แบบรายงานผลการปฏิบัติงาน ประจำปีงบประมาณ

แบบรายงานผลการปฏิบตั งิ าน ประจาปีงบประมาณ 2562 ตาแหนง่ พนกั งานราชการ ของ นายบรุ ศิ ร์ กองมะลิ ตาแหนง่ พนกั งานราชการ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่ อาเภอแม่แจ่ม จงั หวดั เชียงใหม่ สานักบริหารงานการศกึ ษาพเิ ศษ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ

คานา รายงานผลการปฏิบัติงานและการประเมินตนเองฉบับน้ี ได้จัดทาข้ึนเพ่ือรายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ท่ีได้รับ มอบหมาย ด้านการจดั การเรียนการสอน การพัฒนาตนเอง การวางแผนการปฏิบตั ิงาน ขอ้ มลู การประเมนิ การ ปฏิบัติหน้าที่ครูที่ปรึกษา/ครูประจาช้ันและครูผู้สอนตามมาตรฐานด้านผู้เรียน ตามมาตรฐานการศึกษาข้ัน พื้นฐาน ให้แก่ผู้บังคับบัญชา ตามแนวทางการประกันคุณภาพการศึกษา มาตราท่ี 50 หมวดท่ี 6 ว่าด้วย มาตรฐานและการประกนั คุณภาพการศึกษาตลอดจนใช้เป็นสารสนเทศทางการศกึ ษาของตนเองในการพัฒนา คณุ ภาพ การจดั การศึกษาในปกี ารศึกษาตอ่ ไปให้มคี ณุ ภาพสงู ขน้ึ

1.ประวตั สิ ่วนตวั ช่อื นายบรุ ศิ ร์ นามสกุล กองมะลิ ตาแหน่ง พนกั งานราชการ วิทยฐานะ -. รบั เงนิ เดือนใน ๑๘,๐๐๐ บาท ปฏบิ ัติราชการเป็นเวลานาน ๑ ปี ๑๑ เดอื น ปฏบิ ัติการสอน ระดับมธั ยมปีที่ ๔ ๕ ๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์. โรงเรียน ราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ วฒุ กิ ารศึกษา ปริญญาตรี (วิทยาศาสตร์บณั ฑติ ) สาขา ชวี เคมแี ละชีวเคมีเทคโนโลยี 2.ประวตั ิการทางาน งานรองท่ไี ด้รับมอบหมายจากสถานศึกษาตามโครงสรา้ งบริหาร ท่ี กลุม่ บริหารงาน งาน ตาแหน่ง 1 กลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ กลมุ่ งานตามนโยบาย - งานส่ิงแวดลอ้ มโรงเรยี น ครูทป่ี รกึ ษา - ครูท่ปี รึกษา ม. ๓/๔ งานกลุ่มสาระการเรยี นรู้ - ครผู ู้สอนรายวชิ าวิทยาศาสตร์ และเคมี 2 กลุ่มบรหิ าร งานระบบดูแลชว่ ยเหลอื - ครูทปี่ รกึ ษา ม. ๓/๔ งานกจิ การนกั เรยี น ผูเ้ รยี น - ครผู ้ปู ระเมินกิจกรรมทักษะดารงชวี ิต ชัน้ ม. ๓/๔ งานปฏิบัตหิ นา้ ทเ่ี วรตา่ งๆ - เวรประจาวนั ชุดท่ี ๔ และเวรประเมนิ หอนอน งานครหู อนอน - ครผู ชู้ ่วยหอนอนสารภี 3 กลุ่มบริหารงาน งานประกนั คุณภาพ - ครูผู้ประเมินมาตรฐานด้านผู้เรียน ชนั้ ม. ๓/๔ แผนงานและ การศึกษา งบประมาณ 4 กลุ่มงานอานวยการ งานปฏิคม - ปฏิบตั งิ านปฏคิ มชุดท่ี ๓ 5 กลุ่มสง่ เสรมิ วิชาการ งาน สอร - กรรมการการจดั ทาผลติ ภณั ฑ์นา้ ยาพอเพยี ง และ สอร ข้าวไขเ่ จยี ว

3.รายงานผลการปฏิบตั ิงาน 1.ด้านการจัดการเรยี นการสอน 1.เอกสารทางวชิ าการ การทาสอื่ การเรียนรู้ จาแนกประเภทของสาร การจดั ทาแบบทดสอบ กลางภาค ปลายภาค ทง้ั ๕ วชิ า

2.งานธุรการชน้ั เรียน การจัดทาบนั ทกั การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ระบุเน้อื หาทค่ี า้ ง ปัญหาท่ีพบและวิธแี กไ้ ขปัญหา 3.การจดั การเรยี นการสอนในห้องเรยี น มุ่งเน้นกระบวนการเรียนรู้เชิงรุกหหรือ Active learning โดยมีการออกแบบกิจกรรมให้ผู้เรียนได้ ศึกษาทดลอง เพ่ือสืบหาความรู้ วิธีแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง ครูเป็นเพียงผู้แนะนาแนวทางเท่าน้ัน ในรายวิชา พื้นฐานกิจกรรมในการจัดการเรียนได้ประยุกต์ใช้วัสดุใกล้ตัวอย่างง่ายมาใช้ในการทดลอง มีแบบฝึกหัดที่ ออกแบบข้นึ เพอ่ื ใหน้ กั เรียนได้ฝึกการเขียนสตู รและองค์ประกอบเคมี เสรมิ สรา้ งความเข้าใจมากขึ้น ในรายวชิ า เคมีเพิ่มเติม นักเรียนแผนการเรียนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ มีการปฏิบัติการทดลองทางเคมี ซึ่งมีเน้ือหา เชอ่ื มโยงกบั ชีวติ ประจาวัน การทดลองบางสว่ นเกิดจากการศึกษาค้นควา้ ของนักเรียนมีการปรับประยุกตใ์ ห้เข้า กบั วสั ดุสารเคมีมที มี่ อี ยูใ่ นหอ้ งปฏบิ ัติการเคมี การศกึ ษาคุณสมบตั ิของสารในเรอ่ื งความหนาแน่น โดยใชว้ สั ดุที่ใกล้อยา่ งดินน้ามันในการทดลองและ คานวณความหนาแน่น ในการทดลองคร้งั น้นี ักเรยี นระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๑ จะไดฝ้ ึกการใชเ้ ครอื่ งชัง่ แบบ ดจิ ิตอลอย่างง่ายและฝกึ ทกั ษะการวดั เมื่อทดสอบนาดินน้ามนั รูปทรงสเ่ี หล่ยี มตันไปลอยปรากฏว่าไม่สามารถ ลอยนา้ ได้ แตห่ ากเปลยี่ นรปู ร่างโดยเพมิ่ ปรมิ าตรให้เพ่มิ มากข้นึ แตม่ วลยงั คงเทา่ เดิม นน้ั แสดงให้เหน็ ถงึ ความ หนาแน่นที่เปลีย่ นแปลงไป

การจาลองหลักการเคล่ือนที่ของน้าผ่านเยื่อเลือกผ่านหรือกระบวนการออสโมซิส โดยให้นักเรียนนา แก้วพลาสติกจากขยะพลาสติกที่ไม่ใช้แล้ว แทนแหล่งน้าและใช้กระดาษชาระแทนเหย่ือเลือกผ่านจากน้ัน เทน้าที่ผสมสีผสมอาหารลงไปในแกว้ แล้วรอสังเกตผลจะพบว่านา้ สามารถเล่ือนที่ผ่านเหย่ือเลือกผ่านได้ ทั้งน้ี นกั เรยี นได้ฝึกการต้งั ปัญหา การค้นหาคาตอบโดยวิธกี ารสงั เกตผุ ลการทดลอง ในกระบวนการการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนแผนการเรียนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ จาเป็นต้องมี การฝึกฝนทักษะวิทยาศาสตร์ ความสามารถในการใช้อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ในระดับ มัธยมศึกษาปีที่ ๔ ในรายวิชาเคมีจึงมีการสอนวธิ ีการใช้เคร่ืองแก้วดังน้ี ขวดวัดปริมาตร ปิเปต การเทสารเคมี เป็นตน้ การใชว้ ธิ ีการสอนโดยการสาธติ

การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้เพ่อื แกไ้ ขปญั หา นกั เรียนในช้นั เรยี นไม่สามารถจาสัญลกั ษณ์ธาตุได้ จึงใช้ เกมสก์ ารศกึ ษามาประยุกต์ใชใ้ นการแกไ้ ขปญั หา สรา้ งสามารชว่ ยใหน้ ักเรยี นจาสัญลักษณ์ธาตไุ ดม้ ากขึน้ และ ได้รับรู้ถงึ สมบตั ิของธาตุตามตารางธาตอุ ีกดว้ ย เกมส์เพื่อการศึกษามีหลายหลายประเภท ในวิชาเคมีได้เลือกเกมส์บิงโกตารางธาตุซ่ึงได้ออกแบบข้ึนเพ่ือ นกั เรียนระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ ในรายวิชาวิยาศาสตรก์ ายภาพ ๑ และนกั เรียนระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๔ แผนการเรียนวทิ ยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ เพื่อสรา้ งเสริมความรู้ตารางธาตุและสมบัติของธาตุให้ชานาญมากข้ึน โดยการให้ขอ้ มลู ของเกมสบ์ ิงโกจากออกแบบให้โจทยป์ ญั หาเพอื่ ใหน้ ักเรยี นเป็นคดิ สญั ลกั ษณธ์ าตนุ ั้นเอง นักเรยี นแผนการเรียนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ในระดับมธั ยมศึกษาปีท่ี ๕ และ ๖ ต้องมกี ารพัฒนา ทักษะการใช้อุปกรณ์เครื่องแก้วอย่างต่อเนื่อง ทักษะการเขียนบันทึกการทดลองที่มีความละเอียด รอบคอบมากข้ึน การบริหารจัดการภายในห้องปฏิบัติการเคมี เพ่ือพัฒนาความรู้ในการนาไปใช้ใน ชีวิตประจาวันและการทางานในอนาคต โดยมีการเช่ือมโยงเนื้อหารายวิชากับการปฏิบัติการเคมีจริงใน โรงงานอตุ สาหกรรมหรอื ศนู ย์วจิ ัยวทิ ยาศาสตรต์ ่างๆ

การวางแผนและการเตรียมการในการปฏิบัติการด้วยตนเอง คิดและไตร่ตรองลาดับขั้นตอนวิธีการด้วย ตนเอง โดยมีครูเป็นผู้แนะนาเพอ่ื ป้องกนั ขอ้ ผดิ พลาดทอ่ี าจทาให้เกิดอันตรายได้ ผลจากการจดั การเรียนรู้ แบบเชงิ รุกส่งผลให้นักเรียนสามารถสืบค้นหาวิธกี ารและสรา้ งสรรค์ การทดลองให้แบบของตนเองไดอ้ ีกทั้ง มกี ารบนั ทึกวดิ ีโอในการทดลองร่วมทง้ั อธิบายหลักการทางวิทยาศาสตรใ์ นขณะทาการทดลอง ในการทดลองท่นี ักเรียนเปน็ ผอู้ อกแบบนั้น สามารถสร้างส่อื ท่ใี ชใ้ นการศกึ ษาในปกี ารศึกษาต่อไปได้ โดย ปัญหาท่เี กดิ ขึน้ ในระหวา่ งการสร้างสอื่ วิดโี อนี้ ครผู สู้ อนไดท้ าการแนะนาข้อผดิ พลาดของผู้เรยี นนการแกไ้ ข ท้ังการทาการทดลองและสร้างสือ่ ครั้งต่อไป

2.ด้านการบริหารกิจการนักเรียน 1.การดูแลหอนอน การติดตามและประเมนิ การดาเนินการกิจกรรมหอนอน คณะกรรมการตดิ ตามโครงการโรงเรยี นคณุ ธรรม 2.ระบบดแู ลช่วยเหลอื นกั เรียนในช้ันเรยี น จัดเตรียมพานไหวค้ รเู น่อื งในวันไหว้ครู ติดตามใหน้ กั เรยี น ฉดี วัคซีนโรค

ปฏบิ ัตหิ นา้ ทเี่ วรประจาวัน เปน็ อยา่ งดี โดยดแู ลความสะอาดของโรงเรยี นอาหารและใหน้ ักเรยี นขัดทาความสะอาด 3.ดา้ นบคุ คล 1.Project พฒั นานักเรยี นในการทางาน ผลิตภัณฑ์นา้ ยาพอเพียง

พัฒนานักเรียนนาเสนอและการทาน้ายา 2.การลา/ลาเกนิ /มาสาย ชว่ งเมษายน ๒๕๖๒ ถึง กันยายน ๒๕๖๒ ลากจิ จานวน ๑ ครัง้ เป็นเวลาคร้ัง ๑ วนั ชว่ งตลุ าคม ๒๕๖๑ ถึง กันยายน ๒๕๖๒ ลากจิ จานวน 3 คร้งั เปน็ เวลา ๕ วนั

5.ผลงานเชิงประจักษ์ 1.รางวลั ประกาศนยี บัตรการเข้าร่วมกิจกรรม วัฒนธรรมรกั ษานา้ สอบผา่ น การวัดผลและประเมนิ ผลจากสถาบันทดสอบทางการศกึ ษาแหง่ ชาติ ดว้ ยคะแนน 39 คะแนน

2.ความภาคภมู ใิ จ กจิ กรรรมวฒั นธรรมรักษน์ ้า ครง้ั ท่ี ๑ สถานีวิทยุจุฬาลงกรมหาวิทยาลัยและคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรมหาวิทยาลัย ได้จัดการ ประกวดนวัตกรรมในเร่ืองการอนุรกั ษ์ในการอนรุ ักษ์น้าในชุมชนของนักเรียน โดยนักเรียนได้ส่งแนวทางการ ประดษิ ฐฝ์ ายชะลอน้าบรเิ วณธารน้าหน้าโรงเรียน เพอ่ื เป้าหมายในการอนุรกั ษ์น้าในโรงเรียน โดยในการอบรม ได้รับเกียรตใิ นการเข้าร่วมกจิ กรรมและพฒั นากระบวนการคิดเชิงออกแบบเพ่อื ใช้ในการพฒั นานวตั กรรมต่อไป การกระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design thinking) คือ การคิดแก้ปัญหาท่ีสามารถนาไปสร้างสรรค์ นวัตกรรมได้ การคิดเชิงออกแบบนั้นต่างจาก “ความคิดสร้างสรรค์”(creativity) คือ Design Thinking จะ คานึงถึงองค์ประกอบ 3 อย่างประกอบกัน คือ การแก้ปัญหา ความคิดสร้างสรรค์ และ “คน” การคิดเชิง ออกแบบจึงมีอีกช่ือคือ Human centered design ท่ีคนเป็นศูนย์กลางการแก้ปัญหา โดยเน้นทาความเข้าใจ วา่ คนต้องการอะไร แทนที่วิธีการแบบเดิมที่มักเรมิ่ ตน้ จาก “ปญั หา” อนั ประกอบไปด้วย ๕ ข้ึนตอนดงั น้ี ขน้ั ที่ 1: ใจเขาใจเรา (Empathize) การทาความเข้าใจผู้ใช้บริการของนวัตกรรมที่จะสร้างขึ้น โดยมีการสารวจความคิด ความชอบ ค่านิยมข้อมูลพ้ืนฐานของผู้ใช้อย่างละเอียด เพ่ือเข้าใจผู้ใช้ (User) ให้มากที่สุดเพื่อ ขั้นตอนน้ีเป็น

ขั้นตอนท่สี าคัญที่สุดและใชเ้ วลาในการทากระบวนการนานที่สุด โดยในการทาให้ผผู้คดิ นวัตกรรม ตงั้ ตัวละคร สมมุติแล้วแจกแจงข้อมูลพ้ืนฐานของตัวละครน้ี ซึ่งข้อมูลพื้นฐานต้องมาจากประชากรจานวนมากแล้วสรุป รวบรวมให้เกดิ เปน็ ตัวแทนของผใู้ ช้นวัตกรรมท้ังหมด และสร้างสาเหตุตัวเรื่องของการสร้างนวัตกรรม รปู ภาพ ช้ินงานของนักเรยี นในขน้ั ตอน Empathize ขั้นที่ 2: ระบปุ ญั หา (Define the Problem) จากการสร้างตัวแทนของผู้ใช้นวัตกรรมในขั้นตอนแรกได้แล้ว ในข้ันตอนท่ี ๒ นี้ต่อศึกษา คดั เลือกประเดน็ สาคัญของผู้ใช้ ซงึ่ อาจเปน็ ปัญหาหรือความต้องการของผ้ใู ชน้ วัตกรรม โดยการระบุบคุ คลหรือ องค์กรที่มีอิทธิพลต่อผู้ใช้ในการเลือกใช้โดยใช้ผังวงกลมมท้ังหมด ๒ ช้ันเพ่ือแสดงพลังของอิทธิพลท่ีมีผลต่อ จติ ใจของผู้ใชด้ ังรปู รูปภาพ ผังวงกลมแสดงอทิ ธิพลตอ่ ผใู้ ชใ้ นการเลือกนวัตกรรม

เมื่อแจกแจงบุคคลหรือองค์กรที่อิทธิพลต่อผู้ใช้เรียบร้อย จะแสดงถึงส่วนท่ีมีอิทธิพลต่อผู้ใช้ มาก จะอยู่ในผัง วงกลมชั้นในและส่วนที่มีอิทธิพลต่อผู้ใช้ น้อย จะอยู่ในผังวงกลมชั้นนอก จากนั้นนาอิทธิพลท่ีมีผลมากไป เรียงลาดบั เปน็ Story line โดยเรียงลาดบั เหตุการณ์ดงั นี้ ๑. ตน้ เหตุหรือปญั หากอ่ นการใช้นวตั กรรม ๒. ขณะการใช้นวตั กรร รม ๓. หลังการใช้นวัตกรรม เช่นการสร้างความความยั่งยืน การดูแลรักษาตัวนวัตกรรม เม่ือลาดับ เหตุการณ์เรียบร้อยให้กาหนดค่าความสุขหรือความทุกข์ในแต่ละเหตุการณ์เพ่ือทบทวนและตรวจสอบถึง จุดประสงคข์ องการสรา้ งนวตั กรรมวา่ ตรงตามทผ่ี ู้ใช้ตอ้ งการหรือไม่ ขัน้ ท่ี 3: ระดมความคดิ (Ideate) เม่ือลาดับทบทวนจุดประสงค์การทานวัตกรรมอย่างดีแล้ว จึงทาการระดมความคิดเพ่ือหา วธิ ีการในการสร้างนวัตกรรมหรอื ปรับปรุงนวตั กรรมให้ดีมากขึน้ และตอบโจทย์ผู้ใชม้ ากขึ้น โดยใช้กระบวนการ brainstorming ในกระบวนการนม้ี ีกฎสาคญั อย่ทู ั้งหมด ๗ ข้อดงั นี้ ๑. ความคิดทุกอยา่ งนั้นเป็นไปได้ ตอ้ งเปิดรบั ทกุ ความเหน็ โดยไม่มีการวิพากษค์ วามคดิ ๒. อยา่ ตัดสินความคดิ ระหว่างการระดมความคิด โดยให้มกี ารตดั สิน จดั หมวดหมูภ่ ายหลัง จบการระดมความคดิ แล้ว ๓. เน้นความหลากหลายของความคดิ ใหค้ ิดใหส้ ่ิงท่ีอาจเป็นไปไม่ได้ เหนือความเป็นจริง ท่ีเล่นที่จริงมีความสนุกสนานในการใชค้ วามคิด ๔. ต่อยอดจากความคิดท่ีเสนอ ใช้ความคิดท่ีเสนอขึ้นมาท่ีอาจลักษณะคลายกันหรือมี รากฐานของจดุ ประสงค์ทเี่ หมอื นกัน ๕. เสนอความคิดโดยใช้วลีเพียงวลีเดียว เพ่ือสร้างความรวดเร็วและความตื่นตัวในการ เสนอความคดิ ๖. ใชภ้ าพในการเสนอความคิด เพ่อื ช่วยในการกระตุ้นความคดิ ๗. เปา้ หมายคือจานวนของความคดิ ไม่ใชค่ ุณภาพ เมือ่ จบการระดมความคดิ แลว้ ใหผ้ ู้ดาเนนิ การระดมความคิด ปดิ การระดมความคิดเสยี ก่อน จากน้นั นาความคิด ท้งั หมดมาวพิ ากษ์และจัดหมวดหมเู่ พื่อให้ง่ายต่อการนาความคิดไปสร้าง พฒั นา ปรับปรุงนวัตกรรมในข้ันตอน ต่อไป โดยในขั้ตอนที่ ๓ นี้ ผู้ดาเนินรายงานอาจเป็นครูหรือผู้นานักเรียนท่ีมีความเข้าใจในกระบวนการทา brainstorming เพอ่ื ปอ้ งกนั ไมใ่ ห้ผู้เสนอความคดิ เกดิ ความร้สู ึกทไ่ี มด่ ีตอ่ การออกความคิด ขั้นที่ 4: สรา้ งต้นแบบ (Prototype) ใช้ความคิดที่ทาการระดมและผ่านการคัดเลือกแล้วมากสร้าง ปรับปรุง ตัวต้นแบบของ นวัตกรรมซ่ึงขั้นตอนนี้จะช่วยให้ผู้สร้างนวัตกรรมเข้าใจในสิ่งที่จะสร้างข้ึน และยังสามารถเห็นถึงจุดอ่อน จุด แข็งของนวัตกรรมที่สร้างข้นึ เพื่อเตรยี มการสาหรับการทดสอบจรงิ โดยนวัตกรรมมี ๓ ประเภท คือ Product Process และ Service

รูปภาพ การทาขั้นตอนการสร้างตน้ แบบของนักเรียน ขั้นท่ี 5: ทดสอบ (Test) เมอื่ สร้างต้นแบบของนวัตกรรมเสร็จแลว้ จาเป็นต้องมีผู้ตรวจหรือกระบวนการตรวจสอบความเป็นไป ไดข้ องนวัตกรรมซง่ึ การทดสอบน้นั มหี ลายหลายรูปแบบข้นึ กบั รูปแบบของนวัตกรรม โดยกระบวนการทาง นักเรียนฝึกในการทาปฏิบตั ิการคือการแลกเปลยี่ นความเหน็ จากเพ่อื นกลมุ่ อนื่ เพอ่ื ให้เห็นถึงขอ้ ผิดพลาดของ นวัตกรรม กลมุ่ ทีเ่ ปน็ ฝา่ ยเสนอความเห็นสามารถใหค้ วามเห็นได้เพยี ง 2 แบบ คือ ข้อดีของนวตั กรรมทีม่ ีอยู่ เดิม ขอ้ เสียของนวัตกรรมโดยจะตอ้ งใหข้ อ้ เสนอแนะเกยี่ วกบั วธิ ที จ่ี ะพฒั นานวตั กรรมเสมอ ในการเข้ารว่ ม โครงการครง้ั นี้ ได้มผี ูเ้ ชี่ยวชาญจากบรษิ ัทเอกชนในการใหข้ ้อเสนอแนะ และแนวคดิ ในการทานวตั กรรม เก่ยี วกบั การอนรุ กั ษน์ า้ บาบดั นา้ รปู ภาพ การทดสอบแบบการนาเสนอและให้ข้อคดิ เห็น

6.ภาพรวมของการทางาน 1.การมสี ว่ นร่วมในองคก์ ร ปฏบิ ัตหิ นา้ ท่งี านปฏคิ ม ต้อนรับแขก ดแู ลและให้ข้อมูลงานด้านสิง่ แวดล้อมของโรงเรียน แก่แขกผ้มู าเยอื น

2.การเป็นแบบอยา่ งที่ดี เขา้ รว่ มกจิ กรรมจติ อาสารว่ มกบั นกั เรียน และกิจกรรมเน่อื งในวนั สาคญั ต่างๆ แต่งกายสภุ าพเรยี บร้อยตามกาลเทศะ