1 บทที่ 1 ชุมชนย่านซื่อ ความเป็นมาของต าบลย่านซื่อหรือหมู่บ้านในลุ่ม ต ำบลย่ำนซื่อ เป็นต ำบลหนึ่งใน 10 ต ำบลของอ ำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ต ำบลย่ำนซื่อ มีผู้เล่ำให้ฟังว่ำ เมื่อสมัยก่อนได้มีชำวจีนจำกโพ้นทะเลกลุ่มหนึ่งได้อพยพมำ โดยล่องเรือมำตำมแม่น ้ำตรังเรื่อยมำ เมื่อมำถึง เห็นท ำเลที่ตั้งที่เหมำะสมก็ได้ขึ้นฝั่งที่บริเวณแม่น ้ำตรัง จำกนั้นก็ได้ชักชวนพรรคพวกที่เดินทำงมำด้วยกันตั้ง ถิ่นฐำนบริเวณแม่น ้ำตรัง โดยได้ตั้งบ้ำนเรือนที่อยู่อำศัยในลักษณะเรียงต่อๆ กันไปในแนวเดียวกันชำวบ้ำน จึงเรียกว่ำ 'บ้ำนย่ำนซื่อ' หรือ 'ต ำบลย่ำนซื่อ' ในปัจจุบัน และในต ำบลย่ำนซื่อก็จะแยกเป็นหมู่บ้ำนออกไป มีทั้งหมด 4 หมู่ และในแต่ละหมู่บ้ำนก็จะมีที่มำของชื่อหมู่บ้ำนตำมทิศทำงกำรตั้งถิ่นฐำนและตำมลักษณะ ของท ำเลที่ตั้งถิ่นฐำน หมู่ที่ 1 บ้านโคกทราย เป็นกำรเรียกชื่อหมู่บ้ำนตำมลักษณะภูมิประเทศ กล่ำวคือ ได้มีชำวบ้ำนจ ำนวนหนึ่ง ได้มำตั้งถิ่นฐำนบริเวณที่ที่มีลักษณะเป็นเนินสูงๆ ต ่ำๆ ลักษณะพื้นดินส่วนมำกเป็นดินร่วนเป็นทรำย ชำวบ้ำนเลยเรียกว่ำ 'บ้านโคกทราย' จนถึงปัจจุบัน หมู่ที่ 2 บ้านตก เป็นกำรเรียกชื่อหมู่บ้ำนตำมทิศของกำรตั้งถิ่นฐำน กล่ำวคือ ได้มีชำวบ้ำนจ ำนวนหนึ่งได้มำ ตั้งถิ่นฐำนทำงทิศตะวันตก ชำวบ้ำนเลยเรียกว่ำ 'บ้านตก' จนถึงปัจจุบัน หมู่ที่ 3 บ้านในลุ่ม เป็นกำรเรียกชื่อหมู่บ้ำนตำมลักษณะของท ำเลที่ตั้งถิ่นฐำน ได้มีชำวบ้ำนจ ำนวนหนึ่งได้มำ ตั้งถิ่นฐำนรวมกันในพื้นที่ที่เป็นที่ลุ่มริมแม่น ้ำตรัง ชำวบ้ำนเลยเรียกว่ำ 'บ้านในลุ่ม' จนถึงปัจจุบัน หมู่ที่ 4 บ้านทุ่งอิฐ เป็นกำรเรียกชื่อหมู่บ้ำนตำมลักษณะภูมิประเทศ กล่ำวคือ พื้นที่ส่วนมำกเป็นที่รำบ สภำพ ดินเป็นดินเหนียว ซึ่งดินเหนียวดังกล่ำวเหมำะแก่กำรน ำมำใช้ท ำอิฐดินเผำ ชำวบ้ำนจึงได้น ำดินเหนียว ดังกล่ำว มำท ำอิฐดินเผำส ำหรับสร้ำงบ้ำน ชำวบ้ำนเลยเรียกว่ำ 'บ้านทุ่งอิฐ' จนถึงปัจจุบัน
2 ค าขวัญประจ าต าบลย่านซื่อ ถิ่นครองย่ำนซื่อ ลือชื่อพ่อท่ำนอินทร์ อร่อยลิ้นขนมจำก จักสำนมำกเสวียนหม้อ เจ้ำพ่อแห่งฝีพำย หลำกหลำยวัฒนธรรม
3 โครงการหมู่บ้านในลุ่ม ชุมชนย่านซื่อ อ าเภอกันตัง หมู่บ้ำนในลุ่มหรือชำวบ้ำนจะเรียกหมู่บ้ำนปำกกัดตีนถีบ เป็นหมู่บ้ำนเล็กๆเป็นที่ลุ่มอยู่ติดกับแม่น ้ำ ตรังและอยู่ในชุมชนบ้ำนย่ำนซื่อ หมู่ 3 มีประชำกรรวมทั้งหมด 292 คน มีประชำกรที่อยู่จริงเพียง 148 คนที่ เหลือ 144 ได้ออกไปอยู่ต่ำงจังหวัด ภำยในหมู่บ้ำนมีเพียง 53 ครัวเรือน บ้ำนก็จะเป็นบ้ำนเก่ำแก่มีใต้ถุน อำจจะผุผังบ้ำงแล้ว บำงครอบครัวก็ก ำลังสร้ำงบ้ำนใหม่แต่ก็มีส่วนบ้ำนเก่ำอยู่ด้วย เป็นหมู่บ้ำนเล็กๆชำวบ้ำน จะมีผู้คนนับถือศำสนำพุทธส่ะส่วนใหญ่อำจจะมีอิสลำมบำงครอบครัว ภำยในเนื้อที่ในหมู่บ้ำนที่ลุ่มมีเนื้อที่ ทั้งหมด 153 ไร่เป็นที่อยู่อำศัย 50 ไร่ และพื้นที่เหลือจะเป็นสวนจำก 100 ไร่ ในตอนนี้ในหมูบ้ำนก็ก ำลัง ก่อสร้ำงถนนเพื่อสัญจรภำยในหมู่บ้ำน เป็นถนนคอนกรีต 98 เมตร และถนนลูกรัง 960 เมตร และทุกครั้ง ในช่วงฝนตกจะประสบปัญหำน ้ำท่วมบ่อยครั้งเพรำะเนื่องจำกหมู่บ้ำนอยู่ติดกับแม่น ้ำแต่ก็ไม่ค่อยจะได้รับ ควำมเสียหำยมำกเท่ำไรคนในหมู่บ้ำนจะประกอบอำชีพรับจ้ำงตัดจำก ลอกจำก และท ำสวน ส่วนใหญ่ แต่ ก็มกำรประมงหำปลำไว้เพื่อเลี้ยงชีพ ถ้ำหำกได้มำเยอะก็จะแบ่งขำยเป็นอีกส่วนรำยได้ของของคนในหมู่บ้ำน ส่วนใหญ่ได้จำกกำรรับจ้ำง ลอกจำก ตัดจำกส่ะส่วนใหญ่ ได้เงินต่อวันประมำณ 200 บำทบำงวันก็ได้น้อย เป็นรำยได้ที่ไม่แน่นอนท ำน้อยได้น้อยท ำมำกได้มำกถ้ำคนที่มีสวนก็จะมีสวนยำงพำรำงเป็นอำชีพหลัก กำร รับจ้ำงลอกจ้ำงก็ประมำณ 80 บำท ถ้ำสับจำก 1 มัดมัดละ 80 สตำงค์ ในหมู่บ้ำนย่ำนซื่อก็จะมีประเพณีแข่งขัน เรือยำวที่สืบทอดกันมำของชุมชนจะจัดขึ้นช่วงวันสงกรำนต์ในเดือนเมษำของทุกๆปี และมีงำนพ่อท่ำน อินทร์ที่จัดในวัดย่ำนซื่อ เพื่อสร้ำงควำมสำมัคคีของคนในหมู่บ้ำน ควำมสุขสนุกสนำน รอยยิ้มให้เป็นอัต ลักษณ์ของชุมชน
4 ประวัติคนในชุมชนย่านซื่อ นำยอ ำพัน ศรีสุวรรณ อำยุ 53 ปี (ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้ำนต ำบลย่ำนซื่อ หมู่ที่ 3) บ้ำนเลขที่ 51 หมู่ 3 ต ำบลย่ำนซื่อ อ ำเภอกันตัง จังหวัดตรัง อำชีพ ท ำสวน รำยได้ 10,0000 บำทต่อเดือน มีสมำชิกในครอบครัวทั้งหมด 4 คน นำงสำวปำริชำติ ผลิผล อำยุ 45 ปี (ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้ำนหมู่ 3) บ้ำนเลขที่ 44 หมู่ 3 ต ำบลย่ำนซื่อ อ ำเภอกันตัง จังหวัดตรัง อำชีพ ท ำสวน รำยได้ 10,0000 บำทต่อเดือน มีสมำชิกในครอบครัวทั้งหมด 4 คน
5 นำงมุ่ย สกอีน อำยุ 84 ป ี บ้ำนเลขที่ 21 หมู่ 3 ต ำบลย่ำนซื่อ อ ำเภอกันตัง จังหวัดตรัง อำชีพ รับจ้ำงลอกจำก รำยได้ 6,000 บำทต่อเดือนอำจจะน้อยกว่ำนี้ มีสมำชิกในครอบครัวทั้งหมด 2 คน นำงนีย์ เกลือนกลับ อำยุ 74 ป ี บ้ำนเลขที่ 15 หมู่ 3 ต ำบลย่ำนซื่อ อ ำเภอกันตัง จังหวัดตรัง อำชีพจักรสำน รำยได้ 6,000 บำทต่อเดือน มีสมำชิกในครัวเรือนทั้งหมด 1 คน
6 นำงด้วง วิประกำศิต อำยุ67 ป ี บ้ำนเลขที่ 8 หมู่ 3 ต ำบลย่ำนซื่อ อ ำเภอกันตัง จังหวัดตรัง อำชีพ บรรจุใบจำกเพื่อจ ำหน่ำย รำยได้ 8,000บำทต่อเดือน มีสมำชิกในครอบครัวทั้งหมด 3 คน นำงวรรณำ จิ้วตัน อำยุ 65ป ี บ้ำนเลขที่ 57 หมู่ 3 ต ำบลย่ำนซื่อ อ ำเภอกันตัง จังหวัดตรัง อำชีพ รับจ้ำงตัดจำก รำยได้ 6,000บำทต่อเดือน มีสมำชิกในครัวเรือนทั้งหมด 2 คน
7 นำงสำวสุชำดำ พรมรัก อำยุ 47 ป ี บ้ำนเลขที่ 24 หมู่ 3 ต ำบลย่ำนซื่อ อ ำเภอกันตัง จังหวัดตรัง อำชีพ รับจ้ำงทั่งไป รำยได้ 6,000บำทต่อเดือน มีสมำชิกในครัวเรือนทั้งหมด 5คน นำยวรรณวิช แซ่ฮัน อำยุ 59 ป ี บ้ำนเลขที่32หมู่ 3 ต ำบลย่ำนซื่อ อ ำเภอกันตัง จังหวัดตรัง อำชีพ ท ำจำก(เป็นเจ้ำของประมูลกำรท ำจำกของหมู่บ้ำน) รำยได้ 10,000บำทต่อเดือน มีสมำชิกในครัวเรือนทั้งหมด 7คน
8 ภำพกิจกรรม
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22 บทที่ 2 สวนผักสวัสดี ประวัติความเป็นมาสวนผักสวัสดี สวนผักสวัสดี เป็นต้นต ำรับกำรปลูกพืชไร้ดิน หรือ Hydroponics Farm ในเชิงพำนิชเจ้ำแรกของ ตรัง สวนผักสวัสดี มีทั้งแปลงผักและเมล่อน ซึ่งมีเนื้อที่รวมทั้งหมด 7 ไร่ ซึ่งมี นำยไกรภูมิ โตทับเที่ยงผู้ริเริ่มกำรปลูกผัก Hydroponics ในเชิงพำนิชเจ้ำแรกของตรังซึ่ง เริ่มปลูกผักเมื่อ ปี ๒๕๕๐ ตั้งอยู่ถนนห้วยยอด ถ้ำมำจำกห้วยยอดอยู่ทำงซ้ำยมือ ก่อนถึงทำงเข้ำจะเป็นป้ำยสถำนีวิทยุ หรือ เรียกอีกชื่อว่ำถนนโตทับเที่ยงรภูมิ โตทับเที่ยงผักที่ปลูกมี ผักกำดขำว กวำงตุ้ง คะน้ำ และผักสลัด ซึ่ง ประกอบด้วย กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค ฟิลเลย์ คอส บัตเตอร์เฮด และ เรดคอรัลซึ่งแบ่งระบบปลูกเป็น 2 ระบบ ใน น ้ำมีปุ๋ ย เป็นแม่ปุ๋ ย เป็นเกร็ดปุ๋ ยใช้โดยกำรละลำยน ้ำ ข้อดีคือน ้ำจะเย็น ในช่วงเมษำยน จะปลูกผักได้ไม่ดี ส่วนเมร่อนไม่ต้องใช้อุณหภูมิ ใช้เวลำปลูกประมำณ 70 วัน มะเขือเทศ ถ้ำไม่มีฝนจะปลุกไม่ยำก ส่วนมำกจะ เจอปัญหำในหน้ำร้อน นำยไกรภพ และไกรภูมิ 2 พี่น้อง ทำยำทตระกูลโตทับเที่ยง ลงหุ้นสร้ำงสวนผัก”สวัสดี” ด้วยกำร เนรมิตผืนดิน 6 ไร่ ตั้งอยู่ที่ถนนเพชรเกษม หมู่ที่ 5 ต ำบลนำท่ำมเหนือ อ ำเภอเมือง จังหวัดตรัง เป็นสวนผัก ไฮโดรโปนิกส์ปลูกผักไร้ดินฟำร์มใหญ่ที่สุดในภำคใต้ลงทุนกว่ำ 20 ล้ำน ส่งผักขำยในห้ำงใหญ่ ๆหลำยแห่ง ในภำคใต้ โดยมีกำรปลูกผักสลัด 7 ชนิด ปัจจุบันมี 4 โรงเรือน ผลผลิตผักไฮโดรโปนิกส์รำว 120-140ตัน/ปี หลังปลูกผักสวนครัวและผักไฮโดรโปนิกส์จนเริ่มอยู่ตัว ก็หันไปปลูกผลเมล่อนรำชินีแห่งพืชตระกูลแตง ซึ่ง เป็นผลไม้แถบทะเลทรำย รำวเดือนพฤษภำคม 2558 โดยเลือกใช้เมล็ดน ำเข้ำจำกประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีรสชำติ หวำนอร่อย กรอบ ใช้พื้นที่ปลูกหน้ำกว้ำง 6 เมตร ยำว 25 เมตร ปลูกแต่ละครั้ง 450-500 ต้น โดยกำรปลูกใน ถุงมีเส้นใยมะพร้ำวและปุ๋ ยรวมทั้งใช้น ้ำหยด ต้นโตเต็มที่สูง 2 เมตร ต้องใช้เชือกดึงหรือพยุงเถำให้สูงโดยระยะเวลำ 3 เดือน เมล่อนจะให้ผลผลิต ซึ่ง 1 ต้น ให้ผลเมล่อน 1 ผลเท่ำนั้น ส่วนกำรเพิ่มมูลค่ำผลเมล่อนคือกำรแกะสลักเป็นลวดลำยต่ำงๆตำมแบบ ที่ต้องกำร และตำมค ำสั่งซื้อของลูกค้ำที่จองผลเมล่อนเข้ำมำ พอเมล่อนโตเต็มที่จะมีลวดลำยบนผิวตำมที่ แกะสลักไว้ ช่วงเทศกำลวันวำเลนไทน์คู่รักก็จะสั่งซื้อผลเมล่อนให้กันโดยสั่งสลักค ำอวยพร, สลักชื่อ, มีรูป หัวใจชื่อคนที่รัก รำคำอยู่ที่ 200-250 บำท รวมค่ำขนส่งอีก 100 บำท ซึ่งเมล่อน 2 ลูกแรกที่แกะสลักถูก ประมูลไปเมื่อเดือนกุมภำพันธ์ ในรำคำลูกละ 7,000 และ 8,000 บำท
23 ส ำหรับสวนผักสวัสดีถูกสร้ำงขึ้นเมื่อ 8 ปีที่แล้วและในอนำคตยังศึกษำจะปลูกผลไม้ชนิดอื่นอีกด้วย เพรำะ ต้องกำรให้สวนผักสวัสดีเป็นสถำนที่ท่องเที่ยว มีผลไม้ในพื้นที่จังหวัดตรังวำงจ ำหน่ำยแบบซื้อกินในสวน ผักได้เลย นอกจำกนั้นยังมีคู่บ่ำวสำวมำขอถ่ำยภำพเวดดิ้งที่สวนผักสวัสดีแห่งนี้อีกด้วย
24 เนื้อที่ของการท าแปลงผักและจ านวนคนงาน -แปลงผัก 1 แถว ปลูกได้ 40 ต้น ตำย 1 เปอร์เซ็นต์ -คนงำน ทั้งหมด 12 คน ค่ำแรงขั้นต ่ำ 300 บำท โดยเริ่มเข้ำงำน ตี 4 เลิก 5โมงเย็น สถานที่จัดส่งและรายได้ -จัดส่ง โรบินสัน แมคโคร หำดใหญ่ -รำยได้ 2 ล้ำนบำท ต่อเดือน
25 ภาพกิจกรรม
26
27
28
29
30
31
32
33
34 ประวัติส่วนตัว นายไกรภูมิ โตทับเที่ยง นำยไกรภพ และไกรภูมิ 2 พี่น้อง ทำยำทตระกูลโตทับเที่ยง ลงหุ้นสร้ำงสวนผัก”สวัสดี” ด้วยกำร เนรมิตผืนดิน 6 ไร่ ตั้งอยู่ที่ถนนเพชรเกษม หมู่ที่ 5 ต ำบลนำท่ำมเหนือ อ ำเภอเมือง จังหวัดตรัง เป็นสวนผัก ไฮโดรโปนิกส์ปลูกผักไร้ดินฟำร์มใหญ่ที่สุดในภำคใต้ลงทุนกว่ำ 20 ล้ำน ส่งผักขำยในห้ำงใหญ่ ๆหลำยแห่ง ในภำคใต้ โดยมีกำรปลูกผักสลัด 7 ชนิด ปัจจุบันมี 4 โรงเรือน ผลผลิตผักไฮโดรโปนิกส์รำว 120-140ตัน/ปี
35 บทที่ 3 เตาถ่าน ตัวอย่างสินค้า ที่น่าสนใจของโรงงาน เตำประหยัดถ่ำน สำมำรถวำงหม้อได้ 7ขนำด ตั้งแต่เบอร์ 0-6 ควำมกว้ำง 12 มม.ควำมสูง 11 มม. เตำฟืน มี3 รุ่น สำมำรถใช้ฟืน-ถ่ำนได้ ฟืนเล็ก กว้ำง 12 มม. สูง 11 มม. / ฟืนรอง กว้ำง 14 มม. สูง 11 มม. / ฟืนใหญ่ กว้ำง 15.5 มม.สูง 13.5 มม.
36 ขั้นตอนที่1 เตรียมดิน กำรหมักดินเหนียว ดินเหนียวที่จะน ำมำใช้ ต้องสะอำด ไม่มีเศษไม้ เศษหิน ถ้ำเป็นก้อนใหญ่ก็ ควรทุบให้ ย่อยเป็นก้อนเล็ก ๆ ก่อนหมัก ควรตำกไว้ ให้แห้งอย่ำงน้อย 1 วัน แล้วน ำลงบ่อหมัก แช่ไว้ในน ้ำ นำน ประมำณ 12-24 ชั่วโมง จนดินอิ่มน ้ำอย่ำงทั่วถึงแล้วน ำมำเตรียมไว้ผสม ขั้นตอนที่2 กำรนวดและผสมดิน กำรนวดและผสมดิน น ำดินที่หมักแล้วมำนวดผสมกับ แกลบด ำ นวดจนเข้ำกัน( ส่วนใหญ่จะใช้เครื่องนวด ดินเพื่อเครื่องนวดผสมดิน และดินที่นวดแล้วควำมสะดวกและกำรผสมที่ดีกว่ำ) โดยทั่วไปจะใช้ดินเหนียว 2 ส่วน ต่อขี้เถ้ำ แกลบด ำ 1 ส่วนซึ่ง อัตรำส่วนผสมนี้ ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติ ของดินแต่ละแห่งด้วย ขณะนวด ผสมดินจะพรมน ้ำตำมไปด้วยเพื่อให้นวดได้ง่ำยขึ้น ส่วนผสมที่เข้ำกันดีแล้ว แล้วปิดด้วยพลำสติก หำกยัง ไม่ใช้ทันทีเพื่อไม่ให้ ดินผสมแห้งเกินไป
37 ขั้นตอนที่3 กำรจัดเตรียมแม่แบบพิมพ์และกำรปั้นขึ้นรูป กำรจัดเตรียมแม่แบบพิมพ์ส ำหรับท ำ เตำหุงต้มประสิทธิภำพสูงอำจต้องใช้ควำม สำมำรถเพิ่มมำกหน่อย โดยกำรปั้นขึ้นรูปหรือ หำวัสดุในท้องถิ่นมำจัดท ำเป็นแม่แบบพิมพ์ แม่แบบพิมพ์มี 2 ชนิด คือ - แม่แบบพิมพ์ภำยนอก ใช้ส ำหรับท ำตัวและส่วนฐำนเตำ - แม่แบบพิมพ์ใน ส ำหรับท ำปำกเตำ และเส้ำเตำ ก่อนท ำกำรปั้นและใช้แม่พิมพ์ทุกครั้ง จะต้องโรยขี้เถ้ำ รอบๆ แม่พิมพ์ก่อน ป้องกันดินเหนียวติดแม่แบบ และปั้นไม่ได้รูปทรง กำรปั้นขึ้นรูป และปรับแต่งเตำ - น ำดินที่หมักแล้วใส่ลงในแม่พิมพ์ภำยนอก ซึ่งวำงอยู่บนแท่นแล้วใช้มือตบปั้นขึ้นรูปเป็นทรงของเตำให้มี ควำมหนำและขนำดภำยในเป็นไปตำมก ำหนด แล้วตกแต่งผิวด้ำนในเตำ ได้แก่ ห้องใต้รังผึ้ง ห้องเผำไหม้ หลัง จำกนั้นจึงอัดทับด้วย แม่พิมพ์ภำยใน เพื่อขึ้นรูปปำกเตำ และเส้ำเตำ
38 เมื่อได้ที่แล้วถอดแบบ น ำเตำไปตำกแดดผึ่งลมให้แห้งหมำดๆ ประมำณ 2-3 วัน แล้วจึงน ำเตำมำปำดตกแต่ง ปำกเตำ เส้ำเตำ และเจำะช่องลม แล้วน ำไป ตำกแดด ผึ่งลม จนแห้งสนิท ใช้เวลำประมำณ 2-4 วัน จะได้เตำที่ พร้อมจะน ำไปเผำ ขั้นตอนที่4 กำรท ำตะแกรงดินและกำรเจำะรูตะแกรง กำรท ำตะแกรงดิน ขั้นกลำงระหว่ำงถ่ำนกับกำรใช้งำนรองด้วยขี้เถ้ำ กำรเจำะรูตะแกรงแล้วน ำไปตำกแดด เป็นเวลำ 3 วัน หำกฝนตกจะมีกำรยืดระยะเวลำในกำรตำกแดดเพิ่มขึ้น
39 ขั้นตอนที่5กำรท ำรังผึ้ง น ำดินที่นวดผสมแล้วใส่ลงในแบบพิมพ์ทรงกระบอกใช้มือกดดินให้เต็มแบบใช้โลหะบำง ปำดเอำดินส่วนที่ เกินออก หลังจำกนั้นปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งพอหมำดๆ ประมำณ 2-3 วัน แล้วใช้แม่แบบเจำะรูเจำะตำมรูปแบบ ที่ต้องกำรโดยรูที่รังผึ้งจะต้องเป็นทรงกรวย คว ่ำด้ำนบนเล็กกว่ำด้ำนล่ำง จำกนั้นน ำไปผึ่งลมอีก 2-4 วัน แล้ว น ำไปเผำจนสุกเพื่อเพิ่มควำมแข็งแรง ขั้นตอนที่ 6 กำรเผำเตำ กำรเผำเตำหุงต้มประสิทธิภำพสูงมีขั้นตอนเหมือนกันกับกำรเผำเตำหุงต้มทั่วไป หลังจำกตกแต่งและตำก แห้งแล้วอำจจะตกแต่งสีเพื่อควำมสวยงำมแล้วน ำมำเรียงเป็นชั้นในเตำเผำ กำรเผำอำจจะใช้เตำอุโมงค์ โดย ใช้ไม้ฟืนเป็นเชื้อเพลิงหรือใช้เตำเปิด ที่ใช้แกลบเป็นเชื้อเพลิงก็ได้ หำกใช้เตำอุโมงค์อำจจะใช้เวลำประมำณ 8-10 ซม. โดยใช้อุณหภูมิสูงสุดประมำณ 800-100 C แต่หำกใช้เตำ แกลบ อำจจะใช้เวลำนำนถึง 24-36 ซม. หลังจำกนั้นทิ้งไว้ ให้เตำเย็นตัว ใช้เวลำประมำณ 24 ซม. แล้วค่อย น ำออกจำกเตำ ตรวจสอบสภำพทั่วไป หลังจำกนั้นจึงน ำไปบรรจุถังสังกะสีต่อไป
40 ขั้นตอนที่7 กำรอบเตำอั้งโล่ เมื่อเผำเตำเสร็จแล้วน ำเตำอั้งโล่ที่ขึ้นรูปเสร็จแล้ว น ำมำรวมกันพร้อมตะแกรง น ำมำอบรวมกันเป็นเวลำ 24 ชั่งโมง
41 ขั้นตอนที่ 8 กำรน ำเตำใส่ถังและกำรใส่รังผี้งและยำฉนวน 1. กำรน ำเตำใส่ถัง - เตรียมถังที่จะใส่เจำะช่องให้ตรงและพอดี กับช่องไฟของเตำ - เอำดินเหนียวผสมขี้เถ้ำแกลบโดยใช้ดินเหนียว 1 ส่วนขี้เถ้ำแกลบ 10 ส่วน ย ่ำให้เข้ำกันดีแล้ว จึงยกเตำลง ถังเอำดินผสมที่เตรียม ไว้ใส่ลงด้ำนข้ำงเตำแล้วอัดให้แน่นที่ขอบเตำติดกับถังสังกะสีใช้ปูนซีเมนต์ 1 ส่วน ผสมทรำยละเอียดร่อน 1 ส่วน ยำที่ขอบเตำ และขอบช่องไฟหน้ำตำ 2. กำรใส่รังผึ้งและยำฉนวน - วำงรังผึ้งให้ได้ระดับ ในตัวเตำ - แล้วน ำดินที่ผสมไว้ (โดยใช้ดินเหนียว 1 ส่วน ขี้เถ้ำแกลบ 5 ส่วน) ย ่ำให้เข้ำกันดีแล้ว ยำภำยในรอบ ๆ เตำ บริเวณที่รังผึ้งสัมผัสกับผนังเตำทั้งด้ำน บนและด้ำนล่ำง ขั้นตอนที่9 กำรใส่กรอบเหล็กและพร้อมใช้งำน กำรอั้งโล่ที่อบเผำเสร็จแล้ว น ำมำใส่กรอบเหล็ก ซึ่งดีต่อกำรใช้งำน หำกไม่ได้ใส่กรอบเหล็กจะท ำให้เตำ อั้งโล่ อำยุในกำรใช้งำนมีน้อยลง เนื่องจำกโดนควำมร้อนแล้วดินมีกำรแตกร้ำวจะท ำให้เสียหำยได้เร็ว เมื่อน ำตะแกรงมำใส่ในเตำอั้งโล่และยึดติดด้วยดินเหนียวขี้เป็ด จำกนั้นรอให้ดินแห้งเป็นอันเสร็จสมบูรณ์
42 ด้ำนสังคม 1.เป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน หน่วยงำน และผู้ที่สนใจทั่วไป 2. สร้ำงควำมสำมัคคีของคนในชุมชน 3.เพื่อสร้ำงงำนและกำรหำรำยได้ของผู้ที่ว่ำงงำน 4.เป็นแหล่งอนุรักษ์วิถีชีวิตของคนในสังคม ด้ำนเศรษฐกิจ 1.สร้ำงรำยได้ให้กับสมำชิกในอุตสำหกรรมเครื่องปั้นดินเผำในจังหวัดตรัง 2.เป็นสินค้ำโอท็อป ท ำให้กำรตลำดสำมำรถแข่งขันและขำยได้เป็นอย่ำงดี ด้ำนสิ่งแวดล้อม 1.เพื่อเพิ่มมูลค่ำของผลผลิตทำงกำรเกษตรและใช้ทรัพยำกรที่มีอยู่ในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์
43 ภาพกิจกรรม
44
45
46
47
48
49 บทที่4 การจัดการสิ่งแวดล้อมของชุมชนในศตวรรษที่21 การจัดการสิ่งแวดล้อมในศตวรรษที่ 21 บทน า 1. ที่มาและความส าคัญ ปัจจุบันหลำยประเทศทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย ก ำลังประสบปัญหำกำรน ำเอำทรัพยำกรธรรมชำติมำใช้ ประโยชน์โดยไม่มีกำรจัดกำรที่เหมำะสม ท ำให้ทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อมมีสภำพเสื่อมโทรม ลง ระบบนิเวศน์ถูกท ำลำยส่งผลให้ควำมสมดุลที่มีในธรรมชำติหำยไป และน ำไปสู่กำรเกิดภัยพิบัติทำง ธรรมชำติต่ำงๆมำกมำย ทั้งนี้ปัญหำส ำคัญอยู่ที่กำรสร้ำงจิตส ำนึกให้ตระหนักต่อคุณค่ำและควำมส ำคัญของ กำรอนุรักษ์ทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อมเพื่อให้บรรลุเป้ำหมำยสูงสุดของกำรพัฒนำคือ เสถียรภำพ ทำงเศรษฐกิจ สังคม และคุณภำพสิ่งแวดล้อมโดยยึดหลักกำรอนุรักษ์ ด้วยกำรใช้ทรัพยำกรธรรมชำติ และ สิ่งแวดล้อมอย่ำงฉลำดประหยัด และก่อให้เกิดผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดเท่ำที่ท ำได้ เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญำชี้ถึงแนวกำรด ำรงอยู่ และปฏิบัติตนของประชำชนในทุกระดับตั้งแต่ระดับ ครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐทั้งในกำรพัฒนำและบริหำรประเทศ ให้ด ำเนินไปใน ทำงสำยกลำง โดยเฉพำะกำรพัฒนำเศรษฐกิจ เพื่อให้ก้ำวทันต่อยุคโลกำภิวัตน์อันเกิดจำกกำรเปลี่ยนแปลงทั้งภำยในและ ภำยนอก ไม่สุดโต่ง ไม่ประมำทและท ำอย่ำงเป็นขั้นเป็นตอน ค ำนึงถึงควำมพอประมำณ ควำมมีเหตุผลกำร สร้ำงภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนใช้ควำมรู้และคุณธรรมในกำรคิด พูดและท ำในทุกเรื่อง ปรัชญำเศรษฐกิจ พอเพียงเป็นปรัชญำที่มีควำมส ำคัญอย่ำงยิ่งส ำหรับกำรขจัดควำมยำกจนและลดควำมเสี่ยงทำงเศรษฐกิจของ คนในชุมชน หำกมองในอีกแง่มุมหนึ่ง เศรษฐกิจพอเพียง สำมำรถท ำเป็นรำยได้เสริม ลดกำรว่ำงงำนของคน ในชุมชนโดยมีกำรรวมกลุ่มของคนในชุมชนมำจัดกิจกรรมร่วมกัน ท ำให้ปัญหำด้ำนต่ำงๆในสังคมก็จะ ลดลง เช่น ปัญหำควำมยำกจน ปัญหำสุขภำพ ปัญหำยำเสพติด เป็นต้นรวมไปถึงกำรสร้ำงกองทุนสุขภำพ กองทุนหมู่บ้ำน เพื่อเป็นกำรส่งเสริมให้คนในชุมชนมีอำชีพอย่ำงมั่นคงที่แสดงออกถึงกำรมีส่วนร่วมของคน ในชุมชนซึ่งปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียงสอดคล้องกับกำรพัฒนำประเทศในระยะแผนพัฒนำ ฉบับที่ 11 จะ เป็นกำรสร้ำงภูมิคุ้มกันในมิติต่ำงๆให้แก่ ปัจเจก ครอบครัว ชุมชน สังคมและประเทศโดยใช้แนวคิดและทิศ ทำงกำรพัฒนำประเทศสู่ควำมยั่งยืนตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงต่อเนื่องจำกแผนพัฒนำ ฉบับที่ 10 พร้อมทั้งขยำยกำรน ำทุนของประเทศที่มีศักยภำพจำก 3 ทุน ทั้งทุนสังคมทุนเศรษฐกิจ และทุน ทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อม เป็น 6 ทุน ได้แก่ทุนมนุษย์ ทุนสังคม ทุนกำยภำพ ทุนทำงกำรเงินทุน ทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อมและทุนทำงวัฒนธรรมมำใช้ประยุกต์อย่ำงบูรณำกำรและเกื้อกูลกัน โดยเฉพำะกำรสร้ำงฐำนทำงปัญญำเพื่อเป็นภูมิคุ้มกันให้กับคนและสังคมไทยเป็นสังคมที่มีคุณภำพก้ำวสู่ สังคมและเศรษฐกิจสีเขียวที่มีแบบแผนกำรผลิตและบริโภคอย่ำงยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยน ำ ควำมรู้และจุดแข็งของอัตลักษณ์ไทยมำปรับโครงสร้ำงเศรษฐกิจบนฐำนนวัตกรรมที่เข้มแข็งเชื่อมโยงกับ
50 เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในภูมิภำคอย่ำงรู้เท่ำทันสร้ำงควำมยั่งยืนของภำคเกษตรและควำมมั่งคั่งด้ำน อำหำรและพลังงำนรวมทั้งกำรจัดกำรทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อมอย่ำงยั่งยืนควบคู่ไปกับกำร เสริมสร้ำงระบบธรรมำภิบำลและควำมสมำนฉันท์ในทุกภำคส่วนและทุกระดับ เป็นฐำนกำรพัฒนำประเทศ ที่มั่นคงและสมดุลมุ่งสู่กำรอยู่ร่วมกันในสังคมอย่ำงมีควำมสุขและเป็นธรรม กำรสร้ำงกระบวนกำรเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงของนักศึกษำชั้นปี ที่ 1 ท ำให้ได้เผยแพร่ชื่อเสียงของ หลักสูตร สำขำวิชำ คณะวิชำและมหำวิทยำลัยได้ข้อมูลเพื่อเผยแพร่คุณภำพมำตรฐำนกำรศึกษำระดับ บัณฑิตศึกษำของมหำวิทยำลัย และท ำให้นักศึกษำสำมำรถสร้ำงองค์ควำมรู้ใหม่ที่จะต่อยอดกำรศึกษำและ กำรพัฒนำโดยกำรน ำควำมรู้ที่ได้รับมำปฏิบัติจริงกำรใช้ชีวิตอย่ำงพอเพียงท ำให้ มีใจสงบเมื่อตั้งใจว่ำจะใช้ ชีวิตควำมเป็นอยู่อย่ำงง่ำยๆ ไม่ฟุ้งเฟ้อจะท ำให้จิตใจไม่วุ่นวำยสับสนทะเยอทะยำนแข่งขันกันหำวัตถุสิ่งของ มำประดับตนให้ทันสมัยหรือเหนือกว่ำผู้อื่นมีควำมพอใจในสิ่งที่ตนมีท ำใจให้เป็นสุขกับสิ่งที่ตนมีพอใจกับ ควำมเรียบง่ำย ควำมพอดีตำมศักยภำพตนไม่จ ำเป็นต้องเปรียบเทียบแข่งขันกับผู้อื่นในเรื่องวัตถุเช่นต้องมี บ้ำนใหญ่โตรำคำแพง รับประทำนอำหำรตำมภัตตำคำรหรูๆมีเสื้อผ้ำเครื่องประดับที่สวยหรูตำมแฟชั่นเสมอ มีภูมิคุ้มกันที่ดีในตนไม่หวั่นไหวไปกับกระแสนิยม ร่วมกันสร้ำงสังคมให้เข้มแข็ง สำมำรถพึ่งตนเองได้ ด ำเนินชีวิตอย่ำงมีเหตุผลซื่อสัตย์สุจริต ไม่ต้องคิดเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น สร้ำงพวกพ้องเพื่อหำผลประโยชน์ ร่วมกันช่วยให้เศรษฐกิจดีขึ้นทั้งของครอบครัว ชุมชน และประเทศชำติมีเวลำว่ำงมำกขึ้นไม่ต้องวุ่นวำยกับ กำรวิ่งหำวัตถุ ท ำให้มีเวลำที่จะพัฒนำตนและท ำประโยชน์ให้แก่สังคมมำกขึ้นมีควำมสุขจำกควำมพอเพียง และภูมิใจในตนเอง มหำวิทยำลัยสวนดุสิต ศูนย์กำรศึกษำนอกที่ตั้ง ตรังได้ด ำเนินกำรจักกำรเรียนกำรสอน และมีกำร ส่งเสริมให้จัดกิจกรรมส ำหรับนักศึกษำในด้ำนต่ำงๆ อย่ำงเหมำะสมและครบถ้วนให้สอดคล้องกับ คุณลักษณะของบัณฑิตที่พึงประสงค์ 5 ประกำร ได้แก่ 1) คุณธรรม จริยธรรม 2) ควำมรู้ 3) ทักษะทำง ปัญญำ 4) ทักษะควำมสัมพันธ์ระหว่ำงบุคคลและควำมรับผิดชอบระหว่ำงบุคคลและควำมรับผิดชอบ 5) ทักษะกำรวิเครำะห์เชิงตัวเลข กำรสื่อสำร และกำรใช้เทคโนโลยีสำรสนเทศ โดยกำรจัดโครงกำร กำร จัดกำรสิ่งแวดล้อมอย่ำงยั่งยืน ร่วมกับภำครัฐ เอกชน ชุมชน และสถำบันกำรศึกษำ ภาคทฤษฎี เป็นกำรเรียนกำรสอนถึงภำพรวมของกำรจัดกำรสิ่งแวดล้อมอย่ำงยั่งยืนของชุมชน โดย มหำวิทยำลัยสวนดุสิต ศูนย์กำรศึกษำนอกที่ตั้ง ตรัง ร่วมกับ ภำครัฐ ภำคเอกชน ชุมชนและ สถำบันกำรศึกษำเครือข่ำยควำมร่วมมือทำงวิชำกำร จังหวัดตรังเป็นกรณีศึกษำ ภาคปฏิบัติ อำจำรย์และนักศึกษำมหำวิทยำลัยสวนดุสิต ศูนย์กำรศึกษำนอกที่ตั้ง ตรัง ร่วมกับ ภำครัฐ เอกชน ชุมชน และสถำบันกำรศึกษำควำมร่วมมือทำงวิชำกำร โดยมีก ำหนดกำร ดังนี้
Search