บทที่1นายอิทธิพฒั น์ พวงแกว้ เลขท่ี 16 ปวส.2 คอมพิวเตอร์ธุรกิจหอ้ ง2
แบบฝึกหดั หน่วยท่ี 11.การส่ือสารขอ้ มูล (Data Communication) หมายถึงตอบ กระบวนการถา่ ยโอนหรือแลกเปลี่ยนขอ้ มูลกนั ระหวา่ งผสู้ ่งและผรู้ ับ โดยผา่ นช่องทางส่ือสาร เช่น อุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์ หรือคอมพวิ เตอร์เป็นตวั กลางในการส่งขอ้ มูล เพื่อให้ ผู้ส่งและผรู้ ับเกิดความเขา้ ใจซ่ึงกนั และกนั
2.การสื่อสารทางไกล (Telecommunication) หมายถึงอะไรตอบ การติดตอ่ ส่ือสารดว้ ยการรับส่งขอ้ มูลขา่ วสารระหวา่ งตวั ประมวลผล โดยผา่ นสื่อกลางที่เชื่อมตน้ ทางและปลายทางท่ีห่างกนั โดยใชอ้ ุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์หลายรูปแบบ ตามกฎเกณฑ์หรือระเบียบวธิ ีการที่กาหนดข้ึนในแต่ละอุปกรณ์
3.ระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ (Computer Network) หมายถึงอะไรตอบ ระบบที่มีคอมพิวเตอร์อยา่ งนอ้ ยสองเครื่องเชื่อมต่อกนั โดยใชส้ ื่อกลาง และสามารถส่ือสารขอ้ มูลกนั ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ ซ่ึงทาใหผ้ ใู้ ชค้ อมพิวเตอร์แต่ละเคร่ืองสามารถแลกเปล่ียนขอ้ มูลซ่ึงกนั และกนั ได้ นอกจากน้ียงั สามารถใชท้ รัพยากรที่มีอยใู่ นเครือข่ายร่วมกนั ได้
4.ส่วนประกอบของระบบสื่อสารขอ้ มูลประกอบดว้ ยอะไรบา้ งตอบ 1.ผสู้ ่ง (Sender) 2.ผรู้ ับ (Receiver) 3.ส่ือกลาง (Medium) 4.ขอ้ มูลขา่ วสาร (Message 5.โปรโตคอล (Protocol
5.ประโยชนข์ องระบบเครือขา่ ยมีอะไรบา้ งตอบ 1. สามารถแชร์ขอ้ มูลใชร้ ่วมกนั ได้ ขอ้ มูลตา่ งๆในแตล่ ะเคร่ืองภายในระบบ หากมีผอู้ ่ืนตอ้ งการใช้ คุณสามารถแชร์ใหผ้ อู้ ่ืนนาไปใชไ้ ด้ หรือขอ้ มูลที่เป็นส่วนรวมกส็ ามารถแชร์ไวเ้ พ่ือใหห้ ลายๆฝ่ ายนาไปใชง้ านได้ ซ่ึงกจ็ ะช่วยทาใหป้ ระหยดั เน้ือที่ในการจดั เกบ็ และช่วยใหก้ ารปรับปรุงขอ้ มูลในระบบง่ายข้ึนและไม่เกิดความขดั แยง้ ของขอ้ มูลดว้ ย เพราะขอ้ มูลมีอยู่ชุดเดียว
2.สามารถแชร์อุปกรณ์ต่างๆร่วมกนั ได้ เช่น เคร่ืองพมิ พ์ สแกนเนอร์ ซิปไดร์ฟ เป็นตน้ โดยที่ไม่จาเป็นตอ้ งซ้ืออุปกรณ์เหลา่ น้นั มาติดต้งั กบั ทุกๆเคร่ือง เช่นในบา้ นคุณมีเคร่ืองคอมพิวเตอร์ท้งั หมด 4เคร่ือง อาจจะซ้ือเครื่องพมิ พม์ าเพยี งตวั เดียวและแชร์เครื่องพิมพน์ ้นั เพ่ือใชร้ ่วมกนั ได้3. สามารถใชโ้ ปรแกรมร่วมกนั หลายๆเครื่องได้ เช่น ในหอ้ ง LAB คอมพิวเตอร์ที่มีจานวนคอมพิวเตอร์ที่มีจานวนเครื่องในระบบจานวน 30 เคร่ือง คุณสามารถซ้ือโปรแกรมเพียงแค่ 1 ชุดและสามารถใชง้ านร่วมกนั ได้ ซ่ึงจะทาใหส้ ะดวกในการดูแลรักษาดว้ ย
4.การสื่อสารในระบบเครือข่ายผใู้ ชส้ ามารถเชื่อมกบั เครื่องอ่ืนๆในระบบได้ เช่น อาจจะส่งขอ้ ความจากเคร่ืองของคุณไปยงั เคร่ืองของคนอ่ืนๆได้ นอกจากน้ีคุณยงั สามารถใช้ E - Mail ส่งขอ้ ความขา่ วสารตา่ งๆภายในสานกั งานไดอ้ ีก เช่น แจง้ กาหนดการต่างๆแจง้ ขอ้ มูลต่างๆใหท้ ุกๆคนทราบ โดยไม่ตอ้ งพิมพอ์ อกทางเครื่องพมิ พเ์ พื่อแจกจ่าย ทาใหป้ ระหยดั ค่าใชจ้ ่ายไดอ้ ีกทางหน่ึง5. การแชร์อินเทอร์เน็ต ภายในระบบเครือข่ายคุณสามารถแชร์อินเตอร์เน็ตเพือ่ ใชร้ ่วมกนั ได้ โดยที่คุณไม่จาเป็นตอ้ งซ้ือ Internet Account สาหรับทุกๆเครื่องและไม่จาเป็นตอ้ งติดต้งั โมเดม็ ทุกเคร่ือง ซ่ึงกจ็ ะช่วยใหค้ ุณประหยดั ค่าใชจ้ ่ายไดม้ าก
6. การสื่อสารขอ้ มูลมีกี่ชนิดอะไรบา้ งแตล่ ะชนิดแตกต่างกนั อยา่ งไร ?ตอบ 1. จาแนกตามกระบวนการหรือการไหลของข่าวสาร1.1 การส่ือสารทางเดียว (One-Way Communication) คือการ สื่อสารที่ขา่ วสารจะถูกส่งจากผสู้ ่งไปยงั ผรู้ ับในทิศทางเดียว โดยไม่มีการตอบโตก้ ลบัจากฝ่ ายผรู้ ับ เช่น การสื่อสารผา่ นสื่อ วทิ ยุ โทรทศั น์ หนงั สือพิมพ์ การออกคาสง่ั หรือมอบหมายงานโดย ฝ่ ายผรู้ ับไม่มีโอกาสแสดงความคิดเห็น ซ่ึงผรู้ ับอาจไม่เขา้ ใจข่าวสาร หรือเขา้ ใจไม่ถูกตอ้ งตามเจตนาของผสู้ ่งและทางฝ่ ายผสู้ ่งเม่ือไม่ทราบปฏิกิริยาของผรู้ ับจึงไม่อาจปรับการส่ือสารใหเ้ หมาะสมได้ การสื่อสารแบบน้ีสามารถทาไดร้ วดเร็วจึงเหมาะสาหรับการส่ือสารในเรื่องที่เขา้ ใจง่าย
1.2 การสื่อสารสองทาง (Two-way Communication) คือการส่ือสารที่มีการส่งขา่ วสารตอบกลบั ไปมาระหวา่ งผสู้ ่ือสาร ดงั น้นั ผสู้ ื่อสารแต่ละฝ่ ายจึงเป็นท้งั ผสู้ ่งและผรู้ ับในขณะเดียวกนั ผสู้ ่ือสารมีโอกาสทราบปฏิกิริยาตอบสนองระหวา่ งกนั ทาใหท้ ราบผลของการส่ือสารวา่ บรรลุจุดประสงคห์ รือไม่ และช่วยใหส้ ามารถปรับพฤติกรรมในการสื่อสารใหเ้ หมาะสมกบั สถานการณ์ ตวั อยา่ งการสื่อสารแบบสองทางเช่น การพบปะพดู คุยกนั การพดู โทรศพั ท์ การออกคาส่งั หรือมอบหมายงานโดยฝ่ ายรับมีโอกาสแสดงความคิดเห็น การส่ือสารแบบน้ีจึงมีโอกาสประสบผลสาเร็จไดม้ ากกวา่ แตถ่ า้เรื่องราวที่จะสื่อสารเป็นเร่ืองง่าย อาจทาใหเ้ สียเวลาโดยไม่จาเป็น
2. จาแนกตามภาษาสญั ลกั ษณ์ท่ีแสดงออก 2.1 การสื่อสารเชิงวจั นะ (Verbal Communication) หมายถึงการส่ือสารดว้ ยการใชภ้ าษาพูด หรือเขียนเป็นคาพดู ในการสื่อสาร2.2 การส่ือสารเชิงอวจั นะ (Non-Verbal Communication) หมายถึงการสื่อสารโดยใชร้ หสั สัญญาณอยา่ งอ่ืน เช่น ภาษาท่าทาง การแสดงออกทางใบหนา้ สายตา ตลอดจนถึงน้าเสียง ระดบั เสียง ความเร็วในการพูด เป็นตน้ (ปรมะสตะเวทิน 2529 :3. จาแนกตามจานวนผสู้ ่ือสาร 3.1 การส่ือสารส่วนบุคคล (Intrapersonal Communication) 3.2 การสื่อสารระหวา่ งบุคคล (Interpersonal Communication) 3.3 การสื่อสารมวลชน (Mass Communication)
7สญั ญาณมีก่ีประเภทอะไรบา้ ง ? ตอบ 1. สัญญาณแอนะลอ็ ก (analog signal) 2. สัญญาณดิจิทลั (digital signal)
แบบฝึกหดั หน่วยที่1ประเภทเครือข่าย
1.แบ่งตามลกั ษณะทางกายภาพ คือPAN คือเทคโนโลยกี ารเขา้ ถึงไร้สายในพ้นื ท่ีเฉพาะส่วนบุคคล โดยมีระยะทางไม่เกิน 1เมตร และมีอตั ราการรับส่งขอ้ มูลความเร็วสูงมาก (สูงถึง 480 Mbps) ซ่ึงเทคโนโลยที ่ีใชก้ นั แพร หลาย กเ็ ช่น• UltraWide Band (UWB) ตามมาตรฐาน IEEE 802.15.3a• Bluetooth ตามมาตรฐาน IEEE 802.15.1• Zigbee ตามมาตรฐาน IEEE 802.15.4เทคโนโลยเี หล่าน้ีใช้สาหรับการติดต่อสื่อสารระหวา่ งคอมพวิ เตอร์และ อุปกรณ์ตอ่ พว่ ง(peripherals) ใหส้ ามารถรับส่งขอ้ มูลถึงกนั ได้ และยงั ใชส้ าหรับการรับส่งสัญญาณวดิ ีโอที่มีความละเอียดภาพสูง (high-definition video signal) ไดด้ ว้ ยPersonal Area Network (PAN)ช่วยใหเ้ ราสามารถจดั การขอ้ มูลระหวา่ งอุปกรณ์ต่างๆท่ีเคล่ือนท่ีไปมาได้
LAN เป็นระบบเครือข่ายท่ีใชง้ านอยใู่ นบริเวณที่ไม่กวา้ งนกั อาจใชอ้ ยภู่ ายในอาคารเดียวกนัหรืออาคารที่อยใู่ กลก้ นั เช่น ภายในมหาวทิ ยาลยั อาคารสานกั งาน คลงั สินคา้ หรือโรงงาน เป็นตน้การส่งขอ้ มูลสามารถทาไดด้ ว้ ยความเร็วสูงและมีขอ้ ผดิ พลาดนอ้ ยระบบเครือข่ายระดบั ทอ้ งถ่ินจึงถูกออกแบบมาใหช้ ่วยลดตน้ ทุนและเพื่อเพมิ่ ประสิทธิภาพในการทางานและใชง้ านอุปกรณ์ต่างๆร่วมกนั
MAN เป็นระบบเครือข่ายที่มีขนาดอยรู่ ะหวา่ ง Lan และ Wan เป็นระบบเครือข่ายท่ีใช้ภายในเมืองหรือจงั หวดั เท่าน้นั การเชื่อมโยงจะตอ้ งอาศยั ระบบบริการเครือข่ายสาธารณะ จึงเป็นเครือข่ายที่ใชก้ บั องคก์ ารท่ีมีสาขาห่างไกลและตอ้ งการเชื่อมสาขาเหล่าน้นั เขา้ ดว้ ยกนั เช่น ธนาคารเครือขา่ ยแวนเช่ือมโยงระยะไกลมาก จึงมีความเร็วในการสื่อสารไม่สูงเนื่องจากมีสัญญาณรบกวนในสายเทคโนโลยที ่ีใชก้ บั เครือข่ายแวนมีความหลากหลายมีการเช่ือมโยงระหวา่ งประเทศดว้ ยช่องสญั ญาณดาวเทียม เส้นใยนาแสง คล่ืนไมโครเวฟ คล่ืนวทิ ยุ สายเคเบิล
WAN เป็นระบบเครือขา่ ยที่ติดต้งั ใชง้ านอยใู่ นบริเวณกวา้ ง เช่น ระบบเครือข่ายท่ีติดต้งั ใชง้ านทว่ั โลก เป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพวิ เตอร์หรืออุปกรณ์ที่อยหู่ ่างไกลกนั เขา้ ดว้ ยกนั อาจจะตอ้ งเป็นการติดตอ่ ส่ือสารกนั ในระดบั ประเทศขา้ มทวปี หรือทว่ั โลกกไ็ ดใ้ นการเชื่อมการติดต่อน้นัจะตอ้ งมีการต่อเขา้ กบั ระบบสื่อสารขององคก์ ารโทรศพั ทห์ รือการส่ือสารแห่งประเทศไทยเสียก่อนเพราะจะเป็นการส่งขอ้ มูลผา่ นสายโทรศพั ทใ์ นการติดต่อส่ือสารกนั โดยปกติมีอตั ราการส่งขอ้ มูลท่ีต่าและมีโอกาสเกิดขอ้ ผดิ พลาดการส่งขอ้ มูลอาจใชอ้ ุปกรณ์ในการส่ือสาร เช่น โมเดม็(Modem) มาช่วย
2. แบ่งตามหนา้ ท่ีของคอมพวิ เตอร์Peer-to-Peer เป็นการเชื่อมตอ่ เคร่ืองคอมพวิ เตอร์เขา้ ดว้ ยกนั โดยเคร่ืองคอมพิวเตอร์ แตล่ ะเคร่ืองจะสามารถแบ่งทรัพยากรต่างๆ ไม่วา่ จะเป็นไฟลห์ รือเคร่ืองพมิ พซ์ ่ึงกนั และกนั ภายในเครือข่ายได้ เคร่ืองแต่ละเครื่องจะทางานในลกั ษณะที่ทดั เทียมกนั ไม่มีเคร่ืองใดเคร่ืองเครื่องหน่ึงเป็นเครื่องหลกั เหมือนแบบClient / Server แตก่ ย็ งั คงคุณสมบตั ิพ้นื ฐานของระบบเครือข่ายไวเ้ หมือนเดิม การเช่ือมตอ่ แบบน้ีมกั ทาในระบบที่มีขนาดเลก็ ๆ เช่น หน่วยงานขนาดเลก็ ท่ีมีเครื่องใชไ้ ม่เกิน 10 เครื่อง การเช่ือมต่อแบบน้ีมีจุดออ่ นในเร่ืองของระบบรักษาความปลอดภยั แตถ่ า้ เป็นเครือขา่ ยขนาดเลก็ และเป็นงานท่ีไม่มีขอ้ มูลที่เป็นความลบั มากนกั เครือข่ายแบบน้ี กเ็ ป็นรูปแบบท่ีน่าเลือกนามาใชไ้ ดเ้ ป็นอยา่ งดี
Client-Server เป็นระบบที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเคร่ืองมีฐานะการทางานที่เหมือน กนั เท่าเทียมกนั ภายในระบบเครือข่ายแต่จะมีเคร่ืองคอมพวิ เตอร์เคร่ืองหน่ึงท่ีทาหนา้ ที่เป็นเครื่อง Server ท่ีทาหนา้ ท่ีใหบ้ ริการทรัพยากรต่างๆใหก้ บั เคร่ืองClientหรือเครื่องที่ขอใชบ้ ริการซ่ึงอาจจะตอ้ งเป็นเครื่องท่ีมีประสิทธิภาพที่ค่อนขา้ งสูง ถึงจะทาใหก้ ารใหบ้ ริการมีประสิทธิภาพตามไปดว้ ย ขอ้ ดีของระบบเครือข่าย Client - Server เป็นระบบที่มีการรักษาความปลอดภยั สูงกวา่ ระบบแบบ PeerTo Peer เพราะวา่ การจดั การในดา้ นรักษาความปลอดภยั น้นั จะทากนั บนเครื่อง Serverเพยี งเครื่องเดียวทาใหด้ ูแลรักษาง่ายและสะดวกมีการกาหนดสิทธิการเขา้ ใชท้ รัพยากรต่างๆใหก้ บั เครื่องผขู้ อใชบ้ ริการหรือเคร่ืองClient
3. แบ่งตามระดบั ความปลอดภยั ของขอ้ มูลเป็นเกณฑ์Intranet ระบบการรักษาความปลอดภยั เป็นส่ิงท่ีแยกอินทราเน็ตออกจากอินเทอร์เน็ตเครือขา่ ยอินทราเน็ตขององคก์ รจะถูกปกป้องโดยไฟลว์ อลล์ (Firewall) ซ่ึงอาจจะเป็นไดท้ ้งั ฮาร์ดแวร์และซอฟตแ์ วร์ท่ีทาหนา้ ท่ีกรองขอ้ มูลที่แลกเปลี่ยนกนั ระหวา่ งอินทราเน็ตและอินเทอร์เน็ตเมื่อท้งั สองระบบมีการเชื่อมตอ่ กนั ดงั น้นั องคก์ รสามารถกาหนดนโยบายเพอื่ ควบคุมการเขา้ ใชง้ านอินทราเน็ตไดอ้ ินทราเน็ตสามารถสนองความตอ้ งการของผใู้ ชใ้ นองคก์ รไดห้ ลายอยา่ ง ความง่ายในการตีพมิ พบ์ นเวบ็ ทาใหเ้ ป็นที่นิยมในการประกาศขา่ วสารขององคก์ ร เช่น ข่าวภายในองคก์ รกฎ ระเบียบ และมาตรฐาน การปฏิบตั ิงานตา่ ง ๆ เป็นตน้ หรือแมก้ ระทง่ั การเขา้ ถึงฐานขอ้ มูลขององคก์ รกง็ ่ายเช่นกนั ผใู้ ชส้ ามารถทางานร่วมกนั ได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากข้ึน
Internet ความปลอดภยั ของขอ้ มูล เนื่องจากทุกคนสามารถเขา้ ถึงขอ้ มูลทุกอยา่ งที่แลกเปล่ียนผา่ นอินเทอร์เน็ตไดอ้ ินเทอร์เน็ตใชโ้ ปรโตคอลที่เรียกวา่ “TCP/IP (TransportConnection Protocol/Internet Protocol)” ในการส่ือสารขอ้ มูลผา่ นเครือข่าย ซ่ึงโปรโตคอลน้ีเป็นผลจากโครงการหน่ึงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ โครงการน้ีมีช่ือวา่ARPANET (Advanced Research Projects AgencyNetwork) ในปี ค.ศ.1975 จุดประสงคข์ องโครงการน้ีเพ่ือเช่ือมต่อคอมพิวเตอร์ที่อยหู่ ่างไกลกนัและภายหลงั จึงไดก้ าหนดใหเ้ ป็นโปรโตคอลมาตรฐานในเครือขา่ ยอินเทอร์เน็ตในปัจจุบนั อินเทอร์เน็ตไดก้ ลายเป็นเครือขา่ ยสาธารณะ ซ่ึงไม่มีผใู้ ดหรือองคก์ รใดองคก์ รหน่ึงเป็นเจา้ ของอยา่ งแทจ้ ริง การเชื่อมตอ่ เขา้ กบั อินเทอร์เน็ตตอ้ งเชื่อมตอ่ ผา่ นองคก์ รท่ีเรียกวา่ “ISP (Internet ServiceProvider)” ซ่ึงจะทาหนา้ ที่ใหบ้ ริการในการเชื่อมตอ่ เขา้ กบั อินเทอร์เน็ต นนั่ คือ ขอ้ มูลทุกอยา่ งท่ีส่งผา่ นเครือข่าย ทุกคนสามารถดูได้ นอกเสียจากจะมีการเขา้ รหสั ลบั ซ่ึงผใู้ ชต้ อ้ งทาเอง
Extranet เอก็ ส์ทราเน็ต (Extranet) เป็นเครือขา่ ยก่ึงอินเทอร์เน็ตก่ึงอินทราเน็ตกล่าวคือ เอก็ ส์ทราเน็ตคือเครือข่ายท่ีเช่ือมต่อระหวา่ งอินทราเน็ตของสององคก์ ร ดงั น้นั จะมีบางส่วนของเครือข่ายที่เป็นเจา้ ของร่วมกนั ระหวา่ งสององคก์ รหรือบริษทั การสร้างอินทราเน็ตจะไม่จากดั ดว้ ยเทคโนโลยี แต่จะยากตรงนโยบายท่ีเก่ียวกบั การรักษาความปลอดภยั ของขอ้ มูลที่ท้งั สององคก์ รจะตอ้ งตกลงกนั เช่น องคก์ รหน่ึงอาจจะอนุญาตใหผ้ ใู้ ชข้ องอีกองคก์ รหน่ึงลอ็ กอินเขา้ ระบบอินทราเน็ตของตวั เองหรือไม่ เป็นตน้ การสร้างเอก็ ส์ทราเน็ตจะเนน้ ที่ระบบการรักษาความปลอดภยั ขอ้ มูล รวมถึงการติดต้งัไฟลว์ อลลห์ รือระหวา่ งอินทราเน็ตและการเขา้ รหสั ขอ้ มูลและส่ิงท่ีสาคญั ที่สุดกค็ ือ นโยบายการรักษาความปลอดภยั ขอ้ มูลและการบงั คบั ใช้
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: