย่าง เป็นนักเรยี นโรงเรียนชลราษฎรอารุง จานวน 200 คน ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2556 โดยวิธกี ารสมุ่ อยา่ งง่าย เครอ่ื งมอื ทใี่ ชใ้ นการศึกษา คอื แบบสอบถามความพึงพอใจของนกั เรยี นโรงเรียนชลราษฎรอารุง ที่มี ต่อการใหบ้ ริการห้องสมุด สถิตทิ ีใ่ ชใ้ นการวเิ คราะหข์ ้อมลู คือค่าร้อยละและคา่ เฉล่ยี ผลจากการศกึ ษา พบวา่ ระดับความพงึ พอใจของนักเรียนท่ีเข้าใชบ้ รกิ ารงานหอ้ งสมุดโรงเรียนชลราษฎรอารุง พบวา่ นักเรียน มที ีม่ าใช้บริการหอ้ งสมดุ โรงเรียนชลราษฎรอารุง ด้านสง่ิ อานวยความสะดวก อยูใ่ นระดับปานกลาง ความ พึงพอใจของนกั เรียนท่ีใช้บรกิ ารหอ้ งสมุดโรงเรยี นชลราษฎรอารุงโดยภาพรวมด้านบคุ ลากร อยูใ่ นระดับ ความพึงพอใจปานกลาง เมือ่ พจิ ารณาดา้ นการบริการ อยู๋ในระดับความพงึ พอใจมาก

บทท3ี่ วธิ ีการศกึ ษาและดาเนนิ การ การวิจัยคร้ังนี้เป็นการวิจัยเชิงสารวจ (Survey Research) เพื่อศึกษาความพึงพอใจในผใู้ ชบ้ รกิ าร หอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั เทคนิคปทมุ ธานี ของนักเรียน นกั ศึกษาของวิทยาลยั เทคนคิ ปทมุ ธานี เพือ่ นาไปเปน็ ตวั อย่าง ในการปรบั ปรุงพฒั นาส่วท่บี กพร่องของการใชบ้ ริการหอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั เทคนคิ ปทมุ ธานี 3.1 ประชากรและกล่มุ ตวั อยา่ ง การวิจัยในครั้งน้ีใชป้ ระชากรและกลุ่มตวั อยา่ ง ดงั น้ี ประชากร คือ นักเรียน นักศึกษาแผนก คอมพิวเตอร์ธุรกิจ ของวิทยาลัยเทคนคิ ปทมุ ธานี ในช่วงเวลา 8.00- 15.00 น. ตงั้ แต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2562 ถงึ วันที่ 1 สิงหาคม 2562 กล่มุ ตวั อยา่ ง เปน็ การส่มุ ตวั อยา่ งแบบบงั เอิญ จานวน 30 คน ในช่วงเวลาทก่ี าหนด 3.2 เครื่องมอื ท่ใี ชใ้ นการศกึ ษา การวิจัยในคร้ังน้ีเป็นแบบสอบถามเก่ียวกับความพึงพอใจในการใช้บริการ ห้องสมุดวิทยาลัยเทคนิค ปทุมธานี แบง่ ออกเป็น 3 ตอน ไดแ้ ก่ ตอนที่ 1 ข้อมูลของผู้ใช้บริการห้องสมุดวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี มี 5 ข้อ ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศกึ ษา สาขาวิชา ตอนที่ 2 แบบสอบถามเกย่ี วกบั ความพงึ พอใจของผใู้ ช้บรกิ ารโรงอาหารของนักเรยี น/นักศกึ ษา วทิ ยาลัยเทคนคิ ปทมุ ธานี แบง่ ออกเป็น 3 ด้านในการหาความพึงพอใจ ด้านที่1 ดา้ นสิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพ 1.1 ห้องสมดุ มีจานวนโตะ๊ และเก้าอ้ี เพียงพอสาหรบั การใช้บริการ 1.2 ห้องสมดุ จัดตู้เอกสาร ชน้ั วางหนังสือ วารสาร ไว้ที่เหมาะสม 1.3 ห้องสมุดสะอาด เป็นระเบียบ มคี วามน่าสนใจในการค้นควา้ 1.4 บรรยากาศในหอ้ งสมุด เอือ้ ตอ่ การนงั่ อ่าน คน้ คว้า ไม่เสียงดงั ดา้ นที่2 ทรพั ยากรสารสนเทศ 2.1 หนังสอื ภาษาไทย 2.2 หนังสือภาษาต่างประเทศ

2.3 หนังสอื อา้ งองิ (พจนานุกรม สารานุกรม) 2.4 วารสารวชิ าการ 2.5 วารสาร/นิตยาสาร บนั เทิง 2.6 หนงั สอื พมิ พ์ 2.7 จุลสาร/ขา่ วสาร 2.8 โสตทัศนวสั ดุ ( CD-ROM , VCD , VDO , DVD ) 2.9 คอมพวิ เตอร์และอินเทอรใ์ นการใช้บริการ ด้านท3่ี ข้อเสนอการจัดการห้องสมดุ ยุคใหมเ่ พือ่ การพัฒนา 3.1 มกี ารจดั มมุ นิทรรศการต่างๆ 3.2 มตี ู้รับคนื หนงั สอื นอกเวลา และนอกห้องสมุด 3.3 มีคอมพวิ เตอร์ มากกว่า 1 เครือ่ งที่ใชแ้ ล้วสบื คน้ ขอ้ มลู ทตี่ ้องการ ไวใ้ ห้บรกิ าร 3.4 มีเทคโนโลยสี ารสนเทศการจัดการหอ้ งสมุดทเี่ ออ้ื ตอ่ เจ้าหน้าทแ่ี ละการให้บรกิ าร 3.5 มี E-book หนังสอื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ออนไลน์ 3.6 มี E-journal วารสารอิเลก็ ทรอนิกส์ออนไลน์ 3.7 มี Data-base ฐานขอ้ มูลออนไลน์ทางด้านการแพทยแ์ ละการพยาบาล 3.8 มีการจดั กิจกรรมรักการอา่ นเพือ่ ส่งเสริมการอา่ นและมกี ารให้รางวลั เปน็ ประจา ตอนที่ 3 ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ 3.3 การสร้างเครือ่ งมอื การสรา้ งและทดสอบแบบสอบถามมขี ้ันตอนดงั น้ี 1. การทดสอบแบบสอบถามน้ัน ผู้วิจัยได้ทาการศึกษาค้นคว้าจากเอกสาร ตารา และงานการศึกษาที่ เก่ียวข้องและใกล้เคียงกนั กบั เรอื่ งการศึกษาความพึงพอใจในการใช้บริการห้องสมดุ วิทยาลยั เทคนิค ปทุมธานี 2. นาขอ้ มลู ท่ไี ด้มาสร้างแบบสอบถามให้สอดคลอ้ งกับวัตถปุ ระสงคท์ ่ีต้ังไว้ 3. ทดสอบโดยการใช้แบบสอบถามทีส่ ร้างขนึ้ เพอ่ื หาความเท่ียงตรงทางเชงิ เน้ือหากบั ท่านอาจารยผ์ ู้สอน คือ อาจารย์วิลาวัลย์ วัชโรทัย ตาแหน่งครูประจาแผนกวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจวิทยาลัยเทคนิค ปทุมธานี

4. ปรบั ปรุงแบบสอบถามตามขอ้ เสนอแนะของอาจารย์ผู้สอน 5. นาแบบสอบถามที่ปรบั ปรงุ แลว้ ดาเนินการแจกกล่มุ ตัวอย่างและจัดเก็บรวบรวมข้อมลู ตามจานวนที่ ไดจ้ ากการคานวณไว้ 6. หลังจากนั้นแบบสอบถามท่ีแก้ไขแล้วไปทาการ (Try Out) กับนักเรียน นักศึกษา แผนกวิชา คอมพิวเตอร์ธุรกิจ ท่ีใช้บริการห้องสมุดวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี เพ่ือทดสอบความน่าเชื่อถือของ แบบสอบถาม โดยการวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิระหว่างข้อคาถามของมาตรวัดท่ีได้จัดทาข้ึน โดย กาหนดว่าค่าความเช่ือมั่นของแบบสอบถามท้ังชุดตามวิธี(Cronbach Alpha) ต้องไม่ต่ากว่า 0.7 ณ ระดับค่าความเชื่อมนั่ เทา่ กบั 95% ท่ีนัยสาคญั ทางสถติ ิเท่ากับ 0.05 และได้ค่า Alpha เทา่ กับ 0.915 3.4 วิธีเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล รวบรวมข้อมูลจากนักเรียน/นักศึกษา แผนกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี โดยใช้ วิธีการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงได้จากนักเรียน/นักศึกษา แผนกคอมพิวเตอร์ วิทยาลัยเทคนิค ปทมุ ธานี จากทั้งหมด 2 ระดบั ชนั้ แลว้ คัดเลือกแบบสอบถามที่สมบรู ณ์ให้ไดก้ ลมุ่ ตัวอยา่ ง เมือ่ รวบรวม แบบสอบถาม ได้ครบตามท่ีคานวณไว้จานวน 30 คน เพื่อการศึกษาความพึงพอใจในการใช้บรกิ าร หอ้ งสมุดภายวทิ ยาลยั เทคนคิ ปทุมธานี 3.5 การวิเคราะหข์ ้อมลู 1. การหาค่าร้อยสาหรบั จานวนผทู้ าแบบสอบถาม โดยใช้สูตร ร้อยละ = k x 100 n เมือ่ k จานวนผตู้ อบแบบสอบถาม n จานวนนกั เรียนนกั ศึกษาท้งั หมดทีท่ าแบบสอบถาม 2. การหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต โดยใช้สูตร x =  x n เมอ่ื  x = ผลรวมของระดบั ความพึงพอใจ n = จานวนนักเรียน/นกั ศึกษาท้ังหมดที่ทาแบบสอบถาม 3. การหาส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน โดยใช้สตู ร

เม่ือ  x2 = ผลรวมของกาลังสองของระดบั ความพึงพอใจ x = ค่าเฉลย่ี เลขคณิตของระดบั ความพึวพอใจ n = จานวนนกั เรียน/นกั ศกึ ษาทงั้ หมดท่ที าแบบสอบถาม นาข้อมูลทีไ่ ดจ้ ากการตอบแบบสอบถามมาวเิ คราะห์โดยใช้สถิติในการวิเคราะห์ดงั น้ี 1. การตรวจสอบขอ้ มูล นาแบบสอบถามที่ไดร้ บั กลับมาตรวจสอบความถูกต้อง 2. การลงรหสั แบบสอบถามที่ผ่านการตรวจสอบข้อมลู แล้วนาขอ้ มลู มาลงรหัสตามทก่ี าหนดไว้ 3. การประมวลผลขอ้ มลู นาขอ้ มูลทล่ี งรหสั แล้วบันทกึ เข้าไฟลค์ อมพวิ เตอรแ์ ลว้ ใช้โปรแกรมสาเรจ็ รปู ทาง ทางสถติ ิประมวลค่าโดยการแจกแจงความถีข่ องแต่ละตัวแปรพรอ้ มกับคานวณร้อยละสาหรบั ตัวแปรที่ วดั เชิงปรมิ าณจะใช้ค่าสถิตเิ ชงิ บรรยาย 4. แบบสอบถามตอนที่ 1 เปน็ แบบสอบถามทเ่ี กีย่ วกบั ขอ้ มลู เบอื้ งต้นของผ้ตู อบแบบสอบถามมาแจกแจง โดยใชส้ ถิติรอ้ ยละ รอ้ ยละใชส้ าหรบั อธิบายเปรียบเทยี บข้อมลู ทวั่ ไปหรือขอ้ มลู สว่ นบุคคลเพ่อื ดูการ กระจายของตวั แปรและนาเสนอข้อมูลของกลุ่มตัวอยา่ งในแตล่ ะหมวดหมู่ 5. แบบสอบถามตอนที่ 2 เป็นแบบสอบถามเก่ียวกับความพึงพอใจในการใช้บริการห้องสมุดภายใน วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานีนามาแจกแจงหาค่าเฉลยี่ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของคาตอบท่ีได้จากการ ตอบแบบสอบถาม 6. นาคา่ ขอ้ มูลทางสถิติทไ่ี ด้จากการประมวลผลมาทาการวเิ คราะหโ์ ดยแยกวิเคราะห์ตามวัตถุประสงค์ใน การศึกษา พรอ้ มทัง้ สรปุ ผลการศึกษา และอธบิ ายขอ้ มูลในรปู แบบเชงิ พรรณนา บทท4ี่ การวเิ คราะห์ขอ้ มลู การศึกษาเร่ืองการศึกษาความพึงพอใจการใช้บริการห้องสมุดวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานีในการนาเสนอการ วเิ คราะหข์ ้อมลู แบ่งเปน็ 4 สว่ นดงั น้ี 4.1 การวเิ คราะห์ข้อมูลเกยี่ วกับสถานภาพของผตู้ อบแบบสอบถาม 4.1 การวิเคราะห์ข้อมูลเก่ยี วกบั การสารวจการใช้บรกิ ารห้องสมดุ วทิ ยาลยั เทคนิคปทุมธานี ตารางท่ี4.1 ข้อมูลเก่ียวกับการใช้บริการ ห้องสมุดวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ของนักศึกษา แผนกคอมพวิ เตอร์ธรุ กจิ แยกตามเพศ เพศ จานวน(คน) รอ้ ยละ 1.ชาย 110 40.59 2.หญิง 161 59.41

รวม 271 100.00 จากตารางท่ี 1 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามสว่ นใหญ่ เป็นเพศหญงิ จานวน 161 คน คดิ เป็น รอ้ ยละ 59.41 และเพศชาย จานวน 110 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 40.59 รูปที่4.1 แสดงแผนภูมเิ ก่ียวกบั การใช้บริการห้องสมุดวทิ ยาลัยเทคนิคปทมุ ธานี ของนกั เรียน นักศึกษาแผนกคอมพวิ เตอร์ธรุ กจิ แยกตามเพศ ตารางท่ี4.2 ข้อมูลเก่ียวกับการใช้บริการห้องสมุดวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ของนักเรียน นักศกึ ษา แผนกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ แยกตามอายุ อายุ จานวน(คน) ร้อยละ 1.ตา่ กว่า16 ปี 38 14.02 2. 16-17 ปี 141 52.03 3. 18-19 ปี 45 38.75 4. 20-21 ปี 34 12.55 5. 21 ปีขึน้ ไป 13 4.80 รวม 271 100.00 จากตารางท่ี 4.2 พบว่าผตู้ อบแบบสอบถามสว่ นใหญ่ เป็นอาย1ุ 6-17 ปี จานวน 141 คน คิด เป็นร้อยละ 52.03 รองลงมา อายุ 16-17 ปี จานวน 141 คน คิดเป็นร้อยละ 52.03 รองลงมา อายุ 18-19 ปี จานวน 45 คน คิดเป็นร้อยละ 16.61 รองลงมา อายุ 20-21ปี จานวน 34 คน คิด เปน็ รอ้ ยละ 12.55 และ อายุ 21 ปีขึน้ ไป จานวน 13 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 4.80

รปู ที่4.2 แสดงแผนภูมเิ กย่ี วกบั การใชบ้ ริการห้องสมุดวทิ ยาลยั เทคนคิ ปทมุ ธานี ของนักเรียนนักศึกษา แผนกคอมพวิ เตอรธ์ ุรกจิ แยกตามอายุ ตารางที่4.3 ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการห้องสมุดวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ของนักเรียนนักศึกษา แผนกคอมพิวเตอรธ์ รุ กิจ แยกตามระดับช้ัน ระดบั ช้นั จานวน(คน) รอ้ ยละ 1. ปวช.1 111 40.96 2. ปวช.2 74 27.31 3. ปวช3 - - 4. ปวส.1 44 16.24 5. ปวส.2 42 15.50 รวม 271 100.00 จากตารางที่4.3 พบว่าผู้ตอบเบบสอบถามสว่ นใหญ่ศึกษาอยูใ่ นระดับ ปวช.1 จานวน 111 คน คิด เป็นรอ้ ยละ 40.96 รองลงมา อยูใ่ นระดบั ปวช.2 จานวน 74 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 27.31 รองลงมา อยใู่ น ระดับ ปวส.1 จานวน 44 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 16.24 คน และอยใู่ นระดับ ปวส.2 จานวน 42 คน คดิ เป็น ร้อยละ 15.50

รูปที่4.3 แสดงแผนภมู ิเกี่ยวกับการใชบ้ รกิ ารใช้บรกิ ารห้องสมดุ วิทยาลัยเทคนคิ ปทมุ ธานี ของนกั เรยี น นกั ศกึ ษา แผนกคอมพิวเตอรธ์ ุรกจิ แยกตามระดับชัน้ ตารางที่4.4 ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการห้องสมุดวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ของนักเรียนนักศึกษา แผนกคอมพวิ เตอร์ธุรกิจ แยกตามสาขาวชิ า เพศ จานวน(คน) รอ้ ยละ คอมพวิ เตอรธ์ รุ กิจ 271 100.0 271 100.0 รวม จากตารางท่4ี .4 พบว่าผ็ตอบแบบสอบถามสว่ นใหญ่ เปน็ สาขาวชิ า คอมพวิ เตอรธ์ ุรกจิ ทง้ั หมด จานวน 271 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 100.0 รูปที่ 4.4 แสดงแผนภูมิเกี่ยวกับการใช้บริการห้องสมุดวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ของ นักเรยี น-นกั ศึกษา แผนก คอมพิวเตอรธ์ รุ กิจ แยกตามสาขาวชิ า

ตารางที่4.5 ข้อมูลเก่ียวกับการใช้บริการห้องสมุดวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ของนักเรียนนักศึกษา แผนกคอมพิวเตอร์ธุรกจิ สิง่ แวดลอ้ งทางกายภาพ ������̅ S.D แปล ลาดบั ความหมาย ความสาคญั 1. หอ้ งสมุดมจี านวนโต๊ะ และเกา้ อ้ี เพยี งพอสาหรบั การใช้บริการ 3.76 .91 มาก 1 2 หอ้ งสมุดจดั ตูเ้ อกสาร ชนั้ วางหนงั สือ วารสาร ไวท้ ี่เหมาะสม 3.28 .78 ปานกลาง 3 3 ห้องสมดุ สะอาด เปน็ ระเบยี บ มคี วามน่าสนใจในการคน้ ควา้ 3.71 .99 มาก 2 4 บรรยากาศในห้องสมดุ เอ้ือตอ่ การน่ังอา่ น คน้ คว้า ไม่เสียงดงั 3.30 .83 ปานกลาง 4 รวม 3.51 .58 มาก จากตารางที่4.5 พบว่า การให้บริการใช้บริการห้องสมุดวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ของนักเรียน นักศึกษาแผนกคอมพิวเตอร์ธุรกจิ ด้านส่ิงแวดลอ้ งทางกายภาพ อยู่ในระดับมาก (ค่าเฉล่ีย = 3.51 และส่วน เบีย่ งเบนมาตรฐาน = 0.58) เมื่อแยกเปน็ รายขอ้ พบว่า การใช้บรกิ ารหอ้ งสมุดวิทยาลยั เทคนคิ ปทมุ ธานี คอื หอ้ งสมดุ มจี านวนโตะ๊ และเก้าอี้ เพียงพอสาหรับการใช้บรกิ าร อยู่ในระดับมาก (ค่าเฉล่ีย=3.76 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน=0.91) รองลงมา ห้องสมุดสะอาด เป็นระเบียบ มีความน่าสนใจในการค้นคว้า อยู่ในระดับ มาก (ค่าเฉลี่ย = 3.71 และส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน =0.99 ) รองลงมา บรรยากาศในห้องสมุด เออ้ื ต่อการนัง่ อา่ น คน้ คว้า ไมเ่ สยี งดงั อย่ใู นระดบั ปานกลาง (ค่าเฉล่ยี = 2.30และส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน = 0.83) และ ห้องสมุดจดั ตเู้ อกสาร ชน้ั วางหนังสอื วารสาร ไว้ท่ีเหมาะสม อยู่ในระดับ ปานกลาง (ค่าเฉลี่ย =3.28 และส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐาน = 0.78)

ตารางที่4.6 ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการห้องสมุดวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ของนักเรียนนักศึกษา แผนกคอมพิวเตอรธ์ รุ กจิ ทรัพยากรสารสนเทศ ������̅ S.D แปล ลาดบั ความหมาย ความสาคญั 1. หนงั สือภาษาไทย 3.93 .63 มาก 1 2.หนังสือภาษาตา่ งประเทศ 3.12 1.18 ปานกลาง 3 3 หนังสืออา้ งองิ (พจนานกุ รม สารานุกรม) 3.16 1.13 ปานกลาง 2 4 วารสารวชิ าการ 3.65 .89 มาก 4 5 วารสาร/นติ ยาสาร บนั เทิง 3.38 1.11 ปานกลาง 4 6 หนังสือพมิ พ์ 3.73 .86 มาก 2 7 จุลสาร/ขา่ วสาร 3.79 .87 มาก 4 8 โสตทัศนวัสดุ ( CD-ROM , VCD , VDO , DVD ) 3.66 .76 มาก 4 9 คอมพิวเตอร์และอนิ เทอร์ในการใชบ้ รกิ าร 3.46 .88 ปานกลาง 4 รวม 3.48 1.00 ปานกลาง จากตารางที่4.6 พบว่า การให้บริการใช้บริการห้องสมุดวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ของนักเรียน นักศึกษาแผนกคอมพวิ เตอรธ์ ุรกจิ ดา้ นทรัพยากรสารสนเทศ อยใู่ นระดบั ปานกลาง (ค่าเฉลยี่ =3.48 และ ส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน =1.00) เมอื่ แยกเปน็ รายข้อ พบว่า การใชบ้ รกิ ารหอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั เทคนคิ ปทุมธานี คือ หนงั สอื ภาษาไทยอยู่ ในระดับ มาก (ค่าเฉลี่ย =3.93 และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน =0.63) รองลงมา จุลสาร/ข่าวสาร อยู่ในระดับ มาก (ค่าเฉล่ีย = 3.79และสว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน =0.87) รองลงมา หนงั สือพมิ พ์ อยู่ในระดบั มาก (ค่าเฉลยี่ = 3.73 และส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน = 0.86) รองลงมา โสตทัศนวัสดุ ( CD-ROM , VCD , VDO , DVD ) อยู่ ในระดับ มาก (ค่าเฉลย่ี = 3.66 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.76) รองลงมา วารสารวชิ าการ อยู่ในระดบั มาก (ค่าเฉลี่ย = 3.65 และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน = 0.89) รองลงมา คอมพิวเตอร์และอินเทอรใ์ นการใช้ บริการ อยู่ในระดับ ปานกลาง (ค่าเฉล่ีย = 3.46 และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน = 0.88) รองลงมา วารสาร/ นิตยาสาร บันเทิง อยู่ในระดับ ปานกลาง (ค่าเฉลี่ย = 3.38 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน =1.11) รองลงมา หนงั สอื อา้ งองิ (พจนานกุ รม สารานุกรม) อยใู่ นระดับ ปานกลาง (คา่ เฉล่ีย = 3.16 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

=1.13)และหนงั สอื ภาษาตา่ งประเทศ อยใู่ นระดบั ปานกลาง (ค่าเฉลยี่ = 3.12และส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐาน = 1.18) ตารางท่ี4.7 ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการห้องสมุดวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ของนักเรียน นกั ศึกษา แผนกคอมพวิ เตอรธ์ รุ กจิ ขอ้ เสนอการจดั การห้องสมดุ ยคุ ใหมเ่ พอ่ื พัฒนาให้เปน็ หอ้ งสมุดท่ีมชี ีวิต ������̅ S.D แปล ลาดับ ความหมาย ความสาคั ญ 1 มีการจดั มมุ นทิ รรศการต่างๆ 3.41 .82 ปานกลาง 1 2 มตี ้รู บั คืนหนงั สือนอกเวลา และนอกห้องสมดุ 3.38 .89 ปานกลาง 3 3 มีคอมพวิ เตอร์ มากกว่า 1 เครอ่ื งทีใ่ ช้แล้วสบื ค้นข้อมลู ทต่ี อ้ งการ ไว้ 3.43 .78 ปานกลาง 1 ใหบ้ รกิ าร 4 มีเทคโนโลยสี ารสนเทศการจัดการห้องสมดุ ทเี่ อือ้ ต่อเจ้าหนา้ ทแ่ี ละ 4.03 .96 มาก 4 การใหบ้ ริการ 3.56 .84 มาก 2 5 มี E-book หนงั สืออเิ ลก็ ทรอนกิ สอ์ อนไลน์ 6 มี E-journal วารสารอเิ ล็กทรอนกิ สอ์ อนไลน์ 3.78 .98 มาก 3 7 มี Data-base ฐานข้อมลู ออนไลน์ทางดา้ นการแพทย์และการ 3.40 .78 ปานกลาง 2 พยาบาล มาก 4 มาก 8 มีการจดั กจิ กรรมรักการอ่านเพ่ือส่งเสรมิ การอ่านและมกี ารให้รางวลั 3.54 .79 เปน็ ประจา รวม 3.57 .59 จากตารางท่ี4.7 พบว่า การให้บริการใช้บริการห้องสมุดวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ของนักเรียน นกั ศึกษาแผนกคอมพิวเตอร์ธรุ กิจ ดา้ นขอ้ เสนอการจัดการห้องสมุดยุคใหม่เพือ่ พฒั นาใหเ้ ป็นห้องสมุดท่ีมีชีวิต อย่ใู นระดบั มาก (คา่ เฉล่ยี =3.57 และส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน =0.59 ) เมื่อแยกเป็นรายข้อ พบว่า การใช้บริการห้องสมุดวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี คือ มีเทคโนโลยี สารสนเทศการจดั การห้องสมดุ ท่ีเออื้ ต่อเจ้าหน้าท่ีและการใหบ้ ริการ อยู่ในระดับ มาก (ค่าเฉลี่ย = 4.03 และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน =0.96 ) รองลงมา E-journal วารสารอิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์ อยู่ในระดับ มาก (ค่าเฉล่ีย = 3.78 และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน =0.98 ) รองลงมา มี E-book หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์

อยู่ในระดบั ปานกลาง (ค่าเฉลยี่ = 3.56 และส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน = 0..84) รองลองมา มกี ารจัดกจิ กรรม รักการอ่านเพอื่ สง่ เสริมการอ่านและมีการใหร้ างวัลเป็นประจา อยู่ในระดับ มาก (ค่าเฉล่ีย = 3.54 และส่วน เบ่ียงเบนมาตรฐาน = 0.79 ) รองลงมา มคี อมพวิ เตอร์ มากกวา่ 1 เครื่องท่ีใชแ้ ลว้ สบื ค้นขอ้ มูลที่ตอ้ งการ ไว้ ให้บริการ อยู่ในระดับ ปานกลาง (ค่าเฉลี่ย = 3.43และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน =0.78) มี Data-base ฐานข้อมูลออนไลนท์ างด้านการแพทย์และการพยาบาล อยู่ในระดับ ปานกลาง (ค่าเฉลี่ย = 3.40 และส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐาน =0.78) รองลงมา มีการจดั มุม นทิ รรศการต่างๆอยู่ในระดบั ปานกลาง (ค่าเฉลี่ย = 3.41 และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน = 0.82) และ มีตู้รับคืนหนังสือนอกเวลา และนอกห้องสมุด อยู่ในระดับ ปาน กลาง (ค่าเฉล่ยี = 3.41 และส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐาน = 0.82) ตารางที่4.8 ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการห้องสมุดวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ของนักเรียนนักศึกษา แผนกคอมพิวเตอรธ์ ุรกิจ ปจั จัย ������̅ S.D แปล ลาดับ ความหมาย ความสาคัญ 1. ดา้ นสิ่งแวดล้องทางกายภาพ 3.51 .58 มาก 1 2 ดา้ นทรัพยากรสารสนเทศ 3.48 1.00 ปานกลาง 3 3 ด้านขอ้ เสนอการจดั การหอ้ งสมดุ ยคุ ใหมเ่ พือ่ พฒั นาใหเ้ ปน็ 3.57 .59 มาก 2 ห้องสมุดทมี่ ีชวี ติ รวม 3.73 .56 มาก จากตารางที่4.8 พบว่า การให้บริการใช้บริการห้องสมุดวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ของนักเรียน นักศึกษาแผนกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ปัจจัยรวมทั้งหมด อยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 3.73 และส่วนเบ่ียงเบน มาตรฐาน = 0.56) เม่ือรวมปัจจัยท้ังหมด พบว่า การใช้บรกิ ารหอ้ งสมุดวิทยาลยั เทคนคิ ปทุมธานี คือ ด้านข้อเสนอการ จดั การห้องสมดุ ยคุ ใหม่เพอ่ื พฒั นาใหเ้ ป็นห้องสมดุ ทม่ี ีชวี ิต อยูใ่ นระดบั มาก (ค่าเฉล่ยี =3.57 และส่วนเบ่ยี งเบน มาตรฐาน=0.59) รองลงมา ด้านสิง่ แวดล้องทางกายภาพ อย่ใู นระดบั มาก (ค่าเฉลีย่ = 3.51 และส่วนเบีย่ งเบน มาตรฐาน =0.58 ) และ ด้านทรัพยากรสารสนเทศ อยใู่ นระดบั ปานกลาง (ค่าเฉล่ยี =3.48 และส่วนเบยี่ งเบน มาตรฐาน =1.00)

บทที่5 สรปุ ผลการวิจัยอภิปรายและขอ้ เสนอแนะ การวจิ ยั ครั้งนเ้ี ปน็ การใหบ้ ริการ หอ้ งสมดุ วิทยาลยั เทคนคิ ปทมุ ธานี ซึ่งสามารถสรปุ ผลการวจิ ัยไดด้ งั นี้ 5.1 วตั ถุประสงค์ของการวิจยั 1. เพอื่ ศึกษาพฤตกิ รรมการใช้หอ้ งสมดุ ของวทิ ยาลยั เทคนิคปทุมธานี 2. เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจของนักเรยี นนกั ศึกษาของการบริการหอ้ งสมุดในวิทยาลยั เทคนิค ปทมุ ธานี 3. เพ่ือศึกษาถึงความแตกต่างระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับระดับความพึงพอใจของการใช้บริการ ห้องสมุดวิทยาลยั เทคนคิ ปทมุ ธานี 5.2 ประชากรและกลุ่มตัวอยา่ ง ประชากรที่ใช้ในการวิจยั คือนักเรียน-นักศึกษา แผนกคอมพิวเตอร์ธรกุ ิจ วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี เลอื กกล่มุ ตัวอย่างโดยใชว้ ิธีการสมุ่ แบบบงั เอญิ ได้กลมุ่ ตัวอย่างจานวน 271 คน 5.3 เครือ่ งมือท่ีใช้ในการวิจยั เคร่ืองมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งน้ีในส่วนของแบบสอบถามคณะผู้วิจัยได้ศึกษาจากงานวิจัยต่างๆแล้ว พัฒนาคาถามให้เหมาะสมกับเร่ืองทีค่ ณะผู้วิจัยต้องการศึกษาโดยการดูแลของผู้เชี่ยวชาญโดยแบ่งออกเปน็ 2 ตอนดงั นี้ ตอนท่ี 1 แบบสอบถามเกีย่ วกับข้อมูลพื้นฐานส่วนบคุ คลซ่งึ ข้อคาถามประกอบด้วยเพศอายุระดบั ช้ัน และ สาขาวชิ า ตอนที่ 2 แบบสอบถามเก่ยี วกับสาเหตุการทะเลาะวิวาทของนักเรียนนักศึกษาจานวน 19 ข้อ เป็น แบบวัดของ Likert โดยกาหนดคาตอบเป็น 5 ระดับ ได้แก่ มากที่สุด, มาก, ปานกลาง, น้อยและน้อยที่สุด และคานวณค่าความเชอื่ มนั โดยวธิ ีสัมประสทิ ธอิ ลั ฟาของครอนบาคได้คา่ ความเช่ือมั่นเป็น 0 5.4 การวิเคราะหข์ อ้ มูล คณะผ้วู จิ ยั ได้นาแบบสอบถามมาประมวลผลโดยใช้โปรแกรม PSPP ในการวเิ คราะหข์ ้อมลู โดยใช้สถติ ิ ต่างๆดังน้ี 5.4.1 สถติ พิ ้นื ฐานใชร้ ้อยละในการเปรียบเทยี บพิจารณาขอ้ มูล 5.4.2 ค่าเฉลย่ี ใช้ในการอธิบายใหท้ ราบถึงลักษณะภาพกว้างของขอ้ มูลท้งั หมดโดยการกาหนดเกณฑ์

5.4.3 ส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐานใชเ้ ปรยี บเทยี บระดบั ความพึงพอใจ 5.5 ผลการวจิ ัย 5.5.1 ข้อมูลสถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม จากผลการวิจัยพบวา่ ผ้ตู อบแบบสอบถามส่วนใหญ่ เปน็ เพศหญิง จานวน 161 คน คิดเปน็ รอ้ ย ละ 59.41 และเพศชาย จานวน 110 คน คิดเปน็ ร้อยละ 40.59 เปน็ อายุตา่ กว่า 16 ปี จานวน 38 คน คิด เปน็ รอ้ ยละ 14.02 รองลงมา อายุ 16-17 ปี จานวน 141 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 52.03 รองลงมา อายุ 18-19 ปี จานวน 45 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 16.61 รองลงมา อายุ 20-21 ปี จานวน 34 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 12.55 และ อายุ 21 ปขี ้นึ ไป จานวน 13 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 4.80 ปวช.1 จานวน 111คน คิดเป็นร้อยละ 40.96 รองลงมา อย่ใู นระดบั ปวช.2 จานวน 74 คน คดิ เป็นร้อยละ 27.31 รองลงมา อยใู่ นระดบั ปวส.1 จานวน 44 คน คิด เป็นร้อยละ 16.24 และอยใู่ นระดับ ปวส.2 จานวน 42 คน คดิ เป็นร้อยละ 15.50 5.6 อภิปรายผล จากผลการวิจัย พอสรุปเป็นประเด็นสาคัญท่ีสามารถนามาวิเคราะห์ และอภิปรายเกี่ยวกับการใช้ บริการหอ้ งสมดุ ของวทิ ยาลัยเทคนิคปทุมธานีไดด้ ังน้ี 5.6.1 จากการวิจัยวิเคราะห์ข้อมูลสถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถามจากผลการวิจัยพยว่าผู้ตอบ แบบสอบถามสว่ นใหญ่ เปน็ เพศหญงิ จานวน 161 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 59.41 5.6.2 จากการวิเคราะห์ข้อมูลการให้บริการใช้ห้องสมุดวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานีนักเรียนนักศึกษา แผนกคอมพิวเตอร์ธุรกิจจากผลการวิจัยพบว่า การให้บริการห้องสมุดวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี นักเรียน นักศึกษา แผนกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ อยู่ในระดับปานกลาง เม่ือแยกเป็นรายข้อ พบว่าด้านสิ่งแวดล้อมทาง กายภาพ อยใู่ นระดับปานกลาง รองลงมาด้านทรัพยากรสารสนเทศ อยู่ในระดบั น้อย และ ดา้ นข้อเสนอการจดั หอ้ งสมดุ ยคุ ใหม่ เพือ่ การพัฒนาใหเ้ ป็นห้องสมดุ ที่มชี ีวิต อยใู่ นระดับ ปานกลาง 5.7 ข้อเสนอแนะ การให้บริการใช้ห้องสมดุ วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี นักเรียนนักศึกษาแผนกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ให้ ขอ้ เสนอแนะ คอื เพิ่มความหนังสอื นวนิยายแนวต่างๆ เพมื่ ข้นึ

บรรณานกุ รม “__________”ความหมายของวิทยาลยั [ออนไลน]์ สืบคน้ จาก https://th.wikipedia.org/wiki (วันท่ี สืบค้น 25 สงิ หาคม 2562) “__________”ความพงึ พอใจของผู้ใช้บริการห้องสมุดวทิ ยาลยั ทองสขุ ศนู ยก์ ารศึกษาจงั หวดั พิษณุโลก [ออนไลน]์ สืบค้นจาก http://is.gd/oHhcuE (วันทีส่ บื ค้น 25 สิงหาคม 2562) “__________”ที่มาและประวัติของวิทยาลยั เทคนิคปทุมธานี [ออนไลน]์ สืบคน้ จาก https://bit.ly/2ketsGM (วนั ท่ีสบื คน้ 25 สงิ หาคม 2562)

ภาคผนวก ก ประวตั ผิ เู้ ขียน

ประวตั ผิ เู้ ขียน ชอ่ื : นางสาว ธณัฐชา การะเกตุ ชือ่ เล่น: บรีส ระดบั ปวส 2/3 เลขที่ 1 (035) แผนก : คอมพิวเตอรธ์ ุรกิจ น้าหนกั : 63 สว่ นสงู : 164 วนั เกดิ : 12 กนั ยายน 2542 อายุ 20 ปี เบอรโ์ ทร : 062-8272804 Gmail : [email protected]

ประวตั ผิ ้เู ขียน ชอ่ื : นางสาว กรรภริ มย์ แกว้ คา ช่อื เลน่ : ก้อย ระดับ ปวส 2/3 เลขที่ 9 (057) แผนก : คอมพิวเตอร์ธรุ กจิ นา้ หนกั : 59 สว่ นสูง : 165 วันเกดิ : 29 พฤศจกิ ายน 2542 อายุ 20 ปี เบอร์โทร : 093-2748510 Gmail : [email protected]

ภาคผนวก ข แบบสอบถามเพอื่ การวจิ ยั

แบบสำรวจ ควำมพึงพอใจของผใู้ ชบ้ ริกำรหอ้ งสมุด วิทยำลัยเทคนคิ ปทุมธำนี ประจำปีกำรศึกษำ 2562 ตอนที่1 ข้อมูลทวั่ ไปของผู้ตอบแบบสอบถาม คาช้ีแจง กรณุ าใสเ่ ครอื่ งหมาย ลงในช่อง ตามความเปน็ จรงิ 1. เพศ หญิง ชาย 2. อายุ 2. อายุ 16-17 ปี 3. อายุ18-19 ปี 1.ต่ากวา่ 16 ปี 4. อายุ 20ปี ขึน้ ไป 3. ระดบั ชัน้ 2.ปวช.2 3.ปวช.3 5. ปวส.2 1. ปวช.1 4 .ปวส.1 ตอนที่2 การวดั ระดบั ความพึงพอใจของการใชบ้ รกิ ารของหอ้ งสมดุ คาชี้แจง กรณุ าใสเ่ ครื่องหมาย ลงในชอ่ ง ตามความพงึ พอใจ คะแนน มากทสี่ ดุ =5 , มาก=4 , ปานกลาง=3 , นอ้ ย=2 , นอ้ ยทีส่ ดุ =1

ข้อ ดา้ น/รายการประเมิน ความพงึ พอใจ 1. ทำงส่ิงแวดล้อมทำงกำยภำพ มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย ทส่ี ุด (4) กลาง (2) ทีส่ ดุ (5) (3) (1) 1.1 หอ้ งสมุดมีจานวนโตะ๊ และเกา้ อี้ เพยี งพอสาหรบั ความพงึ พอใจ การใช้บริการ 1.2ห้องสมดุ จดั ตเู้ อกสาร ชนั้ วางหนงั สือ วารสาร ไวท้ ี่ มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย เหมาะสม ทีส่ ุด (4) กลาง (2) ท่สี ุด 1.3 ห้องสมดุ สะอาด เป็นระเบยี บ มีความน่าสนใจใน (5) (3) (1) การค้นคว้า 1.4 บรรยากาศในห้องสมุด เอ้อื ต่อการน่งั อ่าน ค้นควา้ ไม่เสยี งดัง ข้อ ดา้ น/รายการประเมิน 2. ทรพั ยำกรสำรสนเทศมจี ำนวนเพยี งพอ เหมำะสม หลำกหลำย ทันสมยั ตอ่ กำรศกึ ษำคน้ ควำ้ 2.1 หนงั สอื ภาษาไทย 2.2 หนงั สอื ภาษาตา่ งประเทศ 2.3 หนังสอื อ้างอิง (พจนานุกรม สารานุกรม) 2.4 วารสารวิชาการ

ดา้ น/รายการประเมิน ความพึงพอใจ 2.7 จุลสาร/ขา่ วสาร มาก มาก ปาน น้อย น้อย ทส่ี ดุ (4) กลาง (2) ท่ีสดุ (5) (3) (1) 2.8 โสตทศั นวัสดุ ( CD-ROM , VCD , VDO , DVD ) 2.9 คอมพวิ เตอรแ์ ละอนิ เทอรใ์ นการใช้บริการ 3. ขอ้ เสนอกำรจัดกำรห้องสมุดยคุ ใหม่ (Modern Library) เพ่ือกำรพัฒนำใหเ้ ป็นหอ้ งสมุดที่มชี วี ิต (Living library) 3.1 มกี ารจัดมุม นิทรรศการต่างๆ 3.2 มีตูร้ บั คืนหนังสอื นอกเวลา และนอกหอ้ งสมดุ 3.3 มคี อมพิวเตอร์ มากกว่า 1 เครือ่ งทใ่ี ช้แล้วสืบค้น ขอ้ มูล ท่ตี อ้ งการ ไวใ้ หบ้ รกิ าร 3.4 มีเทคโนโลยีสารสนเทศการจดั การหอ้ งสมุด ทเี่ ออื้ ตอ่ เจ้าหนา้ ที่ และการใหบ้ ริการ เช่น เทคโนโลยี RFID*

ดา้ น/รายการประเมนิ ความพึงพอใจ 3.5 มี E-book หนงั สืออเิ ลก็ ทรอนิกสอ์ อนไลน์ มาก มาก ปาน น้อย นอ้ ย ท่ีสุด (4) กลาง (2) ที่สุด (5) (3) (1) 3.6 มี E-journal วารสารอิเลก็ ทรอนิกสอ์ อนไลน์ 3.7 มี Data-base ฐานข้อมลู ออนไลนท์ างดา้ น การแพทย์และการพยาบาล 3.8 มีการจดั กิจกรรมการรกั การอา่ น เพอ่ื สง่ เสรมิ การ รักการอา่ น และมีการใหร้ างวลั เปน็ ประจา ตอนที่3 ควำมคิดเหน็ /ขอ้ เสนอเเนะ ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………

ภาคผนวก ค ผลการวิเคราะห์ PSPP



ภาคผนวก ฅ รูปภาพอ้างองิ








Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook