วิจัย

ช่อื เร่ือง การเปรียบเทยี บการเพาะเห็ดนางฟ้าภฐู าน และเหด็ นางรมฮงั การดี ว้ ยเปลอื กขา้ วโพด ของนักเรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ( สายเกษตร ) โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่ ผ้วู จิ ยั นายจกั รพงษ์ แสงแกว้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี และเทคโนโลยี 1. ความสาคัญและท่มี าของปญั หา ปจั จบุ นั ประเทศไทยมีวัสดเุ หลอื ใชจ้ ากพืชผกั ทางการเกษตร และวัชพืชต่างๆ มากถึง 38 ล้านตัน ต่อปี โดย 3 ใน 4 มาจากภาคเกษตร (วรธรรม, 2555) สิ่งเหล้าน้ันสามารถนามาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ อย่างร้คู ุณคา่ ก็มาสมารถสรา้ งรายได้ให้เป็นอย่างดี เช่นการใช้ประโยชน์จากเศษวัสดุพืชเกษตรหลังการเก็บ เกีย่ วโดยเอาตอซังข้าวโพดทเ่ี หลือมมาจากโรงสมี าใช้ในการอดั แท่ง (อัญชนา, 2545) การนาต้นข้าวโพดที่เหลือ เกษตรกรมาผลิตเปน็ ขา้ วโพดหมัก เพื่อเก็บไว้เป็นอาหารโคขุนในช่วงที่ต้นข้าวโพดหายาก (ญาณเวทย์,2555) การใชท้ ะลายปาล์มท่ีเหลอื จากการบีบน้ามันมาเพาะเห็ดฟาง (ธนววณ, 2552) และนาชายอ้อยท่ีเหลือใช้จาก โรงงานอุตสาหกรรมมาใช้ประโยชน์เปน็ เปน็ วัตถุดิบในการบรรจุภณั ฑ์ที่สามารถยอ่ ยสลายไดต้ ามธรรมชาติ การเพาะเห็ดเป็นอาชีพท่ีสามารถเพาะได้ทุกภาค ทุกฤดูกาล ในขณะท่ีมีผลตอบแทนต่อหน่วย พ้นื ทกี่ ารผลิตที่สูง สามารถใช้แรงงานในครอบครัวและในท้องถ่ิน โดยไม่ต้องเคล่ือนย้ายแรงงานไปยังต่างถ่ิน การเพาะเห็ดส่วนใหญ่เป็นการเพาะโดยการเลียนแบบธรรมชาติโดยเป็นการเพาะในถุงพลาสติก วัสดุเพาะ หลักเปน็ ข้ีเล่อื ยยางพารา แต่เน่ืองจากขี้เลื่อยยางพารามีราคาสูงขึ้นจากต้นทูนขนส่ง และแหล่งวัตถุดิบแหล่ง ใหญอ่ ยทู่ างภาคใต้ ทาใหต้ นทูนในการผลิตสูงขึ้น ปัจจุบันเห็ดท่ีเราชอบรับประทานมีมากมายหลายชนิด ซึง เราไดร้ จู้ ักเหด็ มานานแลว้ และเหด็ สกุลนางรมก็เป็นเหด็ ทน่ี ยิ มรับประทานมีทั้งแบบรับประทานสด แบบบรรจุ กระป๋อง หรือแม้แต่การตากแห้ง ความนิยมของเห็ดก็เพิ่มมากขึ้น มีงานวิจัยหลายช้ินที่ยืนยันว่าเป็นสกุล นางรมมีคุณสมบัติ และมีประโยชน์ต่อร่างกายสูง (กรมส่งเสริมการเกษตร,2543) ซึ่งเห็ดนางรม(Pleurotus ssp.) สามารถใช้วัสดุท่ีเหลือใช้มาทางการเกษตรมาเพาะได้หลากหลายกว่าเห็ดในสกุลอื่นๆ เส้นใยเห็ด เจริญเตบิ โตไดด้ ีและเร็วสามารถปลอ่ ยเอ็มไซม์ที่มีระบบย่อยสะลายวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรได้หลากหลาย ชนิด (ปราโมทย์,2542) เน่ืองจากปัจจุบันทางภาคเหนือของประเทศไทย มีการเพาะปลูกข้าวโพดเล้ียงสัตว์เป็นจานวน มาก และอาเภอแม่แจม่ กม็ ีพน้ื ทีใ่ นการเพาะปลูกข้าวโพด เพราะเกษตรกรสว่ นมากปลูกขา้ วโพดเลี้ยงสัตว์เป็น อาชพี หลัก หลังจากทเี่ กบ็ เก่ียวผลผลติ เสร็จชาวบา้ นจะทาการทาลายโดยวิธกี ารเผาต้นข้าวโพด ตอชังข้าวโพด ทาให้เกดิ ปัญหาหมอกควนั ตามมา ส่วนใหญเ่ ผากลายเปน็ ควันพษิ ในอากาศก่อใหเ้ กิดหมอกควันพิษเพิ่มมากข้ึน ไปอกี สง่ิ ที่ตามมาคอื คนเชียงใหม่ มีอตั ราการปว่ ยของมะเร็งปอดสูงกว่ากรุงเทพมหานคร และสูงกว่าค่าเฉลี่ย ของประเทศไทย ดงั นั้นจงึ ได้ทาการประยุกต์ใช้วัตถุดิบท่ีเหลือใช้จากท้องถิ่น เพ่ือนามาแทนข้ีเลื่อยยางพารา

เพื่อควรหาวธิ นี ามาใช้ใหเ้ กิดประโยชนเ์ พ่ือเพมิ่ มูลค่าและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรมากกว่าเผาท้ิง ซึ่งเปลือก ข้าวโพดเป็นเศษวัสดุที่เหลือใช้มาทาก้อนเห็ดจากเปลือกข้าวโพด เพื่อที่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ้ื อข้ีเล่ือย ยางพาราที่สูง และท่ีสาคญั ยงั จะช่วยหมอกควนั จากการเผา ดว้ ยเหตผุ ลดงั กลา่ ว ผวู้ ิจัยจึงเปรียบเทียบการเพาะเห็ดนางฟ้าภูฐาน และเห็ดนางรมฮังการีด้วย เปลอื กข้าวโพด ของนักเรียนช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 5( สายเกษตร ) โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 สังกัดสานัก บริหารงานการศึกษาพิเศษ การเพาะเห็ดจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร คือเปลือกข้าวโพดเพ่ือให้นักเรียน ได้รับความรู้และมีทางเลือกที่ให้สามารถนาไปปฏิบัติหากขี้เลื่อยขาดแคลน หรือหายาก กับก่อให้เกิดความ ย่ังยืนในระบบการผลิตเห็ดโดยใช้วัสดุเหลือใช้ในท้องถ่ิน เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร พร้อมท้ังรักษา สภาพแวดล้อม ลดการเผาทาลายและเกดิ ประโยชน์สงู สุดกับนักเรยี นตอ่ ไป 2. วัตถุประสงคใ์ นการวิจัย 1. เพื่อศึกษาการเพาะเห็ดนางฟา้ ภฐู าน และเห็ดนางรมฮงั การดี ว้ ยเปลอื กข้าวโพด 2. เพื่อเปรียบเทยี บการเจริญเติบนางฟา้ ภูฐาน และเหด็ นางรมฮังการีด้วยเปลอื กข้าวโพด 3. เพ่อื เพ่ือทดลองการใช้เปลือกข้าวโพดแทนขเ้ี ล่ือยยางพาราในการเพาะเหด็ นางฟ้า 3. ขอบเขตของการวิจยั 3.1. ประชากรที่ใช้ในการวิจัย นักเรียนที่กาลงั ศึกษาอย่ใู นระดบั ช้นั ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5( สายเกษตร ) จานวน 12 คน โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 ตาบลช่างเคิง่ อาเภอแมแ่ จม่ จงั หวดั เชียงใหม่ 3.2. ขอบเขตดา้ นเนื้อหา 3.2.1. ศึกษาการเจริญเติบโตและผลผลิตของเห็ดนางฟ้าภูฐาน และเห็ดนางรมฮังการีด้วย เปลอื กข้าวโพด 3.2.2. เกบ็ ขอ้ มลู ผลผลิตโดยการวัด จานวนดอก และนา้ หนักสด 3.2.3 เก็บขอ้ มูลการเจริญเตบิ โตทุกๆ วัน ตลอดระยะเวลาต้ังแตเ่ ปดิ ดอกเป็นระยะเวลา 2 เดอื น 3.3. ขอบเขตดา้ นระยะเวลา ตลอดระยะเวลาตั้งแต่เปิดดอกเป็นระยะเวลาต้ังแต่เดือนธันวาคม 2563 – เดือนมกราคม 2564

4. ประโยชนค์ าดวา่ จะได้รบั จากการวิจยั 1. เพ่อื เสนอวธิ กี ารเพาะเช้อื เห็ดนางฟา้ ภฐู าน และเหด็ นางรมฮังการดี ว้ ยเปลือกขา้ วโพดซึ่งอาจจะเป็น ทางเลอื กใหม่ให้แกน่ ักเรยี นหรอื ผทู้ ่ีมีความสนใจ 2. นกั เรยี นสามารถนาความรูเ้ กยี่ วกบั การเพาะเห็ดนางฟ้าภูฐาน และเห็ดนางรมฮงั การีดว้ ยเปลอื ก ขา้ วโพด ไปตอ่ ยอดประกอบเปน็ อาชพี ได้ 3. นักเรยี นสามารถเปรยี บเทียบผลผลติ ของเห็ดนางฟ้าภฐู าน และเหด็ นางรมฮังการไี ด้ 5. ประชากร และกลุ่มตัวอยา่ ง นักเรียนท่กี าลงั ศึกษาอย่ใู นระดับช้นั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5( สายเกษตร ) จานวน 12 คน โรงเรียนราช ประชานุเคราะห์ 31 ตาบลช่างเคิ่ง อาเภอแมแ่ จม่ จงั หวัดเชยี งใหม่ 6. เครือ่ งมือทใ่ี ชใ้ นการวิจัย 6.1 อุปกรณใ์ นการเพาะเหด็ เหด็ นางฟ้าภูฐาน และเหด็ นางรมฮงั การดี ้วยเปลือกขา้ วโพด 6.2 แบบนบั จานวนดอกเหด็ นางฟ้าโดยนบั ทุกวนั 7. การวิเคราะห์ข้อมูล 7.1 การวิเคราะหข์ อ้ มูลความแปรปรวนของจานวนดอก และ น้าหนักสด 7.2 วิเคราะห์ข้อมูลโดยควบคุมเห็ดนางฟ้าทุกถุงต้องมีน้าหนักเท่ากัน สาร เร่งการเจริญเติบโต เหมอื นกนั อณุ หภมู เิ ดียวกัน เวลาทใ่ี ชใ้ นการดาเนินการพรอ้ มกนั