Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนนิเทศ

แผนนิเทศ

Published by mindausjima, 2022-08-09 09:50:06

Description: แผนนิเทศ

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรยี นรูท่ี 12 กลมุ สาระการเรยี นรวู ิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ภาคเรียนท่ี 1 ปการศกึ ษา 2565 รายวิชา วทิ ยาศาสตร รหสั วชิ า ว15101 ชนั้ ประถมศึกษาปท่ี 5 หนว ยการเรียนรทู ่ี 2 การดํารงพันธุของสง่ิ มีชวี ติ เวลาเรยี น 8 ชัว่ โมง แผนการจดั การเรียนรู เรื่อง การถา ยทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของมนุษย เวลา 1 ชวั่ โมง ช่ือผสู อน นางสาวอัจจิมา ธรรมสนุ ทรา วนั ที่ ……..เดือน………...…….พ.ศ.………... ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นรู มาตรฐาน ว 1.3 เขาใจกระบวนการและความสาํ คัญของการถา ยทอดลักษณะทางพันธุกรรม สารพันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมท่ีมีผลตอสิง่ มีชีวติ ความหลากหลายทางชีวภาพและวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต รวมทั้ง นําความรูไปใชประโยชน 2. ตัวช้ีวัด ว 1.3 ป. 5/1 อธิบายลักษณะทางพนั ธกุ รรมท่มี ีการถายทอดจากพอแมสลู กู ของพืช สตั ว และมนุษย 3. จดุ ประสงคก ารเรียนรู 1. อธิบายลกั ษณะทางพันธุกรรมที่มีการถายทอดจากพอแมสลู ูกของมนุษยได (K) 2. สาํ รวจและเปรียบเทียบเก่ียวกับการถายทอดลักษณะทางพนั ธุกรรมของตนเองกับคนในครอบครวั ได (P) 3. มคี วามมุงมน่ั และใฝรู (A) 4. สาระสําคัญ สิ่งมีชีวิตเมื่อโตเต็มท่ีจะมีการสืบพันธุเพื่อเพิ่มจํานวนและดํารงพันธุ โดยลูกที่เกิดมาจะไดรับการถายทอด ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมจากพอ แมท าํ ใหมลี ักษณะทางพันธุกรรมท่เี ฉพาะแตกตางจากสิ่งมชี วี ิตชนิดอ่ืน โดยคนเราจะมี ลักษณะคลายคลึงกับคนในครอบครัวของเรา ลักษณะตางๆ ท่ีคลายคลึงกันน้ีเปนการถายทอดลักษณะบางลักษณะ จากบรรพบุรุษสูลูกหลาน เรียกวา การถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ซ่ึงบางลักษณะจะเหมือนพอหรือเหมือนแม หรอื อาจมลี กั ษณะเหมอื นปู ยา ตา ยาย 5. สาระการเรียนรู การถา ยทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม - มนุษย 6. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค 1. มวี นิ ัย 2. ใฝเ รียนรู 3. มุง ม่ันในการทาํ งาน 7. สมรรถนะสําคัญของผเู รียน 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชเ ทคโนโลยี

8. ช้นิ งานหรอื ภาระงาน ใบงาน เรอื่ ง การสํารวจลักษณะทางพนั ธกุ รรมของคนในครอบครวั 9. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู ขน้ั นาํ เขา สูบ ทเรยี น จดั กจิ กรรมการเรยี นรโู ดยใชกระบวนการสบื เสาะหาความรู (5Es) 1) ขัน้ สรางความสนใจ (Engagement) (1) ครูสมุ เลือกนักเรยี นชายและหญิง อยา งละ 1 คู ใหออกมาหนาชั้นเรียน จากน้ันใหน กั เรียนรวมกันสังเกต เพื่อนทย่ี นื อยหู นาหอง โดยต้ังคําถามกระตนุ ความคิด ดงั น้ี - เพ่อื นทย่ี นื อยูหนา ช้นั มีรูปรา งหนา ตาคลายคลึงกันหรือไม เพราะเหตุใด (แนวคําตอบ ไมคลายคลึงกัน เพราะเพ่อื นไมใชลกู ทม่ี พี อแมเ ดียวกนั ) - ถาเพ่ือนท่ียืนอยูหองมีพอแมคนเดียวกัน เพื่อนท่ียืนอยูหนาหองจะมีรูปรางหนาตาคลายคลึงกัน หรือไม (แนวคาํ ตอบ เหมอื นกนั ) - นักเรียนมีลักษณะทางพันธุกรรมเหมือนหรือแตกตางจากพอแม (แนวคําตอบ มีทั้งเหมือนและ แตกตา งจากพอแม แตล กั ษณะที่แตกตางไปจากพอแมอาจมลี กั ษณะท่ถี ายทอดมาจากปู ยา ตา ยายได) (2) นักเรียนรวมกันตอบคําถามและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคําตอบ เพื่อเชื่อมโยงไปสูการเรียนรูเร่ือง การถายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของมนษุ ย 2) ขัน้ สํารวจและคน หา (Exploration) (1) ครูและนักเรียนรวมกันอภิปราย เรื่อง ลักษณะทางพันธุกรรมของคนในครอบครัว จากแผนผังการ ถา ยทอดลักษณะทางพันธุกรรมในครอบครวั ของมนษุ ย โดยสมุ ใหนกั เรียนออกมาแสดงความคดิ เหน็ หนาชัน้ เรยี น (2) ครูแจกใบงาน เรอ่ื ง การสาํ รวจลักษณะทางพันธุกรรมของคนในครอบครัว โดยใหนักเรียนสํารวจตนเอง วา มีลักษณะใดบางท่ีเหมือนกับสมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัว แลวบันทึกผลลงในใบงาน และสามารถใชโทรศัพท สแกน QR Code จากใบงานเพ่ือศกึ ษาหาความรเู พ่ิมเติม (3) ครูคอยแนะนําชวยเหลอื นกั เรยี นขณะทาํ ใบงาน โดยครเู ดินดูรอบๆ หองเรียนและเปดโอกาสใหนักเรียน ทุกคนซักถามเม่ือมปี ญหา 3) ขัน้ อธิบายและลงขอ สรปุ (Explanation) (1) ครูสุมใหนักเรียนออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความแตกตางของตนเองกับสมาชิกในครอบครัวที่ หนา ช้ันเรียน จากนน้ั ใหน กั เรยี นรว มกันอภิปรายและสรุปผลรว มกนั (2) ครูและนกั เรียนรวมกนั อภิปรายเรื่อง การถายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรมของมนุษย โดยใชแนวคําถาม เชน - ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมคอื อะไร (แนวคาํ ตอบ ลักษณะของส่ิงมีชีวิตที่สามารถถายทอดจากพอแมสูลูก เชน สตี า สีผม ความสงู สีผวิ ) - ลักษณะท่ีสามารถถายทอดจากพอ แมมายงั ลูกได ไดแกอะไรบาง (แนวคําตอบ ความสูง สีผิว หนังตา ติง่ หู ลกั ย้ิม การหอล้ิน เสน ผม) - เพราะเหตุใดบางลักษณะของเราจึงไมปรากฏในรุนพอแม (แนวคําตอบ อาจเปนลักษณะทาง พันธกุ รรมทถ่ี ายทอดมาจากบรรพบุรษุ รนุ ปยู า ตายาย ผานรนุ พอแม จนมาถึงเรา)

4) ขัน้ ขยายความรู (Elaboration) ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความแปรผันทางพันธุกรรม ใหนักเรียนเขาใจวา อยางไรก็ตาม แมวาการ ถายทอดลักษณะทางพันธุกรรมจะทําใหส่ิงมีชีวิตมีลักษณะท่ีคลายกับรุนพอแม แตเม่ือพิจารณาใหละเอียดแลวจะ พบวา รุนลูกท่ีเกิดจากรุนพอแมเดียวกันไมไดมีลักษณะเหมือนกันไปเสียทุกอยาง แตจะมีลักษณะท่ีแตกตางกันอยู บาง เชน ตวั เรากบั นองมคี วามสูงทไ่ี มเ ทากัน ซงึ่ ความแตกตา งในลกั ษณะน้ีเกดิ จากอทิ ธิพลของสิ่งแวดลอม เนื่องจาก ความสงู เกยี่ วของกบั การรับประทานอาหารและการออกกําลังกายของแตละคนดวย เรียกความแตกตางท่ีเกิดข้ึนใน ลกั ษณะนว้ี า ความแปรผันทางพันธุกรรม 5) ข้ันประเมิน (Evaluation) (1) ครูประเมินผลนักเรียน โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคําถาม พฤติกรรมการทํางานรายบุคคล และ จากการนาํ เสนอผลการทํากจิ กรรมหนาชนั้ เรียน (2) ครตู รวจสอบผลการทาํ ใบงาน เร่ือง การสํารวจลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของคนในครอบครวั 10. สอ่ื การเรยี นรู 1. หนงั สือเรยี นรายวชิ าพืน้ ฐาน วทิ ยาศาสตร ชั้นประถมศึกษาปท ี่ 5 2. แผนผังการถายทอดลักษณะทางพันธุกรรมในครอบครวั ของมนุษย 3. QR Code จากใบกิจกรรมเรื่อง ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของมนุษย 11. การวัดและประเมินผลการเรียนรู วิธีการ เคร่อื งมือ เกณฑ ประเมนิ ใบงาน เรือ่ ง การสาํ รวจ แบบประเมนิ ใบงาน ระดบั คุณภาพพอใชผ านเกณฑ ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของคนใน ครอบครวั แบบประเมินการนาํ เสนอผล ระดบั คุณภาพพอใชผ านเกณฑ ประเมินการนําเสนอผลการทํา การทํากจิ กรรม กิจกรรมหนา ช้นั เรยี น

บันทึกหลังการสอน 1. ผลการจัดการเรียนรู ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….………… ………………………………………………………………………………………….……………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..………… 2. ปญหาและอปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………….………………………………………………………………………..…… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…. 3. แนวทางแกไ ข/ขอเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………… ลงชอื่ ..................................................ผสู อน ( นางสาวอัจจมิ า ธรรมสนุ ทรา ) ตําแหนง ครผู ูช วย วันท.่ี ............เดือน................................พ.ศ. ................... ความเห็น/ขอ เสนอแนะของหวั หนา กลมุ สาระการเรยี นรู ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………… ลงชื่อ………………………………………………..…… ( นายธชั ยพงศ ปาละหงษา ) หวั หนากลมุ สาระการเรียนรวู ิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ความเหน็ /ขอ เสนอแนะของรองผอู ํานวยการกลุม บรหิ ารวชิ าการ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………… ลงช่ือ………………………………………………..…… ( นางวีรวลั ย เวยี งจนั ทร ) รองผอู าํ นวยการกลุมงานบริหารวิชาการ ความเหน็ /ขอเสนอแนะของผอู าํ นวยการโรงเรยี น ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ………………………………………………..…… (นางสาวกันยาภัทร ภัทรโสตถิ ) ผอู ํานวยการโรงเรยี นชุมชนประชาธิปตยว ิทยาคาร

บันทกึ ผลการจดั การเรยี นรู ระดับช้นั ประถมศึกษาปท ี่ 5 กลมุ สาระการเรียนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี หนวยการเรยี นรทู ี่ 2 การดํารงพันธุของสง่ิ มชี วี ิต เวลา 8 ชว่ั โมง แผนการจดั การเรยี นรูที่ 12 เรือ่ ง การถายทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรมของมนุษย เวลา 1 ชว่ั โมง ครผู สู อน นางสาวอจั จมิ า ธรรมสนุ ทรา วันเดอื นปท่สี อน เวลา น บันทึกผลการจัดการเรยี นรู 1. การประเมนิ ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นรูต ามประสงค จุดประสงค ผลการเรยี นรู อธิบายลักษณะทางพันธุกรรมที่ จาํ นวนนักเรียนทงั้ หมด …………………คน มกี ารถายทอดจากพอแมสูลูก จาํ นวนนกั เรียนท่ผี า นการประเมนิ ……..……...คน คดิ เปนรอ ยละ……………… ของมนุษยไ ด (K) จาํ นวนนักเรยี นท่ีไมผา นการประเมนิ คน คดิ เปนรอยละ…………….. เลขท่นี กั เรียนท่ีไมผา นการประเมนิ ………………………………………. สํารวจและเปรียบเทยี บเก่ยี วกับ จาํ นวนนักเรียนท้ังหมด …………………คน การถายทอดลักษณะทาง จํานวนนักเรยี นที่ผา นการประเมนิ ……..……...คน คดิ เปน รอยละ……………… พนั ธกุ รรมของตนเองกบั คนใน จํานวนนักเรยี นทีไ่ มผ านการประเมิน คน คิดเปนรอยละ…………….. ครอบครัวได (P) เลขท่ีนกั เรยี นท่ีไมผ า นการประเมิน………………………………………… 2. การประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค จดุ ประสงค ผลการเรียนรู มคี วามมุงมัน่ และใฝร ู (A) จํานวนนกั เรยี นท้ังหมด ………………. คน 1. มีวนิ ัย จาํ นวนนักเรียนท่ีไดร บั ระดบั ดีเยีย่ ม….…….. คน ระดับดี ………....…….คน 2. ใฝเ รียนรู ระดบั ผาน….…...... คน ระดบั ไมผาน ………. คน 3. มงุ มน่ั ในการทํางาน เลขที่นกั เรียนที่ไมผา นการประเมนิ …………………………………………


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook