สารบัญ บทที่ 1-3 เน้อื หา1บทท่ี บทท่ี 1 ขอ้ มลู และการประมวลผล2 1.1 ขอ้ มลู3 1.2 การรวบรวมข้อมูล 1.3 การประมวลผลข้อมูล 1.4 การสรา้ งทางเลือกและตัดสินใจ 1.5 ซอฟตแ์ วร์จดั การข้อมูล บทท่ี 2 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ อยา่ งปลอดภัย 2.1 ภยั คกุ คามจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการปอ้ งกนั 2.2 การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ บทที่ 3 การเขียนโปรแกรมด้วย Scratch 3.1 รจู้ ักกบั โปรแกรม scratch 3.2 การทา้ งานแบบวนซ้าสามตวั แปร 3.4 การท้างานแบบมที างเลอื ก 3.5 คา้ สัง่ วนซ้าแบบมเี งอื่ นไข
2บทท่ี การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ อยา่ งปลอดภัย • ภัยคุกคามจากการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศและการป้องกัน • การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ จุดประสงค์ของบทเรยี น• อธบิ ายวธิ ีการปกปอ้ งขอ้ มูลส่วนตวั• วเิ คราะห์ผลกระทบจากการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ• อภปิ รายวิธกี ารใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั• น้าสือ่ หรือแหล่งขอ้ มลู ไปใช้ใหถ้ กู ตอ้ งตามขอ้ ตกลงการใชง้ าน
การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศมีบทบาทส้าคัญและส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกๆด้าน ทุกคนในสังคมต้องมีการปรับตัวและพัฒนาตนเองให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศ การใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศมีท้ังคุณและโทษ นักเรียนต้องศึกษาเพ่ือใช้งานได้อย่างรู้เท่าทันและสามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศด้านต่างอย่างสรา้ งสรรค์และมีจรยิ ธรรม
ทบทวนความรกู้ อ่ นเรยี น เขียนเคร่อื งหมาย / หนา้ ข้อความทถ่ี ูกต้อง ข้อมลู ชอ่ื ทีอ่ ยู่ และหมายเลขโทรศพั ทข์ องนกั เรยี น เปิดเผยในส่อื สงั คมออนไลน์ได้ แชร์รหสั ผ่านของอเี มลใหเ้ พอ่ื นสนทิ เพอ่ื ปอ้ งกัน การลมื รหัสผา่ น ออกจากระบบเมอื่ เลกิ ใชง้ านคอมพวิ เตอรส์ าธารณะ
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั1. ภัยคกุ คามจากการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ และการป้องกนั การใชง้ านไอทโี ดยเชอ่ื มตอ่ กบั อนิ เทอร์เนต็ ช่วยให้ผูใ้ ชส้ ามารถตดิ ตอ่ สือ่ สาร และเข้าถึงข้อมูลจากแหล่งขอ้ มูลท่ีอยูท่ วั่ โลกได้สะดวกและรวดเร็ว แต่ในทางกลับกนั ถ้าใช้งานไมร่ ะมัดระวงั ขาดความรอบคอบอาจก่อให้เกิดปัญหาจากการคกุ คาม การหลอกลวงผา่ นเครือข่ายได้ นอกจากนีการเข้าถึงเนือหาท่ีไม่เหมาะสมก็สร้างปัญหาด้านสังคมให้กับเยาวชนจ้านวนมาก ดังนันการเรียนรู้การใช้งานไอทีอย่างเหมาะสมและปลอดภยั จึงมีความจ้าเป็นอย่างยิง่
1.1 วิธกี ารคกุ คาม ภัยคุกคามทีม่ าจากมนษุ ย์นนั มีหลากหลายวธิ ี โดยมีตังแต่การใช้ความรขู้ ันสูงด้านไอที ไปจนถงึ วิธี ที่ไม่จ้าเป็นตอ้ งใชค้ วามรแู้ ละความสามารถทางเทคนคิ เช่น 1) การคกุ คามโดยใช้หลักจติ วิทยา เปน็ การคุกคามท่ีใช้การหลอกลวงเพื่อใหไ้ ด้ข้อมูลทต่ี ้องการ โดยไม่ตอ้ งใช้ความรคู้ วามชา้ นาญดา้ นไอทีเชน่ การใชก้ ลวธิ ีในการหลอกให้ได้รหสั ผา่ นหรอื ส่งข้อมลู ที่สา้ คัญให้ โดยหลอกวา่ จะได้รบั รางวลั แตต่ ้องท้าตามเงอื่ นไขซึ่งส่ิงท่ีเกดิ ขนึ อาจปอ้ งกันได้ยากเพราะเกิดจากความเชอ่ื ใจ แต่ป้องกันไดโ้ ดยใหน้ กั เรยี นระมัดระวงั ในการให้ขอ้ มลู ส่วนตวั กับบคุ คลใกลช้ ิดหรอื บคุ คลอนื่
การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย1.1 วิธีการคุกคาม 2) การคกุ คามดว้ ยเนื้อหาทไี่ ม่เหมาะสม ข้อมลู และเนอื หาทม่ี ีอยู่ในแหล่งต่างๆบนอินเทอร์เน็ตมีเป็นจ้านวนมาก เพราะสามารถสร้างและเผยแพร่ได้ง่าย ท้าให้ข้อมูลอาจไม่ได้รับการตรวจสอบ ความถูกต้องและความเหมาะสม ดังนันข้อมูลบางส่วนอาจก่อให้เกิดปัญหากับนกั เรียนได้ตัวอยา่ งแหลง่ ขอ้ มูลและเนือหาท่ไี มเ่ หมาะสม เช่น แหล่งขอ้ มลู เก่ียวกับการใชค้ วามรุนแรง การยยุ งใหเ้ กิดความว่นุ วายทางสงั คม การพนนั สอื่ ลามก อนาจาร เนือหาหม่นิ ประมาท การกระท้าท่ผี ดิ ต่อกฎหมายและจรยิ ธรรม
3) การคกุ คามโดยใชโ้ ปรแกรม เป็นการคุกคามโดยใช้โปรแกรมเป็นเคร่ืองมือส้าหรับก่อปัญหาดา้ นไอที โปรแกรมดังกล่าวเรียกว่า มัลแวร์(malicious Software:malware) ซ่ึงมีหลายประเภท เช่น ไวรัสคอมพิวเตอร์ เปน็ โปรแกรมที่เขยี นดว้ ย เจตนารา้ ย ทา้ ใหผ้ ู้ใชง้ านเกดิ ความรา้ คาญหรอื ก่อใหเ้ กดิ ความเสียหายต่อขอ้ มูลหรือระบบ โดย ไวรัสคอมพิวเตอรจ์ ะตดิ มากับไฟล์ และสามารถ แพรก่ ระจายเมอื่ มกี ารเปดิ ใชง้ านไฟล์ เวริ ์ม (worm) เปน็ โปรแกรมทีส่ ามารถแพร่ กระจายไปสู่เครื่องคอมพิวเตอร์เคร่ืองอ่นื ใน เครือขา่ ยดว้ ยตัวเองและกอ่ ใหเ้ กดิ ความ เสียหายทร่ี ุนแรง เช่น โคด้ เรด (Code Red)
การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั1.1 วิธกี ารคุกคาม ประตูกล (backdoor/trapdoor) เป็นโปรแกรม ทมี่ กี ารเปดิ ช่องโหวไ่ ว้เพื่อให้ผู้ไม่ประสงคด์ ีสามารถ ไปคุกคามผา่ นทางระบบเครือขา่ ย โดยไมม่ ีใครรบั รู้ บริษัทรับจ้างพัฒนาระบบสารสนเทศบางแห่งอาจ ตดิ ตังประตกู ลไวเ้ พ่อื ดงึ ขอ้ มูล หรอื ความลบั ของ บรษิ ัทโดยที่ผู้วา่ จ้างไมท่ ราบม้าโทรจนั (trojan horse virus) เปน็ โปรแกรมเพ่ือหลอกลวงใหต้ ิดตงั และเรียกใช้งาน เชน่ ท้าลายข้อมลู หรือล้วงข้อมลู ท่เี ปน็ ความลับ ระเบิดเวลา (logic bomb) เปน็ โปรแกรมทจ่ี ะ เริ่มท้างานโดยมีตัวกระตุน้ บางอยา่ งหรอื กา้ หนด เงื่อนไขการท้างานบางอยา่ งขนึ มา เชน่ แอบส่ง ข้อมูลออกไปยังเคร่อื งอนื่ หรือลบไฟลข์ อ้ มลู ทิง
โปรแกรมดักจับข้อมลู หรือสปายแวร์ เปน็ โปรแกรมทแี่ อบขโมยข้อมูลเพอ่ื นา้ ไปใชแ้ สวงหา ประโยชน์ เชน่ เกบ็ ข้อมูลการใชง้ านอนิ เทอรเ์ นต็ เพ่อื นา้ ไปใชใ้ นการโฆษณา เกบ็ ขอ้ มูลรหัสผา่ นเพอ่ื น้าไปใช้ในการโอนเงนิ ออกจากบญั ชผี ู้ใช้โปรแกรมโฆษณา เป็นโปรแกรมแสดงโฆษณาหรือดาวน์โหลดอตั โนมตั หิ ลังจากที่เครื่องติดตงั โปรแกรมที่มีแอดแวร์แฝงอยู่ บางตัวอาจคอยดักจบั ขอ้ มลู ของผใู้ ช้งานโปรแกรมเรียกคา่ ไถ่ เปน็ โปรแกรมขดั ขวางการเขา้ ถงึ ไฟลข์ อ้ มูลในคอมพิวเตอร์หรอื โทรศพั ทด์ ้วยการเขา้ รหัส จนกวา่ ผ้ใู ชจ้ ะจา่ ยเงินให้ผ้เู รยี กค่าไถ่ จึงจะไดร้ ับรหัสผ่านเพอ่ื ท่จี ะสามารถใช้งานไฟลน์ ันได้
การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยัชวนคดิ1. การหลอกลวงแบบฟชิ ชิง (phishing) มีลักษณะ เป็นอย่างไร นักเรยี นมวี ธิ กี ารปอ้ งกนั อยา่ งไร2. หากมเี พื่อนแชร์ข้อมูลของนักเรยี นในทางเสยี หายและ ไมเ่ ปน็ ความจรงิ นักเรียนคดิ ว่ามีผลกระทบกบั ตัวนักเรยี น หรือไมอ่ ย่างไร และนกั เรยี นจะแกป้ ัญหานีอยา่ งไร3. นกั เรยี นเหน็ เพอื่ นนา้ เสนอข้อมลู ของผ้อู ืน่ ทางเครอื ข่าย สงั คมออนไลน์ แล้วนักเรียนแชรต์ อ่ โดยไม่ได้ตรวจสอบ ขอ้ มลู นกั เรยี นคดิ ว่ามผี ลกระทบกบั ตวั นกั เรียน เพ่ือน และผเู้ สียหายหรือไม่อย่างไร มีวิธีป้องกนั ไม่ให้เกดิ เหตกุ ารณ์ดังกล่าวอยา่ งไร
1.2 รูปแบบการปอ้ งกันภยั คกุ คาม แนวคดิ หนึง่ ที่ใช้สา้ หรบั การปอ้ งกนัภยั คกุ คามด้านไอที คอื การตรวจสอบ และยนื ยนั ตวั ตนของผู้ใช้งานก่อนการเรม่ิ ต้นใชง้ าน การตรวจสอบเพื่อยืนยันตวั ตนของผู้ใช้สามารถด้าเนินการได้ 3 รปู แบบดังนี ตรวจสอบจากส่ิงทีผ่ ู้ใชร้ ู้ เปน็ การตรวจสอบตวั ตนจากสงิ่ ท่ีผู้ใชง้ านรู้ แตเ่ พยี งผเู้ ดยี ว เชน่ บัญชรี ายช่ือผ้ใู ชก้ ับรหัสผา่ น หากนกั เรยี นลืมรหัสผา่ น สามารถ ตดิ ตอ่ ผู้ดูแล เพ่อื ขอรหัสผา่ นใหมไ่ ด้
การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั1.2 รูปแบบการป้องกันภัยคกุ คาม ตรวจสอบจากสิง่ ท่ผี ู้ใช้มี เป็นการตรวจสอบตัวตนจากอปุ กรณ์ ทผ่ี ใู้ ชง้ านต้องมี เช่น บตั รสมาร์ตการด์ โทเกน้ ตรวจสอบจากสง่ิ ท่เี ป็นสว่ นหนง่ึ ของผู้ใช้ เปน็ การตรวจสอบข้อมลู ชวี มาตร (biometrics) เชน่ ลายนวิ มอื มา่ นตา ใบหน้า เสียง การตรวจสอบนี ที่มีประสทิ ธิภาพสูงสดุ แตม่ คี ่าใชจ้ า่ ยที่สูง
1.3 ข้อแนะนาในการต้ังและใช้งานรหสั ผา่ น การกา้ หนดรหัสผา่ นเป็นวิธกี ารตรวจสอบตัวตน ท่นี ยิ มมากท่ีสุด เนอื่ งจากว่าเปน็ วิธที ี่ง่ายและค่าใช้จา่ ยตา่้ เมอ่ื เทยี บกบั วธิ อี ืน่ สง่ิ ทคี่ วรคา้ นงึ ถงึ ในการก้าหนดรหสั ผา่ น ใหม้ ีความปลอดภยั มดี ังนี
การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั1.3 ข้อแนะนาในการตั้งและใชง้ านรหสั ผ่าน
กิจกรรมที่11 วิเคราะห์และยกตัวอยา่ งวิธกี ารที่ผไู้ มป่ ระสงค์ดี สามารถหลอกลวงเพอ่ื ให้ไดข้ ้อมลู ส่วนตวั ของนักเรยี น หรอื ทา้ ลายขอ้ มลู ของนกั เรยี น และระบุวธิ กี ารปอ้ งกัน ตังรหสั ผา่ นของตนเองโดยมีความยาว 8-12 ตัวอกั ษร2 และทดสอบกับเว็บไซต์ทใ่ี ห้บรกิ ารตรวจสอบ หากผลลพั ธ์ไดใ้ นระดับน้อยแสดงวา่ รหสั ผ่านง่าย ให้นกั เรียนเปลย่ี นรหสั ผ่านใหม่ จนกว่าจะได้ระดบั ปานกลาง-มาก
การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย2. การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ การใชง้ านไอทีเป็นเรื่องใกลต้ วั ของทุกคน อยา่ งไรก็ตามการใช้งานไอทีอาจสง่ ผลกระทบตอ่ ผ้ใู ช้งาน ดงั นนั การเรียนรู้ การทา้ ความเข้าใจเง่ือนไขการใช้งานจงึ เป็นส่งิ ส้าคญัชวนคิด 1. นกั เรยี นคดิ ว่าการตดิ ตงั โปรแกรม หรือแอพพลเิ คชน่ั ต่างๆ บนเครือ่ งคอมพวิ เตอร์ หรอื สมาร์ทโฟนมขี ันตอนอยา่ งไร 2. นักเรียนมีการเตรยี มความพรอ้ มกอ่ นการตดิ ตังโปรแกรม หรอื ไม่ อยา่ งไร 3. นกั เรียนได้อ่านเงอ่ื นไข หรอื ข้อตกลง ในการใช้งานโปรแกรม/เวบ็ ไซต์ หรอื ไม่ เพราะเหตุใด
การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั2.1 การศึกษาเงือ่ นไขการใช้งาน การใชง้ านไอทีในปัจจบุ นั มีทังแบบมีค่าใช้จา่ ยและไม่มคี า่ ใชจ้ า่ ย แต่ทกุ การให้บริการล้วนเงือ่ นไขทงั สิน เวบ็ ไซต์และแอปพลเิ คชนั ตา่ งๆ จะมีการแจ้งเง่ือนไข การตดิ ตังและใชง้ านให้ผใู้ ช้ทราบก่อนเสมอ อาจรวมถงึ คา่ ใชจ้ า่ ยในการใช้งาน ซงึ่ ช้าระด้วยเงินหรอื ต้องกรอกข้อมูล หรอื ตอบค้าถามเปน็ การแลกเปล่ยี น เช่น ข้อก้าหนดทตี่ อ้ งรบั โฆษณาในชว่ งของการใช้งาน การอนุญาตผู้ใหบ้ ริการเข้าถึงภาพถา่ ย หรือข้อมูลรายช่ือ ท่ีอยใู่ นสมาร์ตโฟนของผู้ใช้ ดังนนั นักเรียนควรอ่าน และทา้ ความเข้าใจเงอ่ื นไขกอ่ นการตดิ ตังและใช้งาน
ชวนคิด ทรพั ย์สินทางปญั ญาคืออะไร ให้ยกตวั อย่างผลิตภัณฑ์ หรือส่งิ ประดิษฐท์ เ่ี ป็นทรพั ย์สินทางปัญญา
การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย สญั ญาอนญุ าตครเี อทีฟคอมมอนส์ (Creative Commons: CC) การใชง้ านไอทีหรืองานตา่ งๆ ที่มีลิขสิทธิอ์ าจมีคา่ ใช้จา่ ย ซงึ่ ท้าให้ เกิดปญั หาและปิดโอกาสในการ เรยี นรู้ องค์กรครีเอทีฟคอมมอนส์ จึงพัฒนาสญั ญาอนญุ าตที่ทา้ ให้ผ้ใู ช้ สามารถใชง้ าน เผยแพร่ ผลงาน ภายใตเ้ งือ่ นไขท่ีกา้ หนด โดยไมต่ อ้ งเสยี ค่าใช้จ่าย และเปน็ การเพ่มิ โอกาสการเรียนรู้ แตย่ ังคงไว้ซ่งึ ผลประโยชนแ์ ละการรับรขู้ องเจ้าของผลงาน นักเรยี นสามารถหารายละเอียดเพ่ิมเตมิ ไดท้ ่ีเวบ็ ไซต์http://www.creativecommons.org
ขอ้ ก้าหนดในการใชผ้ ลงานต่างๆ จะแทนด้วยสญั ลกั ษณ์ เชน่ หมายถึง เผยแพร่และดดั แปลงได้ แต่ต้องอา้ งอิงแหลง่ ทมี่ าของผลงาน หมายถงึ เผยแพรแ่ ละดัดแปลงได้ แตต่ อ้ งอ้างองิ แหลง่ ทม่ี า และยนิ ยอม ให้ผู้อื่นน้าไปใช้ หรอื เผยแพร่ตอ่ ได้ หมายถงึ สามารถเผยแพรไ่ ด้ ห้ามดดั แปลง แต่ต้องอา้ งอิงแหล่งที่มา หมายถงึ สามารถเผยแพร่ได้ แต่ต้องอา้ งองิ แหล่งที่มา หา้ มน้าไปใช้ เพ่อื การค้า
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั2.2 การปกป้องความเปน็ สว่ นตัว ความเป็นส่วนตัว (privacy) เป็นสิทธพิ ืนฐานของมนุษยท์ กุ คน ความเปน็ สว่ นตัวของขอ้ มลู และสารสนเทศเจา้ ของสามารถปกป้องและควบคมุ การเปิดเผยข้อมูลของตนเองให้กบั ผ้อู ืน่ และสาธารณะได้ การเข้าถงึ ขอ้ มูลในเอกสารหรือสือ่ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ของผู้อืน่ โดยไมไ่ ดร้ ับอนุญาตเปน็ การละเมิดความเปน็ สว่ นตวัเช่น เว็บไซต์หรอื แอปพลิเคชนั ทตี่ ดิ ตามความเคล่ือนไหวของผใู้ ชง้ าน นอกจากการถูกละเมดิ ความเปน็ สว่ นตวั จากผู้อ่ืนแล้วผูใ้ ชอ้ าจยนิ ยอมทจ่ี ะเปดิ เผยข้อมลู สว่ นตวั ของตนเองเนอื่ งจากการรเู้ ท่าไม่ถึงการณ์จะกอ่ ให้เกดิ ปัญหาในอนาคต และยากตอ่ การกลับมาแก้ไข
ชวนคิด หากมอี เี มล หรือขอ้ ความจากส่ือออนไลน์ สง่ มาจากคนท่ีไม่รจู้ ัก นักเรียนจะท้าอยา่ งไร2.3 แนวทางการใชไ้ อทีอย่างปลอดภัย การใชง้ านไอทเ่ี ปน็ ส่วนหนึง่ ในการด้าเนนิ กิจกรรมตา่ งๆ และส่งผลกระทบตอ่ ผใู้ ชง้ าน โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งการใช้งานไอทผี ่านสมาร์ตโฟนทีม่ กั มีแอปพลิชันจา้ นวนมาก ให้เลือกตดิ ตงั ไดฟ้ รีภายใตเ้ งือ่ นไขบางประการ ซึ่งหลายคนมักละเลยในการอา่ นเง่อื นไขผใู้ ชง้ านจ้าเปน็ ตอ้ งเขา้ ใจในประเด็น ดงั นีศึกษาเงือ่ นไข ขอ้ ตกลงกอ่ นการติดตงั หรอื ใช้งานไอที มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และความสามารถในการใช้ ไอที เพอ่ื ใหใ้ ชง้ านได้อยา่ งถกู ต้อง และมปี ระสิทธภิ าพ หลีกเลย่ี งการใชง้ านเวบ็ ไซตท์ ไี่ ม่เหมาะสม หรอื ไม่ แนใ่ จว่าเป็นของหน่วยงานใด
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยเข้าใจกฎกติกา และมารยาททางสังคมในการใช้ไอทีเพราะจะช่วยป้องกันปญั หาต่างๆที่อาจเกิดขึนโดยไม่ได้ตังใจ เชน่ การเรียนรู้ การใชอ้ กั ษรยอ่ การใชส้ ญั ลกั ษณ์ ไม่ใชบ้ ญั ชีผใู้ ช้ร่วมกับผ้อู นื่ เนื่องจากไมส่ ามารถควมคุม ความปลอดภัยได้ และเส่ียงตอ่ การรัว่ ไหลของรหัสผา่ น และขอ้ มลู ส่วนตวัระวังการใช้งานไอทเี ม่ืออยู่ในท่สี าธารณะ เช่น ไม่เช่ือมตอ่ WiFi โดยอัตโนมตั ิ ไม่จดจอ่ โทรศพั ท์เคลื่อนทโี่ ดยไมส่ นใจสิง่ ท่เี กิดขนึ รอบตวั ซงึ่ อาจตกเปน็ เหยอื่ มิจฉาชีพหรอื ทา้ ให้เกดิ อบุ ตั เิ หตไุ ด้ สา้ รองขอ้ มูลอยา่ งสมา่้ เสมอ และเกบ็ ไวห้ ลายแหล่ง เมื่อมเี หตุการณ์ที่ทา้ ใหไ้ ฟลข์ ้อมลู สญู หาย เช่น ขอ้ มูล โดนไวรัส เครอ่ื งคอมพิวเตอร์เสียหาย สามารถน้าข้อมลู ท่ีส้ารองไว้มาใช้งานได้
ตดิ ตงั ซอฟตแ์ วรเ์ ท่าท่ีจา้ เป็น และไมต่ ดิ ตังโปรแกรม ท่ีดาวนโ์ หลดจากแหลง่ ที่ไม่น่าเชอ่ื ถือ เพอ่ื ปอ้ งกันมลั แวร์ ที่แฝงมากบั โปรแกรมปรับปรุงระบบปฏบิ ตั ิการ โปรแกรมต่างๆใหท้ ันสมยัอยเู่ สมอ เช่น โปรแกรมแกไ้ ขจุดบกพร่องของระบบปฏบิ ตั ิการท่ีเรยี กว่า อัปเดต (update) หรอื แพทช์โปรแกรมป้องกันไวรัส ซึ่งโปรแกรมจะมีการเพม่ิ เติมความสามารถในการ ป้องกันไวรัสใหมๆ่ ท้าใหอ้ ุปกรณ์และขอ้ มูลใช้งานไดอ้ ย่างปลอดภยั สงั เกตสงิ่ ผิดปกติทเ่ี กิดขนึ จากการใชง้ าน เชน่ มี โปรแกรมแปลกปลอม ได้รับอีเมลจากคนทไ่ี ม่รู้จัก
การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย ชวนคดิ 1. การตดิ ตอ่ สอื่ สารออนไลน์ ในบางครงั อาจใชส้ ัญลักษณ์หรอื อักษรย่อแทนการพิมพข์ อ้ ความ เพอื่ สื่อความหมาย เช่น LOL หมายถึงการหัวเราะ ใหน้ ักเรยี นหาสญั ลักษณ์หรืออักษรยอ่ อืน่ ๆ ท่ีใช้ ในการสือ่ สาร 2. นักเรยี นจะส้ารองขอ้ มูลอยา่ งไรและควรจะส้ารองขอ้ มูลถ่ี มากน้อยเพยี งใด 3. ถา้ เพือ่ นของนกั เรยี นติดเกมและชอบซอื ของออนไลน์ นักเรยี นคิดวา่ เป็นพฤตกิ รรมท่ีควรส่งเสริมหรอื ไม่ อาการ เหลา่ นีเรียกว่าอะไร และจะแนะน้าเพื่อนอยา่ งไร2.4 การใชไ้ อทอี ยา่ งสร้างสรรค์ คอื การใช้งานไอทใี ห้เกิดประโยชน์อยา่ งเหมาะสมเพราะไอทชี ว่ ยใหเ้ ขา้ ถงึ ข้อมูลและเนอื หาจา้ นวนมากอยา่ งรวดเร็ว ดังนนั ตอ้ งวเิ คราะห์ เนอื หาและสิง่ ตา่ งๆทไ่ี ด้รบั วา่ มีความน่าเชอ่ื ถอื มากน้อยเพยี งใด เพื่อคดั กรองและนา้ ไปใช้ประโยชน์อยา่ งสรา้ งสรรคแ์ ละมีคุณค่า
กจิ กรรมท่ี2ใหน้ ักเรยี นอภิปรายประเดน็ ต่อไปนี้1. การสรปุ เนือหาของผู้อ่นื ท่ีได้อ่านมาแลว้ บอกถงึ แหล่งท่มี าถือว่าสามารถท้าได้โดย ไมเ่ ปน็ การละเมดิ ลิขสทิ ธใ์ิ ช่หรอื ไม่ เพราะเหตุใด 2. การโพสตข์ อ้ ความ รปู ถา่ ย และเช็คอนิ สถานที่ในสื่อสงั คมออนไลน์ เช่น เฟซบุก๊ นับวา่ เปน็ การเปิดเผยขอ้ มลู ความเปน็ ส่วนตวั หรือไม่ เพราะเหตุใด3. การถา่ ยคลปิ วิดีโอขณะเพอื่ นหลบั ในชนั เรยี นแล้วน้าไปเผยแพรใ่ นยทู ปู ถอื ว่าเปน็ การละเมดิ ความเปน็ สว่ นตัว หรือไม่ เพราะเหตุใด 4. ท้าไมการละเมดิ ลขิ สิทธ์จิ ึงถือวา่ เป็นการก่ออาชญากรรม
กิจกรรมทา้ ยบท สถานการณ์ สมมติวา่ “โทรศัพทม์ อื ถือของนักเรยี นหาย”ให้นักเรียนระดมความคดิ เห็นในกลุ่มเพือ่ หาวธิ ปี อ้ งกันความปลอดภยั ของข้อมลู สว่ นตวั ทอี่ ยูใ่ นโทรศพั ท์ นกั เรยี นจะมีวธิ ปี อ้ งกนั ความเปน็ สว่ นตวั และความปลอดภัยของข้อมูลอยา่ งไร ก่อนโทรศพั ท์จะหาย นักเรียนจะมวี ิธีป้องกันความเปน็ ส่วนตวั และความปลอดภยั ของข้อมูลอย่างไร หลงั จากโทรศัพท์หาย หากผูอ้ ื่นใช้โทรศัพท์ของนกั เรียนโพสตข์ ้อความทที่ าให้เสยี หายจะมีวธิ แี ก้ปัญหาอย่างไร นักเรียนควรเกบ็ ขอ้ มลู ความลับของตนเองไว้ในโทรศัพท์หรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด
แบบฝกึ หดั ทา้ ยบท1. ปัจจุบันหุ่นยนตส์ ามารถทา้ งานอัตโนมตั ิ โดยปราศจากการมีสว่ นรว่ ม ของมนุษย์ หากเกดิ ปญั หาขึนนักเรยี นคิดวา่ ผู้ใดจะเป็นผ้รู บั ผิดชอบ 2. บอกขอ้ ดีและขอ้ เสยี ของโดรน (Drone) หรอื อากาศยานไร้คนขบั นักเรียนคิดว่าควรปฏบิ ัตอิ ยา่ งไรในการใช้โดรน แล้วแสดงความ คิดเหน็ ถงึ จริยธรรมของผู้พฒั นาซอฟตแ์ วร์เพอื่ ควบคมุ การทา้ งาน3. กลอ้ งวงจรปดิ ท่ตี ดิ ตงั ในพนื สาธารณะ มขี อ้ ดีและขอ้ เสียอย่างไรบา้ ง
แบบฝกึ หดั ทา้ ยบท(ตอ่ )4. มเี ทคโนโลยที เี่ ป็นอุปกรณ์หรือแอปพลิเคชนั ใดบา้ ง ที่นกั เรยี นคดิ ว่า มผี ลกระทบกับความ เป็นสว่ นตวั ของบุคคลในด้านต่างๆ เชน่ ชวี ิต ความเป็นอยู่ การท้างาน การระบุต้าแหนง่ ท่อี ยู่ และความสมั พนั ธ์ ระหว่างบุคคล 5. ใหน้ ักเรยี นสบื คน้ ขอ้ มลู เกย่ี วกับซอฟต์แวร์แบบใชไ้ ดโ้ ดยเสรี (freeware) ซอฟต์แวร์แบบทดลองใช้ (shareware/trialware) มีลขิ สทิ ธิ์การใชง้ านแตกต่างกนั อยา่ งไร
Search
Read the Text Version
- 1 - 34
Pages: