บทที่3นายอิทธิพฒั น์ พวงแก้ว เลขท่ี 16 ปวส.2 คอมพิวเตอร์ธรุ กิจห้อง2
โครงสร้างเครือข่าย (TOPOLOGY)1.ลกั ษณะการเชื่อมตอ่ เครือขา่ ย1.1)การเชื่อมตอ่ แบบจดุ ตอ่ จดุ (Point to Point)ตอบ การเช่ือมตอ่ แบบจดุ -ตอ่ -จดุ (Point-to-Point Connection) อาศยั การเช่ือมตอ่ โดยตรงระหว่างเทอร์มินอลกบั เคร่ืองคอมพิวเตอร์ ซงึ่ มกั จะนามาใช้ในหลายแบบคือ1.1 การเช่ือมต่อโดยตรงระหว่างเทอร์มินอลกับเครื่องเมนเฟรมในกรณีที่สามารถเชื่อมต่อได้และมีค่าใช้จ่ายไม่แพงจนเกินไป
1.2 การเช่ือมตอ่ ระหวา่ งเทอร์มินอลบางเคร่ืองกบั เคร่ืองเมนเฟรมเม่ือเทอร์มินอลอยไู่ กลออกไปมาก1.3 การเชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับเครื่องคอมพิวเตอร์ ผู้บริหารระบบ ผู้บริหารเครื อข่าย หรือโปรแกรมเมอร์ มักจะใช้เทอร์มินอลท่ีอยู่ใกล้กับเครื่องเมนเฟรมเรียกว่า คอนโซลเทอร์มินอล (ConsoleTerminal) สาหรับการตรวจสอบการทางานของระบบคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายจะมีเคร่ืองที่เรียกว่าคอนโซลเทอร์มินอล จะเช่ือมต่อกับเมนเฟรมแบบจดุ -ต่อ-จดุ ซง่ึ จะช่วยให้การติดต่อเกิดขึน้ ได้ทนั ทีทนั ใด เหมาะสาหรับการทางานที่ต้องการการควบคมุ อย่างใกล้ชิด และการติดตอ่ ท่ีต้องการสง่ ข้อมลู ปริมาณมาก
1.2)การเช่ือมตอ่ แบบหลายจดุ (Multipoint or Multidrop)ตอบ การเช่ือมต่อแบบหลายจดุ (Multipoint Connections) มีเครื่องโฮสต์หนง่ึ เครื่องที่ต้นสายสื่อสาร สว่ นที่ปลายสายจะมีเทอร์มินอลอย่จู านวนหนงึ่ ซง่ึ เป็นวิธีการที่นิยมใช้มากกวา่ การเช่ือมตอ่ แบบจดุ -ตอ่ -จดุ อนั ที่จริงแล้วการเช่ือมต่อของเทอร์ นินอลส่วนใหญ่ เป็ นแบบเชื่อมต่อแบบหลายจุดโดยมีสายส่ือสารเพียงเส้ นเดียวติดต่อรับและส่งข้ อมู ลเข้ าท่ีเครื่ องเมนเฟรม สายส่ือสารเส้นเดียวนีอ้ าจเช่ือมต่อผ่านโมเด็มเพื่อติดต่อกับเทอร์มินอลที่อยู่ไกลออกไป หรื อติดต่อกับเคร่ืองฟร้อนท์เอนด์โปรเซสเซอร์ หรือคอนเซน็ เทรเตอร์ เพื่อรวบรวมข้อมลู ในเบือ้ งต้นก่อนที่จะส่งให้กบั เคร่ืองเซิร์ฟเวอร์ (Server)ทาการประมวลผลในที่สดุ
การใช้ระบบเครือข่ายแบบเชื่อมต่อหลายจุด ช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในส่วนของการเช่ือมต่อแบบจุด - ต่อ - จุดลงได้มากโดยเฉพาะในระบบที่มีเทอร์มินอลระยะไกลติดตงั้ อย่เู ป็นจานวนมาก สมมตุ ิว่าบริษัทแห่งหน่ึงท่ีสานกั งานใหญ่อย่ทู ่ีกรุงเทพฯ และมีสาขาแห่งหน่ึงอย่ทู ี่จงั หวดั เชียงใหม่ ซ่ึงมีเทอร์มินอลจานวน 10 เคร่ือง การเชื่อมต่อแบบหลายจดุ จะใช้คอนเซน็ เทรเตอร์ตวั หนง่ึ พว่ งเทอร์มินอลทงั้ หมดเข้าด้วยกนั แล้วใช้โมเดม็ คหู่ นง่ึ เพอื่ ตดิ ตอ่ ผ่านสายโทรศพั ท์มาเชื่อมต่อเข้ากบั เคร่ืองเมนเฟรมที่กรุงเทพ เมื่อเปรียบเทียบกบั การเชื่อมตอ่ แบบจดุ - ต่อ - จดุ แล้ว จะต้องใช้โมเด็มจานวน 10 คพู่ ร้อมสายโทรศพั ท์ 10 คสู่ าย เพื่อเช่ือมตอ่ เทอร์มินอลทงั้ หมดกบั เมนเฟรมซง่ึ จะเป็นคา่ ใช้จ่ายท่ีสงู มากทีเดยี ว
2.โครงสร้างของเครือข่าย (Network Topology) แบง่ เป็น 6 ชนิด2.1)โครงสร้างแบบบสั (Bus Topology)ตอบ เป็นรูปแบบที่ เครื่องคอมพิวเตอร์จะถกู เช่ือมต่อกนั โดยผ่ายสายสญั ญาณแกนหลกั ท่ีเรียกว่า BUS หรือ แบ็คโบน(Backbone) คือ สายรับส่งสญั ญาณข้อมลู หลกั ใช้เป็นทางเดินข้อมลู ของทกุ เครื่องภายในระบบเครือข่าย และจะมีสายแยกยอ่ ยออกไปในแตล่ ะจดุ เพ่ือเช่ือมตอ่ เข้ากบัคอมพิวเตอร์เคร่ืองอื่น ๆ เรียกวา่ โหนด (Node)ปลายทงั้ 2 ด้านของบสั จะมีเทอร์มิเนเตอร์ (Terminator) ทาหน้าท่ีลบล้างสญั ญาณท่ีส่งมาถึง เพ่ือปอ้ งกนั ไม่ให้สญั ญาณข้อมลู นนั้ สะท้อนกลบั เข้ามายงั บสั อีก เพื่อเป็นการปอ้ งกนั การชนกนั ของข้อมลู อื่น ๆ ท่ีเดินทางอย่บู นบสั ในขณะนนั้ ทกุ ๆ โหนดภายในเครือข่ายแบบบสั สามารถรับรู้สญั ญาณข้อมลู ได้แต่จะมีเพียงโหนดปลายทางเพยี งโหนดเดียวเท่านนั้ ท่ีจะรับข้อมลู นนั้ ไปได้
สญั ญาณข้อมลู จากโหนดผ้สู ่งเม่ือเข้าส่บู สั ข้อมลู จะไหลผ่านไปยงั ปลายทงั้ 2 ด้านของบสั แต่ละโหนดที่เช่ือมต่อเข้ากับบสั จะคอยตรวจดวู า่ ตาแหน่งปลายทางท่ีมากบั แพก็ เกจข้อมลู นนั้ ตรงกบั ตาแหน่งของตนหรือไม่ ถ้าตรง ก็จะรับข้อมลู นัน้ เข้ามาส่โู หนด ตน แตถ่ ้าไม่ใช่ ก็จะปลอ่ ยให้สญั ญาณข้อมลู นนั้ ผา่ นข้อดี1. ไมต่ ้องเสียคา่ ใช้จ่ายในการวางสายเคเบิลมากนกั2. สามารถขยายระบบได้งา่ ย3. เสียคา่ ใช้จ่ายน้อยข้อเสีย1. เกิดข้อผิดพลาดง่าย เน่ืองจากทกุ เคร่ืองคอมพิวเตอร์ต่อย่บู นสายสญั ญาณเพียงเส้นเดียว หากมีการขาดท่ีตาแหน่งใดตาแหน่งหน่งึจะทาให้เครื่องอื่นสว่ นใหญ่หรือทงั้ หมดในระบบไม่สามารถใช้งานได้ตามไปด้วย2. การตรวจหาโหนดเสียทาได้ยาก เน่ืองจากขณะใดขณะหน่ึงจะมีคอมพิวเตอร์เพียงเคร่ืองเดียวเท่านนั้ ที่สามารถส่งข้อความออกมาบนสายสญั ญาณ ดงั นนั้ ถ้ามีเครื่องคอมพิวเตอร์จานวนมากๆ อาจทาให้ระบบช้าลงได้
2.2)โครงสร้างแบบดาว (Star Topology)ตอบ เป็นรูปแบบที่ เคร่ืองคอมพิวเตอร์ทกุ เครื่องทเี่ ช่ือมตอ่ เข้าด้วยกนั ในเครือข่าย จะต้องเชื่อมต่อกบั อปุ กรณ์ตวั กลางตวั หนึ่งท่เี รียกว่า ฮบั (HUB)หรือเคร่ือง ๆ หนึ่ง ซึ่งทาหน้าท่ีเป็นศูนย์กลางของการเชื่อมต่อสายสญั ญาณที่มาจากเครื่องต่าง ๆ ในเครือข่าย และควบคุ มเส้นทางการส่ือสารทงั้ หมด เมอื่ มเี คร่ืองที่ต้องการส่งข้อมลู ไปยงั เครื่องอ่ืน ๆ ท่ีต้องการในเครือข่าย เคร่ืองนนั้ ก็จะต้องส่งข้อมลู มายงั HUB หรือเครื่องศนู ย์กลางก่อนแล้ว HUB ก็จะทาหน้าท่กี ระจายข้อมลู นนั้ ไปในเครือข่ายตอ่ ไปข้อดี1. ง่ายในการให้บริการ เพราะมจี ดุ ศนู ย์กลางทาหน้าที่ ควบคมุ2. อปุ กรณ์หนง่ึ ตวั ตอ่ สายสง่ ข้อมลู หนง่ึ เส้น ทาให้การเสยี หายของอปุ กรณ์ในระบบไมก่ ระทบตอ่ การทางานของจดุ อน่ื ๆ ในระบบ3.ตรวจสอบจดุ ทเี่ ป็นปัญหาได้ง่ายข้อเสีย1. ถ้าสถานีกลางเกิดเสียขนึ ้ มาจะทาให้ทงั้ ระบบทางานไมไ่ ด้2. ต้องใช้สายสง่ ข้อมลู จานวนมาก ทาให้ต้องเสียคา่ ใช้จา่ ยเพ่ิมขนึ ้ ในการตดิ ตงั้ และบารุงรักษา
2.3)โครงสร้างแบบวงแหวน (Ring Topology)ตอบ เคร่ืองคอมพิวเตอร์ทกุ เคร่ืองถกู เชื่อมตอ่ กนั เป็นวงกลม ข้อมลู ข่าวสารที่สง่ ระหวา่ งกนั จะไหลวนอยใู่ นเครือข่ายไปในทิศทางเดียวกนั แต่ละโหนดหรือแตล่ ะเครื่อง จะมีรีพีตเตอร์ (Repeater) ประจาแตล่ ะเคร่ือง 1 ตวั ซง่ึ จะทาหน้าท่ีเพ่ิมเติมข้อมลู ท่ีจาเป็นต่อการติดตอ่ ส่ือสารเข้าในส่วนหวั ของข้อมลูท่ีสง่ และตรวจสอบข้อมลู วา่ เป็นข้อมลู ของตนหรือไม่ แตถ่ ้าไมใ่ ช่กจ็ ะปลอ่ ยข้อมลู นนั้ ไปยงั Repeater ของเคร่ืองถดั ไปข้อดี1. มปี ระสทิ ธิภาพสงู แม้ว่าการจราจรในเครือขา่ ยจะมาก2. มีการใช้สายเคเบิลน้อยข้อเสีย1. ถ้าจดุ ใดจดุ หนง่ึ เสียหาย จะทาให้ทงั้ ระบบไมส่ ามารถตดิ ตอ่ กนั ได้ จนกวา่ จะเอาจดุ ท่ีเสียหาย ออกจากระบบ2. ยากในการตรวจสอบข้อผิดพลาด3. การเปล่ียนแปลงเครือขา่ ยทาได้ยาก และอาจต้องหยดุ การใช้งานเครือข่ายชว่ั คราว
2.4)โครงสร้างแบบต้นไม้ (Tree Topology)ตอบ เครือข่ายแบบต้นไม้ (Tree Network) เป็นเครือข่ายท่มี ีผสมผสานโครงสร้างเครือข่าย แบบตา่ ง ๆ เข้าด้วยกนั เป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ การจดั สง่ ข้อมลู สามารถส่งไปถงึ ได้ทกุ สถานี การสื่อสารข้อมลู จะผ่านตวั กลางไปยงั สถานีอื่น ๆ ได้ทงั้ หมด เพราะทกุ สถานีจะอย่บู นทางเช่ือม รับสง่ ข้อมลู เดียวกนัข้อดี- มคี วามเร็วในการส่ือสารข้อมลู สงู โปรแกรมท่ใี ช้ในการควบคมุ การสอ่ื สารก็เป็นแบบพืน้ ฐานไม่ซบั ซ้อนมากนกั- สามารถรับสง่ ข้อมลู ได้ปริมาณมากและไมม่ ปี ัญหาเร่ืองการจดั การการจราจรในสอ่ื สง่ ข้อมลู ไมเ่ หมือนกบั แบบทใ่ี ช้สื่อสง่ ข้อมลู ร่วมกนั- มีความทนทานตอ่ ความเสยี หายเม่อื สือ่ สง่ ข้อมลู หรือสายใดสายหนง่ึ เสียหายใช้การไมไ่ ด้ ไมส่ ง่ ผลต่อระบบเครือข่ายโดยรวม แตเ่ กิดเสียหายเฉพาะเคร่ืองต้นสายและปลายสายเทา่ นนั้- ระบบเครือข่ายมีความปลอดภยั หรือมีความเป็นส่วนตวั เม่ือข่าวสารถกู รับสง่ โดยใช้สายเฉพาะระหว่าง 2 เคร่ืองเทา่ นนั้ เคร่ืองอ่ืนไม่สามารถเข้าไปใช้สายร่วมด้วย- เน่ืองจากโทโพโลยีแบบสมบรู ณ์เป็นการเชื่อมต่อแบบจดุ ตอ่ จดุ ทาให้เราสามารถแยกหรือระบุเครื่องหรือสายทเี่ สียหายได้ทนั ที ช่วยให้ผ้ดู แู ลระบบแก้ไขข้อผิดพราดหรือจดุ ทีเ่ สียหายได้งา่ ย
ข้อเสีย- จานวนสายที่ใช้ต้องมีจานวนมากและอินพดุ / เอาต์พตุ พอร์ต (i / o port ) ต้องใช้จานวนมากเช่นกนั เพราะแต่ละเครื่องต้องตอ่ เชื่อมไปยงั ทกุ ๆ เคร่ืองทาให้การตดิ ตงั้ หรือแก้ไขระบบทาได้ยาก- สายท่ีใช้มีจานวนมาก ทาให้สนิ ้ เปลืองพืน้ ท่ีในการเดนิ สาย- เนื่องจากอปุ กรณ์ต้องการใช้อินพดุ / เอาต์พุตพอร์ตจานวนมาก ดงั นนั้ ราคาของอปุ กรณ์ต่อเชื่อมจึงมีราคาแพงและจากข้อเสียข้างต้นทาให้โทโพโลยีแบบสมบรู ณ์จงึ ถกู ทาไปใช้คอ่ นข้างอย่ใู นวงแคบ
2.5)โครงสร้างแบบผสม (Hybrid Topology)ตอบ เป็นรูปแบบใหม่ ที่เกิดจากการผสมผสานกนั ของโทโปโลยีแบบ STAR , BUS , RINGเข้าด้วยกนั เพื่อเป็นการลดข้อเสียของรูปแบบที่กล่าวมา และเพ่ิมข้อดี ขนึ ้ มา มกั จะนามาใช้กบั ระบบ WAN (Wide Area Network) มาก ซง่ึการเช่ือมตอ่ กนั ของแตล่ ะรูปแบบนนั้ ต้องใช้ตวั เช่ือมสญั ญาณเข้ามาเป็นตวั เชื่อม
2.6)โครงสร้างแบบเมซ (Mesh Topology)ตอบ เป็นรูปแบบท่ีถือว่า สามารถป้องกันการผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึน้ กบั ระบบได้ดีที่สดุ เป็นรูปแบบที่ใช้วิธีการเดินสายของแต่เคร่ือง ไปเชื่อมการติดต่อกบั ทกุ เครื่องในระบบเครือข่ายคือเครื่องทกุ เคร่ืองในระบบเครือข่ายนี ้ต้องมีสายไปเช่ือมกบั ทกุ ๆ เคร่ือง ระบบนีย้ ากตอ่ การเดนิ สายและมีราคาแพง จงึ มีค่อยมีผ้นู ิยมมากนกั
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: