รายงานผลการดาเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม ประจาปกี ารศึกษา 256๒ ภาคเรยี นท่ี ๑ กล่มุ งานตามนโยบายโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 อาเภอแมแ่ จ่ม จังหวัดเชยี งใหม่ ............................................................................................................................. ...................................... ชอ่ื -สกลุ นายบรุ ิศร์ กองมะลิ ตาแหน่ง พนกั งานราชการ งานตามโครงสรา้ งการบรหิ ารงาน งานตามนโยบาย ดา้ นส่งิ แวดลอ้ ม 1) กิจกรรมทด่ี าเนินงานเสรจ็ สนิ้ ในภาคเรยี นที่ ๑ กจิ กรรมฮโี ร่รกั ษ์นา้ มูลนิธิรักษ์ไทยได้จัดทาโครงการฮีโร่รักษน์ า ในการส่งเสริมในเยาวชนได้มีส่วนร่วมในการทากิจกรรม ด้านส่ิงแวดล้อม เช่น การดูแลรักษาคุณภาพนา การตรวจสอบคุณภาพนา การรณรงค์ด้านการอนุรักษ์ ทรัพยากรนาในพืนท่ีชุมชน โดยทางมูลนิธิได้เชิญคณะครูเข้าร่วมการอบรมเพื่อเตรียมตัวในการสร้าง พีเ่ ลียงฮีโรร่ กั ษ์นา โดยประกอบขันการเรยี นรู้ ๗ ขนั ตอนดังนี
ข้ันท่ี ๑ การปลกู พลงั ฮีโร่ สร้างความคดิ เชิงบวกในการทากจิ กรรมดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม ขน้ั ท่ี ๒ น้ากับชวี ติ ให้ขอ้ มูล ศกึ ษาเกยี่ วกับความสาคญั ของนามีผลต่อการใช้ชวี ติ ขน้ั ที่ ๓ ถมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่ิน ศกึ ษาขนบธรรมเนยี ม วธิ ีการของชุมชน ในการบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนา ขั้นที่ ๔ การจัดการนา้ ในโรงเรยี น ศึกษาสรา้ งแบบจาลองในการบริหารจดั การนา ข้ันท่ี ๕ การตรวจวัดคณุ ภาพนา้ ใช้ชุดเคร่ืองมือและวธิ กี ารทางวทิ ยาศาสตร์ในการตรวจวดั คุณภาพนา ข้นั ท่ี ๖ การไดม้ าซ่ึงน้าสะอาด การศึกษาวิธีการการทาใหน้ าสะอาดขนึ เช่น การกรอง กลน่ั ขน้ั ท่ี ๗ ระเบกิ พลังฮีโร่ การใช้ความคิดสรา้ งสรรค์ สรา้ งโครงงานเพ่อื การอนุรกั ษน์ า ทงั นีครไู ด้มีการฝึกปฏิบัติการตามขนั การเรยี นรทู้ ัง ๗ ประการเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความความชานาญในการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ และเตรยี มตัวสาหรบั การเป็นพีเ่ ลียงในการจดั กิจกรรมสาหรับเดก็ นักเรียนครงั ต่อไป เมื่อได้รับการอบรมการจัดกิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการด้านสิ่งแวดล้อม สร้างเสริมทักษะการสังเกต การประยุกต์วัสดุธรรมชาติ การออกแบบวิธีการในการทากิจกรรมการอนุรักษ์นา การบริหารจัดการนาท่ีมี ประสทิ ธิภาพซึ่งเป็นการเรยี นรู้โดยการแก้ไขปัญหาท่ีพบในชวี ติ ประจาวัน
กิจกรรมสือ่ สรา้ งสรรค์ มูลนิธิรักษ์ไทยได้จัดทาโครงการสื่อสร้างสรรค์เพื่อการอนุรักษ์นา และมหาสมุทร โดยมุ่งเน้นให้ นกั เรยี นสามารถสร้างส่ือวดิ โี อในการรณรงค์ แสดงมุมมอง หรือบอกเหล่าเร่ืองราวต่างๆเกี่ยวกับการอนุรักษ์นา ในชุมชนของตนเอง โดยโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ มีนักเรียนเป็นการเรียนวิทยาศาสตร์ คณิตสาสตร์ เข้าร่วมกิจกรรม ในขันตอนการผลติ ส่ือวดี โิ อ มีขันตอนเริ่มต้นคอื การวางเนือหาและโครงเรื่องของสอื่ ขันตอนต่อไปคือการลงมือปฏิบัติการถ่ายทาวีดิโอ ตามจุดต่างๆที่ได้ทาการวางแผน ประกอบด้วยแหล่งเรียน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอพเพียง สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน สวนเกษตรของโรงเรียน ถ่ายภาพ ประกอบ บทสมั ภาษณ์บคุ คลทม่ี ีความเกี่ยวกับเนือหาที่วางแผนไว้
กจิ กรรมสารวจ GPS ตน้ ไม้ โครงการเยาวชนไทยรกั ษป์ า่ มลู นิธิไทยรกั ษป์ า่ ไดจ้ ดั ทาโครงการเยาวชนไทยรกั ษ์ ๓๐ โรงเรยี นในเชียงใหมเ่ พือ่ สรา้ งแกนนาพิทักษ์ ปา่ ไม้และเพิม่ บทบาทของเยาวชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรปา่ ไม้ใหม้ ีมมากขึนโดยการจัดกิจกรรมตามโครงการ ดังกล่าว ในภาคเรียนที่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ โดยจดั กิจกรรมอบรมให้ความรู้ในการคานวณปริมาณคาร์บอน กกั เกบ็ ตน้ ไม้ภายในโรงเรยี น การประดิษฐ์อุปกรณ์การวัดความสูงของต้นไม้อย่างง่าย พร้อมทังฝึกใช้อุปกรณ์จนชานาญในการ สารวจและบันทึกขอ้ มลู ของตน้ ไม้ ในการสารวจตน้ ไม้ในโรงเรียนครงั ต่อไป กจิ กรรรมวัฒนธรรมรกั ษน์ ้า ครง้ั ที่ ๑ สถานีวิทยุจุฬาลงกรมหาวิทยาลัยและคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรมหาวิทยาลัย ได้จัดการ ประกวดนวัตกรรมในเรื่องการอนุรักษ์ในการอนรุ ักษ์นาในชุมชนของนักเรียน โดยนักเรียนได้ส่งแนวทางการ ประดษิ ฐ์ฝายชะลอนาบรเิ วณธารนาหน้าโรงเรียน เพือ่ เป้าหมายในการอนุรกั ษ์นาในโรงเรียน โดยในการอบรม ไดร้ บั เกยี รติในการเขา้ ร่วมกจิ กรรมและพัฒนากระบวนการคดิ เชิงออกแบบเพือ่ ใช้ในการพัฒนานวตั กรรมตอ่ ไป การกระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design thinking) คือ การคิดแก้ปัญหาที่สามารถนาไปสร้างสรรค์ นวัตกรรมได้ การคิดเชิงออกแบบนันต่างจาก “ความคิดสร้างสรรค์”(creativity) คือ Design Thinking จะ คานึงถึงองค์ประกอบ 3 อย่างประกอบกัน คือ การแก้ปัญหา ความคิดสร้างสรรค์ และ “คน” การคิดเชิง
ออกแบบจึงมีอีกชื่อคือ Human centered design ท่ีคนเป็นศูนย์กลางการแกป้ ัญหา โดยเน้นทาความเข้าใจ วา่ คนต้องการอะไร แทนทีว่ ิธกี ารแบบเดิมที่มกั เรมิ่ ต้นจาก “ปัญหา” อันประกอบไปด้วย ๕ ขึนตอนดงั นี ขัน้ ที่ 1: ใจเขาใจเรา (Empathize) การทาความเข้าใจผู้ใช้บริการของนวัตกรรมที่จะสร้างขึน โดยมีการสารวจความคิด ความชอบ ค่านิยมข้อมูลพืนฐานของผู้ใช้อย่างละเอียด เพื่อเข้าใจผู้ใช้ (User) ให้มากท่ีสุดเพ่ือ ขันตอนนีเป็น ขนั ตอนท่ีสาคญั ที่สุดและใชเ้ วลาในการทากระบวนการนานที่สุด โดยในการทาให้ผผู้คดิ นวัตกรรม ตงั ตวั ละคร สมมุติแล้วแจกแจงข้อมูลพืนฐานของตัวละครนี ซ่ึงข้อมูลพืนฐานต้องมาจากประชากรจานวนมากแล้วสรุป รวบรวมใหเ้ กิดเป็นตัวแทนของผูใ้ ชน้ วตั กรรมทังหมด และสร้างสาเหตุตวั เรอื่ งของการสรา้ งนวตั กรรม รปู ภาพ ชนิ งานของนกั เรียนในขนั ตอน Empathize
ขนั้ ที่ 2: ระบปุ ัญหา (Define the Problem) จากการสร้างตัวแทนของผู้ใช้นวัตกรรมในขันตอนแรกได้แล้ว ในขันตอนท่ี ๒ นีต่อศึกษา คดั เลือกประเด็นสาคญั ของผู้ใช้ ซ่ึงอาจเป็นปญั หาหรือความต้องการของผู้ใช้นวัตกรรม โดยการระบบุ ุคคลหรือ องค์กรท่ีมีอิทธิพลต่อผู้ใช้ในการเลือกใช้โดยใช้ผังวงกลมมทังหมด ๒ ชันเพื่อแสดงพลังของอิทธิพลท่ีมีผลต่อ จิตใจของผ้ใู ชด้ ังรูป รปู ภาพ ผงั วงกลมแสดงอิทธพิ ลตอ่ ผู้ใช้ในการเลือกนวตั กรรม เม่ือแจกแจงบุคคลหรือองค์กรท่ีอิทธิพลต่อผู้ใช้เรียบร้อย จะแสดงถึงส่วนที่มีอิทธิพลต่อผู้ใช้ มาก จะอยู่ในผัง วงกลมชันในและส่วนท่ีมีอิทธิพลต่อผู้ใช้ น้อย จะอยู่ในผังวงกลมชันนอก จากนันนาอิทธิพลท่ีมีผลมากไป เรยี งลาดบั เป็น Story line โดยเรียงลาดบั เหตกุ ารณด์ ังนี ๑. ต้นเหตหุ รอื ปญั หาก่อนการใช้นวตั กรรม ๒. ขณะการใช้นวตั กรร รม ๓. หลังการใช้นวัตกรรม เช่นการสร้างความความย่ังยืน การดูแลรักษาตัวนวัตกรรม เม่ือลาดับ เหตุการณ์เรียบร้อยให้กาหนดค่าความสุขหรือความทุกข์ในแต่ละเหตุการณ์เพื่อทบทวนและตรวจสอบถึง จดุ ประสงค์ของการสรา้ งนวัตกรรมว่าตรงตามทผี่ ใู้ ชต้ ้องการหรือไม่ ข้ันท่ี 3: ระดมความคดิ (Ideate) เมื่อลาดับทบทวนจุดประสงค์การทานวัตกรรมอย่างดีแล้ว จึงทาการระดมความคิดเพื่อหา วิธีการในการสรา้ งนวตั กรรมหรอื ปรับปรงุ นวตั กรรมให้ดีมากขึนและตอบโจทย์ผู้ใชม้ ากขนึ โดยใช้กระบวนการ brainstorming ในกระบวนการนีมีกฎสาคญั อยทู่ งั หมด ๗ ข้อดงั นี ๑. ความคิดทุกอย่างน้ันเปน็ ไปได้ ต้องเปดิ รบั ทกุ ความเห็นโดยไม่มีการวิพากษค์ วามคิด ๒. อย่าตัดสนิ ความคิดระหว่างการระดมความคิด โดยให้มกี ารตดั สนิ จัดหมวดหมู่ภายหลัง จบการระดมความคดิ แลว้ ๓. เนน้ ความหลากหลายของความคดิ ใหค้ ิดให้สิง่ ที่อาจเปน็ ไปไม่ได้ เหนือความเป็นจริง ท่ีเล่นท่จี ริงมีความสนุกสนานในการใชค้ วามคดิ
๔. ต่อยอดจากความคิดท่ีเสนอ ใช้ความคิดที่เสนอขึนมาท่ีอาจลักษณะคลายกันหรือมี รากฐานของจุดประสงคท์ ี่เหมือนกัน ๕. เสนอความคิดโดยใช้วลีเพียงวลีเดียว เพ่ือสร้างความรวดเร็วและความตื่นตัวในการ เสนอความคิด ๖. ใชภ้ าพในการเสนอความคดิ เพือ่ ชว่ ยในการกระตนุ้ ความคิด ๗. เปา้ หมายคอื จานวนของความคดิ ไมใ่ ชค่ ุณภาพ เมอ่ื จบการระดมความคิดแลว้ ใหผ้ ู้ดาเนนิ การระดมความคิด ปดิ การระดมความคดิ เสียก่อน จากนนั นาความคิด ทังหมดมาวิพากษแ์ ละจดั หมวดหมู่เพื่อให้งา่ ยต่อการนาความคิดไปสร้าง พฒั นา ปรับปรุงนวตั กรรมในขันตอน ต่อไป โดยในขัตอนที่ ๓ นี ผู้ดาเนินรายงานอาจเป็นครูหรือผู้นานักเรียนท่ีมีความเข้าใจในกระบวนการทา brainstorming เพือ่ ป้องกันไม่ให้ผู้เสนอความคิดเกิดความรู้สึกทีไ่ ม่ดตี ่อการออกความคิด ขนั้ ท่ี 4: สร้างตน้ แบบ (Prototype) ใช้ความคิดที่ทาการระดมและผ่านการคัดเลือกแล้วมากสร้าง ปรับปรุง ตัวต้นแบบของ นวัตกรรมซึ่งขันตอนนีจะช่วยให้ผู้สร้างนวัตกรรมเข้าใจในส่ิงท่ีจะสร้างขึน และยังสามารถเห็นถึงจุดอ่อน จุด แข็งของนวัตกรรมท่ีสร้างขนึ เพ่ือเตรียมการสาหรบั การทดสอบจรงิ โดยนวัตกรรมมี ๓ ประเภท คือ Product Process และ Service รูปภาพ การทาขนั ตอนการสร้างตน้ แบบของนกั เรียน ขนั้ ที่ 5: ทดสอบ (Test) เมื่อสรา้ งตน้ แบบของนวัตกรรมเสร็จแลว้ จาเป็นต้องมผี ้ตู รวจหรือกระบวนการตรวจสอบความเปน็ ไป ได้ของนวัตกรรมซง่ึ การทดสอบนนั มหี ลายหลายรูปแบบขนึ กับรปู แบบของนวัตกรรม โดยกระบวนการทาง นักเรียนฝึกในการทาปฏบิ ตั ิการคือการแลกเปล่ียนความเหน็ จากเพ่ือนกลมุ่ อน่ื เพอ่ื ให้เหน็ ถึงขอ้ ผิดพลาดของ นวัตกรรม กลมุ่ ทีเ่ ปน็ ฝา่ ยเสนอความเห็นสามารถให้ความเหน็ ไดเ้ พียง 2 แบบ คือ ขอ้ ดขี องนวตั กรรมท่ีมีอยู่ เดิม ข้อเสยี ของนวัตกรรมโดยจะตอ้ งให้ข้อเสนอแนะเกย่ี วกับวธิ ที จี่ ะพฒั นานวัตกรรมเสมอ ในการเข้าร่วม โครงการครงั นี ได้มผี ู้เชยี่ วชาญจากบริษัทเอกชนในการใหข้ อ้ เสนอแนะ และแนวคดิ ในการทานวัตกรรม เกย่ี วกับการอนรุ ักษ์นา บาบัดนา
รปู ภาพ การทดสอบแบบการนาเสนอและใหข้ ้อคดิ เหน็ 2) ปัญหา/อปุ สรรคในการดาเนินงาน ปญั หา ไมส่ ามารถทากจิ กรรมการสร้างโมเดลพลังงานทดแทนไบโอแก๊ส ไดต้ ามเวลาทกี่ าหนดเนอื่ งจาก นักเรยี นยังไมส่ ามารถจัดทาขอ้ มูลท่เี พียงพอในการสร้างโมเดล แก้ไข วางแผนการใชห้ อ้ งสบื คน้ เพื่อสง่ เสรมิ ใหน้ กั เรียนสบื คน้ ความรู้ดา้ นพลงั งานทดแทนได้มากข้นึ จดั ทาแบบติดตามการค้นคว้าขอ้ มูล และทาการรวบรวมข้อมลู ปัญหา การสรปุ ขอ้ มูลต้นไมจ้ ากการสารวจ GPS ต้นไม้ ไมเ่ สร็จสนิ้ ตามกาหนดเวลา เนื่องจากขอ้ มลู มจี านวน มากและมคี วามซับซอ้ นต่อการจะเรียง แก้ไข จดั ทาขอ้ มูลต่อโดยใช้ระยะเวลามากข้นึ ปญั หา การนากจิ กรรมท่อี บรมเข้าสกู่ ารปฏบัตจิ ริงในการจดั ทาการเรียนการสอนบูรณาการงานส่ิงแวดลอ้ ม ยังไม่สามารถสรา้ งค่านิยมในการจดั กิจกรรมในโรงเรียนได้ แก้ไข จดั ทาหนังสอื คูม่ อื การจะกจิ กรรมการเรยี นรู้บูรณาการงานสง่ิ แวดล้อม 3) แผนการจัดกิจกรรมและแนวทางการพฒั นางานในภาคเรยี นท่ี ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ - จัดค่ายกิจกรรมเด็กตดิ ปา่ ตาทีไ่ ดว้ างแผนและของบประมาณสนับสนุนจาก มูลนิธิไทยรักปา่ - จัดทาโมเดลไบโอแกส๊ เพอื่ เปน็ สือ่ การเรยี นการสอน ให้กับบคุ ลากรภายในโรงเรยี น
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: