สารเสพติด ด.ช.อัจฉวิชญ์ เข็มทองเกิด ม.2-6 เลขที่ 43

สD า R ร เ U ส พG ติ ดS

คำนำ introduction หนังสืออิเล็กทรอนิกส์นี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา ว20228 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จัดขึ้นเพื่อใหัตระหนักถึง ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหา สังคมและมีผลกระทบโดยตรงตอทังตัวผู้ติด/ผู้เสพยาเสพติด ชุมชน สังคม และประเทศชาติ จึงทําให้รัฐบาลในทุกยุคทุก สมัยให้ความสําคัญและกําหนดเป็น วาระแห่งชาติ เพือแก้ไข ปัญหายาเสพติดและจะต้องควบคุม ป้องกัน และปราบปราม ปัญหายาเสพติด ซึงการแก้ไขปัญหายาเสพติดทีมุ่งเน้นตัวผู้ ติด ผู้เสพยาเสพติดทีเป็ นตัวการหลักในการใช้ยาเสพติดนัน ถือเป็นทางหนึงในการแก้ไขปัญหายาเสพติด

สารบัญ 1 contents 2 6 ยาเสพติดคืออะไร ประเภทของยาเสพติดตามผลต่อจิตประสาท 8 ประเภทของยาเสพติดตาม 9 พรบ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 10 สาเหตุที่ทำให้ติดยาเสพติด 12 โรคสมองติดยา เกร็ดน่ารู้กัญชา อ้างอิง

1 ยาเสพติด หมายความว่า สารเคมี หรือวัตถุชนิด ใดๆ ซึ่งเมื่อเสพเข้าสู่ร่างกายไม่ว่าจะโดยรับประทาน ดม สูบ ฉีด หรือด้วยประการใดๆ แล้ว ทำให้เกิดผลต่อ ร่างกายและจิตใจในลักษณะสำคัญเช่น ต้องเพิ่มขนาด การเสพเรื่อยๆ มีอาการถอนยาเมื่อขาดยามีความ ต้องการเสพทั้งทางร่างกายและจิตอย่างรุนแรงอยู่ ตลอดเวลาและสุขภาพโดยทั่วไปจะทรุดโทรมลง

2 มี 4 ชนิดคือ 1. สารกดประสาท - ทำให้สมองทำงานช้าลงใช้ปริมาณไม่มากจะง่วงซึม ถ้าใช้ปริมาณมากจะทำให้หมดสติ ทำให้อ่อนเเรง - เช่น ฝิ่นมอร์ฟีน เฮโรอีน ยานอนหลับ เครื่องดื่มมึนเมา สารระเหย ทินเนอร์ กาว

2.สารหลอนประสาท 3 -เกิดเสียง ภาพลวงตา กลิ่น สัมผัสที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง ถ้าเสพ ปริมาณไม่มากทําให้เพลิดเพลิน แต่เสพใน ปริมาณมากจะเกิด อาการมึนเมาและอาการหลอน - เช่น แอสเอลดี เห็ดขี้ควาย

3.สารกระตุ้นประสาท 4 -ทำให้ กระชุ่มกระชวย สมาธิดี ไม่หิวไม่เหนื่อย กระสับ กระส่าย ตื่นตระหนก หัวใจเต้นเร็วมาก อุณหภูมิร่างกาย สูงขึ้นมาก หวาดระแวง หูแว่ว หัวใจวาย ปริมาณมากจะเกิด อาการมึนเมาและอาการหลอน - เช่น แอมเฟตามีน ยาบ้า ยาอี กระท่อม โคเคน ยาไอซ์

4.สารออกฤทธิ์แบบผสมผสาน 5 -เป็นการออกฤทธิ์ ที่มีทั้ง กระตุ้นประสาท กดประสาท และหลอนประสาท - เช่น กัญชา

6 2.1)ยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ ๑ เป็นยาเสพติดชนิดร้ายเเรง ได้แก่ เฮโรอีน แอลเอสดี แอมเฟตามีน หรือ ยาบ้า ยาอีหรือยาเลิฟ 2.2) ยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ ๒ ยาเสพติดประเภท นี้สามารถนำมาใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ได้ แต่ต้องใช้ภายใต้การควบคุมของแพทย์และใช้เฉพาะ กรณีที่จำเป็นเท่านั้น ได้แก่ ฝิ่น มอร์ฟีน 2.3)ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 3 ที่มียาเสพติดประเภท 2 ผสมอยู่ เช่น ยาแก้ไอที่มีโคเดอีน เพทิดีน

7 2.4)ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 4 สาร เคมีที่ใช้ในการผลิตยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ ๑ หรือประเภทที่ ๒ ยาเสพ ติดประเภทนี้ไม่มีการนำมาใช้ประโยชน์ ในการบำบัดโรคแต่อย่างใด และมีบท ลงโทษกำกับไว้ด้วย เช่น อะเซติลคลอ ไรด์ 2.5) ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ยาเสพติดที่ไม่จัดอยู่ในประเภท 1 ถึง 4 เช่นพืชกัญชา พืชกระท่อม พืชฝิ่น พืชเห็ดขี้ ควาย

8 1.อยากลอง อยากรู้ อยากเห็น อยากสัมผัส ซึ่ง เป็นสัญชาตญาณ อย่างหนึ่งของมนุษย์ โดยคิด ว่า \"ไม่ติด\" แต่เมื่อลองเสพเข้าไปแล้วมักจะติด 2.ถูกเพื่อนชักชวน ส่วนใหญ่พบในกลุ่มเยาวชน ทเำพิต่มาหมัเวพืเ่รอื่อนงย่เอพยราะต้องการ การยอมรับจาก เพื่อนฝูง 3.ถูกหลอกลวงโดยอาศัยรูปแบบสีสันสวยงาม 4.ใช้เพื่อลดความเจ็บปวดทางกาย อันเนื่องมาจาก โรคภัยไข้เจ็บ จนเกิดการติดยา เพราะใช้เป็นประจำ 5. เกิดจากความคนอง และขาดสติยั้งคิด ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเป็น ยาเสพติด 6.ภาวะสิ่งแวดล้อมรอบตัว เอื้ออำนวยที่จะส่งเสริม

เกร็ดน่ารู้: โรคสมองติดยา 9 เพิ่มหัวเรื่องย่อย

10 เพิ่มหัวเรื่องย่อย กัญชา(Cannabis)เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่งในวงศ์ Cannabidace ใบมนแฉกลึกเข้าไปทางก้านหลายแฉก ดอกสีเขียว ช่อดอกเพศผูและ ช่อดอกเพศเมียอยู่ต่างต้นกัน มีฤทธิ์กระตุ้นประสาท กัญชามีสารออกฤทธิ์มากกว่า 400 ชนิด พบมาที่สุดคือ สารเเคนนา บินอยด์ (Cannabinoids) กัญชามีสารสำคัญ 2 ชนิดคือ เเคนนาบินอยด์ ทีเอสซีหรือเตตร้าแคนาบินอล (Cannabinoids) (THC) มีฤทธิ์ในการลกการอักเสบ ชักเกร็ง และยับยั้งการ มีฤทธิ์ต่อจิตประสาททำให้ เจริญเติบโตของเนื้องอก ผ่อนคลายนอนหลับ ลด อาการคลื่นไส้ อาเจียน กระตุ้นอยากอาหาร

11 เพิ่มหัวเรื่องย่อย

อ้างอิง 12 (refer) http://www.tamnop.go.th/news/d http://thaincd.com/document/file http://phichit1.go.th/web/UserFile https://www.bangkokbiznews.com เพิ่มหัวเรื่อ/งsย่oอยcial/1010817 https://th.wikipedia.org/wiki https://mnfda.fda.moph.go.th/nar cotic/?p=10195

THANK YOU STOP DRUGS เด็กชายอัจฉวิชญ์ เข็มทองเกิด ม.2/6 เลขที่ 43