Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 045_หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนวัดนทีคมเขต (สะบ้าย้อย)

045_หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนวัดนทีคมเขต (สะบ้าย้อย)

Published by Nokkamin Chonnikan, 2021-02-22 07:36:49

Description: 045_หลักสูตรท้องถิ่นโรงเรียนวัดนทีคมเขต (สะบ้าย้อย)

Search

Read the Text Version

การพฒั นาหลกั สตู รท้องถิ่น เร่อื ง นา้ สม้ จาก กลุ่มการเรียนร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชันประถมศึกษาปที ี่ ๔-๖ เสนอ ผศ.ดร. กิตตชิ ัย สธุ าสิโนบล จดั ทา้ โดย นางสาวชนนิกานต์ เกดิ ผล รหสั นสิ ิต 61105010045 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2563 ปถ341 สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมส้าหรับครปู ระถมศกึ ษา 2 EL341 SOCAIL STUDIES, RELIGON AND CULTURE FOR ELEMENTARY TEACHER II

ความน้า กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใชม้ าตรฐานการเรียนรู้และตัวช้วี ัด กลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖o) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ตามคาส่ังกระทรวงศกึ ษาธิการ ท่ี สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๗ สิหาคม ๒๕๖๐ และคาส่ังสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ที่ ๓๐/๒๕๖๑ ลงวนั ที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๑ ให้เปลี่ยนแปลงมาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้ีวัด กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) โดยมีคาส่ังให้โรงเรียนดาเนินการใช้หลักสูตรในปี การศกึ ษา ๒๕๖๑ โดยให้ใชใ้ นชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๑, ๔ และ ม.๑ ตัง้ แต่ปีการศกึ ษา ๒๕๖๑ เป็นตน้ มา ให้เป็น หลักสูตรแกนกลางของประเทศ โดยกาหนดจุดหมายและมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเปา้ หมายและกรอบทิศทาง ในการพัฒนาคณุ ภาพผูเ้ รียน มีพัฒนาการเตม็ ตามศกั ยภาพ มีคุณภาพและมีทักษะการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ เพอื่ ให้สอดคล้องกบั นโยบายและเปา้ หมายของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน โรงเรียนวัดนทีคมเขต (สะบ้าย้อย) จึงได้ทาการปรับปรุงหลักสูตรโรงเรียนวัดนทีคมเขต (สะบ้าย้อย) พุทธศักราช ๒๕๖๑ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และได้จัดทาหลักสูตร ท้องถิ่นเพื่อนาไปใช้ประโยชน์และเป็นกรอบในการวางแผนและพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษาและจัดการ เรียนการสอน โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้มีกระบวนการนาหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติ โดยมี การกาหนดวิสัยทัศน์ จุดหมาย สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชีว้ ดั โครงสรา้ งเวลาเรียน ตลอดจนเกณฑก์ ารวัดประเมนิ ผลให้มีความสอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรยี นรู้ เปิดโอกาสให้โรงเรียนสามารถกาหนดทิศทางในการจัดทาหลักสูตรการเรียนการสอนในแต่ละระดับตามความ พร้อมและจุดเน้น โดยมีกรอบแกนกลางเป็นแนวทางที่ชัดเจนเพ่ือตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ ๔.๐ มีความ พร้อมในการกา้ วสู่สงั คม คุณภาพ มคี วามรูอ้ ยา่ งแท้จริง และมที ักษะในศตวรรษท่ี ๒๑ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัดที่กาหนดไว้ในเอกสารน้ี ช่วยทาให้หน่วยงานท่ีเก่ียวข้อในทุกระดับ เห็นผลคาดหวังท่ีต้องการในการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนท่ีชัดเจนตลอดแนว ซึ่งจะสามารถช่วยให้ หน่วยงานที่เก่ียวข้องในระดับท้องถิ่นและสถานศึกษาร่วมกันพัฒนาหลักสูตรได้อย่างมั่นใจ ทาให้การจัดทา หลกั สูตรในระดับสถานศกึ ษามีคุณภาพและมีความเป็นเอกภาพย่งิ ข้ึน อกี ท้งั ยังช่วยให้เกิดความชดั เจนเรือ่ งการ วัดและประเมินผลการเรียนรู้ และช่วยแก้ปัญหาการเทียบโอนระหว่างสถานศึกษา ดังน้ันในการพัฒนา หลักสูตรในทุกระดับตง้ั แต่ระดับชาติจนกระทง่ั ถึงสถานศึกษา จะต้องสะท้อนคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชีว้ ัดท่ีกาหนดไว้ในหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน รวมทั้งเปน็ กรอบทิศทางในการจัดการศกึ ษา ทกุ รูปแบบ และครอบคลมุ ผเู้ รียนทุกกลุ่มเป้าหมายในระดับการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน การจัดหลักสูตรท้องถิ่นจะประสบความสาเร็จตามเป้าหมายที่คาดหวังได้ ทุกฝ่ายที่เก่ียวข้องท้ัง ระดับชาติ ชุมชน ครอบครัว และบุคคลต้องร่วมรับผิดชอบ โดยร่วมกันทางานอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องใน

การวางแผนดาเนินการ ส่งเสริมสนับสนุน ตรวจสอบ ตลอดจนปรบั ปรุงแก้ไข เพื่อพัฒนาเยาวชนของชาติไปสู่ คณุ ภาพตามมาตรฐานการเรยี นรู้ที่กาหนดไว้ วิสยั ทศั น์โรงเรียน โรงเรยี นวัดนทีคมเขต (สะบ้ายอ้ ย) มงุ่ มน่ั จัดการศกึ ษาเพอื่ พัฒนาคณุ ภาพชีวติ ของผู้เรียนให้มีความรู้ คู่ คุณธรรม ก้าวทันเทคโนโลยี เป็นพลเมืองดีของสังคมตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงท่ีสอดคล้องกับ สภาพแวดลอ้ มภายในชมุ ชนของตนเอง สมรรถนะสา้ คญั ของผูเ้ รยี น หลกั สูตรโรงเรียนวดั นทคี มเขต (สะบา้ ยอ้ ย) มุง่ เนน้ ใหผ้ เู้ รยี นเกดิ สมรรถนะสาคัญ คอื ๑. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพ่ือแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสารและ ประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลด ปญั หาความขัดแย้งต่างๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมลู ข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการ เลอื กใชว้ ธิ ีการสอื่ สารทมี่ ปี ระสิทธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบท่ีมตี ่อตนเองและสังคม ๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่าง สร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนาไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศ เพอ่ื การตัดสนิ ใจเก่ยี วกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม ๓. ความสมารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆที่เผชิญได้ อย่างถกู ต้องเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลักเหตุผล คณุ ธรรมและขอ้ มูลสารสนเทศ เขา้ ใจความสัมพันธ์และการ เปลยี่ นแปลงของเหตุการณ์ต่างๆในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปญั หา และมีการตดั สินใจท่มี ปี ระสิทธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบท่ีเกดิ ขึ้นตอ่ ตนเอง สังคม และสิง่ แวดลอ้ ม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนากระบวนการต่างๆไปใช้ในการ ดาเนินชีวิตประจาวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทางาน และการอยู่ร่วมกันในสังคม ด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่างๆอย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปล่ียนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเล่ียงพฤติกรรมไม่พึง ประสงค์ทสี่ ่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อ่ืน ๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี เปน็ ความสามารถในการเลือกและใชเ้ ทคโนโลยีด้านตา่ งๆ และ มีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาตนเองและสังคมในด้านการเรียนรู้ การส่ือสาร การทางาน การแกป้ ัญหาอย่างสรา้ งสรรค์ ถกู ต้อง เหมาะสม และมคี ุณธรรม

คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ๒. ซ่ือสตั ยส์ ุจริต ๓. มีวินัย ๔. ใฝเ่ รียนรู้ ๕. อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง ๖. มุง่ มั่นในการทางาน ๗. รกั ความเป็นไทย ๘. มจี ิตสาธารณะ ท่ตี งั และสภาพชุมชนโรงเรียนวดั นทีคมเขต (สะบา้ ยอ้ ย) โรงเรยี นวดั นทีคมเขต (สะบา้ ย้อย) ตั้งอยู่ทีห่ มู่ที่ ๔ ต.คลองฉนาก อ.เมอื งสุราษฎร์ธานี จ.สรุ าษฎร์ธานี จัดการศึกษาต้ังแต่ ระดับอนุบาล-ประถมศึกษา ซ่ึงมีจานวนนักเรียนรวมท้ังหมด ๗๙ คน โดยเริ่มต้นเป็น สถานท่ีเล่าเรียนท่ีตั้งอาศัยอยู่ภายในบริเวณท่ีดินของวัดนทีคมเขต (สะบ้าย้อย) ซ่ึงเป็นวัดที่เป็นสถานที่ศูนย์ รวมจิตใจของชาวบ้านภายในชุมชนตาบลคลองฉนากเนื่องจากภายในชุมชนเป็นชุมชนท่ีมีพื้นท่ีภูมิศาสตร์ติด แม่น้าลาคลอง เปน็ ปากแม่น้าที่ติดทะเลทาให้จานวนวัดมีน้อย วดั นทีคมเขต (สะบ้าย้อย) จงึ กลายเป็นจุดศูนย์ รวมของความรู้และวัฒนธรรมต่างๆ ส่งผลให้คนในชุมชนมีความเช่ือใจในโรงเรียนนทีคมเขต (สะบ้าย้อย) เช่นกัน นักเรียนท่ีมาโรงเรียนน้ีส่วนใหญ่เป็นนักเรียนท่ีอยู่ในชุมชน และบริเวณใกล้เคียง ผู้ปกครองมีฐานะ ปานกลางถึงยากจน และส่วนใหญ่จะมีอาชีพทาประมงขนาดเลก็ แตผ่ ู้ปกครองให้ความร่วมมือกับทางโรงเรียน เป็นอย่างดี ดว้ ยสภาพภมู ิศาสตรภ์ ายในชมุ ชนท่ีเปน็ ปากแม่น้าติดทะเลทาให้น้าในคลองมีการหมุนเวียนเป็นน้าจืด นาเค็มตลอดปีจงึ ทาใหร้ มิ สองฝัง่ แมน่ ้ามี ต้นจาก ข้นึ อยู่อย่างอัดแนน่ จนทาใหเ้ กดิ ภมู ปิ ัญญาในการนาตน้ จากมา แปรรูปเป็นน้าส้มจากเพื่อทดแทนมะนาวท่ีหาได้ปลูกได้ยากเนื่องจากสภาพดินภายในชุมชนไม่เหมาะสมกับ การทาเกษตร โรงเรยี นจึงได้เห็นคุณคา่ และความสาคัญของน้าส้มจากจึงได้จดั ทาหลักสูตรท้องถิ่น เร่ือง น้าส้ม จาก ขึ้นเพื่อฝึกให้สอดคล้องกับแนวพระราชดาริ อีกทั้งนักเรียนได้ปฏิบัติจริงในเร่ืองการทางาน การจัดการ เห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่องาน ตลอดจนรู้จักการนาสิ่งท่ีมีอยู่ในท้องถิ่นมาเพิ่มคุณค่า เพ่ิมรายได้ให้กับ ครอบครัวและชุมชน นักเรียนได้ออกแบบตามจิตนาการ ผู้เรียนรู้จักพึ่งตนเอง ดารงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมี ความสขุ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

คา้ อธบิ ายรายวิชา หลักสูตรท้องถ่นิ นา้ ส้มจาก ชนั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ เวลา ๑๐ ชัว่ โมง ศึกษา ความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับต้นจาก เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับส่วนประกอบต่างๆทาให้ สามารถแยกสว่ นประกอบแต่ละส่วนได้อย่างชัดเจน อกี ท้ังยงั รู้ถึงประโยชน์ในการนาสว่ นประกอบต่างๆของต้น จากไปประยุกตใ์ ช้ให้เกิดประโยชน์ โดยใช้ กระบวนการในการทางานอย่างเป็นระบบ มีการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่าง สร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ ท่ีอาศัยกระบวนการทางานเป็นกลุ่มเป็นหลักโดยมีครูผู้สอนเป็นผู้ กระตุ้นและให้คาแนะนา เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับต้นจาก และเกิดทักษะจากการเรียนรู้ มีความมุ่งม่ันในการ ทางาน เกดิ จรยิ ธรรมในการมีจติ สาธารณะ ผลการเรียนรู้ ๑. ผู้เรยี นสามารถบอกถึงลักษณะท่วั ไปของต้นจากได้ ๒. ผู้เรียนสามารถจาแนกสว่ นประกอบตา่ งๆของตน้ จากได้ ๓. ผเู้ รยี นสามารถระบุประโยชนแ์ ละการนาไปใช้ของส่วนต่างๆจากต้นจากได้ รวม ๓ ผลการเรียนรู้

โครงสร้างรายวชิ า หลกั สตู รท้องถน่ิ น้าส้มจาก ชันประถมศึกษาปีที่ ๔ เวลา ๑๐ ชั่วโมง หนว่ ยเรยี นรทู้ ี่ ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ สาระสา้ คัญ เวลา(ชม.) น้าหนกั คะแนน ๑ จากน้ีมาจากไหน ตน้ จากเป็นพชื ท่ีขน้ึ เป็นกอใหญ่ เรยี กว่า ๒ ๒๐ ป่าจาก หรือดงจาก พบได้ทั้งในบริเวณ นา้ จืดและนา้ กร่อย ท่ีมนี า้ เค็มขน้ึ ถงึ จากเป็นพชื ท่ีคนไทยรจู้ กั มานาน และใช้ ประโยชนข์ องจากไดเ้ ป็นอยา่ งดี ตง้ั แต่ ใบจนถึงผล - ใบจาก ๒ ตน้ จากมากส่วนประกอบ - ใบจากอ่อน ๔ ๔๐ - ชอ่ ดอกจาก - กา้ นชอ่ ดอก - กลบี ดอกจาก - ผลจาก (ลกู จาก) - ผลออ่ นจาก - ใบจากนาไปมงุ หลงั คา ๔๐ - ใบจากอ่อนนาไปหอ่ ขนมต้ม ๑๐๐ - ชอ่ ดอกนามาประกอบอาหาร ๓ มากหมายหลายประโยชน์ - กา้ นชอ่ ดอกนามาทาน้าส้มจาก ๔ - กลบี ดอกนาไปทาชาสมนุ ไพร - ผลจากนามารับประทาน - ผลออ่ นจากนามารบั ประทาน รวม ๑๐

ค้าอธิบายรายวิชา หลกั สตู รท้องถน่ิ นา้ ส้มจาก ชันประถมศึกษาปีท่ี ๕ เวลา ๑๐ ชัว่ โมง ศึกษา ความรู้เกี่ยวกับการทาน้าส้มจาก เกิดความรู้ความเข้าใจในกระบวนการ ข้ันตอนในการทา น้าส้มจากและสามารถลงมือปฏิบัติจริงได้อยา่ งถูกต้องตามขั้นตอน อีกทั้งยังเห็นถึง ความสาคัญ ประโยชน์ ใน การนานา้ ส้มจากท่ีเกิดจากภูมิปญั ญาของคนในชุมชนไปใช้ในชีวิตประจาวนั หรือต่อยอดเพ่ือหารายได้ และเห็น ถงึ ความสาคญั ของการรักษาทรัพยากรท่สี าคัญชนิดนี้ด้วยการบอกแนวทางในการรักษาตน้ จากได้ โดยใช้ กระบวนการในการเรยี นรจู้ ากประสบการณ์จริง นาสิ่งท่ีได้ลงมือทามาตกผลึกความคิด เพื่อให้ ไดร้ บั รู้ถึงความรใู้ หม่ท่ไี ด้รับและนาไปต่อยอดความรเู้ ดิม มกี ารลงมือปฏบิ ัติที่อาศัยกระบวนการทางานเป็นกลุ่ม เป็นหลกั โดยมีครูผู้สอนเปน็ ผูก้ ระตุ้นและให้คาแนะนา เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับขั้นตอนวิธีการทา ความสาคัญ และประโยชน์ของน้าส้มจาก และเกิดทักษะจากการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง มีความมุ่งมั่นในการทางาน เกิดจริยธรรมในการมีความ รบั ผิดชอบ มีวนิ ยั และจิตสาธารณะ ผลการเรยี นรู้ ๑. ผู้เรียนสามารถอธบิ ายวธิ กี ารทาน้าส้มจากได้ ๒. ผเู้ รียนสามารถปฏบิ ัติตามขั้นตอนการทานา้ สม้ จากไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ๓. ผ้เู รยี นเหน็ ถงึ ความสาคญั ของน้าส้มจาก ๔. ผ้เู รียนเกดิ ความตะหนกั ในการรักษาตน้ จาก ๕. ผเู้ รียนสามารถบอกแนวทางในการรักษาตน้ จากไว้ได้ รวม ๕ ผลการเรียนรู้

โครงสร้างรายวชิ า หลกั สตู รท้องถิ่น น้าส้มจาก ชนั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ เวลา ๑๐ ช่ัวโมง หนว่ ยเรยี นรทู้ ่ี ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ สาระส้าคัญ เวลา(ชม.) น้าหนักคะแนน ๑ สอนทานา้ สม้ จาก การทานา้ ส้มจากนั้นจะมีขน้ั ตอนทุก ๔ ๔๐ อยา่ งคล้ายกบั การทาน้าตาล แต่ไม่ต้อง นานา้ หวานขน้ึ เตาเพื่อเคี่ยว เพยี งแต่ หมกั ไว้ในไหประมาน ๑๐ วนั ก็จะเกิด กรดน้าสม้ เพื่อใช้มาบริโภค หากต้องการ เกบ็ ไวน้ านเปน็ ปี มักจะเติมเกลือและ กระเทียมลงไปดว้ ย แต่ถ้าไม่ใส่กระเทยี ม และเกลือก็จะเก็บไว้ได้เพยี ง ๖ เดือน น้าส้มจากเปน็ ภมู ิปญั ญาชาวบ้านของคน ในชมุ ชนทมี่ มี าอยา่ งยาวนาน เกดิ ขนึ้ เพือ่ ๒ สารพันความสาคัญ แกป้ ญั หาการไม่มมี ะนาวในการประกอบ ๓ ๓๐ อาหาร แตใ่ นปัจจุบันคนทที่ าน้าสม้ จาก เปน็ เร่มิ มีจานวนลดลง ถ้าหากเรานาตน้ จากมาใชม้ ากเกนิ ไป โดยไมค่ านึงถงึ ผลกระทบหรอื แนวทางใน ๓ ดงจากยังคงอยู่ การรักษาไว้ ทรพั ยากรชนดิ นี้กต็ อ้ งหมด ๓ ๓๐ ไป ดงั นน้ั แนวทางในการรักษาคือเมอ่ื นามาใช้ก็ต้องมีการขยายพันธุ์เพ่ือ ทดแทน รวม ๑๐ ๑๐๐

คา้ อธบิ ายรายวิชา หลักสูตรท้องถิน่ นา้ ส้มจาก ชันประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ เวลา ๑๐ ชั่วโมง ศึกษา ความรู้เกี่ยวกบั การเพิ่มมูลคา่ ของน้าส้มจาก ด้วยวิธีการแปรรูป ปรับเปลีย่ นหรือคิดค้นรูปแบบ ใหม่ให้มีความทันสมัยจนสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการหารายได้ให้กับครอบครัวของตนเองหรือให้ชุมชน และ จาเป็นต้องมีความรู้เก่ียวกับการทารายรับรายจ่ายเพ่ือการบริหารตรวจสอบต้นทุนและกาไรท่ีได้จากการเพ่ิม มูลคา่ ให้แก่ผลิตภัณฑน์ า้ ส้มจากตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง โดยใช้ กระบวนการบูรณาการ จากการทาโครงงานเป็นกลุ่มแบบง่ายเรียนรู้จากการแก้ไขปัญหาตาม ความสนใจและความสามารถของผู้เรียน โดยมีครเู ปน็ ผู้คอยใหค้ าแนะนาตลอดกจิ กรรม เพ่ือให้เกิดกระบวนการคิดท่ีสร้างสรรค์ และเกิดทักษะการแก้ไขปัญหาจากการเรียนรู้จากการทางาน ร่วมกับผู้อื่น เกิดทักษะความสามารถในการส่ือสารและการใช้เทคโนโลยีในการค้นหาความรู้ท่ีหลากหลาย มี ความม่งุ มั่นในการทางาน เกดิ จรยิ ธรรมในการมคี วามรับผดิ ชอบ มีวนิ ัย และอยู่อยา่ งพอเพยี ง ผลการเรยี นรู้ ๑. ผเู้ รยี นสามารถบอกวธิ ีเพ่มิ มูลคา่ ของน้าส้มจากได้ ๒. ผเู้ รียนสามารถระบุวิธีการแปรรูปนา้ ส้มจากได้ ๓. ผูเ้ รียนสามารถผลติ ผลติ ภัณฑ์/รูปแบบใหม่ๆจากนา้ ส้มจากได้ ๔. ผูเ้ รยี นสามารถทาบญั ชรี ายรบั -รายจ่ายได้ รวม ๔ ผลการเรียนรู้

โครงสร้างรายวชิ า หลกั สตู รท้องถิ่น นา้ ส้มจาก ชันประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ เวลา ๑๐ ชัว่ โมง หน่วยเรยี นรู้ที่ ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ สาระสา้ คญั เวลา(ชม.) นา้ หนกั คะแนน ๑ จากคูส่ตู ลาด เปิดโอกาสให้ผ้เู รียนไดค้ ดิ วิธีการเพม่ิ ๘ ๘๐ มูลคา่ ของนา้ ส้มจากท่เี ปน็ ภมู ิปญั ญา ของคนในชมุ ชน และลงมือปฏิบัตริ วม ไปถงึ การทดลองใช้งานจรงิ เพื่อเป็น แนวทางในการสรา้ งรายได้ให้กบั ตนเองหรอื คนภายในชมุ ชนต่อไป เม่อื มีการทดลองใช้งานจริงจากการทา โครงงาน ผูเ้ รียนจึงจาเป็นตอ้ งมีความรู้ ๒ รายรบั รายจ่ายงา่ ยนิดเดียว เรอ่ื งรายรบั รายจา่ ยเพื่อการคานวณ ๒ ๒๐ และบรหิ ารตน้ ทนุ และกาไรทาใหม้ ี ๑๐๐ ภูมิคมุ้ กันที่ดตี ามหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพยี ง รวม ๑๐

ภาพการลงพืนที่ โรงเรยี นวัดนทคี มเขต (สะบา้ ย้อย) หม่ทู ่ี ๔ ต.คลองฉนาก อ.เมืองฯ จ.สรุ าษฎรธ์ านี

ภาพบรรยากาศของโรงเรียนวดั นทีคมเขต (สะบา้ ยอ้ ย)








Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook