เอกสารประกอบการสอน รายวิชาการพฒั นาหลกั สูตร : Curriculum Development รงุ่ ทิวา จันทนว์ ัฒนวงษ์ คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั อุดรธานี 2557
เอกสารประกอบการสอน รายวิชาการพฒั นาหลักสูตร : Curriculum Development รุ่งทิวา จันทนว์ ฒั นวงษ์ ศศ.ด. (หลกั สตู รและการสอน) คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อุดรธานี 2557
คำนำ เอกสารประกอบการสอนวิชาการพัฒนาหลักสูตร (Curriculum Development) รหัสวิชา 1023203 ซ่ึงอยู่ในหมวดวิชาชีพครู สาหรับนักศึกษาครุศาสตรบัณฑิต หลักสูตร 5 ปี ใช้ประกอบการสอน โดยผู้เขียนได้ศึกษารวบรวมเนื้อหาสาระจากเอกสาร ตาราวิชาการ ท่ีนักการศึกษา นักพัฒนาหลักสูตรทั้งในและต่างประเทศ ร่วมถึงงานวิจัยและประสบการณ์บางส่วน ของผู้เขียน ท้ังน้ีเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจและได้รับประสบการณ์ สามารถนาไปใช้ใน การพฒั นาหลกั สตู รได้อย่างสรา้ งสรรค์ เอกสารประกอบการสอนเล่มน้ีประกอบด้วย 11 บท พัฒนาตามกรอบคาอธิบายรายวิชา ซ่ึงประกอบด้วยความรู้พื้นฐานการพัฒนาหลักสูตร ปัจจัยพ้ืนฐานท่ีเก่ียวข้องกับหลักสูตร การออกแบบหลกั สตู ร รูปแบบการพฒั นาหลักสตู ร กระบวนการพัฒนาหลักสูตร การนาหลักสตู รไป ใช้ การประเมินหลักสูตร การพัฒนาหลักสูตรท้องถ่ินและหลักสูตรอิงมาตรฐาน หลักสูตรแกนกลาง การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา และ แนวโน้มหลักสูตร ในศตวรรษที่ 21 ผู้เขียนหวังว่าเอกสารประกอบการสอนเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์สาหรับนักศึกษาและผู้ที่ สนใจอ่าน นาไปใช้เป็นเอกสารประกอบการศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาหลักสูตร หากมีข้อเสนอแนะ ประการใดท่ีจะใช้เป็นประโยชน์ในการปรับปรุงเอกสารเล่มน้ี ผู้เขียนขอขอบพระคุณไว้ ณ โอกาสนี้ หากท่านกรณุ าแจง้ ใหผ้ ้เู ขียนทราบ รุง่ ทวิ า จนั ทนว์ ฒั นวงษ์ ธันวาคม 2557
สารบัญ หนา้ คำนำ I สำรบญั III สำรบัญตำรำง X สำรบัญภำพ XI แผนบริหำรกำรสอนประจำวิชำ XIII แผนบรหิ ำรกำรสอนประจำบทที่ 1 บทที่ 1 ควำมรพู้ ้นื ฐำนกำรพัฒนำหลกั สตู ร 1 5 ควำมหมำยของหลักสตู ร 5 ควำมสำคญั ของหลักสูตร 9 องคป์ ระกอบของหลักสูตร 13 ระดับของหลักสูตร 18 ลกั ษณะของหลักสูตรทด่ี ี 22 บทสรุป 23 คำถำมทบทวน 25 เอกสำรอ้ำงองิ 26 แผนบรหิ ำรกำรสอนประจำบทที่ 2 บทท่ี 2 ปัจจยั พ้ืนฐำนในกำรพฒั นำหลักสตู ร 29 ปจั จยั พ้นื ฐำนที่เก่ยี วข้องกับกำรพัฒนำหลักสตู ร 33 พืน้ ฐำนทำงดำ้ นปรัชญำกำรศึกษำ 33 พ้ืนฐำนทำงดำ้ นจิตวทิ ยำ 35 พน้ื ฐำนทำงด้ำนสงั คมและวัฒนธรรม 43 พ้นื ฐำนทำงดำ้ นกำรเมืองและกำรปกครอง 59 พ้นื ฐำนทำงด้ำนเศรษฐกจิ 62 พื้นฐำนทำงดำ้ นวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี 63 บทสรุป 64 คำถำมทบทวน 65 เอกสำรอำ้ งอิง 67 68
IV สารบญั (ต่อ) หนา้ แผนบรหิ ำรกำรสอนประจำบทที่ 3 71 บทท่ี 3 กำรออกแบบหลกั สตู ร 75 75 ควำมหมำยกำรออกแบบหลกั สตู ร 76 ประโยชนข์ องกำรออกแบบหลักสูตร 77 หลักกำรของกำรออกแบบหลักสูตรทีด่ ี 78 แนวคิดในกำรออกแบบหลักสูตร 79 ประเภทของหลกั สตู ร 83 83 1. หลกั สตู รรำยวชิ ำ (Subject Curriculum) 84 2. หลกั สตู รสมั พนั ธ์วชิ ำ (Correlated Curriculum) 84 3. หลักสูตรกวำ้ ง (Broad-Field Curriculum) 85 4. หลักสูตรแกน (Core Curriculum) 85 5. หลกั สตู รประสบกำรณ์ (Experience Curriculum) 86 6. หลกั สูตรเกณฑ์ควำมสำมำรถ (Competencies-Based Curriculum) 87 7. หลักสตู รบูรณำกำร (Integrated Curriculum) 8. หลกั สตู รเพื่อชวี ติ และสังคม (Social Process and Life Function 88 90 Curriculum) 91 บทสรุป คำถำมทบทวน เอกสำรอำ้ งอิง แผนบรหิ ำรกำรสอนประจำบทที่ 4 93 บทท่ี 4 รปู แบบกำรพฒั นำหลกั สูตร 97 97 ควำมหมำยของกำรพฒั นำหลักสูตร 98 หลกั กำรพัฒนำหลักสูตร 99 รูปแบบของกำรพฒั นำหลักสูตรของนักกำรศกึ ษำตำ่ งประเทศ 99 102 1. รปู แบบกำรพฒั นำหลักสตู รของไทเลอร์ (Tyler) 104 2. รปู แบบกำรพัฒนำหลกั สตู รของทำบำ (Taba) 106 3. รปู แบบกำรพัฒนำหลักสตู รของโอลิวำ (Oliva) 4. รปู แบบกำรพัฒนำหลักสตู รของเชย์เลอร์ อเล็กซำนเดอรแ์ ละเลวสิ (Saylor Alexander and Lewis)
V หนา้ สารบญั (ตอ่ ) 108 108 รูปแบบกำรพัฒนำหลักสตู รของนักกำรศึกษำไทย 111 1. รปู แบบกำรพฒั นำหลกั สตู รของ สงดั อทุ รำนันท์ 114 2. รปู แบบกำรพฒั นำหลกั สูตรของ วชิ ยั วงษใ์ หญ่ 115 3. รูปแบบกำรพัฒนำหลกั สตู รของ ธำรง บวั ศรี 119 4. รูปแบบกำรพฒั นำหลกั สูตรของไพฑูรย์ สนิ ลำรัตน์ 120 121 บทสรุป คำถำมทบทวน 123 เอกสำรอำ้ งองิ 127 แผนบริหำรกำรสอนประจำบทท่ี 5 128 บทท่ี 5 กำรสร้ำงหลกั สตู ร 131 หลักกำรสร้ำงหลักสตู ร 132 กำรสรำ้ งหลกั สูตร 135 กำรวิเครำะห์ข้อมลู พน้ื ฐำนที่จำเป็นในกำรพฒั นำหลกั สูตร 145 กำรกำหนดจดุ มุง่ หมำยของหลกั สูตร 154 กำรเลอื กเนือ้ หำสำระและประสบกำรณ์กำรเรียนรู้ 157 กำรจัดเนือ้ หำสำระและประสบกำรณก์ ำรเรยี นรู้ 165 กำรกำหนดแนวทำงกำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ 167 บุคคลท่ีเกยี่ วข้องกับกำรพฒั นำหลักสูตร 169 บทสรปุ 170 คำถำมทบทวน เอกสำรอำ้ งอิง 171 แผนบริหำรกำรสอนประจำบทที่ 6 175 บทท่ี 6 กำรนำหลกั สูตรไปใช้ 176 ควำมหมำยของกำรนำหลกั สูตรไปใช้ 177 แนวคดิ เกี่ยวกับกำรนำหลกั สูตรไปใช้ 177 หลกั กำรสำคญั ในกำรนำหลักสตู รไปใช้ 178 งำนหลักสำคญั เก่ยี วข้องกับกำรนำหลักสตู รไปใช้ 178 180 1. งำนบริหำรและบริกำรหลกั สูตร 2. งำนดำเนินกำรเรยี นกำรสอนตำมหลกั สูตร
VI สารบัญ (ตอ่ ) 3. งำนสนบั สนนุ และสง่ เสรมิ กำรใชห้ ลักสตู ร หนา้ บทบำทหน้ำท่ีของผ้บู รหิ ำรสถำนศึกษำและครผู ้สู อนในกำรนำหลกั สตู รไปใช้ 182 1. บทบำทหน้ำที่ของผ้บู รหิ ำรสถำนศกึ ษำในกำรใช้หลกั สตู ร 185 2. บทบำทหน้ำที่ของครผู ู้สอนในกำรใช้หลกั สูตร 185 ปัญหำกำรนำหลกั สูตรไปใช้ 187 บทสรปุ 188 คำถำมทบทวน 190 เอกสำรอำ้ งอิง 191 แผนบรหิ ำรกำรสอนประจำบทท่ี 7 192 บทที่ 7 กำรประเมนิ หลักสตู ร ควำมหมำยของกำรประเมนิ หลักสูตร 193 จดุ มุง่ หมำยของกำรประเมนิ หลกั สูตร 197 ลกั ษณะสำคญั ของกำรประเมินหลกั สูตร 198 ระยะเวลำในกำรประเมินหลักสูตร 198 รูปแบบของกำรประเมินหลักสูตร 200 รปู แบบกำรประเมนิ หลกั สูตรของไทเลอร์ 202 รปู แบบกำรประเมนิ ของแฮมมอนด์ 212 รูปแบบกำรประเมินของครอนบัค 212 รูปแบบกำรประเมนิ หลักสูตรของโรเบิรท์ สเตค 215 รปู แบบกำรประเมนิ หลกั สูตรของสตัฟเฟิลบีม 218 เกณฑ์กำรประเมินคุณภำพหลกั สตู ร 219 บทสรุป 224 คำถำมทบทวน 228 เอกสำรอำ้ งอิง 230 แผนบริหำรกำรสอนประจำบทท่ี 8 231 บทท่ี 8 กำรพัฒนำหลกั สตู รท้องถน่ิ และหลักสตู รอิงมำตรฐำน 232 กำรพัฒนำหลักสตู รทอ้ งถน่ิ 1. ควำมสำคญั ของหลักสูตรท้องถ่ิน 235 2. ควำมหมำยของหลักสตู รทอ้ งถ่ิน 239 239 239 240
VII หนา้ สารบัญ (ต่อ) 242 243 3. องค์ประกอบของหลักสูตรทอ้ งถนิ่ 244 4. แนวทำงกำรจดั ทำหลกั สูตรทอ้ งถิน่ 246 5. ขนั้ ตอนกำรพัฒนำหลักสูตรท้องถิ่น 246 กำรพฒั นำหลักสูตรอิงมำตรฐำน 247 1. ควำมสำคัญของหลักสูตรองิ มำตรฐำน 248 2. ควำมหมำยหลักสูตรอิงมำตรฐำน 249 3. องค์ประกอบของหลกั สูตรอิงมำตรฐำน 251 4. ขั้นตอนกำรพัฒนำหลักสตู รอิงมำตรฐำน 252 บทสรปุ 253 คำถำมทบทวน เอกสำรอ้ำงอิง 255 แผนบริหำรกำรสอนประจำบทที่ 9 261 บทที่ 9 หลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขัน้ พน้ื ฐำน พุทธศักรำช 2551 261 ควำมนำ 263 วิสยั ทศั น์ 263 หลักกำร 263 จดุ หมำย 264 สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 265 คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 265 มำตรฐำนกำรเรียนรู้ 266 ตวั ชีว้ ัด 266 สำระกำรเรยี นรู้ 269 สำระและมำตรฐำนกำรเรียนรู้ 275 กิจกรรมพฒั นำผู้เรียน 275 ระดับกำรศึกษำ 276 กำรจดั เวลำเรียน 276 โครงสร้ำงเวลำเรยี น 278 กำรจัดกำรศึกษำสำหรบั กลุ่มเป้ำหมำยเฉพำะ 278 กำรจดั กำรเรียนรู้ 280 สือ่ กำรเรียนรู้
VIII หนา้ สารบญั (ต่อ) 281 282 กำรวดั และประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ 285 เกณฑ์กำรวัดและประเมนิ ผลกำรเรียน 286 เอกสำรหลกั ฐำนกำรศึกษำ 286 กำรเทยี บโอนผลกำรเรียน 287 กำรบริหำรจดั กำรหลักสูตร 288 บทสรปุ 289 คำถำมทบทวน เอกสำรอำ้ งองิ 291 แผนบริหำรกำรสอนประจำบทท่ี 10 295 บทที่ 10 กำรพฒั นำหลักสตู รสถำนศึกษำ 295 ควำมหมำยของหลกั สตู รสถำนศึกษำ 296 ควำมสำคัญของหลักสูตรสถำนศกึ ษำ 297 กำรพัฒนำหลักสตู รสถำนศึกษำ 301 กำรบรหิ ำรจดั กำรหลกั สูตรสถำนศึกษำ 303 แนวทำงกำรจัดทำหลกั สูตรสถำนศกึ ษำ ตำมแนวทำงหลกั สูตรแกนกลำง กำรศึกษำ ขั้นพืน้ ฐำนพุทธศักรำช 2551 305 313 1. กำรกำหนดสว่ นนำ 326 2. กำรกำหนดโครงสรำ้ งเวลำเรยี นของหลักสตู รสถำนศึกษำ 345 3. กำรจดั ทำคำอธบิ ำยรำยวชิ ำ 359 4. กำรจัดกิจกรรมพฒั นำผเู้ รยี น 362 5. กำรจัดทำเกณฑ์กำรจบหลกั สูตร 382 กำรตรวจสอบคุณภำพหลกั สูตรสถำนศกึ ษำ 383 บทสรปุ 384 คำถำมทบทวน เอกสำรอ้ำงอิง 387 แผนบริหำรกำรสอนประจำบทท่ี 11 391 บทที่ 11 แนวโน้มหลกั สตู รในศตวรรษที่ 21 391 กรอบควำมคดิ หลกั สำหรบั ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 395 คณุ ลกั ษณะท่ีสำคญั ของผูเ้ รียนและครูในศตวรรษที่ 21
IX สารบัญ (ตอ่ ) หนา้ แนวโนม้ หลกั สูตรในศตวรรษท่ี 21 398 หลักสตู รมำตรฐำนชำตกิ บั กำรตอบสนองควำมต้องกำรของสังคมในศตวรรษที่ 21 408 บทสรปุ 409 คำถำมทบทวน 410 เอกสำรอ้ำงอิง 411 บรรณำนกุ รม 413
สารบัญตาราง ตารางท่ี หนา้ 1 วิเคราะหอ์ งคป์ ระกอบหลักสูตร 2 วเิ คราะหร์ ะดบั หลักสตู ร 13 3 วเิ คราะห์ปจั จยั พื้นฐานท่เี ก่ียวข้องกบั การพฒั นาหลักสูตรตามแนวคดิ 19 นกั การศึกษา 33 4 การเปรยี บเทียบลักษณะสาคัญของแตล่ ะปรัชญาการศึกษาตอ่ การพฒั นา หลกั สตู ร 41 5 วเิ คราะหป์ ัจจยั พื้นฐานทางด้านจิตวิทยาทีเ่ ก่ยี วข้องกับการพฒั นาหลักสตู ร 6 วเิ คราะห์ประเภทของหลักสตู ร 43 7 ระดบั ของจุดมุ่งหมาย 80 8 หนา้ ทข่ี องผู้บริหารและครผู ู้สอนในการใช้หลักสูตร 136 9 การประเมนิ โครงรา่ งหลกั สตู รโดยใชแ้ บบตรวจสอบรายการ 188 10 รปู แบบการประเมนิ หลักสูตรของโรเบิรท์ สเตค 203 11 โครงสร้างเวลาเรียน 221 227
สารบัญภาพ ภาพที่ หนา้ 1 ระดับหลกั สูตร 21 2 รูปแบบการพฒั นาหลกั สตู รของไทเลอร์ 100 3 รปู แบบหลักสตู รของทาบา 103 4 รูปแบบการพฒั นาหลกั สูตรของโอลิวา 105 5 รปู แบบการพฒั นาหลักสตู รของเซย์เลอร์ อเลก็ ซานเดอร์ และเลวสิ 107 6 วฏั จักรของกระบวนการพฒั นาหลักสตู รของสงัด อุทรานนั ท์ 109 7 รปู แบบกระบวนการพัฒนาหลักสตู รของวชิ ยั วงษใ์ หญ่ 112 8 กระบวนการพฒั นาหลักสตู รของ ธารง บัวศรี 114 9 กระบวนการพัฒนาหลกั สูตรของ ไพฑูรย์ สินลารัตน์ 115 10 ระบบการพัฒนาหลักสตู ร 117 11 ระบบการพฒั นาหลกั สตู ร 127 12 ขน้ั ตอนสร้างหลักสตู ร 131 13 ระบบการพฒั นาหลกั สูตร 175 14 ระบบการพัฒนาหลกั สูตร 197 15 การวเิ คราะห์ความเป็นไปได้ของการจัดทาแผนดา้ นการศึกษา 205 16 ความสัมพันธข์ ององค์ประกอบกระบวนการจัดการศึกษา 213 17 ขัน้ ตอนการเรียนการสอนและการประเมนิ หลกั สตู รของ ไทเลอร์ 214 18 ปฏิสมั พนั ธ์ระหว่างตวั แปรในมิตติ ่าง ๆ 215 19 รูปแบบการประเมินหลกั สตู รของโรเบริ ์ทสเตค 220 20 การวเิ คราะห์หาความสัมพนั ธแ์ ละความสอดคล้องของข้อมูล 222 21 ประเภทการตัดสนิ ใจ 225 22 รูปแบบของการประเมนิ หลกั สูตรของสตัฟเฟิลบีม ( CIPP) 228 23 การพฒั นาหลกั สตู รสถานศึกษา 299 24 ขั้นตอนการจดั ทาหลักสตู รสถานศกึ ษาตามแนวทางหลกั สตู รแกนกลางการศึกษา 303 ขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 25 แสดงขัน้ ตอนการวดั และประเมนิ ผลกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น 349 26 กรอบแนวคิดเพ่ือการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 394 27 เกณฑ์การออกแบบสภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ร่วมกนั ในศตวรรษท่ี 21 401 28 กรอบการประเมินทักษะผเู้ รยี นในศตวรรษท่ี 21 405
แผนบรหิ ารการสอนประจาวชิ า รหสั วิชา 1023203 ชอ่ื วชิ า การพัฒนาหลกั สูตร หนว่ ยกติ Curriculum Development ภาคเรียนท่ี 2(2-0-4) ปีการศกึ ษา 1 ผู้สอน 2557 นางสาวรงุ่ ทวิ า จนั ทน์วัฒนวงษ์ คาอธิบายรายวิชา ศึกษาความหมาย ความสาคัญของหลักสูตร ทฤษฎีหลักสูตร องค์ประกอบของหลักสูตร หลักสูตรประเภทต่างๆ หลักและกระบวนการในการพัฒนาหลักสูตร รูปแบบการพัฒนาหลักสูตร การจัดทาหลักสูตรสถานศึกษา การใช้หลักสูตร การจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับหลักสูตร การประเมนิ ผลหลกั สูตร ปญั หาและแนวโนม้ ในการพัฒนาหลักสตู ร จุดประสงค์ 1. เพื่อให้นักศึกษามีความรู้เกี่ยวกับความหมาย ความสาคัญของหลักสูตร ทฤษฎี หลักสูตร องค์ประกอบของหลักสูตร ประเภทของหลักสูตรและหลักสูตรแบบต่างๆ รวมท้ังพ้ืนฐานในการ จัดทาหลักสูตร 2. เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจสามารถวิเคราะห์ อธิบายเกี่ยวกับหลักการ แนวคิด การพฒั นาหลักสูตร กระบวนการพัฒนาหลักสตู ร 3. เพ่ือให้นักศึกษาสามารถวิเคราะห์ อธิบายหลักการ แนวคิด และวิธีการจัดทาหลักสูตร สถานศกึ ษาทสี่ อดคล้องกับสภาพท้องถ่ิน 4. เพ่ือให้นักศึกษาสามารถวิเคราะห์ หลักการ แนวทางการการใช้หลักสูตรและ จัดการ เรยี นรู้ให้สอดคล้องกับหลักสตู รสถานศึกษา หลกั สูตรแกนกลางชาติ 5. เพอ่ื ใหน้ ักศกึ ษาสามารถวิเคราะห์ อธิบาย หลกั การ วธิ ีการการประเมนิ ผลหลกั สูตร 6. เพ่อื ให้นักศึกษาวิเคราะห์สภาพปญั หาและแนวโน้มในการพัฒนาหลักสตู ร 7. เพอ่ื ให้นกั ศกึ ษามีเจตคติทด่ี ีและถกู ต้องต่อการพัฒนาหลักสตู ร เน้อื หา 2 ช่วั โมง 4 ชว่ั โมง บทที่ 1 ความรู้พื้นฐานการพัฒนาหลกั สตู ร 4 ชวั่ โมง บทท่ี 2 ปจั จัยพน้ื ฐานทีเกีย่ วขอ้ งกบั หลกั สตู ร บทที่ 3 การออกแบบหลักสูตร
XIV บทที่ 4 รปู แบบการพฒั นาหลกั สูตร 4 ช่ัวโมง ชว่ั โมง บทท่ี 5 การสรา้ งหลกั สตู ร 2 ชั่วโมง ช่วั โมง บทท่ี 6 การนาหลักสตู รไปใช้ 2 ช่ัวโมง ช่ัวโมง บทท่ี 7 การประเมินหลกั สูตร 2 ชัว่ โมง ชว่ั โมง บทท่ี 8 การพัฒนาหลกั สูตรทอ้ งถิ่นและหลักสตู รองิ มาตรฐาน 2 บทท่ี 9 หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 2 บทที่ 10 การพัฒนาหลกั สูตรสถานศึกษา 4 บทที่ 11 แนวโน้มหลักสูตรในศตวรรษท่ี 21 2 วิธสี อนและการจดั กิจกรรม เน่ืองจากรายวิชาการพัฒ นาหลักสูตรเป็ นวิชาท่ีมุ่งเน้นให้นักศึกษามีความรู้ ความเข้าใจมี เจตคตแิ ละสามารถออกแบบหลักสูตรท่ีอิงมาตรฐานได้ การออกแบบกิจกรรมการเรยี น การสอนจึงให้ความสาคัญการจัดการเรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ และใช้กระบวนการกลุ่ม ใช้กิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อพัฒนาทักษะการคิดช้ันสูง ส่งเสริมการฝึกปฏิบัติ คิดเป็น ทาได้ ทาเป็น ฝึกทักษะทางสังคมโดยการส่งเสริมการทางานเป็นทีม นักศึกษาสร้างความรู้ด้วยตนเอง โดยอาศัย วิธีการและกจิ กรรมต่างดังนี้ 1. บรรยาย 2. การศกึ ษาเอกสาร 3. สาธิต 4. อภิปรายกลมุ่ ยอ่ ย 5. การสมั ภาษณ์ผู้รู้ /ชุมชน 6. กรณตี วั อย่าง 7. สถานการณ์จาลอง 8. การใช้ผังกราฟฟกิ 9. การใชค้ าถาม 10. การฝกึ ปฏบิ ัตจิ ริง สื่อการเรียนการสอน 1. การนาเสนอด้วย Microsoft Power Point 2. เอกสารประกอบการสอนการพฒั นาหลกั สูตร 3. วดี ีทัศน์เกี่ยวกบั การจดั การศึกษา หรือเกี่ยวขอ้ งกบั บทเรียน 4. ของจริง คือ เอกสารหลักสตู ร 4.1 หลกั สตู รการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน 4.2 หลกั สตู รสถานศึกษา 4.3 หลกั สตู รระยะสั้น (หลักสูตรทาขนม หลกั สูตรทาดอกไม้ เป็นตน้ ) 5. กรณศี กึ ษา
XV 6. ขา่ วการศึกษาทเ่ี กย่ี วข้องกบั บทเรียน 7. Website ทางการศกึ ษา เชน่ http://www.obec.go.th/ (สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน) http://academic.obec.go.th/web/home (สานกั วชิ าการและมาตรฐานการศึกษา) http://th.wikipedia.org/ http://www.thaiteachers.tv/ (โทรทัศนครู) http://www.teachingideas.co.uk/ 8. ใบงาน 9. Smartphones หรือ Tablet การวดั และประเมินผล 1. การวัดผล จาแนกคะแนนไดด้ งั นี้ 1.1 คะแนนระหวา่ งภาค 70% 1.1.1 งานเดี่ยว 40% 1) การเขา้ เรยี น 10% 2) แฟม้ สะสมงาน (Portfolio) 20% (1) การบนั ทกึ การเรียนรู้ (Learning Log) รายสปั ดาห/์ แต่ละช่ัวโมง (2) การวเิ คราะหข์ ่าวการศึกษา รายสัปดาห/์ แตล่ ะชัว่ โมง อน่ื ๆ (3) ชิน้ งานศกึ ษาค้นคว้าด้วยตนเอง 3) หลักสูตรสถานศึกษา (คาอธิบายรายวชิ า) 10% 1.1.2 งานกล่มุ 30% 1) ชน้ิ งาน/ภาระงานการปฏิบัตกิ จิ กรรมกลุ่มในช้นั เรียน 10% 2) หลักสูตรสถานศกึ ษา 20% 1.2 คะแนนสอบปลายภาค 30% 2. การประเมินผล ประเมินผลแบบอิงเกณฑ์ ระบบคา่ ระดับคะแนนแบ่งเป็น 8 ระดับ ระดับคะแนน A = 80 - 100 ระดับคะแนน B+ = 75 - 79 ระดบั คะแนน B = 70 - 74 ระดบั คะแนน C+ = 65 - 69 ระดบั คะแนน C = 60 - 64 ระดบั คะแนน D+ = 55 - 59 ระดับคะแนน D = 50 - 54 ระดบั คะแนน F = 0 - 49
XVI กาหนดการสอนรายวชิ า สัปดาห์ หวั ขอ้ /รายละเอียด กจิ กรรมการเรียนการสอน สอ่ื การวัดและ ท่ี บทที่ 1 ความรพู้ ื้นฐาน ประเมนิ ผล 1 การพฒั นาหลกั สตู ร 1. ปฐมนเิ ทศก่อนเรยี น 1. Power สอบถาม 1. ความหมายของหลักสูตร สงั เกต 2. ความสาคัญของหลกั สูตร เปา้ หมายการเรยี น เนือ้ หา Point พฤตกิ รรม 3. องคป์ ระกอบของหลกั สูตร สาระ วิธีการเรียนรู้ ความรพู้ น้ื ฐาน ตรวจช้นิ งาน 4. ระดับของหลักสตู ร การประเมิน การพัฒนา บันทึกการ 5. ลกั ษณะของหลักสตู รท่ดี ี 2. ทบทวนความรู้เดิม หลักสูตร เรยี นรู้ 3.นักศกึ ษาอ่านนิทาน 2. กรณี (Learning “โรงเรยี นฝึกสัตว์ และ ศกึ ษา Log) อภปิ ราย “โรงเรยี นฝกึ 4. นกั ศกึ ษาแบง่ กล่มุ ย่อย สัตว์” สอบถาม ศกึ ษาเนอ้ื หา “ ความหมาย 3. เอกสาร ตรวจชิ้นงาน องคป์ ระกอบ ระดับและ ประกอบ บนั ทึกการ ลกั ษณะหลกั สตู รทีด่ ี” การสอน เรียนรู้ 5. นาเสนอและอภปิ ราย (Learning 6. แบ่งกลมุ่ มอบหมายงาน Log) ศึกษาปจั จยั ทเ่ี ก่ียงข้องกับ สังเกต 2-3 บทที่ 2 ปจั จัยพืน้ ฐานใน การพฒั นาหลกั สูตร พฤติกรรม การพฒั นาหลกั สตู ร 1. ทบทวนความรู้เดมิ โดย 1. Power ปจั จยั พนื้ ฐานท่ีเกยี่ วขอ้ งกบั การถามตอบ Point การพฒั นาหลักสูตร 1. พ้นื ฐานทางดา้ นปรชั ญา 2. นกั ศกึ ษาแบง่ กลุ่มศึกษา ปัจจยั พ้ืนฐาน การศกึ ษา ปัจจัยพื้นฐานท่ีเกี่ยวข้องกบั ที่เกีย่ วข้องกบั 2. พื้นฐานทางดา้ นจติ วิทยา การพฒั นาหลกั สตู ร8ประเด็น การพฒั นา 3. พื้นฐานทางดา้ นสังคมและ 3. กลุ่มนาเสนอตามรปู แบบที่ หลักสูตร วฒั นธรรม กลมุ่ สนใจ 2. เอกสาร 4. พื้นฐานทางดา้ นการเมือง 4. นกั ศกึ ษาและผู้สอนรว่ มกนั ประกอบ และการปกครอง อภปิ ราย วเิ คราะห์ การสอน 5. พ้นื ฐานทางดา้ นเศรษฐกิจ เปรียบเทียบความลกั ษณะ 6. พนื้ ฐานทางดา้ น เดน่ ของแตล่ ะปจั จยั วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 5. ผสู้ อนนาเสนอสรปุ เนื้อหา ของบทเรยี น ดว้ ย Power Point 6. นักศกึ ษาสรปุ ความรเู้ ปน็ แผนภูมิ 7. มอบหมายงานใหน้ ักศึกษา ศกึ ษาการออกแบบหลักสตู ร
XVII สัปดาห์ หวั ขอ้ /รายละเอียด กิจกรรมการเรียนการสอน ส่อื การวัดและ ที่ บทที่ 3 การออกแบบ 1. Power ประเมนิ ผล 4-5 หลกั สูตร 1. ทบทวนความรเู้ ดิมโดย Point สอบถาม 6-7 1. ความหมายการออกแบบ การถามตอบ การออกแบบ ตรวจชน้ิ งาน หลกั สตู ร 2. นกั ศึกษาเข้ากลมุ่ ระดม หลกั สตู ร บนั ทกึ 2. ประโยชนข์ อง สมองเกยี่ วกบั ประเด็น 2. หลักสูตร การเรยี นรู้ การออกแบบหลักสูตร ความหมาย ประโยชน์และ ของจริง (Learning 3. หลักการของการออกแบบ หลักการของการออกแบบ ประเภทตา่ งๆ Log) หลกั สูตรที่ดี หลักสูตร 3. เอกสาร สังเกต 4. แนวคิดในการออกแบบ 3. กลุม่ นาเสนอผลการระดม ประกอบ พฤติกรรม หลักสตู ร สมอง สมาชิกในห้องรว่ มกับ การสอน 5. ประเภทของหลกั สตู ร อภปิ รายซกั ถาม สอบถาม 4. นักศึกษาแบง่ กลมุ่ ยอ่ ย 1. Power ตรวจช้นิ งาน 5.1 หลักสตู รรายวชิ า 8 กลุ่ม ศกึ ษาประเภทของ Point รูปแบบ บันทกึ การ 5.2 หลักสูตรสัมพนั ธ์วชิ า หลักสูตรไดร้ ับมอบหมาย การพัฒนา เรยี นรู้ 5.3 หลกั สตู รกว้าง 5. กลุม่ นาเสนองาน สมาชิก หลกั สตู ร (Learning 5.4 หลกั สตู รแกน ในหอ้ งร่วมกบั อภปิ รายซักถาม 2. เอกสาร Log) 5.5 หลกั สตู รประสบการณ์ 6. นักศึกษาวเิ คราะห์ ประกอบ สังเกต 5.6 หลกั สูตรเกณฑ์ “หลกั สูตรตวั อย่าง” ทกี่ ลุม่ การสอน พฤติกรรม ความสามารถ นามา จัดอยใู่ นหลกั สูตร 5.7 หลกั สตู รบูรณาการ ประเภทใด 5.8 หลกั สตู รเพ่อื ชีวิตและ 7. ผสู้ อนนาเสนอสรุปเนอ้ื ของ สังคม บทเรียน ดว้ ย Power Point พรอ้ มซักถาม บทท่ี 4 รูปแบบการพฒั นา 8. มอบหมายงานให้นกั ศกึ ษา หลกั สตู ร ศึกษารปู แบบการพัฒนา 1. ความหมายของการพัฒนา หลักสตู ร หลกั สูตร 1. ทบทวนความร้เู ดิมโดย 2. หลักการพัฒนาหลกั สูตร การถามตอบ 3. รูปแบบการพัฒนา 2. นกั ศกึ ษาช่วยกนั เสนอวธิ ี หลกั สตู รของนักการศึกษา การพัฒนาหลักสูตรตาม ต่างประเทศ ประสบการณห์ รอื ตามทีไ่ ดร้ บั รู้ 3.1 รปู แบบการพัฒนา 3. ผสู้ อนและนักศกึ ษารว่ มกัน หลกั สตู รของ ไทเลอร์ สรุป ขน้ั ตอนหรอื วิธีการพัฒนา 3.2 รูปแบบการพฒั นา หลกั สตู รท่เี พื่อนนาเสนอ เหมอื นกันหรอื ตา่ งกนั
XVIII สัปดาห์ หัวข้อ/รายละเอียด กจิ กรรมการเรยี นการสอน สอื่ การวดั และ ที่ ประเมินผล หลักสูตรของ ทาบา 4. นกั ศกึ ษาเข้ากลุม่ ๆละ 4 คน 1. Power 3.3 รปู แบบการพฒั นา ศึกษารูปแบบการพฒั นา Point สอบถาม หลกั สูตรของ โอลิวา หลกั สูตร(กลุม่ ละ 1 แนวคิด ) การสรา้ ง ตรวจชน้ิ งาน 3.4 รปู แบบการพฒั นา ศกึ ษาใน 3 ประเด็น (แนวคดิ หลกั สตู ร บนั ทกึ การ หลกั สตู รของ เชยเ์ ลอร์และ ขัน้ ตอน/วธิ กี ารและลกั ษณะ 2. ตัวอยา่ ง เรียนรู้ อเล็กซานเดอร์ สาคัญการออกแบบหลกั สตู ร) หลักสตู ร (Learning 4.รปู แบบการพัฒนา นาเสนอในรปู แบบผงั กราฟฟิก ระยะส้นั Log) หลกั สูตรของนักการศึกษา 5. นกั ศกึ ษาและผ้สู อนรว่ มกัน ฝึกอาชพี สงั เกต ไทย อภปิ ราย 3. เอกสาร พฤตกิ รรม 4.1รปู แบบการพัฒนา 6. นักศกึ ษาและผู้สอนร่วมกัน ประกอบ หลักสูตรของ สงดั สรปุ “ความหมายของการ การสอน อุทรานนั ท์ พฒั นาหลักสูตร” 4.2 รูปแบบการพัฒนา 7. ผสู้ อนนาเสนอสรุปเนือ้ ของ หลักสตู รของ วชิ ัย วงษ์ใหญ่ บทเรียน ด้วย Power Point 4.3 รูปแบบการพฒั นา พร้อมซักถาม หลักสูตรของ ธารง บัวศรี 8. มอบหมายงานใหน้ ักศึกษา 4.4 รูปแบบการพัฒนา ศึกษาการสร้างหลกั สตู ร หลกั สตู รของ ไพฑรู ย์ สินลารตั น์ 8 บทท่ี 5 การสรา้ งหลักสตู ร 1. ทบทวนความร้เู ดิมโดยการ 1. หลักการพฒั นาหลกั สตู ร ถามตอบ 2. การสร้างหลักสตู ร 2. นกั ศกึ ษารวมกันอภิปราย 2.1 การวเิ คราะห์ข้อมูล เก่ยี วกบั หลักการและวธิ กี าร พ้ืนฐานท่ีจาเป็นในการ กาหนดองค์ประกอบหลักสูตร พฒั นาหลักสตู ร ตามแนวคดิ และประสบการณ์ 2.2 การกาหนด 3. ผู้สอนเติมเตม็ ประเดน็ สาคัญ จดุ มุง่ หมายของหลักสูตร 4. ผสู้ อนนาเสนอ Microsoft 2.3 การเลือกเน้อื หาสาระ Power Point วธิ กี ารสรา้ ง และประสบการณก์ ารเรียนรู้ หลักสูตรทลี ะองค์ประกอบ 2.4 การจัดเนอื้ หาสาระ พรอ้ มเสนอตวั อย่าง และประสบการณก์ ารเรยี นรู้ 5. นกั ศกึ ษาเข้ากลุม่ 4-5 คน จัดทาหลกั สูตรไปพร้อมการ บรรยายของผสู้ อน 6. นกั ศกึ ษาสรปุ แผนภมู ิ กระบวนการสรา้ งหลักสูตร
XIX สปั ดาห์ หัวขอ้ /รายละเอยี ด กิจกรรมการเรยี นการสอน ส่ือ การวัดและ ที่ ประเมนิ ผล 2.5 การกาหนดแนว จากความรู้ประสบการณ์ทไ่ี ดร้ บั ทางการวดั และ จากการจดั ทาหลักสตู ร ประเมินผลการเรียนรู้ 7. มอบหมายงานใหน้ ักศึกษา 3.บุคคลที่เก่ียวขอ้ งกับการ ศกึ ษาการนาหลกั สตู รไปใช้ พฒั นาหลักสตู ร 9 บทที่ 6 การนาหลกั สตู ร 1. ทบทวนความรเู้ ดิมโดยการถาม 1. Power สอบถาม ไปใช้ ตอบ Point ตรวจช้นิ งาน 1. ความหมายของการนา 2. ผ้สู อนนาขา่ วท่ีเกีย่ วกบั ปญั หา การนา บันทกึ การ หลกั สตู รไปใช้ การใชห้ ลักสตู ร ให้นกั ศึกษาอา่ น หลักสูตร เรยี นรู้ 2. แนวคดิ เกย่ี วกบั การนา แลว้ ร่วมกันอภปิ ราย ไปใช้ (Learning หลกั สูตรไปใช้ 3. ผสู้ อนนาเสนอผงั กราฟฟิก 2. ข่าว Log) 3. หลักการสาคัญในการ ภาพรวมการนาหลกั สตู รไปใช้ การศกึ ษา สงั เกต นาหลกั สูตรไปใช้ 4. นกั ศกึ ษาเข้ากลมุ่ 5-6 คน เก่ียวกบั พฤตกิ รรม 4. งานหลกั สาคัญ เลอื กประเดน็ ที่กลุ่มสนใจและรว่ ม ปญั หาการใช้ เกี่ยวขอ้ งกบั การนา วเิ คราะห์สรปุ หลกั สตู ร หลกั สูตรไปใช้ -งานการบรหิ ารและบริการ 3. เอกสาร 4.1 งานบริหารและ -งานดาเนนิ การเรียนการสอน ประกอบ บรกิ ารหลักสูตร -งานสนบั สนนุ และสง่ เสรมิ การใช้ การสอน 4.2 งานดาเนนิ การเรียน หลกั สูตร การสอนตามหลักสตู ร พรอ้ มนาเสนอ 4.3 งานสนบั สนนุ และ 5. นกั ศกึ ษาจบั ครู่ ่วมกนั วิเคราะห์ ส่งเสริมการใช้หลักสูตร บทบาทของผูท้ เี่ กย่ี วข้องกบั การนา 5.บทบาทหน้าทข่ี อง หลกั สูตรไปใช้ ผูบ้ ริหารสถานศึกษาและ 6. ผสู้ อนและนักศึกษารว่ มกันสรุป ครูผสู้ อนในการนา บทบาทของผู้ทีเ่ กย่ี วข้องกบั การนา หลักสตู รไปใช้ หลักสตู รไปใช้ 5.1 บทบาทหนา้ ท่ขี อง 7. ผูส้ อนสรปุ ประเด็นสาคัญของ ผู้บริหารสถานศึกษาใน เนอื้ หาการนาหลักสูตรไปใชด้ ว้ ย การใชห้ ลักสูตร Power Point พรอ้ มซักถาม 5.2 บทบาทหนา้ ท่ขี อง 8. มอบหมายงานให้นกั ศกึ ษา ครูผูส้ อนในการใช้ ศกึ ษาการประเมินหลักสตู ร หลักสตู ร 6.ปัญหาการนาหลักสูตร ไปใช้
XX สปั ดาห์ หัวขอ้ /รายละเอยี ด กิจกรรมการเรยี นการสอน สือ่ การวดั และ ท่ี บทท่ี 7 การประเมิน ประเมนิ ผล 10 หลกั สตู ร 1. ทบทวนความรเู้ ดิมโดย 1. Power Point สอบถาม 1. ความหมายของการ ประเมนิ หลกั สตู ร การถามตอบ การประเมิน ตรวจชิ้นงาน 2. จุดมงุ่ หมายของการ 2. ผูส้ อนนาขา่ วทเ่ี กยี่ วกับการ หลกั สตู ร บันทึก ประเมนิ หลักสูตร ประเมนิ หลกั สตู ร ใหน้ กั ศึกษา 2. ขา่ วการศกึ ษา การเรียนรู้ 3. ลกั ษณะสาคัญของ อา่ นแลว้ ร่วมกันอภปิ ราย เกีย่ วกบั การ (Learning การประเมินหลกั สูตร 3. ผูส้ อนบรรยายเกี่ยวกบั ประเมนิ Log) 4. ระยะเวลาในการ ประเมนิ หลกั สูตร ความหมาย จุดมุ่งหมาย หลกั สูตร สังเกต 5. รปู แบบของการ ลักษณะของการประเมิน 3. รายงานวิจยั พฤตกิ รรม ประเมนิ หลกั สตู ร หลักสตู รและระยะเวลาใน การประเมิน การประเมนิ หลักสตู ร ด้วย หลักสูตร 5.1 รปู แบบการ Power Point ผสู้ อนซักถาม 4. เอกสาร ประเมนิ หลกั สตู รของ ในประเดน็ สาคญั ประกอบ ไทเลอร์ 4. นักศกึ ษาสรปุ ความรู้ การสอน ในรปู แบบของผงั กราฟฟกิ 5.2 รปู แบบการ 5. นักศึกษาเขา้ กล่มุ 6 คน ประเมนิ หลักสูตรของ เลอื กประเด็นทกี่ ลุ่มสนใจ แฮมมอนด์ (การประเมนิ หลักสตู ร 5 รูปแบบ) พร้อมนาเสนอ 5.3 รูปแบบการ 6. ผูส้ อนและนกั ศึกษาร่วมกนั ประเมนิ หลกั สตู ร วิเคราะห์แนวคดิ ความเหมือน ของครอนบัค ความต่างของรูปแบบการ ประเมนิ หลกั สตู ร 5 รปู แบบ 5.4 รปู แบบการ 7. นักศึกษาแตล่ ะกลมุ่ อ่าน ประเมินหลกั สูตรของ กระบวนการประเมินหลักสูตร โรเบริ ์ท สเตค พรอ้ มเชือ่ มโยงวธิ กี ารประเมิน ตามรปู แบบการประเมนิ 5.5 รปู แบบการ 5 รูปแบบ ประเมินหลกั สตู รของ 8. ผสู้ อนสรปุ ประเดน็ สาคัญของ สตัฟเฟิลบมี รปู แบบการประเมนิ หลักสตู ร 6. เกณฑ์การประเมิน ดว้ ย Power Point พรอ้ ม คณุ ภาพหลักสูตร ซกั ถาม 9. มอบหมายงานใหน้ ักศกึ ษา ศึกษาการพัฒนาหลกั สูตร ทอ้ งถ่นิ และหลักสูตร องิ มาตรฐาน
XXI สัปดาห์ หัวข้อ/รายละเอยี ด กจิ กรรมการเรียนการสอน ส่ือ การวดั และ ที่ ประเมนิ ผล 11 บทท่ี 8 การพฒั นาหลกั สูตร 1. ผู้สอนชวนนักศึกษาสนทนา 1. Power สอบถาม ตรวจชิน้ งาน ท้องถ่ินและหลักสูตรองิ เก่ียวกบั ระดบั หลกั สตู รทีเ่ คย Point บนั ทึกการ มาตรฐาน เรียนผา่ นมาในบทท่ี 1 การพฒั นา เรยี นรู้ 1. การพฒั นาหลักสตู ร 2. นักศกึ ษาดูวิดที ศั น์ หลักสตู ร (Learning ทอ้ งถิน่ “ถอดรหัสหลักสตู ร ตอน ท้องถนิ่ และ Log) 1.1 ความสาคัญของ หลักสตู รทอ้ งถน่ิ ” รว่ มกัน การพัฒนา สงั เกต หลักสตู รท้องถิ่น อภปิ ราย หลกั สูตรอิง พฤตกิ รรม 1.2 ความหมายของ 3. นักศกึ ษาเข้ากลุ่ม 3 คนสรปุ มาตรฐาน หลกั สูตรทอ้ งถิ่น เขียนแผนภูมินาเสนอประเดน็ 2. ตวั อย่าง 1.3 องคป์ ระกอบของ ความสาคญั แนวทางการจัดทา หลักสตู ร หลักสตู รทอ้ งถิ่น และขั้นตอนการพฒั นาหลกั สตู ร ทอ้ งถน่ิ 1.4 แนวทางการจัดทา ทอ้ งถิน่ 3. วดิ ที ศั น์ หลักสูตรทอ้ งถิ่น 4. ผสู้ อนบรรยายเกยี่ วกับ “ถอดรหสั 1.5 ขั้นตอนการพฒั นา “ความหมาย ความสาคญั หลกั สูตร หลกั สูตรท้องถิ่น องคป์ ระกอบและข้ันตอนการ ตอนหลักสตู ร 2. การพัฒนาหลักสตู ร พัฒนาหลักสูตรท้องถ่ิน” ดว้ ย ทอ้ งถิน่ ” องิ มาตรฐาน Power Point 4. เอกสาร 2.1 ความสาคญั ของ 5. ผ้สู อนนาเสนอ “มาตรฐาน ประกอบ หลักสูตรองิ มาตรฐาน การเรยี นร้ใู ห้นักศึกษาวเิ คราะห์ การสอน 2.2 ความหมายของ ว่า “มาตรฐานการเรยี นรู้” บอก หลักสูตรอิงมาตรฐาน อะไรแก“่ ครผู สู้ อน” 2.3 องคป์ ระกอบของ “ผูป้ กครอง”“นักเรียน”และ หลักสูตรองิ มาตรฐาน ซักถาม 2.4 ข้นั ตอนการพัฒนา 6. นักศึกษาจดั กล่มุ ใหม่ 3-4 คน หลักสูตรอิงมาตรฐาน ศึกษาองค์ประกอบ ขัน้ ตอนการพัฒนาหลักสตู ร อิงมาตรฐาน และนาเสนอ 7. ผูส้ อนสรุปประเด็นสาคญั การ พัฒนาหลักสูตรท้องถนิ่ และการ พฒั นาหลักสูตร อิงมาตรฐาน ด้วย Power Point พรอ้ มซักถาม 8. มอบหมายงานให้นักศึกษา ศกึ ษาหลักสตู รแกนกลาง การศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐานฯ
XXII สปั ดาห์ หัวข้อ/รายละเอยี ด กจิ กรรมการเรียนการสอน สือ่ การวัดและ ที่ บทที่ 9 หลักสูตร 1. ผสู้ อนชวนนกั ศึกษาสนทนา ประเมินผล 12 แกนกลางการศึกษา เกยี่ วกับประสบการณก์ าร 1. Power สอบถาม ขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช เรียนร้ขู องนกั ศึกษาทผี่ า่ นมา Point ตรวจชน้ิ งาน 2551 ตงั้ แตอ่ นุบาลจนถงึ ปจั จบุ ัน หลกั สูตร บนั ทึกการ ความนา ผา่ นมาแล้วกหี่ ลกั สตู รอะไรบา้ ง แกนกลาง เรียนรู้ วสิ ัยทัศน์ 2. นกั ศกึ ษาทกุ คนศกึ ษา การศึกษา (Learning หลกั การ องคป์ ระกอบหลกั สูตร ขน้ั พ้นื ฐาน Log) จุดหมาย แกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช สงั เกต สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น พทุ ธศกั ราช 2551และสรุป 2551 พฤติกรรม คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ลงในสมุดบันทกึ 2. หลกั สูตร มาตรฐานการเรยี นรู้ 3. ผู้สอนบรรยายเก่ยี วกบั แกนกลาง ตัวชว้ี ัด “หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษา การศกึ ษา สาระการเรียนรู้ ขั้นพน้ื ฐานฯ” ดว้ ยPower ขนั้ พ้ืนฐาน สาระและมาตรฐาน Point พร้อมซกั ถาม พุทธศกั ราช การเรยี นรู้ 4. นักศึกษาเข้ากลุม่ ตาม 2551 กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน ความสนใจ 3-4 คน เลอื ก 3. วดิ ที ัศน์ ระดบั การศกึ ษา ศึกษาเชงิ วิเคราะหป์ ระเด็น “ถอดรหัส การจดั เวลาเรียน ตอ่ ไปนี้ พรอ้ มยกตวั อย่าง หลักสูตร โครงสร้างเวลาเรียน ประกอบ เช่น ศกึ ษา ตอนหลักสตู ร การจัดการศกึ ษาสาหรับ ความเชอื่ มโยง สัมพนั ธร์ ะหว่าง มาตรฐานชาติ กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ วสิ ัยทัศน์ หลักการ จดุ หมาย 4. เอกสาร การจดั การเรยี นรู้ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น ประกอบ สื่อการเรยี นรู้ และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ การสอน การวดั และประเมนิ ผล ของ หลกั สตู รแกนกลาง การเรยี นรู้ การศึกษาข้ันพ้นื ฐาน ฯ เกณฑ์การวัดและ แลว้ นาเสนอ ประเมินผลการเรียน, 5. นักศึกษาแตล่ ะคนสรุป เอกสารหลกั สูตรการศกึ ษา รายละเอียดเติมเตม็ การเทยี บโอนผลการเรยี น 6. ผ้สู อนสรุปประเดน็ สาคญั การบรหิ ารจดั การหลักสูตร 7. นักศกึ ษาชมวิดที ศั น์ “ถอดรหสั หลักสตู ร”และสรปุ 8. มอบหมายงานให้นักศกึ ษา ศึกษาการพัฒนาหลักสตู ร สถานศกึ ษา
XXIII สปั ดาห์ หัวข้อ/รายละเอียด กจิ กรรมการเรยี นการสอน สือ่ การวัดและ ท่ี บทที่ 10 การพัฒนา ประเมนิ ผล หลักสูตรสถานศึกษา 1. ผสู้ อนทบทวนเกยี่ วกับ 1. Power สอบถาม 13-14 1. ความหมายของหลักสูตร แนวคดิ แนวปฏบิ ตั ขิ อง Point ตรวจชน้ิ งาน สถานศกึ ษา หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษา การจัดทา บนั ทกึ 2. ความสาคัญของ ขั้นพ้นื ฐาน ฯ โดยการซกั ถาม หลักสูตร การเรยี นรู้ หลักสูตรสถานศกึ ษา 2. นักศึกษาอา่ น นทิ าน สถานศกึ ษา (Learning 3. การพฒั นาหลักสูตร “หลักสตู รเถอื่ น” พร้อมตอบ 2. หลักสตู ร Log) สถานศกึ ษา คาถามเกีย่ วกบั เรอื่ งท่ีอ่านได้ แกนกลางฯ สงั เกต 4. การบริหารจัดการ แงค่ ิดอะไร ผ้สู อนถามโยงไปสู่ 3. ตวั อย่าง พฤตกิ รรม หลักสูตรสถานศึกษา ความจาเปน็ และความสาคัญ หลกั สตู ร 5.แนวทางการจัดทา ของการจดั ทาหลกั สตู ร สถานศึกษา หลักสตู รสถานศกึ ษา 3. ผู้สอนบรรยายเกยี่ วกบั ระดบั ตามหลักสตู รแกนกลาง กระบวนการพฒั นาหลกั สูตร ประถม การศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน สถานศึกษา ดว้ ย Power ศึกษาและ พุทธศักราช 2551 Point พร้อมซกั ถาม มธั ยมศกึ ษา 6. การตรวจสอบคุณภาพ 4. นกั ศกึ ษาเข้ากลมุ่ ตามความ 4. นทิ าน หลักสตู รสถานศกึ ษา สนใจ กล่มุ ละ 3 คน ลงมือ หลกั สตู รเถื่อน ปฏบิ ัตจิ ดั ทาหลักสูตร 5. ใบงาน สถานศกึ ษาแตล่ ะองค์ประกอบ การพัฒนา ไปพรอ้ มๆกับการฟังคาอธิบาย หลักสตู ร ของผ้สู อนตามลาดบั ใบงานท่ี สถานศกึ ษา 1- 7 6. ใบงาน 5. กล่มุ นาเสนองาน สมาชิกใน 7. แบบ หอ้ งรว่ มกันอภปิ รายซักถาม ประเมิน ผ้สู อนเติมเต็มความรู้ หลักสูตร 6. กลมุ่ ตรวจสอบพิจารณา สถานศึกษา องค์ประกอบหลักสตู ร 8. เอกสาร สถานศึกษาที่จัดทาขึน้ ตาม ประกอบ แบบประเมนิ ฯ การสอน 7. ผูส้ อนสรุปประเด็นสาคญั ใน การจดั ทาหลักสูตรสถานศึกษา พรอ้ มซักถาม 8. นกั ศึกษาสรปุ ความรทู้ ไ่ี ด้รบั 9. มอบหมายงานให้นกั ศึกษา ศกึ ษาแนวโน้มหลักสูตรใน ศตวรรษที่ 21
XXIV สัปดาห์ หวั ข้อ/รายละเอียด กิจกรรมการเรียนการสอน สือ่ การวัดและ ท่ี บทที่ 11 แนวโน้ม ประเมินผล 15 หลกั สูตรในศตวรรษท่ี 1. ผูส้ อนทบทวนความรเู้ กย่ี วกบั 1. Power สอบถาม 16 21 การพัฒนาหลกั สตู รในภาพรวม Point ตรวจช้ินงาน 1. กรอบความคดิ หลัก ทเี่ รียนมาแล้ว โดยการซกั ถาม แนวโน้ม บนั ทึก สาหรบั ทักษะแห่ง 2. นกั ศึกษาชมวดิ ีทัศน์ หลกั สตู รใน การเรยี นรู้ ศตวรรษที่ 21 “การจดั การเรยี นร้ใู นศตวรรษท่ี ศตวรรษที่ 21 (Learning 2. คุณลกั ษณะทสี่ าคัญ 21” 2. วดิ ีทัศน์ Log) ของผู้เรยี นและครูใน 3. ผสู้ อนและนกั ศกึ ษารว่ มกัน การจดั การ สังเกต ศตวรรษท่ี 21 อภิปรายเก่ียวกับเนือ้ หาสาระท่ี เรียนรใู้ น พฤตกิ รรม 3. แนวโน้มหลักสตู รใน นาเสนอใน วดิ ที ัศน์ ศตวรรษที่ 21 ศตวรรษท่ี 21 ในประเด็น คุณลักษณะผู้เรียน 3. เอกสาร 4. หลกั สูตรมาตรฐาน เนือ้ หาสาระท่ีจะเรียนรู้ แนวคิด ประกอบ มาตรฐานชาติกบั การ การจดั การเรียนรู้ และแนวโน้ม การสอน ตอบสนองความต้องการ ของหลักสูตรทีค่ วรจะเปน็ ของสังคมในศตวรรษที่ 4. นกั ศึกษาเข้ากล่มุ 5-6 คน 21 เลือกประเด็นท่กี ลุ่มสนใจและ ร่วมวิเคราะหส์ รปุ องค์ความรใู้ น สอบปลายภาค รปู แบบผงั กราฟฟกิ พร้อมยกตัวอยา่ ง 5. กลุ่มนาเสนอรายงานผล การศึกษา สมาชกิ ในชนั้ ร่วมกนั อภิปรายซกั ถาม 6. ผู้สอนสรปุ ประเด็นสาคญั ของ เนอื้ หาแนวโน้มหลักสตู รใน ศตวรรษท่ี 21 ดว้ ย Power Point พรอ้ มซกั ถาม 7. นักศึกษาสรปุ องคค์ วามรู้ที่ได้ ในรูปแบบผังกราฟฟกิ เปน็ ของ ตนเอง
แผนบรหิ ารการสอนประจาบทที่ 1 ความรู้พืน้ ฐานการพัฒนาหลักสูตร จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม หลงั ศึกษาบทเรยี นนี้แล้ว นักศึกษาควรมีความสามารถ ดงั น้ี 1. วิเคราะห์และบอกความหมายของหลกั สตู รได้ 2. วิเคราะห์และอธิบายความสาคัญของหลักสตู รได้ 3. วิเคราะห์และอธบิ ายความสาคัญของแต่ละองคป์ ระกอบของหลกั สูตรได้ 4. เขียนและนาเสนอตารางเปรียบเทียบองค์ประกอบหลักสูตรจากแนวคิดของนักการศึกษา ได้ 5. วเิ คราะหค์ วามสอดคลอ้ งของหลกั สูตรแตล่ ะระดับของหลกั สูตรได้ 6. วิเคราะหแ์ ละอธิบายลักษณะหลักสูตรทด่ี ีได้ 7. เขียนผังกราฟฟิกการวิเคราะห์และสรุปแนวคิดเก่ียวกับ “โรงเรียนฝึกสัตว์” โดยใช้ความรู้ ความหมาย ความสาคัญ องค์ประกอบ และลักษณะทดี่ ีของหลกั สูตรเป็นฐานในการวิเคราะหไ์ ด้ 8. เสนอแนวคิดพร้อมยกตัวอย่างทแี่ สดงถึงความสาคญั จาเป็นของหลักสูตรได้ 9 ทางานร่วมกับผอู้ ่ืนไดแ้ ละมีความรบั ผิดชอบตอ่ งานท่ไี ดร้ บั มอบหมาย เน้อื หา 1. ความหมายของหลักสูตร 2. ความสาคัญของหลกั สูตร 3. องคป์ ระกอบของหลกั สตู ร 4. ระดับของหลักสตู ร 5. ลกั ษณะของหลกั สตู รที่ดี วธิ ีการสอน 1. วิธสี อน 1.1 วิธสี อนแบบอภปิ ราย 1.2 วิธสี อนแบบบรรยาย 2. เทคนิคการสอน 2.1 การใชค้ าถาม 2.2 กรณตี ัวอยา่ ง 2.3 การใช้ผังกราฟฟิก
2 3. กิจกรรมการเรยี นการสอน ขั้นนา 3.1 ทกั ทายนกั ศึกษา ทากจิ กรรม “มารจู้ ักกันเถอะ” 3.2 ผู้สอนแจ้งวัตถุประสงค์ อธิบายกรอบการเรียนรู้ของรายวิชาโดยการบรรยายสรุป เนื้อหาสาระและช้ินงานที่จะเกิดขน้ึ ในการเรียนรคู้ ร้ังน้ีด้วย Microsoft Power Point พรอ้ มซักถาม 3.3 ซักถามนกั ศึกษา ทบทวนความรเู้ บื้องตน้ เกีย่ วกับหลักสูตร ขน้ั สอน 3.4 นกั ศึกษาอา่ นนิทาน “โรงเรียนฝกึ สัตว์” พรอ้ มรว่ มกันอภปิ ราย ในประเดน็ 3.4.1 รสู้ กึ อยา่ งไรกับเรือ่ งท่อี ่าน 3.4.2 หากปรบั ได้อยากปรบั เปล่ยี นอะไร 3.4.3 หลักสูตรมคี วามสาคัญอยา่ งไรตามแนวคิดของนักศึกษา 3.5 นักศึกษาแบ่งกลุ่มย่อยศึกษาเน้ือหา “ความหมายของหลักสูตร องค์ประกอบ ของหลักสูตร ระดับของหลักสูตรและลักษณะหลักสูตรที่ดี” จากแนวคิดของนักการศึกษาไทยและ นกั การศกึ ษาต่างประเทศ สรุปเป็นในรปู แบบผังความคิด นาเสนอกล่มุ 3.6 นักศึกษาและผู้สอนร่วมกันอภิปราย เปรียบเทียบที่สาคัญขององค์ประกอบ หลักสูตร และ สอดคล้องของหลกั สตู รแต่ละระดบั ของหลกั สตู ร 3.7 นักศึกษาวิเคราะห์เปรียบเทียบความสอดคล้องของหลักสูตรแต่ละระดับและ พิจารณาความสอดคล้อง แผนบริหารการสอนประจาวิชากับองค์ประกอบหลักสูตรและลักษณะท่ีดี ของหลกั สูตร ขนั้ สรุป 3.8 ผู้สอนนาเสนอสรุปเน้ือหาของบทเรียน ด้วย Microsoft Power Point พรอ้ มตอบขอ้ คาถาม 3.9 นักศึกษาเขียนผังกราฟฟิกการวิเคราะห์และสรุปแนวคิดเก่ียวกับ “โรงเรียน ฝกึ สัตว์”โดยใช้ความรู้ ความหมาย ความสาคญั องค์ประกอบ และลักษณะที่ดีของหลักสตู รเป็นฐาน ในการวเิ คราะห์ 3.10 ตอบคาถามท้ายบท และบนั ทึกการเรยี นรู้ (Learning Log) สอื่ การเรยี นการสอน 1. Microsoft Power Point 1.1 ความหมายของหลักสูตร 1.2 ความสาคัญของหลกั สตู ร 1.3 องคป์ ระกอบของหลักสูตร 1.4 ระดับของหลักสูตร 1.5 ลกั ษณะของหลกั สตู รทีด่ ี 2. กรณีศึกษา “โรงเรียนฝึกสัตว์” 3. Course Syllabus ของรายวิชาการพัฒนาหลักสตู ร
3 4. เอกสารประการสอนรายวชิ าการพฒั นาหลกั สูตร การวัดและประเมินผล หลงั ศกึ ษาบทเรียนนี้แลว้ นักศกึ ษาควรมีความสามารถ ดงั น้ี พฤติกรรม วธิ ีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์การผา่ น 1. วเิ คราะห์และบอกความหมายของ พฤติกรรมการ หลักสตู รได้ แสดงออกทั้งการ 2. วเิ คราะห์และอธบิ ายความสาคญั ของ สงั เกต แบบสงั เกต ตอบคาถาม /การ หลักสูตรได้ การตอบคาถาม พฤติกรรม รว่ มอภิปราย/ 3. วเิ คราะห์และอธบิ ายความสาคัญของ และอภิปราย การทางานกลุ่ม แตล่ ะองคป์ ระกอบของหลกั สูตรได้ ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 4. เขยี นและนาเสนอตารางเปรยี บเทียบ ตรวจชนิ้ งาน แบบประเมนิ 80 องคป์ ระกอบหลักสตู รจากแนวคดิ ของ ชน้ิ งาน ช้นิ งานทีท่ า นกั การศึกษาได้ สอดคล้องกับ 5. วเิ คราะหค์ วามสอดคล้องของหลกั สตู ร สงั เกต แบบสงั เกต วตั ถุประสงค์ แตล่ ะระดับของหลักสูตรได้ การตอบคาถาม พฤติกรรม ครอบคลุมเนอื้ หา 6. วิเคราะหแ์ ละอธบิ ายลกั ษณะหลกั สูตร และอภิปราย เสนอความ ที่ดีได้ คิดเห็น 7. เขียนผังกราฟฟกิ การวิเคราะหแ์ ละ ชัดเจน สรปุ แนวคิดเก่ยี วกบั “โรงเรียนฝกึ สัตว์” สง่ งานตรงเวลา โดยใชค้ วามรู้ ความหมาย ความสาคญั ตรวจชิน้ งาน / แบบประเมิน ผ่านร้อยละ 80 องค์ประกอบ และลักษณะที่ดีของ บันทึกการเรยี นรู้ ช้นิ งาน หลกั สตู รเป็นฐานการวิเคราะหไ์ ด้ (Learning Log) 8. เสนอแนวคิดพร้อมยกตวั อย่างท่ี แสดงถึงความสาคญั จาเปน็ ของหลกั สตู ร ได้ 9. ทางานร่วมกับผูอ้ นื่ ได้และมีความ สงั เกตการทางาน แบบสงั เกต รบั ผดิ ชอบตอ่ งานท่ีไดร้ บั มอบหมาย กลุ่ม /ตรวจ พฤติกรรม/ ช้ินงาน/บันทกึ แบบประเมิน การเรยี นรู้ ช้นิ งาน (Learning Log)
บทท่ี 1 ความร้พู ้ืนฐานการพฒั นาหลกั สตู ร หลักสูตรเป็นเครื่องมือสาคัญท่ีใช้กากับทิศทางการจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาคนให้เป็นคนที่ สมบูรณ์และมีคุณภาพท้ังความรู้ มีทักษะการใช้ชีวิต และสามารถดารงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมี ความสุขและมีความพร้อมที่จะพัฒนาสังคมให้เกิดสันติสุข หลักสูตรต้องสนองต่อความมุ่งหมายและ หลักการการจัดการศึกษาและการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง การปกครองและสังคมของ ประเทศ ในบทนจ้ี ึงเร่ิมต้นด้วยการเรียนรู้ ความหมาย ความสาคัญ องคป์ ระกอบหลักสูตร ระดับของ หลักสูตร และ ลักษณะหลกั สูตรท่ีดีสาหรับเป็นความรู้พ้ืนฐานในการเรียนรู้ไปสู่การพัฒนาหลักสตู รได้ อย่างมีคุณภาพ ความหมายของหลกั สูตร หลักสูตรเป็นตัวกาหนดกรอบแนวคิดและทิศทางการจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาความ เป็น พลเมืองของประเทศให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพน้ัน เพ่ือให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันและส่ือสารกันได้ อย่างชัดเจน จึงมีความจาเป็นสาหรับนักพัฒนาหลักสูตร หรือผู้สนใจ ต้องรู้และเข้าใจคาว่า “หลักสูตร” ให้ความหมายที่ตรงกันกับคาว่า “หลักสูตร” เป็นคาท่ีแปลมาจากภาษาอังกฤษว่า “Curriculum” มีรากศัพท์มาจากภาษาลาตินว่า \"Currere\" แปลวา่ The course to run หมายถึง เส้นทางท่ีจะต้องว่ิงไป (ธวัชชัย ชัยจิรฉายากุล, 2540 : 5) คานี้นามาใช้เป็นคร้ังแรกใน ค.ศ. 1630 โดยมหาวิทยาลัยกลาสโกว์ ต่อมาศัพท์คาน้ีมาใช้ในทางการศึกษาว่า \"Running Sequence of Course or Learning Experiences\" หมายถึงการจบหลักสูตรใด ๆ จาเป็นต้อง ฝ่าฟันความยากของ วชิ าหรอื ประสบการณก์ ารเรียนรู้ต่างๆ เปรียบเหมอื นนกั ว่งิ ท่ีต้องวง่ิ ฝ่าฟนั อปุ สรรคเพ่อื ให้ไดร้ บั ชยั ชนะ ในสมัยก่อนประเทศไทยใช้คาว่าหลักสูตรในภาษาอังกฤษว่า Syllabus ซ่ึงปรากฏใน หลักสตู รมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ และปลาย พทุ ธศกั ราช 2503 โดยใชฉ้ บับภาษาอังกฤษว่า \"Syllabus for Lower Secondary Education B.E. 2503\" คาว่า Syllabus ใช้คาภาษาไทยว่า “ประมวลรายวิชา” ต่อมาได้เปลี่ยนมาใช้คาว่า “Curriculum” แทน โดยปรากฏในหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้น พุทธศักราช 2521 (ฉบับปรับปรุง 2533) ฉบับภาษาอังกฤษเรียกว่า “Lower Secondary School Curriculum B.E. 2521 (Revised Edition B.E. 2533)” และมีการปรับหลักสูตรของชาติ 2 คร้ัง โดยใช้คาว่า “Curriculum” จนถึงปัจจุบัน ในปีพุทธศักราช 2544 ปรับเป็น “หลักสูตรการศึกษา ข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2544” ฉบับภาษาอังกฤษเรียกว่า “Basic Education Curriculum2001” และปัจจบุ ันใช้ “หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551” ฉบับภาษาอังกฤษเรยี น ว่า “The Basic Education Core Curriculum B.E. 2551 (A.D. 2008)” สาหรับเอกสารฉบับนี้ จะกล่าวถึงความหมายของหลักสูตรโดยใช้คา “Curriculum” ในการสืบค้นความหมายของหลักสูตร ท้งั ในอดตี และปัจจุบนั ซง่ึ มีนักการศึกษาให้ความหมายไว้ดงั นี้ สงัด อุทรานนั ท์ (2532 : 16) กลา่ ว หลักสูตร หมายถึง ลักษณะใดลักษณะหนึ่งตอ่ ไปน้ี
6 1. หลักสูตร คือ สิ่งท่ีสร้างข้ึนในลักษณะของรายวิชา ซ่ึงประกอบไปด้วยเนื้อสาระที่จัด เรยี งลาดบั ความยากงา่ ย หรือเปน็ ข้ันตอนอยา่ งดีแล้ว 2. หลกั สูตร ประกอบดว้ ยประสบการณ์ทางการเรยี นซึ่งได้วางแผนลว่ งหน้าเพื่อมุ่งหวังจะ ใหเ้ ด็กไดเ้ ปลยี่ นแปลงพฤติกรรมในทางท่ตี ้องการ 3. หลักสูตร เป็นสิ่งที่สังคมสร้างขึ้นสาหรับให้ประสบการณ์ทางการศึกษาแก่เด็กใน โรงเรียน 4. หลักสูตร ประกอบด้วยมวลประสบการณ์ท้ังหมดของผู้เรียน ซึ่งเขาได้ทาได้รับรู้ และ ได้ตอบสนองต่อการแนะแนวของโรงเรียน แก้วตา คณะวรรณ (2535 : 3) กล่าวว่า หลักสูตร หมายถึง แผนการเรียนการสอนท่ี ประกอบด้วย วัตถุประสงค์ท่ีระบุถึงการเรียนรู้ที่ต้องการให้เกิดข้ึน สาระความรู้และประสบการณ์ การเลือกกิจกรรมการเรียนการสอนและส่อื การประเมนิ ผลการเรยี นรู้โดยองค์ประกอบเหล่านก้ี าหนด ขนึ้ เพอ่ื ให้ผู้เรียนเปลย่ี นพฤตกิ รรมไปตามวัตถุประสงค์ ใจทิพย์ เช้ือรัตนพงษ์ (2539 : 3) กล่าวว่าความหมายของหลักสูตรมีผู้กล่าวถึงกันมากมี 5 ประการคอื โดยใชค้ าย่อว่า “SOPEA” ประกอบดว้ ย Curriculum as Subjects and Subject Matter S : หลกั สูตร คือ รายวชิ าหรอื เนอ้ื หาวิชาท่เี รียน Curriculum as Objectives O : หลักสูตร คือ จุดหมายทผ่ี ้เู รียนพงึ บรรลุ Curriculum as Plans P : หลักสูตร คือ แผนสาหรับจัดโอกาสการเรียนรู้หรือประสบการณ์ท่ีคาดหวังแก่ นกั เรยี น Curriculum as Learners’ Experiences E : หลกั สตู ร คอื ประสบการณท์ ั้งปวงของผู้เรียนมาจัดโดยโรงเรียน Curriculum as Educational Activities A : หลักสตู ร คอื กจิ กรรมทางการศึกษาที่จดั ใหก้ บั ผู้เรียน ธวัชชัย ชัยจิรฉายากุล (2540 : 12) กล่าวว่า หลักสูตร หมายถึง แผนการเรียนรู้และ ประสบการณ์หรือกิจกรรมท้ังหลายที่โรงเรียนจัดให้แก่ผู้เรียน จากความหมายดังกล่าว หลักสูตร จะต้องประกอบด้วยสองส่วนใหญ่ คือ ส่วนที่เป็นแผนการเรียนรู้ กับประสบการณ์หรือกิจกรรมการ เรียนรทู้ เี่ กิดข้ึนจรงิ ธารง บัวศรี (2542 : 6) กล่าวว่า หลักสูตร คือ แผนซึ่งได้ออกแบบจัดทาขึ้นเพ่ือแสดง จุดมุ่งหมายการจัดเน้ือหาสาระกิจกรรมและมวลประสบการณ์ในแต่ละโปรแกรมการศึกษา เพ่ือให้ ผเู้ รยี นมพี ฒั นาการในดา้ นต่าง ๆ ตามจุดหมายท่ไี ด้กาหนดไว้ วิชัย วงษ์ใหญ่ (2554 : 6) ได้ให้ความหมายหลักสูตร ใน 2 ความหมาย คือ ความหมาย แคบของหลักสูตร คือ วิชาที่สอน ส่วนความหมายท่ีกว้างของหลักสูตร คือ มวลประสบการณ์ ทงั้ หลายที่จดั ให้ผู้เรียนทงั้ ภายในและภายนอกสถานศกึ ษา ซงึ่ เป็นทัง้ ทางตรงและทางอ้อม
7 ไทเลอร์ (Tyler, 1949 : 128) ได้สรุปความหมายของหลักสูตรว่า เป็นส่ิงที่เด็กจะต้อง เรียนรทู้ ้ังหมด โดยมโี รงเรียนเป็นผวู้ างแผนและกากับเพือ่ ใหบ้ รรลถุ ึงจุดหมายของการศึกษา ทาบา (Taba, 1962 : 11) ให้ความหมายของหลักสูตร วา่ เปน็ แผนสาหรบั การเรียนรู้ กู๊ด (Good, 1973 : 157) กล่าวว่า หลักสูตร หมายถึง กลุ่มรายวิชาที่จัดไว้อย่างเป็น ระบบ หรอื ลาดับวิชาทีบ่ ังคับสาหรบั การจบการศึกษา หรอื เพอ่ื รับประกาศนียบัตรในสาขาวิชาหลกั ๆ เช่น หลักสตู รสงั คมศกึ ษา หลกั สตู รพลศึกษา แทนเนอร์และแทนเนอร์ (Tanner & Tanner,1980 : 43) กล่าวว่า หลักสูตรเป็น การสร้างความรู้และประสบการณ์โดยพัฒนาขึ้นมาอย่างเป็นระบบภายใต้การดูแลของโรงเรียน วิทยาลัยหรือมหาวทิ ยาลัยเพื่อช่วยใหผ้ เู้ รยี นสามารถเพิ่มการควบคุมความรู้ และประสบการณ์ เซยเลอร์ อเล็กซานเดอร์ และเลวิส (Saylor, Alexander and Lewis. 1981 : 8) ให้ความหมายของหลักสูตรว่า เป็นแผนการเรียนการสอนท่ีจัดโอกาสการเรียนรู้ให้แก่บุคคลท่ีได้รับ การศกึ ษา โพสเนอร์ (Posner,1992 : 23) ให้ความหมายของหลกั สูตรไว้ 2 แนว คือ 1. หลักสูตร คือ เนื้อหาหรือวัตถุประสงค์ท่ีโรงเรียนทาให้นักเรียนมีคุณลักษณะท่ีดี ยุทธวิธีการเรียนการสอนท่ีครูวางแผนใช้ตามความแตกต่างด้านแนวคิดข้ึนอยู่กับความแตกต่าง ระหว่างหลกั สตู รในฐานะเปน็ เป้าหมายของการศกึ ษา เช่น ผลการเรียนร้ทู ี่คาดหวงั ไว้ และหลักสตู รใน ฐานะเปน็ วธิ ที คี่ าดหวงั ทางการศึกษา 2. หลักสูตร คือ สภาพที่แท้จริงของนักเรียนมากกว่าท่ีจะเป็นวิธีการที่วางแผนเอาไว้ หรือเป็นประสบการณห์ รือการเรียนรู้ มารช์ และวิลลส์ (Marsh & Willis, 1995 : 35) กล่ าวถึ งความหมายว่า หลั กสู ตร เป็นความสัมพันธ์เก่ียวกับแผนการและประสบการณ์เพ่ือผู้เรียนอันเป็นการดาเนินการด้วยการชี้นา แนวทางของสถานศกึ ษา โอลิวา (Oliva, 2009 : 3) กล่าวถึงความหมายของหลักสูตร ซึ่งแบ่งเป็นการให้นิยามโดย ยึดจุดประสงค์ บรบิ ทหรือสภาพแวดลอ้ ม และวธิ ดี าเนินการหรือยทุ ธศาสตร์ ดังน้ี 1. การให้นิยามโดยยึดจุดประสงค์ (Purpose) หลักสูตรจึงมีภาระหน้าที่ท่ีจะทาให้ผู้เรียน ควรจะเป็นอย่างไร หรือมีลักษณะอย่างไร หลักสูตรในแนวคิดน้ีจึงมีความหมายในลักษณะที่เป็น วธิ ีการทน่ี าไปสู่ความสาเร็จตามจุดประสงคห์ รือจดุ มุ่งหมายน้ัน เช่น หลักสูตร คือ การถ่ายทอดมรดก ทางวัฒนธรรม หลกั สตู ร คือ การพัฒนาทกั ษะการคดิ ผู้เรยี น เปน็ ต้น 2. การให้นิยามโดยยึดบริบทหรือสภาพแวดล้อม (Contexts) นิยามของหลักสูตร ในลักษณะน้ีจึงเปน็ การอธิบายถงึ ลักษณะทัว่ ไปของหลักสตู รซง่ึ แลว้ แต่ว่าเนื้อหาสาระของหลกั สูตรน้ัน มีลักษณะเป็นอย่างไร เช่น หลักสูตรที่ยึดเนื้อหาวิชา หรือหลักสูตรท่ียึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง หรือ หลักสูตรที่เนน้ การปฏิรูปสังคม เปน็ ตน้ 3. การให้นิยามโดยยึดวิธีดาเนินการหรือยุทธศาสตร์ (Strategies) เป็นการให้นิยามใน เชิงวิธีดาเนินการท่ีเป็นกระบวนการ ยุทธศาสตร์หรือเทคนิควิธีการในการจัดการเรียนการสอน เช่น หลักสูตร คือ กระบวนการแก้ปัญหา หลักสูตร คือ การอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม การทางานกลุ่ม หลักสูตร คอื การเรยี นร้เู ป็นรายบุคคล หลักสูตร คือ โครงการหรอื แผนการจัดการเรยี นการสอน เป็นต้น
8 นอกจากน้ี โอลิวา (Oliva,2009 อ้างใน มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2540 : 6) ไดต้ คี วามคาวา่ หลักสตู รในความหมายอน่ื ดงั นี้ 1. หลักสูตร เปน็ สง่ิ ท่ีสอนในโรงเรยี น 2. หลักสูตร เปน็ กล่มุ ของวิชา 3. หลักสตู ร เปน็ เนือ้ หาสาระ 4. หลักสตู ร เปน็ โปรแกรมการศกึ ษา 5. หลกั สตู ร เป็นสื่อการเรยี นการสอนชดุ หน่งึ 6. หลักสตู ร เปน็ ลาดับของรายวชิ า 7. หลักสูตร เปน็ กลมุ่ ของจดุ มุ่งหมายเชงิ ปฏิบตั ิ 8. หลักสูตร เปน็ รายวชิ าทตี่ ้องศกึ ษา 9. หลักสูตร เป็นทุกสิ่งที่ดาเนินการในโรงเรียน ร่วมถึงกิจกรรมนอกห้องเรียน การแนะ แนว และความสมั พนั ธ์ระหว่างบุคคล 10. หลักสูตร เป็นส่ิงท่ีสอนท้ังในโรงเรียนและนอกโรงเรียนภายใต้การดาเนินการโดย โรงเรยี น 11. หลกั สตู ร เป็นทกุ ส่ิงทกุ อย่างท่ีวางแผนโดยบคุ ลากรในโรงเรียน 12. หลกั สตู ร เป็นชดุ ประสบการณท์ ี่ปฏิบัตโิ ดยผูเ้ รยี นในโรงเรยี น 13. หลักสูตร เป็นสงิ่ ทผี่ ู้เรียนแต่ละคนมปี ระสบการณอ์ ันเป็นผลจากการเรยี นการสอน โอลิวา ได้สรุปความหมายของหลักสูตรไว้ว่า หลักสูตร คือ แผนงานหรือโครงการจัด ประสบการณ์ทั้งหมดให้แก่ผู้เรียน ภายใต้การดาเนินงานของโรงเรียน ในทางปฏิบัติหลักสูตร ประกอบด้วยแผนการต่างๆ ท่ีเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร และมีขอบเขตกว้าง เป็นแนวทางการจัด ประสบการณ์การเรียนรู้ หลักสตู รอาจแยกเป็นหน่วย (Unit) เป็นรายวชิ า (Course) หรอื เป็นรายวิชา ยอ่ ยต่างๆ (Sequence of Courses) แผนงานหรอื โครงการทางการศึกษาดงั กล่าว อาจจัดขน้ึ ได้ท้งั ใน และนอกชนั้ เรยี นหรอื โรงเรียนกไ็ ด้ จากนิยามความหมายที่ นักการศึกษา นักพัฒนาหลักสูตรให้ความหมายของหลักสูตรไว้ มากมายแตกต่างกันตามแนวคิดและความเช่ือพื้นฐานของแต่ละบุคคล ซ่ึงสามารถสรุปได้ 2 ลักษณะ คอื 1. หลักสูตร ในความหมายของเนื้อหาสาระ กิจกรรมการเรียนการสอนท่ีจัดขึ้นภายใต้ การดแู ลของโรงเรยี น 2. หลักสูตร ในความหมาย ประสบการณ์ทางการเรียนท้ังหมดท่ีโรงเรียนจัดให้แก่ นักเรยี น เพ่อื ช่วยใหน้ กั เรียนเจรญิ เตบิ โตเปน็ คนดี ในสังคมท่ดี ี สรุปว่า หลักสูตร มีความหมายในสองนัย คือ เนื้อหาสาระและแผนการจัดประสบการณ์ 1) เน้ือหาสาระ หมายถึง ความรู้ที่ต้องการให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ มีท้ังเป็นข้อเท็จจริง และกระบวนการ ความคิดพื้นฐาน มโนทัศน์และระบบการคิด 2) แผนการจัดประสบการณ์ หมายถึง แผนการจัด กิจกรรมการเรียนรู้และประสบการณ์ที่พัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะในการที่จะ ดารงชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุขซ่ึงเป็นประสบการณ์ท่ีได้จากการเรียนรู้ท้ังในและนอกโรงเรียน ร่วมกิจกรรมทางสังคมภายใตก้ ารดแู ลของโรงเรียน
9 ความสาคญั ของหลกั สตู ร หลักสูตรเปรียบเสมือนหางเสือท่ีใชเ้ ป็นตัวกากบั ในการพฒั นาคนและใช้เป็นแนวทางในการ จัดการเรียนการสอนเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางการศึกษาของประเทศ นอกจากน้ียังเป็นหน่ึงใน ตัวชี้วัดสาคัญของมาตรฐานการศึกษาในแต่ละประเทศ ทั้งน้ีเพราะการศึกษาของแต่ละประเทศจะดี หรือไม่ดีนั้นข้ึนอยู่กับหลักสูตรและการนาหลักสูตรไปใช้ หลักสูตร ยังมีความสาคัญต่อการจัดการ เรียนการสอนในหอ้ งเรียน โดยผ้สู อนจะใช้หลักสูตรเป็นเสมือนแม่แบบในการดาเนินกิจกรรมการเรยี น การสอน เพื่อให้การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนไม่หลงทางและบรรลุวัตถุประสงค์ท่ีต้ังไว้อย่าง ครบถ้วน สาหรับความสาคัญของหลักสตู รกบั ผ้เู รยี น หากหลักสตู รนัน้ เปน็ หลักสูตรทีด่ ีจะสามารถช่วย ให้ผู้เรียนเกิดทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต รวมถึงสร้างทักษะอื่นๆที่สามารถใช้ในการดาเนินชีวิตอยู่ ร่วมกบั ผอู้ นื่ ไดอ้ ยา่ งมีสขุ รว่ มถงึ การสร้างสรรค์สงั คมใหน้ า่ อยู่ นกั การศึกษาหลายท่านได้แสดงทัศนะและความคิดเห็นท่ีเก่ียวกับความสาคัญของหลกั สูตร ว่าหลักสูตรมีความสาคัญอยา่ งไรตอ่ การจดั การศึกษา ซึ่งสว่ นใหญ่เห็นตรงกันว่าหลักสูตรมีความสาคัญ ตอ่ การกาหนดมาตรฐานและคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ทั้งน้ี เพื่อให้แน่ใจว่าผู้เรยี นในแตล่ ะวัยแต่ ละระดับการศึกษาได้รบั การศึกษาทม่ี ีคุณภาพทัดเทียมกนั หรือไม่ อยา่ งไร ซึง่ จะมีผลกระทบต่อผู้เรียน ว่าควรเรียนร้สู าระการเรยี นรอู้ ะไร มีเนื้อหาสาระมากนอ้ ยเพียงใด จากการศึกษาคน้ ควา้ เอกสารพบว่า มนี ักการศกึ ษาไดก้ ลา่ วถงึ ความสาคญั ของหลกั สูตรไวโ้ ดยสรุป ดงั น้ี แก้วตา คณะวรรณ (2535 : 8-9) กล่าวถึง หลักสูตรความสาคัญว่า 2 ระดับ คือ มีความสาคญั ตอ่ การศึกษาระดับชาติ และต่อการเรียนการสอนทีเ่ กดิ ขน้ึ จรงิ ในหอ้ งเรยี น 1. ในระดับชาติ หลักสูตรจะทาหน้าที่กากับแนวทางในการจัดการศึกษาให้สอดคล้อง สัมพันธ์กัน ตงั้ แต่ระดับชาติไปจนถึงระดับปฏิบัติของครู เพอื่ สร้างพลเมืองท่ีมีคณุ ภาพ เช่น นโยบายที่ รัฐกาหนดให้การศึกษาระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐานเป็นการศึกษาเพื่อปวงชน และได้กาหนดต่อไปว่า ปวงชนทั่วไปควรต้องมีความรู้อะไร ควรจัดการเรียนการสอนวิชาใดมีการกาหนดโครงสร้างเวลากี่ ช่ัวโมงต่อสัปดาห์ และเด็กทุกคนทม่ี ีอายุครบเกณฑ์ 6 ปีบริบรู ณ์ตอ้ งเขา้ รับการศกึ ษา ทัง้ ในระบบและ นอกระบบโรงเรยี น ตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของผ้เู รยี น เปน็ ตน้ 2. ในระดับปฏบิ ัตทิ ี่ครูมหี น้าทีอ่ บรมสอนนักเรียน หลักสูตรมคี วามสาคัญเพราะ เป็นแผน ที่กาหนดไว้แล้ว หากจะทาการสอนความรู้เร่ืองใด มีวัตถุประสงค์อย่างไร สอนอะไร ทาอะไรได้ ให้ประสบการณ์อย่างไร สอนหรือจัดกิจกรรมอย่างไร และวัดผลอย่างไร การรู้อย่างชัดเจนล่วงหน้า ทาให้การปฏิบัติเป็นไปอย่างราบรื่น ต่อเน่ือง และประสบความสาเร็จมากกว่าการไม่เตรียมการ ล่วงหน้า หลักสูตรจงึ เป็นเสมือนเขม็ ทิศทางการสอนให้ไปสู่เปา้ หมาย ใจทิพย์ เชื้อรัตนพงษ์ (2539 : 10-12) ได้กล่าวถึงความสาคัญของหลักสูตรไว้ 2 แนว คือ ความสาคัญของหลักสตู รต่อการศึกษา และความสาคัญของหลักสูตรตอ่ การสอน 1. ความสาคัญของหลักสูตรต่อการศึกษา เพ่ือเป็นแนวทางและเกณฑ์มาตรฐานทาง การศึกษาสาหรับควบคุมการเรียนการสอนในแต่ละระดับการศึกษา การท่ีจะทราบว่าการศึกษาใน ระดับต่างๆ จะดีหรือไม่ดี สามารถศึกษาได้จากหลักสูตรการศึกษาในระดับน้ันๆ ของประเทศเพราะ หลักสูตรเป็นเคร่ืองมือในการแปลงจุดมุ่งหมายและนโยบายทางการศึกษาของชาติสู่การปฏิบัติใน สถานศึกษาระดับต่างๆ หลักสูตรจะเป็นเสมือนกับหางเสือท่ีจะคอยกาหนดทิศทางให้การเรียน
10 การสอนเป็นไปตามความความมุ่งหมายของการศึกษา หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ หลักสูตรเป็น เครื่องมือช้ีนาทางในการจัดความรู้และประสบการณ์แก่ผู้เรียนซึ่งครูจะต้องปฏิบัติตามเพ่ือให้ผู้เรียน ได้รบั การศึกษาท่ีมุ่งสู่จุดหมายเดียวกัน หลักสูตรจึงเป็นหัวใจสาคัญของการศึกษา และเปน็ เครื่องชี้ถึง ความเจริญของชาติ ถ้าประเทศใดมีหลักสตู รท่ีเหมาะสม ทันสมัย และมีประสทิ ธภิ าพ คนในประเทศ นั้นก็ย่อมมคี วามรแู้ ละศักยภาพในการพัฒนาประเทศได้อยา่ งเตม็ ที่ 2. ความสาคัญของหลักสูตรต่อการสอน เป็นแม่บทสาคัญต่อการจัดการศึกษาในทุก ระดับและทุกสาขาวิชา หลักสูตรจะระบุสิ่งท่ีคาดหวังจะให้เกิดข้ึนกับผู้เรียนและแนวทางในการจัดให้ ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ต่างๆ ตามต้องการ หลักสูตรจึงเปรียบเสมือนกับพิมพ์เขียวของแปลนบ้าน ทีใ่ ช้ในการสร้างบา้ น มีการแสดงถงึ โครงสรา้ งหรอื องค์ประกอบของบ้าน เช่น พ้ืน เสา หนา้ ตา่ ง ประตู โครงหลังคา ฯลฯ รูปแบบของบ้านในพิมพ์เขียวจึงเป็นภาพรวมของส่ิงที่เรามุ่งหวังหรือจุดมุ่งหมาย ปลายทาง (The End) ของสิ่งท่ีเราต้องการ ส่วนการสอนเป็นกระบวนการหรือวิธีการ (The Means) ที่ประกอบด้วย กิจกรรมการเรียนรู้หรือเนื้อหาวิชา ซึ่งจะทาให้ผู้เรียนบรรลุหรือจุดประสงค์ตามที่ หลักสูตรระบุไว้ ครูผู้สอนต้องอาศัยหลักสูตรเพ่ือช่วยในการสอนโดยศึกษาหลักสูตรให้เข้าใจ แล้ว นาไปแปลงเป็นภาคปฏิบัติหรือการสอน เพ่ือให้ได้ผลการเรียนรู้ตามท่ีคาดหวังไว้ (เป็นข้ันการนา หลักสูตรไปใช้) การสอนจึงเปรียบได้กับกระบวนการก่อสร้างบ้าน ช่างก่อสร้าง (ซ่ึงเปรียบได้กับครู) ต้องอาศยั แปลนบ้านในการก่อสรา้ ง หรอื เราอาจจะเปรียบเทียบหลักสตู รเปน็ เสมอื นกับแผนท่เี ดินเรือ ซ่ึงแสดงเส้นทางและทิศทางท่ีจะไปให้ถึงจุดหมายปลายทางที่เราต้องการ ครูผู้สอนเปรียบเสมือน กัปตันเรือท่ีจะนาพาผู้เรียนซ่ึงเปรียบเสมือนผู้โดยสารไปให้ถึงท่ีหมาย กัปตันเรือต้องอาศัยแผนท่ี เดินเรือเพื่อช่วยในการขับเรือและนาทาง ดังนั้นกัปตันเรือจึงต้องสามารถอ่านแผนที่ เดินเรือ ซึ่งเปรียบเสมือนหลกั สูตรให้เข้าใจก่อนว่าต้องการไปไหน ไปทาไม และไปอย่างไร รวมทงั้ ตอ้ งรู้วธิ กี าร ขบั เรือ ซึ่งหมายถึงการสอนน้ันเอง แม้วา่ หลักสูตรและการสอนจะแตกต่างกนั แต่ก็มคี วามสัมพันธ์กัน อย่างมาก ท้ังสองสิ่งจะไม่สามารถทาหน้าท่ีได้ดีหากแยกออกจากกัน หลักสูตรและการสอนยังมี อทิ ธิพลตอ่ กนั และกัน ธารง บัวศรี (2542 : 9 -10 ) ได้กล่าวว่าความสาคัญของหลักสูตรไว้ 2 แนวทาง คือ ความสาคญั ของหลักสูตรตอ่ การศึกษาส่วนรวม และความสาคัญของหลักสตู รต่อการเรยี นการสอน 1. ความสาคัญของหลักสูตรต่อการศึกษาส่วนรวม หลักสูตรเป็นเคร่ืองมือท่ีถ่ายทอด เจตนารมณ์ หรือเป้าประสงค์ของการศึกษาของชาติ ลงสู่การปฏิบัติ อาจกล่าวได้ว่าหลักสูตรคือส่ิงท่ี นาเอาความมุ่งหมายและนโยบายการศึกษา ไปแปลงเป็นการกระทาขั้นพ้ืนฐานในโรงเรียนหรือ สถานศึกษา ถ้าจะกล่าวว่าหลักสตู รคือหัวใจของการศกึ ษาก็คงไมผ่ ดิ เพราะถ้าปราศจากหลักสูตรแล้ว การศึกษาก็ย่อมดาเนินต่อไปไม่ได้ ในการจัดการศึกษานั้น ส่ิงสาคัญประการหน่ึงคือการกาหนด มาตรฐานเพื่อให้แน่ใจว่าผู้เรียนแต่ละวัยและแต่ละระดับการศึกษาได้รับการศึกษาท่ีมีคุณภาพ ทัดเทียมกัน โดยมีรายละเอียดท่ีบ่งช้ีว่า ผู้เรียนควรเรียนรู้อะไร มีเน้ือหาสาระมากน้อยเพียงไร ควรได้รับการฝกึ ฝนใหม้ ีทักษะในดา้ นใด และควรมีพัฒนาการท้ังในส่วนของร่างกาย จิตใจ สงั คม และ สติปัญญาอย่างไร 2. ความสาคัญของหลักสูตรต่อการเรียนการสอน หลักสูตรเป็นสิ่งที่ช้ีให้เห็นแนวทางใน การจัดมวลประสบการณ์แก่ผู้เรียนหลักสูตรจึงเปรียบเสมือนแผนท่ีเดินเรือซึ่งบอกให้กัปตันหรือ
11 ครูสอนรู้ว่าจะต้องต้ังเข็มทิศไปทางใดและจุดมุ่งหมายปลายทางของการเรียนการสอนคืออะไร และ ระหว่างทางที่ไปจะต้องทาอะไรบ้างเป็นต้นว่าต้องใช้สื่อหรืออุปกรณ์ช่วย หรือต้องมีการตรวจสอบ ประเมินผล หรือต้องปรับปรุงวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่ง ในการเรียนการสอนนั้นตัวผู้เรียนเองก็ จาเป็นต้องทราบล่วงหน้าว่า จะได้เรียนรู้อะไร และจะได้รับผลอย่างไร นอกจากน้ีจะต้องเตรียมการ อย่างไร จึงจะสามารถเรียนรู้และได้รับความสาเร็จตามความมุ่งหมาย การที่การเรียนการสอนจะ บรรลุผลได้ท้ังผู้เรียนและผู้สอนจะต้องมีส่ิงที่ช่วยกาหนดแนวทาง เพ่ือให้แต่ละฝ่ายปฏิบัติหน้าที่ได้ สอดคล้องและสนับสนุนซึ่งกันและกันส่ิงท่ีกล่าวนั้นก็คือหลักสูตร ถ้าหากไม่มีหลักสูตรก็สอนไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าจะสอนอะไร หรอื ถ้าจะสอนโดยคิดเอาเองก็จะเกิดความสับสน โดยท่ีอาจสอนซ้าไปซ้ามา ไม่เรียงลาดับตามที่ควรจะเป็น ผลการเรียนรู้อาจไม่เป็นไป ตามท่ีคาดไว้ผู้เรียนเรียนก็จะมี ความลาบากใจ เพราะไม่ทราบว่าสิ่งท่ีเรียนไปน้ัน สามารถนาไปเปรียบเทียบได้ในระดับใดชั้นใด การเรียนการสอนคือการนาหลักสูตรไปแปลงเปน็ ภาคปฏิบตั จิ ริงฉนั ใด ผ้เู รยี นผู้สอนกจ็ าเปน็ ต้องอาศัย หลักสูตรเพ่ือช่วยในการเรียนการสอนฉันน้ัน หลักสูตรจึงมีความสาคัญต่อการเรียนการสอนอย่างยิ่ง และเป็นความจาเป็นที่ครูผู้สอนจะต้องศึกษาหลักสูตรให้เข้าใจอย่างถ่องแท้พร้อมท้ังช่วยให้ผู้เรียน มีความเข้าใจดว้ ย วิชัย วงษ์ใหญ่ (2554 : 7) ได้กล่าวถึงว่า หลักสตู รมีความสาคัญและจาเป็นสาหรับการจัด การศึกษาของประเทศในระดับและประเภทต่างๆ ตั้งแต่การจัดการศึกษาผู้เรียนก่อนวัยเรียน การประถมศึกษา การมัธยมศึกษา การศึกษานอกระบบ การศึกษาประเภทอาชีวศึกษาและการ อุดมศึกษา รวมทั้งการฝึกอบรมทั้งระยะส้ันและระยะยาว ซึ่งหลักสูตรเป็นเครื่องมือท่ีทาให้ความมุ่งหมาย ของการจดั การศึกษาของประเทศมปี ระสิทธภิ าพ ความสาคญั ของหลกั สูตรสรปุ ได้ดงั นี้ 1. หลักสูตรเปน็ แผนหรือแนวทางในการจัดการศกึ ษาของชาติให้บรรลุตามความมุ่งหมาย และนโยบาย 2. หลักสูตรเป็นหลักหรือแนวทางในการวางแผนวิชาการ การจัดและการบริหาร การศึกษา การสรรหาและการพัฒนาบุคลากร การจัดวัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือ นวัตกรรมการเรียนการสอน งบประมาณ อาคารสถานที่ ซึ่งจาเป็นต้องได้รับการพิจารณาให้เหมาะสมและสอดคล้องกับความ คาดหวังของหลกั สตู ร 3. หลกั สตู รเป็นเคร่ืองมอื ในการควบคุมมาตรฐานการศึกษาของสถานศกึ ษา และคุณภาพ ของผู้เรียนให้เป็นไปตามนโยบายแผนการศึกษาชาติ และสอดคล้องกับความต้องการของแต่ละ ท้องถ่ิน 4. หลักสูตรเป็นเครื่องมือบ่งชี้ทิศทางการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ให้มีคุณภาพและ สอดคลอ้ งกับแนวโน้มการพฒั นาสังคมของประเทศ 5. ระบบหลักสูตรจะกาหนดความมุ่งหมาย ขอบข่ายเน้ือหา แนวทางการจัดประสบการณ์ การเรียนการสอน แหล่งทรัพยากร และการประเมินผล สาหรับการจัดการศึกษาของผู้สอนและ ผ้บู รหิ าร จากแนวคิดท่ีกล่าวมาข้างต้นของนักการศึกษาสามารถสรุปได้วา่ หลักสูตรมีความสาคัญใน การจดั การศกึ ษา 3 ระดับ คอื
12 1. ระดับประเทศ เป็นการชี้ให้เห็นถึงแนวทางการจัดการศึกษาโดยภาพรวมและเป็นตัว บง่ ชใี้ ห้เห็นแนวโน้มสงั คมกับการจดั การศกึ ษาในอนาคต 1.1 หลักสูตรจะเป็นส่ิงที่บ่งช้ีถึงความเจริญของประเทศ เพราะการศึกษาเป็น เครื่องมือในการพัฒนาคน ประเทศใดจัดการศึกษาโดยมีหลักสูตรท่ีเหมาะสม ทันสมยั มปี ระสิทธิภาพ ทนั ตอ่ เหตกุ ารณแ์ ละการเปลี่ยนแปลงย่อมได้กาลงั คนท่ีมีประสิทธิภาพสูง 1.2 หลักสูตรเป็นเอกสารของทางราชการ เป็นบัญญัติของรัฐบาล หรอื เปน็ ธรรมนูญ ในการจดั การศกึ ษา เพ่ือใหบ้ คุ คลท่ีเก่ยี วข้องกับการศึกษาปฏิบตั ิตาม 1.3 หลักสูตรเป็นเกณฑ์มาตรฐานการศึกษา เพื่อควบคุมการเรียนการสอนใน สถานศึกษาระดับต่างๆ และยงั เปน็ เกณฑม์ าตรฐานอยา่ งหนึ่งในการจดั สรรงบประมาณ 1.4 หลักสตู รเปน็ แนวทางในการปฏบิ ัติงานนโยบายการจดั การศึกษาของรัฐบาล 1.5 หลักสูตรเป็นเคร่ืองมือกาหนดและลักษณะรูปร่างของสังคมในอนาคตได้ว่า จะเป็นไปในรปู ใด 1.6 หลักสูตรเป็นเคร่ืองมือกาหนดแนวทางให้ความรู้ ทักษะ ความสามารถ ความประพฤติที่จะเป็นประโยชน์ต่อสังคม อันเป็นการพัฒนากาลังคนซึ่งจะนาไปสู่การพัฒนา เศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาตทิ ่ไี ด้ผล 2. ระดับสถานศึกษา ซึ่งนับได้ว่าหลักสูตรเป็นหัวใจและจุดเด่นของการจัดการเรียน การสอนในสถานศกึ ษานนั้ ๆ 2.1 หลักสูตรเป็นแผนการดาเนินงานของผู้บริหารการศึกษา ท่ีจะอานวย ความสะดวกและควบคมุ ดแู ลตดิ ตามใหเ้ ป็นไปตามคุณภาพมาตรฐานหลักสูตร 2.2 หลักสูตรกาหนดกรอบคุณภาพมาตรฐานผู้เรียน โครงสร้างเวลาเรียน เน้ือหาวิชา กิจกรรม และแนวทางการวัดประเมินผลสาหรับสถานศึกษานาไปปรับให้สอดคล้องกับบริบทของ สถานศกึ ษาและความต้องการของท้องถิน่ 3. ระดับห้องเรยี น หลักสูตรจึงมีความสาคัญตอ่ การนาไปสู่การปฏิบัติ เพื่อจัดการเรียนรู้ ทเ่ี กิดกับผู้เรยี นโดยตรง 3.1 หลักสูตรเปน็ เอกสารที่ให้รายละเอียดและเอกสารประกอบทก่ี าหนดแนวทางว่า จะสอนใครเรือ่ งใด เพอื่ อะไร 3.2 หลักสูตรเป็นแผนปฏิบัติงานหรือเครื่องชี้แนวทางปฏิบัติงานของครู เพราะ หลักสูตรจะกาหนดจุดมุ่งหมาย เนื้อหาสาระ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนและการประเมินผลไว้เป็น แนวทางการปฏิบตั ิ 3.3 หลักสูตรกาหนดวธิ ีการดาเนินชวี ติ ของเด็กใหเ้ ป็นไปด้วยความราบร่ืนและผาสุข 3.4 หลักสูตรกาหนดแนวทางความรู้ ความสามารถ ความประพฤติ ทักษะและ เจตคติในอันทีจ่ ะอยรู่ ่วมกันในสงั คม และบาเพญ็ ประโยชน์ตอ่ ชมุ ชนและประเทศ จ าก แน วคิ ด ขอ งนั ก กา รศึ ก ษ า อธิ บ า ย ถึ งค วา ม ส า คัญ ข องห ลั ก สู ต ร อา จ ะ ส รุป ได้ ดั งน้ี ความสาคัญของหลักสูตรระดับชาติ เป็นหลักสูตรแม่บทท่ีใช้เป็นแนวทางและเกณฑ์มาตรฐานทาง การศึกษาสาหรับควบคมุ การเรียนการสอนในแต่ละระดบั การศึกษาและเป็นเคร่ืองชี้ถึงความเจริญของ ชาติ ความสาคัญของหลักสูตรระดับสถานศึกษา เป็นเคร่ืองมือในการแปลงจุดมุ่งหมายและนโยบาย
13 ทางการศึกษาของชาตสิ ู่การปฏิบัติในสถานศึกษาท่ีสอดคล้องและเหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษา และท้องถ่ินนั้นๆ ในการกาหนดกรอบคุณภาพมาตรฐานผู้เรียน โครงสร้างเวลาเรียน เนื้อหาวิชา กิจกรรม และแนวทางการวัดประเมินผล ส่วนความสาคัญของหลักสูตรระดับห้องเรียนหรือระดับ การเรยี นการสอนที่เกิดข้ึนจรงิ ในหอ้ งเรียน เป็นส่ิงทชี่ ี้ให้เหน็ แนวทางสาหรับครูผสู้ อนในการจดั เนื้อหา สาระและมวลประสบการณ์แก่ผู้เรียนว่าจะต้องจัดการเรียนการสอนอย่างไรจึงจะบรรลเุ ป้าหมายของ หลักสูตรระดับสถานศึกษาเพื่อให้บรรลุเป้าประสงค์หรือสอดคล้องตามเจตนารมณ์ของการศึกษาของ ชาติ หลกั สตู รจงึ เป็นหวั ใจสาคญั ของการศกึ ษา องคป์ ระกอบของหลักสตู ร การพฒั นาหลักสูตรให้เป็นหลักสูตรท่ีสมบูรณ์ ควรมอี งค์ประกอบที่สาคัญอะไรบ้างที่จะทา ให้การออกแบบและพัฒนาหลักสูตรเป็นไปอย่างครอบคลุมและชัดเจน เนื่องจากหลักสูตรเป็น เครื่องมือที่กาหนดทิศทาง วิธีการจัดการเรียนการสอนให้สนองตอบตามเป้าหมายท่ีวางไว้อย่างมี ประสิทธิภาพ จากการศึกษาเอกสารพบว่ามีนักการศึกษาหลายท่านได้กล่าวถึงองค์ประกอบที่สาคัญ ของหลักสูตรไว้สอดคล้องกัน โดยผู้เขียนได้ยึด คาถามสาคัญ ของ ไทเลอร์ (Tyler,1950 : 41 อ้างใน สงดั อุทรานนั ท์, 2530 : 83-84) เป็นแนวทางในการวิเคราะห์องคป์ ระกอบหลักสตู รท่ีนักการศึกษาทั้ง ในประเทศและต่างประเทศเสนอไว้ ได้แก่ สุมิตร คุณานุกร (2523), สงดั อุทรานันท์ (2532), แก้วตา คณะวรรณ (2535), ธวัชชัย ชัยจิรยฉายากุล (2540), ธารง บัวศรี (2542), วิชัย วงษ์ใหญ่(2554), ทาบา (Taba,1962), โบแซมพ์ (Beauchamp, 1981), สตารค์ และ แลตทูคา (Stark and Lattuca, 2009) โดยใช้ 4 คาถามสาคัญในการพิจารณาองค์ประกอบหลักสูตรที่นักการศึกษาได้เสนอไว้ ดงั ตารางท่ี 1 ตารางที่ 1 วเิ คราะหอ์ งค์ประกอบหลักสูตร นักการศึกษาไทย นักการศึกษาตา่ งประเทศ องคป์ ระกอบ สุมิตร ุคณา ุนกร หลกั สูตร สงัด อุทรา ันน ์ท แ ้กวตา คณะวรรณ ธวัชชัย ชัยจิรยฉายากุล ธารง บัวศรี วิชัย วงษ์ใหญ่ ไทเลอ ์ร ทาบา โบแซม ์พ สตาร ์คและแลต ูทคา รวม 1. มีวัตถุประสงค์ทางการศึกษาอะไรท่โี รงเรียนควรจะบรรจุและกาหนด จุดหมาย / 1 จุดมงุ่ หมาย / /2 วตั ถปุ ระสงค์ // / 3
14 นกั การศกึ ษา ตารางที่ 1 วเิ คราะหอ์ งคป์ ระกอบหลกั สตู ร (ต่อ) ต่างประเทศ นกั การศึกษาไทย องค์ประกอบ หลักสตู ร สุมิตร คุณานุกร ส ังด อุทรานันท์ แ ้กวตา คณะวรรณ ธวัชชัย ชัย ิจรยฉายากุล ธารง ับวศรี วิชัย วงษ์ให ่ญ ไทเลอร์ ทาบา โบแซม ์พ สตาร ์คและแลตทูคา รวม เป้าหมาย / 1 1 ความมุง่ หมาย / 1 1 เป้าประสงค์และ / 1 นโยบายการศึกษา 1 จดุ ประสงค์ของวชิ า / 1 2 จุดมงุ่ หมายของ / หลักสตู ร 4 จดุ ประสงคข์ อง / 1 การเรยี นการสอน 1 การกาหนด / 2 จดุ ประสงค์ 1 การกาหนดเปา้ หมาย // 1 หรอื วัตถปุ ระสงค์ เฉพาะ 2. จะมวี ธิ ีเลือกประสบการณ์การเรยี นรู้อย่างไร จึงจะเกิดประโยชนบ์ รรลุตามวัตถุประสงค์ เน้ือหา / // / เนอ้ื หาสาระและ / การจัดการสอน สาระความรแู้ ละ / ประสบการณ์ การเลือกเน้ือหาและ // ประสบการณ์ การจดั เนือ้ หาสาระ / การจดั ลาดับสาระ / การเรยี นรู้
15 นักการศกึ ษา ตารางที่ 1 วเิ คราะห์องค์ประกอบหลกั สตู ร (ตอ่ ) ตา่ งประเทศ นักการศึกษาไทย องคป์ ระกอบ หลักสตู ร สุมิตร คุณานุกร ส ังด อุทรานันท์ แ ้กวตา คณะวรรณ ธวัชชัย ชัย ิจรยฉายากุล ธารง ับวศรี วิชัย วงษ์ให ่ญ ไทเลอร์ ทาบา โบแซม ์พ สตารค์และแลตทูคา รวม การเลือก /1 ประสบการณ์ การเรยี นรู้ การกาหนดขอบขา่ ย /1 ของเน้ือหาสาระ 3. จะดาเนนิ การจดั ประสบการณ์การเรยี นร้อู ย่างไร เพ่ือจะทาใหก้ ารเรียนการสอนมปี ระสทิ ธภิ าพ การจัดประสบการณ์ / // 3 การเรียนการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียน / 1 การสอนและสือ่ / กิจกรรมการเรยี น 1 การสอน /1 กระบวนการเรยี น การสอน 4. ประสบการณ์การเรยี นรทู้ มี่ ีประสทิ ธิภาพจะถูกประเมนิ อย่างไร การประเมนิ ผล // // // / 7 วิธกี ารวัดและ / 1 ประเมินผลการเรียน /1 การประเมินผล หลกั สูตร 5 ประเดน็ อื่นๆ รูปแบบและโครงสร้าง / 1 หลักสตู ร
16 นักการศึกษา ตารางที่ 1 วเิ คราะห์องค์ประกอบหลักสตู ร (ต่อ) ตา่ งประเทศ นักการศกึ ษาไทย องคป์ ระกอบ หลกั สูตร สุมิตร คุณานุกร ส ังด อุทรานันท์ แ ้กวตา คณะวรรณ ธวัชชัย ชัย ิจรยฉายากุล ธารง ับวศรี วิชัย วงษ์ให ่ญ ไทเลอร์ ทาบา โบแซม ์พ สตารค์และแลตทูคา รวม การนาหลกั สูตรไปใช้ / 1 แนวทางหรือวิธกี าร ดาเนนิ การตาม /1 หลกั สตู ร ยุทธศาสตร์การเรียน /1 การสอน /1 วัสดุหลักสูตรและสื่อ การเรยี นการสอน /1 การวินิจฉยั /1 ความต้องการ /1 การวางแผนการใช้ /1 หลักสตู ร /1 การพิจารณาตดั สนิ /1 ทรัพยากรทาง การเรียนการสอน ผู้เรยี น การนาผลการประเมิน ไปใช้ในการปรับปรุง หลกั สูตร จากตารางท่ี 1 องค์ประกอบหลักสูตรที่นักการศึกษา นักพัฒนาหลักสูตรได้กล่าวมาขา้ งต้น มีการใช้คาหรือข้อความท่ีแตกต่างกัน เม่ือพิจารณาความหมายหรือคาอธิบายมีความหมายในทาง เดียวกันหรือมีความสอดคล้อง ซ่ึงแสดงให้เห็นองค์ประกอบสาคัญของหลักสูตร ซ่ึงจะช่วยให้ คณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรใช้เป็นแนวทางสาหรับสร้างและพัฒนาหลักสูตร และวางแผนในการ ออกแบบหลักสูตร ซ่ึงสามารถสรุปแนวคิดเกี่ยวกับองค์ประกอบของหลักสูตร 4 องค์ประกอบสาคัญ ดงั น้ี
17 1. วตั ถปุ ระสงค์ (Objective) 2. เนอ้ื หา (Subject Matter) 3. การจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ (Experience of Learning) 4. การประเมนิ ผล (Evaluation) แต่ละองค์ประกอบมีความสัมพันธ์กัน ในการพัฒนาลักสูตร Tyler ได้กล่าวไว้ว่าหาก กาหนดวัตถุประสงค์ของหลักสูตรได้ชัดเจนจะทาให้การพัฒนาองค์ประกอบอ่ืนๆ ของหลักสูตร มีได้ชัดเจนและง่ายต่อการออกแบบ และประการสาคัญแต่ละองค์ประกอบของหลักสูตรต้องมี ความสอดคล้องและเชือ่ มโยงกัน ดังรายละเอียดต่อไปนี้ 1. วตั ถุประสงค์ (Objective) มีความสาคัญย่ิงเน่ืองจากเปน็ ความมุ่งหวังที่จะใหเ้ กิดผลแก่ ผู้เรียนภายหลังการใช้หลักสูตร หรือสิ่งที่กาหนดคุณลักษณะที่พึงประสงค์ท่ีจะให้เกิดแก่ผู้เรียน เป็นพฤติกรรมที่สามารถวัดและประเมินได้ วัตถุประสงค์ยังเป็นแนวทางของการเรียนการสอน ทาให้ ผู้สอนรู้ว่าต้องสอนเนื้อหาอะไร สอนใคร สอนทาไม และจะมีวิธีการสอนและประเมินผลอย่างไร การกาหนดวัตถุประสงค์ในหลักสูตรแต่ละระดับควรสอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน สังคม และสภาพความเป็นจริง สามารถนาไปปฏิบัติได้ครอบคลุมและมีความสมดุลระหว่าง ความรู้ เจตคติ และทกั ษะ 2. เน้อื หาสาระ (Subject Matter) เป็นสาระของความรู้ และประสบการณ์สาคัญท่นี ามา เป็นเครื่องมือพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ความสามารถ และเกิดคุณลักษณะตามท่ีกาหนดไว้ใน วตั ถุประสงค์ รายละเอียดของเนือ้ สาระความรู้และประสบการณ์การเรียนรู้ที่นามากาหนดในหลักสูตร ควรพิจารณาในประเด็นตอ่ ไปน้ี 2.1 เนอื้ หาท่เี ป็นขอ้ เท็จจริงและกระบวนการ 2.2 เนือ้ หาทีเ่ ป็นความคิดพืน้ ฐาน 2.3 เนอ้ื หาท่เี ป็นมโนทศั น์ 2.4 เนื้อหาที่เปน็ ระบบความคิด โดยมีเกณฑ์พิจารณาเน้ือหา คือ มีแก่นสาระที่เช่ือถือได้ มีความสาคัญต่อการเรียนรู้ มีความสมดุล ระหว่างความกว้างและความลึก สนองวัตถุประสงค์ได้หลายอย่าง สอดคล้องกับวุฒิภาวะและ ประสบการณข์ องผู้เรยี น และสอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการและความสนใจของผูเ้ รยี น การจัดเนือ้ หาควรพิจารณา 1. จดั ลาดับจากงา่ ยไปยาก 2. จดั ตามความจาเปน็ ต้องเรยี นก่อนเรียนหลัง 3. จัดตามลาดบั ของกาลเวลา 4. จดั ตามหัวขอ้ เรือ่ ง 5. จัดจากส่วนรวมไปส่วนย่อยหรือจากส่วนยอ่ ยไปสว่ นรวม 3. การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ (Experience of Learning) เป็นการแปลงวัตถุประสงค์ และเน้ือหาสาระของหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติ โดยใช้วิธีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายเพ่ือให้ผู้เรียน มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนและคุณลักษณะตามจุดประสงค์ของหลักสูตร กิจกรรมการเรียนรู้เป็น การปฏสิ ัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกบั สถานการณ์ภายนอกที่ผู้เรียนมีปฏิกิริยาต่อการเรียนรู้ เกิดจากส่ิงที่
18 ผู้เรียนกระทามิใช่ครูกระทาจะเห็นว่าวัตถุประสงค์และเนื้อหาเป็นจุดหมายปลายทาง (End) แต่กิจกรรมการเรียนรู้หรือประสบการณ์การเรียนรู้ที่จัดข้ึนเป็นวิธีการ (Mean) ท่ีจะบรรลุจุดหมาย ปลายทาง การเลอื กกจิ กรรมการเรียนรู้หรือประสบการณ์การเรียนรคู้ วรพิจารณา 3.1 สอดคลอ้ งกบั จดุ มุง่ หมาย 3.2 สนองความตอ้ งการของผ้เู รยี น 3.3 มีความหมายต่อผเู้ รียน 3.4 เหมาะสมกบั วุฒภิ าวะ 3.5 ทาให้เกิดการเรียนรไู้ ด้เรว็ 3.6 มคี วามหลากหลาย 4. การประเมินผล (Evaluation) เป็นกระบวนการรวบรวมข้อมูลเพื่อตรวจสอบว่า ประสบการณ์การเรยี นรูท้ ่ีจัดขน้ึ ไดผ้ ลเป็นท่ีพงึ พอใจหรือมากน้อยเพยี งใด และเป็นการเสนอข้อมูลเพ่ือ การตัดสินใจเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงหรือเลือกวิธีการใหม่ การประเมินจะต้องให้สอดคล้ องกับ จุดมงุ่ หมายท่วี างไว้ ดังน้ันจึงสรุปได้ว่าในการสร้างหลักสูตรท้ังระดับชาติจนถึงระดับห้องเรียน จึงต้องคานึง ถึงองค์ประกอบสาคัญ 4 ส่วน คือ 1) วัตถุประสงค์ 2) เน้ือหา 3) การจัดประสบการณ์การเรียนรู้และ 4) การประเมินผล ซึ่งจะขาดองค์ประกอบใดองค์ประกอบหน่ึงไม่ได้ โดยเฉพาะวัตถุประสงค์เป็น องค์ประกอบท่ีบ่งบอกถึงทิศทางหรือเป้าหมายในการพัฒนาหรือบอกว่าจะสอนเพ่ืออะไร หากขาด เน้ือหาก็จะกาหนดไม่ได้ว่าจะสอนอะไร ซึ่งจะเช่ือมโยงไปถึงว่าจะสอนอย่างไร (กิจกรรมการเรียนรู้) เพอ่ื ให้บรรลวุ ัตถุประสงค์ และจะรู้ได้อย่างไรว่าเด็กบรรลุวัตถุประสงคข์ องหลักสตู รน้ัน ซงึ่ หมายความ วา่ องคป์ ระกอบการประเมนิ ผลก็ย่อมขาดไมไ่ ดเ้ ชน่ กัน ระดบั ของหลักสูตร การพัฒนาหลักสูตรมิได้จากัดขอบเขตเฉพาะในระดับกระทรวงศึกษาธิการหรือระดับชาติ เท่าน้ัน ในสภาพปัจจุบันการพัฒนาหลักสูตรต้องคานึงถึงบริบทของการนาหลักสูตรไปใช้ ซึ่งใน พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติได้เสนอให้มีการกระจายอานาจในการจัดการศึกษาซ่ึงรวมการ บริหารจัดการหลักสูตรไปสู่ผู้จัดการศึกษาในแต่ละระดับ ท้ังน้ีเพ่ือความชัดเจนในการกาหนด เป้าหมายของหลักสูตรในระดับต่างๆ และแนวปฏิบัติในการนาหลักสูตรไปใช้ให้สอดคล้องตรงกัน ภายใตม้ าตรฐานการจัดการศกึ ษา ซ่ึงมนี ักการศึกษาไทยและนักการศึกษาต่างประเทศ ซง่ึ ได้แก่ สมุ ติ ร คุณานุกร (2523), แก้วตา คณะวรรณ (2535), วิชัย วงษ์ใหญ่ (2537), ใจทิพย์ เช้ือรัตนพงษ์ (2539) , บุญชม ศรีสะอาด (2546), วารีรัตน์ แก้วอุไร, (2549), แม็คนีล (McNeil ,1981) และ แกลทฮอลน์ (Glatthorn, 2004 ) ได้เสนอระดับหลักสูตรไว้หลากหลายระดับ ซึ่งผู้เขียนได้วิเคราะห์แนวคิดของ นักการศกึ ษาเหล่าน้นั ดังตารางวิเคราะห์ระดบั หลักสตู ร ตารางท่ี 2
19 ตารางที่ 2 วิเคราะห์ระดบั หลกั สตู ร นกั การศกึ ษาไทย นกั การศึกษา ต่างประเทศ ระดบั หลักสตู ร สุ ิมตร คุณานุกร แ ้กวตา คณะวรรณ วิชัย วงษ์ให ่ญ ใจ ิทพ ์ย เชื่อรัตนพง ์ษ ุบญชม ศรีสะอาด วารีรัตน์ แ ้กวอุไร แ ็มคนีล แกลทฮอลน์ รวม หลกั สตู รระดับอุดมการณ์ / 1 7 หลกั สูตรระดับชาติ ////// / / 4 / / 4 หลักสตู รระดบั ท้องถ่นิ / // / / / หลกั สตู รระดบั โรงเรียน/ / / / / 5 สถานศึกษา 1 หลักสตู รระดบั ช้ันเรยี น/ / / / / 1 1 ห้องเรยี น 1 หลกั สูตรระดบั การรบั รู้ หลกั สูตรระดับปกติ หลกั สตู รระดับปฏบิ ตั ิการ หลักสูตรระดับ ประสบการณ์ จากตารางที่ 2 การนาเสนอระดับหลักสูตรของนักการศึกษาของไทยและนักการศึกษา ต่างประเทศ สามารถจาแนกระดับหลักสูตรได้ 4 ระดับ คือ หลักสูตรระดับชาติ หลักสูตรระดับ ทอ้ งถ่นิ หลักสตู รระดับสถานศกึ ษา และหลักสตู รระดับชั้นเรยี น ดังรายละเอยี ด 1. หลักสตู รระดบั ชาติ เป็นหลักสูตรท่ีถกู กาหนดโดย กระทรวงศึกษาธกิ าร เป็นหลกั สตู ร กลางท่ีใช้ท่ัวประเทศ เพ่ือให้การศึกษาข้ันพื้นฐานมีความเป็นอันหน่ึงอันเดียวกัน โดยระบุหลักการ แนวนโยบายการจัดการศึกษาของรัฐ ให้อิสระแก่ท้องถ่ิน โรงเรียนสามารถสร้างหลักสูตรด้านอาชีพ หรือวชิ าเลือกอ่นื ๆ ภายใตก้ ารกากับดแู ลขององคก์ รทางการศึกษาระดับท้องถ่นิ
20 2. หลักสูตรระดบั ท้องถน่ิ เป็นหลกั สตู รท่ีถูกกาหนดโดยเขตการศึกษา ซ่ึงจะทาการขยาย หรือปรับหลักสูตรระดับชาติให้สอดคล้องกับสภาพทางสังคม ภูมิศาสตร์และความต้องการของ ประชาชนในแต่ละเขตพ้ืนที่การศึกษา ซ่ึงอาจจะกาหนดใน กรอบคุณภาพผู้เรียน กรอบเนื้อหาสาระ และแนวทางการประเมนิ สาหรับกรอบเนื้อหาสาระที่จัดให้กับโรงเรยี นหรือสถานศกึ ษานาไปปรบั ใชใ้ ห้ สอดคลอ้ งกับบรบิ ทของทอ้ งถิ่นสามารถจดั ทาไดใ้ น 2 ลักษณะ คอื 2.1 หลักสูตรท้องถิ่นเป็นหลักสูตรสาหรับเสริมหลักสูตรกลางให้มีความสมบูรณ์ขึ้น หลักสูตรท้องถิ่นในลักษณะน้ีจะใช้รว่ มกับหลกั สตู รกลาง โดยอาจจัดเป็นวชิ าอิสระที่ให้เลือกเรียนหรือ จัดเป็นกิจกรรมหรือประสบการณ์ท่ีผู้สอนประยุกต์สาระ ทรัพยากร เทคนิควิธีของท้องถิ่นมา ประยกุ ต์ใชไ้ ด้ หลกั สูตรท้องถิ่นสร้างขน้ึ มีจดุ ม่งุ หมายสาหรับใชใ้ นชุมชนแห่งหน่งึ แหง่ ใดโดยเฉพาะ 2.2 หลักสูตรท้องถ่ินท่ีสร้างขึ้นเพื่อกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เป็นหลักสูตรระยะสั้นเพ่ือ ผู้เรียนในท้องถ่ิน ทุกวัย ทุกระดับอายุ เช่น หลักสูตรการจักสาน หลักสูตรการทาของชาร่วยจาก เปลอื กหอย เปน็ ตน้ 3. หลักสูตรระดับสถานศึกษา เป็นหลักสูตรท่ีสถานศึกษาจัดทาข้ึนเพื่อนาไปใช้จริง โดยนาหลักสูตรระดับชาติ หลักสูตรระดับท้องถิ่นมาปรับให้เป็นหลักสูตรสถานศึกษารวมทั้ง การพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษาขึ้นเอง โดยทางโรงเรียนทาหน้าที่ขยายและปรับโครงสร้างเวลาเรียน โครงสร้างหลกั สูตระดับชั้นปี คาอธิบายรายวชิ า รวมถงึ การวัดประเมินผล ท้งั นี้ให้มีความสอดคล้องกับ เปา้ หมายการพัฒนาคุณภาพผเู้ รียนของหลักสตู รระดบั ชาติ และหลกั สูตรระดบั ท้องถิ่น 4. หลักสูตรในระดับชั้นเรียน เป็นหลักสูตรที่ครูผู้สอนจัดทาข้ึนสาหรับใช้จัดการเรียน การสอนในชั้นเรียน โดยครูผู้สอนออกแบบและจัดตามกรอบมาตรฐานคุณภาพผู้เรียนตามหลักสูตร ระดับชาติ และหลักสูตรระดับสถานศึกษา โดยเชื่อมโยงมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้ีวัด กาหนดเป็น คาอธบิ ายรายวชิ า โครงสร้างรายวิชา นาไปสู่การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ พร้อมทั้งการประเมินผลการเรียน เพื่อสนับสนุนให้ผู้เรียนบรรลุผลสัมฤทธิ์ตามมาตรฐานหลักสูตร แกนกลางการศึกษาชาติ เมื่ อ พิ จารณ าระดั บ หลักสู ตรท่ี ใช้ ในประเทศไทย ณ ปั จจุบั นมี หลั กสู ตรเพี ยง 3 ระดับ ดงั ภาพที่ 1 (รุ่งทิวา จนั ทน์วัฒนวงษ์, 2552 : 5)
21 2551 ภาพท่ี 1 ระดบั หลักสตู ร การกาหนดระดับหลักสูตรเป็น 3 ระดับใช้เกณฑ์หน่วยงานที่รับผิดชอบในการพัฒนาและ หน่วยงานท่ีใชห้ ลักสตู ร ดังนี้ 1. หลักสูตรระดับชาติ (The National Curriculum) เป็นหลกั สตู รแมบ่ ทที่กาหนดกรอบ มาตรฐานคุณภาพของผู้เรียน การจัดการการศึกษา การวัดประเมินผลไว้เป็นมาตรฐานคุณภาพ ระดับชาติ เป็นแนวทางในการจัดการศึกษาสาหรับหน่วยงานทางการศึกษาท่ีจัดการศึกษาระดับ ข้ันพื้นฐาน คือ ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย นาไปปรับใช้ ให้สอดคล้องกับสภาพของสังคม ชุมชนท้องถิ่นน้ันๆ ทั้งน้ีต้องพัฒนาผู้เรียนให้ได้คุณภาพตาม มาตรฐานทก่ี าหนดไว้ คณะกรรมการการศึกษาขัน้ พน้ื ฐานเป็นผูจ้ ัดทาหลกั สตู รระดับชาติ 2. หลักสูตรระดับสถานศึกษา (The School Curriculum) เป็นการนาหลักสูตร ระดับชาติมาพัฒนาปรับปรุงให้สอดคล้องกบั สภาพทอ้ งถน่ิ ตามลักษณะทางธรรมชาตสิ ่ิงแวดล้อมและ ลักษณะพิเศษของท้องถิ่น เพ่ือให้เหมาะสมกับผู้เรียน ผู้ท่ีมีหน้าท่ีในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา หรอื หลักสูตรระดับท้องถ่ิน ไดแ้ ก่ เขตการศกึ ษาเป็นผู้กาหนดกรอบสาระการเรยี นรู้ท้องถิ่น โดยหนว่ ย ศึกษานิเทศก์ โรงเรียนเป็นผู้จัดทาหลักสูตรสถานศึกษาโดยผู้บริหารสถานศึกษาและคณะกรรมการ พัฒนาหลกั สูตรสถานศึกษา
22 3. หลักสูตรระดับช้ันเรียน (The Classroom Curriculum) เป็นการนาหลักสูตร สถานศึกษามาพัฒนาสกู่ ารจัดการเรยี นการสอนท่มี ีประสิทธิภาพเพ่ือให้บรรลุตามจุดมุง่ หมายที่วางไว้ ผู้ทีม่ หี นา้ ที่พฒั นาหลกั สตู รในระดบั น้ี คอื ครูผู้สอน โดยการสนบั สนุนของผ้บู ริหารสถานศกึ ษา ลักษณะของหลักสูตรที่ดี หลักสูตรที่ดีย่อมส่งผลดีต่อการบริหารหลักสูตร การจัดการเรียนรู้ในโรงเรียนและในชั้นเรียน กล่าวคือ หลักสูตรท่ดี ีจะเป็นแนวทางให้ผ้บู ริหารโรงเรียนนาไปปฏิบตั ิได้ดีมีประสิทธภิ าพ ครูสามารถ นาไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้เกิดผลดีต่อผู้เรียน โดยมีนักการศึกษาและนักพัฒนาหลักสูตร ได้แก่ อมรา เล็กเริงสินธ์ุ (2540), ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์ (2556), เซย์เลอร์ และอเล็กซานเดอร์ (Saylor and Alexander. 1974) ได้เสนอแนวคดิ เกย่ี วกบั หลักสตู รทด่ี ีไว้สอดคล้องกัน 3 ประการ คอื 1. กระบวนการสร้างหลักสตู ร 1.1 เป็นหลักสูตรที่ได้มาจากการวางแผนท่ีรัดกุม มีข้ันตอนในการดาเนินงานและ ตง้ั อยูบ่ นรากฐานท่ีเชอ่ื ถอื ได้ 1.2 เป็นหลักสูตรต้องเกิดจากความสนใจของผู้เรียนและสอดคล้องกับข้อมูลใน ชุมชน หลักสูตร ต้องเกิดจากผู้เก่ียวข้องในการสร้างหลักสูตรจากหลายฝ่าย ทั้งในสถานศึกษาและใน ชุมชน 1.3 เป็นหลักสูตรท่ีมีการกาหนดจุดมุ่งหมาย การเลือกเน้ือหาและการจัดเน้ือหา การจัดกระบวนการเรียนการสอน และการวัดประเมินผล ถูกต้องตามหลักการ ทฤษฎีการสร้าง หลักสตู ร 1.4 เป็นหลักสูตรที่มีทิศทางในการพัฒนาผู้เรียนตรงตามความมุ่งหมายของ การศึกษาของชาติเปน็ เคร่อื งมอื ทีช่ ่วยให้เป้าหมายทางการศึกษาบรรลุตามวตั ถปุ ระสงคท์ ่ีกาหนดไว้ 1.5 เป็นหลักสูตรท่ีสอดคล้องกับพื้นฐานที่สาคัญ ได้แก่ ปรัชญา จิตวิทยา สังคม เศรษฐกจิ และการปกครอง ตลอดจนวฒั นธรรม ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี และเอกลกั ษณ์ของชาติ 1.6 เป็นหลักสูตรท่ีมีกาหนดเน้ือหาสอดคล้องกับสภาพการดารงชีวิตของผู้เรียน ประสบการณต์ อ้ งเป็นสิ่งที่ใกลต้ ัว และสามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวนั ได้ 1.7 เปน็ หลกั สูตรท่จี ดั เน้ือหาและประสบการณไ์ ว้อย่างต่อเนื่อง 1.8 เปน็ หลกั สูตรควรสง่ เสริมความเจริญงอกงามในตัวผเู้ รียนทุกด้าน รวมท้งั สง่ เสริม ความคิดรเิ รม่ิ สร้างสรรค์ และช่วยให้ผ้เู รยี นแกป้ ญั หาได้เอง 2. กระบวนการนาหลักสตู รไปใช้ 2.1 เป็นหลักสูตรท่ีมีกระบวนการเรียนการสอน ท่ีเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้พัฒนา ความสามารถตามศักยภาพของผู้เรียน 2.2 เป็นหลกั สูตรท่ีมกี ารจดั การเรยี นการสอนท่ีเน้นผูเ้ รียนเปน็ สาคญั ต้องตอบสนอง ความสนใจของผู้เรยี น ให้อสิ ระในการเรียนรแู้ ก่ผู้เรยี น 2.3 เป็นหลักสูตรท่ีบอกแนวทางการสอน ส่ือการเรียนการสอน และแนวทางการวัด ประเมินผลไวอ้ ยา่ งเหมาะสม
23 3. กระบวนการประเมนิ หลักสตู ร 3.1 เป็นหลักสูตรที่มีการติดตามและประเมินผลเป็นระยะ เพื่อนาผลมาปรับปรุง พฒั นาหลักสูตรใหด้ ีขนึ้ 3.2 มีคณะกรรมการหรือหน่วยวัดและประเมินผล ที่รับผิดชอบในการพิจารณา ปัญหาและรวบรวมปัญหาจากบุคคลท่ีเก่ียวข้องทาหน้าท่ีการพิจารณา รวบรวม รายงาน เพื่อแก้ปัญหา และพฒั นาหลกั สตู รอย่างมรี ะบบ 3.3 เปน็ หลกั สูตรท่ียืดหยุ่นสามารถปรบั ปรุงเปล่ียนแปลงให้เหมาะสมกับผู้เรยี นและ บรบิ ทต่างๆ ได้ 3.4 เป็นหลักสูตรท่ีเปิดโอกาสให้ครู นักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชนและผู้เกี่ยวข้อง ไดแ้ สดงความคดิ เห็นและใหผ้ ลสะท้อนกลบั เพื่อการปรบั ปรงุ เปลีย่ นแปลงหลกั สตู ร ดังน้ัน ลักษณะของหลักสูตรที่ดีจะต้องเป็นหลักสูตรท่ีสนองเป้าหมายของการพัฒนา คุณภาพคนของชาติ ตรงตามความมุ่งหมายของการศึกษาของชาติ เป็นหลักสูตรที่เกิดจากแนวคิด ของบุคคลหลายฝ่ายท่ีเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างและพัฒนาหลักสูตร หลักสูตรยืดหยุ่น ปรับปรุง เปล่ียนแปลงให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ต่างๆได้ง่ายและนาไปปฏิบัติได้จริง ยึดผู้เรียนเป็นสาคัญ เนื้อหาและกิจกรรมต้องเหมาะสมกับ พ้ืนฐานธรรมชาติ และความต้องการของผู้เรียนส่งเสริมความ เจริญงอกงามในตัวผู้เรยี นทกุ ด้าน รวมท้ังส่งเสริมความคดิ รเิ ริ่มสร้างสรรค์ และช่วยให้ผู้เรยี นแก้ปัญหา ได้เอง หลักสูตรต้องครอบคลุมองค์ประกอบสาคัญ คือ วัตถุประสงค์ เน้ือหาสาระ วิธีการจัด ประสบการณ์ และการวัดประเมินผล หลักสูตรมีการติดตามและประเมินผลเป็นระยะ เพื่อนาผลมา ปรบั ปรงุ พฒั นาหลกั สูตรไดด้ ขี ึ้น บทสรปุ หลักสูตรเป็นเครื่องมือสาคัญสาหรับใช้ในการขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพของคนในชาติ หลักสูตรจึงเป็นหัวใจของจัดการการศึกษา ซ่ึงเป็นตัวกาหนดทิศทางที่จะนาไปสู่ความสาเร็จใน การพัฒนาคุณภาพการศึกษา ลักษณะของหลักสูตรที่ดีจะต้องเป็นหลักสูตรท่ีสนองเป้าหมายของ การพัฒนาคุณภาพคนของชาติ สอดคล้องกับความต้องการจาเป็นของสังคมประเทศชาติในทกุ ๆ ด้าน เป็นหลักสูตรที่ท้ังผู้สร้างผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการสร้างและพัฒนา เป็นหลักสูตรท่ีมีเน้ือหา สาระครอบคลุมข้อมูลที่ได้จากนักเรียน สังคม กระบวนการเรียนรู้ และสภาพท้องถิ่น เปิดโอกาสให้ ผู้เรียนได้เรียนรู้ตามความถนัด ความสนใจทั้งรายกลุ่มและรายบุคคล สามารถช่วยให้เกิดการเรียนรู้ ได้ตามจุดมุ่งหมาย สามารถวางแผนได้อย่างต่อเนื่อง และตงั้ อยู่บนรากฐานที่เช่ือถือได้ ส่ือความหมาย ได้อย่างชัดเจน สามารถนาไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการประเมินหลักสูตรที่เหมาะสมและ ประเมินอย่างเป็นระบบต่อเน่ือง นาผลการประเมินไปใช้ในการปรับปรุงพัฒนาหลักสูตรให้มี ประสิทธิภาพ หลักสูตรจึงมีความหมายครอบคลุมทั้ง เน้ือหาสาระและแผนการจัดกิจกรรม ประสบการณ์ท่ีพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะในการที่จะดารงชีวิตในสังคมได้อย่างมี ความสุขซึ่งเป็นประสบการณ์ท่ไี ด้จากการเรียนร้ทู ้ังในและนอกโรงเรียน ร่วมกิจกรรมทางสังคมภายใต้ การดูแลของโรงเรียน สรุปได้ว่าในการสร้างหลักสูตรทั้งระดับชาติ ระดับสถานศึกษา จนถึงระดับ ห้องเรียน จึงต้องคานึงถึงองค์ประกอบสาคัญ 4 ส่วน คือ 1) วัตถุประสงค์/จุดมุ่งหมาย/จุดประสงค์
24 2) เนื้อหา/ประสบการณ์ 3) วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้/การจัดประสบการณ์/วิธีสอน และ 4) การประเมินผล ซ่ึงจะขาดองค์ประกอบใดองค์ประกอบหน่ึงไม่ได้ โดยเฉพาะวัตถุประสงค์ เป็นองค์ประกอบท่ีบ่งบอกถึงทิศทางหรือเป้าหมายในการพัฒนาหรือบอกว่าจะสอนเพื่ออะไร หากขาด เนื้อหาก็จะกาหนดไม่ได้ว่าจะสอนอะไร ซึ่งจะเช่ือมโยงไปถึงว่าจะสอนอย่างไร (กิจกรรมการเรียนรู้) เพ่ือให้บรรลุวัตถุประสงค์ และจะรู้ได้อย่างไรว่าผู้เรียนบรรลุวัตถุประสงค์ของหลักสูตรนั้น ซ่ึงหมายความว่าองค์ประกอบการประเมินผลก็ย่อมขาดไม่ได้เช่นกัน จึงจะถือว่าเป็นลักษณะของ หลักสตู รท่ีดี
25 คาถามทบทวน ตอบคาถามต่อไปนี้ 1. จงบอกความหมายของหลักสตู รและยกตวั อยา่ งประกอบอยา่ งน้อย 4 ความหมาย 2. จงสรปุ ความหมายหลกั สูตรตามแนวคิดของตนเอง 3. จงอธิบายถึงความสาคัญความจาเป็นของหลักสูตรต่อการพัฒนาการศึกษาของคน ในชาติ 4. จงเขียนผังกราฟฟิกเปรียบเทียบแนวคิดเกี่ยวกับองค์ประกอบของหลักสูตรของ นกั การศกึ ษาและนักพฒั นาหลกั สตู รทต่ี นสนใจอย่างน้อย 4 ทา่ น 5. จงอธิบายองคป์ ระกอบสาคัญของหลักสูตรตามแนวคดิ ของตนเอง 6. จงวิเคราะห์ว่าองค์ประกอบใดของหลักสูตรท่ีมีความสาคัญความจาเป็นมากท่ีสุดใน พฒั นาหลักสูตรพรอ้ มบอกเหตุผล 7. จงสรุประดับหลกั สตู รในประเทศไทยมกี ่รี ะดบั อะไรบ้าง 8. ทาไมหลักสูตรแต่ละระดับจึงมีความจาเป็นต้องพัฒนาให้สอดคล้องกัน จงอธิบาย พรอ้ มยกตวั อยา่ งประกอบ 9. จงวิเคราะห์บทบาทของ ชุมชน ผู้บริหารโรงเรียน และครูผู้สอนมีความสาคัญใน การพัฒนาหลกั สูตรระดบั ใดมากทสี่ ุด เพราะเหตุใด 10. หลกั สูตรทดี่ คี วรมลี ักษณะอยา่ งไร เพราะเหตุใด จงอธิบาย พรอ้ มยกตวั อยา่ งประกอบ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438