Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชาญชัย เพชรหนู

ชาญชัย เพชรหนู

Published by taxx_chanchai, 2016-12-04 03:12:20

Description: ชาญชัย เพชรหนู

Keywords: none

Search

Read the Text Version

รายงาน การศึกษาความอุดมสมบูรณ์ ทาง ทรัพยากรธรรมชาติ และความมั่งคั่งบนเกาะลิบง โดยชุมชนท้องถิ่น 19 – 20 พฤศจิกายน 2559

2 ค าน า เกาะลิบง เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในทะเลตรัง ตั้งอยู่ในพื้นที่ต าบลเกาะลิบง อ าเภอกันตัง ส าหรับพื้นที่ต าบลเกาะลิ บงประกอบด้วยชุมชนจ านวน ๘ หมู่บ้าน อยู่บนแผ่นดินใหญ่จ านวน ๓ หมู่บ้านได้แก่บ้านเจ้าไหม บ้านสุไหงบาตู และ บ้านมดตะนอย โดยมีบ้านเกาะมุกด์เป็น ๑ หมู่บ้านที่แยกอิสระอยู่บนเกาะมุกด์ ส่วนที่เหลือจ านวน ๔ หมู่บ้าน ตั้งอยู่บน เกาะลิบงได้แก่บ้านโคกสะท้อน บ้านหลังเขา บ้านบาตูปูเต๊ะ และบ้านทรายแก้ว เมื่อเอ่ยเกาะลิบงก็จะมีเป็นที่รู้กันดีของ ผู้คนทั่วไป เนื่องจากเกาะลิบงมีเสน่ห์และอุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยทรัพยากรมากมาย มีทั้งประเภททรัพยากรประมงที่มี คุณค่า และสร้างอาชีพประมงชายฝั่งแก่ชุมชนบนเกาะลิบงมาอย่างยาวนาน เป็นแหล่งหญ้าทะเลที่สมบูรณ์มากที่สุด มีฝูง พะยูนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย นอกจากความโดดเด่นในสิ่งที่กล่าวมาแล้วนั้น เกาะลิบงยังเป็นสถานที่ซึ่งที่มี ความส าคัญทางประวัติศาสตร์ มีบันทึกเรื่องราวมานานนับ ๒๐๐ ปี โดยโครงการนี้ได้มีการจัดท ากิจกรรมขึ้น เพื่อให้นักศึกษาได้มีโอกาสไปศึกษานอกสถานที่และได้รับประสบการณ์ จริง โดยกิจกรรม จะมีกิจกรรมศึกษาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่จะ น ามาใช้แทนทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจ ากัด นักศึกษาร่วมกับสถาบันการศึกษาและชุมชนในการจัดการสิ่งแวดล้อม อย่างยั่งยืน ณ เกาะลิบง อ าเภอกันตัง จังหวัดตรัง เพื่อเป็นการปลูกฝังจิตส านึกของการตระหนักถึงความส าคัญของระบบ นิเวศป่าชายเลน เพื่อให้รักษาไว้คงอยู่ต่อไป เพื่อให้เป็นแหล่งอาหารของสัตว์น้ าและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอยู่คู่เมืองไทย ตลอดไป สมาชิกกลุ่มที่ 2 นาย ชาญชัย เพชรหนู ประธานกลุ่ม

3 สารบัญ บทที่ 1 9 ทรัพยากรบนเกาะลิบง 9 ทรัพยากรณ์ทางธรรมชาติ 9 แหล่งธรรมชาติอื่น ๆ 9 โบราณสถานที่ส าคัญ 10 ประชากร 10 พื้นที่ 10 เขตพื้นที่ 10 อาชีพ 11 สาธารณูปโภค 11 การเดินทาง 11 แผนที่เกาะลิบง 11 ภาพส ารวจ 12 บทที่ 2 13 ประวัติศาสตร์เกาะลิบง 13 เกาะลิบงจากค าบอกเล่าของคนในท้องถิ่น 14 บทที่ 3 15 วิถีชีวิตชุมชน 15 บทที่ 4 17 ส่วนที่เราไปส ารวจ 17 พรรณพืชไม้พื้นที่พบเกาะลิบง 18 บทที่ 5 19 ยางพาราเกาะลิบง 19 การท ายางแผ่น 19 รูปขั้นตอนที่ 2 เก็บน ้ายาง 19

4 รูปขั้นตอนที่ 3 น าน ้ายางมาขาย 20 รูปขั้นตอนที่ 4 น ามาขาย 20 รูปขั้นตอนที่ 5 กรองน ้ายาง 20 รูปขั้นตอนที่ 6 เทน ้ายาง ผสมกับ น ้ากรด 21 รูปขั้นตอนที่ 7 เทน ้ายางใส่พิมพ์ยาง 21 รูปขั้นตอนที่ 8 ดึงยางออกจากพิมพ์ 21 รูปขั้นตอนที่ 9 ล้างน ้ากรด 22 รูปขั้นตอนที่ 10 เข้าเครื่องรีดเพื่อให้แผ่นบางขึ้น 22 รูปขั้นตอนที่ 11 น ายางพารามาตากแห้ง 22 รูปขั้นตอนที่ 12 ตากทิ้งไว้ 1 วัน 23 รูปขั้นตอนสุดท้าย น าไปขายต่อที่ท่าเรือ 23 บทที่ 6 24 วิถีชีวิตชุมชน 24 ลอบดักปลาหมึก 24 ลักษณะและวิธีการใช้งาน 24 วิธีการท าลอกดักปลาหมึก 25 บทที่ 7 26 พันธุ์ไม้ป่าชายเลน และ ชายหาด 26 บทที่ 8 31 การจัดการสิ่งแวดล้อม 31 ในประเทศไทยมีกฎหมายหลายฉบับที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์พะยูน ได้แก่ 31 ปลิงทะเล 32 บทที่ 9 33 สรุป 33 ทรัพยากรทางธรรมชาติ 33 ประวัติศาสตร์เกาะลิบง 33

5 เกาะลิบงจากค าบอกเล่าของคนในท้องถิ่น 33 วิถีชีวิตชุมชน 34 ส่วนที่เราไปส ารวจ 35 การท ายางแผ่น 35 วิถีชีวิตชุมชน 36 ลอบดักปลาหมึก 36 ลักษณะและวิธีการใช้งาน 36 พรรณพืชไม้พื้นที่ป่าชายเลน 37 เวลาในการเกี่ยวยางพารา 38 ฤดูกาลการจับสัตว์ 39 การเกษตร 40 บรรณานุกรม 41

6 สารบัญตาราง ตาราง 1 ผักและผลไม้ 17 ตาราง 2 ชื่อวิทยาศาสตร์ 18 ตาราง 3 เวลาในการเกี่ยวยางพารา 38 ตาราง 4 ฤดูกาลการจับสัตว์ 39 ตาราง 5 การเกษตร 40

7 สารบัญภาพ รูป 1 แผนที่เกาะลิบง 11 รูป 2 หลุมศพ 12 รูป 3 สอบถามข้อมูล 12 รูป 4 สอบถามข้อมูล 12 รูป 5 ขั้นตอนที่ 1 ตัดยาง 19 รูป 6 ขั้นตอนที่ 2 เก็บน ้ายาง 19 รูป 7 ขั้นตอนที่ 3 น าน ้ายางมาขาย 20 รูป 8 ขั้นตอนที่ 4 น ามาขาย 20 รูป 9 รูปขั้นตอนที่ 6 เทน ้ายาง ผสมกับ น ้ากรด 21 รูป 10 ขั้นตอนที่ 7 เทน ้ายางใส่พิมพ์ยาง 21 รูป 11 ขั้นตอนที่ 8 ดึงยางออกจากพิมพ์ 21 รูป 12 ขั้นตอนที่ 9 ล้างน ้ากรด 22 รูป 13 รูปขั้นตอนที่ 10 เข้าเครื่องรีดเพื่อให้แผ่นบางขึ้น 22 รูป 14 ขั้นตอนที่ 11 น ายางพารามาตากแห้ง 22 รูป 15 ขั้นตอนที่ 12 ตากทิ้งไว้ 1 วัน 23 รูป 16 ขั้นตอนสุดท้าย น าไปขายต่อที่ท่าเรือ 23 รูป 17 ลอกดักปลาหมึก 25 รูป 18 รูปปลิงทะเล 32

8 ภาคผนวก ภาคผนวก 42 เรื่อง เรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 กับการจัดการสิ่งแวดล้อม 43 รายชื่อผู้เข้าร่วมการประชุม 43 เรื่องประธานแจ้งแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ 44 รูปการประชุม 44 รายชื่อผู้เข้าร่วมประชุม 45 ลงทะเบียน 46 ก าหนดการทัศนะศึกษา ณ เกาะลิบง อ าเภอ กันตัง จังหวัดตรัง 47 ใบสมัคร 48 ใบขออนุญาตผู้ปกครอง 49 ประวัติสมาชิก 50 รายชื่อสมาชิกกลุ่มที่ 2 51 ประวัติสมาชิก 52 ภาพกิจกรรม 57 รูปหลุมศพ อดีตเจ้าเมือง โต๊ะปังกะหวา 76

9 บทที่ 1 ทรัพยากรบนเกาะลิบง ทรัพยากรณ์ทางธรรมชาติ เกาะลิบงมีสภาพพื้นที่ที่ประกอบไปด้วยภูเขา ที่ราบ และฝั่งทะเล ดังนั้นทรัพยากรธรรมชาติของเกาะแห่งนี้จึงมี ความหลากหลาย คือ 1. ป่าบก ที่มีอยู่อย่างแน่หนาบนภูเขา 2. ป่าชายเลน ถัดต่อลงมาจากป่าเขาจะถึงบริเวณพื้นที่ราบ โดยเฉพาะตาม ชายฝั่งคลองที่น ้าทะเลท่วมถึงจะอุดม สมบูรณ์ไปด้วยป่าชายเลน 3. หญ้าทะเล ริมชายฝั่งทะเลทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และทิศตะวันตกเฉียงใต้ของตัวเกาะ ซึ่งอยู่ใกล้กับ ปากแม่น ้าตรังและแม่น ้าปะเหลียนนั้นเป็นบริเวณที่มีหญ้าทะเลขึ้นงอกงามหนาแน่นมาก 4. สัตว์ป่า ภายป่าในภูเขาทางทิศตะวันตกของเกาะ และตามแนวป่าชายเลนแม้กระทั่งตามแนวชายหาดรอบ ๆ เกาะ นั้นพบว่ามีสัตว์ป่าหลายชนิดอาศัยอยู่ เช่น ชะมด พญากระรอก ลิง ค่าง และนกอีกหลายชนิด ทั้งที่เป็นนก ประจ าถิ่น และอพยพมาจากต่างประเทศเช่นทุก ๆ ปี จะพบว่ามีนกหัวโตกินปูได้อพยพมาหากินที่นี่ด้วย ส าหรับ ในทะเลซึ่งอุดมสมบูรณ์สัตว์น ้าหลายชนิดแล้ว ยังมีพะยูนซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ใกล้สูญพันธ์ อาศัยอยู่ บริเวณรอบ ๆ เกาะลิบงด้วยเช่นกัน แหล่งธรรมชาติอื่น ๆ เกาะลิบงมีหาดทรายที่น่าสนใจอยู่หลายแห่งเช่น หาดแหลมจุโหย ซึ่งเป็นที่ตั้งของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิ บง หาดหลังเขา หาดทุ่งหญ้าคา อ่าวโต๊ะเก อ่าวโต๊ะแซะ และหาดแหละโต๊ะชัย เป็นต้น นอกจากหาดทรายแล้วที่เกาะลิ บงยังมีสิ่งมหัศจรรย์อีกประการหนึ่งนั่นคือ บ่อน ้าจืดในทะเล ซึ่งมีลักษณะเป็นแอ่งน ้าจืดเช่นเดียวกับแอ่งน ้าทั่ว ๆ ไป แต่ที่เกาะลิบงนั้นเวลามีน ้าทะเลขึ้นสูงน ้าในบ่อก็จะมีความเค็ม แต่พอน ้าลงแอ่งน ้าทั่ว ๆ ไป แต่ที่เกาะลิบงนั้นเวลามีน ้า ทะเลขึ้นสูงน ้าในบ่อก็จะมีความเค็ม แต่พอน ้าลงแอ่งน ้าในบ่อจะมีรสจืดสนิท ดังนั้นบ่อน ้าแห่งนี้จะเป็นแหล่งน ้าจืด ส าหรับนกทะเล และชาวบ้านในยามหน้าแล้ง

10 โบราณสถานที่ส าคัญ โบราณสถานที่ส าคัญและมีความเกี่ยวเนื่องกัน กับประวัติศาสตร์ของชุมชนบนเกาะลิบงนั้นเท่าที่มีเหลืออยู่ใน ปัจจุบัน คือ 1. ซากก าแพงเมือง ซากก าแพงเมืองเกาะลิบงที่เหลืออยู่นั้นมีสภาพเป็นซากไม้เก่า ๆ ปักเรียงกันเป็นรูปสี่เหลี่ยม กว้างด้านละ 4 เมตร โดยใช้ไม้เคี่ยมขนาดใหญ่ปักที่มุมทั้งสี่ด้านระหว่างเสานั้นจะใช้ไม้กระดานเป็นแผ่นหน้า ปักเรียงต่อกันทั้ง สี่ด้าน ซากก าแพงเมืองเกาะลิบงตั้งอยู่ที่บริเวณด้านหลังเตาเผาถ่านบ้านพร้าว ซึ่งอยู่ในเขต ท้องที่หมู่ที่ 1 ต าบลเกาะลิบง ชาวบ้านเล่าว่าเมื่อ 10 กว่าปีก่อน แนวซากก าแพงเมืองมีเหลือมากกว่านี้ แต่ต่อมา ได้ขุดทิ้งไปเพื่อท าเป็นท่าเทียบเรือ 2. หลุมศพอดีตเจ้าเมือง (โต๊ะฮ้าหวา หรือโต๊ะปังกะหวา) หลุมศพของโต๊ะฮ้าหวานั้นปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตท้องที่ หมู่ ที่ 1 ซึ่งเป็นสวนยางพาราของชาวบ้าน สภาพของหลุมศพเป็นเนินดินขนาดใหญ่ มีไม้แก่น(นาแซ หรือตะหนา) ปักหัวท้ายห่างกัน 3.2 เมตร ชาวบ้านเล่าว่าทุก ๆ ปีเมื่อถึงวันอารีรายอ โต๊ะอิหม่ามจะมาอ่านอัลกุรอ่านที่หลุมนี้ ประจ า 3. คลองขุด ที่บริเวณใกล้ๆกับหลุมศพโต๊ะฮ้าหวา นั้นมีร่องรอยเป็นล าห้วยเล็กๆ กว้าง ประมาณ 4 เมตร เชื่อมต่อ ระหว่างคลองบ้านพร้าวซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกกับทะเลด้านตะวันออกของเกาะ ปัจจุบันล าห้วย หรือคลองขุดได้ ตื้นเขินไปบางส่วนแล้ว แต่ยังมีสภาพที่มองเห็นเป็นแนวชัดเจน 4. สภาพซากของสระน ้า เป็นสระขุดรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกว้างประมาณ 36 เมตร ยาวประมาณ 50 เมตร ตั้งอยู่ บนภูเขาในเขตท้องที่ หมู่ที่ 1 ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า ควนสระ ประชากร ชุมชนบนเกาะลิบงในปัจจุบันมีมากขึ้นจนสามารถแบ่งการปกครองออกได้เป็น 3 หมู่บ้านคือ บริเวณบ้านพร้าว บ้านโคกท้อน อยู่ในเขตหมู่ที่ 1 บ้านบาตูปูเต๊ะ อยู่ในเขตหมู่ที่ 4 และบ้านหลังเขาอยู่ในเขตหมู่ที่ 5 ซึ่งประชากรทั้ง 3 หมู่บ้านนั้นนับถือศาสนาอิสลามเป็นส่วนใหญ่ พื้นที่ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่หนึ่ง ติดแผ่นดินใหญ่เป็นที่ราบค่อนข้างสูง มีภูเขาบางส่วน ส่วนที่สอง เป็นเกาะ กลาง ทะเลมีภูเขาอยู่ตอนกลาง เขตพื้นที่ ทิศเหนือ ติดกับ ต าบลบางสัก อ าเภอกันตัง จังหวัดตรัง ทิศใต้ ติดกับ ทะเลอันดาบัน ทิศตะวันออก ติดกับ ต าบลนาเกลือ อ าเภอกันตัง จังหวัดตรัง ทิศตะวันตก ติดกับ ทะเลอันดามัน

11 อาชีพ อาชีพหลัก การประมง อาชีพเสริม ท าสวนยางพารา ค้าขาย สาธารณูปโภค จ านวนครัวเรือนที่มีไฟฟ้าใช้ในเขต อบต. 1,076 ครัวเรือน จ านวนบ้านที่มีโทรศัพท์ 15 หลังคาเรือน การเดินทาง หมู่ที่ 3 ,6 เดินทางได้โดยทางรถยนต์และเรือยนต์ ไม่สะดวกในฤดูฝน หมู่ที่ 1,2,4 และ 6 เดินทางโดยเรือยนต์ ไม่สะดวกในฤดูมรสุม แผนที่เกาะลิบง รูป 1 แผนที่เกาะลิบง

12 ภาพส ารวจ รูป 2 หลุมศพ รูป 3 สอบถามข้อมูล รูป 4 สอบถามข้อมูล

13 บทที่ 2 ประวัติศาสตร์เกาะลิบง ชื่อของเกาะนี้มีความเป็นมาคาบเกี่ยวกันระหว่างประวัติศาสตร์ของประเทศมาเลเซียและประเทศไทย เกาะ ลิบงมีชื่ออยู่ในต านานและเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่กล่าวถึงเหตุการณ์บ้านเมืองในสมัยก่อนโดยมีชื่อของเกาะและ ชื่อของบุคคลส าคัญเข้าไปเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ค าบอกเล่าที่เป็นต านานจากรุ่นสู่รุ่นที่สืบทอดต่อกันมาจนกระทั่ง ปัจจุบันก็เป็นอีกด้านหนึ่งที่มาเสริมต่อให้เราสามารถมองย้อนกลับไปในอดีตได้แจ่มชัดมากขึ้น แรกเริ่มเดิมทีย้อนกลับไปประมาณ 30 ปีที่ผ่านมา คนในเมืองกันตังซึ่งเป็นแผ่นดินใหญ่ยังเรียกคนที่อาศัยอยู่ ในเกาะต่างๆ เช่นเกาะมุก และเกาะลิบงว่า”โบ๊เล” การเรียกคนเกาะว่าโบ๊เล ที่ใช้เรียกกันในอดีตนั้นเป็นค าเรียกที่ติด ปากกันมานาน โบ๊เลไม่ใช่ค าพูดที่ใช้เหยียดหยามหรือใช้ตัดพ้อต่อว่ากันให้เสียใจแต่อย่างใด แต่เป็นการบอกที่มาที่ไป ของบุคคลและกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ติดต่อสัมพันธ์กันมาช้านานเป็นนัยยะส าคัญที่บ่งบอกถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่และ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของคนตรังอีกกลุ่มหนึ่ง จากสภาพภูมิประเทศที่แตกต่างกันของจังหวัดตรังในสามลักษณะ ใหญ่ๆ นั่นคือ ตรังเขา ตรังนา และ ตรังเล กล่าวคือมีชุมชนและประชากรอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เป็นที่ราบสูงและภูเขา (ควน) กลุ่มคนเหล่านี้มีวิถีชีวิตผูกพันและมีความเชี่ยวชาญในการใช้ชีวิตอยู่กับป่าเขาล าเนาไพร เช่น พื้นที่อ าเภอปะ เหลียน อ าเภอนาโยง เป็นต้น กลุ่มตรังนา ได้แก่กลุ่มคนที่มีถิ่นอาศัยและด ารงชีพโดยการเกษตร เรือกสวนไร่นา เช่น อ าเภอห้วยยอด และพื้นที่ในทุกอ าเภอของตรังพื้นที่อาศัยของคนกลุ่มนี้คือที่ราบหรือที่ราบลุ่มแม่น ้าส่วนอีกกลุ่มหนึ่ง คือกลุ่มผู้ที่ด ารงชีวิตและมีความเชี่ยวชาญในการด ารงชีพในเกาะและชายทะเล เช่นพื้นที่อ าเภอสิเกา กันตัง ย่านตาขาว ปะเหลียน กลุ่มนี้ได้แก่ เกาะสุกร เกาะมุก และเกาะลิบง เป็นต้น ดังนั้น เรื่องราวของเกาะลิบงซึ่งเป็นแหล่งชุมชนใหญ่ ในเกาะที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดตรังจึงมีความน่าสนใจหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์และ ประวัติศาสตร์ สัมภาษณ์ชาวบ้านในหมู่บ้านต่างๆของต าบลเกาะลิบงพบว่า คนรุ่นอายุประมาณ 55 ปีขึ้นไปบางท่านยัง สามารถพูดคุยภาษาต้นก าเนิดของตนเองได้ นั่นคือ ส าเนียงมลายูแบบมาเลย์นั้นพบมากในบริเวณชายฝั่งทะเลอันดามัน เช่น เกาะลิบงและสิเกาและในต าบลบ่อน ้าร้อน ที่บ้านสิเหร่ ท่าปาบ เป็นต้น ส่วนส าเนียงพูดมลายูแบบชวานั้นใช้กัน มากที่เกาะมุกอ าเภอกันตังจากการสังเกตและสอบถามคนสูงอายุในพื้นที่จึงพอจะท าให้ทราบได้ว่า ความเป็นมาของ ชุมชนในเกาะและชายฝั่งแห่งนี้ ชุมชนดั้งเดิมในสมัยก่อนน่าจะมีที่มาจากเกาะชวาในอินโดนีเซีย และอีกกลุ่มหนึ่งมา จากส่วนต่างๆของมาเลย์ สอบถามรุ่นพ่อแม่และรุ่นปู่ย่าหลายคนท าให้ทราบว่า มีบรรพบุรุษเป็นชาวมลายู เนื่องจากใน สมัยเรียนอยู่มัธยมต้นเคยพบมีด กริช และของใช้ของคนในสมัยก่อนหลายอย่างซึ่งผู้อาวุโสในพื้นที่ต าบลบ่อน ้าร้อน ต่างบอกเล่าความตรงกันว่า มีบรรพบุรุษที่กระจายและเดินทางมาจากเกาะหมากในแหลมมลายู ที่ตั้งชุมชุนแรกนั้นนั้น อยู่ที่บ้านเกาะเคี่ยม

14 เกาะลิบงจากค าบอกเล่าของคนในท้องถิ่น เกาะลิบงและเกาะอื่นๆในอดีตเคยเป็นที่ตั้งรกรากของชุมชนชาวเลก่อนจะมีคนกลุ่มอื่นๆเข้ามาประมาณ 100- 180 ปี มีหลักฐานที่เป็นโบราณสถานและโบราณวัตถุอยู่หลายแหล่งที่เคยพบในบริเวณเกาะลิบงและพื้นที่ชายฝั่ง จังหวัดตรัง ได้แก่เครื่องถ้วยชามโบราณและซากโครงกระดูกภายในถ ้าชาวเลบนเขาบาตูปูเต๊ะ หลุมฝังศพของบุคคล ส าคัญของโต๊ะปังกาหวาที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นที่ฝังศพเจ้าพระยาลิบง จากการสังเกตหลุมฝังศพนั้นมีความกว้างและ ความยาวมากกว่าหลุมฝังศพทั่วไป แม้ว่าจะไม่มีการตกแต่งหรือกั้นแนวรั้วปิดบังไว้ก็ตามแต่ชาวบ้านในท้องที่ก็รู้และ เข้าใจตรงกันว่าตรงนั้นเป็นที่ฝังศพของบุคคลส าคัญยิ่งในอดีต และในศาสนาอิสลามนั้นจะมีการรักษาสถานที่เหล่านั้น ไว้แบบเดิมโดยห้ามการปรุงแต่งหรือตั้งโต๊ะหมู่บูชาไว้เป็นที่สักการะ เช่นเดียวกันกับหลุมฝังศพของเจ้าเมืองไชยา ที่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี นี่จึงอาจเป็นเหตุหนึ่งทีคนรุ่นใหม่ในท้องที่ไม่มีความรู้และไม่สนใจในความส าคัญทาง ประวัติศาสตร์เท่าที่ควร โบราณวัตถุและสถานที่อื่นๆที่เคยพบในเกาะลิบงได้แก่ สระน ้าบนภูเขาในเกาะที่ชาวบ้าน เรียกว่า “ควนสระ” กะโหลกที่พบได้ทั่วไปที่ทุ่งหัวคนบริเวณชายหาดบ้านโคกสะท้อน ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นแดน ประหารในการปกครองคนสมัยก่อน ท่าเรือสะพานช้างและด่านภาษีบริเวณแหลมจูโหยซึ่งเป็นท่าเรือเก่าและด่าน จัดเก็บภาษีตรงกับหลักฐานเอกสารที่กล่าวมาแล้วข้างต้น

15 บทที่ 3 วิถีชีวิตชุมชน ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของเกาะลิบง จึงท าให้พื้นที่ถูกประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า หมู่เกาะลิบง ที่ส าคัญ คือเกาะลิบงได้ชื่อว่าเป็นแหล่งหญ้าทะเลที่ส าคัญของจังหวัดตรัง เพราะมีพื้นที่หญ้าทะเลกว่า 12,000 ไร่ ที่มีความ สมบรูณ์และมีจ านวนชนิดของหญ้าทะเลมากถึง 12 ชนิด ดังนั้นพื้นที่บริเวณนี้จึงมีการพบเห็นพะยูนอยู่บ่อยครั้ง และ บริเวณเกาะลิบงยังเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น ้าวัยอ่อน และที่อยู่อาศัยหากินของสัตว์น ้าในระบบนิเวศชายฝั่ง เช่น ปลิงทะเล หอยชักตีน หอยกะพง ฯลฯ ด้วยความอุดสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น ้าเช่นนี้ จึงท าให้เกาะลิบงกลายเป็นฐานทรัพยากรและฐานอาชีพ ของชุมชนชายฝั่งทั้งในและนอกต าบลเกาะลิบง ในจังหวัดตรัง รวมไปถึงจังหวัดใกล้เคียงด้วยความอุดมสมบูรณ์ของ ทรัพยากรทั้งบนบกและรอบๆ เกาะนี้เองจึงมีการใช้ทรัพยากรอย่างต่อเนื่องจนส่งผลให้ทั้งบนเกาะและทะเลรอบๆ เกาะลิบง เกิดความเสื่อมโทรม ไม่ว่าจะเป็นป่าบกบนเกาะลิบง หญ้าทะเล ป่าชายเลน และพื้นที่ชายหาดรอบๆ ก็มี สภาพไม่แตกต่างกัน นี้คือสถานการณ์ด้านทรัพยากรที่ชุมชนเผชิญอยู่ ขณะเดียวกันในอีกด้านหนึ่งพบว่าสภาพ ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงและภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชุมชนและฐานทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้ เช่นกัน ตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นความเสี่ยงด้านอาชีพที่เห็นได้ชัดเจน คือ การท าประมงชายฝั่ง หากมีฝนตกหนัก ติดต่อกันก็ไม่สามารถออกทะเลเพื่อจับสัตว์น ้าได้ หรือแม้สามารถออกไปได้แต่ปริมาณสัตว์น ้าที่จับได้จะน้อย เนื่องจากปริมาณน ้าฝนที่มากท าให้ความเค็มของทะเลเปลี่ยนแปลง สัตว์น ้าจะถอยออกไปไกลจากฝั่งมากขึ้น การ ออกเรือจะไกลขึ้นท าให้ต้นทุนด้านน ้ามันเพิ่มสูงขึ้นด้วย หรือกรณีที่มีพายุและฝนตกควบคู่กันยิ่งไม่สามารถออกทะเล ได้ เพราะอาจเสี่ยงที่เรือจะล่มได้ ส่วนการท าสวนยางพาราก็เช่นเดียวกัน หากฝนตกหรือมีพายุก็ท าให้ไม่สามารถกรีด ยางได้ เพราะจะท าให้น ้ายางที่ได้เสียหายเนื่องจากน ้าฝนอาจจะตกลงไปผสมกับน ้ายาง และเป็นที่มาของโรคที่เกิด บนหน้ากรีดของต้นยางในช่วงหน้าฝนหลายโรค ที่ส าคัญๆ ได้แก่ โรคเส้นด า และโรคเปลือกเน่า ซึ่งจะก่อให้เกิดผลเสีย กับผลผลิตและสวนยางได้ จากสถานการณ์ดังกล่าวท าให้ชุมชนบนเกาะลิบงตกอยู่ในภาวะแนวโน้มที่มีความเสี่ยงใน งานอาชีพและชีวิตเพิ่มขึ้น เมื่อมีการพูดคุยร่วมกันใหม่อีกครั้งได้น ามาสู่การรวมตัวกันท างานในลักษณะของเครือข่ายที่มีเป้าหมาย ร่วมกันคือ “การจัดการระบบนิเวศในเกาะลิบงให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ และการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติให้กลับมา เป็นฐานอาชีพและชีวิตของคนในชุมชน รวมทั้งท าหน้าที่เป็นเกราะป้องกันทางธรรมชาติให้กับชุมชนเกาะลิบงให้ ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ”

16 กลุ่มพัฒนาสตรีแปรรูปสัตว์น ้าเป็นกลุ่มที่ตั้งขึ้นใหม่สมาชิกส่วนใหญ่เป็นกลุ่มแม่บ้านในชุมชน เป็นเพราะการ ท าอาหารถือเป็นทักษะและความถนัดของผู้หญิง แต่ถึงกระนั้นงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ทางกลุ่ม พัฒนาสตรีแปรรูปสัตว์น ้าก็ไม่ได้ละเลยที่จะเข้าร่วมด าเนินงานอื่นๆ ของชุมชน ไม่ว่าจะเป็นการปลูกป่ าชายเลน การ อนุรักษ์สัตว์น ้า การท าฝายชะลอน ้า และงานอื่นๆ ที่เป็นงานส่วนร่วมของคนในเกาะ เพียงแต่ละมีการจัดวางบทบาท การท างานตามความรับผิดชอบหลักและรอง รวมกับสมาชิกที่เป็นผู้ชาย เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนงานอย่างเป็นระบบ และสร้างวัฒนธรรมของการท างานร่วมกันระหว่างหญิงชายในเกาะลิบงด้วย ส าหรับกลุ่มงานอาชีพทางเลือกที่กลุ่มพัฒนาสตรีแปรรูปสัตว์น ้าจัดตั้งขึ้นนั้นมีวัตถุประสงค์คือ การสร้าง ความมั่นคงด้านอาหารและหารายได้เพิ่มจากอาชีพหลัก เป็นการน าเอาวัตถุต้นทางจากสัตว์น ้าขนาดเล็กที่ชาวประมง ในเกาะลิบงจับได้บริเวณชายฝั่งมาแปรรูป และก่อนที่จะมีการลงมือปฏิบัติงานสมาชิกได้มีโอกาสเพิ่มเติมทักษะ ความรู้โดยการฝึกปฏิบัติการจริงจากอาจารย์มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โดยต้นทางของวัตถุดิบที่จะใช้ในการผลิตนั้น ได้มาจากการจับสัตว์น ้าบริเวณชายฝั่งซึ่งสามารถจับได้ทั้งปี ทั้งการจับปลาขนาดเล็ก แต่เพื่อไม่ให้มีการจับสัตว์น ้า มากเกิดปริมาณที่จ าเป็น ผนวกกับเป้าหมายส าคัญคือการสร้างความยั่งยืนและหลักประกันในการมีอาหารกินอย่าง ต่อเนื่อง ทางกลุ่มได้วางแผนร่วมกันคือ จะท าการจับเฉพาะเท่าที่จ าเป็นในแต่ละครั้งโดยจะจับประมาณสองเดือนหรือ สามเดือนครั้ง นอกเหนือจากนั้นคือการรับซื้อจากเรือประมงในหมู่บ้านที่สามารถออกทะเลได้และต้องการขายลูกปลา เล็กปลาน้อย เมื่อได้สัตว์น ้ามาสมาชิกจะมาร่วมกันลงแรงในการจัดการผลิต สัตว์น ้าที่ได้จะน ามาแปรรูปท าเป็น อาหารว่างส าหรับทานเล่นและมีการเพิ่มคุณค่าทางด้านอาหารเข้าไปด้วยการเสริมอาหารประเภทถั่วลิสง พริก และ ปรุงรสกลายเป็น ปลาสามรส หอยสามรส ขณะที่เนื้อเนื้อปลาบางส่วนจะถูกน ามาแปรรูปเป็นข้าวเกรียบปลาได้อีก ด้วย จากการสัมภาษณ์สมาชิก เกี่ยวกับรายได้ที่ได้รับจากการท าอาหารแปรรูปพบว่า สมาชิกมีรายได้เฉลี่ยเพิ่มต่อ เดือนประมาณ 2,000 – 3,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าเดือนไหนจะมีผลิตภัณฑ์อะไรออกมาจ าหน่าย

17 บทที่ 4 ส่วนที่เราไปส ารวจ ตาราง 1 ผักและผลไม้ ล าดับ ผลไม้และผักที่พบ ที่ บนเกาะลิบง ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. 1 มะพร้าว X X X X X X X X X X X X 2 กล้วยน ้าว้า X X X X 3 ระก า X X 4 ขนุน X X X X 5 มะม่วงหิมพานต์ X X X 6 มะนาว X X X X X X X X X X X X 7 มะขาม X X X X 8 มะละกอ X X X X X X X X X X X X 9 กระเจี๊ยบ X X X X 10 กระท้อน X X X X 11 กล้วยไข่ X X X 12 มะม่วง X X 13 ฝรั่ง X X X 14 ผักบุ้ง X X X X X X X X X X X X 15 พริกขี้หนู X X X 16 ผักหวาน X X X X X X X X X X X X 17 ผักคะน้า X X X X X X X X X X X X 18 ผักกวางตุ้ง X X X X X X X X X X X X 19 พริกไทย X X X X X X X X X 20 หัวหอม X X X X

18 ตาราง 2 ชื่อวิทยาศาสตร์ พรรณพืชไม้พื้นที่พบเกาะลิบง ล าดับที่ ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อภาษาไทย สรรพคุณ/วิธีการใช้ในชุมชน 1 Rhizophora apiculata โกงกางใบเล็ก เปลือกน ามาต้มแก้ท้องล่วง 2 Rhizophora mucronata โกงกางใบใหญ่ เปลือกต้นน ามาต้มน ้า รักษาเรื้อรัง 3 Lumnitzera racemosa ฝาด ดอกขาว ยอดอ่อนแก้ท้องอืด เฟ้อ 4 Cerbera odollam ตีนเป็ดทะเล ผลเผาต าผสมน ้ามันพืช แก้ปวดเมื่อยตามข้อ 5 Nypa fruticans จาก ใบ แก้ลม ขับเสมหะ 6 Phoenir paludosa เป้งทะเล หัวต้มน ้าดื่ม แก้เสียดท้อง ก้านและใบเผาไฟรมควัน แก้พิษจากสัตว์น ้า 7 Auicennia alva แสมขาว ทุกชนิด ก้านและใบเผาไฟรมควัน แก้พิษจากสัตว์น ้า 8 Auicennia Officinalis แสมด า ทุกชนิด 9 Lumnitzera httorea ฝาด ดอกแดง เนื้อไม้ใช้สร้างบ้านเรือน 10 Hibiscus tihiaceus ปอทะเล เปลือกใช้ท าเชือก และ หมันยาเรือ 11 Barringtonia asiatica จิกทะเล เปลือกต้นท าเป็นยาแก้ภายนอก 12 Sonneratia caseolaris ล าพู รากหายใจ ท าเป็นทุ่งรอยในการประมง 13 Sonneratia ovata ล าแพน รากหายใจ ท าเป็นทุ่งรอยในการประมง 14 Clerodendrum inerme ส ามะง่า ใบสด ต้มน ้า นาล้างบาดแผลฆ่าเชื้อ 15 Premna obtusifolid ช้าเลือด ใบน ามาขยี้ มีกลิ่นเหม็นมาก ไว้ป้องกันตัว 16 Solanum trilobaturn มะแว้งเครือ รากใช้เป็นยาแก้ไอ 17 Azima sarmentosa พุงดอ รากแก้ว แก้ลม 18 Ceriops tagal โปรงแดง เปลือกต าให้ละเอียด ฟอกแผล ห้ามเลือด พังกาหัวสุมดอก 19 Bruguiera sexangula ล าต้นใช้ท าฟืน ขาว พังกาหัวสุมดอก ฝักเชื่อม รับประทานเป็นของหวานคล้ายสาเก 20 Bruguiera gymnorrhiza แดง เชื่อม

19 บทที่ 5 ยางพาราเกาะลิบง การท ายางแผ่น ยางแผ่นจะดีหรือไม่ดีนั้นขึ้นอยู่กับวิธีการผลิต ราคายางในท้องตลาดก็แตกต่างกันไปตามคุณภาพของแผ่น ยาง ถ้าหากเกษตรกรเจ้าของสวนยางสามารถผลิตยางแผ่นคุณภาพดีออกจ าหน่าย ก็จะได้ราคาสูงกว่ายางแผ่นที่มี คุณภาพต ่า การท ายางแผ่นชั้นดีนั้นมีหลักการง่ายๆ คือ ท ายางให้สะอาด รีดยางแผ่นให้บาง สีของแผ่นยางสม ่าเสมอ มี ขนาดมาตรฐาน ใช้น ้าและน ้ากรดถูกส่วน ซึ่งมีวิธีการและขั้นตอนการท าดังต่อไปนี้ รูปขั้นตอนที่ 1 ตัดยาง รูป 5 ขั้นตอนที่ 1 ตัดยาง รูปขั้นตอนที่ 2 เก็บน ้ายาง รูป 6 ขั้นตอนที่ 2 เก็บน ้ายาง

20 รูปขั้นตอนที่ 3 น าน ้ายางมาขาย รูป 7 ขั้นตอนที่ 3 น าน ้ายางมาขาย รูปขั้นตอนที่ 4 น ามาขาย รูป 8 ขั้นตอนที่ 4 น ามาขาย รูปขั้นตอนที่ 5 กรองน ้ายาง

21 รูปขั้นตอนที่ 6 เทน ้ายาง ผสมกับ น ้ากรด รูป 9 รูปขั้นตอนที่ 6 เทน ้ำยำง ผสมกับ น ้ำกรด รูปขั้นตอนที่ 7 เทน ้ายางใส่พิมพ์ยาง รูป 10 ขั้นตอนที่ 7 เทน ้ายางใส่พิมพ์ยาง รูปขั้นตอนที่ 8 ดึงยางออกจากพิมพ์ รูป 11 ขั้นตอนที่ 8 ดึงยางออกจากพิมพ์

22 รูปขั้นตอนที่ 9 ล้างน ้ากรด รูป 12 ขั้นตอนที่ 9 ล้างน ้ากรด รูปขั้นตอนที่ 10 เข้าเครื่องรีดเพื่อให้แผ่นบางขึ้น รูป 13 รูปขั้นตอนที่ 10 เข้าเครื่องรีดเพื่อให้แผ่นบางขึ้น รูปขั้นตอนที่ 11 น ายางพารามาตากแห้ง รูป 14 ขั้นตอนที่ 11 น ายางพารามาตากแห้ง

23 รูปขั้นตอนที่ 12 ตากทิ้งไว้ 1 วัน รูป 15 ขั้นตอนที่ 12 ตากทิ้งไว้ 1 วัน รูปขั้นตอนสุดท้าย น าไปขายต่อที่ท่าเรือ รูป 16 ขั้นตอนสุดท้าย น าไปขายต่อที่ท่าเรือ

24 บทที่ 6 วิถีชีวิตชุมชน ลอบดักปลาหมึก ความหมาย ลอบ หมายถึง เครื่องมือประมงที่ใช้ดักจับปลาหมึกหอมหรือหมึกกระดอง จะมีลักษณะเป็นรูป โค้งคล้ายๆ ครึ่งวงกลม มีความกว้าง 75 ซม. ความยาว 105 ซม. และความสูง 55-60 ซม. ไม้ที่ใช้จะเป็นไม้มะพลาหรือ ไม้ทุเป็นไม้เนื้อเหนียว ลักษณะและวิธีการใช้งาน ปลาหมึกเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่พบมากในทะเลจังหวัดชุมพรโดยธรรมชาติ ปลาหมึกกล้วยหรือปลาหมึกหอม มักหาอาหารในที่ที่มีกิ่งไม้ใบหญ้าบริเวณริมฝั่งทะเล การจับปลาหมึกนอกจากจะใช้เรือประมงในการไดปลาหมึก แล้ว ยังสามารถใช้ลอบเป็นเครื่องมือจับปลาหมึกที่ท าขึ้นเอง เพื่อใช้บริโภคในครัวเรือน เนื่องจากการไปศึกษาที่เกาะพิทักษ์ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ยึดการประกอบอาชีพการท าประมงเป็นหลักและจะเห็น ได้ว่าจะพบเห็นลอบดักปลาหมึกนั้นมีอยู่ทั่วไปหมดเกือบตลอดทางเดินบริเวณชายฝั่ง ซึ่งสิ่งที่พวกข้าพเจ้าได้พบเห็น นั้นท าให้พวกข้าพเจ้านั้นเกิดความสนใจที่จะศึกษาว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้ มีการท าให้ปลากหมึกนั้นมาเข้าอยู่ข้างในได้อย่าง ไงและมีวิธีการที่จะวางตรงไหน เวลาไหนที่จะออกไปวางลอบและมีการท าอย่างไร

25 วิธีการท าลอกดักปลาหมึก การท าลอบนั้นต้องอาศัยความใจเย็นและความพิถีพิถันเป็นอย่างมากและต้องมีความละเอียดรอบคอบ เนื่องจากลอบดักปลาหมึกนั้นจะต้องมีความสมดุลกันขณะที่เรานั้นต้องเอาไปว่างในทะเล ลอบดักปลาหมึกยังสร้าง ประโยชน์อีกมากมาย อาทิ เช่น ประหยัดเวลา แค่เราเอาลอบไปวางไว้แล้วค่อยกลับไปดูได้ ท าให้มีเวลาไปท ากิจกรรม อื่นๆได้อีกมากมายและการใช้ลอบดักปลาหมึกยังท าให้จับ ปลาหมึกได้จ านวนมากมากกว่าการไดปลาหมึกแถมยังรักษาสมดุลของท้องทะเลเนื่องจากลอบดักปลาหมึกจะ จับแต่ปลาหมึกตัวใหญ่ๆท าให้ลูกหมึกมีโอกาสขยายพันธุ์ได้ต่อไปอีก รูป 17 ลอกดักปลาหมึก การดักปลาหมึกหมึกนั้นควรมีระยะเวลาห่างในการดัก เพื่อให้ปลาหมึกนั้นมีการขยายพันธุ์และมีการ เจริญเติบโตให้ทันกันเพราะจะเป็นการรักษาสมดุลของทะเลและไม่ให้ปลาหมึกมีจ านวนลดลงอีกด้วย

26 บทที่ 7 พันธุ์ไม้ป่ าชายเลน และ ชายหาด รูปต้นเบญจมาศ ประโยชน์ ต้นต้มน ้ากินแก้ปวดหัว และเป็น ไข้มาลาเรีย ใบ ใช้บดเป็นยาพอกที่ท้องหญิงคลอดบุตร รักษารอยปริตามผิวหนัง แก้หน้าท้องลาย และใช้พอก ตามรอยด่าง แก้ผิวหนังด่าง แผลที่ถูกของมีคมบาด และแก้เส้นเลือดขอด น ้าที่คั้นจากใบน ามาผสมกับ นมวัวดื่ม เป็นยาบ ารุงหลังคลอดบุตร มีสรรพคุณเป็น ยาขับปัสสาวะ ดอกเป็นยาถ่ายอย่างแรง รากต้มเป็นยา ซับระดู ขับปัสสาวะ เป็นยารักษากามโรคชนิดหนอง ใน และนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ รูปต้นปรงหนู ประโยชน์ ปลูกตกแต่งเป็ นพืชประดับ สวนหย่อม หน่ออ่อน รับประทานเป็นผักสด เป็นผักสด ในสลัด และปรุงเป็นอาหารต่างๆ ใบ ใช้เป็นอาหาร สัตว์ ใบแก่ ใช้มุงหลังคา หรือใช้ท ากระดาษ เส้นใยของ ใบแก่ ใช้ท าเชือก รูปต้นเหงือกปลาหมอดอกขาว ประโยชน์ รากและต้นต้มอาบแก้พิษไข้ ผื่นคัน โรคผิวหนังทุกชนิด ถ้าใช้รับประทานเป็นยาแก้พิษ ฝีดาษ และฝีทั้งปวง รากต้นสดต าให้ละเอียดเอาฟอกปิด หัวฝีหรือแผลเรื้อรังถอนพิษได้

27 รูปต้นตีนเป็ดทะเล ประโยชน์ ผลเผาต าผสมน ้ามันพืช ทาแก้โรค ตาปลา โรคผิวหนังเรื้อรัง ผลสดขยี้ทาแก้ปวด ตามข้อ แก้ปวดกล้ามเนื้อ รูปต้นจาก ประโยชน์ ใบ มีรสฝาดแก้ลมจรต่างๆขับเสมหะ ดับพิษทั้งปวง น ้าตาลจาก สมานริดสีดวงทวาร ยอด เคี้ยว แก้เมาเหล้า เมาคลื่น ราก ต้มดื่ม แก้ปัสสาวะขุ่นข้น หัว และรากต้มกับสารส้ม ดื่มเป็นยาแก้นิ่วในไต ขับหินปูน ดอกจาก ผสมดอกระก าและดอกหลุมพี เผาไฟละลาย ด้วยน ้าอ้อยแก้โรคตานขโมย เนื้อในผล รับประทาน น ้า จากดอก ใช้ท าน ้าส้มจาก หรือน ้าตาลจากประกอบอาหาร คาว หวาน ใบท าเป็นตับจาก ใช้มุงหลังคาบ้านพัก ที่อยู่ อาศัย ยอดอ่อนเรียวแหลม ใช้มวนท าบุหรี่ รูปต้นขลู่ ประโยชน์ ต้น ต้มดื่มแก้โรคปวดเอวปวดหลัง ใช้บ ารุงยา ขับปัสสาวะแก้ปัสสาวะพิการ แก้วัณโรคที่ ต่อมน ้าเหลือง แก้โรคริดสีดวงทวาร เป็นยาช่วยย่อย เปลือกล าต้น ต้มน ้าเอาไอรมทวารหนัก และรับประทาน แก้โรคริดสีดวงทวาร ใช้สับตากแห้งมวนบุหรี่ สูบดมแก้ โพรงจมูกอักเสบ ไซนัส ริดสีดวงจมูก ใบ ต้มน ้าดื่มแทน น ้าชาเพื่อลดน ้าหนัก แก้ปวดเมื่อย ขับระดูขาว ต าพอก แผลแก้แผลอักเสบ

28 รูปต้นแสมขาว ประโยชน์ ต้นต้มน ้ากินแก้ปวดหัว และเป็นไข้ มาลาเรีย ใบ ใช้บดเป็นยาพอกที่ท้องหญิงคลอดบุตร รักษารอยปริตามผิวหนัง แก้หน้าท้องลาย และใช้พอก ตามรอยด่าง แก้ผิวหนังด่าง แผลที่ถูกของมีคมบาด และ แก้เส้นเลือดขอด น ้าที่คั้นจากใบน ามาผสมกับนมวัวดื่ม เป็นยาบ ารุงหลังคลอดบุตร มีสรรพคุณเป็นยาขับ ปัสสาวะ ดอก เป็นยาถ่ายอย่างแรง ราก ต้มเป็นยาซับ ระดู ขับปัสสาวะ รูปต้นแสมทะเล ประโยชน์ แก่น รสเค็มกร่อยเฝื่อน แก้เลือดลม แก้ลมในกระดูก แก้กระษัย ฟอกและขับโลหิตระดู ถ่าย ระดูเน่าเสีย แก้ปัสสาวะพิการ รูปต้นแสมด า ประโยชน์ ก้านและใบเผาไฟรมควัน แก้พิษ จากสัตว์น ้าทุกชนิด โดยเฉพาะปลาทะเลมีพิษทุก ชนิด เปลือก เป็นยาบ ารุงก าหนัด แก้ปวดฟัน ต าพอก ฝีแตก เปลือกให้สีน ้าตาลแกมแดง กระพี้เป็นยาแก้ พิษงูได้ แก่น มีรสเค็มเฝื่อน ต้มน ้าแก้ลมในกระดูก แก้กระษัยโดยมากจะใช้คู่กับแก่นแสมสาน

29 รูปต้นฝาดดอกแดง ประโยชน์ เนื้อไม้ใช้สร้างบ้านเรือน ท าฟืน ท า ถ่าน เปลือก น ามาทุบแช่น ้าให้สีฝาด ย้อมผ้า ย้อมจีวร พระสงฆ์ รูปต้นฝาดดอกขาว ประโยชน์ ล าต้นที่มีขนาดใหญ่เนื้อไม้ใช้สร้าง บ้านเรือน ท าฟืน ท าถ่าน เปลือกน ามาทุบแช่น ้าให้สี ฝาดใช้ย้อมผ้า ย้อมจีวรพระสงฆ์ รูปต้นปอทะเล ประโยชน์ ปลูกเป็นไม้ประดับ เปลือกใช้ท า เชือก และหมันยาเรือ

30 รูปต้นตะบูนขาว ประโยชน์ เปลือกไม้จะมีรสฝาดใช้แก้อาการ ท้องเสีย อาการอักเสบในล าไส้ อาการผิดปกติใน ช่อง ท้อง ใช้เป็นยาลดไข้ รักษาแผลภายใน หรือ ต้มต าให้ ละเอียด พอกแผลสดเป็นหนอง แผลบวม ฟอกช ้าเปลือก และผลน ามาต้มกับน ้าใช้ล้างท าความสะอาดบาดแผล รูปต้นจิกทะเล ประโยชน์ เปลือกต้มท าเป็นยาทาภายนอก แก้ปวดข้อ รากฝนผสมกับน ้ามะนาว ใช้ปิดปากแผลที่ถูกงูกัด แก้ พิษงู ผลชงน ้าดื่ม แก้ไอ แก้หืด แก้ท้องเสีย เมล็ดทุบให้ แตก ชงน ้าดื่มแก้จุกเสียด บีบให้น ้ามัน ใช้เป็นเชื้อไฟ ให้ความสว่าง เปลือกของเมล็ด ทุบให้แตกตีกับน ้าใส่ บ่อใช้เบื่อปลา รูปต้นโกงกางใบใหญ่ ประโยชน์ ใบชงน ้าดื่มแก้ไข้ ใบอ่อนบด หรือเคี้ยวให้ละเอียด พอกแผลสด ห้ามเลือดและ ป้องกันเชื้อโรค เปลือกล าต้นต้มกับน ้าดื่ม ห้ามโลหิต แก้อาเจียนเป็นโลหิต สมานแผล แก้ท้องร่วง แก้บิด แก้คลื่นเหียนอาเจียน แก้บิดเรื้อรัง บ าบัดเบาหวาน แก้ แผลฟกช ้า บวม

31 บทที่ 8 การจัดการสิ่งแวดล้อม ในการอนุรักษ์พะยูนนั้น สิ่งส าคัญที่ควรค านึงถึง คือ การสร้างให้เกิดการเรียนรู้ ความเข้าใจ และเห็น ความส าคัญของพะยูนและระบบนิเวศหญ้าทะเล ซึ่งจะเป็นแนวทางที่จะก่อให้เกิดความร่วมมือในการอนุรักษ์อย่าง เต็มใจ และในการอนุรักษ์พะยูนนั้นสามารถท าได้หลายวิธี ดังนี้ อนุรักษ์แหล่งหญ้าทะเลและฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเลที่เสื่อมโทรม หญ้าทะเล เป็นแหล่งอาหารหลักของพะยูน หากมีแหล่งหญ้าทะเลที่อุดมสมบูรณ์ พะยูนมีอาหารอย่างเพียงพอก็จะสามารถด ารงชีวิตอยู่ได้ ดังนั้นหากแหล่งหญ้า ใดที่มีความอุดมสมบูรณ์อยู่แล้วก็รักษาให้คงอยู่ และหากแหล่งใดมีความเสื่อมโทรมก็ฟื้นฟูให้กลับคืนมาอยู่ในสภาพ ที่สมบูรณ์อีกครั้ง งดการใช้เครื่องมือประมง ที่เป็นอันตรายต่อชีวิตพะยูนในแหล่งที่อยู่อาศัยของพะยูน หรือในแหล่งหญ้าทะเล เช่น อวนลอยและอวนตาถี่ชนิดต่าง ๆ หรือโป๊ะ หรือหากจ าเป็นต้องท าก็ขอให้หมั่นตรวจตราดูแลเครื่องมือประมง อย่างสม ่าเสมอ หากพบพะยูนติดอยู่ต้องรีบปล่อยทันที ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ท าการล่าและบริโภคเนื้อพะยูน รวมทั้งงดการซื้อ-ขายชิ้นส่วนอื่นๆ ของพะยูน ไม่ใช้ เครื่องมือประมงที่เป็นอันตรายต่อพะยูน เช่น อวนปิดอ่าว อวนรัง อวนรุน อวนลอยกระเบน และไม่ท าประมงในพื้นที่ที่ มีพะยูนอาศัยอยู่ และนอกจากนี้การให้ความส าคัญติดตามข่าวสาร การไม่สนับสนุนการประมงที่ผิดกฎหมาย รวมทั้ง การไม่สร้างมลพิษให้เกิดขึ้นและไม่ท าลายสิ่งแวดล้อม ก็เป็นการช่วยกันอนุรักษ์ที่ส าคัญอีกทางหนึ่งเช่นกัน กฎหมาย ที่เกี่ยวข้อง ในประเทศไทยมีกฎหมายหลายฉบับที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์พะยูน ได้แก่ พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 พระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 พระราชบัญญัติส่งออกไปนอกประเทศและน าเข้ามาในราชอานาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522 อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งสัตว์ป่า และพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์

32 ปลิงทะเล ปลิงทะเล......ทรัพยากรชายฝั่ง ถิ่นพระยาลิบง รูป 18 รูปปลิงทะเล เอ่ยถึงปลิงทะเล หลายคนบอกว่าไม่รู้จัก ด้วยเป็นสัตว์น ้าที่คนไทยไม่นิยมบริโภค อาจเนื่องมาจากมีราคา แพงหรือยังไม่รู้สรรพคุณที่มีอยู่ในปลิงทะเล รู้หรือไม่ว่ามีนักวิทยาศาสตร์ค้นพบสรรพคุณ ในเนื้อปลิงทะเล ว่ามีการ ให้คุณค่าทางโปรตีนสูง ส่วนเสริมสร้างกระดูกอ่อน เอ็น และของเหลวที่หล่อลื่นตามข้อต่าง ๆ ของร่างกาย จึงไม่แปลก ที่ชาวจีนรู้จักการน าปลิงทะเลมาปรุงอาหาร จ าพวกซุป ตุนนเครื่องจีน ย า หรือทานแบบสดๆๆ มารู้จักปลิงทะเลกันให้มากขึ้น ปลิงทะเลที่พบในชายฝั่งอ่าวไทยและอันดามันบ้านเรานั้น มีหลายชนิด ที่ เด่นๆ พอที่จะน ามาจ าหน่ายได้นั้นคือปลิงด า และปลิงขาว มีชื่อสามัญว่า Sea Cucumber และมีชื่อ วิทยาศาสตร์ว่า Halothuria spp. ถิ่นที่อยู่อาศัยบริเวณชายฝั่งทะเลที่มีลักษณะโคลนปนทราย พบมากใน บริเวณแหล่งหญ้าทะเล บริเวณจังหวัดตรังแถบเกาะมุกด์ และเกาะลิบง ของอ าเภอกันตัง พบปลิงทะเลแพร่กระจาย โดยทั่วไป ชาวประมงจะนิยมลงไปเก็บรวบรวมปลิงทะเลในช่วงน ้าทะเลลงต ่าสุด จากนั้นน ามาแปรรูปตามขั้นตอน และเทคนิคอย่างมีความช านาญ ก่อนที่จะได้เป็นปลิงทะเลตากแห้ง ซึ่งมีราคาจ าหน่ายในตลาดของชุมชนราคา ประมาณ กิโลกรัมละ 1,000 – 1,500 บาท และมีราคาแพงถึง 3,000 – 4,000 บาทต่อกิโลกรัมในตลาดต่างประเทศ ได้แก่มาเลเชีย สิงค์โปร์ ฮนองกง

33 บทที่ 9 สรุป ทรัพยากรทางธรรมชาติ เกาะลิบงมีหาดทรายที่น่าสนใจอยู่หลายแห่งเช่น หาดแหลมจุโหย ซึ่งเป็นที่ตั้งของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิ บง หาดหลังเขา หาดทุ่งหญ้าคา อ่าวโต๊ะเก อ่าวโต๊ะแซะ และหาดแหละโต๊ะชัย เป็นต้น นอกจากหาดทรายแล้วที่เกาะลิ บงยังมีสิ่งมหัศจรรย์อีกประการหนึ่งนั่นคือ บ่อน ้าจืดในทะเล ซึ่งมีลักษณะเป็นแอ่งน ้าจืดเช่นเดียวกับแอ่งน ้าทั่ว ๆ ไป แต่ที่เกาะลิบงนั้นเวลามีน ้าทะเลขึ้นสูงน ้าในบ่อก็จะมีความเค็ม แต่พอน ้าลงแอ่งน ้าทั่ว ๆ ไป แต่ที่เกาะลิบงนั้นเวลามีน ้า ทะเลขึ้นสูงน ้าในบ่อก็จะมีความเค็ม แต่พอน ้าลงแอ่งน ้าในบ่อจะมีรสจืดสนิท ดังนั้นบ่อน ้าแห่งนี้จะเป็นแหล่งน ้าจืด ส าหรับนกทะเล และชาวบ้านในยามหน้าแล้ง ประวัติศาสตร์เกาะลิบง ชื่อของเกาะนี้มีความเป็นมาคาบเกี่ยวกันระหว่างประวัติศาสตร์ของประเทศมาเลเซียและประเทศไทย เกาะ ลิบงมีชื่ออยู่ในต านานและเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่กล่าวถึงเหตุการณ์บ้านเมืองในสมัยก่อนโดยมีชื่อของเกาะและ ชื่อของบุคคลส าคัญเข้าไปเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ค าบอกเล่าที่เป็นต านานจากรุ่นสู่รุ่นที่สืบทอดต่อกันมาจนกระทั่ง ปัจจุบันก็เป็นอีกด้านหนึ่งที่มาเสริมต่อให้เราสามารถมองย้อนกลับไปในอดีตได้แจ่มชัดมากขึ้น เกาะลิบงจากค าบอกเล่าของคนในท้องถิ่น เกาะลิบงและเกาะอื่นๆในอดีตเคยเป็นที่ตั้งรกรากของชุมชนชาวเลก่อนจะมีคนกลุ่มอื่นๆเข้ามาประมาณ 100- 180 ปี มีหลักฐานที่เป็นโบราณสถานและโบราณวัตถุอยู่หลายแหล่งที่เคยพบในบริเวณเกาะลิบงและพื้นที่ชายฝั่ง จังหวัดตรัง ได้แก่เครื่องถ้วยชามโบราณและซากโครงกระดูกภายในถ ้าชาวเลบนเขาบาตูปูเต๊ะ หลุมฝังศพของบุคคล ส าคัญของโต๊ะปังกาหวาที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นที่ฝังศพเจ้าพระยาลิบง จากการสังเกตหลุมฝังศพนั้นมีความกว้างและ ความยาวมากกว่าหลุมฝังศพทั่วไป แม้ว่าจะไม่มีการตกแต่งหรือกั้นแนวรั้วปิดบังไว้ก็ตามแต่ชาวบ้านในท้องที่ก็รู้และ เข้าใจตรงกันว่าตรงนั้นเป็นที่ฝังศพของบุคคลส าคัญยิ่งในอดีต และในศาสนาอิสลามนั้นจะมีการรักษาสถานที่เหล่านั้น ไว้แบบเดิมโดยห้ามการปรุงแต่งหรือตั้งโต๊ะหมู่บูชาไว้เป็นที่สักการะ เช่นเดียวกันกับหลุมฝังศพของเจ้าเมืองไชยา ที่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี นี่จึงอาจเป็นเหตุหนึ่งทีคนรุ่นใหม่ในท้องที่ไม่มีความรู้และไม่สนใจในความส าคัญทาง ประวัติศาสตร์เท่าที่ควร โบราณวัตถุและสถานที่อื่นๆที่เคยพบในเกาะลิบงได้แก่ สระน ้าบนภูเขาในเกาะที่ชาวบ้าน เรียกว่า “ควนสระ” กะโหลกที่พบได้ทั่วไปที่ทุ่งหัวคนบริเวณชายหาดบ้านโคกสะท้อน ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นแดน ประหารในการปกครองคนสมัยก่อน ท่าเรือสะพานช้างและด่านภาษีบริเวณแหลมจูโหยซึ่งเป็นท่าเรือเก่าและด่าน จัดเก็บภาษีตรงกับหลักฐานเอกสารที่กล่าวมาแล้วข้างต้น

34 วิถีชีวิตชุมชน ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของเกาะลิบง จึงท าให้พื้นที่ถูกประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า หมู่เกาะลิบง ที่ส าคัญ คือเกาะลิบงได้ชื่อว่าเป็นแหล่งหญ้าทะเลที่ส าคัญของจังหวัดตรัง เพราะมีพื้นที่หญ้าทะเลกว่า 12,000 ไร่ ที่มีความ สมบรูณ์และมีจ านวนชนิดของหญ้าทะเลมากถึง 12 ชนิด ดังนั้นพื้นที่บริเวณนี้จึงมีการพบเห็นพะยูนอยู่บ่อยครั้ง และ บริเวณเกาะลิบงยังเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น ้าวัยอ่อน และที่อยู่อาศัยหากินของสัตว์น ้าในระบบนิเวศชายฝั่ง เช่น ปลิงทะเล หอยชักตีน หอยกะพง ฯลฯ ด้วยความอุดสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น ้าเช่นนี้ จึงท าให้เกาะลิบงกลายเป็นฐานทรัพยากรและฐานอาชีพ ของชุมชนชายฝั่งทั้งในและนอกต าบลเกาะลิบง ในจังหวัดตรัง รวมไปถึงจังหวัดใกล้เคียง ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทั้งบนบกและรอบๆ เกาะนี้เองจึงมีการใช้ทรัพยากรอย่างต่อเนื่องจนส่งผลให้ทั้ง บนเกาะและทะเลรอบๆ เกาะลิบง เกิดความเสื่อมโทรม ไม่ว่าจะเป็นป่าบกบนเกาะลิบง หญ้าทะเล ป่าชายเลน และ พื้นที่ชายหาดรอบๆ ก็มีสภาพไม่แตกต่างกัน นี้คือสถานการณ์ด้านทรัพยากรที่ชุมชนเผชิญอยู่ ขณะเดียวกันในอีกด้าน หนึ่งพบว่าสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงและภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชุมชนและฐาน ทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้เช่นกัน ตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นความเสี่ยงด้านอาชีพที่เห็นได้ชัดเจน คือ การท าประมง ชายฝั่ง หากมีฝนตกหนักติดต่อกันก็ไม่สามารถออกทะเลเพื่อจับสัตว์น ้าได้ หรือแม้สามารถออกไปได้แต่ปริมาณสัตว์ น ้าที่จับได้จะน้อย เนื่องจากปริมาณน ้าฝนที่มากท าให้ความเค็มของทะเลเปลี่ยนแปลง สัตว์น ้าจะถอยออกไปไกลจาก ฝั่งมากขึ้น การออกเรือจะไกลขึ้นท าให้ต้นทุนด้านน ้ามันเพิ่มสูงขึ้นด้วย หรือกรณีที่มีพายุและฝนตกควบคู่กันยิ่งไม่ สามารถออกทะเลได้ เพราะอาจเสี่ยงที่เรือจะล่มได้ ส่วนการท าสวนยางพาราก็เช่นเดียวกัน หากฝนตกหรือมีพายุก็ท า ให้ไม่สามารถกรีดยางได้ เพราะจะท าให้น ้ายางที่ได้เสียหายเนื่องจากน ้าฝนอาจจะตกลงไปผสมกับน ้ายาง และเป็น ที่มาของโรคที่เกิดบนหน้ากรีดของต้นยางในช่วงหน้าฝนหลายโรค ที่ส าคัญๆ ได้แก่ โรคเส้นด า และโรคเปลือกเน่า ซึ่ง จะก่อให้เกิดผลเสียกับผลผลิตและสวนยางได้ จากสถานการณ์ดังกล่าวท าให้ชุมชนบนเกาะลิบงตกอยู่ในภาวะ แนวโน้มที่มีความเสี่ยงในงานอาชีพและชีวิตเพิ่มขึ้น

35 ส่วนที่เราไปส ารวจ ล าดับ ผลไม้และผักที่พบ ที่ บนเกาะลิบง ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. 1 มะพร้าว X X X X X X X X X X X X 2 กล้วยน ้าว้า X X X X 3 ระก า X X 4 ขนุน X X X X 5 มะม่วงหิมพานต์ X X X 6 มะนาว X X X X X X X X X X X X 7 มะขาม X X X X 8 มะละกอ X X X X X X X X X X X X 9 กระเจี๊ยบ X X X X 10 กระท้อน X X X X 11 กล้วยไข่ X X X 12 มะม่วง X X 13 ฝรั่ง X X X 14 ผักบุ้ง X X X X X X X X X X X X 15 พริกขี้หนู X X X 16 ผักหวาน X X X X X X X X X X X X 17 ผักคะน้า X X X X X X X X X X X X 18 ผักกวางตุ้ง X X X X X X X X X X X X 19 พริกไทย X X X X X X X X X 20 หัวหอม X X X X การท ายางแผ่น ยางแผ่นจะดีหรือไม่ดีนั้นขึ้นอยู่กับวิธีการผลิต ราคายางในท้องตลาดก็แตกต่างกันไปตามคุณภาพของแผ่น ยาง ถ้าหากเกษตรกรเจ้าของสวนยางสามารถผลิตยางแผ่นคุณภาพดีออกจ าหน่าย ก็จะได้ราคาสูงกว่ายางแผ่นที่มี คุณภาพต ่า การท ายางแผ่นชั้นดีนั้นมีหลักการง่ายๆ คือ ท ายางให้สะอาด รีดยางแผ่นให้บาง สีของแผ่นยางสม ่าเสมอ มี ขนาดมาตรฐาน ใช้น ้าและน ้ากรดถูกส่วน

36 วิถีชีวิตชุมชน ลอบดักปลาหมึก ความหมาย ลอบ หมายถึง เครื่องมือประมงที่ใช้ดักจับปลาหมึกหอมหรือหมึกกระดอง จะมีลักษณะเป็นรูป โค้งคล้ายๆ ครึ่งวงกลม มีความกว้าง 75 ซม. ความยาว 105 ซม. และความสูง 55-60 ซม. ไม้ที่ใช้จะเป็นไม้มะพลาหรือ ไม้ทุเป็นไม้เนื้อเหนียว ลักษณะและวิธีการใช้งาน ปลาหมึกเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่พบมากในแถวชายฝั่งเกาะลิบงโดยธรรมชาติ ปลาหมึกกล้วยหรือปลาหมึกหอม มักหาอาหารในที่ที่มีกิ่งไม้ใบหญ้าบริเวณริมฝั่งทะเล การจับปลาหมึกนอกจากจะใช้เรือประมงในการไดปลาหมึก แล้ว ยังสามารถใช้ลอบเป็นเครื่องมือจับปลาหมึกที่ท าขึ้นเอง เพื่อใช้บริโภคในครัวเรือน เนื่องจากการไปศึกษาที่เกาะลิบงซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ยึดการประกอบอาชีพการท าประมงเป็นหลักและจะเห็นได้ ว่าจะพบเห็นลอบดักปลาหมึกนั้นมีอยู่ทั่วไปหมดเกือบตลอดทางเดินบริเวณชายฝั่ง ซึ่งสิ่งที่พวกข้าพเจ้าได้พบเห็นนั้น ท าให้พวกข้าพเจ้านั้นเกิดความสนใจที่จะศึกษาว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้ มีการท าให้ปลาหมึกนั้นมาเข้าอยู่ข้างในได้อย่างไงและ มีวิธีการที่จะวางตรงไหน เวลาไหนที่จะออกไปวางลอบและมีการท าอย่างไร

37 พรรณพืชไม้พื้นที่ป่ าชายเลน ล าดับที่ ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อภาษาไทย สรรพคุณ/วิธีการใช้ในชุมชน Rhizophora 1 โกงกางใบเล็ก เปลือกน ามาต้มแก้ท้องร่วง apiculata Rhizophora 2 โกงกางใบใหญ่ เปลือกต้นน ามาต้มน ้า รักษาเรื้อรัง mucronata Lumnitzera 3 ฝาด ดอกขาว ยอดอ่อนแก้ท้องอืด เฟ้อ racemosa 4 Cerbera odollam ตีนเป็ดทะเล ผลเผาต าผสมน ้ามันพืช แก้ปวดเมื่อยตามข้อ 5 Nypa fruticans จาก ใบ แก้ลม ขับเสมหะ 6 Phoenir paludosa เป้งทะเล หัวต้มน ้าดื่ม แก้เสียดท้อง 7 Auicennia alva แสมขาว ก้านและใบเผาไฟรมควัน แก้พิษจากสัตว์น ้าทุกชนิด Auicennia 8 แสมด า ก้านและใบเผาไฟรมควัน แก้พิษจากสัตว์น ้าทุกชนิด Officinalis 9 Lumnitzera httorea ฝาด ดอกแดง เนื้อไม้ใช้สร้างบ้านเรือน 10 Hibiscus tihiaceus ปอทะเล เปลือกใช้ท าเชือก และ หมันยาเรือ Barringtonia 11 จิกทะเล เปลือกต้นท าเป็นยาแก้ภายนอก asiatica Sonneratia 12 ล าพู รากหายใจ ท าเป็นทุ่งรอยในการประมง caseolaris 13 Sonneratia ovata ล าแพน รากหายใจ ท าเป็นทุ่งรอยในการประมง Clerodendrum 14 ส ามะง่า ใบสด ต้มน ้า นาล้างบาดแผลฆ่าเชื้อ inerme 15 Premna obtusifolid ช้าเลือด ใบน ามาขยี้ มีกลิ่นเหม็นมาก ไว้ป้องกันตัว Solanum 16 มะแว้งเครือ รากใช้เป็นยาแก้ไอ trilobaturn 17 Azima sarmentosa พุงดอ รากแก้ว แก้ลม 18 Ceriops tagal โปรงแดง เปลือกต าให้ละเอียด ฟอกแผล ห้ามเลือด Bruguiera พังกาหัวสุมดอก 19 ล าต้นใช้ท าฟืน sexangula ขาว Bruguiera พังกาหัวสุมดอก 20 ฝักเชื่อม รับประทานเป็นของหวานคล้ายสาเกเชื่อม gymnorrhiza แดง

38 เวลาในการเกี่ยวยางพารา ตาราง 3 เวลาในการเกี่ยวยางพารา

39 ตาราง 4 ฤดูกาลการจับสัตว์ ฤดูกาลการจับสัตว์

40 ตาราง 5 การเกษตร การเกษตร

41 บรรณานุกรม https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8% A5%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%87 http://www.thaitambon.com/tambon/920213 ชาวบ้านในเกาะลิบง ประชากร https://sites.google.com/site/pcukohlibong/hmu-thi-4-ban-tha-sm

42 ภาคผนวก

43 เรื่อง เรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 กับการจัดการสิ่งแวดล้อม วันเสาร์ - อาทิตย์ ที่ 19-20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 สถานที่เกาะลิบง อ าเภอกันตัง จังหวัดตรัง หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ รายชื่อผู้เข้าร่วมการประชุม อันดับ รหัสนักศึกษา ชื่อ-สกุล ต าแหน่ง ลายมือชื่อ 1 5911029802014 นายชาญชัย เพชรหนู ประธาน 2 5911029802009 นายณัฐวัตร เหล่าตระกูลงาม รองประธาน 3 5911029802008 นางสาวกมลกานต์ ลิลาพันธิสิทธิ์ เลขานุการ 4 5911029802011 นางสาวชิดชนก นาคมนต์ เลขานุการ 5 5911029802007 นางสาวศิริรัตน์ รักชนะ เหรัญญิก 6 5911029802006 นางสาวธรรมาภรณ์ ยวนใจ ปฏิคม 7 5911029802022 นางสาวเจนจิรา เที่ยงธรรม ปฏิคม 8 5911029802020 นางสาวณิชกานต์ ศักดิ์ศิริวรรณ ประชาสัมพันธ์ 9 5911029802016 นายวีรวิช โปซิว สวัสดิการ 10 5911029802021 นางสาวกฤตพร พิชัยรัตน์ สวัสดิการ

44 เรื่องประธานแจ้งแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ 1. นายชาญชัย เพชรหนู ประธาน ท าหน้าที่ มอบหมายงานต่างๆ ให้แก่สมาชิกโดยมี นายณัฐ วัตร เหล่าตระกูลงาม รองประธานเป็นผู้เข้าช่วยงาน และตรวจทานรายงานการสรุปผลการด าเนินการ ของเลขานุการโดยอนุมัติให้เหรัญญิก เบิกเงินโครงการ 2. นายณัฐวัตร เหล่าตระกูลงาม รองประธาน ท าหน้าที่ คอยดูแลรับผิดชอบและมอบหมายงาน ให้แก่สมาชิกในกลุ่มแทนประธาน และด าเนินการโครงการตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ จนจบโครงการ 3. นางสาวกมลกานต์ ลิลาพันธิสิทธิ์ และ นางสาวชิดชนก นาคมนต์ เลขานุการ ท าหน้าที่ จดบันทึกรายการประชุม เตรียมรายการประชุมทั้งหมด 4. นางสาวศิริรัตน์ รักชนะ เหรัญญิก ท าหน้าที่ ชี้แจงและแจ้งรายละเอียดของค่าใช้จ่ายในแต่ละ สัปดาห์ เพื่อใช้ในการท าโครงการต่างๆ เช่น อุปกรณ์ ค่าสถานที่ ค่าที่พัก ค่าอาหาร 5. นางสาวณิชกานต์ ศักดิ์ศิริวรรณ ประชาสัมพันธ์ ท าหน้าที่น าเสนอโครงการทั้งหมดให้ อาจารย์ฟัง 6. นายวีรวิช โปซิว และ นางสาวกฤตพร พิชัยรัตน์ สวัสดิการ ท าหน้าที่ ตามที่ประธานสั่งทั่วไป เช่น ยกของจัดเตรียมทางด้านอาหารให้สมาชิกในกลุ่ม และอื่นๆ 7. นางสาวธรรมาภรณ์ ยวนใจ และ นางสาวเจนจิรา เที่ยงธรรม ปฎิคม ท าหน้าที่ประสานงาน และติดต่องาน รูปการประชุม

45 รายชื่อผู้เข้าร่วมประชุม อันดับ รหัสนักศึกษา ชื่อ-สกุล ต าแหน่ง ลายมือชื่อ 1 5911029802014 นายชาญชัย เพชรหนู ประธาน 2 5911029802009 นายณัฐวัตร เหล่าตระกูลงาม รองประธาน 3 5911029802008 นางสาวกมลกานต์ ลิลาพันธิสิทธิ์ เลขานุการ 4 5911029802011 นางสาวชิดชนก นาคมนต์ เลขานุการ 5 5911029802007 นางสาวศิริรัตน์ รักชนะ เหรัญญิก 6 5911029802006 นางสาวธรรมาภรณ์ ยวนใจ ปฏิคม 7 5911029802022 นางสาวเจนจิรา เที่ยงธรรม ปฏิคม 8 5911029802020 นางสาวณิชกานต์ ศักดิ์ศิริวรรณ ประชาสัมพันธ์ 9 5911029802016 นายวีรวิช โปซิว สวัสดิการ 0 5911029802021 นางสาวกฤตพร พิชัยรัตน์ สวัสดิการ ………………………………… …………………………. (นางสาวกมลกานต์ ลิลาพันธิสิทธิ์) (นายชาญชัย เพชรหนู) ผู้บันทึกรายงานการประชุม ผู้อนุมัติการประชุม

46 ลงทะเบียน

47 ก าหนดการทัศนะศึกษา ณ เกาะลิบง อ าเภอ กันตัง จังหวัดตรัง

48 ใบสมัคร

49 ใบขออนุญาตผู้ปกครอง

50 ประวัติสมาชิก


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook