มหาวิทยาลัยทักษิณวิทยาเขตพัทลุง เอกเทศสัญญา คณะนิติศาสตร์
สัญญาซื้อขาย แบบของสัญญาซื้อขาย สัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์และ สังหาริมทรัพย์ชนิดพิเศษ สัญญาจะซื้อจะขายหรือคำมั่นจะซื้อจะ ขายอสังหาริมทรัพย์หรือ สังหาริมทรัพย์ชนิดพิเศษ สัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาดซึ่ง สังหาริมทรัพย์ที่มีราคาสองหมื่นบาท หรือกว่านั้นขึ้นไป
คำนำ
สารบัญ หน้า เรื่อง สัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์และ สังหาริมทรัพย์ชนิดพิเศษ สัญญาจะซื้อจะขายหรือคำมั่นจะซื้อจะ ขายอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์ ชนิดพิเศษ สัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาดซึ่ง สังหาริมทรัพย์ที่มีราคาสองหมื่นบาทหรือ กว่านั้นขึ้นไป บทสรุป อ้างอิง
หน้าที่1 แบบของ สัญญาซื้อขาย
หน้าที่2 การทำสัญญาซื้อขายทรัพย์สินโดยทั่วไปนั้น คู่สัญญาต้องการความคล่องตัวและอิสระ เป็นอันมาก หากมีการไปกำหนดกฎเกณฑ์หรือระเบียบต่างๆ อันส่งผลให้เกิดข้อยุ่งยากก็จะ เป็นอุปสรรดในการซื้อขายระหว่างคู่สัญญา โดยเฉพาะการซื้อขายทรัพย์สินที่มีหลายช่องทางใน ปั จจุบัน ดังนั้น ในการทำสัญญาซื้อขายโดยทั่วไปนั้น กฎหมายไม่ได้กำหนด \"แบบ\" ของสัญญา เอาไว้ เช่น ซื้อขนมกิน ซื้อน้ำดื่ม ซื้อเสื้อผ้าสวมใส่ ชื้อรถยนต์ เป็นต้น เมื่อฝ่ายหนึ่งเสนอซื้อ อีก ฝ่ายสนองขาย สัญญาซื้อขายก็เกิดขึ้น กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ซื้อขายก็โอนไปยังอีกฝ่ายทันที แต่อย่างไรก็ดี การทำสัญญาซื้อขายทรัพย์สินบางอย่างบางประเภทนั้นในสายดากฎหมายมอง ว่า เป็นเรื่องใหญ่ จะต้องเข้ามาคุ้มครองดูสัญญาเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โดยเฉพาะการทำ สัญญา ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์พิเศษ เช่น ที่ดิน บ้าน อาคาร สัตว์พาหนะ เป็นต้น ซึ่งกฎหมายได้กำหนดเรื่องของ \"แบบ\" เอาไว้ หากไม่ทำตามแบบ สัญญาซื้อขายทรัพย์สิน ดังกล่าวก็จะตกเป็นโมฆะ
แบบของนิติกรรม หมายถึง พิธีการที่กฎหมายกำหนดไว้และบังคับให้ผู้แสดงเจตนาทำนิติกรรมต้องปฏิบัติตามเพื่อความ สมบูรณ์ของนิติกรรม หากไม่ปฏิบัติตามนิติกรรมนั้นจะตกเป็นโมฆะ โดยทั่วไปนิติกรรมไม่ต้องทำตามแบบก็มีผลใช้บังคับได้เพียงแต่แสดงเจตนาเท่านั้น แต่มีนิติกรรมบางอย่างที่กฎหมายกำหนดให้ทำตามแบบ เพราะเป็นนิติกรรมที่อาจมีผลกระทบต่อรัฐหรือ ประชาชนโดยส่วนรวมได้ นิติกรรมที่กฎหมายกำหนดให้ทำตามแบบนี้ ผู้ทำนิติกรรมจะต้องทำตามแบบที่ กฎหมายกำหนดไว้ด้วยจึงจะมีผลใช้บังคับได้ มิฉะนั้นจะตกเป็นโมฆะ ตามที่บัญญัติไว้ในประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 152 ว่า “การใดมิได้ทำให้ถูกต้องตามแบบที่กฎหมายบังคับไว้ การ นั้นเป็นโมฆะ”
สามารถแบ่งประเภทของ”แบบ นิติกรรม” ได้5ประเภท
แบบแห่งนิติกรรม 1.ต้องทำเป็นหนังสือและ 3.ต้องทำเป็นหนังสือ 4.ต้องทำเป็นหนังสือ จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้า 2.ต้องจดทะเบียนต่อ พนักงานเจ้าหน้าที่ ต่อพนักงานเจ้า ระหว่างกันเอง หน้าที่ หน้าที่
5.ต้องทำตามแบบพิเศษที่กฎหมาย กำหนดไว้ หมายความว่า นิติกรรมที่ทำขึ้นมีกฎหมายระบุแบบไว้ให้ทำ โดยเฉพาะ ซึ่งผู้ทำนิติกรรมประเภทดังกล่าวจะต้องทำตาม แบบที่กฎหมายกำหนดไว้จึงจะใช้บังคับได้ เช่น การออก เช็ค เช็คจะต้องมีรายการระบุไว้ตามที่ประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ มาตรา 988 กำหนดไว้คือ มีคำบอกชื่อว่าเป็น เช็ค มีคำสั่งให้ใช้เงินจำนวนแน่นอนโดยปราศจากเงื่อนไข มีชื่อหรือยี่ห้อและสำนักงานของธนาคาร มีชื่อหรือยี่ห้อของ ผู้รับเงิน หรือคำจดแจ้งว่าให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ มีสถานที่ใช้เงิน มีวันและสถานที่ออกเช็ค และมีลายมือชื่อผู้สั่งจ่าย หากผู้ใด ออกเช็คโดยขาดรายการใดรายการหนึ่งไป เช็คนั้นก็ไม่มีผล ใช้บังคับทางกฎหมาย
1.ต้องทำเป็นหนังสือและจด ทะเบียนต่อพนักงานเจ้า หน้าที่ หมายควา มว ่า ผู้ทำ นิติกรรมที่กฎหมายกำหนดให้ต้องทำตามแบบนี้ จะต้องทำขึ้น หรือตกลงกันไว้เป็นลายลักษณ์อักษร โดยต้องทำเป็นหนังสือ และจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ของหน่วยราชการที่ เกี่ยวข้องกับเรื่อง นิติกรรมดังกล่าว นิติกรรมนั้นจึงจะมีผลใช้บังคับได้ ดังนั้น ถ้าทำเป็นลายลักษณ์อักษรเพียงอย่างเดียวแต่ไม่นำไปจด ทะเบียน ก็จะไม่มีผลใช้บังคับแต่อย่างใด นิติกรรมนั้นจะตก เป็นโมฆะเพราะทำผิดแบบ นิติกรรมที่ต้องทำตามแบบดังกล่าว ได้แก่ สัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ สัญญาขายฝาก สัญญาจำนอง สัญญาแลกเปลี่ยนอสังหาริมทรัพย์ สัญญาให้ อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
2.ต้องจดทะเบียนต่อ พนักงานเจ้าหน้าที่ หมายความว่า ผู้ทำนิติกรรมจะตกลงทำ นิติกรรมด้วยวาจาหรือทำเป็นลายลักษณ์อักษรก็ได้ แต่จะต้อง ทำการจดทะเบียนนิติกรรมที่ตกลงกันนั้นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงจะมีผลใช้บังคับได้ เช่น การจดทะเบียนสมรส การจด ทะเบียนหย่า การจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม การจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด การจดทะเบียนบริษัทจำกัด เป็นต้น
3.ต้องทำเป็นหนังสือต่อ พนักงานเจ้าหน้าที่ หมายความว่า ผู้ทำนิติกรรมต้องทำ นิติกรรมขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษร และ มิใช่ทำขึ้นไว้เองเท่านั้น แต่จะต้องไปทำ เป็นลายลักษณ์อักษรไว้กับพนักงานเจ้า หน้าที่จึงจะมีผลใช้บังคับได้ เช่น การทำ พินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมือง การ คัดค้านตั๋วแลกเงิน การขอดูเอกสารของ ทางราชการ เป็นต้น
4.ต้องทำเป็นหนังสือ ระหว่างกันเอง หมายความว่า ผู้ทำนิติกรรมจะต้องทำนิติกรรมเป็น ลายลักษณ์อักษรเสมอจึงจะมีผลใช้บังคับได้ และเป็นการทำลายลักษณ์อักษรระหว่างผู้ทำ นิติกรรมกันเองโดยไม่ต้องนำไปจดทะเบียนแต่อย่าง ใด เช่น การทำหนังสือรับสภาพหนี้ การทำสัญญาเช่า ซื้อ การโอนหนี้ การทำพินัยกรรมแบบธรรมดาและแบบเขียนเองทั้ง ฉบับ เป็นต้น
กิจกรรมรังผึ้ง: เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยน่ารู้: 9.00 - 10.00 อ่านหนังสือเอง ผึ้งอาศัยอยู่ในรังหรืออาณาเขต และผึ้งทุกตัวมีกฎ!ผึ้งตัวผู้ผสมพันธุ์ 10.00 - 10.15 ของว่าง กับราชินีผึ้งเพื่อผลิตผึ้งออกมาให้มากขึ้นผึ้งงานทำงานเพื่อผลิตน้ำผึ้ง 10.15 - 11.15 ติวคณิตศาสตร์ และปกป้องอาณาเขต ขณะที่ผึ้งราชินีจะบินวนอยู่รอบ ๆ รัง 11.15 - 12.15 ฝึกการเขียน 12.15 - 13.15 พักกลางวัน ผึ้งแจ้งเตือน: 13.15 - 14.15 วิชาวิทยาศาตร์ 14.15 - 15.15 ศิลปะและงานฝีมือ + ทำความสะอาดห้อง ต้องส่งแผ่นงานวันพฤหัสบดี พ่อแม่และผู้ปกครองจะต้องเซ็นชื่อบนบัตรรายงาน ทุกวันพุธ เราจะสวมเสื้อสีเหลือง!
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: