Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร

การใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร

Published by วรุณี แนววิเศษ, 2021-09-20 03:19:53

Description: การใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร

Search

Read the Text Version

หนว่ ยท่ี 2 การสรุปความจากการฟังและการดู 2.1 ความหมายของการสรุปความจากการฟงั และการดู พจนานุกรมฉบับราชบัณฑติ ยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ (๒๕๔๖ : ๘๑๑,๔๑๒) ใหค้ วามหมายว่า การฟัง หมายถงึ ต้งั ใจสดับ คอยรับฟงั เสียงด้วยหู ได้ยนิ การดู หมายถงึ ใช้สายตาเพอื่ ให้เห็น เชน่ ดูภาพ ดลู ะคร จากความหมายดังกล่าว สรุปไดว้ า่ การฟงั หมายถึง การรับรู้ความหมายจากเสียงทไี่ ดย้ ิน โดยเสียงไดผ้ ่าน ประสาทสัมผัสทางหู แลว้ ส่งสัญญาณไปยงั สมองใหแ้ ปลความหมาย ส่วนการดู หมายถึง การรับสารด้วย สายตา ทาให้ มองเหน็ ภาพและเกดิ ความเข้าใจ ๒.๒ ความสาคญั ของการฟังและการดู การสื่อสารในชีวติ ประจาวัน มนุษย์มักจะเลือกสง่ สารดว้ ยการพูด เพราะทาได้สะดวกและรวดเร็ว ดังนัน้ ผู้รบั สารตอ้ งรับสารดว้ ยการฟังและบางคร้งั อาจตอ้ งใช้การดูรว่ มดว้ ย หากผ้สู ง่ สารใชท้ ัง้ วจั นภาษา และอวจั นภาษาในการส่ือสาร จงึ จะทาให้เขา้ ใจสารท่ีสื่อมาไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ชัดเจน นอกจากนั้นเทคโนโลยที ่ี เจรญิ ก้าวหน้า ทาให้เกิดการสื่อสารไดห้ ลากหลายรูปแบบ เช่น ส่อื สารผ่านวทิ ยกุ ระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทัศน์ เทปบันทกึ เสียง ภาพยนตร์ โทรศัพท์ ผู้รับสารจงึ ตอ้ งพัฒนาทกั ษะการฟัง การดใู หส้ ูงขน้ึ เพื่อใหเ้ กดิ ประโยชน์สูงสดุ ทงั้ ทางด้านการศึกษาและการดาเนนิ ชีวติ ประจาวนั ๒.๓ จุดประสงคข์ องการฟงั และการดู การฟงั การดูเป็นทักษะพนื้ ฐานทางภาษา บุคคลจะเรียนรูภ้ าษาตอ้ งเร่มิ จากทักษะการฟัง การดกู ่อน แล้วคอ่ ยพฒั นาสู่ทกั ษะการพูด การอา่ น และการเขียนตอ่ ไป ผลลัพธข์ องการฟงั การดทู ่ีมีประสทิ ธภิ าพจะ ส่งผลใหผ้ รู้ ับสารเกิดความรอบร้เู ฉลียวฉลาด เกิดความคดิ ริเร่มิ สรา้ งสรรค์ ดงั นัน้ การฟงั และการดูที่ดีควร เร่ิมตน้ ดว้ ยการตง้ั จุดประสงค์ที่ชัดเจน เพอ่ื ให้การรบั สารเกิดผลสมั ฤทธิ์ตามท่ีต้องการ จุดประสงคท์ ีส่ าคัญมีดงั น้ี ๒.๓.๑ เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ ได้แก่ การรับสารที่มีเนอื้ หาเกี่ยวกับความรู้ทางวิชาการ ขา่ วสารและข้อแนะนาต่าง ๆ การรับสารต้องทาด้วยความตั้งใจ มสี มาธิ พยายามทาความเข้าใจและจดจา สาระสาคญั ไว้ เพอ่ื นาไปใชป้ ระโยชนใ์ นโอกาสต่อไป ๒.๓.๒ เพื่อความเพลดิ เพลนิ ได้แก่ การรับสารเพ่ือความสนุกสนานผอ่ นคลายความตงึ เครียด ไม่เนน้ ความสาคัญของเน้ือหาสาระ ไมจ่ าเปน็ ต้องมสี มาธมิ ากนักในการรบั สาร เชน่ ฟงั เพลง ดูละคร ดูภาพยนตร์ ดูคอนเสิร์ต ๒.๓.๓ เพือ่ ความจรรโลงใจ ได้แก่ การรบั สารทีก่ ่อให้เกิดสติปญั ญา ช่วยยกระดบั จิตใจใหส้ ูงขึน้ ผ้รู ับสารต้องมี วิจารณญาณที่จะเชื่อหรือปฏิบตั ิในสง่ิ ทถี่ ูกต้อง เช่น การฟังพระบรมราโชวาท โอสารท คาสอน การฟังธรรมเทศนา เร่ืองราวตา่ งๆ ๒.๓.๔ เพอ่ื ประเมินผลและวิจารณ์ ไดแ้ ก่ การรับสารท่ีต้องอาศัยความรู้อยา่ งละเอียดถกู ต้องในเรื่องทจี่ ะ ประเมนิ หรอื วจิ ารณ์ นอกจากน้ันตอ้ งมีความเป็นธรรม ไมม่ ีอคตติ ่อผสู้ ่งสารหรือตวั สารเพ่ือให้การประเมนิ หรือวิจารณม์ ี ความถูกต้องเทยี่ งธรรม ๒.๔ ประเภทของสารที่ฟังและดู ๑. สารทใ่ี หค้ วามรู้ เช่น ขา่ ว สารคดี รายการเพื่อการศึกษา รายการตอบปัญหาสขุ ภาพ คาบรรยาย คาสอน รายการวิเคราะห์ข่าวหรอื ขอ้ มูลทางเศรษฐกิจ รายการเกมโชวบ์ างรายการ เช่น รายการ MEGA CLEVER ฉลาดสดุ ๆ ๒. สารท่ใี หค้ วามบันเทิง เชน่ ละคร ภาพยนตร์ รายการเกมโชว์ รายการตลก รายการเพลง ๓. สารทใ่ี หค้ วามจรรโลงใจ เชน่ รายการธรรมะ รายการสัมภาษณ์บุคคลสาคญั หรอื ผู้ประสบ ความสาเรจ็ ในชีวติ ๔. สารท่ีโน้มนา้ วใจ เชน่ รายการโฆษณาสนิ คา้ และบริการ รายการรณรงค์หาทุนเพอ่ื การกุศลต่าง ๆ

การรับสารแต่ละประเภท มิไดห้ มายความว่าจะได้รับประโยชนเ์ พียงด้านใดด้านหน่งึ เท่านน้ั เกอื บทุกครง้ั เราจะ ไดป้ ระโยชน์ซึ่งเป็นผลพลอยไดต้ ามมาด้วยเสมอ เช่น การฟังขา่ วคนเก็บกระเปา๋ เงนิ ได้คืนเจา้ ของ นอกจากจะไดร้ ู้ ขอ้ เท็จจรงิ ที่เกดิ ขึ้นแลว้ ยังได้ตัวอย่างการทาความดีของคนในสังคมด้วยจงึ ไดท้ ้ังความรู้และความจรรโลงใจ ๒.๕ กระบวนการฟังและการดู การฟงั และการดู เปน็ กระบวนการรับสารทมี่ นุษยต์ ้องใช้ความสามารถท้ังทางรา่ งกาย สมอง และจิตใจ มี ๖ ขนั้ ดงั น้ี ๑. ขั้นไดย้ ินหรือเหน็ เป็นข้ันต้นของการรับสาร เมื่อมีคล่นื เสยี งมากระทบกบั โสตประสาท หรอื ไดเ้ หน็ ภาพท่ี ปรากฎอยู่ในสายตา ๒. ขั้นพจิ ารณาแยกแยะเสียงไดย้ ินหรือภาพทเ่ี ห็น ว่าเป็นเสยี งอะไรหรอื ภาพอะไร คน สัตว์ สง่ิ ของ หรือ ปรากฎการณ์ตามธรรมชาติ ๓. ขั้นยอมรับ หลังจากพิจารณาแลว้ ผู้ฟงั หรอื ผู้ดูอาจยอมรับหรือปฏเิ สธว่า ขอ้ ความที่ไดย้ นิ หรือ ภาพทีเ่ หน็ ส่อื ความหมายไดห้ รือไม่ ๔. ข้นั ตคี วาม เป็นข้ันทีผ่ ู้ฟังหรอื ผ้ดู ูแปลความหมาย หรอื ตีความหมายของสิ่งทไ่ี ด้ยินหรือได้เห็น เน่ืองจากสารที่ ส่งมาอาจอยใู่ นรูปของการเปรียบเทียบหรือมีความหมายโดยนัย ๕. ข้นั เขา้ ใจ เปน็ ขน้ั ท่ผี ู้ฟังหรือผู้ดูทาความเขา้ ใจกบั ข้อความท่ไี ดย้ ินหรือภาพท่ไี ดเ้ ห็นว่ามี ความหมายอยา่ งไร อะไรสาคัญท่ีสดุ เชื่อถือได้มากนอ้ ยแคไ่ หน ๖. ข้นั นาไปใช้ เมอ่ื พจิ ารณาสารจนเขา้ ใจถ่องแทแ้ ล้ว ผู้ฟังหรอื ผดู้ ูกจ็ ะมีปฏกิ ริ ิยาตอบสนองและนา ความรู้ ความเขา้ ใจท่ไี ดจ้ ากการฟังการดไู ปใช้ใหเ้ ปน็ ประโยชนต์ อ่ ไป ๒.๖ หลกั ในการฟงั และการดู การฟงั และการดูให้ไดร้ บั ประโยชน์ มีหลักดังน้ี ๑. ฟังและดูใหต้ รงจุดประสงค์ จุดประสงค์ท่วี างไวจ้ ะทาให้ผ้รู บั สารรูจ้ ักเลอื กฟังหรือดูในสงิ่ ที่ ตอ้ งการ และทาให้ตั้งใจรับสารเพ่อื ให้ได้ประโยชน์ตามจุดมุ่งหมายทีก่ าหนด ซ่งึ แตล่ ะครั้งอาจไดป้ ระโยชน์ หลายดา้ นพร้อมกนั เช่น การฟงั เพลง ดูละคร หรอื ดูภาพยนตร์ นอกจากจะไดร้ ับ ความเพลดิ เพลินแลว้ เนือ้ หาสาระอาจสอดแทรกความรู้ คติข้อคดิ หรือความจรรโลงใจไวด้ ้วย ๒. ฟังและดดู ้วยความพร้อม คือ ต้องมคี วามพร้อมท้ังทางร่างกาย จติ ใจ และสตปิ ัญญา หากขาด ความพร้อมดา้ นใดดา้ นหน่งึ ไป อาจทาให้ได้รบั ประโยชน์ไมเ่ ต็มท่ี ๓. ฟังและดูอย่างมีสมาธิ คือ มีความตง้ั ใจ จดจ่ออยู่กับเร่ืองท่ฟี ังหรือดู ไม่ฟุ้งซ่านหรอื คิดถึงเรือ่ งอืน่ ๔. ฟังและดดู ้วยความกระตือรือรน้ คอื ต้องมีความสนใจ เห็นประโยชน์หรือคณุ ค่าของเร่อื งที่ฟงั หรือดู ซึ่งจะช่วยใหเ้ กิดสมาธิในการรบั สารได้ดยี ิ่งขึน้ ๕. ฟังและดโู ดยไม่มอี คติ คือ ไม่มีความลาเอียง ซ่งึ ความลาเอยี งอาจเกิดจากความรัก ความโกรธ ความหลง หรือความกลัว ส่ิงเหลา่ น้จี ะทาให้การรบั สารจากการฟังหรือการดูนนั้ ขาดความเทีย่ งธรรมได้ ๖. ฟังและดูโดยใชว้ จิ ารณญาณ คือ นาสิ่งท่ีฟังหรือดมู าประเมินวา่ มปี ระโยชนห์ รือน่าเชือ่ ถือได้ มากน้อยแค่ไหน โดยพิจารณาใหร้ อบคอบ เพื่อให้ไดร้ ับประโยชนจ์ ากการฟังและการดูคุ้มค่ากับเวลา ๒.๗ มารยาทในการฟังและการดู มารยาทเป็นเคร่ืองแสดงถงึ ความเปน็ ผมู้ วี ัฒนธรรมอนั ดีงาม มารยาทที่ควรคานงึ ถึง มีดงั น้ี ๑. ไปถึงสถานทจ่ี ดั งานก่อนเวลาอย่างนอ้ ย 1๕ นาที เพื่อจะได้ไมร่ บกวนผอู้ ื่นขณะฟังหรือดกู าร แสดง และควรนัง่ ตามลาดับก่อนหลัง ถา้ ไม่มีการกาหนดเลขทนี่ ัง่ ๒. แต่งกายใหถ้ ูกกาลเทศะ ถ้างานทจี่ ัดเปน็ ทางการ ควรสวมเสอื้ ผ้าทส่ี ุภาพเรียบร้อย ไม่สวมรองเทา้ ๓. ให้เกยี รติผ้พู ดู หรอื ผู้แสดงเม่อื มีการแนะนาตวั ด้วยการปรบมือ และปรบมอื อีกคร้ังเมื่อการพดู หรือ การแสดงจบ หรือเม่อื เกิดความพงึ พอใจ ไม่ควรแสดงกิริยาทไ่ี ม่สภุ าพ เชน่ โหร่ ้อง เป่าปาก กระทืบเท้า

๔. ตง้ั ใจฟังหรอื ดูการแสดงด้วยอาการสารวม ไมพ่ ูดคุยหรอื วิจารณเ์ สยี งดงั เพราะเปน็ การรบกวนผอู้ ืน่ ๕. ไมร่ บกวนสมาธิผูอ้ ืน่ ด้วยการกระทาใด ๆ เช่น นาอาหารเข้าไปรับประทาน ลุกเดนิ เขา้ ออกบ่อย ๆ ๖. ไมแ่ สดงกิรยิ าท่ีไม่เหมาะสมกบั เพื่อนตา่ งเพศขณะฟงั หรือดกู ารแสดง ๙. ควรปดิ เคร่ืองมือสือ่ สาร หากมธี รุ ะจาเป็นควรใชร้ ะบบฝากข้อความ ๒.๘ หลกั การฟงั และการดจู ากสื่อมวลชน สอื่ มวลชนในปจั จบุ ันมีศกั ยภาพสงู ในการเลือกสื่อท่มี ีประสิทธภิ าพ เพือ่ เผยแพร่ขอ้ มูลขา่ วสารสู่ประชาชน เช่น วิทยุ โทรทศั น์ วีดทิ ศั น์ ซดี ี ภาพยนตร์ และอินเทอรเ์ น็ต เพราะในชีวติ ประจาวนั ประชาชนตอ้ งเกี่ยวข้องกับส่ือตา่ ง ๆ เหล่าน้ี ดังน้ัน ประชาชนจงึ จาเปน็ ต้องพฒั นาศักยภาพการฟังและการดูให้มีประสิทธิภาพมากย่ิงขน้ึ เพ่ือใหส้ อดคล้องกับ การพัฒนาของส่ือ ซง่ึ จะทาให้ไดร้ ับประโยชน์สูงสุดในการรับสาร มหี ลักการดังน้ี ๒.๘.๑ การเลือกสื่อทีจ่ ะฟงั และดู ในปัจจบุ นั มีส่ือมากมายทไ่ี ดร้ ับการคัดเลือกเพอ่ื นามาใชเ้ ผยแพรข่ ้อมลู ขา่ วสารและเรือ่ งราวต่าง ๆ สปู่ ระชาชน ผู้รบั สารจะเลอื กรับส่ือประเกทใดน้นั ข้นึ อยู่กับความสนใจและความเหมาะสมของส่ือ วทิ ยุ เป็นส่ือท่ีใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั มากที่สดุ สามารถเข้าถงึ ทุกชมุ ชนในเวลาอนั รวดเร็วราคาถูก การสอื่ สารดว้ ย วทิ ยุ ส่วนมากเปน็ การสอื่ สารทางเดยี ว ผฟู้ งั ไมม่ โี อกาสโต้ตอบ ยกเวน้ บางรายการที่มีการเปิดโอกาสให้ผฟู้ ังรว่ มเล่นเกม หรือร่วมแสดงความคิดเห็นบางประการ โทรทศั น์ วดี ทิ ัศน์ ซดี ี เป็นส่อื ท่ีได้รับความนยิ มเปน็ อยา่ งมาก แต่อาจมีไม่ท่ัวถึงทุกชุมชน เน่อื งจากราคา คอ่ นข้างแพง และยังเปน็ สอื่ ที่ทาใหผ้ รู้ บั สารได้ฟงั และมองเหน็ ภาพไปพร้อม ๆ กัน ซ่งึ จะช่วย ใหผ้ รู้ ับสารเกิดจินตนาการ ภาพพจน์ และเขา้ ใจเร่ืองราวได้งา่ ยข้ึน ส่อื อินเทอร์เน็ต เปน็ สื่อทก่ี าลังไดร้ ับความนิยมกนั ในปัจจบุ ัน แตก่ ม็ ีใช้เฉพาะกลมุ่ บุคคลท่มี ี ความร้ดู ้านอนิ เทอร์เน็ตเทา่ นั้น ส่อื ชนดิ นี้มคี วามสาคัญย่ิงในหมู่ผู้ใช้ เพราะทาใหผ้ ้ใู ชไ้ ด้รับขอ้ มูลข่าวสาร ได้สะดวกรวดเร็ว ทาใหส้ ามารถรับรู้เร่อื งราวข่าวสารจากแหล่งข่าวทว่ั โลกได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว ๒.๘.๒ การเลอื กเรอ่ื งหรือรายการท่ีจะฟังและดู กลมุ่ ผู้ฟังอาจมีความสนใจเรอ่ื งราวที่จะฟังแตกต่างกัน เชน่ สนใจฟังเพลง ละคร ขา่ วสาร สารคดี ตลอดจนการ วเิ คราะห์เหตกุ ารณบ์ ้านเมืองในแง่มุมตา่ ง ๆ ท้งั น้ีขึน้ อยู่กับความมุง่ หมายในการฟัง การดูในแต่ละครง้ั อยา่ งไรก็ตาม การเลือกเรื่องหรอื รายการท่จี ะฟังในปัจจบุ ัน ควรคานึงถงึ สาระความรเู้ ปน็ สาคัญ และควรเลือก ให้เหมาะกบั วยั รายการโทรทัศน์บางรายการไม่เหมาะกับเด็ก ผ้ปู กครองควรให้คาแนะนาทถี่ ูกต้องแก่เด็กหรอื แนะนา รายการทีเ่ หมาะสมกบั วยั ซ่งึ จะทาใหเ้ ด็กมีพัฒนาการทง้ั ด้านสตปิ ญั ญา อารมณ์ และสงั คมไปในทางท่ีดี ๒.๘.๓ มวี ิจารณญาณในการฟังและดู สอื่ มวลชนต่าง ๆ นาเสนอรายการมากมายหลายรปู แบบ ผู้ฟังจะต้องใชว้ จิ ารณญาณแยกแยะวา่ รายการใดมี ประโยชน์ เหมาะสมกับเพศ วัย แยกแยะองคค์ วามรู้ ข้อเท็จจรงิ ประเด็นความคิดดว้ ยเหตุผล เชน่ การฟังขา่ ว เปน็ เรื่องราวท่ีมกี ารนาเสนออยา่ งเร่งด่วน ดงั น้ัน อาจจะมีเน้ือหาคลาดเคล่อื นจากความเป็นจริงอยู่ บ้าง ควรใชว้ ิจารณญาณพนิ ิจพจิ ารณากอ่ นท่ีจะเช่ือว่าเทจ็ จริงอย่างไร ถ้าเปน็ ไปได้ควรรับสารจากสื่อหลากหลายรปู แบบ เพ่อื นามาเปรียบเทียบกัน ซ่ึงจะทาให้ได้ข้อเทจ็ จริงมากขน้ึ ละครโทรทัศน์ เป็นเร่ืองท่ีได้รับความนยิ มแพรห่ ลายมากในปจั จบุ ัน เพราะละครมีส่งิ จงู ใจหลายประการ เช่น นกั แสดง เนอ้ื เร่ืองสนุกสนาน ตืน่ เต้น แตผ่ ้ฟู งั ไม่ควรลืมว่าละครท่สี ร้างจากนวนยิ ายไม่ใชเ่ รื่องจรงิ ท้งั หมด แต่เปน็ เรื่องที่ สมจรงิ เท่านั้น ดังนนั้ การชมละครโทรทศั น์ ควรชมเพ่อื ความบันเทิง และจบั ประเดน็ สาคญั ทผ่ี ูส้ ร้างต้องการสื่อถึงผูช้ ม อยา่ งรอบคอบ การโฆษณา เป็นการผลติ สอื่ โฆษณาต่าง ๆ มจี ดุ มุ่งหมายเพ่ือโนม้ น้าวให้ผูฟ้ ัง ผู้ดู สั่งซื้อสนิ คา้ เหล่านัน้ ผู้ฟงั จะตอ้ งใช้วจิ ารณญาณแยกแยะว่าสง่ิ ใดควรเชอ่ื หรือควรปฏบิ ตั ิตาม รายการทอลก์ โชว์หรือรายการอื่น ๆ ก็เช่นเดยี วกัน ผฟู้ ังต้องพจิ ารณาถึงสาระทพ่ี ึงจะไดร้ ับเพราะในปัจจุบัน ส่ือมวลชนตา่ ง ๆ มกั มเี ร่ืองของธรุ กิจเข้ามาเก่ยี วข้อง จนทาให้รายการขาดสาระทค่ี วรจะดู

๒.๘.๔ การแสดงปฏิกิริยาตอบสนอง รายการวทิ ยหุ รอื โทรทัศนบ์ างรายการ ผ้ฟู งั และผดู้ สู ามารถมีส่วนร่วมในกระบวนการส่ือสารได้ ดังน้นั หากมี โอกาสได้แสดงความคดิ เห็น ควรแสดงความคิดเหน็ บา้ งตามโอกาส เพื่อจะเปน็ ประโยชน์แก่ผู้ฟังท่านอนื่ ๆ ท่ีไม่มีโอกาส ร่วมแสดงความคิดเห็น แตบ่ างรายการผู้ฟงั ไม่มสี ่วนร่วมในกระบวนการสื่อสาร กลมุ่ ผู้ฟังด้วยกันเองอาจจะวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ แสดงความคดิ เหน็ ร่วมกันได้ เพ่ือขจัดสง่ิ ชวนเช่อื ท่ีอาจเกดิ โทษแก่ผู้ฟัง สอ่ื มวลชนที่เผยแพร่ขา่ วสารกันอยใู่ นปัจจุบนั ส่วนหนงึ่ ได้รับการกล่นั กรองเรื่องราวข่าวสารจากหนว่ ยงานท่ี รบั ผดิ ชอบมาบา้ งแลว้ ก็ตาม แต่กม็ ีบางส่ิงบางอย่างที่ผรู้ บั สารควรใช้วิจารณญาณในการฟังและดูรายการตา่ ง ๆ อย่างมี สตแิ ละรอบคอบ สรุปสาระสาคญั การฟัง หมายถงึ การรับรคู้ วามหมายจากเสียงท่ีได้ยิน โดยเสียงผ่านประสาสัมผสั ทางหู แล้วส่งสญั ญาณไปยัง สมองใหแ้ ปลความหมาย สว่ นการดู เปน็ การรับสารดว้ ยสายตา ทาใหม้ องเห็นภาพ และเกิดความเขา้ ใจ การรบั สารด้วย การฟงั และการดมู ีความสาคัญย่งิ ในชีวิตประจาวนั ผูร้ ับสารจงึ ตอ้ งพัฒนาทักษะการรบั สารดว้ ยวธิ นี ใ้ี ห้สูงข้นึ เพอ่ื ใหเ้ กิด ประโยชนส์ ูงสุด จดุ ประสงคข์ องการฟังและการดูมี 4 ข้อดงั น้ี ๑. เพ่อื ให้เกดิ ความร้แู ละความเข้าใจ ๒. เพือ่ ความเพลิดเพลิน ๓. เพื่อความจรรโลงใจ ๔. เพอ่ื ประเมินผลและวจิ ารณ์ ส่วนประกอบของสาร่ีฟงั และดมู ี 4 ประเภท คือ ๑. สารทีใ่ หค้ วามรู้ ๒. สารทใี่ หค้ วามเพลิดเพลนิ ๓. สารทใี่ ห้ความจรรโลงใจ ๔. สารทโ่ี นม้ น้าวใจ กระบวนการฟงั และการดู มี ๖ ข้ัน ดงั นี้ 1. ขัน้ ไดย้ นิ หรือเหน็ 2. ขนั้ พจิ ารณาแยกแยะ 3. ขนั้ ยอมรับ 4. ขั้นตีความ 5. ขน้ั เขา้ ใจ 6. ขน้ั นาไปใช้ หลักในการฟังและการดเู พ่อื ให้เกิดประโยชน์ มดี ังน้ี 1. ฟังและดใู หต้ รงจดุ ประสงค์ 2. ฟังและดดู ว้ ยความพรอ้ ม 3. ฟังและดูอย่างมสี มาธิ 4. ฟงั และดูดว้ ยความกระตือรือรน้ 5. ฟังและดูโดยไม่มีอคติ 6. ฟงั และดโู ดยใชว้ จิ ารณญาณ หลกั การฟังและการดสู ารจากสื่อมวลชนใหไ้ ด้ประโยชน์ ควรเรม่ิ จากการเลือกส่ือทเ่ี หมาะสม เลือกเรื่องที่ตรงกบั ความต้องการ มีวิจารณญาณในการรบั สาร และแสดงปฏกิ ริ ิยาตอบสนองได้อย่างเหมาะสม สาหรบั ผฟู้ ังและผู้ดูท่ีมวี ัฒนธรรมอันดีงาม ควรคานึงถึงมารยาทดังนี้ 1. ไปถงึ ทจ่ี ัดงานก่อนเวลา 2. แตง่ กายสุภาพ ถกู กาลเทศะ 3. ให้เกยี รติผู้พูดหรอื ผู้แสดงด้วยการปรบมือ 4. ตงั้ ใจฟงั และดูด้วยความสารวม 5. ไมร่ บกวนสมาธผิ ู้อน่ื 6. ไม่แสดงกิริยาท่ีไมเ่ หมาะสมต่อผอู้ น่ื 7. ควรปดิ เครือ่ งมือสอื่ สาร หลกั การฟังและการดสู ารจากส่ือมวลชน มีหลักการดังน้ี ๑. เลือกสอ่ื ทีจ่ ะฟงั และดู ๒. เลือกเรื่องหรือรายการทจี่ ะฟงั และดู ๓. มีวิจารณญาณในการฟังและดู ๔. แสดงปฏิกริ ิยาตอบสนอง ***********************************************************************************************************


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook