Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การวาดภาพการ์ตูนพื้นฐาน

การวาดภาพการ์ตูนพื้นฐาน

Published by niyommusic, 2021-07-09 03:54:02

Description: การวาดภาพการ์ตูนพื้นฐาน

Search

Read the Text Version

การต์ นู พ้นื ฐาน สิงขร ภกั ดี คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั อดุ รธานี 2559

การต์ นู พน้ื ฐาน สิงขร ภกั ดี ศล.บ. (ทศั นศิลป์) คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏอดุ รธานี 2559

คำนำ ตาราการต์ นู พื้นฐานเล่มน้ี เพ่อื ใช้ประกอบการเรียนในรายวชิ า การต์ นู ศึกษา วชิ าการ ออกแบบนเิ ทศศิลป์ ๕ และวชิ า การ วาด ภาพประกอบ ทีข่ า้ พเจ้าได้ดาเนนิ การรวบรวมจาก แหลง่ ขอ้ มลู ที่หลากหลายและประสบการณ์ของผู้เขียน ตาราเล่มนเ้ี หมาะสาหรับมือใหมท่ ่ีกาลงั ฝึกฝน วาดการ์ตูน ยงั จะสนุกไปกบั การใชพ้ น้ื ฐานในการวาด โดยใช้เวลาไมน่ านนกั ตาราการ์ตูนพน้ื ฐาน เล่มน้ไี ม่แพต้ าราเล่มอ่ืน ผเู้ ขยี นไดใ้ ช้ประสบการณจ์ รงิ ในการวาดการต์ ูน ซอ้ื หัวเราะของสานักพิมพ์ ประชาชา่ ง จากดั วาดการ์ตนู เคลอ่ื นไหว เบ็น โบ๊ท บริษทั แก๊ก จากัด และวาดภาพประกอบ ต่างๆ ในการวาดประกอบอาชีพเป็นระยะเวลากวา่ 10 ปี ในเน้อื หาที่ผู้เขียนไดร้ วบรวม มา เพ่อื ให้ ผ้ศู กึ ษาฝกึ ฝนวาดการต์ นู ในเบอื้ งต้น ลกั ษณะงานท่มี ีความเขา้ ใจในเน้ือหา ซ่ึงมรี ปู แบบและข้นั ตอน เทคนิควธิ ีการต่างๆ ซึง่ ประกอบไปดว้ ย บทท่ี 1 บทนา ความหมายของการ์ตูน บทที่ 2 ประเภทของ การ์ตูน วสั ดุ อปุ กรณ์ บทท่ี 3 โครงสร้างลายเสน้ หลัก การวาดทศั นยี ภาพและการวาดการ์ตนู บทที่ 4 โครงสร้างสดั สว่ น การวาดการ์ตูนในแตล่ ะส่วน บทที่ 5 ขน้ั ตอนการวาดการ์ตูน บทที่ 6 ขั้นตอนการลงสีการ์ตูนด้วยคอมพวิ เตอร์ ตาราเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผทู้ ีศ่ ึกษาการต์ นู พื้นฐาน และเป็นข้อมลู พนื้ ฐานของ นักศึกษาทอ่ี อกแบบตวั ละครการ์ตนู ในการการสรา้ งการ์ตูนเคล่ือนไหวรวมถงึ ผทู้ ่สี นใจโดยทัว่ ไป ด้วย เทคนิควธิ กี ารวาดงา่ ยๆ ในหลักการภาคทฤษฎี นาไปปฏิบัตใิ หก้ ารต์ ูนโลดแล่นตามจินตนาการของผู้ วาด ตามความต้งั ใจของผลงานท่จี ะพฒั นาฝีมือให้ผ้ศู กึ ษาเป็นนกั วาดการ์ตูนมอื อาชพี ตอ่ ไป ข้าพเจา้ ขอขอบพระคณุ ครู อาจารย์ เพอ่ื นๆ พๆี่ น้องๆ และสถานประกอบการท่ี ให้ประสบการณต์ ลอดจนเจา้ ผลงานท้งั ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ที่ขา้ พเจ้าได้รวบรวมนามาเขียน เปน็ ตาราเล่มนีไ้ ด้สาเรจ็ ลุลว่ งเป็นอยา่ งดี หากผ้ทู น่ี าตาราเลม่ นีไ้ ปใช้ มขี อ้ เสนอแนะ ผู้เขียนยินดรี ับ ฟงั และขอขอบพระคณุ อยา่ งยงิ่ ในความอนเุ คราะห์ ณ โอกาสนี้ สงิ ขร ภักดี 2559



สำรบญั ค คานา หน้ำ สารบัญ ก สารบญั ภาพ ค บทท่ี 1 บทนา ช 1 ความหมายของการ์ตนู 1 การต์ นู 1 การต์ นู ภาพเดี่ยว 1 การ์ตนู ภาพตอ่ เนื่อง 2 นิยายภาพ 3 ภาพล้อเลียน 4 ท่มี าของการต์ นู ยโุ รป 6 ทีม่ าของการ์ตนู ญป่ี ุ่น 12 ท่มี าของการ์ตนู ไทย 14 สรปุ 20 บทที่ 2 ประเภทของการต์ ูน วสั ดุ อุปกรณ์ 21 ประเภทของการต์ ูน 21 การ์ตนู ล้อสังคม 21 การ์ตนู ล้อการเมอื ง 22 การต์ ูนโฆษณา 23 การต์ นู ประชาสมั พันธ์ 24 การต์ นู ล้อเลียน 25 การต์ ูนเรือ่ งยาว 26 ภาพยนตร์การต์ ูน 27 วสั ดุ อปุ กรณ์ 28 กระดาษ 29 ดินสอ 30 ยางลบ 31 ปากกา Art-Line หรือ ปากกาไมครอน 32 ปากกาคอแรง้ Kabura pen หรือ ปากกาหัวบวั 33 หมกึ ink 34 สีน้า 34 สีแสตมป์ 35

ง สำรบญั (ต่อ) บทที่ 3 พูก่ นั หนำ้ จานสี 36 ภาชนะใสน่ ้า 36 สไี ม้ 37 กลอ่ งไฟ 38 คอมพวิ เตอร์ 38 เครือ่ งสแกนเนอร์ 39 สรุป 40 โครงสรา้ งลายเสน้ หลกั การวาดทัศนยี ภาพและวาดการ์ตนู 40 โครงสร้างลายเสน้ 41 เสน้ ตรง 41 เสน้ โคง้ 42 เสน้ ตรงตดั กนั 42 เสน้ โคง้ ตัดกนั 43 เส้นหยักฟันปลา 43 เสน้ คดหรอื ขด 43 วงกลม 44 วงรี 44 สามเหลี่ยม 45 สเ่ี หลยี่ ม 45 รูปบดิ เบย้ี วและอสิ ระ 45 หลกั การวาดทศั นยี ภาพ 46 แบบจดุ รวมสายตา 1 จุด 46 แบบจุดรวมสายตา 2 จุด 47 แบบรวมจดุ สายตา 3 จุด 48 ระยะหน้า 49 ระยะกลาง 51 ระยะไกล 51 หลกั การวาดการ์ตนู 51 การร่างภาพ 51 แนวคดิ หรือแนวเร่อื ง 51 รูปรา่ ง 52 53

สำรบัญ (ตอ่ ) จ บทท่ี 4 รปู ทรง หน้ำ บทท่ี 5 รปู ทรงอสิ ระ 53 บทที่ 6 รูปทรงเรขาคณติ 53 รูปทรงทีส่ ร้างข้ึนใหม่ 54 การเลา่ เรอ่ื ง 54 อารมณ์ 55 การเนน้ 55 การเนน้ รายละเอยี ด 56 การเนน้ เสน้ รอบนอก 56 ความดลุ ยภาพ 56 จุดเดน่ 57 สรุป 58 โครงสรา้ งสดั ส่วนและการวาดการต์ นู ในแตล่ ะส่วน 59 โครงสรา้ งสัดส่วน 61 สัดส่วนการวาดการต์ ูน SD 61 การวาดการ์ตูนในแตล่ ะส่วน 64 สรปุ 69 ขั้นตอนการวาดการต์ ูน 81 ข้ันตอนการวาดดว้ ยปากกาคอแร้งบนกระดาษอารต์ มัน 83 ขน้ั ตอนการวาดดว้ ยเทคนคิ สนี ้าหรอื สแี สตมป์บนกระดาษปอนด์ 83 สรุป 92 ขั้นตอนการลงสกี ารต์ นู ดว้ ยคอมพวิ เตอร์ 102 สรปุ 103 123 บรรณานุกรม 125



ช สำรบัญภำพ หน้ำ 1 ภาพท่ี 1.1 การ์ตนู ภาพเดยี่ ว ผลงานของ สงิ ขร ภักดี 2 ภาพที่ 1.2 การ์ตนู ภาพตอ่ เนือ่ ง ผลงานของ สิงขร ภกั ดี 3 ภาพที่ 1.3 นยิ ายภาพ ผลงานของ พรชวี ินทร์ มลิพันธ์ุ 4 ภาพที่ 1.4 ภาพล้อเลยี น ผลงานของ สงิ ขร ภักดี ภาพที่ 1.5 “แมพ่ ระพรหมจารยี ์ พระกุมาร และนักบุญอนั นา\" 5 The Virgin and Child with Saint Anne ผลงานของเลโอนารโ์ ด ดา วินชี 6 ภาพที่ 1.6 ภาพจติ รกรรมฝาผนังบนเพดานในโบสถ์ซสิ ตีน The Sistine Chapel 7 ผลงานของไมเคลิ แอนเจโล (Michelangelo) 8 ภาพท่ี 1.7 แผน่ ภาพแสดงการประหารลอรด์ วลิ เลยี ม รสั เซล ในกรงุ ลอนดอน ปี ค.ศ. 9 1683 10 ภาพท่ี 1.8 ภาพแบบบลั ลนู ซ้ายและสปดี ไลนข์ วา ภาพท่ี 1.9 แผน่ ภาพแสดงใหเ้ หน็ การแสดงออกทางสีหน้าแบบตา่ งๆ 11 ซงึ่ อาจจะให้เขา้ ใจไดห้ ากไม่ไดอ้ า่ นคาบรรยายประกอบภาพ 12 ภาพท่ี 1.10 Marriage-a-la-mode ผลงานของวิลเลียม โฮการ์ท (William Hogarth) 13 ภาพที่ 1.11 การต์ นู ชอ่ งเดียวจบ Hot Pies ผลงานของจอห์น เทนนลี จากนติ ยสาร 13 15 Punch 15 ภาพที่ 1.12 เจ้าหนปู รมาณู (Astro Boy) 16 เร่ืองราวของการผจญภัยของเจ้าหนูหนุ่ ยนตท์ ่ีตอ่ สู้กบั เหล่ารา้ ย 17 ผลงานของเทะซกึ ะ โอซามุ (Tezuka Osamu) 18 ภาพที่ 1.13 Akira อากริ ะ คนไมใ่ ช่คน (1988) ผลงานของโอโตโมะ คตั ซึฮิโร่ 18 ภาพที่ 1.14 คอบร้าเหา่ ไฟสายฟา้ (Cobra) ผลงานของบอู ิจิ เทราซาว่า 19 ภาพที่ 1.15 ภาพล้อเจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธบิ ดี ฝพี ระหัตถ์รัชกาลท่ี 6 19 ภาพที่ 1.16 ปกหนังสอื พมิ พ์ “ดุสิตสมิต” 21 ภาพท่ี 1.17 ผลงานของเปลง่ ไตรปิ่น (ขนุ ปฏิภาคพิมพ์ลขิ ิต) 22 ภาพท่ี 1.18 ภาพลอ้ การเมอื งของขุนปฏิภาคพมิ พล์ ิขติ ซ้ายและ 23 ภาพแทรกในหนงั สอื อา่ นเล่นสาหรบั เยาวชน พ.ศ. 2480 ภาพท่ี 1.19 เหม เวชกร ภาพท่ี 1.20 ผลงานของเหม เวชกร ภาพท่ี 1.21 จุก เบี้ยวสกลุ ภาพท่ี 1.22 ผลงานของจกุ เบยี้ วสกลุ ภาพที่ 2.1 การต์ ูนลอ้ สงั คม ผลงานของ แอด๊ เดลินิวส์ ภาพที่ 2.2 การ์ตนู ลอ้ การเมอื ง ผลงานของ เซีย ไทยรัฐ ภาพท่ี 2.3 การ์ตนู โฆษณา ยางมิชลิน ผลงานของ มาริอุส โรซิลลอง

ซ สำรบัญภำพ (ต่อ) ภาพท่ี 2.4 การ์ตนู ประชาสมั พนั ธ์ การแขง่ ขนั กีฬาแหง่ ชาติ คร้งั ท่ี 45 หน้ำ ภาพท่ี 2.5 ผลงานของอนริ ทุ ธ์ เอมอิม่ ภาพที่ 2.6 การ์ตนู ลอ้ เลยี น ผลงานของ สิงขร ภกั ดี 24 ภาพที่ 2.7 การ์ตนู เร่อื งยาว ผลงานของ เหอจ้ือเหวิน 25 ภาพที่ 2.8 ภาพยนตรก์ ารต์ นู เรอ่ื ง คุณทองแดง 26 ภาพท่ี 2.9 ผลงานของ บรษิ ัท สหมงคลฟิลม์ อินเตอรเ์ นชนั่ แนล จากดั ภาพท่ี 2.10 กระดาษอาร์ตมัน กระดาษปอนด์ ผวิ เรยี บและขรุขระ 27 ภาพท่ี 2.11 ดนิ สอและนา้ หนักของดินสอ 29 ภาพท่ี 2.12 ยางลบชนิดออ่ นนุม่ 30 ภาพท่ี 2.13 ปากกา Art-Line หรือ ปากกาไมครอน 31 ภาพท่ี 2.14 ปากกาคอแร้ง 32 ภาพท่ี 2.15 สีหมกึ 33 ภาพที่ 2.16 สนี า้ แบบหลอดและตลับ 34 ภาพที่ 2.17 สกี ระดาษหรอื สแี สตมป์ 34 ภาพที่ 2.18 พกู่ นั สนี า้ หลากหลายเบอร์ 35 ภาพที่ 2.19 จานระบายสปี ระเภทต่างๆ 36 ภาพที่ 2.20 ภาชนะใสน่ ้า 37 ภาพท่ี 2.21 สีไม้ 37 ภาพท่ี 2.22 กลอ่ งไฟสาหรับการลอกลายเสน้ การ์ตูน 38 ภาพที่ 3.1 คอมพิวเตอร์สาหรับตกแต่งภาพ พรอ้ มโปรแกรม Adobe Photoshop 38 ภาพท่ี 3.2 เครอื่ งสแกนเนอร์ สาหรบั นาภาพรา่ งลายเสน้ เข้าส่คู อมพวิ เตอร์ 39 ภาพที่ 3.3 เสน้ ที่เกิดจากการลากด้วยปากกาเขียนแบบ 40 ภาพท่ี 3.4 เสน้ ท่เี กิดจากการลากด้วยปากกาคอแรง้ 41 ภาพท่ี 3.5 เส้นทเี่ กดิ จากการลากด้วยพูก่ นั 41 ภาพที่ 3.6 ฝกึ วาดเสน้ ตรง 42 ภาพท่ี 3.7 ฝึกวาดเส้นโค้ง 42 ภาพที่ 3.8 ฝกึ วาดเส้นตรงตัดกนั 42 ภาพท่ี 3.9 ฝึกวาดเส้นโค้งตัดกนั 43 ภาพที่ 3.10 ฝกึ วาดเส้นหยักฟนั ปลา 43 ภาพท่ี 3.11 ฝึกวาดเสน้ คดหรอื ขด 43 ภาพที่ 3.12 วงกลม 44 วงรี 44 สามเหล่ียม 45 45

ฌ สำรบัญภำพ (ต่อ) ภาพที่ 3.13 สเ่ี หล่ียม หน้ำ ภาพที่ 3.14 รูปบดิ เบีย้ วอิสระ 45 ภาพท่ี 3.15 การวาดภาพแบบรวมสายตา 1 จดุ 46 ภาพท่ี 3.16 ตวั อยา่ งภาพวาดแบบ 1 จุด 47 ภาพท่ี 3.17 การวาดภาพแบบจุดรวมสายตา 2 จดุ 47 ภาพท่ี 3.18 ตวั อยา่ งภาพวาดแบบ 2 จุด 48 ภาพท่ี 3.19 การวาดภาพแบบจดุ รวมสายตา 3 จุด ดูภาพด้านบน 48 ภาพท่ี 3.20 ตัวอยา่ งภาพวาดแบบ 3 จุด ดูภาพดา้ นบน 49 ภาพท่ี 3.21 การวาดภาพแบบจดุ รวมสายตา 3 จดุ ดูภาพด้านล่าง 49 ภาพท่ี 3.22 ตวั อย่างภาพวาดแบบ 3 จุด ดูภาพดา้ นลา่ ง 50 ภาพท่ี 3.23 โครงสรา้ งการร่างภาพรปู แบบอยา่ งครา่ วๆ 50 ภาพท่ี 3.24 วาดรูปจากโครงสร้างจากแรงบันดาลใจ ธรรมชาติและจินตนาการ 51 ภาพที่ 3.25 ภาพวาดรปู ร่าง 52 ภาพที่ 3.26 ภาพวาดรูปทรงอิสระ 52 ภาพที่ 3.27 ภาพวาดรูปทรงเรขาคณิต 53 ภาพที่ 3.28 ภาพวาดรปู ทรงทส่ี รา้ งขึ้นใหมต่ ามจินตนาการ 54 ภาพที่ 3.29 ภาพวาดการเลา่ เร่อื งราว 54 ภาพที่ 3.30 ภาพวาดการแสดงออกถึงอารมณแ์ ละความรู้สกึ 55 ภาพท่ี 3.31 การวาดเน้นรายละเอียดดว้ ยแสงเงา แบบ 3 มิติ และแบนเป็น 2 มิติ 55 ภาพท่ี 3.32 การวาดเน้นเส้นของรูปทรงตัวการต์ ูน 56 ภาพท่ี 3.33 การจัดภาพให้เกดิ ความสมดลุ 56 ภาพที่ 3.34 การจดั จุดเด่นของการ์ตนู ผลงานของ พรชวี นิ ทร์ มลพิ ันธุ์ 57 ภาพที่ 4.1 โครงสรา้ งสัดสว่ นผู้ชายคนจริง 58 ภาพที่ 4.2 โครงสรา้ งสัดสว่ นผหู้ ญิงคนจริง 61 ภาพที่ 4.3 โครงสรา้ งสดั ส่วนตามอายุเพอ่ื เปน็ เปน็ ประโยชนใ์ นการวาด 62 ภาพที่ 4.4 การวาดสัดส่วนของการ์ตนู SD 63 ภาพท่ี 4.5 การวาดการ์ตูนแบบ SD ด้วยแสงเงาทาให้เกดิ 3 มติ ิ 64 ภาพท่ี 4.6 แบง่ สัดส่วนตวั การต์ ูนทจ่ี ะวาดท้ังตวั 65 ภาพท่ี 4.7 วาดเค้าโครงศรี ษะใบหนา้ และสว่ นตา่ งๆ 65 ภาพที่ 4.8 วาดทรงผมและส่วนใบหน้าเปน็ ทต่ี ้องการใหช้ ัดเจน 66 ภาพที่ 4.9 วาดส่วนลาตัวใหช้ ัดเจน 66 ภาพที่ 4.10 วาดสว่ นทอนด้านลา่ งกางเกง ขา เทา้ ออกมา 67 ภาพที่ 4.11 ภาพรา่ งลายเสน้ ทส่ี มบูรณ์ 67 ภาพที่ 4.12 เก็บรายละเอยี ดส่วนต่างๆ และพร้อมแรเงาใหน้ า้ หนกั จนเสร็จสมบรู ณ์ 68 68

ญ ภาพท่ี 4.13 สำรบญั ภำพ (ต่อ) หน้ำ ภาพท่ี 4.14 69 ภาพที่ 4.15 ใบหน้าผชู้ าย 70 ภาพท่ี 4.16 ใบหนา้ ผูห้ ญงิ 71 ภาพท่ี 4.17 ดวงตา 1 72 ภาพท่ี 4.18 ดวงตา 2 73 ภาพที่ 4.19 ปาก 1 74 ภาพท่ี 4.20 ปาก 2 75 ภาพท่ี 4.21 มอื 1 76 ภาพที่ 4.22 มอื 2 77 ภาพที่ 4.23 เทา้ 78 ภาพที่ 4.24 เท้าที่ใส่รองเทา้ 79 ภาพที่ 5.1 หู 80 ภาพที่ 5.2 จมูก 83 ภาพที่ 5.3 การข้นึ โครงสร้างตัวการต์ นู ด้วยรปู ทรงเรขาคณติ ดว้ ยไสด้ ินสอสีฟา้ 84 ภาพท่ี 5.4 การวาดโครงสร้างตวั การต์ นู ในเบ้อื งตน้ ทัง้ หมดด้วยสดั สว่ นตา่ งๆ 85 ภาพท่ี 5.5 เค้าโครงของตัวการ์ตนู ที่เป็นรูปรา่ งเสรจ็ สมบูรณ์ด้วยลายเส้นสฟี า้ ภาพท่ี 5.6 นาปากกาคอแร้งจุม่ นา้ หมกึ อนิ เดยี อิงคส์ ดี า วาดตามลายเสน้ สฟี า้ ทร่ี ่างเค้า 86 ภาพท่ี 5.7 โครงไว้ ในส่วนหน้า 87 ภาพที่ 5.8 วาดตามลายเส้นสีฟ้าที่รา่ งเค้าโครงไวใ้ นสว่ นของตวั การต์ ูนท่อี ยสู่ ว่ นหลงั ภาพท่ี 5.9 วาดลายเส้นตามเค้าโครงและเกบ็ รายละเอียดในส่วนทผ่ี ้วู าดต้องการเพ่ิมเติม 88 ภาพที่ 5.10 ทงั้ หมด 89 ภาพที่ 5.11 การนาพู่กันเบอร์ 1-2 จุ่มหมกึ อินเดยี อิงคส์ ดี าลงในพื้นทต่ี ้องการลงดา 90 ภาพที่ 5.12 การนาปากกาเขียนแบบสดี ามาตัดลายเสน้ ลงในพื้นท่ีตอ้ งการ 91 ภาพท่ี 5.13 ผลงานวาดลายเสน้ ดว้ ยปากกาคอแรง้ บนกระดาษอาร์ตมันทเ่ี สร็จสมบรู ณ์ 92 ภาพที่ 5.14 วาดเค้าโครงตัวการ์ตูนด้วยโครงสรา้ งรูปทรงเรขาคณติ 92 ภาพท่ี 5.15 วาดโครงสรา้ งดว้ ยการแบง่ สัดสว่ นของตัวละครที่แสดงออกมาครา่ วๆ 93 ภาพท่ี 5.16 ภาพวาดลายเส้นดินสอที่มีรายละเอียดสมบรู ณ์ 94 นาปากกามาตัดเสน้ ตามลายเส้นดนิ สอทรี่ ่างไว้ดว้ ยหมึกท่ีกันนา้ ได้ ลายเส้นปากกา Art-Line หรอื ปากกาไมครอน ที่วาดตามลอยเค้าโครงรา่ ง 95 เส้นดนิ สอเสรจ็ สมบูรณต์ ามที่ต้องการ 96 ลบลายเสน้ ดินสอท่ีรา่ งไว้ในขน้ั ตน้ ออกใหห้ มดจนสะอาด ภาพวาดลายเส้นด้วยปากกา Art-Line หรอื ปากกาไมครอน ที่ตามลอยเคา้ 97 โครงร่างเส้นดินสอจนเสร็จสมบรู ณ

ฎ ภาพที่ 5.17 สำรบัญภำพ (ต่อ) หน้ำ ภาพท่ี 5.18 98 ภาพที่ 5.19 ระบายสีพนื้ ภาพรวม 99 ภาพที่ 5.20 ผลงานระบายสพี ื้นภาพรวม 100 ภาพที่ 6.1 ระบายสใี นส่วนตัวละครด้วยสีออ่ นๆ 101 ภาพที่ 6.2 ลงสีภาพวาดทงั้ หมดทเี่ นน้ ตวั ละครและฉากหลังจนแลว้ เสร็จสมบรู ณ์ 103 ภาพที่ 6.3 ภาพรา่ งลายเส้น ภาพท่ี 6.4 คดั ลอกและตัดเส้นด้วยดินสอหรือปากกา Art-Line หรือ ปากกาไมครอนตวั 104 ภาพท่ี 6.5 ละครทัง้ หมด 105 ภาพท่ี 6.6 คัดลอกฉากหลัง 106 ภาพท่ี 6.7 คัดลอกตัวละครและฉากหลังท่เี สร็จสมบรู ณ์ 106 ภาพท่ี 6.8 ลายเส้นที่สแกน 107 ภาพท่ี 6.9 ภาพที่ได้นาเขา้ มาโปรแกรม Adobe Photoshop 107 ภาพที่ 6.10 ภาพทท่ี าความสะอาดและปรับน้าหนักของเสน้ 108 ภาพที่ 6.11 ภาพที่ได้ปรบั เสรจ็ จะเหน็ ดสู ะอาดและลายเส้นตัวละครทชี่ ัดเจนขึน้ 109 ภาพที่ 6.12 ลงสีพนื้ ในส่วนพ้ืนผิวของตวั ละคร 1 109 ภาพที่ 6.13 ลงสพี ืน้ ในส่วนพนื้ ผวิ ของตวั ละคร 2 110 ภาพที่ 6.14 ลงสีพ้ืนในสว่ นพืน้ ผิวของตัวละคร 3 110 ภาพท่ี 6.15 ลงสีพ้ืนในส่วนพื้นผวิ ของตัวละครท้ังหมด 111 ภาพท่ี 6.16 ลงน้าหนกั ด้วยแอรบ์ รัชส่วนใบหน้าในข้นั ตอนแรก 111 ภาพท่ี 6.17 ลงนา้ หนักดว้ ยแอร์บรัชในสว่ นแขน ขา 112 ภาพท่ี 6.18 ลงนา้ หนักดว้ ยแอร์บรชั ในส่วนต่างๆ ของลาตัวทง้ั 112 ภาพท่ี 6.19 ลงนา้ หนกั ด้วยแอรบ์ รชั ส่วนประกอบต่างๆ 1 113 ภาพท่ี 6.20 ลงน้าหนักด้วยแอรบ์ รัชส่วนประกอบต่างๆ 2 113 ภาพที่ 6.21 ลงน้าหนกั ด้วยแอร์บรชั ส่วนประกอบต่างๆ 3 114 ภาพที่ 6.22 ลงนา้ หนักด้วยแอรบ์ รชั สว่ นประกอบต่างๆ 4 114 ภาพที่ 6.23 ลงน้าหนกั ดว้ ยแอร์บรชั Highlight ส่วนทเ่ี ป็นแสง 115 ภาพท่ี 6.24 เพิม่ Highlight สว่ นท่เี ป็นแสง เก็บรายละเอียดเลก็ ๆ นอ้ ยให้ดูมีมติ มิ ากขึ้น 115 ภาพท่ี 6.25 เกบ็ รายละเอยี ดสว่ นประกอบท้ังหมดให้เสร็จสมบูรณ์ 116 ภาพท่ี 6.26 ผลงานทเ่ี สร็จสมบรู ณ์ในส่วนตัวละคร 117 ภาพที่ 6.27 นาภาพวาดฉากหลงั เข้ามาในโปรแกรม Adobe Photoshop 117 ภาพท่ี 6.28 ลงสีฉากส่วนต้นไม้ในภาพรวม 118 ลงสีสว่ นทอ้ งฟ้า พน้ื ดนิ และเพม่ิ ในสว่ นพ่มุ ใบไม้ 118 เกบ็ รายละเอียดในส่วนตา่ งๆ ท่ตี ้องการให้สวยงาม 119 ภาพพืน้ ฉากหลงั ทต่ี กแตง่ สมบรู ณ์

ฏ สำรบัญภำพ (ต่อ) ภาพที่ 6.29 นาภาพตัวละครทล่ี งสีเสร็จสมบูรณ์ เขา้ มาในโปรแกรม Adobe หนำ้ ภาพที่ 6.30 Photoshop ภาพท่ี 6.31 ใช้เครือ่ งมอื Magic wand เพ่อื สร้างเสน้ Selection นาพน้ื สีขาวออก 120 ภาพที่ 6.32 การนาภาพตัวละครมาวางในภาพฉากหลงั เพอ่ื ตกแตง่ 120 ภาพที่ 6.33 จดั องค์ประกอบของภาพวาดการ์ตูนและตกแต่งในสว่ นต่างๆ 121 ผลงานท่ปี ระกอบรวมกันท่เี สรจ็ สมบูรณ์ 121 122

บทท่ี 1 บทนำ การต์ ูนเป็นสง่ิ ทพี่ บเห็นในสงั คมโลกมานาน ซึ่งเป็นภาษาสากล การ์ตูนมกี ารพัฒนา ตามยุคสมัยทม่ี ีการเปล่ยี นแปลงไปตามเวลา การวาดการ์ตูนเปน็ การใช้ทักษะพืน้ ฐานของศลิ ปะหลาย ดา้ นรวมกัน จากความคดิ ไปสกู่ ารวาดลงแผ่นกระดาษและพฒั นาสู่เทคโนโลยสี มัยใหม่เปน็ ข้นั เป็น ตอนในการวาดและจดั องคป์ ระกอบให้สวยงามตามเนื้อหา หลกั การสาคัญในการวาดการต์ ูนก็มที มี่ า ในการถ่ายทอดใหเ้ กดิ อารมณ์ในลกั ษณะต่างๆ ตามความหมายของการต์ นู อย่างต่อเนอื่ งตลอดมา ควำมหมำยของกำรต์ นู เมือ่ พดู ถงึ การต์ ูนแล้วเราจะนกึ ถึงภาพวาดที่เปน็ ลายเส้นเรียบง่าย ที่มุขตลกขาขันใน รูปแบบน่ารัก จบในหนา้ เดยี วจบ สามชอ่ งจบหรอื แนวนิยายสั้นยาวจบในเล่ม รวมถงึ การต์ นู โฆษณา ภาพยนตรต์ ่างๆ ตามบทบาทท่ผี ูว้ าดภาพวาดจากเนือ้ หาเรอื่ งราวพร้อมกบั ตัวการต์ นู ที่มีการออกแบบ ให้สวยงามตามเนอื้ เข้าเร่ืองน้ันๆ เพอ่ื ใหเ้ ขา้ ใจหลกั การออกแบบตัวการ์ตนู ผเู้ รียนเรมิ่ ศกึ ษา ความหมายของการต์ นู ดังนี้ “ กำร์ตนู ” เป็นคาทบั ศัพท์ในภาษ าองั กฤษว่า “Cartoon” ซึง่ สนั นิษฐานวา่ มีศัพท์มา จากคาว่า “Cartone” (คาโตเน) ในภาษาอิตาลี ซึ่งหมายถงึ แผ่นกระดาษทีม่ ีภาพวาด ตอ่ มา ความหมายของคาน้ีอาจจะเปล่ยี นไป เปน็ ภาพลอ้ เลียนเชงิ ขบขัน เปรียบเปรยเสยี ดสหี รือแสดง จนิ ตนาการฝันเฟื่อง (ศกั ดิ์ชัย เกยี รตนิ าคินทร์, 2534ก : 3) กำรต์ ูน (Cartoon) มศี พั ทใ์ กลเ้ คยี งทส่ี ามารถอธบิ ายได้ดงั น้ี 1. กำรต์ ูนภำพเดี่ยว (Cartoon) เปน็ คาฝรง่ั เศส หมายถงึ รปู วาดบนกระดาษแข็ง ท่เี ปน็ ภาพล้อเลยี น วาดอย่ใู นกรอบและแสดงแสดงเหตกุ ารณ์เข้าใจง่าย ชัดเจน มีคาบรรยายส้นั ๆ หรือไม่ มกี ไ็ ด้ (ภาพที่ 1.1) ภาพท่ี 1.1 การ์ตูนภาพเดย่ี ว ผลงานของ สิงขร ภกั ดี

2 2. กำรต์ นู ภำพตอ่ เนื่อง (Comic) เปน็ ลักษณะการต์ นู ทมี่ กี ารเขยี นเป็นเรอ่ื งราว ต่อเน่ืองมีคาบรรยายบทสนทนาในภาพแตล่ ะภาพ ลักษณะของภาพจะออกมาในเชิงการ์ตนู ท่ีไม่เน้น ความสมจริงของกายวภิ าค อนั เปน็ ลักษณะเดยี วกับ Cartoon (ภาพท่ี 1.2) ภาพท่ี 1.2 การ์ตูนภาพตอ่ เนอ่ื ง ผลงานของ สิงขร ภกั ดี

3 3. นิยำยภำพ (Illustrated Tale) เป็นลกั ษณะการเลา่ เร่ืองดว้ ยภาพ แต่ลกั ษณะ ภาพมีความสมจริง เขียนถกู ต้องตามหลกั กายวภิ าค ( Anatomy) การเขียนฉากประกอบการใหแ้ สง เงา การดาเนนิ เรอื่ งต่อเนอ่ื งตงั้ แตก่ รอบรอบแรกจนกรอบสดุ ท้าย ไม่ขา้ มขั้นตอนอนั สามารถโนน้ น้าว ใจผู้อา่ นใหค้ ลอ้ ยตามเนือ้ เรอ่ื งไดเ้ ป็นอยา่ งดี (ภาพที่ 1.3) ภาพที่ 1.3 นิยายภาพ ผลงานของ พรชวี ินทร์ มลิพนั ธ์ุ

4 4. ภำพลอ้ เลยี น (Caricature) เป็นคาท่ีมีรากศัพทจ์ ากคาว่า “Caricare” หมายถงึ ภาพลอ้ เลยี นที่แสดงถึงการเปรยี บเปรย เสยี ดสเี ยาะเย้ยถากถางหรอื ใหด้ ขู บขันโดยเนน้ สว่ นดอ้ ยหรอื ส่วนเดน่ ของใบหนา้ บุคลิกลกั ษณะให้ผนั แปรไปจากธรรมชาติทเ่ี ปน็ จริง ซง่ึ ส่วนมากมกั ใชเ้ ป็นภาพ ลอ้ ทางการเมอื ง บุคคลสาคญั ทม่ี ชี ือ่ เสียง (ศักดิช์ ัย เกียรตินาคนิ ทร์, 2534ก : 3) (ภาพที่ 1.4) ภาพที่ 1.4 ภาพลอ้ เลียน ผลงานของ สงิ ขร ภักดี

5 ศาสตราจารย์ศลิ ป์ พีระศรี กลา่ ววา่ Cartoon เมอื่ จิตรกรจะต้องวาดภาพขนาดใหญ่ เขาเริ่มต้นด้วยการวาดภาพเปน็ ร่างใหเ้ ต็มตามขนาดของจรงิ ทวี่ าดข้นึ ลงบนกระดาษแผ่นหนาและ ระบายสีเอกรงค์ (Monochrome) บางๆ สเี ดยี วยนื พืน้ ภาพทวี่ าดข้ึนอย่างนีเ้ รยี กวา่ Cartoon ศาสตราจารยก์ าจร สุนพงษ์ศรี ไดใ้ หค้ วามหมายการ์ตนู ออกเปน็ 2 ความหมาย คือ ความหมายแรก หมายถึง ภาพรา่ งดว้ ยเสน้ เทา่ กับแบบจริงทีจ่ ะใช้สรา้ งจรงิ บนพนื้ ภาพ ฝาผนัง หรืออืน่ ๆ เชน่ ภาพร่างของงานจติ รกรรม หรือภาพรา่ งสาหรับทอภาพบนพรมแขวน (Tapestry) ภาพร่างของจติ รกรรมกระจกสี (Stained glass) การสร้างงานจิตรกรรมปนู เปยี ก (Fresco) ในระยะเวลาต้นสมัยฟนื้ ฟศู ิลปวิทยา จากคาบันทึกของวาซารี่ (Vasari) เลา่ วา่ แต่เดมิ จิตรกรผ้วู าดภาพ ใช้วิธีรา่ งด้วยไมห้ รอื โลหะปลายแหลมก่อน จากนัน้ จึงลงมือระบายสี ต่อมาจึงได้ หยิบยมื วธิ กี ารสรา้ งภาพจติ รกรรมกระจกสีทใ่ี ช้ประดับหน้าต่างตามโบสถ์ ดว้ ยการนาแผน่ กระดาษมี ขนาดเท่ากบั พนื้ ท่ีจริง จากนน้ั จงึ รา่ งภาพตามต้องการดว้ ยเสน้ หมึกหรือสีน้า เมอื่ ไดภ้ าพตามตอ้ งการ ก็เจาะรู (The hole) เปน็ ระยะตามเสน้ ทีร่ ่างไว้ เมื่อเสรจ็ กน็ าการ์ตูนน้ที าบบนแผ่นภาพหรือผนงั ที่ ต้องการวาด เม่อื ติดแนน่ เรียบร้อยก็ใช้ผงฝ่นุ ชอล์กขาวหรือฝุ่นดานามาห่อทาเป็นลูกประคบใหม้ รี พู อ ผงฝุน่ เหลา่ น้ันจะรอดออกมาลงในรูท่เี จาะไว้ กรรมวธิ คี อื การตบ (Pouncing) ลกู ประคบตามรอยรู น้ันๆ เมือ่ ลอก Cartoon ออกมาก็จะพบรอ่ งรอยปรากฏตามแบบท่รี า่ งไว้ จากนัน้ จงึ ลงมือระบายสี หากพืน้ ทีท่ ี่จะวาดมขี นาดใหญ่มากไม่สามารถเสรจ็ เพราะพื้นปนู จะแหง้ กอ่ น ก็ใชว้ ิธีตดั Cartoon เปน็ ส่วนๆ และวาดตามสว่ นน้ันๆ Cartoon ยงั นามาใชก้ ับการวาดภาพบนขาตั้ง (Easel painting) ด้วย มีหลกั ฐานปรากฏว่า เลโอนาร์โด ดา วนิ ชี ใชว้ ธิ ีน้กี บั ภาพ Virgin and Child with Saint Anne and the lnfant St. John (ภาพที่ 1.5) เชน่ เดียวกับราฟาเอล (Raphael) และไมเคิลแอนเจโล (Michelangelo) ซ่ึงวาดภาพบนเพดานใน The Sistine Chapel ใน วาตกิ ัน (ภาพที่ 1.6) วธิ ีการนี้ยังคงทากนั เร่ือยมาจนปัจจบุ ัน ถา้ บนภาพสีนา้ มนั ขนาดเล็กผสมผสาน กับภาพรา่ ง Cartoon ก็เรียกว่า Cartooncini ภาพท่ี 1.5 \"แมพ่ ระพรหมจารีย์ พระกมุ าร และนักบุญอนั นา\" The Virgin and Child with Saint Anne ผลงานของ เลโอนารโ์ ด ดา วินชี ที่มา : (เลโอนาร์โด ดา วนิ ช,ี 2554 : 3)

6 ภาพที่ 1.6 ภาพจติ รกรรมฝาผนงั บนเพดานในโบสถซ์ สิ ตีน The Sistine Chapel ผลงานของไมเคลิ แอนเจโล (Michelangelo) ที่มา : (ไมเคิลแอนเจโล, 2553 : 4) ความหมายทีส่ อง มกี ารวาดภาพล้อเลยี นนักการเมืองรฐั สภาอังกฤษ มกี ารวาด ภาพถากถางในนติ ยสาร Punch คาว่า Cartoon ก็เลยนาไปใช้กนั อย่างแพร่หลายในเร่อื งภาพวาด ความขบขนั (Humerous) หรือเชิงล้อเลียน (Parody) แทนท่คี วามหมายเดิมของ Caricature และใน ทีส่ ุดกใ็ ช้เรยี กกันทัว่ ไปในปัจจบุ นั ทมี่ ำของกำร์ตนู ยโุ รป การ์ตูนของแต่ละชาติและแตล่ ะพน้ื ท่ีมีการพฒั นาแตกตา่ งกนั ไปจนเป็นสงิ่ ท่ีเราเหน็ กนั คือ มีการเดนิ เรื่องกันเป็นชอ่ งส่ีเหลย่ี ม และมกี ารใสค่ าพดู ของตัวการต์ นู ในแตล่ ะชอ่ งดว้ ย หรอื เรยี ก กันวา่ “คอมิกส”์ (Comic) ใชเ้ รยี กภาพนงิ่ ลายเส้นทแี่ สดงเร่อื งราวใดๆ อาจจะมหี รือไมม่ ีตัวอกั ษร บรรยายข้างบนหรือข้างลา่ งทีเ่ รียกวา่ “แคป็ ชัน่ ” (caption) อาจจะมหี รอื ไมม่ พี ื้นทป่ี ิดลอ้ มแสดง บทสนทนาท่ีเรยี กวา่ “บัลลูน” (balloon) ดว้ ยนยิ ามน้ีจึงหมายรวมตง้ั แต่การต์ ูนสนั้ หนึง่ ชอ่ งถงึ ส่ี

7 ช่องจบหรอื มากกวา่ ท่ีเรียกว่า “คอมกิ สตริป” (comic strip) ไปจนถึงหนังสอื การ์ตนู ทเี่ รียกวา่ “คอมกิ บกุ๊ ” (comic book) การ์ตนู ทแ่ี ท้ควรหมายถงึ ภาพลายเสน้ ท่แี สดงเรอ่ื งราวไดแ้ ละถกู นาไปเผยแพรห่ รือ แจกจ่ายต่อท่สี าธารณะ ด้วยนยิ ามเพมิ่ เตมิ เชน่ น้จี ะช่วยใหเ้ ราตระหนกั วา่ “การ์ตนู ” มิใช่ผลติ ผล ของผู้เขียนแตเ่ พียงคนเดยี ว แตม่ ันเปน็ ผลติ ผลร่วมกันของผ้เู ขียน ในศตวรรษท่ี 17 ในประเทศอังกฤษ การพัฒนาของการ์ตนู ตัง้ แตเ่ รมิ่ แรกท้ังทเ่ี กยี่ วกบั ผ้วู าด การผลิตและการตลาด โดยคาดหวงั จะชว่ ยใหเ้ ข้าใจกับวฒั นธรรมการต์ ูนในเมืองไทยในยุค ปัจจุบนั ไดม้ ากยิง่ ขึน้ และหากได้ทราบวิถตี ้นกาเนดิ ของการต์ นู แล้วเราอาจจะไม่แปลกใจเลยกบั ความ รุนแรงของการ์ตูนท่วี างขายในประเทศไทยในปัจจุบัน การต์ ูนยคุ แรกถูกผลิตออกมาโดยการใชบ้ ล็อก ไม้และพมิ พล์ ายเสน้ บนกระดาษหรือผืนผ้าขนาดใหญ่ทเี่ รียกวา่ “บรอดชีต้ ” (broadsheet) แผ่นภาพ ท่ขี ายได้และเป็นทน่ี ิยมมกั เป็นภาพบันทึกเหตกุ ารณท์ างศาสนาและสงั คมของประเทศองั กฤษ ภาพท่ี ขายไดม้ ากคือภาพวาดทีร่ ะลึกการประหารชวี ิตในทสี่ าธารณะของกรุงลอนดอนดว้ ยการแขวนคนหรือ เผามากกวา่ หน่งึ ราย ประชาชนทม่ี าชุมนมุ เพ่อื รอดูการประหารนบั พันไปจนถึงแสนคน (ภาพที่ 1.7) คนเหล่านน้ั ตอ้ งการรูปสกั ใบกลับบ้านไปเปน็ ท่รี ะลกึ การค้าแผน่ ภาพประหารชวี ิตเหลา่ น้ีเจรญิ เติบโต ไดด้ ี จนกระทงั่ มีร้านค้าต้งั ขายรอบลานประหารอย่างเป็นลา่ เป็นสนั ยง่ิ ไปกว่านั้นแผ่นภาพบางแผน่ ถกู ผลติ ไวล้ ่วงหนา้ ก่อนวันประหารโดยมไิ ด้คานึงถงึ ความถูกต้องของเหตกุ ารณ์แตอ่ ย่างใด ภาพที่ 1.7 แผน่ ภาพแสดงการประหารลอรด์ วิลเลียม รสั เซล ในกรุงลอนดอน ปี ค.ศ. 1683 ทม่ี า : (ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์, 2546 : 17) ดว้ ยกาเนิดน้เี องทีก่ าร์ตนู ถูกเหยยี ดหยามวา่ เปน็ ศลิ ปะช้นั ตา่ ต้งั แต่ยคุ แรก เพราะมันถกู ผลติ ขึน้ เพื่อความบันเทงิ และเพือ่ การค้าโดยแท้ อกี ทัง้ ยังผูกพนั กบั ความรนุ แรงในสังคมอีกด้วย ทง้ั คณุ ภาพของบลอ็ กไมท้ ่ีเปน็ แม่พมิ พก์ ไ็ มไ่ ด้มาตรฐาน มกี ารแตกบ่นิ เสื่อมทาลายไปตามสภาพ ทาให้ คุณค่าทางศิลปะยง่ิ ลดนอ้ ยลง แผ่นภาพแตล่ ะแผ่นจากแมพ่ มิ พ์เดีย่ วกันกใ็ ห้ความคมชดั ภาพไม่เทา่ กัน อกี ด้วย เปน็ ท่นี า่ สังเกตว่า แผน่ ภาพบางแผ่นมคี าบรรยายใตภ้ าพบางแผน่ มบี ัลลูน บางแผ่นมี

8 ลายเสน้ แสดงทิศทางการเคล่ือนไหวและแสดงความเรว็ ท่เี รียกวา่ “สปีดไลน์” (speedline) ทงั้ หมดนี้ ประกอบกนั ขนึ้ เปน็ ไวยากร ณ์ของภาษาการ์ตูน กลุ่มเป้าหมายแรกๆ ของพอ่ ค้าแผน่ ภาพเหลา่ นีค้ อื คนชนั้ ล่างท่ไี ม่รู้หนงั สือก่อนทีจ่ ะขยับขึ้นมาหาคนชัน้ กลางทรี่ ู้หนงั สือมากขน้ึ พฒั นาการของ ไวยากรณ์การต์ นู จึงมคี วามสมั พันธอ์ ยา่ งใกลช้ ิดกับความสามารถและรสนยิ มในการเสพของ กลุ่มเป้าหมาย จากแผ่นภาพเรียบง่าย ไปสแู่ ผ่นภาพที่มีสปดี ไลน์ ตามดว้ ยการเติมบลั ลูนและคา บรรยายท่จี าเป็น จะเห็นวา่ เมือ่ สามรอ้ ยปกี อ่ นการต์ นู ถกู ผลติ ข้ึนโดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อแสดงเร่ืองราว และรบั ใชต้ ลาด บนั ทกึ เหตกุ ารณจ์ ริงและรสนิยมของสังคม เริม่ ตน้ ดว้ ยการคา้ และไมไ่ ด้ถูกพจิ ารณา ในฐานะของศลิ ปะแตอ่ ยา่ งใด แมแ้ ตช่ ่อื ของผู้วาดกม็ ิได้ปรากฏ ภาพที่ 1.8 ภาพแบบบัลลูนซ้ายและสปีดไลนข์ วา จากการค้าความตายในช่วงแรกนาไปสู่การคา้ อารมณ์ขนั ในเวลาตอ่ มา แผ่นภาพใน เวลาถดั มาม่งุ ขายชนชน้ั กลางทีร่ ูเ้ รื่องการเมืองพอสมควร สว่ นใหญ่จงึ มีลักษณะเป็นแผน่ ภาพล้อเลียน บุคคลสาคญั ของสงั คมทีเ่ รียกวา่ ภาพลอ้ (caricature) ก่อนทบี่ างส่วนจะพฒั นาไปสู่ตลกเจบ็ ตัวเพือ่ ขายชนชัน้ แรงงาน การพฒั นาเนอ้ื หาเกิดขนึ้ พร้อมกบั การพัฒนาเทคโนโลยกี ารผลติ จากแม่พิมพ์ไม้ เปลยี่ นเปน็ แม่พิมพ์ทองแดง ศิลปินเขยี นแบบลอกลายแกะลายลงบนแผน่ ทองแดงแลว้ ใชก้ รดสกดั ตามด้วยการลงหมึกเรียกเทคโนโลยนี ว้ี า่ engraving เปน็ กระบวนการท่ีใช้แรงงานมากแตผ่ ลลัพธท์ ี่ ได้กส็ วยงามค้มุ คา่ อีกท้ังยงั คงทนหลงเหลอื ถงึ ปจั จบุ ัน การพฒั นาเทคโนโลยเี กดิ ขน้ึ คู่ขนานจากการ พฒั นาตลาดจากแผน่ ภาพรายสะดวกคอ่ ยๆ เปลีย่ นเปน็ นิตยสารรายสัปดาห์ สาหรับฉบบั ท่ขี ายดี มากกเ็ ปลี่ยนเปน็ ออกรายวัน แผน่ ภาพเหล่านขี้ ายไดเ้ พราะตอบสนองอารมณ์ของสงั คมไดม้ าก เปน็ ยคุ สมัยทีเ่ กดิ การปฏิวตั อิ ตุ สาหกรรมในอังกฤษ ตามดว้ ยการปฏิวตั ิฝรง่ั เศสและเร่อื งวุ่นวายมากมาย ในยโุ รปก่อนสงครามโลกครง้ั ทีห่ นึง่ เป็นอกี ครง้ั ท่เี ราพบว่าการต์ ูนรับใช้สงั คมเสมอมาตงั้ แตต่ ้น การปฏวิ ตั อิ ตุ สาหกรรมปี ค.ศ. 1760 เริม่ ข้ึนที่องั กฤษกอ่ นผลกระทบของมนั เกิดกับ สังคมอังกฤษเปน็ แห่งแรกก่อนทีจ่ ะลามออกไปท่วั ยโุ รป พัฒนาการของการต์ ูนกเ็ ร่ิมข้นึ ทีอ่ งั กฤษ เช่นเดยี วกัน ประเด็นท่ีนา่ สนใจคือแผน่ ภาพเหล่าน้นั ทางานอยา่ งไรจึงสอดคล้องกับอารมณ์ของสงั คม ไดด้ ี (ภาพท่ี 1.19) (ประเสริฐ ผลติ ผลการพิมพ์, 2546 : 17 - 18)

9 ภาพท่ี 1.9 แผ่นภาพแสดงให้เหน็ การแสดงออกทางสีหน้าแบบต่างๆ ซึ่งอาจจะให้เขา้ ใจไดห้ ากไม่ไดอ้ ่านคาบรรยายประกอบภาพ ทมี่ า : (ประเสรฐิ ผลติ ผลการพมิ พ์, 2546 : 20) กลไกลการทางานของการ์ตูนประเทศองั กฤษในศตวรรษที่ 18 เรม่ิ ขน้ึ ด้วยทานอง เดยี วกันน้ี คนแรกคือ “วิลเลยี ม โฮการท์ ” (William Hogarth) ศิลปินชาวอังกฤษผู้ไมพ่ อใจ มาตรฐานทางศลี ธรรมของสังคมยุคน้ัน เขาสร้างผลงานเพอ่ื แสดงทรรศนะของเขาเอาไว้มากมาย ภาพของเขามกั มีคนหลากหลายอารมณ์ เป็นภาพคนจานวนมากทม่ี ีความรสู้ กึ ต่างๆ กันใหต้ คี วาม (ภาพท่ี 1.10) แนน่ อนวา่ ยังไมใ่ ชล่ ายเส้นแบบการ์ตนู อยา่ งที่เราค้นุ เคย แต่มันเริ่มตน้ ดว้ ยนยิ ามของ การต์ ูน โฮการ์ท สรา้ งผลงานของเขาด้วยแม่พิมพ์ไม้และทองแดง เป็นเวลาที่ยังไมม่ นี ิตยสารใดๆ

10 รองรับงานของเขา ผลงานจึงไม่ไดร้ ับการเผยแพรม่ ากนกั อย่างไรกต็ าม เขามอี ทิ ธพิ ลต่อความคดิ และเทคนิคของศลิ ปนิ รุ่นตอ่ มามากมายหลายคน เชน่ โธมสั โรวแ์ ลนคส์ ัน (Thomas Rowlandson, 1756-1827) นกั เขยี นภาพล้อที่แหลมคม เขาเขยี นล้อเลียนทุกชนช้นั แตก่ ลุ่มเปา้ หมายคือ ชน ช้ันสูงและกลุม่ ที่ครองอานาจ เป็นคนแรกทเี่ ร่ิมต้นเรยี งภาพการต์ นู แบบคอมกิ สตรปิ ในผลงานปี ค.ศ. 1809 ท่ีชื่อวา่ The Tours of Dr. Syntax ทาใหเ้ ขาไดช้ อื่ วา่ เป็นนักเขียนการ์ตูน (cartoonist) คนแรกๆ นอกเหนือจากทีไ่ ดช้ ่อื ว่าเปน็ นักเขยี นภาพลอ้ (caricaturist) คนแรกๆ เช่นเดยี วกัน อกี คนคือ เจมส์ กิลเรย์ (James Gillray, 1757-1815) ไดอ้ ทิ ธพิ ลจากโฮการท์ ท้ังมาตรฐานทางศลิ ปะ และศลี ธรรม เป็นนักเขียนภาพลอ้ ทเี่ กง่ กาจและตา่ งจากโรวแ์ ลนค์สัน ตรงที่เขาไม่เพยี งเสียดสีสังคม คนรวยคนจน แต่เขาลามถงึ นักการเมอื งและราชวงศ์อกี ดว้ ย ถงึ เขาจะรักเสรภี าพและเห็นด้วยกบั การปฏวิ ัตฝิ ร่งั เศสแต่กเ็ ขียนภาพลอ้ นโปเลยี นเอาไวม้ ากทเี ดยี ว ภาพที่ 1.10 Marriage-a-la-mode ผลงานของวลิ เลียม โฮการท์ (William Hogarth) ท่ีมา : (โรโกโก, 2559 : 4) เมื่อข้ึนศตวรรษที่ 19 วฒั นธรรมการเขียนภาพล้อก็ลงหลกั ปกั ฐานอย่างม่นั คงในองั กฤษ แมว้ า่ ลายเสน้ ยังไม่เป็นการต์ นู เทา่ ใดนัก ศลิ ปินคนถัดมาคอื จอรจ์ ครกู แช็งค์ (George Cruikshank, 1792-1878) เปน็ คนท่ีไดร้ บั ประโยชนจ์ ากเทคโนโลยกี ารพมิ พแ์ ละการเผยแพรท่ าง นิตยสารอย่างแท้จริง อีกทัง้ เปน็ ผู้ทมี่ ลี ายเส้นเข้าใกลก้ ารต์ นู ตามความหมายปัจจุบนั มาก ครกู แชง็ ค์ เปน็ นกั เขียนภาพลอ้ เปา้ หมายและเนอื้ หาของเขากวา้ งขวางไปตามความซับซ้อนของสงั คม เขา ลอ้ เลยี นราชวงศ์ นกั การเมือง เจ้าของทดี่ นิ เจา้ ของโรงงาน คนมอี านาจทกุ ประเภท โดยมุ่ง

11 ประเด็นไปทก่ี ารกระทาทีไ่ ร้มนษุ ยธรรมตอ่ เพอ่ื นมนษุ ย์ด้วยกันเอง แม้คณุ คา่ ทางศิลปะในภาพวาด ของเขาจะมีไมม่ ากนกั แต่ก็มีตลาดทีก่ ว้างขวางมาก ในเวลาเดียวกนั ที่ฝร่งั เศส เหตุการณ์ทาง การเมืองนับตั้งแต่ฝรง่ั เศสกลายเปน็ สาธารณรัฐในปี ค.ศ. 1792 จนกระทงั่ นโปเลียนยดึ อานาจรฐั ในปี ค.ศ. 1799 ได้สร้างนักเขยี นภาพล้อจานวนมาก แตด่ ้วยบรรยากาศท่ไี มเ่ ปิดกวา้ งทาใหพ้ วก เขาตอ้ งหลบซอ่ นและไม่มโี อกาสแม้แต่เซน็ ชือ่ ใต้ภาพเหล่านัน้ จนกว่าจะสิน้ สดุ ยุคสมยั ของ นโป เลยี นในปี ค.ศ. 1815 และมกี ารปฏิวตั เิ พอื่ ลม้ ลา้ งระบอบกษัตริยใ์ นปี ค.ศ. 1830 บรรยากาศการ เขยี นภาพลอ้ จึงรงุ่ เรอื งขนึ้ มาได้ ทก่ี รุงปารสี Charles Phillipon (1800-1862) ออกนิตยสาร La Caricature เม่อื ปี ค.ศ. 1830 เพอื่ เผยแพรภ่ าพล้อเลยี นการเมืองจนกระทง่ั ถูกปดิ ในเวลาสองปตี ่อมา เขาออก นติ ยสาร La Charivari เมอ่ื ปี ค.ศ. 1832 อันเป็นบอ่ เกิดของนกั เขียนภาพล้อเลยี นท่ีมชี ่อื เสยี ง มากมาย ที่ควรรจู้ ักคือ Honor Daumier (1808-1879) ซึ่งไม่เพียงเขียนภาพล้อเลยี นการเมอื งใน ฝรงั่ เศส แต่ลามไปถึงประเทศและราชวงศต์ ่างๆ ในยโุ รปอีก เขาได้เขียนภาพล้อเหตุการณ์ทาง การเมืองท่สี าคญั ของยุโรปไว้จานวนมาก ช่อื เสียงของนิตยสารในฝรั่งเศสขจรขจายกลบั มาอังกฤษทา ใหเ้ กิดนิตยสารในทานองเดยี วกนั คือ พันช์ (Punch) เม่อื ปี ค.ศ. 1841 โดยมีคาโปรยว่า the London Charivari ให้เป็นทร่ี ้กู ัน นิตยสารพันช์เป็นทใ่ี หก้ าเนดิ ศลิ ปนิ เดน่ ดังจานวนมาก คอื จอหน์ ลชี (John Leech, 1817-1861) และจอห์น เทนนีล (John Tenniel, 1820-1914) การ์ตนู ก็ เริ่มออกจากอังกฤษและฝรั่งเศสไปทัว่ ยโุ รป อเมรกิ า จีนและญป่ี ุ่น เปน็ เวลาท่โี ลกกาลังเขา้ สู่ สงครามโลกคร้ังท่หี นึ่ง ศลิ ปนิ ชาวอังกฤษ Charles Wirgman และ Georges Bigot ชาว ฝร่งั เศส เป็นผนู้ าการ์ตูนเข้าสูป่ ระเทศญ่ปี นุ่ ในปี ค.ศ. 1867 และมีส่วนรว่ มในการก่อตั้งนิตยสาร การเมอื ง Japan Punch ในเวลาตอ่ มา (ประเสรฐิ ผลติ ผลการพิมพ์, 2546 : 14 - 26) ภาพที่ 1.11 การต์ ูนช่องเดยี วจบ Hot Pies ผลงานของจอห์น เทนนลี จากนิตยสาร Punch ท่ีมา : (ตามหาการ์ตนู , 2546 : 25)

12 ทมี่ ำของกำร์ตูนญปี่ นุ่ พัฒนาการการต์ นู ญ่ปี ุ่น เรมิ่ จากหลังสงครามโลกครงั้ ท่ี 2 ญ่ีปุ่นเรียกการต์ นู ตนเองวา่ มังงะ (Manga) เพื่อใหเ้ ห็นชัดเจนว่าเปน็ ตระกูลหนึง่ ของการต์ ูนที่ไมเ่ หมอื น คอมิกส์ (Comic) ปรมาจารยก์ าร์ตูน เทะซกึ ะ โอซามุ (Tezuka Osamu) ทีเ่ ขยี นเจ้าหนูปรมาณู (Astro Boy) หลงั สงครามโลกคร้งั ท่ี 2 สงบลง จากบาดแผลระเบิดปรมาณยู งั ไม่จางหาย เปน็ เรือ่ งทนี่ า่ สนใจมากเมอื่ เจ้าหนปู รมาณูทีท่ าหนา้ ทเี่ ป็นทตู สนั ตภิ าพในทนั ทีที่กาเนิดขนึ้ เมอ่ื ปี ค.ศ. 1952 (ประเสรฐิ ผลติ ผลการพิมพ์, 2546 : 61 - 62) (ภาพท่ี 1.12) ภาพท่ี 1.12 เจา้ หนูปรมาณู (Astro Boy) เรอ่ื งราวของการผจญภยั ของเจ้าหนูหุ่นยนตท์ ี่ตอ่ สกู้ ับเหล่าร้าย ผลงานของเทะซกึ ะ โอซามุ (Tezuka Osamu) ทมี่ า : (ตานานราชาแหง่ การต์ ูน, 2556 : 4)

13 ประเสรฐิ ผลิตผลการพมิ พ์ (2546 : 64 – 66) กลา่ ววา่ โอซามุ เป็นผ้ทู พี่ ัฒนาการ์ตนู แบบญี่ปุ่นใหเ้ ป็นเอกลักษณเ์ ฉพาะตวั มากย่ิงขนึ้ และเป็นอยา่ งท่ีเราเหน็ กันในทุกวันน้ี จนได้รบั การ ขนานนามว่า “ปรมาจารยแ์ หง่ การต์ นู ญ่ปี นุ่ ” และนกั เขียนการ์ตูนยุคหลังๆ ก็ได้พฒั นาแนวคดิ ของ เนอื้ เรอ่ื งไปสรา้ งสรรค์ จนไดก้ าร์ตนู เร่อื งสนุกทห่ี ลายคนชื่นชอบกัน และความนยิ มของการต์ ูนญป่ี ่นุ กแ็ พรก่ ระจายความนยิ มไปยงั เอเชีย ยโุ รป รวมถึงอเมรกิ า และมผี ลทาให้การ์ตูนเรอื่ งใหมๆ่ ทางฝั่ง ตะวนั ตกกไ็ ดร้ บั อิทธิพลมาจากการต์ นู ญป่ี นุ่ ด้วย เช่น เร่อื ง Witch เป็นต้น โอซามุ คือผูว้ างรากฐานของการต์ ูนมังงะ เป็นผูม้ ีอทิ ธิพลตอ่ ศิลปินการต์ นู รุ่นต่อมา จานวนมากมาย รวมทงั้ โอโตโมะ คตั ซฮึ ิโร่ เจ้าของผลงาน อากริ ะไมใ่ ช่คน (Akira) (ภาพท่ี 1.13) และ บอู ิจิ เทราซาวา่ เจา้ ของผลงาน คอบร้าเหา่ ไฟสายฟา้ (Cobra) (ภาพที่ 1.14) เปน็ ตน้ มงั งะ จะตพี ิมพ์เปน็ ตอนๆ กอ่ นทจ่ี ะทยอยรวมเล่ม สว่ นใหญ่จะเปน็ งานขาวดา งานทด่ี งั และตดิ ตลาดจะ เขยี นกันนานหลายปรี วมเล่ม กลุ่มเปา้ หมายมที ้ังเดก็ วัยรนุ่ ผ้ใู หญ่ ชาย หญงิ ทกุ เพศทกุ วัย โดยเฉพาะการต์ นู ผู้หญิงทีเรียกวา่ shojo manga จะมลี ักษณะเฉพาะตวั ทีเ่ ดน่ ชัดจนสามารถจดั เป็น ตระกลู หนึ่งไดเ้ ลย ภาพที่ 1.13 Akira อากริ ะ คนไมใ่ ช่คน (1988) ผลงานของโอโตโมะ คตั ซฮึ โิ ร่ ทีม่ า : (อากริ ะ คนไมใ่ ชค่ น, 2558 : 1) ภาพที่ 1.14 คอบรา้ เหา่ ไฟสายฟ้า (Cobra) ผลงานของบอู ิจิ เทราซาวา่ ท่มี า : (คอบร้า, ม.ป.ป. : 2)

14 ความแตกตา่ งระหวา่ งมงั งะกบั คอมกิ ส์ เปน็ หวั ข้อท่ียากแก่การลงความเหน็ วธิ กี าร รูปแบบ cinematic style ของโอซามุแลว้ มงั งะมกั จะยาวและเขียนกนั มาราธอนข้ามหลายปกี ว่า จะจบ นอกจากน้ยี งั มีเรอ่ื งการตลาดท่ตี อ้ งผ่านนติ ยสารก่อนรวมเลม่ และการแบง่ กลุ่มเป้าหมาย อกี ประเด็นทีแ่ ตกต่างกัน คอื การดาเนินเรอื่ ง ส่วนการ์ตนู ตะวนั ตกมักมี theme ทีช่ ัดเจนว่า จะเล่า เรอ่ื งอะไรแล้วดาเนนิ เรือ่ งตามที่กาหนดไว้อยา่ งแม่นยา อาจจะมี subplot บา้ งแต่ก็ไมม่ ากนักและอยู่ ในประเด็นของธีมหลัก การต์ นู ญี่ปุน่ อาจจะมธี ีม เชน่ กนั แต่มกั ถูกลมื ไปในตอนกลางเรือ่ ง อกี ท้งั มี subplot มากมาย บางเรื่องกไ็ ม่เกยี่ วอะไรกับธีมหลักเลย (ประเสริฐ ผลติ ผลการพิมพ์, 2546 : 64 - 67) ทม่ี ำของกำร์ตูนไทย หนังสือการต์ ูนไทยเคยครองแผงหนังสือเกอื บครึง่ ของแผง สว่ นมากเป็นเรอ่ื งยาวหลาย เล่มจบ มีท้งั แบบการ์ตนู และนยิ ายภาพ (สมัยนั้นเรียกวา่ ภาพวิจติ ร) เรอ่ื งราวมีทัง้ ประเภทจกั รๆ วงศๆ์ เจ้าหญิง เจา้ ชาย นทิ านพื้นบา้ น นิทานชาดก รวมทงั้ ทดี่ ดั แปลงจาก Comic book ของฝรง่ั ประเภทซเู ปอร์ฮีโร่ คาวบอย ผจญภัย ตน่ื เต้น ซึ่งลว้ นขายดี เขียนและพมิ พไ์ ม่ทันคนอา่ น ในปี พ.ศ. 2460 วงการการต์ นู ไทยเร่มิ จุดประกายขึ้นเมอ่ื พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงสนพระทัยเป็นอยา่ งมากในเรื่องศลิ ปะการเขียนภาพลอ้ และโปรดเกลา้ ฯพระราชทาน คาว่า cartoon เป็นภาษาไทยวา่ “ภาพล้อ” ปี พ.ศ. 2463 ขณะทพี่ ระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยูห่ วั เสด็จไปประทับ ณ พระราชวงั พญาไทใหมๆ่ โปรดเกล้าฯ ให้ย้าย “ดสุ ติ ธานี” ไปจากพระราชวงั ดสุ ิตด้วย และในบริเวณ ดุสติ ธานีมสี โมสรของพรรคการเมอื ง “โบวส์ นี ้าเงนิ ” อันเปน็ พรรคของพระองค์ ท่ีสโมสรแห่งนม้ี ี บริการของสโมสรอยา่ งบริบูรณ์เหมอื นสโมสรอ่ืนทง้ั หลาย และในปีเดียวกันโปรดเกลา้ ฯ ใหม้ ีการ ประกวดภาพเขียนสมัครเล่นเปน็ การภายใน โดยแบง่ การประกวดออกเป็น 3 ประเภทคือ 1. ภาพลอ้ (cartoon) 2. ภาพนึกเขียน คอื ภาพทเี่ ขียนจากความนกึ คดิ 3. ภาพเหมือน คอื ภาพทเี่ ขยี นเหมอื นจรงิ มีขา้ ราชบรพิ ารท้งั เดก็ และผูใ้ หญ่ส่งภาพเขา้ ประกวดกันมาก เม่ือถงึ กาหนดจงึ นาภาพ ไปติดตัง้ แสดง มีดนตรบี รรเลงใหฟ้ งั ทัง้ ไทยและต่างประเทศ เกบ็ คา่ ผา่ นประตู ผู้เขา้ ชมจะตอ้ งแตง่ กายสภุ าพ งานแบบน้ีเคยจดั ที่พระราชวงั บางปะอินมาแล้วครั้งหน่ึง ในการประกวดภาพทง้ั 2 คราว น้ัน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยูห่ วั ทรงวาดภาพลอ้ มากมายหลายภาพหลายชดุ หลายบท (ภาพที่ 1.15) ว่าถงึ ฝพี ระหตั ถ์แลว้ ก็ไม่ถึงขน้ั นกั เขียน แตพ่ ระราชดาริในทางประดษิ ฐแ์ ล้วหาตัวจับ ได้ยากคอื เมือ่ ทรงเขียนภาพล้อผใู้ ด ไม่ตอ้ งบอกวา่ เป็นใครหรอื อะไรกไ็ ด้วา่ เป็นผนู้ ้ัน ภาพฝีพระ หัตถเ์ หล่านี้ ถา้ เป็นภาพล้อทา่ นผใู้ ดเจา้ ของมกั ซอื้ ไวด้ ว้ ย ราคาสูง บางภาพขายไดเ้ ป็นหม่ืนๆ เงินท่ี ได้จากการขายภาพเหลา่ นนี้ าไปสมทบทนุ ซ้อื ปืนเสือป่าเปน็ สาธารณกศุ ล และภาพฝีพระหตั ถ์ ส่วนมากนาลงพมิ พใ์ นหนังสอื ดสุ ิตสมติ ( ภาพที่ 1.16) หนงั สอื ในสมัยรัชกาลพระบาทสมเดจ็ พระ มงกฎุ เกล้าเจา้ อยู่หวั เริม่ มีภาพประกอบขา่ วหนังสอื พมิ พห์ ลายฉบบั นารปู ภาพมาประกอบขา่ ว ซึง่ เฉพาะข่าวทสี่ าคัญเทา่ นั้น และเริม่ มีการเขียนภาพล้อการเมอื งในหนังสอื พมิ พ์ โดยตวั อยา่ งภาพลอ้

15 การเมืองในหนงั สือพมิ พ์สมยั แรกๆ พอจะหาดูไดจ้ ากจาอวด ซงึ่ เป็นหนังสือสพั เพเหระคดี ภาพท่ี นา่ สนใจไดแ้ กก่ ารต์ นู สามชอ่ ง จากน้ันเปน็ ตน้ มากค็ อ่ ยๆ มีภาพการต์ ูนปรากฏในหนังสอื พิมพม์ ากขน้ึ ภาพท่ี 1.15 ภาพล้อเจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธบิ ดี ฝีพระหตั ถร์ ัชกาลที่ 6 ท่มี า : (เกียกกาย, 2556 : 1) ภาพที่ 1.16 ปกหนังสอื พิมพ์ “ดสุ ิตสมิต” ท่มี า : (มวิ เซยี มสยาม, 2559 : 18)

16 นกั เขียนภาพลอ้ การเมอื งคนแรกของไทย คือ เปลง่ ไตรปิ่น (ขนุ ปฏิภาคพิมพ์ลิขิต) วงการหนงั สือพมิ พแ์ ละหนังสือการต์ นู เรมิ่ รงุ่ เรืองและเฟ่อื งฟเู มอื่ ใดก็ไม่รู้ได้ เพราะกอ่ นหนา้ นัน้ การ พมิ พภ์ าพลงในหนังสอื พิมพ์จะตอ้ งส่งภาพตน้ แบบไปทาแมพ่ มิ พ์ (บลอ็ ก) โลหะทป่ี ระเทศอินเดยี กว่าจะเสรจ็ กนิ เวลานานมาก ซงึ่ แม่พิมพ์ทาในเมืองไทยเป็นแมพ่ ิมพไ์ ม้ คุณภาพงานพิมพไ์ ม่ดี นาย เปล่งซ่ึงได้หนบี ิดาไปกับเรือสินคา้ นานกวา่ ย่ีสิบปี และไดเ้ ดินทางกลบั สปู่ ระเทศไทย พร้อมกับนา วิชาการทาแมพ่ ิมพ์ (บล็อก) โลหะเขา้ มาเผยแพรใ่ นเมืองไทย โดยเปดิ รา้ น “ฮาลฟ์ โทน” รบั ทา บลอ็ กข้นึ เปน็ แห่งแรก แลว้ ได้รบั ความนยิ มอยา่ งรวดเร็วในวงการหนังสือพิมพแ์ ละโรงพมิ พ์ นับได้วา่ เป็นมิติใหม่ในกิจการการพมิ พท์ ่ีมคี วามหมายอย่างยงิ่ หนังสอื การต์ ูนยคุ น้ันใช้บล็อกเปน็ แม่พมิ พ์ ท้ังส้นิ เพง่ิ มาเปล่ียนเปน็ เพลทเมือ่ ราวๆ 30 ปที ่ีผ่านมา ภาพท่ี 1.17 ผลงานของเปลง่ ไตรปน่ิ (ขนุ ปฏภิ าคพิมพล์ ขิ ิต) ทมี่ า : (เปล่ง ไตรปน่ิ , 2556 : 1)

17 ภาพที่ 118. ภาพล้อการเมอื งของขนุ ปฏิภาคพมิ พ์ลิขิตซา้ ยและ ภาพแทรกในหนงั สืออ่านเล่นสาหรับเยาวชน พ.ศ. 2480 ทมี่ า : (จลุ ศกั ด์ิ อมรเวช, 2544 : 33) ในฐานะผูน้ ามาซงึ่ แมพ่ มิ พโ์ ลหะเป็นคนแรก ลน้ เกลา้ ฯ พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกล้า เจ้าอยูห่ ัว จึงทรงโปรดเกลา้ ฯ นายเปล่ง ไตรปิ่น เปน็ ขุนปฏิภาคพิมพ์ลขิ ิต การต์ ูนในยุคแรกมี ลกั ษณะเปน็ ภาพลอ้ ทางการเมอื ง การต์ ูนตลก 3 ชอ่ ง และการ์ตนู ตลก 8 ช่องจบบา้ ง และเป็นแผนก หน่งึ ในหนังสือพิมพ์ ยังไม่ใช่หนังสือการ์ตูนทงั้ เลม่ โดยเฉพาะ ในยุคสมัยท่ีใกล้เคยี งกันนนั้ มรี ูปวาด อีกประเภทหนึ่งซึ่งไม่ใชก่ ารต์ นู ตลกแต่เป็นลักษณะ “แทรก” หรือ “ภาพประกอบเรื่อง” ปรากฏ ประปรายอยใู่ นเลม่ (จลุ ศกั ด์ิ อมรเวช, 2544 : 27 – 31) การต์ นู ไทย เร่มิ พัฒนาประเทศใหเ้ ข้ากบั วัฒน ธรรมตะวนั ตก และเริม่ มีบทบาทเปน็ รปู ภาพประกอบเนอ้ื เรอื่ งในนิยาย หรือเรียกอีกอย่างกค็ อื “นยิ ายภาพ” โดยเฉพาะการต์ นู การเมอื ง ในปี พ.ศ. 2500 ถอื เปน็ ยุคเฟ่อื งฟูของหนังสือการ์ตนู ไทย มีการตพี ิมพ์รวมเล่มจากหนังสอื พมิ พ์ และ วารสาร โดยมี เหม เวชกร และ จุก เบยี้ วสกุล เปน็ นักเขียนทีข่ ึน้ ชอ่ื ในสมยั น้นั หลังจาก นน้ั ก็มีการตพี มิ พเ์ ป็นการต์ ูนเลม่ ละบาท ซ่ึงเปน็ แนวสยองขวัญ ตามด้วยการ์ตนู แก๊กตลกอย่างขาย หวั เราะ มหาสนุก หนจู า๋ และ เบบี้ ที่ยังคงขายดจี นถึงปจั จุบัน สว่ นการต์ ูนไทยตามแบบสไตล์ การต์ ูนญีป่ ุน่ น้นั ก็เพ่งิ จะตน่ื ตัวไปไม่กี่สิบปี โดยจุดเริ่มตน้ มาจากนติ ยสารไทยคอมิคของสานักพิมพ์ วิบลู ยก์ จิ และจากจดุ นี้นเ่ี องก็ทาใหก้ าร์ตูนไทยทีท่ าทา่ จะผีเขา้ ผีออกกเ็ ริ่มเปน็ ท่ยี อมรบั ของคนอา่ น มากขึ้นในสไตล์ทห่ี ลากหลาย ไมว่ ่าจะเปน็ การต์ นู แปลงจากวรรณคดี บุคคลสาคัญ Joe- theSeacret Agent การ์ตนู เสนอมมุ มองใหมๆ่ อย่าง HeSheIt นายหวั แตงโม รวมไปถึง การต์ ูน ดัดแปลงจากพระราชนิพนธเ์ รื่อง พระมหาชนกและคุณทองแดง (ประวตั ิความเป็นมาของการ์ตูน , 2548 : 1)

18 ภาพท่ี 1.19 เหม เวชกร ทม่ี า : (เหม เวชกร, 2545 : 1) ภาพท่ี 1.20 ผลงานของเหม เวชกร ท่มี า : (เหม เวชกร, 2545 : 1)

19 ภาพท่ี 1.21 จุก เบี้ยวสกุล ที่มา : (รอยราลึก จุก เบี้ยวสกุล, 2554 : 1) ภาพที่ 1.22 ผลงานของจกุ เบีย้ วสกุล ที่มา : (เพชรพระอมุ า, 2552 : 21)

20 สรปุ การต์ ูน หมายถงึ แผ่นกระดาษลงสงี า่ ยๆ ไมเ่ หมือนจรงิ วาดบดิ เบ้ยี ว ใช้ความรสู้ ึก จติ นาการ ตัดทอน เพมิ่ เตมิ เปน็ ภาพลอ้ เลียนเชงิ ขบขนั เปรียบเปรย เสียดสี เยาะเยย้ ถากถาง การเมือง สังคม ที่มีความหมายใกล้เคียง กับการ์ตูนภาพเดย่ี ว การต์ ูนภาพต่อเนือ่ ง นิยายภาพ ภาพล้อเลยี น รวมถึงภาพร่างด้วยเสน้ เท่ากับแบบจรงิ ทจ่ี ะใช้สรา้ งจรงิ บนพ้นื ภาพและ การวาดภาพ ลอ้ เลยี นนกั การเมือง การ์ตูนมกี ารพฒั นาแตกต่างกันไปของแต่ละชาติ ศตวรรษท่ี 17 ประเทศองั กฤษ มี การพัฒนาของการ์ตนู ตง้ั แต่เร่มิ แรก โดยการใชบ้ ล็อกไมแ้ ละพมิ พล์ ายเส้นบนกระดาษหรือผนื ผ้า เพอ่ื บนั ทกึ เหตุการณท์ างศาสนาและสงั คม ศตวรรษท่ี 18 วิลเลียม โฮการ์ท ชาวอังกฤษ ทวี่ าด การต์ ูนตอบสนองสงั คม เปน็ ยุคสมยั ทีเ่ กดิ การปฏิวัติอุตสาหกรรมในองั กฤษตามดว้ ยฝรัง่ เศสและเรอ่ื ง วุน่ วายในยุโรปก่อนสงครามโลกครง้ั ที่หน่ึง ศตวรรษที่ 19 วฒั นธรรมการเขียนภาพล้อก็ลงหลักปกั ฐานอย่างมน่ั คง จอร์จ ครกู แชง็ ค์ เป็นคนทีไ่ ดร้ ับประโยชน์จากเทคโนโลยกี ารพิมพแ์ ละการเผยแพร่ ทางนติ ยสาร เป้าหมายวาดลอ้ เลยี นราชวงศ์ นักการเมอื ง เจ้าของที่ดิน เจ้าของโรงงาน คนมี อานาจทุกประเภท นโปเลียนยึดอานาจในฝรั่งเศส และมกี ารสรา้ งนักวาดภาพลอ้ จานวนมาก จนกวา่ จะสิน้ สดุ ยคุ สมัยของ นโปเลยี น การวาดภาพลอ้ จงึ รุ่งเรือง กรุงปารีส Charles Phillipon ออกนติ ยสาร La Caricature เพอ่ื เผยแพรภ่ าพลอ้ เลียนการเมอื ง การ์ตนู ก็เร่ิมออกจากอังกฤษและ ฝร่งั เศสไปท่วั ยุโรป อเมรกิ า จนี และญปี่ ่นุ เปน็ เวลาท่ีโลกกาลังเข้าสูส่ งครามโลกคร้งั ทห่ี น่งึ ศลิ ปนิ ชาวอังกฤษ Charles Wirgman และ Georges Bigot ชาวฝรัง่ เศส เปน็ ผู้นาการ์ตนู เข้าสู่ ประเทศญปี่ นุ่ ในปี ค.ศ. 1867 การ์ตูนญปี่ นุ่ มพี ัฒนาเรม่ิ มาจากหลังสงครามโลกคร้งั ที่ 2 ญป่ี ุ่นเรยี ก การ์ตูนตนเองว่า มังงะ การต์ นู ไทยเรม่ิ เมอ่ื พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ ัว รัชกาลท่ี 6 ทรงสนพระทัยในเร่ืองศิลปะการเขียนภาพล้อและโปรดเกล้าฯ นักเขียนภาพล้อการเมืองคนแรกของ ไทย คอื เปลง่ ไตรป่ิน ผู้นาวิชาการทาแม่พมิ พโ์ ลหะเขา้ มาเผยแพร่ โดยเปดิ รา้ น “ฮาล์ฟโทน” รบั ทาบลอ็ กขน้ึ เปน็ แหง่ แรก ในวงการหนงั สอื พมิ พแ์ ละโรงพมิ พ์ การ์ตนู ไทยเรมิ่ พัฒนาประเทศให้เขา้ กบั วัฒนธรรมตะวนั ตก มีบทบาทท่เี ป็นรูปภาพประกอบเน้อื เรือ่ งในนิยาย หรอื เรียกอกี อย่างก็คอื นยิ ายภาพ การ์ตูนการเมือง ปี พ.ศ. 2500 ยคุ เฟ่ืองฟูของหนงั สอื การต์ นู ไทยมกี ารตพี มิ พ์ หนงั สือพิมพ์ และวารสาร โดยมนี กั วาดการ์ตนู และมกี ารตพี ิมพก์ ารต์ นู จานวนมากมายจนถงึ ปจั จุบัน

บทท่ี 2 ประเภทของการต์ ูน วัสดุ อปุ กรณ์ จากการศกึ ษาถงึ ความหมายของการ์ตนู ทม่ี ีความเป็นมาอยา่ งยาวนาน แต่ละยคุ สมัยท่ี ผา่ นมาหลายประเทศ ทวปี ท่ัวโลกนนั้ สิง่ ท่ีนกั วาดการ์ตูนจะตอ้ งรเู้ ขา้ ใจเก่ียวกับการต์ ูนท่เี ราฝึกฝน วาดกันมาน้นั มกี ่ีประเภทท่ีสรา้ งสรรคเ์ ป็นผลงานให้ผดู้ เู กดิ ความรสู้ กึ ตอ่ ชิน้ งานน้นั ๆ ได้ ประเภทของการ์ตนู มนุษย์นัน้ มีความสามารถในการสร้างจินตนาการได้มากมาย จากความจริงสูค่ วามไม่ เป็นจรงิ โดยภาพล้อเลียนความจรงิ ในธรรมชาติทเ่ี หน็ ใส่อารมณ์ขบขัน ตลกเฮฮา เสยี ดสใี นรูปแบบ การวาดตา่ งๆ ทท่ี าใหผ้ ้ดู เู กิดความประใจในตัวละครท่ีสรา้ งออกมา โดยศกึ ษาความหมายของการ์ตูนและความเปน็ มาของการต์ นู ในแต่ละประเทศและแต่ ละภมู ิภาคของโลกแล้ว การต์ นู ยงั ไดม้ กี ารแบง่ ในการใชป้ ระโยชนอ์ อกเปน็ 7 ประเภท ดงั น้ี 1. การ์ตูนล้อสงั คม (Gag Cartoon) มักเป็นภาพในเชงิ ภาพล้อ (Caricature) โดยนักเขียนการ์ตนู ภาพล้อนิยมพมิ พใ์ นหนังสอื พมิ พ์และนติ ยสาร (ภาพท่ี 2.1) ภาพท่ี 2.1 การ์ตูนลอ้ สังคม ผลงานของ แอ๊ด เดลินิวส์

22 2. การต์ ูนลอ้ การเมือง (Political and Editional Cartoon) เปน็ ภาพลอ้ ผู้บริหารประเทศเนน้ ทางดา้ นการเมืองและการปกครอง โดยมีจดุ มงุ่ หมายกระต้นุ ผู้อา่ นให้เห็นในเชิง ตรงกันขา้ มหรือขบขัน เสยี ดสี เปน็ ตน้ (ภาพท่ี 2.2) ภาพท่ี 2.2 การต์ นู ลอ้ การเมือง ผลงานของ เซยี ไทยรัฐ

23 3. การ์ตูนโฆษณา (Commercial Cartoon) การ์ตนู ท่ใี ช้ในงานโฆษณาชวน เช่อื การขายสนิ ค้า ลักษณะการต์ ูนอาจเป็นรูปภาพ 2 มติ ิ หรือ 3 มติ ิ ข้นึ อยู่กบั ตวั สนิ ค้าทจี่ ะ นาเสนอ (ภาพท่ี 2.3) ภาพที่ 2.3 การ์ตนู โฆษณา ยางมิชลนิ ผลงานของ มาริอสุ โรซลิ ลอง

24 4. การต์ นู ประชาสมั พันธ์ (Public Relations Cartoon) เปน็ การต์ นู ใน ลกั ษณะเดียวกบั การ์ตูนโฆษณา แตต่ ่างกนั ทวี่ ัตถปุ ระสงคว์ า่ การต์ นู ประชาสมั พนั ธเ์ ปน็ การต์ ูนทีใ่ ช้ ประดับตกแต่ง เพื่อกระตนุ้ ในการบอกแจ้งขา่ ว ใหผ้ ู้อื่นได้ทราบโดยมิได้มุ่งหมายหวังผลทางดา้ น การคา้ เหมอื นการ์ตูนโฆษณา (ภาพท่ี 24.) ภาพท่ี 2.4 การต์ นู ประชาสัมพันธ์ การแขง่ ขันกีฬาแห่งชาติ ครงั้ ท่ี 45 ผลงานของอนิรทุ ธ์ เอมอม่ิ (อนิรุทธ์ เอมอ่มิ , 2559 : 4)

25 5. การ์ตูนลอ้ เลยี น (Caricature Cartoon) เป็นการต์ ูนทีเ่ ขยี นในเชงิ ล้อเลยี น บคุ คลใหด้ ูตลกขบขัน โดยวาดบุคลกิ ลกั ษณะเกินความจริง (ภาพที่ 2.5) ภาพที่ 2.5 การต์ นู ลอ้ เลียน ผลงานของ สงิ ขร ภักดี

26 6. การต์ ูนเรอื่ งยาว (Comic Strip Cartoon) เปน็ การ์ตนู ท่ีใชด้ าเนินเรื่องราว หรอื ประกอบนยิ ายนิทานต่างๆ ตั้งแตต่ น้ จนจบมักมคี วามยาวเปน็ ตอนๆ ไม่สามารถจบลงภายใน ชอ่ งเดยี วเหมือนการ์ตูนภาพล้อ (ภาพที่ 2.6) ภาพท่ี 2.6 การ์ตนู เรอ่ื งยาว ผลงานของ เหอจ้ือเหวิน

27 7. ภาพยนตรก์ ารต์ ูน (Animated Cartoon) หมายถงึ การทาภาพวาดการต์ นู ให้ ออกมาเปน็ ภาพยนตร์ โดยการวาดการต์ นู ลงแผน่ ใสแลว้ ถ่ายเปน็ ภาพยนตรใ์ หม้ ลี กั ษณะการ เคลอ่ื นไหวมีชวี ิตจริง (ศกั ดิช์ ัย เกยี รตินาคินทร์, 2532ข. : 13-16) (ภาพที่ 2.7) ภาพที่ 2.7 ภาพยนตรก์ าร์ตูน เรื่อง คุณทองแดง ผลงานของ บรษิ ัท สหมงคลฟิลม์ อนิ เตอร์เนชั่นแนล จากัด

28 จากประเภทตา่ งๆ ของการ์ตูนทศี่ ลิ ปินผู้สร้างผลงานออกมาตามความถนดั และ ความชอบแต่ละบคุ คล สง่ิ ที่สรา้ งสรรคผ์ ลงานออกมาโลดแล่นบนแผน่ กระดาษใหผ้ ู้คนดู มคี วามรสู้ ึก สนุกไปกบั ตัวละครกค็ ือ วสั ดุ อปุ กรณใ์ นการสร้างสรรคผ์ ลงานนน้ั เอง วัสดุ อปุ กรณ์ นพศร ณ นครพนม (ม.ป.ป. : 49) ไดก้ ลา่ ววา่ บางคนจะมองขา้ มการมวี ัสดุทดี่ ีใน การทางานศิลปะหรอื อาจจะคิดวา่ มวี ัสดุอะไรกพ็ อจะทางานออกมาได้ จริงอยูค่ วามคดิ น้ถี กู ตอ้ งท่ี วัสดุอะไรก็ทางานได้ แต่การมีวัสดอุ ุปกรณ์ทีด่ ผี ลที่ได้ยอ่ มดกี วา่ วัสดธุ รรมดา หรือคุณภาพไม่ดี ยกตัวอยา่ งงา่ ยๆ เชน่ พ่กู นั ซง่ึ มหี ลายชนิด หลายขนาด พู่กนั ทดี่ ียอ่ มมรี าคาแพง ในขณะท่ีพู่กันท่ี คณุ ภาพไม่ดรี าคาถกู พู่กันทีด่ ขี นพู่กนั จะอ่อนนมุ่ มีสปรงิ เหมาะกับงานแต่ละชนดิ สามารถอุ้มน้าอุ้ม สไี ด้ดี ขนแปรงไม่แผ่กระจายหรือบานเมอ่ื ขนแปรงถูกนา้ ทาให้สะดวกในการเขยี นภาพ ระบายสี สามารถควบคมุ การแผ่กระจายของขนแปรงได้ แต่ถ้าเป็นพูก่ ันทีค่ ุณภาพไมด่ กี ารทางานจะยุ่งยากข้นึ ยิ่งถา้ เปน็ พู่กันเกรดต่าเมือ่ ขนแปรงถกู นา้ จะหยกิ และบานแผ่กระจาย ไม่สามารถควบคุมการระบาย ให้เปน็ เสน้ ได้ หรอื สี เช่น สีน้า ถา้ เป็นสนี า้ ที่ไดม้ าตรฐานราคาอาจจะแพง แต่เม่อื ระบายแลว้ เรา จะรสู้ ึกว่าได้สีทสี่ วยและตดิ ทนนานสีจะไมซ่ ดี ง่าย ซึง่ ผิดกบั สคี ุณภาพต่าจะมสี ่วนผสมของแปง้ มาก ระบายแลว้ สีขุน่ มัวไมส่ ะอาดตา เม่อื ระบายเสรจ็ แลว้ ไม่นานสจี ะซีด ดูแลว้ ไมส่ วยงามทาให้เสีย ความรู้สกึ หรือขาดสนุ ทรยี ภาพจากตัวอยา่ งจะทาให้เห็นวา่ การมีวสั ดุ อปุ กรณ์ทีด่ ี ยอ่ มเป็นสิ่งจาเป็น นักวาดภาพควรจะขวนขวายหามาเป็นอุปกรณ์ในการวาดภาพ การมีวสั ดุ อปุ กรณท์ พ่ี ร้อมในการทางานสร้างสรรค์ผลงานการ์ตนู จงึ เป็นสง่ิ ทส่ี าคัญ ต่อผลงาน สานวนที่หลายๆ คนท่พี ูดติดปากว่า “วัสดุท่ดี ีมีชัยไปกว่าครึง่ ” ยงั เปน็ คาพูดทใี่ ชไ้ ด้ ตลอด ดงั นน้ั นกั เขียนการ์ตนู และผู้เรยี นรทู้ ุกคนยังต้องเตรยี มวัสดุอุปกรณใ์ ห้เพยี งพอและให้ เหมาะสมดังน้ี

29 1. กระดาษ Paper เป็นกระดาษสาหรบั การวาดการต์ ูน ไดแ้ ก่ กระดาษอารต์ มัน มลี ักษณะผวิ มนั พ้นื ผิวกระดาษจะเคลอื บด้วยแป้ง เป็นกระดาษเนอื้ แนน่ เวลาวาดจงึ ไม่ถูกซบั หมึก และไมซ่ ึม เหมาะกบั งานทวี่ าดดว้ ยหมึก หรือปากกาเขียนแบบ กระดาษปอนด์ เปน็ กระดาษเน้อื นุ่มดดู ซบั หมึกไม่เหมาะกบั งานทวี่ าดด้วยปากกาหมึกซมึ แตจ่ ะเหมาะกบั งานทีว่ าดด้วยดนิ สอ หรือ ปากกาลูกลน่ื กระดาษร้อยปอนด์ เป็นกระดาษเนื้อคอ่ นข้างแน่นเหมาะกบั งานที่ใช้ระบายสนี ้า หมกึ หรอื สีโปสเตอร์ แต่มีกระดาษรอ้ ยปอนด์บางชนิดทีท่ าข้นึ เป็นพิเศษ เรียกวา่ กระดาษรอ้ ยปอนด์ พิเศษ ลกั ษณะของกระดาษ มีผิวขรุขระ เนื้อกระดาษค่อนขา้ งแนน่ และซึมซับนา้ ได้ สามารถ เลือกใชไ้ ดท้ ั้งด้านขรขุ ระและดา้ นเรียบขน้ึ กับลักษณะในการใชง้ าน (ภาพท่ี 2.8) ภาพที่ 2.8 กระดาษอารต์ มัน กระดาษปอนด์ ผิวเรยี บและขรุขระ

30 2. ดินสอ Pencils ดนิ สอเปน็ วัสดเุ บือ้ งต้นของผู้วาดภาพ ดินสอท่ีใช้วาดภาพมี ขนาดของไส้หลายขนาด แต่ที่นิยมจะเรม่ิ ต้ังแต่ HB ซึ่งเปน็ ขนาดทว่ั ไปทใี่ ช้เขียนหนงั สอื และรา่ งภาพ สว่ นการแรเงาจะเลอื กใช้ตัง้ แตข่ นาด B ถงึ 6B ซงึ่ แล้วแต่ความหนกั เบาของน้าหนักของภาพวาด และมีดนิ สออกี ชนิด คอื EE ไส้ดนิ สอจะค่อนข้างใหญก่ ว่า 6B สามารถทานา้ หนกั ดีกว่าและแรเงา ตามความเข้มออ่ นแก่ได้ดีย่ิงขน้ึ ตามแสงเงา (นพศร ณ นครพนม, ม.ป.ป. : 55) (ภาพที่ 2.9) ภาพท่ี 2.9 ดินสอและน้าหนักของดนิ สอ

31 3. ยางลบ Eraser ยางลบมีหลายชนิดควรเลอื กใชย้ างลบชนิดทอ่ี ่อนนุ่ม การใช้ ยางลบที่ดีตอ้ งทาความสะอาด อยเู่ สมอเพราะจะทาใหผ้ ลงานไมส่ กปรก อกี ยางลบหนง่ึ มลี กั ษณะ อ่อนนุ่มเหมอื นดนิ นา้ มันผู้ใช้จะสามารถนวดหรือบ้ีเพื่อพลิกด้านทีส่ ะอาดมาใช้ได้ ทาให้อกี ด้านที่ใช้ ใหม่อยูเ่ สมอ (นพศร ณ นครพนม, ม.ป.ป. : 69) (ภาพที่ 2.10) ภาพท่ี 2.10 ยางลบชนดิ ออ่ นน่มุ

32 4. ปากกา Art-Line หรือ ปากกาไมครอน เปน็ ปากกาหมกึ ซมึ สีดาเอาไวต้ ัด ลายเสน้ ตวั การ์ตนู มีขนาดของหัวปากกาหลายเบอร์ข้ึนอย่กู ับรปู แบบของตัวการ์ตนู และความ เหมาะสม หมกึ ในการวาดควรเปน็ หมกึ กนั น้า นักวาดการ์ตูนสามารถตัดลายเสน้ แลว้ ลบลอยดินสอ ออก เพ่อื จะลงสีน้าหรอื สแี สตมป์ ลายเส้นของตวั การ์ตนู จะไม่ละลายน้าออกไดป้ ากกาจะเขียนขา้ ง ด้ามปากกาว่า waterproof หมึกปากกาจะแห้วเรว็ กว่าปากกาหมึกซมึ แบบไมก่ ันนา้ และเกบ็ รกั ษา ผลงานได้นานกวา่ อกี ดว้ ย (ภาพที่ 2.11) ภาพท่ี 2.11 ปากกา Art-Line หรอื ปากกาไมครอน

33 5. ปากกาคอแรง้ Kabura pen หรือ ปากกาหวั บวั ปากกาคอแรง้ ทใ่ี ชใ้ นการวาด การต์ ูนมีลักษณะตา่ งกัน บางชนิดปากแหลม บางชนดิ ปากกวา้ งตดั ตรงสาหรบั เขียนตวั อักษร นกั วาดการ์ตนู บางคนใชป้ ากกาคอแรง้ หรือปากกาเขียนแผนที่ ส่วนหมกึ ที่ใชม้ กั จะเป็นหมึกดาอนิ เดีย อิงค์ ซึ่งสามารถกนั น้าได้ แตบ่ างชนิดกันนา้ ไมไ่ ดห้ รอื อาจจะใช้หมกึ พีลแี กนสาหรบั เขียนรูป กระดาษท่ใี ช้มักเป็นกระดาษอาร์ตมันเพอ่ื ปอ้ งกนั การซึมและยังสามารถขดู ออกได้หากวาดผดิ หรือ ลบดว้ ยการใช้สีโปสเตอรข์ าวระบายทบั กไ็ ด้ ลักษณะท่วี าดจากปากกาจะไดเ้ สน้ หนา บางตาม ลักษณะปากกา ซึ่งจะทาให้ภาพการ์ตูนมนี ้าหนักดขี น้ึ (ศกั ดช์ิ ยั เกยี รตนิ าคินทร์, 2532ข. : 6) (ภาพ ที่ 2.12) ภาพที่ 2.12 ปากกาคอแรง้

34 6. หมกึ ink หมึกดาหรอื เรียกวา่ อนิ เดียนองิ ค์ India ink ลักษณะเปน็ ขวด แกว้ หรอื พลาสตกิ กไ็ ด้ ในการวาดการ์ตูนเม่ือแหง้ แล้วพน้ื ผิวค่อนข้างมัน วิธกี ารใชส้ หี มึก คือ ใช้ พูก่ นั หรอื ปากกาคอแรง้ จุ่มลงในน้าหมึกใช้วาดหรอื ระบาย นา้ หมกึ ท่มี ีความเข้มมากให้ใช้นา้ เปลา่ ผสมตามความต้องการ จะไดน้ ้าหนกั น่มุ ขนึ้ (ภาพที่ 2.13) ภาพท่ี 2.13 สหี มึก 7. สนี า้ Watercolor ลักษณะบรรจใุ นหลอดอลมู ิเนียม หลอดพลาสตกิ หรอื ตลับ สี มีให้เลือกหลายสี คุณสมบตั ิเป็นสโี ปรง่ แสง แห้งเรว็ ทาละลายกบั นา้ ใชพ้ กู่ นั จุม่ สีระบายและตัด เส้นในการวาดการต์ ูน (ภาพที่ 2.14) ภาพที่ 2.14 สีน้าแบบหลอดและตลบั

35 8. สแี สตมป์ Stamp Color ลกั ษณะเป็นเลม่ มี 12 สี เปน็ ผงสีเคลือบอยู่บน แผน่ กระดาษ เวลาใช้ฉีกด้วยมอื หรือตดั เปน็ แผ่นออกมาจากแผ่นกระดาษสีเป็นแผ่นเล็กๆ พอใช้ นาไปใส่ในช่องจานสีเจือจางดว้ ยนา้ การใช้งานวาดบนกระดาษปอนด์ผิวเรยี บ เทคนคิ กระบวนการ วาดคล้ายสนี า้ (ภาพที่ 2.15) ภาพท่ี 2.15 สกี ระดาษหรือสแี สตมป์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook