มิถุนายน 60

สง่ สารบ้านเราสงบสุข วารสารบ้านเราสงบสุขมาแล้ว...ในเดือนแห่งสายลมและฝนพร�ำ วารสารบ้านเราสงบสขุฤดูฝนเช่นน้ีจะจัดกิจกรรมอะไรก็ต้องค�ำนึงถึง ดินฟ้าอากาศเป็นพิเศษใช้สถานที่ในอาคารคงจะปลอดภัยกว่าไม่งั้นอาจงานกร่อยเปียกปอนตามๆกัน นิตยสารภาพข่าวทักษณิเชน่ เดยี วกบั บรรยากาศบา้ นเมอื งทกี่ ต็ อ้ งดทู า่ ทใี หด้ เี ปน็ มน่ั เหมาะกบั การหยง่ั เสยี ประธานกรรมการอ�ำ นวยการความคดิ ความเห็น สรา้ งความตะหนักรไู้ ปสกู่ ารเลอื กต้งั ท่ีจะมีข้นึ ในวาระต่อไปโดย ๔ ขอ้ ค�ำถามจากทา่ นนายกรฐั มนตรถี งึ ประชาชนชาวไทยนนั้ นบั เปน็ โอกาส อาทิตย์ บญุ ญะโสภตัอนั ดีทเ่ี ราจะได้เรยี นรไู้ ปดว้ ยกัน รองประธานกรรมการอ�ำ นวยการ จากน้ันเรามาท�ำความรู้จักกับความหมายของ “มวลชน (Mass)” รณภพ เหลอื งไพโรจน,์ ชำ�นาญวทิ ย์ เตรัตน์, ศกั ดิ์ชยั แตงฮอ่ในมิติของความม่ันคงภายในสิ่งท่ีมีพลังขับเคลื่อนปรากฏการณ์ทางสังคม เลขานุการคณะกรรมการอ�ำ นวยการที่เราก็รับรู้ว่าเป็นเร่ืองของผู้คนจ�ำนวนมากมายที่ต่างพากันออกมาท�ำอะไรบางอย่าง แตร่ ู้หรอื ไมว่ า่ ...มนั ไม่ใชเ่ รอื่ งบังเอญิ หรอก ศกั ด์ฤิ ทธิ์ สลกั คำ� กลับมาที่เรื่องใกล้ตัวของผู้ใช้รถใช้ถนนทุกท่านกับหลักเกณฑ์ใหม่ หวั หน้าส�ำ นักงานที่จะบังคับใช้เพื่อกวดขันไม่ให้มีพฤติกรรม “เมาแล้วขับ” อันเป็นอันตราย ศักดช์ิ ยั แตงฮ่อต่อตนเองและผู้ร่วมทาง เพราะแน่นอนว่าอุบัติเหตุนั้นไม่มีใครอยากให้เกิด รองหัวหนา้ สำ�นกั งานและบรรณาธกิ ารโดยเฉพาะหากเราไมไ่ ดเ้ ป็นฝ่าย “ผดิ ” แตใ่ ครจะเป็นพยานใหเ้ ราไดล้ ะหากเกดิ ศกั ดฤ์ิ ทธ์ิ สลกั ค�ำความเสียหายขึ้น ส่งผลผู้ใช้รถจ�ำนวนมากตัดสินใจติดต้ังกล้องหน้ารถยนต์ ผชู้ ว่ ยบรรณาธิการเพอื่ บนั ทกึ เหตกุ ารณใ์ นระหวา่ งขบั ขเี่ พอื่ ความอนุ่ ใจ ทง้ั นท้ี ราบหรอื ไมว่ า่ ตดิ กลอ้ ง จกั เรศ พิทยาคมหนา้ รถยนตแ์ ลว้ ลดเบย้ี ประกนั ภยั ไดด้ ว้ ยนะเออ ตดิ ตามอา่ นไดใ้ นฉบบั นค้ี รบั ....แล้วพบกนั ใหม่ ผูจ้ ัดการ จักเรศ พทิ ยาคม (นายศักดิ์ฤทธ์ิ สลักค�ำ) เลขานุการบรรณาธกิ าร บรรณาธิการ ฐวัฒน์ ช่วยชูวงษ์ กองบรรณาธิการ3. บทความพิเศษ 5. จกั เรศ พทิ ยาคม, กชนัฑ พฒั นะวชิ ัย, ฐวัฒน์ ช่วยชวู งษ์, • เหลยี วหลังแลหน้า • มวลชน (MASS) ชมพิชา ชาญกล, บณั ฑูร สนุ ทรสมบตั ,ิ ตรีเพชร ปุณยวรารกั ษ,์ กา้ วข้ามนกั การเมือง พณั ณ์ชติ า น�ำ พูลสขุ สันต์,ิ ปิยะวุฒิ ช่ืนกลิ่น, อมร นามบุตร, 7.สารนะา่ รู้ กลั ยา ประสิทธ์ภิ าคย,์ ณรงวทิ ย์ พบพาน, ปรญิ ญา เทียนทรัพย,์ 6. รูไ้ ว(้ใคร)ว่า สายสทิ ธิ์ จึงจรัสทรพั ย,์ อติพงษ์ ไชยกลุ , พุทธพิ งษ์ ศตั รพู ินาศ, • เร่ิมแล้ว ๑ ม.ิ ย. ๖๐ • ทราบแล้วเปลีย่ น จ.อ.สมุ าศ ธรรมสาร, เจตน์พงศ์ โชคสวัสด์วิ รกุล, เมาแลว้ ขบั ประกนั ไมจ่ า่ ย ติดกลอ้ ง ลดเบ้ยี ชยพล อคั รจริ ากลุ , สนั ติภาพ คณุ ศิรวิ ฒั นา บทความหรอื ขอ้ เขยี นในวารสารบา้ นเราสงบสขุ เปน็ ความเหน็ สว่ นตวั กองบรรณาธกิ าร กองจัดการ ไมจ่ ำ�เปน็ ตอ้ งเห็นดว้ ยและไมผ่ กู พันกับกรมการปกครองแตอ่ ย่างใด รชั ภรณ์ รชั ตวัฒนธ์ นกลุ , ปรญิ ญา เทยี นทรพั ย,์ อตพิ งษ์ ไชยกลุ ,ISAB 2 สุดาวลั ย์ ฉัตรสุวรรณย่งิ , พัชรีย์ นทั ธี, สุดารัตน์ แก่นเพช็ ร, กาญจนา มาตวจิ ิตร,์ ขวัญใจ จีนสขุ , ปรีชา บุญเกือ้ , วัลลภ สายสรอ้ ย, สนั ติภาพ คุณศิรวิ ฒั นา สำ�นกั งาน กองบรรณาธกิ ารวารสารบ้านเราสงบสุข ส�ำ นกั กจิ การความมนั่ คงภายใน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ถนนอัษฎางค์ แขวงวดั ราชบพธิ เขตพระนคร กรุงเทพฯ ๑๐๒๐๐ โทรศพั ท์ ๐ ๒๒๒๑ ๐๑๕๑ ต่อ ๓๑๖๐ โทรสาร ๐ ๒๒๒๒ ๘๘๖๐ E-mail : [email protected] พิมพ์ท่ี บพิธการพมิ พ์ เลขที่ ๗๐ ถนนราชบพิธ แขวงวดั ราชบพิธ เขตพระนคร กรุงเทพฯ ๑๐๒๐๐ จ�ำ นวน ๑,๒๐๐ ฉบบั

บทความพเิ ศษ : เหลยี วหลัง แลหน้าเจตน์พงศ์ โชคสวสั ดว์ิ รกลุ ก้าวข้ามนกั การเมอื ง? คำ� ถามทีร่ อวนั จะไดค้ �ำตอบ กวา่ ๓ ปี ที่รัฐบาลและคสช. ๔. ท่านคดิ วา่ กลมุ่ นักการเมืองทมี่ พี ฤติกรรมไม่เหมาะ ร่วมกันบริหารประเทศตามแนวทางท่ไี ดก้ ำ� หนดไว้ สมควรจะมโี อกาสเขา้ สกู่ ารเลอื กตงั้ อกี หรอื ไม่ หากเขา้ มาไดแ้ ลว้ อย่างเปน็ ขนั้ เป็นตอน กับสญั ญาใจท่ใี ห้ไวก้ ับ จะใหใ้ ครแก้ไข และแก้ไขด้วยวิธอี ะไร ผู้เขียนจึงขอน�ำเสนอข้อมูลบางประการท่ีพวกเราควร ประชาชนในการ “คืนความสุข” ใหค้ นไทย ทราบ ก่อนทเี่ ราจะคดิ หาค�ำตอบไปด้วยกนั ตอ่ ไป หลังความบอบช้ำ� จากสถานการณค์ วามคดิ ประการแรก รฐั บาลทมี่ ธี รรมาภบิ าล มลี กั ษณะอยา่ งไรความเห็นที่แตกต่างทางการเมอื งในชว่ งก่อนจะเขา้ ต้องเป็นรัฐบาลท่ียึดม่ันในหลักธรรมาภิบาล กล่าวคือมาบริหารประเทศ ถึงวนั นี้รฐั บาลไดพ้ ิสูจนแ์ ลว้ วา่ ใน แนวทางในการจัดระเบียบเพื่อให้สังคมของประเทศทั้งภาครัฐ มิติความมน่ั คงภายในสามารถจะควบคุม ภาคธุรกิจ เอกชนและภาคประชาชน สามารถอยู่ร่วมกันได้ สถานการณไ์ วไ้ ดอ้ ยา่ งเรยี บรอ้ ย รอเพียง อยา่ งสงบสขุ และตงั้ อยใู่ นความถกู ตอ้ งเปน็ ธรรม ตามหลกั พน้ื ฐานเง่อื นเวลาทเี่ หมาะสม ท่ีจะด�ำเนนิ การเลือกต้งั เพ่อื ให้ การบริหารกิจการบ้านเมืองท่ีดี (Good Governance) ตัวแทนของประชาชนรบั หน้าที่บริหารประเทศ มอี งคป์ ระกอบดังนี้ ต่อไปตามแนวทางประชาธปิ ไตย ๑. หลักนิตธิ รรม (The Rule of Law) การปฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย กฎ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ตา่ ง ๆ อยา่ งทท่ี ราบกนั ดวี า่ เรอื่ งราวตา่ งๆไมไ่ ดง้ า่ ยดายเชน่ นนั้ โดยถือว่าเป็นการปกครองภายใต้กฎหมายมิใช่ตามอ�ำเภอใจประเทศยังมีปัญหามากมายที่สะสมมาเป็นเวลานานและ หรืออ�ำนาจของ ตวั บคุ คล จะต้องค�ำนึงถงึ ความเปน็ ธรรมและหลายปัญหาก็ไม่สามารถจะแก้ไขได้โดยอาศัยกลไกทางการ ความยุติธรรม รวมทั้งมคี วามรัดกมุ และรวดเร็วดว้ ยเมอื งในชว่ งภาวะปกติ ซำ้� รา้ ยในมมุ มองของนกั วชิ าการบางสว่ น ๒. หลกั คณุ ธรรม (Morality)ยังมีความเห็นว่าตัวนักการเมืองน้ันเป็นต้นเหตุของปัญหาเสียเองอีกด้วย เพ่ือให้ประชาชนได้ตระหนักคิดและช่วยกัน การยดึ มน่ั ในความถกู ตอ้ ง ดงี าม มคี วามซอ่ื สตั ย์ จรงิ ใจหาทางปอ้ งกนั ไมใ่ หส้ ถานการณข์ องประเทศยอ้ นกลบั ทสี่ สู่ ภาพ ตอ่ ประชาชน กระท�ำการตา่ งๆ ดว้ ยความสจุ รติทเ่ี คยเปน็ ปญั หาอกี ในชว่ งคำ่� ของวนั ที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๐พลเอกประยทุ ธ์จนั ทรโ์ อชานายกรฐั มนตรไี ดฝ้ ากค�ำถามจ�ำนวน ๔ ๓. หลกั ความโปรง่ ใส (Accountability)ขอ้ ถงึ ประชาชนทกุ คน หลกั ใหญใ่ จความเกย่ี วกบั การสรา้ งความรบั รเู้ พอื่ ไปสกู่ ระบวนการเลอื กตงั้ รายละเอยี ดของค�ำถามมดี งั น้ี หมายถงึ ความโปรง่ ใสตรวจสอบได้ เปดิ โอกาสให้ ประชาชนเขา้ มาตรวจสอบการท�ำงานของรฐั บาลได้ ทกุ ขนั้ ตอน กระท�ำอย่างเปิดเผย ยดึ ประโยชนส์ ขุ ของประชาชนเปน็ ที่ตั้ง ๑. การเลอื กตง้ั ครง้ั ตอ่ ไป จะไดร้ ฐั บาลทม่ี ธี รรมาภบิ าล ๔. หลกั การมีสว่ นร่วม (Participation)หรือไม่ การให้โอกาสให้ประชาชนหรือผู้มีส่วนเก่ียวข้อง ๒. หากไมไ่ ด้จะท�ำอย่างไร เข้ามามีส่วนร่วมในบริหารจัดการเกี่ยวกับการตัดสินใจในเร่ือง ๓. การเลือกต้ังเป็นส่วนส�ำคัญของประชาธิปไตย  ต่าง ๆ เช่น เป็นคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และหรือแต่การเลือกต้ังอย่างเดียวโดยไม่ค�ำนึงถึงอนาคตประเทศ คณะท�ำงานโดยให้ข้อมูล ความคิดเห็น แนะน�ำ ปรึกษาเชน่  ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปน้นั ถกู ตอ้ งหรอื ไม่ รว่ มวางแผนและรว่ มปฏบิ ตั ิ ISAB 3

บทความพิเศษ : เหลียวหลงั แลหนา้- ต่อจากหน้า 3 กา้ วขา้ มนกั การเมอื ง? ค�ำถามที่รอวันจะไดค้ ำ� ตอบ ๕. หลักความรับผิดชอบ (Responsibility) กรอบในการจัดท�ำแผนตา่ ง ๆ ใหส้ อดคลอ้ งและบูรณาการกัน เพ่ือใหเ้ กิดเป็นพลงั ผลักดันรว่ มกัน ไปสู่เปา้ หมายดังกล่าว การตระหนักในสิทธิและหน้าที่ ความส�ำนึกในความรับผดิ ชอบต่อสังคม การใสใ่ จปญั หาการบริหารจัดการ ฯลฯการกระตือรือร้นในการแก้ปัญหา และเคารพในความคิดเห็น แผนยุทธศาสตร์ที่ว่านี้มาจากการประเมินสภาพที่แตกต่าง รวมท้ังความกล้าท่ีจะยอมรับผลดีและผลเสีย แวดล้อมภายในและภายนอก ตามรูปแบบของแผนที่ดี คือจากกระท�ำของตนเอง ประเมินจุดอ่อน จุดแข็งของประเทศ และประเมินสภาพ เศรษฐกิจ สังคม การเมือง และเทคโนโลยี รวมถึงการประเทศ ๖. หลกั ความคมุ้ คา่ (Cost – effectiveness คู่แขง่ วา่ มยี ทุ ธศาสตร์อยา่ งไร แลว้ จึงก�ำหนดวิสัยทัศนเ์ พอื่ เปน็ or Economy) เปา้ หมายไวว้ า่ ? “ประเทศมคี วามมนั่ คง มง่ั คง่ั ยงั่ ยนื เปน็ ประเทศพฒั นา การบรหิ ารจดั การและใชท้ รพั ยากรทม่ี จี �ำกดั เพอ่ื ใหเ้ กดิ แล้ว ด้วยการพฒั นาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง” และประโยชน์สูงสุดแก่ส่วนรวม ดังน้ันการบริหารงบประมาณ ได้วางแนวทางยุทธศาสตร์ชาติไว้จ�ำนวน ๖ ดา้ น ได้แก่ ๑. ดา้ นโครงการตามนโยบายจะตอ้ งมงุ่ ใหเ้ กดิ ผลลพั ธค์ มุ้ คา่ เตม็ เมด็ เตม็ ความม่ันคง ๒. ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันหนว่ ยกับเงนิ ภาษีท่ไี ด้ลงทุนไป ๓. ดา้ นการพฒั นาและเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพคน ๔. ดา้ นการสรา้ ง โอกาสความเสมอภาคและเทา่ เทยี มกันทางสงั คม ๕. ด้านการประการตอ่ มาคอื ยทุ ธศาสตรช์ าตแิ ละการปฏริ ปู หมาย สร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อมถงึ อะไร และ ๖. ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบบริหารจัดการ ภาครฐั แต่เดิมที่เรามักจะเข้าใจบทบาทของผู้ใช้อ�ำนาจแทน อย่างไรก็ดีแผนยุทธศาตร์ชาติชุดนี้จะกลายเป็นกรอบปวงชนว่า รัฐบาลมีหน้าที่บริหารประเทศ สภามีหน้าท่ีออก แนวทางของการขับเคล่ือนการพัฒนาประเทศให้กับรัฐบาลในกฎหมายและตรวจสอบรัฐบาล ส่วนศาลก็มีหน้าที่ตัดสินคดี อนาคตตอ่ จากนไ้ี ปอีกกว่า ๒๐ ปีเป็นการใชอ้ �ำนาจอธปิ ไตยทง้ั ๓ ฝา่ ย คอื บริหาร นิติบญั ญตั ิ สุดทา้ ยนี้ ค�ำตอบของค�ำถามท้งั ๔ ขอ้ จากท่านนายกและตลุ าการ ซง่ึ รฐั บาลในอดตี กด็ �ำเนนิ การบรหิ ารราชการแผน่ รัฐมนตรีจะเป็นเช่นไรก็ข้ึนอยู่กับประชาชนทุกคนที่จะแสดงดนิ เพยี งอยา่ งเดยี ว แตเ่ มอ่ื คณะรกั ษาความสงบแหง่ ชาติ (คสช.) ความคิดเห็นร่วมกัน ค�ำตอบที่ได้น้ีจะเป็นข้อบ่งชี้อันหน่ึงท่ีเข้ามาบริหารประเทศ จึงมีรัฐธรรมนูญฉบับช่ัวคราวท่ีออกมา จะสะท้อนว่าประชาชนพร้อมที่จะก้าวข้ามนักการเมืองและวีถีและไดเ้ ขยี นเอาไวว้ า่ รฐั บาล ไมไ่ ดม้ หี นา้ ทบี่ รหิ ารราชการแผน่ ดนิ การเมอื งแบบเดมิ ๆ แลว้ หรอื ไม่ เพราะสงิ่ ทเ่ี ปน็ กลไกขบั เคลอื่ นเพียงอย่างเดียว หากแต่มีภารกิจเพ่ิมข้ึนมาคือ “การปฏิรูป” ทิศทางการพัฒนาและสร้างความอยู่ดีมีสุขของประชาชนในโดยผา่ นการจดั ท�ำ “ยทุ ธศาตรช์ าต”ิ เปน็ กรอบการด�ำเนนิ การ อนาคตนับจากนี้ ไม่ใช่อยู่ท่ีความต้องการนักการเมืองหรือและในรัฐธรรมนญู ฉบับปัจจบุ นั (พ.ศ.๒๕๖๐) ก็ได้มกี ารระบุไว้ กลุ่มผลประโยชน์อีกต่อไป หากแต่อยู่ท่ียุทธศาสตร์ประเทศเรยี บร้อยแล้ว ในหมวด แนวนโยบายแหง่ รฐั ท่จี ะเปน็ แก่นของการพัฒนาในทกุ ระดับ ทตี่ อ้ งบรรลุเปา้ หมาย มาตรา ๖๕ รฐั พงึ จดั ใหม้ ยี ทุ ธศาสตรช์ าตเิ ปน็ เปา้ หมาย อย่างเดยี วกนั ประเทศจงึ ก้าวไปข้างหน้า ตอ่ ไปการพฒั นาประเทศอยา่ งยงั่ ยนื ตามหลกั ธรรมาภบิ าลเพ่ือใช้เป็นISAB 4

“มวลชน” หรอื (MASS) ปัจจุบันน้ี คงไม่มีใครปฏิเสธว่า “มวลชน” หรือ MASS นั้นมีความสำ�คัญอย่างมาก ทั้งในด้านการเมืองการปกครอง ด้านเศรษฐกิจ และด้านสงั คม ซึ่งลว้ นแต่มีมวลชนเขา้ ไปเก่ียวขอ้ งดว้ ย ดงั น้ันเดือนมิถนุ ายนนี้ ทมี งานวารสารบ้านเราสงบสุขจึงนำ�เสนอให้ท่านผู้อ่านได้ทราบความหมายและความสำ�คัญของ “มวลชน” (MASS) ซ่ึงก็คือ การรวมกลุม่ ชน ทม่ี กี ารจดั ต้งั โดยถกู ต้องตามกฎหมายหรือไมถ่ ูกต้องตามกฎหมายก็ได้ เชน่ ชมรม สมาคม มลู นธิ ิ สันนิบาต ฯลฯอีกคำ�หนึ่ง ซึ่งมักจะได้ยินกันบ่อยครั้ง คือ การจัดตั้งมวลชน ซึ่งหมายถึง การรวบรวมมวลชนให้อยู่ภายใต้แนวความคิดและภายใต้การนำ�ของบุคคลหรือ กลุ่มบุคคลอย่างเป็นเอกภาพ เพื่อเป็นพลังอำ�นาจที่จะนำ�ไปใช้ให้บรรลุวัตถุประสงค์โดยการจัดต้ังมวลชนนัน้ มี ๒ ประเภท ได้แก่ ๑. การจัดตั้งมวลชนแบบเป็นทางการ คือ การจัดต้ังมวลชนในลักษณะที่อยู่ในกรอบของกฎหมายควบคุม เช่นสหภาพแรงงาน สมาคมลูกเสอื ชาวบา้ น สมาชิกไทยอาสาปอ้ งกนั ชาติ (ทสปช.) สมาชกิ อาสาสมคั รปอ้ งกนั ภัยฝ่ายพลเรอื น(อปพร.) ชุดรักษาความปลอดภยั หมู่บา้ น (ชรบ.) เป็นต้น ๒. การจัดต้ังมวลชนแบบไม่เป็นทางการ คือ การจัดต้ังมวลชนของกลุ่มมวลชนต่าง ๆ เช่น กลุ่มเศรษฐกิจกล่มุ ผใู้ ชแ้ รงงาน กลมุ่ เกษตรกร กลมุ่ ผู้เลน่ หุ้น กลุ่มสอ่ื มวลชน กลมุ่ ผลประโยชนอ์ ืน่ เป็นต้น นอกจากมวลชนแลว้ สิง่ ที่เป็นส่วนส�ำ คัญของมวลชน คอื การศกึ ษาถงึ ธรรมชาตหิ รือพฤตกิ รรมของมนุษย์ ที่รวมตัวกันอยู่เป็นกลุ่มหรือหมู่คณะทั้งท่ีมีการจัดต้ังเป็นองค์กรหรือไม่ได้มีการจัดตั้งเป็นองค์กรก็ตามเพ่ือท่ีจะเปลี่ยนแปลง หรือกำ�หนดพฤตกิ รรมของผูค้ นเหล่านั้นใหเ้ ป็นไปตามต้องการ ซึง่ ที่กล่าวมานัน้ เป็นความหมายของค�ำ ว่า “จติ วิทยามวลชน” จติ วิทยามวลชน มีลักษณะส�ำ คัญโดยสรุป กลา่ วคอื ๑. เนน้ การประชาสมั พนั ธแ์ ละการเผยแพร่ข่าวสาร ดังน้นั คำ�ว่ามวลชนจงึ ต้องมหี ลกั ๒. เน้นการพฒั นาชมุ ชนและพัฒนาสังคม จติ วทิ ยาเปน็ ตัวกำ�หนดแบบแผน ๓. เน้นการสรา้ งคนดีและพัฒนาคณุ ภาพของประชากร เพอ่ื นำ�ไปสูเ่ ป้าประสงค์ของกลมุ่ ชน ๔. เนน้ การสร้างเสรมิ และรักษาระเบยี บวินยั ๕. เน้นการสรา้ งพลงั รว่ มเพือ่ พิทกั ษ์รกั ษาสถาบนั สำ�คัญของชาติ ISAB 5

รไู้ ว(้ ใคร)วา่ เรม่ิ แลว้ ๑ ม.ิ ย. ๖๐ “เมาแลว้ ขบั ” ประกนั ไมจ่ า่ ย ๑ ม.ิ ย. ๖๐ หากพบว่าผ้ขู ับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดมากกว่า ๕๐ มิลลิกรมั เปอร์เซน็ ต์ จะถอื วา่ “เมาสุรา” ซง่ึ ผู้ขับขี่จะไมไ่ ดร้ ับความคมุ้ ครองทงั้ ชวี ติ และทรพั ยส์ นิ จากกรมธรรม์ แตผ่ เู้ สยี หายไมต่ อ้ งกงั วลวา่ จะไมไ่ ดร้ บั คา่ สนิ ไหมทดแทนเพราะบรษิ ทั ประกนั ของคกู่ รณจี ะชดใช้ค่าสนิ ไหมทดแทนให้กับผเู้ สยี หาย แลว้ ถงึ คอ่ ยไปไล่เบีย้ เรยี กคืนคา่ สินไหมทดแทนกบั ผขู้ ับข่ที ี่เมาแล้วขับ ทีผ่ า่ นมาแมว้ า่ รัฐบาลและภาคเอกชนจะร่วมกนั รณรงค์และก�ำหนดมาตรการเพ่ือจะลดอุบตั ิเหตุบนทอ้ งถนน แตอ่ บุ ตั ิเหตุทเี่ กิดจากการเมาแล้วขับก็ยังมิได้ลดน้อยลง ซึ่งสาเหตุส�ำคัญท่ีท�ำให้เกิดอุบัติเหตุนั่นก็คือ เมาแล้วขับ ทั้งน้ี กรมคุมประพฤติ ได้เปิดเผยว่าสถิติการเมาแล้วขับเม่ือต้นปี ๒๕๖๐ มีจ�ำนวนเพิ่มสงู ข้นึ เพอ่ื สง่ เสรมิ ความปลอดภยั ทางถนนและสรา้ งเสริมวินยั จราจรแกป่ ระชาชน คณะกรรมการก�ำกับและสง่ เสริมการประกอบธรุ กจิ ประกนัภยั  (คปภ.) จงึ ไดป้ รบั แกข้ อ้ ยกเวน้ แตเ่ ดมิ ทรี่ ะบวุ า่ “การขบั ขโี่ ดยบคุ คลซงึ่ ในขณะขบั ขมี่ ปี รมิ าณแอลกอฮอลใ์ นเสน้ เลอื ดไมน่ อ้ ยกวา่  ๑๕๐ มลิ ลกิ รมัเปอร์เซ็นต์” แก้ไขข้อความเป็น “การขับข่ีโดยบุคคลซึ่งในขณะขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า ๕๐ มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์”ซึ่งระดับปริมาณแอลกอฮอล์ดังกล่าวจะสอดคล้องกับกฎกระทรวงฉบับท่ี ๑๖ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ. ๒๕๒๒ โดยผู้ขับขี่ถ้ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดดังต่อไปน้ี ให้ถือว่า “เมาสุรา” ซ่ึงมีผลบังคับใช้เม่ือวันท่ี ๑ มิ.ย. ที่ผ่านมา ดังน้ันเม่ืออุบัติเหตุและพบว่าผู้ขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า ๕๐ มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะไม่ได้รับการคุ้มครองหรือค่าสินไหมทดแทนแต่บริษัทประกันจะออกค่าสนิ ไหมทดแทนใหแ้ ก่ผกู้ รณีกอ่ นและไปเก็บจากผขู้ ับขีท่ ่ีเมาแลว้ ขับภายหลงั เดมิ ปัจจุบัน ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเร่ืองของการ คุ้มครองของบริษัทประกันภัย แต่เด๋ียวก่อนเกิน ๕๐ มก.เปอรเ์ ซ็นต์ เมาแล้วขบั เกนิ ๕๐ มก.เปอรเ์ ซน็ ต์ เมาแล้วขับ ถึงแม้ว่า คปภ. จะระบุว่าผู้ขับที่ท่ีมีปริมาณ ประกันไม่จา่ ย แอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า ๕๐ มิลลิกรัมเกนิ ๑๕๐ มก.เปอรเ์ ซน็ ต์ ประกนั ไม่จ่าย เปอรเ์ ซน็ ต์ ใหถ้ ือวา่ “เมาสุรา” แต่กฎหมายมี ขอ้ ยกเวน้ วา่ ผขู้ บั ขกี่ รณี ตอ่ ไปนี้ หากมปี รมิ าณ- ผ้ขู ับขซ่ี ึ่งมีอายุต�่ำกวา่ ยีส่ ิบปีบริบูรณ์ แอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า ๒๐ มิลลิกรัม- ผ้ขู บั ขี่ซ่งึ ได้รับใบอนญุ าตขับรถชัว่ คราวตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ เปอร์เซน็ ต์ ใหถ้ ือวา่ “เมาสุรา”- ผู้ขับข่ซี ึ่งมใี บอนญุ าตขบั ขีส่ �ำหรบั รถประเภทอื่นท่ใี ช้แทนกันไม่ได้- ผู้ขับขซ่ี ึง่ ไม่มีใบอนญุ าตขับข่ี หรอื อยรู่ ะหว่างถูกพกั ใช้หรือเพกิ ถอน ใบอนุญาตขับข่ี **เกนิ กวา่ ๒๐ มลิ ลิกรัมเปอรเ์ ซ็นต์ ใหถ้ ือวา่ “เมาสรุ า”** ฉะน้ัน ผูข้ ับขี่ท่มี ีลักษณะตาม ๔ ข้อทก่ี ล่าวมา ควรหลกี เล่ียงการด่มื เครื่องดืม่ แอลกอฮอล์เม่ือต้องขับขีร่ ถยนต์ หลายท่าน คงสงสัยว่า แล้วจะด่ืมอย่างไรถึงมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดต�่ำกว่า ๕๐ มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์โดยผลการวจิ ยั ของคณะแพทยศาสตรศ์ ริ ริ าชพยาบาล มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล ไดศ้ กึ ษาระดบั แอลกอฮอลใ์ นเลอื ด สามารถสรปุ ไดด้ งั นี้ ปริมาณแอลกอฮอลใ์ นเลือดต�่ำกว่า ๕๐ มิลลกิ รัมเปอรเ์ ซ็นต์ เบียร์ (๘ ดกี รี) ไวน์ (๑๑ – ๑๓%) เหลา้ ๑ กระป๋อง = ๓๓๐ ml ๑ แก้ว = ๑๐๐ ml ๓ ฝา = ๓๐ ml ทงั้ นี้ กอ่ นการตรวจวัด ควรบว้ นปากด้วยน้ำ� เปล่าก่อน เพ่อื กำ� จดั แอลกอฮอลท์ ่คี า้ งอยู่ในปาก อย่าลืมกันนะ!! การด่ืมสุราท�ำให้ความสามารถในการขับข่ียานพาหนะลดลง น่ันหมายถึง หายนะที่จะตามมานอกจากตัวท่านเองท่ีจะต้องเจ็บตัวและเสียเงินแล้ว ผู้อ่ืนก็จะได้รับความเดือดร้อนจากการกระท�ำของท่านด้วยนอกจากทา่ นจะเสยี เงนิ คา่ รกั ษาพยาบาลและซอ่ มแซมรถยนตข์ องตวั เองแลว้ ยงั ตอ้ งชดเชยคา่ เสยี หายตา่ งๆ ใหแ้ กค่ กู่ รณอี กี ดว้ ยเพราะประกนั ภยั ไมจ่ า่ ยคา่ สนิ ไหมทดแทนใหแ้ กผ่ เู้ มาแลว้ ขบั เหมอื นแตก่ อ่ นแลว้ เพอ่ื ความปลอดภยั “ดม่ื ไมข่ บั ” นะครบั qISAB 6

สารนะา่ รู้ ตทราิดบกแลล้ว้อเปงลีย่ น ลดเบี้ย ความไม่แน่นอน คือ ส่ิงท่ีแน่นอนที่สุด อุบัติเหตุ ก�ำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)เกดิ ขน้ึ ไดเ้ สมอเมอ่ื อยบู่ นทอ้ งถนน และบางครง้ั อาจมเี หตไุ มค่ าดฝนั ได้ออกประกาศ เรื่อง แนวทางปฏิบัติเก่ียวกับค�ำส่ังนายซ่ึงเกิดจากความใจร้อนและขาดสติของผู้ใช้ถนน หลายคร้ัง ทะเบยี น ท่ี ๘/๒๕๖๐ เรอื่ ง ใหใ้ ชอ้ ตั ราเบยี้ ประกนั ภยั รถยนต์ท่ีกล้องสามารถบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ท�ำให้ต�ำรวจหรือ ส�ำหรบั รถยนตท์ ่ีติดตง้ั ระบบกลอ้ งโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV)บรษิ ัทประกนั ภัยสามารถน�ำไปใชเ้ ปน็ หลักฐานในการด�ำเนิน ท่ีติดต้ังกับรถยนต์ โดยประกาศดังกล่าว มีผลเมื่อวันท่ี ๓คดหี รอื พจิ ารณาสนิ ไหมทดแทน ซงึ่ หากไมม่ กี ลอ้ งหนา้ รถแลว้ มนี าคม ๒๕๖๐ผกู้ ระท�ำผดิ อาจจะไมย่ อมรบั และใหก้ ารเทจ็ อยา่ งกรณขี องดเี จ  กล้องแบบไหน? กล้องติดรถยนต์ทุกประเภทท่านหนึ่งท่ีได้ถอยรถไปชนรถของคู่กรณีและอ้างว่าคู่กรณี ท่ีใช้ติดต้ังภายในรถยนต์ที่สามารถบันทึกภาพเคล่ือนไหวมาชนทา้ ยรถของตนเอง เหตกุ ารณน์ มี้ ผี ใู้ ชก้ ลอ้ งมอื ถอื บนั ทกึ แต่ไม่รวมถึงอุปกรณ์อื่นที่น�ำมาดัดแปลงเพื่อให้มีลักษณะไวไ้ ดท้ �ำใหม้ หี ลกั ฐานยนื ยนั วา่ ดเี จคนดงั กลา่ วไดถ้ อยรถมาชน การใช้งานเชน่ เดียวกับกลอ้ งตดิ รถยนต์ และไม่มีการก�ำหนดรถของคกู่ รณอี ยา่ งแรง เม่อื ลองคดิ ยอ้ นดวู ่าหากไม่มผี ้บู ันทกึ มาตรฐาน คุณภาพ ราคา ของกล้องติดรถยนต์ โดยติดต้ังเหตกุ ารณ์ดังกล่าวไว้ อกี ทั้งรถของคูก่ รณีเองกไ็ ม่ได้ตดิ กลอ้ ง ไว้เพยี งดา้ นหนา้ ของรถยนต์คันเอาประกันภัยก็ได้หนา้ รถ กอ็ าจจะท�ำใหผ้ ู้กระท�ำผดิ ไมย่ อมรับผิดได้โดยง่าย ผู้เอาประกันภัยใช้ภาพถ่ายการติดต้ังกล้องติด นอกจากนี้การท�ำงานด้านความม่ันคงและรักษา รถยนตเ์ ปน็ หลกั ฐานสง่ ใหบ้ รษิ ทั ประกนั ภยั ซงึ่ บรษิ ทั ประกนัความสงบเรยี บร้อย กลอ้ งหน้ารถยนตอ์ าจจะสามารถบนั ทกึ ภยั จะน�ำไปเปน็ สว่ นลดเบี้ยประกัน ไมน่ อ้ ยกว่า ๕ แต่ไมเ่ กนิเหตุการณ์ส�ำคัญที่สามารถน�ำมาเป็นหลักฐานและหาตัว รอ้ ยละ ๑๐ ของเบ้ยี ประกันภยั สุทธิผู้กระท�ำผิดได้ อย่างกรณีของการวางระเบิดที่สี่แยก ส่วนลดดังกล่าวส�ำหรับผู้ที่ได้รับการคุ้มครองตั้งแต่ราชประสงค์ ใกล้กับศาลท้าวมหาพรหม ท่ีกล้องหน้ารถ วันที่ ๓ มนี าคม ๒๕๖๐ เป็นตน้ ไป ผู้ท่ีได้จา่ ยเบี้ยประกนั ไปสามารถบนั ทกึ เหตกุ ารณไ์ วไ้ ด้ และน�ำไปสกู่ ารขยายผลตอ่ ไป แล้วและยังไม่ได้ลดเบี้ยประกันในกรณีน้ี สามารถแจ้งให้  รหู้ รือไมว่ ่า การตดิ กล้องหน้ารถยนต์นอกจาก บรษิ ทั เพอ่ื รบั สว่ นลดเบย้ี ดงั กลา่ วได้จะมปี ระโยชน์ในการใช้เป็นหลกั ฐานแล้ว ยังสามารถลดเบีย้ ประกันได้ ๕ – ๑๐ เปอร์เซ็นต์ โดยทางคณะกรรมการ รู้แบบน้ีแล้วก็หนั มาติดกล้องหน้ารถกนั เถอะ ISAB 7

จีนฮ่อ... หรือชาวจีนยูนนาน เป็นกลุ่มชนเช้ือสายจีนที่อาศัยอยู่ในมณฑลยูนนานซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ชาวจีนยูนนานได้เดินทางเข้ามาค้าขายในบริเวณภาคเหนือของประเทศไทยมาเปน็ เวลาชา้ นาน และมชี อ่ื เรยี กในภาษาลา้ นนาวา่“ฮอ่ ” จงึ เปน็ ทม่ี าของการเรยี กขานชาวจีนยูนนาน ในประเทศไทยว่า “จีนฮ่อ” ซ่ึงภายหลังจีนมีการเปลยี่ นแปลงการปกครองเปน็ ระบอบคอมมวิ นสิ ต์ ทางการจนี ไดก้ วาดลา้ งกองก�ำ ลงั และกลมุ่ คนทเ่ี ปน็ ปฏปิ กั ษก์ บั ฝา่ ยคอมมวิ นสิ ต์ ซง่ึ บางส่วนเป็นกลุ่มชนเชื้อสายจีนยูนนาน จึงอพยพลี้ภัยเข้ามาต้ังถิ่นฐานบริเวณพรมแดนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และประเทศไทยในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำ�ปาง และพะเยา สำ�หรับภาษาทใี่ ชใ้ นชวี ติ ประจ�ำ วนั ของชาวจนี ฮอ่ คอื ภาษาจนี อนิ หนา่ นหวา่ ซงึ่ จดั อยใู่ นตระกลู จนี - ทเิ บตด้านสิทธิและสถานะของชนกลุ่มน้อยกลุ่มจีนฮ่ออิสระ (ไม่ใช่กลุ่มอดีตทหารจีนคณะชาติและจีนฮ่ออพยพพลเรือน) มตคิ ณะรฐั มนตรี เมอ่ื วนั ท่ี ๒๙ สงิ หาคม ๒๕๔๓ เหน็ ชอบก�ำ หนดสถานะให้จีนฮ่ออิสระท่อี พยพเข้ามาในประเทศไทยเป็นบุคคลที่เข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย (ถือใบสำ�คัญถิ่นท่ีอยู่และใบสำ�คัญประจำ�ตัวคนต่างด้าว) และบุตรท่ีเกิดในราชอาณาจักรไทยอาจได้สัญชาติไทยตามมาตรา๗ ทวิ วรรคสอง แหง่ พระราชบญั ญตั สิ ญั ชาติพ.ศ. ๒๕๐๘ และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี ๔)พ.ศ. ๒๕๕๑ ประกอบมติคณะรัฐมนตรีเม่ือวันท่ี ๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และมตคิ ณะรฐั มนตรี เมอื่ วนั ท่ี ๗ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๙