Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กลุ่มพิมพ์ชนก

กลุ่มพิมพ์ชนก

Published by phimchanok0438, 2021-09-08 03:42:14

Description: กลุ่มพิมพ์ชนก

Search

Read the Text Version

รายงานการศึกษาคน้ ควา้ เรื่อง การทดลองเพือ่ ศึกษาประสิทธิภาพของน้ายาบว้ นปากจากสมุนไพร4ชนิด โดย นาย กฤษณะ ขนั ธท์ อง เลขที่ 3 นาย กมล พิพฒั น์ เลขที่ 4 นาย ธนภทั ร พทุ ธรักษ์ เลขที่ 6 นางสาว เกษร์ชฎา จนั ทร์นอ้ ย เลขท่ี 15 นางสาว พมิ พช์ นก นาสลบั เลขที่ 19 นางสาว สวรรยา คุน้ เคย เลขที่ 21 ‘‘รายงานน้ี เป็นส่วนหน่ึงของรายวชิ า I 30219 โครงงานการศึกษาคน้ ควา้ และสร้าง องคค์ วามรู้ โรงเรียนสภาราชินี จงั หวดั ตรัง ภาคเรียนที่ 1 ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5/14 ปี การศึกษา 2564”

ช่ือโครงงาน:โครงงานการทดลองเพอ่ื ศึกษาประสิทธิภาพของน้ายาบว้ นปากจากสมุนไพร4ชนิด ชื่อผทู้ าการคน้ ควา้ อิสระ: นายกฤษณะ ขนั ธ์ทอง ช้นั ม.5/14 เลขที่ 3 นายกมล พพิ ฒั น์ ช้นั ม.5/14 เลขที่ 4 นายธนภทั ร พุทธรักษ์ ช้นั ม.5/14 เลขท่ี 6 นางสาวเกษร์ชฎา จนั ทร์นอ้ ย ช้นั ม.5/14 เลขที่ 15 นางสาวพิมพช์ นก นาสลบั ช้นั ม.5/14 เลขที่ 19 นางสาวสวรรยา คุน้ เคย ช้นั ม.5/14 เลขท่ี 21 ที่ปรึกษา: คุณครูเพชรณา บริพนั ธ์ ปี การศึกษา: 2564 โรงเรียนสภาราชินี จงั หวดั ตรัง บทคดั ย่อ โครงงานการทดลองเพื่อศึกษาประสิทธิภาพของน้ายาบว้ นปากจากสมุนไพร4ชนิด เป็ นการนา พชื สมุนไพรท้งั 4ชนิดมาทาเป็ นน้ายาบว้ นปากจากสมุนไพร สมุนไพรท้งั 4ชนิด 1.อบเชย 2.กานพลู 3. สาระแหน่ 4.ใบฝร่ัง ซ่ึงผูจ้ ดั ทาจดั ข้ึนเพ่ือ 1. เพื่อให้ผูเ้ รียนไดศ้ ึกษาความรู้เกี่ยวกบั การทาน้ายาบว้ น ปากจากสมุนไพร 2. เพื่อศึกษาอตั ราส่วนปริมาณของสมุนไพร4ชนิด อบเชย กานพลู สะระแหน่ ใบ ฝรั่ง 3. เพ่ือเปรียบเทียบประสิทธิภาพน้ายาบ้วนปากจากสมุนไพรกับน้ายาบ้วนปากที่ขายตาม ทอ้ งตลาด โดยมีขอบเขตของการศึกษา ดงั น้ี ดา้ นเน้ือหาของสมุนไพร 4 ชนิดและประสิทธิภาพของ สมุนไพร ดา้ นขอบเขต และดา้ นเวลา ผูจ้ ดั ทาไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ ภาคเรียนท่ี 1/2564 ซ่ึงมีกระบวนการ ดาเนินงาน ดงั น้ี1.การออกแบบการศึกษา /การทดลอง 2.จดั หาวสั ดุ เคร่ืองมือและอุปกรณ์ 3.ทาการศึกษา/ทดลอง 4.บนั ทึกผลการศึกษา/ทดลอง 5.รวบรวมขอ้ มูลผลลพั ธ์ท่ีไดจ้ ากการศึกษา/ ทดลองไวใ้ นรูปแบบของตารางแลว้ ทาการแปรผล 6.เขียนสรุปผลการศึกษา/ทดลอง ส่งผลใหก้ ารทา น้ายาบว้ นปากจากสมุนไพรแต่ละชนิดจะมีสรรพคุณแตกต่างกนั และสมุนไพรแต่ละชนิดยงั สามารถ นามาใช้ในการรักษาโรคต่างๆได้ เช่น แกห้ วดั แกไ้ ข้ เป็ นตน้ สมุนไพร4ชนิด อบเชย กานพลู สาระ แหน่ ใบฝรั่ง สามารถนามาทาเป็ นผลิตภณั ฑ์น้ายาบว้ นปากหรือยาสีฟันสมุนไพรได้ คณะผูจ้ ดั ทา โครงงานจึงไดส้ นใจท่ีจะทาผลิตภณั ฑน์ ้ายาบว้ นปากจากสมุนไพรท่ีทามาจากสมุนไพร4ชนิด อบเชย กานพลู สาระแหน่ ใบฝร่ัง เพอ่ื นามากาจดั กลิ่นปากและแบคทีเรียในช่องปาก โดยการทาน้ายาบว้ นปากจากสมุนไพรเป็ นการทาโครงงานที่สามารถนามาใชไ้ ดแ้ ละยงั ส่งเสริม ใหค้ นในสังคมหนั มาสนใจใหค้ วามสาคญั กบั สุขภาพปากและฟันโดยการใชน้ ้ายาบว้ นปาก

กติ ตกิ รรมประกาศ โครงงานการทดลองเพ่อื ศึกษาประสิทธิภาพของน้ายาบว้ นปากจากสมุนไพร4ชนิด ประกอบดว้ ย การดาเนินงานหลายข้นั ตอนดว้ ยกนั นบั ต้งั แต่การศึกษาหาขอ้ มูล การทดลอง การวิเคราะห์ผลการ ทดลอง การจดั ทาโครงงานเป็ นรูปเล่มจนกระทง่ั โครงงานน้ีสาเร็จลุล่วงไปไดด้ ว้ ยดี ตลอดระยะเวลา ดงั กล่าวคณะผูจ้ ดั ทาไดร้ ับความช่วยเหลือ และคาแนะนาในดา้ นต่างๆ ตลอดจนไดร้ ับกาลงั ใจจาก บุคคลหลายท่าน คณะผูจ้ ดั ทาตระหนกั และซาบซ้ึงในความกรุณาจากทุกๆท่านเป็นอยา่ งยงิ่ ณ โอกาส น้ี ขอขอบคุณ คุณครูเพชรณา บริพนั ธ์ อาจารยท์ ี่ปรึกษาจากภาควชิ าการศึกษาคน้ ควา้ และสร้างองค์ ความรู้ โรงเรียนสภาราชินี จงั หวดั ตรังท่ีช่วยเซ็นผา่ นใหโ้ ครงงานน้ี ขอขอบคุณ ผูท้ ่ีเกี่ยวข้องอ่ืนๆ เพื่อน ครอบครัว ที่ให้คาแนะนาต่างๆ ให้คาปรึกษาในการทา โครงงานและช่วยเหลือในดา้ นต่างๆ จนทาใหโ้ ครงงานการศึกษาคน้ ควา้ และสร้างองคค์ วามรู้น้ีสาเร็จ ลุล่วงได้ ทางคณะผจู้ ดั ทาขอกราบขอบพระคุณเป็นอยา่ งสูงไว้ ณ ท่ีน้ี ผจู้ ดั ทา

สารบัญ เรื่อง หน้า บทคดั ยอ่ ………………………………………………………………………………. ก กิตติกรรมประกาศ…………………………………………………………………….. ข สารบญั ………………………………………………………………………………… ค สารบญั (ตอ่ )…………………………………………………………………………… ง บทที่ 1 บทนา……………………………………………………………………………….. 1 1 ความเป็นมาและความสาคญั ……………………………………………………….. 1 วตั ถุประสงค…์ …………………………………………………………………….. 1 ประเด็นปัญหาที่สนใจ……………………………………………………………… 2 นิยามศพั ทเ์ ฉพาะ…………………………………………………………………… 3 สมมุติฐาน…………………………………………………………………………. 3 ขอบเขตการศึกษาการทดลอง……………………………………………………… 3 ประโยชน์ที่คาดวา่ จะไดร้ ับ………………………………………………………… 4 2 เอกสารและงานท่ีเก่ียวขอ้ ง………………………………………………………… 5 ประสิทธิภาพ สรรพคุณ และประโยชน์ของอบเชย ………………………………. 7 ประสิทธิภาพ สรรพคุณ และประโยชนข์ องกานพลู……………………………….. 8 ประสิทธิภาพ สรรพคุณ และประโยชน์ของสาระแหน่…………………………….. 9 ประสิทธิภาพ สรรพคุณ และประโยชนข์ องใบฝร่ัง…………………………………. 10 กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์……………………………………………………… 11 3 วธิ ีการดาเนินงาน…………………………………………………………………… 11 วสั ดุ…………………………………………………………………………………. 11 เคร่ืองมือและอุปกรณ์………………………………………………………………… 11 วธิ ีการดาเนินงาน……………………………………………………………………. 12 แผนการดาเนินงาน…………………………………………………………………… 12 งบประมาณ……………………………………………………………………………

สารบญั (ต่อ) เร่ือง หน้า 4 ผลการทดลอง…………………………………………………………………………. 13 สรุปผลการทดลอง……………………………………………………………………. 13 5 สรุป อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ…………………………………………………… 14 อภิปรายผลการศึกษา………………………………………………………………….. 14 ปัญหาและอุปสรรคในการดาเนินโครงงาน………………………………………….. 14 บรรณานุกรม……………………………………………………………………………… 15

บทที่ 1 บทนำ 1.1 ควำมเปน็ มำและควำมสำคญั โครงงานศึกษาประสทิ ธิภาพของนา้ ยาบว้ นปากจากสมุนไพร4ชนิด อบเชย กานพลู สะระแหน่ ใบ ฝรัง่ ศึกษาโครงงานนเี พ่ือหาประสิทธขิ องสมุนไพรทงั 4ชนดิ หาวา่ สมุนไพรแตล่ ะชนิดมีความแตกตา่ งกัน อย่างไร ในการใช้ชีวิตประจ้าวันเราจ้าเป็นท่ีจะต้องมีเครื่องใช้ส่วนตัวในชีวิตประจ้าวัน เช่น น้ายาบ้วน ปาก แปรงสฟี ันและส่งิ อื่นๆอีกมากมายที่น้ามาใช้ในชีวติ ประจา้ วนั เพราะเปน็ ส่ิงของท่ีจา้ เป็น กลมุ่ เราได้ เห็นว่าการซือสินค้าที่ไม่มีสารเคมีมาท้าน้ายาบ้วนปากเป็นส่ิงที่สามารถน้ามาผลิตเป็นของใช้ส่วนตัวใน ชีวิตประจ้าวันได้ดีอย่างหนึ่ง จึงได้คิดท้าน้ายาบ้วนปากจากสมุนต้องน้าสมุนไพร ในส่วนน้ายาบ้วนปาก จากสมุนไพรจะช่วยในการช่วยลดกล่นิ ปากและยังช่วยรักษาท้าควาสะอาดภายในชอ่ งปากได้ดี 1.2 วัตถุประสงค์ 1. เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นไดศ้ ึกษาความร้เู กีย่ วกบั การทา้ นา้ ยาบ้วนปากจากสมุนไพร 2. เพือ่ ศึกษาอตั ราสว่ นปรมิ าณของสมนุ ไพร4ชนดิ อบเชย กานพลู สะระแหน่ ใบฝร่งั 3. เพือ่ เปรยี บเทยี บประสิทธภิ าพนา้ ยาบ้วนปากจากสมนุ ไพรกบั นา้ ยาบว้ นปากทข่ี ายตาม ท้องตลาด 1.3ประเด็นปญั หำที่สนใจ •ประโยชน์ของสมนุ ไพร4ชนดิ อบเชย กานพลู สะระแหน่ ใบฝร่ัง ชว่ ยในเร่อื งใดบ้าง •สรรพคณุ ความแตกต่างของสมนุ ไพร4ชนดิ อบเชย กานพลู สะระแหน่ ใบฝร่งั •ผลทดลองในการท้าการนา้ ยาบว้ นปากจากสมนุ ไพรจะออกมาเปน็ อยา่ งไร •สมนุ ไพรชนิดไหนมผี ลในการช่วยลดกล่ินปากได้ดีทีส่ ดุ

1.4 นยิ ำมศพั ทเ์ ฉพำะ 1.4.1 นักเรียน หมายถงึ นกั เรียนระดบั ชันมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรยี นสภาราชินี จงั หวดั ตรัง 1.4.2 โปรแกรม หมายถึง โปรแกรมที่ใชใ้ นการสร้างผลงานสอ่ื สร้างสรรคใ์ นการทา้ โครงงาคือ โปรแกรม Microsoft Word 2010 เปน็ โปรแกรมประมวลผลขอ้ ความ ท่ีออกแบบมาเพ่ือช่วยใหค้ ณุ สร้างเอกสารที่มคี ุณภาพในระดบั มืออาชีพ ด้วยเครื่องมือการจัดรูปแบบเอกสารท่ดี ที ่ีสดุ Word จะชว่ ย ให้คณุ จดั ระเบียบและเขียนเอกสารได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพมากขนึ Word ยังมเี ครอื่ งมอื การแก้ไขและ การตรวจทานทีม่ ีประสทิ ธิภาพเพ่ือให้คุณสามารถรว่ มมือกับผอู้ น่ื ได้ 1.4.3 โครงงำน หมายถึง การศึกษาเรื่องใดเร่ืองหน่ึงทน่ี กั เรยี นเปน็ ผศู้ ึกษาคน้ คว้าและลงมือปฏิบัตดิ ้วย ตนเอง โดยอาศยั วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ภายใตค้ ้าแนะนา้ ปรึกษาและดแู ลของครอู าจารยท์ ่ีปรกึ ษา โดย อาจใชเ้ ครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ ชว่ ยในการศกึ ษา เพื่อให้การศึกษาค้นควา้ นนั บรรลตุ ามวัตถุประสงค์ มผี ลในการพัฒนาทกั ษะ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์การสร้างเสรมิ เจตคตทิ างวทิ ยาศาสตร์ 1.4.4 ทกั ษะกำรทดลอง (Experimenting) หมายถงึ กระบวนการปฏบิ ตั ิการเพื่อหาค้าตอบหรือ ทดสอบสมมตฐิ านที่ตงั ไว้ ในการทดลองจะประกอบด้วยกิจกรรม 3 ขันตอน คือ – การออกแบบการทดลอง หมายถึง การวางแผนการทดลองก่อนลงมือทดลองจริง เพื่อกา้ หนดวธิ กี าร ด้าเนนิ การทดลองซง่ึ เกี่ยวกบั การก้าหนดวธิ ดี า้ เนินการทดลองซึ่งเกี่ยวกับการก้าหนดและควบคมุ ตวั แปร และวสั ดุอุปกรณท์ ่ตี ้องการใช้ในการทดลอง – การปฏบิ ตั กิ ารทดลอง หมายถึง การลงมือปฏบิ ัติการทดลองจรงิ – การบันทกึ ผลการทดลอง หมายถงึ การจดบนั ทึกขอ้ มูลทไ่ี ด้จากการทดลอง ซ่ึงอาจเปน็ ผลของการ สังเกต การวัด และอนื่ ๆ 1.4.5 ประสทิ ธภิ ำพ หมายถึง กระบวนการ วิธีการ หรือการกระทา้ ใด ๆ ทนี่ ้าไปส่ผู ลส้าเรจ็ โดยใช้ ทรพั ยากรตา่ ง ๆ อนั ไดแ้ ก่ ทรัพยากรทางธรรมชาติ แรงงาน เงนิ ทุน และวิธกี ารด้าเนินการหรือ ประกอบการ ท่ีมีคุณภาพสูงสุดในการด้าเนนิ การไดอ้ ยา่ งเต็มศกั ยภาพ อยา่ งไรกต็ ามการด้าเนนิ การใด ๆ นนั ก็ขึนอยู่กบั ทรัพยากร ณ ขณะนนั ด้วยว่ามคี ุณภาพและปรมิ าณเพียงใด หากมคี ุณภาพมากการจะใช้ อย่างเตม็ ศักยภาพได้นนั จะต้องใช้ในปรมิ าณน้อยจึงจะเรียกได้ว่ามีประสทิ ธิภาพ ตา่ งกันกับทรพั ยากรที่ มีปรมิ าณมากแตค่ ณุ ภาพต้่าท่ีจะตอ้ งเลอื กวธิ กี ารดึงศักยภาพของทรัพยากรออกมาให้ได้มากทสี่ ดุ จงึ จะ เรยี กวา่ มปี ระสทิ ธิภาพ

1.5 สมมติฐำน 1.ตวั แปรตน้ : สมนุ ไพร4ชนิด อบเชย กานพลู สะระแหน่ ใบฝร่งั 2.ตวั แปรตาม: นา้ ยาบว้ นปากมีประสิทธิภาพเหมอื นกับนา้ ยาบว้ นปากที่ขายตามท้องตลาด 3.ตัวแปรควบคุม : ปรมิ าณอัตราสว่ นของนา้ และสมนุ ไพร 1.6ขอบเขตของกำรศกึ ษำ/ทดลอง 1.พนื ท่/ี สถานท:ี่ บา้ นของพิมพ์ชนก 2.ระยะเวลา : 22 พค.-19 มยิ .64 3.ดา้ นเนอื หา : -ความเปน็ มา -ประสทิ ธิภาพของสมนุ ไพร4ชนิด -สรรพคณุ ของสมุนไพร -ผลการทดลอง -ขนั ตอนในการทา้ -อปุ กรณ์ 1.7ประโยชน์ท่ีคำดว่ำจะไดร้ บั 1.ท้าใหท้ ราบวา่ สมนุ ไพรแต่ละชนดิ แตกต่างกนั อยา่ งไร 2.ท้าใหไ้ ด้ความร้เู ก่ียวกบั สมุนไพรและการทา้ นา้ ยาบว้ นปากจากสมุนไพร 3.เป็นแนวทางในการนา้ ผลติ มาใชเ้ พื่อช่วยลดกล่นิ ปากและแบคทเี รียในช่องปาก

บทที่ 2 เอกสำรและงำนที่เกี่ยวขอ้ ง จากการท้ารายงานการศึกษาค้นคว้า เรื่อง การทดลองเพื่อศึกษาประสิทธิภาพของน้ายาป้วน ปากด้วยสมุนไพร 4 ชนิดนัน ผู้จัดท้าโครงงานได้ศึกษาค้นคว้า และหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาประกอบ เพื่อใหม้ คี วามชดั เจนมากขึน สามารถสรุปรายละเอยี ดได้ดงั นี 2.1 ประสิทธภิ าพ สรรพคุณ และประโยชนข์ องอบเชย 2.2 ประสทิ ธิภาพ สรรพคุณ และประโยชนข์ องกานพลู 2.3 ประสิทธภิ าพ สรรพคุณ และประโยชน์ของสาระแหน่ 2.4 ประสทิ ธภิ าพ สรรพคุณ และประโยชน์ของใบฝร่งั 2.5 กระบวนการทดลองทางวิทยาศาสตร์

2.1 ประสทิ ธิภำพ สรรพคณุ และประโยชน์ของอบเชย อบเชย เป็นเคร่ืองเทศที่เชื่อว่าอาจมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ช่วยสมานแผล ป้องกันอาการท้องร่วง มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ หรือลดระดับน้าตาลในเลือด เนื่องจากเปลือกของอบเชยประกอบไปด้วยสารแทนนิน (Tannins) สารอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง ซึ่งอาจเปน็ ประโยชนต์ อ่ รา่ งกาย  สรรพคุณของอบเชย -อบเชยเทศมีสรรพคุณทางยาใกล้เคียงกับอบเชยไทย ตามต้าราสรรพคุณยาโบราณกล่าวว่า อบเชยมีกลิ่นหอม รสสุขุม (รสกลางๆ) มีสรรพคุณบ้ารุงดวงจิต แก้อ่อนเพลีย แก้ใจหวิว ใจส่ัน บ้ารุงก้าลัง บ้ารุงร่างกาย คนโบราณจึงนิยมน้าอบเชยเป็นส่วนประกอบของยาหอม โดยจะน้า สมุนไพรที่เป็นส่วนประกอบของยาหอม ไปตากแห้ง แล้วบดเป็นผงยา เม่ือมีอาการวิงเวียน หรืออ่อนเพลีย ก็จะน้าผงยาไปละลายในน้าต้มสุก แล้วค่อยๆจิบจะหมดแก้ว แต่ปัจจุบันมีการ ประยุกต์ใช้ โดยน้าผงยาหอม ไปผสมกับพิมเสนและการบูร ห่อในผนื ผ้าขนาดเล็ก แลว้ ใสห่ ่อผ้า เข้าไปในกรกั ยาดม ใช้ดมเวลารู้สึกจะเป็นลม หรอื วงิ เวยี น -ใบอบเชยเทศ ใช้กนั มาแต่โบราณ ทงั เป็นยาบา้ รุงกา้ ลังและบา้ รงุ รา่ งกาย แกจ้ ุกแนน่ และ ท้องเสีย นยิ มรบั ประทาน -ในรูปแบบตม้ กับนา้ เดือด

ในประเทศอนิ เดียและศรีลงั กา มกี ารใชอ้ บเชยเทศเปน็ ยาพืนบา้ นรกั ษาโรคเบาหวานและแก้ ไขส้ นั นิบาต มีวธิ ีรบั ประทานหลายรูปแบบ ทังแบบท่นี ้าผงอบเชยไปปั้นกบั นา้ ผึงเปน็ เม็ด ลกู กลอน หรือน้าอบเชยมาต้มดมื่ -ใช้เป็นยานตั ถุ์ แก้อาการปวดศรี ษะ แกอ้ าการคัดจมูก ท้าให้หายใจสะดวก -รากและใบมีกล่ินหอม ใช้ทา้ นา้ ตม้ ช่วยบรรเทาอาการไข้ท่ีเกดิ ขึนหลังจากคลอดบุตร แก้โรค หนองใน -เป็นสว่ นประกอบของยาขับลม แก้ท้องอดื เฟ้อ ขับผายลม ปจั จบุ ันน้ามาผลติ ในรปู แบบยานา้ เช่น ยาธาตอุ บเชย เปน็ ต้น

2.2 ประสทิ ธภิ ำพ สรรพคณุ และประโยชนข์ องกำนพลู กานพลู เปน็ ไม้ยืนตน้ และเป็นสมุนไพรชนิดหนึง่ ทีน่ า่ ใจ มีสรรพคณุ ทางยาหลากหลาย มี กลิ่นหอมเฉพาะตวั เป็นสมนุ ไพรไทยท่มี ีรสเผด็ โดยมกี ารเพาะปลูกและเกบ็ เกี่ยวมากทีส่ ดุ ใน ประเทศอนิ โดนเี ซีย อินเดยี ปากสี ถาน และศรีลงั กา เปน็ ต้น  ประโยชน์ของกำนพลู 1.กานพลมู ีสารประกอบอย่างฟโี นลกิ ในปริมาณมาก ซงึ่ มสี รรพคุณช่วยเรื่องการต่อตา้ นอนุมลู อิสระในรา่ งกาย 2.ใบกานพลูมีสว่ นช่วยเผาผลาญแคลอรี ช่วยลดความอยากนา้ ตาล และชว่ ยลดและควบคมุ ระดบั น้าตาลในเลือด 3.กานพลแู กป้ วดฟัน ดว้ ยการใช้นา้ มนั ทีก่ ลั่นมาจากดอกตูมของดอกกานพลปู ระมาณ 5 หยด แลว้ ใช้สา้ ลีพันปลายไม้จ่มุ น้ามันน้ามาอุดในรูที่ปวดฟันจะช่วยบรรเทาอาการปวดฟนั ได้ หรอื จะ นา้ ดอกมาเคยี วแล้วอมไวต้ รงบรเิ วณทีม่ อี าการปวดฟนั ก็ได้ หรอื จะนา้ ดอกกานพลมู าต้าให้ แหลก ผสมกับเหลา้ ขาวเล็กน้อยพอใหแ้ ฉะ แล้วน้ามาอุดฟันบริเวณที่ปวด (น้ามันสกัด) หรือจะ ใช้ดอกตูมที่แห้งแล้วน้ามาแช่เหลา้ เอาสา้ ลีชบุ อุดรฟู ันกไ็ ดเ้ ชน่ กัน 4.ชว่ ยรักษาโรครา้ มะนาด (โรคปริทนั ต)์ หรอื โรคท่มี ีการอักเสบของอวัยวะรอบ ๆ ฟันน่ันเอง ดว้ ยการน้าดอกมาเคยี วแล้วอมไวต้ รงบรเิ วณที่มอี าการของโรค (ดอกตูม)

2.3 ประสทิ ธิภำพ สรรพคณุ และประโยชน์ของสำระแหน่ สาระแหนอ่ ุดมไปด้วยวิตามนิ และแรธ่ าตตุ ่าง ๆ หลายชนดิ เชน่ เบตา้ แคโรทนี วติ ามินบี 1 วิตามินบี 2 วติ ามินบี 3 วติ ามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรสั ธาตุเหล็ก เป็นตน้ และยังให้ พลงั งาน 47 กโิ ลแคลอรี่ (ใน 100 กรมั ) โดยใบสะระแหนน่ ันควรเลอื กใช้ใบสดและยอดอ่อนจะ ได้สรรพคุณทดี่ ีกว่าใบแห้ง  ประโยชน์ของสำระแหน่ 1.ช่วยใหผ้ วิ ช่มุ ชืนดว้ ยการน้าใบสะระแหน่มาบดแลว้ น้ามาทาผิว 2.สะระแหนช่ ่วยกา้ จัดอนุมลู อสิ ระออกจากร่างกาย 3.ใช้เป็นยาเย็น ดบั รอ้ น และขบั เหง่ือในร่างกาย 4.ช่วยบ้ารงุ และรักษาสายตา 5.ช่วยลดรอยคลา้ ใต้ตาดว้ ยการนา้ ใบสะระแหนม่ าบดให้ละเอียดโดยเตมิ นา้ ระหวา่ งบดด้วย เลก็ น้อย แลว้ ใสน่ ้าผึงตามลงไป คลกุ เคล้าให้เขา้ กนั แล้วนา้ มาทาใตต้ าทงิ ไวป้ ระมาณ 15 นาที แลว้ ล้างออก

2.4 ประสิทธิภำพ สรรพคุณ และประโยชนข์ องใบฝรั่ง ใบฝรั่ง ใบฝรัง่ มีสรรพคุณหลายตอ่ หลายอยา่ ง ทังชว่ ยดับกลนิ่ ปาก แก้ท้องเสีย ท้องร่วง รกั ษาโรคเหงือก แถมยงั อุดมไปดว้ ยวิตามนิ เอ วติ ามนิ ซี โพแทสเซียม ไลโคปนี และไฟเบอร์ การันตีวา่ ดีตอ่ สุขภาพ ทสี่ ้าคัญช่วยบรรเทาและรักษาไดห้ ลายโรค  สรรพคณุ ของใบฝรั่ง -ชว่ ยระงบั กล่ินปาก -รักษาโรคเหงอื กอักเสบ และบรรเทาอาการปวดฟนั จากเหงอื กอกั เสบ -ลดการบีบตวั ของล้าไส้ แก้ท้องเสยี ทอ้ งรว่ ง -ลดนา้ ตาลในเลอื ด -ต้านเซลลม์ ะเร็ง

2.5 กระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ 2.5.1 กำหนดปญั หำและขอบเขตปัญหำ คนในสังคมส่วนใหญ่เกิดปญั หาการเกดิ แบคทีเรียในช่องปาก จงึ ทา้ ให้เกิดกลิ่นปาก 2.5.2 ตงั้ สมมตุ ฐิ ำน -เศษอาหารท่ีตกคา้ งอยตู่ ามซอกฟนั ท้าให้เกดิ แบคทีเรยี และมีกล่ินปาก -เหงอื กเปน็ หนองทา้ ใหเ้ กดิ แบคทีเรยี และมีกลิน่ ปาก -การรบั ประทานอารทท่ี า้ ใหเ้ กดิ กลนิ่ ปาก เช่น หัวหอม กระเทยี ม ทุเรยี น เป็นต้น -การดม่ื สรุ าหรือสูบบุหรี่ท้าให้เกดิ แบคทีเรียและมีกลิน่ ปาก -การที่มอี าการท้องผกู หลายๆวันท้าใหเ้ กิดการมกี ลน่ิ ปาก 2.5.3 ทดลองหรอื ตรวจสอบสมมุติฐำน โดยตรวจสอบจากการรับประทานอาหารทีท่ ้าให้เกิดกลนิ่ ปาก เชน่ หัวหอม กระเทยี ม ทเุ รยี น 2.5.4 ตคี วำมหมำยของข้อมูลวิเครำะหข์ อ้ มูล สาเหตุทที่ า้ ใหเ้ กิดแบคทีเรยี และมีกล่ินปาก เกิดจากการทเ่ี ราท้าความสะอาดในช่องปากไมส่ ะอาด มีเศษ อาหารท่ยี ังตกคา้ งอยตู่ ามซอกฟัน จงึ ท้าให้เกิดการสะสมของแบคทีเรยี สง่ ผลใหเ้ กดิ กลนิ่ ปาก 2.5.5 สรปุ ผล การทเี่ ราทา้ ความสะอาดในชอ่ งปากไม่สะอาด ท้าให้เกดิ แบคทีเรยี และสง่ ผลให้เกดิ กล่นิ ปาก

บทท่ี 3 วิธีกำรดำเนนิ งำน จากการท้ารายงานการศกึ ษาค้นควา้ เรื่อง การทดลองเพื่อศกึ ษาประสทิ ธิภาพของน้ายาป้วน ปาก ดว้ ยสมนุ ไพร 4 ชนิดนนั ผ้จู ดั ทา้ ไดด้ ้าเนนิ การทา้ โครงงานตามขนั ตอนดังต่อไปนี 3.1 วสั ดุ 1.อบเชย จ้านวน 10:20:30กรมั ตอ่ น้า30ลกู บาศก์เมตร 2.กานพลู จา้ นวน 10:20:30กรมั ต่อน้า30ลูกบาศกเ์ มตร 3.สะระแหน่ จา้ นวน 10:20:30กรมั ต่อน้า30ลกู บาศกเ์ มตร 4.ใบฝรง่ั จ้านวน 10:20:30กรมั ต่อน้า30ลกู บาศกเ์ มตร 5.นา้ จา้ นวน 30ลูกบาศก์เมตร 6.เกลอื จา้ นวน ½ ช้อนโตะ๊ 3.2 เคร่ืองมือและอุปกรณ์ 1.ถ้วย จา้ นวน 1ใบ 2.หม้อ จา้ นวน 1ใบ 3.ผ้าขาวบาง จา้ นวน 1 ผืน 4.ขวด จ้านวน 4ขวด 5.ฝา จ้านวน 4 ฝา 6.ชอ้ น จา้ นวน 1 คัน 3.3 วิธกี ำรดำเนนิ งำน 1.การออกแบบการศึกษา /การทดลอง 2.จดั หาวสั ดุ เคร่อื งมือและอปุ กรณ์ 3.ทา้ การศึกษา/ทดลอง 4.บันทึกผลการศึกษา/ทดลอง 5.รวบรวมขอ้ มูลผลลพั ธ์ทไี่ ด้จากการศกึ ษา/ทดลองไวใ้ นรปู แบบของตารางแล้วทา้ การแปรผล 6.เขียนสรุปผลการศึกษา/ทดลอง

3.4 แผนกำรดำเนนิ งำน ในการจัดทา้ การศึกษาคน้ คว้าครังนีผทุ้ ้าการคน้ คว้าอิสระมีแผนการด้าเนินงานดังนี ระยะเวลำ รำยกำรทีต่ ้องปฏบิ ัติ ผู้รบั ผิดชอบ ผู้เก่ียวขอ้ ง 22 พย.- สมาชิกในกลุ่มและ 5 มิย.64 1.กาก้าหนดปัญหาและหัวข้อการศึกษา พมิ พช์ นก ครูท่ีปรึกษา 5 มยิ .- สมาชิกในกลุ่มและ 19 มยิ .64 คน้ ควา้ ครทู ่ีปรึกษา สมาชิกในกลุ่มและ 2.ศึกษาค้นคว้าหาเอกสารอ้างอิงและ สวรรยา ครูท่ีปรกึ ษา งานวิจยั ทีเ่ ก่ยี วข้อง สมาชิกในกลุ่มและ ครทู ่ปี รกึ ษา 3.ก้าหนดกรอบแนวความคิดและวางแผน พมิ พช์ นก สมาชิกในกลุ่มและ ในการด้าเนินงาน ในรูปแบบการเขียนเค้า สวรรยา ครทู ี่ปรึกษา โครงการศกึ ษาค้นคว้า ธนภัทร สมาชิกในกลุ่มและ ครูทป่ี รึกษา เกษร์ชฎา กฤษณะ กมล 4.ลงมือท้าการศกึ ษาค้นควา้ / ทา้ โครงงาน พมิ พ์ชนก สวรรยา ธนภัทร 5.สรุปรายงานการศึกษาค้นคว้า ใน พิมพช์ นก รูปแบบเอกสาร เอกสารทางวิชาการ โครงงาน5บท 6.น้าเสนอผลงานแก่สาธารณชน หรือจัด พมิ พช์ นก นิทรรศการผลงานการศกึ ษา สวรรยา ธนภทั ร เกษรช์ ฎา กฤษณะ กมล 3.5 งบประมำณ ประมาณการค่าใชจ้ ่ายในการค้นควา้ อสิ ระทังสนิ 400 บาท จา้ แนกออกเป็นค่าใช้จา่ ยดังนี 1. ค่าวัสดุ(สนิ เปลอื ก) เป็นจ้านวนเงิน 120 บาท 2. คา่ เคร่ืองมือและอปุ กรณ์ เป็นจา้ นวนเงิน 80 บาท 3. คา่ การสบื ค้นและจัดท้ารายงาน เป็นจา้ นวนเงิน100 บาท 4. ค่าท้างานของนกั เรยี น (ค่าเดินทางและอาหาร กรณีทา้ กจิ กรรมนอกเหนอื เวลาเรยี น) เป็น จ้านวนเงนิ 100 บาท

บทที่ 4 ผลกำรทดลอง จากการท้ารายงานการศึกษาคน้ คว้า เรอื่ ง การทดลองเพ่ือศึกษาประสิทธิภาพของน้ายาป้วน ปาก ด้วยสมนุ ไพร 4 ชนิดนัน ผจู้ ัดทา้ โครงงานสามารถวิเคราะห์ผลการทดลองดงั รายละเอยี ดต่อไปนี 4.1 สรุปผลกำรทดลอง ในการทา้ น้ายาบ้วนจากหมุนไพร 4 ชนดิ อบเชย กานพลู สาระแหน่ ใบฝรั่ง เปน็ การทา้ โครงงาน แบบทดลอง จากการทดลองสรปุ ได้ว่า กานพลูมีประสทิ ธิภาพในการกา้ จดั เชือแบคทเี รีย และขจัดกลิ่น ปาก ของเราได้ดีทส่ี ุด

บทที่ 5 สรุป อภปิ รำยผล และข้อเสนอแนะ 5.1 อภปิ รำยผลกำรศกึ ษำ จากการด้าเนินงานการจัดท้าโครงงาน น้ายาบ้วนปากจากสมุนไพร 4 ชนดิ อบเชย กานพลู สาระ แหน่ ใบฝร่ัง ผู้จัดท้าได้จัดท้าเสร็จเป็นท่ีเรียบร้อย และได้น้ามาทดลองเปรียบเทียบคุณภาพในการใช้ งานและประสทิ ธิภาพที่ขายตามทอ้ งตลาดและได้ผลการทดลองที่เป็นไปตามวตั ถปุ ระสงค์พอสมควร 5.2 ปัญหำและอปุ สรรคในกำรดำเนินโครงงำน 1.เกดิ ปญั หาในเรื่องการหาอปุ กรณ์ต่างๆมาท้าเพราะ บางชนดิ หายาก 2.เกิดปัญหาในเร่ืองการทดลอง ในบางครังอาจทา้ ผดิ พลาด ผิดขนั ตอนไป 3.เกดิ ปัญหาในเรือ่ งเวลาการทดลองเพราะ เวลามนั มจี ้ากดั จงึ ทา้ ใหท้ ดลองได้ แค่เวลาสนั ๆ 5.3 ข้อเสนอแนะในกำรจดั ทำโครงงำนในครัง้ ตอ่ ไป 1.ควรจะจดั ทา้ โครงงานแบบนีแต่เพิ่มพวกสมุนไพรในการทดลองดูมากกว่านี อาจจะได้มตี ัวเลือกในการ ตัดสนิ ใจทา้ น้ายาบ้วนปากจากสมุนไพรชนิดอนื่ ๆ 2.ควรเพ่ิมระยะเวลาในการศึกษาข้อมูลท่ีใช้ในการจัดท้าโครงงาน เพื่อเพิ่ม ความหลากหลายของ อัตราส่วนทใี่ ช้ในการผสมและสามารถแก้ไขขอ้ ผดิ พลาดตา่ งๆท่เี กิดขึนได้ 3.ศึกษาหาข้อมูลเกีย่ วกบั สมนุ ไพรทงั 4 ชนดิ หรอื วธิ กี ารทา้ น้ายาบ้วนปากให้มคี วามช้านาญมากยงิ่ ขึน

บรรณำนุกรม สรรพคุณสมนุ ไพรอบเชย, ส้านักงานโครงการอนรุ กั ษพ์ ันธกุ รรมพืชอันเน่อื งมาจากพระราชด้าริ สมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกมุ ารี“อบเชยเทศ”“อบเชยตน้ (เชยี ด)”. [29 ก.ค. 2014]. สรรพคุณกานพลุ วกิ พิ ีเดยี สารานกุ รมเสรี, สา้ นักงานกองทนุ สนบั สนนุ การสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), ฐานขอ้ มลู เคร่ืองยาสมุนไพร คณะเภสชั ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั อุบลราชธานี [4 ก.ค. 2013]. สรรพคุณสะระแหน่ วกิ พิ เี ดีย สารานกุ รมเสรี, ส้านักงานกองทนุ สนับสนนุ การสร้างเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.) [3 ก.ค. 2013]. สรรพคุณใบฝร่ัง ,บริษัท รมาญา ลาบอราทอลี่ จ้ากัด ขอ้ มลู จากภาควชิ าเภสัชพฤกษศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ภาควชิ าเคมี คณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยทกั ษิณ โครงการอนรุ ักษ์ พนั ธุกรรมพืชอันเน่อื งมาจากพระราชด้ารฯิ (อพ.สธ.)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook