หนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์เรื่อง ภาษาซี เล่ม น้ี ใชป้ ระกอบวชิ า ว30268 ภาษซี ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 6 ซ่ึงในเน้ือหาจะอธิบายถึง ความรู้เก่ียวกบั ภาษาซี หวงั เป็นอยา่ งยง่ิ วา่ จะเป็นประโยชน์ตอ่ ผู้ ศึกษาไดเ้ ป็นอยา่ งดี ชื่อ น.ส.จิราพร อวดสม ชื่อ น.ส.ชชั ฎาวรรณ แก้วประภา ผ้จู ดั ทา
ภาษาซี น้นั จดั เป็นภาษาที่ใชใ้ นการเขียน โปรแกรมที่นิยมใชง้ าน ซ่ึงภาษาซีจดั เป็นภาษาระดบั กลาง (Middle-Level Language) เหมาะกบั การเขียนโปรแกรมแบบโครงสร้าง (Structured Programming) ถกู พฒั นาโดย Bjarne Stroustrup แห่ง Bell Labs โดยไดน้ าเอาภาษา C มาพฒั นาและใส่ แนวคิดการเขียนโปรแกรมเชิงวตั ถุ หรือ OOP (Object Oriented Programming) เขา้ ไปดว้ ย ซ่ึงเป็นท่ีมาของ C++ กค็ ือ นาภาษา C มา พฒั นาปรับปรุงใหม้ ีประสิทธิภาพมากข้ึน
ลกั ษณะของภาษาคอมพวิ เตอร์ ภาษาคอมพิวเตอร์มี 4 ประเภท ดงั น้ี 1. ภาษาเคร่ือง (Machine Language) เป็น ภาษาพ้นื ฐานของคอมพิวเตอร์ มีลกั ษณะเป็นตวั เลขในระบบเลขฐานสอง คือ 0 และ 1 ภาษาเคร่ืองในรูปแบบเดียวท่ีคอมพิวเตอร์สามารถเขา้ ใจ และนาไปใชง้ านไดท้ นั ทีโดยไม่ตอ้ งใชต้ วั แปลชุดคาสั่ง แตม่ นุษยจ์ ะเขา้ ใจไดเ้ ม่ือแทนดว้ ยรหสั แทนขอ้ มลู 2. ภาษาแอสเซมบลี (Assembly Longuage) จดั เป็นภาษาระดบั ต่า (Low-level Language) ภาษาแอสเซมบลีพฐั นามาจาก ภาษาเครื่อง โดยใช้รหสั ภาษาองั กฤษแทนคาสง่ั ใน คอมพวิ เตอร์ ทาไห้การเขียนโปรแกรมหรือชดุ คาสง่ั ด้วย ภาษาแอสเซมบลีทาได้ง่าย
3. ภาษาระดบั สูง (High-level Language) หรือ ภาษาในยคุ ที่สาม (Third-generation Language) เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่พฒั นาข้ึนเพื่อใหม้ นุษยส์ ามารถเขา้ ใจ ภาษาท่ีใชใ้ นคอมพิวเตอร์มากยงิ่ ช้ึน จึงมีลกั ษณะคลา้ ยคลึงกบั ภาษามนุษยใ์ ชใ้ นปัจจุบนั 3.1 คอมไพลเลอร์ (Compiler) จะแปลดปรแกรมตน้ ฉบบั ท้งั โปรแกรมในคร้ังเดียวใหเ้ ป็นโปรแกรมเรียกใชง้ าน
3.2 อินเทอร์พลีเตอร์ (Interpreter) จะ แปลโปรแกรมตน้ ฉบบั ทีละคาสง่ั พร้อมกบั ทางาน ตามคาสั่งน้นั ตลอดท้งั โปรแกรม โดยไม่มีการ สร้างโปรแกรมเรียกใชง้ าน 4. ภาษาระดบั สูงมากและภาะธรรมชาติ (Natural Language) จดั เป็นภาษารุ่นท่ี 4 และ 5 ของการพฒั นาการ ภาษาคอมพิวเตอร์ สามารถใชง้ านไดง้ ่ายและตอบสนองต่อผใู้ ชง้ าน ทว่ั ไปมากยง่ิ ข้ึน
โครงสร้างโปรแกรมภาษาซี โครงสร้างของโปรแกรมภาษาซีแบ่งออกเป็น 3 ส่วน 1. ส่วนหัวของโปรแกรม ส่วนหวั ของโปรแกรมน้ีเรียกวา่ Preprocessing Directive ใชร้ ะบุเพ่อื บอกใหค้ อมไพเลอร์กระทา การ ใด ๆ ก่อนการแปลผลโปรแกรม ในที่นี่คาสั่ง #include <stdio.h> ใชบ้ อกกบั คอมไพเลอร์ให้ นาเฮดเดอร์ไฟลท์ ่ีระบุ คือ stdio.h เขา้ ร่วมในการ แปลโปรแกรมดว้ ย โดยการกาหนด preprocessing directives น้ีจะตอ้ งข้ึนตน้ ดว้ ยเคร่ืองหมาย # เสมอ คาสัง่ ท่ีใชร้ ะบุใหค้ อมไพเลอร์นาเฮดเดอร์ไฟลเ์ ขา้ ร่วมใน การแปลโปรแกรม สามารถเขียนได้ 2 รูปแบบ คือ - #include <ช่ือเฮดเดอร์ไฟล>์ คอมไพเลอร์จะทา การคน้ หาเฮดเดอร์ไฟลท์ ี่ระบุจากไดเรกทอรีที่ใชส้ าหรับ เกบ็ เฮดเดอร์ไฟลโ์ ดยเฉพาะ
2. ส่วนของฟังก์ชั่นหลกั ฟังกช์ นั่ หลกั ของภาษาซี คือ ฟังกช์ น่ั main() ซ่ึงโปรแกรม ภาษาซีทุกโปรแกรมจะตอ้ งมีฟังกช์ น่ั น้ีอยใู่ นโปรแกรมเสมอ จะเห็นไดจ้ ากช่ือฟังกช์ น่ั คือ main แปลวา่ “หลกั ” ดงั น้นั สามารถเขียนในรูปแบบของ void main(void) กไ็ ด้ มี ความหมายเหมือนกนั คือ หมายความวา่ ฟังกช์ น่ั main() จะไม่มีอาร์กิวเมนต์ (argument) คือไม่มีการรับคา่ ใด ๆ เขา้ มาประมวลผลภายในฟังกช์ น่ั และจะไม่มีการคืนคา่ ใด ๆ กลบั ออกไปจากฟังกช์ นั่ ดว้ ย
3. ส่วนรายละเอยี ดของโปรแกรม เป็นส่วนของการเขียนคาส่ัง เพ่อื ใหโ้ ปรแกรมทางาน ตามท่ีไดอ้ อกแบบไว้ คอมเมนตใ์ นภาษาซี คอมเมนต์ (comment) คือส่วนที่เป็นหมายเหตุของ โปรแกรม มีไวเ้ พ่อื ใหผ้ เู้ ขียนโปรแกรมใส่ขอ้ ความอธิบาย กากบั ลงไปใน source code ซ่ึงคอมไพเลอร์จะขา้ มาการแปลผลในส่วนที่เป็นคอม เมนตน์ ้ี คอมเมนตใ์ นภาษาซีมี 2 แบบคือ ¨ คอมเมนตแ์ บบบรรทดั เดียว ใชเ้ ครื่องหมาย // ¨ คอมเมนตแ์ บบหลายบรรทดั ใชเ้ ครื่องหมาย /* และ */
การเขยี นผงั งาน ผงั งาน (Flowchart) เป็นผงั งานรูปภาพที่ใช้ แสดงแนวคิด หรือข้นั ตอนการทางานของโปรแกรม และเป็นเคร่ืองมือที่ช่วยใหม้ องเห็นภาพรวมของโปรแกรมท่ี ทาใหเ้ ราเขียนโปรแกรมไดง้ ่ายยง่ิ ข้ึน เนื่องจากเราสามารถ มองเห็นแนวคิด และทิศทางการทางานของโปรแกรมน้นั เอง หลกั การเขียนผงั งาน (Flowchart)
การเขยี นผงั งาน(Flowchart) มีหลกั การง่ายๆท่ีควรคานึง ดงั น้ี คือ 1. ผงั งาน (Flowchart) จะตอ้ งมีจุดเริ่มตน้ และ จุดสิ้นสุดเสมอ 2. เลือกใชส้ ัญลกั ษณ์เพือ่ สื่อความหมายใหถ้ กู ตอ้ ง 3. ใชล้ กู ศรเป็นตวั กาหนดทิศทางการทางานของ โปรแกรมจากบนลงล่าง จากซา้ ยไปขวาโดย เรียงตามลาดบั 4. รูปสญั ลกั ษณ์ทุกตวั ตอ้ งมีลกู ศรเขา้ และออก ยกเวน้ จุดเริ่มตน้ จะมีเฉพาะออก จุดสิ้นสุด จะมีเฉพาะเขา้ เท่าน้นั 5. ลกู ศรทกุ ตวั จะชีอ้ อกจากรูปไป ยงั รูปสญั ลกั ษณ์อีกตวั หนง่ึ เสมอ 6. คาอธิบายภายในรูปสญั ลกั ษณ์ ควรสนั้ ๆเข้าใจงา่ ย 7. ไมค่ วามใช้ลกู ศรชีไ้ ปไกลมาก เกินไป หากจาเป็นให้ใช้จดุ เชื่อมแทน
ตวั อย่างการเขียนผังงาน (Flowchart)
น.ส.จิราพร อวดสม เลขที่10 ม.6/3 อีเมล:์ Jiraphorn130446 @gmail.com น.ส.ชชั ฎาวรรณ แกว้ ประภา เลขที่12 ม.6/3 อีเมล:์ Chatdawan1525 @gmail.com
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: