กฎหมายอาญา ลักษณะ ๗ ความผิดเกี่ยว กับการปลอมและการ แปลงหมวด ๑ ความผิดเกี่ยวกับเงินตรา ปฏิพล เอี่ยนเล่ง 641087025
การปลอมแปลงเงินตรา การปลอมแปลงเงินถือเป็ นการกระทำความผิดทางอาญา ธนบัตรปลอมเป็ นเงินที่ไม่มีค่า การปลอมแปลงเงินอาจก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจให้ กับคนในสังคม ผู้ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด คือ ผู้ประกอบธุรกิจและคนทั่วไปที่ได้รับเงินปลอมโดยรู้เท่าไม่ ถึงการณ์ ทั้งนี้เพราะไม่มีใครจะมาชดใช้เงินที่สูญเสียไปให้แก่ผู้ ที่รับธนบัตรปลอม นอกจากนี้การปลอมแปลงเงินยังอาจทำลาย ความเชื่อมั่นในระบบการชำระเงิน ทำให้ประชาชนทั่วไปรู้สึกไม่ มั่นใจที่จะรับเงินสดในการซื้อขาย มาตรา240 ผู้ใดทำปลอมขึ้นซึ่งเงินตรา ไม่ว่าจะปลอมขึ้นเพื่อให้เป็นเหรียญ กระษาปณ์ ธนบัตรหรือสิ่งอื่นใด ซึ่งรัฐบาลออกใช้หรือให้อำนาจ ให้ออกใช้ หรือทำปลอมขึ้นซึ่งพันธบัตรรัฐบาลหรือใบสำคัญ สำหรับรับดอกเบี้ยพันธบัตรนั้นๆ ผู้นั้นกระทำความผิดฐาน ปลอมเงินตรา ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกตั้งแต่ สิบปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงสี่แสนบาท อ้างอิง https://rulesforuse.org/th,เพราะเหตุใดจึงต่อต้านการปลอมแปลงเงินตรา.สืบค้น.1/08/65
มาตรา241 ผู้ใดแปลงเงินตราไม่ว่าจะเป็ นเหรียญกษาปณ์ธนบัตรหรือ สิ่งอื่นใดซึ่งรัฐบาลออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้หรือ แปลงพันธบัตรรัฐบาลหรือใบสำคัญสำหรับดอกเบี้ย พันธบัตรนั้นนั้นให้ผิดไปจากเดิมเพื่อให้ผู้อื่นเชื่อว่ามี มูลค่าสูงกว่าจริงผู้นั้นกระทำความผิดฐานแปลงเงินตรา ต้องระวังโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึง 20 ปีและปรับตั้งแต่ หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท อธิบายเพิ่มเติม การแปลงเงินตราใดๆ หรือ จะเป็นพันธบัตร รัฐบาล ใบสำคัญในการรับดอกเบี้ยต่างๆที่รัฐให้ อำนาจออกใช้ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่ามันมูลค่าสูงที่ผิด ไปจากเดิม เช่น อาจดัดแปลงเหรียญกษาปณ์ จาก 1 บาทเป็น 2 บาท ก็ล้วนแล้วแต่มีความผิด
มาตรา 242 ผู้ใดกระทำโดยทุจริตให้เหรียญกษาปณ์ซึ่ง รัฐบาลออกใช้มีน้ำหนักลดลงต้องระวังโทษจำคุก ไม่เกินเจ็ดปี และปรับไม่เกินหนึ่ งแสนสี่หมื่ นบาท ผู้ใดนำเข้าในราชอาณาจักรนำออกใช้หรือมีไว้ เพื่อนำออกใช้ซึ่งเหรียญกษาปณ์ที่มีผู้กระทำโดย ทุจริตให้น้ำหนักลดลงตามความในวรรคแรกต้อง ระวังโทษเช่นเดียวกัน สรุปคือ ไม่ว่าจะ นำเข้า นำออก มีใช้ มีเพื่อนำออกใช้ ล้วนแล้วแต่มีความผิดเช่นเดียวกัน
มาตรา 243 ผู้ใดนำเข้าในราชอาณาจักรซึ่งสิ่งใดๆอัน เป็นของปลอมตามมาตรา 240 หรือของ แปลงตามมาตรา 241 ต้องระวังโทษดัง ที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้นๆ อธิบายเพิ่มเติม การนำเข้าของปลอม-แปลงตามที่ระบุไว้ใน มาตรา 240 241 ต้องได้รับโทษตามที่บัญญัติไว้ มาตรานั้นๆ เช่น นายเปาลักลอบนำเข้าเงิน ปลอมจากต่างประเทศ นายเปาต้องรับโทษตาม มาตรา 240 ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือ จำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สอง แสนบาทถึงสี่แสนบาท
มาตรา 244 ผู้ใดมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งสิ่งใดอันตนได้มา โดยรู้ว่าเป็นของปลอมตามมาตรา 240 หรือ ของแปลงตามมาตรา 241 ต้องระวังโทษจำ คุกตั้งแต่หนึ่งปีถึง 15 ปีและปรับตั้งแต่สอง หมื่นบาทถึงสามแสนบาท อธิบายเพิ่มเติม รู้ว่าเป็ นของปลอมและใช้ เช่น ไทเกอร์มีธนบัตรปลอมไว้เพื่อจับจ่าย ซื้อของ
มาตรา 245 ผู้ใดได้มาซึ่งสิ่งใดๆโดยไม่รู้ว่าเป็ นของปลอม ตามมาตรา 240 หรือของแปลงตามมาตรา 241 ถ้าต่อมารู้ว่าเป็ นของปลอมหรือแปลงเช่นว่านั้น ยังขืนนำออกใช้ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ อธิบายเพิ่มเติม ได้ข องปลอมมา แต่ไม่ทราบ ภายหลังทราบแต่ยังใช้อยู่ เช่น หลงได้รับเงินทอนจากร้านสะดวกซื้อ เมื่ อตรวจดูพบว่าเป็ นธนบัตรปลอม หลงไม่แจ้งเจ้าหน้ าที่ตำรวจและยังนำธนบัตร ใบนั้นไปจับจ่ายซื้อของ
รู้หรือไม่ ม.244 และ ม.245 เเตกต่าง กันอย่างไร มาตรา 244 มาตรา 245 •รู้ว่าเป็ นของปลอมและใช้ •ได้ของปลอมมาแต่ไม่ทราบ ภายหลังทราบแต่ยังใช้ต่อ •โทษจำคุกตั้งแต่1ปีถึง15 ปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นถึงสาม •โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี เเสนบาท หรือปรับไม่เกินสองแสน บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 246 ผู้ใดทำเครื่องมือหรือวัตถุสำหรับปลอมหรือ แปลงเงินตราไม่ว่าจะเป็ นเหรียญกษาปณ์ ธนบัตรหรือสิ่งใดๆซึ่งรัฐบาลออกใช้หรือให้ อำนาจให้ออกใช้หรือสำหรับปลอมหรือแปลง พันธบัตรรัฐบาลหรือใบสำคัญสำหรับดอกเบี้ย พันธบัตรนั้นนั้นหรือมีเครื่องมือหรือวัตถุเช่น ว่านั้นเพื่อใช้ในการปลอมหรือแปลงต้องระวัง โทษจำคุกตั้งแต่ห้าปี ถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่ หนึ่ งแสนบาทถึงสามแสนบาท สรุปคือ ผู้ใดทำเครื่องมือสำหรับใช้ปลอมแปลง ต่างๆ เช่น ธนบัตร เหรียญกษาปณ์ ฯลฯ นั้นมีความผิด
ตัวอย่างเครื่องมือที่ใช้ในการปลอมแปลงธนบัตร แหล่งผลิตธนบัตรดังกล่าวสามารถผลิต ธนบัตรปลอมได้ถึงวันละ100ฉบับและใช้ วิธีการตระเวนหยอดตู้เติมเงินอัตโนมัติ เผื่ อแลกเปลี่ยนเป็ นเงินจริง อ้างอิงรูปภาพจากเรื่องเล่าเช้านี้ประจำวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564
มาตรา 247 ถ้าการกระทำดังกล่าวในหมวดนี้เป็ นการ กระทำเกี่ยวกับเงินตราไม่ว่าจะเป็ นเหรียญ กษาปณ์ธนบัตรหรือสิ่งอื่นใดซึ่งรัฐบาลต่าง ประเทศออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้หรือ เกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลต่างประเทศหรือใบ สำคัญสำหรับรับดอกเบี้ยพันธบัตรนั้นผู้ กระทำต้องระวังโทษกึ่ งหนึ่ งของโทษที่ บัญญัติไว้ในมาตรานั้นนั้น สรุปคือ ในกรณีเป็นเงินตราต่างประเทศ เหรียญ พันธบัตรรัฐบาล รับโทษกึ่งหนึ่งตามมา ตรานั้นๆ
มาตรา 248 ถ้าผู้กระทำความผิดตามมาตรา 240 มาตรา 241 หรือมาตรา 247 ได้กระทำความผิดตามมาตราอื่นที่ บัญญัติไว้ในหมวดนี้อันเกี่ยวกับสิ่งที่ ตนปลอมหรือแปลงนั้นด้วยให้ลงโทษผู้ นั้นตระตามมาตรา 240 มาตรา 241 หรือมาตรา 247 แต่กระทงเดียว สรุปคือ ถ้าทำผิด มาตรา 240 ,241 ,247 แล้ว ทำผิดมาตราอื่นอีก ให้ลงโทษผู้นั้นตาม มาตรา 240 241 247 กระทงเดียว
มาตรา 249 ผู้ใดทำบัตรหรือโลหะธาตุอย่างใด/ให้มีลักษณะ และขนาดคล้ายคลึงกับเงินตราไม่ว่าจะเป็ น เหรียญกษาปณ์ธนบัตรหรือสิ่งใดใดซึ่งรัฐบาลออก ใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้หรือพันธบัตรรัฐบาล หรือใบสำคัญสำหรับรับดอกเบี้ยพันธบัตรนั้นนั้น หรือจำหน่ายบัตรหรือโลหะธาตุเช่นว่านั้นต้อง ระวังโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกิน สอบ หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับถ้าการจำหน่ายบัตร หรือโลหะธาตุดังกล่าวในวรรคแรกเป็ นการ จำหน่ายโดยการนำออกใช้ดังเช่นสิ่งใดใดที่กล่าว ในวรรคแรกผู้กระทำต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน สามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่ นบาทหรือทั้งจำทั้ง ปรับ อธิบายเพิ่มเติม ความผิดตามมาตรา249 ผู้กระทำต้อง ไม่มีเจตนาทำปลอมให้เป็ นเงินตราเพื่ อ ออกลวงใช้เป็ นเงินตราที่แท้จริง
ข้อแตกต่างระหว่างมาตรา 240 กับ มาตรา 249 มาตรา 240 มาตรา 249 ตั้งใจทำให้เหมือนจริง มีเรื่องกระทำให้มี เช่น มีลวดลาย สี ขนาด ลักษณะและ ลักษณะเดียวกัน พอที่จะ ลวงตาให้เห็นว่าเงินจริง คล้ายคลึงกับเงิน ตราเท่านั้น โดยผู้ และมีการนำออกใช้ กระทำต้องไม่มี เจตนาทำปลอมให้ เป็ นเงินตราเพื่ อ หลอกลวงและออก ใช้
การป้ องกันธนบัตรปลอม การป้ องกันธนบัตรปลอมที่ให้ผลดีที่สุด ก็คือ การกระตุ้นให้ประชาชนสังเกต และให้ความรู้ในการสังเกตธนบัตรซึ่ง นอกจากจะป้ องกันมิให้ตกเป็นเหยื่อของ ธนบัตรปลอมแล้ว ยังช่วยยับยั้งการแพร่ กระจายของธนบัตรปลอมอย่างมี ประสิทธิภาพอีกด้วย
ได้รับธนบัตรปลอมมาแล้ว…ทำอย่างไร ไม่นำออกใช้อีก สอบถามแหลงที่มา จดจำลักษณะของผู้นำมาใช้ แจ้งเจ้าหน้ าที่ตำรวจ แจ้งสถานีตำรวจท้องที่ หรือ ธนาคารแห่ง ประเทศไทย โทร 023567987 หรือ 191 อ้างอิง counterfeit.bit.or.th,สืบค้น6/08/65
ตัวอย่างฎีกา ฎีกาที่ 332/2503 ย่อสั้น กรณีตาม มาตรา 249 แห่งประมวลกฎหมายอาญา เป็นเรื่องที่ กระทำบัตรหรือโลหะธาตุอย่างใดให้มีลักษณะและขนาดคล้ายคลึง กับเงินตราขึ้นเท่านั้น โดยผู้กระทำไม่เจตนาทำปลอมให้เป็นเงิน ตราเพื่ อนำออกลวงใช้เป็ นเงินตราที่แท้จริง ฉะนั้น เมื่อจำเลยเจตนาทำปลอมให้เป็นเงินตรา เพื่อนำออกลวง ใช้เป็นเงินตราที่แท้จริง กรณีจึงปรับด้วย มาตรา 249 ไม่ได้ต้อง ปรับด้วย มาตรา 240
คดีนี้ โจทก์ฟ้ องว่า จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันปลอมเงินตรา มีเงินตรา ปลอม และมีเครื่องมือสำหรับปลอมเงินตรา ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟั งข้อเท็จจริงว่าเหรียญกระษาปณ์ของกลางเป็ น เหรียญปลอมขึ้นเพื่อใช้อย่างเงินตราของรัฐบาล ของกลางอย่างอื่นก็เป็น เครื่องมือที่ใช้ในการปลอมเหรียญกระษาปณ์นั้น โดยจำเลยทั้งสองร่วม กันทำเหรียญกระษาปณ์ปลอม และมีเหรียญกระษาปณ์ปลอมไว้เพื่อนำ ออกใช้ กับมีเครื่องมือปลอมเหรียญกระษาปณ์จริงดังฟ้ อง พิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๔๐, ๒๔๔, ๒๔๖, ๘๓ ให้รวมกระทงลงโทษจำคุกจำเลยคนละ ๑๐ ปี คำรับของจำเลย ในชั้นสอบสวนมีประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษลง ๑ ใน ๓ มาตรา ๗๘ คงให้จำคุกจำเลยคนละ ๖ ปี ๘ เดือน และให้ริบของกลาง จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับศาลชั้นต้น แต่เห็นว่าศาลชั้นต้น ให้รวมกระทงโทษจำเลยเช่นนั้น ขัดต่อมาตรา ๒๔๘ จึงพิพากษาแก้คำ พิพากษาศาลชั้นแต่เพียงให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๔๐ บทเดียว นอกจากที่แก้ คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยทั้งสองฎีกา แต่แล้วจำเลยที่ ๑ ยื่นคำร้องขอถอน ศาลฎีกาสั่งอนุญาต ศาลฎีกาเห็นว่า ที่จำเลยฎีกาว่าเหรียญกระษาปณ์ของกลางไม่เหมือนกับ ของรัฐบาล โดยแม่พิมพ์ของกลางมีลวดลายไม่เหมือนกันของรัฐบาล เพียงแต่คล้ายกันเท่านั้น จึงควรต้องฟังว่า เหรียญกระษาปณ์ของกลาง นำออกใช้ให้เป็นอย่างเงินตราแท้จริงไม่ได้ และไม่เป็นการปลอมเงินตรา ควรปรับเป็นความผิดได้ตามมาตรา ๒๔๙แห่งประมวลกฎหมายอาญา เป็ นเรื่ องที่กระทำบัตรหรือโลหะธาตุอย่างใดให้มีลักษณะและขนาด คล้ายคลึงกับเงินตราขึ้นเท่านั้น โดยผู้กระทำไม่เจตนาทำปลอมให้เป็น เงินตราเพื่ อนำออกลวงใช้เป็ นเงินตราที่แท้จริง แต่ในคดีนี้ต้องฟังว่า ผู้กระทำคือจำเลย เจตนาทำปลอมให้เป็นเงินตรา เพื่อนำออกลวงใช้เป็นเงินตราที่แท้จริง การที่นายบ่ายเจ้าหน้ าที่กอง กระษาปณ์ กรมธนารักษ์ พยานโจทก์เบิกความตอนหนึ่งว่า แม่พิมพ์ของ กลางมีลักษณะและลวดลายไม่เหมือนของทางราชการ เป็นเพียงคล้าย ๆ กันเท่านั้น ก็ไม่หมายความว่าแม่พิมพ์ของกลางใช้ปลอมเงินตราไม่ได้ โดยปรากฏตามคำเบิกความของเจ้าหน้ าที่ผู้นี้ต่อไปว่า เพียงแต่เอาตะไบ ตบแต่งส่วนที่ไม่เรียบร้อยของเหรียญที่เทออกจากแม่พิมพ์เสียบ้าง เท่านั้น ก็อาจนำออกจำหน่ายใช้ได้ทีเดียว ดังนี้กรณีจึงปรับด้วย มาตรา ๒๔๙ ไม่ได้ต้องปรับด้วย มาตรา ๒๔๐ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ลงโทษ จำเลยมานั้นขอยกด้วยรูปเรื่องและบทกฎหมายแล้ว จึงพิพากษายืน ให้ยกฎีกาจำเลยที่ ๒
ตัวอย่างฎีกา ฎีกาที่ 10941/2555 ย่อสั้น การทำปลอมขึ้นซึ่งเงินตรา ไม่ว่าจะเป็นการปลอมขึ้นเพื่อให้เป็น เหรียญกระษาปณ์หรือธนบัตรหรือสิ่งอื่นใดซึ่งรัฐบาลออกใช้หรือให้ อำนาจให้ออกใช้ หากสิ่งที่ทำขึ้นมีลักษณะอย่างเดียวกับเงินตราที่ รัฐบาลออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้พอที่จะลวงตาให้เห็นว่าเป็ นเงิน ตรา ก็ถือได้ว่าเป็นการทำปลอมขึ้น โดยไม่จำต้องถึงกับต้องพิจารณา ดูหรือจับต้องเสียก่อนจึงจะรู้ว่าเป็นของปลอม สำหรับธนบัตรปลอม ของกลางเห็นได้ชัดว่าทำขึ้น โดยมีรูปร่างลักษณะ ขนาด สีสัน ลวดลายและตัวอักษรบนธนบัตรเหมือนกับธนบัตรฉบับละ 1000 บาท ที่แท้จริงทุกประการ แม้สีสัน ความคมชัดและกระดาษแตกต่าง จากของจริงไปบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะในการทำปลอมตาม ปกติย่อมต้องมีความแตกต่างจากของจริงไม่มากก็น้ อย จะให้ เหมือนของจริงไปเสียทุกอย่างย่อมไม่ได้และวัสดุที่ใช้ย่อมต้องด้อย คุณภาพกว่าของจริง หากแต่รูปลักษณะภายนอกก็เพียงพอต่อการ ลวงตาให้เห็นว่าเป็นเงินตราแล้ว จึงเป็นการทำปลอมขึ้นซึ่งเงินตรา เพื่อให้เป็นธนบัตรซึ่งรัฐบาลไทยออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้ หา ใช่มีเจตนาเพียงทำบัตรให้มีลักษณะและขนาดคล้ายคลึงกับเงินตรา อันเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 249 วรรคแรก เท่านั้นไม่ จำเลย จึงมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 240
ย่อยาว โจทก์ฟ้ องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 240 จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 240 จำคุก 10 ปี ทางนำสืบของจำเลย เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 78 ลดโทษให้หนึ่งในสามคงจำคุก 6 ปี 8 เดือนริบธนบัตรของกลาง จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 249 วรรคแรก จำคุก 1 ปี และปรับ 1,800 บาท ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่ การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 8 เดือน และปรับ 1,200 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 หากไม่ชำระค่าปรับให้ จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 นอกจากที่ แก้ให้เป็ นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า ในวันเวลา และสถานที่เกิดเหตุตามฟ้ อง ดาบตำรวจธีรยุทธ จับกุมจำเลยและยึดได้ ธนบัตรปลอมชนิด 1000 บาท ซึ่งรัฐบาลไทยออกใช้ จำนวน 18 ฉบับ ที่ จำเลยถ่ายสำเนามาจากธนบัตรที่แท้จริงฉบับเดียว ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องสแกนและเครื่องพริ้นเตอร์ กระดาษที่ใช้เป็นชนิดกระดาษ A4 เป็น ของกลาง คงมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยกระทำความ ผิดฐานทำปลอมขึ้นซึ่งเงินตราเพื่ อให้เป็ นธนบัตรซึ่งรัฐบาลออกใช้หรือให้ อำนาจให้ออกใช้ตามฟ้ องหรือไม่ เห็นว่า การทำปลอมขึ้นซึ่งเงินตรา ไม่ว่าจะ เป็นการปลอมขึ้นเพื่อให้เป็นเหรียญกระษาปณ์หรือธนบัตรหรือสิ่งอื่นใด ซึ่ง รัฐบาลออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้ หากสิ่งที่ทำขึ้นมีลักษณะอย่างเดียวกับ เงินตราที่รัฐบาลออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้พอที่จะลวงตาให้เห็นว่าเป็ น เงินตรา ก็ถือได้ว่าเป็นการทำปลอมขึ้นโดยไม่จำต้องทำปลอมถึงกับต้อง พิจารณาดูหรือจับต้องเสียก่อนจึงจะรู้ว่าเป็นของปลอม สำหรับธนบัตรปลอม ของกลางเห็นได้ชัดว่าทำขึ้นโดยมีรูปร่างลักษณะ ขนาด สีสัน ลวดลายและ ตัวอักษรบนธนบัตรเหมือนกับธนบัตรฉบับละ 1000 บาท ที่แท้จริงทุก ประการ แม้สีสัน ความคมชัดและกระดาษแตกต่างจากของจริงไปบ้างก็เป็น เรื่องธรรมดา เพราะในการทำปลอมตามปกติย่อมต้องมีความแตกต่างจาก ของจริงไม่มากก็น้ อยจะให้เหมือนของจริงไปเสียทุกอย่างย่อมไม่ได้และ วัสดุที่ใช้ย่อมต้องด้อยคุณภาพกว่าของจริง หากแต่รูปลักษณะภายนอกก็ เพียงพอต่อการลวงตาให้เห็นว่าเป็นเงินตราแล้ว จึงเป็นทำปลอมขึ้นซึ่งเงิน ตราเพื่อให้เป็นธนบัตรซึ่งรัฐบาลไทยออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้ ในการ ตรวจค้นและจับกุมจำเลยแม้เป็นเรื่องบังเอิญ โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยมี พฤติการณ์ทำปลอมขึ้นซึ่งเงินตราเพื่อนำออกใช้หรือลวงบุคคลใดให้หลงเชื่อ ว่าธนบัตรของกลางเป็นธนบัตรที่แท้จริงมาก่อน ก็มิใช่เป็นเหตุผลว่าจำเลย กระทำไปโดยไม่รู้สำนึกในสิ่งที่กระทำว่าเป็ นการทำเงินตราปลอมซึ่งเป็ น เรื่องที่ผิดกฎหมาย ที่จำเลยนำสืบว่าเป็นการทำขึ้นมาเพื่อใช้เป็นตัวอย่างการ ศึกษา คงเป็นเพียงการกล่าวอ้างลอย ๆ ไม่มีพยานหลักฐานใดสนับสนุนและ ไม่มีเหตุผลเลยที่ต้องศึกษาด้วยการกระทำผิดกฎหมายและยังนำติดตัวออก ไปนอกห้องเรียนเช่นนี้ พยานหลักฐานของโจทก์ที่นำสืบมามีน้ำหนักมั่นคง รับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่า จำเลยมีเจตนาทำปลอมขึ้นซึ่งเงินตราเพื่อ ให้เป็นธนบัตรซึ่งรัฐบาลไทยออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้ หาใช่มีเจตนา เพียงทำบัตรให้มีลักษณะและขนาดคล้ายคลึงกับเงินตราอันเป็ นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 249 วรรคแรก เท่านั้นไม่ จำเลยจึงมี ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 240 ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
สรุปเนื้อหา 1. ผู้ใดทำปลอมขึ้นซึ่งเงินตรา ไม่ว่าจะปลอมขึ้น เพื่อให้เป็นเหรียญกระษาปณ์ ธนบัตรหรือสิ่งอื่นใด ซึ่งรัฐบาลออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้ หรือทำปลอมขึ้นซึ่งพันธบัตรรัฐบาลหรือใบสำคัญ สำหรับรับดอกเบี้ยพันธบัตรนั้นๆ ผู้นั้นกระทำความ ผิดฐานปลอมเงินตราต้องระวางโทษ 2.จะนำเข้า นำออก มีใช้ มีเพื่อนำออกซึ่งของปลอม ล้วนมีความผิด 3.ถ้าทราบว่าได้ของปลอมแล้วยังฝืนใช้ ก็มีความผิด 4.ทำเครื่องมือไว้เพื่อปลอมแปลง ก็ผิดเช่นกัน 5.ทำเหมือนจริงกับทำคล้ายคลึงโทษต่างกัน 6.หากทราบว่าได้รับของปลอมต้องแจ้งเจ้าหน้ าที่ ตำรวจทันที
เกร็ดความรู้ รู้จัก \"ธนบัตรพอลิเมอร์\" แบงก์ใหม่ ราคา 20 บาท เปลี่ยน แล้วดียังไง เปิดข้อควรระวังการใช้งาน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นำออกใช้ธนบัตรชนิดราคา 20 บาท แบบใหม่ เรียก ว่า \"ธนบัตรพอลิเมอร์\" ในวันที่ 24 มกราคม 2565 ซึ่งเปลี่ยนจากการเป็นธนบัตร กระดาษ มาใช้วัสดุ \"พอลิเมอร์\" พลาสติกแบบพิเศษ ไม่ดูดซับความชื้นและสิ่งสกปรก มีความทนทานในการใช้งานมากกว่า \"ธนบัตรกระดาษ\" ช่วยลดปริมาณการผลิตธนบัตรใหม่เพื่อทดแทนธนบัตรที่ชำรุด ลดการใช้ทรัพยากร และลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะธนบัตรชนิดราคา 20 บาท ที่ถูกใช้จ่ายมาก ที่สุด มีการหมุนเวียนบ่อย ทำให้สภาพเก่ากว่าธนบัตรชนิดราคาอื่น วิธีใช้ \"ธนบัตรพอลิเมอร์\" ที่ถูกต้อง ธนาคารกลางมาเลเซีย หนึ่งในประเทศที่ใช้ ธนบัตรพอลิเมอร์เป็ นธนบัตรหมุนเวียนในระบบ เศรษฐกิจ ได้เสนอแนะการใช้งานธนบัตรพอลิเม อร์อย่างถูกวิธีคือ ไม่ควรพับกรีด ขยำ หรือใช้ลวด เย็บธนบัตรพอลิเมอร์ เพื่อให้มีอายุการใช้งานที่ ยาวนานเต็มประสิทธิภาพ วิธีตรวจสอบธนบัตร สัมผัส พลาสติกเนื้อเหนียว อักษรนูน อักษรเบรลล์ในสัญลักษณ์แจ้งชนิดราคน ยกส่อง มีรายละเอียดเพิ่มเติมศึกษาต่อในเว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย พลิกเอียง ตัวเลขแฝง 20 ซ่อนในลายประดิษฐ์สีเขียวเข้มด้านล่างธนบัตร https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/983686 สืบค้น12/08/65
อ้างอิง ประมวลกฎหมายอาญา ฉบับสมบูรณ์ แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๕๖๔ พรชัย สุนทรพันธุ์ 84-86 counterfeit.bit.or.th,สืบค้น6/08/65 https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/983686 https://rulesforuse.org/th,เพราะเหตุใดจึงต่อต้านการปลอมแปลงเงินตรา.สืบค้น.1/08/65 ตัวอย่างฎีกาจากแอพพลิเคชัน ค้นหาฎีกา อีซี่ฎีกา นายปฏิพล เอี่ยนเล่ง 641087025
Search
Read the Text Version
- 1 - 24
Pages: