Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ว 22102 ม2 แผน 5E พร้อมสื่อ

ว 22102 ม2 แผน 5E พร้อมสื่อ

Published by buritkongmali, 2018-11-07 09:26:48

Description: ว 22102 ม2 แผน 5E พร้อมสื่อ

Search

Read the Text Version

ครผู สู้ อน แผนการ ชือ่ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี แผนการสอนท่ี 1 รายวชิ า วิทยาศาสตร์ ชน้ั มธั ย บุรศิ ร์ กองมะลิ ตาแหน่งตัวชี้วดั ความรู้ ภาระงาน/ชิน้ งาน การวัดและ ประเมนิ ผลว 4.1 ม.2/1 การหาแรงลัพธ์ของ แบบบันทึกการทดล ตรวจใบงาน ขทดลองและอธบิ าย แรงหลายแรงใน องคานวณเร่อื งการ ขการหาแรงลัพธ์ของ ระนาบเดยี วกนั ที่ รวมแรงแบบฝกึ ขแรงหลายแรงใน กระทาต่อวัตถุ คดิ หมวกหกใบ วระนาบเดยี วกนั ที่ แกระทาต่อวัตถุ ข เก ใน ข ฝ ป ข เร ให

รจดั การเรยี นรู้ 1 เรอื่ ง แรงการเคล่อื นที่ เรอื่ ง การหาแรงลพั ธ์ยมศึกษาปที ่ี 2 รหัสวิชา ว22102พนังงานราชการครผู สู้ อน เวลาทใ่ี ช้ 3 ชว่ั โมงกิจกรรมการเรียนรู้ สือ่ /แหลง่ เรียนรู้ขัน้ สร้างความสนใจ โดยการฉายวดิ โี อการทาแฟ้มสะสมผลงาน 1 คลปิ วีดโิ อของรายวชิ าและบอกเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนของรายวชิ า 2 คอมพิวเตอร์ขั้นสารวจและคน้ หา ต้ังคาถามใหน้ กั เรียนอภปิ รายเกีย๋ วกับ 3 จอโปรเจกเตอร์วิธีการคิดของตนเอง และคิดอยา่ งไรกบั โมเดลแบบหมวกหกใบ ปากกาเขยี นและแผนผงั ปลาคู่ กระดานขั้นอธบิ ายและลงขอ้ สรุป ครูรบั ฟังนักเรยี น จากน้ันอธิบายกย่ี วกับวิธกี ารใชโ้ มเดลแบบหมวกหกใบและแผนผงั ปลาคู่นการเรียนวิทยาศาสตร์ขนั้ ขยายความรู้ ครตู ัง้ โจทย์ในแบบ นอกกรอบเหนือจรงิ ในการฝึกใหน้ ักเรยี นเข้าในการใช้โมเดลแบบหมวกหกใบและแผนผังปลาคู่ในการเรยี นวทิ ยาศาสตร์ขน้ั ประเมนิ นกั เรยี นนาเสนอความคดิ ของกล่มุ ตนเอง หน้าช้ันรยี น ครูสังเกตการณ์นาเสนอและซักถามเพอื่ เพมิ่ ความเขา้ ใจห้กบั นกั เรียน

ครผู สู้ อน แผนการ ชอื่ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ แผนการสอนที่ 2 รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ ชนั้ มธั ย บุริศร์ กองมะลิ ตาแหนง่ตัวชี้วัด ความรู้ ภาระงาน/ชิ้นงาน การวดั และ ประเมนิ ผลว 4.1 ม.2/1 การหาแรงลัพธ์ของ แบบบันทึกการทดล ตรวจใบงาน ขทดลองและอธบิ าย แรงหลายแรงใน องคานวณเรือ่ งการ เคการหาแรงลพั ธ์ของ ระนาบเดยี วกันท่ี รวมแรงแบบฝกึ ขแรงหลายแรงใน กระทาต่อวัตถุ คดิ หมวกหกใบ หระนาบเดียวกันท่ี คกระทาตอ่ วตั ถุ ข ส ข จ ส ข ท เข

รจัดการเรยี นรู้ 1 เรอ่ื ง แรงการเคลอ่ื นที่ เร่ือง การหาแรงลพั ธ์ยมศกึ ษาปที ี่ 2 รหสั วชิ า ว22102พนังงานราชการครผู ู้สอน เวลาทีใ่ ช้ 3 ชวั่ โมงกจิ กรรมการเรยี นรู้ สื่อ/แหล่งเรยี นรู้ขน้ั สร้างความสนใจ ใช้คลิปวิดโี อ จาก teded ในเรอ่ื ง ถ้าเรา 1 คลิปวีดโิ อครื่อนที่ ได้ 40000 กมตอ่ ชม เพ่ือจดุ ประเดน็ ความสนใจ 2 คอมพิวเตอร์ขั้นสารวจและค้นหา ใช้ประเด็นข้างต้นในการคิดแบบหมวก 3 จอโปรเจกเตอร์หกใบในการคดิ ครสู ังเกตการณม์ มุ มองความคดิ ของนักเรียนถึง ปากกาเขียนความรูเ้ กย่ี วกบั แรง กระดานขั้นอธิบายและลงขอ้ สรปุ นกั เรยี นอธบิ ายมมุ มองในการเกดิสถานการณ์ดงั กล่าว ครูกล่าวสรปุ และชี้แจงข้อเท็จจริงทเ่ี กดิ ขน้ึขั้นขยายความรู้ อธิบายความหมายและวธิ กี ารหาแรงลัพธ์จากนนั้ ทดลองทาโจทยป์ ญั หาเพ่ือเพ่ิมความเข้าใจในเนอื้ หา ชี้นาสถานการณ์ทพ่ี บในชีวติ ประจาวันขั้นประเมนิ เฉลยแบบฝึกหดั ร่วมกัน และสารวจจานวนนกั เรยี นทต่ี อบคาถามใบแบบฝกึ หดั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง เพอื่ ประเมนิ ความข้าใจของนักเรียนในเรื่องแรงลพั ธ์

ครูผสู้ อน แผนการ ชือ่ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ แผนการสอนท่ี 3 เร่ือ รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ ชนั้ มธั ย บรุ ศิ ร์ กองมะลิ ตาแหนง่ พตัวชวี้ ดั ความรู้ ภาระงาน/ชน้ิ งาน การวดั และ ประเมนิ ผลว 4.1 ม.2/2 อธิบายแรง แรงลพั ธ์ท่ี แบบบันทึกการ ตรวจใบงาน ขลัพธ์ทก่ี ระทาตอ่ วตั ถุที่ กระทาต่อวตั ถุ ทดลองคานวณ ในหยุดนงิ่ หรอื วัตถุเคล่ือนที่ ท่ีหยดุ น่ิงหรอื เรอื่ งการรวมแรง ขด้วยความเรว็ คงตัว วัตถเุ คลอื่ นท่ี แบบฝกึ คดิ หมวก ขว 8.1 ม.2/1 ตัง้ คาถามที่ ด้วยความเรว็ หกใบ โดกาหนดประเด็นหรือตัว คงตัว ขแปรท่ีสาคัญในการสารวจ เดตรวจสอบ หรอื ศกึ ษา ขคน้ คว้าเรอ่ื งที่สนใจได้ โดอย่างครอบคลมุ และ จเชอ่ื ถอื ได้ ขว 8.1 ม.2/2 สร้าง ตสมมติฐานทสี่ ามารถ เคตรวจสอบไดแ้ ละวางแผนการสารวจตรวจสอบหลายๆวิธี

รจดั การเรียนรู้ 1 เรอ่ื ง แรงการเคล่ือนที่อง วิธีในการหาแรงลพั ธ์ยมศกึ ษาปีท่ี 2 รหสั วชิ า ว22102พนังงานราชการครผู ู้สอน เวลาทใี่ ช้ 3 ชวั่ โมง กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้ข้นั สรา้ งความสนใจ นักเรยี นทาแบบฝึกหดั เพอ่ื ทบทวนความรู้ 1 คลิปวีดิโอนครงั้ ก่อน จากนัน้ ครูในสถานการณใ์ นชีวติ ประจาวนั ถึงทิศทาง 2 คอมพิวเตอร์ของแรง ทม่ี ีผลต่อการเคลื่อนทข่ี องวตั ถุ 3 จอโปรเจกเตอร์ขั้นสารวจและค้นหา ถามคาถามเกยี่ วกับสถานณก์ ารดังกลา่ ว ปากกาเขยี นดยใช้หมวกสขี าว ในการคดิ กระดานข้ันอธบิ ายและลงขอ้ สรุป ครูอธบิ ายวิธีการรวมแรงในทศิ ทางดียวกนั และต่างทศิ ทางขั้นขยายความรู้ แบง่ กลมุ่ ในการคดิ เช่อื มโยงวัตถุท่ีถูกกระทาดยแรงหลายทศิ ทางกบั ชวี ติ ประจาวัน โดยใช้แผนภาพกางปลาจากน้ันนาเสนอขั้นประเมนิ ทดสอบโดยการใช้แบบฝึกหดั การรวมแรงแบบหางต่อหวั และแบบหางตอ่ หาง เขียนแผนผังก้างปลา ในหวั ขอ้ การคลือ่ นทข่ี องเราเกิดขึน้ ไดอ้ ยา่ งไร

ครูผสู้ อน แผนการ ชือ่ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี แผนการสอนท่ี 4 เร่ือง รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั มธั ย บรุ ศิ ร์ กองมะลิ ตาแหนง่ พ ตัวช้วี ัด ความรู้ ภาระงาน/ชิน้ งาน การวัดและ ประเมนิ ผลว 4.1 ม.2/2 อธิบายแรง แรงลพั ธท์ ่ี แบบบนั ทึกการ ตรวจประเมินลัพธท์ ่ีกระทาต่อวตั ถทุ ี่ กระทาตอ่ วตั ถุ ทดลองคานวณ ความตั้งใจในหยุดน่ิงหรือวัตถเุ คลอ่ื นท่ี ที่หยุดนิ่งหรือ เรอ่ื งการรวมแรง การทดลองด้วยความเร็วคงตัว วตั ถเุ คลอ่ื นท่ี แบบฝกึ หดั คิดว 8.1 ม.2/1 ต้งั คาถามที่ ด้วยความเรว็ หมวกหกใบกาหนดประเด็นหรือตวั คงตวัแปรทสี่ าคญั ในการสารวจตรวจสอบ หรอื ศกึ ษาค้นควา้ เรอ่ื งท่ีสนใจได้อยา่ งครอบคลุมและเชื่อถือได้ว 8.1 ม.2/2 สรา้ งสมมตฐิ านท่สี ามารถตรวจสอบไดแ้ ละวางแผนการสารวจตรวจสอบหลายๆวธิ ี

รจดั การเรยี นรู้ 1 เรอ่ื ง แรงการเคลอ่ื นท่ีง แรงลพั ธ์กบั ชีวติ ประจาวนัยมศกึ ษาปที ี่ 2 รหัสวชิ า ว22102พนงั งานราชการครผู ้สู อน เวลาทใ่ี ช้ 3 ชว่ั โมง กิจกรรมการเรยี นรู้ สื่อ/แหล่งเรยี นรู้ขน้ั สร้างความสนใจ เกรนิ นาเรอื่ งแรงลพั ธก์ บั ชีวิตประจาวัน 1 คลิปวีดโิ อโดยการยกตัวอย่างและการต้งั คาถามใหก้ บั นกั เรยี น 2 คอมพิวเตอร์ขั้นสารวจและค้นหา สุมเลอื กนักเรยี นจานวน 5 -7 คน ทา 3 จอโปรเจกเตอร์ ปากกาเขียนการนาเสนอแผนผงั ก้างปลาในหัวขอ้ เรื่อง การเคลือ่ นทีข่ องเรา กระดานเกิดขึ้นได้อยา่ งไร ครเู กบ็ ขอ้ มูลเพอื่ นาไปอธบิ ายและเชอื่ มโยงความรู้ขน้ั อธบิ ายและลงข้อสรปุ นาสาเหตขุ องการเคลือ่ นท่ที ่ีนกั เรยี นเปน็ ผคู้ ดิ หาขอ้ สรปุ รว่ มกนั โดยหมวกหกใบในการคดิในแต่ละมมุข้นั ขยายความรู้ ร่วมกนั เสนอแนวทางแบบใหม่ โดยการใช้ความคดิ สรา้ งสรรค์ (หมวกสเี ขยี ว) และเชอื่ มโยงให้เห็นในกิจวัตรประจาวนัขั้นประเมนิ ทาแบบฝึกหัดทดสอบความเข้าใจ โดยนกั เรยี นเปน็ ผตู้ รวจและประเมนิ ความรทู้ ี่ได้ จากนนั้ ครูพูดเสรมิ ตรงส่วนที่นักเรียนตดิ ขดั

ครผู สู้ อน แผนการ ชือ่ หน่วยการเร แผนการสอนที่ 5 เรอื่ ง ค รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั มธั ย บุริศร์ กองมะลิ ตาแหนง่ พตวั ช้วี ัด ความรู้ ภาระงาน/ การวดั และ ช้นิ งาน ประเมนิ ผล แบบตรวจใบงานว 5.1 ม.2/1 ทดลองและ การสะทอ้ น แบบบนั ทกึ การ นาเสนอผลงานอธิบายการสะท้อนของ ของแสง การ ทดลองคานวณแสง การหกั เหของแสง หกั เหของแสง เรื่อง แสงแลละและนาความร้ไู ปใช้ และนาความรู้ การมองเห็นประโยชน์ ไปใช้ แบบฝกึ หดั คิด ประโยชน์ หมวกหกใบ

รจดั การเรียนรู้รยี นรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง แสงความหมายและสมบตั ขิ องแสงยมศึกษาปีที่ 2 รหสั วชิ า ว22102พนังงานราชการครผู ู้สอน เวลาทใ่ี ช้ 3 ช่ัวโมง กจิ กรรมการเรยี นรู้ สื่อ/แหล่งเรยี นรู้ขนั้ สร้างความสนใจ ใชค้ ลปิ วิดีโอเรื่องแสงและคล่ืนแสง ใน 1 คลปิ วดี โิ อการกระตุ้นความรสู้ กึ ความสนใจ 2 คอมพิวเตอร์ขน้ั สารวจและคน้ หา มอบหมายหวั ข้อในการทาแผนผัง 3 จอโปรเจกเตอร์ก้างปลา ในหวั ขอ้ เรือ่ ง เมอ่ื แสงอาทติ ยห์ ายไปจากโลก โดยครู ปากกาเขียนคอยกระตนุ้ และให้คาแนะนา กระดานขั้นอธบิ ายและลงข้อสรปุ นกั เรยี นอธบิ ายความคดิ ของตนโดยการนาเสนอ นกั เรยี นให้ขอ้ ติชมเพื่อนร่วมชั้นและเสนอความมุมมองทแ่ี ตกตา่ งขั้นขยายความรู้ เช่อื มโยงความรสู้ มบัติของแสงกับชีวิตประจาวนั และจดบนั ทกึ ลงในสมดุขน้ั ประเมนิ นกั เรยี นรว่ มตอบคาถามในความหมาย และสมบตั ิของแสง ครใู หข้ อ้ เสนอแนะในการทบทวนและจดุ ทค่ี วามรไู้ ม่สมบรู ณ์

ครูผสู้ อน แผนการ ช่ือหนว่ ยการเร แผนการสอนท่ี 6 เร่ือง การด รายวชิ า วิทยาศาสตร์ ชน้ั มธั ย บุริศร์ กองมะลิ ตาแหน่ง พ ตวั ชี้วัด ความรู้ ภาระงาน/ การวดั และ ชน้ิ งาน ประเมนิ ผลว 5.1 ม.2/3 ทดลองและ การดูดกลนื แบบบันทกึ การ แบบตรวจใบงานอธิบายการดูดกลืนแสงสี แสงสี การ ทดลองคานวณ นาเสนอผลงานการมองเหน็ สีของวตั ถุ มองเหน็ สขี อง เร่อื ง แสงและการและนาความรไู้ ปใช้ วตั ถุ และนา มองเห็นประโยชน์ ความรูไ้ ปใช้ แบบฝึกหดั คิด ประโยชน์ หมวกหกใบ

รจัดการเรยี นรู้รยี นรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง แสงดดู กลนื แสงสี การมองเห็นสขี องวตั ถุยมศกึ ษาปที ่ี 2 รหัสวชิ า ว22102พนังงานราชการครผู ู้สอน เวลาที่ใช้ 3 ช่ัวโมงกจิ กรรมการเรียนรู้ ส่ือ/แหลง่ เรียนรู้ข้นั สร้างความสนใจ ใช้คลิปวิดโี อเรอื่ งเรามองเหน็ ได้อยา่ งไร 1 คลปิ วีดโิ อ(จาก Ted ED) ในการกระต้นุ ความรสู้ ึก ความสนใจ 2 คอมพิวเตอร์ข้นั สารวจและคน้ หา มอบหมายหวั ข้อในการทาแผนผัง 3 จอโปรเจกเตอร์ก้างปลา ในหวั ข้อเรอ่ื ง ทาไมเราจงึ เห็นดอกอัญชนั เป็นสีม่วง ปากกาเขยี นโดยครคู อยกระตนุ้ และให้คาแนะนา กระดานขนั้ อธบิ ายและลงข้อสรปุ นกั เรยี นอธบิ ายความคดิ ของตนโดยการนาเสนอ นกั เรียนใหข้ อ้ ตชิ มเพ่ือนรว่ มช้ันและเสนอความมุมมองทแี่ ตกต่างขั้นขยายความรู้ เช่ือมโยงความรู้ สารสีและการดดู กลนื แสงยกตัวอยา่ งสารสแี ละประโยชน์ เชน่ การยอ้ มผ้า ทาสีตา่ งๆและจดบันทกึ ลงในสมุดขั้นประเมนิ นกั เรียนรว่ มตอบคาถามในเรอื่ งการดูดกลืนแสงสีการมองเหน็ สีของวัตถุ ครใู หข้ ้อเสนอแนะในการทบทวนและจดุ ทค่ี วามรูไ้ มส่ มบูรณ์

ครผู สู้ อน แผนการ ชื่อหน่วยการเร แผนการสอนท่ี รายวิชา วิทยาศาสตร์ ชนั้ มธั ย บรุ ศิ ร์ กองมะลิ ตาแหน่ง พตัวช้ีวดั ความรู้ ภาระงาน/ การวัดและ ชิน้ งาน ประเมนิ ผล แบบตรวจใบงานว 5.1 ม.2/3 ทดลองและ การดูดกลนื แสงสี แบบบันทกึ นาเสนอผลงานอธบิ ายการดดู กลนื แสงสี การมองเหน็ สขี อง การทดลองการมองเห็นสีของวัตถุ วตั ถุ และนา คานวณเรือ่ งและนาความรู้ไปใช้ ความรู้ไปใช้ แสงและการประโยชน์ มองเหน็ว 5.1 ม.2/2 อธิบายผล ความสวา่ งท่มี ีตอ่ แบบฝกึ หดัของความสวา่ งท่ีมตี อ่ มนษุ ยแ์ ละ คิดหมวกหกมนษุ ย์และสิ่งมชี ีวิตอ่นื ๆ ส่ิงมีชีวิตอน่ื ๆ ใบ

รจดั การเรยี นรู้รียนรู้ที่ 2 เรอื่ ง แสง 7 เรื่อง ความสว่างยมศกึ ษาปีท่ี 2 รหัสวิชา ว22102พนงั งานราชการครผู สู้ อน เวลาทีใ่ ช้ 3 ช่ัวโมง กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้ขน้ั สรา้ งความสนใจ ใชภ้ าพทเี่ กดิ จากการมองเห็นของสตั ว์ 1 คลปิ วีดโิ อตา่ งๆ เช่น แมลงวนั สนุ ขั แมว ตกุ๊ แกเปน็ ตน เพ่อื สรา้ งความ 2 คอมพิวเตอร์สนใจ ในการเรยี น 3 จอโปรเจกเตอร์ข้ันสารวจและค้นหา มอบหมายหัวขอ้ ในการทาแผนผัง ปากกาเขียนกา้ งปลา ในหัวข้อเรือ่ ง ทาไมต๊กุ แกจึงมองเห็นแสงของ กระดานดวงดาวได้สวา่ งกว่ามนุษย์ โดยครูคอยกระตนุ้ และให้คาแนะนาขน้ั อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ นกั เรยี นอธบิ ายความคดิ ของตนโดยการนาเสนอ นักเรียนให้ขอ้ ติชมเพอ่ื นรว่ มชน้ั และเสนอความมมุ มองทแี่ ตกตา่ งข้ันขยายความรู้ เชื่อมโยงความรู้ ความแตกตา่ งในการมองเหน็ ท่ีตา่ งกนั และเชอ่ื มโยงความรู้ ในการทดสอบการมองเหน็ ในการทาใบขบั ขี่ จดบันทกึ ความรู้ลงในสมุดขั้นประเมนิ นกั เรียนร่วมตอบคาถามในเรื่อง ความสว่าง ครใู ห้ขอ้ เสนอแนะในการทบทวนและจุดทีค่ วามรูไ้ มส่ มบูรณ์

ครูผสู้ อน แผนการ ชอื่ หนว่ ยการเร แผนการสอนที่ 8 เรอ่ื ง แ รายวชิ า วิทยาศาสตร์ ชน้ั มธั ย บุรศิ ร์ กองมะลิ ตาแหนง่ พ ตวั ช้ีวัด ความรู้ ภาระงาน/ การวัดและ ช้นิ งาน ประเมนิ ผลว 5.1 ม.2/1 ทดลองและ แบบตรวจใบอธิบายการสะทอ้ นของ การสะทอ้ นของแสง แบบบันทกึ การ งานแสง การหกั เหของแสง นาเสนอและนาความร้ไู ปใช้ การหักเหของแสง ทดลองคานวณ ผลงานประโยชน์ว 5.1 ม.2/3 ทดลองและ และนาความรู้ไปใช้ เร่อื ง แสงและอธิบายการดดู กลนื แสงสีการมองเห็นสขี องวตั ถุ ประโยชน์ การมองเหน็และนาความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ การดูดกลนื แสงสี แบบฝกึ หดั คิดว 5.1 ม.2/2 อธิบายผลของความสว่างท่มี ีต่อ การมองเหน็ สีของ หมวกหกใบมนุษย์และส่งิ มชี วี ติ อ่นื ๆ วัตถุ และนาความรู้ ไปใช้ ความสวา่ งท่ีมตี ่อ มนุษย์และสิ่งมชี ีวติ อ่นื ๆ

รจดั การเรยี นรู้รยี นรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง แสงแสงกับสิ่งประดษิ ฐ์เก่ยี วกบั แสงยมศึกษาปที ี่ 2 รหัสวชิ า ว22102พนงั งานราชการครผู สู้ อน เวลาที่ใช้ 3 ชัว่ โมงกจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้ขั้นสร้างความสนใจ ใชภ้ าพท่เี กิดจากการมองเหน็ ของสตั ว์ 1 คลปิ วีดโิ อต่างๆ เช่น แมลงวัน สุนัข แมว ตกุ๊ แกเปน็ ตน เพ่ือสร้างความ 2 คอมพิวเตอร์สนใจ ในการเรยี น 3 จอโปรเจกเตอร์ขัน้ สารวจและค้นหา มอบหมายหัวข้อในการทาแผนผงั ปากกาเขียนก้างปลา ในหวั ขอ้ เร่อื ง ทาไมตกุ๊ แกจงึ มองเหน็ แสงของ กระดานดวงดาวได้สวา่ งกว่ามนุษย์ โดยครคู อยกระตนุ้ และให้คาแนะนาข้นั อธิบายและลงข้อสรปุ นกั เรยี นอธบิ ายความคดิ ของตนโดยการนาเสนอ นักเรียนให้ขอ้ ติชมเพ่ือนรว่ มช้นั และเสนอความมมุ มองทแี่ ตกต่างขนั้ ขยายความรู้ เช่อื มโยงความรู้ ความแตกตา่ งในการมองเหน็ ท่ตี ่างกนั และเชื่อมโยงความรู้ ในการทดสอบการมองเหน็ ในการทาใบขับขี่ จดบนั ทึกความรูล้ งในสมดุขัน้ ประเมนิ นกั เรยี นรว่ มตอบคาถามในเร่ือง แสง ครทู บทวนความรเู้ รือ่ งแสงทั้งหมด

ครูผสู้ อน แผนการ ชือ่ หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 3 เ แผนการสอนท่ี 9 เ รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั มธั ย บรุ ศิ ร์ กองมะลิ ตาแหนง่ พ ตัวชีว้ ัด ความรู้ ภาระงาน/ การวัดและ ชิน้ งาน ประเมนิ ผลว 6.1 ม.2/9 ทดลอง แบบตรวจใบงานเลียนแบบและอธบิ าย กระบวนการผุ แบบบนั ทึกการ นาเสนอผลงานกระบวนการผุพังอย่กู บั ที่การกร่อน การพัดพา การ พังอยูก่ บั ท่ี ทดลองคานวณทบั ถม การตกผลกึ และผลของ กระบวนการ การกร่อน การ เรือ่ ง แสงและการดังกล่าวว 6.1 ม.2/10 สืบค้น พัดพา การทบั มองเห็นสรา้ งแบบจาลอง และอธบิ ายโครงสร้างและ ถม แบบฝกึ หดั คิดองค์ประกอบของโลก อธบิ าย หมวกหกใบ โครงสร้างและ องคป์ ระกอบ ของโลก

รจดั การเรียนรู้เรอ่ื ง โลกและการเปลย่ี นแปลงเรื่อง กระบวนการผพุ งัยมศึกษาปที ี่ 2 รหสั วิชา ว22102พนงั งานราชการครผู ูส้ อน เวลาทีใ่ ช้ 3 ชวั่ โมงกิจกรรมการเรยี นรู้ สือ่ /แหล่งเรยี นรู้ขนั้ สรา้ งความสนใจ ขา่ วปญั หา พื้นดนิ ถลม่ และปัญหาทีเ่ กิด 1 คลิปวดี โิ อการกัดเซาะ 2 คอมพิวเตอร์ขน้ั สารวจและค้นหา ทดสอบความรู้โดยใชแ้ บบฝึกหดั และ 3 จอโปรเจกเตอร์การฝกึ วเิ คราะห์ถึงสาเหตของการเกดิ ปัญหา โดยใช้แผนผงั ปากกาเขียนกา้ งปลาในหัว ปญั หาชายฝ่ังรมิ แมน่ าผผุ งั กระดานขั้นอธบิ ายและลงขอ้ สรุป ครูสรปุ ความรแู้ ละอธิบายความจรงิทางวิทยาศาสตร์ทเ่ี กี่ยวขอ้ งกับ การผผุ ัง และสง่ ผลให้เกดิ การทบั ถมไดอ้ ย่างไร (หมวกสขี าว)ขั้นขยายความรู้ เช่อื มโยงความรู้ โดยใชแ้ ผนภาพหมวกหกใบถงึ วิธกี ารแก้ปัญหา การผผุ ังของดนิ พรอ้ มทง้ั นาเสนอความคิดน่าช้นั เรยี น จดบนั ทึกความรลู้ งในสมุดขนั้ ประเมนิ นกั เรยี นร่วมอภปิ รายและหาสรปุ (จากหมวกสฟี ้า)

ครผู สู้ อน แผนการ ช่อื หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เ แผนการสอนท่ี 10 เร่ือ รายวชิ า วิทยาศาสตร์ ชนั้ มธั ย บุรศิ ร์ กองมะลิ ตาแหนง่ พ ตวั ช้วี ดั ความรู้ ภาระงาน/ การวัดและ ชน้ิ งาน ประเมนิ ผลว 6.1 ม.2/9 ทดลอง แบบตรวจใบงานเลียนแบบและอธิบาย กระบวนการผุ แบบบนั ทึกการ นาเสนอผลงานกระบวนการผุพังอย่กู ับที่การกรอ่ น การพดั พา การ พงั อยู่กับที่ ทดลองคานวณทับถม การตกผลึกและผลของ กระบวนการ การกรอ่ น การ เร่ือง แสงและการดงั กลา่ วว 6.1 ม.2/10 สืบคน้ พัดพา การทบั มองเหน็สร้างแบบจาลอง และอธบิ ายโครงสร้างและ ถม แบบฝกึ หดั คิดอธบิ ายโครงสร้างและองค์ประกอบของโลก อธบิ าย หมวกหกใบ โครงสร้างและ องคป์ ระกอบ ของโลก

รจดั การเรียนรู้เรอ่ื ง โลกและการเปลยี่ นแปลงอง การทับถม ของตะกอนยมศึกษาปที ี่ 2 รหสั วิชา ว22102พนงั งานราชการครผู สู้ อน เวลาทใ่ี ช้ 3 ชว่ั โมง กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อ/แหลง่ เรียนรู้ข้นั สรา้ งความสนใจ โครงการในพระราชดารขิ องในหลาง 1 คลปิ วดี โิ อรัชกาลที่ 9 เกย่ี วกับการปลกู หญ้าแฝก และการฟนื้ ฟดู นิ 2 คอมพิวเตอร์ข้นั สารวจและค้นหา นกั เรยี นออกแบบและคน้ หา วิธกี ารปลุก 3 จอโปรเจกเตอร์ ปากกาเขยี นหญา้ แฝก ในการฟ้ืนฟดู นิ โดยบันทึกผลและประมวลผล ลงใน กระดานแฟม้ สะสมงานขั้นอธิบายและลงข้อสรปุ นกั เรยี นอธบิ ายความคดิ ของตนโดยการนาเสนอ หนา้ ช้ันเรียนและร่วมกนั หาวิธีแก้ปัญหาจากสาเหตกุ ารกดั เซาะของน้าขนั้ ขยายความรู้ เช่อื มโยงความรู้ ใช้ความคิดสรา้ สรรค์ แปลกใหมใ่ นการหาวิธใี นการฟืน้ ฟูสภาพดินในกลับมาสมบรู ณ์ (หมวกสเี ขียว)ขน้ั ประเมนิ นาเสนอผลงานของแต่ละกลุ่มเพือ่ ให้ทราบ

ครูผสู้ อน แผนการ ชื่อหนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 3 เ แผนการสอนท่ี 11 รายวชิ า วิทยาศาสตร์ ชนั้ มธั ย บรุ ศิ ร์ กองมะลิ ตาแหนง่ พ ตวั ชี้วดั ความรู้ ภาระงาน/ การวัดและ ชิ้นงาน ประเมนิ ผลว 6.1 ม.2/9 ทดลอง แบบตรวจใบงานเลียนแบบและอธบิ าย กระบวนการผุ แบบบนั ทึกการ นาเสนอผลงานกระบวนการผุพังอย่กู ับท่ีการกรอ่ น การพัดพา การ พังอยู่กับที่ ทดลองคานวณทบั ถม การตกผลึกและผลของ กระบวนการ การกรอ่ น การ เรื่อง แสงและการดงั กล่าวว 6.1 ม.2/10 สืบค้น พัดพา การทับ มองเหน็สร้างแบบจาลอง และอธิบายโครงสร้างและ ถม แบบฝกึ หดั คิดอธบิ ายโครงสร้างและองค์ประกอบของโลก อธบิ าย หมวกหกใบ โครงสร้างและ องคป์ ระกอบ ของโลก

รจดั การเรยี นรู้เรอ่ื ง โลกและการเปลีย่ นแปลง1 เรือ่ ง โครงสรา้ งโลกยมศึกษาปีที่ 2 รหัสวชิ า ว22102พนังงานราชการครผู ้สู อน เวลาทใ่ี ช้ 3 ชวั่ โมงกจิ กรรมการเรยี นรู้ สื่อ/แหล่งเรยี นรู้ข้ันสรา้ งความสนใจ ดสู ารคดกี ารกาหนดโลก และ 1 คลิปวีดโิ อองค์ประกอบของโลก ใหน้ กั เรียนสงั เกตแุ ละจดจาความรู้ 2 คอมพิวเตอร์ขั้นสารวจและค้นหา ร่วมกนั ต้องขอ้ สังเกตในองค์ประกอบ 3 จอโปรเจกเตอร์ของโลก คน้ หาข้อแตกต่างขององคป์ ระกอบของแต่ช้ันของโลก ปากกาเขียนโดยบอกองคป์ ระกอบหลักแตล่ ะช้ัน กระดานขน้ั อธบิ ายและลงข้อสรปุ นกั เรยี นอธบิ ายความคดิ ของตนโดยการนาเสนอ นักเรยี นใหข้ อ้ ตชิ มเพ่อื นร่วมช้ันและเสนอความมุมมองทแ่ี ตกต่างขัน้ ขยายความรู้ เช่อื มโยงความรู้ การเกดิ ลาวา ภูเขาไฟและใชป้ ระโยชน์จากลาวา เขตพ้ืนทีล่ าวา จดบนั ทึกความร้ลู งในสมุด เพอ่ื เพิม่ ประสิทธภิ าพในการนาความรูไ้ ปใช้ในชีวิตประจาวนัขั้นประเมนิ นกั เรยี นวาดรูปโครงสร้างของโลก และชี้แจงส่วนประกอบของโลก เพ่ือทดสอบความเขา้ ใจในเนื้อหา

รูปแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ของสถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทค 1) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) เป็นการนาเข้าสู่บทเรียนหรือเรื่องท่ีสอภิปรายภายในกลุ่ม เร่ืองที่น่าสนใจอาจมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในช่วงเวลานั้น หรกาหนดประเด็นที่ศึกษา ในกรณีท่ีไม่มีประเด็นใดท่ีน่าสนใจ ครูอาจให้ศึกษาจากส่ือต่างๆประเด็นหรือคาถามท่ีครูกาลังสนใจเป็นเรื่องที่จะใช้ศึกษา เม่ือมีคาถามท่ีน่าสนใจและนักรายละเอียดของเรื่องท่ีจะศึกษาให้มีความชัดเจนมากข้ึน อาจรวมท้ังการรับรู้ประสบการณมากขึ้น และมแี นวทางท่ใี ช้ในการสารวจตรวจสอบอย่างหลากหลาย 2) ขั้นสารวจและค้นหา (Exploration) เมื่อทาความเข้าใจในประเด็นหรือคาตั้งสมมติฐาน กาหนดทางเลือกที่เป็นไปได้ ลงมือปฏิบัติเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล ข้อสนเทศภาคสนาม การใชค้ อมพิวเตอร์เพ่ือช่วยสร้างสถานการณ์จาลอง (Simulation) การศึกษาหใช้ในขัน้ ตอ่ ไป 3) ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) เมื่อไดข้ ้อมูลอย่างเพียงพอจากกาไดใ้ นรูปต่าง ๆ เช่น บรรยายสรุป สร้างแบบจาลองทางคณิตศาสตร์ หรือรูปวาด สร้างตารสมมตฐิ านทต่ี งั้ ไว้ หรอื ไมเ่ กีย่ วข้องกับประเดน็ ที่ไดก้ าหนดไว้ แต่ผลทีไ่ ด้จะอยูใ่ นรูปใดกส็ าม 4) ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) เป็นการนาความรู้ท่ีสร้างข้ึนไปเชื่อมโยงกับสถานการณห์ รอื เหตกุ ารณ์อน่ื ๆ ถ้าใช้อธบิ ายเร่ืองต่าง ๆ ได้มากกแ็ สดงวา่ ข้อจากัดนอ้ ย ซ 5) ขนั้ ประเมนิ (Evaluation) เป็นการประเมนิ การเรยี นรดู้ ว้ ยกระบวนการตา่ ง ๆไปประยกุ ตใ์ ช้ในเร่ืองอนื่ ๆการนาความรหู้ รือแบบจาลองไปใช้อธิบายหรือประยกุ ตใ์ ชก้ ับเหรือปัญหาท่ีจะต้องสารวจตรวจสอบตอ่ ไป ทาให้เกดิ เป็นกระบวนการท่ตี อ่ เนอ่ื งกนั ไปเร่ือเรียนรทู้ งั้ เนื้อหาหลกั และหลกั การ ทฤษฎี ตลอดจนลงมอื ปฏิบัติ เพื่อใหไ้ ด้ความร้ซู ึง่ จะเป

คโนโลยี (สสวท., 2546) ประกอบด้วยขั้นตอนท่สี าคญั ดงั นี้สนใจซ่ึงเกิดข้ึนจากความสงสัย หรืออาจเริ่มจากความสนใจของตัวนักเรียนเองหรือเกิดจากการรือเป็นเร่ืองท่ีเชื่อมโยงกับความรู้เดิมท่ีเพิ่งเรียนรู้มาแล้ว เป็นตัวกระตุ้นให้นักเรียนสร้างคาถามๆ หรือเป็นผู้กระตุ้นด้วยการเสนอด้วยประเด็นขึ้ นมาก่อน แต่ไม่ควรบังคับให้นักเรียนยอมรับกเรียนส่วนใหญ่ยอมรับให้เป็นประเดน็ ที่ต้องการศึกษา จึงร่วมกันกาหนดขอบเขตและแจกแจงณ์เดิม หรือความรู้จากแหล่งต่าง ๆ ท่ีจะช่วยให้นาไปสู่ความเข้าใจเรื่องหรือประเด็นท่ีจะศึกษาาถามที่สนใจจะศึกษาอย่างถ่องแท้แล้ว ก็มีการวางแผนกาหนดแนวทางสาหรับการตรวจสอบศ หรือปรากฏการณ์ต่าง ๆ วิธีการตรวจสอบอาจทาได้หลายวิธี เช่นทาการทดลอง ทากิจกรรมหาข้อมลู จากเอกสารอา้ งอิงหรอื จากแหลง่ ข้อมูลต่าง ๆ เพ่ือให้ไดม้ าซ่ึงข้อมูลอย่างเพยี งพอทจ่ี ะ ารสารวจตรวจสอบแล้ว จึงนาข้อมูลข้อสนเทศทไี่ ดม้ เิ คราะห์ แปลผล สรุปผลและนาเสนอผลที่ราง ฯลฯ การค้นพบในข้ันน้ีอาจเป็นไปได้หลายทาง เช่น สนับสนุนสมตฐิ านท่ีตง้ั ไว้ โต้แย้งกับมารถสรา้ งความรูแ้ ละช่วยให้เกิดการเรยี นร้ไู ด้บความรู้เดิมหรือความคิดที่ได้ค้นคว้าเพิ่มเติมหรือนาแบบจาลองหรือข้อสรุปท่ีได้ไปใช้อธิ บายซึ่งจะช่วยให้เชอื่ มโยงกบั เร่ืองตา่ ง ๆ และทาให้เกดิ ความร้กู ว้างขวางขึน้ๆ วา่ นกั เรียนมีความรอู้ ะไรบา้ ง อยา่ งไร และมากน้อยเพยี งใด จากขนั้ น้จี ะนาไปสกู่ ารนาความรู้เหตุการณ์หรอื เรื่องอนื่ ๆ จะนาไปสขู่ ้อโต้แยง้ หรือข้อจากดั ซงึ่ จะกอ่ ใหเ้ กิดประเด็นหรอื คาถามอย ๆ จึงเรียกวา่ Inquiry cycle กระบวนการสืบเสาะหาความรู้จงึ ช่วยใหน้ กั เรยี นเกดิ การป็นพ้นื ฐานในการเรยี นต่อไป

แฟ้มสะสมผลงานรายวิชา ............................ ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษา ปที ี่ ............ ปกี ารศกึ ษา........................ ภาคเรียนที่ .................... ผ้บู ันทึก ......................................................................... หอ้ ง ............................. เลขที่ ................................. โรงเรยี นเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแม่แจม่ จังหวัดเชยี งใหม่

ตวั อยา่ ง



6 Thinking hat



......................................

..........................................................






































Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook