Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กฎหมายและจรรยาบรรณในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล

กฎหมายและจรรยาบรรณในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล

Published by Wasana Dechsuriyan, 2021-11-04 06:55:03

Description: นางสาววาสนา เดชสุริยันต์
รหัสนักศึกษา 63031820107
สาขานาฏศิลป์

Search

Read the Text Version

กฎหมายและจรรยา บรรณในการใช้ เทคโนโลยีดิจิทัล

ความหมายของกฎหมายและจริยธรรม พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน “กฎหมาย คือ กฎที่สถาบันหรือผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในรัฐตราขึ้น หรือ ที่เกิดขึ้นจาก จารีตประเพณีอันเป็นที่ยอมรับนับถือเพื่อใช้ในบริหารประเทศ เพื่อบังคับบุคคลให้ปฏิบัติตามหรือ กำหนดระเบียบแห่งความ สัมพันธ์ระหว่างบุคคลหรือระหว่างบุคคลกับรัฐ” พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ได้รับการยกย่องว่าเป็น พระบิดาแห่งกฎหมายไทยทรง อธิบาย “กฎหมาย คือ คำสั่งทั้งหลายของผู้ปกครองว่าการแผ่นดินต่อราษฎรทั้งหลายเมื่อไม่ทำ ตามแล้วตาม ธรรมดาต้องรับโทษ”

กฎหมายทางเทคโนโลยีสารสนเทศ กฎหมายทางเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศไทย คณะรัฐมนตรีอนุมัติเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2541 ให้ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติเป็นผู้ร่าง มีการ กำหนดกฎหมายที่จะร่างทั้งสิ้น 6 ฉบับ คือ 1. กฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ 4. กฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Electronic Transactions Law) (Data Protection Law) 2. กฎหมายลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ 5. กฎหมายการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signatures Law) (Electronic Fund Transfer Law) 3. กฎหมายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ 6. กฎหมายเกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (National Information Infrastructure) (Computer Crime Law)

1. กฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Transactions Law) เพื่อรับรองสถานะทางกฎหมายของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้เสมอด้วยกระดาษ อันเป็นการรองรับนิติ สัมพันธ์ต่าง ๆ ซึ่งแต่ เดิมอาจจะจัดทำขึ้นในรูปแบบของหนังสือให้เท่าเทียมกับนิติสัมพันธ์รูปแบบใหม่ที่จัดทำขึ้น ให้อยู่ในรูปแบบของข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์ รวมตลอดทั้งการลงลายมือชื่อในข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และการรับฟัง พยานหลักฐานที่อยู่ในรูปแบบของ ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ Download this background and use it in the online call with your friends for a complete gaming experience. Kindly delete this note after editing this page.

2. กฎหมายลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signatures Law) เพื่อรับรองการใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ด้วยกระบวนการใด ๆ ทางเทคโนโลยีให้เสมอด้วยการลงลายมือ ชื่อธรรมดา อัน ส่งผลต่อความเชื่อมั่นมากขึ้นในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และกำหนดให้มีการกำกับดูแล การให้บริการ เกี่ยวกับ ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ตลอดจนการให้ บริการอื่น ที่เกี่ยวข้องกับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ Download this background and use it in the online call with your friends for a complete gaming experience. Kindly delete this note after editing this page.

3.กฎหมายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ (National Information Infrastructure) เพื่อก่อให้เกิดการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ อันได้แก่ โครงข่าย โทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศ สารสนเทศทรัพยากรมนุษย์ และโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศสำคัญอื่น ๆ อัน เป็นปัจจัยพื้น ฐานสำคัญในการพัฒนาสังคม และชุมชนโดยอาศัยกลไกของรัฐ ซึ่งรองรับเจตนารมณ์สำคัญประการ หนึ่งของแนว นโยบายพื้นฐานแห่งรัฐตามรัฐธรรมนูญ

4. กฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Law) เพื่อก่อให้เกิดการรับรองสิทธิและให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งอาจถูกประมวลผล เปิดเผยหรือ เผยแพร่ ถึงบุคคลจำนวนมากได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วโดยอาศัยพัฒนาการทางเทคโนโลยี จนอาจก่อให้เกิดการนำ ข้อมูล นั้นไปใช้ในทางมิชอบอันเป็นการละเมิดต่อเจ้าของข้อมูล ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงการรักษาดุลยภาพระหว่างสิทธิ ขั้นพื้น ฐานในความเป็นส่วนตัว เสรีภาพในการติดต่อสื่อสาร และความมั่นคงของรัฐ

5. กฎหมายการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Fund Transfer Law) เพื่อกำหนดกลไกสำคัญทางกฎหมายในการรองรับระบบการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งที่เป็นการโอน เงินระหว่าง สถาบันการเงิน และระบบการชำระเงินรูปแบบใหม่ในรูปของเงินอิเล็กทรอนิกส์ก่อให้เกิดความเชื่อมั่น ต่อระบบการทำ ธุรกรรมทางการเงิน และการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มากยิ่งขึ้น

6. กฎหมายเกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (Computer Crime Law) เพื่อกำหนดมาตรการทางอาญาในการลงโทษผู้กระทำผิดต่อระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ระบบข้อมูล และระบบเครือข่าย ทั้งนี้เพื่อเป็นหลักประกันสิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองการอยู่ร่วมกันของสังคม

พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิด เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ผ่าน การเห็นชอบจากสภานิติ บัญญัติ การลงพระปรมาภิไธย และการประกาศลงในราช กิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2550 และจะ มีผลใช้บังคับตั้งแต่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 เป็นต้นไป ดังนั้นผู้ใช้คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ตโดยทั่วไป ผู้ ให้บริการ ซึ่งรวมไปถึงหน่วยงานต่างๆ ที่เปิดบริการอินเทอร์เน็ตให้แก่ผู้อื่นหรือ กลุ่มพนักงานนักศึกษาในองค์กร ควรทราบ ถึงรายละเอียดของพระราชบัญญัติว่า ด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 โดยประเทศไทยได้ มีการ บังคับใช้เป็ นที่เรียบร้อยแล้ว

ความเป็นมาของพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550

สภาพปั ญหาเกี่ยวกับการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ในปั จจุบัน • ความสำคัญของคอมพิวเตอร์ในชีวิตประจาวัน • ผลของการกระทาผิดกระทบหรือความเสียหายในวงกว้างและรวดเร็ว • ยังไม่มีกฎหมายกำหนดความผิดมาก่อน • การที่กฎหมายอาญามุ่งคุ้มครอง วัตถุที่มีรูปร่างเท่านั้น แต่ในยุคไอที ข้อมูลข่าวสารเป็นวัตถุที่ไม่ มีรูปร่าง ตัวอย่างของการก่ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ ได้แก่ การโจรกรรมเงินในบัญชี ลูกค้าของธนาคาร การ โจรกรรมความลับของบริษัทต่างๆ ที่เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ การปล่อย ไวรัสเข้าไปในคอมพิวเตอร์ • พยานหลักฐานที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์นั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาและถูกกระทำได้ ง่ายแต่ยาก ต่อการสืบหา • ปัญหาเรื่องขอบเขตพื้นที่ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ เพราะผู้กระทำความผิดอาจกระทาจากที่ อื่นๆ ที่ไม่ใช่ ประเทศไทย ซึ่งอยู่นอกเขตอำนาจของศาลไทย

อาชญากรรมคอมพิวเตอร์

ความหมายของอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ 1. การกระทำใด ๆ ก็ตาม ที่เกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์ อันทำให้เหยื่อได้รับความเสียหาย และทำให้ ผู้กระทำได้รับผล ตอบแทน 2. การกระทำผิดกฎหมายใด ๆ ซึ่งจะต้องใช้ความรู้เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ มาประกอบการกระผิด และ ต้องใช้ผู้มีความรู้ทางคอมพิวเตอร์ ในการสืบสวน ติดตาม รวบรวมหลักฐาน เพื่อการดำเนินคดี จับกุม อาชญากร คอมพิวเตอร์จะก่ออาชญากรรมหลายรูปแบบ ซึ่งปัจจุบันทั่วโลกจัดออกเป็น 9 ประเภท 1) การขโมยข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งรวมถึงการขโมยประโยชน์ในการลักลอบใช้บริการ 2) อาชญากรนำเอาระบบการสื่อสารมาปกปิดความผิดของตนเอง 3) การละเมิดสิทธิ์ปลอมแปลงรูปแบบ เลียนแบบระบบซอฟต์แวร์โดยมิชอบ 4) ใช้คอมพิวเตอร์แพร่ภาพ เสียง ลามก อนาจาร และข้อมูลที่ไม่เหมาะสม 5) ใช้คอมพิวเตอร์ฟอกเงิน

6) อันธพาลทางคอมพิวเตอร์ที่เข้าไปก่อกวน ทำลายระบบสาธารณูปโภค เช่น ระบบจ่ายน้ำ จ่ายไฟ ระบบการจราจร 7) หลอกลวงให้ร่วมค้าขายหรือลงทุนปลอม 8) แทรกแซงข้อมูลแล้วนำข้อมูลนั้นมาเป็นประโยชน์ต่อตนโดยมิชอบ เช่น ลักลอบค้นหารหัสบัตรเครดิต ของผู้อื่นมาใช้ ดักข้อมูลทางการค้าเพื่ อเอาผลประโยชน์นั้นเป็ นของตน 9) ใช้คอมพิวเตอร์แอบโอนเงินบัญชีผู้อื่นเข้าบัญชีตัวเอง นอกจากนั้นในส่วนของอินเทอร์เน็ต ยังมีรูปแบบการกระทำผิดอีก มาก เช่นการแอบขโมย โดเมนเนม , แอบใช้ รับ-ส่ง อีเมล์, แอบใช้บัญชีอินเทอร์เน็ต (เวลาการใช้งาน), การส่ง อีเมล์จาน วนมหาศาล ฯลฯ รวมทั้งการ กระทำผิดแบบดั้งเดิมที่ใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต เป็นเครื่องมือ เช่น ภาพลามกอนาจาร การ ค้าประเวณี การพนัน ใส่ร้ายป้ ายสี หมิ่นประมาท ฯลฯ

ความปลอดภัยทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ความปลอดภัยทางเทคโนโลยีสารสนเทศ คือ กระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการ ป้องกันและตรวจสอบการ เข้าใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต ขั้นตอนการป้องกันจะช่วยให้ผู้ ที่ใช้งานสกัดกั้นไม่ให้เทคโนโลยี สารสนเทศต่างๆ ถูกเข้าใช้งานโดยผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิ์ ส่วนการตรวจสอบจะทำให้ทราบได้ว่ามีใครกำลังพยายามที่จะ บุกรุกเข้ามาในระบบ หรือไม่ การบุกรุกสำเร็จหรือไม่ ผู้บุกรุกทำอะไรกับระบบบ้าง รวมทั้งการป้องกันจาก ภัย คุกคาม (Threat) ต่างๆ

จริยธรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ความก้าวหน้ าทางเทคโนโลยีและความนิ ยมใช้อินเทอร์เน็ ตอย่างแพร่ หลาย ทำให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์สามารถ จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลหรือ ข้อมูลส่วนตัวแบบออนไลน์ ได้จำนวนมาก ความไว้วางใจในระบบ สารสนเทศก็มีมากขึ้น ทำให้มีความเสี่ยงในการใช้เทคโนโลยีในทางที่ ผิดมากขึ้นด้วย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook