รายงานสรปุ ผลการดาเนินกิจกรรมส่งิ แวดล้อม ประจาปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ จัดทาโดย นายบรุ ิศร์ กองมะลิ งานสิงแ่ วดล้อม กลมุ่ ตานโยบาย โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 อาเภอแมแ่ จม่ จงั หวดั เชียงใหม่ สานักบริหารงานการศกึ ษาพเิ ศษ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
รายงานผลการดาเนินงานดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม ประจาปีการศึกษา 256๒ ภาคเรยี นท่ี ๑ กลมุ่ งานตามนโยบายโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 อาเภอแมแ่ จ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ............................................................................................................................ ชือ่ -สกุล นายบุริศร์ กองมะลิ ตาแหน่ง พนกั งานราชการ งานตามโครงสร้างการบริหารงาน งานตามนโยบาย ด้านสิ่งแวดล้อม ๑) กิจกรรมฮีโรร่ ักษ์นา้ ระยะเวลาในการจดั กิจกรรม วันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๒ สถานท่ใี นการจัดกิจกรรม หนว่ ยโครงการพัฒนาป่าไม้อนั เนื่องมาจากพระราชดาริฯ อ.แมแ่ จม่ หน่วยงานท่จี ัดกิจกรรม มลู นิธิรกั ษ์ไทย มูลนิธิรักษ์ไทยได้จัดทาโครงการฮีโร่รักษ์นา ในการส่งเสริมในเยาวชนได้มีส่วนร่วมในการทากิจกรรมด้าน สิ่งแวดล้อม เช่น การดูแลรักษาคุณภาพนา การตรวจสอบคุณภาพนา การรณรงค์ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรนาใน พืนที่ชุมชน โดยทางมูลนิธิได้เชิญคณะครูเข้าร่วมการอบรมเพื่อเตรียมตัวในการสร้าง พี่เลียงฮีโร่รักษ์นา โดย ประกอบขันการเรียนรู้ ๗ ขันตอนดังนี
ขน้ั ท่ี ๑ การปลกู พลัง ฮโี ร่ สร้างความคิดเชิงบวกในการทากิจกรรมด้านสิง่ แวดล้อม ขน้ั ท่ี ๒ น้ากับชีวติ ให้ข้อมลู ศกึ ษาเกีย่ วกับความสาคัญของนามีผลต่อการใช้ชีวติ ข้นั ท่ี ๓ ถูมิปญั ญาท้องถิ่น ศกึ ษาขนบธรรมเนยี ม วิธีการของชุมชน ในการบริหารจัดการทรัพยากรนา ขั้นท่ี ๔ การจดั การน้าในโรงเรยี น ศกึ ษาสร้างแบบจาลองในการบริหารจัดการนา ขนั้ ท่ี ๕ การตรวจวดั คุณภาพน้า ใช้ชุดเครอ่ื งมอื และวิธีการทางวิทยาศาสตร์ในการตรวจวดั คณุ ภาพนา ขั้นท่ี ๖ การได้มาซึ่งน้าสะอาด การศกึ ษาวิธีการการทาให้นาสะอาดขึน เช่น การกรอง กล่ัน ขั้นท่ี ๗ ระเบิกพลงั ฮีโร่ การใชค้ วามคิดสร้างสรรค์ สร้างโครงงานเพื่อการอนุรักษ์นา ทังนีครไู ด้มกี ารฝกึ ปฏิบตั ิการตามขันการเรียนรทู้ ัง ๗ ประการเพื่อให้เกิดความความชานาญในการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ และเตรียมตัวสาหรับการเปน็ พี่เลียงในการจดั กิจกรรมสาหรับเดก็ นักเรียนครังต่อไป เม่ือได้รับการอบรมการจัดกิจกรรมการเรียนรู้บรู ณาการด้านสิ่งแวดล้อม สร้างเสริมทักษะการสงั เกต การ ประยุกต์วัสดุธรรมชาติ การออกแบบวิธีการในการทากิจกรรมการอนุรักษ์นา การบริหารจัดการนาที่มี ประสิทธิภาพซึง่ เปน็ การเรียนรโู้ ดยการแก้ไขปัญหาที่พบในชีวติ ประจาวนั
๒) กิจกรรมสื่อสร้างสรรค์ ระยะเวลาในการจดั กิจกรรม วันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๒ สถานทใ่ี นการจัดกิจกรรม โรงเรียนแมแ่ จม่ หน่วยงานทจ่ี ัดกิจกรรม มลู นิธิรกั ษ์ไทย มูลนิธิรักษ์ไทยได้จัดทาโครงการสื่อสร้างสรรค์เพื่อการอนุรักษ์นา และมหาสมุทร โดยมุ่งเน้นให้นักเรียน สามารถสร้างสื่อวิดีโอในการรณรงค์ แสดงมุมมอง หรือบอกเหล่าเร่ืองราวต่างๆเกี่ยวกับการอนุรักษ์นา ในชุมชน ของตนเอง โดยโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ มีนักเรียนเป็นการเรียนวิทยาศาสตร์ คณิตสาสตร์เข้าร่วม กิจกรรม ในขันตอนการผลิตสอ่ื วีดิโอ มีขนั ตอนเริม่ ต้นคอื การวางเนือหาและโครงเร่อื งของสือ่ ขันตอนต่อไปคือการลงมือปฏิบัติการถ่ายทาวีดิโอ ตามจุดต่างๆที่ได้ทาการวางแผน ประกอบด้วยแหล่งเรียนตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอพเพียง สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน สวนเกษตรของโรงเรียน ถ่ายภาพประกอบ บท สมั ภาษณ์บุคคลที่มคี วามเกีย่ วกบั เนือหาที่วางแผนไว้
๓) กิจกรรมสารวจ GPS ต้นไม้ โครงการเยาวชนไทยรักษป์ ่า ระยะเวลาในการจดั กิจกรรม วันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๒ สถานท่ใี นการจัดกิจกรรม โรงเรียนดาราวิทยาลัย หน่วยงานท่จี ัดกิจกรรม มลู นิธิรไทยรักษ์ป่า มูลนิธิไทยรักษ์ป่า ได้จดั ทาโครงการเยาวชนไทยรกั ษ์ ๓๐ โรงเรียนในเชยี งใหม่เพื่อสร้างแกนนาพิทักษ์ป่าไม้ และเพิ่มบทบาทของเยาวชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ให้มีมมากขึนโดยการจัดกิจกรรมตามโครงการดังกล่ าว ในภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ โดยจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้ในการคานวณปริมาณคาร์บอนกักเก็บต้นไม้ ภายในโรงเรียน การประดิษฐ์อุปกรณ์การวัดความสูงของต้นไม้อย่างง่าย พร้อมทังฝึกใช้อุปกรณ์จนชานาญในการสารวจ และบันทึกข้อมลู ของต้นไม้ ในการสารวจตน้ ไม้ในโรงเรยี นครังตอ่ ไป
๔) กิจกรรรมวัฒนธรรมรกั ษ์น้า คร้ังที่ ๑ ระยะเวลาในการจัดกิจกรรม วนั ที่ ๒ ถึง ๔ สิงหาคม ๒๕๖๒ สถานท่ใี นการจดั กิจกรรม ศนู ย์การเรียนรู้งานตามแนวพระราชดาริฯ จฬุ าลงกรมหาวิทยาลยั จ.สระแก้ว หนว่ ยงานท่จี ดั กิจกรรม สถานีวทิ ยุจฬุ าลงกรมหาวิทยาลยั และคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถานีวิทยุจุฬาลงกรมหาวิทยาลัยและคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรมหาวิทยาลัย ได้จัดการประกวด นวัตกรรมในเร่ืองการอนุรักษ์ในการอนุรักษ์นาในชุมชนของนักเรียน โดยนักเรียนได้ส่งแนวทางการประดิษฐ์ฝาย ชะลอนาบริเวณธารนาหน้าโรงเรียน เพื่อเป้าหมายในการอนุรกั ษ์นาในโรงเรียน โดยในการอบรมได้รบั เกียรตใิ นการ เข้าร่วมกิจกรรมและพัฒนากระบวนการคิดเชงิ ออกแบบเพื่อใช้ในการพฒั นานวตั กรรมตอ่ ไป การกระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design thinking) คือ การคิดแก้ปญั หาทีส่ ามารถนาไปสร้างสรรค์นวตั กรรม ได้ การคิดเชงิ ออกแบบนันต่างจาก “ความคิดสรา้ งสรรค”์ (creativity) คือ Design Thinking จะคานงึ ถึงองค์ประกอบ 3 อย่างประกอบกัน คือ การแก้ปัญหา ความคิดสร้างสรรค์ และ “คน” การคิดเชิงออกแบบจึงมีอีกชื่อคือ Human centered design ทีค่ นเป็นศูนย์กลางการแก้ปัญหา โดยเน้นทาความเข้าใจว่าคนต้องการอะไร แทนทีว่ ธิ ีการแบบเดิม ที่มกั เริ่มตน้ จาก “ปัญหา” อนั ประกอบไปด้วย ๕ ขนึ ตอนดงั นี
ขน้ั ท่ี 1: ใจเขาใจเรา (Empathize) การทาความเข้าใจผู้ใช้บริการของนวัตกรรมที่จะสร้างขึน โดยมีการสารวจความคิด ความชอบ ค่านิยมข้อมูลพืนฐานของผู้ใช้อย่างละเอียด เพื่อเข้าใจผู้ใช้ (User) ให้มากที่สุดเพื่อ ขันตอนนีเป็นขันตอนที่สาคัญ ที่สุดและใช้เวลาในการทากระบวนการนานที่สุด โดยในการทาให้ผผู้คิดนวัตกรรม ตังตัวละครสมมุติแล้วแจกแจง ข้อมูลพืนฐานของตัวละครนี ซึ่งข้อมูลพืนฐานต้องมาจากประชากรจานวนมากแล้วสรุปรวบรวมให้เกิดเป็นตัวแทน ของผู้ใชน้ วตั กรรมทังหมด และสร้างสาเหตตุ ัวเรื่องของการสร้างนวตั กรรม รูปภาพ ชนิ งานของนักเรียนในขันตอน Empathize ขน้ั ท่ี 2: ระบุปัญหา (Define the Problem)
จากการสร้างตัวแทนของผู้ใช้นวัตกรรมในขันตอนแรกได้แล้ว ในขันตอนที่ ๒ นีต่อศึกษา คัดเลือก ประเด็นสาคัญของผู้ใช้ ซึ่งอาจเป็นปัญหาหรือความต้องการของผู้ใช้นวัตกรรม โดยการระบุบุคคลหรือองค์กรที่มี อิทธิพลต่อผู้ใช้ในการเลือกใช้โดยใช้ผังวงกลมมทังหมด ๒ ชันเพื่อแสดงพลังของอิทธิพลที่มีผลต่อจิตใจของผู้ใช้ดัง รปู รปู ภาพ ผังวงกลมแสดงอิทธิพลต่อผู้ใชใ้ นการเลือกนวตั กรรม เม่ือแจกแจงบุคคลหรือองค์กรที่อิทธิพลต่อผู้ใช้เรียบร้อย จะแสดงถึงส่วนที่มีอิทธิพลต่อผู้ใช้ มาก จะอยู่ในผัง วงกลมชันในและส่วนที่มีอิทธิพลต่อผู้ใช้ น้อย จะอยู่ในผังวงกลมชันนอก จากนันนาอิทธิพลที่มีผลมากไป เรียงลาดับเป็น Story line โดยเรียงลาดับเหตุการณ์ดังนี ๑. ต้นเหตุหรือปัญหาก่อนการใช้นวัตกรรม ๒. ขณะการใช้นวัตกรรรม ๓. หลงั การใชน้ วัตกรรม เชน่ การสรา้ งความความยง่ั ยืน การดูแลรักษาตวั นวตั กรรม เมื่อลาดับเหตุการณ์เรยี บร้อย ให้กาหนดค่าความสุขหรือความทุกข์ในแต่ละเหตุการณ์เพื่อทบทวนและตรวจสอบถึงจุดประสงค์ของการสร้าง นวตั กรรมว่าตรงตามที่ผใู้ ช้ตอ้ งการหรือไม่ ขัน้ ท่ี 3: ระดมความคิด (Ideate)
เม่ือลาดับทบทวนจุดประสงค์การทานวัตกรรมอย่างดีแล้ว จึงทาการระดมความคิดเพื่อหาวิธีการ ในการสร้างนวัตกรรมหรือปรับปรุงนวัตกรรมให้ดีมากขึนและตอบโจทย์ผู้ใช้มากขึน โดยใช้กระบวนการ brainstorming ในกระบวนการนีมกี ฎสาคัญอยู่ทังหมด ๗ ข้อดงั นี ๑. ความคิดทกุ อยา่ งนัน้ เป็นไปได้ ต้องเปิดรับทุกความเห็นโดยไม่มกี ารวิพากษ์ความคิด ๒. อย่าตัดสินความคิดระหว่างการระดมความคิด โดยให้มีการตัดสิน จัดหมวดหมู่ภายหลัง จบการระดมความคดิ แล้ว ๓. เนน้ ความหลากหลายของความคดิ ให้คิดให้ส่งิ ที่อาจเปน็ ไปไม่ได้ เหนือความเปน็ จริง ทีเ่ ล่น ทีจ่ ริงมีความสนุกสนานในการใชค้ วามคิด ๔. ต่อยอดจากความคิดท่ีเสนอ ใช้ความคิดที่เสนอขึนมาที่อาจลักษณะคลายกันหรือมีรากฐาน ของจุดประสงค์ทีเ่ หมอื นกัน ๕. เสนอความคิดโดยใช้วลีเพียงวลีเดียว เพื่อสร้างความรวดเร็วและความตื่นตัวในการเสนอ ความคิด ๖. ใช้ภาพในการเสนอความคิด เพือ่ ช่วยในการกระตุ้นความคิด ๗. เปา้ หมายคือจานวนของความคิดไม่ใชค่ ุณภาพ เม่ือจบการระดมความคิดแล้วให้ผู้ดาเนินการระดมความคิด ปิดการระดมความคิดเสียก่อน จากนันนาความคิด ทังหมดมาวิพากษ์และจดั หมวดหมเู่ พื่อให้งา่ ยต่อการนาความคิดไปสร้าง พฒั นา ปรับปรงุ นวตั กรรมในขันตอนตอ่ ไป โดยในขัตอนที่ ๓ นี ผู้ดาเนินรายงานอาจเป็นครูหรือผู้นานักเรียนที่มีความเข้าใจในกระบวนการทา brainstorming เพื่อป้องกนั ไม่ใหผ้ เู้ สนอความคิดเกิดความรสู้ ึกทีไ่ ม่ดตี ่อการออกความคิด ขน้ั ท่ี 4: สรา้ งต้นแบบ (Prototype) ใช้ความคิดที่ทาการระดมและผ่านการคัดเลือกแล้วมากสร้าง ปรับปรุง ตัวต้นแบบของนวัตกรรม ซึ่งขันตอนนจี ะช่วยใหผ้ สู้ ร้างนวัตกรรมเข้าใจในสิ่งทีจ่ ะสร้างขึน และยังสามารถเหน็ ถึงจุดอ่อน จดุ แขง็ ของนวัตกรรม ที่สรา้ งขนึ เพือ่ เตรยี มการสาหรบั การทดสอบจรงิ โดยนวตั กรรมมี ๓ ประเภท คือ Product Process และ Service
รูปภาพ การทาขนั ตอนการสรา้ งตน้ แบบของนกั เรียน ข้ันท่ี 5: ทดสอบ (Test) เมือ่ สรา้ งต้นแบบของนวัตกรรมเสรจ็ แล้วจาเป็นต้องมีผู้ตรวจหรอื กระบวนการตรวจสอบความเป็นไปได้ ของนวตั กรรมซึ่งการทดสอบนันมีหลายหลายรูปแบบขึนกบั รูปแบบของนวัตกรรม โดยกระบวนการทางนกั เรียนฝึก ในการทาปฏิบัติการคือการแลกเปลีย่ นความเห็นจากเพื่อนกลุ่มอ่นื เพื่อให้เหน็ ถึงข้อผดิ พลาดของนวตั กรรม กลุ่มที่ เป็นฝ่ายเสนอความเหน็ สามารถใหค้ วามเหน็ ได้เพียง 2 แบบ คอื ขอ้ ดีของนวตั กรรมทีม่ ีอยู่เดิม ข้อเสียของ นวตั กรรมโดยจะต้องให้ขอ้ เสนอแนะเกีย่ วกบั วิธีที่จะพัฒนานวตั กรรมเสมอ ในการเข้าร่วมโครงการครังนี ได้มี ผเู้ ชย่ี วชาญจากบริษทั เอกชนในการให้ขอ้ เสนอแนะ และแนวคิดในการทานวัตกรรมเกี่ยวกบั การอนรุ กั ษ์นา บาบดั นา รปู ภาพ การทดสอบแบบการนาเสนอและให้ข้อคดิ เห็น
1) ปญั หา/อุปสรรคในการดาเนินงาน ปญั หา ไม่สามารถทากิจกรรมการสร้างโมเดลพลังงานทดแทนไบโอแก๊ส ได้ตามเวลาที่กาหนดเนอื่ งจากนกั เรียนยงั ไม่สามารถจดั ทาข้อมลู ที่เพียงพอในการสร้างโมเดล แกไ้ ข วางแผนการใช้ห้องสบื ค้นเพือ่ ส่งเสริมให้นักเรียนสืบค้นความรดู้ ้านพลงั งานทดแทนได้มากขึน จดั ทาแบบติดตามการค้นคว้าข้อมูล และทาการรวบรวมข้อมูล ปญั หา การสรปุ ข้อมลู ต้นไม้จากการสารวจ GPS ต้นไม้ ไม่เสร็จสินตามกาหนดเวลา เนื่องจากข้อมลู มจี านวน มากและมีความซับซ้อนตอ่ การจะเรียง แก้ไข จดั ทาขอ้ มลู ต่อโดยใช้ระยะเวลามากขึน ปัญหา การนากิจกรรมที่อบรมเข้าสู่การปฏบัติจริงในการจัดทาการเรียนการสอนบรู ณาการงานสิง่ แวดล้อม ยังไม่สามารถสร้างค่านิยมในการจดั กิจกรรมในโรงเรยี นได้ แก้ไข จัดทาหนังสอื คู่มือการจะกิจกรรมการเรียนรู้บรู ณาการงานสิ่งแวดล้อม 2) แผนการจัดกิจกรรมและแนวทางการพัฒนางานในภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ - จดั ค่ายกิจกรรมเด็กติดป่าตาทีไ่ ด้วางแผนและของบประมาณสนับสนนุ จาก มลู นธิ ิไทยรักป่า - จดั ทาโมเดลไบโอแก๊สเพื่อเปน็ สื่อการเรียนการสอน ให้กับบุคลากรภายในโรงเรียน
รายงานผลการดาเนินงานดา้ นสิ่งแวดล้อม ประจาปีการศึกษา 256๒ ภาคเรยี นท่ี ๒ กล่มุ งานตามนโยบายโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 อาเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ........................................................................................................................................................ ๑) เขา้ รว่ มโครงการพีน่ านอ้ งรกั ษ์ ตามแนวพระราชดาริ ระยะเวลาในการจัดกิจกรรม วนั ที่ ๓๐ กนั ยายน ถึง ๔ ตุลาคม ๒๕๖๒ สถานท่ีในการจดั กิจกรรม ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครนายก จงั หวัดนครนายก หนว่ ยงานทจ่ี ัดกิจกรรม มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชปู ถัมภ์ มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดทาโครงการพี่นาน้องรักษ์ ตามแนวพระราชดาริ โดยให้ เยาวชนในแต่ละโรงเรียน โรงเรียนละ ๖ คน ศึกษาหลักการตามแนวพระราชดาฯ ในเร่ืองการบริหารจัดการนา จากนันออกแบบโครงการอนุรักษ์นาในพืนที่ของตนเอง ในการประกวดนักเรียนได้เขียนโครงการ ชื่อคลองฝายแห่ง ชีวิต เนื่องจากพืนที่ภายในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ เป็นพืนที่ลาดชันทาให้ต้องการการชะลอนาเพื่อเพิ่ม ความชืนให้แก่พืนดนิ ของโรงเรียน ทังนี ได้รบั การคดั เลือกให้เข้าค่ายรอบประเมินทีจ่ งั หวดั นครนายก
๒) ค่ายเยาวชนเดก็ ไทยรกั ษป์ า่ รนู่ ที่ ๘ ระยะเวลาในการจัดกิจกรรม วนั ที่ ๓๐ ตุลาคม ถึง ๒ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๒ สถานท่ใี นการจัดกิจกรรม ศนู ย์บริการนาตกมณฑาธาร อุทยานแหง่ ชาติดอยสเุ ทพ ปุย หน่วยงานทจ่ี ดั กิจกรรม มูลนิธิไทยรกั ษ์ป่า จากโครงการเยาวชนไทยรักษ์ป่า มูลนิธิไทยรักษ์ป่าได้จัดกิจกรรมเพื่อฝึกแกนนาในการทากิจกรรมด้าน สิง่ แวดล้อมและทรพั ยากรป่าในโรงเรียน ทังสร้างจิตสานึกอนั ดีต่อทรพั ยากรป่าไม้ นักเรียนได้สมั ผัสถึงความสาคัญ ของธรรมชาติรอบตัว ตลอดจนความรู้ด้านการเดินป่า สมุนไพรพืนบ้าน การปลูกป่า ๓ อย่าง ประโยชน์ ๔ อย่าง โดยวิทยากรในการจัดกิจกรรมครังนีได้รับความอนุเคราะห์ จากเจ้าหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ ปุย และชมรม นกั สื่อความหมายธรรมชาติ รูปแบบการจัดค่ายเยาวชนเดก็ ไทยรักษ์ป่า รนู่ ที่ ๘ มุ่งเน้นให้ผู้รว่ มกิจกรรมใกล้ชิดกับธรรมชาติมากทีส่ ดุ ต้องละทิง บทบาท ความเป็นตัวตนลงเพื่อทีจ่ ะได้ยินเสียงจากธรรมชาติ จากภาพผเู้ ข้าร่วมกิจกรรมทุกคนนอนลงบนพืนดิน ลับตาเพื่อให้จติ ใจสงบและฟงั เสียงของธรรมชาติ
๓) การเดินสารวจปา่ ต้นนา้ ดอยอนิ ทนนท์ ระยะเวลาในการจดั กิจกรรม วนั ที่ ๑๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๒ สถานทใ่ี นการจัดกิจกรรม เสน้ ทางศึกษาธรรมชาติกิว่ แม่ปาน อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ หน่วยงานท่จี ัดกิจกรรม มูลนิธิไทยรกั ษป์ ่า ภายใต้โครงการเยาวชนไทยรักษป่า ทางมูลนธิ ิไทยรักษ์ป่าได้จัดกิจกรรมเดินสารวจเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ณ เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เยาวชนตระหนักถึง ความสาคัญของป่าต้นนา ในการเดินศึกษาธรรมชาติมีการให้ความรู้ตามจุดต่างๆของเส้นทางและให้นักเรียนจด บนั ทึกความรู้ เรียบเรียงเป็นความเขา้ ใจของตนเอง ผลจากการเดินสารวจทาให้นกั เรียนมคี วามสนกุ สนานพร้อมกับความประทับใจในธรรมชาติ ทังยังได้รบั ความรู้ ความเข้าใจในระบบนิเวศ แบบป่าเมฆ ซึง่ มีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย พบเจอกบั สตั ว์ป่าคมุ้ ครองบนอทุ ยาน แหง่ ชาติดอยอินทนนท์ เช่น นก แมลงชนิดต่างๆ
๔) เข้ารว่ มโครงการส่อื สร้างสรรค์คนรุ่นใหม่ อนุรักษ์ตน้ นา้ ปลายน้าและมหาสมุทร ระยะเวลาในการจดั กิจกรรม วนั ที่ ๕ ถึง ๙ ธนั วาคม ๒๕๖๒ สถานทใ่ี นการจัดกิจกรรม ศนู ยก์ ารเรียนร้ปู ่าชายเลน หมูบ่ า้ นคลองประสงค์ จังหวัดกระบี่ หนว่ ยงานท่จี ัดกิจกรรม มูลนิธิรักษ์ไทย สืบเนือ่ งจากการอบรมการทาวิดีโอ ภายใต้โครงการส่ือสร้างสรรค์คนรนุ่ ใหม่ มูลนิธิรักษ์ไทย เพื่อเปน็ การ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจากภาคเหนือสู่ภาคใต้ทาใหเ้ กิดกิจกรรมสือ่ สร้างสรรคค์ นรุ่นใหม่ อนรุ กั ษ์ตน้ นา ปลายนา และมหาสมุทร โดยนานักเรียนโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จานวนทังสิน ๘ คน เข้าร่วมกิจกรรมทีจ่ ังหวัด กระบี่ ณ ศูนย์การเรียนรปู้ ่าชายเลน หมู่บ้านคลองประสงค์ จังหวดั กระบี่ โดยนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมได้ทาการลงพืนที่สารวจ วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของชาวคลองประสงค์ เพื่อจัดทา ข้อมูลในการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ป่าชายเลน ปากนา มหาสมุทร ผลจากการทากิจกรรม นักเรียนสามารถนาข้อมูลจากการสารวจ มาเรียบเรียงในรูปแบบของโครงเร่ืองในการทาสื่อวิดีโอได้เป็นอย่างดี ทังนีไ่ ด้ผลงานสือ่ จากนักเรียนทังหมด ๕ เรื่อง หลังจากการทากิจกรรมเสรจ็ สิน ทางมลู นธิ ิรักษ์ไทยได้ให้ผู้เรยี นกิจกรรมนาเสนอผลงานจากการทาสื่อและ มีการให้ข้อเสนอแนะ แลกเปลี่ยนมุมมองในการทาสื่อระหว่างเยาวชนกับเยาวชน เพื่อเป็นการพัฒนาความกล้า แสดงออกกล้าคิดกล้าทาของเยาวชน
๕) ค่ายเด็กติดป่า ระยะเวลาในการจดั กิจกรรม วันที่ ๒๕ ถึง ๒๖ มกราคม ๒๕๖๓ สถานทใ่ี นการจัดกิจกรรม โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ หนว่ ยงานท่จี ดั กิจกรรม โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ สืบเนือ่ งจากการการฝกึ อบรมและเข้าค่ายแกนนาเยาวชนไทยรักษ์ป่า ทางงานสิ่งแวดล้อมและนักเรียนแกน นาเยาวชนไทยรักษ์ป่าโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จึงได้จัดค่ายเด็กติดป่าเพื่อขยายผลการทากิจกรรมสู่ นักเรียนในโรงเรียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สนองยุทธศาสตร์ สานักงานการศึกษาขันพืนฐาน ค่ายในครังนีนักเรียนได้เดินสารวจป่าเต็งรังของโรงเรียน มีการจดบันทึกตามองค์ความรู้จากป่า ผ่าน กระบวนการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง (The Experiential Learning) โดยมีการสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมด้าน การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยง่ั ยืน ในระหว่างวิทยากรนายต๋ัน มะนีโต ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับพืชสมุนไพรที่ นกั เรียนสามารถหาได้จากป่า การใชป้ ่าอย่างคุ้มค่าและการดูแลรักษาป่าเตง็ รังของโรงเรียน
การจดั กิจกรรมภาคกลางคืนเพื่อสรา้ งความประทบั ใจในธรรมชาติของโรงเรียนด้วยการดดู าวโดยคณะวิทยากรได้มี กิจกรรมนันทการบริเวรสนามหน้าโรงเรียน อีกทังอย่างยังบอกเล่านิทานทางดาราศาสตร์เพื่อให้เกิดความ สนุกสนานและเกิดองค์ความรู้ที่มปี ระสิทธิภาพ การจัดกิจกรรมในวนั ที่สอง มุ่งเน้นเรอ่ื งของภูมิปญั ญาท้องถิน่ ที่สามรถนามาประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวันได้ ประกอบไปด้วยการตม้ ยาสมนุ ไพรจากป่า การแยกแยะสรรพคณุ สมุนไพรด้วยรสชาติทังห้ารส การทาพรรณไม้แห้ง เพื่อเก็บตัวอย่างพรรรณไม้ การย่อมสผี ้าจากยางกล้วย นกั เรียนได้ทดลองและปฏิบัติพรอ้ มทังแก้ไขสถาณการณ์ดว้ ยตนเอง และมีการจดบันทึกตกผลึกองค์ความรู้จากการ ลงมอื ทาด้วยตนเอง เมื่อจบกิจกรรมทังหมดหมดทางโรงเรียนได้หมอบของที่ระลึกใหท้ ่านวิทยากกรจากมูลนิธิไทย รกั ษ์ป่าเพือ่ แสดงความขอบคุณแด่ท่านวิทยากร
๖) เยาวชน รกั ษ์นา้ กบั Suntory Pepsico ระยะเวลาในการจดั กิจกรรม วันที่ ๒๑ ถงึ ๒๓ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๓ สถานทใ่ี นการจัดกิจกรรม โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ หนว่ ยงานทจ่ี ัดกิจกรรม มูลนิธิรักษไ์ ทยและบริษัท Suntory pepsico beverage Thailand สืบเนื่องจากการกิจกรรมฮีโร่รักษ์นาในภาคเรียนที่ ๑ ได้พัฒนาแกนนานักเรียนที่สามารถทากิจกรรมด้าน สิ่งแวดล้อมศึกษา ทีม่ งุ่ เน้นในเร่อื งทรพั ยากรนา โดยใช้กระบวนการการจดั การเรียนรู้สิง่ แวดล้อมศกึ ษา โดยการจัด กิจกรรมนันได้เปิดโอกาสให้นักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมแสดงความทัศนคติ ความคิดแบบใหม่ในการอนุรักษ์ ทรพั ยากรนาในชมุ ชนของตนเอง การทากิจกรรมเยาวชนรกั ษ์นามีกิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะโดยการเรียนรู้จากปฏิบัติจริง อาทิ กิจกรรมนาสืบสายนา ซึ่งนักเรียนได้สารวจตัวบ่งชีทางชีวภาพเพื่อบ่งบอกคุณภาพนาและตะกอนดิน กิจกรรมตรวจคุณภาพนาดื่มโดยใช้ ชดุ การทดลองสาเร็จรปู ทังนีทุกกิจกรรมดงั กล่าวมกี ารจดบันทึกตามแบบบนั ทึกของทางคณะจัดกิจกรรม
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: