TASC2023 Conference Book

การประชมุ วิชาการวิทยาศาสตรก์ ารเสพติด Thailand Addiction Scientific Conference 2023: นโยบายยาเสพติดและการนาส่กู ารปฏิบตั ิ Drug Policy and Implementation 9-10-11 สิงหาคม 2566 ณ กรีน นิมมาน สานักบริการวิชาการ มหาวิทยาลยั เชียงใหม่ 9-10-11 August 2023 at Green Nimman Uniserv Chiang Mai University โปรแกรม บทคดั ย่อ บธู นิทรรศการ Program, Abstract, Exhibition

ยินดีต้อนรบั Welcome ผเู้ ข้าร่วมการประชุมทุกท่าน …C…on…f…e…re…n…ce…P…a…r…tic…ip…a…n…t!………………………………… คณะผจู้ ดั การประชุมวชิ าการวทิ ยาศาสตรก์ ารเสพตดิ ประจาปี พ.ศ. 2566 จดั รว่ มกบั การ ประชมุ ประจาปีของสมาคมความรว่ มมอื ทางวชิ าการของมหาวทิ ยาลยั นานาชาตเิ พอ่ื การลดอปุ สงค์ ตอ่ ยาเสพตดิ ICUDDR Conference 2023 รว่ มจดั โดยมลู นิธศิ นู ยว์ ชิ าการสารเสพตดิ International Consortium of Universities on Drug Demand Reduction สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตรส์ ขุ ภาพ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ Global Health Research Center คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ศูนยว์ จิ ยั และจดั การความรเู้ พอ่ื การควบคมุ ยาสบู (ศจย.) คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล ศนู ยว์ จิ ยั ปัญหาสรุ า (ศวส.) คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ ศูนยศ์ กึ ษาปัญหาการ เสพตดิ (ศศก.) คณะแพทยศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั และสถาบนั เพอ่ื การยตุ ธิ รรมแหง่ ประเทศไทย (องคก์ ารมหาชน) มคี วามยนิ ดตี อ้ นรบั ทุกทา่ นเขา้ สสู่ องงานประชมุ รว่ มในประเดน็ หลกั ประจาปีคอื TASC 2023 นโยบายยาเสพตดิ การนาส่กู ารปฏบิ ตั ิ และ ICUDDR Conference 2023 วทิ ยาศาสตรก์ ารเสพตดิ การศกึ ษา: เตบิ โตและกา้ วหน้าในโลกหลงั การระบาด On behalf of the organizing committee, we would like to warmly welcome our esteemed speakers, presenters, and audiences to Thailand Addiction Scientific Conference 2023 joint with ICUDDR Conference 2023 and hopefully you have a pleasant stay in this beautiful friendly Chiang Mai city. TASC 2023 โปรกรม Program l บทคัดยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 2 / 72

สาระสาคญั Content หน้า Page คากลา่ วตอ้ นรบั สกู่ ารประชมุ Welcome Remarks 4 บทนา Introduction 6 โปรแกรม Program 9 บทคดั ยอ่ ผลงานวชิ าการ Abstract 23 บธู นิทรรศการ Exhibition 51 ………………………………………………………………………… คณะผจู้ ดั การประชุม TASC 2023 หวงั เป็นอยา่ งยง่ิ วา่ ทา่ นจะไดร้ บั สาระประโยชน์และโอกาสพฒั นา เครอื ขา่ ยวชิ าการวทิ ยาศาสตรก์ ารเสพตดิ โปรด Scan QR Code ดา้ นลา่ งและเขา้ สู่ Google Form เพอ่ื ใหข้ อ้ มลู และขอ้ เสนอแนะตอ่ การประชุมครงั้ น้ีและการปรบั ปรงุ ในครงั้ ต่อไป ดว้ ยความขอบคุณ We hope that you have enjoyed the TASC 2023 conference. Please give us your feedback for the conference and sessions you attended. Please scan the QR code into Google Form, thank you. TASC 2023 โปรกรม Program l บทคดั ยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 3 / 72

Welcome Remarks for the ICUDDR-TASC Joint-Conference 2023 By Associate Professor Winita Punyodom Vice-President, Chiang Mai University The U.S. Consulate General in Chiang Mai, Ms. Lisa Buzenas, Deputy Regional Representative of UNODC Southeast Asia and the Pacific, Mr. Benedikt Hofman, ICUDDR Executive Director, Dr. Kevin Mulvey, ICUDDR Asia Pacific Regional Coordinator, Dr. Prapapun Chuchareon, Chairman of the Organizing Committee, Dr. Apinun Aramrattana, Respected speakers and participants from Thailand and overseas, It is my great honor to be a chairperson and addressing an opening remark in this important international gathering of prestige academia and workers on addiction around the world. Chiang Mai is the second city of Thailand and located in northern Thailand, closed to the Golden Triangle. Northern Thailand has suffered from various waves of addiction for several decades. It has been a great honor for Chiang Mai University to collaborate with the Royal Project, a world class sustainable development program. It was initiated here in Chiang Mai in 1969 by our beloved King Rama 9 and has expanded to cover all opium crop areas. It has led to the end of opium problems in Thailand and enable prosperous socio-economic opportunities for poor hilltribes people in northern hilly remote areas. However, the disruption from globalization and the Covid-19 pandemic post serious challenges to the achievement from the program. Addiction in our society is now spreading widely, more and more complex, involving younger and younger ages. Since 2002, Chiang Mai University has signed an MOU with the Office of Narcotic Control Board of Thailand aiming at providing academic supports that ranging from laboratory and clinical to field researches as well as training programs for health and non-health workforce. Since then, the Research Institute for Health Sciences and Faculty of Medicine at Chiang Mai University have been working closely with experts from relevant specialties in the university and other key universities in Thailand, on various policy relevant researches. TASC 2023 โปรกรม Program l บทคัดยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 4 / 72

Results of these works have been used by the Office of Narcotic Control Board and relevant agencies in the Ministries of Health and Justice. May I mention several significant works initiated from these strong partnerships. These include a series of the national household surveys on drug abuse since 2001; the estimation of HIV incidence among drug users in northern Thailand and the HIV prevention researches among injection and non-injection drug users; the national estimation studies of people who inject drugs; the intensive technical assistance to develop a national drug profile surveillance system, forensic monitoring system, psycho-social counseling service in court system and community-based drug treatment and care models including the legalization of the traditional use of kratom leaves. These works have been properly utilized by the Office of Narcotic Control Board, the Ministry of Public Health and relevant agencies for policy and strategic plans and implementation in Thailand. These intensive technical assistance works enable our team gained supports from the Substance Abuse and Mental Health Services Administration or SAMHSA, US Government, to conduct a 4-year HIV Addiction Technology Transfer program for Southeast Asia Region during 2016-2019. The program had shared various innovative development works with key academia and stakeholders in the region. After the region suffering from the pandemic for a few years, it is now a great opportunity to reconvene addiction experts from the international university consortium. We are pleased and sincerely thanks to the ICUDDR for choosing Chiang Mai University as a venue for its annual meeting here. I hope this conference will bring all dedicated experts and their institutions closer together. The integrated works from all of you will help reduce demand on addiction in our society and enable a safer environment for our young generation. On behalf of the Chiang Mai University, I would like to thanks ICUDDR and the organizing committee for their hard works putting things together for this important event. May I open the conference now and wish the conference a successful event. TASC 2023 โปรกรม Program l บทคดั ยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 5 / 72

บทนา Introduction งานประชมุ วิชาการวิทยาศาสตรก์ ารเสพติด ประจาปี พ.ศ. 2566 จดั รว่ มกบั การประชุมประจาปี 2023 ของสมาคมความรว่ มมือทางวิชาการของมหาวิทยาลยั นานาชาติเพ่ือการลดอปุ สงคต์ ่อยาเสพติด หรือ International Consortium of Universities for Drug Demand Reduction (ICUDDR) มงุ่ หมายทจ่ี ะ เป็นพน้ื ทแ่ี ละโอกาสของการพบกนั ของนกั วชิ าการและนักวจิ ยั ดา้ นการเสพตดิ องคก์ ร และผเู้ กย่ี วขอ้ งในการนา นโยบายยาเสพตดิ ไปส่กู ารปฏบิ ตั ิ บคุ ลากรปฏบิ ตั งิ านเกย่ี วขอ้ งกบั ยาเสพตดิ ในระบบสขุ ภาพ ระบบยตุ ธิ รรม ภาคการศกึ ษา และภาคประชาสงั คม เพอ่ื แลกเปลย่ี นเรยี นรปู้ ระสบการณ์ทจ่ี ะกา้ วทนั สถานการณ์การเสพตดิ ทงั้ ในระดบั โลก ภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ และประเทศไทย ประเดน็ หลกั (Theme) ประจาปี พ.ศ. 2566 ของ TASC 2023 คอื นโยบายยาเสพตดิ การนาส่กู ารปฏบิ ตั ิ และของ ICUDDR Conference 2023 คอื วทิ ยาศาสตรก์ ารเสพตดิ การศกึ ษา: เตบิ โตและกา้ วหน้าในโลกหลงั การระบาด หวั ขอ้ นาเสนอสาคญั อาทิ นโยบายยาเสพตดิ โลก ระบบสารสนเทศเพอ่ื การพฒั นานโยบายยาเสพตดิ ประเดน็ เชงิ สุขภาพและสงั คมหลงั การทาใหพ้ ชื เสพตดิ ถูกกฎหมาย ระบบเฝ้าระวงั ทางนิตวิ ทิ ยาศาสตร์ ระบบ ยตุ ธิ รรมทางเลอื ก การบาบดั รกั ษา การป้องกนั กลยุทธล์ ดอุปสงคข์ องยาเสพตดิ บุหร่ี แอลกอฮอล์ รวมถงึ หลกั สตู รเวชศาสตรก์ ารเสพตดิ ในโรงเรยี นแพทย์ ผเู้ ขา้ รว่ มประกอบดว้ ย นกั วชิ าการ นกั วจิ ยั นกั การศกึ ษาจาก องคก์ รดา้ นการเสพตดิ ผรู้ บั ผดิ ชอบนานโยบายและกฎหมายยาเสพตดิ สกู่ ารปฏบิ ตั ิ บคุ ลากรผปู้ ฏบิ ตั งิ านดา้ นยา เสพตดิ ในระบบสุขภาพ ระบบยตุ ธิ รรม ภาคการศกึ ษา ภาคประชาสงั คมผขู้ บั เคลอ่ื นงานดา้ นยาเสพตดิ ในชุมชน และส่อื มวลชนดา้ นสขุ ภาพ สงั คม อาชญากรรมยาเสพตดิ TASC2023 และ ICUDDR Conference 2023 เป็นเวทพี บปะและกา้ วทนั วทิ ยาศาสตรก์ ารเสพตดิ นโยบายยาเสพตดิ พชื เสพตดิ ถูกกฎหมาย ระบบเฝ้าระวงั ทางนติ วิ ทิ ยาศาสตร์ ระบบยตุ ธิ รรมทางเลอื ก การ รกั ษาดว้ ยยาทางการแพทย์ กลยทุ ธล์ ดอุปสงคแ์ ละการป้องกนั แอลกอฮอล-์ ยาเสพตดิ -บุหร่ี ตลอดจนหลกั สตู ร เวชศาสตรก์ ารเสพตดิ ถ่ายทอดบทเรยี นและประสบการณ์โดยผเู้ ชย่ี วชาญจาก UNODC, UNAIDS, WHO, IDPC, ICUDDR แพทยจ์ ากสหรฐั อเมรกิ า ออสเตรเลยี อนิ โดนเี ซยี เวยี ดนาม และไทย TASC 2023 โปรกรม Program l บทคัดยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 6 / 72

ตลอด 3 วนั ของงานประชุมวชิ าการวทิ ยาศาสตรก์ ารเสพตดิ ประจาปี พ.ศ. 2566 (TASC 2023) รว่ มกบั งานประชมุ ประจาปีของสมาคมความรว่ มมอื ทางวชิ าการของมหาวทิ ยาลยั นานาชาตเิ พ่อื การลดอุปสงคต์ ่อยา เสพตดิ หรอื International Consortium of Universities for Drug Demand Reduction (ICUDDR 2023) นาเสนอ 40 หวั ขอ้ ประกอบดว้ ย 6 plenaries 1 panel 30 symposiums 1 workshop 1 round table 4 ทศั น ศกึ ษา 18 บธู นทิ รรศการ และการนาเสนอผลงานวชิ าการดว้ ยโปสเตอร์ พรอ้ มบรกิ ารลา่ มแปลภาษาองั กฤษ-ไทย 14 หวั ขอ้ TASC 2023 joint with ICUDDR Conference 2023 provides an opportunity for addiction scholars, researchers, practitioners, drug policy implementers, players in healthcare-justice-education systems, and civil society to meet and learn more. This year’s themes are ‘drug policy and implementation’ together with ‘addiction science, policy and education: growth and progress in a post pandemic world’. Participants of the TASC 2023 & ICUDDR Conference 2023 are composed of academics, researchers, scholars for substance use and abuse, drug policy implementer and law enforcement, health professionals, justice professionals, civil society responding to drug and addiction, and media professionals. TASC 2023 joint with ICUDDR Conference 2023 is a space to meet and keep up on addiction sciences; drug policy; legalization of narcotic plants; forensic surveillance; alternative justice; treatment updates; demand reduction strategies for alcohol, drugs, smoking; and physician education. Experiences sharing by UNODC, WHO, IDPC, US, AU, Southeast Asia and Thai specialists. Highlights include global drug policy; international and regional information system for policy development; emerging health and social issues after the legalization of narcotic plants; forensic surveillance; alternative justice; treatment updates; demand reduction strategies for alcohol, drugs, smoking; and physician education. 3-day joint conferences between TASC 2023 and ICUDDR 2023 presents 40 sessions including 6 plenaries, 1 panel, 30 symposiums, 1 workshop, 1 round table, 18 exhibition booths, 4 site visits, and poster presentation. Simultaneous interpretation is provided in 14 sessions English to Thai. TASC 2023 โปรกรม Program l บทคดั ยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 7 / 72

วทิ ยากรในงานประชมุ TASC 2023 รว่ มกบั ICUDDR Conference 2023 ลว้ นเป็นผเู้ ชย่ี วชาญมากดว้ ย องคค์ วามรแู้ ละประสบการณ์จากองคก์ รดา้ นสุขภาพและยาเสพตดิ ระหวา่ งประเทศ สหรฐั อเมรกิ า ออสเตรเลยี และในภมู ภิ าคเอเชยี และเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ Meet the high profile speakers at TASC 2023 sharing international, USA, Australia, Asia, Southeast Asia region, and domestic Thai experiences. ผนู้ าเสนอสาคญั อาทิ Keynote speakers are Ms. Karen Peters, UNODC; Mr. Inshik Sim, UNODC; Dr. Dzmitry Krupchanka, WHO; Ms. Gloria Lai, IDPC; Dr. Robert Levy, University of Minnesota USA; Dr. Gavin Bart, University of Minnesota USA; Dr. Igor Koutsenok, University of California San Diego; Dr. Dennis McCarty, Oregon University of Health Sciences; Dr. Victor Capoccia, Consultant; Professor Michael Farrell, University of New South Wales; Dr. Robert Ali, University of Adelaide Australia; H.E. Dr. Hamed AlGhafri, National Rehabilitation Center Abu Dhabi; Dr. Imelda Indriyani, Drug Dependence Hospital Indonesia; Dr. Le Minh Giang, Hanoi Medical University Vietnam; Professor Dr. Sawitri Asnangkornchai, MD., Center of Alcohol Studies, Prince of Songkla University; and Assistant Professor Dr. Apinun Aramrattana, MD., Substance Abuse Academic Foundation; in company with experts from leading universities and organizations working against drug abuse. TASC 2023 โปรกรม Program l บทคดั ยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 8 / 72

โปรแกรม Program การประชุม TASC 2023 นาเสนอ ณ ชนั้ 2 หอ้ งทองกวาว 1 (มบี รกิ ารแปลภาษาองั กฤษ- ไทย) และหอ้ งทองกวาว 2 แสดงในเลม่ เอกสารน้ี การประชุม ICUDDR Conference 2023 นาเสนอ ณ ชนั้ 1 หอ้ งอนิ ทนิล หอ้ งฝ้ายคา และหอ้ งบวั ตอง รายละเอยี ดโปรแกรมแสดงในเลม่ ICUDDR Agenda หมายเหตุ (1) Plenary หมายถงึ การนาเสนอรวมหอ้ ง ผเู้ ขา้ รว่ มรบั ฟังไดท้ ห่ี อ้ งทองกวาว 1 (2) Symposium หมายถงึ การนาเสนอหลายหวั ขอ้ ขนานกนั เวลาเดยี ว ผเู้ ขา้ รว่ มเลอื กรบั ฟังตาม ความสนใจ TASC 2023 is presented on the second floor at Thong Khaw 1 Room (simultaneous English-Thai translation provided) and Thong Khaw 2 Room. Detailed program is shown below. ICUDDR Conference 2023 is presented on the first floor at Intanin Room, Fai Kham Room, and Bua Tong Room. Detailed program is shown in the ICUDDR Agenda Book. Note: Plenary, all attendees come together. Symposium, attendees select which session to attend based on interest. TASC 2023 โปรกรม Program l บทคัดยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 9 / 72

TASC2023 โปรแกรม Day1 วนั พธุ ที่ 9 สิงหาคม 2566 TASC2023 Day1 Program, Wednesday 9 August 2023 07.30 – 08.30 ลงทะเบยี น Registration 08.30 – 09.45 พิธีเปิ ดการประชมุ หอ้ งทองกวาว 1-2 ชนั้ 2 Opening Ceremony at Thong Khaw Room 1 and 2, 2nd Floor การแสดงจากศูนยฝ์ ึกและอบรมเดก็ และเยาวชน เขต 7 จงั หวดั เชยี งใหม่ Youth Performance by Regional Juvenile Vocational Training Center (7), Chiang Mai กลา่ วตอ้ นรบั เขา้ สกู่ ารประชุมและกล่าวแนะนากงสุลใหญ่ โดย ดร.เควนิ มลั วี ICUDDR Welcome to the Conference / Introduction of Consul General by Dr. Kevin Mulvey, ICUDDR กล่าวเปิดการประชุม โดยกงสลุ ใหญ่ ลสิ า เอ บเู จนนาส สถานกงกุลสหรฐั อเมรกิ า เชยี งใหม่ Opening Remarks by General Consul Ms. Lisa A. Buzenas – The U.S. Consulate in Chiang Mai, Thailand กลา่ วตอ้ นรบั สู่ ICUDDR/Thailand สานกั งานเอเชยี แปซฟิ ิก โดย ดร.ประภาพรรณ จเู จรญิ มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล Welcome to Asia Pacific IDCUDDR/Thailand by Dr. Prapapun Chuchareon, Mahidol University กลา่ วตอ้ นรบั ส่มู หาวทิ ยาลยั เชยี งใหมแ่ ละกล่าวแนะนารองอธกิ ารบดี โดย ดร. นพ.อภนิ นั ท์ อรา่ มรตั น์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ Welcome to Chiang Mai University / Introduction of Vice President by Dr. Apinun Aramrattana, Chiang Mai University กลา่ วตอ้ นรบั สกู่ ารประชุม โดย รศ. วนิ ติ า บญุ โยดม รองอธกิ ารบดี มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ Welcome Remarks by Associate Professor Winita Punyodom, Vice President, Chiang Mai University 09.45 – 10.30 Plenary 1: สถานการณ์อปุ สงคย์ าเสพติดระดบั โลก Global State of Drug Demand ประธาน/Chair: Dr. Kevin Mulvey, ICUDDR Executive Director ผนู้ าเสนอ/Speaker: Mr. Benedikt Hofmann, Deputy Regional Representatives UNODC Regional Office for Southeast Asia and the Pacific TASC 2023 โปรกรม Program l บทคัดยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 10 / 72

2nd Floor, Thong Khaw 1 and Thong Khaw 2 1st Floor, Intanin, Fai Kham, Bua Tong 11.00-12.30 TASC Symposium 1: ทองกวาว 1 ระบบสารสนเทศเพื่อการพฒั นานโยบาย: รายงานยาเสพติดโลก ดชั นี นโยบายยาเสพติดโลก และรายงานสถานการณ์ยาเสพติดภมู ิภาคอาเซียน Thong Khaw 1 Information system for policy development: world drug report, global drug policy index and ASEAN drug report ประธาน: รศ. ดร. นพ. เกรยี งไกร ศรธี นวบิ ุญชยั RIHES มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ Chair: Assoc. Prof. Dr. Kriengkrai Srithavaniboonchai, MD., RIHES, Chiang Mai University TASC 2023 โปรกรม Program l บทคัดยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 11 / 72

ผนู้ าเสนอ: Ms. กวนิ วดี ศุภพงษเ์ ทวาสกุล, UNODC Southeast Asia Ms. Gloria Lai, International Drug Policy Consortium รศ. ดร. มานพ คณะโต คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น Speakers: Ms. Kavinvadee Suppapongtevasakul, UNODC Southeast Asia \"Information system for World Drug Report\" Ms. Gloria Lai, International Drug Policy Consortium \"Global Drug Policy Index\" Assoc. Prof. Dr. Manop Kanato, Faculty of Medicine, Khon Kaen University \"ASEAN Drug Report\" ผอู้ ภปิ ราย: ผศ. ดร. นพ. อภนิ นั ท์ อรา่ มรตั น์ มลู นิธศิ นู ยว์ ชิ าการสารเสพตดิ Discussant: Dr. Apinun Aramrattana, MD., Substance Abuse Academic Foundation 11.00-12.30 TASC Symposium 2: ทองกวาว 2 การนานโยบายแอลกอฮอลโ์ ลกส่กู ารปฏิบตั ิในประเทศไทย มปี ระสิทธิภาพหรือไม่? Thong Khaw 2 Are global alcohol policy initiatives effectively implemented in Thailand? ประธาน: ศ.ดร.พญ.สาวติ รี อษั ณางคก์ รชยั ศูนยว์ จิ ยั ปัญหาสุรา มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ Chair: Prof. Dr. Sawitri Assanangkornchai, MD, Center of Alcohol Studies, PSU ผนู้ าเสนอ: ดร. วทิ ย์ วชิ ยั ดษิ ฐ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ รศ. ดร. นพ. พลเทพ วจิ ติ รคุณากร มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ กนษิ ฐา ไทยกลา้ สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตรส์ ขุ ภาพ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ Speakers: Dr. Wit Wichaidit, Prince of Songkla University 'Global and national alcohol policy measures' Dr. Polarthep Vichitkunakorn, Prince of Songkla University 'Alcohol policy implementation outcomes in Thailand' Ms. Kanitha Thailka, RIHES, Chiang Mai University 'Case study: Online alcohol marketing control and loopholes in relevant laws.' ผอู้ ภปิ ราย: Dr. Jos Vandelaer, WR Thailand และ Prof. Marc Potenza, Yale University Discussants: Dr. Jos Vandelaer, WR Thailand and Prof. Marc Potenza, Yale University 12.30-13.30 พกั อาหารกลางวนั Lunch Break TASC 2023 โปรกรม Program l บทคัดยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 12 / 72

13.30-14.30 TASC Symposium 3 ทองกวาว 1 หลกั สตู รการฝึ กอบรมแพทยด์ ้านการบาบดั รกั ษายาเสพติด: ประสบการณ์จาก ประเทศสหรฐั อเมริกาและไทย Thong Khaw 1 Physician education addiction treatment and care, US and Thailand experiences ประธาน: ศ. ดร. พญ. สวุ รรณา อรณุ พงษไ์ พศาล คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น Chair: Prof. Dr. Suwanna Aroonpongpaisal, MD, Faculty of Medicine, KKU ผนู้ าเสนอ: Dr. Robert Levy, M.D., University of Minnesota ประเทศสหรฐั อเมรกิ า รศ. พญ. รศั มน กลั ยาศริ ิ คณะแพทยศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั Prof. Marc Tobenza, Yale University ประเทศสหรฐั อเมรกิ า Speakers: Dr. Robert Levy, Department of Family Medicine, U. of Minnesota, US Dr. Rasmon Kalayasiri, Center for Addiction Studies, CU, Thailand Prof. Marc Tobenza, Yale University, US 13.30-14.30 TASC Symposium 4 ทองกวาว 2 งานวิจยั และผลลพั ธเ์ พ่ือการพฒั นานโยบายกญั ชา Thong Khaw 2 Research and outcomes for cannabis policy development ประธาน: ผศ. ดร. อุษณยี ์ พง่ึ ปาน วทิ ยาลยั วทิ ยาศาสตรส์ าธารณสุข จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั Chair: Asst. Prof. Dr. Usaneya Pengparn, College of Public Health Sciences, CU ผนู้ าเสนอ: ศ.ดร. จติ รลดา อารยี ส์ นั ตชิ ยั วทิ ยาลยั วทิ ยาศาสตรส์ าธารณสุข จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั นพ. นพพร ช่นื กลน่ิ ผอู้ านวยการ สถาบนั วจิ ยั ระบบสาธารณสขุ Speakers: Prof. Dr. Chitlada Areesantichai, College of Public Health Sciences, CU Dr. Nopporn Cheanklin, Health System Research Institute, Thailand 14.30-15.00 พกั อาหารว่าง Coffee/Tea Break 15.00-16.30 TASC Symposium 5 ทองกวาว 1 ระบบเฝ้าระวงั ทางนิติวิทยาศาสตร์ Thong Khaw 1 Forensic surveillance system in Thailand ประธาน: ผศ.ดร.นพ. อภนิ นั ท์ อรา่ มรตั น์ ผอู้ านวยการ มลู นธิ วิ ชิ าการสารเสพตดิ Chair: Dr. Apinun Aramrattana, MD., Substance Abuse Academic Foundation ผนู้ าเสนอ: ศ.นพ. วนิ ยั วนานุกลู โรงพยาบาลรามาธบิ ดี มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล รศ.นพ.วศิ าล วรสวุ รรณรกั ษ์ โรงพยาบาลรามาธบิ ดี มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล รองศาสตราจารย์ ดร. ภทั รนิ ี ไตรสถติ ย์ ภาควชิ าสถติ ิ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ TASC 2023 โปรกรม Program l บทคัดยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 13 / 72

Speakers: Prof. Winai Wananukul, MD., Ramathibodi Hospital \"Toxicological monitoring system\" Assoc. Prof. Dr.Wisarn Worasuwannarak, Ramathibodi Hospital \"Thailand Forensic Consortium for Drugs Surviellance\" Assoc. Prof. Patrinee Traisathit, Dept. of Statistics, Chiang Mai University \"Quality assessment of the Forensic Surveillance System\" 15.00-16.30 TASC Symposium 6 ทองกวาว 2 ระบบยตุ ิธรรมทางเลือกกบั การเสพติด: คลินิกจิตสงั คมในระบบศาลของประเทศไทย Thong Khaw 2 Addiction and alternative justice, psychosocial clinic in criminal court system in Thailand ประธาน: อภริ ดี โพธพิ ์ รอ้ ม อธบิ ดผี พู้ พิ ากษา ภาค 1 Chair: Mrs. Apiradee Phoprom, Judge and Director of Criminal Court Region 1 ผนู้ าเสนอ: สมภพ นนั ทโกวฒั น์ ผพู้ พิ ากษา เอกอนงค์ นกั วชิ าการอสิ ระ สมบตั ิ เหสกุล นกั วชิ าการอสิ ระ Speakers: Mr. Somphop Nantakowat, Judge 'Psychosocial clinics in court system' Ms. Eganong Sritalapinun, Independent Scholar 'Intensive technical assistant for developing psycho-social services in court system' Mr. Sombat Haesakul, Independent Scholar 'Social return on investment' ผอู้ ภปิ ราย: ดร.ไพสฐิ พาณชิ ยก์ ุล คณะนติ ศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ Discussant: Dr. Paisit Panitkul, Faculty of Law, Chiang Mai University 17.00 งานเลีย้ งต้อนรบั และการนาเสนอผลงานวิชาการด้วยโปสเตอร์ ชนั้ 2, 2nd Fl. Reception & Poster Presentation TASC 2023 โปรกรม Program l บทคัดยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 14 / 72

2nd Floor, Thong Khaw 1 and Thong Khaw 2 1st Floor, Intanin, Fai Kham, Bua Tong TASC2023 โปรแกรม Day2 วนั พฤหสั บดีท่ี 10 สิงหาคม 2566 TASC2023 Day2 Program, Thursday 10 August 2023 TASC 2023 โปรกรม Program l บทคดั ยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 15 / 72

09.00-10.15 TASC Symposium 7: ทองกวาว 1 การรกั ษาการเสพติด: มาตรฐาน ภาพรวมผลลพั ธ์ และความครอบคลมุ Thong Khaw 1 Addiction Treatment: Standards, outcomes profiles and coverage ประธาน: ผศ.ดร.นพ. อภนิ ันท์ อรา่ มรตั น์ ผอู้ านวยการ มลู นิธวิ ชิ าการสารเสพตดิ Chair: Dr. Apinun Aramrattana, MD., Substance Abuse Academic Foundation ผนู้ าเสนอ: Dr. Dzmitry Krupchanka, WHO Prof. Michael Farrell, University of New South Wales, Australia Speakers: Dr. Dzmitry Krupchanka, WHO 'International Standards for the Treatment of Drug Use Disorders and Service Capacity Index for Substance Use Disorders' Prof. Michael Farrell, University of New South Wales, Australia 'Patient-centered outcome measures on substance use treatment' 09.00-10.15 TASC Symposium 8: ทองกวาว 2 การเสพติดกบั สงั คม: บทบาทของส่ือเพื่อลดการกระทาผิดซา้ ของผตู้ ้องคดียาเสพติด Thong Khaw 2 Addiction and Society: Roles of media to reduce recidivism ประธาน: สถาพร พงษพ์ พิ ฒั น์วฒั นา สถาบนั เพ่อื การยุตธิ รรมแห่งประเทศไทย Chair: Mr. Sataporn Pongpitatwatana, Thailand Institute of Justice ผนู้ าเสนอ: สทุ ธพิ ฒั น์ กนิษฐกุล The Matter ฉตั รกลา้ สาเนียงแจ่ม The Standard นงนภสั พฒั น์แชม่ PPTV Speakers: Mr. Sutthipath Kanittakul, The Matter Mr. Chatkla Sammaingjam, The Standard Ms. Nongnapat Patcham, PPTV 10.15-10.45 พกั อาหารว่าง Coffee/Tea Break 10.45-12.00 TASC Symposium 9: ทองกวาว 1 การบาบดั ด้วยยากล่มุ โอปิ ออยด์ ความก้าวหน้าในสหรฐั และเอเชีย Thong Khaw 1 Opioid treatment updates ประธาน: ผศ.ดร.นพ. อภนิ นั ท์ อรา่ มรตั น์ ผอู้ านวยการ มลู นธิ ศิ นู ยว์ ชิ าการสารเสพตดิ Chair: Dr. Apinun Aramrattana, MD., Substance Abuse Academic Foundation ผนู้ าเสนอ: Dr. Gavin Bart, University of Minnesota, US Prof. Michael Farrell, University of New South Wales, Australia Dr. Navin Saxena, Rusan Pharma, India TASC 2023 โปรกรม Program l บทคดั ยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 16 / 72

Speakers: Dr. Gavin Bart, University of Minnesota, US “Opioid crisis and responses in USA” Prof. Michael Farrell, University of New South Wales, Australia “Comparative review on methadone and buprenorphine treatment” Dr. Navin Saxena, Rusan Pharma, India “Opioid treatment medication in Asia” 10.45-12.00 TASC Symposium 10: ทองกวาว 2 การเสพติดและเยาวชน Thong Khaw 2 Addiction and youth ประธาน: รศ. พญ. วชิ ุดา จริ พรเจรญิ คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ Chair: Assoc. Prof. Wichuda Jiraporncharoen, MD., Faculty of Medicine, CMU ผนู้ าเสนอ: ประภาพร เชอ้ื เมอื งพาน นกั วชิ าการสาธารณสขุ โรงพยาบาลพญาเมง็ ราย พญ. ดวงดาว ศรยี ากลู โรงพยาบาลเพชรบรู ณ์ Dr. Takuya Shimane, National Institute of Mental Health, Japan Speakers: Mrs. Prapaporn Chuamuangphan, Chiang Rai Executive Function Program Dr. Duangdao Srivakool, Petchaboon Provincial Hospital Dr. Takuya Shimane, National Institute of Mental Health, Japan 'Misuse of Over-The-Counter Medications and COVID-19 related stress among high school students' Discussant: Dr.Suriyadel Tripathi, Center for Morality Promotion ผอู้ ภปิ ราย: รศ. นพ. สุรยิ เดว ทรปี าตี ศนู ยค์ ุณธรรม (องคก์ ารมหาชน) Discussant: Assoc. Prof. Dr. Suriyadel Tripathi, Center for Morality Promotion 12.00-13.30 พกั อาหารกลางวนั Lunch Break 13.30-14.30 TASC Symposium 11: ทองกวาว 1 การบาบดั ด้วยบพู รนี อรฟ์ ิ นในบริการสขุ ภาพ Thong Khaw 1 Buprenorphine treatment in practice ประธาน: ผศ. ดร. นพ. อภนิ นั ท์ อร่ามรตั น์ ผอู้ านวยการ มลู นิธศิ นู ยว์ ชิ าการสารเสพตดิ Chair: Dr. Apinun Aramrattana, MD., Substance Abuse Academic Foundation ผนู้ าเสนอ: Dr. Robert Levy, University of Minnesota, US Dr. Yatan Pal Singh Balhara, AIIMS, India TASC 2023 โปรกรม Program l บทคดั ยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 17 / 72

Speakers: Dr. Robert Levy, University of Minnesota, US “USA Experiences” Dr. Yatan Pal Singh Balhara, AIIMS, India “Indian Experiences” 13.30-14.30 TASC Symposium 12: ทองกวาว 2 การตลาดบหุ รไ่ี ฟฟ้าตงั้ ราคาตดั ค่แู ข่งในประเทศไทย Thong Khaw 2 Predatory marketing of e-cigarettes in Thailand ประธาน: ผศ. ดร. นพ. วทิ ชช์ เกษมทรพั ย์ ศูนยว์ จิ ยั และจดั การความรเู้ พอ่ื การควบคมุ ยาสบู Chair: Assist. Prof. Vijj Kasemsap, MD, Director of Tobacco Control Research Center, ผนู้ าเสนอ: ผศ. ดร. ศรรี ชั ลาภใหญ่ นกั วชิ าการอสิ ระ กนษิ ฐา ไทยกลา้ สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตรส์ ุขภาพ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ มลั ลกิ า มาตระกลู มหาวทิ ยาลยั แมฟ่ ้าหลวง Speakers: Dr. Sirach Lapyai, Independent scholar Ms. Kanitha Thaikla, RIHIS, Chiang Mai University Ms. Mullika Matrakul, Mae Fah Luang University 14.30-15.00 พกั อาหารว่าง Coffee/Tea Break 15.00-16.30 TASC Symposium 13: ทองกวาว 1 การบาบดั ด้วยบพู รนี อรฟ์ ิ นในบริการสขุ ภาพ (ต่อ) Thong Khaw 1 Buprenorphine treatment in practice (continued) ประธาน: ผศ. ดร. นพ. อภนิ นั ท์ อร่ามรตั น์ ผอู้ านวยการ มลู นธิ ศิ นู ยว์ ชิ าการสารเสพตดิ Chair: Dr. Apinun Aramrattana, MD., Substance Abuse Academic Foundation ผนู้ าเสนอ: Dr. Robert Ali, University of Adelaide, Australia Dr. Imelda Indriyani, Drug Dependence Hospital, Indonesia Prof. Le Minh Giang, Hanoi Medical University, Vietnam ดร. นพ. กนก อุตวชิ ยั โรงพยาบาลธญั ญารกั ษ์ จงั หวดั เชยี งใหม่ Speakers: Dr. Robert Ali, University of Adelaide, Australia “Australian Experiences” Dr. Imelda Indriyani, Addiction Treatment Hospital, Indonesia “Indonesian Experiences” Dr. Le Minh Giang, Hanoi Medical University, Vietnam “Vietnamese Experiences” Dr. Kanok Utawichai, Thanyarak Drug Treatment Hospital Thailand “Thai Experiences” TASC 2023 โปรกรม Program l บทคัดยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 18 / 72

15.00-16.30 TASC Symposium 14: ทองกวาว 2 ประเดน็ เชิงสขุ ภาพและสงั คมภายหลงั การปลดลอ็ กกญั ชาและกระท่อม Thong Khaw 2 Emerging health and social issues after the legalization of kratom and cannabis in Thailand ประธาน: ศ.ดร.พญ.สาวติ รี อษั ณางคก์ รชยั ศนู ยว์ จิ ยั ปัญหาสรุ า มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ Chair: Prof. Dr. Sawitri Assanangkornchai, MD, Center of Alcohol Studies, PSU ผนู้ าเสนอ: รศ. ดร.เอกสทิ ธิ ์กุมารสทิ ธิ ์คณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ รศ. พญ.พมิ พศ์ ริ ิ ศรพี งศพ์ นั ธุ์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ พญ. สรสพร จวู งศ์ โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี Prof. Vicknasingam Barasingam, Universiti Sains Malaysia Speakers: Dr. Ekkasit Kumarnsit, Prince of Songkla University Dr. Pimsiri Sripongpun, Prince of Songkla University Dr. Sorasaporn Joowong, Psychiatric Hospital Surathani Province Prof. Vicknasingam Barasingam, Universiti Sains Malaysia 16.30 จบการนาเสนอ End of Day2 TASC 2023 โปรกรม Program l บทคดั ยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 19 / 72

2nd Floor, Thong Khaw 1 and Thong Khaw 2 1st Floor, Intanin, Fai Kham, Bua Tong TASC2023 โปรแกรม Day3 วนั ศกุ รท์ ่ี 11 สิงหาคม 2566 TASC2023 Day3 Program, Friday 11 August 2023 09.00-10.15 TASC Round Table 1: ทองกวาว 1 บทบาทของพยาบาลในการศึกษาและการจดั การการเสพติด Thong Khaw 1 Roles of nurses in addiction education and management ประธาน: ดร.ดาราวรรณ ต๊ะปินตา คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั บรู พา Chair: Dr. Darawan Tapinta, Burapha University, Thailand TASC 2023 โปรกรม Program l บทคดั ยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 20 / 72

ผนู้ าเสนอ: Ms. Murphy-Parker, ANCC certified psychiatric/mental health nurse, US ดร. หรรษา เศรษฐบุปผา คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ดร. พมิ พพ์ สิ าข์ จอมศรี คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั แมฟ่ ้าหลวง Speakers: Ms. Murphy-Parker, ANCC certified psychiatric/mental health nurse, US Dr. Hunsa Sethabouppha, Chiang Mai University, Thailand Dr. Pimpisa Jomsri, Mae Fah Luang University, Thailand 09.00-10.15 TASC Symposium 15: ทองกวาว 1 การบาบดั ดแู ลผตู้ ิดยาเสพติดบนฐานชุมชนในภมู ิภาคล่มุ น้าโขง Thong Khaw 1 Community-based drug treatment and care in Mekong Region ประธาน: นพ. มานสั โพธาภรณ์ โรงพยาบาลราชวถิ ี Chair: Dr. Manus Pothaporn, Rajavithi Hospital ผนู้ าเสนอ: ดร. สุกญั ญา กาญจนบตั ร โรงพยาบาลธญั ญารกั ษ์ อุดรธานี รชั นก จนิ ดาคา สมาคมฮกั ชุมชน เชยี งใหม่ Dr. Saengthip Chaisan, Hadxayfong Hospital, Vientiane, Lao PDR Speakers: Dr. Sukanya Kanchanabat, Thanyarak Udonthani Ms. Rachanok Chindakham, Hug Choomchon Association, Chiang Mai Dr. Saengthip Chaisan, Hadxayfong Hospital, Vientiane, Lao PDR ผอู้ ภปิ ราย: Dr. Sommana Rattana, Dept. of Heath Care and Rehabilitation, Lao PDR Discussant: Dr. Sommana Rattana, Dept. of Heath Care and Rehabilitation, Lao PDR 10.15-10.45 พกั อาหารว่าง Coffee/Tea Break 10.45-11.30 TASC Panel 1: ทองกวาว 1 โปรแกรมการมสี ่วนรว่ มของชุมชนเพ่ือการใช้ประโยชน์และควบคมุ พืชเสพติด ถอด บทเรียนจากพืชกระท่อม Thong Khaw 1 Community-based program for utilization/control of local narcotic plants: Lesson learned from kratom ประธาน: นายวรี ะพล ใจจนั ทร์ สถาบนั สารวจและควบคุมพชื เสพตดิ สานกั งาน ป.ป.ส. Chair: Mr. Wiraphon Chaichan, Narcotics Crop Survey and Control Institute, ONCB ผนู้ าเสนอ: นายรฐั พล ตนั ตอิ นุพงษ์ สถาบนั สารวจและควบคุมพชื เสพตดิ สานกั งาน ป.ป.ส. ดร.อรณุ หลา้ อบู มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล Speakers: Dr. Aroon La-up, Mahidol University “Health of traditional kratom users” TASC 2023 โปรกรม Program l บทคดั ยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 21 / 72

Mr. Ratthapon Tuntianupong, NCSCI, Office of the Narcotics Control Board 'Lessons learned from research to legalization of kratom in Thailand' 12.00 อาหารกลางวนั แบบกล่อง Lunch Box 12.15-13.00 TASC & ICUDDR Conference 2023 ทองกวาว 1 พิธีปิ ดการประชมุ Thong Khaw 1 Closing Ceremony 13.30-16.30 ทศั นศึกษา (ลงทะเบยี นล่วงหน้า) Site Study (registration required) ทศั นศึกษา คลนิ ิกจติ สงั คม จงั หวดั เชยี งใหม่ Site visit to Psychosocial Clinic at Chiang Mai Provincial Court ทศั นศึกษา โรงพยาบาลธญั ญารกั ษ์ จงั หวดั เชยี งใหม่ Study visit to Thanyarak Chiang Mai Drug Treatment Hospital ทศั นศึกษา โปรแกรมชุมชนบาบดั ผมู้ ปี ัญหาแอลกอฮอลแ์ ละบหุ ร่ี จงั หวดั ลาพนู Study visit to a Community-based program for alcohol and smoking problems in Lamphun Province TASC 2023 โปรกรม Program l บทคัดยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 22 / 72

บทคดั ยอ่ ผลงานวิชาการ Abstracts รายการบทคดั ย่อนาเสนอด้วยโปสเตอร์ List of Poster Abstracts บทคดั ย่อ #1 ความสมั พนั ธร์ ะหว่างคะแนน Prediction of Alcohol Withdrawal Severity Scale (PAWSS) กบั การเกดิ กลุม่ อาการถอนสุรารนุ แรงในโรงพยาบาลธญั ญารกั ษ์ขอนแก่น Correlation between the Prediction of Alcohol Withdrawal Severity Scale (PAWSS) and complicated alcohol withdrawal syndrome (AWS) at Thanyarak Khonkaen Hospital บทคดั ย่อ #2 การมสี ่วนรว่ มของชุมชนในการเฝ้าระวงั ดแู ลผใู้ ชย้ าเสพตดิ ทเ่ี สย่ี งต่อการก่อความรนุ แรงสูง อาเภอวารชิ ภมู ิ จงั หวดั สกลนคร Participatory action research and the surveillance and care for drug user with serious mental Illness with high risk to violence(SMI-V): A case study, Waritchaphum District, Sakon Nakhon Province บทคดั ย่อ #3 การพฒั นารปู แบบการบาบดั ยาเสพตดิ โดยกระบวนการมสี ่วนรว่ มของภาคเี ครอื ขา่ ยในชมุ ชน ตาบลเขาวเิ ศษ อาเภอวงั วเิ ศษ จงั หวดั ตรงั The development of drug addiction treatment model by participatory process in Khao Wiset Sub-district, Wang Wiset District, Trang Province บทคดั ย่อ #4 ผลของโปรแกรมการกากบั อารมณ์ต่อพฤตกิ รรมรนุ แรงของผปู้ ่วยจติ เภททต่ี ดิ สุราในชุมชน The effects of an emotion regulation program on the violent behavior of schizophrenia patients with alcohol dependency in the community TASC 2023 โปรกรม Program l บทคัดยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 23 / 72

บทคดั ย่อ #5 การศกึ ษาเปรยี บเทยี บความชุกของการใชก้ ระท่อมและกญั ชาในผเู้ สยี ชวี ติ และผปู้ ่วย ในช่วงก่อนและหลงั การ ปลดลอ็ กทางกฎหมาย ปี 2561 ถงึ พฤษภาคม 2566 A comparative study on the prevalence of kratom and cannabis use in deceased individuals and patients before and after legalization from 2018 to May 2023 บทคดั ย่อ #6 นโยบายและมาตรการของสถานศกึ ษาในการป้องกนั และการแกไ้ ขปัญหายาเสพตดิ ของเยาวชนในพน้ื ทช่ี ายแดน Educational institutes policies and measures in preventing and solving drug-related problems among youth in border areas, Mae Sot District, Tak Province บทคดั ย่อ #7 การตรวจพบเคตามนี รว่ มกบั สารอ่นื ในชวี วตั ถุทส่ี ง่ ตรวจ ณ สถาบนั นิตเิ วชวทิ ยา โรงพยาบาลตารวจ Detection of ketamine with other substances in biological samples at the Institute of Forensic Medicine, Police General Hospital บทคดั ย่อ #8 ปัจจยั เสย่ี งของปรมิ าณความตอ้ งการยาเสพตดิ ทม่ี ผี ลต่อขอ้ จากดั สาหรบั ระบบดแู ลสุขภาพระยะยาว Risk-based coordination of demand response of narcotics impacts on security constrained for long-term health care system บทคดั ย่อ #9 การใชป้ ระโยชน์กญั ชาตามวถิ ชี มุ ชนหลงั ปลดลอ็ กออกจากการเป็นยาเสพตดิ Folkways of cannabis utilization after being removed from the narcotics list บทคดั ย่อ #10 การพฒั นาโปรแกรมใหค้ วามรดู้ า้ นการลดอนั ตรายจากยาบา้ สาหรบั ผใู้ ชย้ าเสพตดิ ในประเทศไทย Development of Methamphetamine harm reduction education program บทคดั ย่อ #11 ความเสย่ี งทเ่ี กย่ี วเน่อื งกบั การใชส้ ารเสพตดิ ในทางทผ่ี ดิ ของเยาวชนในโรงเรยี น Risks Associated with Substance Abuse among the Youth in Schools บทคดั ย่อ #12 รปู แบบการใชก้ ญั ชาเป็นยา ตามวถิ ชี าวบา้ น: กรณศี กึ ษาวดั Medical Cannabis Use in Folkways: Temple Case Study บทคดั ย่อ #13 อนั ตรายบรรจบกนั : ยาเสพตดิ โรคทต่ี ดิ ต่อทางเลอื ด และโรคตดิ เชอ้ื ทางเพศสมั พนั ธ์ ในเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ Perfect Storm: Drugs, Bloodborne, and Sexually Transmitted Infections in Southeast Asia TASC 2023 โปรกรม Program l บทคัดยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 24 / 72

ความสมั พนั ธร์ ะหว่างคะแนน Prediction of Alcohol Withdrawal Severity Scale (PAWSS) กบั การเกิดกลุ่มอาการถอนสรุ ารนุ แรงในโรงพยาบาลธญั ญารกั ษ์ขอนแก่น นพ.จกั รพนั ธ์ สบื พนั ธโ์ พธ,ิ ์ พศิ มยั หลนิ โนนแดง, ดารนิ ดวงเศษวงษ์, วภิ ารตั น์ พรมพมิ พ,์ สุพรรษา พลู พพิ ฒั น์ โรงพยาบาลธญั ญารกั ษ์ขอนแก่น กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ความเป็นมาและเหตผุ ล: คะแนน PAWSS ≥ 4 จดั เป็นกล่มุ เสย่ี งสงู สมั พนั ธก์ บั การเกดิ กลุ่มอาการ ถอนสุรารนุ แรง (ภาวะสบั สน, ประสาทหลอน, และชกั จากการถอนสุรา) ยงั ไมม่ กี ารศกึ ษาการใช้ PAWSS ใน ศนู ยบ์ าบดั ยาเสพตดิ ผวู้ จิ ยั จงึ ศกึ ษาความสมั พนั ธข์ อง PAWSS กลุม่ เสย่ี งสงู กบั ภาวะถอนสุรารนุ แรงใน โรงพยาบาลฯ วิธีการ: ทาการศกึ ษานารอ่ งแบบภาคตดั ขวาง โดยทบทวนเวชระเบยี นผปู้ ่วยตดิ สรุ าตามเกณฑ์ DSM-4 ทเ่ี ขา้ รบั การรกั ษาในหอผปู้ ่วย วนั ท่ี 1 ถงึ 30 เมษายน 2566 ผลลพั ธห์ ลกั คอื ความสมั พนั ธข์ องคะแนน PAWSS ≥ 4 กบั การเกดิ กลมุ่ อาการถอนสรุ ารนุ แรงซง่ึ รายงานดว้ ยอตั ราสว่ นออด (odds ratio, OR) และชว่ ง ความเช่อื มนั่ รอ้ ยละ 95 (95% confidence interval, 95%CI) กาหนดค่าความแตกต่างอยา่ งมนี ยั สาคญั ทางสถติ ิ คอื p < 0.05 ผลการดาเนินการ: มผี เู้ ขา้ เกณฑ์ 30 ราย เกดิ ภาวะถอนสรุ ารนุ แรง 12 ราย (รอ้ ยละ 40) ลกั ษณะผปู้ ่วย ทงั้ 2 กลุ่มไมแ่ ตกต่างกนั กลุ่มทเ่ี กดิ ภาวะถอนสรุ ารนุ แรงมคี ่า PAWSS ≥ 4 รอ้ ยละ 75 เปรยี บเทยี บกบั กลุม่ ท่ี ไมเ่ กดิ ภาวะถอนสุรารุนแรงมคี า่ PAWSS ≥ 4 รอ้ ยละ 78 อยา่ งไรกต็ ามไม่พบความสมั พนั ธข์ องคะแนน PAWSS ≥ 4 กบั ภาวะถอนสรุ ารนุ แรง (OR, 1.17; 95%CI, 0.21-6.48) ผปู้ ่วยกลมุ่ ถอนสุรารนุ แรงมคี ะแนน CIWA-Ar สงู กวา่ ไดร้ บั ยาเบนโซไดอะเซปีนสงู กว่าใน 7 วนั แรก ระยะเวลาการหายจากโรคนานกว่าอยา่ งมี นยั สาคญั สรปุ ไมพ่ บความสมั พนั ธข์ องคะแนน PAWSS ≥ 4 กบั การเกดิ ภาวะถอนสรุ ารนุ แรง ควรมกี ารศกึ ษา เพมิ่ เตมิ เพ่อื หาแนวทางการป้องกนั คาสาคญั : ผตู้ ดิ สรุ า, กลุ่มอาการถอนสุรา, Prediction of Alcohol Withdrawal Severity Scale (PAWSS) TASC 2023 โปรกรม Program l บทคัดยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 25 / 72

Correlation between the Prediction of Alcohol Withdrawal Severity Scale (PAWSS) and complicated alcohol withdrawal syndrome (AWS) at Thanyarak Khonkaen Hospital Chakkraphan Suebphanphoe, Phitsamai Linnondaeng, Darin Doungsatwong, Wiparat Prompim, Supansa Pulpipat Thanyarak Khonkaen Hospital, Department of Medical services, Ministry of Public Health, Thailand Background: The PAWSS is an effective tool for assessing the risk of complicated AWS (alcoholic hallucinosis, delirium tremens, and alcohol withdrawal seizures). A score of ≥ 4 indicates a high risk. However, its application in addiction rehabilitation centers has not been researched. This study aimed to investigate the correlation between a high PAWSS risk score and complicated AWS at Thanyarak Khonkaen Hospital. Methods: The pilot, cross-sectional study was conducted. The data was collected from all hospitalized patients in the alcohol detoxification ward between April 1st and 30th, 2023. Patients diagnosed with alcohol dependence based on DSM-4 criteria were included. Clinical data were reviewed, and the primary outcome was the correlation between a PAWSS score of ≥ 4 and complicated AWS, measured using odds ratio (OR) and a 95% confidence interval (95%CI). Statistical significance was determined by a p-value < 0.05. Results: Among the 30 patients included, 12 (40%) were in the complicated AWS group. Baseline characteristics were similar between the two groups. In the complicated AWS group, 75% had a PAWSS score of ≥ 4, compared to 78% in the uncomplicated AWS group. However, there was no significant correlation between a PAWSS score of ≥ 4 and complicated AWS (OR, 1.17; 95%CI, 0.21-6.48). Nonetheless, the complicated AWS group had significantly higher maximum CIWA-Ar score, higher benzodiazepine dose administered in 7 days, and a longer time to improvement of AWS. Conclusion: There was no correlation between a PAWSS score of ≥ 4 and complicated AWS among hospitalized patients undergoing alcohol detoxification. Further studies should explore additional factors to develop appropriate preventative strategies. Key Words: Alcohol dependence, Alcohol withdrawal syndrome, Prediction of Alcohol Withdrawal Severity Scale (PAWSS) TASC 2023 โปรกรม Program l บทคดั ยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 26 / 72

การมสี ่วนรว่ มของชุมชนในการเฝ้าระวงั ดแู ลผใู้ ช้ยาเสพติดที่เสี่ยงต่อการก่อความรนุ แรงสงู อาเภอวาริชภมู ิ จงั หวดั สกลนคร ผการตั น์ เรย่ี วแรง โรงพยาบาลธญั ญารกั ษอ์ ุดรธานี การวจิ ยั เชงิ ปฏบิ ตั ิการน้ี มจี ุดประสงค์เพ่อื พฒั นารูปแบบการเฝ้าระวงั และดูแลผู้ใช้ยาเสพติดท่เี ส่ียงต่อ การก่อความรุนแรงสูงในอาเภอวารชิ ภูมิ จงั หวดั สกลนคร กลุ่มเป้าหมาย ไดแ้ ก่ แกนนาชุมชน 75 คน โดยการ ประยุกต์แนวคดิ การวจิ ยั เชงิ ปฏบิ ตั กิ ารและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยเี พ่อื การมสี ่วนร่วมกบั ทฤษฎกี ารเสรมิ สร้าง พลงั อานาจ รวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพโดยใช้แบบสมั ภาษณ์เชงิ ลกึ วเิ คราะห์ขอ้ มูลทงั้ เชงิ ปรมิ าณและเชิง คุณภาพ ผลการวจิ ยั พบว่ากระบวนการ 10 ขนั้ ตอน ไดแ้ ก่ (1) ศกึ ษาบรบิ ทและการมสี ว่ นรว่ มของชุมชน (2) สารวจ ปัญหา (3) คนื ขอ้ มูลให้ชุมชนรบั รู้ปัญหา (4) การอบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารการมสี ่วนร่วมของชุมชน (5) มอบหมาย ภารกจิ ใหผ้ เู้ กย่ี วขอ้ งรบั ผดิ ชอบ (6) ใหช้ มุ ชนรว่ มตดั สนิ ใจ (7) ดาเนนิ การตามแผนทก่ี าหนด (8) ตรวจสอบตดิ ตาม (9) จัดเวทีแลกเปล่ียนเรียนรู้ (10) ถอดบทเรียน ทาให้ได้รูปแบบการดาเนินงาน WARIT Model ซ่ึงมี องคป์ ระกอบสาคญั 5 ประการ คอื (1) เฝ้าระวงั สงั เกตสญั ญาณเตอื นต่อการก่อความรนุ แรง (Warning sign) (2) การเขา้ ถงึ ผใู้ ชย้ าทม่ี สี ญั ญาณเตอื นต่อการก่อความรนุ แรง (Approach) (3) ระบบการส่งต่อ (Referral System) (4) บูรณาการแบบมสี ่วนร่วม (Integration) และ (5) การประชุมรบั ฟังความคดิ เห็นเชงิ วชิ าการ (Technical Hearing and Evaluation)ส่งผลให้แกนนาชุมชนมคี วามรูแ้ ละมสี ่วนร่วมในการเฝ้าระวงั และดูแลผู้ใช้ยาเสพตดิ ท่ี เสย่ี งต่อการก่อความรนุ แรงสงู ไดด้ ขี น้ึ สามารถคดั กรองและส่งต่อกลุ่มเป้าหมายส่โู รงพยาบาลได้ 85 คน เป็นรายเก่า ทท่ี าการเฝ้าระวงั 54 คน รายใหม่ 31 คน มสี าเหตุจากอาการจติ เวชเดมิ กาเรบิ 30 คน และ 55 คน มสี าเหตุจากการ ใชย้ าเสพตดิ ทงั้ หมดน้ีไดร้ บั การตดิ ตามผลพบว่า มกี ารปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรมไปในทางทด่ี ขี น้ึ รบั ประทานยาและ มาตามนัดต่อเน่ือง คงอยู่ในระบบ ร้อยละ 100 สรุป ปัจจยั แห่งความสาเร็จคอื พฒั นาแกนนาชุมชนให้มี ศกั ยภาพทเ่ี ขม้ แขง็ และชุมชนมสี ่วนรว่ ม ในการดาเนินงานตามรปู แบบ WARIT Model ร่วมกบั การตดิ ตามดแู ล ต่อเน่อื งใกลช้ ดิ และมปี ระสทิ ธภิ าพ คาสาคญั : พฒั นารปู แบบการมสี ว่ นรว่ ม, ผใู้ ชย้ าเสพตดิ , การก่อความรุนแรง TASC 2023 โปรกรม Program l บทคดั ยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 27 / 72

Participatory Action Research and the surveillance and care for drug user with Serious Mental Illness with High Risk to Violence(SMI-V): A case study, Waritchaphum District, Sakon Nakhon Province. Phakarat Riewrang, Thanyarak Udonthani Hospital This action research aimed to develop the participation model in the surveillance and care for drug user with Serious Mental Illness with High Risk to Violence (SMI-V) at Waritchaphum District, Sakon Nakhon Province. The subjects were 75 of community leaders. Development processes included workshops applying the participation of the community by using technique of participation and empowerment. The data was collected by in-depth interview and analyzed by quantitative and qualitative. The results revealed to 10 steps which were (1) Education for context and community participation (2) To explore the issue (3) The data for the community to recognize the problem (4) The workshops to community participation (5) Assignment of responsibility to stakeholders (6) The community decides (7) The implementation of the map (8) Monitoring (9) Knowledge sharing activity.10)After action review.Resulting in 5 elements of “WARIT Model” which were (1) Warning sign (2) Approach (3) Referral system (4) Integration and (5) Technical hearing & evaluation. 85 cases were found in community and referred to the hospital, 31 were new cases with two caused, recurrent psychiatric symptoms 30 cases and substances 55 cases. As a result, the leaders of community improved with knowledge and participation. Risk groups had change behavior for better and retention rate 100%. In conclusion, key success factors were competency of leaders and active participation of community in WARIT Model processes include of effective after care. Key words: Participation model, Drug user, SMI-V TASC 2023 โปรกรม Program l บทคดั ยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 28 / 72

การพฒั นารปู แบบการบาบดั ยาเสพติดโดยกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในชุมชน ตาบลเขาวิเศษ อาเภอวงั วิเศษ จงั หวดั ตรงั ยทุ ธพงษ์ ครชาตรี ส.ม. โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพตาบลบา้ นหนองคลา้ อาเภอวงั วเิ ศษ จงั หวดั ตรงั การวจิ ยั ครงั้ น้เี ป็นการวจิ ยั เชงิ พฒั นาเพ่อื พฒั นารปู แบบการบาบดั ยาเสพตดิ โดยกระบวนการมสี ่วนร่วม ของภาคเี ครอื ขา่ ยในชุมชน ตาบลเขาวเิ ศษ อาเภอวงั วเิ ศษ จงั หวดั ตรงั และเพ่อื ประเมนิ ผลการพฒั นารปู แบบ การบาบดั ยาเสพตดิ ขนั้ ตอนท่ี 1 วเิ คราะหส์ ถานการณ์และพฒั นาความรว่ มมอื 1) ศกึ ษาสถานการณ์ การคนื ขอ้ มลู โดยการอภปิ รายกลุ่ม 1 ครงั้ กล่มุ คณะกรรมการดาเนินงานแกไ้ ขปัญหายาเสพตดิ ตาบลเขาวเิ ศษ 14 คน 2) จดั ประชุมกลุ่มเพ่อื กาหนดเป้าหมาย กลุ่มละ 1 ครงั้ ประกอบด้วยกลุ่มเครอื ข่าย ผูใ้ หญ่บา้ น, ผูช้ ่วย, อสม. ตารวจ อปท. 12 คน โดยใชแ้ นวคาถามการสนทนากลุ่ม ขนั้ ตอนท่ี 2 พฒั นารปู แบบ 1) ประชุมเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร โดยใชเ้ คร่อื งมอื การบาบดั ยาเสพตดิ แบบมสี ่วนร่วม - กลุ่มผใู้ ชย้ าเสพตดิ จานวน 40 คน - กลุ่มคณะกรรมการ ดาเนินงานแกไ้ ขปัญหายาเสพตดิ ตาบลเขาวเิ ศษ 14 คน - กลุ่มเครอื ขา่ ย ผใู้ หญ่บา้ น, ผชู้ ่วย, อสม. ตารวจ 12 คน 2) ตรวจสอบรูปแบบ โดยผู้เช่ยี วชาญ 3 ท่าน ใช้วธิ ีการสมั ภาษณ์เชงิ ลึก ขนั้ ตอนท่ี 3 ทดลองใช้และ ประเมนิ ผลรูปแบบ 1) ทดลองใช้รปู แบบในกลุ่มผูใ้ ชย้ าเสพตดิ 2) ประเมนิ ผลความรู้ - การรบั รโู้ อกาสเส่ยี ง - พฤตกิ รรมก่อน-หลงั การดาเนนิ การ ในกลุม่ ผใู้ ชย้ าเสพตดิ จานวน 40 คน ผลการศกึ ษารปู แบบการบาบดั ยาเสพตดิ โดยกระบวนการมสี ่วนร่วมของภาคเี ครอื ข่ายในชุมชน ตาบล เขาวเิ ศษ อาเภอวงั วเิ ศษ จงั หวดั ตรงั ประกอบดว้ ย 6 ขนั้ ตอน ดงั น้ี 1.แต่งตงั้ คณะทางาน จากภาครฐั เอกชน และภาคประชาชน จานวน 40 คน โดยใช้กลไกศูนยอ์ านวยการป้องกนั และแก้ไขปัญหายาเสพตดิ ตาบลเขา วเิ ศษ ในการขบั เคล่อื น ประกอบด้วย ตวั แทนหน่วยงานของรฐั ได้แก่ อปท. ปลดั อาเภอ, รพ.สต. ผู้ใหญ่บา้ น อสม. ภาคประชาชนไดแ้ ก่เครอื ข่ายผปู้ กครองผใู้ ชย้ าเสพตดิ 2.คนื ขอ้ มลู โดยการแจง้ สถติ กิ ารการใชย้ าเสพตดิ ในชมุ ชน การวเิ คราะหส์ าเหตุ โดยใชเ้ วทปี ระชุมประจาเดอื นของหมบู่ า้ น 3.วเิ คราะหส์ ภาพปัญหารว่ มกนั โดยใช้ เวทปี ระชุมประจาเดอื นของหม่บู า้ น ดา้ นบุคคล: เสรมิ หลกั สตู รหวั ขอ้ การบาบดั ยาเสพตดิ ทใ่ี ชใ้ นค่ายยาเสพตดิ มาประยุกต์ใช้ในชุมชน ด้านสภาพแวดล้อม: วเิ คราะห์พ้นื ท่เี ส่ยี งในการใช้ยาเสพตดิ ในชุมชน ด้านระบบ: ตดิ ตามการดาเนินงานทุก 1 เดอื น เน้นความต่อเน่ือง 4.บนั ทกึ ขอ้ ตกลงร่วมกนั โดยการทาขอ้ ตกลงร่วมกนั องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ รพ.สต. ผใู้ หญ่บา้ น ตารวจ ปลดั อาเภอ ผปู้ กครองผใู้ ชย้ าเสพตดิ ในดา้ นของการ ติดตามและการสนับสนุนการดาเนินงาน 5.ตดิ ตามอย่างต่อเน่ือง: ในลกั ษณะของการเสรมิ พลงั การพูดคุย BAR, AAR 6.บรู ณาการขอ้ มลู : จดั ทาฐานขอ้ มลู กลาง (ศูนยข์ อ้ มลู ยาเสพตดิ ตาบลเขาวเิ ศษ) การบนั ทกึ สถติ ผิ ล การตรวจปัสสาวะในผใู้ ชย้ าเสพตดิ ทุกอาทติ ย์ อภปิ รายผล ดา้ นรปู แบบฯ พบว่า (1) ดา้ นการจดั ตงั้ คณะทางาน มาจากหลายภาคส่วน เช่น ภาครฐั เอกชน ภาคประชาสงั คม อนั เน่ืองมากจากมอี งคก์ ร หน่วยงานอสิ ระในพ้นื ท่ที ่กี ่อใหเ้ กดิ ความร่วมมอื ในการ ดาเนินงาน (2) การวเิ คราะห์ปัญหา โดยใช้กระบวนการมสี ่วนร่วมแบบพหุภาคคี ือ ทุกคนทเ่ี ขา้ ร่วมกจิ กรรมมี บทบาท รว่ มแสดงความคดิ เหน็ อกี ทงั้ กระบวนการ เออ้ื ใหเ้ กดิ สมั พนั ธภาพระหว่างกนั (3) การตดิ ตาม พบว่า การใชก้ ระบวนการของการพดู คยุ แบบไม่เป็นทางการ ไดผ้ ลดกี ว่าการตดิ ตามอยา่ งเป็นทางการ อาจเป็นเพราะ สมั พนั ธภาพในกระบวนการของการตดิ มคี วามเป็นกนั เอง ซง่ึ เออ้ื ใหเ้ กดิ การไดม้ าซง่ึ ขอ้ มลู ทม่ี คี วามเป็นจรงิ คาสาคญั : ยาเสพตดิ , การมสี ว่ นรว่ ม, ภาคเี ครอื ขา่ ย TASC 2023 โปรกรม Program l บทคดั ยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 29 / 72

The development of drug addiction treatment model by participatory process in Khao Wiset Sub-district, Wang Wiset District, Trang Province Yuthapong Kornchatree Ban Nong Klah Sub-District Health Promotion Hospital Wangwiset District, Trang Province This research is a research and development to develop a drug addict treatment model by participatory process in the community network of Khao Wiset Subdistrict, Wang Wiset District, Trang Province and to evaluate the development of a drug addict treatment model. addictive drug treatment step 1 Situation analysis and cooperation development 1) Study the situation, return the data by focusing one time on the drug problem solving committee of Khao Wiset Sub-district, 1 4 people (Purposive Sampling), target group one time, consisting of The network group consisted of 1 2 village headmen, village headmen, assistants, local police volunteers, using group discussion questions. Participatory Narcotics - A group of 4 0 addicts - A group of the Khao Wiset Sub-district Drug Problem Solving Committee group of 1 4 people - A network of village headmen, village headmen, assistants and police volunteers 12 people 2) An examination form by an expert. A total of 3 people using in-depth interviews. Step 3 : Experiment and evaluate the model 1 ) Experiment with the model among drug users 2) Assess knowledge - Perceived risk - Behavior before - After the operation among drug users Use drugs for 40 people. The results of the study of the drug treatment model with community participatory process, Khao Wiset Sub-district, Wang Wiset District, Trang Province consisted of 6 steps as follows: 1 . Appointing a working group from the public, private and public sectors, comprising 4 0 people as follows: of the Center for the Prevention and Solution of Narcotic Problems in Khao Wiset Subdistrict In driving, it consists of representatives from government agencies, including the local government, district bailiffs, district bailiffs, village headmen, village headmen, village health volunteers. and the public sector, including the network of parents who use drugs in the community, analyze the causes by using the village monthly forum. 3. Analyze problems together by using the monthly village forum. Personnel: Add drug treatment courses. used in drug camps to apply in the community environmental Analyze risky areas for drug use in the community. The system monitors the operations every 1 month, emphasizing continuity. 4 . Memorandum by making agreements with local administrative organizations, hospitals, village headmen, village headmen, police, deputy district officials and parents of drug users in terms of monitoring and supporting operations. 5 . Continuous Monitoring: in the form of Empowerment, Negotiation, BAR, AAR 6 . Data Integration: Set up a central database. (Khao Wiset Sub-district Drug Information Center) Records statistics of weekly urine test results. The discussion pattern found that (1 ) the establishment of a working group from various sectors such as the public sector, private sector, civil society since there are independent organizations in the area that can create cooperation in the operation; using A multilateral participatory process, meaning that everyone who participates has a role to play. In addition, the follow-up process found that the use of the informal discussion process It works better than the official follow-up. This may be because the relationship in the bonding process is sociable which facilitates the acquisition of factual information. Keywords: Addictive substances, Participatory process, Community network TASC 2023 โปรกรม Program l บทคัดยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 30 / 72

ผลของโปรแกรมการกากบั อารมณ์ต่อพฤติกรรมรนุ แรงของผปู้ ่ วยจิตเภทที่ติดสรุ าในชุมชน The effects of an emotion regulation program on the violent behavior of schizophrenia patients with alcohol dependency in the community อดศิ ร รกั สกุล Adisorn Raksakul โรงพยาบาลจติ เวชนครราชสมี าราชนครนิ ทร Nakorn Ratchasima Rajanagarindra Psychiatric Hospital การวจิ ยั กง่ึ ทดลองในครงั้ น้ี เป็นการศกึ ษาผลของโปรแกรมการกากบั อารมณ์ต่อพฤตกิ รรมรุนแรงในผูป้ ่ วย จติ เภททต่ี ดิ สุราในชุมชน กลุ่มตวั อย่างเป็นผู้ป่ วยจติ เภททต่ี ดิ สุรา อายุ 18-59 ปี คดั เลอื กกลุ่มตวั อย่างตามเกณฑ์ คดั เขา้ จานวน 62 คน ทม่ี ารบั บรกิ ารในโรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพตาบลแห่งหน่ึงของจงั หวดั นครราชสมี า แลว้ สุ่ม อย่างงา่ ยเขา้ กลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 31 คน กลุ่มทดลองไดร้ บั โปรแกรมการกากบั อารมณ์ ทส่ี รา้ งขน้ึ โดยผู้วจิ ยั ตามแนวคดิ การกากบั อารมณ์ของแมคเร และกร๊อซ ประกอบไปด้วยกิจกรรม 10 ครงั้ ๆ ละ 90 นาที สปั ดาหล์ ะ 1 ครงั้ รวมระยะเวลาทงั้ สน้ิ 10 สปั ดาห์ ส่วนกลุ่มควบคุมจะไดร้ บั การดแู ลตามปกติ เคร่อื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการ วจิ ยั คอื 1) โปรแกรมการกากลั ป์ อารมณ์ทผ่ี ่านการตรวจสอบความตรงตามเน้ือหา โดยผทู้ รงคุณวุฒจิ านวน 3 ท่าน 2) แบบบนั ทกึ ขอ้ มูลส่วนบุคคล 3) แบบประเมนิ พฤตกิ รรมรุนแรงของยูดรอฟก้ี ผ่านการตรวจสอบดชั นีความตรง (CVI) โดยค่าท่ไี ด้ เท่ากบั 1 และตรวจสอบความเท่ยี งของแบบสอบถามน้ี ไดค้ ่าสมั ประสทิ ธแิ ์ อลฟา เท่ากบั .85 วเิ คราะหข์ อ้ มลู โดยใชส้ ถติ เิ ชงิ พรรณนาและสถติ ทิ ดสอบค่าที (t-test) ผลการวจิ ยั สรปุ ไดด้ งั น้ี (1) ผปู้ ่วยกลุ่มทดลอง มคี ่าคะแนนเฉล่ยี พฤติกรรมรุนแรงหลงั การทดลอง (M = 1.84, SD =1.57) ต่ากว่าก่อนทดลอง (M = 8.71, SD =.97) อย่างมนี ยั สาคญั ทางสถติ ิ (t = 30.40, p < .001) (2) ผลต่างค่าคะแนนเฉลย่ี พฤตกิ รรมรุนแรง ระหว่าก่อน และหลงั การทดลองของกลุ่มทดลอง (D̅1 = 6.87, SD = 1.25) มากกว่ากลุ่มควบคุม (D̅2 = -77, SD = 1.20) อยา่ งมนี ยั สาคญั ทางสถติ ิ (t = -21.41, p < .001) สรุปได้ว่า โปรแกรมการกากับอารมณ์สามารถลดพฤติกรรมรุนแรงในผู้ป่ วยจติ เภทท่ตี ิดสุราได้อย่างมี ประสทิ ธผิ ล ดงั นนั้ จงึ เหมาะสมในการออกแบบกจิ กรรมหรอื โปรแกรมเพ่อื ลดพฤตกิ รรมรนุ แรงในผปู้ ่วยจติ เภทท่ตี ดิ สุรา คาสาคญั : โปรแกรมการกากบั อารมณ์, พฤตกิ รรมรนุ แรง, ผปู้ ่วยจติ เภททต่ี ดิ สรุ า TASC 2023 โปรกรม Program l บทคัดยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 31 / 72

การศึกษาเปรียบเทียบความชุกของการใช้กระท่อมและกญั ชาในผเู้ สียชีวิตและผปู้ ่ วย ในช่วงก่อนและหลงั การปลดลอ็ กทางกฎหมาย ปี 2561 ถงึ พฤษภาคม 2566 อภญิ ญา ทบั ทมิ รตั นา1, กญั ณฏั ฐ์ พรหมรงุ่ เรอื ง1, บณุ ฑรกิ า อนิ ทะวงค2์ , ปรตั ถ์ ถริ าต2ิ , ณฐั ตนั ศรสี วสั ด2ิ ์ 1หน่วยนิตพิ ษิ วทิ ยา ฝ่ายนติ เิ วชศาสตร์ โรงพยาบาลจฬุ าลงกรณ์ สภากาชาดไทย 2หน่วยนิตพิ ษิ วทิ ยา ภาควชิ านิตเิ วชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั ความเป็นมาและเหตผุ ล: พชื กระท่อมและกญั ชา เป็นสารเสพตดิ ทเ่ี ป็นทน่ี ิยมในประเทศไทย โดยใน วนั ท่ี 24 สิงหาคม 2564 ได้มีการประกาศ “ปลดลอ็ กพืชกระท่อม” ออกจากบญั ชียาเสพติด ประเภทที่ 5 และในวนั ท่ี 9 ม.ิ ย. 2565 คอื วนั ทป่ี ระเทศไทย “ปลดลอ็ กกญั ชา” ออกจากสารเสพตดิ ประเภทท่ี 5 แต่ยงั คงเหลอื เฉพาะสารสกดั จากกญั ชง กญั ชาท่มี ปี รมิ าณ THC เกนิ 0.2% เท่านัน้ ท่ยี งั ถอื เป็นยาเสพติด หลงั จาก“การ ปลดลอ็ ก”สารเสพติดทงั้ สองชนิด ทงั้ กระท่อมและกญั ชากม็ ีการใช้กนั อย่างแพร่หลายมากขึ้น กระท่อม และกญั ชามคี วามเกย่ี วขอ้ งกบั อตั ราการเสยี ชวี ติ ทงั้ เสยี ชวี ติ แบบธรรมชาตแิ ละเสยี ชวี ติ แบบผดิ ธรรมชาติ ดว้ ย เหตุน้ี ทางทมี วจิ ยั จงึ ทาการศกึ ษาโดยเก็บขอ้ มูลการใช้กญั ชาและกระท่อม ตงั้ แต่ปี 2561 จนถงึ พฤษภาคม 2566 ในผเู้ สยี ชวี ติ เพอ่ื ดคู วามชกุ ของการใชก้ ระทอ่ มและกญั ชาในคนไขแ้ ละผเู้ สยี ชวี ติ ทงั้ ก่อนและหลงั ประกาศ ใหก้ ระทอ่ มและกญั ชาถกู กฎหมาย และหาความสมั พนั ธข์ องสาเหตุการเสยี ชวี ติ กบั การใชก้ ระทอ่ มและกญั ชา วิธีการทดลอง: รวบรวมข้อมูลจากห้องปฏิบัติการนิติพิษวิทยา ภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะ แพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั และ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ตงั้ แต่ปี 2561 ถงึ พฤษภาคม 2566 และนามาวเิ คราะหข์ อ้ มลู ผลการดาเนิ นการ: ผลการวเิ คราะห์ข้อมูลการใช้กระท่อมกญั ชาในผู้เสยี ชวี ติ จากขอ้ มูลสถิติในปี 2561 ถงึ พฤษภาคม2566 พบว่ามกี ารใชก้ ระท่อมและกัญชาเพมิ่ ขน้ึ อย่างเหน็ ไดช้ ดั หลงั จากมกี ารประกาศให้ กระท่อมและกญั ชาถูกกฎหมาย โดยเฉพาะการใชก้ ระท่อม นอกจากนัน้ แลว้ ยงั พบว่า การใช้กระท่อมมคี วาม เก่ียวข้องกับการเสียชีวติ ด้วยอุบตั ิเหตุจราจรมากเป็นอันดบั ต้นๆ ตามด้วยโรคหวั ใจ ส่วนกัญชามคี วาม เก่ยี วขอ้ งกบั การเสยี ชวี ติ ดว้ ยโรคหวั ใจ การฆ่าตวั ตาย และอุบตั เิ หตุ ตามลาดบั จากผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู การ ตรวจกญั ชาในผู้ป่ วยทม่ี ารบั บรกิ ารท่ี รพ.จุฬาลงกรณ์ พบว่ามแี นวโน้มสูงขน้ึ เช่นกนั ส่วนขอ้ มูลการคดั กรอง กระทอ่ มของผปู้ ่วยยงั มขี อ้ มลู ไมเ่ พยี งพอจะสรปุ แนวโน้ม เน่อื งจากทางโรงพยาบาลจฬุ าลงกรณ์ เรมิ่ เปิดบรกิ าร ตรวจคดั กรองกระท่อมในผปู้ ่วยในปี 2566 สรปุ : จากการรวบรวมขอ้ มลู การใชก้ ระทอ่ มและกญั ชาในผเู้ สยี ชวี ติ พบว่ามปี รมิ าณการใชก้ ระทอ่ มและ กญั ชามากขน้ึ อยา่ งเหน็ ไดช้ ดั หลงั จากการประกาศใหก้ ระทอ่ ม และกญั ชา ถกู กฎหมาย เมอ่ื เทยี บกบั ก่อนจะถูก กฎหมาย นอกจากนัน้ แล้วพบว่าผู้ใช้กระท่อมส่วนใหญ่จะเสยี ชวี ติ ด้วยอุบตั เิ หตุ และผู้ท่ใี ช้กญั ชาส่วนใหญ่ เสยี ชวี ติ ดว้ ยโรคหวั ใจ ดงั นนั้ จากผลการเกบ็ รวมรวมขอ้ มลู ของทมี ผวู้ จิ ยั สะทอ้ นใหเ้ หน็ ว่าการปลดลอ็ กกระท่อม และกญั ชานนั้ มโี อกาสทาใหเ้ สยี ชวี ติ มากขน้ึ ซง่ึ ผวู้ จิ ยั เหน็ ว่า ควรมกี ารพจิ ารณากฎหมายเกย่ี วกบั การควบคุม พชื กระทอ่ มและกญั ชาอกี ครงั้ เพ่อื ลดโอกาสการเสยี ชวี ติ คาสาคญั : กญั ชา, กระท่อม, ปลดลอ็ กกระทอ่ มและกญั ชา TASC 2023 โปรกรม Program l บทคัดยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 32 / 72

A Comparative Study on the Prevalence of Kratom and Cannabis Use in Deceased Individuals and Patients Before and After Legalization from 2018 to May 2023 Apinya Tubtimrattana1, Kanyanat Promrungreang1, Boontariga Intawong2, Parath Thirati2, Nat Tansrisawad2 1Forensic Toxicology Unit, Department of Forensic Medicine, King Chulalongkorn Memorial Hospital, The Thai Red Cross Society, Bangkok, Thailand 2Forensic Toxicology Unit, Department of Forensic Medicine, Faculty of Medicine, Chulalongkorn University, Bangkok, Thailand Background: Kratom and Cannabis plants have been utilized as substances of abuse in Thailand. On August 24, 2021, a proclamation was made to \"unlock Kratom\" from the category 5 narcotics list, followed by another announcement on June 9, 2022, to \"unlock Cannabis\" from the category 5 narcotics list. As a result, only Cannabis extracts and Cannabis with a THC content exceeding 0.2% are still considered as narcotics. After the legalization of Kratom and Cannabis, their usage became more prevalent in Thailand. Cannabis and Mitragynine have been linked to mortalities related to both natural and unnatural causes. The aim of this research study was to investigate the use of Cannabis and Kratom from 2018 until May 2023 in deceased individuals, to examine the prevalence of Kratom and Cannabis use in patients and deceased individuals both before and after the legalization of Kratom and Cannabis, and to find correlations between the cause of death related to Kratom and Cannabis. Method: Data were collected from the forensic toxicology laboratories of the Department of Forensic Medicine, Faculty of Medicine, Chulalongkorn University, and King Chulalongkorn Memorial Hospital, The Thai Red Cross Society from 2018 to May 2023. These data were analyzed to facilitate the understanding of the prevalence and potential implications of Kratom and Cannabis use across different populations before and after their legalization. Results: The data revealed a significant increase in the use of both substances, especially Kratom, following their legalization. Moreover, Kratom usage was predominantly linked with deaths due to traffic accidents, followed by heart diseases and other causes. Cannabis, on the other hand, was associated with fatalities related to heart diseases and suicide. This trend also occurred in the patients receiving treatment at Chulalongkorn Hospital. However, sufficient data for Kratom screening among patients to ascertain a trend was lacking, given that Chulalongkorn Hospital commenced its Kratom screening services only in 2023. Conclusion: The data regarding the usage of Kratom and Cannabis in deceased individuals indicated a marked increase in the usage of both substances following their legalization as compared to prior to their legalization. Furthermore, it was found that the majority of Kratom users primarily were related to accidents, while the majority of Cannabis users were related to heart diseases. Consequently, the compiled data reflects an increased risk of fatality associated with the legalization of Kratom and Cannabis. Thus, it is suggested that the control of Kratom and Cannabis use be reconsidered by the policy maker to decrease the chances of fatalities. Key words: Cannabis, Kratom, Legalization of Kratom and Cannabis TASC 2023 โปรกรม Program l บทคัดยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 33 / 72

นโยบายและมาตรการของสถานศึกษาในการป้องกนั และการแก้ไขปัญหา ยาเสพติดของเยาวชนในพืน้ ท่ีชายแดน อาเภอแม่สอด จงั หวดั ตาก ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยว์ สนั ต์ ปวนปันวงศ์ สาขาวชิ ารฐั ศาสตร์ คณะสงั คมศาสตรแ์ ละการพฒั นาทอ้ งถนิ่ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พบิ ลู สงคราม สาหรบั บทบาทสาคญั ของสถานศกึ ษาในฐานะเป็นสถาบนั ทางสงั คมท่ที าหน้าทถ่ี ่ายทอดองคค์ วามรู้ ให้แก่เยาวชนและในขณะเดยี วกนั กท็ าหน้าทใ่ี นการปกป้องและสรา้ งภูมคิ ุม้ กนั ให้กบั เยาวชนกบั การหลกี ห่าง จากปัญหายาเสพตดิ บทความวจิ ยั ฉบบั น้ีเป็นงานวจิ ยั เชงิ คุณภาพโดยผใู้ หข้ อ้ มลู คอื (1) กลุ่มเจา้ หน้าทภ่ี าครฐั (2)กลุ่มเจา้ หน้าทส่ี ถานศกึ ษา ผวู้ จิ ยั ไดใ้ ชแ้ บบสมั ภาษณ์ เป็นเครอ่ื งมอื ศกึ ษา ผลการศกึ ษาประกอบดว้ ย 3 สว่ น คอื (1) ภายในและภายนอกสถานศกึ ษานักเรยี นบางรายมพี ฤตกิ รรมทส่ี ่อเสย่ี งต่อปัญหายาเสพตดิ เช่น บุหร่ี ไฟฟ้า ยาเขยี วเหลอื ง และเคร่อื งด่มื แอลกอฮอล์ สาเหตุท่สี าคญั ของปัญหายาเสพติด คอื ครอบครวั เพ่อื น ชุมชน มอี ทิ ธพิ ลอย่างมากต่อเยาวชนทเ่ี ป็นนกั เรยี นในพ้นื ท่ีในการเขา้ ส่กู ารใชส้ ารเสพตดิ (2) การดาเนินงาน และบทบาทของสถานศกึ ษาภายใต้ นโยบาย มาตรการป้องกนั และการแก้ไขปัญหาการใช้สารเสพติดของ เยาวชน กล่าวคอื กลไกและมาตรการในการนานโยบายไปปฏบิ ตั อิ ย่างเป็นรปู ธรรมน้ีมที งั้ มาตรการเชงิ รุกและ รบั มอื ต่อสภาพปัญหาทเ่ี กดิ ขน้ึ (3)การบรู ณาการองคค์ วามรเู้ รอ่ื งยาเสพตดิ ในการเรยี นการสอนของสถานศกึ ษา มกี ารกาหนดเน้อื หาอยา่ งเป็นระบบเรยี กว่า “วชิ ายาเสพตดิ ศกึ ษา” ข้อเสนอแนะในเชงิ นโยบายควรเพมิ่ จานวนของทมี สหวชิ าชพี และเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพของกฎหมายและ แนวปฏิบตั ิอย่างเคร่งครดั ส่งเสรมิ กระจายอานาจให้ชุมชนส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหายาเสพติด สาหรบั ขอ้ เสนอแนะการวจิ ยั ครงั้ ต่อไป ควรมกี ารศกึ ษาในประเดน็ ของมาตรการและนโยบายของสถานศกึ ษาต่อการ ป้องกนั เยาวชนต่อภยั ของสารเสพตดิ ทเ่ี ป็นบหุ รไ่ี ฟฟ้าซง่ึ ปัจจบุ นั ถอื วา่ เป็นทน่ี ยิ มในกลุ่มเยาวชน คาสาคญั : นโยบายดา้ นยาเสพตดิ , สถานศกึ ษา, ปัญหา TASC 2023 โปรกรม Program l บทคดั ยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 34 / 72

Eeducational Institutes Policies and Measures in Preventing and Solving Drug- Related Problems among Youth in Border Areas, Mae Sot District, Tak Province Wasan Pounpunwong Assistant Professor of Political science, Faculty of Social Sciences and Local Development. Pibulsongkram Rajabhat University For the important roles of educational institutions as social institutions responsible for imparting knowledge to the youth, they also play a role in protecting and building immunity against drug abuse among young people and helping them steer clear of substance-related problems. This qualitative research article utilized data from two groups: (1) government officials and (2) school personnel. Interviews were conducted as the research tool, and the study consisted of three parts: (1) Some students in certain schools exhibited risky behaviors related to substance abuse, such as electronic cigarette, yellow and green pills, and alcoholic beverages. The primary causes of drug abuse problems were found to be family, peers, and the community, which had a significant influence on students in these areas when it comes to engaging in substance use. (2) The operation and role of educational institutions under policies and measures for preventing and addressing youth substance abuse problems. This involved both proactive and reactive approaches to tackle the issue. (3) The integration of drug abuse knowledge into the school curriculum, referred to as 'Drug Education Subject.' Policy recommendations include increasing the number of interdisciplinary teams and enhancing the effectiveness of laws and strict enforcement. Empowering the community to participate actively in solving drug abuse issues is also suggested. For future research, the study should delve into the measures and policies of educational institutions regarding the prevention of youth addiction, especially concerning popular substances like electronic cigarette, which are gaining popularity among young people. Keywords: drug policy, educational institutions, substance abuse problems, youth, Mae Sot border region TASC 2023 โปรกรม Program l บทคดั ยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 35 / 72

การตรวจพบคีตามนี ร่วมกบั สารอื่นในชีววตั ถทุ ี่ส่งตรวจ ณ สถาบนั นิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตารวจ ภทั รมณ ยงพานิช1 พงศธร กอนตะวนั 1 ธรี นิ ทร์ สนิ ไชย1 สมทรง ลาวณั ยป์ ระเสรฐิ 2 1สถาบนั นติ เิ วชวทิ ยา โรงพยาบาลตารวจ 2คณะเภสชั ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั อสี เทริ น์ เอเชยี คตี ามนี (ketamine) หรอื ยาเค คอื สารท่ถี ูกนามาใช้ในทางการแพทย์โดยมขี ้อบ่งใช้เป็นยานาสลบ จดั เป็นวตั ถุออกฤทธติ ์ ่อจติ และประสาทประเภท 2 การศกึ ษาน้ีจงึ มวี ตั ถุประสงค์เพ่อื ประเมนิ อุบตั กิ ารณ์การ ตรวจพบคตี ามนี ร่วมกบั สารอ่นื ในชวี วตั ถุ ไดแ้ ก่ ปัสสาวะ เลอื ด น้าดี อาหารในกระเพาะ ตบั และอ่นื ๆ ของ ผเู้ สยี ชวี ติ /ผตู้ อ้ งหา/ผเู้ สยี หาย และวเิ คราะหค์ วามสมั พนั ธร์ ะหว่างการตรวจพบคตี ามนี หรอื การตรวจพบคตี ามนี ร่วมกบั สารอ่นื กบั พฤตกิ ารณ์การตายโดยผดิ ธรรมชาตขิ องผู้เสยี ชวี ติ ดาเนินการเก็บขอ้ มลู แบบยอ้ นหลงั จาก ตวั อยา่ งชวี วตั ถุทส่ี ง่ ตรวจทก่ี ลุม่ งานพษิ วทิ ยา สถาบนั นิตเิ วชวทิ ยา โรงพยาบาลตารวจ โดยเกบ็ ขอ้ มลู ระหว่าง 1 มกราคม 2565 ถงึ 31 ธนั วาคม 2565 จานวนทงั้ สน้ิ 3410 ราย ผลการศกึ ษาพบว่า ในจานวนผูเ้ สยี ชวี ติ ท่สี ่ง ตรวจทงั้ หมด 3427 ราย ตรวจพบคีตามนี จานวน 44 ราย (ร้อยละ 1.36) โดยพบมากในเพศชาย (ร้อยละ 84.09) สญั ชาตแิ ละเชอ้ื ชาตไิ ทย (รอ้ ยละ 77.27) อายุระหว่าง 20-40 ปี (รอ้ ยละ 77.27) ส่วนใหญ่มพี ฤตกิ ารณ์ การตายแบบยงั มปิ รากฎเหตุ (รอ้ ยละ 40.91) รองลงมาคอื ตายโดยอุบตั เิ หตุ (รอ้ ยละ 38.64) การใชค้ ตี ามนี มี ความสมั พนั ธก์ บั พฤตกิ ารณ์การตายในระดบั น้อย และรปู แบบการใชค้ ตี ามนี ไม่มคี วามสมั พนั ธ์กบั การตายผดิ ธรรมชาติ โดยรปู แบบการใชค้ ตี ามนี ในผเู้ สยี ชวี ติ ทพ่ี บมากทส่ี ุดคอื การใชค้ ตี ามนี รว่ มกบั กลุ่ม amphetamines และ สารอ่นื (รอ้ ยละ 11.36) ส่วนในผตู้ อ้ งหา/ผเู้ สยี หายท่สี ่งตรวจทงั้ หมด 163 ราย ตรวจพบคตี ามนี จานวน 64 ราย (รอ้ ยละ 39.26) พบมากในเพศชาย (รอ้ ยละ 32.81) รปู แบบการใชค้ ตี ามนี ในผตู้ ้องหา/ผเู้ สยี หายทพ่ี บมาก ท่สี ุดได้แก่ ใช้คตี ามนี ร่วมกบั กลุ่ม amphetamines และสารอ่นื และใชค้ ตี ามนี ร่วมกบั ไมทราไจนีนและสารอ่นื (พบรอ้ ยละ 14.06) การศกึ ษาน้ีเป็นขอ้ มูลเบ้อื งต้นถงึ อุบตั กิ ารณ์ รูปแบบการใช้คตี ามนี และความสมั พนั ธข์ อง การใชค้ ตี ามนี กบั พฤตกิ ารณ์ตาย ควรทาการศกึ ษาเพมิ่ เตมิ เพ่อื ใหไ้ ดข้ อ้ มลู อนั จะเป็นประโยชน์ในการพจิ ารณา มาตรการควบคมุ การใชค้ ตี ามนี ต่อไป คาสาคญั : คตี ามนี , การใชย้ าในทางทผ่ี ดิ , การตายโดยผดิ ธรรมชาติ TASC 2023 โปรกรม Program l บทคัดยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 36 / 72

Detection of Ketamine with Other Substances in Biological Samples At the Institute of Forensic Medicine, Police General Hospital Patramon Yongpanich1 Pongsathorn Kontawan1 Theerin Sinchai1 Somsong Lawanprasert2 1Institute of Forensic Medicine, Police General Hospital 2School of Pharmacy, Eastern Asia University Ketamine, an anesthetic drug, is classified as a Psychotropic Substance Schedule 2. The purpose of this study was to assess the incidence of detecting ketamine or ketamine in combination with other substances in the biological samples of corpses/suspects/victims (urine, blood, liver, bile, gastric content, etc.). The relationship between the detection of ketamine or ketamine in combination with other substances and manner of unnatural death was also assessed. Data were collected from the findings of corpses/suspects/victims whose biological samples were submitted to Institute of Forensic Medicine, Police General Hospital during January 1, 2022 to December 31, 2022 with the total sample numbers of 3410 cases. The results demonstrated that ketamine was detected in biological samples of 44 deaths out of a total of 3247 deaths (1.36%). The most common positive findings were found in males (84.09%) of Thai nationality and ethnicity (77.27%), with age between 20-40 years old (77.27%). The manner of death was mostly undetermined (40.91%), followed by accidental death (38.64%). Ketamine use was poorly associated with the manner of death. Patterns of ketamine use (single use or combination with other substances) were not associated to the manner of unnatural death. Ketamine detected in corpses was mostlyco-administration of ketamine with amphetamines and other substances (11.36 %). Ketamine was detected in biological samples of 64 suspects/victims out of the total number of 163 suspects/victims (39.26%), mostly found in males (32.81%). Patterns of ketamine use in suspects/victims were as following: ketamine with other substances, ketamine with amphetamines and other substances, as well as ketamine with mitragynine and other substances (all account for 14.06 %). This study provides the preliminary data regarding incidence and pattern of ketamine use as well as the association of ketamine use with the manner of death. Further investigation is suggested to confirm the information for considering ketamine use in the future. Keywords: Ketamine, Drug Abuse, Unnatural Death TASC 2023 โปรกรม Program l บทคดั ยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 37 / 72

ปัจจยั เสี่ยงของปริมาณความต้องการยาเสพติดที่มีผลต่อข้อจากดั สาหรบั ระบบดแู ลสขุ ภาพระยะยาว บุญยงค์ ภ่นู นั ทพงษ์1*, ชนิญญา ตงั้ ศุภกจิ 2 1หน่วยวจิ ยั เทคโนโลยแี ละการจดั การดแู ลสขุ ภาพ, คณะวทิ ยาศาสตรป์ ระยกุ ต์, มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ พระนครเหนอื 2คณะวทิ ยาศาสตรป์ ระยกุ ต์, มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ พระนครเหนอื ความเป็นมา: กาหนดเวลา, ขอ้ ตกลงระหว่างหน่วยงาน และภาวะทางเศรษฐกจิ เป็นปัจจยั ทส่ี าคญั ของ การตดั สนิ ใจต่างๆ ในกระบวนการดาเนินงานของระบบดแู ลสุขภาพ ซง่ึ ในปัจจบุ นั ระบบการดแู ลสขุ ภาพมคี วาม ซบั ซอ้ นมากขน้ึ ตามภาวะของโรคต่างๆ ทม่ี กี ารเปลย่ี นแปลงอยา่ งรวดเรว็ อาจทาใหเ้ กดิ ความเสย่ี งดา้ นปัจจยั ต่างๆ ทจ่ี ะมผี ลต่อระบบการดแู ลสุขภาพและความปลอดภยั โดยรวมมากยงิ่ ขน้ึ วตั ถปุ ระสงค:์ ผวู้ จิ ยั ไดท้ าการพฒั นาระบบการดแู ลสขุ ภาพ โดยใชแ้ บบจาลองความเสย่ี งเป็นตวั แบบ เพ่อื พจิ ารณาใหเ้ กดิ ค่าใชจ้ า่ ยทต่ี ่าทส่ี ุดในระบบดแู ลสุขภาพใหเ้ หมาะสมกบั ค่าใชจ้ า่ ย และความเสย่ี งต่างๆ ท่ี เกดิ ขน้ึ วิธีการ: ในงานวจิ ยั น้ไี ดก้ าหนดโครงสรา้ งใหมโ่ ดยพจิ ารณาถงึ ขอ้ จากดั ต่างๆ ดา้ นการรกั ษาและความ ปลอดภยั ในลกั ษณะการดแู ลสขุ ภาพเชงิ ป้องกนั ซง่ึ จะช่วยใหส้ ามารถลดคา่ ใชจ้ า่ ยดา้ นการรกั ษาใหล้ ดน้อยลง ในการน้ไี ดค้ านึงถงึ โครงสรา้ งปัญหาและปัจจยั ต่างๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งจานวนมาก และไดใ้ ชโ้ ปรแกรมคอมพวิ เตอร์ CPLEX Solver เขา้ มาช่วยในการวเิ คราะหใ์ หเ้ หมาะสมทส่ี ุดไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ โดยคานึงถงึ การตอบสนองต่อ ความตอ้ งการต่างๆ ทงั้ ของผปู้ ่วยและผใู้ หก้ ารรกั ษาพยาบาล ทงั้ น้เี พ่อื แกป้ ัญหาต่างๆ ทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ โดยกาหนด ขนั้ ตอนการวเิ คราะหด์ ว้ ยวธิ กี ารลากรานต์ 3 ขนั้ ตอน ผลการดาเนินการ: ไดท้ าการทดสอบแบบจาลองทไ่ี ดอ้ อกแบบไวน้ านกวา่ 24 สปั ดาห์ พบว่า แนวโน้ม คา่ ใชจ้ ่ายทเ่ี กดิ ขน้ึ เป็นลกั ษณะฟังกช์ นั กาลงั สองทม่ี คี ่าโดยประมาณ 20 หน่วยยอ่ ย ระหว่างค่าต่าสดุ และค่าสงู สุด นอกจากน้ยี งั สามารถลดความเสย่ี งจากการดาเนนิ งานดา้ นค่าใชจ้ า่ ยไดอ้ กี ดว้ ย สรปุ : ความเสย่ี งเป็นสาเหตุหน่งึ ทท่ี าใหเ้ กดิ ความลม้ เหลวในระบบการดแู ลสขุ ภาพ และการพฒั นา ระบบการดแู ลสุขภาพโดยใชแ้ บบจาลองภายใตค้ วามเสย่ี งเป็นตวั แบบกจ็ ะชว่ ยลดอตั ราตวามลม้ เหลวในระบบ ขา้ งตน้ ได้ ซง่ึ ในงานวจิ ยั น้ีใชแ้ บบจาลองความเสย่ี งหลายช่วงเวลาและใชก้ ารวเิ คราะหด์ ว้ ยวธิ ขี องลากรานต์ 3 ขนั้ ตอน คาสาคญั : ความสย่ี ง, ยาเสพตดิ , ระบบดแู ลสุขภาพ TASC 2023 โปรกรม Program l บทคดั ยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 38 / 72

Risk-based coordination of demand response of narcotics impacts on security constrained for long-term health care system Boonyong Punantapong1*, Chaninya Tangsupakit2 1Health Care Technology and Management Research Unit, Faculty of Applied Science, King Mongkut’s University of Technology North Bangkok, Bangkok 10800, Thailand 2Faculty of Applied Science, King Mongkut’s University of Technology North Bangkok, Thailand Background: The health care scheduling, unit commitment and economic dispatch are three factors of decision making in the operation of health care system. The scale and complexity of health care grow, equipment random failures caused by various internal and external risks have become a non-negligible factor which affects the health care with safe operation. Objective: we developed a risk-based coordination model of health care scheduling and unit commitment is established and objective is to minimize the total operation cost consisting of the health care cost, generation cost and risk cost. Methods: In this paper, a new structure for security constrained preventive health care scheduling associated with demand responses is suggested. In order to scrutinize the economic and environmental driven measures demand response programs is presented. The proposed framework is structured as a mixed-integer programming problem and solved using CPLEX solver. This model would schedule reserves provided by demand response providers, health care scheme, and commitment status of generating units. In order to effectively handle this problem, a solving strategy based on three layers iterations is proposed. Results: In this paper, the reliability test system has been utilized for simulation studies with a scheduling time horizon of 24 weeks. Then the cost curves for generation units given as a quadratic function are approximated by 20 linear segments between the minimum and maximum generating unit capacities. Furthermore, it can be seen that the operating risk is effectively controlled by the model proposed in this paper. Conclusion: The overflow risk caused by health random failure is considered and a contingency scenario generation method based on arbitrary failure rate functions is presented. In order to solve this optimization model with multiple periods and scenarios, a three layers iterative solving strategy by Lagrangian relaxation method is applied. Key words: Risk-based, Narcotics, Health care system TASC 2023 โปรกรม Program l บทคดั ยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 39 / 72

การใช้ประโยชน์กญั ชาตามวิถชี ุมชนหลงั ปลดลอ็ กออกจากการเป็นยาเสพติด ศริ เศรษฐ เนตรงาม, อรพนิ สรอ้ ยญาณะ, กรกนก บวั เบกิ บาน, จติ รลดา อารยี ส์ นั ตชิ ยั และ อุษณยี ์ พง่ึ ปาน ศูนยว์ จิ ยั ยาเสพตดิ , วทิ ยาลยั วทิ ยาศาสตรส์ าธารณสขุ , จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , กรงุ เทพ, ประเทศไทย ความเป็นมาและเหตผุ ล : ในอดตี กญั ชาถอื เป็นยาเสพตดิ ผดิ กฎหมาย ขณะเดยี วกนั ชมุ ชนไทยกม็ วี ถิ ี การใช้ประโยชน์จากกัญชามาอย่างยาวนานเช่นกนั อย่างไรก็ตาม เม่อื วนั ท่ี 9 มถิ ุนายน 2565 กระทรวง สาธารณสุขไดป้ ระกาศปลดกญั ชาออกจากการเป็นยาเสพตดิ ผดิ กฎหมาย (ยกเวน้ ทม่ี ี THC เกนิ 0.2%) ทาให้ ประชาชนทวั่ ไปสามารถปลูกและใช้ประโยชน์จากกญั ชาหรอื หากต้องการพฒั นาเป็นผลติ ภณั ฑก์ ส็ ามารถขอ อนุญาตและปฏบิ ตั ติ ามเง่อื นไขทก่ี ฎหมายกาหนดไวไ้ ด้ จากสถานการณ์ดงั กล่าวจงึ เป็นทม่ี าของวตั ถุประสงค์ ในการศกึ ษาวจิ ยั ครงั้ น้ีคอื เพอ่ื ศกึ ษาการใชป้ ระโยชน์จากกญั ชาตามวถิ ชี ุมชนหลงั จากทม่ี กี ารประกาศปลดลอ็ ก ออกจากการเป็ นยาเสพติด วิธีการ : เป็นการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพ โดยเลือกพ้ืนท่ี ภาคเหนือ ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ภาคละ 2 จังหวัด จากนัน้ เป็นการเลือกผู้ให้ข้อมูลแบบ เฉพาะเจาะจง เพอ่ื เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ดว้ ยการสมั ภาษณ์เชงิ ลกึ แบบมโี ครงสรา้ ง ทงั้ หมด 18 กรณศี กึ ษา ซง่ึ เป็น ผู้ท่มี ปี ระสบการณ์การใช้ประโยชน์จากกัญชา (ไม่นับรวมการใช้ประโยชน์จากเส้นใยและแบบยาเสพติด) ประกอบด้วย ผู้ประกอบธุรกจิ ท้องถ่ิน เจา้ หน้าท่ดี ้านสุขภาพของรฐั ภาคส่วนด้านการศกึ ษา ผู้นาศาสนา (พระสงฆ)์ ผนู้ าชุมชน และผแู้ ทนวสิ าหกจิ ชมุ ชน ผลการศึกษา : ตามวถิ ชี ุมชน กญั ชาถูกนามาใช้มากท่สี ุดคอื การเป็นส่วนผสมในอาหารพ้นื ถน่ิ และ เคร่อื งด่มื โดยการสบื ทอดความรจู้ ากคนในครอบครวั ญาตพิ ่นี ้อง เพ่อื น คนรจู้ กั หมอพ้นื บ้าน และอ่นื ๆ ซ่งึ จากขอ้ มูลในการศกึ ษาพบว่า ส่วนมากจะใชก้ ้านและใบทงั้ แบบแห้งและสดเป็นส่วนประกอบ เพ่อื เพมิ่ ความ น่าสนใจ เพมิ่ กลน่ิ รสชาติ หรอื เพ่อื การผ่อนคลาย สาหรบั การใชเ้ พอ่ื รกั ษาอาการเจบ็ ป่วยตามวถิ ชี ุมชน พบการ ใช้ประโยชน์ เช่น รกั ษาอาการนอนไม่หลบั บรรเทาปวด รกั ษาโรคเบาหวาน ความดนั มะเรง็ ไซนัส ต่อม ลกู หมากโต เป็นต้น ทงั้ น้ีหลงั การปลดลอ็ กออกจากการเป็นยาเสพตดิ กญั ชาถูกนามาใช้ในหลายรปู แบบมาก ขน้ึ อาทิ ภาคเหนือ มผี ูป้ ระกอบการนามาผสมอาหารทอ้ งถนิ่ เช่น ไสอ้ วั่ ลาบ แกงอ่อม เพ่อื จาหน่าย, ภาค อสี าน พระสงฆร์ ว่ มกบั วสิ าหกจิ ชุมชนและสถานพยาบาล พฒั นาเป็นผลติ ภณั ฑท์ ห่ี ลากหลาย เชน่ ลกู อม คุกก้ี อาหารก่งึ สาเรจ็ รปู น้าด่มื สมุนไพร นามนั กญั ชาและยารกั ษาโรคต่างๆ ภาคกลาง พระสงฆร์ ว่ มกบั ชุมชนผลติ เป็นผลติ ภณั ฑร์ กั ษาอาการเจบ็ ป่วยและดแู ลสุขภาพ เช่น สบู่ แชมพู ยาหมอ่ ง น้ามนั สกดั , ส่วนในภาคใต้ รพ. สต. รว่ มกบั วสิ าหกจิ ชุมชนนามาเป็นส่วนผสมของเวชสาอาง และพบใน “ขนมจาก” ทน่ี ามาจดั เลย้ี งคนในชุมชน อกี ดว้ ย สาหรบั ในประเดน็ ผลกระทบต่อสงั คม ผใู้ หข้ อ้ มลู เหน็ ตรงกนั ว่าควรมกี ฎหมายควบคุมการใชป้ ระโยชน์ท่ี ชดั เจนเพ่อื ป้องกนั การนามาใชเ้ ป็นยาเสพตดิ สรปุ : กญั ชาถูกนามาใช้ประโยชน์และสบื ทอดส่งต่อจนเป็นวถิ หี น่ึงของชุมชน หลงั จากการปลดลอ็ ก ได้มกี ารพฒั นาและเกดิ เป็นผลติ ภณั ฑท์ ่หี ลากหลายซ่งึ นาไปสู่การใช้ในสงั คมวงกวา้ งมากขน้ึ เหตุดงั กล่าวจงึ ตอ้ งมกี ฎหมายเพ่อื ควบคุมไมใ่ หถ้ ูกนาไปใชใ้ นรปู แบบของยาเสพตดิ อน่งึ เน่อื งจากเป็นงานวจิ ยั เชงิ คุณภาพจงึ ไม่อาจใช้ผลการศกึ ษาเป็นภาพตวั แทนรูปแบบการใช้กญั ชาของในแต่ละภาคได้ จงึ เสนอใหม้ กี ารศกึ ษาวิจยั ประเดน็ การใชป้ ระโยชน์กญั ชาตามวถิ ชี ุมชนในแต่ละภมู ภิ าค รวมถงึ การปรบั เปลย่ี นรปู แบบการใช้ทงั้ ก่อนและ หลงั การปลดลอ็ กอยา่ งคลอบคลมุ คาสาคญั : กญั ชา, การใชป้ ระโยชน์, วถิ ชี มุ ชน TASC 2023 โปรกรม Program l บทคัดยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 40 / 72

Folkways of cannabis utilization after being removed from the narcotics list Siraseth nethngam, Orapin Soiyana, Kornkanok Bouberkban, Chitlada Areesantichai, and Usaneya Perngparn Drug Dependence Research Center, College of Public Health Sciences, Chulalongkorn University, Bangkok, Thailand Background and rationale: In the past, cannabis was listed as an illegal drug despite its long history of local use in the Thai community. However, the Thai Ministry of Public Health announced the removal of cannabis from the narcotics list on 9 June 2022 (except for THC content exceeding 0.2%), allowing the general public to grow and utilize cannabis or to request permission to develop cannabis into a product in compliance to the condition set by law. The situation contributed to the objective of this research study in examining the local ways of cannabis utilization after being removed from the narcotics list. Method: This qualitative study selects the target areas of 2 provinces from each of the Northern, Northeastern, Central and Southern regions. A total of 18 informants with cannabis utilization experience (excluding fiber and narcotic utilization), including local business operators, local health officers, educational staff, religious leaders (Buddhist monks), community leaders, and community enterprise representatives, have been selected for data collection by in-depth structured interviews. Result: Locally, cannabis is commonly used as an ingredient in local food and drink by knowledge inherited from family members, relatives, friends, acquaintances, folk healers, etc. The study found that, in most cases, cannabis fresh and dried stems and leaves are used as ingredients to boost interest, add smell or flavor, or enhance relaxation. Its use in treating illness in a community way includes treating insomnia, diabetes, high blood pressure, cancer, sinusitis, Benign Prostate Hyperplasia; relieving pain; etc. However, after being removed from the narcotics list, cannabis has been applied in various products such as Northern spicy sausage, spicy minced pork (Larb) and spicy pork soup (Kang Om). In the Northeastern region, monks, community enterprises and public health centers work together in developing various products from cannabis, such as candies, cookies, convenience food, herbal drink, cannabis oil and medicines. In the Central region, monks and community members produce health products for illness treatment and health care, such as soap, shampoo, balm, and essential oil. As for the Southern region, the subdistrict health promotion hospital and community enterprises use cannabis as a mixture of cosmeceuticals and Khanom Jak (Thai sweet made of flour, coconut, and sugar) served in community catering. Regarding the social impact of cannabis, all informants unanimously agree that there should be a specific law to control cannabis utilization to prevent its use as illicit drugs. Conclusion: Cannabis has been used and passed down as one of the community ways. After being removed from the narcotics list, various cannabis products have been developed and widely used. Therefore, a specific law to control cannabis utilization to prevent its use as illicit drugs should be enhanced. However, since this study is qualitative, the results cannot be used to represent specific patterns of cannabis use in each region. It is recommended that the research studies on the local use of cannabis in each region and modification of its utilization before and after being removed from the narcotics list are conducted to cover all contexts. Keywords: cannabis, utilization, Folkways TASC 2023 โปรกรม Program l บทคัดยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 41 / 72

การพฒั นาโปรแกรมให้ความรดู้ ้านการลดอนั ตรายจากยาบ้าสาหรบั ผใู้ ช้ยาเสพติดในประเทศไทย Development of Methamphetamine Harm Reduction education program for drug users in Thailand ดร.ณฐั กฤตา ทุมวงศ์1 และ รศ. พ.ต.ต. ดร.พนู รตั น์ ลยี ะตกิ ุล2, Natkritta Thumwong, PhD., and Poonrut Leyatikul 1สานกั งานสาธารณสุขจงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ 2คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั วงษ์ชวลติ กุล Kalasin Provincial Health Office Faculty of Public Health, Vongchavalitkul University, Nakhon Ratchasima. Drugs have been recognized as a problem for Thailand since 1360. The Thai government has declared drug-related problems a national agenda priority for more than 20 years. Like other countries in the region, Amphetamine type stimulant (ATS) is predominantly the major epidemic. In Thailand, 1.3% of the population (0.65 million people) were estimated to be past-year users of methamphetamine tablets, whereas 0.7% of the population (0.37 million people) were estimated to be past-year users of crystal methamphetamine (Kanato et al. 2019). This is a quasi-experimental study. All 77 provinces in Thailand were divided into ten zones according to ONCB operation consisting of 7-12 provinces per zone. Each Zone 1 province was randomly selected. A total of 34 drug camps within the areas of study were eligible. Camp no. 1,3,5 in each province was assigned as the control group, while camp no.2,4,6 were assigned as an experimental group. A 3 hours Methamphetamine Harm Reduction education program (MHR) was designed. MHR consisted of 1) situation and risk behabior2, 2) methamphetamine harm and consequence, and 3) behavioral intention. This study was operated during 2018-2020. 63,463 ATS users were registered through various camps for drug rehabilitation in Thailand. A total of 3082 registered attendants from 34 drug camps within the areas of study were eligible. Of these, 2400 were accessible. Only 2312 attendants voluntarily participated. The researchers developed the tools used in this study. There were; 1) demographic characteristics, 2) drug use behaviors, 3) abnormal symptoms and violence, 4) behavior intention, and 5) relapse risk. Baseline data was collected before camps. The experiment group received a n MHR session, while the control group was leisure time. All participants were followed up for one year. Researchers and healthcare professionals collected The data through observation, interviews, history taking, and physical examination. Data collection is carried out in a specific area. The subjects were given explanations related to the study objectives and decided to participate in the study voluntarily. Besides, the data of the samples are kept under confidentiality standards. Results. Most attendants were male and young. 55.20% of attendants were under 24 years old. Among the adult participants, over 75% were employed. The mean age was 26.21 years (Minimum 15, Maximum 61, SD = 8.16). Chi-square tests demonstrated non-significant differences between the experiment and control group. TASC 2023 โปรกรม Program l บทคดั ยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 42 / 72

ความเส่ียงที่เกี่ยวเนื่องกบั การใช้สารเสพติดในทางท่ีผิดของเยาวชนในโรงเรียน Risks Associated with Substance Abuse among the Youth in Schools รศ. พ.ต.ต. ดร. พนู รตั น์ ลยี ะตกิ ุล1, พ.ต.ท. ดร. รงั สยิ า วงศอ์ ุปปา1 และ รศ. ดร.มานพ คณะโต2 Assoc. Prof. Pol.Maj. Poonrut Leyatikul, Ph.D., Pol.Lt.Col. Rungsiya Wonguppa, Ph.D., and Assoc. Prof. Manop Kanato, Ph.D. 1คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั วงษช์ วลติ กุล 2เครอื ขา่ ยวชิ าการสารเสพตดิ ภาคอสิ าน มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น Faculty of Public Health, Vongchavalitkul University, Nakhon Ratchasima. ISAN Substance abuse Academic Network, Khon Kaen University, Khon Kaen. This survey research aimed to test the association between risk behaviors and substance abuse among the youth in schools in Nakhon Ratchasima Province. The sample consisted of 2,497 students from 3 private institutions varying from elementary to higher education. Questionnaires collected data in the academic year 2019. Descriptive statistics analyzed data: percentage, mean, and standard deviation. Risk factors were analyzed with Chi-Square, Odds Ratio, and 95% confidence interval. The study results showed that 55.2 percent of the sample was female. The average age was 17.7 years old. 8.6 percent of the sample had ever used substances. The vocational level was the highest proportion accounting for 15.1 percent. The age of first use was less than 15 years at all levels of education. Regarding substance abuse, most substance users have used cannabis at 56.6 percent. Analysis of the likelihood of substance abuse experiences with risky behavior, it was found that substance abuse causing the risk of fighting (OR=4.2, 95%CI=2.9-5.9), fighting hospitalization (OR=7.0, 95%CI=4.2-11.6), physical/health problems (OR=1.7, 95%CI=1.3-2.4), learning/emotional disabilities (OR=1.9, 95%CI=1.4-2.5), and hopelessness depression (OR=1.7, 95% CI=1.3-2.9), self-harm (OR=3.4, 95%CI=2.5- 4.7), suicidal idea (OR=3.4, 95%CI=2.2-5.0). Substance abuse among the youth may result in physical and mental health problems, causing physical/health impairments that affect growth and quality of life. There should be a survey and surveillance of the problem of risky behaviors from substance abuse among youth to know the situation and to track the changes and trends of the problem to lead to preventive measures. Keywords: Risk behaviors, Substance abuse, Adolescence TASC 2023 โปรกรม Program l บทคัดยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 43 / 72

รปู แบบการใช้กญั ชาเป็นยา ตามวิถีชาวบา้ น: กรณีศึกษาวดั อรพนิ สรอ้ ยญาณะ, กรกนก บวั เบกิ บาน, ศริ เศรษฐ เนตรงาม, จติ รลดา อารยี ส์ นั ตชิ ยั และ อุษณยี ์ พง่ึ ปาน ศนู ยว์ จิ ยั ยาเสพตดิ , วทิ ยาลยั วทิ ยาศาสตรส์ าธารณสุข, จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , กรงุ เทพ, ประเทศไทย ความเป็นมาและเหตุผล : เป็นทท่ี ราบกนั ดวี ่า กระทรวงสาธารณสุขไดอ้ อกประกาศปลดกญั ชาออก จากการเป็นยาเสพตดิ ตงั้ แต่เม่อื วนั ท่ี 9 มถิ ุนายน 2565 อยา่ งไรกด็ ี การใชก้ ญั ชาเป็นยาหรอื เป็นส่วนผสมของ ยาแพทย์แผนไทยมีมาตงั้ แต่สมยั กรุงศรอี ยุธยา และเม่อื มปี ระกาศให้กัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษ ยาท่ีมี ส่วนผสมของกญั ชาจงึ ไดถ้ ูกนาออกจากตารบั เมอ่ื 18 กุมภาพนั ธ์ 2562 ไดม้ ปี ระกาศในราชกจิ จานุเบกษา ให้ สามารถนากญั ชากลบั มาใชท้ างการแพทยไ์ ด้ นบั เป็นจดุ เรมิ่ ต้นการนากญั ชามาเป็นยา อกี ครงั้ หน่ึง บทความท่ี จะเสนอต่อไปน้ี คอื รปู แบบการใชก้ ญั ชาเป็นยา ในบรบิ ททผ่ี ใู้ หบ้ รกิ ารเป็นพระภกิ ษุ วิธีการในการศึกษา : เป็นการศกึ ษาวจิ ยั เชงิ คุณภาพสมั ภาษณ์เชงิ ลกึ เจาะจงตวั แทนของวดั 2 แห่ง ทม่ี พี ระให้บรกิ ารรกั ษาโรคด้วยการใชก้ ญั ชา กล่าวคอื วดั ภูพรา้ ว จงั หวดั อุบลราชธานี และ วดั บางปลาหมอ จงั หวดั สุพรรณบรุ ี ผลการศึกษา : รปู แบบแรก การใช้กญั ชาเป็นส่วนผสมในยาสมุนไพร โดยพระครูปัญญา วโรบล (บวชได้ 25 พรรษา) เจา้ อาวาสวดั สริ นิ ธรวรารามภพู รา้ ว ต.ชอ่ งเมก็ อ.สริ นิ ธร จ.อุบลราชธานี เป็นผรู้ เิ รม่ิ ในการ นาเอากญั ชามาผลติ ร่วมกบั ยาสมนุ ไพรเพ่อื รกั ษาโรคใหแ้ ก่ชาวบา้ นในชุมชน เป็นรปู แบบทต่ี งั้ อยู่บนพน้ื ฐานวถิ ี ชาวบา้ นทส่ี บื ทอดกนั มาตงั้ แต่อดตี โดยในครงั้ แรกไดน้ ากญั ชามาต้ม แลว้ นาน้ามาด่มื เพ่อื รกั ษาอาการปวด เม่อื ยและอาการนอนไมห่ ลบั จนกระทงั่ ไดท้ าการผลติ น้ามนั กญั ชาใชห้ ยอดใต้ลน้ิ การใชก้ ญั ชาเป็นส่วนผสมใน ยาสมุนไพรดงั กล่าว กลายเป็นท่ยี อมรบั ในวงกว้าง ทาให้ในปี 2562 วดั ภูพร้าวได้จดั ตงั้ กลุ่มวสิ าหกิจชุมชน ร่วมกบั โรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพตาบลช่องเม็กสาเรจ็ จงึ ทาการปลูกกญั ชง - กญั ชา เพ่อื วตั ถุประสงค์ ทางด้านการแพทยแ์ ผนโบราณท่อี ยู่ภายใต้คาแนะนาของแพทย์ จงึ ทาให้เกดิ เป็นผลติ ภณั ฑ์ยาสมุนไพรท่มี ี ส่วนผสมของกญั ชาออกมาอยา่ งต่อเน่อื ง ภายใตช้ ่อื “อคลิ านงั เภสชั ภริ มย”์ รูปแบบที่สอง การใช้กัญชาในรูปแบบของน้ามนั กัญชาบรรจุในแคปซูล และการใช้ผลิตภณั ฑ์ท่ีมี ส่วนผสมของกญั ชา ทงั้ ทเ่ี ป็นยาทา เช่น ยาหม่อง และผลติ ภณั ฑอ์ ่นื ๆ อาทิ ครมี ทาผวิ แชมพู โดย พระปลดั ธนิตย์ จนฺทโิ ก (หลวงพเ่ี บยี ร)์ เจา้ คณะตาบลดอนกายาน เจา้ อาวาสวดั บางปลาหมอ ต.ดอนกายาน อ.เมอื ง จ. สพุ รรณบรุ ี แต่เดมิ วดั บางปลาหมอใหบ้ รกิ ารรกั ษาโรคดว้ ยยาแผนไทยอยแู่ ลว้ เมอ่ื กระทรวงสาธารณสขุ ประกาศ ใหใ้ ชก้ ญั ชาในการรกั ษาโรคได้ หลวงพเ่ี บยี รจ์ งึ ไดศ้ กึ ษาคุณสมบตั ขิ องกญั ชา ไดท้ ราบว่ากญั ชาสามารถบรรเทา อาการปวด ทาใหน้ อนหลบั และฟ้ืนฟูสุขภาพร่างกายสาหรบั ผู้ป่วยมะเรง็ ท่านเรมิ่ จากเอาช่อดอกกญั ชามาให้ ผปู้ ่วยทเ่ี ป็นเบาหวาน มาชงน้าชาดม่ื หลงั จากนนั้ ประมาณ 1 เดอื น ไปใหแ้ พทยต์ รวจ พบว่าน้าตาลลดลง ความ ดนั ลดลง วดั บางปลาหมอดูแลผปู้ ่วยมะเรง็ เก๊าท์ โรคซมึ เศรา้ มผี รู้ บั บรกิ ารประมาณ 1,500 คนต่อเน่ือง ผทู้ ม่ี า รกั ษาต้องมกี ารวนิ ิจฉัยจากแพทย์แผนปัจจุบนั ว่าเป็นโรคอะไร ทุกครงั้ ท่มี าจะต้องแจ้งอาการ และถ้าไปพบ แพทยก์ จ็ ะขอใบตรวจจากแพทยด์ ว้ ย เพ่อื ดผู ลการรกั ษา การพบผปู้ ่วยทุกครงั้ จะแนะนาเรอ่ื งการปฏบิ ตั ติ วั เช่น ลดอาหารโปรตนี และใชธ้ รรมะ นอกจากน้ีผลติ ภณั ฑต์ ่าง ๆ ทม่ี สี ่วนผสมกญั ชา กย็ งั บรรเทาอาการโรคผวิ หนงั สญั ลกั ษณ์ของผลติ ภณั ฑ์ จะใช้ “ตราลงิ ถอื บอ้ ง” ผลติ ภณั ฑข์ องวดั บางปลาหมอน้ี ไม่ได้จาหน่ายแต่ใช้วธิ ใี ห้ ทาบญุ TASC 2023 โปรกรม Program l บทคดั ยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 44 / 72

สรปุ : การใช้กญั ชาเป็นยาเคยใช้กนั มาตงั้ แต่อดตี แต่การท่จี ะนามาใช้ในปัจจุบนั นัน้ จะแตกต่างจาก อดตี เพราะสภาพสงั คมต่าง ๆ แตกต่างกนั หากจะใชใ้ นปัจจุบนั กต็ อ้ งใชอ้ ย่างถูกตอ้ ง โดยมสี ่วนประกอบหลาย อยา่ ง ไม่ไดม้ เี พยี งกญั ชาเป็นส่วนประกอบหลกั อย่างเดยี ว ตอ้ งมกี ารตรวจปรมิ าณสารกญั ชาในหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร สงั เกตวา่ ทงั้ สองตวั อยา่ งใส่สว่ นผสมกญั ชาท่ีไมไ่ ดม้ กี ารตรวจสอบ นอกจากน้ยี งั ตอ้ งศกึ ษาเพอ่ื ใชใ้ หถ้ กู โรค ถูก คน และทาความเขา้ ใจกบั ชาวบา้ นในการใชก้ ญั ชาเป็นยาแบบวถิ ชี าวบา้ นอย่างถกู ตอ้ ง เพอ่ื ความเหมาะสมและ ปลอดภยั คาสาคญั : กญั ชาเป็นยา, วถิ ชี าวบา้ น, รปู แบบของวดั Medical Cannabis Use in Folkways: Temple Case Study Orapin Soiyana, Kornkanok Buabekban, Sirased Netngam, Chitlada Areesantichai, and Usaneya Perngparn Drug Dependence Research Center, College of Public Health Sciences Chulalongkorn University, Bangkok, Thailand. Background and rationale: It is known that the Ministry of Public Health (MOPH) has declared to remove cannabis as an addictive substance since June 9, 2022. The use of cannabis as an ingredient of Thai traditional medicine has been recognized since Ayutthaya Era. However, it was removed from Thai traditional medicine when cannabis was in a Schedule I substance under the UN Controlled Substances Act. On February 18, 2019, cannabis has been announced in the Royal Gazette that it can be medicinal used. This was the beginning of cannabis use as a drug again. The following article is sample models of medical cannabis use in the folkways which the service providers are monks. Methodology: This is a qualitative research study with in-depth interviews from representatives of two temples whose monks provide treatment of some diseases by using cannabis as an ingredient, namely Phu Phrao Temple, Ubon Ratchathani Province and Bang Pla Mo Temple, Suphan Buri Province. Results: The first model, the use of cannabis as an ingredient in herbal medicine by Phra Kru Panyawarobol (ordained at 25 years), Abbot of Sirindhorn Temple, Wararam Phuprao, Chong Mek District Ubon Ratchathani initiated the production of cannabis in conjunction with herbal medicine to treat diseases for the villagers in the community. The model is based on the folkway that has been passed down for generations. First of all, cannabis plants were boiled and then water was used to treat pain, fatigue and insomnia. After that, the production of cannabis oil has been developed and used by dropping under the tongue. The use of cannabis as an ingredient in such herbal medicine has become widely accepted. In 2019, Phu Phrao Temple cooperated with Chong Meg Sub-district Health Promotion Hospital has established a community enterprise group to cultivate cannabis with medicinal use purpose. Therefore, the cultivation of cannabis - cannabis for TASC 2023 โปรกรม Program l บทคัดยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 45 / 72

traditional medical purposes is under the guidance of the physician. The product cannabis herbal medicine of Phu Phrao Temple has been produced continuously and well-known under the name \"Akilanang Pharmabhirom\" Second model, cannabis oil which packaging in capsules and cannabis-based products such as balms, skin creams and shampoos, have been produced by Permanent Secretary Thanit Tuko (Luang Pee Beers), Chancellor of Don Kampang Sub-district, Abbot of Bang Pla Mo Temple Muang District Supan Buri. In the past, Bang Pla Mo Temple, used to provide treatment services with Thai traditional medicine. When the Ministry of Public Health has announced that cannabis can be used as medicine. Therefore, Reverend Brother Beer started to study how cannabis use as Thai medicine. He learned that cannabis can be used to relieve pain, promote sleep, and restore health for cancer patients. He started by boiling bouquets of cannabis to patients with diabetes drinking as tea. After a month, he found that sugar level and blood pressure of the patients was decreased. At present, Bang Pla Temple has been taking care of about 1,500 patients with cancer, gout and depression. Those who come to the treatment must have a diagnosis from a medical professional. Every visit the patients have to report their signs and symptoms. And if they went to see the doctor, they will also ask for the doctor's report to see the results of the treatment. The patients will be also advised on other practices, such as reducing consuming protein and practicing Dharma. In addition, various products containing cannabis also alleviate skin diseases. The symbol of the product will use the \"Monkey brand with a bong\". All products of Bang Pla Mo Temple are not for sale but requested for charity. Conclusion: The use of cannabis as a medicinal drug has been used in the past, but to use it today, it is different from the past because the conditions, especially social condition are different. It needs many components, not only cannabis as the main ingredient but also cannabis contents are necessary to tested in a laboratory. Noticeably, both samples contain cannabis ingredients but all products have not been examined. Furthermore, it must be studied to use for the specific diseases and made people understanding how to use cannabis as medicinal drug correctly and safety. Keywords: medicinal cannabis use, folkways, temple model TASC 2023 โปรกรม Program l บทคดั ยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 46 / 72

อนั ตรายบรรจบกนั : ยาเสพติด โรคท่ีติดต่อทางเลือด และโรคติดเชื้อทางเพศสมั พนั ธ์ ในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ Perfect Storm: Drugs, Bloodborne, and Sexually Transmitted Infections in Southeast Asia Murdo Bijl, Director of International Affairs at AHRN, and Willy De Maere, Founder of AHRN Myanmar It highlights the pressing issue of drug use and its impact on the transmission of bloodborne and sexually transmitted infections (BBSTIs) in the region. This sheds light on the complexities arising from the post-COVID era and the ongoing political crisis in Myanmar, exacerbating the BBSTI situation. The introduction sets the stage for the presentation, emphasizing the critical nature of the situation and the need for collaborative efforts in addressing drug-related issues and BBSTI transmission. Myanmar drug use situation is brought to the forefront, highlighting the high prevalence of production, trafficking, and consumption in the country. This drug-related crisis has far-reaching consequences, contributing to the spread of infections and posing significant challenges to public health in the region. The transnational impact of the drugs and health crisis, the BBSTIs in Southeast Asia is a key focus, emphasizing the transnational interconnectedness of infections across borders. Neighboring countries, along with Myanmar, face rising rates of HIV, HCV, and TB, necessitating joint efforts to combat the spread of infections regionally. The post-COVID era has further compounded the challenges, disrupting healthcare services and resource allocation, making it imperative to safeguard gains made in controlling BBSTIs while managing pandemic recovery efforts. The presentation stresses the importance of harm reduction responses to effectively tackle the Perfect Storm. Evidence-based public health interventions, such as needle and syringe programs, and awareness campaigns, are crucial in mitigating transmission risks and providing care for affected individuals. Strengthening (ATS) harm reduction as an integral part of healthcare systems is highlighted as an essential component of the response, ensuring continuous access to essential BBSTI services, even amidst political instability. In conclusion, the presentation calls for urgent action to address the drug use situation and its impact on BBSTIs in Southeast Asia. Through harm reduction, collaborative efforts, and international support, the region can forge a path towards combatting the Perfect Storm of BBSTIs and drug-related issues. The importance of Harm Reduction, collective action and resilience in the face of challenges cannot be overstated. With determination and cooperation, the region can make a difference in protecting the well-being of its communities and ensuring better health outcomes for all. TASC 2023 โปรกรม Program l บทคดั ยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 47 / 72

Conference 2023 Poster Presentations Poster #1 Addiction Psychiatry Training in South Asia: The Impact of Covid-19 Pandemic, Innovations, Adaptations, and Future Direction - Dr. Roshan Bhad, National Drug Dependence Treatment Centre, All India Institute of Medical Sciences, and Dr. Enjeline Hanafi, University of Indonesia. Poster #2 Making A Difference: Incorporating SBIRT Training in Mental and Allied Health Education- Ms. Nancy Burley, Dr. Caren Schranz, Dr. Shannon Dermer, Dr. Cheryl Mejta, Governors State University. Poster #3 Evidence-Based Practices (EBP) versus Real World Evidence (RWE). A Dilemma or a Necessary Complementarity - Dr. Guillermo Castano, ITTC Columbia Universidad CES andDr. Dedsy Berbesy Nurses, ITTC Columbia Universidad CES. Poster #4 A Community-based Model to Prevent and Control Methamphetamine (MA) Use among Akha Hill Tribe Youths in Chiang Rai Province - Ms. Chalitar Chomchoei and Ms. Fartima Yeemard, Center of Excellence for the Hill Tribe Health Research, Mae Fah Luang University. Poster #5 Childhood Trauma, Substance Use and Abuse Among Children in North Central Nigeria -Mr. Samuel Joseph Dakwak, University of Jos and Mr. Jurbe Simon Bisji, Nassarawa State University. Poster #6 Barriers and Enablers of Integrating Screening and Assessment Results in Treatment Planning in the Philippines - Ms. Ma Veronica Felipe, De La Salle-College of St Benilde. Poster #7 The Effects of Hyperfemininity and Religious Fundamentalism on Risky Alcohol Use - Ms. Ma Veronica Felipe, Mr. Joel Botor and Dr. Antover Tuliao, Texas Tech University. TASC 2023 โปรกรม Program l บทคัดยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 48 / 72

Poster #8 Prevalence and Description of Kratom Cocktail Consumption among a Sample of Bangkok Students: Analyses of 2022; Behavioral Surveillance a Cross-sectional Survey -Ms. Lubna Altaf Hussain, Addiction Counselor and Inclusion Specialist, Alumni MahidolUniversity. Poster #9 Co-occurring and Convergent Use of E-cigarette Mixed with Cannabis and Cough Syrup Medicine: A New Health-Risk Marketing and Product Trend after Cannabis Legalization in Thailand - Dr. Sirach Lapyai, Researcher, Tobacco Control Research and KnowledgeManagement Center. Poster #10 A Comparative Study Between Body Builders (supplement users and steroid users) and Drug Users (IDUS & NIDUS). On Aggression, Resilience, and Self-Control - Dr. Muhammad Musawar Ali, University of Sargodha and Ms. Sumeera Majeed, Banezer University Rawalpindi. Poster #11 Analyzing Addiction and Substance Use among Nigerian workers in Post-Pandemic Era: A call to Action - Mr. Ejikeme McBishops Ogueji, Reclaiming Futures Nigeria. Poster #12 Effect of Drugs on the Socioeconomic Conditions of People in Chital, Pakistan - Mr. Ahmad Shah, Senior Program Assistant, The Colombo Plan – Drug Advisory Programme (DAP). Poster #13 Cultural Adaptation and Psychometric Properties of Urdu Version of Buss Perry Aggression Questionnaire-Short Form (AQ-12) in People Seeking Treatment for Substance Use Disorder in Pakistan - Dr. Salman Shahzad, Institute of Clinical Psychology, University of Karachi and Dr. Narsreen Begum, University of Karachi. Poster #14 Adaptation and Validation of Urdu Version of Substance Use Risk Profile Scale (SURPS) in Patients with Substance Use Disorder in Pakistan - Dr. Salman Shahzad, Institute of Clinical Psychology, University of Karachi and Dr. Narsreen Begum, Virtual University of Pakistan. TASC 2023 โปรกรม Program l บทคดั ยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 49 / 72

Poster #15 The Substance Use Patterns of Vietnamese MMT Patients - Dr. Tran Tram, Department of Science and Technology, Haiphong Union of Science and Technology Associations, Vietnam and Dr. Khary Rigg, University of South Florida. Poster #16 Exploring the Relationship between Adverse Childhood Experiences and E-Cigarette Use among Youth: A Cross-sectional Study in Bangkok, Thailand - Ms. Nay Zar Win, MahidolUniversity, PhD student, Khon Kaen University. Poster #17 Impact of Drug and Psychoactive Substance Abuse on Violence and Crime in Bayelsa State - Dr. Wisdom Selekekeme Krokeyi, Department of Economics, Faculty of SocialSciences, Niger Delta University. Poster #18 Usage Patterns in the Use of Hallucinogens in the 5 Provinces of Pakistan and Azad Jammu and Kashmir (AJK) - Dr. Jawwad Muhammad Shujaat, ICAP-II, HED Punjab Pakistanand Dr. Muhammad Taqi Shah, HED Punjab Pakistan. Poster #19 Assessment of the Sociological and Health Implications of the Arbitrary Use of Drugs and Illicit Substances by Youths in Southeast Nigeria: The Way Forward - Dr. Chima Christian Chukwu, Senior Research Fellow, Serenity Publishers, Lagos, Nigeria and Dr.Grace Scent,Department of Sociology and Anthropology, Niger Delta University. Poster #20 Indiscriminate Proliferation and Dependence on Drugs and Illicit Substances among Unemployed Adolescents in Nigeria: The Necessity to Create a New Northern Nigeria -Dr. Grace Scent, Department of Sociology and Anthropology, Niger Delta University and Dr. Chima Christian Chukwu, Senior Research Fellow, Serenity Publishers, Lagos, Nigeria TASC 2023 โปรกรม Program l บทคดั ยอ่ Abstract l บธู นทิ รรศการ Exhibition 50 / 72