Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore งานสมุนไพร

งานสมุนไพร

Published by kittiwanthongaram, 2021-12-19 13:51:52

Description: งานสมุนไพร

Search

Read the Text Version

สาบเสือ ชือ่ สามัญ : Siam weed, Bitter bush, Christmas bush, Devil weed, Camfhur grass ชือ่ วิทยาศาสตร์ : Chromolaena odorata (L.) R.M.King & H.Rob. จัดอยู่ในวงศท์ านตะวัน : (Asteraceae หรอื Compositae) ต้นสาบเสือ จัดเป็นวัชพืชท่ีมีถิ่นกาเนิดในแถบอเมริกากลาง โดยมีเขตแพร่กระจายตั้งแต่ทางตอนใต้ของ รฐั ฟลอรดิ าไปจนถงึ ทางตอนเหนือของประเทศอาร์เจนตินา และระบาดทวั่ ไปในเขตรอ้ นท่วั ทกุ ทวีป สรรพคุณของสาบเสือ 1. ดอกสาบเสือมสี รรพคณุ ช่วยชูกาลงั แก้อาการอ่อนเพลีย (ดอก) 2. ชว่ ยบารุงหวั ใจ (ดอก) 3. ชว่ ยแกต้ าฟาง ตาแฉะ (ใบ) 4. ชว่ ยแกก้ ระหายน้า (ดอก) 5. ดอกช่วยแก้ไข้ (ดอก) ประโยชนข์ องสาบเสือ 1. ช่วยแก้ผมหงอก ทาให้ผมดกดา ด้วยการใช้ใบสาบเสือนามาตาแล้วใช้หมักผมเป็นประจา ไม่นานจะทาทาให้เส้นผม ดูดกดาข้ึน (ใบ) 2. ใบสาบเสอื มีฤทธใิ์ นการกาจัดปลวก ไล่แมลง ฆ่าแมลงได้ (ใบ) 3. ทั้งต้นและใบสามารถนามาใช้ในการบาบัดน้าเน่าเสียได้ ด้วยการเอาทั้งต้นและใบใส่ลงไปแช่ในบ่อน้าเน่า เมือ่ ผ่านไป 2-3 สัปดาห์นา้ จะค่อย ๆ ใสขนึ้ เอง (ต้น, ใบ) 4. ต้นสาบเสือมีกล่ินแรง การใช้ในปริมาณมากนอกจากจะนาไปใช้ทาเป็นยาฆ่าแมลงแล้ว การใช้ในปริมาณเพียงเล็กน้อย ก็สามารถนามาใช้เป็นนา้ หอมไดด้ ีอีกดว้ ย (ทง้ั ตน้ ) 5. นอกจากน้ีเรายังใช้ต้นสาบเสือเป็นตัวช้ีวัดอุณหภูมิความแห้งแล้งของอากาศ ถ้าหากอากาศไม่แล้ง ต้นสาบเสือก็จะไม่ ออกดอกน่ันเอง

มะกรดู ชอ่ื สามัญ : Kaffir lime, Leech lime, Mauritius papeda ชอ่ื วิทยาศาสตรว์ ่า : Citrus hystrix DC. จัดอยใู่ นวงศส์ ม้ : (Rutaceae) สมนุ ไพรมะกรดู มชี ่ือทอ้ งถ่นิ อ่นื ๆ ว่า มะขู (แมฮ่ ่องสอน), มะขนุ มะขูด (ภาคเหนือ), สม้ กรดู ส้มมั่วผี (ภาคใต้) เป็นตน้ หลาย ๆ ทา่ นคงคุน้ เคยกบั มะกรูดเปน็ อย่างดี เพราะเป็นสมุนไพรคคู่ รัวไทpมาอย่างยาวนาน เพราะนิยมใช้เป็นส่วนผสม ในเคร่อื งแกงท่จี าเป็นอย่างขาดไมไ่ ด้เลย ซ่ึงโดยปกติแลว้ เรามักจะนิยมใช้ใบมะกรูดและผิวมะกรูดมาเป็นส่วนหน่ึงของเคร่ืองปรุง อาหารหลายชนิด นอกจากมะกรูด จะใช้เป็นเครื่องประกอบในอาหารต่าง ๆ แล้ว ก็ยังมีประโยชน์ในด้านอ่ืน ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นในด้านของความงามและในด้านของยาสมุนไพร นอกจากน้ียังถือว่าเป็นไม้มงคลที่นิยมปลูกไว้บริเวณบ้านอีกด้วย เพราะเชอ่ื วา่ จะทาใหผ้ ู้อยู่อาศัยมีความสขุ โดยจะปลูกไวท้ างทศิ ตะวนั ตกเฉียงเหนอื ประโยชนข์ องมะกรูด 1. มะกรูดมีสารตอ่ ตา้ นอนุมลู อสิ ระสูง ช่วยเสริมสร้างภูมิคมุ้ กันใหร้ า่ งกายแขง็ แรงและตา้ นทานโรค ช่วยทาให้เจริญอาหาร 2. นา้ มันหอมระเหยจากมะกรดู มีสรรพคณุ ช่วยผอ่ นคลายความเครยี ด คลายความกังวล ทาใหจ้ ติ ใจสงบนิง่ ดว้ ยการสดู ดม ผิวมะกรดู หรือน้ามันมะกรดู จะช่วยไดร้ ะดับหน่ึง แตก่ ารใช้ไมค่ วรจะใชค้ วามเขม้ ข้นมากกวา่ 1% เพราะอาจจะทาให้เกิด การระคายเคืองได้ 3. ช่วยแกอ้ าการนอนไม่หลับ ด้วยการใชผ้ วิ มะกรดู รากชะเอม ไพล เฉยี งพร้า ขม้นิ อ้อย ในปริมาณเทา่ กัน นามาบดเป็นผง นามาชงละลายนา้ ร้อนหรอื ต้มเปน็ นา้ ดม่ื 4. ใชเ้ ป็นยาบารุงหวั ใจ ดว้ ยการใช้ผวิ มะกรูดสดฝานเป็นชิ้นเล็ก ๆ ประมาณ 1 ช้อนแกง เติมการบูรหรือพิมเสน 1 หยิบมอื ชงด้วยนา้ เดอื ด แช่ทง้ิ ไว้ แล้วนานา้ ท่ีได้มาดม่ื 1-2 ครง้ั (เปลือกผล) 5. ใช้สระผมเพ่ือทาความสะอาด ทาให้ผมดกเงางาม ป้องกันผมหงอก แก้ปัญหาผมร่วง ความเปร้ียวของน้ามะกรูด ยังมีฤทธิ์เป็นกรดช่วยขจัดคราบแชมพู หรือชาระล้างส่ิงอุดตันต่าง ๆ ตามรูขุมขนบนหนังศีรษะ แล้วยังทาให้ผมหวีง่าย อีกด้วย ด้วยการผ่ามะกรูดเป็น 2 ชิ้น เมื่อสระผมเสร็จ ให้เอามะกรูดสระผมซ้า ด้วยการใช้มะกรูดยีให้ทั่วบนผม แล้วล้างออก จะช่วยทาความสะอาดผมได้ เป็นตน้

มะนาว ช่อื สามัญ : Lime ชอื่ วิทยาศาสตร์ : Citrus aurantiifolia (Christm.) Swingle จดั อยู่ในวงศส์ ้ม : (Rutaceae) หลายคนสงสัยว่า แล้วคาว่า Lemon ท่ีในบ้านเราเข้าใจว่ามันคือมะนาว แล้วตกลงมันคืออะไร จริง ๆ แล้วเลมอน (Lemon) ความหมายที่ถูกต้องของมันก็คือ ผลส้มชนิดหนึ่งท่ีมีหัวท้ายมนหรือมะนาวท่ีมีผลเป็นลูกออกสีเหลืองใหญ่ ไมใ่ ช่ผลกลม ๆ สีเขียวลูกเลก็ ๆ อย่างมะนาวทีเ่ ราค้นุ เคย การปลูกมะนาว เดิมแล้วมะนาวเป็นพืชพื้นเมืองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้ท่ีอยู่ในภูมิภาคนี้จีงรู้จักการ ใช้ประโยชนจ์ ากมะนาวกันเป็นอย่างดี ซ่งึ หนึง่ ในนั้นกค็ ือประเทศไทยนี่เอง เรามาดูประโยชนแ์ ละสรรพคณุ ของมะนาวกนั ดกี ว่า สรรพคุณของมะนาว 1. ชว่ ยบรรเทาอาการปวดศีรษะ 2. ชว่ ยแก้อาเจียน เป็นลมวงิ เวียนศีรษะ เมาเหลา้ ได้ 3. ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสงู และตา่ 4. รหู้ รอื ไม่ว่ามะนาวก็เป็นยาอายุวัฒนะและช่วยในการเจรญิ อาหารไดด้ ว้ ย 5. แก้อาการวิงเวยี นหลังคลอดบุตร ประโยชน์ของมะนาว 1. มะนาวช่วยบารุงผิวพรรณใหเ้ ปลง่ ปลง่ั สดใส 2. ชว่ ยบารุงตาของคุณให้สดใสอยเู่ สมอ 3. มะนาวประกอบด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตฟุ อสฟอรัส กรดซิตริก กรดมาลกิ 4. ในผลมะนาว 1 ลูกจะมีน้ามันหอมระเหยอยู่มากถึง 7% ซ่ึงนามาใช้ประโยชน์ในการผสมเป็นน้ายาทาความสะอาด ตา่ ง ๆ เช่น น้ายาล้างจาน เป็นต้น 5. มะนาวมีนา้ มันหอมระเหยทีใ่ ห้กลน่ิ หอมสดช่นื (Aromatherapy)

รางจดื ช่อื สามัญ : Laurel clockvine, Blue trumphet vine ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Thunbergia laurifolia Lindl. จัดอยูใ่ นวงศเ์ หงือกปลาหมอ : (Acanthaceae) สมุนไพรรางจืด มีช่ือท้องถ่ินอ่ืน ๆ ว่า รางเย็น คาย (ยะลา), ดุเหว่า (ปัตตานี), ทิดพุด (นครศรีธรรมราช), ย่าแย้ แอดแอ (เพชรบูรณ์), น้านอง (สระบุรี), จอลอดิเออ ซ้ังกะ ปั้งกะล่ะ พอหน่อเตอ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), กาลงั ชา้ งเผือก ยาเขียว เครือเขาเขียว ขอบชะนาง (ภาคกลาง), ว่านรางจดื เปน็ ตน้ สรรพคุณของรางจดื 1. รากและเถาของรางจดื สามารถใชร้ ับประทานเป็นยาแก้ร้อนใน (ราก, เถา) 2. รางจดื มสี รรพคุณช่วยแกอ้ าการกระหายน้า (ราก, เถา) 3. ใบและรากของรางจดื มีสรรพคณุ ใชป้ รงุ เป็นยาถอนพิษไข้ได้ (ใบ, ราก) 4. ใบรางจืดมีสรรพคุณใชเ้ ป็นยาพอกบาดแผล (ใบ, ราก) 5. ชว่ ยรกั ษาแผลไฟไหม้ น้าร้อนลวก (ใบ, ราก) ประโยชนข์ องรางจดื 1. สมุนไพรรางจืด สมุนไพรที่มีความปลอดภัยสูงมากชนิดหน่ึง ซ่ึงเราสามารถกินยอดอ่อน ดอกอ่อนเป็นผักได้ โดยจะใช้ ลวกกิน แกงกิน ก็ทาได้เหมือนกับผักพ้ืนบ้านท่ัว ๆ ไป นอกจากน้ียังนิยมกินน้าหวานจากดอกรางจืดท่ีบ้านได้อีกด้วย โดยไมก่ ่อให้เกิดอันตรายใด ๆ แต่อย่างไรกต็ าม การกนิ รางจืดในปริมาณติดต่อกันอย่างต่อเน่ือง อาจจะต้องคอยติดตาม การเปลี่ยนแปลงของโลหติ วทิ ยาหรือเคมคี ลินิกทอี่ าจเกิดข้นึ ต่อไปดว้ ย 2. ชารางจืด ใบรางจืดสามารถนามาห่ันเป็นฝอย ตากลมให้แห้งแล้วนามาชงกับน้าร้อนด่ืมแทนชาได้ ส่วนรสชาติที่ได้ก็ดี ไมแ่ พก้ ับใบชาเลยที่เดียว แถมยังมีกลนิ่ หอมอกี และยงั ช่วยล้างพิษในร่างกายไดอ้ ีกดว้ ย 3. ในปัจจุบันได้มีการนาสมุนไพรรางจืดมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ แคปซูลรางจืดหรือรางจืดแคปซูล เพื่อความสะดวก และง่ายต่อการใชป้ ระโยชน์ เป็นตน้

ชะพลู ชอื่ สามัญ : Wildbetal leafbush ช่อื วิทยาศาสตร์ : Piper sarmentosum Roxb. จัดอยู่ในวงศพ์ รกิ ไทย : (Piperaceae) สมนุ ไพรชะพลู มชี ่ือเรยี กตามทอ้ งถนิ่ อื่น ๆ ว่า ผักพลูนก พลลู งิ ปลู ิง ปลู ิงนก ผกั ปนู า (ภาคเหนือ), ผกั แค ผักอีเลดิ ผกั นางเลดิ (ภาคอสี าน), ชา้ พลู (ภาคกลาง), นมวา (ภาคใต)้ เปน็ ต้น ชะพลู มักมีการจาสับสนกับพลูท้ังท่ีเป็นคนละชนิดกัน ซ่ึงใบจะรสไม่จัดเท่ากับพลูและยังมีขนาดเล็กกว่า สาหรับสรรพคุณของชะพลูที่สาคัญน้ันก็ได้แก่ ช่วยบารุงธาตุ ขับลม แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ และช่วยในการ ขับเสมหะ เป็นต้น และประโยชน์ของชะพลูในด้านของสุขภาพน้ันก็คือ มีวิตามินเอและธาตุแคลเซียมในปริมาณสูง เป็นพิเศษ และยังมีธาตุเหล็ก ธาตุฟอสฟอรัส คลอโรฟิลล์ เส้นใยอีกด้วย ซ่ึงล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แทบท้งั สนิ้ ประโยชนข์ องใบชะพลู 1. ช่วยตอ่ ตา้ นอนมุ ูลอสิ ระตา่ ง ๆ (ใบ) 2. ใบชะพลูมรี สเผด็ ร้อน ช่วยทาให้เจรญิ อาหารมากยง่ิ ข้นึ (ใบ) 3. ใบชะพลมู ีเบต้าแคโรทีนในปริมาณมากซึง่ ช่วยบารุงและรกั ษาสายตา ช่วยในการมองเหน็ ปอ้ งกันโรคตาบอดตอน กลางคืน แกโ้ รคตาฟาง เปน็ ต้น (ใบ) 4. ช่วยยบั ย้งั และชะลอการขยายตวั ของเซลลม์ ะเร็ง (ใบ) 5. ชว่ ยรกั ษาโรคเบาหวาน ดว้ ยการใชช้ ะพลสู ดทั้งต้นประมาณ 7 ต้น นามาลา้ งนา้ ให้สะอาด ใสน่ ้าพอท่วมแล้วตม้ ใหเ้ ดือด สกั พกั แล้วนามาดมื่ เปน็ ชา (ท้งั ตน้ ) 6. ชว่ ยบารุงธาตุ แก้ธาตพุ กิ าร (ราก) 7. ชว่ ยบารงุ กระดูกและฟัน และชว่ ยปอ้ งกันการเกดิ โรคกระดูกพรุน (ใบ) 8. ช่วยทาใหเ้ สมหะงวดและแห้ง (ดอก, ราก) 9. ช่วยในการขับเสมหะบรเิ วณทรวงอก ลาคอ (ใบ, ราก, ตน้ ) 10. ชว่ ยในการขับเสมหะทางอุจจาระ (ราก)

กระชายขาว ชอ่ื สามญั : Fingerroot, Chinese ginger, Chinese keys, Galingale ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ : Boesenbergia rotunda (L.) Mansf. จดั อยใู่ นวงศ์ขิง : (Zingiberaceae) สมุนไพรกระชาย มีชื่อท้องถน่ิ อนื่ ๆ ว่า วา่ นพระอาทติ ย์ (กรุงเทพมหานคร), กระชายดา กะแอน ขิงทราย (มหาสารคาม), จป๊ี ู ซฟี ู เปาซอเรา๊ ะ เปา๊ ส่ี เป๊าะส่ี ระแอน เปา๊ ะซอเรา้ ะ (กะเหรีย่ ง-แม่ฮ่องสอน), ละแอน (ภาคเหนือ), ขิงจีน เป็นตน้ สรรพคณุ ของกระชาย 1. กระชายมสี รรพคณุ ชว่ ยบารงุ ร่างกาย เป็นยาอายุวัฒนะ 2. ชว่ ยบารงุ ธาตุในรา่ งกาย 3. ช่วยแก้ลมวิงเวียน แน่นหน้าอก 4. ชว่ ยบารงุ กาลัง เสริมสมรรถภาพทางเพศ 5. ชว่ ยบารุงหัวใจ 6. ช่วยแก้โลหติ เปน็ พษิ 7. ช่วยบารุงกระดกู ชว่ ยทาให้กระดูกไมเ่ ปราะบาง 8. ชว่ ยปรับสมดุลของฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกาย 9. ชว่ ยบารงุ สมอง เพราะชว่ ยทาใหเ้ ลือดไปเลี้ยงสมองส่วนกลางไดด้ มี ากข้นึ 10. ช่วยปรับสมดุลของความดันโลหติ ในรา่ งกาย ช่วยลดความดันโลหิตเมื่อความดันโลหติ สงู แต่เมอ่ื ความดนั โลหิตตา่ กจ็ ะชว่ ยทาให้ความดันเพ่ิมขึ้นจนเปน็ ปกติ ฯลฯ ประโยชนข์ องกระชาย 1. ประโยชน์กระชาย สามารถนามาทาเป็นน้ากระชายปั่น ดื่มเพื่อเพิ่มความสดชื่น บารุงร่างกาย ทาให้ร่างกาย กระปรกี้ ระเปร่าไดเ้ ป็นอย่างดี 2. น้ากระชายช่วยทาใหร้ า่ งกายกระปร้กี ระเปรา่ ยิ่งขึน้ ชว่ ยทาใหเ้ หนอ่ื ยลง 3. ช่วยทาให้เส้นผมแข็งแรง เปลี่ยนผมขาวให้กลับเป็นดา ช่วยทาให้ผมบางกลับมาหนาขึ้น และช่วยแก้ปัญหา ผมหงอก ผมร่วงได้ 4. รากนามาใช้เป็นเคร่ืองแกงในการประกอบอาหาร ช่วยดับกลิ่นคาวของเน้ือและปลาได้เป็นอย่างดี และยังทาให้อาหาร มกี ลิ่นและรสท่ีหอมแบบเปน็ เอกลกั ษณ์อกี ด้วย 5. รากกระชายสามารถช่วยไล่แมลงได้ ด้วยการนาตะไคร้ ข่า หอมแดง ใบสะเดาแก่ นามาตาผสมกันแล้วใช้ ผสมกับนา้ ฉดี ในบริเวณท่ีมีแมลงรบกวน

ขิง ชอ่ื สามัญ : Ginger ชื่อวิทยาศาสตร์ : Zingiber officinale Roscoe จดั อยู่ในวงศ์ : Zingiberaceae ขิงเป็นไม้ล้มลุก มีเหง้าใต้ดินลักษณะเป็นเหง้า เปลือกนอกสีน้าตาลแกมเหลือง เน้ือในสีนวล หรือเหลืองอ่อน มกี ล่นิ เฉพาะ จะแทงหนอ่ หรือลาตน้ เทียมขนึ้ มาเหนือพื้นดนิ สว่ นท่โี ผลเ่ หนือดนิ คอื กาบใบทีห่ มุ้ ซ้อนกนั มสี เี ขยี ว สรรพคุณของขงิ 1. เหงา้ : รสหวานเผด็ ร้อน ขับลม แกท้ ้องอืด จุกเสยี ด แน่นเฟ้อ คล่ืนไส้อาเจยี น แก้หอบไอ ขบั เสมหะ แกบ้ ิด 2. ต้น : รสเผด็ รอ้ น ขบั ลมให้ผายเรอ แกจ้ ุกเสยี ด แก้ทอ้ งรว่ ง 3. ใบ : รสเผด็ รอ้ น บารุงกาเดา แกฟ้ กช้า แกน้ ่วิ แก้ขัดปัสสาวะ แก้โรคตา ฆ่าพยาธิ 4. ดอก : รสเผด็ รอ้ น แกโ้ รคประสาทซึ่งทาใหใ้ จขนุ่ มัว ช่วยย่อยอาหาร แกข้ ดั ปสั สาวะ 5. ราก : รสหวานเผด็ ร้อนขม แก้แนน่ เจรญิ อาหาร แก้ลม แก้เสมหะ แกบ้ ิด 6. ผล : รสหวานเผ็ด บารุงน้านม แกไ้ ข้ แกค้ อแหง้ เจบ็ คอ แกต้ าฟาง เป็นยาอายวุ ฒั นะ ประโยชนข์ องขงิ นาเหง้าสดย่างไฟใหส้ กุ ตาผสมกับน้าปนู ใสคัน้ เอาแตน่ ้าดมื่ หรือนาเหงา้ สดหมกไฟรับประทานเมอื่ มีอาการเบอ่ื อาหาร 1. รกั ษาอาการคลนื่ ไส้อาเจียน โดยนาขิงแกส่ ด ประมาณ 2-3 เหง้า มาทุบพอแตกตม้ กับน้า 2. รักษาไข้หวัด โดยนาขิงแก่สด 7 กรัม และขิงแห้ง 2 กรัม ต้มกับน้าตาลทรายแดง ด่ืมเพ่ือรักษาอาการ หรือใช้ขิงแก่ 2-3 เหง้ามาทุบใหล้ ะเอยี ดตม้ กบั นา้ อาบเพื่อขบั เหงื่อลดอาการไขเ้ น่ืองจากหวดั 3. รกั ษาอาการไอ ขบั เสมหะ โดยนาขิงสดมาคนั้ นา้ ให้ได้ประมาณครึ่งถว้ ย ผสมนา้ ผึ้งประมาณ 1 ช้อนชา ต้มกับน้า 2 ถ้วย ด่มื วันละ 3 ครั้ง หรือใชข้ ิงสดฝนกบั มะนาวเตมิ เกลอื เลก็ น้อย ใชก้ วาดคอหรอื จิบบอ่ ยๆ 4. รักษาอาการปวดประจาเดือน ในช่วงก่อนหรือระหว่างมีประจาเดือน โดยนาขิงแก่แห้งประมาณ 30 กรัม ตม้ กบั นา้ ด่มื บ่อยๆ 5. แก้อาการทอ้ งเสีย ทอ้ งรว่ ง โดยใช้ขิงแหง้ บดชงกบั นา้ อนุ่ ดม่ื วนั ละ 1 คร้งั 6. รักษาแผลท่ีเกิดจากไฟไหม้หรือถูกน้าร้อนลวก โดยตาขิงสดให้ละเอียด นากากมาพอกท่ีแผลเพื่อบรรเทาอาการอักเสบ เป็นหนอง 7. รักษาอาการปวดฟัน โดยนาขงิ แกท่ บุ ใหล้ ะเอียด ควั่ กบั น้าสารส้มจนเกรยี ม แลว้ บดจนเป็นผง พอกบรเิ วณฟันที่ปวด

ขมิ้นขาว ชือ่ สามัญ : Curcuma white ช่อื วิทยาศาสตร์ : Curcuma mangga Val.&.Zijp. จัดอยู่ในวงศ์ขม้ินชัน : Zingiberaceae ขมน้ิ ขาว หรอื สมุนไพรทีบ่ างพ้ืนท่เี รียก ว่านขม้ินขาว วา่ นมว่ ง หรือขมิ้นม่วง เป็นสมนุ ไพรที่มีดอกสวยงาม เหงา้ ราก มีกลิ่นหอม และแฝงไปด้วยสรรพคุณในตัวเองอกี หลายประการ ขมิน้ ขาวมหี วั รูปไข่ ขนาดประมาณ 3-4 x 2-3 เซนติเมตร ภายในมีสขี าวบรเิ วณแกนกลาง หวั มสี เี หลืองอ่อนจนเกือบ ขาว เหง้าแตกสาขา หนาประมาณ 1.5 เซนตเิ มตร ขนาดของลาตน้ ขมนิ้ ขาวสงู ประมาณ 40-80 เซนตเิ มตร ใบมลี ักษณะเปน็ ใบ เด่ียว กว้าง 12-15 เซนตเิ มตร ยาว 30-40 เซนตเิ มตร กา้ นยาวหมุ้ ตน้ ดอกสีเหลอื งอ่อน กลบี ประดบั สีเขยี วอมชมพซู อ้ นทับกนั หลายกลีบ ดอกขมน้ิ ขาวจะออกเป็นช่อ ก้านชอ่ ยาวแทงจากเหงา้ ใต้ดิน มักออกดอกในช่วงฤดูฝน สรรพคุณของขม้นิ ขาว 1. ช่วยย่อยอาหาร เหง้าอ่อนของขมน้ิ ขาวช่วยในการยอ่ ยอาหาร 2. ชว่ ยขบั ลมในกระเพาะอาหาร 3. ลดอาการจกุ เสยี ด แน่นทอ้ ง 4. รกั ษาแผลในลาไส้ 5. บรรเทาอาการคลื่นไส้ 6. ช่วยใหเ้ จริญอาหาร 7. รกั ษาโรคผิวหนัง 8. ขบั ปัสสาวะ 9. ขับนา้ นมแม่ลูกออ่ น 10. กระตุ้นการหล่งั นา้ ดี ฯลฯ ประโยชน์ของขม้ินขาว หวั หรือ เหงา้ กินเป็นยารักษาแผลในลาไส้ ช่วยเจริญอาหาร ขบั เสมหะ รกั ษาโรคผิวหนงั เป็นยาบารุงธาตุ ขบั ปัสสาวะ บรรเทาอาการท้องข้ึนอดื เฟ้อ ทาให้ผายลม และรกั ษาไข้ผอมเหลืองดีมาก มีช่ือเรยี กอกี คือ “ขมน้ิ ม่วง”

ไพล ชื่อสามัญ : Phlai, Cassumunar ginger, Bengal root. ชือ่ วิทยาศาสตร์ : Zingiber montanum (J.Koenig) Link ex A.Dietr. จดั อยู่ในวงศ์ขงิ : (Zingiberaceae) สมนุ ไพรไพล มีช่ือทอ้ งถ่ินอนื่ ๆ วา่ ปูขมน้ิ ม้ินสะลา่ ง (ฉาน-แมฮ่ อ่ งสอน), ว่านไฟ ไพลเหลือง (ภาคกลาง), ปูเลย ปูลอย (ภาคเหนอื ), วา่ นปอบ (ภาคอสี าน) ไพลเป็นไมล้ ้มลกุ มคี วามสงู ประมาณ 0.7-1.5 เมตร มีเหง้าอยู่ใตด้ ิน เปลอื กมีสนี ้าตาลแกมเหลือง เน้ือด้านในมีสีเหลืองถึงสีเหลืองแกมเขียว แทงหน่อหรือลาต้นเทียมข้ึนเป็นกอ ใบเป็นรูปขอบขนานแกมรูปหอก ใบเป็นใบเด่ียว เรียงสลับ กว้างประมาณ 3.5-5.5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 18-35 เซนติเมตร ออกดอกเป็นช่อ แทงจากเหง้าใต้ดิน กลีบดอกมสี นี วล มใี บประดับสมี ่วง ลกั ษณะของผลเปน็ ผลแหง้ รปู กลม สรรพคุณของไพล 1. ดอกไพล สรรพคุณชว่ ยขบั โลหติ และกระจายเลอื ดเสยี กระจายเลอื ดที่เป็นลิ่มเป็นก้อน (ดอก) 2. ช่วยแกธ้ าตุพกิ าร (ตน้ ไพล) 3. ใบช่วยแก้ไข้ (ใบ) 4. ช่วยแกอ้ าเจียน อาการอาเจียนเปน็ โลหติ (หวั ไพล) 5. ช่วยแกอ้ าการปวดฟนั (หัวไพล) 6. ไพลกับสรรพคณุ ทางยา เหง้าชว่ ยขับโลหติ (เหง้า) 7. ชว่ ยแก้เลอื ดกาเดาไหลออกทางจมูก (ราก) 8. ช่วยรกั ษาโรคท่ีบังเกดิ แต่โลหติ ออกทางปากและจมูก (เหง้า) 9. เหง้าไพล ใช้เปน็ ยารักษาหอบหืด (เหงา้ แห้ง) 10. ชว่ ยแก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ แก้ท้องข้นึ ทอ้ งเดนิ ชว่ ยขบั ลมในลาไส้ (เหง้าแห้ง) ฯลฯ ประโยชนข์ องไพล 1. ช่วยทาให้ผิวหนังชุ่มช่ืน ด้วยการใช้เหง้าสด 1 แง่ง นามาฝานเป็นช้ินบาง ๆ แล้วต้มรวมกับสมุนไพรชนิดอ่ืน ๆ เนื่องจากไพลจะมีนา้ มันหอมระเหย (เหง้าสด) 2. ประโยชนไ์ พลช่วยไลแ่ มลง ฆ่าแมลง (เหง้า) 3. ชว่ ยกันยุงและไลย่ งุ นา้ มันจากหัวไพลผสมกบั แอลกอฮอลน์ ามาใช้ทาผิวสามารถช่วยกนั ยุงและไลย่ ุงได้ (หัวไพล) 4. สามารถนามาทาเป็น ครีมไพล, น้ามนั ไพล, ไพลผง, ไพลขดั ผิว, ไพลทาหนา้ ได้

กระทอื ชอ่ื สามัญ : Shampoo ginger, Wild ginger ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Zingiber zerumbet (L.) Roscoe ex Sm. จัดอย่ใู นวงศข์ งิ : (Zingiberaceae) สมนุ ไพรกระทอื มชี อื่ ท้องถ่นิ อ่ืน ๆ วา่ เฮียวแดง (แม่ฮอ่ งสอน), กระทือปา่ กะแวน กะแอน แสมดา เฮยี วดา แฮวดา (ภาคเหนือ), ทือ กะทือ เป็นต้น จัดเป็นไม้ล้มลุกมีลาต้นอยู่เหนือดินสูงราว 0.9-1.5 เมตร และมีเหง้าอยู่ใต้ดินเรียกว่า \"เหง้ากระทือ\" หรือ \"หัวกระทือ\" เปลือกนอกของเหง้ามีสีน้าตาลแกมเหลือง ส่วนเน้ือในมีสีเหลืองอ่อน กล่ินหอม มีรสขม และเผ็ดเลก็ น้อย ตน้ จะโทรมในหนา้ แลง้ แล้วจะงอกขน้ึ ใหมใ่ นหน้าฝน ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับในระนาบเดียวกัน ใบสีเขียว เข้ม ลักษณะของใบคล้ายรูปหอกแกมขอบขนาน ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ขอบและแผ่นใบเรียบ ด้านล่างของใบมักมีขนนุ่ม ใบกว้างประมาณ 5-7.5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร ท่ีก้านใบเป็นกาบหุ้มลาต้น ออกดอกเป็นช่อ แทงออกมาจากเหง้าขึ้นมา ผลมีลักษณะเป็นเมล็ดสีดา ผลค่อนข้างกลม ผลแห้งแตก ติดอยู่ในประดับ และมีเนื้อสีขาวบาง หมุ้ เมลด็ อยู่ สรรพคุณของกระทือ 1. ใชเ้ ป็นยาบารุงกาลงั (เหงา้ ) 2. ช่วยบารงุ ธาตุในร่างกาย (ดอก) 3. ช่วยขบั นา้ ยอ่ ย ชว่ ยให้เจริญอาหาร (เหงา้ ) 4. ชว่ ยแก้อาการเบ่อื อาหาร ชว่ ยให้เจรญิ อาหาร ทาให้สามารถรบั ประทานอาหารมีรสได้ (ต้น) 5. ชว่ ยแก้โรคผอมแหง้ ผอมเหลือง (ดอก) 6. ชว่ ยขับเลอื ดเน่าร้ายในเรอื นไฟ (ใบ) 7. แกเ้ บาเปน็ โลหิต (ใบ) 8. มกี ารใชเ้ หงา้ กระทอื ในตารับยา สรรพคณุ ช่วยบารุงธาตุไฟ แกไ้ ขต้ ัวรอ้ น และชว่ ยแก้เลือดกาเดาไหล (เหง้า) 9. ชว่ ยแกอ้ าการแน่นหน้าอก (เหง้า) 10. กระทือมสี รรพคุณชว่ ยแกไ้ ข้ (ต้น) ฯลฯ ประโยชนข์ องกระทอื 1. ใช้ปลูกเป็นไมป้ ระดับ เพ่อื ความสวยงามในสถานท่ตี ่าง ๆ 2. ดอกกระทือสามารถนาไปใชป้ ักแจกนั เพื่อความสวยงามได้ 3. กระทอื เป็นพืชทม่ี สี ารอาหารนอ้ ย แต่สาหรับบางทอ้ งถนิ่ กม็ กี ารใชห้ วั กระทอื ในการประกอบอาหาร ซึ่งเนื้อในจะมีรสขม เล็กน้อย ตอ้ งนามาหั่นแลว้ ขยากบั น้าเกลอื นาน ๆ ก่อนนามารับประทาน โดยทางภาคใต้ฝ่ังทะเลอันดามัน มีการใช้เหง้า ไปแกงกับปลาย่างเพอ่ื ใช้รับประทาน 4. ในจังหวัดกาญจนบุรีมีการนาดอกแห้งของกระทือและเหง้ากระทอื มาใชร้ บั ประทานเปน็ ผกั หรือใสใ่ นนา้ พริกรับประทาน 5. หนอ่ อ่อนหรือต้นออ่ นกระทือสามารถนามาทาแกงเผด็ แกงไตปลา หรอื นาไปต้มจ้ิมกินกับน้าพรกิ ได้ 6. สารสกัดจากกระทือด้วยเมทิลแอลกอฮอล์ สามารถนามาใช้ป้องกันและกาจัดเหาได้เป็นอย่างดี ซึ่งได้ผลดีกว่าขม้ินชัน ขงิ และไพล

ฟา้ ทะลายโจร ชื่อสามญั : Kariyat , The Creat ช่อื วทิ ยาศาสตร์ : Andrographis paniculata (Burm.f.) Wall.ex Nees จดั อยู่ในวงศ์เหงอื กปลาหมอ : (Acanthaceae) ฟ้าทะลายโจร มีชื่อท้องถ่ินอื่น ๆ ว่า หญ้ากันงู (สงขลา) น้าลายพังพอน ฟ้าละลายโจร (กรุงเทพฯ) ฟ้าสาง (พนัสนิคม) เขยตายยายคลมุ สามสบิ ดี (ร้อยเอด็ ) เมฆทะลาย (ยะลา) ฟ้าสะทา้ น (พทั ลุง) ฟ้าทะลายโจรเป็นไม้ล้มลุก สูง 30-70 ซม. ทุกส่วนมีรสขม ก่ิงเป็นใบส่ีเหล่ียม ใบ เด่ียว แผ่นใบสีเขียวเข้มเป็นมัน ดอก ช่อ ออกที่ปลายกิ่งและซอกใบ ดอกย่อย กลีบดอกสีขาว โคนกลีบติดกัน ปลายแยก 2 ปาก ปากบนมี 3 กลีบ มีเส้นสีม่วง แดงพาดอยู่ ปากล่างมี 2 กลบี ผล เปน็ ฝัก เม่อื แก่เปน็ สนี า้ ตาล แตกได้ ภายในมีเมลด็ จานวนมาก สรรพคณุ ของฟ้าทะลายโจร 1. สรรพคุณฟ้าทะลายโจรชว่ ยต่อต้านอนุมูลอิสระในรา่ งกาย ช่วยกระต้นุ การสร้างภมู คิ ุ้มกนั ในรา่ งกาย 2. สรรพคุณฟา้ ทะลายโจรมฤี ทธิ์ช่วยยบั ยงั้ การเจริญเติบโตของเซลลม์ ะเรง็ 3. สรรพคุณฟา้ ทะลายโจร ใบใชเ้ ปน็ ยาขมชว่ ยทาใหเ้ จริญอาหาร (ใบ) 4. ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ด้วยการใช้ต้นฟ้าทะลายโจร กระชาย และว่านเอ็นเหลือง นามาทาเป็นยาเม็ด ลกู กลอนรับประทาน (ต้น) 5. ช่วยป้องกนั และแกอ้ าการหวัด คดั จมูก (กิง่ , ใบ) 6. ช่วยแก้อาการปวดหัวตวั ร้อน อาการปวดหัวแบบไมม่ สี าเหตุ (ก่งิ , ใบ) 7. ฟ้าทะลายโจร สรรพคณุ ช่วยแกไ้ ข้ท่ัว ๆ ไป อาการปวดหวั ตวั รอ้ น เช่น ไข้หวดั ไขห้ วัดใหญ่ เปน็ ตน้ (ใบ, กิง่ ) 8. ช่วยรักษาไข้ไทฟอยด์ ด้วยการรับประทานฟ้าทะลายโจรก่อนอาหารครั้งละ 2 เม็ด วันละ 3 คร้ัง เป็นเวลา 3 สัปดาห์ หลงั จากน้นั ให้กินยาบารงุ เพ่อื ฟื้นฟกู าลังของผู้ปว่ ยร่วมดว้ ย 9. ชว่ ยแก้อาการไอ ลดน้ามูก และชว่ ยฆา่ เชอ้ื ท่จี มูก ด้วยการใชใ้ บนามาทาเปน็ ยาผงแลว้ นามาใชส้ ดู ดม (ใบ) 10. ชว่ ยลดและขับเสมหะ ด้วยการใช้ใบนามาทาเป็นยาผงแล้วนามาใช้สดู ดม (ใบ) ฯลฯ ประโยชนข์ องฟ้าทะลายโจร 1. ชว่ ยแกป้ ัญหาผมร่วง ด้วยการใช้ฟา้ ทะลายโจรแคปซูล โดยใชค้ รง้ั ละ 1 แคปซลู ดว้ ยการนาผงดังกล่าวไปละลายในน้าอุ่น แลว้ นามาชโลมให้ท่วั หนังศรี ษะ ทิง้ ไว้สกั พักแลว้ ล้างออก 2. ปจั จบุ ันได้มีการนาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรมาผลิตเป็น แคปซูลฟ้าทะลายโจร ซ่ึงหาซื้อมารับประทานได้ง่ายและสะดวก ในการรบั ประทานมากยิง่ ขน้ึ

บอระเพด็ ชอ่ื สามัญ : Heart-Leaved Moonseed ช่อื วทิ ยาศาสตร์ : Tinospora crispa (L.) Hook. f. & Thomson จัดอยูใ่ นวงศบ์ อระเพ็ด : (Menispermaceae) สมุนไพรบอระเพ็ด มีช่ือท้องถ่ินอ่ืน ๆ ว่า เจตมูลหนาม (หนองคาย), ตัวเจตมูลยานหรือเถาหัวดา (สระบุรี), หางหนู (อบุ ลราชธานี), จุง่ จิงหรอื เครือเขาฮอ (ภาคเหนอื ) เป็นต้น บอระเพ็ด เป็นไม้เลื้อยท่ีพบได้ตามป่าดิบแล้ง จัดเป็นสมุนไพรไทยบ้าน ๆ ที่มีสรรพคุณทางยาสารพัด โดยส่วนท่ีนิยม นามาใชท้ าเป็นยาจะคือส่วนของ \"เถาเพสลาก\" เพราะมลี กั ษณะไมแ่ กห่ รอื ออ่ นเกินไปนัก และมีรสชาติขมจัด แต่ถ้าเป็นเถาแก่จะ แตกแหง้ รสเฝ่ือน ไมข่ ม หรือถ้าอ่อนเกินไปกจ็ ะมีรสไมข่ มมาก สรรพคณุ ของฟา้ บอระเพด็ 1. บอระเพด็ ช่วยบารุงผิวพรรณใหส้ ดใส หนา้ ตาสดชื่น (ใบ) 2. มีสารตา้ นอนมุ ูลอสิ ระ มสี ว่ นชว่ ยในการชะลอวัย 3. ประโยชน์ของบอระเพ็ด ชว่ ยใหผ้ มดกหนาข้ึนและอาการผมหงอก ผมรว่ งกจ็ ะลดน้อยลง 4. แก้อาการคันหนงั ศีรษะ รงั แค ชนั นะตุ 5. ใชแ้ ก้อาการกระหายนา้ (เถา, ต้น) 6. ใช้เป็นยาบารงุ ธาตุ บารงุ ร่างกาย (ต้น, ใบ) 7. บอระเพ็ดสรรพคุณใชเ้ ปน็ ยาอายวุ ัฒนะ 8. ช่วยให้สขุ ภาพรา่ งกายแข็งแรง เสรมิ สร้างภมู ติ ้านทาน (ราก) 9. บอระเพ็ดลดความอว้ น (ใบ) 10. ใช้รกั ษาโรคมะเรง็ เม็ดเลือด (ราก) ฯลฯ ประโยชนข์ องฟา้ บอระเพ็ด ตารายาไทยใชเ้ ถาเป็นยาแก้ไข้ ขับเหง่ือ แกก้ ระหายนา้ แก้รอ้ นใน โดยนาเถาสดขนาดยาว 2 คืบครง่ึ (30-40 กรัม) ต้มคน้ั เอาน้าดมื่ หรือตม้ เค่ยี วกับนา้ 3 สว่ นจนเหลือ 1 สว่ น ดื่มก่อนอาหารวันละ 2 ครั้งเชา้ เยน็ หรอื เมอ่ื มีไข้ นอกจากน้ีใช้เป็น ยาขมเจริญอาหารด้วย ปจั จบุ นั องค์การเภสชั กรรมผลิตทิงเจอร์บอระเพ็ด เพ่ือใชแ้ ทน Tincture Gentian ซึง่ เป็นสว่ นผสมของ ยาธาตุทตี่ ้องนาเขา้ จากต่างประเทศ การทดลองในสตั ว์พบวา่ น้าสกดั เถาสามารถลดไขไ้ ด้

ขา่ ชอื่ สามัญ : Greater Galangal, Galangal. ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Alpinia galanga (L.) Willd. จดั อย่ใู นวงศ์ขิง : Zingiberaceae ข่ามีชื่อท้องถ่ินอ่ืน ๆ อีก เช่น ข่าหลวง (ภาคเหนือ-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)สะเอเชย เสะเออเคย (แม่ฮ่องสอน), ข่าหยวก (ภาคเหนอื ), , กฎกุ กโรหนิ ี (ภาคกลาง) เป็นต้น ข่าเป็นพืชท่ีมีลาต้นอยู่ใต้ดิน (เหง้า) และยังประกอบไปด้วย ใบ ดอก ผล และเมล็ด โดยจัดอยู่ในตระกูลขิง เป็นพืช สมุนไพรชนดิ หนึ่งท่ีบา้ นเราและอินโดนีเซียนิยมนามาใช้ในการประกอบอาหารต่าง ๆ ใช้เป็นเคร่ืองเทศเพื่อช่วยแต่งกล่ินอาหาร ดับกล่ินคาวของเน้ือสัตว์ต่าง ๆ ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องแกงหรือน้าพริกต่าง ๆ ใช้ปรุงรสในอาหารต่าง ๆ อย่างต้มข่า ต้มยา ผดั เผ็ด เปน็ ต้น นอกจากนด้ี อกและลาต้นออ่ นยังใชร้ บั ประทานเป็นผักสดไดอ้ ีกดว้ ย สรรพคณุ ของขา่ 1. เป็นยาแกท้ ้องข้นึ ท้องอดื เฟ้อ ขบั ลม 2. แก้อาหารเป็นพษิ 3. เป็นยาแก้ลมพษิ 4. เป็นยารักษากลากเกลือ้ น โรคผวิ หนงั ตดิ เขอ้ื แบคทเี รีย เชือ้ รา ประโยชนข์ องข่า 1. ช่วยใหเ้ จริญอาหาร (ข่าหลวง) 2. ชว่ ยบารุงร่างกาย (เหงา้ ) 3. ช่วยบารุงธาตุไฟ (หนอ่ ) 4. ข่ามีสาร 1-acetoxychavicol acetate (ACA) ซ่ึงมีฤทธ์ิยับยั้งการเกิดโรคมะเร็งจากการเหนี่ยวนาของสารก่อมะเร็ง จึงช่วยปอ้ งกนั การเกดิ โรคมะเร็งไปดว้ ยในตวั (เหงา้ ) 5. มฤี ทธช์ิ ่วยยับย้งั การเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง (สารสกัดจากเหงา้ ) 6. สารสกัดจากเหง้ามฤี ทธช์ิ ่วยชว่ ยลดระดับน้าตาลในเลือด (สารสกดั จากเหงา้ ) 7. ช่วยรกั ษาโรคหลอดลมอักเสบ (เหง้าแก่, สารสกัดจากเหง้า) 8. ช่วยขับเลือดลมใหเ้ ดินสะดวก ชว่ ยเพิม่ การไหลเวียนของเลือดและเพม่ิ การเผาผลาญของร่างกายให้ดีขน้ึ (ราก) 9. น้ามันหอมระเหยจากข่ามีประโยชน์อย่างมากต่อระบบทางเดินหายใจ จึงมีส่วนช่วยแก้อาการหวัด ไอ และเจ็บคอได้ เปน็ อยา่ งดี (สารสกัดจากเหง้า) 10. ช่วยแก้ลมแนน่ หนา้ อก (หน่อ) ฯลฯ

เพชรสงั ฆาต ชอื่ สามัญ : Edible - stemed Vine ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Cissus quadrangularis L. จัดอยู่ในวงศอ์ งนุ่ : (Vitaceae) สมุนไพรเพชรสังฆาต มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า สันชะควด (กรุงเทพ), ข่ันข้อ (ราชบุรี), สามร้อยต่อ (ประจวบคีรีขันธ์) ต้นเพชรสังฆาต เป็นไม้เถา เถาอ่อนสีเขียวเป็นส่ีเหลี่ยมเป็นข้อต่อกัน ใบเป็นใบเด่ียวรูปสามเหลี่ยม แผ่นใบเรียบสีเขียวเป็นมัน ออกเรียงสลับตามข้อต้น ปลายใบมน โคนใบเว้า ขอบใบหยักมนห่าง ๆ ก้านยาว 2-3 เซนติเมตร ดอกเป็นสีเขียวอ่อน ออกเป็น ช่อตามข้อตรงข้ามกับใบ กลีบดอกมี 4 กลีบ โคนด้านนอกสีแดง ด้านในเขียวอ่อน เมื่อดอกบานเต็มที่จะงองุ้มไปด้านล่าง ท่ีดอกมีเกสรเพศผู้ 4 อัน ผลเป็นรูปทรงกลม ผิวเรียบเป็นมัน ผลอ่อนสีเขียว ผลสุกสีแดงออกดา ในผลมีเมล็ดกลมสีน้าตาล 1 เมล็ด โดยส่วนท่นี ามาใชเ้ ป็นยาสมุนไพร ได้แก่ เถา ราก ใบยอดออ่ น และน้าจากตน้ ประโยชนแ์ ละสรรพคณุ ของเพชรฆาต 1. เพชรสงั ฆาตใช้ปรุงเป็นยาธาตุ ชว่ ยให้เจริญอาหาร (นา้ จากต้น) 2. น้าจากต้นเพชรสังฆาตใชห้ ยอดหู แกน้ า้ หนวกไหล (นา้ จากตน้ ) 3. นา้ จากต้นเพชรสังฆาตใชห้ ยอดจมกู แกเ้ ลือดเสียในสตรี ประจาเดือนไมป่ กติ (นา้ จากต้น) 4. ชว่ ยขบั นา้ เหลืองเสีย (ตน้ ) 5. ใช้เถาเพชรสังฆาตคัน้ เอาน้ามาด่ืมแกโ้ รคลักปดิ ลกั เปดิ หรือโรคเลือดออกตามไรฟนั ได้ (เถา, นา้ คนั้ จากตน้ ) 6. ชว่ ยรกั ษาโรคลาไสท้ ีเ่ กี่ยวกบั อาหารไม่ย่อย (ใบยอดอ่อน) 7. เพชรสังฆาตมสี รรพคุณช่วยขบั ลมในลาไส้ (เถา) 8. แกอ้ าการประจาเดอื นมาไม่ปกติ (เถา, น้าคนั จากต้น) 9. แกก้ ระดูกแตก หัก ซ้น (เถา) 10. ใช้เปน็ ยาพอกเมื่อกระดูกหัก (ใบ, ราก) 11. ใชเ้ ป็นยารกั ษาริดสดี วง

ตะไคร้หอม ชื่อสามญั : Citronella grass ช่อื วทิ ยาศาสตร์ : Cymbopogon nardus Rendle จัดอยู่ในวงศ์หญ้า : Gramineae ตะไครห้ อม มีช่ือเรียกตามทอ้ งถิ่นต่างๆ เช่น ตะไคมะขดู ตะไคร้มะขูด (ภาคเหนือ) หรอื ตะไครแ้ ดง (นครศรีธรรมราช) ตะไคร้หอมเป็นพืชล้มลุก อายุประมาณได้นาน 6-8 ปี เป็นพืชท่ีมีกล่ินหอม เจริญเติบโตด้วยการแตกหน่อ หรือแตกเหง้า มีทรง พ่มุ เปน็ กอคลา้ ยตะไคร้บ้าน มีลาต้นย่ืนจากเหง้าส้ัน รูปทรงกระบอก ผิวเรียบเกลี้ยง ส่วนเหนือดินสูงได้ตั้งแต่ 1-2 เมตร ใบเป็น ใบเด่ียว ขนาดใหญ่ ยาว แต่บางกว่าตะไคร้บ้าน ใบเรียวยาว กว้าง 1.5-2.6 เซนติเมตร ยาว 60-115 เซนติเมตร ปลายใบเรียว แหลม ขอบใบหยักถี่ คมแข็ง มีผิวใบสาก ไมม่ ขี น บริเวณโคนใบดา้ นในมขี น ปลายใบยาวมลี กั ษณะโนม้ ลง ใบมีสีเขียวแกมเหลือง กาบใบเป็นส่วนหุ้มที่มองเป็นลาต้นเทียม มีสีเขีนวแกมแดงหรือสีม่วง ซึ่งต่างจากตะไคร้บ้านท่ีมีสีขาวอมเขียวดอกอ อกในฤดู หนาว ออกเป็นช่อยาวขนาดใหญ่ สรรพคณุ ตะไคร้หอม 1. ชว่ ยขบั ลม แก้ท้องอดื ทอ้ งเฟ้อ 2. ช่วยในการยอ่ ยอาหาร และเจริญอาหาร 3. ช่วยป้องกัน และรกั ษาโรคในชอ่ งปาก ยังยัง้ เช้อื แบคทีเรยี เชอ้ื รา เชอ้ื ไวรัสบางชนดิ ประโยชน์ของตะไคร้หอม 1. ตะไคร้หอมเป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่มีน้ามันหอมระเหยสูงกว่าตะไคร้บ้าน พบในส่วนใบ กาบใบ และลาต้น มีสรรพคุณ ทางยา ใชแ้ กร้ ิดสีดวงในปาก ปากแตกระแหง แผลในปาก ขับลมในกระเพราะ ลาไส้ แก้ท้องอดื ท้องเฟอ้ 2. รากและต้น รสหอมปร่าขม เป็นยาแก้แผลในปาก แก้ปากแตกระแหง ทาให้แท้งบุตร ขับระดู ขับลมในไส้ แก้อาการ แน่นจุกเสยี ด แก้อาเจียน แก้ไข้ 3. น้ามันจากต้นทาป้องกันยุง จงึ นิยมนาตน้ สดมาทุบแลว้ วางไว้ ปอ้ งกันยุงได้ดี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook