มลู คา่ เพิม่ ทางเศรษฐกิจและสังคมตอ่ การลงทนุ ด้านความปลอดภยั ในสถานประกอบกิจการ จัดทาโดย สถาบนั สง่ เสริมความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)
มูลคา่ เพิม่ ทางเศรษฐกจิ และสังคมตอ่ การลงทนุ ดา้ นความปลอดภยั ในสถานประกอบกจิ การ ทีป่ รึกษา นายวรานนท์ ปตี ิวรรณ ผอู้ านวยการสถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน) นางจุฑาพนิต บุญดกี ุล รองผู้อานวยการสถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน) (วชิ าการ) คณะอนุกรรมการวชิ าการ สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน) อ.ดร.รพี พงษ์พานชิ คณะศลิ ปศาสตร์และวิทยาการจัดการ อ.ดร.พชั รี ผาสุข มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธริ าช อ.ดร.อนพุ งศ์ วงศ์ไชย คณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ผู้จัดทา ดร.ธนูศลิ ป์ สลีออ่ น ผอู้ านวยการสานกั วจิ ัยและพัฒนา ดร.ธนวรรณ ฤทธิชัย นกั วิจัยชานาญการ นางสาวสุภารัตน์ คะตา นกั วิจัยปฏิบัติการ นายพฤทธิพงศ์ สามสงั ข์ นักวจิ ยั ปฏิบตั กิ าร นางสาวกฤตติกา เหล่าวฒั นโรจน์ นักวจิ ยั ปฏบิ ตั ิการ นางสาวพชั พร ศรีสงวน นักความปลอดภยั และอาชวี อนามยั ปฏิบตั ิการ นางสาวอภสิ รา พระสมงิ นกั ความปลอดภยั และอาชวี อนามัยปฏบิ ตั ิการ ผูป้ ระสานงานโครงการ นางสาวปัญชลิกา ชนั ขนุ ทด เจา้ หนา้ ทีป่ ระสานงานโครงการ นางสาวเปรมยดุ า นวลศรี เจ้าหนา้ ท่ีประสานงานโครงการ เผยแพร่โดย สานกั วิจยั และพัฒนา สถาบันส่งเสริมความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน) โทรศพั ท์ 0 2448 9111 ต่อ 603 โทรสาร 0 2448 9098 ปที ี่จัดทา พ.ศ. 2563
มลู คา่ เพิ่มทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทนุ ด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ ก มูลคา่ เพ่มิ ทางเศรษฐกิจและสังคมต่อการลงทนุ ดา้ นความปลอดภยั ในสถานประกอบกจิ การ พฤทธิพงศ์ สามสังข์1, รพี พงษพ์ านชิ 2, พัชรี ผาสุข3, อนุพงศ์ วงศ์ไชย4, สภุ ารัตน์ คะตา1, ธนูศิลป์ สลอี อ่ น1, ธนวรรณ ฤทธชิ ยั 1, พชั พร ศรีสงวน1, อภิสรา พระสมิง1, ปญั ชลิกา ชันขนุ ทด1 1 สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน) 2 คณะศิลปศาสตรแ์ ละวิทยาการจัดการ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ 3 สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั สุโขทัยธรรมาธิราช 4 คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ วัตถุประสงค์ เพื่อสารวจมูลค่าการลงทุนด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ และวิเคราะห์หาความ คมุ้ ค่าในการลงทนุ มูลค่าเพิม่ ทางเศรษฐกจิ และสังคม วัสดุและวิธีการวิจัย สถานประกอบกิจการจานวน 30 แห่ง ได้รับการสัมภาษณ์เชิงลึกโดยใช้แบบสอบถามท่ี ผ่านการตรวจสอบความเท่ียงตรง (IOC=0.92) ประกอบด้วย 6 ส่วน ได้แก่ ข้อมูลท่ัวไป ข้อมูลการลงทุนด้าน ความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ จานวนการเกิดอุบัติเหตุตามระดับความรุนแรง ค่าใช้จ่ายกรณีเกิ ด อบุ ตั ิเหตุจากการทางาน ปัญหาและอุปสรรคในการดาเนินงานด้านความปลอดภยั ฯ และขอ้ เสนอแนะเพ่มิ เติม เก่ียวกับการพฒั นาด้านความปลอดภัย ฯ แล้วนามาวิเคราะห์ความค้มุ คา่ ในการลงทุน มูลค่าเพ่ิมทางเศรษฐกิจ และมลู ค่าเพ่มิ ทางสงั คม โดยใชก้ ารทดสอบทางสถิติ Mann-Whitney U ผลการศึกษา จากการศกึ ษาพบว่า สถานประกอบกิจการลงทุนด้านความปลอดภัย 1,342,508.60 บาท/แห่ง และมีต้นทุนการเกิดอุบัติเหตุอยทู่ ี่ 115,037.01 บาท/แห่ง เม่ือนามาวเิ คราะห์พบว่ามีความคุ้มค่าในการลงทุน คือ มีมูลค่าเทียบเท่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) 71,595.76 บาท/แห่ง อัตราผลตอบแทน ร้อยละ 77.11 และมี อัตราส่วนผลตอบแทนต่อต้นทุน 4.45 และพบว่าเกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกจิ 51,795.53 บาท หรอื 3,341.65 บาท/แห่ง นอกจากนี้ยังเกิดมูลค่าเพิ่มทางสังคม คือ สามารถลดอัตราการประสบอันตรายได้จาก 302 ราย เหลอื 294 ราย (p-value=0.136) สรุปผลการศึกษา จากผลการศึกษาครั้งน้ีพบว่าการลงทุนดา้ นความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการมีความ คุ้มค่าในการลงทุน รวมถึงก่อให้เกิดผลกาไรและมูลค่าเพ่ิมทางเศรษฐกิจและสังคม โดยสามารถลดอัตราการ ประสบอันตรายลงได้ คาสาคัญ มูลค่าเพมิ่ ทางเศรษฐกจิ และสงั คม การลงทุน ความปลอดภัยในการทางาน สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)
มูลคา่ เพิ่มทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทุนด้านความปลอดภยั ในสถานประกอบกิจการ ข กิตติกรรมประกาศ ผู้วิจัยขอขอบคุณสถานประกอบกิจการที่ให้ความอนุเคราะห์มอบหมายผู้ประสานงานเพื่อให้ข้อมูล สาหรบั การวจิ ยั ในครั้งนี้ ผ้วู จิ ยั ขอขอบคุณ อ.ดร.รพี พงษพ์ านิช อ.ดร.พชั รี ผาสุข และ อ.ดร.อนุพงศ์ วงศ์ไชย สาหรับการจดั ทา เคร่ืองมือที่ใช้สาหรับงานวิจัย วิเคราะห์ข้อมูลเฉพาะทางด้านเศรษฐศาสตร์ และให้คาปรึกษาท่ีดีเสมอมา โดย ผู้วิจัยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผลของการวิจัยคร้ังน้ีจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่สถานประกอบกิจการ เพื่อเป็น หลักฐานเชิงประจักษ์ว่าการลงทุนด้านความปลอดภัยไม่ใช่เป็นเพียงแค่การลงทุนที่เสียเปล่า แต่ยังสามารถ ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มท้ังทางเศรษฐกิจและสังคม เพ่ือลดอัตราการประสบอันตราย และลดการสูญเสียจากการ ทางาน การวิจัยเร่ือง มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมต่อการลงทุนด้านความปลอดภัยในสถานประกอบ กจิ การ ได้รับสนับสนุนงบประมาณจากสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการ ทางาน (องค์การมหาชน) คณะผวู้ ิจัย สานักวิจยั และพัฒนา สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน) สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)
มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทุนด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ ค สารบญั หนา้ ก หวั ข้อ ข บทคดั ยอ่ ค กติ ตกิ รรมประกาศ จ สารบัญ ฉ สารบญั ตาราง 1 สารบญั รปู ภาพ 3 บทที่ 1 : บทนา 3 3 1.1 คาถามการวจิ ยั 4 1.2 วตั ถุประสงค์ 6 1.3 สมมติฐาน 6 1.4 ตวั แปร 7 1.5 ขอบเขตการวิจัย 8 1.6 ประโยชน์ของการวจิ ยั 8 1.7 กรอบแนวคดิ 10 บทท่ี 2 : ทบทวนวรรณกรรม 16 2.1 แนวคดิ และทฤษฎีของการเกิดอุบตั เิ หตุ 18 2.2 แนวคิดเกยี่ วกบั ความปลอดภยั ในการทางาน 18 2.3 แนวคิดและทฤษฎีภูเขาน้าแขง็ 19 2.4 สมรรถนะ 21 2.5 มาตรฐานระบบการจดั การดา้ นความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน 25 2.6 แนวคดิ เรื่องมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ 27 2.7 ตน้ ทุนการเกดิ อบุ ตั เิ หตุ 27 2.8 งานวิจัยทเี่ กยี่ วข้อง 27 บทที่ 3 วัสดแุ ละวิธีการวิจัย 31 3.1 ประชากรและกลมุ่ ตัวอย่าง 33 3.2 วัสดทุ ีใ่ ชใ้ นการวจิ ยั 3.3 ระเบยี บวิธีวิจัย 3.4 การวเิ คราะหข์ อ้ มลู สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)
มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมต่อการลงทุนดา้ นความปลอดภยั ในสถานประกอบกิจการ ง หวั ข้อ หน้า บทท่ี 4 : ผลการศกึ ษา 37 37 4.1 ขอ้ มูลทั่วไป 38 4.2 การลงทุนดา้ นความปลอดภัย ภายในปี พ.ศ.2562 43 4.3 จานวนอุบัตเิ หตุ และต้นทุนอบุ ตั เิ หตุ 45 4.4 การวเิ คราะห์ความคุ้มคา่ และมลู ค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคม 50 4.5 ปญั หาและข้อเสนอแนะต่อการดาเนินงานด้านความปลอดภยั ฯ 53 บทที่ 5 : อภิปรายผลการศึกษา 55 5.1 ข้อจากัดการศกึ ษา 55 5.2 ขอ้ เสนอแนะการศึกษาวจิ ัยครงั้ ถดั ไป 56 บทท่ี 6 : สรปุ ผลการศึกษา 58 บรรณานุกรม 62 ภาคผนวก 63 ภาคผนวก 1 : หนังสือแสดงเจตนา 64 ภาคผนวก 2 : แบบสอบถามเพ่ือการวิจัย 72 ภาคผนวก 3 : แบบสอบถามขอ้ มลู สถิติการประสบอันตรายยอ้ นหลัง 73 ภาคผนวก 4 : แบบประเมินคุณภาพเคร่ืองมือวิจัย สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)
มลู คา่ เพิ่มทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทนุ ดา้ นความปลอดภยั ในสถานประกอบกจิ การ จ สารบัญตาราง ตารางที่ คา่ สมั ประสิทธิ์ IOC ของแตล่ ะข้อคาถาม หนา้ 3-1 ต้นทุนของอุบตั ิเหตใุ นการทางานทางตรงและทางอ้อม 30 3-2 ขอ้ มลู ท่ัวไป 32 4-1 ขอ้ มูลการลงทนุ สนับสนนุ ด้านความปลอดภัยจากสถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภัยฯ 37 4-2 ขอ้ มลู การลงทนุ ดา้ นความปลอดภัยของสถานประกอบกจิ การ 39 4-3 ข้อมลู สรปุ การลงทุนด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ 41 4-4 ต้นทนุ อบุ ตั ิเหตุ 43 4-5 การวเิ คราะห์ความคุ้มค่าและมลู คา่ เพ่ิมทางเศรษฐกิจต่อการลงทุนดา้ นความปลอดภัย 44 4-6 สรุปการวเิ คราะห์ความคุ้มคา่ และมลู ค่าเพ่ิมทางเศรษฐกิจต่อการลงทุนดา้ นความปลอดภัย 46 4-7 การเปรียบเทยี บสถิตกิ ารประสบอนั ตรายในสถานประกอบกิจการระหว่างปี พ.ศ.2561 48 4-8 และ พ.ศ.2562 48 ต้นทนุ อบุ ัตเิ หตุท่สี ามารถลดไดต้ อ่ ปี 4-9 49 สถาบนั ส่งเสริมความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)
มลู คา่ เพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมต่อการลงทนุ ด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกจิ การ ฉ สารบัญรูปภาพ หนา้ 9 รูปที่ 17 2-1 ทฤษฎโี ดมิโน อธิบายถงึ ลาดับเหตกุ ารณ์การเกิดอุบัติเหตุ 2-2 แบบจาลองภูเขาน้าแขง็ ของ McCelland สถาบนั สง่ เสริมความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)
มูลค่าเพ่ิมทางเศรษฐกิจและสังคมต่อการลงทุนดา้ นความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ 1 บทที่ 1 บทนา กระทรวงแรงงาน ได้ออกกฎกระทรวงกาหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้าน ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2553 กาหนดให้ สถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 50 คนข้ึนไป นายจ้างต้องจัดให้มีระบบการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (1) ซง่ึ อยา่ งน้อยต้องประกอบด้วย 1) นโยบายด้านความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน 2) โครงสร้างการบรหิ ารด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน 3) แผนงานดา้ นความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน และการนาไปปฏบิ ัติ 4) การประเมินผลและทบทวนการจัดการดา้ นความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการทางาน 5) การดาเนินการปรบั ปรุงด้านความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน การทางานอย่างปลอดภัย และการป้องกันอนั ตรายท่อี าจเกิดขึ้นจากการทางาน กระทาได้หลาย วิธี โดยยึดหลัก 3E ได้แก่ Engineering (การป้องกันด้วยหลักวิศวกรรมศาสตร์) Education (การให้ความรู้) Enforcement (การบังคับใช้) ซึ่งการใช้หลักการดังกล่าวเพื่อการป้องกันอันตรายให้เกิดประสิทธิภาพได้นั้น ตอ้ งมีการจดั การอย่างเป็นระบบ (2) โดยมีหลายองค์กรท่ดี าเนินงานด้านความปลอดภยั ฯ ได้กาหนดมาตรฐาน การจัดการด้านความปลอดภัยฯ ขึ้น เช่น Occupational Safety and Health Administration (OSHA) International Organization for Standardization (ISO) และ International Labour Organization (ILO) เป็นต้น ซึ่งสถานประกอบกิจการสามารถนาระบบการจัดการตามมาตรฐานการจัดการด้านความปลอดภัยฯ เหลา่ น้มี าใช้ในสถานประกอบกจิ การไดโ้ ดยความสมคั รใจ สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน) ได้ออกมาตรฐานระบบการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน เพื่อให้ สถานประกอบกิจการมีแนวทางในการปฏิบัติ และบริหารจัดการด้านความปลอดภัยฯ ของสถานประกอบ กิจการอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ เพ่ือก่อให้เกิดความปลอดภัยในการปฏิบัติงานอย่างย่ังยืน และ พัฒนาศักยภาพองค์กรสู่มาตรฐานสากลต่อไป (3) รวมถึงได้ดาเนินโครงการพัฒนาสถานประกอบกิจการเพ่ือ นามาตรฐานระบบการจัดการด้านความปลอดภัยฯ ฉบับน้ีไปดาเนินงานในสถานประกอบกิจการ โดยมีกลุ่มที่ ปรึกษาที่ผ่านการประเมินของทางสถาบันส่งเสริมความปลอดภัยฯ เข้าไปให้คาปรึกษา และให้ความช่วยเหลือใน การดาเนนิ งาน สถาบนั ส่งเสริมความปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)
มูลค่าเพ่ิมทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทนุ ด้านความปลอดภยั ในสถานประกอบกิจการ 2 การประสบอันตรายจากการทางาน มีความหมายครอบคลุมถึงการเกิดอุบัติเหตุจากการทางาน และ/หรือการเจ็บป่วยหรือเกิดโรคจากการทางาน ซึ่งเป็นปัญหาสาคัญที่นามาซ่ึงการบาดเจ็บ สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ เจ็บป่วย เสียชีวิต สูญเสียทรัพย์สิน และสูญเสียมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยค่าใช้จ่ายในการประสบ อันตรายท่ีสูญเสีย ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายทางตรง เช่น ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและการฟื้นฟู สมรรถภาพ เป็นต้น และค่าใช้จ่ายทางอ้อม เช่น ค่าสูญเสียไปจากส่งผลิตภัณฑ์ไม่ทัน ค่าสูญเสียเวลา ค่าจ้าง แรงงานทดแทน เป็นต้น จากการศึกษาของ Dorman P. พบว่า (4) การป้องกันการประสบอันตรายจากการ ทางาน ถือเป็นการลงทนุ ซึ่งมีคา่ ใชจ้ ่ายหรือเงินลงทุนเกดิ ข้ึน โดยการลงทนุ ดา้ นความปลอดภัยเป็นไปในทศิ ทาง เดียวกับความปลอดภัยที่มากข้ึน กล่าวคือ สถานประกอบกิจการท่ีมีการทางานที่ปลอดภัยมาก การลงทุนและ งบประมาณดา้ นความปลอดภัยกจ็ ะสงู ขน้ึ การลงทุนเกี่ยวกับการจัดทาระบบการจัดการตามมาตรฐานระบบการจัดการดา้ นความปลอดภัยฯ เป็นหนงึ่ ในวิธีการบริหารจดั การดา้ นความปลอดภัยฯ เพอ่ื ป้องกนั การประสบอันตราย โดยมาตรฐานระบบการ จัดการด้านความปลอดภัยฯ มีวัตถุประสงค์เพ่ือมุ่งเน้นให้มีการวางแผนการทางานให้เกิดความปลอดภัยขึ้น อย่างเป็นระบบ โดยเริ่มจากการค้นหาอันตราย การประเมินความเสี่ยง จัดลาดับอันตราย การจัดทาแผนการ จัดการความเส่ียง นาไปสู่การปฏิบัติ และทบทวนอย่างต่อเนื่องตามช่วงเวลาท่ีกาหนดไว้ ซ่ึงเป็นกระบวนการ จัดการความเสย่ี งดา้ นความปลอดภยั ฯ ที่นาไปสูก่ ารลดสถติ ิการเกดิ อบุ ตั ิเหตุอย่างยงั่ ยนื จากการศึกษาของ กิตติพงษ์ คูธารทอง (5) การประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจต่อการลงทุน นั้นเป็นหนึ่งในวิธีการประเมินคุณภาพ และประสิทธิภาพของโครงการ โดยมีการวัดผลโดยใช้ดัชนีช้ีวัดเชิง เศรษฐศาสตร์ท่ัวไปต่าง ๆ เช่น ระยะเวลาคืนทุน (Payback Period : PR) มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (Net Present Value : NPV) อัตราผลตอบแทนภายใน (Internal Rate of Return : IRR) และมูลค่าเพ่ิมทางเศรษฐกิจ (Economic Value Added : EVA) เป็นต้น โดยผลการศึกษาของสถาบันส่งเสริมความปลอดภัยฯ (3) พบว่า การลงทุนด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดเล็กสามารถลดมูลค่าการสูญเสียได้ มากถึง 28,560 บาท/ราย และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจต่อสถานประกอบกิจการขนาดกลางและ ขนาดเล็ก ไดม้ ากถงึ 2.26 ลา้ นบาท/แห่ง ดังน้ัน การวิเคราะห์คุณภาพของโครงการพัฒนาด้านความปลอดภัยฯ จึงมีความจาเป็น เพ่ือ ชใ้ี ห้เห็นถงึ ประสทิ ธิภาพ ความคุ้มคา่ และมลู ค่าเพ่ิมทางเศรษฐกิจจากค่าใชจ้ ่ายทั้งทางตรงและทางอ้อมทล่ี ดลง ซึง่ เปน็ ผลมาจากอุบตั ิเหตทุ ี่ลดลง เพื่อให้ผู้บรหิ ารของสถานประกอบกิจการมีหลกั ฐานเชิงประจักษ์ นอกจากน้ี การวิเคราะห์ความคุ้มค่าท่ีเกิดข้ึนทางสังคมเป็นอีกหน่ึงองค์ประกอบท่ีช้ีให้เห็นผลสัมฤทธิ์ของการดาเนิน โครงการด้านความปลอดภัยฯ กล่าวคือ สามารถลดการประสบอันตรายจากการทางานลงได้ สามารถเพิ่ม มูลค่าทางเศรษฐกิจให้ สถานประกอบกิจการ โดยการศึกษาวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพ่ือสารวจข้อมูลการลงทุน สถาบนั ส่งเสริมความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)
มลู ค่าเพ่ิมทางเศรษฐกิจและสังคมต่อการลงทนุ ดา้ นความปลอดภยั ในสถานประกอบกจิ การ 3 ด้านความปลอดภัย ข้อมูลสถิติการประสบอันตรายจากการทางาน และทาการวิเคราะห์ความคุ้มค่าทาง เศรษฐกิจ และมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและมลู ค่าเพม่ิ ทางสังคมท่ีเกิดขน้ึ จากการลงทุนด้านความปลอดภัยก่อน และหลังการนามาตรฐานระบบการจัดการด้านความปลอดภัยฯ ของสถาบันส่งเสริมความปลอดภัยฯ ไป ดาเนนิ การในสถานประกอบกจิ การ 1.1 คาถามการวิจัย 1. สถานประกอบกจิ การมปี ริมาณการลงทนุ ด้านความปลอดภยั ในการทางานเท่าไร 2. สถานประกอบกิจการมีอัตราการประสบอันตรายเม่ือเปรียบเทียบระหว่างก่อนจัดทาระบบการ จัดการตามมาตรฐานการจัดการด้านความปลอดภัยฯ (พ.ศ.2561) กับหลังจัดทา (พ.ศ.2562) อยา่ งไร 3. สถานประกอบกิจการลงทนุ ด้านความปลอดภยั มีความคุ้มค่าในการลงทนุ หรือไม่ อยา่ งไร 4. สถานประกอบกิจการลงทุนด้านความปลอดภัย ไปแล้วเกิดมูลค่าเพ่ิมทางเศรษฐกิจและสังคม หรือไม่ อย่างไร 1.2 วตั ถุประสงค์ 1. เพือ่ สารวจมูลค่าการลงทุนดา้ นความปลอดภัยของสถานประกอบกิจการทีเ่ ข้าร่วมโครงการพัฒนา สถานประกอบกจิ การ ภายในปี พ.ศ.2562 2. เพื่อสารวจสถิติการเกิดอุบัติเหตุตามระดับความรุนแรงของสถานประกอบกิจการที่เข้าร่วม โครงการพัฒนาสถานประกอบกิจการ ภายในปี พ.ศ.2562 และพ.ศ.2561 3. เพ่ือสารวจความคิดเห็นต่อปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะต่อการดาเนินงานด้านความปลอดภัยฯ ของสถานประกอบกจิ การทเี่ ข้าร่วมโครงการพฒั นาสถานประกอบกจิ การ ภายในปี พ.ศ.2562 4. เพื่อคานวณความคุ้มค่าของการลงทุน และมูลค่าเพ่ิมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากการลงทุนด้าน ความปลอดภัยของสถานประกอบกิจการที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาสถานประกอบกิจการ ภายใน ปี พ.ศ.2562 1.3 สมมติฐาน 1. สถานประกอบกิจการท่ีเข้าร่วมโครงการพัฒนาสถานประกอบกิจการ มีความคุ้มค่าในการลงทุน ด้านความปลอดภยั (NPV ≥ 0) 2. สถานประกอบกิจการท่ีเขา้ รว่ มโครงการพฒั นาสถานประกอบกิจการ เกดิ มูลคา่ เพม่ิ ทางเศรษฐกิจ (EVA มีค่าเปน็ บวก) จากการการลงทนุ ด้านความปลอดภยั 3. สถานประกอบกิจการท่ีเข้าร่วมโครงการพัฒนาสถานประกอบกิจการ เกิดความคุ้มค่าทางสังคม คือ สามารถลดสถติ กิ ารประสบอันตรายจากการทางานได้ อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถติ ิ สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)
มูลคา่ เพ่ิมทางเศรษฐกิจและสังคมต่อการลงทนุ ด้านความปลอดภยั ในสถานประกอบกิจการ 4 1.4 ตวั แปร 1.4.1 ตวั แปรตน้ การลงทุนด้านความปลอดภัย หมายถึง การลงทุนด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทางาน ประกอบดว้ ย 2 ส่วน ได้แก่ การลงทุนท่ีสถาบันสง่ เสริมความปลอดภยั ฯ สนับสนุนให้สถานประกอบกิจการดาเนินการตามโครงการจัดทาระบบการจัดการตามมาตรฐานระบบ การจดั การด้านความปลอดภยั ฯ และการลงทนุ ดา้ นความปลอดภยั ทีส่ ถานประกอบกิจการลงทนุ เอง 1.4.1.1 ตน้ ทุนการลงทุนดา้ นความปลอดภัย ก) ค่าใช้จ่ายในการสนับสนุน การดาเนินงานจัดทาระบบการจัดการตามมาตรฐาน ระบบการจดั การดา้ นความปลอดภัยฯ ของสถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภัยฯ ข) ตน้ ทุนการลงทุนด้านความปลอดภัยของสถานประกอบกจิ การ - ค่าใช้จา่ ยด้านการฝกึ อบรม - ค่าใช้จ่ายดา้ นอุปกรณค์ มุ้ ครองความปลอดภัยสว่ นบุคคล - ค่าใช้จ่ายเก่ียวกับระบบป้องกันและระงับอัคคีภัย รวมท้ังการตรวจสอบ และบารงุ รกั ษา - ค่าใช้จ่ายเก่ียวกับระบบป้องกันและระงับเหตุฉุกเฉิน รวมท้ังการ ตรวจสอบและบารงุ รกั ษา - ค่าใชจ้ ่ายด้านการตรวจวดั สภาพแวดล้อมในการทางาน - ค่าใชจ้ า่ ยดา้ นการตรวจสอบความปลอดภัยฯ - คา่ ใชจ้ า่ ยอืน่ ๆ เพือ่ สนบั สนุนและส่งเสริมดา้ นความปลอดภยั ฯ 1.4.1.2 ต้นทุนอุบัตเิ หตุ ก) ต้นทนุ ทางตรง - คา่ ใช้จ่ายทเี่ กี่ยวข้องกับดา้ นการแพทย์ o คา่ รักษาพยาบาลหรือค่าทดแทน o ค่าบรกิ ารรถพยาบาล o ค่าวัสดทุ างการแพทย์ o คา่ ฟ้ืนฟสู มรรถภาพ o อ่ืน ๆ - ค่าใช้จา่ ยทีส่ ถานประกอบกิจการต้องจ่ายกรณเี สียชวี ิต ข) ตน้ ทุนทางอ้อม - ค่าใช้จา่ ยดา้ นบริหารและกฎหมาย สถาบนั สง่ เสริมความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)
มลู คา่ เพ่ิมทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทนุ ดา้ นความปลอดภยั ในสถานประกอบกิจการ 5 - คา่ ใช้จา่ ยด้านการสูญเสยี เวลาในการผลติ - ค่าใชจ้ ่ายดา้ นการจา้ งแรงงานทดแทน - ค่าใช้จา่ ยในการสอบสวนอุบตั เิ หตุจากการทางาน - ค่าใชจ้ ่ายอน่ื ๆ 1.4.2 ตัวแปรตาม 1.4.2.1 ความคมุ้ ค่าในการลงทุน วัดได้จากองค์ประกอบ 4 ส่วน ได้แก่ มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (Net Present Value; NPV) หมายถึง ผลต่างระหว่างมูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดรับสุทธิตลอดอายุของ โครงการกับเงินลงทุนเริ่มแรก ณ อัตราผลตอบแทนท่ีต้องการหรือต้นทุนของเงินทุนของ โครงการ (6) อัตราผลตอบแทน (Internal Rate of Return : IRR) กาไรจากการลงทุนด้าน ความปลอดภัย (บาท) และอัตราส่วนผลตอบแทนต่อต้นทุน (Benefit Cost Ratio: B/C Ratio) 1.4.2.2 มูลค่าเพิม่ ทางเศรษฐกจิ (Economic Value Added; EVA) หมายถึง มูลค่าเพ่ิมเชิงเศรษฐศาสตร์ เป็นเทคนิคการวิเคราะห์ทางการเงินที่ใช้เป็น ดัชนี ช้ีวัดประสิทธิภาพการดาเนินงาน (KPI) แสดงถึงมูลค่าท่ีเพิ่มขึ้นของสถานประกอบ กิจการหรืออีกนัยหน่ึงก็คือมูลค่าเชิงเศรษฐกิจท่ีสูงกว่าต้นทุนของเงินทุนท่ีใช้ในการ ดาเนนิ งาน 1.4.2.3 มูลค่าเพิ่มทางสังคม วัดได้จากสถิติการประสบอันตรายจากการทางานทลี่ ดลง ประกอบด้วย อัตราความ ต้องการปฐมพยาบาล การบาดเจ็บที่ไม่มีผลต้องขาดงาน อัตราความต้องการการรักษาทาง การแพทย์เท่านั้น ไม่ต้องขาดงาน การบาดเจ็บที่ต้องได้รับการรักษาพยาบาล อัตราการทุพพล ภาพชั่วคราวสิ้นเชิง การบาดเจ็บที่ทาให้เสียเวลาจากการทางานไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง (ขาด งาน) อัตราการทุพพลภาพบางส่วนถาวร การบาดเจ็บท่ีส่งผลให้เกิดความพิการถาวร เช่น การ ตัดแขน-ขา สูญเสียความรู้สึก อัตราการทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง การบาดเจ็บที่ส่งผลให้เกิด ความพิการท้ังหมด ดังนัน้ ผปู้ ฏบิ ัติงานจึงไม่สามารถทางานได้อีกต่อไป และอตั ราการตายหรือ การบาดเจ็บท่ีทาใหเ้ สียชีวติ สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)
มลู คา่ เพิ่มทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทุนด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกจิ การ 6 1.5 ขอบเขตการวิจัย งานวิจัยนี้จัดทาข้ึนเพื่อสารวจการลงทุนด้านความปลอดภัย และอัตราการประสบอันตรายใน สถานประกอบกิจการทเ่ี ขา้ รว่ มโครงการพัฒนาสถานประกอบกิจการเพ่ือจัดทาระบบการจัดการตามมาตรฐาน ระบบการจัดการด้านความปลอดภยั ฯ ของสถาบนั ส่งเสริมความปลอดภัยฯ ในปีพ.ศ.2562 เพอื่ นามาวิเคราะห์ หาความคมุ้ คา่ ในการลงทนุ มลู ค่าเพ่ิมทางเศรษฐกิจและสังคม 1.6 ประโยชน์ของการวจิ ัย จากผลการศึกษาครั้งน้ี พบมูลค่าการลงทนุ ด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกจิ การ และอตั ราการ ประสบอันตรายจากการทางาน เม่ือนามาคานวณว่าเกิดความคุ้มค่าในการลงทุน หรือเกิดมูลค่าเพ่ิมทาง เศรษฐกิจและสังคม ซงึ่ เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ให้ผู้บริหาร และสถานประกอบกิจการเกิดความเช่ือมั่นและมี ทัศนคติท่ีดีต่อการลงทุนด้านความปลอดภัย สามารถวางแนวทางในการกาหนดนโยบาย และวางกรอบ งบประมาณสาหรับการลงทนุ ด้านความปลอดภัยที่เก่ียวข้อง เพื่อป้องกันอันตราย ลดการประสบอันตรายจาก การทางาน หรือลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุจากการทางานให้แก่สถานประกอบกิจการได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพและคุ้มค่า สถาบันสง่ เสริมความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)
มลู ค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมต่อการลงทุนดา้ นความปลอดภยั ในสถานประกอบกิจการ 7 1.7 กรอบแนวคดิ ตัวแปรตาม ตัวแปรตน้ 1. ความคมุ้ คา่ การลงทนุ ต้นทนุ การลงทนุ ดา้ นความปลอดภัยฯ - NPV 1. คา่ ใชจ้ ่ายในการสนบั สนนุ การดาเนินงานจัดทาระบบการ - IRR จดั การตามมาตรฐานระบบการจดั การด้านความปลอดภัยฯ - กาไรจากการลงทุน - B/C Ratio 2. ตน้ ทนุ การลงทุนด้านความปลอดภัยของสถานประกอบกิจการ - ค่าใช้จา่ ยดา้ นการฝึกอบรม 2. มลู คา่ เพม่ิ ทางเศรษฐกิจ - ค่าใชจ้ ่ายด้านอุปกรณค์ ้มุ ครองความปลอดภัยส่วนบุคคล 3. สถติ ิการประสบอันตราย - ค่าใชจ้ ่ายเก่ยี วกบั ระบบปอ้ งกันและระงับอคั คภี ยั รวมทัง้ จากการทางาน การตรวจสอบและบารุงรักษา - คา่ ใช้จ่ายเกย่ี วกบั ระบบป้องกันและระงับเหตุฉุกเฉนิ รวมทัง้ การตรวจสอบและบารงุ รักษา - ค่าใชจ้ า่ ยดา้ นการตรวจวดั สภาพแวดล้อมในการทางาน - คา่ ใช้จ่ายดา้ นการตรวจสอบความปลอดภัยฯ - ค่าใชจ้ า่ ยอื่น ๆ เพ่ือสนบั สนุนและสง่ เสรมิ ด้านความ ปลอดภยั ฯ ต้นทุนอบุ ัตเิ หตุ 1. ตน้ ทนุ ทางตรง - คา่ ใชจ้ า่ ยที่เก่ียวข้องกับดา้ นการแพทย์ o คา่ รกั ษาพยาบาลหรือค่าทดแทน o ค่าบรกิ ารรถพยาบาล o คา่ วสั ดทุ างการแพทย์ o คา่ ฟนื้ ฟูสมรรถภาพ o คา่ ใชจ้ า่ ยอน่ื ๆ - คา่ ใชจ้ า่ ยท่ีสถานประกอบกิจการต้องจ่ายกรณเี สยี ชีวติ 2. ตน้ ทนุ ทางอ้อม - ค่าใชจ้ ่ายด้านบริหารและกฎหมาย - คา่ ใชจ้ ่ายด้านการสญู เสยี เวลาในการผลิต - คา่ ใชจ้ า่ ยด้านการจา้ งแรงงานทดแทน - คา่ ใชจ้ ่ายในการสอบสวนอบุ ัตเิ หตุ - ค่าใช้จ่ายอนื่ ๆ สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)
มูลค่าเพ่ิมทางเศรษฐกิจและสังคมต่อการลงทนุ ด้านความปลอดภยั ในสถานประกอบกจิ การ 8 บทท่ี 2 ทบทวนวรรณกรรม 2.1 แนวคิดและทฤษฎขี องการเกิดอุบัติเหตุ 2.1.1 การศึกษาของ H.W. Heinrich, 1950 จากการศึกษาของ H.W. Heinrich (7) ได้เสนอสาเหตุสาคัญของการเกิดอุบัติเหตุ 3 ประการ ได้แก่ สาเหตุที่สาคัญของอุบัติเหตุมี 3 ประการ ได้แก่ สาเหตุท่ีเกิดจากคน ประมาณร้อยละ 88 สาเหตุที่เกิด จากความผิดพลาดของเคร่ืองจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ ร้อยละ 10 และสาเหตุที่มนุษย์ควบคุมไม่ได้ ร้อยละ 2 ตามลาดับ โดยทฤษฎโี ดมิโน กลา่ ววา่ การบาดเจบ็ และความเสียหายตา่ ง ๆ ท่สี ืบเนื่องโดยตรงจากอบุ ตั เิ หตุเป็น ผลมาจากการกระทาท่ไี ม่ปลอดภัย หรือสภาพการณ์ท่ีไม่ปลอดภัย ซง่ึ เปรยี บเทยี บได้เหมือนตัวโดมิโนที่เรียงกัน อยู่ 5 ตัวใกล้กัน เมื่อตัวท่ีหนึ่งล้มย่อมมีผลทาให้ตัวโดมิโนตัวถัดไปล้มตามไปด้วย ตัวโดมิโนทั้ง 5 ตัว ได้แก่ สภาพแวดล้อมหรือภูมิหลังของบุคคล ความบกพร่องผิดปกติของบุคคล การกระทาหรือสภาพการณ์ที่ไม่ ปลอดภัย อุบัติเหตุ และการบาดเจ็บหรือเสียหาย นั่นคือ สภาพแวดล้อมของสังคม หรือภูมิหลังของคนใด คนหนึ่ง ก่อให้เกิดการกระทาท่ีไม่ปลอดภัยหรือสภาพการณ์ที่ไม่ปลอดภัยก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ก่อให้เกิดการ บาดเจบ็ หรือความเสียหาย ตามทฤษฎีโดมิโน เมอื่ โดมิโนตัวที่หน่ึงล้มตัวถัดไปก็ล้มตาม ดงั น้นั หากไม่ให้โดมิโน ตวั ทีส่ ี่ล้มหรอื ไมใ่ ห้เกิดอุบัตเิ หตุต้องเอาโดมิโนตัวที่สามออก ซ่ึงหมายถึงการกาจัดการกระทาหรือ สภาพการณ์ ทไ่ี มป่ ลอดภยั การบาดเจ็บหรือความเสียหายที่จะไม่เกิดขึ้น การป้องกันอุบัตเิ หตุตามทฤษฎีโดมโิ น คือ การตัด ลกู โซ่อุบัติเหตุ โดยการกาจัดการกระทาหรือสภาพการณ์ที่ไม่ปลอดภยั ออกไป อุบตั ิเหตุจะไม่เกิดขึน้ การแก้ไข ป้องกันท่ีโดมิโน ตัวท่ีหน่ึง (สภาพแวดล้อมของสังคมหรือภูมิหลังของบุคคล) หรือตัวท่ีสอง (ความบกพร่อง ผิดปกติของบคุ คล) เป็นเร่ืองที่แกไ้ ขไดย้ ากกวา่ เพราะเป็นสิง่ ท่ปี ลกู ฝงั เป็นคณุ สมบตั ิส่วนบคุ คล ลาดับท่ี 1 สภาพแวดล้อมหรือภูมิหลังของบุคคล (Ancestry and Social Environment) สิ่งแวดล้อมทางสังคมและการประพฤติปฏิบัติสืบทอดกันมาจากอดีต ทาให้แต่ละบุคคลมีพฤติกรรม ที่แสดง ออกมาต่าง ๆ กนั เช่น ความสะเพร่า ประมาท เป็นต้น ลาดับท่ี 2 ความบกพร่องของบุคคล (Fault of Person) สุขภาพจิตและส่ิงแวดล้อมทาง สังคม เป็นสาเหตุทาใหเ้ กิดความผิดปกตขิ องบุคคล เช่น การปฏิบัติโดยขาดความย้ังคิด อารมณ์ รุนแรง อ่อนไหวง่าย ความต่ืนเต้น ขาดความรอบคอบ เพิกเฉยละเลยต่อการกระทาที่ปลอดภัย เป็นต้น ซ่ึงความผิดปกติเหล่าน้ี จะส่งผลกระทบให้เกิดการกระทาท่ีไม่ปลอดภัยและทาให้ เคร่ืองจักรและการทางานต้องอยู่ในสภาพหรือ สภาวะทเ่ี ปน็ อนั ตราย สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)
มูลคา่ เพ่ิมทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทุนด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกจิ การ 9 ลาดับท่ี 3 การกระทาและ/หรือสภาพการณ์ที่ไม่ปลอดภัย (Unsafe Act and Condition) ตัวอย่างสภาพเคร่ืองจกั รและสภาวะแวดล้อมท่เี ปน็ อนั ตราย เชน่ ขาดเครอื่ งป้องกนั จุดอันตรายหรือจดุ ท่ีมีการ เคล่ือนท่ี ไมม่ รี ว้ั ก้ัน เสยี งดงั เกินไป แสงสว่างไมเ่ พยี งพอ การระบายอากาศไม่ดี เป็นตน้ ลาดบั ที่ 4 อุบัติเหตุ (Accident) เหตุการณ์ท่มี ีสาเหตุปัจจัยทง้ั 3 ลาดับมาแล้ว ยอ่ มส่งผลใหเ้ กิด อุบัติการณ์ เช่น ตกจากท่ีสูง ล่ืนล้ม เดินสะดุด ส่ิงของหล่นจากที่สงู วัตถุกระเด็นใสก่ ระแทกหนีบหรือตัด เป็นต้น ซึง่ อุบตั ิการณเ์ หล่านี้อาจจะเป็นสาเหตขุ องการบาดเจ็บ ลาดับท่ี 5 การบาดเจ็บหรือความเสียหาย (Injury/Damages) ตัวอย่างการบาดเจ็บที่เกิดกับ อวัยวะบางส่วนของร่างกาย เช่น กระดูกหักหรือแตก เคล็ดขัดยอก แ ผลฉีกขาด แผลไฟไหม้ เป็นต้น การบาดเจ็บเหลา่ น้เี ป็นผลโดยตรงจากการเกดิ อุบตั ิเหตุ รปู ที่ 2-1 ทฤษฎโี ดมโิ น อธบิ ายถงึ ลาดบั เหตกุ ารณก์ ารเกดิ อุบัตเิ หตุ 2.1.2 แนวคิดรปู แบบความปลอดภัยของบอ๊ บ ไฟเรนซ์ (Firenze System Model) บ๊อบ ไฟเรนซ์ (8) ได้อธิบายว่าสาเหตุของอุบัติเหตุจะต้องศึกษาองค์ประกอบทั้งระบบ องค์ประกอบดังกล่าว ประกอบด้วย คน (Man) เคร่ืองจักร (Machine) และสิ่งแวดล้อม (Environment) โดยองค์ประกอบที่เป็นสาเหตุของอุบัติเหตุแต่ละองค์ประกอบนั้นมีความสาคัญต่อการตัดสินใจในการ กระบวนการทางาน (Task) และการเกดิ อุบัตเิ หตุ (Accident) ดังต่อไปนี้ 1) คนหรือผู้ปฏิบตั ิงาน (Man) ในการผลติ งานหรือทางานในแต่ละชิ้น ผู้ปฏิบตั ิงาน จาเป็นต้อง ตัดสินใจ (Decision) เลือกวิธีปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้งานบรรลุเป้าหมาย แต่การตัดสินใจใน การดาเนินงานให้บรรลุเป้าหมายในแต่ละครั้งนั้นย่อมมีความเส่ียง (Risk) แอบแฝงอยู่เสมอ ดังนั้น ในการ ตัดสินใจแต่ละคร้ัง ผู้ปฏิบัติงานจะต้องมีข้อมูลข่าวสาร (Information) ท่ีเพียงพอ ถ้าหากข้อมูลข่าวสารดี สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)
มูลค่าเพ่ิมทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทุนดา้ นความปลอดภัยในสถานประกอบกจิ การ 10 ถูกต้องจะทาใหก้ ารตัดสนิ ใจถูกต้อง แต่ถ้าข้อมลู ไม่ถูกตอ้ งก็จะทาให้การตัดสินใจน้ันผิดพลาดหรือมีความเสี่ยง สงู และทาให้เกดิ ความล้มเหลวในการทางานซงึ่ อาจจะส่งผลใหเ้ กิดอบุ ัติเหตุได้ 2) อุปกรณ์เครื่องจักร (Machine) อุปกรณ์เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตจะต้องมีความพร้อม ปราศจากข้อผิดพลาด ถ้าอุปกรณ์เคร่ืองจักรออกแบบไม่ถูกต้อง ไม่ถูกหลักวิชาการหรือขาดการบารุงรกั ษาท่ีดี จะทาใหต้ วั ของเครอื่ งจักรปฏิบัติงานผดิ พลาดซ่ึงจะนาไปสู่การเกดิ อบุ ตั เิ หตุ 3) สิ่งแวดล้อม (Environment) สภาพการทางานและสิ่งแวดล้อมในการทางานมีบทบาท สาคัญต่อการผลิต ความผิดพลาดท่ีเกิดขึ้นกับส่ิงแวดล้อมย่อมก่อให้เกิดปัญหาต่อผู้ปฏิบัติงานและเคร่ืองจักร ซึ่งจะเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุได้ เช่น ทางานอยู่ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่มีสารพิษฟุ้งกระจาย แสงจ้าในขณะ ปฏบิ ตั งิ าน เป็นตน้ ฉะนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจในการดาเนินการทุกครั้ง ผู้ปฏิบัติงานจะต้องหาข้อมูลเพ่ือให้แน่ใจว่า การตัดสินใจนั้นถูกต้อง โดยพิจารณาจากข้อมูลประกอบการตัดสินใจซ่ึงประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับงาน (Task) ที่ต้องปฏิบัติและข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้ น (Nature of Harmful Consequences) ถา้ หากขอ้ มูลมจี านวนและคณุ ภาพมากพอก็จะทาใหค้ วามเส่ยี งต่าง ๆ ลดลงอยู่ในขีดจากดั ที่ อาจจะสามารถควบคมุ ได้ โอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดหรืออบุ ตั เิ หตุกจ็ ะลดลงดว้ ย 2.2 แนวคิดเกยี่ วกับความปลอดภัยฯ ในการทางาน 2.2.1 พฤตกิ รรม แนวคิดเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทางาน เริ่มต้นจากทัศนคติหรือแนวโนมท่ีมีอิทธิพลต่อ พฤติกรรมท่ีตอบสนองกับสภาพแวดลอมในการทางานหรอื ส่ิงเรา ซ่ึงอาจจะเปนคน วัตถุส่ิงของ หรือความคิด ทัศนคติที่อาจเปนบวกหรือลบ ถาบุคคลมีทัศนคติบวกตอสิ่งใดก็จะมีพฤติกรรมท่ีจะเผชิญกับสิ่งน้ัน แต่หากมี ทศั นคติลบกจ็ ะมีพฤตกิ รรมหลกี เลย่ี ง ดงั นนั้ พฤติกรรมจึงเป็นปัจจยั สาคัญทม่ี อี ิทธพิ ลต่อการดาเนนิ งาน ดา้ น ความปลอดภัยฯ จากงานวจิ ยั ของ สิทธิโชค วรานุสนั ติกุล ได้ให้ความหมายของพฤติกรรมไว้ว่า การกระทาของ อินทรีย์ (Organisor) หรือส่ิงมีชีวิต การกระทานี้รวมถึงการกระทาท่ีเกิดข้ึนทั้งท่ีผู้กระทารู้ตัวหรือไม่รู้ตัว ก็ ตามและไมว่ ่าการกระทาน้ันผ้อู ื่นจะสังเกตเห็นได้หรือไม่กต็ าม เช่น การเดนิ การพูด หรือการคิด การรับรู้ เป็น ต้น (9) นอกจากน้ีจากการศึกษาของ สมโภชน์ เอ่ียมสุภาษิต ให้ความหมายของพฤติกรรม คือ ส่ิงที่บุคคล กระทาแสดงออก ตอบสนอง หรือได้ตอบสนองต่อส่ิงใดสิ่งหนึ่งในสถานการณ์ใด สถานการณ์หน่ึงที่สามารถ สังเกตเห็นได้ยิน อีกท้ังสามารถวัดได้ตรงกันด้วย เครื่องมือที่เป็นวัตถุนิสัยไม่ว่าการแสดงออก หรือการ ตอบสนองนัน้ จะเกดิ ข้นึ ภายใน หรือภายนอกรา่ งกาย (10) สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)
มูลคา่ เพ่ิมทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทนุ ดา้ นความปลอดภยั ในสถานประกอบกจิ การ 11 ธีระ รามสูตร (11) ให้ความหมายของพฤติกรรมไว้ว่า การกระทาทุกอย่างของมนุษย์ไม่ว่าการ กระทาน้ัน ผู้กระทาจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม ไม่ว่าคนอ่ืนจะสังเกตการณ์กระทาน้ันได้หรือไม่ก็ตามและไม่ว่าการ กระทานน้ั จึงพึงประสงคห์ รอื ไม่พึงประสงค์ก็ตาม ดังน้ัน การเดิน การยืน การคดิ การตัดสนิ ใจ การปฏิบัติตาม หนา้ ที่ การละทิง้ หน้าทเ่ี ปน็ พฤตกิ รรมทง้ั สิ้น สุชาดา สุธรรมรักษ์ (12) ให้ความหมายของพฤติกรรมไว้ดังนี้ การกระทาทุกอย่างของสิ่งมีชีวิต ซึ่งในท่ีน้ีจะเน้นการกระทาของมนุษย์ ไม่ว่าการกระทาน้ันผู้กระทารู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม หรือไม่ว่าการกระทา นนั้ ผ้อู น่ื จะสงั เกตเหน็ ไดห้ รือไมไ่ ด้กต็ าม เชน่ การเดิน การพดู หรอื การคดิ การรับรู้ เป็นต้น 2.2.2 องคป์ ระกอบของพฤติกรรมความปลอดภยั ในการทางาน มีผู้ให้ความหมายขององค์ประกอบพฤติกรรมความปลอดภัยในการทางาน ดังต่อไปนี้ ปัทมา พุ่มมาพนั ธ์ุ (13) ไดร้ ะบุถึงองคป์ ระกอบท่ีควรจดั การความปลอดภัย 14 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) นโยบายด้านความปลอดภัยฯ ท่ีเด่นชัด ซึ่งผู้บริหารจะต้องเป็นผู้กาหนด นโยบายด้าน ความปลอดภัยฯ ใหช้ ัดเจนเขียนเป็นลายลักษณ์อกั ษร และประชาสัมพันธใ์ หท้ ราบกันอย่างทวั่ ถึง ลักษณะของ นโยบายจะต้องไม่กว้างจนเกนิ ไป แต่ตอ้ งใช้ได้ครอบคลมุ ผปู้ ฏบิ ัติงานทุกระดับ จะต้องเขียนให้ชัดเจน ใช้ภาษา ทีเ่ ขา้ ใจง่าย และมีความเปน็ รปู ธรรมเพ่อื ใหส้ ามารถนาไปปฏิบัตไิ ด้ 2) การจัดองค์กร การจัดองค์กรด้านความปลอดภัยฯ นั้น ข้ึนอยู่กับลักษณะของบริษัท เช่น ขนาดจานวนพนักงาน ทัศนคติ และพฤติกรรมของผู้ปฏิบัติงาน หน้าท่ีและงานที่ได้รับมอบหมาย เช่น ด้านความปลอดภัยฯ การควบคุมส่ิงแวดล้อม วิศวกรรม ด้านการแพทย์ และงานสร้าง ความสัมพันธ์ ระหว่างพนักงาน การจัดองค์กรน้ันอาจเก่ียวข้องกับผู้ท่ีมีหน้าท่ีดูแลธุรกิจหรือโรงงาน อาจจะมีพนักงานที่มี ความรู้ความสามารถเป็นจานวนมากพอสาหรบั ดแู ลงานตา่ ง ๆ ที่แบ่งหน้าที่ไวอ้ ย่างครบถ้วน 3) บุคลากร บุคลากรที่ทางานในฝ่ายความปลอดภัยและส่ิงแวดล้อมจะต้องมีคุณสมบัติท่ี เหมาะสมท่ีจะสามารถดาเนินการได้อย่างดี มีประสิทธิภาพ บุคลากรฝ่ายความปลอดภัยน้ันหากทางานใน โรงงานท่ัวไป อย่างน้อยจะต้องมีความรู้ความสามารถในการตระหนักถึงปัญหา การประเมินขนาดของปัญหา และสามารถควบคุมป้องกันอันตรายจากการทางานได้จะต้องเป็นผู้ท่ีได้รับการยอมรับจากทางราชการ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรงงาน โดยจะต้องมีวุฒิการศึกษาในสาขานั้น หรือ เป็นผู้ท่ีมี ใบอนญุ าตควบคมุ โรงงานโดยตรง 4) การจัดการด้านสารเคมี การจัดการด้านสารเคมีเป็นเร่ืองสาคัญทุกโรงงานท่ีมีการใช้ สารเคมี จาเป็นจะต้องมมี าตรการการควบคุมป้องกนั ที่ดี สถาบนั สง่ เสริมความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)
มลู ค่าเพิ่มทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทนุ ด้านความปลอดภยั ในสถานประกอบกิจการ 12 5) การจัดการด้านสิ่งแวดล้อมในการทางานทางด้านกายภาพ ต้องมีการควบคุมป้องกัน ไม่ให้พนักงานต้องสัมผัสเกินกว่าขีดที่จะเป็นอันตรายได้ ได้แก่ การป้องกันอันตรายจากเสียง การป้องกัน อนั ตรายจากความรอ้ นและการแผ่รังสี การปอ้ งกันอนั ตรายจากอากาศเปน็ พิษ 6) การควบคุมด้านวิศวกรรม การหาวิธีการหรือแนวทางด้านวิศวกรรม เพ่ือควบคุม อันตรายจากการทางานหรือควบคุมส่ิงแวดล้อมที่เป็นพิษภัยน้ัน เป็นเป้าหมายสาคัญของการแก้ไข โดยการ ควบคุมทางด้านวศิ วกรรมนีจ้ ะเป็นวิธีการทีด่ ีในการควบคมุ ไมใ่ ห้เกิดอันตราย จากการทางานหรือควบคมุ แหล่ง แพร่กระจายของสารอันตรายไม่ใหม้ โี อกาสแพรก่ ระจายไปภายนอก 7) การบริหารจัดการเกี่ยวกับอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล การบริหาร จัดการ เกี่ยวกับอุปกรณ์อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลน้ัน เป็นเร่ืองสาคัญท่ีทุกโรงงานจะต้องมี การบริหารจัดการที่ดี เพราะเป็นส่ิงท่ีเกี่ยวข้องโดยตรงกับผู้ปฏิบัติงาน เช่น การเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพงาน วธิ กี ารใช้ทถี่ กู ตอ้ ง 8) การฝึกอบรมผู้ปฏิบัติงาน การให้การฝึกอบรมผู้ปฏิบัติงานน้ันเป็นสิ่งจาเป็นในการ ทางาน เพราะการฝึกอบรมนั้นเป็นการทาเพ่ือเพิ่มทักษะความรู้ ความชานาญ และประสิทธิภาพของ ผ้ปู ฏิบตั งิ าน 9) ผู้รับเหมา การดูแลผู้ท่ีไม่ใช่ผู้ปฏิบัติงานของบริษัท แต่ทางานให้กับบริษัทในฐานะ ผู้รับเหมาช่วงทางาน ซ่ึงหลายบริษัทได้ใช้วิธีการทางานแบบน้ีกันมากข้ึน เน่ืองจากควบคุมง่าย และยังไม่ต้อง รับผิดชอบสวัสดิการของผู้ปฏิบัติงานเหล่านั้น เนื่องจากมีบริษัทผู้รับเหมาเป็นผู้รับผิดชอบอยู่แล้ว แต่ในทาง ปฏิบัติบริษัทผู้ว่าจ้างก็มักจะหนีความรับผิดชอบไม่พ้น เนื่องจากถ้าเกิดการบาดเจ็บขึ้นมาแล้วภาพพจน์ สว่ นรวมก็เปน็ ภาพพจน์ของบรษิ ทั 10) การบริหารทางด้านอาชีวเวชศาสตร์และทางด้านการแพทย์ การบริการทางด้าน การแพทย์ โดยทั่วไปแลว้ เป็นการเตรียมการสาหรับรับเหตุการณ์ปลายเหตุ หรือผลซึง่ เกิดขึ้นมาแลว้ เน่ืองจาก มาตรการการควบคุมป้องกันอุบัติเหตุและการบาดเจ็บ และโรคอันเน่ืองมาจากการทางานไม่ได้ผลเต็มท่ี ก็จะ นาไปสู่การเกดิ อุบัตเิ หตแุ ละโรคจากการทางานได้เช่นกนั 11) การเก็บรวบรวมและการบันทึกรายงาน ระบบการเก็บรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่เกีย่ วขอ้ งทางด้านนน้ี ้ันจะตอ้ งทาอย่างสมบรู ณ์เพียงพอและจะใช้ประโยชนไ์ ด้ 12) การจัดสวัสดิการด้านสุขภาพอนามัย สวัสดิการด้านสุขภาพอนามัยของผู้ปฏิบัติงาน นั้นเป็นองค์ประกอบท่ีสาคัญ เพราะการให้สวัสดิการของโรงงานน้ันนับว่าเป็นการเพ่ิมขวัญและกาลังใจกับ ผู้ปฏิบตั งิ านอยา่ งหน่ึง สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)
มลู ค่าเพิ่มทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทุนด้านความปลอดภยั ในสถานประกอบกจิ การ 13 13) การเตรียมการเก่ียวกับภาวะฉุกเฉิน ในธุรกิจขนาดใหญ่ หรือธุรกิจที่ต้องทางาน ภายใตภ้ าวะความเสย่ี งตอ่ การเกดิ อุบัติเหตุภัยร้ายแรง 14) การวิจัยและพัฒนา การทางานในธรุ กิจโดยทั่วไปนั้น การวิจัย และการพัฒนาน้ันมิได้ สามารถเพิ่มผลผลิตหรือเพ่ิมคุณภาพของสินค้าเพียงเท่าน้ัน แต่มีความจาเป็นที่จะต้องทาเพื่อพัฒนาทักษะ ความชานาญ วิธีการทางานท่ปี ลอดภยั ให้กับผู้ปฏิบัตงิ านเป็นสาคญั 2.2.3 รปู แบบการจดั การความปลอดภยั ฯ รปู แบบการจดั การความปลอดภยั ฯ ไดม้ ีผกู้ ล่าวถงึ ดังตอ่ ไปน้ี วิฑูรย์ สมิ ะโชคดี และวีรพงษ์ เฉลิมจริ ะ รตั น์ (14) ไดก้ ล่าวถึงรปู แบบการจัดการความปลอดภัยอีกรูปแบบหน่ึง คือ Safety Square ว่าประกอบไปดว้ ย 1) การจัดสภาพแวดล้อมท่ปี ลอดภยั ในการทางาน ประกอบดว้ ย งานหลัก 4 ประการ คอื - การจดั วางผงั โรงงานให้ปลอดภัย - การทาฝาครอบเครอ่ื งจกั รกล - การเลอื กใชเ้ คร่ืองจักรและเคร่ืองมือกลทีป่ ลอดภัย - การใชว้ ธิ กี ารผลติ ท่ปี ลอดภยั 2) การมอบหมายจัดตั้งองค์กร เพื่อรับอานาจในการทางานเพื่อความปลอดภัย ในรปู แบบ ขององค์กรเพื่อความปลอดภยั ฯ ประกอบดว้ ย 4 ปจั จัย คอื - คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน - เจ้าหนา้ ท่คี วามปลอดภยั ในการทางาน - ผูป้ ระสานงานด้านความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน - โปรแกรมเพื่อความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน 3) การควบคุมให้การดาเนินงานเป็นไปอย่างปลอดภัยใน 4 ลักษณะ คือ การอบรม คนงานเพ่ือทางานอย่างปลอดภัย การตรวจสอบความปลอดภัย ฯ การจัดการประกวดแข่งขันเพ่ือ ความปลอดภัยและโปรแกรมปรับปรงุ สภาพการทางาน 4) การติดตามผลโดยฝ่ายบารุงรักษาความปลอดภัย 4 ประการ คือ การป้องกันอัคคีภัย การดแู ลทั้งความสะอาด การตรวจสอบสภาพโรงงาน และตรวจสขุ ภาพอนามยั ของพนักงาน รูปแบบของการจัดการความปลอดภัยฯ สมัยใหม่ (Modern Safety Management) เป็นการ พัฒนารูปแบบการจัดการความปลอดภัยฯ และความสูญเสียอย่างเป็นระบบ ท่ีมีการกาหนดเป้าหมายอย่าง ชดั เจน มมี าตรฐาน และระบบประเมินวดั ผลท่ีเชือ่ ถือได้ โดยมคี ุณลักษณะ 4 ประการ คอื สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)
มลู คา่ เพิ่มทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทนุ ด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกจิ การ 14 1) แนวคิดการจัดการ (Management Concept) เป็นการนาแนวคิดและปรัชญาการ บริหารจัดการดา้ นความปลอดภัยฯ สมยั ใหม่มาใช้ในการดาเนนิ งาน ดังน้ี - มุ่งเน้นในเร่ืองระบบการบริหารงาน โดยเฉพาะบทบาทของผู้บริหารระดับสูง (Top Management) เปน็ หวั ใจสาคัญของระบบนี้ - ใชร้ ะบบการบริหารงานในการควบคุมอบุ ัติเหตุ และความสญู เสียเปน็ หลกั - ระบบการจัดการท่ีดีและระบบการประเมินวัดผลที่เช่ือถือได้ สามารถค้นหาหรือ บ่งบอกถงึ โอกาสหรอื สาเหตุของอบุ ตั เิ หตุ - เน้นกลยุทธ์ด้านการป้องกัน โดยการดาเนินกิจกรรมที่ส่งผลให้มีการป้องกันและ ควบคมุ ทด่ี อี ย่างเพยี งพอ มากกวา่ ที่จะมุง่ ทกี่ ารแก้ไขซ่ึงมองที่สถติ ิอบุ ัตเิ หตุแต่เพยี งอย่างเดียว - การค้นหาและจัดทาลาดับความวิกฤตของปัญหาความรุนแรงจะต้องดาเนินการ ในเร่อื งใดก่อน (Priority Setting) - การวัดความสัมพันธ์ของการจัดการด้านต่าง ๆ เพื่อส่งผลให้มีการป้องกันและ ควบคมุ อบุ ตั เิ หตแุ ละความสูญเสียอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ - การควบคุมความสูญเสีย (Loss Control) เป็นส่วนหน่ึงของการจัดการรวม (Total Management) 2) การจัดการระบบข้อมูล (Management Information System) จาเป็นอย่างย่ิงต่อ การบริหารงานและผู้บริหารท่ีจะใช้ข้อมูลในการวางแผนงานกาหนดนโยบายและการตัดสินใจ ข้อมูลท่ีเก็บ จะต้องเป็นข้อมูลท่ีสาคัญและจาเป็นต่อการบริหารงานและการปฏิบัติงาน มีระบบการจัดเก็บท่ีดี สามารถ ค้นหาได้ง่าย มีการป้องกันการสูญหาย และมีข้อมูลที่เพียงพอต่อการวิเคราะห์และการตัดสินใจของผู้บริหาร ตลอดจนการดาเนนิ งานดา้ นต่าง ๆ 3) มาตรฐานการปฏบิ ัตงิ าน (Performance Standard) ระบบการบริหารงานความปลอดภัย ฯ สมัยใหม่ ให้ความสาคัญต่อมาตรฐานการปฏิบัติงาน กิจกรรมหรืองานท่ีปฏิบัติจะต้องมีข้ันตอนการปฏิบัติ กาหนดมาตรฐาน และควบคุมให้เป็นไปตามมาตรฐาน มีการพัฒนาระบบมาตรฐานให้สูงข้ึนจนเข้าสู่ระดับ สากล 4) ระบบการประเมินวัดผล (Measurement and Evaluation System) ระบบน้ีมุ่งเน้น มาตรฐานท่ีสามารถวัดได้ ใช้เป็นดัชนีช้ีวัดได้ ตรวจสอบ และประเมินผลได้ว่ากิจกรรมหรือโปรแกรมท่ีปฏิบัติ ไดผ้ ลตามมาตรฐานหรอื ต่ากวา่ มาตรฐาน สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)
มลู คา่ เพ่ิมทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทุนดา้ นความปลอดภยั ในสถานประกอบกจิ การ 15 อารี เพชรผุด (15) กล่าวถงึ การจัดการความปลอดภัยฯ ในโรงงานตอ้ งคานึงถงึ สภาพแวดล้อมที่ เก่ียวกบั ความปลอดภยั ในโรงงานในเรือ่ งเหลา่ นี้ คือ - การจัดองค์กรเพื่อความปลอดภัย ซ่ึงอาจจะจัดในรูปของคณะกรรมการดาเนินงานเพ่ือความ ปลอดภัย ท่ีทาหน้าที่ในการตรวจและวิเคราะห์หาสาเหตขุ องอุบัติเหตุและสภาพแวดลอ้ มที่ไม่เหมาะสมในการ ทางาน รวมทัง้ ตรวจสอบและรับทราบรายงาน แจ้งผลการตรวจสอบความปลอดภัย หรือข้อเสนอแนะเกย่ี วกับ การปอ้ งกันอบุ ัตเิ หตุจากทกุ ฝ่ายทีส่ ง่ เข้ามา และทบทวนปรบั ปรุง วธิ ีการปฏิบตั งิ านต่าง ๆ - การจัดการสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยในการทางานท่ีจะทาให้คนทางานอย่างมีความสุข เพราะ หากสภาพแวดล้อมไม่ปลอดภัย เช่น เกิดอุบัติเหตุบ่อย ๆ ก็จะทาให้ขวัญกาลังใจของพนักงานต่า ซ่ึงจะส่งผล ต่อประสิทธิภาพในการทางานของสถานประกอบกิจการ อีกท้ังสถานประกอบกิจการก็จะต้องเพิ่มค่าใช้จ่าย มากขึ้นในกรณีท่ีพนักงานได้รับอุบัติเหตุอีกด้วย สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยในการทางาน จะต้องพิจารณาใน ส่วนทีเ่ ก่ียวขอ้ ง ได้แก่ ลกั ษณะโรงงาน การระบายอากาศ ทางออกฉกุ เฉินในการทางานการป้องกันอุบตั ิเหตุ - การป้องกันอุบัติเหตุจากการทางาน เป็นวิธีการอีกวิธีหน่ึงในการจัดการความปลอดภัยซ่ึง จะต้อง ทาการศึกษาถึงสาเหตุที่จะให้ผู้ปฏบิ ัติงานประสบอุบัตเิ หตุ เช่น ความร้เู ท่าไม่ถึงการณ์ สภาพแวดล้อม ไม่ดี ทาเลท่ีต้ังไม่เหมาะสม สภาพทางเศรษฐกิจบีบรัด การปกครองบังคับบัญชาบกพร่องความประมาทของ คนงาน ความจาเจของงาน เป็นต้น และจะต้องทาการศึกษาถึงวิธีในการป้องกันอุบัติเหตุด้วย เช่น การออก กฎระเบยี บ ขอ้ บังคับ การจดั ทามาตรฐานการตรวจสอบ การวิจัยทางเทคนิคการแพทยแ์ ละจติ ศาสตร์ เปน็ ต้น - การจัดสง่ิ อานวยความปลอดภัยอื่น ๆ เชน่ การจัดใหม้ ีเคร่ืองมือในการปฐมพยาบาล การจัดน้า ดื่มทส่ี ะอาด ห้องสขุ า และสถานท่ีทาความสะอาดรา่ งกาย เปน็ ต้น ดังน้ัน รูปแบบการจัดการด้านความปลอดภัยฯ ที่ดีน้ันต้องมีการเสริมสร้างความเข้าใจ ในกระบวนการผลิตเพื่อการปฏิบัติงานด้วยความปลอดภัยให้เป็นระบบและต่อเนื่อง ซึ่งจะต้องประกอบด้วย ความเห็นชอบและสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง การมีนโยบายที่ชัดเจน มีการวางแผนงานโครงการและ เทคนิคของระบบงานความปลอดภัยฯ การจัดองค์กร บุคลากร งบประมาณ การมอบหมายหน้าท่ี ความรับผิดชอบที่ชัดเจน การมีส่วนร่วมของบุคลากรในองค์กร โดยเฉพาะหัวหน้างานและพนักงาน การฝึกอบรมและเผยแพร่ความรู้ดา้ นความปลอดภยั ฯ การมกี ฎขอ้ บงั คับด้านความปลอดภัยฯ แนวทางควบคุม ภาวะฉกุ เฉินท่ีครอบคลุม ระบบข้อมูล การติดตามประเมนิ ผล และการปรับปรุงแกไ้ ข สถาบนั สง่ เสริมความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)
มูลคา่ เพิ่มทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทุนดา้ นความปลอดภยั ในสถานประกอบกจิ การ 16 2.3 แนวคิดและทฤษฎีภูเขานาแข็ง McClelland, 1987 (16) นักจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดได้นิยามแนวความคิดเก่ียวกับ สมรรถนะหรือความสามารถของบุคคลในองค์กร โดยได้กล่าวถึง ความสัมพันธ์ของคุณลักษณะที่ดี สมรรถนะ คอื บุคลิกลักษณะ ท่ีซ่อนอยู่ภายในปัจเจกบคุ คลซ่ึงสามารถผลักดันให้ปจั เจกบุคคลนั้นสร้างผล การปฏิบตั ิงาน ท่ีดีหรือตามเกณฑ์ที่กาหนดในงานที่ตนรับผิดชอบ (Excellent Performer) ของบุคคลในองค์กรกับระดับ ทกั ษะความรคู้ วามสามารถ ตอ่ มา Parry, 1997 (17) ได้ให้ความหมายเพิ่มเติมวา่ สมรรถนะ คือ องค์ประกอบ (Cluster) ของความรู้ ทักษะ และทศั นคติ ของปจั เจกบคุ คลทีม่ ีอิทธิพลอย่างมากต่อผลสัมฤทธ์ิของ การทางาน ของบุคคลน้ัน ๆ เป็นบทบาทหรือความรับผิดชอบซึ่งสัมพันธ์กับผลงานและสามารถวัด ค่าเปรียบเทียบกับ เกณฑ์มาตรฐานและสามารถพัฒนาได้โดยการฝึกอบรม หลังจากน้ัน Boyatzis, 1982 (18) ได้กล่าวว่า สมรรถนะ คือ กลุ่มของ ความสามารถท่ีมีอยู่ในตัวบุคคลซ่ึงกาหนดพฤติกรรมของบุคคลเพื่อให้บรรลุถึงความ ต้องการของงานภายใต้ปัจจยั สภาพแวดล้อมขององค์กร และทาใหบ้ คุ คลมงุ่ ม่นั ไปสู่ผลลัพธท์ ตี่ ้องการ นอกจากน้ีแนวคิดและทฤษฎีท่เี ก่ยี วขอ้ งกับสมรรถนะการทางานที่ได้จากการทบทวนวรรณกรรม ของนักวิชาการในประเทศไทยยังให้ความหมายเพ่ิมเติมไว้ ดังเช่น ณรงค์วิทย์ แสงทอง ได้ให้ความหมายไว้ว่า สมรรถนะ คือ ความสามารถหรือสมรรถนะของผ้ดู ารงตาแหน่งงานท่ีงานน้ัน ๆ ต้องการ คาว่า Competency นไ้ี มไ่ ด้หมายถึงเฉพาะพฤติกรรมแต่มองลกึ ไปถึงความเช่ือทัศนคติ อุปนสิ ัยสว่ นลึกของตนด้วย (19) นอกจากน้ี ได้ให้ความหมายของ สมรรถนะว่า คือ คุณลักษณะท่ีต้องการในการทางาน และในตัวของแต่ละบุคคลท่ีเรา สามารถ คาดการถึงพฤติกรรม และสมรรถนะที่ต้องการ และสามารถวัดสมรรถนะในงาน และในตัวบุคคล ได้ว่า อยู่ในเกณฑท์ ่ีดหี รอื ไมด่ ภี ายใตค้ วามสามารถสมรรถนะการทางานภายใต้สถานการณ์ตา่ ง ๆ McClelland ได้เปรียบเทียบความหมายของสมรรถนะไว้ในหนังสือ The Competency Foundation โดยอธิบายบุคลิกลักษณะของคนเปรียบเสมือนภูเขาน้าแข็ง ได้ดังต่อไปนี้ ส่วนที่อยู่เหนือน้า สามารถสังเกตเหน็ ไดง้ า่ ย คือสามารถแสดงใหเ้ ห็นในเรอื่ ง 1. ทักษะโดยเป็นสิ่งที่บุคคลรู้และสามารถทาได้เป็นอย่างดี เช่น ทักษะการอ่าน ทักษะการฟัง ทักษะในการขับรถ 2. ความรู้ คือ สิ่งที่บุคคลรู้และเข้าใจในหลักการ แนวคิดเฉพาะด้าน เช่น มีความรู้ ด้านบัญชี มีความรูด้ ้านการตลาด การเมอื ง ส่วนน้าแข็งทอ่ี ย่ใู ตน้ า้ สังเกตเหน็ ได้ยากและถูกปดิ บัง 3. บทบาททางสังคม (Social Role) โดยเปน็ สิ่งที่บุคคลต้องการสอ่ื ให้บุคคลอ่ืนในสงั คม เห็นว่า ตัวเขามีบทบาทอยา่ งไรต่อสังคม เช่น ชอบชว่ ยเหลอื ผู้อนื่ เปน็ ตน้ 4. ภาพพจน์ท่ีรับรู้ตัวเอง คือ ภาพพจน์ท่ีบุคคลและสมองตัวเองว่าเป็นอย่างไร เช่น เป็นผู้นา เป็นผู้เชีย่ วชาญ เปน็ ศลิ ปิน เปน็ ต้น สถาบนั ส่งเสริมความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)
มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทุนดา้ นความปลอดภยั ในสถานประกอบกิจการ 17 5. อปุ นสิ ัย คือ ลักษณะนสิ ัยใจคอของบุคคลท่เี ปน็ พฤตกิ รรมถาวร เช่น เป็นนักกีฬาทด่ี ี เป็นคนใจเย็น เป็นคนออ่ นน้อมถอ่ มตน เป็นต้น 6. แรงกระตุ้น (Motive) คือพลังท่ใี ช้ในการขับเคลื่อนภายในจิตใจของบุคคลท่ีสง่ ผลให้เกดิ การ กระทบต่อการกระทา ตัวอย่างเช่น เป็นคนท่ีมีความต้องการผลสาเร็จ การกระทาสิ่งต่าง ๆ จงึ ออกมาในลกั ษณะของการม่งุ ไปสคู่ วามสาเรจ็ ตลอดเวลา (McCelland, 1973) (20) ภาพท่ี 2-2 แบบจาลองภูเขานา้ แขง็ ของ McCelland (20) กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (21) สรุปว่า ความสูญเสียหรือค่าใช้จ่ายของการเกิด อุบัติเหตุเปรียบเสมือน “ภูเขาน้าแข็ง” เนื่องจากความสูญเสียทางอ้อม ได้แก่ การสูญเสียเวลาทางานของ ผู้บาดเจ็บ เพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน ค่าใช่จ่ายในการซ่อมแซมเคร่ืองจักร เคร่ืองมือ อุปกรณ์ วัตถุดิบ หรือ สินค้าที่ได้รับความเสียหาย ผลผลิตที่ลดลง ค่าสวัสดิการต่าง ๆ ของผู้บาดเจ็บ ค่าจ้างแรงงานของผู้บาดเจ็บ การสูญเสียโอกาสในการทากาไร การเสียช่ือเสียง และภาพลักษณ์ของสถานประกอบกิจการ และค่าใช้จ่าย เบ็ดเตล็ด มีค่ามหาศาลกว่าความสญู เสียทางตรงมาก อันได้แก่ ค่ารักษาพยาบาล ค่าทดแทน คา่ ทาขวัญ ค่าทาศพ และค่าประกันชีวิต ซ่ึงโดยปกตเิ ราจะไม่คาดคิด จากภาพท่ี 2-2 แสดงภูเขาน้าแข็งสว่ นท่ีโผล่พ้นนา้ ซึ่งสามารถ มองเห็นได้มีน้อยเมอื่ เทยี บกับส่วนที่จมอยู่ใต้น้า ซ่ึงค่าใช่จา่ ยทางตรงจะเป็นส่วนที่สาคญั ที่ผบู้ ริหารเล็งเหน็ แต่ เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้นเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากการเกิดอุบัติเหตุในอัตราส่วน 1 : 2.3 – 101 ดงั น้ันผบู้ รหิ ารจึงไม่ควรมองขา้ มหรอื ละเลยตอ่ คา่ ใชจ้ ่ายทีเ่ ป็นความสูญเสยี ทางอ้อม สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)
มูลคา่ เพ่ิมทางเศรษฐกิจและสังคมต่อการลงทุนดา้ นความปลอดภัยในสถานประกอบกจิ การ 18 2.4 สมรรถนะ ในโลกของการแขง่ ขันทางด้านธุรกิจ ในด้านการพัฒนาคนของธุรกจิ คแู่ ข่งสามารถตามทนั ตอ้ งใช้ เวลาถึง 7 ปีในขณะท่ีเทคโนโลยีจะใช้เวลาเพียง 1 ปี ก็ตามทันเพราะซ้ือหาได้ง่าย ดังน้ัน สมรรถนะจึง มคี วามสาคัญต่อการปฏิบัตงิ านของพนกั งานและองค์การ กล่าวคือ 1. ช่วยให้การคัดสรรบคุ คลทมี่ ีลักษณะดีท้ังความรู้ทกั ษะและความสามารถตลอดจน พฤตกิ รรมที่ เหมาะสมกับงานเพอ่ื ปฏบิ ตั งิ านใหส้ าเรจ็ ตามความตอ้ งการขององค์กรอย่างแทจ้ ริง 2. ช่วยให้ผู้ปฏิบตั ิงานทราบถึงระดับความสามารถของตัวเองว่าอย่ใู นระดบั ใด และจะตอ้ งพัฒนา ในเรอื่ งใด ช่วยใหเ้ กดิ การเรยี นรดู้ ้วยตนเองมากย่ิงข้นึ 3. ใช้ประโยชนใ์ นการพัฒนาฝึกอบรมแก่พนักงานในองค์กร 4. ชว่ ยสนับสนุนให้ตัวช้ีวัดหลักของผลงาน (KPIs) บรรลเุ ป้าหมาย เพราะสมรรถนะจะเป็นตวั บ่ง บอกไดว้ ่า ถ้าตอ้ งการให้บรรลุเปา้ หมายตาม KPIs แล้ว จะต้องใช้สมรรถนะตวั ไหนบ้าง 5. ป้องกันไม่ให้ผลงานเกิดจากโชคชะตาเพียงอยา่ งเดียว เช่น ยอดขายของพนักงานขาย เพิ่มข้ึน สูงกว่าท่กี าหนดทง้ั ๆ ที่พนักงานขายคนนั้นไมค่ อ่ ยตั้งใจทางานมากนัก แต่เนอ่ื งจาก ความต้องการของตลาดสูง จึงทาให้ยอดขายเพ่ิมข้ึนเองโดยไม้ต้องลงแรงอะไรมาก แต่ถ้ามีการวัดสมรรถนะแล้ว จะทาให้สามารถ ตรวจสอบได้วา่ พนกั งานคนน้ันประสบความสาเรจ็ เพราะโชคชว่ ย หรอื ดว้ ยความสามารถของเขาเอง 6. ชว่ ยให้เกิดการหล่อหลอมไปสู่สมรรถนะขององคก์ รท่ีดีขึ้น เพราะถา้ ทุกคนปรับ สมรรถนะของ ตัวเองให้เข้ากับผลงานท่ีองค์กรต้องการอยู่ตลอดเวลาแล้ว ในระยะยาวก็จะส่งผลให้ เกิดเป็นสมรรถนะเฉพาะ ขององค์กรน้นั ๆ 2.5 มาตรฐานระบบการจดั การดา้ นความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน การคุ้มครองผู้ใช้แรงงานให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความมั่นคง และมีความปลอดภัยในการทางาน ตามบทบาทหน้าท่ีของกระทรวงแรงงาน จาเป็นต้องดาเนินการทางด้านการควบคุมกากับดูแลให้ สถานประกอบกิจการปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัยฯ อย่างเคร่งครัด ควบคู่ไปกับการสง่ เสริมพฒั นาเพื่อ สร้างความตระหนักรู้และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงาน ให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้แรงงานจะได้ทางานใน สภาพแวดล้อมการทางานท่เี หมาะสมปลอดจากอบุ ัติเหตแุ ละโรคจากการทางาน สถาบันส่งเสริมความปลอดภัยฯ ได้จัดทามาตรฐานระบบการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน เพื่อให้มเี อกสารทางวชิ าการท่ีชว่ ยให้สถานประกอบกจิ การสามารถดาเนินงาน สถาบนั สง่ เสริมความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)
มลู ค่าเพิ่มทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทุนดา้ นความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ 19 ตามมาตรฐานระบบความปลอดภัยฯ ได้อย่างถูกต้องตรงตามวัตถุประสงค์สถาบันส่งเสริมความปลอดภัยฯ เพ่ือ นาไปสู่การจดั การเพอื่ การปอ้ งกัน ควบคุม และแก้ไขปญั หาดา้ นความปลอดภัยฯ ที่มีประสิทธิภาพ กระทรวงแรงงานได้ออกกฎกระทรวงกาหนดมาตรฐานในการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2553 ลงวันท่ี 24 มิถุนายน 2553 กาหนดให้สถานประกอบ กิจการท่ีมีลูกจ้างตั้งแต่ 50 คนข้ึนไป นายจ้างต้องจัดให้มีระบบการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน ซึ่งอยา่ งนอ้ ยต้องประกอบดว้ ย 1. นโยบายดา้ นความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน 2. โครงสรา้ งการบรหิ ารด้านความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน 3. แผนงานความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางานและการนาไปปฏิบัติ 4. การประเมินผลและทบทวนการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการทางาน 5. การดาเนินการปรับปรงุ ดา้ นความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน ท้ังน้ี เพื่อให้เกิดการปฏิบัติท่ีถูกต้องสอดคล้องกับมาตรฐานหรือข้อกาหนดของกฎหมายใน การดาเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน นาไปสู่การมีพฤติกรรม ความปลอดภัยในการทางาน สถาบนั ส่งเสริมความปลอดภัยฯ ไดจ้ ัดทามาตรฐานระบบการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน มีเน้ือหากล่าวถึง บทนา ขอบข่าย คานยิ าม และขอ้ กาหนดซง่ึ เป็นไป ตามกฎกระทรวงกาหนดมาตรฐานในการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการ ทางาน 2.6 แนวคดิ เรอ่ื งมลู ค่าเพ่ิมทางเศรษฐกิจ 2.6.1 มูลคา่ เพิม่ ทางเศรษฐกิจ (Economic Value Added) มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ หรือ มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐศาสตร์ (Economic Value Added) หรือ EVA เป็นแนวคิดท่ีถกู พัฒนาขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจลงทุนทางการเงินดว้ ยวัตถุประสงค์หลัก คือ การสร้างมูลค่าสูงสุดให้กับผู้ถอื หนุ้ และมูลค่ากิจการในอนาคต สาหรับนักลงทุนท่ีคาดหวงั ผลตอบแทนจากการ ลงทุนซึ่งสะท้อนจากผลประกอบการทแี่ สดงดว้ ยมลู ค่าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ในปี ค.ศ. 1989 บริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจ Stern Stewart& Company ได้คิดค้นการ วัดผลการดาเนินงานโดยใช้การคานวณมูลค่าเพ่ิมเชิงเศรษฐกิจ แนวคิด EVA สะท้อนวิธีคิดเร่ืองการคานวณ กาไรทแ่ี ตกตา่ งกันระหวา่ งกาไรทางบญั ชีและกาไรทางเศรษฐศาสตร์หรือกาไรส่วนท่ีเหลอื (Residual Income) ซึง่ คานวณจากกาไรจากการดาเนนิ งานหักด้วยต้นทนุ ของเงินทนุ เพื่อให้สะทอ้ นถึงผลส่วนเพิ่มขององคก์ รอย่าง สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)
มลู ค่าเพ่ิมทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทนุ ด้านความปลอดภยั ในสถานประกอบกิจการ 20 แท้จริง (22) นักเศรษฐศาสตร์ อธิบายวา่ การสร้างกาไรเชงิ เศรษฐศาสตร์น้ัน ธรุ กิจจะต้องสร้างรายได้มากกว่า ค่าใช้จา่ ยต่าง ๆ ในการดาเนินธรุ กจิ และต้องมกี าไรจากการดาเนนิ งานเพียงพอที่จะชาระต้นทุนการลงทุนของ ผใู้ หก้ ู้และผถู้ ือห้นุ ในองค์กร ด้วยเหตุนี้ การวัดกาไรเชงิ เศรษฐศาสตรส์ ามารถทาได้โดยนากาไรจากการดาเนินงานหลัง หักภาษีลบด้วยต้นทุนเงินทุนท่ีใช้ไปเพื่อสร้างกาไรน้ัน ๆ บางคร้ังอาจเรียกต้นทุนเงินทุนว่ากาไรขั้นต่าท่ีต้องทาได้ ตามหลักเศรษฐศาสตร์นั้น กาไรที่แท้จริง คือ กาไรสุทธิท่ีหักค่าใช้จ่ายทุกอย่างรวมทั้งการหักต้นทุนค่าเสีย โอกาสของผู้ถือหุ้น กาไรส่วนท่ีเหลือ คือ กาไรเชิงเศรษฐศาสตร์ที่องค์กรสามารถสร้างเพ่ิมขึ้นในแต่ละงวด ซึง่ นบั ว่าเป็นกาไรท่ีแท้จรงิ ขององคก์ ร ดังน้นั มลู ค่าเพ่ิมเชิงเศรษฐกจิ หรอื มูลค่าเพ่ิมเชิงเศรษฐศาสตร์ หรือ EVA จึงเป็นการวัดผล การปฏิบัติงานองค์กรที่คานวณได้จากการหาส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนเงินลงทุน (Return on Capital) กับต้นทุนของเงินลงทุน (Cost of Capital) และนามาคูณกับเงินลงทุนในต้นปี (หรือเป็นค่าเฉลี่ยของปี ถ้าใช้ ค่าเฉลี่ยของเงินลงทุนในการคานวณ Return on Capital) ค่า EVA จึงเป็นกาไรส่วนที่เหลือหลังจากท่ีหัก ตน้ ทนุ ท้งั หมดของเงนิ ลงทนุ ออกแลว้ (นภดล ร่มโพธ์ิ และ มนวกิ า ผดงุ สิทธ์ิ, 2557) (23) 2.6.2 ตน้ ทนุ ของเงนิ ลงทุน (Cost of Capital) ต้นทุนของเงินลงทุน (Cost of Capital) หมายถึง ค่าใช้จ่ายท้ังหมดท่ีธุรกิจต้องเสียไป เพ่ือให้ได้เงินทุนจานวนหน่ึงเข้ามาใช้ในการลงทุน คานวณจากอตั ราผลตอบแทนข้ันต่าที่เจา้ ของเงินกูแ้ ละผถู้ ือหุ้น ต้องการซึ่งเรียกว่า “อัตราต้นทุนเงินทุน (Cost of Capital)” คูณด้วย “เงินทุน (Capital)” โดยจัดว่าเป็น ต้นทนุ แบบหน่ึงเชน่ เดยี วกับต้นทนุ อน่ื ๆ ในการดาเนินธรุ กจิ และจะต้องหกั ลบเงนิ ทุนนอี้ อกจากกาไร เงินทุน (Capital) คือ เกณฑ์ทางเศรษฐศาสตร์ที่ใช้วัดจานวนเงินท้ังหมดที่เจ้าของเงินกู้ และผู้ถือหุ้นลงทุนในการดาเนินงานของธุรกิจต้ังแต่เร่ิมต้นประกอบกิจการ หรือกล่าวโดยสรุปว่า เงินทุน หมายถึง เงินท่ีลงทุนในธุรกิจ และสามารถคานวณเงินทุนได้จากการนาข้อมูลในงบดุลมาปรับปรุงทาง เศรษฐศาสตร์ ซ่ึงคานวณได้ 2 วิธี กล่าวคือ วิธีท่ี 1 คิดจากสินทรัพย์ โดยการรวมเงินทุนหมุนเวียนสุทธิและ สินทรัพย์ถาวรสุทธิ และ วิธีท่ี 2 คิดจากหน้ีสินและส่วนของผู้ถือหุ้น โดยคิดจากหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย และส่วนของผถู้ อื ห้นุ 2.6.3 กาไรทางเศรษฐศาสตร์ (Economic Profit) การคานวณกาไรทางเศรษฐศาสตร์ (Economic Profit) เราจะต้องทาการปรับงบบัญชี (Accounting Statement) ท้ังงบกาไรขาดทุน (Profit & Loss Statement) และงบดุล (Balance Sheet) ใหก้ ลายเป็นงบทางเศรษฐศาสตร์ (Economic Statement) ในรูปแบบงบกาไรสทุ ธจิ ากการดาเนนิ งานหลงั หัก สถาบันสง่ เสริมความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)
มูลค่าเพ่ิมทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทุนดา้ นความปลอดภยั ในสถานประกอบกิจการ 21 ภาษีเงินได้ (NOPAT Statement) งบเงินทุน (Capital Statement) และงบกาไรทางเศรษฐศาสตร์ (Economic Profit Statement) ซงึ่ จะใช้เป็นเครอ่ื งมอื บริหารองคก์ รเพื่อสร้างมลู คา่ เพ่ิมสาหรบั ผู้บรหิ ารระดับ ต่าง ๆ ขององค์กร อาจกล่าวได้ว่า การปรับปรุงรายการบัญชีนี้ คือ การปรับปรุงตัวเลขในงบบัญชีเพื่อสร้าง งบเศรษฐศาสตร์ขององค์กรนน้ั เอง จีรวัฒน์ หงสกุล (24) ต้ังข้อสังเกตว่า การคานวณกาไรทางเศรษฐศาสตร์ให้เหมาะสมนั้น จะเน้นสร้างสมดุลระหว่างความแม่นยาทางเศรษฐศาสตร์และความง่ายในการนาสู่การปฏิบัติ โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อวัดการสร้างมูลค่าเพ่ิมที่มีนัยสาคัญและง่ายต่อการสร้างความเข้าใจต่อผู้บริหารและพนักงาน ในองค์กร สาหรับการพิจารณารายปรบั ปรุงท่ีเหมาะสม มปี ัจจยั ในการพิจารณา ดังน้ี - แรงจูงใจ (Motivational Impact) การปรับปรุงควรส่งเสริมให้เกิดพฤติกรรมที่มุ่งเพิ่ม กาไรทางเศรษฐศาสตร์และกาหนดความรับผิดชอบต่อผลงานการสร้างกาไรทางเศรษฐศาสตร์ได้ อยา่ งชัดเจนย่งิ ขน้ึ - ความมีนัยสาคัญ (Materiality) โดยรายการปรับปรุงจะต้องมีผลกระทบต่อกาไรทาง เศรษฐศาสตร์ที่มากพอตอ่ การใหค้ วามสนใจของผ้บู ริหาร - ความพร้อมของข้อมลู (Data Availability) โดยองค์กรควรสามารถหาข้อมูลท่จี าเป็นได้ โดยไมต่ ้องใชเ้ งินทนุ และเวลาในการจัดเตรียมมากเกนิ ไป - ความง่ายต่อความเข้าใจ (Understandability) ผู้บริหารระดับสูงและระดับปฏิบัติการ สามารถเขา้ ใจเหตุผลของรายการปรับปรงุ ได้ 2.7 ต้นทนุ การเกดิ อุบตั เิ หตุ 2.7.1 ตน้ ทนุ ทางตรง ต้นทุนทางตรง หมายถึง จานวนเงินที่ต้องจ่ายไปอันเก่ียวเน่ืองกับผู้ได้รับบาดเจ็บโดยตรง จากการเกิดอบุ ัตเิ หตุน้นั ได้แก่ ค่าทดแทนกรณีเจ็บป่วยจนต้องหยุดงาน หมายถึง เงินทดแทนและสิทธิประโยชน์ ช่วยเหลือต่าง ๆ เม่ือเกิดเหตุการณ์ท่ีทาให้หยุดงานจากการทางาน เช่น เจ็บป่วย ประสบอันตราย สูญเสีย อวัยวะ ทุพพลภาพ ตายหรือสูญหาย โดยคุ้มครองลูกจ้างต้ังแต่วันแรกท่ีเข้าทางาน ซึ่งเงินในส่วนนี้จะมาจาก นายจา้ งทจี่ า่ ยเงนิ สมทบเขา้ กองทุนทกุ ๆ ปี สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)
มลู คา่ เพ่ิมทางเศรษฐกิจและสังคมต่อการลงทุนด้านความปลอดภยั ในสถานประกอบกิจการ 22 1) คา่ รักษาพยาบาลและคา่ ทดแทนกรณบี าดเจบ็ จนไม่สามารถทางานได้หรือหยดุ งาน Nakagawa et al. (2015) (24) ศึกษาเก่ียวกับการปรับปรุงตารางค่าธรรมเนียมการ รักษาพยาบาลของโรงพยาบาลองค์กรแห่งชาติในญ่ีปุ่น มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาถึงอิทธิพลของการ เปล่ียนแปลงตารางค่าธรรมเนียมการรักษาพยาบาลของโรงพยาบาลแห่งชาติ (NHO) เพ่ือดูภาพรวมการ เปลี่ยนแปลงของสภาพธุรกิจในระบบการดูแลสุขภาพของญ่ีปุ่น โดยศึกษาโรงพยาบาลท้ังสิ้น 143 แห่ง ในประเทศญ่ีปุ่น ปี 2547 ถึงปี 2556 สารวจการเปลี่ยนแปลงทางการเงิน ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพท้ังหมดและ อัตราการแกไ้ ขของตารางค่ารักษาพยาบาลท่ีมีให้จากเว็บไซต์ของรัฐบาล ผลการศึกษาพบว่า ค่ารกั ษาพยาบาล ลดลง 3.16% ในปี 2549 และ 0.82% ในปี 2551 จากนั้นเพิ่มข้ึน 0.19% ในปี 2553 และ 0.004% ในปี 2555 อัตราการเปล่ียนแปลงของกาไรต่อเตียงในโรงพยาบาล NHO โดยรวมกับอัตราการเปล่ียนแปลงของ คา่ ใชจ้ ่ายด้านสุขภาพทั้งหมดยกเว้นปี 2553 เม่ืออัตราการเปลี่ยนแปลงเพ่ิมขน้ึ ใน 6.9% และ 3.9% ตามลาดับ เหตผุ ลของข้อยกเว้นในปี 2553 สามารถเชื่อมโยงกับการเปลีย่ นแปลงไปส่กู ารดูแลแบบเฉียบพลันใหส้ อดคล้อง กับนโยบายของรัฐบาล โรงพยาบาล NHO ที่มีเตียงมากกว่า 350 เตียงได้เพ่ิมอัตราการเปล่ียนแปลงของกาไร ตอ่ เตยี งอยา่ งต่อเน่ืองแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงตารางคา่ บรกิ ารทางการแพทย์ในปี 2549 และ 2551 2) ค่าหอ้ งหรือรถพยาบาล McArthur et al., 2014 (25) ศึกษาเก่ียวกับการจาลองต้นทุนการให้บริการรถพยาบาล ในประเทศนอร์เวย์ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบการเข้าถึงข้อมูลประชากรและรูปแบบการเข้าถึงภูมิภาค ท่ีมผี ลต่อตน้ ทุนในการให้บริการรถพยาบาล และเพ่ือการคาดการณ์ต้นทุนและอุปสงค์ในอนาคตสาหรบั บริการ รถพยาบาล โดยมีกลุ่มตัวอย่างเป็นเทศบาลในประเทศนอร์เวย์ จานวน 140 แห่ง ในการศึกษาครั้งนี้มี การกาหนดตัวแปรโดยแบ่งเป็น 2 ประเภท ประเภทแรกคือกาหนดความต้องการ ซึ่งเก่ยี วข้องกับเกยี่ วขอ้ งกับ ประชากรของแต่ละเขตเทศบาล และประเภทท่ีสอง คือ ค่าใช้จ่ายในการใช้งานรถพยาบาล ซ่ึงเก่ียวข้องกับ ปัจจัยทางภูมิศาสตร์เป็นหลัก เช่น ระยะห่างจากโรงพยาบาล เป็นต้น ผลการศึกษาพบว่า การเข้าถึงภูมิภาค และประชากรเป็นปัจจยั สาคญั ในการกาหนดต้นทุน นอกจากนั้นประชากรสูงอายมุ ผี ลกระทบตอ่ ความตอ้ งการ การขนส่งรถพยาบาลและค่าใช้จ่ายในการให้บริการ ดังนั้นแบบจาลองแสดงให้เห็นว่าสามารถคาดการณ์ ค่าใช้จ่ายโดยรวมในการให้บริการรถพยาบาลในภูมิภาคเพ่ิมข้ึน แต่อย่างไรกต็ ามค่าใช้จา่ ยมีอัตราการเพิ่มขึ้นที่ ไมเ่ ท่ากนั 2.7.2 ตน้ ทุนทางอ้อม ต้นทุนทางอ้อม หมายถึง ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ (ซ่ึงส่วนใหญ่จะคานวณเป็นตัวเงินได้) นอกเหนือจากคา่ ใช้จา่ ยทางตรงสาหรับการเกดิ อบุ ตั ิเหตุในแต่ละครั้ง ไดแ้ ก่ สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)
มูลคา่ เพิ่มทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทุนด้านความปลอดภยั ในสถานประกอบกิจการ 23 1) คา่ ใช้จา่ ยดา้ นกฎหมาย Friehe, 2010 (26) ศึกษาเก่ียวกับการประกันค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย และค่าธรรมเนียมที่ อาจเกิดขึ้นโดยวิเคราะห์ผลกระทบของจาเลยที่มีความผิดแตกต่างกัน ทาการเปรียบเทียบผลการดาเนินคดี ภายใต้ระบอบค่าธรรมเนียมที่อาจเกิดข้ึนและระบอบการประกันค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย มีเกณฑ์สาหรับการ เปรยี บเทียบระบอบการปกครอง คอื คา่ ตอบแทนทีโ่ จทก์คาดหวัง คา่ ใชจ้ ่ายของโจทก์และจาเลยความพยายาม ในการแข่งขันท้ังหมด แรงจูงใจในการเป็นตัวแทนและ และความยุติธรรม ผลการศึกษา พบว่า การ เปลย่ี นแปลงระดบั ของความผิดสามารถกลับการจัดอันดับของระบอบการปกครองได้ ตัวอย่างเช่น การจ่ายเงิน ชดเชยที่คาดหวังของโจทก์จะสูงขึ้นในระบอบค่าธรรมเนียมท่ีอาจเกิดข้ึนหากระดับความผิดของจาเลยต่า อกี ท้งั ยังพบวา่ ประสิทธิภาพของระบอบการปกครองท้งั สองข้ึนอยู่กบั ความผิดของจาเลย 2) ค่าใชจ้ ่ายด้านการบริหารจดั การ Svirina et al., 2014 (27) ศึกษาเก่ียวกับการวัดค่าใช้จ่ายในการจัดการรวมทั้งค่าใช้จ่าย ตามวัตถุประสงค์ที่สามารถพบได้ในข้อมูลทางบัญชีและค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการจัดการผิดพลาด ซึ่งสารวจ ข้อมูลทางบัญชีจากองค์กรธุรกิจ 32 ประเภท ประกอบด้วยผู้ประกอบการอุตสาหกรรม 19 แห่ง กิจการ โทรคมนาคม 3 แห่ง บริษัทที่มีธุรกิจหลากหลาย 3 แห่ง องค์กรการค้า 3 แห่ง บริษัทที่ให้บริการ 2 แห่ง และองค์กรการเงิน 2 แห่ง ข้อมูลท่ีได้มาจากองค์กรใช้วิธีทดสอบทางสถิติ SSPS และวิธีการศึกษาจากการ สัมภาษณ์แบบ peer-to-peer จากผู้จัดการในบริษัท (สัมภาษณ์อย่างน้อยสองคร้ังต่อบริษัท) พิจารณาจาก ระดับเอนโทรปี กล่าวคือ ระดับเอนโทรปีของการจัดการต่ากว่า 20% ซึ่งจะช่วยรักษาค่าใช้จ่ายในการจัดการ อยู่ในระดับท่ียอมรับได้ และ ถ้าเอนโทรปีของการบริหารจัดการเกินกว่า 20% หมายความว่า การจัดการท่ีไม่ ถูกต้องควรได้รับการประกันโดยผู้ถือหุ้นมิฉะน้ัน บริษัทอาจประสบภาวะล้มละลาย ผลการศึกษาพบว่า ค่าใช้จ่ายทีเ่ ก่ียวขอ้ งกับการจัดการสงู กว่าตน้ ทนุ การผลิตของบริษัท 3) ตน้ ทุนจากผลกระทบตอ่ ผลผลติ ดนุวัศ และ ปนันดา, 2562 (28) ศึกษาผลกระทบของปัจจัยทางเศรษฐกิจ สังคม สถาบัน และการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศต่อรายได้และรายจ่ายในภาคการเกษตรของเกษตรกรไทย โดยมี วัตถุประสงค์เพ่ือศึกษารายได้และรายจ่ายในภาคการเกษตรของเกษตรกรไทย (ทั้งในภาพรวม จาแนกตาม ภูมิภาค และจาแนกตามประเภทกลุ่มเกษตรกร) และเพื่อศึกษาผลกระทบของปัจจัยด้านการเติบโตทาง เศรษฐกิจ ปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคม ปัจจัยทางสถาบัน และปัจจัยด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ท่ีมีต่อรายได้และรายจ่ายในภาคการเกษตรของเกษตรกรไทย ประชากรในการศึกษาวิจัยคือ ผู้ถือครองทา การเกษตร (เพาะปลูกพืช) ท่ัวราชอาณาจักร โดยผลการวิเคราะห์ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อรายได้และรายจ่ายในภาค การเกษตรของเกษตรกรพบว่า ปัจจัยท่ีมีอิทธิพลต่อรายได้ หลังจากหักค่าใช้จ่ายของเกษตรกร ได้แก่ เพศ สถาบันสง่ เสริมความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)
มลู คา่ เพิ่มทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทุนดา้ นความปลอดภยั ในสถานประกอบกจิ การ 24 ประเภททาการเกษตรหลัก จานวนสมาชิกที่มีภาวะพ่ึงพิง ปริมาณผลผลติ ใน พ.ศ. 2559 เทียบกับ พ.ศ. 2558 การเปล่ียนแปลงผลกระทบจากการแพร่กระจาย ของวัชพืช แมลงศัตรูพืช และโรคพืช การเปล่ียนแปลง ผลกระทบจากดินถล่ม ปัจจัยท่ีมีอทิ ธิพลต่อรายจ่ายผันแปรของเกษตรกร ได้แก่ จานวนสมาชิกในครอบครัวท่ี เป็นผู้สูงอายุ จานวนพื้นท่ีการเกษตรที่เป็นของตัวเอง การเปล่ียนแปลงผลกระทบจากภัยแล้ง และการ เปล่ียนแปลงผลกระทบจากน้าท่วม ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อรายจ่ายคงท่ีของเกษตรกร ได้แก่ ประเภททา การเกษตรหลกั จานวนสมาชิกในครอบครัว จานวนพ้นื ทีก่ ารเกษตรที่เช่าจากผู้อ่ืน การเปล่ียนแปลงผลกระทบ จากภยั แลง้ และการเปล่ยี นแปลงผลกระทบจากน้าทว่ ม 4) ค่าจ้างแรงงานทดแทน นัฐวรรณ และ วสุธิดา, 2559 (29) ศึกษาเกี่ยวกับ ความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าวของ ผู้ประกอบการธุรกิจบริการ ทาการศึกษาในพื้นท่ีจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซ่ึงปัจจุบันมีการเปล่ียนแปลง โครงสร้างการผลิต เกิดการขยายตัวในภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรม พาณิชยกรรม การท่องเท่ียว และการบริการส่งผลให้ ความต้องการแรงงานของตลาดแรงงานมีแนวโน้มสูงขึ้น ทาให้เกิดปัญหาขาดแคลน แรงงาน จึงทาให้ผู้ประกอบการหันมาใช้แรงงานไร้มือจากแรงงานต่างด้าวเพ่ือทดแทนแรงงานไทยท่ีมีจานวน น้อย อีกท้ังยงั สามารถลดต้นทุนลงได้ เนอื่ งจากการจ่ายค่าจ้างต่ากวา่ แรงงานไทย โดยงานวจิ ัยน้ีมีวัตถุประสงค์ เพ่ือศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะของแรงงาน สภาพการณ์ของผู้ประกอบการและความต้องการ ในการจ้างแรงงานต่างด้าวของผู้ประกอบธุรกิจบริการ เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม จากกลุ่มตัวอย่าง 385 ราย โดยเลอื กกลมุ่ ตวั อยา่ งเปน็ ผปู้ ระกอบการ ใช้สถิตวิ เิ คราะหค์ วามถดถอยพหุคูณ ผลการศกึ ษาพบว่า - กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเจ้าของกิจการ มีเงินลงทุนต่ากว่า 100,000 บาท ให้บริการด้าน ขนส่ง ระยะเวลาในการเปิดดาเนินธุรกิจ 1-5 ปี ใช้แรงงานต่างด้าว 6-10 คน โดยแรงงานติดต่อขอเข้ามา ทางานเอง และทางานลักษณะงานประจาโดยจ่ายค่าแรงเป็นรายวัน - คุณลักษณะของแรงงานต่างด้าว ด้านความต่อเนื่องและความรับผิดชอบมีความสัมพันธ์กับ ความต้องการในการจา้ งงานแรงงานต่างด้าวของผู้ประกอบการ อย่างมนี ัยสาคัญทางสถิติ (3) ดา้ นสภาพการณ์ ของผปู้ ระกอบการ - การลดต้นทนุ มีความสัมพันธก์ ับความตอ้ งการในการจา้ งงานแรงงานตา่ งดา้ ว อยา่ งมนี ยั สาคญั ทางสถติ ิ 5) คา่ สอบสวนอบุ ตั ิเหตุ สวุ ติ า และ ณิชกานต์, 2560 (30) ศกึ ษาเก่ยี วกบั การกากับดูแลการสอบสวนอุบัติเหตใุ นการ ขนส่งของประเทศแคนาดา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะนาเสนอบทบัญญัติกฎหมายและหน่วยงานใน การ สอบสวน อุบตั เิ หตุในการขนสง่ เนื่องจากการสอบสวนอุบตั เิ หตุในการขนส่งมีความแตกต่างจากการ สอบสวน อุบัติเหตุรูปแบบอื่น ๆ กล่าวคือ การสอบสวนอุบัติเหตุในการขนส่งจะกระทาเพ่ือแสวงหาข้อเท็จจริงอันเป็น สถาบนั สง่ เสริมความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)
มลู คา่ เพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมต่อการลงทุนด้านความปลอดภยั ในสถานประกอบกิจการ 25 ปจั จัยท่ีทาให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น และนาข้อเท็จจริงดังกล่าวมาวิเคราะห์เพ่ือหามาตรการป้องกันมิให้เกิดอุบัติเหตุ เช่นนั้นอีกในอนาคต โดยบทความนี้ได้นาพระราชบัญญัติคณะกรรมการความปลอดภัย และการสอบสวน อุบัติเหตุในการขนส่งแห่งประเทศแคนาดา (Canadian Transportation Accident Investigation and Safety Board Act 1989) และกฎระเบยี บของคณะกรรมการความปลอดภยั ด้านการขนส่ง (Transportation Safety Board Regulations) อันเป็นบทบัญญัติกฎหมายของประเทศแคนาดามาศึกษาการบัญญัติกฎหมาย และการจัดต้งั คณะกรรมการในการกากบั ดูแลการสอบสวนอบุ ัติเหตุในการขนสง่ ทุกรูปแบบ 2.8 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง วินัย พุทธกูล และสิทธินันท์ วิวัฒนาพรชัย, 2558 (31) ได้ทาการศึกษา การประเมินมูลค่าเพิ่ม ทางเศรษฐกิจจากการดาเนินงานของสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) ในช่วงปีงบประมาณ 2557 (ตลุ าคม 2556-กนั ยายน 2557) โดยพบวา่ การดาเนินงานภายในหน่วยงานสามารถกอ่ ใหเ้ กดิ มูลค่าเพ่ิม ทางเศรษฐกิจในปีงบประมาณ 2557 เท่ากับ -79.55 ล้านบาท ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มข้ึนจากปีก่อนหน้า (ติดลบ น้อยลง) สะท้อนให้เห็นว่า การดาเนินงานของสถาบันวิจัยนี้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผล การดาเนนิ งาน กลา่ วคือ การให้บริการในด้านตา่ ง ๆ ของหนว่ ยงานสามารถก่อใหเ้ กิดประโยชนท์ างการเงินท่ีมี ความคุ้มค่าเพิ่มมากข้ึนกว่าในช่วงปีที่ผ่านมา นอกจากนี้การวิเคราะห์ผลการดาเนินงานตามแนวคิดมูลค่าเพิ่ม เชิงเศรษฐกิจ (Economic Value Added-EVA) กรณีศึกษาการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พบว่า กฟผ. มี EVA มีค่าเป็นบวกปีเดียว คือ ปี 2550 และต้ังแต่ปี 2551-2554 ค่า EVA ติดลบ เนื่องจากเงินลงทุนการ ดาเนินงานของ กฟผ.คอ่ นข้างสงู เพราะเป็นกจิ การด้านพลังงานทเี่ ปน็ สาธารณูปโภคขน้ั พืน้ ฐาน นอกจากน้ีเป็น รัฐวสิ าหกิจทไ่ี ม่สามารถกาหนดราคาขายเพื่อให้เกิดกาไรสูงสดุ ประกอบกบั ได้รบั งบประมาณจากรัฐบาล ทาให้ การบริหารสินทรัพย์เพ่ือก่อให้เกิดรายได้หรือให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดจึงมีไม่มากนัก โดยผู้วิจัยเสนอแนะว่า ส่ิงท่ี กฟผ. ต้องตระหนักถึง คือ การหาแนวทางจัดการบริหารสินทรัพย์ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ชานาญ ชมดวง (2550) (32) ศึกษาวิธีการประเมินผลการดาเนินงานขององค์กรตามแนวคิด Economic Value Added (EVA) ผลการศึกษา พบว่า EVA ของ กฟผ. มีค่าเป็นบวกในปี พ.ศ. 2546 และ 2549 ซึ่งสะท้อนให้ เห็นว่า นอกจาก กฟผ.จะมีความสามารถในการทากาไรได้ในทางบัญชีแล้ว ยังมีความสามารถในการสร้าง ผลตอบแทนให้กับส่วนของผู้ถือหุ้นได้ สาหรับผลการศกึ ษาเปรียบเทียบค่า EVA กับ คะแนนประเมินผล พบว่า คะแนนประเมินผลมีลักษณะการเปล่ียนแปลงท่ีเพ่ิมขึ้นหรือลดลงสอดคล้องกับค่า EVA ซึ่งข้อเสนอแนะ ท่ีน่าสนใจ คือ องค์กรควรมีกลยุทธ์เพ่ิมรายได้จากการให้บริการกับกิจการภายนอกองค์กร และกลยุทธ์การ ขยายงานโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้า นอกจากนี้ควรลดการใช้เงินทุนโดยใช้กลยุทธ์บริหารสินทรัพย์ให้เกิด ประสิทธิภาพ ใช้กลยุทธก์ ารบริหารงานบคุ ลากรใหม้ ีประสิทธภิ าพเพือ่ ลดค่าใชจ้ ่ายทางด้านบุคลากร ตลอดจน สร้างจิตสานึกในการลดต้นทุนการดาเนินงานและพัฒนากลยุทธ์กระบวนการในการให้บริการลูกค้าที่รวดเร็ว สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)
มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมต่อการลงทุนด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ 26 กลยุทธ์เหล่าน้ีเป็นการเพิ่มค่า EVA ได้ นอกจากน้ีจีรวัฒน์ หงสกุล (2550) (33) ได้ศึกษา วิธีการประเมินผล กระทบที่มีต่อมูลคา่ เพิม่ เชิงเศรษฐศาสตร์ขององค์กรจากการพัฒนาการของธุรกจิ โทรคมนาคมไทย กรณีศึกษา บริษัท ทีโอที จากัด (มหาชน) โดยผลของการศึกษาพบว่า ค่า EVA ติดลบเพ่ิมขึ้นทุกปี ซึ่งแตกต่างจาก EVA ระหว่างปี 2544-2546 ท่ีแม้ค่า EVA จะติดลบ แต่ก็ติดลบลงทุกปี ทั้งน้ีสาเหตุที่ทาให้ EVA ช่วงระหว่างปี 2547-2549 น้ันติดลบเพิ่มขึ้น เน่ืองจาก มีการแข่งขันท่ีสูงขึ้นทาให้รายได้บริษัทลดลงประกอบกับทีโอทีเป็น รฐั วิสาหกิจเดมิ ทาให้ปรับตัวไดช้ ้า ผ้วู ิจัยเสนอวา่ หากตอ้ งการให้ค่า EVA ของทโี อที มีค่าเป็นบวก บมจ. ทโี อที จะต้องหารายได้จากการดาเนินงานหลังหักภาษี (NOPAT) ให้ได้มากกว่า 13,000 ล้านบาท จากการทบทวน วรรณกรรมในต่างประเทศยังพบว่า การเพ่ิมมูลค่าอย่างยั่งยืนและ การวัดผลการมีส่วนร่วมขององค์กร ไปสู่ ความยง่ั ยนื เหนอื กว่าประสิทธิภาพเชงิ เศรษฐนเิ วศ โดยกล่าววา่ มลู ค่าจะถูกสรา้ งขึ้นทกุ ครัง้ ท่กี าไรสงู กวา่ ต้นทุน และมูลค่าทถ่ี ูกสรา้ งข้ึนมีที่มาจากการทบ่ี ริษัทมีประสิทธิภาพเหนือบรรทัดฐาน ผลการศึกษายังพบอีกว่า การเพ่ิม มูลค่าท่ียั่งยืนจะมาควบคู่กับสถานะเศรษฐกิจ ส่ิงแวดล้อม และการคาดหวังทางสังคม โดยลาดับของกิจกรรม การเพ่ิมมูลค่าของผู้ประกอบการในประเทศกาลังพัฒนา โดยใช้กลุ่มตัวอย่างจากประเทศในลาตินอเมริกา ทั้งหมด 20 ประเทศ ผลการศึกษาพบว่า บริษัทที่มีมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจท่ีดีจะตั้งอยู่ในทาเลที่เหมาะสม มีความสะดวกและปลอดภัย มีการบรหิ ารงานที่รอบคอบ และควบคุมความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี โดยบริษัท เหล่านจ้ี ะมคี วามสามารถเหนอื คู่แข่ง เน่อื งจากสนิ ค้าทผี่ ลติ มคี ณุ ภาพทดี่ กี ว่า สถาบนั สง่ เสริมความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)
มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทุนดา้ นความปลอดภยั ในสถานประกอบกิจการ 27 บทท่ี 3 วัสดุและวธิ ีการวจิ ยั การศึกษาคร้ังน้ีเป็นการวิจัยแบบเชิงสารวจ (Observational Study) แบบงานศึกษาตามรุ่น ย้อนหลัง (Retrospective Cohort Study) เพื่อสารวจมูลค่าการลงทุนด้านความปลอดภัย สถิติการเกิด อุบัติเหตุจากการทางานของสถานประกอบกิจการ ความคิดเห็นต่อปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะต่อการ ดาเนินงานด้านความปลอดภัยฯ ของสถานประกอบกิจการท่ีเข้าร่วมโครงการพัฒนาสถานประกอบกิจการ ภายในปี พ.ศ.2562 และเพื่อคานวณมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจท่ีเกิดข้ึนจากการลงทุนด้านความปลอดภัยท่ี เข้ารว่ มโครงการพัฒนาสถานประกอบกจิ การ 3.1 ประชากรและกลุ่มตวั อยา่ ง กลุ่มตัวอย่างในการศึกษา ได้แก่ สถานประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดเล็ก ซึ่งมีลูกจ้าง น้อยกว่า 200 คน จานวน 30 แห่ง ท่เี ข้าร่วมโครงการพฒั นาสถานประกอบกิจการ เพื่อจดั ทาระบบการจัดการ ดา้ นความปลอดภยั ฯ ตามมาตรฐานระบบการจดั การด้านความปลอดภยั ฯ กบั สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั ฯ 3.2 วัสดุที่ใชใ้ นการวจิ ัย เคร่อื งมอื ในการวิจัย คอื แบบสอบถามเพื่อการวิจัย เรื่อง วเิ คราะห์ความคุ้มค่าและมลู คา่ เพม่ิ ทาง เศรษฐกจิ ในการลงทนุ ด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกจิ การ ภายในปี พ.ศ.2562 ประกอบด้วย คาถามปลายปิด และคาถามปลายเปดิ แบง่ ออกเปน็ 6 ส่วน ไดแ้ ก่ 1. แบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลทั่วไปของผ้ตู อบแบบสอบถาม และข้อมูลทว่ั ไปของสถานประกอบกิจการ 2. ขอ้ มูลการลงทนุ ดา้ นความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ 3. จานวนการเกิดอุบัติเหตุจากการทางานตามระดับความรนุ แรง 4. คา่ ใชจ้ า่ ยกรณีเกดิ อุบัตเิ หตุจากการทางาน 5. ปญั หาและอปุ สรรคในการดาเนินงานดา้ นความปลอดภยั ฯ ของสถานประกอบกิจการ 6. ข้อเสนอแนะเพ่ิมเติมเก่ยี วกบั การพัฒนาดา้ นความปลอดภัยฯ ของสถานประกอบกจิ การ เครื่องมือวิจัยหรือแบบสอบถามจะมีการตรวจคุณภาพและการประเมินคุณภาพแบบสอบถาม จากผทู้ รงคุณวุฒิ โดยในการตรวจสอบคณุ ภาพเครอ่ื งมอื วจิ ัย ผู้วิจัยมีกระบวนการและข้ันตอนในการตรวจสอบ คณุ ภาพอย่างมีระบบและดาเนินการไปตามขั้นตอน ดงั นี้ สถาบนั สง่ เสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)
มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทนุ ดา้ นความปลอดภยั ในสถานประกอบกจิ การ 28 3.2.1 การตรวจสอบดว้ ยตนเอง ทมี ผู้วิจัยจะทาการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือการวิจัยด้วยตนเองก่อนท่ีจะนาเครื่องมือการ วิจัยไปให้ผู้เช่ียวชาญได้ตรวจสอบ ประเด็นในการตรวจสอบ ประกอบด้วย ความครบถ้วนของข้อคาถามและ ความตรงประเด็นตามวัตถุประสงค์ ตัวแปร และสมมติฐานการวิจัย และการตรวจสอบความถูกผิดของ การพิมพ์ การจดั หน้า เรยี งหน้า ตรวจสอบความเขา้ ใจเกย่ี วกบั คาช้แี จงตา่ ง ๆ 3.2.2 การตรวจสอบโดยผู้เชยี่ วชาญ ผ้วู ิจัยได้นาเครอ่ื งมอื วิจยั ไปใหผ้ ู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ โดยดาเนินการดังตอ่ ไปนี้ 1) การกาหนดคุณลักษณะของผู้เชี่ยวชาญ โดยที่ผู้เช่ียวชาญจะเป็นผู้ท่ีมีความรู้เก่ียวกับ ตัวแปรและสมมติฐานท่ีผู้วิจัยกาหนดขึ้น และทราบว่าควรจะเก็บรวบรวมข้อมูลให้ครอบคลุมเนื้อหาและ โครงสร้าง 2) การเรียนเชิญและติดต่อผู้เชี่ยวชาญ ผู้วิจัยกาหนดช่วงเวลาท่ีผู้เชี่ยวชาญจะสามารถ พิจารณาเคร่ืองมือให้ได้ เพ่ือนาผลที่ได้จากการเสนอแนะของผู้เช่ียวชาญมาวางแผนในปรับแก้เครื่องมือและ เร่ิมดาเนนิ การเก็บข้อมูลต่อไป 3) ส่งเครอ่ื งมอื ให้ผ้เู ชี่ยวชาญตรวจสอบ 4) การรวบรวมขอ้ มลู ของเครอ่ื งมอื ทีผ่ ูเ้ ชยี่ วชาญตรวจสอบ 5) ทาการบรรณาธิการหรือตรวจสอบความครบถ้วนสมบูรณ์ในการตอบ เพื่อเตรียมที่จะ วเิ คราะห์ตอ่ ไป 6) วิเคราะห์ข้อมูล โดยการนาเครื่องมือที่บรรณาธิการ แล้วมาบันทึกข้อมูลและวิเคราะห์ คุณภาพของเครื่องมือตามข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญ และนาเครื่องมือปรับปรุงข้อคาถามตามข้อเสนอแนะ ของผู้เชย่ี วชาญ 7) จัดทาต้นฉบบั ของเครื่องมือท่ีครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว และต้องตรวจทานเพือ่ พิสูจนอ์ ักษรให้ ถูกตอ้ งอีกคร้ังหน่งึ 3.2.3 การตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ จะใช้การตรวจสอบความเที่ยงตรง โดยมีวิธี ตรวจสอบดงั รายละเอียดตอ่ ไปน้ี การตรวจสอบความเที่ยงตรง เป็นการวัดคุณภาพของเคร่ืองมือว่าสามารถวัดได้ตรงกับ วตั ถปุ ระสงค์ของการวิจัยที่กาหนดไว้ ซง่ึ แบ่งความเท่ยี งตรงออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1) ความเทีย่ งตรงเชิงเนือหา (Content Validity) การตรวจสอบโดยให้ผเู้ ชี่ยวชาญตดั สนิ ใจ 5 ทา่ น โดยมีวิธกี ารให้คะแนน ดงั น้ี ให้ 1 ถา้ แน่ใจว่าข้อคาถามน้นั วัดได้ตรงตามเน้ือหาจรงิ ให้ 0 ถ้าไม่แน่ใจว่าข้อคาถามน้ันวัดตามเน้ือหาจริง สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)
มลู คา่ เพิ่มทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทุนด้านความปลอดภยั ในสถานประกอบกิจการ 29 ให้ -1 ถา้ แน่ใจวา่ ข้อคาถามนัน้ วดั ไม่ตรงตามเนื้อหาจริง จากน้นั นาคะแนนของผู้เชีย่ วชาญท้งั หมดคานวณหาคา่ IOC จากสูตร IOC = Σx N เม่ือ IOC แทน ดัชนีความสอดคล้องของข้อคาถามกับวตั ถุประสงค์และตัวแปรท่ี ใชใ้ นการวจิ ยั Σx แทน ผลรวมของคะแนน N แทน จานวนผู้เช่ียวชาญ จากน้ันนาค่าที่คานวณได้มาแปลความหมาย ถ้าได้คะแนนเฉล่ียอยู่ระหว่าง 0.50 – 1.00 คะแนน สรุปได้ว่าข้อคาถามออกได้ตรงกับส่ิงที่ต้องการวัด ถ้าได้คะแนนเฉลี่ยต่ากว่านี้ข้อคาถาม นั้นตอ้ งปรบั ปรงุ แกไ้ ข 2) ความเท่ียงตรงเชิงโครงสร้าง (Construct Validity) จะทาการการตรวจสอบ โดยใช้ ดลุ ยพินิจของผู้เช่ียวชาญหรือผู้รอบรู้เฉพาะเร่ือง โดยจะใชว้ ิธี หาค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคาถามกับ ลักษณะเฉพาะของกลุ่มพฤติกรรม หรือหาค่า IOC โดยผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่าน ใช้วิธีการเดียวกับการวิเคราะห์ ความเทย่ี งตรงเชิงเนือ้ หา จากผลการประเมินความเที่ยงตรงโดยผู้เชี่ยวชาญจานวน 5 ท่าน มีผลการประเมินอยู่ใน ระดับดีมาก (IOC=0.92) (34) ดังน้ัน ข้อคาถามทุกข้อในแบบสอบถามมีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์และ ตัวแปรในการวิจัยที่จะใช้วิเคราะห์ความคุ้มค่าและมูลค่าเพ่ิมทางเศรษฐกิจในการลงทุนด้านความปลอดภัยใน สถานประกอบกิจการ ภายในปี พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ ได้มีข้อเสนอแนะจากผ้เู ชยี่ วชาญทัง้ 5 ทา่ น ดังน้ี - แบบสอบถามยังขาดส่วนที่เป็นข้อมูลผลประโยชน์ที่ได้รับกลับมาจากการลงทนุ ด้าน ความปลอดภัย เช่น ในตอนท่ี 3 และ 4 ของแบบสอบถามอาจให้บ่งชี้การลดลงของจานวนคร้ัง การเกิดอบุ ัตเิ หตุและค่าใชจ้ า่ ยจากอดตี ก่อนจะมีการลงทนุ ดา้ นความปลอดภัย - พิจารณาถึงความครอบคลุมของรายการค่าใช้จ่ายทางตรงและค่าใช้จ่ายทางอ้อม กรณีเกิดอบุ ัตเิ หตุจากการทางาน - ข้อมูลที่ทาการเก็บรวบรวมเป็นข้อมูลเชิงลึกและมีรายละเอียดค่อนข้างมากอาจจะ ยากตอ่ การเก็บข้อมูล และอยากใหม้ กี ารเก็บขอ้ มลู จากผู้ที่เก่ยี วข้องโดยตรง สถาบันสง่ เสริมความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)
มูลค่าเพ่ิมทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทุนดา้ นความปลอดภยั ในสถานประกอบกจิ การ 30 ตารางที่ 3-1 คา่ สมั ประสทิ ธิ์ IOC ของแตล่ ะข้อคาถาม คาถามท่ี ผเู้ ชี่ยวชาญ ผลรวม ค่า แปรผล IOC 1 2 34 5 ตอนที่ 1.1 1 1 1 1 1 1 5 1 สอดคล้อง 2 1 1 1 1 1 5 1 สอดคล้อง 3 1 1 1 1 1 5 1 สอดคล้อง 4 1 1 1 1 1 5 1 สอดคล้อง 5 1 1 1 1 1 5 1 สอดคล้อง 6 1 1 1 1 1 5 1 สอดคล้อง ตอนที่ 1.2 1 1 1 1 1 1 5 1 สอดคล้อง 2 1 1 1 1 1 5 1 สอดคล้อง 3 1 1 1 1 1 5 1 สอดคล้อง 4 1 1 1 1 1 5 1 สอดคลอ้ ง 5 1 1 1 1 1 5 1 สอดคลอ้ ง ตอนท่ี 2 1 1 1 1 1 1 5 1 สอดคลอ้ ง 2 1 1 1 1 1 5 1 สอดคลอ้ ง 3 1 1 1 1 1 5 1 สอดคลอ้ ง 4 1 1 1 1 1 5 1 สอดคลอ้ ง 5 1 1 1 1 1 5 1 สอดคลอ้ ง 6 1 1 1 1 1 5 1 สอดคลอ้ ง 7 1 1 1 1 1 5 1 สอดคลอ้ ง 8 1 1 1 1 1 5 1 สอดคลอ้ ง ตอนท่ี 3 1 1 1 1 0 1 4 0.8 สอดคลอ้ ง 2 1 1 1 0 1 4 0.8 สอดคล้อง 3 1 1 1 0 1 4 0.8 สอดคล้อง 4 1 1 1 0 1 4 0.8 สอดคล้อง 5 1 1 1 0 1 4 0.8 สอดคลอ้ ง สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)
มลู คา่ เพ่ิมทางเศรษฐกิจและสังคมต่อการลงทุนดา้ นความปลอดภยั ในสถานประกอบกจิ การ 31 คาถามที่ ผูเ้ ชี่ยวชาญ ผลรวม ค่า แปรผล 6 IOC ตอนที่ 4.1 1 1 2 34 5 2 ตอนท่ี 4.2 1 1 1 0 1 4 0.8 สอดคล้อง 1 2 1 1 1 0 1 4 0.8 สอดคลอ้ ง 3 1 1 1 1 1 5 1 สอดคลอ้ ง 4 5 1 1 1 0 1 4 0.8 สอดคลอ้ ง ตอนท่ี 5 1 1 1 1 1 5 1 สอดคลอ้ ง 1 1 1 1 1 1 5 1 สอดคลอ้ ง 2 1 1 1 1 1 5 1 สอดคลอ้ ง 3 1 1 1 1 1 5 1 สอดคล้อง 4 ตอนท่ี 6 1 1 1 0 1 4 0.8 สอดคลอ้ ง 1 1 1 0 1 4 0.8 สอดคล้อง 1 1 1 0 1 4 0.8 สอดคล้อง 1 1 1 0 1 4 0.8 สอดคล้อง 1 1 1 1 1 5 1 สอดคลอ้ ง 3.3 ระเบียบวิธีวจิ ัย การเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง โดยเก็บข้อมูลเฉพาะสถานประการ ขนาดกลางและขนาดเล็กท่ีเข้าร่วมโครงการจานวน 30 แห่ง ซ่ึงผู้ท่ีจะให้ข้อมูลจะเป็นเจ้าหน้าที่ประสานงาน โครงการพัฒนาสถานประกอบกจิ การ และเจา้ หนา้ ทท่ี เี่ กย่ี วขอ้ งกับคาถามในสว่ นนัน้ ๆ ในการศึกษาน้จี ะเนน้ ใช้วิธกี ารเกบ็ ขอ้ มลู แบบเฉพาะที่ เน่ืองจากใชเ้ วลานอ้ ยในการรวบรวมขอ้ มูล การเกบ็ ขอ้ มูลในรปู แบบเฉพาะทจี่ ะใชข้ ้อมลู ชัว่ โมงทางานและอัตราคา่ จา้ งต่อชั่วโมงแทนทีจ่ ะใชข้ อ้ มลู ตน้ ทุนใน แต่ละกิจกรรมโดยตรงดงั แสดงโดยสมการ ������������������������ = ������������������ × ������������ (1) โดยที่ ������������������������ คอื ตน้ ทนุ คา่ เสยี เวลาของอุบัติเหตุประเภท ������ ของพนกั งาน ������ สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)
มลู ค่าเพ่ิมทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทุนด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ 32 ������������������ คือช่ัวโมงทางานของพนักงาน ������ ของอบุ ตั เิ หตุประเภท ������ ������������ คืออตั ราคา่ จ้างต่อชวั่ โมงของพนักงาน ������ ผู้วิจัยจะทาการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามเพื่อการวิจัย เรื่อง วิเคราะห์ความคุ้มค่า และมูลค่าเพ่ิมทางเศรษฐกิจในการลงทุนด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ ภายในปี พ.ศ.2562 สัมภาษณ์เชิงลึกผู้เข้าร่วมวิจัย ระยะเวลา 1-3 ช่ัวโมง โดยเก็บข้อมูลเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ต้นทุนทางตรงและ ทางอ้อมของการเกิดอุบัติเหตุจากการทางาน และต้นทุนการลงทุนด้านความปลอดภัยของสถานประกอบกิจการ และของสถาบันส่งเสริมความปลอดภยั ฯ ตารางที่ 3-2 ตน้ ทนุ ของอุบตั ิเหตุในการทางานทางตรงและทางอ้อม ตน้ ทุนทางตรง ต้นทุนทางอ้อม คา่ รักษาพยาบาลหรือค่าทดแทน ด้านบรหิ ารและกฎหมาย คา่ ใช้จ่ายทเ่ี ก่ียวข้องดา้ นการแพทย์รวมถึง การบรหิ ารบัญชีเงนิ เดือน ค่ า รั ก ษ า พ ย า บ า ล แ ล ะ ค่ า บ ริ ก า ร จดั กาหนดการใหม่ ปรับปรงุ กระบวนการผลติ รถพยาบาล ค่าวัสดุทางการแพทย์ ค่ายา ขอ้ พิพาททางกฎหมาย ข้อพพิ าททางการแพทย์ และต้นทุนการฟื้นฟูสมรรถภาพ เช่น เวลาเตรียมรายงานของพนกั งาน กายภาพบาบัด เปน็ ต้น การบันทกึ และการจัดเกบ็ การติดตาม ลูกจ้างมีสิทธิได้รับค่าทดแทนจากการ บาดเจ็บเน่ืองจากการทางานเป็นไปตาม มาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติเงินทดแทน (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2561 ดา้ นการผลิต เวลาท่ลี กู จา้ งขาดงานในวนั ทไ่ี ดร้ บั บาดเจบ็ เวลาท่ีเสยี ไปหลงั จากอุบตั เิ หตุของเพ่ือนร่วมงานหรือ ผู้ช่วยปฐมพยาบาล (การให้ความชว่ ยเหลือ การมุงดู และการพดู คยุ ) ชว่ั โมงลว่ งเวลาเพ่ือชดเชยการผลติ ผลผลติ ทีล่ ดลงของผปู้ ฏบิ ัติงานทไี่ ดร้ ับบาดเจ็บในการ ปฏบิ ตั งิ านเบาหลงั การฟืน้ ฟู การหยดุ ผลติ ชั่วคราว การส่งมอบล่าชา้ สินค้าและ ปริมาณการขายลดลง คนงานอื่น ๆ ใชเ้ วลาพาผบู้ าดเจ็บไปโรงพยาบาล การสญู เสยี ผลผลติ เน่อื งจากการตดิ ตามผลการรกั ษา การตรวจทางการแพทยห์ ลังจากการฟนื้ ฟู (ผู้บาดเจบ็ ) ด้านการจ้างแรงงานทดแทน เวลาท่ใี ชฝ้ ึกอบรมของพนักงานทดแทน สถาบันสง่ เสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)
มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทุนด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกจิ การ 33 ต้นทุนทางตรง ต้นทุนทางอ้อม เวลาของผอู้ บรม คา่ จา้ งคนงานทดแทน การลดความสามารถในการผลิตของผู้ปฏิบัติงาน ทดแทน (เนือ่ งจากคนงานไม่มปี ระสบการณ)์ ด้านการสอบสวนอุบตั เิ หตุ เวลาที่ผจู้ ดั การลงทนุ ทาการสอบสวนอุบัติเหตุ เวลาของคนงานมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ ติดตาม และตรวจสอบ ด้านอนื่ ๆ ความเสียหายต่อเคร่ืองจักรเครื่องมืออุปกรณ์วัสดุ (หากไมอ่ ยใู่ นประกนั ) การลดลงของคุณภาพของผลติ ภณั ฑห์ ลังเกิดอุบตั ิเหตุ ค่าปรบั คา่ ทดแทนผูบ้ าดเจบ็ เวลาในการเคลอื่ นย้ายผูบ้ าดเจบ็ ไปปฐมพยาบาล การหาวัสดุเพือ่ ทดแทนวสั ดุท่เี สยี หาย ค่ายานพาหนะในการเคลื่อนย้ายคนงานที่ได้รับ บาดเจบ็ 3.4 การวิเคราะห์ข้อมลู การวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติจะใช้โปรแกรมสาเร็จรูป SPSS for Windows รุ่นท่ี 23 โดยกาหนด ระดับนัยสาคัญทางสถติ ิไวท้ นี่ ้อยกวา่ 0.05 โดยมีรายละเอยี ดดงั ต่อไปนี้ 3.4.1 การวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistics) ในการบรรยายลักษณะโดยทวั่ ไปของกลมุ่ ตัวอย่างประกอบด้วยคา่ ความถ่ี (Frequency) ค่าร้อยละ (Percent) คา่ เฉล่ยี (Mean) และ ส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) 3.4.2 การวิเคราะห์ความคุ้มค่าการลงทุนและมูลค่าเพ่ิมทางเศรษฐกิจ มีกระบวนการ วิเคราะห์ขอ้ มลู ดงั นี้ 1) ต้นทนุ อุบตั เิ หตทุ างอ้อม จากข้อมูลในตารางท่ี 3.2 เม่ือไดก้ ิจกรรมท่ีสถานประกอบกจิ การต้องดาเนินการเม่ือ เกิดอุบัติเหตุรวมท้ังผู้ท่ีเก่ียวข้องในแต่ละกระบวนการแล้วก็สามารถประมาณการต้นทุนรวมของอุบัติเหตุได้ โดยขนั้ แรกคานวณต้นทนุ อบุ ตั เิ หตุทางอ้อมไดจ้ าก ������������������������ = ∑������������=1 ������������������ × ������������ + ∑������������=1 ������������������ (2) สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)
มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทนุ ด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกจิ การ 34 โดยท่ี ������������������������ คือ ต้นทุนทางออ้ มรวมตอ่ อุบตั เิ หตุ ������ ������������������������ คอื ตน้ ทุนทางออ้ มอืน่ ๆ ของอบุ ตั ิเหตุ ������ ในรายการท่ี ������ จานวนทั้งสน้ิ ������ รายการ ������ คือ จานวนบคุ ลากรทเี่ ก่ียวขอ้ งจานวน ������ คน ต้นทุนรวมของอุบัติเหตุหาได้จากผลรวมของต้นทุนทางตรงและต้นทุนทางอ้อม สาหรับต้นทุนทางตรงสามารถคานวณได้ง่ายกว่า เม่ือกาหนดให้จานวนคร้ังในการเกิดอุบัติเหตุที่ ������ เป็นรายปี เทา่ กับ ������ จะไดต้ น้ ทุนรวมเปน็ รายปีของการเกดิ อบุ ัติเหตดุ งั สมการ ������������������������������������ = ∑6������=1 ������������ × (������������������������ + ������������������������) (3) โดยที่ ������������������������������������ คือ ตน้ ทนุ รวมของการเกิดอบุ ัติเหตุเปน็ รายปี ������������������������ คือ ต้นทุนทางตรงรวมต่ออุบัติเหตทุ ่ี ������ 2) การวเิ คราะห์ความคุ้มค่าการลงทนุ ในการเปรียบเทียบต้นทุน และผลประโยชน์ทั้งหมด ซึ่งกาหนดโดยต้นทุนและ ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น ณ เวลาต่าง ๆ จึงจาเป็นต้องพิจารณาอัตราคิดลด (Discount Rate) ในการคานวณ เพ่ือให้ได้มูลค่าปัจจุบัน ดังน้ันในระหว่างการวิเคราะห์ผลประโยชน์ต้นทุนกระแสเงินสดทั้งหมดจาเป็นต้อง แปลงเป็นคา่ ในปจั จบุ ันดงั สมการ ������������������ = ∑������������=1 ������������ (4) (1+������)������ ดงั นั้นในแงข่ องการลงทนุ ด้านมาตรการความปลอดภัยฯ จะได้มูลคา่ ปัจจุบนั คือ ������������������ = มลู คา่ ปจั จุบันต้นทนุ การเกดิ อุบัตเิ หตุ มลู คา่ ปัจจบุ ันต้นทุนของมาตรการความปลอดภัย (5) โดยสมการที่ 5 สามารถเขยี นไดเ้ ป็น ������������������ = ������������ − ������ (6) โดยที่ ������������ คือ มลู คา่ ที่คาดหมายซง่ึ ก็คือประโยชน์ทค่ี าดว่าจะได้รบั จากการไม่ต้องจ่ายตน้ ทนุ ของอุบตั เิ หตุ เนื่องจาก การลงทุนในมาตรการความปลอดภยั ฯ ซงึ่ มีค่าเท่ากบั ������������������������������������ G คอื มลู คา่ ปจั จบุ นั ของต้นทุนมาตรการความปลอดภัยฯ สถาบันสง่ เสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)
มูลคา่ เพ่ิมทางเศรษฐกิจและสังคมต่อการลงทุนดา้ นความปลอดภยั ในสถานประกอบกิจการ 35 โดยพิจารณาความเหมาะสมของโครงการลงทุนดา้ นมาตรการความปลอดภยั ฯ จากเงอ่ื นไข หาก ������������������ ≥ 0 มาตรการความปลอดภยั ดงั กลา่ วมคี วามเหมาะสมในการลงทุน หาก ������������������ ≤ 0 มาตรการความปลอดภยั ดังกล่าวไมเ่ หมาะสมในการลงทนุ ค่าท่ีได้จากการคานวณดังกล่าวเป็นการวิเคราะห์รายบริษัท หากต้องการเปรียบเทียบผลการคานวณความคุ้ม ทนุ ของแต่ละบริษัทเทียบกบั ภาพรวมสามารถวิเคราะห์ไดโ้ ดยใชส้ มการ ������������������ = (������������−̅���̅���̅���̅���)−(������−������̅ ) (7) (������−������̅ ) โดยที่ ���̅̅���̅���̅��� และ ������̅ คือค่าเฉลี่ยของต้นทุนรวมเฉลี่ยเป็นรายปีของอุบัติเหตุของอุตสาหกรรม และค่าเฉลี่ยของต้นทุน รวมเป็นรายปขี องมาตรการความปลอดภัยของอตุ สาหกรรม หรอื เปน็ ค่าเฉลี่ยของกลมุ่ ตัวอยา่ งท่ีทาการศกึ ษา ในการศึกษาความคุ้มค่าในการลงทุนอาจใช้วิธีการคานวณหาอัตราผลตอบแทนภายในหรือ IRR ซงึ่ กาหนดให้เปน็ อตั ราคิดลดทจ่ี ะทาใหม้ ูลค่าปจั จุบนั ของกระแสเงินสดในอนาคตท้ังหมด มีคา่ เท่ากับการลงทุน คร้ังแรก กล่าวคือเป็นอัตราผลตอบแทนท่ีต่าท่ีสุดท่ีจะทาให้โครงการคุ้มทุนภายในระยะเวลาหน่ึง ท้ังนี้องค์กร ควรดาเนินการลงทุนด้านความปลอดภัยท้ังหมดที่มี IRR สูงเกินกว่าอัตราข้ันต่าท่ียอมรับได้โดยผลตอบแทนท่ี บริษัทกาหนด ซ่ึงคานวณไดจ้ ากสมการ ������������������(������ ∗) = ∑������������=0 ������������ (8) (1+������∗)������ ในกรณีที่มีการเปรียบเทียบการลงทุนด้านความปลอดภัยหลายมาตรการ หากการลงทุนใน มาตรการแรกได้ IRR ในอัตราน้อยกว่าแต่ NPV สูงกว่าการลงทุนในมาตรการท่ีสอง ก็ควรเลือกทางเลือกการ ลงทุนในมาตรการแรก 3) มลู ค่าเพิ่มทางเศรษฐกจิ มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกจิ หรือ EVA ไดร้ ับการยอมรับวา่ เปน็ มาตรวดั ที่ชผ้ี ลการดาเนนิ งาน โดยรวมของบริษัทได้อยา่ งเหมาะสม สามารถคานวณโดยการใชก้ าไรจากการดาเนินงานหลงั หักภาษี ลบด้วย ต้นทนุ เงินทุนที่ใชไ้ ปเพอื่ สร้างกาไรน้ัน ๆ ดงั สมการ ������������������ = กาไรสุทธจิ ากการดาเนนิ งานหลงั หกั ภาษี – อัตราต้นทุนทางการเงิน × เงินลงทุน (8) หรืออาจเขยี นไดเ้ ปน็ (9) ������������������ = ������������������������������ – (������������������������������������������������ ������������������������������������������) ������ ������������������������ สถาบันส่งเสริมความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)
มลู คา่ เพ่ิมทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทนุ ด้านความปลอดภยั ในสถานประกอบกจิ การ 36 โดยท่ี NOPAT คือ ผลกาไรจากการดาเนินงานสุทธหิ ลงั หกั ภาษี (Net Operating Profit after Tax) Invested Capital คือ เงินทุนดาเนินงานซง่ึ ประกอบด้วยทรพั ยส์ ินคงท่แี ละเงนิ ทนุ หมนุ เวียน WACC คอื ต้นทุนของเงนิ ทนุ ถวั เฉลย่ี ถ่วงนา้ หนักหรือ (Weighted Average Cost of Capital) ซ่ึงผลคณู ระหวา่ งเงินทนุ ดาเนินงานและ WACC อาจเรยี กว่าตน้ ทุนของเงนิ ทนุ (Capital Charge) แตล่ ะสว่ นของการคานวณประกอบด้วยองคป์ ระกอบดังแสดงในภาพที่ 3.2 3.4.3 การวิเคราะห์ความคุ้มค่าทางสังคม โดยเปรียบเทียบอัตราการประสบอันตรายของ ปี พ.ศ. 2561 - พ.ศ.2562 วเิ คราะห์โดยทดสอบการกระจายตัวแบบปกติโดยใช้สถิติ Kolmogorov Smirnov Goodness of Fit Test หากข้อมูลมีการกระจายตัวแบบปกติ ใช้การทดสอบทางสถิติด้วย Independent t-test และการทดสอบทางสถติ ดิ ้วย Mann-Whitney U สาหรบั ขอ้ มลู ทีม่ ีการกระจายตัวแบบไมป่ กติ สถาบันสง่ เสริมความปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)
มลู ค่าเพ่ิมทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทุนดา้ นความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ 37 บทที่ 4 ผลการศกึ ษา การศึกษาและวิเคราะห์การลงทุนด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ จากกลุ่มตัวอย่าง สถานประกอบกิจการที่เข้ารว่ มโครงการจัดทาระบบการจัดการตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยฯ จานวน 30 แห่ง เพื่อคานวณมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและวิเคราะห์ความคุ้มค่าทางสังคมต่อการลงทุนด้านความปลอดภัยใน สถานประกอบกจิ การ มีรายละเอียดดงั น้ี 4.1 ข้อมูลท่ัวไป ผู้เข้าร่วมงานวจิ ยั เป็นกลุม่ ตัวอยา่ งสถานประกอบกจิ การท่เี ข้าร่วมโครงการจดั ทาระบบการจัดการตาม มาตรฐานการจัดการด้านความปลอดภัยฯ จานวน 30 แหง่ โดยประกอบด้วย สถานประกอบกิจการ ประเภท ผลิตพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จานวน 13 แห่ง กิจการก่อสร้าง จานวน 6 แหง่ กิจการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม จานวน 3 แห่ง กิจการคลังสินค้า จานวน 2 แห่ง กิจการผลิตเหล็กกล้าหรือโลหะ จานวน 2 แห่ง กิจการ ใหบ้ ริการ จานวน 1 แหง่ และอ่นื ๆ จานวน 3 แหง่ โดยขอ้ มูลทว่ั ไปของผู้เขา้ ร่วมการวจิ ัยแสดงในตารางท่ี 4-1 ตารางท่ี 4-1 ขอ้ มูลท่วั ไป จานวน (รอ้ ยละ) Mean ± SD 36.97 ± 8.89 ตวั แปร 17 (56.67) 13 (43.33) เพศ - ชาย 6 (20.00) - หญงิ 12 (40.00) 11 (36.67) อายุ (ปี) 1 (3.33) - ชว่ งอายุ 20 – 29 ปี - ชว่ งอายุ 30 – 39 ปี 26 (86.67) - ช่วงอายุ 40 – 49 ปี 4 (13.33) - ชว่ งอายุ 50 – 59 ปี ระดบั การศึกษา - ปรญิ ญาตรี - ปริญญาโท สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องค์การมหาชน)
มูลคา่ เพิ่มทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทนุ ด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกจิ การ 38 ตารางที่ 4-1 ขอ้ มลู ทวั่ ไป (ต่อ) จานวน (รอ้ ยละ) Mean ± SD ตัวแปร 1 (33.33) 1 (33.33) ตาแหนง่ งานในปจั จุบัน 5 (16.67) - เจา้ ของกจิ การ 2 (6.67) - กรรมการผู้จดั การ 12 (40.00) - ผจู้ ัดการ 9 (13.67) - ผ้ชู ่วยผจู้ ัดการ - หวั หน้าแผนก/ฝ่าย 14 (46.67) - พนกั งาน 7 (23.33) 3 (10.00) ส่วนงาน 1 (3.33) - อาชวี อนามัยและความปลอดภยั 1 (3.33) - ทรพั ยากรมนษุ ย์ 3 (10.00) - การจดั การทวั่ ไป 1 (3.33) - บรหิ าร - การเงิน/บญั ชี 207.93 ± 255.54 - การผลติ - อื่น ๆ จานวนพนักงานในสถานประกอบกิจการ (คน) 4.2 การลงทนุ ด้านความปลอดภัยภายในปี พ.ศ. 2562 จากการศึกษาการลงทุนด้านความปลอดภัยภายในสถานประกอบกิจการที่เข้าร่วมโครงการจัดทา ระบบการจัดการตามมาตรฐานการจัดการด้านความปลอดภยั ฯ จานวน 30 แห่ง พบว่า มีต้นทุนการลงทนุ ด้าน ความปลอดภยั 2 สว่ น ได้แก่ การลงทุนด้านความปลอดภัยที่สถาบันส่งเสริมความปลอดภัยฯ ลงทุนให้สาหรับ การจัดทาระบบการจดั การตามมาตรฐานการจัดการด้านความปลอดภัยฯ และการลงทุนด้านความปลอดภัยที่ สถานประกอบกิจการลงทุนเอง โดยมรี ายละเอียดดงั ต่อไปนี้ 4.2.1 การลงทุนสนับสนุนด้านความปลอดภัยทส่ี ถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั ฯ ลงทนุ ให้ การลงทนุ สนับสนนุ ด้านความปลอดภยั ที่สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภัยฯ ลงทุนให้ คา่ ใช้จ่ายใน ส่วนน้ีเป็นค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนการจัดทาระบบการจัดการตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยฯ แก่สถาน ประกอบกิจการทเ่ี ข้ารว่ มโครงการ จานวน 54 แหง่ แตม่ ี 1 แห่ง ยุตกิ ารดาเนนิ การ เนอ่ื งจากมีทรพั ยากร และ บุคลากรในการดาเนินโครงการไม่เพียงพอ จึงเหลือสถานประกอบกิจการท่ีสถาบันส่งเสริมความปลอดภัยฯ สนับสนุนคา่ ใช้จา่ ย จานวนทงั้ สิน้ 53 แหง่ แบ่งออกเป็นคา่ ใชจ้ ่ายในสว่ นตา่ ง ๆ มีรายละเอียดดงั นี้ สถาบันส่งเสริมความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)
มูลคา่ เพ่ิมทางเศรษฐกจิ และสังคมต่อการลงทนุ ดา้ นความปลอดภยั ในสถานประกอบกิจการ 39 1. คา่ จดั ฝึกอบรมสาหรบั ระบบการจัดการด้านความปลอดภัยฯ แก่สถานประกอบกิจการ 2. คา่ ตอบแทนหวั หน้าท่ปี รึกษาและทป่ี รึกษาทเ่ี ขา้ ร่วมโครงการ 3. คา่ ใชจ้ ่ายสาหรบั การจัดประชมุ Verify จานวน 10 ครงั้ 4. ค่าจ้างเจ้าหนา้ ทีป่ ระสานงานโครงการ 5. ค่าจดั ทาหนงั สอื 6. คา่ ใชจ้ า่ ยสาหรบั การจัดประชมุ สรุปผล 7. ค่าใชจ้ า่ ยสาหรบั การประชุมคณะทางานโครงการทป่ี รึกษา 8. คา่ จดั ฝึกอบรมหลกั สตู ร Internal Audit 9. ค่าจดั ฝกึ อบรมหลักสตู รข้อกาหนดมาตรฐานระบบการจัดการด้านความปลอดภยั ฯ 10. ค่าใชจ้ า่ ยสาหรบั การจัดประชมุ ช้แี จง 11. คา่ จดั จ้างพิมพเ์ อกสาร 12. ค่าเชา่ หอ้ งประชมุ (สาหรบั กรณีสอบซ่อม) ตารางที่ 4-2 แสดงรายละเอียดข้อมูลการลงทุนสนับสนุนด้านความปลอดภัยฯ ท่ีสถาบัน ส่งเสริมความปลอดภัยฯ ลงทุนให้ โดยสถานประกอบกิจการที่เข้าร่วมโครงการจัดทาระบบการจัดการตาม มาตรฐานระบบการจัดการด้านความปลอดภัยฯ จานวนทั้งส้ิน 53 แหง่ คิดเป็นเงนิ ทง้ั หมด 1,808,591.00 บาท โดยคิดเปน็ รายสถานประกอบกจิ การละ 34,124.36 บาท ตารางที่ 4-2 ขอ้ มูลการลงทนุ สนบั สนนุ ดา้ นความปลอดภยั จากสถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั ฯ รายการ จานวนเงนิ (บาท) ค่าจัดฝึกอบรมสาหรับระบบการจัดการด้านความปลอดภัยฯ แก่สถาน 83,650.00 ประกอบกจิ การ ค่าตอบแทนหวั หน้าท่ีปรกึ ษาและท่ปี รกึ ษาทเี่ ขา้ ร่วมโครงการ 729,751.00 ค่าใชจ้ ่ายสาหรับการจดั ประชุม Verify จานวน 10 ครั้ง 133,620.00 ค่าจ้างเจ้าหน้าท่ปี ระสานงานโครงการ 412,050.00 ค่าจดั ทาหนงั สือ 19,900.00 คา่ ใช้จา่ ยสาหรับการจัดประชมุ สรปุ ผล คา่ ใช้จา่ ยสาหรับการประชมุ คณะทางานโครงการท่ีปรกึ ษา 0.00 คา่ จดั ฝึกอบรมหลกั สตู ร Internal Audit 24,450.00 72,300.00 สถาบนั สง่ เสริมความปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน (องคก์ ารมหาชน)
มูลคา่ เพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมต่อการลงทุนด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ 40 ตารางท่ี 4-2 ขอ้ มูลการลงทนุ สนับสนุนดา้ นความปลอดภยั จากสถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภัยฯ (ต่อ) รายการ จานวนเงนิ (บาท) คา่ จัดฝึกอบรมหลักสูตรข้อกาหนดมาตรฐานระบบการจัดการด้านความ 178,500.00 ปลอดภัยฯ ค่าใชจ้ ่ายสาหรับการจดั ประชมุ ช้ีแจง 7,750.00 คา่ จัดจ้างพิมพ์เอกสาร 10,000.00 ค่าเชา่ หอ้ งประชุม (สาหรับกรณสี อบซ่อม) 3,000.00 รวม 1,808,591.00 คา่ ใชจ้ า่ ยเฉลยี่ 34,124.36 4.2.2 การลงทนุ ดา้ นความปลอดภยั ทีส่ ถานประกอบกจิ การลงทนุ เอง การลงทุนด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ ภายในปี พ.ศ.2562 แบ่งการลงทุนด้าน ตา่ ง ๆ ออกเปน็ 2 ส่วน ไดแ้ ก่ 1. การลงทุนด้านความปลอดภัยฯ ท่ีเป็นไปตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และมาตรฐาน ทเี่ ก่ียวขอ้ ง 1.1 การลงทนุ ทเ่ี กีย่ วขอ้ งกบั การฝกึ อบรมพนักงาน 1.2 การลงทุนด้านการจัดหาอปุ กรณ์คุม้ ครองความปลอดภัยสว่ นบคุ คล (PPE) 1.3 การลงทุนที่เก่ียวข้องกับระบบป้องกันและระงับอัคคีภัย รวมถึงการตรวจสอบ และบารงุ รกั ษา 1.4 การลงทุนท่ีเก่ียวข้องกับระบบป้องกันและระงับเหตุฉุกเฉิน รวมถึงการ ตรวจสอบและบารงุ รกั ษา 1.5 การลงทนุ ดา้ นการตรวจวดั สภาพแวดลอ้ มในการทางาน 1.6 การลงทนุ ด้านการตรวจสอบความปลอดภัยฯ 2. การลงทนุ อ่ืน ๆ เพอื่ สนับสนนุ และส่งเสรมิ ด้านความปลอดภยั ฯ จากผลการศกึ ษาจากสถานประกอบกิจการ 30 แห่ง พบว่า สถานประกอบกิจการที่มีการลงทุน ด้านความปลอดภัย สูงสุด มูลค่า 5,821,068.00 บาท และต่าสุดมูลค่า 53,360.00 บาท แบ่งออกเป็น การลงทุนท่ีเก่ียวข้องกับการฝึกอบรมพนักงานสูงสุด 2,560,000.00 บาท การลงทุนด้านการจัดหาอุปกรณ์ ค้มุ ครองความปลอดภัยส่วนบุคคล (PPE) สูงสุด 500,000.00 บาท การลงทนุ ที่เก่ียวข้องกับระบบป้องกันและ ระงับอัคคีภัย รวมถึงการตรวจสอบและบารุงรักษา สูงสุด 2,354,000.00 บาท การลงทุนท่ีเกย่ี วข้องกับระบบ ป้องกันและระงับเหตุฉุกเฉิน รวมถึงการตรวจสอบและบารุงรักษา 1,200,000.00 บาท การลงทุนด้าน สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)
มูลคา่ เพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมต่อการลงทนุ ดา้ นความปลอดภยั ในสถานประกอบกจิ การ 41 การตรวจวัดสภาพแวดล้อมในการทางาน 1,129,960.00 บาท การลงทุนด้านการตรวจสอบความปลอดภัยฯ 3,700,000.00 บาท และการลงทุนอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมด้านความปลอดภัยฯ 500,000.00 บาท จนถึงไมม่ ีการลงทุนในดา้ นนั้น ๆ ดงั แสดงในตารางที่ 4-3 ข้อมลู การลงทนุ ดา้ นความปลอดภยั ของ สถาน ประกอบกิจการ จากผลการศึกษา สามารถสรุปได้ว่า ต้นทุนการลงทุนด้านความปลอดภัยในสถานประกอบ กิจการภายในปี พ.ศ.2562 รวมเป็นเงินท้ังส้ิน 40,275,258.00 บาท ค่าเฉล่ีย 1,342,508.60 บาท แบ่งออกเป็น การลงทุนด้านความปลอดภัยที่เป็นไปตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และมาตรฐานที่เก่ียวข้อง รวมท้ังสิ้นเป็นเงิน 38,724,458.00 บาท ค่าเฉลี่ย 215,135.88 บาท โดยมีรายละเอียด ดังน้ีการลงทุน ท่ีเก่ียวข้องกบั การฝึกอบรมพนกั งาน รวมเป็นเงนิ 11,002,600.00 บาท คา่ เฉล่ีย 366,753.33 บาท การลงทุน ด้านการจัดหาอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล (PPE) รวมเป็นเงิน 2,955,793.00 ค่าเฉลี่ย 98,526.43 บาท การลงทุนท่เี กี่ยวข้องกบั ระบบป้องกันและระงบั อัคคีภยั รวมถงึ การตรวจสอบและบารงุ รักษา เป็นเงิน 11,332,968.00 บาท ค่าเฉล่ีย 377,765.60 บาท บาท การลงทุนท่ีเก่ียวข้องกับระบบป้องกันและ ระงับเหตุฉุกเฉิน รวมถึงการตรวจสอบและบารุงรักษา เป็นเงิน 3,069,943.00 บาท ค่าเฉลี่ย 102,331.43 บาท การลงทุนด้านการตรวจวัดสภาพแวดล้อมในการทางาน รวมท้ังสิ้น 2,332,055.00 บาท ค่าเฉลี่ย 77,735.17 บาท และการลงทุนด้านการตรวจสอบความปลอดภัยฯ เป็นเงิน 8,031,099.00 บาท ค่าเฉล่ีย 267,703.30 บาท และการลงทุนอ่ืน ๆ เพ่ือสนับสนุนและส่งเสริมด้านความปลอดภัยฯ เช่น ค่าใช้จ่ายด้าน บุคลากรทางการแพทย์ท่ีประจาในสถานประกอบกิจการ ค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยฯของ สถานประกอบกิจการ เป็นต้น รวมเป็นเงินทั้งส้ิน 1,550,800.00 บาท ดังแสดงในตารางท่ี 4-4 รายละเอียด ขอ้ มูลสรปุ การลงทุนด้านความปลอดภัย ในสถานประกอบกิจการ ตารางท่ี 4-3 ขอ้ มลู การลงทุนดา้ นความปลอดภัยของสถานประกอบกจิ การ รหัส การฝึกอบรม PPE จานวนเงินลงทุนดา้ นความปลอดภัย ตรวจสอบ อ่นื ๆ รวม ตัว (บาท) ความ (บาท) (ลา้ น อยา่ ง พนกั งาน ระบบอคั คีภัย ระบบเหตุ ตรวจวดั บาท) (บาท) (บาท) ฉุกเฉิน สภาพแวด ปลอดภยั ฯ 0.00 (บาท) ลอ้ มในการ (บาท) 18,000.00 0.26 01 45,000.00 67,500.00 ทางาน 89,000.00 3.04 02 2,560,000.00 250,000.00 (บาท) 127,577.00 0.00 4.70 03 167,400.00 205,000.00 0.00 0.00 0.99 04 8,000.00 7,000.00 0.00 0.00 20,000.00 3,700,000.00 0.14 05 48,000.00 5,249.00 58,000.00 62,000.00 89,000.00 0.00 200,000.00 30,000.00 310,000.00 0.00 15,000.00 940,000.00 20,000.00 40,000.00 8,000.00 40,000.00 สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน (องค์การมหาชน)
Search