Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 90YearAniversary

90YearAniversary

Published by phuttharapong2526, 2015-12-21 23:43:19

Description: 90YearAniversary

Search

Read the Text Version

ภาพโดย ทีมภาพมุมสูงมหาสารคาม



อาศริ วาท สรวมชีพกราบบาทเบือ้ ง จอมไผท ชาวราชภฏั ถวายชัย กกึ ก้อง มวลชนร่วมแรงใจ เป็นหนงึ่ เปล่งสัททะเฉลมิ ซรอ้ ง แซใ่ หท้ รงพระเจรญิ พอ่ หลวงปวงราษฎรน์ อ้ ม ถวายพระนาม ของ หม่ชู าวสยาม เทดิ ไท้ แผ่น ภมู ิทกุ เขตคาม เข็ญขาด ส้ินเฮย ดิน เดือดทรงดบั ให้ เหือดดว้ ยเดชา นอ้ มเกลา้ น้อมกระหมอ่ มด้วย ภักดี ถวายบาทพระภูมี แกน่ หล้า ครบแปดสิบแปดปี วารประสูติ ทรงพระเจริญคฟู่ ้า ปกเกล้าชาวสยาม โสตถิเทอญฯ ด้วยเกลา้ ด้วยกระหมอ่ ม ขอเดชะข้าพระพทุ ธเจา้ รองศาสตราจารยส์ มชาย วงศ์เกษม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม (ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์พรชยั ศรสี ารคาม : ประพนั ธ)์ ๑๑ ธนั วาคม ๒๕๕๘



อาศริ วาท สยาม ทวยราษฏร์นอ้ ม สดุดี มกุฎ มง่ิ พระจกั รี อะเคอ้ื ราช วงศ์คปู่ ฐพ ี ไทยถ่นิ กมุ าร เทิดพระเกียรตเิ ก้อื ร่มเกลา้ ชาวอีสาน พระดวงมานราชเจ้า พบิ ูลย์พูน พระเอย ทรงคา่ คู่ไอศูรย ์ สฤษดฟ์ิ า้ ทรงงานสง่ บรบิ รู ณ์ ราชกิจ ทรงสถิตในฤทัยปวงขา้ ฯ ราชภัฏนอ้ มสดุดี ครบขวบปสี ูเ่ ก้า สิบปี พระเอย ราชภฏั ฉลองศรี เพริศแพร้ว เรืองรุง่ เลิศพระบารม ี ปกเกศ เจรญิ พฒั นก์ าจแกลว้ เสกสร้างคนดี สร้างคนดีสบู่ า้ น ผดงุ เมือง สรา้ งปราชญ์น�ำรุ่งเรือง อะคร้าว สรา้ งครูค่าประเทือง แดนถิ่น หลายสบื รนุ่ ล้�ำก้าว โอบเอ้อื สังคม ราษฏรช์ น่ื ชมมกฎุ เจา้ มนสั ชน พระเอย สยามมกฎุ ม่ิงธราดล เทดิ ไท้ พระทัยดจุ สายชล เยน็ ฉำ่� โลมราษฏร์ พระราชทานปริญญาให ้ พสกซอ้ งทรงพระเจรญิ ด้วยเกลา้ ดว้ ยกระหมอ่ ม ข้าพระพทุ ธเจ้ารองศาสตราจารย์สมชาย วงศเ์ กษม อธกิ ารบดมี หาวทิ ยาลยั ราชภฏั มหาสารคาม (ผู้ชว่ ยศาสตราจารยก์ ญั ญา บรุ ีรัตน์ : ประพันธ์) ๑๑ ธนั วาคม ๒๕๕๘

จิตรกรรมสีน้�ำมัน โดย อ.ศิริกุล วิชยานนท์

อาศริ วาท ราชภัฏกราบก้ม สดุดีราชกมุ ารี นอบน้อมขอพระราชทานมี การกจิพระอนญุ าตค้อม แด่ข้าฯ ถวายสักการ อาศริ วาทเจ้า กมุ ารีพระม่ิงวงศ์จกั ร ี เกริกฟ้าพระขวญั แหง่ บรุ ี เฉลิมพระเกยี รติพระร่มโพธป์ิ กหล้า ราชภฏั น้อมถวายพระพร เสดจ็ มาฉำ�่ แท้ เย็นไผท พระเอยปกเกศปกเกลา้ ไทย สร่างร้อนราชภฏั สำ� นึกใน พระ(กรณีย)กิจสารคามสืบย้อน รากเหงา้ ภมู ปิ ญั ญา ภมู ิปญั ญารากเหงา้ วิถไี ทย พระเอยควรค่าสบื ทอดไกล กว่ากา้ วจะสืบจะสานไป ทว่ั ถ่นิมรดกคา่ อะคร้าว กึกกอ้ งโลกา อญั เชญิ บุพไท้ กษัตรยิ า พระเอยทรงพระอวยพรพา สวสั ดแ์ิ ท้เอกพระเทพฯ สดุ า เฉลิมพระเกยี รติทรงพระเจริญแปล ้ ราชภฏั น้อมสดดุ ี ดว้ ยเกลา้ ด้วยกระหมอ่ ม ข้าพระพทุ ธเจา้ รองศาสตราจารยส์ มชาย วงศ์เกษม อธกิ ารบดมี หาวิทยาลัยราชภฏั มหาสารคาม (ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์กัญญา บุรรี ัตน์ : ประพนั ธ)์ ๑๑ ธนั วาคม ๒๕๕๘



๙ ทศวรรษ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ๒๑ ผู้บริหาร...น�ำสู่...มหาวิทยาลัยแห่งความเป็นเลิศ จาก...ก้าวแรก...จนถึง...ปัจจุบัน ตลอดระยะเวลา ๙๐ ปีมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามยังคง มุ่งมั่น พัฒนา ท้องถ่ินอย่างต่อเน่ืองเพื่อให้บรรลุเป้าหมายสูงสุดในการก้าวสู่มหาวิทยาลัย แห่งความเป็นเลิศ ทางวิชาการ ด้วยศาสตร์และศิลป์แห่งภูมิปัญญา น�ำพาสู่สากล

สัญลกั ษณค์ รบรอบ ๙๐ ปี มหาวิทยาลัยราชภฏั มหาสารคาม ตัวเลข ๙๐ : เป็นเลขไทยแทนความเป็นมหาวิทยาลัยไทยเพื่อความเป็นไท มีสีเขียว แดง สลับกันซึ่งเป็นสีประจ�ำมหาวิทยาลัยฯ มียอดหางปลายเลขเก้าแหลมขึ้นแทนความเป็นเลิศด้านวิชาการที่มีความก้าวหน้ามาโดยตลอดและเลขเก้าแทนความหมายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ที่มีพระมหากรุณาธิคุณอันล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาที่สุดมิได้ต่อชาวราชภัฏและเป็นศูนย์รวมใจของชาวไทยตลอดกาล ดอกจาน : แทนความเป็นมหาวิทยาลัยที่เป็นแหล่งวิชาการบริการแก่ชุมชนที่กลมเกลียวกัน ทั้งน้ีดอกจานยังเป็นดอกไม้ประจ�ำ มหาวิทยาลัยฯ ตัวหนังสือ : มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ๙๐ ปี สร้างคนดีให้สังคมแทนรากฐานความดีงามที่สร้างสรรค์ให้สังคมมากว่าเก้าสิบปีของสถาบันการศึกษาที่มีความมั่นคงในการพัฒนาการศึกษาอย่างต่อเน่ืองยาวนานและตลอดกาลโดยให้สีทองแทนความรุ่งเรืองความยิ่งใหญ่เป็นคุณค่าอมตะและเป็นนิรันดร์

สาร ดร.โชคชัย เดชอมรธัญ ในโอกาสที่มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามจะจัดงานเฉลิมฉลองเน่ืองในโอกาสครบรอบ ๙๐ ปี และได้จัดท�ำหนังสือท่ีระลึก“ครบรอบ ๙๐ ปี มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม” ผมขอส่งความปรารถนาดีมายังคณะผู้บริหาร คณาจารย์ ศิษย์เก่า นักศึกษาตลอดจนผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน ด้วยความเคารพรักยิ่ง จังหวัดมหาสารคามมีความโดดเด่นท่ีการเป็นเมืองแห่งการศึกษาจนได้รับสมญานามว่า “ตักสิลานคร” เนื่องจากมีสถาบันการศึกษาชั้นน�ำหลายแห่งและเปิดหลักสูตรการเรียนการสอนทุกระดับหลากหลายสาขาวิชาจนถึงระดับปริญญาเอก ซึ่งถือเป็นอีกหน่ึงแห่งความภาคภูมิใจของชาวจังหวัดมหาสารคาม มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม เป็นสถาบันการศึกษาที่เก่าแก่ท่ีสุดแห่งหนึ่งในจังหวัดมหาสารคามมีพันธกิจท่ีส�ำคัญในการผลิตบัณฑิตพัฒนาทางการศึกษาควบคู่กับการพัฒนาทางสังคม ดังน้ัน การจัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ ๙๐ ปี จึงเป็นกิจกรรมที่ไม่เพียงแต่ย้อนรอยอดีตให้อนุชนรุ่นหลังได้รู้จักและร�ำลึกพระคุณของมหาวิทยาลัยท่ีมีประวัติอันดีงามท่ียาวนานและทรงคุณค่าย่ิง แต่ยังเป็นส่ิงท่ีสะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการของสถาบันการศึกษา นับต้ังแต่เร่ิมก่อต้ังโรงเรียนประถมกสกิ รรม จวบจนเปลยี่ นแปลงสมู่ หาวทิ ยาลยั ราชภฏั มหาสารคามซง่ึ เปน็ การกา้ วสคู่ วามสำ� เรจ็ ในทกุ ดา้ น ดงั จะเหน็ ไดจ้ ากการพฒั นาเทคโนโลยีการศึกษาท่ีทันสมัย มุ่งสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการ สร้างบุคลากรท่ีมีคุณภาพออกไปรับใช้ประเทศชาติบ้านเมืองสมดั่งปณิธานของมหาวิทยาลัยท่ีว่า “วิชาการเป็นเลิศ ประเสริฐคุณธรรม น�ำชุมชนพัฒนา” อีกทั้งมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามยังมีบทบาทส�ำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวจังหวัดมหาสารคามและสนับสนุนการพัฒนาตามยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดมหาสารคามด้วยดีตลอดมา ผมขอแสดงความชน่ื ชมยนิ ดแี ละขอเปน็ กำ� ลงั ใจใหท้ า่ นคณะผบู้ รหิ ารมหาวทิ ยาลยั คณาจารย์ ศษิ ยเ์ กา่ นกั ศกึ ษา ตลอดจนผมู้ ีส่วนเก่ียวข้องทุกท่าน ขออ�ำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและส่ิงศักด์ิสิทธ์ิท้ังหลายตลอดจนพระบรมธาตุนาดูน พระพุทธกันทรวิชัยอภิสมัยธรรมนายก อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวจังหวัดมหาสารคามโปรดดลบันดาลประทานพร ให้ทุกท่านประสบแต่ความสุขความเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย มีพลังกายพลังใจในการพัฒนาสถาบันการศึกษาอันทรงคุณค่าแห่งน้ี ให้เจริญก้าวหน้าและสง่างามเคียงคู่จังหวัดมหาสารคามตลอดไป (นายโชคชัย เดชอมรธัญ) ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั มหาสารคาม

สาร ศาสตราจารย์ ดร.ปริญญา จินดาประเสริฐ ในโอกาสท่ีมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ได้ตั้งมาครบรอบ ๙๐ ปี ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ น้ี จึงมีการจัดงานเฉลิมฉลองเพื่อเป็นสิริมงคล และแสดงถึงความก้าวหน้าของมหาวิทยาลัย ในด้านต่างๆ ที่มีพัฒนาการอย่างต่อเน่ือง ทั้งด้าน การพัฒนาบุคลากรหลักสูตร การวิจัย และนวัตกรรมทางการศึกษาเพ่ือการพัฒนาท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างย่ิงการพัฒนาคมาาํ ตนรฐาํ านด้านการผลิตบัณฑิตใมนหสาาสขาารตค่าางมทๆี่น่าใภหา้เคปภ็นูมทิใ่ียจอเปม็นรอับยใน่างทยุก่ิงระดับทั้งในร๑ะด๘ับแชหาง ตพิแระลตระาานชมาบทนญั่ีสาภญชาาตั มตมิ หิหานาววับิททิ เยปยาา็นลลภัยยั ารรพาาชชสภภะัฏัฏทมพ้อห.นศาค.ส๒ุณา๕รภค๔าา๗พมสขไภอดางตมมรหหะาหาววนทิ ิทักยยถาลึางลอยั ําัรยนารชาาภจชฏัแภลมัฏะหหาสนาารทค่ีตาามมจคงึ วไาดมด ใาํ นเนมนิาตกรา ขอชื่นชมในความร่วมแรงร่วมใจของคณะผปู้บฏริบิหัตาิภรารคกิจณตาาจมาครวยา์มบในุคมลาาตกรรา ๑แ๘ล(ะ๒น)ักแศหึกงพษราะรทาี่ไชดบ้รัญ่วญมัตกิมันหพาัฒวิทนยาาลสยั รารชคภ์สฏั ร้าพง.ศ. ๒๕๔๗ ท่กี ําหนดใหส ภมทเปั้งห็นใานอวองิทคดย์กีตาลรแแัยลหจะ่งนปคปัจุณรจะุบภสันาบพทคทุกว่ีมทาีค่ามนวสรา�ำม่วเรมย็จม่ังใยือนืนรป่สวัจมืบจแตุบร่อันงไใปแนลกะาขรเรมอขราหอ่ืเับชชางกเิวญๆคาิทรลชกยใ่ือวไ็ดาดนนลในศยัพสมมิษันาํหอี ยนธาํา์เกักวนกงทิิจา่าาจขยนศแาอสลลิงษภยัะมยาเหหปม์ปนานหัจาวผาจทิทวอู ุบี่อิทยอันอยากกลากตกลัยฎลฎัยจรอรนะราดเสะชบจเ�ำภบยีนเฏัรบยีค็มจบปณหรชาปาะส่วจรกายาะารรกกศคยาันแาศ์ ลมสแแะ่งลจลขเึงะะสอ ไบขรดบอุคิมรงั บวคลมบังบัาหคกรสาับวราํ วมขหิทใขอรนยองบั มอาบสลหงงัว คัยคานวับ์กใรทิหารรยช้ ะากเลบาัยรยี หบแรปลอื ะหระอนกาว จายศมงอาแนบลนใะหนั้คสเาํ ปวส ในโอกาสน้ีขออ�ำนวยอวยพรให้ท่านท้ังหลายสภปารมะหสาบวคิทวยาามลเัยจรราิญชภกฏั ้าวมหนาส้าารมคีคาวมาปมรสะุขจาํ คปว พาม.ศเ.จ๒ริญ๕๕๕ทั้ง–ก๒าย๕ใ๕จ๖แลเพะส่อื ใตหิปท ัญกุ หญนาวยงาน คณาจารย บุคลาก ตลอดจนนักศกึ ษา หรอื บคุ คลที่เกี่ยวของไดรบั ทราบและบังเกิดประโยชน อนั จะนาํ ไปสกู ารปฏบิ ัตเิ พือ่ ใหเ กดิ กามีพลานามัยสมบูรณ์ ยั่งยืนตลอดไป ขบั เคลอื่ นพฒั นามหาวิทยาลัยสคู วามเปน เลิศในทางวิชาการตอ ไป (นศา(นาศยสาากตยสกสรตสาภรจภาาาจามรมาหยรหา์ยาวดวิทดริทรย.ยป.ปาารลรลิญัยญิยั รรญญาาาชาชภภจจัฏัฏินินมดมดหาหาปาปาสรสระาาะรเรสเคสคราริฐามิฐม) )

สาร ศาสตราจารย์ ดร.สายหยุด จ�ำปาทอง๙๐ ปีของมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ผมจ�ำได้ว่า เม่ือสถาบันราชภัฎมหาสารคามฉลองครบรอบหกสิบปี ผมได้รับเกียรติเข้าร่วมในงานฉลอง คร้ังนั้นด้วย สามสิบปีได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว และในช่วงสามสิบปีท่ีผ่านมาน้ัน สถาบันราชภัฏมหาสารคามเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วเช่นกันจนกลายเป็นมหาวิทยาลัยอันย่ิงใหญ่ เปิดสอนหลากหลายสาขาวิชาและให้โอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชน และประชาชนอย่างกว้างขวาง ในฐานะที่ผมรับราชการในสถาบันแห่งน้ีระหว่าง พ.ศ. ๒๕๐๕-๒๕๑๒ ซึ่งสถาบันแห่งน้ีมีสถานภาพเป็นโรงเรียนฝึกหัดครูมหาสารคาม และวิทยาลัยครูมหาสารคาม ผมมีความประทับใจอยู่หลายประการ ประการส�ำคัญที่สุด คือความมีน�้ำใจของชาวฝึกหัดครูมหาสารคาม (ครู อาจารย์) และชาวเมืองมหาสารคามที่มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างเมืองมหาสารคามให้เป็นเมืองตักสิลา และผมดีใจและปลมื้ ใจท่ชี าวมหาวิทยาลยั ราชภฏั มหาสารคามไดม้ สี ่วนสำ� คัญยง่ิ ในการสรา้ งเมอื งมหาสารคามจนเป็นเมืองตักสิลาได้อย่างภาคภูมิ ในวาระอันเป็นมงคลยิ่งนี้ผมขออันเชิญคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธ์ิคู่บ้านคู่เมืองมหาสารคาม จงคุ้มครองปกป้องชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามและพ่ีน้องชาวเมืองมหาสารคามเพ่ือช่วยกันสร้างมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามและเมืองมหาสารคามให้ย่ิงใหญ่ตลอดไป (ศาสตราจารย์ ดร.สายหยดุ จ�ำปาทอง) นายกสภามหาวทิ ยาลยั ราชภัฏจันทรเกษม ผอู้ ำ� นวยการวทิ ยาลัยครูมหาสารคาม (พ.ศ. ๒๕๑๐-๒๕๑๒) อธิบดีกรมการฝึกหัดครู (พ.ศ. ๒๕๑๙ และ ๒๕๒๙-๒๕๓๒)

สาร ดร.อรุณ ปรีดีดิลกจากโรงเรยี น...ส.ู่ ..มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏมหาสารคามของชาวมหาวิทยาลยั ราชภัฏมหาสารคาม ถา้ ยอ้ นกลบั ไปมองอดตี เมอื่ ๙๐ ปที ผ่ี า่ นมา สถานศกึ ษาแหง่ นถี้ อื กำ� เนดิ ขนึ้ ในชอ่ื โรงเรยี นฝกึ หดั ครมู หาสารคาม แตป่ จั จบุ นั ชอ่ืมหาวิทยาลยั ราชภฏั มหาสารคาม คนริเริม่ และกอ่ ตงั้ อาจจะไมค่ าดหวงั ว่าโรงเรยี นฝกึ หัดครแู หง่ น้ีจะพัฒนา มาเป็นมหาวิทยาลัย ชื่อนีน้ �ำมาซ่งึ ความภาคภูมิใจของทุกคนท่ีมสี ว่ นเกี่ยวข้องทงั้ ในอดีตและปัจจุบนั รวมทงั้ สังคมแวดล้อมทว่ั ไปด้วย เมอื่ พดู ถงึ โรงเรยี นทกุ คนรแู้ ละเขา้ ใจตรงกนั วา่ เปน็ สถานทเ่ี รยี นขนาดเลก็ มจี ำ� นวนผเู้ รยี นไมม่ ากแตถ่ า้ พดู ถงึ มหาวทิ ยาลยั ยอ่ มเป็นท่ีเขา้ ใจเช่นกันว่าเปน็ แหล่งรวมผรู้ แู้ ละผ้เู รียนจำ� นวนมาก และเป็นที่อย่ขู องสรรพวชิ านานาชนดิ ดงั นัน้ สถานภาพของโรงเรยี นกบัมหาวิทยาลยั จึงแตกตา่ งกนั มาก ดังน้ันเมื่อโรงเรียน....เปลี่ยนสถานภาพเป็น.....วิทยาลัยครู......สถาบันราชภัฏซ่ึงเป็นนามพระราชทาน และเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามถือว่าเป็นความส�ำเร็จของการพัฒนาสถาบันท่ีท�ำมาอย่างต่อเน่ืองแต่เราคงไม่พึงพอใจกับความส�ำเร็จอยู่เพียงเท่าน้ี เราอยากเหน็ ความส�ำเรจ็ ที่ย่งิ ใหญม่ ากข้นึ ในอนาคตใช่หรือไม่ จงึ มสี ิง่ ท่คี วรพจิ ารณาตอ่ ไปวา่ องค์ประกอบภายในมหาวทิ ยาลยั แหง่ น้ี ซ่งึ ไดแ้ ก่ ภารกจิ การผลิตบณั ฑิต การพัฒนาวชิ าการ การวจิ ยั และอื่น ๆ มีการพฒั นาไปในทศิ ทางทมี่ คี ณุ ค่าสูงขึ้นตามสถานภาพของมหาวิทยาลัยหรือไม่ส่ิงเหล่าน้ีน่าจะเป็นข้อค�ำถามท่ีสมาชิกขององค์กรทุกคนจะต้องน�ำมาคิด ใคร่ครวญ และประเมินองค์กรของตนเอง อย่าให้ ๙๐ ปีสูญเปล่าไปกบั เวลาทล่ี ่วงเลยมา แต่ ๙๐ ปีของผรู้ ู้ สะสมชือ่ เสียง และมคี วามพร้อมในการท�ำหนา้ ทขี่ ององคก์ ร สถานศกึ ษาแหง่ นเ้ี คยมชี อื่ เสยี งในฐานะโรงเรยี นฝกึ หดั ครชู นบทนำ� รอ่ ง หนว่ ยทดสอบโครงการเดก็ เลก็ ของ UNESCOความเดน่ ดังดา้ นกฬี า และวนั น้ีครอบรอบ ๙๐ ปี น่าจะมีอะไรทคี่ วรแก่การภาคภมู ิใจและเป็นที่หวงั ของสังคม ขา้ พเจ้าในฐานะท่ีเคยเป็นผบู้ ริหารสถาบนั แห่งนไ้ี ด้ร่วมทกุ ข์ร่วมสุขกบั อาจารย์ นักศกึ ษา คนงาน และประชาชนช่วยกนั ทำ� งานด้วยความเสียสละ มุ่งมั่นและอุทิศตนพัฒนาสถานศึกษาแห่งน้ีมาระยะเวลาหนึ่งในอดีต ซึ่งผลของการพัฒนาเป็นท่ีประจักษ์และเป็นรากฐานสำ� คัญทสี่ ง่ ผลการปจั จุบนั จงึ อยากจะฝากขอ้ คิดคำ� นึงใหส้ มาชกิ องคก์ รแห่งน้ไี ดน้ ำ� ไปคิดว่าจรงิ หรือไม่ และจะช่วยกนั ทำ� อยา่ งไรต่อไปในอนาคต คอื “การเปลีย่ นแปลงสถานภาพจากโรงเรียน...ส.ู่ ..มหาวิทยาลยั ราชภัฏมหาสารคามไมม่ คี วามยุ่งยากล�ำบากใจเท่ากบัการที่จะปฏิบตั ภิ ารกิจผลิตบณั ฑติ ผลติ วิชาการ สร้างผลงานใหเ้ หมาะสมกบั นามมหาวทิ ยาลยั ” ในโอกาสท่สี ถานศึกษาแห่งนพี้ ฒั นามาครบ ๙๐ ปี ก็ขอวงิ วอนใหส้ ่งิ ที่ดี ๆ ทง้ั หลายช่วยสนบั สนนุ ให้สถานศกึ ษาแห่งน้ี พัฒนารับใช้สังคมเป็นมหาวิทยาลัยที่สมบูรณ์แบบ และขออ�ำนวยพรให้สมาชิกขององค์กร จงมีแต่ความเจริญ มีพลานามัยเข้มแข็งร่วมกันพฒั นามหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามตอ่ ไป (ดร.อรุณ ปรีดีดิลก) ผู้อ�ำนวยการวิทยาลัยครูมหาสารคาม (พ.ศ. ๒๕๑๒-๒๕๑๗)

สาร รองศาสตราจารย์ประกอบ ระกิติเฉลิมฉลอง ๙๐ ปี แห่งความส�ำเร็จและความภาคภูมิใจของชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ครบรอบ ๙๐ ปีของการก่อต้ังสถาบันแห่งน้ีเกิดจากการพัฒนาอย่างต่อเน่ืองแม้จะต้องใช้เวลายาวนานถึง ๙ ทศวรรษบ่งบอกถึงความความมุ่งม่ัน อุตสาหะ ของอดีตคณาจารย์ บุคลากรทางการศึกษาท้ังอดีตและปัจจุบัน ที่อุทิศตนให้สถาบันของเรา ก้าวไปสู่สถาบันการศึกษาระดับแนวหน้าของประเทศ ๙๐ ปี จึงเท่ากับว่า สถาบันของเราได้บรรลุความเป็นเลิศทางวิชาการในระดับหนึ่ง ผมในฐานะท่ีเคยเป็นผู้บริหาร เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๗ - ๒๕๑๙ ขอแสดงความยินดี อดีตผู้บริหารและคณาจารย์ตลอดจนบุคลากรทางการศึกษา ศิษย์เก่าของสถาบันแห่งน้ี ชาวพี่น้องมหาสารคาม คงจะมีความปิติเช่นเดียวกัน อีก ๑๐ ปี ก็จะครบรอบ หน่ึงศตวรรษ พวกเราคงมีงานเฉลิมฉลองคร้ังย่ิงใหญ่อีกครั้ง ขอเป็นก�ำลังใจให้ผู้บริหาร คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา ได้รวมใจกันพัฒนาสถาบันให้ก้าวหน้าด่ังปรารถนาต่อไป (รองศาสตราจารย์ ประกอบ ระกิติ) ผู้อ�ำนวยการวิทยาลัยครูมหาสารคาม (พ.ศ. ๒๕๑๗-๒๕๑๙)

สาร รองศาสตราจารย์ ดร.ประหยัด ลักษณะงาม ผมอยู่ท่ีวิทยาลัยครูมหาสารคาม ๘ ปี ได้รับความร่วมมือในการท�ำงานทุกอย่างจากคณาจารย์และบุคลากร ทุกฝ่าย ท�ำให้ปฏิบัติงานต่าง ๆ ตามภารกิจของสถาบันได้ผลเป็นท่ีน่าพอใจทุกด้าน จึงขอโอกาสบอกเล่าไว้ในโอกาสนี้คือ จัดงานมรดกอีสาน คร้ังท่ี ๓ (๑๕ - ๑๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๑) และคร้ังที่ ๔ (๗ - ๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๒๒) เป็นงานส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมท้องถ่ิน ที่ได้รับความสนใจและเป็นต้นแบบของงานแสดงทางวัฒนธรรมท่ีจัดข้ึนภายหลังงานนี้ได้รับงบสนับสนุนจาก ททท. และ สวช. ต่อจากผู้บริหารคนก่อน จัดต้ังศูนย์ศิลปวัฒนธรรมข้ึนเป็นครั้งแรก ๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๒ จัดท�ำโครงการรวบรวมและปริวรรตหนังสือผูกใบลานในพ้ืนท่ีภาคอีสาน โดยได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิโตโยต้า ๓ ปี เป็นเงินงบประมาณ ๑,๒๐๐,๐๐๐ บาท ในด้านวิชาการ ได้น�ำวิชาคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้งานด้านต่างๆ และเปิดสอนสาขาวิชาชีพอ่ืนในคณะวิชาวิทยาการจัดการข้ึนเป็นครั้งแรก ได้เปิดสอนและอบรมครูประจ�ำการ อ.ค.ป. ขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. ๒๕๒๒ และได้เปิดศูนย์ อ.ค.ป. นอกวิทยาลัยที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ส่งเสริมการท�ำผลงานวิชาการแก่คณาจารย์ และตนเองได้ท�ำผลงานวิชาการในระดับ รองศาสตราจารย์ ได้ศึกษาปริญญาเอกในระบบการศึกษาทางไกล กับมหาวิทยาลัยเคนซิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ในสาขาวิชาบริหารการศึกษา ได้รับคัดเลือกให้เป็นประธานกลุ่มวิทยาลัยครูภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยได้ส่งเสริมด้านวิชาการ และงานวิจัย ฯลฯ ได้จัดท�ำโครงการความร่วมมือด้านวิชาการ และการวิจัย ฯลฯ กับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับกลุ่มวิทยาลัยครูในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น โครงการพัฒนาจิตเพ่ือส่งเสริมการปฏิบัติธรรม เพ่ือให้เกิดสติ และสมาธิ ๒ คร้ัง โดยเชิญคุณแม่สิริกรินชัย และคณะเป็นวิทยากร รวมถึงจัดให้มีการท�ำบุญตักบาตรทุกวันอาทิตย์ในช่วงเข้าพรรษาเพ่ือเปิดโอกาสให้คณาจารย์ได้มีโอกาสท�ำบุญจนกลายเป็นงานประเพณีของมหาวิทยาลัย โครงการท�ำพจนานุกรมอีสาน - กลาง ฉบับ มข. - สวอ. ร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น

เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๕ ผมมีโอกาสมาเยือนมหาวิทยาลัยแห่งน้ีรู้สึกชื่นชมยินดีท่ีมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม เจริญก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด ได้พัฒนาอาคารสถานท่ี บุคลากรและหลักสูตร โดยเปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล จนถึงดุษฎีบัณฑิต ออกไปรับใช้สังคม ชาติบ้านเมืองท้ังภาครัฐและเอกชน สร้างชื่อเสียงและสะท้อนให้เห็นถึงความสัมฤทธ์ิผล สมดังปณิธานมหาวิทยาลัยที่ว่า“วิชาการเป็นเลิศ ประเสริฐคุณธรรม น�ำชุมชนพัฒนา” ในโอกาสครบรอบ ๙๐ ปีน้ี ผมขออวยพรให้มหาวิทยาลัยแห่งน้ี รวมทั้งบุคลากรทุกท่าน จงประสบแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรืองในทุก ๆ ด้าน และเป็นแหล่งการศึกษาเพ่ือพัฒนาท้องถ่ินให้ยิ่งใหญ่ด้วยศาสตร์และศิลป์แห่งภูมิปัญญาให้ยั่งยืนตลอดไป (รองศาสตราจารย์ ดร.ประหยัด ลักษณะงาม) อธิการวิทยาลัยครูมหาสารคาม (พ.ศ. ๒๕๒๑-๒๕๒๘)

สาร ผู้ช่วยศาสตราจารย์ไพฑูรย์ เจริญพันธุวงศ์ มหาวิทยาลัยของเรา ได้พัฒนาการและก้าวหน้าด้วยความมั่นคง จากโรงเรียนประถมกสิกรรมและฝึกหัดครูช้ันต�่ำสู่โรงเรียนฝึกหัดครูมหาสารคาม วิทยาลัยครูมหาสารคาม และสถาบันราชภัฏมหาสารคาม จากปีน้ัน พ.ศ. ๒๔๖๘ ถึง ปีน้ี พ.ศ. ๒๕๕๘ ก็ครบ๙๐ ปีพอดี และเราก�ำลังจัดงานเฉลิมฉลองความส�ำเร็จ ผมได้มีโอกาสเป็นผู้บริหาร ในช่วงรอยต่อระหว่าง ความเป็น “วิทยาลัยครูมหาสารคาม” และ “สถาบันราชภัฏมหาสารคาม”จากปี พ.ศ. ๒๕๓๐-๒๕๔๑ รวม ๓ วาระ ได้ร่วมกับพวกเรา ผู้บริหารทุกระดับ คณาจารย์ บุคลากรทุกฝ่าย และนักศึกษาทุกคน ช่วยกันบริหารจัดการ ภายใต้ปณิธาน “วิชาการเป็นเลิศ ประเสริฐคุณธรรม และน�ำชุมชนพัฒนา” โดยยึดองค์ประกอบหลัก ๓ ประการคือ ๑. องค์ประกอบเชิงวิชาการ ๒. องค์ประกอบเชิงพฤติกรรม (บุคลากร) และ ๓. องค์ประกอบด้านสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นแนวทางในการบริหารจัดการและพยายามด�ำเนินการด้วยความเอาใจใส่รอบคอบเพื่อหวังให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล ท�ำให้สถาบันของเรามีความเจริญและก้าวหน้าในระดับท่ีพึงพอใจทุกด้าน เป็นการวางรากฐาน เพ่ือเป็นมหาวิทยาลัยท้องถิ่น ดังเช่นปัจจุบัน บัดน้ี พวกเราสามารถพูดได้ด้วยความภาคภูมิใจว่า มหาวิทยาลัยของเรา เป็น “มหาวิทยาลัยท้องถิ่น และอุทยานการศึกษาที่งามตา นักศึกษางามใจ วิชาการก้าวไกล เป็นที่ไว้วางใจและเชื่อถือของสังคม” ตามปณิธานดังกล่าวได้แล้ว อย่างไรก็ตาม การพัฒนามหาวิทยาลัยจะต้องไม่หยุดยั้ง เป้าหมายสุดท้ายท่ีจะต้องไปให้ถึง คือการเป็นมหาวิทยาลัยช้ันน�ำหรือมหาวิทยาลัยที่โดดเด่น และเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว ให้จงได้ การที่จะเป็นเช่นนี้ได้ ข้ึนอยู่กับผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากรทุกฝ่าย และนักศึกษาทุกคน จะต้องร่วมแรงร่วมใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่และเต็มความสามารถ จะต้องก้าวพ้น “การใช้ความรู้ท่ีขาดคุณธรรม ความสามารถท่ีขาดสติ การปฏิบัติงานที่ขาดศรัทธาและอุดมการณ์และการเป็นบุคคลท่ีขาดความกล้าอันชอบด้วยหลักการ” ขออ�ำนวยพรให้ท่านอธิการบดี คณะผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากรทุกฝ่าย และนักเรียน นักศึกษาทุกคนจงผนึกก�ำลังกันอย่างเหนียวแน่น สามารถน�ำพามหาวิทยาลัย และโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัย ให้มีความเจริญรุ่งเรือง เป็นท่ีพึ่งที่หมายของสังคมตลอดไป (ผู้ช่วยศาสตราจารย์ไพฑูรย์ เจริญพันธุวงศ์) อุปนายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม อธิการบดีสถาบันราชภัฏมหาสารคาม (พ.ศ. ๒๕๓๐-๒๕๔๑)

สาร รองศาสตราจารย์ ดร.สุวกิจ ศรีปัดถา“๙๐ ปี สร้างคนดีให้สังคม” มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม เป็นเสมือนส่ิงท่ีมีชีวิตที่ก�ำเนิดขึ้นในโลกน้ี เมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๘ มีการเจริญเติบโต มีการเปล่ียนแปลง ท้ังขนาด รูปร่าง บุคลิกภาพ ศักยภาพ ผลงาน คุณความดี ชื่อเสียงเกียรติยศ ตลอดจนความน่าเชื่อถือจากสังคมมาโดยตลอดต่อเน่ืองไม่ขาดสาย ความเปล่ียนแปลงของมหาวิทยาลัยจึงเปรียบเสมือนการเจริญเติบโต การเจริญงอกงาม และความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตของบุคคลคนหนึ่งด้วยเช่นกัน เกือบศตวรรษท่ีสถานศึกษาแห่งนี้ได้ให้ความรู้ อบรมบ่มเพาะ หล่อหลอมเยาวชนและประชาชนให้เป็นผู้รู้ ผู้รับผิดชอบผู้ให้ ผู้รับ อันเป็นคนดีของสังคมมาเป็นจ�ำนวนมากนับแสนคน นับเป็นภาระงานท่ีหนัก ยาก มีคุณค่าน่าภาคภูมิใจ ตลอดระยะเวลา ๙๐ ปีที่ผ่านมา สถานศึกษาแห่งน้ี มีแต่เจริญก้าวหน้า เติบโตอย่างมั่นคง เป็นแหล่งศึกษาอันเป็นศูนย์กลางของจังหวัดมหาสารคาม จากความเป็น “แหล่งพัฒนาภูมิปัญญา” น้ีเอง จึงมีส่วนอันส�ำคัญท่ีผลักดันให้ประชาชนท่ัวไปยอมรับว่ามหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม เป็นแหล่งให้ความรู้แก่คนในสังคม สมนามตักสิลานคร ท�ำให้เมืองมหาสารคามเป็นครูของชาวอีสานตอนกลางมาโดยตลอด แม้ว่ามหาวิทยาลัย (ดูเหมือน) มีชีวิตเช่นเดียวกับคน แต่มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามแตกต่างจากคนธรรมดาตรงท่ีมีแต่จะเจริญเติบโตไปเร่ือยๆ อาจจะมีอายุยืนยาวไปถึงหลายศตวรรษ โดยท�ำหน้าที่พัฒนาผู้คนให้แก่สังคมต่อเนื่องไปอย่างไม่ส้ินสุด ๙๐ ปี ถ้าเป็นคนก็นับว่าอายุยืน แต่ในฐานะมหาวิทยาลัยถือได้ว่าเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นเอง มหาวิทยาลัยยังจะรับใช้สังคมต่อไปอีกนานแสนนาน และคงจะมีศักยภาพสูง เป็นแหล่งภูมิปัญญาแก่ประชาชนช่ัวนิรันดร์ ในโอกาสท่ีมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม มีอายุถึง ๙๐ ปี ใน พ.ศ. ๒๕๕๘ น้ี ในฐานะสมาชิกของมหาวิทยาลัยที่เคยอยู่เคยเรียน เคยสอน เคยบริหาร และได้รับส่ิงดีงามจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้มาตลอดชีวิต จึงใคร่ขอแสดงความช่ืนชมยินดี ภาคภูมิใจต่อมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ในโอกาส “๙๐ ปีสร้างคนดีให้สังคม” ด้วยความจริงใจ และขอให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองตลอดกาลนาน (รองศาสตราจารย์ ดร.สุวกิจ ศรีปัดถา) นายกสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม อธิการบดีสถาบันราชภัฏมหาสารคาม (พ.ศ. ๒๕๔๑-๒๕๔๕)

สาร รองศาสตราจารย์ ดร.สมเจตน์ ภูศรีเนื่องในโอกาสเป็นปีที่เวียนบรรจบครบรอบ ๙๐ ปี มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามเป็นผลพวงของการเจริญเติบโตและมีความก้าวหน้ามาจากโรงเรียนวิทยาลัยครู สถาบันราชภัฏ และปัจจุบัน คือ มหาวิทยาลัยราชภัฏ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามได้ท�ำหน้าที่ของสถาบันอุดมศึกษาอย่างครบถ้วนในบทบาทของสถาบันอุดมศึกษาที่อ�ำนวยประโยชน์แก่ประชาชนในท้องถ่ินและประเทศชาติ ทั้งด้านวิชาการ การผลิตและพัฒนาก�ำลังคนในสาขาวิชาชีพอ่ืนๆ การศึกษาวิจัย การบริการวิชาการแก่สังคม การท�ำนุบ�ำรุงศิลปวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยมีปณิธานที่จะท�ำงานรับใช้ชาติ บ้านเมือง และประชาชนในท้องถ่ินเป็นสถานศึกษาท่ีให้โอกาสกับทุกคนตลอดมา มหาวทิ ยาลยั แหง่ นเ้ี จรญิ กา้ วหนา้ มาเปน็ ทปี่ ระจกั ษแ์ กป่ ระชาชนชาวไทยและชาวตา่ งประเทศโดยเฉพาะ ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอืยอมรบั ว่าเป็นมหาวทิ ยาลัยที่ทรงเกียรติ สง่างามมชี อื่ เสยี ง ด้านวิชาการ การบริหารจดั การ และการเผยแพรอ่ งคค์ วามรู้ใหมๆ่ ใหส้ ังคมโดยเฉพาะศิษย์เก่าทุกยุคทุกรุ่น ได้ไปท�ำหน้าที่เป็นก�ำลังส�ำคัญในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ ในต�ำแหน่งส�ำคัญๆ เช่นนักกฎหมาย นักบริหาร นักปกครอง อาชีพอิสระ และผู้น�ำทางด้านการศึกษา ก็เพราะความร่วมแรงร่วมใจรวมสติปัญญาของผู้น�ำ ผู้บริหารและบุคลากรทุกคน เป็นความภาคภูมิใจที่ได้ด�ำเนินการบริการวิชาการ จัดให้มีการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล จนถึงระดับดุษฎีบัณฑิต ท�ำหน้าท่ีผลิตบัณฑิตครู ผลิตบัณฑิต มหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิต ไปรับใช้สังคมเป็นจ�ำนวนมาก ดังนั้นเพ่ือธ�ำรงไว้ซ่ึงเกียรติศักด์ิศรีของมหาวิทยาลัยหวังว่าผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากรชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม จะได้ขับเคล่ือนความเป็นสถาบันอุดมศึกษา โดยการบริหาร ด�ำเนินงานเพ่ือให้เป็นไปตามคุณภาพมาตรฐานและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ภายใต้การผลิตบัณฑิตท่ีมีคุณภาพ ภายใต้การเรียนการสอนท่ีทันสมัยตามเกณฑ์มาตรฐานของชาติและสากล รวมท้ังเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและประชาคมโลกมีงานวิจัยและสร้างองค์ความรู้พร้อมพัฒนานวัตกรรมที่สร้างมูลค่าเพ่ิมหรือใช้ประโยชน์ให้ชุมชนและสังคมเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้และบริการแก่สังคมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นแหล่งรวมภูมิปัญญาท้องถ่ินไปใช้ประโยชน์อย่างย่ังยืนและผสมผสานวัฒนธรรมในระดับชาติและสากล ยกระดับการบริหารจัดการมหาวิทยาลัยตามหลักธรรมาภิบาลส่ิงส�ำคัญที่ต้องร่วมกันท�ำให้ได้คือส่งเสริมภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัยให้ได้รับการยอมรับจัดอันดับมหาวิทยาลัยและพัฒนาเป็นมหาวิทยาลัยในระดับสากล

ขอชื่นชมทุก ๆ ท่านที่มีส่วนร่วมส่งเสริมกิจกรรมท้ังมวลให้มหาวิทยาลัยก้าวหน้าตลอดมา จากอดีตจนถึงปัจจุบันและหวังต่อไปในอนาคต ขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธ์ิท้ังหลาย จงปกปักรักษาให้นักศึกษา คณาจารย์และบุคลากรเจ้าหน้าที่ทุก ๆ ฝ่ายที่ผ่านมาและปัจจุบันจงมีแต่ความสุข ความเจริญ มีจิตใจมุ่งมั่นที่จะรักษา พัฒนามหาวิทยาลัยให้เจริญรุ่งเรือง สามารถน�ำพาสังคมท้องถ่ินและประเทศชาติให้วัฒนาสถาพรสืบไป (รองศาสตราจารย์ ดร.สมเจตน์ ภูศรี) นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม (พ.ศ. ๒๕๔๕-๒๕๕๖)

สาร รองศาสตราจารย์ สมชาย วงศ์เกษม มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม : “๙๐ ปี สร้างคนดีให้สังคม” มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามมีวิวัฒนาการจากโรงเรียนประถมกสิกรรม เม่ือ พ.ศ. ๒๔๖๘ พัฒนามาเป็นโรงเรียนฝึกหัดครู วิทยาลัยครู สถาบันราชภัฏ และมหาวิทยาลัยราชภัฏ ตามล�ำดับ โดยก�ำเนิดมาพร้อมกับการขยายการศึกษาสู่ปวงชนจากกรุงเทพฯ มายังภูมิภาคต่างจังหวัด ท่ีจัดการศึกษาสอดคล้องกับภูมิสังคมที่ประชาชนประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลักของคนไทย วิวัฒน์มาอย่างค่อยเป็นค่อยไปเกือบครึ่งศตวรรษจวบจนหลังสงครามโลกคร้ังท่ี ๒ (พ.ศ. ๒๔๘๘) ประเทศไทยจึงปรับระบบการศึกษาจากระบบยุโรป (อังกฤษ) เป็นระบบแบบสหรัฐอเมริกามากข้ึน โดยประเทศไทยพัฒนาประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ส่วนระบบการศึกษาประกาศใช้แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๓ มีการจัดท�ำแผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติคู่ขนานกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมากกว่า ๕ ทศวรรษแล้ว มาถึงปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ซ่ึงครบวงรอบ ๙๐ ปี มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามได้ “สร้างคนดีให้สังคม” มากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ คนแล้ว ในปี พ.ศ. ๒๕๐๕ ได้เปลี่ยนจากโรงเรียนฝึกหัดครูมาเป็นวิทยาลัยครูมหาสารคาม ยกระดับการจัดการศึกษาวิชาชีพครู (ป.กศ.)เป็นระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ป.กศ.ชั้นสูง) ท่ีเน้นการผลิตและพัฒนาครู จวบจน พ.ศ.๒๕๑๗ วิทยาลัยครูมหาสารคามได้จัดท�ำหลักสูตรระดับปริญญาตรีที่เน้นการศึกษาเพื่อการพัฒนาชนบท คุรศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และสังคมศึกษา เป็นหนึ่งในสิบเจ็ดวิทยาลัยครูที่เปิดสอนระดับปริญญาตรีทั่วประเทศคร้ังแรก และต่อมาจึงประกาศใช้พระราชบัญญัติวิทยาลัยครู พ.ศ. ๒๕๑๘ และในปี พ.ศ. ๒๕๒๑ ได้จัดโครงการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาโดยเปิดสอนตามโครงการอบรมครูและบุคลากรทางการศึกษาประจ�ำการ (โครงการ อ.ค.ป.) ท�ำให้การผลิตครูเพียงพอกับความต้องการของประเทศ ท่ีเน้นการพัฒนาครูให้มีสมรรถนะทางการจัดการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาการศึกษาและการพัฒนาชนบทของประเทศโดยองค์รวมนับเป็นประวัติศาสตร์ของวงการศึกษาไทย ที่ท�ำให้วิชาชีพครูเป็น “วิชาชีพชั้นสูง” พอเพียงและมีเกียรติภูมิเท่าเทียมกับวิชาชีพอื่น นับเป็นเกียรติ ความภาคภูมิใจ ที่คณาจารย์และบุคลากรวิทยาลัยครูมหาสารคาม สามารถมีส่วนส�ำคัญในการช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนครูในภูมิภาค และจังหวัดท่ีอยู่ห่างไกลจากศูนย์กลางการศึกษาท่ีกรุงเทพมหานคร เป็นก�ำลังส�ำคัญในการผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้บริหารการศึกษาประจ�ำการ ให้มีสมรรถนะทางวิชาชีพครูสูงขึ้นจนถึงระดับวิชาชีพช้ันสูง (Professional) ท่ีมีเกียรติภูมิสูงสุด

ประเทศไทยมีปัญหาในการบริหารจัดการและการพัฒนาประเทศท้ังท่ีมีจุดแข็งที่เป็นประเทศท่ีอุดมสมบูรณ์ ท้ังทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรมนุษย์ วัฒนธรรม การมีภูมิสังคมที่เหมาะสม เป็นศูนย์กลางของอาเซียน และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เม่ือการผลิตและพัฒนาครูส�ำเร็จในระดับหนึ่ง ด้วยน้�ำใจอันดีงามของชาววิทยาลัยครูจึงได้ท�ำหนังสือในการผลิตและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในสาขาวิชาการและวิชาชีพอื่นตาม พระราชบัญญัติวิทยาลัยครู (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๗ สามารถเปิดสอนหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต ศิลปศาสตรบัณฑิตและวิทยาศาสตรบัณฑิต ท่ีตอบสนองการพัฒนาประเทศทั้งภาคเกษตรกรรมการบริการ การบริหารจัดการ การบริหารธุรกิจ และการอุตสาหกรรม จวบจนวันท่ี ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชได้พระราชทานนาม “วิทยาลัยครู” เป็น “สถาบันราชภัฎ” ซ่ึงหมายถึงสถาบันท่ีเป็นคนของพระราชาและได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๓๘ ท�ำให้สถาบันราชภัฏมหาสารคาม สามารถเปิดสอนได้ทุกระดับปริญญาและสาขาวิชา จวบจนประกาศใช้พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๔๘ ส่งผลให้มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม “เป็นสถาบันอุดมศึกษาเพ่ือการพัฒนาท้องถิ่นที่สมบูรณ์” ท่ีมีส่วนร่วมท่ีส�ำคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ท้องถิ่นประเทศไทยโดยองค์รวม การพัฒนามหาวิทยาลัยมา ๙๐ ปี มหาวิทยาลัยได้สร้างองค์ความรู้ นวัตกรรมเทคโนโลยีเพ่ือการพัฒนาท้องถิ่น และประเทศมากกว่า ๑๐๐ หลักสูตร โดยคณาจารย์และบุคลากรเกือบ ๑,๒๐๐ คน มีพ้ืนท่ีใช้สอย ๕๑๒ ไร่ มอี าคารวสั ดุอปุ กรณ์ มูลค่า ๑,๖๒๕ ล้านบาท มีงบประมาณแผ่นดินปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ จ�ำนวน ๕๑๖ ล้านบาท งบประมาณเงินรายได้๕๘๑ ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วน ๔๗ : ๕๓ มีนักศึกษา ๒๑,๐๐๐ คน เป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี ๒๐,๐๐๐ คน บัณฑิตศึกษา๑,๐๐๐ คน นักเรียนโรงเรียนสาธิต ๑,๒๐๐ คน มีพื้นท่ีบริการในกลุ่มจังหวัด “ร้อยแก่นสารสินธุ์” ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภูมิภาคอาเซียน ที่มีประชากร ๖๐๐ ล้านคน บัดน้ีมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ได้พัฒนา “๙๐ ปีสร้างคนดีให้กับสังคม” มากกว่าหนึ่งแสนคนแล้วก้าวย่างต่อไปในศตวรรษที่ ๒๑ จะมุ่งเน้นการพัฒนาท้องถิ่นและภูมิภาคที่สมบูรณ์ และย่ังยืน อนาคตอยู่ท่ีชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม จะต้องร่วมมือกัน รวมพลัง ประชาคมชาวจังหวัดมหาสารคาม “ตักสิลานคร” ที่จะต้องมีส่วนร่วมคิดสร้างสรรค์ สร้างนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่สนองความต้องการของท้องถ่ิน ประเทศไทย ภูมิภาคอาเซียนและมวลมนุษยชาติ หวังเป็นอย่างยิ่งว่ามหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม จะเป็นส่วนส�ำคัญในการปฏิรูปการศึกษาไทย พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และปฏิรูปประเทศไทยให้อุดมสมบูรณ์ พอเพียง ยั่งยืนตลอดไป (รองศาสตราจารย์สมชาย วงศ์เกษม) อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม (พ.ศ. ๒๕๕๖-ปัจจุบัน)

คนของพระราชา ข้าของแผ่นดิน จากประถมกสิกรรมสู่ราชภัฏ (พ.ศ. ๒๔๖๘ - ๒๕๔๗)

เร่ิมความเป็น “มหาวิทยาลัย” (พ.ศ. ๒๕๔๘ - ๒๕๕๘) เข้าสู่ทศวรรษที่ ๑๐ คณะผู้จัดท�ำ



“คนของพระราชา ข้าของแผ่นดิน”ปณิธาน วิชาการเป็นเลิศ ประเสริฐคุณธรรม น�ำชุมชนพัฒนาวิสัยทัศน์ เป็นมหาวทิ ยาลัยช้ันน�ำ เน้นการมีส่วนรว่ มในการเสริมสรา้ งพลังปญั ญาของแผ่นดิน เพอื่ พัฒนาทอ้ งถนิ่ และภมู ิภาคตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงพันธกิจ ๑. แสวงหาความจริงเพ่ือความเป็นเลิศทางวิชาการบนพ้ืนฐานของภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย และภูมิปัญญาสากล ๒. ผลิตบณั ฑิตที่มีความรคู้ คู่ ุณธรรม สำ� นึกในความเป็นไทย มคี วามรักและผกู พันต่อท้องถ่นิ ทั้งสง่ เสรมิ การเรยี นรู้ตลอดชวี ติ ในชมุ ชน เพอ่ื ชว่ ยใหค้ นในทอ้ งถน่ิ รเู้ ทา่ ทนั การเปลยี่ นแปลง การผลติ บณั ฑติ ดงั กลา่ ว จะตอ้ งใหม้ จี ำ� นวนและคณุ ภาพสอดคล้องกบั แผนการผลติ บัณฑติ ของประเทศไทย ๓. เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในคุณค่า ความส�ำนึก และความภูมิใจในอัตลักษณ์ ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมของทอ้ งถิ่นและของชาติ ๔. เรยี นร้แู ละเสรมิ สรา้ งความเข้มแขง็ ของผู้น�ำชุมชน ผนู้ ำ� ศาสนาและนักการเมอื งทอ้ งถิ่นใหม้ ีจติ สำ� นึกประชาธปิ ไตยคุณธรรม จรยิ ธรรม และความสามารถในการบรหิ ารงานพฒั นาชุมชนและท้องถนิ่ เพอื่ ประโยชน์ของส่วนรวม ๕. เสริมสรา้ งความเขม้ แขง็ ของวชิ าชพี ครู ผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศกึ ษาใหม้ ีคุณภาพและมาตรฐานท่ีเหมาะสมกบั การเป็นวชิ าชีพชน้ั สงู ๖. ประสานใหเ้ กดิ การมสี ว่ นรว่ มและใหค้ วามรว่ มมอื ชว่ ยเหลอื เกอื้ กลู กนั ระหวา่ งมหาวทิ ยาลยั กบั ชมุ ชน องคก์ รปกครองท้องถิ่นและองคก์ รอน่ื ทง้ั ในประเทศและต่างประเทศ เพือ่ การพัฒนาทอ้ งถิ่น ๗. ศึกษาและแสวงหาแนวทางพัฒนาเทคโนโลยีพ้ืนบ้านและเทคโนโลยีสมัยใหม่ให้เหมาะสมกับการเรียนการสอนการด�ำรงชีวติ และการประกอบอาชพี ของคนในท้องถนิ่ รวมถงึ การแสวงหาแนวทางเพือ่ สง่ เสรมิ ให้เกดิ การจดั การ การบำ� รงุรกั ษา และการใชป้ ระโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ มอยา่ งสมดลุ และยงั่ ยนื ๘. ศึกษา วิจัย ส่งเสริมและสืบสานโครงการอันเน่ืองมาจากแนวพระราชด�ำริในการปฏิบัติภารกิจของมหาวิทยาลัยเพ่อื การพัฒนาท้องถน่ิ ๙. จัดระบบบรหิ ารจดั การทด่ี ีมคี ุณภาพมาตรฐาน

ตราและสัญลักษณ์มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั มหาสารคามตราประจ�ำโรงเรยี นฝึกหัดครู-วทิ ยาลัยครู ในปี พ.ศ. ๒๔๙๘ อาจารยป์ ระธาน จนั ทรเ์ จรญิ เปน็ ครใู หญไ่ ดพ้ จิ ารณา ตราประจำ� โรงเรียนฝกึ หัดครูมหาสารคามเห็นวา่ โรงเรียนควรมตี ราประจำ� โรงเรียนโดยเฉพาะ จงึ ได้ร่วมกับอาจารย์เรย่ี ม พ.ศ. ๒๔๙๘ - ๒๕๐๓อบุ ลเลศิ และอาจารยว์ ชิ ติ พรหมแสนวเิ ศษ คดิ ตราของโรงเรยี นขน้ึ ไดพ้ จิ ารณากันว่าโรงเรียนต้ังอยู่ทางทิศตะวันตกของตัวเมืองมหาสารคาม และทิศตะวัน ตราประจ�ำวิทยาลัยครมู หาสารคามตกนั้นมีเทวดารักษาอยู่ประจ�ำทิศองค์หนึ่งคือพระวรุณ เป็นเทพเจ้าแห่งความ พ.ศ. ๒๕๐๓-๒๕๓๗ยุติธรรม จึงได้ตกลงกันว่าให้ใช้พระวรุณเป็นตราของวิทยาลัย อาจารย์วิชิตพรหมแสนวิเศษ ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้เขียนแบบตราดังกล่าว ท่านจึงได้เอาแบบองค์พระวรุณมาจากภาพฝีพระหัตถ์ของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ แล้วเขียนวงกลมล้อมรอบ ลงไปนี้ตามแบบตราของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร พระวรณุ เปน็ เทพเจา้ แหง่ ความยตุ ธิ รรมและเกยี่ วขอ้ งกบั นำ�้ อนั หมายถงึความอดุ มสมบูรณ์ ชุ่มชื้น ลว้ นเปน็ ความหมายที่เป็นมงคลแกง่ านเกษตรกรรมจึงมีความสัมพันธ์สอดคล้องกับความเป็นมาของสถาบันการศึกษาแห่งนี้รองศาสตราจารย์สถาพร พันธุ์มณี ได้เล่าว่าราวปี พ.ศ. ๒๕๐๓ อาจารย์วิศาลศิวารัตน์ อาจารยใ์ หญใ่ นขณะนนั้ เปน็ ผคู้ ดิ คตปิ ระจำ� สถาบนั เปน็ ขอ้ ความบรรจุไวใ้ นวงกลมสว่ นลา่ งของตราประจำ� โรงเรยี น วา่ “ครคู อื ผยู้ กระดบั จติ ใจคนใหส้ งูขึน้ ” โดยไดม้ อบหมายให้อาจารย์หมวดภาษาไทยซึง่ มี ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยย์ ุบลธนสีลังกูร เป็นอาทิ แปลเป็นภาษาบาลี และได้หารือไปยังนายเสฐียรพงษ์วรรณปก ผูเ้ ปน็ เอตทัคคะด้านภาษาบาลี ตกลงใช้คำ� ว่า “ครชุ นํ อนสุ าสนตฺ ิ มานสุ ฺโส โหต”ิ สถาบนั ได้ใชต้ ราสัญลักษณ์น้ีมาจนถงึ ปี พ.ศ. ๒๕๓๗

ตราสถาบนั ราชภฏั มหาสารคาม ๑๔ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๓๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั พระราชทานนาม “สถาบันราชภฏั ” ใชแ้ ทนช่ือ “วทิ ยาลยั ครู” ทวั่ ประเทศ “ราชภฏั ” มีค�ำแปลว่า “คนของพระราชา หรือข้าราชการ” ๒๕ มกราคม ๒๕๓๘ ประกาศใช้ “พระราชบัญญตั สิ ถาบันราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๓๘” วทิ ยาลัยครทู ่ัวประเทศจึงกลายเปน็ สถาบนั ราชภฏั ตั้งแต่น้ันมา ๖ มีนาคม ๒๕๓๘ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั พระราชทาน “ตราพระราชลญั จกร” คอื ตราใช้ประทับเอกสารสว่ นพระองค์ ให้เป็นตราของสถาบันราชภฏั ท้งั๓๖ แห่ง รวมทงั้ ตราของสำ� นักงานสภาสถาบันราชภฏั พระเมตตาคุณ พระมหากรุณาธิคณุ เป็นล้นเกลา้ ลน้ กระหมอ่ ม ด้วยชื่อ “สถาบนั ราชภฏั ” ดว้ ยตราสญั ลกั ษณ์ท่ีไดอ้ ัญเชญิ มาจาก “ตราพระราชลัญจกร” คณาจารย์ ขา้ ราชการ นกั ศกึ ษา และเจา้ หนา้ ท่ีตา่ งมคี วามส�ำนึกจะมงุ่ มั่นผกู พันปฏบิ ัตหิ น้าที่ ดำ� เนนิ ตามรอยพระยคุ ลบาทแห่งพระผดู้ ำ� รงธรรม พระผูม้ ีพระราชจริยวัตรอันงดงามยง่ิ ทุกส่ิงล้วนเสรมิ สร้างเกอื้ กลู ประโยชนส์ ขุ แกพ่ สกนกิ รของพระองค์ ตราสถาบันราชภัฏมหาสารคาม สขี องตราสญั ลกั ษณ์ พ.ศ. ๒๕๓๘-๒๕๔๖ สีนำ้� เงนิ แทน สถาบนั พระมหากษัตริยผ์ ้ใู หก้ �ำเนดิ และพระราชทานนาม “สถาบันราชภัฏ”ตรามหาวทิ ยาลัยราชภฏั มหาสารคาม สีเขียว แทน แหลง่ ที่ตงั้ ของสถาบนั ฯ ๓๖ แห่งในแหลง่ ธรรมชาตแิ ละสิ่ง แวดลอ้ มที่สวยงาม ปี ๒๕๔๗ เปน็ ปที ช่ี าวสถาบนั ราชภฏั ท่ัวราชอาณาจักรตา่ งปลม้ื ปตี ยิ นิ ดี สีทอง แทน ความเจรญิ รุง่ เรืองทางภมู ปิ ัญญาและสำ� นกึ ในพระมหากรณุ าธคิ ณุ ลน้ เกล้าล้นกระหมอ่ มอกี วาระหนงึ่ เมอ่ื ไดร้ ับ สีส้ม แทน ความรุ่งเรืองของศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นท่ีก้าวไกลใน ๓๖แจง้ จากส�ำนักราชเลขาธิการ สำ� นกั พระราชวัง เม่อื วันพธุ ท่ี ๙ มถิ นุ ายน พ.ศ. สถาบัน ฯ๒๕๔๗ วา่ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ไดท้ รงลงพระปรมาภไิ ธยในรา่ งพระราช สีขาว แทน ความคิดอันบริสุทธ์ิของนักปราชญ์แห่งพระบาทสมเด็จบัญญตั มิ หาวิทยาลยั ราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๔๗ แลว้ ขณะน้สี �ำนกั เลขาธิการนายก พระเจา้ อย่หู วัรฐั มนตรไี ด้น�ำพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๔๗ ลงประกาศใน ตราราชภัฏ เป็นตราพระราชทานมีลักษณะเป็นรูปไข่ วงในคือพระราชกจิ จานุเบกษา ในวันจันทร์ท่ี ๑๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๗ และจะมผี ลบงั คบั ราชลญั จกรประจ�ำพระองค์รชั กาลที่ ๙ เป็นรปู พระทีน่ ่ังอฐั ทิศประกอบตวั จกั รใชใ้ นวันองั คารท่ี ๑๕ มถิ ุนายน ๒๕๔๗ ทำ� ใหเ้ กิดกิจกรรมส�ำคัญคือ กลางวงจักรมีอักขระเป็น อุ หรอื เลข ๙ รอบวงจกั รมรี ัศมเี ปลง่ ออกโดยรอบ “ชาว......ราชภัฏทั่วประเทศร่วมส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยจัด เหนอื จกั รเปน็ รปู เศวตฉตั รเจด็ ชนั้ ฉตั รตง้ั อยบู่ นพระทนี่ ง่ั อฐั ทศิ แปลความหมายพิธีถวายราชสดุดี ดังกระห่ึมไปทั่วประเทศ” ตราราชภัฏยังคงใช้เหมือนเดิม “ทรงมพี ระบรมเดชานุภาพในแผ่นดิน” ส่วนวงนอกเปน็ ชือ่ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏัเพยี งแตเ่ ปลยี่ นขอ้ ความในวงนอกรอบพระทน่ี งั่ อฐั ทศิ สว่ นบน เปน็ ชอ่ื ภาษาไทย ตามดว้ ยชื่อจังหวดั มหาสารคาม“มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม” วงนอกส่วนล่างเป็นช่ือภาษาอังกฤษ“RAJABHAT MAHA SARAKHAM UNIVERSITY” ตรามหาวทิ ยาลยั ราชภัฏมหาสารคาม พ.ศ. ๒๕๔๗ - ปัจจุบัน

สัญลกั ษณ์ของมหาวิทยาลยั ราชภฏั มหาสารคามธงประจำ� มหาวทิ ยาลัย ต้นไม้และดอกไม้ประจ�ำมหาวิทยาลัย ธงประจ�ำมหาวทิ ยาลยั ฯ เป็นสีเขยี วแดง ไม่ปรากฏหลักฐานแนช่ ดั ต้นจานและดอกจาน เป็นต้นไม้และดอกไม้ประจ�ำมหาวิทยาลัย ต้นวา่ มีมาตง้ั แต่เมือ่ ใด เขา้ ใจกนั ว่ามมี าตัง้ แต่แรกเลยทีเดียว สีเขียว หมายถึง จานเป็นไม้ยืนต้นในพวกพืชตระกูลถั่ว อยู่ในวงศ์ Famaily LAGUMINOSAความอุดมสมบรู ณ์ คงจะเกี่ยวเน่อื งกับความเป็นโรงเรียนประถมกสิกรรม มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Butea frondosa ต้นจานเกิดในเขตร้อนในเมืองไทยน่ันเอง ส่วนสแี ดง หมายถงึ ความกล้าหาญและความสามัคคี ในชว่ งก่อนพ.ศ. พบว่ามีต้นจานข้ึนอยู่ในป่าทั่ว ๆ ไป ตามที่ราบท่ีมีน้�ำท่วมถึง มีช่ือเรียกแตก๒๔๙๘ ธงประจ�ำวทิ ยาลยั ไม่มตี ราพระวรณุ อยกู่ ลางผนื ธง ต่างกันไปตามท้องถิ่น ภาคเหนือเรียก กวาว กว๋าว หรือก๋าว ภาคกลางเรียก ทองกวาว ทองธรรมชาติ ทองต้น ภาคใต้เรียก จอมทอง อีสานเรียก จาน ส่วนสปี ระจ�ำมหาวิทยาลัย ชื่อในภาษาอังกฤษก็มีหลายชื่อ เช่น Flame of the Forest, Bastard Teak, และ Bengal kino เราเรียกต้นไม้ประจ�ำมหาวิทยาลัยของเราว่า “จาน” ก็เพ่ือ สีประจำ� มหาวทิ ยาลยั ยังคงเป็นสเี ดมิ ของธงประจ�ำโรงเรยี นฝึกหัดครู เน้นความเป็นอีสาน เน้นพันธกิจและวัตถุประสงค์ของมหาวิทยาลัยในฐานะวทิ ยาลยั ครูและสถาบันราชภัฏท่ีใชม้ าโดยตลอด คอื สีเขียวและสแี ดง มหาวิทยาลัยอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น จานออกเสียงเหมือนจารย์ สเี ขียว : การเกษตร ความอดุ มสมบูรณข์ องแผ่นดินอนั เกดิ จาก ซึ่งหมายถึง ผู้ที่เคยบวชเรียนจนได้รับการยกย่องและผ่านพิธีเถราภิเษกทรัพยากรธรรมชาติและทรพั ยากรทีม่ นษุ ย์สรา้ งข้นึ (ฮดสรง) เปน็ ผทู้ ค่ี นเคารพนบั ถอื มคี วามรแู้ ละคณุ ธรรม เปน็ ครขู องคน ตน้ จาน และดอกจานจึงเป็นต้นไม้และดอกไม้ที่ท�ำให้เราร�ำลึกถึง ครูอาจารย์ และ สีแดง : ความกล้าหาญ ความคดิ และการกระทำ� เพือ่ เรมิ่ สง่ิ ทดี่ มี ี ร�ำลึกถึงอดีตของมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามคร้ังที่เป็นโรงเรียนประถมประโยชน์ต่อตนเองและผ้อู ืน่ กสิกรรม โรงเรียนฝึกหัดครู วิทยาลัยครูและสถาบันราชภัฏ ทั้งร�ำลึกถึงการ ก่อร่างสร้างตัวที่คนรุ่นต่าง ๆ ได้กระท�ำสืบต่อกันมาอย่างต่อเน่ือง พัฒนามา อย่างเป็นล�ำดับขั้นและมั่นคง แม้จะต้องเผชิญกับอุปสรรคปัญหาและความ เปล่ียนแปลงอันรวดเร็วของสังคมก็ตาม เสมือนต้นจานท่ีใช้เวลานานใน การสร้างความมั่นคงให้กับตนเอง มีความทนทานและปรับตัวให้อยู่กับ ทุกสภาพดินทุกสภาพอากาศ สามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างย่ังยืน สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ ทรงปลูกต้นจาน เมอื่ วันท่ี ๑๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๔๓สถานที่ปลกู : หนา้ อาคารเฉลิมพระเกยี รติ ๗๒ พรรษา (อาคาร ๑๕ ชนั้ )

สัญลักษณ์ครบรอบ ๘๐ ปี มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ตัวเลข ๘๐ : เป็นตัวเลขไทยแทนความหมายของมหาวิทยาลัยไทยเพื่อความเป็นไท มีสีเขียว-แดง เป็นพ้ืนและเงาของตัวเลขที่เป็นสีประจ�ำมหาวิทยาลัยฯ ตัวเลขโน้มเอียงไปทางขวาแทนการพัฒนาและการขับเคล่ือนไปข้างหน้า ภายในเลขศูนย์อัญเชิญตราพระราชลัญจกร ซึ่งเป็นตราประจ�ำมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม แทนความหมายสถาบันการศึกษาท่ีส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีต่อชาวราชภัฏและเป็นศูนย์รวมใจของชาวไทยตลอดกาล ตัวหนังสือ : มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ซึ่งเป็นฐานแทนความหมายรากฐานของสถาบันการศึกษาที่มีความมั่นคง มั่งค่ังในการพัฒนาการศึกษาจากโรงเรียนพัฒนามาเป็นวิทยาลัยเปน็ สถาบนั และมหาวทิ ยาลยั ตามลำ� ดบั มาอยา่ งยาวนาน โดยใหส้ ดี ำ� แทนความหมาย ความยง่ิ ใหญ่เป็นอมตะและความเป็นนิรันดร์ สัญลักษณ์ครบรอบ ๗๐ ปี สถาบันราชภัฏมหาสารคาม สีเขียวแดง เป็นสีประจ�ำสถาบันราชภัฏมหาสารคาม การประสานทอกันเป็นลายจักสาน หมายถึง พลังแห่งความสามัคคีของบุคลากร ในสถาบันฯ ท่ีสอดประสานสัมพันธ์ให้เกิดความรู้และคุณธรรมเพื่อพัฒนาคนพัฒนาท้องถ่ินให้ เจริญก้าวหน้าสืบไป   สัญลักษณ์ครบรอบ ๖๐ ปี วิทยาลัยครูมหาสารคาม



จากประถมกสิกรรมสู่ราชภัฏ (พ.ศ. ๒๔๖๘ - ๒๕๔๗)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook