ชนิดของไฟล์ภาพความร้เู กี่ยวกับภาพ
คานา ศลิ ปะการบรหิ ารเวลาเปน็ การเสนอแนวคิดใหม่ในการจดั การกบั เวลาเพ่อื ให้ได้งานมากอยา่ งมปี ระสิทธิภาพแต่ใชเ้ วลาจะได้เวลาอย่างพอเหมาะหรอื น้อยกวา่ แน่นอนคนเราทกุ คนย่อมมีเวลาวนั ละ24ชั่วโมงเท่ากันหมดแตส่ าหรบั ผ้ทู ่ีมศี ิลปะในการบรหิ ารเวลาจะไดง้ านท่ีมีประสิทธิภาพมากกว่า มีเวลาคดิ สิ่งใหม่มากกว่ามเี วลาพักผ่อนมากกวา่ และมเี วลาเป็นของตนเองมากกว่าคนที่ยงัไมร่ ู้วิธีทจ่ี ะจดั การกับเวลาของตนเอง สาเหตทุ ่ีเลอื กอ่านเร่อื งนเี้ พราะวา่ สามารถนาขอ้ คิดท่ไี ด้ไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตประจาวันได้จะทาให้เราใชเ้ วลาท่ีเรามอี ยไู่ ดอ้ ยา่ งคุ้มคา่ สอดคลอ้ งกับ ภาษติ ทว่ี ่า Time and tide wait for noman สายน้าไมค่ อยท่า วันเวลาไมค่ อยใคร นางสาวอาภัสรา หอมจันทร์
สารบญั หนา้เรือ่ ง 1ชนิดของไฟล์ภาพ 2 - PEG - GIF 3ชนิดของไฟลภ์ าพ(1) 4 - PNG 5 - BMP 6 7ชนดิ ของไฟลภ์ าพ(2) 8 - TIFF 9 - EPS 10 11ชนดิ ของไฟลภ์ าพ(3) - PDFความหมายของภาพกราฟกิองคป์ ระกอบของภาพความสมดลุ ของภาพ (Balancing Elements) และเส้นนาสายตา (leading Line)ความสมมาตรและความเป็นแบบแผน (Symmetryand Patterns) และ มุมมอง (Viewpoint)ฉากหลัง (Background) และ ความลกึ (Depth)กรอบภาพ (Framing) และ การตดั ส่วนเกิน(Cropping)ปกหลงั
1 ชนดิ ของไฟล์ภาพ PEG ย่อมาจาก ( Join Photographics Export Group ) สามารถบบี อัดข้อมลู ท่ีเป็นรูปภาพประเภท Bitmap หรอื ภาพถา่ ยต่างๆ เมอ่ื ขยายภาพที่เปน็ Bitmap ภาพจะแตก GIF ย่อมากจาก ( Graphics Interchange Format )เปน็ การบันทึกภาพที่สามาราบีบอดั ไฟลใ์ หม้ ีขนาดเลก็ สว่ นมากจะนาไปใช้บันทึกเปน็ ภาพเคลื่อนไหว
2 ชนดิ ของไฟล์ภาพ(1) PNG ย่อมากจาก ( Portable Network Graphics ) ใชใ้ นการบันทึกไฟล์ภาพประเภท Vector บันทกึ สว่ นทโี่ ปร่งใส และ สามารถเลือกระดบั สไี ด้ถงึ 16.7ลา้ นสี BMP ยอ่ มาจาก ( Windows Bitmap ) เปน็ รปู แบบของไฟล์มาตรฐานทใ่ี ช้กันในระบบปฏบิ ัตกิ าร Windows และ DOS
3 ชนดิ ของไฟล์ภาพ(2)TIFF ย่อมาจาก ( Tagged Image File Format )เป็นการบันทึกรูปภาพซง่ึ สามารถบบี อัดข้อมูล ทาให้คุณภาพของสีเหมือนต้นฉบับ แต่ไฟลน์ น้ั จะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ และ สามารถนาไปใชร้ ่วมกับโปรแกรม PageMaker ได้ EPS ย่อมาจาก (Encapsulated PostScript)เปน็ รูปแบบไฟลท์ ี่สามารถบรรจภุ าพแบบ Vector และ Bitmap ซึง่ นารูปภาพไปใช้ใน Illustrator
4 ชนดิ ของไฟลภ์ าพ(3)PDF ยอ่ มาจาก (Portable Document Format)
5 ความหมายของภาพกราฟกิ กราฟิก (Graphic)เป็นคามาจากภาษากรีกว่า Graphikos หมายถงึ การเขยี นภาพด้วยสีและเขยี นภาพขาวดาและคาว่า Graphein มีความหมายทั้งการเขียนดว้ ยตัวหนงั สือและการสอ่ืความหมายโดยการใชเ้ สน้ เม่ือรวมท้ังคา Graphikos และ Graphein เข้าดว้ ยกันวัสดกุ ราฟิกจะหมายถงึ วสั ดุใด ๆ ซง่ึ แสดงความจรงิ แสดงความคดิ อยา่ งชัดเจน โดยใช้ภาพวาด ภาพเขยี น และอกั ษรขอ้ ความรวมกนั ภาพวาดอาจจะเป็น แผนภาพ(Diagram) ภาพสเกต็ (Sketch) หรือแผนสถิติ(Graph) หรืออาจเป็นคาท่ีใช้เปน็ หวั เร่อื ง (Title) คาอธิบายเพ่มิ เตมิ ของแผนภูมิ แผนภาพ แผนสถิติ และภาพโฆษณา อาจวาดเป็นการต์ นู ในรปู แบบหรอื ประเภทตา่ งๆ ภาพสเก็ต สัญลักษณ์และภาพถา่ ย สามารถใช้เป็นวสั ดกุ ราฟิกเพ่อื สื่อความหมายในเร่อื งราวทแ่ี สดงขอ้ เทจ็ จริงตา่ ง ๆได้(แหลง่ ทมี่ า : http://graphicchatbamm403no59-61.blogspot.com/2012/11/blog-post_197.html)
6 องค์ประกอบของภาพ การจดั องค์ประกอบในภาพ (Composiitioning) จะทาใหภ้ าพมีคุณค่าน่าดงึ ดดู ใจ ทาให้ภาพดูแตกต่างจากภาพธรรมดาทว่ั ๆ ไปเป็นภาพทม่ี ีความหมาย กฎสามสว่ น (Rule of Thirds) การจดั องคป์ ระกอบของภาพใหด้ ูดีประการหนึง่ คือการเลอื กวางตาแหนง่ จดุ สนใจของภาพ โดยการแบ่งดา้ นกวา้ งและดา้ นยาวออกเปน็ ดา้ นละสามสว่ นจะทาให้ภาพถูกแบ่งออกมาได้ 9 ชอ่ ง จุดท่ีเสน้ แบ่งตัดกนั จะมีอยู่ 4 จดุ ดว้ ยกัน จุดใดจุดหนง่ึ ของจุดท้งั สี่ ถือเปน็ ตาแหน่งสาหรับวางส่วนสาคญั ทสี่ ุดของภาพ ซึง่ จะทาใหภ้ าพมีคณุ ค่าข้นึ ชา่ งภาพมอื ใหม่มกั จะวางจดุ สนใจไว้ทีก่ ลางภาพเน่ืองจากยงั ไม่คุน้ กับการมองผา่ นช่องมองภาพ หรอื มวัพะวงมุ่งสนใจกับวัตถุท่ีจะถ่าย ดังนนั้ หากเราฝกึ กวาดสายตาดูรอบ ๆ ภาพทชี่ ่องมองภาพแล้วเลือกวา่ จะเลอ่ื นจุดสนใจไปยงั จดุ ใดจุดหนึ่งของสจ่ี ุดดังกล่าว เราก็จะไดภ้ าพท่ีดดู ีข้ึน อน่งึการวางจดุ สนใจไว้ ณ ตาแหนง่ ต่าง ๆ ดงั กลา่ วไมใ่ ช่เปน็ ขอ้ บังคับเป็นเพยี งแนวทางสาหรับการจดัภาพท่ัว ๆ ไป ชา่ งภาพอาจมแี นวทางการวางทีต่ า่ งออกไปแลว้ แตแ่ นวคดิ ในภาพแตล่ ะภาพ
7 ความสมดลุ ของภาพ (Balancing Elements) ในการจัดวางจุดสนใจเอียงไปดา้ นใดดา้ นหน่ึงของภาพตามกฏสามส่วนนนั้ ทาใหน้ ้าหนักของภาพหนกั ไปทางดา้ นน้นั ส่วนอีกดา้ นหน่งึ จะดูโล่ง จึงควรหาจุดสนใจรอง ๆ ไวอ้ กี ด้านหน่ึงเปน็ การถว่ งน้าหนกั ใหภ้ าพดสู มดุลขน้ึ ทัง้ นก้ี ็อย่าใหจ้ ุดสนใจรองนนั้ มาลดความเด่นของจุดสนใจหลักจนเกินไปเสน้ นาสายตา (leading Line) โดยธรรมชาติน้ัน เมอ่ื เรามองไปยงั ภาพ ตาของคนเราจะเคลอ่ื นไปตามเสน้ สายต่าง ๆ ท่ปี รากฏในภาพ ดงั น้นั เราสามารถท่จี ะจดั องค์ประกอบของภาพให้มีเส้นสาย และให้ผู้ชมเคล่ือนสายตาไปตามเสน้ สายน้นั (เสน้ สายเหลา่ น้อี าจจะเป็นถนน ธารน้าทวิ เขา เส้นแบง่ ของสสี นั เส้นแบง่ ความเข้มของแสง ขอบเงาของวตั ถุ ฯลฯ) ผ่านจดุ สนใจจนเลยไกลออกไป เส้นสายเหลา่ น้ีอาจจะมีรูปทรงเปน็ เสน้ ตรง เส้นเฉยี ง เสน้ โค้ง เส้นซิกแซก ฯลฯ
8 ความสมมาตรและความเปน็ แบบแผน (Symmetry and Patterns) เราสามารถสร้างสรรคภ์ าพทีม่ ีความสมมาตรและเป็นแบบแผนดนู า่ เบ่ือหน่าย ใหด้ ูนา่ สนใจได้หากสามารถนาเสนอในมุมมองทผ่ี ู้ชมไม่ได้คาดคิดมาก่อน ในขณะทีเ่ รากาลังเดินหามมุ ภาพ ใหล้ องฉุกคิดดูวา่ ชว่ งบริเวณน้นั มีโครงสรา้ งอะไรท่ีเป็นแบบแผน มคี วามสมมาตร อาจเป็นอาคาร สิ่งปลูกสร้าง หรือปา่ เขา ลองส่องชอ่ งมองกล้องดู กอ็ าจไดภ้ าพที่มคี ุณค่าได้ และหากเรามีการคดิ ต่างออกไปโดยวางจุดสนใจลงไปท่ีตาแหนง่ ใดตาแหนง่ หนง่ึ ของภาพประเภทนี้ ก็อาจได้ภาพท่ีดดู ีด้วยก็ได้ มมุ มอง (Viewpoint) ก่อนทจี่ ะลงมอื ถา่ ยภาพให้ลองใช้เวลาสักนิดคิดหามุมทจี่ ะตง้ักลอ้ งสาหรับบันทกึ ภาพ แทนท่ีจะเป็นมมุ มองในระดับสายตาซง่ึ ดจู าแจ หากลองก้มลงในมมุ ต่าใกล้ระดับพนื้ หรือตะแคงกลอ้ งทามมุ เอยี ง ๆ กบั พน้ื หรอื ปนี ไปถ่ายในมุมสูง ฯลฯ อาจได้มมุ มองท่ีตา่ งออกไป และสามารถสรา้ งความเร้าใจให้ผชู้ มภาพนนั้ ๆ ได้
9 ฉากหลงั (Background) บอ่ ยครัง้ ท่ภี าพบางภาพท่ีนา่ จะดดู แี ตพ่ บว่าจดุ สนใจกลบั ดูไม่เด่นพอ ท้งั น้ีอาจเปน็ เพราะฉากหลังดูวุน่ วายแย่งความสนใจจากจดุ สนใจหลัก ดังนน้ั ในการถ่ายภาพใหห้ ามุมกล้องท่ฉี ากหลงั ดคู อ่ นข้างเรียบ ไม่มอี ะไรรกสายตา ไมม่ แี สงสีทีจ่ ะมาแย่งตายตาไปจากจุดสนใจ อกี ทางหน่ึงคือ เปิดขนาดของอะเพอร์เจอรใ์ หใ้ หญข่ ้นึ เพอ่ื ให้ระยะชัดลกึ นอ้ ยลงทาใหฉ้ ากหลงั พร่ามัว การถ่ายของช้นิ เล็ก ๆ เชน่ การถ่ายภาพดอกไม้ เราสามารถใชร้ ะดาษที่มีสโี ทนมืดไปไว้ดา้ นหลังของดอกไม้ท่จี ะถา่ ยเพ่อื ทาเปน็ ฉากหลงั กจ็ ะทาให้ภาพของดอกไมด้ โู ดดเด่นขนึ้ ความลึก (Depth) แมว้ า่ ภาพถ่ายจะเปน็ ภาพสองมติ ิ เราสามารถถา่ ยทอดให้ภาพดูมีความลกึ เพมิ่ อีกมิติหน่งึ ได้ โดยการจดั ภาพใหม้ ีท้ังฉากหน้า วตั ถุ และฉากหลัง ทาให้แต่ละชว่ งดูตา่ งจากกนั อาจจะตา่ งกันท่ีโทนสี น้าหนกั ของแสง ความคมชัด ดว้ ยการจัดวางท่ดี ีทาให้ภาพดูมีความลึกขึ้น
10 กรอบภาพ (Framing) ภาพบางภาพอาจดูโลง่ ๆ แต่หากเราแต่งภาพโดยใหม้ ฉี ากหน้าเช่นให้มกี ิ่งไม้ใบไมม้ าแซม ๆ ท่ีขอบภาพ สามารถทาให้ภาพดูดขึน้ ไมโ่ ล่งเหมอื นเดมิ การประกอบภาพดว้ ยขอบประตู หรือขอบหนา้ ต่างไวใ้ นบริเวณขอบของภาพสกั สองถงึ ส่ดี ้านกช็ ว่ ยใหภ้ าพนัน้ ๆดไู มโ่ ล่งจนเกินไปไดเ้ ช่นกนั การจัดให้มกี รอบภาพแบบธรรมชาติน้ยี งั เป็นเทคนิคท่ีช่วยใหจ้ ุดสนใจดูเดน่ ขึน้ และยงั เพ่มิ มติ ใิ ห้กับภาพได้ การตัดสว่ นเกนิ (Cropping) บางครั้งการถา่ ยภาพมีข้อจากดั ทาให้ไม่สามารถถ่ายภาพวตั ถุหลกั ให้มขี นาดใหญ่เท่าทตี่ ้องการอาจจะเนือ่ งจากถ่ายในระยะไกลเกนิ ไป หรอื บางคร้ังภาพที่ถา่ ยนัน้ พบว่าจุดสนใจหลักถูกแย่งความสนใจจากสงิ่ ทอี่ ยู่รอบ ๆ การตดั ขอบภาพในสว่ นทีไ่ ม่จาเปน็ ออกไปจงึ ช่วยแกป้ ัญหานี้ได้ ช่วยทาใหส้ ัดส่วนของจดุ สนใจให้ใหญข่ ึ้นเทยี บกับพื้นท่ีที่เหลอื อยู่ ในขณะท่กี าลังเลือกสว่ นเกินทีจ่ ะตัดออกนั้น ให้พจิ ารณาดูว่าตาแหนง่ ของจดุ สนใจจะถูกเลอ่ื นไปอยูใ่ นตาแหน่งใดของภาพ ให้ใชก้ ฏสามส่วนมาปรบั ปรงุ ให้ภาพสมบรู ณ์ขึ้น การตดั ส่วนเกินออกกม็ ขี ้อเสยี คอื ทาให้รายละเอียดของภาพดอ้ ยลง จึงไมค่ วรทาการตัดส่วนเกินออกมากจนเกินไปและหากเปน็ ไปได้ ในช่วงทาการบนั ทกึ ภาพใหเ้ ดนิ เขา้ ไปใกลว้ ตั ถมุ ากขึน้ หรือใชเ้ ลนสซ์ ูมดึงภาพให้เขา้ มาใกล้ขนึ้
11 จดั ทาโดย นางสาวอาภสั รา หอมจันทร์ เลขท่ี 29ชน้ั ปวช.3 แผนกคอมพวิ เตอร์ธุรกจิ 2
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: