Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore OSHE Magazine ฉบับที่ 16

OSHE Magazine ฉบับที่ 16

Published by e-Book สสปท., 2021-07-12 09:31:30

Description: เกี่ยวข้องกับด้าน ความปลอดภัย อาชีวอนามัย สภาพแวดล้อมในการทำงาน Occupational Safety Health

Keywords: ปลอดภัย,safety,Occupational,Health

Search

Read the Text Version

5 คแลวะาอมันเสต่ยี รงาตยอ่ในกางราเกนดิ กอุบอ่ ตั สิเหรตา้ ุ ง จุ ลชี พ อนั ตรายท่มี องไม่เหน็ 7 มหนั ตภัยรา้ ย การบรหิ ารจดั การ ความปลอดภยั ในงานก่อสรา้ ง 10 (Construction Management) 14 รหรื้อือถทอำ�นลายส่งิ กอ่ สร้าง บทความเก่ยี วกับมุมมองของผู้บริหาร 16 ตอ่ การบรหิ ารงาน ด้านความปลอดภัยในการท�ำงาน เร่อื งท่โี รงงานและสถานประกอบการ 18 ในเขตระบาดของ COVID 19 ควรรู้ จป. กับการขับเคล่ือน 23 ความปลอดภยั ในงานกอ่ สรา้ ง EP.1 : อันตรายรา้ ยแรงและสถิติ 27 การเสียชีวิตจากอุบตั เิ หตใุ นงานก่อสร้าง 30 โกคารรงปส้ อรงา้ กงันนก่งั ารรา้ ตนกใจนางกาทน่ีสกงู ่อสสำ� รหา้ รงบั งานประกอบและการร้ือ 32 กเพา่อืรคบรวหิามารปคลวอาดมภเสัย่ียองยโ่าคงรยง่งั กยานื รกอ่ สร้าง คอลมั น์ จป.มอื โปร 39 คุณณฐั พงศ์ เครือเครา คอลมั น์ จป.วัยทนี 43 คณุ จุฑามณี ลักษณะอฐั จป. กบั การขบั เคล่ือน 47 ความปลอดภยั ในงานก่อสรา้ ง การวางแผนการยก Lifting Plan 49 ในงานกอ่ สร้าง นานาสาระ 53 5 ทา่ บริหารรา่ งกาย ป้องกันโรคออฟฟิ ศซินโดรม T-OSH NEWS 55 ขา่ ว สสปท.

สวัสดีครับ       จากสถานการณก์ ารระบาดของโควดิ -19 สรา้ งผลกระทบทกุ มติ อิ ยา่ งมหนั ตต์ อ่ คณุ ภาพชวี ติ และเศรษฐกจิ ไปทว่ั โลก ประเทศไทยเราแมจ้ �ำนวนการระบาดของโรคร้ายในหมู่ประชากรจะไมม่ ากนกั เม่อื เทียบกบั ชาตอิ น่ื ๆ แต่ได้สร้างผลกระทบในวงกว้างทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ ผมขอเป็นก�ำลังใจใกับแรงงานและผู้ประกอบ กิจการทีไ่ ดร้ บั ผลกระทบจากโควิด-19 ในช่วงน้ี และเราจะก้าวพน้ สถานการณน์ ไ้ี ปด้วยกัน รัฐบาลได้ดำ� เนินการ กระตนุ้ เศรษฐกจิ ในหลากหลายดา้ น เชน่ โครงการเราเทยี่ วดว้ ยกนั โครงการลดคา่ นำ้� โครงการลดคา่ ไฟฟา้ โครงการ ยอดฮิตคนละคร่ึง โครงการเราชนะ แต่มาตรการหน่ึงที่ส�ำคัญคือการเร่งรัดพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางราง ถนน น้�ำและอากาศ โครงการบ้านเอ้ืออาทร 2564 เป็นต้น ซ่ึงในกระบวนการการก่อสร้างนั้นแฝงไว้ด้วย ความเสยี่ งและอนั ตรายมากมาย ใน OSHE แมกกาซนี ฉบบั น้ี ไดน้ ำ� เสนอสาระนา่ รเู้ กยี่ วกบั ความปลอดภยั ในการ ทำ� งานกอ่ สรา้ ง เชน่ การบรหิ ารความเสย่ี งในงานกอ่ สรา้ ง การบรหิ ารจดั การดา้ นความปลอดภยั ในการตดิ ตง้ั หลงั คา เมทัลชีท การยกเคล่ือนย้ายวัสดุด้วยรถปั้นจ่ัน และสาระของกฎหมายเก่ียวกับงานก่อสร้าง  ทั้งนี้สาระน่ารู้ ดา้ นความปลอดภยั ในการทำ� งานกอ่ สรา้ งมคี อ่ นขา้ งมากและหลากหลาย ซง่ึ ผมจะหาโอกาสนำ� มาเสนอในโอกาส ตอ่ ไป และขอขอบคณุ ทกุ ทา่ นทีต่ ดิ ตาม OSHE แมกกาซีนมาโดยตลอด แล้วพบกันฉบับหน้าครบั ทีป่ รกึ ษา กรุงไกรวงศ์ กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิ สดุ ธดิ า ปีติวรรณ ผอู้ �ำนวยการสถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั ฯ วรานนท์ ฟุ้งเกยี รติ รองผู้อ�ำนวยการสถาบันสง่ เสริมความปลอดภัยฯ ศรณั ยพ์ งศ ์ บรรณาธิการบริหาร เลศิ ลีลากิจจา รองผอู้ �ำนวยการสถาบันส่งเสริมความปลอดภยั ฯ พฤทธฤ์ ทธ ิ์ ควบคมุ การผลิตและประสานงาน กองบรรณาธกิ าร นวะมะรัตน์ พิษณุ จันทร์สี พรรณทิวา ฤทธชิ ยั กมลฐิต ิ วรเวชกุลเศรษฐ์ ธนวรรณ รักษากลุ เกศสุดา ทรงพันธุ์ สถาบันสง่ เสริมความปลอดภยั อาชวี อนามยั นพปกรณ์ อินทรม์ ณี และสภาพแวดล้อมในการท�ำงาน (องค์การมหาชน) จิรนันทน์ คะตา เลขที่ 18 ถนนบรมราชชนนี แขวงฉิมพลี เขตตลง่ิ ชัน กรงุ เทพมหานคร 10170 สภุ ารตั น์ แสงพวง โทรศพั ท์ 0 2448 9111, 0 2448 9098 ศุภชัย เรือนคำ� www.tosh.or.th พมิ พร์ มั ภา เหลา่ วัฒนโรจน์ กฤตติกา อรชร นนั ทิชา ศาตะมาน ปรนิ ดา พรหมเกษ ดลยา ปรางทพิ ย์ สุกานดา 4

แคลวะาอมันเสต่ียรงาตย่อในกงาารเนกกิดอ่อุบสัตริเ้าหงตุ งานก่อสร้างเป็นส่ิงหน่ึงที่แสดงถึงความรุ่งเรืองยิ่งใหญ่ของยุคสมัย เช่น ก�ำแพงเมืองจีน บ่งบอกถึงความมีอ�ำนาจและความรุ่งเรืองของจีนสมัยจ๋ินซีฮ่องเต้ และเมืองเก่าจังหวัดอยุธยา แสดงถึงความรุ่งเรืองยิ่งใหญ่ของไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา งานก่อสร้างในทุกยุคทุกสมัยมีการใช้เทคนิค หรือเทคโนโลยีการก่อสร้าง ที่น่าอัศจรรย์และเทคโนโลยีเหล่านั้นก็คร่าชีวิตคนงานมากมายนับไม่ถ้วน ปจั จบุ นั งานกอ่ สรา้ งเปน็ ปจั จยั พน้ื ฐานทส่ี ำ� คญั เพอื่ รองรบั การพฒั นาประเทศ เชน่ การสรา้ งถนน ตกึ ระฟา้ ระบบรางเพื่อรองรับรถไฟฟ้า สะพานหรือทางยกระดับ สนามบินขนาดใหญ่ เป็นต้น ซึ่งการก่อสร้าง มีกระบวนการการท�ำงานท่ีซับซ้อนตามรูปแบบและขนาดของสิ่งก่อสร้างนั้น ๆ งานในบางข้ันตอน มคี วามเสี่ยงภยั คอ่ นขา้ งสงู เชน่ การขดุ เจาะอุโมงค์ใต้ดนิ การทำ� งานประกอบตดิ ตั้งบนทสี่ ูง เป็นตน้ 5

สถิติกองทุนเงินทดแทน ส�ำนักงานประกันสังคมในรอบ 5 ปี ระหว่างปี 2558 – ปี 2562 งานก่อสร้างมีอัตราการประสบอันตรายสูงสุด คือ มีการประสบอันตรายร้อยละ 10.52 รอ้ ยละของสถติ กิ ารประสบอนั ตราย หรอื เจบ็ ป่วยอันเน่ืองจาก การทำ� งานในงานกอ่ สรา้ ง งานก่อสร้างที่ผู้ปฏิบัติงานและผู้เกี่ยวข้องปฏิบัติงานโดยขาดความใส่ใจและตระหนักถึงความปลอดภัยในการท�ำงาน (Unsafe Acts) รวมทง้ั นายจา้ งและผบู้ รหิ ารขาดการบรหิ ารจดั การใหก้ ารกอ่ สรา้ งและสถานทที่ ำ� งานมคี วามปลอดภยั (Unsafe Conditions) งานกอ่ สรา้ งนนั้ กจ็ ะมี ความเสยี่ งและอนั ตรายจากการทำ� งานคอ่ นขา้ งสงู แมป้ จั จบุ นั ผปู้ ระกอบกจิ การกอ่ สรา้ งจะตระหนกั และใหค้ วามสำ� คญั กบั การบรหิ ารจดั การดา้ น ความปลอดภยั แตใ่ นงานกอ่ สรา้ งสว่ นใหญก่ ย็ งั มลี กั ษณะงานทเ่ี สย่ี งตอ่ การเกดิ อบุ ตั เิ หตแุ ละอนั ตราย ทง้ั นเ้ี นอ่ื งมาจากสาเหตทุ ส่ี ำ� คญั ๆ โดยรวม คอื 1. เทคโนโลยีในการก่อสร้างมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่ผู้ปฏิบัติงานส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ ทักษะและประสบการณ์ท่ีดีพอ ในการปฏิบตั ิงานกบั เทคโนโลยีเหลา่ นัน้ 2. ขาดผูเ้ ช่ยี วชาญเฉพาะทางดูแลความปลอดภยั ในการทำ� งานกอ่ สร้างท่ีต้องใช้เทคโนโลยแี ละงานทมี่ คี วามเสย่ี งสูง รวมทงั้ การดูแล ท่ีไมท่ ่วั ถึง 3. ขาดกฎระเบียบ ข้อบงั คบั ที่เก่ยี วขอ้ งกับความปลอดภัยในการท�ำงาน หรือมีก็ไม่เหมาะสม หรอื ไม่ครอบคลุมทกุ ลักษณะงาน 4. ขาดการประสานงานด้านการบรหิ ารจัดการดา้ นความปลอดภัยทด่ี รี ะหวา่ งผู้รบั เหมาและผเู้ กีย่ วขอ้ ง 5. เครอื่ งมือ เคร่ืองจักรและอปุ กรณท์ ใ่ี ช้ในการท�ำงานไม่เหมาะสมกบั ลกั ษณะงาน ขาดการตรวจทดสอบและบำ� รุงรักษาโดยวิศวกร หรอื มสี ภาพช�ำรดุ 6. โครงสร้างชวั่ คราว เช่น นง่ั ร้าน แบบหลอ่ คอนกรีต ค�ำ้ ยนั ไม่มีผเู้ ชยี วชาญ/วศิ วกรออกแบบและควบคมุ ดแู ลการติดตงั้ รือ้ ถอน หรอื ไมม่ คี วามมัน่ คงแข็งแรง และมสี ภาพช�ำรุด 7. ระบบไฟฟา้ ที่ใช้ในงานก่อสร้างขาดการควบคมุ ตรวจสอบอย่างถกู ต้อง จริงจังโดยวิศวกร 8. บรเิ วณสถานทกี่ อ่ สรา้ งขาดการจดั ระเบยี บเรอ่ื งความปลอดภยั เชน่ การกำ� หนดพน้ื ทอ่ี นั ตราย การกำ� หนดเสน้ ทางการจราจรและ ความเร็วของยานพาหนะ การกำ� หนดบริเวณจดั เก็บวสั ดอุ ปุ กรณ์และความสะอาดเรยี บรอ้ ย เป็นตน้ 9. อุปกรณ์ปอ้ งกนั อนั ตรายและอปุ กรณค์ ้มุ ครองความปลอดภัยสว่ นบคุ คลไม่เหมาะสมกบั ลักษณะงาน เพื่อลดความเส่ียงและอันตรายในการท�ำงาน นายจ้างต้องเปิดใจกว้างในการด�ำเนินการด้านความปลอดภัยในการท�ำงาน โดยก�ำหนด นโยบายด้านความปลอดภัยในการท�ำงานที่ชัดเจน จัดให้มีผู้รับผิดชอบดูแลด้านความปลอดภัยอย่างจริงจัง จัดสรรงบประมาณท่ีเพียงพอ ในการด�ำเนินการด้านความปลอดภัยในการท�ำงาน ก�ำหนดกฎระเบียบ ข้อบังคับด้านความปลอดภัยที่ครอบคลุมในทุกลักษณะงาน มีแผนงาน ด้านความปลอดภยั ท่สี อดคลอ้ งกบั แผนการทำ� งานกอ่ สร้าง มีอปุ กรณ์ป้องกันอนั ตรายและอุปกรณ์คมุ้ ครองความปลอดภัยส่วนบคุ คลท่ีครบถว้ น เหมาะสม และทีส่ ำ� คญั ตอ้ งศึกษาขอ้ กฎหมายและมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่เก่ยี วขอ้ งและปฏิบัติตามอยา่ งเคร่งครัด 6

จุ ลชี พ มอหันนัตตราภยยั ทร่มี้ายองไม่เหน็ อาจารย์กลา้ ณรงค์ อินตะ๊ วงค์ สาขาวิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย คณะสาธารณสุขศาสตร์ วิทยาลัยนอร์ทเทิร์น สิ่งคุกคามด้านสุขศาสตร์อุตสาหกรรม กล่าวได้ว่ามาจากปัจจัยสิ่งแวดล้อมในการท�ำงานที่อาจคุกคาม ตอ่ สขุ ภาพของผปู้ ฏบิ ตั งิ าน ซงึ่ ประกอบดว้ ยสง่ิ คกุ คามดา้ นกายภาพ (Physical Hazards) เชน่ แสง เสยี ง ความรอ้ น ความสนั่ สะเทอื น และรงั สี เปน็ ตน้ สง่ิ คกุ คามดา้ นเคมี (Chemical Hazards) เปน็ สงิ่ คกุ คามทเ่ี ปน็ สารเคมที กุ ชนดิ ซ่ึงมีสมบัติเป็นพิษต่อคนได้ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใดก็ตาม รวมถึงฝุ่น ฟูม ละออง ไอระเหย หมอกควัน เป็นต้น สิ่งคุกคามด้านชีวภาพ (Biological Hazards) คือส่ิงคุกคามท่ีเป็นส่ิงมีชีวิตไม่ว่าจะเป็นเช้ือจุลินทรีย์ แมลง หรือ สัตวก์ ่อโรค รวมท้ังเนื้อเย่อื หรือสารคดั หล่ังของส่งิ มชี ีวติ และสิง่ คกุ คามทางการยศาสตร์ (Ergonomics Hazards) เป็นส่ิงคุกคามท่ีเกิดจากสภาพการท�ำงานไม่เหมาะสม การท�ำงานท่ีซ้�ำซากจ�ำเจ ท�ำงานอย่างเร่งรีบ หรือลักษณะ งานท่ีมีท่าทางอิริยาบถฝืนธรรมชาติ ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างเพ่ือนร่วมงาน ความสัมพันธ์กับหัวหน้างาน ความเครียดความเมื่อยล้าจากการท�ำงาน ซึ่งเรียกว่าเป็นส่ิงคุกคามด้านจิตสังคม (Psychosocial Hazards) จากท่ีกล่าวมาข้างต้น ทุกคน ทุกอาชีพล้วนเล่ียงไม่ได้ท่ีจะรับสัมผัสกับส่ิงคุกคามไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ทั้งที่อยู่ ภายในหรือภายนอกอาคาร ประกอบกับในปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่ใช้เวลามากกว่าร้อยละ 80 ของแต่ละวัน ในพนื้ ทภ่ี ายในอาคาร ซง่ึ ถกู ออกแบบใหเ้ ปน็ อาคารแบบปดิ เมอื่ สภาพแวดลอ้ มการทำ� งานภายในอาคารมกี ารสะสม ของสาร หรือส่ิงปนเปื้อนที่มีค่าความเข้มข้นในระดับหน่ึงในอากาศเป็นระยะเวลานานพอจะสามารถก่อให้เกิด อนั ตรายตอ่ สขุ ภาพของผอู้ ยอู่ าศยั ซงึ่ ถกู เรยี กวา่ มลพษิ ทางอากาศภายในอาคาร ซงึ่ การปนเปอ้ื นของอากาศภายใน อาคารมีผลให้เกดิ ความผดิ ปกติตอ่ รา่ งกาย เช่น • โรคแพต้ กึ หรือ โรคศิวไิ ลซ์ (Sick Building Syndrome)  • โรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) • โรคเกย่ี วกับระบบทางเดินหายใจ (Respiratory Tract Disease) • ภูมแิ พ้ (Allergy) • โรคปอดบวม (Pneumonia) เปน็ ตน้ โดยอาการหรือโรคเหล่าน้ีเป็นผลมาจากลักษณะการปฏิบัติงาน การได้รับสัมผัสกับมลพิษทางอากาศ ภายในอาคาร เช่น ฝนุ่ สารเคมี ควันบุหร่ี หรือจลุ ินทรีย์ เปน็ ตน้ 7

จุลินทรยี ์ หรือจุลชพี (Microorganism) เปน็ สง่ิ มีชีวิตขนาดเล็กทีส่ ามารถพบได้ทกุ ที่ในส่ิงแวดลอ้ ม เชน่ ดนิ น้�ำ อากาศและในสิง่ มชี วี ิต รวมทงั้ ตวั มนษุ ยเ์ อง โดยจลุ นิ ทรยี ท์ ลี่ อ่ งลอยในอากาศจะมขี นาดทแ่ี ตกตา่ งกนั อาทเิ ชน่ ไวรสั (Virus) จะมอี นภุ าคขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางประมาณ 0.003 ไมโครเมตร เชื้อแบคทีเรีย (Bacteria) มีขนาดเซลล์ 0.5-200 ไมโครเมตร และเชอ้ื รา (Fungi) มีขนาด 2-200 ไมโครเมตร จุลินทรยี ์เหลา่ นี้ เมอ่ื อยใู่ นอากาศสามารถทจ่ี ะยดึ เกาะอยกู่ บั ฝนุ่ และเขา้ สรู่ า่ งกายผา่ นระบบทางเดนิ หายใจ ยดึ จบั ตามเนอื้ เยอ่ื ของสงิ่ มชี วี ติ หรอื อาศยั อยภู่ ายในเซลล์ (Host) เป็นที่อยู่อาศัยเพ่ือเพิ่มปริมาณจ�ำนวนประชากร โดยปัจจุบันการปนเปื้อนของเช้ือจุลินทรีย์ที่มีอยู่ในอากาศได้รับความสนใจมากข้ึน โดยเฉพาะเช้ือท่ีสามารถก่อให้เกิดโรคในส่ิงมีชีวิตได้ เช่น โรคลีเจียนแนร์ (Legionnaire’s Disease) เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจเกิดจาก เชื้อแบคทีเรีย Legionella pneumophila ซึ่งก่อให้เกิดโรคปอดบวมหรือโรคปอดอักเสบ (Pneumonitis) โดยสภาพแวดล้อมในอาคารจะ พบแบคทีเรียชนิดนี้อาศัยและเจริญเติบโตในท่ีมีความชื้นสูง เช่น เคร่ืองปรับอากาศ (Air Conditioner) แผงกรองอากาศ (Air Filter) น�้ำจาก หอผ่ึงเย็นความร้อน (Cooling Towers) ของระบบปรับอากาศ เครื่องท�ำความเย็น (Air Cooler) ระบบน้�ำของอาคารใหญ่ (Water System) อ่างอาบน้�ำอ่นุ (Hot Tub) และฝกั บัว (Shower) เปน็ ต้น ดงั นน้ั จะเห็นไดว้ า่ คณุ ภาพอากาศภายในอาคาร (Indoor Air Quality, IAQ) จงึ เปน็ อีกหนึง่ เรื่องสำ� คัญที่มผี ลตอ่ สุขภาพผูป้ ฏบิ ตั งิ านและผ้อู ยูอ่ าศัย โรคแพ้ตกึ โรคออฟฟิ ศซินโดรม โรคเก่ียวกบั ระบบ โรคปอดบวม ภมู แิ พ้ หรอื โรคศิวไิ ลซ์ (Office ทางเดินหายใจ (Pneumonitise) (Allergy) (Sick Building (Respiratory Syndrome) Syndrome) Tract Disease) การจัดการคุณภาพอากาศภายในอาคารเพ่ือให้บรรยากาศในอาคารมีคุณภาพดี สามารถด�ำเนินการได้โดยอาศัยหลักการและวิธีการ ตา่ งๆ อาทเิ ช่น • ด�ำเนินการตามมาตรฐานระบบปรับอากาศและระบายอากาศ วิศวกรรมสถานแหง่ ประเทศไทย ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ • น�ำอากาศบรสิ ทุ ธิ์เข้ามาในอาคารโดยต้องไมน่ ้อยกวา่ ทก่ี ำ� หนดใน ASHRAE Standard 62-1989 • การจัดการรูปแบบของพ้ืนท่ีห้อง โดยการก�ำหนดโซนพ้ืนที่ใช้งานให้เหมาะสมมีความต่อเนื่อง เช่น ห้องสะอาด (Clean room) หรือการติดตั้งประตใู ห้สอดคล้องกบั ทิศทางการไหลของอากาศ เป็นตน้ • ปลูกต้นไม้ลดมลพิษ ฟอกอากาศ ช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในห้องให้ดีขึ้น เช่น วาสนาอธิษฐาน เสน่ห์จันทร์แดง ล้ินมังกร สาวนอ้ ยปะแป้ง วา่ นหางจระเข ้ เปน็ ต้น ตลอดจนก�ำหนดกฎหมาย หรอื เกณฑ์มาตรฐานปริมาณจลุ ชีพในอากาศภายในอาคาร (Microbiological Quality of Indoor air) ให้ เป็นแนวทางในการป้องกันทางการบริหารจัดการและการป้องกันทางวิศวกรรม เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้ปฏิบัติงาน ซ่ึงการปนเปื้อนทาง ชวี ภาพของอากาศในอาคารสามารถบง่ ชใ้ี นเชงิ ปริมาณในหนว่ ย Colony Forming Units to Cubic Meter, CFU/m3 โดยตวั อยา่ งกฎหมาย หรือมาตรฐานกำ� หนดปรมิ าณจุลชีพในอากาศภายในอาคารของหน่วยงาน หรือประเทศ แสดงดงั ตารางที่ 1 8

ตารางท่ี 1 แสดงกฎหมาย หรือมาตรฐานกำ� หนดปรมิ าณจุลชีพในอากาศภายในอาคารของหนว่ ยงาน หรอื ประเทศ หมายเหต:ุ * เฉพาะโรงพยาบาล ** รา่ งค่าแนะน�ำส�ำหรับคณุ ภาพอากาศในอาคาร (กรงุ เทพมหานคร) คา่ เฉลย่ี 8 ชั่วโมงการทำ� งาน *** คุณภาพอากาศดเี ย่ยี ม นอกเหนอื จากนี้องคก์ ร American Industrial Hygiene Association (AIHA) ยงั ก�ำหนดปริมาณจลุ ชีพสำ� หรบั อาคารที่อยูอ่ าศยั และ ส�ำหรบั อาคารพาณิชย์ ไวไ้ ม่เกนิ 500 CFU/m3 และไมเ่ กิน 250 CFU/m3 ตามล�ำดบั ตลอดจนองคก์ ร Commission of the European com- munities (CEC) กำ� หนดการปนเปื้อนของแบคทีเรยี ไว้ในระดับตา่ งๆ ดังตารางที่ 2 ตารางท่ี 2 แสดงระดบั และปรมิ าณการปนเป้ือนเช้อื แบคทีเรยี ในอากาศ การตรวจวิเคราะห์ปริมาณจุลชีพในอากาศสามารถด�ำเนินได้หลายวิธี เช่น วิธี Bioaerosol Sampling (Indoor Air): NIOSH0800 วิธี Impactor method วธิ ี Liquid Impinger method วธิ ี Filtration วธิ ี Settle Plate หรอื วิธี Open Plate เป็นต้น ซงึ่ วิธกี ารตรวจวเิ คราะห์ ต้องพจิ ารณาตามลักษณะการปฏบิ ตั ิงานและความเหมาะสมของชนดิ จลุ ชพี ที่ต้องการทราบการปนเปอ้ื น 9

คนงานทท่ี ำ� งานบนทส่ี งู มคี วามเสยี่ งอยา่ งมากตอ่ การเกดิ อบุ ตั เิ หตและในการเกดิ อบุ ตั เิ หตแุ ตล่ ะครง้ั มผี ลกระทบทร่ี นุ แรง อตั รา การเสียชวี ิตคอ่ นขา้ งสงู จากสถิตทิ ผี่ า่ นมา ดังน้นั บรษิ ัท เอ็นเอส บลูสโคป ไลสาจท์ (ประเทศไทย) จำ� กัด ซงึ่ เป็นผ้ผู ลิตจำ� หน่ายและตดิ ต้ังหลังคาเหล็กเมทัลชีท เห็นถึงความปลอดภัยในการท�ำงานบนท่ีสูงเป็นอันดับหนึ่ง เราจัดให้มีมาตรฐานความปลอดภัยในการติดต้ัง ผนังและหลังคาเมทัลชีท และการอบรมให้มีการติดตั้งอย่างมีมาตรฐาน เพื่อให้ผู้ท่ีติดต้ังและบุคคลทั่วไปได้มีความเข้าใจในการติดต้ังท่ี ถกู ตอ้ ง รวมถึงการความปลอดภยั ในการตดิ ต้ังผนังหลังคาด้วย การบริหารจัดการความปลอดภัยในการท�ำงานบนท่ีสูงของ บริษัท เอ็นเอส บลูสโคป ไลสาจท์ (ประเทศไทย) จ�ำกัด ได้น�ำ เอา CODE OF PRACTICE FOR CONTRACTOR SAFETY MANAGEMENT ของ บรษิ ัท เอน็ เอส บลูสโคป มาบริหารจดั การ โดยราย ละเอยี ดสามารถสรปุ ได้ 9 ขอ้ ดงั น้ี 1. Assign Management Roles กำ� หนดบทบาทการจดั การของผู้บรหิ าร 2. Provide Appropriate Training จดั ให้มีการฝึกอบรมท่ีเหมาะสม 3. Outline the Scope and Conduct Risk Assessment รา่ งขอบเขตและ ดำ� เนนิ การประเมนิ ความเสยี่ ง 4. Pre-Qualify Contractors ผู้รับเหมาทีผ่ ่านการคัดเลือก 5. Determine OHS System ก�ำหนดระบบความปลอดภยั ในการทำ� งานบนทสี่ ูง 6. Provide Site Inductions จดั การสอนความปลอดภยั ในการท�ำงานบนที่สงู 7. Implement a Management System ด�ำเนนิ การใช้ระบบบริหารจัดการ 8. Managing Poor OHS Performance การจัดการประสทิ ธิภาพความปลอดภยั ท่ีไม่ดี 9. Review Contractor OHS Performance สอบทวนประสทิ ธิภาพความปลอดภยั ของผู้รบั เหมา การบริหารจัดการ ความปลอดภัยในงานกอ่ สรา้ ง (Construction Management) คุณอภชิ า ครุธาโรจน์ Construction HSE Manager BlueScope Co.,Ltd. 10

ในการบรหิ ารการกอ่ สร้างมกี ารแบง่ ออกเป็น 3 สว่ น ดังน้ี 1. กอ่ นเรมิ่ โครงการ (Pre Construction Phase) 1.1 Assign Management Roles ก�ำหนดบทบาทการจัดการของผบู้ ริหาร เริ่มต้งั แต่ กำ� หนดมาตรฐานความปลอดภัยในการทำ� งาน บนท่ีสูง อนุมตั ิการคัดเลือกผู้รบั เหมา ประเมนิ ความเสย่ี งแต่ละโครงการ 1.2 Provide Appropriate Training จดั ให้มีการฝกึ อบรมท่เี หมาะสม ฝกึ อบรมในแตล่ ะขน้ั ตอนการท�ำงาน รวมถึงการเลือกใช้เครอื่ ง มือเครื่องจักรและอุปกรณ์ในการท�ำงานท่ีปลอดภัยและเหมาะสมกับลักษณะของงานในแต่ละประเภท เช่น ขนาดของลวดสลิง คลิปล็อกและ มาตรฐานการติดตง้ั 1.3 Outline the Scope and Conduct Risk Assessment ร่างขอบเขตและดำ� เนินการประเมนิ ความเส่ยี ง จะประกอบดว้ ย 4 สว่ น ท่ีน�ำมาพิจารณาระดับความปลอดภัยของเจ้าของงาน (Owner) ระดับความปลอดภัยของผู้รับเหมาหลัก (Main Contractor) สภาพแวดล้อม ของโครงการ (Project condition) และ รูปแบบอาคาร การออกแบบ (Build Shape/ Form / Design) 1.4 Pre-Qualify Contractors ผู้รบั เหมาทผ่ี า่ นการคัดเลือก เกณทก์ ารคดั เลือกประกอบดว้ ย ข้อกำ� หนดตามกฎหมาย เช่น เจา้ หนา้ ที่ ความปลอดภัยสอดคล้องกับจำ� นวนพนักงาน การอบรมความปลอดภยั ของผ้บู รหิ าร ประสบการณด์ ้านความปลอดภยั ของผู้รับเหมา การบรหิ าร จดั การดา้ นความปลอดภยั ของผู้รับเหมา 1.5 Determine OHS System กำ� หนดระบบความปลอดภยั ในการทำ� งานบนทส่ี งู เช่น ใช้ ลวดสลงิ Lifeline ขนาด ไม่น้อยกว่า 12 มิลลิเมตร คลิปทใี่ ช้ล็อกสลิงไมต่ ่ำ� กว่า 6 ตัว มตี าข่ายนิรภัยควบค่กู ันในระหว่างการท�ำงาน รวมถงึ ทางข้นึ -ลงทป่ี ลอดภัย 11

12

2. ระหวา่ งการก่อสร้าง (Construction Phase) 2.1 Provide Site Inductions จัดการสอนความปลอดภัยในการท�ำงานบนท่ีสูง ข้อก�ำหนดสากลต่างๆ เช่นการใช้รถกระเช้าอย่าง ปลอดภยั การใชเ้ ครน ฯ รวมถงึ กำ� หนดใหม้ ีใบรบั รองตา่ งๆ ตามกฎหมายกำ� หนด 2.2 Implement a Management System ดำ� เนินการใชร้ ะบบบรหิ ารจัดการ ในระหวา่ งการกอ่ สรา้ งมกี ารก�ำหนดการท�ำการตรวจ สอบความปลอดภัยเป็นประจำ� รวมถงึ กำ� หนดให้ผู้บรหิ ารท�ำการรว่ มตรวจสอบด้วย หากพบประเดน็ ตา่ งๆ ด้านความปลอดภยั จะมีการดำ� เนิน การเช่น น�ำเข้าที่ประชุมความปลอดภัยประจ�ำสัปดาห์ และท่ีประชุมความปลอดภัยประจ�ำเดือน รวมถึงที่ประชุมของผู้บริหารเพื่อท�ำการแก้ไข และพัฒนาระบบความปลอดภัยอย่างตอ่ เน่อื ง 2.3 Managing Poor OHS Performance การจัดการประสิทธภิ าพความปลอดภยั ที่ไมด่ ี เรามีระบบการใหค้ ะแนนความปลอดภยั ใน ระหว่างการก่อสร้าง โดยการท�ำการตรวจสอบความปลอดภัย (Safety audit) มีโปรแกรม ออนไลน์ท่ีผู้บริหารสามารถทราบถึงประเด็นความ ปลอดภัยทีเ่ กิดขน้ึ ระหวา่ งก่อสร้างแบบเรียวไทม์ 3. สน้ิ สดุ การก่อสรา้ ง (Post Construction Phase) 3.1 Review Contractor OHS Performance สอบทวนประสทิ ธภิ าพความปลอดภยั ของผรู้ บั เหมา เราไดน้ ำ� เอาผลการตรวจสอบความ ปลอดภัยในแตล่ ะครั้งมารวบรวมประเมนิ ผลหลังจบโครงการ เกณฑ์การให้คะแนนอยูท่ ่ี 70% หากคะแนนไมถ่ ึงเกณฑน์ อ้ ยกวา่ อยู่ที่ 60-69 % อยู่ในเกณฑเ์ ฝา้ ระวัง นอ้ ยกว่า 60% จะไมส่ ามารถรับโครงการตอ่ ได้ โดยสรุป เรามีระบบบริหารจัดการต้งั แต่ ต้นน�ำ้ กลางนำ้� และปลายน�ำ้ ต้นน้�ำ คือ ก่อนได้โครงการเรามีการท�ำมาตรฐานในการท�ำงานทุกข้ันตอน Project risk assessment เตรียมผู้รับเหมาให้เหมาะกับ โครงการ ก่อนเรม่ิ งาน กลางน้�ำ คือ ระหว่างท�ำงานเรามีการตรวจสอบความปลอดภัยเป็นประจ�ำ และน�ำผลการตรวจสอบรายงานกับผู้บริหาร รวมถึงการ ประเมนิ ประสิทธภิ าพผู้รบั เหมาทกุ เดอื น ท�ำใหเ้ ราสามารถดำ� เนนิ การแก้ไขได้ทันเวลา ปลายน�้ำ คอื การประเมนิ ประสทิ ธิภาพผู้รบั เหมา และแก้ไขข้อบกพรอ่ งต่างๆ กอ่ นใหง้ านโครงการใหมก่ บั ผรู้ ับเหมา สรุปคือ ในทุกข้ันตอนมีการบริหารจัดการในเรื่องความปลอดภัยในการท�ำงาน ท�ำให้เราสามารถประเมิน บริหาร ควบคุมการท�ำงานของผู้รับ เหมาได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ 13

[ ร้ือถอนหรือท�ำลายส่ิงก่อสร้าง ] พาดหัวขา่ วเหลา่ น้ีเคยผ่านตาพวกเรามาแล้ว.... “ส่ังยตุ ริ ื้อถอนอาคารทรุดตัว” “แบ็คโฮ ร่วงตึกร้ือถอน” “ระทกึ ! อาคาร 3 ชนั้ ท่ีกำ� ลงั รือ้ ถอน ทรุดตวั พังถลม่ มผี บู้ าดเจบ็ 2” . รหู้ รอื ไม่วา่ ... “งานร้อื ถอนมนั ยากกวา่ การกอ่ สร้าง” และขน้ั ตอนที่จะทำ� ใหก้ ารรอื้ ถอนเปน็ ไปได้อยา่ งปลอดภยั ต้องเรม่ิ จากการด�ำเนินการ 1. งานรื้อถอนอาคารเป็นงานวศิ วกรรมท่ตี ้องมวี ศิ วกรดแู ล 2. ตอ้ งมกี ารประเมินความเสย่ี งของการรอ้ื ถอน และมีผคู้ วบคุมงานตลอดเวลา 3. ต้องเลือกผ้รู ับเหมาและผ้คู ุมงานที่ดี ทม่ี า : จากบทสมั ภาษณพ์ เิ ศษ ศาสตราจารย์ ดร.สชุ ชั วรี ์ สวุ รรณสวสั ด์ิ ในชมุ ชนเมอื ง-เดลนิ วิ ส์ . ส�ำหรับคนท่ีอยู่ในสายงานที่ต้องท�ำการรื้อถอนหรือท�ำลายส่ิงก่อสร้าง (ผู้ประกอบการรื้อถอน) น่าจะทราบเป็นอย่างดีว่า...มีกฎหมาย เกี่ยวกบั การรอื้ ถอนทต่ี ้องปฏิบตั ิ เชน่ - พระราชบัญญัตคิ วบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 (มาตรา 23 รื้อถอนอาคาร) - พระราชบญั ญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2535 (มาตรา 22 รอ้ื ถอนอาคาร) - กฎกระทรวงมหาดไทย ฉบับท่ี 4 พ.ศ. 2526 (หมวด 3 การร้ือถอนอาคาร) - กฎกระทรวงมหาดไทย ฉบบั ท่ี 11 พ.ศ. 2528 (ขอ้ 2 การรอ้ื ถอนอาคาร) - กฎกระทรวงแรงงาน พ.ศ. 2551 (หมวด 14 การรื้อถอนทำ� ลาย) - ขอ้ บังคบั สภาวิศวกร พ.ศ.2551 (วชิ าชีพวิศวกรรมควบคุมสาขาวิศวกรรมโยธา) ฯลฯ . วันน้ี...ทางผู้เขียนขอชวนทา่ นผู้อ่านมา Update กฎหมาย กฎกระทรวงฉบับล่าสดุ ทีเ่ ก่ยี วกับงานกอ่ สร้าง นั่นคือ กฎกระทรวง กำ� หนด มาตรฐานในการบริหาร จัดการ และด�ำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการท�ำงานเกี่ยวกับงานก่อสร้าง พ.ศ. 2564 หมวด 9 งานร้อื ถอนหรือท�ำลายสง่ิ ก่อสร้าง...โดยมรี ายละเอียด ดงั นี้ . รื้อถอน หรือท�ำลายส่ิงก่อสร้าง...ถูกรวมอยู่ในความหมายของค�ำว่า “งานก่อสร้าง” ตามกฎกระทรวง ก�ำหนดมาตรฐานในการ บรหิ าร จดั การ และด�ำเนนิ การดา้ นความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพเเวดล้อมในการท�ำงานเกี่ยวกับงานกอ่ สรา้ ง พ.ศ. 2564 งานกอ่ สรา้ ง หมายความวา่ การกอ่ สรา้ งสงิ่ กอ่ สรา้ งทกุ ชนดิ เชน่ อาคาร สนามบนิ ทางรถไฟ ทางรถราง ถนน อโุ มงค์ ทา่ เรอื อเู่ รอื คาน เรอื สะพานเทียบเรอื สะพาน ทางน้ำ� ทอ่ ระบายน้�ำ ประปา รว้ั กำ� แพง ประตู ปา้ ยหรือสงิ่ ที่สรา้ งขน้ึ ส�ำหรบั ติดหรอื ต้ังป้าย พื้นทห่ี รอื ส่งิ กอ่ สรา้ ง เพ่ือจอดรถ กลับรถ ทางเข้าออกของรถ และหมายความรวมถึงการต่อเติม ซ่อมแซม ซ่อมบ�ำรุง ดัดแปลง เคล่ือนย้าย ร้ือถอน หรือท�ำลายสิ่ง กอ่ สร้างนั้นด้วย 14

กฎกระทรวงฉบบั เดมิ กฎกระทรวงฉบับลา่ สุด หมวด 14 การรื้อถอนท�ำลาย หมวด 9 งานร้ือถอนหรอื ท�ำลายส่งิ ก่อสรา้ ง กฎกระทรวง ก�ำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความ กฎกระทรวง กำ� หนดมาตรฐานในการบรหิ าร จดั การ และดำ� เนนิ การดา้ นความปลอดภยั อาชวี อนามยั ปลอดภยั อาชวี อนามัยและสภาพแวดล้อมในการท�ำงานเกยี่ วกับงานก่อสร้าง และสภาพแวดล้อมในการทำ� งานเกยี่ วกับงานกอ่ สร้าง พ.ศ. 2564 พ.ศ.2551 (มรี ายละเอียด 4 ขอ้ ) (มีรายละเอียด 6 ขอ้ ) ข้อ 107 การร้ือถอนท�ำลายส่ิงก่อสร้างท่ีต้องขออนุญาตตามกฎหมายว่าด้วย ข้อ 62 การรื้อถอนหรือท�ำลายสิ่งก่อสร้างท่ีต้องขออนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร การควบคุมอาคาร ให้นายจ้างจัดให้มีวิศวกรก�ำหนดขั้นตอน วิธีการ และ นายจ้างต้องเก็บเอกสารหลักฐานการอนุญาตน้ันไว้ให้พนักงานตรวจความปลอดภัยตรวจสอบ และ ควบคุมดูแลการท�ำงานของลูกจ้างให้มีความปลอดภัย และจัดการอบรมหรือ นายจ้างต้องจัดให้มีวิศวกรก�ำหนดขั้นตอนและวิธีการรื้อถอนหรือท�ำลายให้เหมาะสมกับลักษณะงาน ชี้แจงลูกจ้างเก่ียวกับขั้นตอนและวิธีการร้ือถอนท�ำลายสิ่งก่อสร้างก่อนที่จะ จดั ใหม้ กี ารอบรมหรอื ชแ้ี จงลกู จา้ งเกย่ี วกบั ขนั้ ตอนและวธิ กี ารรอื้ ถอนหรอื ทำ� ลายกอ่ นทจี่ ะเรมิ่ ปฏบิ ตั งิ าน เรม่ิ ปฏบิ ตั ิงาน และควบคุมดูแลการท�ำงานของลูกจ้างให้มีความปลอดภัย และต้องมีส�ำเนาเอกสารดังกล่าว ไว้ใหพ้ นักงานตรวจความปลอดภยั ตรวจสอบได้ - ขอ้ 63 การร้อื ถอนหรอื ทำ� ลายสง่ิ ก่อสร้างทไ่ี ม่ต้องขออนุญาตตามกฎหมายวา่ ด้วย การควบคมุ อาคาร นายจา้ งตอ้ งกำ� หนดขน้ั ตอนและวธิ กี ารรอ้ื ถอนหรอื ทำ� ลายใหเ้ หมาะสมกบั ลกั ษณะงาน รวมทงั้ จดั การ ข้อ 108 การร้ือถอนท�ำลายสิ่งก่อสร้าง ให้นายจ้างด�ำเนินการเพื่อความ อบรมหรือชี้แจงลูกจา้ งก่อนทีจ่ ะเริม่ ปฏบิ ตั งิ าน เพ่อื ให้เกิดความปลอดภยั แกล่ กู จา้ ง และตอ้ งมีส�ำเนา ปลอดภยั ดงั ต่อไปนี้ เอกสารดังกล่าวไวใ้ ห้พนักงานตรวจความปลอดภยั ตรวจสอบได้ (1) ตดั ไฟฟ้า ก๊าซ ประปา ไอนำ้� หรอื พลงั งานอย่างอืน่ ท่ีใช้อยู่ในส่ิงก่อสร้างที่ ขอ้ 64 การรอื้ ถอนหรือท�ำลายสิง่ กอ่ สร้าง นายจา้ งตอ้ งด�ำเนนิ การเพื่อความปลอดภัย ดงั ตอ่ ไปน้ี จะร้ือถอนทำ� ลาย (1) ตดั ไฟฟา้ ก๊าซ ประปา ไอน้�ำ หรือพลงั งานอย่างอน่ื ทใ่ี ชอ้ ยใู่ นสง่ิ ท่จี ะร้อื ถอนท�ำลาย (2) ขจดั หรอื เคลอื่ นยา้ ยสารเคมี ถงั กา๊ ซ วตั ถไุ วไฟ วตั ถรุ ะเบดิ หรอื วตั ถอุ นั ตราย (2) ขจดั หรือเคลอ่ื นยา้ ยสารเคมี ถังกา๊ ซ วัตถไุ วไฟ วตั ถรุ ะเบิด หรือวตั ถอุ ันตรายอน่ื ๆ ท่คี ล้ายคลงึ อื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกันให้ออกจากบริเวณท่ีท�ำการร้ือถอนท�ำลายสิ่งก่อสร้างให้ กันให้ออกจากบรเิ วณทท่ี �ำการรื้อถอนหรือท�ำลายใหถ้ กู วธิ ีและปลอดภยั ถกู วิธีและปลอดภัย (3) นําวัสดุแหลมคม กระจกหรือวัสดุอ่ืนท่ีอาจหลุดร่วงหรือแตกได้ง่ายออกให้หมด ก่อนการร้ือถอน (3) เอาของแหลมคม กระจก หรือวัสดุอ่ืนท่ีหลุดร่วงหรือแตกได้ง่ายออกให้ ทำ� ลาย หมดกอ่ นการรื้อถอนทำ� ลาย (4) จัดให้มีแผงรับวัสดุที่อาจร่วงหล่นจากการร้ือถอนหรือท�ำลายน้ัน และแผงรับ วัสดุดังกล่าวต้อง (4) จัดให้มีแผงรับวัสดุที่อาจร่วงหล่นจากการรื้อถอนท�ำลายสิ่งก่อสร้างนั้น มคี วามมัน่ คงแขง็ แรงและขนาดใหญ่เพยี งพอทจ่ี ะสามารถรองรบั วัสดทุ ร่ี ว่ งหล่นได้ อยา่ งปลอดภยั และแผงรบั วสั ดดุ งั กลา่ วตอ้ งมคี วามมนั่ คงแขง็ แรงและขนาดใหญเ่ พยี งพอทจี่ ะ (5) จดั ใหม้ หี ลงั คาทมี่ คี วามมน่ั คงแขง็ แรงครอบตลอดทางเดนิ บรเิ วณซอ้ื ถอน หรอื วธิ กี ารอน่ื ใด ทเ่ี หมาะสม สามารถรองรับวสั ดทุ ร่ี ว่ งหล่นไดอ้ ยา่ งปลอดภัย กรณีต้องเดนิ ใกล้บริเวณพ้ืนทที่ ม่ี ีงานรื้อถอนหรือท�ำลาย (5) จดั ใหม้ กี ารฉดี นำ้� หรอื ใชว้ ธิ อี น่ื ทเี่ หมาะสมเพอ่ื ปอ้ งกนั หรอื ขจดั ฝนุ่ ตลอดเวลา (6) จัดให้มีการฉีดน้�ำหรือใช้วิธีอื่นที่เหมาะสมเพ่ือป้องกันหรือขจัดฝุ่นตลอดเวลาท�ำงาน ในกรณีท่ีมี ท�ำงานในกรณีที่มีความจ�ำเปน็ ตอ้ งใชไ้ ฟฟา้ นำ้� สาธารณูปโภค หรือสง่ิ อำ� นวย ความจำ� เปน็ ตอ้ งใชไ้ ฟฟา้ นำ�้ หรอื พลงั งานอยา่ งอนื่ ในระหวา่ งการรอ้ื ถอนหรอื ทำ� ลาย นายจา้ งตอ้ งจดั ให้ ความสะดวกอืน่ ๆ ในระหวา่ งการรอื้ ถอนท�ำลายสิ่งกอ่ สรา้ ง ใหน้ ายจา้ งจดั ให้ มมี าตรการป้องกนั อนั ตรายในการใชส้ ง่ิ เหลา่ นัน้ มีมาตรการปอ้ งกนั อนั ตรายในการใช้สิง่ เหล่านนั้ ขอ้ 109 ในกรณที รี่ อื้ ถอนทำ� ลายดว้ ยวตั ถรุ ะเบดิ ใหน้ ายจา้ งจดั ใหม้ ผี ชู้ ำ� นาญการ ข้อ 65 ในกรณที รี่ อ้ื ถอนหรอื ทำ� ลายสงิ่ กอ่ สร้างดว้ ยวัตถุระเบิด นายจา้ งต้องจดั ใหม้ ี ผชู้ ํานาญการดา้ น ด้านวัตถุระเบิดและวิศวกรซ่ึงมีประสบการณ์ด้านการรื้อถอนท�ำลายด้วย วตั ถรุ ะเบดิ และวศิ วกรซงึ่ มปี ระสบการณด์ า้ นการรอ้ื ถอนหรอื ทำ� ลายดว้ ยวตั ถรุ ะเบดิ เปน็ ผคู้ วบคมุ งาน วตั ถุระเบดิ เป็นผคู้ วบคุมงานและกำ� หนดวิธปี ้องกนั อันตรายตลอดเวลาทำ� งาน และก�ำหนดวิธีปอ้ งกนั อนั ตรายตลอดเวลาทำ� งาน ข้อ 110 ให้นายจ้างจัดให้มีการขนย้ายวัสดุที่รื้อถอนท�ำลายแล้วออกจาก ขอ้ 66 นายจ้างตอ้ งจัดให้มกี ารขนย้ายวัสดุทรี่ ้อื ถอนหรอื ท�ำลายแล้วออกจากบรเิ วณ ทรี่ ้ือถอนทำ� ลาย บริเวณท่ีรื้อถอนท�ำลายหรือจัดเก็บให้ปลอดภัย ในกรณีท่ีมีการขนย้ายวัสดุ หรอื จดั เกบ็ ใหป้ ลอดภยั ในกรณที ม่ี กี ารขนยา้ ยวสั ดทุ ร่ี อื้ ถอนหรอื ทำ� ลายในทต่ี า่ งระดบั ใหก้ ระทำ� อยา่ ง ท่ีรื้อถอนท�ำลายในท่ีต่างระดับ ให้กระท�ำโดยวิธีท่ีปลอดภัยและให้นายจ้าง เหมาะสมกบั สภาพของวสั ดทุ ร่ี อื้ ถอนหรอื ทำ� ลาย โดยวธิ ที ปี่ ลอดภยั และนายจา้ งตอ้ งจดั ใหม้ มี าตรการ จัดใหม้ มี าตรการเพอ่ื ปอ้ งกันอันตราย เพ่ือป้องกนั อนั ตราย - ข้อ 67 ในกรณที ปี่ รากฎการเคล่อื นตวั ของสิ่งทก่ี าํ ลังรือ้ ถอนหรือท�ำลายสงิ่ กอ่ สรา้ ง หรอื มสี ง่ิ บอกเหตุ หรือพฤติการณ์ที่อาจจะท�ำให้เกิดอันตรายแก่ลูกจ้าง นายจ้างต้องสั่งให้หยุดการท�ำงาน และให้ เคล่ือนย้ายลูกจ้างออกจากบริเวณนั้นทันที เว้นแต่เป็นการท�ำงานเพ่ือบรรเทาอันตรายท่ีอาจเกิดขึ้น ในกรณีเช่นนี้ นายจ้างตอ้ งจดั ให้มมี าตรการป้องกนั อนั ตรายเป็นกรณพี ิเศษดว้ ย ผปู้ ระกอบการรอ้ื ถอนและทกุ คนทเี่ กยี่ วขอ้ งสามารถชว่ ยกนั หยดุ พาดหวั ขา่ วสลดทเี่ กยี่ วกบั งานรอ้ื ถอนหรอื ทำ� ลายสงิ่ กอ่ สรา้ งได้ ดว้ ยการ รว่ มมอื รว่ มใจปฏบิ ตั เิ รอื่ งความปลอดภยั ใหม้ ากกวา่ มาตรฐาน (ความปลอดภยั ) ขน้ั ตำ่� ตามทกี่ ฎหมายกำ� หนด นนั่ คอื การรว่ มดำ� เนนิ การในสว่ นตา่ งๆ ทส่ี อดคลอ้ งกบั หมวด 9 งานรอ้ื ถอนหรอื ทำ� ลายสงิ่ กอ่ สรา้ ง ตามกฎกระทรวง กำ� หนดมาตรฐานในการบรหิ าร จดั การ และดำ� เนนิ การดา้ นความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ� งานเกย่ี วกบั งานกอ่ สรา้ ง พ.ศ. 2564 เพอื่ ใหง้ านรอื้ ถอนหรอื ทำ� ลายสงิ่ กอ่ สรา้ งเปน็ งานทม่ี คี วามปลอดภยั . ด้วยรกั และหว่ งใย จากใจผเู้ ขยี น...โค้ชออนซ์_สชุ าดา อวยจินดา วิทยากร/ทีป่ รกึ ษา/โค้ช/นักเขียน 15

บทความเกี่ยวกับมมุ มองของผ้บู ริหาร ตอ่ การบรหิ ารงาน ด้านความปลอดภัยในการท�ำงาน “ความปลอดภัยต้องมาก่อน” (Safety Frist) “เครง่ ครดั ข้นั ตอนขอ้ ก�ำหนดและกฎหมาย” (Safety Law & Requirement) “พฒั นาการจดั การความปลอดภัย” (Safety Improvement) “พนักงานรว่ มใจสร้างวัฒนธรรม” (Safety Engagement) “ทำ� งานปลอดภยั ไร้อุบัตเิ หตุ” (Safe Working Without Accident) คุณสกล เหลา่ สวุ รรณ ประธานเจา้ หนา้ ทบ่ี รหิ าร CHIEF EXECUTIVE OFFICER 16

บรษิ ทั อติ ลั ไทยวศิ วกรรม จำ� กดั ไดใ้ ช้ พรบ.ความปลอดภยั ฯ กฎกระทรวงแรงงานภายใต้ พรบ. และกฎกระทรวงตา่ ง ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เป็นพื้นฐานในการบริหารจัดการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการท�ำงานของบริษัทฯ ซ่ึงได้ก�ำหนดเป็น นโยบายให้ทุกหน่วยงานโครงการด�ำเนินการอย่างเคร่งครัด ภายใต้การสนับสนุนของส่วนบริหารความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม เราเชื่อว่าการที่บริษัทจะสามารถพัฒนาการจัดการความ ปลอดภยั ไปสมู่ าตรฐานสากลได้ ตอ้ งมพี นื้ ฐานการทำ� งานใหส้ อดคลอ้ ง กบั กฎหมายและขอ้ กำ� หนดเสยี กอ่ น (Safety Law & Requirement) ซ่ึงบริษัทฯ ได้ด�ำเนินการมาอย่างต่อเน่ือง จนถึงปี 2016 บริษัทฯ พัฒนาระบบการจัดการความปลอดภัย (Safety Improvement) จนสามารถขอการรับรองมาตรฐาน OHSAS 18001 และปรับเป็น ระบบ ISO 45001 ในปี 2018 ทผ่ี ่านมา ในปี 2021 นี้ บริษัทฯ มุ่งเน้นเร่ืองการมีส่วนร่วมด้าน ความปลอดภัย (Safety Engagement) ของพนักงานทุกระดับ โดยเร่ิมจากการสังเกตตนเอง เพื่อนร่วมงาน และสภาพแวดล้อม การทำ� งาน แลว้ รายงานสง่ิ ทพี่ บเจอมาทเ่ี จา้ หนา้ ทค่ี วามปลอดภยั ของ หนว่ ยงานในรปู แบบของ “ CARE CARD ” ในสว่ นของผบู้ รหิ ารกต็ อ้ ง ให้การสนับสนนุ และมสี ่วนร่วมในกจิ กรรมน้ันอย่างสมำ่� เสมอ ผมในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มีความมุ่งมั่นท่ีสร้าง วฒั นธรรมดา้ นความปลอดภยั ทยี่ ง่ั ยนื ภายในองคก์ ร ใหค้ วามสำ� คญั กบั ความปลอดภัยในทุก ๆ วัน โดยต้องคำ� ถึงเป็นสิ่งแรกก่อนที่จะลงมือ ปฏิบัติงาน (Safety First) เพราะผมเช่ือว่าเม่ือพนักงานและลูกจ้าง ทุกคนท�ำงานด้วยความปลอดภัย ไม่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีการบาดเจ็บ ท่านเหล่าน้ันก็จะมีคุณภาพชีวิตที่ดี องค์กรเองก็จะผลิตแรงงานท่ีมี คุณภาพคืนใหก้ ับสงั คมต่อไป เราเชื่อว่าการที่บรษิ ทั จะสามารถพฒั นาการจดั การ ความปลอดภยั ไปสู่ มาตรฐานสากลได้ ตอ้ งมีพ้นื ฐานการทำ� งาน ใหส้ อดคลอ้ งกบั กฎหมาย และขอ้ กำ� หนดเสยี ก่อน 17

เรอ่ื งที่โรงงาน และสถานประกอบการ CในOเขVตIDระบ19าดคขวอรง รู้ ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ดอกเตอร์ วีระศกั ด์ิ จงสู่วิวฒั น์วงศ์ 13 มกราคม 2564 18

เอกสารน้ีไม่ใชเ่ อกสารทางการของสถาบันใด ๆ ทัง้ สิ้น เป็น ประเดน็ ความเสี่ยงในการรับเช้อื จากภายนอก เพยี งขอ้ เสนอของผเู้ ขยี นเพอื่ ใหแ้ งค่ ดิ บางประการสำ� หรบั ผปู้ ระกอบการ หรอื ผู้จดั การฝ่ายบุคคล เจา้ หน้าทีค่ วามปลอดภัยในการทำ� งานหรอื ถงึ แมส้ ถานประกอบการของทา่ นจะดำ� เนนิ การไดม้ าตรฐาน จป. (ซงึ่ ต่อไปจะเรียกรวมสั้น ๆ วา่ “ผปู้ ระกอบการ”) นำ� ไปพิจารณา ท้ังสองประการท่ีกล่าวแล้วก็ตาม ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจาก ประกอบการวางแผนป้องกันและแก้ปัญหา COVID-19 (ซ่ึงต่อไปนี้ ภายนอกก็ยังมีอยู่ ความเสี่ยงน้ีข้ึนอยู่กับปัจจัยสองประการ คือ ใน จะเรียกง่าย ๆ ว่า “โควิด”) ในโรงงานหรือสถานประกอบการ ขณะนน้ั มเี ชอื้ อยภู่ ายนอกหรอื ไม่ และสมาชกิ ของสถานทมี่ พี ฤตกิ รรม (ซึ่งตอ่ ไปนจ้ี ะเรยี กสน้ั ๆ วา่ “สถานประกอบการ” ) ของตน ท่ีอาจจะน�ำเช้ือเข้ามาในสถานท่ีนั้นมากน้อยเพียงไร ในยามที่ไม่มี ค�ำแนะน�ำเพิ่มเติมในเอกสารฉบับนี้ จะอภิปรายเฉพาะ เช้ือโควิดระบาด การเข้าออกสถานประกอบการของสมาชิกจะมี ประเด็นที่ท่านอาจจะมีข้อสงสัยแต่ไม่ค่อยได้พบค�ำตอบอย่างเป็น โอกาสน�ำเช้ือเข้ามาได้น้อย แต่ในยามที่เกิดโรคระบาดในชุมชนใกล้ ทางการ ถ้ามีข้อความใดขัดแย้งกับประกาศหรือค�ำแนะน�ำของ เคียง หรือ ชุมชนต้นทางของพนักงาน ตัวพนักงานและญาติหรือ กระทรวงสาธารณสุข ขอให้ใช้ค�ำแนะน�ำของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อนอาจจะนำ� เชือ้ เขา้ มาสถานประกอบการเมอ่ื ไรกไ็ ด้ เชื้อโควดิ เป็น เปน็ เกณฑ์ ถา้ มขี อ้ สงสยั หรอื ไมแ่ นใ่ จอาจจะสอบถามไดจ้ ากสำ� นกั งาน เช้ือติดต่ออันตราย เม่ือเข้ามาแล้วมาตรการปรกติจะป้องกันไม่ให้ สาธารณสขุ ในพืน้ ท่ี เชอ้ื แพรก่ ระจายไดย้ าก ในสภาพการทำ� งานทบี่ คุ ลากรตอ้ งใกลช้ ดิ กนั มาก ประการแรก ผู้เขียนมีข้อสมมติว่าสถานประกอบการของ อาจจะเป็นเวลานาน และ/หรือ การควบคุมสุขอนามัยด้านทางเดิน ท่านมีมาตรฐานท่ัวไปทางด้านความปลอดภัยเป็นไปตามกฎระเบียบ หายใจย่อหย่อน เชอ้ื ก็จะระบาดไปท่วั สถานประกอบการ ของกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงแรงงาน ประการท่ีสอง ผู้เขียนเช่ือว่า ผู้ประกอบการ มีความรู้และ ด�ำเนินการพื้นฐานเกี่ยวกับโรคโควิด ซึ่งรวมทั้งแนวทางการป้องกัน ด้านอนามัยส่วนบุคคล เช่น การสวมหน้ากาก การล้างมือ การเว้น ระยะห่าง สุขอนามัยด้านการรับประทานอาหาร ที่ทางกระทรวง สาธารณสขุ ใหค้ ำ� แนะนำ� ตอ่ ประชาชน โดยไดป้ ฏบิ ตั ติ ามอยา่ งเขม้ งวด โปรดจ�ำไว้ว่า สุขอนามัยพ้ืนฐานของสถานประกอบการ ทง้ั สองประการ สำ� คญั กวา่ การตรวจคดั กรอง ถา้ ทา่ นยงั ไมผ่ า่ นคณุ สมบตั ิ ขอ้ ใดขอ้ หนงึ่ เบอื้ งตน้ สถานประกอบการของทา่ นถอื ไดว้ า่ มคี วามเสยี่ ง ในการแพรโ่ รคโควดิ มากกวา่ สถานทอี่ น่ื ๆ ทวั่ ไป ความเสย่ี งนจี้ ะนำ� มา ซงึ่ ความเสยี หายทางสขุ ภาพของพนกั งาน และครอบครวั ของทา่ น และ นำ� ไปสปู่ ญั หาความมน่ั คงทางการเงนิ และชอ่ื เสยี งของกจิ การของทา่ น การจัดการคนเขา้ ออก เม่ือมีการระบาด สถานประกอบการจึงต้องป้องกันไม่ให้ มีการเข้าออกโดยไม่จ�ำเป็น ถ้าจะให้ปลอดภัยย่ิงขึ้นไปกว่าธรรมดา สถานประกอบการน่าจะต้องจัดบริเวณกักตัวคนท�ำงานและบุคคล ภายนอกที่เดินทางมาจากภายนอก แยกออกจากที่ท�ำงานและท่ีพัก ของคนส่วนใหญ่เป็นเวลา 14 วัน ถ้ามีอาการเช่น ไข้ หรือ เป็น หวัด ก็ให้พบแพทย์ ถ้าไม่มีอาการครบก�ำหนด 14 วันจึงให้ท�ำงาน ส�ำหรับสถานประกอบการที่ต้องมีบุคคลภายนอกมาใช้บริการ เช่น ศนู ยก์ ารคา้ รา้ นสะดวกซอ้ื ตอ้ งเขม้ งวดตอ่ พฤตกิ รรมอนามยั ของลกู คา้ อยา่ งสภุ าพ คนทำ� งานจงึ จะปลอดภยั ความเขม้ งวดเทา่ นน้ั ทจี่ ะทำ� ให้ สถานประกอบการและสมาชิกท้ังหมดปลอดภยั จากโควดิ 19

ถา้ จำ� นวนประชากรเปา้ หมายในการคดั กรองเชงิ รกุ มจี ำ� นวน ไมม่ าก พนกั งานสอบสวนโรคกจ็ ะตรวจสมาชกิ ของสถานประกอบการ ทุกคนเป็นราย ๆ ไป เพ่ือแยกผู้แพร่เชื้อและผู้ป่วยออกจากคน ปรกติ แต่ถ้าประชากรเป้าหมายมีมากเกินกว่าที่จะตรวจได้ทุกคน ทีมสอบสวนโรคจะใช้วิธีสุ่มตรวจพนักงานของสถานประกอบการ จำ� นวนหนง่ึ ไมไ่ ดต้ รวจทกุ คน ถา้ พบวา่ มผี ตู้ ดิ เชอื้ กจ็ ะดำ� เนนิ การตรวจ แบบละเอยี ดตอ่ ไป ถา้ ไมพ่ บกอ็ าจจะนดั กลบั มาสมุ่ ตรวจใหมใ่ นภายหลงั การวัดอุณหภมู ิ การเก็บส่งิ ส่งตรวจและการทดสอบทาง หอ้ งปฏบิ ตั ิการ (ขอเรียกสน้ั ๆ วา่ ตรวจแล็บ) การวัดอุณหภูมิในปัจจุบันท�ำได้ไม่ยาก ต้นทุนไม่สูงมาก เป็นวิธีคัดกรองเบื้องต้นให้คนเข้าสู่สถานประกอบการหรือสถานท่ีซึ่ง การตรวจแล็บ มีบทบาทส�ำคัญสองประการ ประการแรก อาจจะมีการถ่ายทอดเชื้อโควิดได้ง่าย ถ้าผู้ถูกตรวจมีอุณหภูมิสูงกว่า คือ ตรวจเพือ่ วนิ จิ ฉัยวา่ เปน็ โรคน้ัน ๆ (ในกรณนี ้ี คือ โควิด) หรือโรค มาตรฐานทท่ี างราชการกำ� หนด กไ็ มค่ วรไดร้ บั อนญุ าตใหเ้ ขา้ ไปในพนื้ ท่ี อนื่ ซง่ึ ปรกตจิ ะใชก้ บั ผปู้ ว่ ยในโรงพยาบาล กบั ประการทสี่ อง คอื ตรวจ ถ้าเป็นพนักงานก็สมควรจัดให้ไปพบผู้มีความรู้ทางการแพทย์เพื่อซัก เพ่ือคัดกรองสำ� หรบั คนท่ไี มม่ อี าการในระหวา่ งการสอบสวนโรค เพ่ือ ประวัติ ตรวจรา่ งกาย และตรวจแลบ็ ตอ่ ไป ถ้าเป็นลกู คา้ หรอื ผู้มารับ ดูว่าคนที่ถูกตรวจมีเช้ือท่ีจะแพร่ให้ผู้อ่ืนได้หรือเปล่า ซึ่งเรียกว่าตรวจ บรกิ าร ตอ้ งไมใ่ หเ้ ขา้ มาในตวั อาคารทม่ี เี ครอ่ื งปรบั อากาศ เพอ่ื ปอ้ งกนั คดั กรอง การแพรเ่ ชอ้ื ในอาคาร วิธีการตรวจคัดกรองมีหลายวิธี ท่ีใช้เป็นมาตรฐานส�ำหรับ ประเทศไทยซงึ่ กระทรวงสาธารณสขุ ใชแ้ ละรบั รองโดยองคก์ ารอนามยั การติดตามพนักงานหรือสมาขกิ ท่ีขาดงาน โลก คอื การใชไ้ มพ้ นั สำ� ลแี ยงเขา้ ไปยงั สว่ นหลงั ของโพรงจมกู เพอื่ ปา้ ย หรอื เจบ็ ปว่ ย เอาน�้ำมูกน�้ำลายที่อยู่ส่วนน้ันออกมาตรวจหาสารพันธุกรรมโดยวิธีท่ี เรยี กวา่ RT-PCR คำ� วา่ PCR ยอ่ มาจาก polymerase chain reaction ในชว่ งโควดิ ระบาด ถา้ มพี นกั งานขาดงานหรอื ลา ควรตรวจ ปรกตเิ ปน็ การขยายรหสั พนั ธกุ รรมหรอื DNA ทตี่ อ้ งการตรวจหาหลาย ๆ สอบว่าเกิดการเจ็บป่วยที่อาจจะเก่ียวข้องกับโควิดหรือไม่ ถ้าสงสัย รอบ เม่ือเวลาผ่านไปหลาย ๆ รอบ DNA เฉพาะรหัสส่วนน้ันก็จะมี ควรแนะน�ำใหไ้ ปพบแพทย์เพ่อื ตรวจหาเชอ้ื ถา้ จำ� เป็น ปริมาณมากมายมหาศาล ตรวจหาได้ง่าย ดังนั้นถึงแม้มีเชื้ออยู่น้อย วธิ นี ก้ี จ็ ะตรวจไดพ้ บ เราเรยี กวา่ วธิ ตี รวจนม้ี คี วามไวสงู ขอ้ ดอี กี ประการหนงึ่ การสอบสวนโรค คอื มนั จะขยายเฉพาะรหสั ทเ่ี ราตอ้ งการเทา่ นน้ั รหสั อน่ื ๆ ไมถ่ กู ขยาย และจะตรวจไมพ่ บ คณุ สมบตั นิ เ้ี ราเรยี กวา่ มคี วามจำ� เพาะสงู ขอ้ จำ� กดั เมอ่ื มพี นกั งานคนไดคนหนงึ่ ปว่ ยดว้ ยโรคโควดิ จะมเี จา้ หนา้ ท่ี คือการตรวจ RT-PCR ต้องการความช�ำนาญสูง ค่าใช้จ่ายสูง และ สาธารณสุขมาสอบสวนโรค เพื่อหาว่ามีผู้ใดในที่ท�ำงานเจ็บป่วยจาก ต้องรอให้ DNA เพมิ่ จ�ำนวนเปน็ เวลาหลายช่ัวโมง แตข่ ้อจ�ำกัดเหล่านี้ โควิด หรือ แพร่เช้ือโควิดหรือไม่ ถ้าตรวจพบจะได้จัดการแยกตัว มนี ำ�้ หนกั นอ้ ยกวา่ ขอ้ ดี กระทรวงสาธารณสขุ และองคก์ ารอนามยั โลก ผู้ป่วยหรือผู้แพร่เช้ือเหล่านั้นอย่างเหมาะสม สถานประกอบการต้อง จงึ เลอื กใช้วธิ ีน้เี ท่านนั้ ออกค�ำส่ังให้พนักงานและผู้เก่ียวข้องทุกคนร่วมมือกับพนักงาน วิธีอ่ืน ๆ ที่มีอยู่ ส่วนใหญ่ใช้เวลาสั้นกว่า เรียกกันท่ัวไปว่า สอบสวนโรคอย่างเต็มท่ี เพื่อป้องกันไม่ให้โรคแพร่กระจายต่อไป rapid test เช่น การตรวจเลือดหาแอนติบอดี้ การตรวจน�้ำลายหา ในสถานประกอบการและในชมุ ชน แอนติเจน วิธีเหล่าน้ีกระทรวงสาธารณสุขไม่ใช้ เพราะมีความไวและ ความจ�ำเพาะต�่ำ ผู้ที่แพร่เชื้อบางคนอาจจะตรวจไม่พบ (เรียกว่าเป็น การตรวจคัดกรองเชงิ รุก ผลลบปลอม) ไมไ่ ดร้ บั การกกั ตวั ไปแพรเ่ ชอื้ ใหค้ นอนื่ ตอ่ ขณะเดยี วกนั ผูท้ ีไ่ ม่มเี ชอื้ กอ็ าจจะใหผ้ ลตรวจเป็นบวก ท�ำใหเ้ กดิ ความสับสน ถ้าทางสาธารณสุขคาดว่ามีผู้ติดเช้ืออยู่ในพ้ืนที่จ�ำเพาะหรือ กลุ่มสถานประกอบการหรือโรงงาน หรือ หมู่บ้านใดเป็นจ�ำนวนมาก การขอใหส้ ถานประกอบการไดร้ บั การตรวจคดั กรอง ถึงแม้ไม่มีผู้ใดในสถานที่นั้นป่วยชัดเจน พนักงานสอบสวนโรคก็อาจ จะออกไปตรวจค้นหาผู้แพร่เชื้อและผู้ป่วยในสถานท่ีเหล่าน้ันด้วยวิธี ทีมงานสอบสวนโรคมีงานที่ต้องท�ำมาก และท�ำไม่ค่อยทัน คัดกรองเชิงรุกซ่ึงจะมีการเก็บตัวอย่างสิ่งของส่งตรวจหาเช้ือทางห้อง ในชว่ งเวลาและสถานทซ่ี งึ่ มโี รคระบาดหนกั การคดั กรองเชงิ รกุ เปน็ งาน ปฏบิ ตั กิ ารรว่ มดว้ ยเสมอ เพอ่ื เปน็ การตดั ไฟแตต่ น้ ลม ทำ� ใหเ้ ชอื้ ในพนื้ ที่ เพมิ่ จากการสอบสวนโรคปรกตทิ ตี่ อ้ งทำ� เมอ่ื มคี วามจำ� เปน็ เชน่ สงสยั วา่ ลดลงเร็วขน้ึ มกี ารตดิ เชอื้ แฝงอยใู่ นบางพน้ื ทด่ี งั ทไี่ ดก้ ลา่ วแลว้ ถา้ สถานประกอบการใด 20

สงสัยว่าอาจจะมีพนักงานของตนแพร่เช้ืออยู่ อาจจะโทรศัพท์ เปน็ ละอองน้�ำซงึ่ ตกจากร่างกายในระยะ 2 เมตร ปรกติจะไม่สามารถ ขอคำ� แนะนำ� จากสำ� นกั งานสาธารณสขุ ในพนื้ ท่ี ซงึ่ อาจจะมาสอบสวน ปลิวไปตามลมออกจากอาคารไปติดคนภายนอก เส้ือผ้าและเคร่ือง โรคเปน็ กรณพี เิ ศษ ถ้ามีเบาะแสวา่ มกี ารระบาดอย่เู ป็นจำ� นวนมาก นงุ่ ห่ม เคร่อื งนอน ท่ซี กั ด้วยผงซกั ฟอก แล้วกถ็ ือวา่ ปลอดภัยใช้ได้กับ ทุกคน ใช้บริการของสถานบริการในการตรวจคัดกรอง การสร้างโรงพยาบาลสนามเป็นเรื่องที่ยุ่งยากในการตระ พนกั งานดีไหม และ ได้ไหม เตรยี มสถานทแ่ี ละอปุ กรณต์ ลอดจนการจดั การ ถา้ เปน็ ไปได้ การกกั ตวั อาจจะใชบ้ างสว่ นของสถานประกอบการหรอื โรงงาน เชน่ หอพกั บาง ส�ำหรับกรณีโควิด การตรวจคัดกรองที่ได้มาตรฐานคือ หอพกั หรอื บ้านบางหลัง ทเี่ ป็นส่วนหนึง่ ของสถานประกอบการน้ัน RT-PCR ท่ีกล่าวมาแล้วมีต้นทุนสูง รัฐบาลให้บริการฟรีด้วยเหตุผล ๆ ให้พนักงานท่ีจะต้องกักตัวเป็นกลุ่มขนข้าวของเคร่ืองใช้ของตนไป ทีเ่ ป็นความม่ันคงของชาตทิ างด้านสุขภาพ ถา้ โรงพยาบาลหรอื สถาน เขา้ ไปอยู่และท�ำความสะอาดกนั เอง สง่ อาหารเขา้ ไปใหเ้ ตรยี มกันเอง พยาบาลเอกชนจะรบั ใหบ้ ริการ ควรปรกึ ษากับส�ำนกั งานสาธารณสขุ ท�ำความสะอาดให้ดีเหมือนชีวิตประจ�ำวันทั่วไป ที่ส�ำคัญให้แยกออก เจ้าของพื้นที่ จากคนภายนอกจนกว่าทีมสาธารณสุขจะแน่ใจว่าทุกคนไม่แพร่เช้ือ ท่ีส�ำคัญ ขอแนะน�ำไม่ให้โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล แลว้ ก็ยกเลิกการกักตวั ทำ� ความสะอาดสถานท่กี กั ตวั และนำ� กลบั มา ใช้ rapid test ถึงแม้ว่าสถานประกอบการจะยินดีออกค่าใช้จ่ายเอง ใช้งานไดห้ ลังทงิ้ ไวร้ ะยะหนงึ่ ทง้ั นี้ เพราะ rapid test อาจจะใหผ้ ลลบปลอมทำ� ให้พลาดในการหา ผตู้ ดิ เชอ้ื ทำ� ใหเ้ ชอ้ื แพรอ่ อกไปเปน็ อนั ตรายตอ่ สงั คม ถา้ ได้ ผลบวกปลอม ท�ำให้จัดผู้ปลอดเชื้อไปอยู่กับผู้ติดเชื้อ นอกจากนี้ การรวบรวมข้อมูล การสอบสวนโรคและสถิติการติดเช้ืออาจจะมีปัญหา ถ้าด�ำเนินการ โดยทมี งานท่ไี ม่ได้ผา่ นการอบรมมาเพ่ือการน้โี ดยตรง การคัดแยกและการกกั ตัว การทำ� ความสะอาดฆ่าเช้อื ในส�ำนักงานหรอื สถาน ประกอบการ ถา้ ทมี สอบสวนโรคตรวจพนกั งานของสถานประกอบการได้ ทกุ คน ผตู้ ดิ เชอื้ จะถกู สง่ ตวั ไปโรงพยาบาลเพอื่ รกั ษาตวั ในหอ้ งแยก ผทู้ ี่ ในห้องซึ่งเป็นท่ีอยู่หรือท่ีท�ำงานของผู้ติดเชื้อโควิดอาจจะ อยใู่ กลช้ ดิ (ซงึ่ เรยี กวา่ ผสู้ มั ผสั โรค)ซงึ่ ตรวจไมพ่ บเชอ้ื จะไดร้ บั คำ� แนะนำ� มีเชื้อหลงเหลืออยู่ เชื้ออาจจะอยู่ได้นานถึง 7 วัน แต่น�้ำยาฆ่าเช้ือ ใหแ้ ยกตวั อยทู่ บี่ า้ นหรอื หอ้ งพกั พเิ ศษในหอพกั เพราะในเวลาตอ่ ไปคน ชนิดต่าง ๆ ในท้องตลาด รวมทั้งสบู่ และแสงแดด ฆ่าเชื้อโควิด ๆ น้นั อาจจะมกี ารแพรเ่ ช้ือ ถ้ามอี าการก็สง่ ไปรักษาตอ่ ท่ีโรงพยาบาล ได้ผลดีมาก ควรเปิดหน้าต่าง ประตูห้องให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ถา้ ไมม่ ีอาการและกักตัวครบ 14 วันกก็ ลับเข้าท�ำงานไดต้ ามปรกติ ถ้าเป็นไปได้ควรให้แสงแดดเข้าถึง ถ้าเป็นห้องปิดมิดชิดควรเปิด มบี างกรณี ทคี่ นงานอยดู่ ว้ ยกนั ใกลช้ ดิ เปน็ เวลานานและเพง่ิ หลอดยวู ี ฆา่ เชอ้ื ทง้ิ คา้ งคนื ไวก้ อ่ นเขา้ ทำ� ความสะอาด (แตต่ อ้ งระวงั วา่ มาตรวจพบเชือ้ ในคนงานจำ� นวนมากในนน้ั เช่น เกิน 10% ขึ้นไป ทีม แสงยวู เี ปน็ อนั ตรายตอ่ สายตาและผวิ หนงั ) ถา้ หอ้ งไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งใชง้ าน สอบสวนโรคอาจจะพจิ ารณาวา่ คนงานทงั้ หมดเปน็ หนว่ ยเดยี วกนั ของ ทนั ที อาจจะรอสองสปั ดาห์เพ่อื ให้ไวรัสที่อย่ใู นหอ้ งหมดฤทธิ์ การติดเช้ือแล้ว แทนท่ีจะแยกกักตัวเป็นรายคน อาจจะขอกักตัวทั้ง เตรียมแผนงานวัสดุและอุปกรณ์ในการฆ่าเช้ือ เช่น ถุงมือ กลุ่มโดยให้อยู่รวมกันโดยไม่สัมผัสกับบุคคลภายนอก ถ้ามีคนใดป่วย ยางส�ำหรับท�ำความสะอาด หน้ากากอนามัย รองเท้าบู๊ต แว่นตา มีอาการจึงแยกออกไปรกั ษาที่โรงพยาบาล กันน้�ำกระฉอก น�้ำผสมผงซักฟอกหรือน้�ำสบู่ แอลกอฮอล์ 70% (ชนิดน�้ำ ไม่ใช่เจล) น�้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น ไฮเตอร์ คลอรอกซ์ ซึ่งผสมน้�ำ ความจ�ำเปน็ ของโรงพยาบาลสนาม ตามคำ� แนะนำ� ของโรงงาน เชอ้ื โควดิ ตายงา่ ย ไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งใชย้ าฆา่ เชอื้ ราคาแพง เช่น เดทตอล การจัดสถานท่ีส�ำหรับผู้ติดเชื้อจ�ำนวนมากท่ีไม่มีอาการมา อยู่รวมกัน บางทีก็เรียกว่าโรงพยาบาลสนาม ความจริงแล้วอาจจะ ไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งใหห้ ยกู ยาเลย เพยี งแตจ่ ดั คนจำ� นวนมากมากกั ตวั รวมกนั เพื่อสะดวกในการบริการ โรงพยาบาลสนามมักจะมีจัดตั้งขึ้นในที่ซึ่ง อากาศปลอดโปรง่ ถา่ ยเทไดด้ ี เพอ่ื ความปลอดภยั ของผดู้ แู ลและใหบ้ รกิ าร การแพร่เช้ือออกจากโรงพยาบาลสนามสู่ภายนอกเป็นไปได้น้อยมาก ถา้ มกี ารจดั การของเสยี ไดถ้ กู วธิ ี เชอ้ื โควดิ จะถกู ฆา่ โดยวสั ดทุ ม่ี อี ยตู่ าม บา้ นหรอื โรงงาน เชน่ สบู่ นำ้� ยาลา้ งจาน นำ้� ยาสระผม นำ้� ยาลา้ งหอ้ งนำ�้ แอลกอฮอลส์ �ำหรับล้างมอื และ แสงแดด เชอื้ โควดิ ออกจากร่างกาย 21

ท�ำความสะอาดพ้ืนห้องด้วยน้�ำสบู่ พ้ืนผิวเฟอร์นิเจอร์ เช่น การขนส่งผูต้ ดิ เชอ้ื โควดิ ไปสถานพยาบาล โต๊ะ เตียง เก้าอี้ ตู้ ควรเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ ล้างห้องน�้ำด้วยน�้ำยา ล้างห้องน�้ำ สว่ นทีเ่ ปน็ ผ้าจดั การซักท�ำความสะอาด หา้ มรับประทาน ระหวา่ งการเดนิ ทาง ผตู้ ดิ เชอ้ื อาจจะแพรเ่ ชอ้ื ไปใหผ้ โู้ ดยสาร อาหารหรอื ด่ืมเคร่ืองดืม่ ระหวา่ งท�ำความสะอาด หรอื คนขบั รถ ดงั นนั้ ถา้ เปน็ ไปไดผ้ ตู้ ดิ เชอ้ื ทสี่ ถานประกอบการจะสง่ ไป โรงพยาบาลอาจจะตอ้ งไปเอง หรอื โทรศพั ทใ์ หร้ ถของโรงพยาบาลมารบั การแพรเ่ ชือ้ ระหวา่ งการทำ� งาน การปิดสถานประกอบการถา้ มสี ถานประกอบการ คนทแี่ พรเ่ ชอ้ื จำ� นวนมากไมม่ อี าการและทำ� งานไดต้ ามปรกติ มโี ควิดระบาด การท�ำงานจะแพร่เช้ือได้มากน้อยเพียงไรขึ้นอยู่กับชนิดของงาน งาน ที่มีความเสี่ยงท่ีจะแพร่เชื้อได้แก่ การท�ำงานใกล้ชิดกับคนอ่ืน ทั้ง เม่ือพนักงานคนใดคนหนึ่งติดเช้ือโควิด พนักงานที่เหลือซึ่ง พนักงานด้วยกันเองและลูกค้าหรือผู้ได้รับบริการโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทำ� งานใกลช้ ดิ เชน่ อยใู่ นอาคารชน้ั เดยี วกนั ตอ้ งไดร้ บั การสอบสวนและ ในห้องแคบท่มี ีอากาศถ่ายเทไม่สะดวก ตรวจเชื้อ ถ้าเป็นเพียงผู้สัมผัสท่ีตรวจไม่พบเชื้อก็ต้องอยู่บ้านแยกตัว การท�ำงานท่ีเก่ียวกับการปรุงหรือบริการอาหาร เช่น งานครัว งาน เอง 14 วนั ดงั กล่าวมาแล้ว การปิดท้ังสำ� นักงานหรือโรงงานควรจะท�ำ เสริฟอาหาร ลา้ งถ้วยชาม ก็ต่อเมื่อมีข้อสงสัยว่าอาจจะมีการสัมผัสกับผู้ติดเชื้ออย่างกว้างขวาง งานทต่ี อ้ งออกเสยี งดงั ทำ� ใหล้ ะอองจากลมหายใจออกไดแ้ รงและไกล ท�ำให้ต้องกักตัวพนักงานเป็นจ�ำนวนมาก มิฉะนั้นก็ไม่จ�ำเป็นต้องปิด เช่น พากษห์ รือบรรยาย นักร้อง การสอนหน้าชั้น กองเชยี ร์ ทง้ั หมด แตก่ ารทำ� งานตอ้ งมกี ารเฝา้ ระวงั อาการอยา่ งตอ่ เนอื่ ง ทง้ั หมด งานบางอยา่ งทอี่ ยคู่ นเดยี ว ไมส่ มั ผสั ใคร เชน่ งานประเภท work from นค้ี วรหารอื กบั ส�ำนักงานสาธารณสขุ home ถอื ได้วา่ ปลอดภยั การเคลมประกนั การดแู ลสุขภาพของผูต้ ดิ เชอ้ื ที่ไม่มีอาการ พนกั งานรายวนั ควรตดิ ตอ่ สำ� นกั งานประกนั สงั คมวา่ จะไดร้ บั ปรกติผู้ติดเช้ือทุกคนในประเทศไทยจะได้รับการดูแลท่ี คา่ ชดเชยคา่ แรงระหวา่ งการกกั ตวั หรอื ไมอ่ ยา่ งไร (ขอโทษทผ่ี เู้ ขยี นไมม่ ี โรงพยาบาล ในกรณีพิเศษอาจจะเป็นโรงพยาบาลสนาม ในประเทศ ความรเู้ รอื่ งน)้ี ถา้ มหี ลกั ฐานวา่ ไมไ่ ดก้ กั ตวั เองจรงิ แตห่ นไี ปเทยี่ ว ระบบ ที่มีการระบาดรุนแรง โรงพยาบาลจะไม่สามารถรับผู้ติดเชื้อท่ีไม่มี ประกันไม่จา่ ยเงินประกันให้พนักงานนนั้ อาการได้ ต้องดูแลกันเองท่ีบ้าน หรือ หอพักของสถานประกอบการ ผู้ติดเชื้อท่ีไม่มีอาการส่วนใหญ่ไม่ต้องการการดูแลพิเศษ ยกเว้นการ สอบถามอาการและวัดอุณหภูมิ ถ้ามีอาการเกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น ไอ จาม หอบ เหน่ือย หรือ มีไข้ ก็ต้องรายงานแพทย์เพ่ือเข้า รับการรักษา เพราะอาจจะเปลี่ยนสภาพกลายเป็นผู้ป่วยโควิดซ่ึงใน บางกรณจี ะมอี าการหนกั หรือเสยี ชีวิตได้ 22

กบั การขบั เคลอื่ น จป. ความปลอดภัยในงานกอ่ สร้าง นายไอศวรรย์ บุญทนั ตามท่ีมีข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ประจ�ำวันหรือมีข่าวออกทางโทรทัศน์บ่อยๆ ว่าเกิดอุบัติเหตุ มคี นงานดนิ ถลม่ ทบั เสยี ชวี ติ บา้ ง คนงานถกู ไฟดดู เสยี ชวี ติ บา้ ง คนงานตกจากนงั่ รา้ น หรอื นง่ั รา้ นพงั ถลม่ ลงมาทบั คนงานเสยี ชวี ิตบา้ ง ข่าวดังกล่าวประเภทนี้ ก็คืออุบัติเหตุงานก่อสร้าง งานก่อสร้างนับว่าเป็นประเภทกิจการท่ีมี อตั ราการประสบอันตรายสงู และบอ่ ยมากในแต่ละปี อบุ ตั เิ หตทุ เ่ี กดิ ขน้ึ ในงานกอ่ สรา้ งทงั้ ในอดตี และปจั จบุ นั ซง่ึ การเกดิ อบุ ตั เิ หตใุ นแตล่ ะครงั้ กอ่ ให้ เกดิ ความสญู เสยี ทงั้ ชวี ติ ของลกู จา้ งและทรพั ยส์ นิ เสยี หาย และงานกอ่ สรา้ งในปจั จบุ นั ยงั มคี นงานกอ่ สรา้ ง จำ� นวนมากท่ยี ังมีความเส่ยี งต่อการเกิดอุบตั ิเหตจุ ากงาน อะไรคือส่งิ ท่ที ำ� ให้งานกอ่ สร้างยังมคี วามเสี่ยง และเกิดอบุ ัติเหตใุ หพ้ บเห็นเรอ่ื ยๆ เจา้ หนา้ ทค่ี วามปลอดภยั ในการทำ� งาน หรอื จป. คอื เครอื่ งมอื อยา่ งหนงึ่ ทต่ี อ้ งมแี ละแสดงออก ถึงหน้าที่ความรับผิดชอบ (Safety Responsibilities) และความรับผิดชอบในหน้าท่ี (ตามกฎหมาย) ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย (Safety Accountability) ในเรอ่ื งความปลอดภัยให้ออกมาใหไ้ ด้ จป.ต้องเค้นความ สามารถออกมาใหไ้ ด้ เพอ่ื ขบั เคลอื่ นความปลอดภยั งานกอ่ สรา้ งใหไ้ ดม้ าตรฐาน อยา่ งนอ้ ยตอ้ ง Minimum Standards นัน่ กค็ อื ใหเ้ ปน็ ไปตามกฎหมาย เพื่อปอ้ งกันไมใ่ ห้เกดิ อุบตั เิ หตุในงานกอ่ สร้าง 23

การขบั เคลอ่ื นความปลอดภยั ในงานกอ่ สรา้ ง จป.มสี ว่ นสำ� คญั ในการจดั การงานตา่ งๆ เชน่ วางแผน ความปลอดภัย การตรวจความปลอดภัย การติดต่อประสานงานกับผู้ปฏิบัติงาน หัวหน้างาน ผู้บริหาร รวมถึงผเู้ กย่ี วขอ้ ง เพ่ือใหเ้ กิดความปลอดภยั ในทุกสว่ นของงานกอ่ สรา้ ง ซ่งึ การปฏิบัตงิ านความปลอดภยั จะตอ้ งเกดิ ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ลตามแผนงาน โดยทงั้ หมดเปน็ หนา้ ทข่ี อง จป.ทต่ี อ้ งบรหิ ารจดั การ อยา่ งเหมาะสม กฎหมายก่อสร้างและกฎหมายท่ีเก่ียวกับงานก่อสร้างเป็นส่ิงท่ีส�ำคัญมากที่ จป.ต้องเรียนรู้และ นำ� กฎหมายนนั้ ๆ เอามาบังคบั ให้เกดิ ผลในทางปฏบิ ตั ิ (Implement) ให้ได้ แนวทางอันดับแรกๆ จป.ต้อง P-D-C-A รวมกฎหมายก่อสร้างและที่เก่ียวกับก่อสร้างก่อน ต่อมาให้ท�ำแบบฟอร์มประเมินและท�ำการประเมินความสอดคล้อง อะไรท่ียังไม่สอดคล้องกับกฎหมาย กอ่ สรา้ งนน้ั ๆ จากนน้ั ทำ� แผนงานความปลอดภยั ในงานกอ่ สรา้ ง เพอื่ ใหเ้ ปน็ ตามทก่ี ฎหมายนน้ั ๆ กำ� หนดไว้ เพอื่ ปอ้ งกันอบุ ตั เิ หตุและความสญู เสยี ทอี่ าจเกดิ ขึ้น การขับเคล่อื นความปลอดภัยในการท�ำงานเก่ียวกบั งานกอ่ สรา้ ง สำ� หรับ จป. ในการจดั ท�ำแผนงานด้านความปลอดภัยฯ การจดั การบรหิ าร การขบั เคลอ่ื นความปลอดภยั ในการทำ� งานกอ่ สรา้ ง สำ� หรบั จป.กอ่ สรา้ งนน้ั ถือว่าเป็นงานท่ีต้องใช้ท้ังศาสตร์และศิลป์ควบคู่กัน ความรู้ด้านทฤษฎี ความรู้ทางปฏิบัติที่หน้างาน รวมทั้งความรู้ทางกฎหมายก่อสร้างของ จป.ต้องแน่น รวมถึงศาสตร์อื่นๆ เช่นหลักการพูด หลักการ นำ� เสนองานความปลอดภยั ต่อผบู้ รหิ ารกต็ อ้ งมเี ช่นกัน ในสว่ นของแผนงานดา้ นความปลอดภยั ในการทำ� งานสำ� หรบั งานกอ่ สรา้ งทดี่ ี จป.จะตอ้ งเขยี น ข้ึนมาให้สอดคล้องกับรายการงานก่อสร้างหรือแผนงานก่อสร้าง CM(Construction Management) และใหค้ รอบคลุมงานทุกงาน เพือ่ สามารถน�ำไปส่กู ารปฏบิ ัติไดต้ ามเป้าหมาย ตามวตั ถปุ ระสงค์ของงาน ก่อสรา้ งโดยรวม น่ันก็คือ จป.ต้องท�ำความเข้าใจกับ หลักการพ้ืนฐานในการบริหารงานก่อสร้าง เป้าหมาย ของการบริหารงานก่อสร้าง เช่นด�ำเนินงานก่อสร้างให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด งานมีความถูกต้อง ตามรูปแบบรายการ ตรงตามหลักวิชาการ ควบคุมการใช้ทรัพยากรเวลาอย่างเหมาะสมและประหยัด และที่สำ� คญั เปน็ อยา่ งยิ่ง คือมคี วามปลอดภัยและไมเ่ กิดอบุ ัติเหตุในงานก่อสร้าง แผนงานด้านความปลอดภัยในการท�ำงานเป็นสิ่งที่ส�ำคัญ ต้องมีเพราะกฏหมายบังคับและ ตอ้ งครอบคลมุ ทว่ั ในทกุ สภาพของการปฏบิ ตั งิ าน ตง้ั แตถ่ นนดา้ นหนา้ หรอื ทกุ ๆดา้ นของโครงการกอ่ สรา้ ง หรือแม้แตท่ พ่ี ักของคนงานกค็ วรอยูใ่ นแผน และตอ้ งครอบคลุมพนักงานทุกระดบั เพ่ือที่จะน�ำไปยดึ ถือ และปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบยี บปฏบิ ตั ทิ รี่ ะบใุ นแผนงานความปลอดภยั ฯ เพอื่ ชว่ ยกนั ขบั เคลอ่ื นและสนบั สนนุ มาตรการป้องกนั การเกดิ อุบตั ิเหตแุ ละอุบัติภัยต่าง ๆในงานก่อสร้าง และด้วยงานก่อสร้างเป็นงานที่มีความเสี่ยงสูง มีลักษณะงานท่ีมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อากาศ ฟา้ ฝน เชน่ งานปรบั ดนิ งานฐานราก งานโครงสรา้ ง งานระบบตา่ งๆ และทส่ี ำ� คญั ในงานกอ่ สรา้ ง ยังมีแรงงานนอกระบบ แรงงานต่างด้าวหนึ่งหรือสองสัญชาติ ท่ียังขาดความรู้ในเร่ืองวิธีการปฏิบัติงาน ทถ่ี ูกตอ้ ง วิธปี ฎบิ ตั งิ านทปี่ ลอดภยั 24

การขบั เคลอื่ นความปลอดภัยในการทำ� งาน เก่ยี วกบั งานก่อสรา้ ง ส�ำหรับ จป. ตัวอย่างงานขดุ ความหมายของ “งานก่อสร้าง” หมายถงึ การประกอบการเก่ยี วกับการกอ่ สร้าง สง่ิ กอ่ สรา้ ง ทกุ ชนิด เช่นอาคาร สนามบนิ ทางรถไฟ ทางรถราง ถนน อโุ มงค์ ท่าเรอื อเู่ รอื คานเรือ สะพานเทียบเรอื สะพาน ทางนำ้� ทอ่ ระบายนำ�้ ประปา รว้ั กำ� แพง ประตู ปา้ ยหรอื สง่ิ ทสี่ รา้ งขนึ้ สำ� หรบั ตดิ หรอื ตง้ั ปา้ ยพน้ื ท่ี หรอื สง่ิ กอ่ สรา้ งเพอื่ จอดรถ กลบั รถ และทางเขา้ ออกของรถ และหมายความรวมถงึ การตอ่ เตมิ ซอ่ มแซม ซอ่ มบำ� รุง ดัดแปลง เคลื่อนยา้ ย หรอื การร้ือถอนทำ� ลายส่ิงกอ่ สร้างนัน้ ด้วย ดังนั้น จป.ซึ่งมีส่วนส�ำคัญในการขับเคลื่อนความปลอดภัย ต้องมีและบริหารจัดการ แผนงานความปลอดภัยของงานก่อสร้างออกมาและน�ำไปบังคับใช้หน้างานให้เกิดผลให้ได้ ตั้งแต่ เริ่มงานก่อสร้าง ในข้ันตอนการก่อสร้างท่ีเกิดอุบัติเหตุท่ีพบบ่อย คืองานขุด ซึ่งในแต่ละปีจะมี ผูเ้ สียชีวติ 400 คนและบาดเจ็บกวา่ 4,000 คน อุบัตเิ หตุรุนแรง ถึงขน้ั เสียชวี ิตพบว่ามแี นวโนม้ เพิม่ ขนึ้ ในแต่ละปี โดยกฎกระทรวงก�ำหนดมาตรฐานในการบริหารจัดการและด�ำเนินการด้านความปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการท�ำงาน เกยี่ วกับงานก่อสร้าง พ.ศ. 2564 โดยสรุป จป. ก่อสรา้ ง ตอ้ งน�ำไปขับเคลอื่ นในทางปฏิบตั ใิ หไ้ ด้ ตัวอยา่ งเชน่ 1. นายจ้างจัดให้มีราวกั้นหรือร้ัวกันตก แสงสว่าง และป้ายเตือนอันตราย(Safety Sign)ให้มี สัญญาณไฟสีสม้ หรอื ป้ายสสี ะทอ้ นแสงเตอื นอันตรายตามจดุ 2. บรเิ วณหลมุ บอ่ คู ใหจ้ ดั ใหม้ แี ผน่ โลหะหรอื วสั ดอุ ่นื ที่มีความแข็งแรงเพียงพอปิดคลุม และ ท�ำราวล้อมกน้ั ด้วยไมห้ รือโลหะ (Hard Barricade) 3. การเจาะหรอื ขดุ รู หลมุ บอ่ คู และงานอน่ื ในลกั ษณะเดยี วกนั ทล่ี กึ ตง้ั แต่ 2 เมตรขนึ้ ไป ใหม้ ี 3.1. จัดให้มกี ารคำ� นวณ ออกแบบ และ 3.2. กำ� หนดขน้ั ตอนการดำ� เนนิ การโดยวศิ วกรกอ่ นลงมอื ปฏบิ ตั งิ าน และตอ้ งปฏบิ ตั ิ ตามแบบและขน้ั ตอนดังกล่าว 3.3. ต้องติดต้ังส่ิงปอ้ งกนั ดินพงั ทลาย(Sheet Pile) 4. งานใน หลมุ บอ่ คู และงานอ่ืนในลักษณะเดยี วกันทล่ี ึกตัง้ แต่ ๒ เมตรขนึ้ ไปให้มี 4.1. ทางขน้ึ ลงทสี่ ะดวกและปลอดภยั 4.2. เคร่ืองสบู นำ�้ ท่มี ปี ระสทิ ธิภาพ 4.3. มกี ารระบายอากาศและแสงสว่างทเ่ี พยี งพอและเหมาะสม 25

5. งานขุด เข้าข่ายเป็นงานท่อี บั อากาศคือเปน็ “สภาพอนั ตราย” คือ 5.1. มวี ัตถหุ รอื วัสดุที่อาจก่อใหเ้ กดิ การจมลงของลูกจ้างหรอื ถมทบั ลกู จ้างท่เี ข้าไปทำ� งาน 5.2. มสี ภาพทีอ่ าจทำ� ให้ลูกจา้ งตก ถูกกัก หรอื ตดิ อยูภ่ ายใน 5.3. สภาวะท่ีลกู จ้างมีความเส่ียงทีจ่ ะได้รบั อันตรายจากบรรยากาศอนั ตราย เชน่ ออกซิเจน ตำ่� กวา่ 19.5 หรอื มากกว่า 23.5 ดังนั้นต้องด�ำเนินการตามกฎหมายท่ีอับอากาศด้วย ซึ่ง จป.ก่อสร้างต้องเรียนรู้ ต้องศึกษาเพื่อน�ำไปขับเคล่ือนให้เกิดปฏิบัติจริง เพื่อน�ำความ ปลอดภยั สู่งานก่อสรา้ งของประเทศไทย “Safety Quality and Productivity is everyone’s Responsibility ความปลอดภยั คณุ ภาพและการผลติ เปน็ หนา้ ท่ีของทุกๆคน” “Safety is everyone’s Responsibility ความปลอดภยั เปน็ หนา้ ที่ของทกุ ๆ คน” 26

แEลPะส.ถ1ิตกิ :าอรเนั สตยี รชาีวยิตร้ายแรง จากอุบัติเหตุในงานก่อสร้าง C(MoanjsotrruHcatizoanr)ds and Fatality Statistics in เรียบเรียงโดย นายวุฒินันทน์ ปัทมวิสทุ ธ์ิ •(•ส•ปถอกรกาุะปรนเรรนทรแมาศหมกยไ่งกทากปรยารสสร)ะามเใทขานสาศคพมวไมิศทารผวคะยรู้กตมาใรรสชนรวู่ปงพมจถเเสรสคัมะอรรบภิบม่ือร์ องคม(SากวรคHลาาาAแชมรลูWปปะถว(PลBัมิศAอSภTวดA)์ก)ภ(รวัยรสมแทคล.)วะอามนปาลมอัยดในภัยกาวริศทว�ำกงรารนม สถติ ิอุบัติเหตุในงานก่อสร้างของไทย มากแค่ไหนในแตล่ ะปี ? จากขอ้ มลู สถติ กิ องทนุ เงนิ ทดแทน พบวา่ จำ� นวนอบุ ตั เิ หตทุ เี่ กดิ จากอตุ สาหกรรม กอ่ สร้างจะอยู่ในลำ� ดับทห่ี นึ่งมาตลอดหลายปีทผี่ ่านมา โดยจากสถิตกิ ารประสบอันตราย หรือเจ็บป่วยเนื่องจากการท�ำงาน จ�ำแนกตามความรุนแรงและประเภทกิจการ ปี 2562 พบวา่ มขี อ้ มลู ทนี่ า่ สนใจ โดยมอี บุ ตั เิ หตจุ ากการกอ่ สรา้ งรวมทกุ กรณตี งั้ แตห่ ยดุ งานไมเ่ กนิ 3 วัน หยุดงานเกิน 3 วัน สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ ตาย รวมทั้งหมด 11,599 กรณี คดิ เปน็ 12% จากอุบัติเหตทุ ้ังหมด 94,906 กรณี แตก่ ลบั มีสดั สว่ นผ้เู สยี ชวี ิตจากอบุ ตั เิ หตุ จากการกอ่ สรา้ ง สงู ถงึ 29% คดิ จาก 186 กรณี จากอบุ ตั เิ หตทุ ผี่ ปู้ ระสบเหตเุ สยี ชวี ติ ทง้ั หมด 639 กรณี ในขณะทีข่ อ้ มูลย้อนหลงั ในรอบ 10 ปี ในปี 2552 มอี ุบัติเหตจุ ากการกอ่ สรา้ ง รวมทกุ กรณี รวมทงั้ หมด 15,184 กรณี คดิ เปน็ 10% จากอบุ ตั เิ หตทุ งั้ หมด 149,436 กรณี แต่กลับมีสัดส่วนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจากการก่อสร้าง สูงถึง 16% คิดจาก 95 กรณี จากอุบตั เิ หตุทผี่ ู้ประสบเหตเุ สียชวี ติ ทงั้ หมด 597 กรณี เมื่อเทียบเคียงกับข้อมูลสถิติ อุบัติเหตุร้ายแรงในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ในสหรัฐอเมริกา รวบรวมโดยส�ำนักงานบริหารความปลอดภัยและอาชีวอนามัยแห่งชาติ ประเทศสหรฐั อเมรกิ า (Occupational Safety and Health Administration : OSHA) พบวา่ มรี ายงานการเสยี ชวี ติ ราวหนงึ่ ในหา้ หรอื เกอื บ 20% มาจากงานกอ่ สรา้ ง เชน่ เดยี วกนั ! 27

ประเภทของงานก่อสร้างทกี่ ่อให้เกดิ อันตรายร้ายแรง! จากข้อมูลสถิติการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเน่ืองจากการท�ำงาน จ�ำแนกตามความรุนแรงและประเภทกิจการ ของไทย ปี 2562 พบวา่ ในจำ� นวนผเู้ สยี ชวี ติ จากงานกอ่ สรา้ งทงั้ หมด 186 กรณี พบวา่ มสี ดั สว่ นผเู้ สยี ชวี ติ ในประเภทของงานกอ่ สรา้ งบางประเภทมสี ดั สว่ นคอ่ นขา้ ง สูงต่อเนือ่ งมาตลอดในทกุ ๆ ปี โดยเรียงลำ� ดบั ได้ดงั น้ี 1. การกอ่ สร้างอาคารท่พี ักอาศยั - เสยี ชีวิต 55 กรณี คดิ เปน็ 30% 2. การกอ่ สร้างอาคารท่ไี มใ่ ชท่ ่พี กั อาศัย - เสียชวี ิต 37 กรณี คิดเป็น 20% 3. การก่อสรา้ งถนน สะพาน และอุโมงค์ - เสยี ชีวิต 34 กรณี คดิ เปน็ 18% 4. การกอ่ สรา้ งโครงการสาธารณปู โภคเกี่ยวกับสายส่งไฟฟ้ากำ� ลงั และสายสัญญาณสื่อสาร - เสียชวี ติ 18 กรณี คิดเปน็ 10% 5. การตดิ ตั้งไฟฟา้ - เสยี ชีวิต 19 กรณี คิดเปน็ 10% 6. งานก่อสร้าง ประเภทอน่ื ๆ - เสียชวี ิต 23 กรณี คิดเปน็ 12% 28

จากข้อมูลข้างต้น พบว่า การเสียชีวิตเกิดข้ึนในงานก่อสร้างอาคาร (ที่พักอาศัยและไม่ใช่ที่พักอาศัย) สูงถึง 50% ของผู้เสียชีวิตจาก การก่อสร้างท้ังหมดในแต่ละปี ตามมาด้วยงานก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ (ถนน สะพาน และอุโมงค์ สายส่งไฟฟ้าก�ำลังและ สายสัญญาณสื่อสาร) ท่ีมีผู้เสียชีวิตถึงเกือบ 30% นอกจากน้ีในส่วนของงานติดตั้งทางไฟฟ้าในงานก่อสร้างยังมีสัดส่วนผู้เสียชีวิตมากถึง 10% ทีเดยี ว จะเห็นได้วา่ ประเภทของงาน 5 ลำ� ดับแรกมีสดั สว่ นผ้เู สียชีวติ รวมมากถึง 88% เลยทเี ดยี ว เม่ือเทียบเคียงกับข้อมูลจากรวมรวมข้อมูลสถิติในสหรัฐอเมริกา โดย OSHA พบว่ากิจกรรมท่ีก่อให้เกิดการเสียชีวิตในแต่ละประเภท และลักษณะงาน ได้ดังนี้ • งานกอ่ สรา้ งเฉพาะทาง เช่น ฐานราก โครงสร้าง คอนกรีต - 48% • งานวศิ วกรรมโยธาและเครื่องจักรกลหนัก (งานสะพาน ถนน สาธารณปู โภค รางระบายนำ�้ ) - 17% • งานกอ่ สรา้ งอาคาร บา้ น งานปรับปรุงอาคาร - 16% • งานระบบไฟฟา้ ประปา ปรับอากาศและระบายอากาศ - 12% • งานตกแต่งอาคาร (ผนงั ตกแต่งอาคาร สี พื้น) - 7% จากขอ้ มูลข้างต้น จะเห็นได้ว่า งานกอ่ สรา้ งยังเป็นงานที่มีความเส่ยี งในการก่อใหเ้ กิดอันตรายร้ายแรงได้ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งในประเภทของงานก่อสร้างที่มีการใช้แรงงานจ�ำนวนมาก มีการใช้เครื่องจักรกลหนักและเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ มีการท�ำงานในพ้ืนท่ีที่มี ความเสย่ี งทงั้ จากการตกจากทสี่ งู ดนิ ถลม่ ไฟฟา้ รวมทง้ั พน้ื ทกี่ ารทำ� งานทไ่ี มป่ ลอดภยั เนอ่ื งจากงานกอ่ สรา้ งจดั เปน็ งานทมี่ กี ารเปลยี่ นแปลงของ สภาพพ้ืนท่ี ผู้ปฏิบัติงานที่หลากหลาย สภาพของเคร่ืองมือ/เครื่องมือกลที่ใช้ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ผสมผสานท�ำให้มีความเส่ียง และโอกาสในการเกิดอนั ตรายรา้ ยแรงทีส่ งู โดยในส่วนของมาตรการด้านความปลอดภัยในการท�ำงานเกี่ยวกับงานก่อสร้างนั้น จะมีกฎกระทรวงก�ำหนดมาตรฐานในการ บริหารจัดการและการด�ำเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการท�ำงานเก่ียวกับงานก่อสร้าง พ.ศ. 2564 เป็นกฎหมายหลักท่ีมีข้อก�ำหนดมาตรการด้านความปลอดภัยในการท�ำงานครอบคลุมแทบทุกด้านในงานก่อสร้าง ซ่ึงนอกจากนี้ ยังมีกฎหมาย ท่ีเก่ียวข้องอีกหลายฉบับ เช่น พ.ร.บ.อาคาร 2522 ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เทศบัญญัติจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นท่ีน่ายินดี ท่ีจะมีการปรับปรุงกฎหมายด้านความปลอดภัยหลายๆ ฉบับที่มีความเข้มข้นมากข้ึน และจะทยอยออกมาจากภาครัฐอย่างต่อเน่ือง เช่น กฎกระทรวงก่อสรา้ งฉบบั ใหม่ กฎกระทรวงท่ีสงู และนั่งรา้ นฉบบั ใหม่ กฎกระทรวงเคร่อื งจกั รฉบับใหม่ และอกี หลายฉบบั ดังน้ัน ทางภาครัฐและภาคเอกชนท่ีท�ำงานที่เกี่ยวข้องในงานก่อสร้างควรต้องให้ความส�ำคัญท้ังในข้อกฎหมาย มาตรฐานการท�ำงาน การวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยง รวมทั้งบุคลากรด้านความปลอดภัย การตรวจสอบสภาพการท�ำงาน สภาพเครื่องมือ เครื่องจักรกล และ มาตรการด้านความปลอดภัยท่ีเขม้ งวด เพอื่ ให้ความเสย่ี งจากอนั ตรายในงานกอ่ สรา้ งท่อี าจมคี วามรุนแรงถึงชวี ิต มีจำ� นวนลดลงเรือ่ ย ๆ จนไปสู่ วัฒนธรรมความปลอดภัยในการทำ� งานที่มคี วามยั่งยืน References: ก�ำ••••••หhhhhhhนtttttttดtttttppppppเsผsssss::/:ย::://////แ////w/wwwพwwwwรwwwwwท่ wwwwwา.e...ง..oossshsssssสsooohhสt.o.a.agปgg.d.oooggทao.o...tttyvhvhh./c////dPwowwaumppptbrarr//l//c/iaaaccosssaonssstmeeseiottttrmsnssu///scuouu/tpn3ppio2lslloonot1aaa/a6taddd-sr6///tffNificiilll-leee0esss6/___2-ssse1tttn9ooo1grrrala6aigsg2gheee4/-//50sss/ss6sfooao-2t___a7tttlhhh--2f///o0b01u007er79ec-.sa2eha212tf7fm8ed71tfly949-74i2n12d-8dt4hb5aed1c-405c38codban679s2t98r1dcu81dc5bt6i05od97n518-ci4an5398da6ducb4s45td9r1y606-7fi7n..pp.fpodddgffrfaphic NOTE: 29

การป้องกันการตกจากที่สูง ส�ำหรับงานประกอบและการรื้อ โครงสร้างน่ังร้าน ในงานก่อสร้าง ลักษณะของงานก่อสร้างส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยการ บทความโดย สภุ กณิ ห์ แสงชนนิ ทร์ ทำ� งานบนทส่ี งู และงานใตด้ นิ ทม่ี รี ะดบั ชน้ั ความลกึ ตา่ งๆ ซงึ่ งานเหลา่ น้ี จ�ำเป็นต้องใช้นั่งร้านในการก่อสร้างเพ่ือให้งานแล้วเสร็จ ผู้ปฏิบัติงาน แวผิศวนกกรผผลู ้เิตช่ีภยัณวชฑา์ญเพ่ืดอ้าคนวเาทมคปนลิคอดแภลัยะวสิท่วยนาบกุ ครคล ชา่ ง หวั หนา้ งาน ตลอดจนวศิ วกรทที่ ำ� งานดา้ นการกอ่ สรา้ ง จงึ ไมส่ ามารถ ศูนย์ฝึ กอบรมความปลอดภัย 3เอ็ม ประเทศไทย หลีกเล่ียงการท�ำงานบนที่สูงโดยไม่ใช้นั่งร้าน ด้วยเหตุนี้ เราจึงควร บริษัท 3เอ็ม ประเทศไทย จ�ำกัด มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับงานน่ังร้านให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดความ ปลอดภัยและลดความเส่ียงจากการตกจากท่สี ูงในขณะปฏิบตั งิ านได้ ดังน้ัน ช่างนั่งร้าน (Scaffolder) ซ่ึงท�ำหน้าท่ีประกอบและ อันตรายจากงานน่ังร้าน มักจะพบเสมอในพ้ืนที่การก่อสร้าง รื้อถอนนั่งร้าน และเป็นผู้มีความเสี่ยงสูงสุดในการได้รับบาดเจ็บจาก ตงั้ แตเ่ รม่ิ ตน้ จนสน้ิ สดุ โครงการ กลา่ วคอื เมอ่ื เรม่ิ ทำ� งานทม่ี รี ะดบั ความสงู งานนงั่ รา้ น จงึ จำ� เปน็ ตอ้ งคำ� นงึ ถงึ “วธิ กี ารสรา้ งพน้ื ทที่ ำ� งานทป่ี ลอดภยั มากข้ึนจะต้องมีการสร้างนั่งร้าน และค้�ำยันจนครอบคลุมสิ่งก่อสร้าง (Scaffolder’s Safe Zone) ในขณะท�ำการประกอบและการร้ือ ท้ังหมด แล้วจึงเร่ิมท�ำงานตกแต่งภายในและภายนอกของส่ิงก่อสร้าง โครงสรา้ งนงั่ ร้าน” อยา่ งเคร่งครดั การตกแต่งภายนอกต้องประกอบนั่งร้านจากชั้นล่างสุดจนกระทั่งถึง วิธีการสร้างพ้ืนที่ท�ำงานท่ีปลอดภัยในขณะท�ำการประกอบ ช้ันบนสุด ถ้าโครงสร้างอาคารมีความสูงมาก ในบางครั้งอาจจะใช้ และรื้อโครงสรา้ งนั่งร้าน ประกอบด้วยขัน้ ตอนดังตอ่ ไปนี้ นง่ั รา้ นชนดิ แขวนเขา้ มาชว่ ย เพอ่ื ใหร้ ะยะเวลาในการประกอบรวดเรว็ ขน้ึ 1. การวางแผน ในการวางแผ่นกระดานให้เต็มช้ันท�ำงาน และลดขนาดของโครงสร้างนั่งร้านลง โดยสว่ นมากจะพบเหน็ อันตราย พรอ้ มกบั ติดต้ังราวกันตก จากงานน่ังร้านท่มี กั เกดิ ขึ้นไดแ้ ก่ • ผูป้ ฎบิ ตั ิงานสะดุดหกลม้ • วัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือตกลงเบ้ืองล่าง เป็นอันตรายต่อ ผู้ปฏบิ ตั ิงานทอี่ ยดู่ า้ นลา่ งและบรเิ วณใกลเ้ คยี ง • จดุ คลอ้ งเก่ียวไม่เหมาะสม ทำ� ใหไ้ มส่ ามารถรับแรงกระชาก จากการตกจากทส่ี งู ได้ หรอื เกดิ การเหวย่ี งผปู้ ฎบิ ตั งิ าน (Swing fall) ไป กระแทกกบั โครงสร้างด้านข้าง • ผู้ปฎิบัติงานตกจากนั่งร้านขณะท�ำการประกอบหรือรื้อ โครงสรา้ งนง่ั รา้ น แลว้ กระแทกกบั พน้ื หรอื สง่ิ กดี ขวางเบอื้ งลา่ งเนอ่ื งจาก มรี ะยะตกทปี่ ลอดภัยไม่เพียงพอ • โครงสร้างนั่งร้านพังทลายขณะใช้งานเน่ืองจากช่างนั่งร้าน ขาดความรู้ ทำ� ใหโ้ ครงสร้างไม่เป็นไปตามมาตราฐาน 30

จากรปู ภาพดา้ นบน คอื การสรา้ งพน้ื ทท่ี ำ� งานทป่ี ลอดภยั ขณะ อุปกรณ์ดังกล่าว คือ สายช่วยชีวิตส่วนบุคคลชนิดดึงกลับ ติดต้ังน่ังร้าน ควรพิจารณาใช้แผ่นกระดานปูจนเต็มชั้นท�ำงาน เพื่อใช้ อตั โนมัติ หรอื Personal Self Retracting Lanyard (P-SRL) ซึ่งเปน็ เป็นพ้ืนท่ีท�ำงานของผู้ปฏิบัติงาน แผ่นกระดานท่ีใช้ควรมีลักษณะท่ี สายช่วยชีวิตประเภทหน่ึง ประกอบด้วยแถบโพลีเอสเตอร์หรือสาย สมบรู ณ์และมคี วามแข็งแรง เชน่ แผ่นกระดานแบบไม้ ควรเปน็ ไปตาม เคเบิลม้วนเก็บอยู่ในส่วนหุ้ม (Housing) ขณะใช้งานปลายด้านหน่ึง มาตรฐาน BS2482 และแผ่นกระดานควรล็อคเข้ากับคานรับ (Tran- ซึ่งเป็นตะขอจะเก่ียวคล้องไว้กับจุดเกี่ยวยึดซ่ึงอาจเป็นโครงสร้างของ som) โดยใช้ตัวล็อคแผ่นกระดาน เป็นต้น นอกจากน้ี ต้องติดต้ังราว นั่งร้าน แถบหรือเคเบิลจะถูกดึงออกมาตามระยะทางที่ผู้ปฏิบัติงาน กนั ตก (Guardrail) สำ� หรบั ปอ้ งกนั ไมใ่ หผ้ ปู้ ฏบิ ตั งิ านพลดั ตกลงมาขณะ เคลื่อนท่ีไป และจะถูกม้วนเก็บโดยอาศัยกลไกท่ีอยู่ในส่วนห่อหุ้มเมื่อ ทำ� งาน และตอ้ งมคี วามสงู จากพนื้ กระดานอยา่ งนอ้ ย 95 มลิ ลเิ มตร ตาม ผู้ปฏิบตั งิ านเคลอ่ื นท่กี ลบั มาใกลจ้ ุดเก่ยี วยดึ หากผ้ปู ฏบิ ัตงิ านพลาดตก มาตรฐาน NASC - TG20 & SG4 จากน่ังร้าน แรงที่เกิดจากการเปลี่ยนท่าทางอย่างกระทันหันจะท�ำให้ 2. การเลอื กจดุ คลอ้ งเกยี่ วทถ่ี กู ตอ้ ง สำ� หรบั อปุ กรณย์ บั ยง้ั การตก กลไกในส่วนห่อหุ้มท�ำงาน ล็อคแถบหรือสายเคเบิลไม่ให้ถูกดึงออกมา ส่วนบคุ คล (Personal Fall Arrest System, PFAS.) ในขณะทำ� งาน ผู้ปฏบิ ตั ิงานจงึ ถูกรงั้ ไม่ใหต้ กสพู่ ืน้ เบอ้ื งลา่ งด้วยระยะตกท่สี นั้ ทสี่ ุด ระยะตกทป่ี ลอดภยั เมอ่ื ใชส้ ายชว่ ยชวี ติ สว่ นบคุ คลชนดิ ดงึ กลบั อัตโนมัติค�ำนวณจากระยะการล๊อคอัตโนมัติไม่เกิน 1.4 เมตร บวกค่า ความปลอดภัย 0.6 เมตร เท่ากับ 2 เมตร โดยวัดระยะจากระดบั เทา้ ที่ ยืนท�ำงานจนถึงพื้นหรือส่ิงกีดขวาง ซึ่งจะช่วยให้ ช่างน่ังร้านท�ำงานได้ อยา่ งปลอดภยั ทรี่ ะดับความสูงของนงั่ ร้านไม่เกิน 6 เมตร ช่างนั่งร้าน จะต้องมีพื้นฐานความรู้ท่ีถูกต้องและมีทักษะ ในเรื่องการสร้างพ้ืนที่ท�ำงานท่ีปลอดภัย(Scaffolder’s Safe Zone) ในขณะท�ำการประกอบและการร้ือโครงสร้างน่ังร้าน โดยควรผ่านการ ฝึกอบรมท่ีเก่ียวข้องกับการท�ำงานบนที่สูง และ การประกอบและ รื้อถอนนั่งร้านจากหน่วยงานฝึกอบรมโดยวิทยากรและศูนย์ฝึกอบรม ท่ีมีความน่าเช่ือถือและมีการจัดการอบรมตามมาตรฐานสากล ตัวอยา่ งหลกั สูตรการฝึกอบรม เชน่ 1. Working at Height for Authorized Person Training ขณะปฏิบัติงานบนน่ังร้าน ผู้ปฏิบัติงานต้องสวมใส่อุปกรณ์ Course คอื หลกั สตู รการฝกึ อบรมการปฏบิ ตั งิ านบนทสี่ งู สำ� หรบั ผปู้ ฏบิ ตั ิ ยับย้ังการตกส่วนบุคคล ได้แก่ สายรัดนิรภัยชนิดเต็มตัว (Full Body งาน โดยมีเน้ือหาสอดคล้องกับมาตรฐาน ANSI Z359.2 และ OSHA Harness) และเชือกนิรภัย (Lanyard) เป็นอย่างน้อย โดยคล้องเก่ียว 1926.503 ตะขอ (Hook) ของเชือกนิรภัยไว้กับโครงสร้างน่ังร้านโดยตรงหรือ 2. Basic – Safe Erection & Dismantle of Scaffold คล้องเก่ียวกับอุปกรณ์ยึดเก่ียว (Anchor Device) ท่ีสร้างขึ้น ซึ่งการ Structure Training Course เลอื กจดุ คล้องเกี่ยวท่ถี ูกตอ้ งและเหมาะสม ควรพิจารณาจาก ตวั อย่าง (Reference to NASC - TG20 & SG4) จดุ คล้องเกย่ี วทเ่ี หมาะสมและไมเ่ หมาะสม ตามรปู ภาพแสดงดา้ นบน คอื หลกั สตู รการฝกึ อบรม พน้ื ฐานการประกอบและการรอ้ื โครงสรา้ งนงั่ 3. การเลอื กใชอ้ ปุ กรณย์ บั ยง้ั การตกสว่ นบคุ คลชนดิ พเิ ศษเพอ่ื รา้ น โดยใชห้ ลกั การของ Scaffolder’s Safe Zone ตามขอ้ กำ� หนดของ ใหส้ ามารถลดระยะการตกใหส้ ้ันที่สดุ ในขณะทำ� การประกอบและการ NASC – TG20 & SG4 รื้อโครงสร้างน่ังรา้ น 31

การบรหิ ารความเส่ียง โครงการก่อสร้าง เพอ่ื ความปลอดภยั อยา่ งยั่งยนื ชลาธิป อนิ ทรมารุต ผู้จัดการฝ่ ายอาชีวอนามัย และความปลอดภัย บริษัท อาร์ทีเลีย คอร์เนอร์สโตน จํากัด หลายๆ บริษทั ท่ีไม่ใหค้ วามสำ� คญั กับการบรหิ ารจัดการดา้ น ความปลอดภยั เมือ่ เกดิ อุบตั เิ หตุทีร่ ้ายแรงขนึ้ กม็ ักจะไดร้ ับผลกระทบ และความเสียหายตามมาอีกมากมาย จนท�ำให้หลายๆ บริษัทต้อง ปิดตัวลง พร้อมๆ กับหนี้สิน และหมดความน่าเชื่อถือ หากพยายาม ท่ีจะฟื้นตัวกลับมาด�ำเนินธุรกิจอีกครั้ง ท้ังนี้ยังไม่รวมถึงความสูญเสีย ของทรัพยากรบคุ คล ทตี่ อ้ งบาดเจ็บ พกิ าร หรือเสียชีวติ ซ่ึงเปน็ ความ สูญเสียที่ไม่อาจทดแทน หรือกู้คืนกลับมาได้ไม่ว่าด้วยวิธีใด หรือ ใช้เงนิ มากแค่ไหนกไ็ มอ่ าจทดแทนกนั ได้เลย แตถ่ า้ เรามาพจิ ารณาบรษิ ทั รบั เหมากอ่ สรา้ ง ทเ่ี ปน็ ทร่ี จู้ กั ระดบั ประเทศ ทีม่ อี ายุและอยู่ในวงการกอ่ สร้างมายาวนาน และมงี านใหท้ ำ� อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง หรอื แมแ้ ตบ่ รษิ ทั เลก็ ๆ ทมี่ ลี กู คา้ ไวใ้ จ และจา้ งงานตลอด ก็ล้วนแต่มีการลงทุนด้านความปลอดภัยท้ังส้ิน ซึ่งในบทความน้ี ผมในฐานะทอี่ ยใู่ นวงการกอ่ สรา้ งตงั้ แตเ่ รยี นจบ และไดท้ ำ� งานกบั หลาย บริษัท หลายเช้ือชาติ ตลอดจนประสบการณ์การตรวจสอบบริษัท รบั เหมากอ่ สรา้ งอกี หลายสบิ บรษิ ทั จงึ ไดเ้ หน็ วธิ กี ารทำ� งาน การบรหิ าร จัดการ และการคัดเลอื กบคุ ลากรด้านความปลอดภยั ของแตล่ ะบริษัท จึงได้ทราบเคล็ดลับ และกลยุทธต่างๆ ที่ส่งผลให้บางบริษัทล้มเหลว จนตอ้ งปดิ กจิ การ กบั อกี หลายบรษิ ทั ทเ่ี จรญิ กา้ วหนา้ และเตบิ โตขน้ึ เรอื่ ยๆ ในวงการกอ่ สรา้ ง ผมจะเอาเทคนคิ วธิ กี ารเหลา่ นนั้ มาเลา่ ใหฟ้ งั เพอื่ ให้ 32

ทกุ ทา่ นนำ� ไปปรบั ใชภ้ ายในองคก์ ร เพราะผมเชอ่ื อยา่ งหนงึ่ วา่ การเรยี นรจู้ ากผปู้ ระสบความสำ� เรจ็ แลว้ นำ� มาใช้ พรอ้ มๆกบั นำ� บทเรยี นจากผลู้ ม้ เหลว มาปอ้ งกนั ยอ่ มทำ� ใหอ้ งคก์ รเตบิ โตอยา่ งรวดเรว็ โดยทไี่ มต่ อ้ งไปเสยี เวลาและความเสย่ี งไปลองผดิ ลองถกู ดว้ ยตวั เอง โดยผมขอเสนอแนะแนวทาง ดงั นี้ 1. การคัดเลือกบุคลากรให้เหมาะสมตามทักษะ 2. การจดั สรรงบประมาณด้านความปลอดภยั ความรคู้ วามสามารถ โดยท่ัวไปการลงทุนด้านความปลอดภัยส�ำหรับ ทรัพยากรบุคคล ถือเป็นส่ิงท่ีส�ำคัญที่สุดในการ โครงการก่อสร้าง ควรอยู่ที่ 3-7% เป็นอย่างน้อยของ ก�ำหนดความส�ำเร็จของโครงการก่อสร้าง ดังน้ัน จึงต้อง มูลค่างาน ข้ึนอยู่กับขนาดของโครงการ โดยงบประมาณ มีการก�ำหนดหน้าท่ีความรับผิดชอบ รวมถึงทักษะความรู้ ท่ีใช้จะจดั ไว้สำ� หรบั และประสบการณ์ตามต�ำแหน่งหน้าที่งาน หรือที่เรียกกัน 2.1) คา่ จา้ งสำ� หรบั บคุ ลากรดา้ นความปลอดภยั / วา่ Competence ตัวอยา่ งเช่น ช่างไฟฟา้ ก็ต้องเรยี นจบ เจ้าหนา้ ทีค่ วามปลอดภัย ด้านไฟฟ้า หรือผ่านการอบรมที่มีใบรับรองความรู้ มีการ 2.2) การจัดไซต์งานเพือ่ ความปลอดภัย เชน่ การ สัมภาษณ์ มีการทดสอบ เข้าใจลักษณะและขั้นตอนการ กนั้ ร้ัว การติดป้ายเตือน และสาธารณูปโภคท่ีจำ� เป็น ทำ� งาน สามารถระบอุ นั ตรายทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ ในแตล่ ะ่ ขนั้ ตอน 2.3) คา่ ใชจ้ า่ ยในการจดั ฝกึ อบรม และจดั กจิ กรรม หรือจากการใช้อุปกรณ์ท่ีไม่เหมาะสม และสามารถเสนอ ต่างๆด้านความปลอดภยั แนะวิธีการท�ำงานท่ีถูกต้อง และปลอดภัยมากข้ึนได้ จึง 2.4) อุปกรณ์ความปลอดภัย (เชน่ เครือ่ งวัดก๊าซ จะเรยี กได้ว่าเปน็ ผูท้ มี่ ี Competence ตรงตามท่ีตอ้ งการ นั่งร้าน) อุปกรณ์ป้องกันอันตราย (เช่น PPE, ถังดับเพลิง, ตัวดูดซับสารเคมี) อุปกรณ์ฉุกเฉิน อุปกรณ์ปฐมพยาบาล และช่วยชีวติ 2.5) การให้รางวัล 3. การบริหารโครงการก่อสรา้ ง 3.1) การจดั องคก์ รสำ� หรับไซต์กอ่ สร้าง (Construction Site Organization Chart) การจัดองค์กรส�ำหรับโครงการก่อสร้าง เพื่อความสะดวกในการบริหารโครงการ การปฏิบัติงาน และการส่ือสารมักจะประกอบด้วยบุคลากร ดงั ต่อไปน้ี 3.1.1) ผจู้ ดั การโครงการ (Project Manager) ตำ� แหนง่ นจ้ี ะเปน็ ตำ� แหนง่ ทส่ี ำ� คญั ทส่ี ดุ สำ� หรบั โครงการกอ่ สรา้ ง ในการตดั สนิ ใจ และการด�ำเนินการทุกอย่าง จึงจ�ำเป็นอย่างมากท่ีจะต้องเลือกคนที่มีความรู้ และผ่านประสบการณ์ในการบริหารโครงการก่อสร้างมาก่อน และต้องเป็นผู้ท่ีมีจิตส�ำนึกท่ีดีในด้านความปลอดภัยในการท�ำงานด้วย จึงจะท�ำให้โครงการนั้นๆ จบโดยท่ีไม่มีอุบัติเหตุหรือความสูญเสียเกิดขึ้น ระหวา่ งการกอ่ สรา้ ง 33

3.1.2) ผู้จัดการไซต์งาน (Site Manager) / วิศวกรประจ�ำไซต์งาน (Site Engineer) / ผู้จัดการก่อสร้าง (Construction Manager) เปน็ ตำ� แหนง่ ทจี่ ะตอ้ งอยปู่ ระจำ� ไซตง์ าน (ซง่ึ ตา่ งกบั ผจู้ ดั การโครงการทไี่ มจ่ ำ� เปน็ จะตอ้ งอยหู่ นา้ งานทกุ วนั ) มหี นา้ ทปี่ ฏบิ ตั แิ ละควบคมุ การท�ำงานให้เป็นไปตามแบบ ตามคุณภาพ และขั้นตอนตามที่ผู้จัดการโครงการเป็นผู้ก�ำหนด รวมถึงการติดตามผลความคืบหน้าของงาน และรายงานผลใหผ้ จู้ ดั การโครงการทราบเพอื่ การตดั สนิ ใจสงั่ การและแกป้ ญั หาตา่ งๆโดยทว้ั ไปตำ� แหนง่ น้ีมกั จะเปน็ วศิ วกรหรอื ชา่ งทมี่ ปี ระสบการณส์ งู เพ่ือฝึกทักษะความรู้ และประสบการณ์เพอ่ื เตบิ โตขนึ้ ไปเปน็ ผูจ้ ัดการโครงการ (Project Manager) 3.1.3) เจา้ หน้าท่ีความปลอดภยั (Safety Officer) อาจมไี ด้ตั้งแตร่ ะดบั ผู้จดั การ หวั หน้างาน หรือระดับเทคนคิ โดยท�ำหนา้ ท่ี ตามที่กฏหมายก�ำหนด เพอ่ื ควบคุม ดแู ล การท�ำงานให้ปลอดภัย อบรมใหค้ วามรู้ ตรวจสอบอุปกรณท์ ี่ใชใ้ นการทำ� งานให้ปลอดภยั การรวบรวม ข้อมูลทางสถิติ การรายงาน และสอบสวนเม่ือเกิดอุบัติเหตุ การเสนอแนะแนวทางแก้ไขเพื่อลดความเสี่ยง ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ ท้ังตาม กฏหมาย และตามแผนงาน / นโยบายด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยขององคก์ ร 3.1.4) วศิ วกรไฟฟา้ (Electrical Engineer) ทำ� หนา้ ทคี่ วบคมุ และตรวจสอบระบบ และอปุ กรณไ์ ฟฟา้ และการเชอื่ มตอ่ ระบบ ไฟฟ้าของท้งั โครงการ จึงจำ� เปน็ อยา่ งมากทีจ่ ะต้องเป็นวิศวกรไฟฟา้ ท่ีมีทง้ั ความรู้ ความช�ำนาญ และเชย่ี วชาญทางด้านระบบไฟฟา้ 3.1.5) ผู้ควบคุมคุณภาพ และรับประกันผลงาน (Quality Control & Assurance) ท�ำหน้าที่ควบคุมคุณภาพของงาน ให้เป็นไปตามแบบก่อสร้าง และตามหลักวิศวกรรม รวมถึงควบคุมให้ท�ำงานตามขั้นตอนที่ก�ำหนดไว้ และมีเอกสารที่เป็นหลักฐานประกอบ การทำ� งาน การสง่ มอบงาน และการรบั ประกันผลงาน 3.1.6) บัญชีการเงิน และจดั ซอื้ (Financial & Procurement) ตำ� แหนง่ น้ีอาจไม่จ�ำเปน็ ต้องนง่ั ประจ�ำอยูท่ ี่ไซตง์ าน แตอ่ าจ น่ังประจ�ำอยู่ที่ส�ำนักงานใหญ่ และลงมาตรวจสอบเอกสารทางบัญชีที่ไซต์งานบ้างเป็นคร้ังคราว ท�ำหน้าท่ีควบคุมบัญชี และการเบิกจ่ายเงินให้ เปน็ ไปตามระบบ และข้ันตอนทกี่ �ำหนด รวมถงึ อ�ำนาจในการตอ่ รองกบั ซพั พลายเออรใ์ นการซอ้ื สินค้า วสั ดุกอ่ สรา้ ง หรือการเชา่ เครอ่ื งจักรตา่ งๆ 3.1.7) ธรุ การท่วั ไป (Admin) มกั จะประจ�ำอย่ทู ีไ่ ซตง์ านทำ� หน้าท่ีท่ีเก่ยี วกับเอกสาร ระบบงานบุคคล งานธุรการทวั่ ไปต่างๆ การรวบรวมขอ้ มูล พมิ พ์ การจดั เก็บใสแ่ ฟ้ม หรือหน้าท่ีอื่นๆ ตามท่ไี ดร้ บั มอบหมายจากผู้จดั การโครงการ ***นอกจากนี้ หากเป็นโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ อาจมีบุคลากรจ�ำนวนมาก และมีต�ำแหน่งอื่นๆ ท่ีจ�ำเป็นเพ่ิมขึ้นอีก อยา่ งเชน่ Scheduler (ทำ� หนา้ ทตี่ รวจเชค็ และควบคมุ ความกา้ วหนา้ ของงานใหเ้ ปน็ ไปตามระยะเวลาทก่ี ำ� หนดไวใ้ นแผนงานกอ่ สรา้ ง), Document Control (ท�ำหน้าท่ีควบคุมเอกสารต่างๆ ของโครงการให้เป็นไปตามระบบ ตามขั้นตอนท่ีได้ก�ำหนดไว้) HR (หากเป็น โครงการกอ่ สรา้ งใหญๆ่ ทีม่ ีคนจำ� นวนมาก กอ็ าจมผี ูท้ ีท่ �ำหนา้ ทีง่ านบคุ คล มาประจำ� อย่ทู ่ไี ซต์งานกไ็ ดเ้ ช่นกนั ) 3.2) การก�ำหนดแผนความปลอดภยั ในโครงการกอ่ สรา้ ง (Construction Safety Plan) กอ่ นเริม่ งานก่อสรา้ ง ผู้รบั เหมาจะต้องจัดทำ� แผนงานความปลอดภัย (Safety Plan) หรอื บางโครงการอาจเรยี กวา่ แผนทบทวนความพรอ้ มก่อน เร่มิ โครงการก่อสร้าง (CRR : Construction Readiness Review) ซงึ่ ในแผนดังกล่าวนีจ้ �ำประกอบไปดว้ ย 3.2.1) ข้อมลู ท่ัวไปของโครงการ และขอบเขตการท�ำงาน (Scope of work) 3.2.2) แผนผงั โครงสร้างองคก์ รส�ำหรับโครงการก่อสรา้ ง และหน้าทคี่ วามรบั ผดิ ชอบของแต่ละต�ำแหนง่ 3.2.3) แผนผังไซต์งาน (Layout) การก้นั รว้ั การแบ่งโซน การติดปา้ ยเตือน และการก�ำหนดสาธารณปู โภคตา่ งๆในไซตง์ าน 3.2.4) กจิ กรรมที่มคี วามเส่ียงสงู และมาตรการท่ีใช้ในการควบคมุ (รวมถงึ แผนงานขดุ ดนิ และแผนงานยกวัตถุดว้ ยเครน) 3.2.5) นโยบาย กฏข้อบงั คบั และเปา้ หมายดา้ นความปลอดภัย 3.2.6) รายการสารเคมี เครื่องจักร และอปุ กรณท์ ี่ใช้ 3.2.7) ขัน้ ตอนการรายงาน และการปฏบิ ัตเิ มอ่ื เกดิ เหตุฉุกเฉนิ และเบอรโ์ ทรตดิ ตอ่ ท่สี �ำคญั 3.2.8) เอกสาร แบบฟอรม์ การรายงาน การประชมุ และขั้นตอนต่างๆ ทใี่ ชส้ �ำหรบั โครงการ ประโยชน์ของการทำ� แผนความปลอดภยั ในโครงการกอ่ สรา้ ง (Construction Safety Plan) • เพือ่ วางแผน วเิ คราะหง์ าน และพจิ ารณาความเสยี่ งกอ่ นเริ่มงาน • เพ่อื ลดความผดิ พลาด และลดระยะเวลาจากการทำ� งาน • เพอ่ื ก�ำหนดหน้าที่ความรบั ผดิ ชอบ ขัน้ ตอนการท�ำงาน • เพื่อให้ทราบหน้าที่ความรับผดิ ชอบ และการตดิ ตอ่ ส่ือสาร • เพื่อควบคุมคา่ ใชจ้ ่าย ให้อยใู่ นงบทก่ี �ำหนด 34

4. การจดั การและควบคมุ ความเสย่ี ง 4.1) งานความเสี่ยงในไซต์งานก่อสร้าง (High Risk Activities in Construction Site) โดยผมขอสรุปกิจกรรมในงาน ก่อสรา้ งท่ีมคี วามเสีย่ งสงู ซึง่ พบได้ในงานก่อสรา้ งท่วั ไปและเป็นสาเหตุให้เกิดการเสยี ชวี ติ หรอื การบาดเจบ็ ทร่ี นุ แรง ดงั นี้ 4.1.1) อันตรายจากงานขดุ หลุมลกึ (Excavation Hazard) อันตราย / การป้องกัน - ดินถล่มทับคนทท่ี ำ� งานอยูใ่ นหลมุ ลึก ใช้ชีทไพล์ปอ้ งกันดินถล่ม ขุดดนิ ลาดเอียง (Cut slope) - ทแี่ คบ ลกึ เขา้ ออก ข้ึนลง ลำ� บาก ใช้บนั ไดข้นึ ลงชนดิ มีขน้ั บนั ได มรี าวจบั และถ้าหลุมลกึ มากก็ต้องท�ำชานพกั - ขุดไปโดนท่อไฟฟ้า ท่อน้�ำมัน หรือระบบท่อและสายสัญญาณต่างๆ ท่ีอยู่ใต้ดินขาด เสียหาย ตรวจสอบแบบ As-Built drawing ก่อนเร่ิมขุดเพ่ือตรวจสอบว่ามีระบบท่อหรือสายสัญญาณอยู่ใต้ดินหรือไม่ ใช้เครื่องสแกนวัตถุใต้ดิน หรือใช้ คนขดุ ดนิ ในบริเวณท่ีอาจมีทอ่ และระบบสายสญั ญาณใต้ดินแทนการใชเ้ ครอ่ื งจักร - น้ำ� ใตด้ ินปรมิ าณมาก จดั เตรียมเคร่อื งสบู นำ้� ให้เพยี งพอทั้งปรมิ าณ และกำ� ลงั ของเคร่อื ง 4.1.2) อันตรายจากการเข้าพ้นื ทอ่ี ับอากาศ (Confined Space Entry Hazard) อันตราย / การป้องกนั - เปน็ ลมหมดสติ ขาดอากาศหายใจ หรอื มีแกซ๊ พิษในพ้ืนทีท่ ำ� งาน ทำ� การวดั แก๊ซด้วยเครือ่ งวัดท่ีเหมาะสมก่อน อนญุ าตให้ผ้ปู ฏบิ ัติงานเขา้ พ้ืนท่ี และการจัดการระบายอากาศอย่างเหมาะสม เช่น การตดิ ต้งั พดั ลมเปา่ อากาศ (Air blower) 4.1.3) อันตรายจากการท�ำงานบนท่ีสูง (Working at height Hazard) อันตราย / การปอ้ งกัน - พลดั ตกจากทส่ี งู เปลย่ี นวธิ กี ารทำ� งานใหไ้ มม่ กี ารทำ� งานบนทสี่ งู หรอื ลดระยะเวลาในการทำ� งานบนทส่ี งู ใหน้ อ้ ย ทีส่ ดุ การท�ำงานบนพ้นื ท่มี น่ั คงแขง็ แรง เช่น บนกนั สาด ดาดฟ้า การตดิ ต้งั ราวกนั ตก การท�ำงานบนอปุ กรณส์ ำ� หรับงานบนทสี่ ูง เชน่ นั่งรา้ น รถScissor lift รถกระเชา้ ฯลฯ - พลัดตกแล้วเหวี่ยงไปกระแทกผนัง หรือโครงสร้าง ก�ำหนดจุดยึด (Anchor point) ให้อยู่ใกล้กับพื้นที่ ปฏบิ ัติงาน และเลือกใช้ Lanyards หรอื Life Line ให้มขี นาดความยาวท่เี หมาะสม ไม่ยาวจนเกินไป 35

- ของที่อยู่บนที่สูงล่วงหล่นมากระแทกคนท่ีอยู่ด้านล่าง ก้ันพื้นที่และติดป้ายเตือน (Barricade & Signage), ติดตั้งแผ่นกัน ของตกบนนง่ั รา้ น (Toe Board) หรอื สายรดั อปุ กรณก์ นั ตก - พลัดตกแล้วห้อยแขวนอยู่กลางอากาศนานเกินไป ใช้ Foot loop, Foot step หรือ ก�ำหนดแผนและอุปกรณ์ส�ำหรับ ช่วยชีวติ ในกรณีฉกุ เฉนิ เมอ่ื ผู้ปฏบิ ัติงานพลดั ตก และหอ้ ยคา้ งอย่กู ลางอากาศ 4.1.4) อันตรายจากการยกและเคลอื่ นยา้ ยวัตถุ (Lifting Material Hazard) อันตราย / การป้องกัน - วัตถุที่ยกล่วงหล่นมาทับคนทอี่ ย่ดู ้านลา่ ง กั้นพืน้ ที่ ตดิ ปา้ ยเตอื น หา้ มเข้าพื้นที่ทก่ี ำ� ลังท�ำการยกวัตถุ ทำ� แผนการยก (Lifting plan) และตรวจสอบเครน และอปุ กรณช์ ่วยยกกอ่ นท�ำการยกวัตถุ (Crane and Lifting Accessories) - อันตรายที่เกิดจากการควบคุม สื่อสารผิดพลาดขณะท�ำการยกวัตถุ ตรวจสอบทักษะความรู้ การผ่านการอบรม และความพรอ้ มทางดา้ นรา่ งกายของผคู้ วบคุมเครน และผู้ให้สัญญาณ ก�ำหนดผู้ชว่ ยในการดงึ เชอื กบงั คับทิศทางวตั ถุในขณะยก - รถเครนพลกิ ควำ่� หรือสลิงขาด ขอตรวจเชค็ ใบ ปจ.2 วา่ เครนผา่ นการตรวจมาหรือไม่ (ต้องตรวจทกุ 3 เดอื น) และตรวจ ความสมบูรณข์ องรถเครน รอก และอปุ กรณช์ ว่ ยยกว่ามชี �ำรดุ และพร้อมสำ� หรบั การยกวัตถุอยา่ งปลอดภยั หรือไม่ 4.1.5) อันตรายจากงานทม่ี ีความร้อนและประกายไฟ (Hot Work Hazard) อันตราย / การป้องกนั - ไฟไหม้ ระเบดิ ตรวจสอบหนา้ งาน แล้วหาทางกำ� จดั ควบคุมเชอื้ เพลงิ หรือ ความรอ้ นประกายไฟ ไม่ให้เกิดขนึ้ หรือ แยก ออกจากกนั เช่น การใชอ้ ปุ กรณ์ท่ีไม่ท�ำใหเ้ กิดประกายไฟ การใชผ้ ้าใบป้องกนั ไอน้ำ� มันไหลผ่าน การใช้เครอื่ งวดั แกซ๊ ตดิ ไฟ รวมถึงการจัดเตรียม อปุ กรณ์ดับเพลิง อุปกรณ์ชว่ ยชีวติ และแผนฉุกเฉินในกรณีที่เกดิ ไฟไหม้ หรอื ระเบิดข้ึน 4.1.6) อันตรายจากถงั บรรจกุ ๊าซท่ีมแี รงดนั (Compressor Gas Cylinder Hazard) อนั ตราย / การปอ้ งกนั - ถังระเบดิ เกิดไฟไหม้ ตรวจเช็คสภาพถงั ท่อนำ� กา๊ ซ ตัวกันไฟไหลยอ้ นกลบั (Flash Back Arrestor ) เกจวัดและตวั ควบคมุ แรงดัน (Pressure Gauge & Regulator) - ถงั แตก หรอื พุ่งดว้ ยแรงดัน หา้ มวางถงั ก๊าซในแนวนอน ใหว้ างตงั้ ขณะเกบ็ หรอื วางบนรถเขน็ รัดถงั ดว้ ยโซ่ขณะใชง้ าน - ปฏิกริยาทางเคมี การระเบิด ห้ามวางถังก๊าซอ๊อกซิเจน ใกล้กับน้�ำมัน จารบี หรือสารไฮโดรคาร์บอนทุกประเภท เพราะ จะท�ำให้เกิดปฏิกริยาทางเคมี แลว้ เกดิ การระเบดิ ทีร่ นุ แรงได้ 4.1.7) อนั ตรายจากกระแสไฟฟา้ (Electrical Hazard) อนั ตราย / การป้องกนั - ไฟฟา้ ดูด ใช้อปุ กรณ์ทไ่ี ด้มาตรฐาน ท้งั สายไฟ ต้ไู ฟ เต้ารับ เต้าเสยี บ และตรวจสอบสภาพก่อนการใชง้ าน หากจ�ำเปน็ ตอ้ ง ตัดกระแสไฟ ต้องทำ� การลอ๊ คกญุ แจท่สี ะพานไฟ แขวนป้ายหา้ มใช้งาน หา้ มสัมผัสกับสายไฟ หรอื อุปกรณ์ไฟฟา้ โดยตรง (ควรใสถ่ ุงมอื ) หรือขณะ รา่ งกายเปียกชน้ื และยกสายไฟใหส้ ูงเหนอื ศรีษะ (อย่างนอ้ ย 2.5-3 เมตร) หากจำ� เป็นต้องลากสายไฟผ่านทางทร่ี ถวง่ิ หรอื มคี นเดนิ ผา่ น - กระแสไฟรวั่ ลดั วงจร ตดิ ต้งั ระบบสายดนิ ตดิ ต้งั อปุ กรณ์ตัดไฟอัตโนมตั เิ มอ่ื กระแสไฟเกนิ 4.1.8) อันตรายจากสารเคมี (Chemical hazard) อนั ตราย / การปอ้ งกัน - อันตรายจากการสัมผัสสารเคมี จัดหาข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมีน้ันๆ (SDS) สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายจาก สารเคมีที่เหมาะสมขณะใช้งาน (ถุงมือ แว่นตา หน้ากาก หรืออ่ืนๆ ขึ้นอยู่กับประเภทของสารเคมี) และติดป้ายเตือนอันตรายจากสารเคมีใน บรเิ วณที่จัดเก็บ - อันตรายต่อส่ิงแวดล้อม เมื่อสารเคมีหก รั่วซึมลงดิน แหล่งน้�ำ จัดเก็บในบริเวณที่มีการป้องกันการหกรั่วซึม หรือวางบน ถาดรอง และจัดเตรียมอปุ กรณ์ดดู ซับสารเคมใี นกรณีฉุกเฉนิ หากสารเคมีหกรว่ั ซมึ ออกมา 36

4.2) กิจกรรมที่ใชใ้ นการลดอบุ ัติเหตแุ ละควบคุมความสูญเสียในโครงการกอ่ สรา้ ง 4.2.1) การวิเคราะห์อันตรายในแต่ละขั้นตอนการท�ำงาน แล้วหามาตรการควบคุม (JHA : Job Hazard Analysis) การทำ� JHA จำ� เปน็ ตอ้ งเขยี นขนึ้ โดยผู้ที่รูแ้ ละเขา้ ใจขั้นตอนในการทำ� งานของกิจกรรมนัน้ ๆ โดยทำ� ร่วมกนั ระหว่าง ผู้ปฏบิ ัติงาน เจ้าหน้าทีค่ วาม ปลอดภัย (และอาจต้องมวี ิศวกรรว่ มทำ� ดว้ ยในบางกิจกรรมที่ตอ้ งการข้อมูลทางดา้ นเทคนคิ และทางวศิ วกรรมประกอบการประเมินความเสีย่ ง) โดยหัวใจหลักของ JHA ก็คือการน�ำเอา JHA ท่ีท�ำเสร็จแล้วมาส่ือสารพูดคุยกับผู้ปฏิบัติงาน และควบคุมให้ผู้ปฏิบัตงานท�ำตามขั้นตอนที่ระบุ ใน JHA และใช้มาตรการควบคุมอันตรายตามทีก่ �ำหนด 4.2.2) การประชมุ กล่มุ ย่อยตอนเช้า (Tool Box Talk) แนะนำ� ใหท้ �ำทุกเชา้ ก่อนเริม่ ท�ำงาน โดยหัวหน้างาน/โฟรแ์ มน เป็นผู้น�ำประชมุ ใช้เวลา 5-15 นาที ในการแจง้ ขอ้ มูลข่าวสารดา้ นความปลอดภัย อธบิ ายขนั้ ตอนการทำ� งาน หนา้ ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบของแตล่ ะ่ คน อนั ตรายและการปอ้ งกนั โดยสามารถเพม่ิ เตมิ ในสว่ นของการตรวจเชค็ ความพรอ้ ม ด้านรา่ งกาย อุปกรณป์ ้องกันอันตรายรวมถงึ เครอ่ื งมอื ทจ่ี ะใช้ปฏบิ ัตงิ านว่ามีความปลอดภัยเพียงพอหรอื ไม่ ดังน้นั ผ้ทู ี่นำ� ประชุม จึงต้องเป็นผูท้ ่ีมี ทกั ษะในการสื่อสาร และชา่ งสงั เกต และมจี ติ ส�ำนกึ ในการป้องกันอุบตั เิ หตุอยา่ งถูกต้อง 4.2.3) การเดนิ สำ� รวจหนา้ งาน (Walk through survey) หลงั จากทป่ี ระชุมกลมุ่ ย่อย หรอื ทำ� Tool Box Talk เสรจ็ แลว้ กอ่ นทจี่ ะเริม่ ลงมอื ทำ� งานจรงิ ๆ ผปู้ ฏิบตั ิงานควรทจ่ี ะเดนิ สำ� รวจพื้นที่การท�ำงาน ก่อนเรม่ิ ท�ำงานอีกครง้ั เพื่อใหแ้ น่ใจว่า ไมม่ ีความเส่ียงใดๆ ทั้งจากอปุ กรณ์ เคร่ืองจกั ร สภาพแวดลอ้ ม หรือสัตวร์ ้ายตา่ งๆ ท่ีอาจเกิดข้ึนที่บรเิ วณ พื้นทก่ี ารทำ� งาน 4.2.4) การตรวจสอบหน้างาน (Site inspection) ในระหว่างการปฏิบัติงาน เจ้าหน้าท่ีความปลอดภัย (หรือผู้ควบคุมงาน) ควรท�ำการเดินเพ่ือตรวจสอบความปลอดภัย ซ่ึงอาจมีรายการตรวจ (Checklist) เพ่ือเป็นแนวทางว่าจะต้องตรวจอะไรบ้าง รวมถึงสังเกตพฤติกรรมของผู้ปฏิบัติงาน และสภาพแวดล้อม ว่ามีความเส่ียงอะไรท่ีต้อง หยดุ งาน แกไ้ ข หรือกำ� จดั ออกไปหรือไม่ 4.2.5) การยับยั้งแทรกแซง และการสัง่ หยดุ งาน (Intervention & Stop work) 37

ในการเดินส�ำรวจงาน หากพบการกระท�ำท่ีฝ่าฝืนกฏ ไม่ปฏิบัติตามข้ันตอนการท�ำงานท่ีปลอดภัย หยอกล้อเล่นกัน หรือกระท�ำการใดๆ ท่ีเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย การบาดเจ็บ หรือผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ให้เจ้าหน้าท่ีความปลอดภัย (หรอื ผคู้ วบคมุ งาน) มอี ำ� นาจในการสง่ั หยุดงานช่ัวคราวได้ทันที เพื่อแกไ้ ขปัญหา จดั การความเสี่ยง หรอื ตกั เตือนผู้ปฏิบตั งิ าน จนกวา่ จะมนั่ ใจวา่ ปลอดภยั แลว้ จงึ สงั่ ใหเ้ รม่ิ ปฏบิ ตั งิ านตอ่ ไป ทง้ั นี้ ควรทจี่ ะถา่ ยรปู และบนั ทกึ ขอ้ มลู ความเสย่ี ง เหตกุ ารณ์ หรอื การกระทำ� ทไี่ มป่ ลอดภยั นนั้ ๆ ไวด้ ว้ ยเพอ่ื นำ� มาสรปุ และวเิ คราะหห์ าแนวทางในการปอ้ งกนั ไมใ่ หเ้ กดิ ความเสย่ี งๆ นน้ั ๆ ซำ�้ ขนึ้ อกี หวงั เปน็ อยา่ งยง่ิ วา่ ทา่ นผอู้ า่ นบทความน้ี จะนำ� ประสบการณต์ รงจากการทำ� งาน ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการทำ� งานในองคก์ ร ในไซตง์ าน หรอื ทบ่ี า้ นของทา่ นอยา่ งเหมาะสม โดยเฉพาะเมอ่ื มกี จิ กรรมทเ่ี กยี่ วกบั การกอ่ สรา้ ง ซงึ่ ผลทเ่ี กดิ ขน้ึ จากการปฏบิ ตั จิ รงิ ทางดา้ นอาชวี อนามยั และความปลอดภยั ไมใ่ ชแ่ คเ่ พยี งปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตแุ ละลดความสญู เสยี เทา่ นนั้ แตย่ งั ชว่ ยใหธ้ รุ กจิ ของทา่ น ไดร้ บั ผลกำ� ไรมากขนึ้ หลงั จากหกั คา่ ใชจ้ า่ ยทเ่ี กดิ จากความสญู เสยี เมอ่ื เกดิ อบุ ตั เิ หตุ อกี ทง้ั ยงั สรา้ งโอกาสในการเตบิ โตกา้ วหนา้ ขององคก์ ร ใหม้ โี อกาสไดร้ บั งานใหญๆ่ และหลายๆงาน ซงึ่ ในปจั จบุ นั ผลจากการลงทนุ และการปฏบิ ตั ดิ า้ นการบรหิ ารจดั การ ความปลอดภัยในงานก่อสร้าง ล้วนเป็นสิ่งท่ีผู้ว่าจ้างทุกคนต้องการให้ผู้รับเหมาปฏิบัติทุกโครงการ โดยตัวอย่างของหลายๆ บริษัทท่ีเติบโต ก็เพราะการลงทุน และความต้ังใจจริงในการน�ำเอาระบบบริหารความปลอดภัยมาใช้ในโครงการก่อสร้าง กเ็ ปน็ ทป่ี ระจกั ษก์ นั อยแู่ ลว้ รวมถงึ หลายๆบรษิ ทั รบั เหมากอ่ สรา้ งทต่ี อ้ งปดิ ตวั ลงอนั เนอื่ งมาจากผลของอบุ ตั เิ หตุ และการไมใ่ สใ่ จ ในความปลอดภัยของลูกจา้ งก็มีตัวอยา่ งอกี ไม่นอ้ ย เช่นกัน 38

เจา้ หนา้ ที่ความปลอดภยั ในการท�ำงานระดบั วิชาชพี จป. ืมอโปร ุคณ ัณฐพงศ์ เค ืรอเครา 39

1. เหตุใดถงึ ได้เลือกเรียนในหลกั สตู รอาชวี อนามัยและความปลอดภัย ปฏเิ สธไมไ่ ดเ้ ลยวา่ ถา้ ยอ้ นเวลาไปเมอื่ หลาย ปที แ่ี ลว้ หลายคนอาจเกดิ คำ� ถามในใจวา่ หลกั สตู รอาชวี อนามยั และความปลอดภยั ฯ คอื เรยี นเพอ่ื ทำ� งานดา้ นไหน เรยี นเกยี่ วกบั อะไร ในชว่ งทผี่ มจะเขา้ เรยี นตอ่ มหาวทิ ยาลยั เหลอื สาขาทจี่ ะเรยี นอยู่ 2 ตวั เลอื ก คอื จลุ ชวี วทิ ยา และ อาชวี อนามยั และความปลอดภยั จึงไดป้ รกึ ษาพส่ี าววา่ อาชวี อนามยั และความปลอดภยั คอื อะไร และคำ� ตอบทีไ่ ดม้ าคือ จป. คิดใน ใจตอนนัน้ อะไรคอื จป. จึงถามตอ่ ว่าจบมาแล้วท�ำงานดา้ นไหน แกเลยบอกวา่ ดแู ลความปลอดภยั ใหก้ ับพนักงานไมใ่ หไ้ ด้รับอบุ ัติเหตุ หลัง จากวนั นน้ั เรากไ็ ปหาขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ จงึ ไดร้ วู้ า่ จป. เปน็ อาชพี ทตี่ อ้ งชว่ ยเหลอื เพอ่ื นมนษุ ยใ์ หม้ คี วามปลอดภยั ทง้ั กายและใจ เปน็ อาชพี ทตี่ อ้ ง ท�ำงานกับคนจำ� นวน ด้วยบุคลิกที่เป็นคนชอบพูด ชอบแสดงออก เข้ากับคนได้ง่าย และคิดว่าน่าจะเป็นการทำ� งานท่ีสนุก เราจึงเร่ิมท่ีจะ สนใจเรียนสาขาน้ี และปรึกษากับครอบครัว ด้วยความท่ีมหาวิทยาลัยอยู่ใกล้บ้านสุดเมื่อเทียบกับอีกมหาวิทยาลัยหน่ึง จึงตัดสินใจเลือก เรียนครบั 2. อะไรคือความภูมใิ จมากที่สุดในการประกอบอาชีพ ด้านความปลอดภยั ความภมู ใิ จมากทสี่ ดุ ในการทำ� งาน คอื “ การดำ� เนนิ งานดา้ นความปลอด ภยั ฯ ใหไ้ ดต้ รงตามเปา้ หมายทต่ี งั้ ไว้ ” การทำ� งานทจ่ี ะใหไ้ ดต้ ามเปา้ นน้ั ตอ้ งมาจาก การวางแผนและบรหิ ารงานทดี่ ี การดำ� เนนิ งานดา้ นความปลอดภยั ฯ ทกุ บรษิ ทั ตา่ ง มงุ่ หวงั ใหพ้ นกั งานไมไ่ ดร้ บั อบุ ตั เิ หตแุ ละไมเ่ กดิ โรคจากการทำ� งานผมกเ็ ชน่ กนั เมอื่ เปา้ หมายเราสำ� เรจ็ จะถอื ไดว้ า่ เราไดพ้ ฒั นาศกั ยภาพเราขน้ึ มาอกี ขนั้ ของการทำ� งาน และกล้าต้ังเป้าหมายต่อไปให้ใหญ่ขึ้น ท�ำให้การท�ำงานในแต่ละวันเรามีความสุข และสนุกกับมัน ในส่วนตัวแล้วการไม่เกิดอุบัติเหตุคือเป้าหมายสูงสุดขององค์กร ส่วนการเป็น จป.วิชาชีพ ดีเด่นระดับประเทศ คือเป้าหมายท่ีสูงสุดของผมเอง และผมสามารถทำ� ได้ตามเปา้ ท่ตี งั้ ไวค้ ือ การไดร้ ับรางวัลเจ้าหน้าทค่ี วามปลอดภัย ในการท�ำงาน ระดบั วชิ าชีพประจ�ำปี 2562 รางวัลดีเด่นระดบั ประเทศ น่เี ป็นอีก หน่ึงรางวัลทไ่ี ด้มาจากการพฒั นางานดา้ นความปลอดภัยฯ ทีผ่ มภูมใิ จ และนีเ่ ปน็ ความภมู ใิ จแรกแตไ่ มใ่ ชค่ วามภมู ใิ จสดุ ทา้ ยของผม เพราะงานดา้ นความปลอดภยั ฯ ต้องพฒั นาต่อยอดเพือ่ ประโยชน์ของเพอ่ื นมนุษยค์ รบั 3. ทา่ นมแี นวทางในการบริหารจดั การองค์กรดา้ นความปลอดภัยอยา่ งไรใหม้ รี ะบบทย่ี ง่ั ยืน เพ่ือทุกคนจะได้กลบั บา้ นอยา่ งปลอดภัยในทุกๆ วนั กระผมเริม่ ตน้ มองตัง้ แตพ่ นักงานและสภาพแวดล้อมท่เี ป็นสาเหตขุ องการเกดิ อุบัตเิ หตุ ซ่ึงที่ตัวพนกั งานเราต้องพฒั นาให้ พนกั งานทกุ ระดบั สามารถประเมนิ ความเสยี่ งเบอื้ งตน้ ทอ่ี าจจะมแี นวโนม้ ในการเกดิ อบุ ตั เิ หตไุ ด้ ตามทฤษฏสี ามเหลย่ี มอตั ราการเกดิ อุบัติเหตุได้มีการส่งเสริมการรายงานเหตุการณ์เกือบเกิดอุบัติเหตุ (Near miss) รวมไปถึงการรายงานจุดเส่ียง เพื่อน�ำมาปรับปรุง ใหม้ คี วามปลอดภัย ในปัจจุบันเรามกี ารพฒั นาใหพ้ นักงานรว่ มคิดค้นนวตั กรรมความปลอดภัยฯในการปรับปรงุ งานร่วมกัน เพือ่ ให้ พนกั งานมองเหน็ วธิ กี ารปรบั ปรงุ งานใหป้ ลอดภยั ลดภาระงาน ทำ� งานงา่ ยและสะดวกมากขน้ึ และเพมิ่ มมุ มองการปรบั ปรงุ งานและ สภาพแวดลอ้ มการทำ� งานใหม้ ปี ระสทิ ธผิ ล เมอื่ พนกั งานทกุ คนรจู้ ดุ เสย่ี ง ประเมนิ ความเสยี่ งได้ และคดิ หาวธิ กี ารปรบั ปรงุ ไดด้ ว้ ยตนเอง จะส่งผลใหพ้ ื้นทก่ี ารทำ� งานปลอดภัย รวมไปถงึ การสง่ เสรมิ ใหพ้ นกั งานเข้าใจถงึ อนั ตราย ความเส่ยี ง ผลกระทบท่ีจะเกดิ ข้ึน วิธีการ ปอ้ งกนั ที่เขา้ ใจได้งา่ ยกบั พนักงานทกุ ระดับดว้ ยกิจกรรม เม่ือการกระทำ� ปลอดภัย สภาพแวดลอ้ มการทำ� งานปลอดภยั น่นั ยืนยันได้ ว่าโอกาสและความเส่ียงท่ีจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุจะต้องลดลง ท้ังนี้การด�ำเนินงานต่างๆเราต้องมุ่งเน้นขยายกิจกรรมให้ครอบคลุม เพ่อื สรา้ งและส่งเสรมิ ใหเ้ กดิ เป็นวฒั นธรรมความปลอดภัยขององคก์ ร 40

4. ท่านมีแนวทางอย่างไรในการลดอบุ ตั ิเหตจุ ากการ ท�ำงานใหไ้ ด้ผล ผมได้น�ำกิจกรรม TPM (Total Productive Maintenance) ท่ีด�ำเนินงานในองค์กร ได้น�ำแนวคิดการดำ� เนินงานด้านความปลอดภัยฯ ใน การปอ้ งกันการเกดิ อุบตั ิเหตุ คือ SAPL (Safety Assurance Perfect Line) เปน็ การปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตทุ เ่ี กดิ จากความผดิ พลาดในการทำ� งานของคน โดยได้ เนน้ ตงั้ แตก่ ารสำ� รวจและประเมนิ ความเสย่ี งรว่ มกบั พนกั งาน สอนใหพ้ นกั งาน ทุกระดับทราบถึงความเส่ียงในพื้นท่ีการท�ำงานได้ จากนั้นน�ำความเสี่ยงมา วิเคราะห์หาสาเหตุรวมไปถึงหาวิธีการปรับปรุง ป้องกัน และขจัดความเสี่ยง น้นั โดยการปรบั ปรุงงานดว้ ยวธิ ี Poka-Yoke Kaizen, No Touch Kaizen, Karakuri Kaizen เป็นต้น หลังจากการปรับปรุงพ้ืนท่ีแล้ว ยังได้ใช้กิจกรรม รณรงค์ส่งเสริมให้กับพนักงานผ่านกิจกรรม RCSS (Relative Cultural Strength of SHE Promotions) เชน่ คน้ หาจดุ เส่ยี งและการรายงาน Near miss การประกวดบุคคลต้นแบบด้านความปลอดภัยฯ ส่งเสริมการชม ทัก เตอื นใหป้ ลอดภัย เป็นต้น อีกท้งั เรายงั ตอ้ งคน้ หาความเส่ยี งทีซ่ อ่ นอยู่ หรอื ท่ี ยังมองยังไม่ครอบคลุม เพื่อขจัดความเส่ียงให้หมดไป ด้วยการพัฒนาดิจิทัล เทคโนโลยีความปลอดภัยฯมาเพ่ิม “ความสามารถในการตรวจจับการ ท�ำงาน” 5. ท่านเห็นว่าวธิ กี ารหรอื แนวทางไหน ท่นี า่ จะจัดการกบั พฤตกิ รรมเพอื่ ใหห้ ยดุ อบุ ตั เิ หตุ จากการทำ� งานไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม ซง่ึ รวมถึงมผี ลลัพธ์ที่น่าจะออกมาดีทส่ี ดุ ความปลอดภยั ในการทำ� งานถอื เปน็ หวั ใจสำ� คญั ในการทำ� งาน เพราะ หากบคุ ลากรขาดจติ สำ� นกึ ในการทำ� งานดว้ ยความประมาทเลนิ เลอ่ หรอื ความ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ย่อมอาจเกิดผลกระทบในเร่ืองการสูญเสียทรัพย์สินและ รา่ งกาย กระผมจงึ รณรงคด์ ว้ ยกจิ กรรม “SWA (Stop Work Authority) การ ใหอ้ ำ� นาจในการหยดุ การทำ� งาน” คอื กำ� หนดใหบ้ คุ คลม ี “อำ� นาจและหน้าท่ี รบั ผิดชอบ” ในการส่งั หยดุ การท�ำงาน ในกรณีพบเหน็ เหตุการณ์ การกระทำ� ท่ีไม่ปลอดภัยหรือสภาพการณ์ที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุข้ึนได้ โดยอำ� นาจในการหยดุ การทำ� งานนค้ี รอบคลมุ ถงึ พนกั งานทกุ คนและผรู้ บั เหมา ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัทฯ ซ่ึงได้รับมอบอ�ำนาจจากผู้บริหารสูงสุด ใหพ้ นกั งานและผ้รู บั เหมามอี ำ� นาจสงั่ หยดุ การทำ� งาน โดยไมม่ ผี ลกระทบใดๆ หลงั จากตรวจพบและพจิ ารณาแลว้ วา่ การทำ� งานอาจทำ� ใหส้ ภาพแวดลอ้ มการ ท�ำงาน หรือท�ำให้ผู้ปฏิบัติงานมีความเส่ียงท่ีจะได้รับอันตราย ซึ่งการด�ำเนิน กิจกรรมได้รบั ผลตอบรบั จากพนักงานทกุ ระดับเป็นอย่างดี จึงไดผ้ ลักดันจาก กิจกรรมเลก็ จนกลายเป็นนโยบายด้านความปลอดภัยฯของบรษิ ัทฯ 41

6. ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงิ่ แวดลอ้ มและสงั คมมสี ว่ นสำ� คญั ในการบรหิ ารจดั การดา้ นความปลอดภยั อยา่ งไรบ้าง ความรับผิดชอบต่อส่ิงแวดล้อมและสังคมถือเป็นอีกหน่ึงการด�ำเนินกิจกรรมส�ำคัญ ท่ีควบคู่กันไปกับงานด้านความปลอดภัยฯ เพราะการที่พนักงานจะปลอดอุบัติเหตุแล้ว สภาพแวดล้อมในการท�ำงานท่ีดีจะส่งผลให้การท�ำงานของพนักงานมีประสิทธิภาพดีไปด้วย การสง่ เสรมิ ใหพ้ นกั งานตระหนกั ถงึ ความรบั ผดิ ชอบในหนา้ ท่ี และความมจี ติ อาสา เปน็ ตวั แปรสำ� คญั ทจี่ ะทำ� ใหก้ ารดำ� เนนิ งานมปี ระสทิ ธผิ ล ทด่ี ใี นการบรหิ ารงาน ในสว่ นชมุ ชนรอบบรษิ ทั ฯ เราไดด้ ำ� เนนิ การสง่ เสรมิ การเรยี นรรู้ ว่ มกนั ในการแกไ้ ข และปอ้ งกนั การเกดิ ปญั หาดา้ นสง่ิ แวดลอ้ มท่ีเกดิ ขน้ึ ในปัจจุบนั โดยเฉพาะการเกดิ ฝนุ่ PM 2.5 เราได้ร่วมกบั หลายหน่วยงานในการเข้าไปใหค้ วามรูเ้ ก่ยี วกบั ปัญหา แนวทาง ปอ้ งกนั และสอนการสร้างเครื่องมอื การแปลผลการตรวจวดั ฝนุ่ PM 2.5 อยา่ งง่ายให้กบั ชมุ ชน ผลกั ดันให้คนในชมุ ชนเกดิ ความตระหนัก ของปญั หาและร่วมกนั แกไ้ ขปอ้ งกันใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพ ทำ� ใหบ้ รษิ ทั ฯและชุมชน อยูร่ ่วมกนั ไดอ้ ย่างมีความสขุ 7. นอ้ งๆ จป.รนุ่ ใหม่ ถา้ อยากจะเป็น จป.มอื โปร หรอื ประสบความสำ� เรจ็ ในวชิ าชพี นี้ ควรจะมี แนวทางอยา่ งไรบา้ ง ส�ำหรับตัวกระผมแล้ว การที่เราจะประสบความส�ำเร็จในเรื่องหนึ่งๆได้นั้น เราต้อง มีเป้าหมายที่ชัดเจน และการท่ีจะท�ำให้เป้าหมายส�ำเร็จได้ต้องมาจากการวางแผนท่ีดี หาก เราทำ� งานโดยไม่มีเป้าหมายกเ็ หมอื นกบั เราเดินไปโดยไมม่ ปี ลายทาง กวา่ เราจะประสบความ ส�ำเร็จได้น้ัน แน่นอนไม่ใช่เรื่องง่าย หลายๆคนอาจเจอปัญหาในการท�ำงานที่แตกต่างกันไป หลายๆคนอาจท้อ และหมดก�ำลังใจ ผมเองก็มีเร่ืองเหล่าน้ันเกิดขึ้นในการท�ำงานเหมือนกัน แตส่ งิ่ ทจี่ ะทำ� ไดน้ นั้ คอื ใหก้ ำ� ลงั ใจตวั เองมากๆ คดิ บวกๆ สนกุ ไปกบั มนั ครบั “ ไมม่ คี วามสำ� เรจ็ ใดทปี่ ราศจากความพยายาม ” ขอบคุณครบั 42

จป.วยั ทนี คุณจฑุ ามณี ลกั ษณะอัฐ (ก่งิ ) อายุ : 25 ปี แนะนำ� ไลฟส์ ไตลต์ นเองครา่ วๆอปุ นสิ ยั สว่ นตวั ทบ่ี ง่ บอกถงึ ความเปน็ ตวั เอง: โดยส่วนตัวเป็นคนร่าเริง อัธยาสัยดี มีมนุษยสัมพันธ์ดี เข้ากับผู้อื่นได้ง่าย ชอบช่วยเหลือผู้อ่ืนค่ะ เป็นคนพูดเก่ง (หรือพูดมาก555) ชอบวางแผน เหมือนอย่างก่อน เร่ิมงานในวันถัดไปก็จะมีการดูschedule ตัวเองว่าจะต้องท�ำอะไรบ้าง แล้วก็ท�ำ To do list เอาไว้ค่ะ กนั เราลมื งานสำ� คัญท่ีต้องทำ� บางครัง้ ถา้ มแี รงกดดัน หรือมคี วามเครยี ดกจ็ ะ เงยี บไปเลย จนเพอ่ื นร่วมงานรับรู้ไดว้ า่ เราเครียด และเป็นคนชอบเรียนรู้ พฒั นาตวั เองอยู่ ตลอดค่ะ เน่อื งจากงานทีท่ �ำเป็นงานเกยี่ วกบั oil&gas เปน็ process ใหม่ทเ่ี ราไม่เคยรมู้ า กอ่ น จงึ ต้องเรยี นรู้อยู่ตลอดเวลาค่ะ เหตุใดจึงเลือกเรยี นอาชวี อนามัยและความปลอดภัย : ตอนช่วงมัธยมปลาย หนูพยายามเตรียมตัวสอบเข้าคณะท่ีเกี่ยวกับสายสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ เภสัช พยาบาล ซึ่งเรามุ่งม่ันที่จะสอบเข้าให้ได้ โดยไม่ได้สนใจคณะ อื่นๆเลย จนวันนึง คุณแม่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์แขนหักทั้ก2ข้าง ซึ่งเป็นช่วงเวลาท่ี ยากล�ำบากมาก ณ ตอนนัน้ เพราะไม่รวู้ า่ เราจะไดเ้ รยี นต่อม้ยั หรือว่าเราจะยงั ไงตอ่ จนมี ลกู พลี่ กู นอ้ ง ลกู ของคณุ ปา้ พเ่ี ขาจบเทคนคิ การแพทย์ ทม่ี . วลยั ลกั ษณ์ เขากแ็ นะนำ� วา่ ลอง เรยี นจป. มัย้ ตอนนกี้ �ำลังขาดตลาดแรงงาน มีคณะให้เรียนที่ ม. วลยั ลกั ษณ์ดว้ ย แถมใกล้ บ้านอีก ( บ้านหนูอยู่สุราษฎร์ค่ะ) ตอนแรกหนูก็ไม่รู้จักค่ะว่าจป. หรือสาขาอาชีวอนามัย คืออะไร เรียนเกี่ยวกับอะไร ก็เลยลองหาข้อมูลดู มีความน่าสนใจและคะแนนแอดมิชชัน ของหนูก็สามารถย่ืนได้ ก็เลยลองยื่นของม. วลัยลักษณ์ดู และก็ได้เข้าเรียนที่นี้ค่ะ ในช่วง ปี 1 เราจะเรยี นพนื้ ฐานทว่ั ไปกอ่ นคะ่ ตอนนนั้ กย็ งั รสู้ กึ เฉยๆ กย็ งั เรยี นไดอ้ ยู่ พอเรม่ิ เขา้ ปี 2 เป็นต้นไปเริ่มเรียนวิชาสาขามากขึ้น หนูเริ่มสนุกกับวิชาท่ีเรียน และได้รู้ว่าเม่ือจบไปเรา สามารถท�ำอะไรไดบ้ ้าง ซ่งึ มนั หลากหลายมากๆ ไม่วา่ จะเปน็ จป. วชิ าชีพ นักวชิ าการ หรอื การเป็นวิทยากร จึงท�ำให้หนูเร่ิมชอบข้ึนมาเรื่อยๆ ด้วยความที่ว่ามันอาจจะตรงกับนิสัย ของหนู และหนูก็ชอบช่วยเหลือผู้อ่ืนจนในที่สุดหนูก็คิดว่า หนูตัดสินใจเลือกเรียนมาถูก แล้ว และนีแ่ หละคอื อาชีพในอนาคตของหนู 43

ตอนทเี่ รยี น ยากไหม (ตอ้ งมกี ารทบทวนเนอ้ื หาทเ่ี รยี นไหม หรอื เลา่ ถงึ วา่ ตอน เรียนได้ไปฝกึ งาน ไดศ้ กึ ษาอะไรเปน็ พเิ ศษบ้างไหม) : ถา้ ถามวา่ ยากไหม? มนั กย็ ากและโหดอยพู่ อสมควรคะ่ 555 เพราะวา่ ทม่ี หาลยั เรยี น 3 เทอมตอ่ ปี และแตล่ ะเทอมกจ็ ะเรียนประมาณเดอื นนดิ ๆ ก็ต้องเตรยี มตัวสอบกลางภาค สอบ กลางภาคยงั ไมท่ นั ไร final กม็ ารออยแู่ ลว้ 555 มนั ทำ� ใหเ้ ราตอ้ งมกี ารทบทวนเนอ้ื หาทเี่ รยี นอยู่ ตลอดคะ่ แถมกจิ กรรมกม็ ใี หท้ ำ� เยอะดว้ ยเชน่ หนเู รยี นดว้ ยและทำ� กจิ กรรมดว้ ย ทำ� ใหต้ อ้ งแบง่ เวลาในการเรยี น และทำ� กจิ กรรมไมใ่ หก้ ระทบดา้ นใดดา้ นนงึ คะ่ มนั กเ็ ลยเปน็ ปจั จยั นงึ ทพี่ อเรา มาท�ำงานแล้ว ท�ำให้เราสามารถแบ่งเวลา และท�ำงานร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดีค่ะ ช่วงตอน เรยี นก็จะมีกจิ กรรมในคลาสเรียนใหท้ ำ� คะ่ เปน็ กจิ กรรมกลุม่ CBL ซง่ึ อาจารยจ์ ะให้โจทย์เรามา เก่ียวกบั สถานประกอบการในแต่ละอตุ สาหกรรม ซง่ึ กจิ กรรมCBL นแี่ หละค่ะ ทำ� ให้เราเขา้ ใจ การท�ำงานของจป. วิชาชีพ และสาขาอาชีวอนมัยฯ มากข้ึน นอกจากนี้ก็มีการสหกิจศึกษา หนไู ปสหกิจทบ่ี ริษัท western digital ท่บี างปะอิน ซึ่งเป็นบรษิ ทั ตา่ งชาติ สิง่ ท่ยี าก ณ ตอน นนั้ สำ� หรบั หนคู อื ภาษาองั กฤษคะ่ เพราะทกุ อยา่ งทนี่ นั้ เปน็ ภาษาองั กฤษ และมเี พอื่ นตา่ งชาติ ที่มาฝึกงานท่ีนั้นด้วย ซึ่งภาษาอังกฤษของหนูในตอนนั้นคือแย่มาก แต่หนูก็ได้รับความช่วย เหลอื จากพเี่ ลย้ี ง และพๆี่ ในองคก์ ร จงึ ทำ� ใหม้ กี ำ� ลงั ใจในการเรยี นรู้ และพฒั นาตนเอง นอกจาก เรื่องของภาษาแล้ว ยังได้เรียนรู้ระบบความปลอดภัยของบริษัท และการท�ำงานของsafety officer ท่ีเป็นการท�ำงานจริงๆ เพราะการสหกิจศึกษาเป็นส่ิงที่ท�ำให้เราได้น�ำความรู้ท่ีเรียน มา มาประยุกต์ และปรับใช้ในหน้างานจริง การเรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์ และผู้เช่ียวชาญ ท�ำให้เราสามารถรู้จริงในเร่ืองน้ันๆ การรู้จักรับผิดชอบต่อหน้าท่ีของตนเองที่ได้รับมอบหมาย ได้เรียนรวู้ ิธีรบั มือกับปญั หา และแรงกดดนั ตา่ งๆ ซึ่งมนั ท�ำใหเ้ รารวู้ า่ โลกของการท�ำงานจรงิ ๆ มันไมง่ านอย่างทเี่ ราคดิ ไว้ เตรียมตัวอย่างไรบ้าง ในบทบาทของ จป. วัยทีน : จรงิ ๆ ในชว่ งแรกทหี่ นเู รม่ิ ทำ� งาน มหี ลายอยา่ งทตี่ อ้ งเตรยี มเลยคะ่ อยา่ งแรกเลยคอื เตรยี มรา่ งกายและจติ ใจของเราใหพ้ รอ้ มในการทำ� งานคะ่ ตอ่ มาคอื ศกึ ษาขอ้ มลู ของสถานประกอบการ โครงสร้างองค์กร นโยบายขององค์กร และรายละเอียดเก่ียวกับงานด้านความปลอดภัย ที่สถานประกอบการปฏิบัติอยู่ เพื่อเราจะได้ทราบว่าองค์กรท่ีเราจะท�ำงานด้วย มีวิสัยทัศน์ และนโยบายอยา่ งไรบา้ ง สง่ิ สำ� คญั คอื การทบทวนขอ้ กฎหมายและมาตรการดา้ นความปลอดภยั ต่างๆ เพื่อใหส้ อดคล้องกับสถานประกอบ หากมีข้อก�ำหนดไหนไมส่ อดคลอ้ งตามขอ้ กฎหมาย ก็น�ำมาจัดท�ำเป็นแผนงานความปลอดภัย และเสนอให้นายจ้างเซ็นอนุมัติ นอกจากเรื่องของ กฎหมายซ่ึงเป็นสิ่งส�ำคัญของจป. แล้วน้ัน อีกหนึ่งส่ิงที่ส�ำคัญก็คือ การติดต่อสื่อสาร การประสานงานกับแผนก หรือหน่วยงานอื่นๆในสถานประกอบการ เพ่ือด�ำเนินกิจกรรม หรอื การบรหิ าร จดั การด้านความปลอดภัย ดังนนั้ เราจะต้องมีความกล้าแสดงออก และมน่ั ใจ ทจ่ี ะพดู คยุ สอ่ื สาร กบั พนกั งานในแผนกอน่ื ๆ เพอ่ื ใหท้ กุ คนมสี ว่ นรว่ มในงานดา้ นความปลอดภยั คะ่ รวมทั้งการวางแผน คิด หรือริเริ่มกิจกรรม หรือระบบงานด้านความปลอดภัย เพ่ือปลูกฝัง ใหพ้ นกั งานมจี ติ สำ� นกึ และการตระหนกั เกย่ี วกบั ความปลอดภยั เพราะเรอ่ื งของความปลอดภยั เป็นเรื่องของทุกคนค่ะ ไม่ใช่เรื่องของจป. เพียงคนเดียวเท่าน้ัน สิ่งท่ีหนูกล่าวมาท้ังหมด อาจจะเป็นแค่บางส่วน แต่เช่ือว่าถ้าเรามีการเตรียมตัวที่ดี ต่อให้เจองานท่ียากขนาดไหน เรากจ็ ะประสบความสำ� เร็จในงานคะ่ 44

เมื่อท�ำงานในฐานะ จป. วิชาชีพ มีการบริหารจัดการองค์กรอย่างไรบ้าง เพื่อให้เกดิ ความปลอดภยั เมื่อได้มาท�ำงานในฐานะจป. วิชาชีพแล้ว ส่ิงท่ีส�ำคัญเลยก็คงเป็นในเร่ืองของ กฎหมายอย่างที่กล่าวไปข้างต้นค่ะ ต่อมาหนูก็เรียนรู้ระบบด้านความปลอดภัยของ สถานประกอบการท่ีปฏิบัติอยู่ อย่างเช่น โรงงานท่ีเคยท�ำงานมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เราก็พยายามศึกษาว่าสาเหตุท่ีท�ำให้เกิดอุบัติเหตุมันเกิดจากอะไร พอเราทราบสาเหตุ ก็น�ำมาสู่มาตรการป้องกันไม่ให้เกิดซ�ำอ้ ีก รวมท้ังการจัดกิจกรรมให้พนักงานมีส่วนร่วม ในเรอื่ งของความปลอดภยั เชน่ การเขยี นรายงานเหตกุ ารณท์ เี่ ปน็ การกระทำ� หรอื สภาพการณ์ ทไี่ มป่ ลอดภยั ในชว่ งเวลาทพี่ นกั งานทำ� งานอยู่ และเขามวี ธิ กี ารแกไ้ ขสง่ิ ทไี่ มป่ ลอดภยั เหลา่ นนั้ อย่างไรบ้าง ซ่ึงสิ่งน้ีท�ำให้หนูเข้าใจสภาพหน้างานมาย่ิงขึ้น บ้างครั้งแนวทางการแก้ไข ท่ีพนักงานเขียนมามันก็เป็นสิ่งท่ีทั้งเราเอง หรือหัวหน้างานอาจจะมองไม่เห็น ซ่ึงมันเป็น กระบวนการหนึ่งที่ท�ำให้พนักงานมีส่วนร่วม และแสดงความคิดเห็นในการแก้ปัญหา มันจะท�ำให้เขามีความภูมิใจ รู้สึกตัวเองมีความส�ำคัญที่จะท�ำให้เขามีส่วนร่วมในงานด้าน ความปลอดภัย และมีก�ำลังใจในการท�ำงานมากยิ่งข้ึน รวมทั้งการจัดอบรมพัฒนาความรู้ ด้านความปลอดภัยให้กับพนักงาน ในเร่ืองที่เกี่ยวข้องกับการท�ำงาน ให้เขาเป็นผู้รู้จริง ในเร่ืองนั้นๆ และสามารถถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้อ่ืนได้ด้วย อย่างท่ีกล่าวไปข้างต้นว่า งานดา้ นความปลอดภยั ไมใ่ ชง่ านของจป. หรอื ใครคนใดคนหนงึ่ แตม่ นั เปน็ เรอื่ งของทกุ คนคะ่ ถา้ เราสามารถทำ� ใหเ้ ขาเหน็ วา่ เขามคี วามสำ� คญั ในระบบดา้ นความปลอดภยั หนเู ชอ่ื วา่ มน่ั วา่ จะทำ� ใหร้ ะบบดา้ นความปลอดภัยของสถานประกอบน้ันย่งั ยืนแน่นอนค่ะ ผลงานดเี ดน่ /เกยี รตปิ ระวัติ/รางวลั ท่ีเคยได้รับในการท�ำงาน: - รางวัลรองชนะเลิศอันดับ2 Chevron Safety campaign sesson1 Topic “Line of fire” - พี่เลีย้ งนกั ศกึ ษาสหกจิ ศกึ ษา บรษิ ทั โออิชิ ฟ้ดู เซอรว์ ิส จำ� กัด - ผนู้ �ำเชยี รส์ �ำนักวิชาสาธารณสขุ ศาสตร์ การแข่งขันกฬี าภายในมหาวิทยาลยั ประวตั เิ ขา้ ร่วมโครงการ อบรม/สัมนาต่างๆทผี่ ่านมา - ความปลอดภยั ในการทำ� งานในทอี่ บั อากาศ ส�ำหรบั ผคู้ วบคมุ - คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ� งาน - ISO 45001:2018 Internal Audit - ISO 45001:2018 Requirement and Interpretation - BOSIET (Basic Offshore Safety Induction and Emergency Training) - Advanced first aid - Lifting and Rigging training - Working at height and rescue at height - DROP object training - Fire watch training 45

ความภาคภูมิใจสงู ในการทำ� งาน หรอื ความภมู ิใจในบทบาท จป. วิชาชพี ส่ิงที่ภูมิใจสูงสุดในการท�ำงาน คือ การได้ท�ำงานตามความฝันท่ีเราเคยวาดไว้ค่ะ น้ันก็คือการได้ท�ำงานOffshore ซ่ึงมันเป็นสิ่งท่ี ยากมากส�ำหรับหนู และด้วยความท่ีเราเป็นผู้หญิงจึงมีข้อจ�ำกัดหลายๆ อย่าง รวมท้ังประสบการณ์การท�ำงานของเราท่ียังน้อยอยู่จึงท�ำให้ ยากมากๆส�ำหรับการท�ำงานOffshore แต่หนูก็ได้รับโอกาสน้ันจากบริษัท Emas (EEST)ได้ท�ำงานเป็น HSE officer ประจ�ำ Riglass เกีย่ วกับงาน P&A operation ใหก้ บั บรษิ ัท chevron ซึ่งเป็นโอกาสทด่ี มี ากทรี่ ว่ มงานกบั บริษัทที่มีระบบดา้ นความปลอดภัยทด่ี ี ทำ� ให้เรา ได้เปิดโลกกว้าง และเรียนรู้อุตสาหกรรมเก่ียวกับการผลิตน�ำ้มันและแก๊สธรรมชาติ รวมท้ังการได้น�ำความรู้เกี่ยวกับด้านความปลอดภัย มาใชจ้ ริงกับหน้างาน การเปน็ ผู้นำ� ด้านความปลอดภัยเปน็ สงิ่ ที่ท�ำให้หนูมคี วามภมู ใิ จในบทบาทจป. วชิ าชพี คะ่ สุดท้ายอยากให้ฝากถึงน้องๆนสิ ติ นักศึกษาทกี่ ำ� ลงั ศึกษาในสาขาทเ่ี กีย่ วขอ้ ง กอ่ นจะเปน็ (วา่ ท่)ี จป. ในอนาคต : ฝากถึงน้องๆ ที่ก�ำลังเรียนอยู่ในสาขาที่เกี่ยวข้องทุกคนนะคะ พ่ีอยากให้น้องๆตั้งเป้าหมายของเราให้ชัดเจนค่ะว่าเราอยากจะท�ำ หรอื เปน็ อะไร แลว้ ลงมอื ทำ� ตามเปา้ หมายทเ่ี ราวางไวค้ ะ่ พเ่ี ชอ่ื วา่ สดุ ทา้ ยแลว้ การไดม้ าซง่ึ ความสำ� เรจ็ ของเปา้ หมายทเี่ ราวางไวม้ นั จะเปน็ สงิ่ ที่ จะท�ำให้เรามีแรงผลักดันที่จะท�ำความส�ำเร็จในข้ันต่อไป ตอนน้ีหลายๆคนอาจจะยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร หรือจะท�ำอะไรในอนาคต ลองเปดิ ใจกบั สง่ิ ทเี่ รากำ� ลงั เรยี นอยู่ คน้ หาสง่ิ ทเี่ ปน็ ตวั เราถา้ พบแลว้ กล็ ยุ เลยคะ่ อยา่ กลวั และเครยี ดกบั สง่ิ ทยี่ งั มาไมถ่ งึ ขอใหท้ ำ� ทกุ วนั ใหด้ ที ส่ี ดุ คะ่ การท�ำกิจกรรมต่างๆ ของมหาลัย ถ้ามีโอกาสพ่ีอยากให้น้องๆ เข้าร่วม เพราะตัวกิจกรรมจะเป็นตัวส่งเสริมให้เราสามารถเข้ากับผู้อื่น และสังคมได้ดีเลยค่ะ ส�ำหรับสายงานด้านความปลอดภัยมีหลากหลายให้น้องๆ ได้ท�ำ และเรียนรู้อีกมาก ขอแค่เราเปิดใจ เพราะสายงาน ของเรามที ง้ั รนุ่ พ่ี อาจารย์ เพอ่ื นๆ และเครอื ขา่ ยดา้ นความปลอดภยั ทจี่ ะใหค้ ำ� แนะนำ� กบั เราไดใ้ นอนาคตในฐานะจป. วชิ าชพี พข่ี อเปน็ กำ� ลงั ใจ ให้น้องๆ ทุกคนท่ีก�ำลังเรียนอยู่ตอนน้ีนะคะ พี่รู้ว่ามันหนัก และเหน่ือยมาก ขอแค่เราต้ังใจ อดทน ต่อสู้ให้เต็มท่ี และวันที่เราส�ำเร็จ จะเป็นวนั ทีเ่ รา และครอบครวั ภูมิใจท่สี ดุ สู้ๆนะคะ นายกนกศกั ด์ิ อุพนั ทา : เรยี บเรยี ง 46

จป.หวั ขอ้ กบั การขบั เคล่ือน ความปลอดภยั ในงานกอ่ สร้าง เบญจมนิ ทร์ หม่ืนแสน ท่ีปรึกษาสถาบันส่งเสริมความปลอดภัยฯ 64 หากดูสถิติประเภทกิจการก่อสร้างของกองทุนเงินทดแทน โดยจ�ำแนกความรุนแรงและ หมวดประเภทกิจการปี พ.ศ. 2562 (ข้อมูลสถิติกองทุนเงินทดแทน ส�ำนักงานประกันสังคม) พบว่า งานก่อสรา้ งเป็นกจิ การทม่ี ีผเู้ สยี ชีวติ จากการท�ำงานมากทส่ี ดุ และหากดสู ถิตยิ อ้ นหลัง 10 ปี ท่ผี า่ นมา ก็จะพบอีกว่า งานก่อสร้างเป็นหน่ึงในกิจการท่ีมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุและรุนแรงสูงอยู่ใน ลำ� ดับต้นๆ เร่อื ยมา สรา้ งความสญู เสียในทุกมิติ ถึงแมง้ านกอ่ สรา้ งจะมีกฎหมายบงั คับอยา่ งชัดเจน ตวั อย่างเช่น กฎกระทรวงก�ำหนดมาตรฐาน ในการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยฯ พ.ศ. 2549 เป็นกฎหมายฉบับหน่ึงท่ีออกมาเพื่อให้นายจ้าง ไดต้ ระหนกั ถงึ ความปลอดภยั ในการทำ� งาน และคาดหวงั ใหส้ ถานประกอบกจิ การดำ� เนนิ การตามกฎหมาย อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพตามเจตนารมณ์ ซึ่งในตัวกฎหมายได้แบ่งประเภทกิจการหรือ สถานประกอบการ ทก่ี ำ� หนดใหม้ เี จา้ หนา้ ทค่ี วามปลอดภยั ในการทำ� งานและคณะกรรมการความปลอดภยั ฯ ของสถานประกอบกจิ การตามหลกั เกณฑ์ งานก่อสร้างเปน็ กิจการลำ� ดับ 3 ที่กฏหมายบงั คับ หากพดู ถงึ จป.สายงานก่อสร้างแล้ว ก็ต้องมีทักษะความรู้ความสามารถหลากหลายด้านพอสมควร และต้องเรียนรู้ ประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมในสถานประกอบกิจการท่ีตนเองปฏิบัติงาน รวมถึงต้องพัฒนาความรู้ใหม่ๆ 47

อยู่เสมอ พร้อมรับมือและแก้ปัญหากับสถานการณ์ในแต่ละวันท่ีมีการเปล่ียนแปลงอยู่ตลอดเวลา เช่น อันตราย ท่ีเปล่ียนไปและความเสี่ยงของสภาพแวดล้อมใหม่ๆท่ีเกิดขึ้น การใช้จิตวิทยาและการปรับตัวก็เป็นเรื่องส�ำคัญ และจำ� เปน็ ซ่ึงงานก่อสร้างมคี วามแตกตา่ งจากงานในโรงงาน ทีม่ กั มีกจิ กรรมการทำ� งานแบบประจ�ำ ซ้ำ� ๆ เดมิ ๆ มีระบบ ระเบียบค่อนข้างตายตัว ฉะน้ันจป.สายก่อสร้างเป็นสายงานที่ถือได้ว่าถ้าใครผ่านสายงานนี้มา ก็จะเป็น ผทู้ ม่ี ศี กั ยภาพรอบดา้ นในระดบั หนง่ึ เลยทเี ดยี ว แตส่ ง่ิ สำ� คญั อกี อยา่ งหนง่ึ คอื ตอ้ งคดิ วเิ คราะหง์ านความปลอดภยั อย่างเป็นระบบให้สมบูรณ์แบบมากท่ีสุด เสมือนการสร้างบ้านดีๆ สักหลังหนึ่ง จะต้องรู้ตั้งแต่การเตรียมงาน ทรัพยากรท่ีจะใช้ อันไหนท�ำก่อน-หลังและ อ่ืนๆ ที่ได้วางแผนไว้ เพ่ือให้ผลลัพธ์ออกมาตรงตามเป้าหมาย ที่ไดว้ างไว้ ดงั นั้นขอเสนอแนวคิด จป. กบั การขับเคล่อื นความปลอดภัยในงานกอ่ สรา้ ง โดยมีดงั ต่อไปนี้ 1. มีองค์ความรู้ด้านความปลอดภัยที่ถูกต้อง รอบด้าน มีความเข้าใจในงานอย่างถ่องแท้ โดยเฉพาะส่ิง ท่ีเก่ียวข้องสายอาชีพงานก่อสร้าง ทั้งคน เคร่ืองจักร และสภาพแวดล้อม เร่ิมต้ังแต่การเตรียมงานก่อนเร่ิมงาน กอ่ สรา้ ง ระหวา่ งกอ่ สรา้ ง จนถงึ สง่ มอบงาน สามารถอธบิ ายเสนอแนะทางเลอื กและวเิ คราะหใ์ หเ้ กดิ ความปลอดภยั ในการท�ำงานหลากหลายมุมมอง โดยใช้เหตแุ ละผล สามารถแกป้ ัญหาเฉพาะหน้าไดด้ ี 2. กระตุ้นการสร้างจิตส�ำนึก ทัศนคติ ด้านความปลอดภัยให้แก่องค์กรและพนักงาน สามารถช้ีให้เห็น สิ่งที่เกิดขึ้นเชิงบวกและเชิงลบ กระตุ้นให้พนักงานได้คิดถึงผลดีก่อนลงมือปฏิบัติงานและบอกถึงผลท่ีจะตามมา หากไม่ปฏบิ ตั ิ ท�ำให้เกดิ “วฒั นธรรมความปลอดภัย” ( Safety Culture) 3. ผลกั ดนั ใหเ้ กดิ ปฏบิ ตั ทิ ดี่ แี ละถกู ตอ้ งตามมาตรฐาน อยา่ งจรงิ จงั และสมำ�่ เสมอ รวมทง้ั ปรบั ปรงุ และควบคมุ ส่ิงท่ีเป็นความเส่ียงที่อาจเกิดขึ้น ประคับประคองส่ิงท่ีเป็นมาตรฐานที่ดี และชมเชยผู้ที่เป็นแบบอย่างปฏิบัติงาน ด้านความปลอดภัย เพ่ือเป็นก�ำลังใจ ใหท้ ุกคนหันมาปฏบิ ัติทีด่ ีอย่างยงั่ ยนื ภายในองค์กร นอกจากแนวคดิ ทไี่ ดก้ ลา่ วขา้ งตน้ แลว้ สง่ิ สำ� คญั จะตอ้ งอาศยั การสนบั สนนุ และสง่ เสรมิ ดา้ นความปลอดภยั จากนายจ้างและความร่วมมือภายในองค์กร เพ่ือให้เกิดความสมบูรณ์ขององค์ประกอบให้ได้ขับเคล่ือนไป ทั้งระบบ ท้ังหมดนี้ไม่เพ่ือคนใดคนหนึ่ง แต่เพ่ือทุกคนท่ีมาท�ำงานแล้วปลอดภัยและกลับบ้านไปหาครอบครัว ที่เขารักในทกุ ๆ วัน “จะมสี กั กี่อาชพี ในโลกท่ีต้องดแู ล และหว่ งใยคนแปลกหนา้ เหมอื นคนในครอบครวั และจะมอี าชพี ไหนบา้ งทท่ี ุก ๆ การท�ำงาน ยงั ไดส้ ร้างบุญเพ่ือชว่ ยเหลอื ชวี ติ ” ไม่ให้เกดิ การ บาดเจ็บ พิการและเสียชวี ติ 48

LกาiรfวtาiงnแผgนกPาlรaยกn ในงานกอ่ สรา้ ง รถปน้ั จน่ั หรอื รถเครน ทรี่ จู้ กั กนั ดจี ดั วา่ เปน็ เครอ่ื งจกั รอกี ชนดิ ทมี่ สี ว่ นสำ� คญั ในการใชง้ านทนุ่ แรง ยกวัสดุต่างๆ ท่ีมีน�้ำหนักมากๆ ได้เป็นอย่างดี และเป็นเครื่องจักรท่ีส่วนช่วยในการพัฒนาประเทศ ในอุตสาหกรรมกอ่ สร้าง รวมถึงประกอบติดตง้ั เคร่อื งจักร วัสดุ และอุปกรณต์ ่างๆเข้าด้วยกนั ท่ีผา่ นมา จะไดย้ นิ ข่าวอุบัตเิ หตุเกดิ ขึ้นอยู่บอ่ ยครงั้ เชน่ รถปัน้ จัน่ ล้ม ลวดสลงิ ของปัน้ จ่นั ขาด วัสดุที่ยกตกหล่นใส่ผู้คนและทรัพย์สิน เป็นต้น ซ่ึงมีผลให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหาย เปน็ จำ� นวนมาก และสาเหตุส�ำคัญอยา่ งหน่งึ ทก่ี ่อให้เกดิ อุบัตเิ หตุคอื “คน” หรือผูท้ ่ีปฏบิ ัติงานท่ียงั ขาด ความรคู้ วามเขา้ ใจในการใชง้ านรวมทงั้ ยงั ไมต่ ระหนกั เพยี งพอถงึ อนั ตรายทอ่ี าจเกดิ ขนึ้ จากการใชร้ ถปน้ั จน่ั ท่ไี มถ่ ูกตอ้ ง จงึ ขอน�ำเสนอ “การวางแผนการยก (Lifting Plan)” เบื้องต้น เพือ่ ช่วยให้ผู้ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง กบั การใชง้ านปน้ั จัน่ ได้ทราบการค�ำนวณการยกกอ่ นเร่มิ ปฏิบตั งิ านต่อไป 1. อนั ดบั แรกสำ� คญั ทสี่ ดุ ตอ้ งหาระยะยก B (ระยะทำ� งาน) บางทอี าจเรยี กวา่ Working radius ให้ไดก้ ่อน 49

2. หาระยะความสงู H (Lifting Hight) โดยวดั จากพน้ื ถึงปลายบูม ความสงู H = ความสงู จดุ ทีว่ าง + ความสงู ช้นิ งานและอปุ กรณ์ช่วยยก + ระยะเผ่อื 1 และ 2 ความสงู H = 12 m + 4 m + 4 m = 20 m 3. หาความยาวบูม เมอ่ื เรารู้ Working radius และ Lifting Hight 1 ท�ำเคร่อื งหมายท่ี Working radius 15 m 2 ท�ำเคร่ืองหมายท่ี Lifting Hight 20 m 3 ลากเส้นจากจดุ 1 และ 2 ไปพบกนั ซึง่ จะเห็นวา่ จุดที่ไดอ้ ยใู่ ต้สวงิ ของบมู ยาว 28.6 m 4 อา่ นคา่ ความยาวบมู 28.6 m 5 อ่านค่าองศาบมู โดยอา่ นค่าใกล้ทส่ี ูงกว่าตามเส้นประสเี หลืองได้ 50 องศา 50


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook