สว่ นที1่ ข้อมูลพ้นื ฐานสถานศกึ ษา 1. ชอ่ื สถานศึกษา ศนู ย๑การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอปัว 2. ทตี่ ัง้ /การตดิ ตอ่ กศน.อาเภอปัว เลขที่ 193 หมูทํ ี่ 5 ตาบล วรนคร อาเภอปัว จงั หวัด นาํ น รหัสไปรษณีย๑ 55120 โทร/โทรสาร 0-5479-2931 E-mail [email protected] 3. สงั กดั สานกั งาน กศน. จงั หวดั นาํ น สานกั งาน กศน. สานักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ 4. ประวตั ิความเป็นมาของสถานศึกษา 4.1ประวัตคิ วามเป็นมาของสถานศกึ ษา ศูนย๑การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอปัว จังหวัดนําน ได๎เร่ิมดาเนินการจัด การศึกษานอกโรงเรียนปีงบประมาณ 2537 มีพ้ืนที่รับผิดชอบ 12 ตาบล 107 หมํูบ๎าน มีบทบาทหน๎าที่เพ่ือ สํงเสริมงานการศึกษานอกโรงเรียน คือ การศึกษาเทียบเทําการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน การศึกษาสํงเสริมการร๎ู หนังสือ การศึกษาเพ่ือพัฒนาทักษะชีวิต การศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ การศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน และการศกึ ษาตามอัธยาศัยใหก๎ บั กลํุมเปาู หมายประชาชนทัว่ ไป ผ๎ูด๎อยโอกาสและผ๎ูพลาดโอกาสทางการศึกษา เพื่อให๎กลุํมเปูาหมายดังกลําวนาความรู๎ท่ีได๎ไปพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัว สังคม และชุมชน ให๎ดียิ่งขนึ้ โดยที่ผาํ นมามผี ๎ูบรหิ ารสถานศกึ ษาดงั นี้ ลาดบั ที่ ชือ่ -สกลุ ตาแหนง่ ระยะเวลาท่ดี ารงตาแหนง่ 1 นายสกุล กามนต๑ ผู๎อานวยการ ศูนย๑ กศน.อาเภอปวั ตุลาคม 2537 – มิถุนายน 2548 2 นายจริ วฒุ ิ คฤหานนท๑ ผอ๎ู านวยการ ศนู ย๑ กศน.อาเภอปัว มถิ ุนายน 2548 – พฤศจกิ ายน 2550 3 นายมนสั มะโน ผอ๎ู านวยการ ศูนย๑ กศน.อาเภอปวั พฤศจิกายน 2550 - กุมภาพันธ๑ 2558 4 นายกฤษดา ศรีใจวงศ๑ ผูอ๎ านวยการ ศูนย๑ กศน.อาเภอปวั กุมภาพนั ธ๑ 2558 – พฤศจกิ ายน 2558 5 นายวีระวัตร ฆะปญั ญา ผอ๎ู านวยการ ศูนย๑ กศน.อาเภอปวั พฤศจิกายน 2558 – ปจั จุบัน เอกสารประกอบการพจิ ารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 1
5. โครงสร้างสถานศกึ ษา ศูนย๑การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอปัว มีการจัดโครงสร๎างการบริหาร ออกเป็น 3 กลุํมงาน คือ กลุํมงานอานวยการ กลุํมจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย กลุมํ สํงเสรมิ ภาคเี ครือขํายและกจิ การพเิ ศษ มีโครงสร๎างการบริหารงานดังน้ี ผูอ้ านวยการ คณะกรรมการ สถานศกึ ษา กลมุ่ งานอานวยการ กลุ่มงานสง่ เสริมปฏิบัตกิ าร กลุ่มงานการศกึ ษาตาม อัธยาศัย - งานธุรการ และสารบรรณ - งานส่งเสรมิ การรหู้ นังสือ - งานการศึกษาตอํ เนื่อง - งานการเงิน - งานการศกึ ษาพื้นฐานนอก - งานการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ - งานบัญชี ระบบ - งานการศกึ ษาเพอ่ื พัฒนาทกั ษะ - งานงบประมาณ - งานพัฒนาหลกั สูตร ชีวิตและงานเพอื่ พฒั นาสงั คมและ - งานพสั ดุ - งานทะเบียน ชมุ ชน - งานบคุ ลากร - งานวัดผล - งานจดั กระบวนการเรียนร๎ู - งานอาคารสถานที่ - งานศนู ยบ์ รกิ ารให้คาปรกึ ษา เศรษฐกิจพอเพียง - งานแผนงานและโครงการ แนะนา - งานการศึกษาตามอธั ยาศัย (พัฒนา - งานประชาสมั พนั ธ๑ แหลํงเรียนร๎ู ภมู ิปญั ญาทอ๎ งถน่ิ ศนู ย๑ - งานขอ๎ มูลสารสนเทศและการ การเรยี นชมุ ชน ห๎องสมดุ ฯลฯ) รายงาน - งานพัฒนาสือ่ นวตั กรรม และ - งานควบคมุ ภายใน เทคโนโลยี - งานนิเทศภายใน ตดิ ตามและ - งานกจิ การนกั ศึกษา ประเมินผล - งานสํงเสรมิ สนับสนุนภาคเี ครอื ขําย - งานประกนั คณุ ภาพภายใน - งานกจิ การพิเศษ สถานศกึ ษา - งานกิจการลูกเสือและยวุ กาชาด - งานเลขานกุ ารคณะกรรมการ สถานศึกษาและอาสาสมคั ร กศน. เอกสารประกอบการพจิ ารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 2
6. บคุ ลากร 6.1 ข้อมูลขา้ ราชการ / ลูกจา้ งประจา - ผู้บริหาร จานวน 1 คน - ข้าราชการครู จานวน 2 คน - ขา้ ราชการพลเรือน จานวน 1 คน - ลกู จา้ งประจา จานวน 1 คน ท่ี ชื่อ – สกลุ หมายเลขบตั ร วนั /เดือน/ปี วุฒิ สาขา/วิชาเอก ประชาชน เกิด การศกึ ษา 1 นายวรี วตั ร ฆะปญั ญา 3102001730717 26 / 04 / 2504 กศ.ม. การบรหิ ารการศกึ ษา 2 นางจงจติ ร อุดอ๎าย 355090201061 28 / 08 / 2505 ศษ.บ. บรหิ ารการศึกษา 3 นายสภุ ทั รชยั รินสาย 3530700308865 01 / 11 / 2526 บธ.บ. คอมพวิ เตอรธ๑ ุรกจิ 4 นางกุลวดี พรหมเอาะ 2309900021570 13 / 10 / 2529 ศศ.บ. ภาษาไทย 6.2 ข้อมูลพนกั งานราชการ ตาแหน่งครอู าสาสมัคร กศน. จานวน 13 คน ท่ี ชื่อ – สกลุ หมายเลขบตั ร วนั /เดอื น/ปี วุฒิ สาขา/วชิ าเอก ประชาชน เกดิ การศกึ ษา 1 นายเฉลมิ ชาติ กันอาทา 5550500573227 05 / 12 / 2513 กศ.ม. การบรหิ ารการศกึ ษา 2 นางสุจิตรา แสนศิริ 5550500146779 28 / 07 / 2521 กศ.ม. การบรหิ ารการศกึ ษา 3 นางสาวนติ ยา เสมอใจ 5550500181035 07 /06/ 2519 กศ.ม. การบรหิ ารการศึกษา 4 นายวรี ชาติ สนุ นั ท๑ 3550400103117 29 / 05 / 2504 คบ. พลศึกษา เอกสารประกอบการพิจารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 3
ที่ ชื่อ – สกลุ หมายเลขบัตร วัน/เดอื น/ปี วฒุ ิ สาขา/วิชาเอก ประชาชน เกิด การศกึ ษา 5 นางนงลกั ษณ๑ คามงคล 5550590022802 23 / 05 / 2509 คบ. ประถมศกึ ษา 6 นางสาวนภิ าพรรณ จนั ทนา 1559900030188 20 / 07 / 2521 บธ.บ. การตลาด 7 นางจุฑารตั น๑ ศวิ ะศิลป์ประศาสน๑ 5550500328095 04 / 02 / 2507 คบ. สงั คมศึกษา 8 นางทิพย๑วลั ย๑ ไชยสลี 3550600241050 03 / 07 / 2509 ศศ.บ. การจัดการทวั่ ไป 9 นางสาวนนั ยดา สุธรรมแปง 5550500396325 07 / 10 / 2505 คบ. ประถมศึกษา 10 นางอังสุมาลี เทียนทอง 1550500067167 13 /07 / 2531 รป.บ. บริหารรัฐกิจ 11 นายเอกราช สุวรรณ 5550500510659 20 / 02 / 2521 วท.บ. สตั วศาสตร๑ 12 นายศภุ กฤต ศิริคาม 2550900013291 11 / 03 / 2531 คบ. ภาษาอังกฤษ 13 นางสาวทพิ ยส๑ ดุ า ดปี านา 1559900240042 22 / 06 / 2536 คบ. คอมพวิ เตอร๑ 6.3 ข้อมูล พนักงานราชการ ตาแหนง่ ครู กศน. ตาบล จานวน 12 คน ท่ี ช่อื – สกลุ หมายเลขประชาชน วนั /เดอื น/ปี วฒุ ิ สาขา เกดิ การศึกษา 1 นายครรชติ ต๏ะเสาร๑ 3510600574270 22 / 12 / 2521 คบ. สังคมศกึ ษา 2 นางมลวิ ัลย๑ ต๏ะเสาร๑ 5550500181299 17 / 01 / 2520 คบ. ประถมศกึ ษา 3 นางสาวธญั ญร๑ ภสั อัครวริ ชั ยก๑ ุล 5550500612222 28 / 01 / 2518 กศ.ม. การบรหิ ารการศึกษา 4 นางสาวรชั ดาพร เมฆยะ 5550500535686 19 / 01 /2526 กศ.ม. การบริหารการศกึ ษา 5 นางจารวุ รรณ จนั ตะ๏ วงค๑ 5550500507941 17 / 12 / 2525 กศ.ม. การบรหิ ารการศกึ ษา 6 นางสาวอรพินท๑ ไชยวงค๑ 5550500181001 12 / 01 / 2518 ศศ.บ การจัดการ (บัญชี ) เอกสารประกอบการพิจารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 4
ที่ ช่อื – สกลุ หมายเลขประชาชน วัน/เดือน/ปี วุฒิ สาขา เกดิ การศกึ ษา 7 นางลัดดาวลั ย๑ จิรนันทนกุ ุล 5550500294948 05 / 09 / 2522 กศ.ม. การบริหารการศกึ ษา 8 นายภัทรพล ตนะทิพย๑ 1559900239877 20 / 06 / 2536 คบ. เคมี 9 นางสาวศริ ริ ตั น๑ โนพวน 1550500134760 19 / 01 / 2538 คบ. สงั คมศึกษา 10 นางสาวมาลินี ญาณะคา 1550500076514 24 / 04 / 2532 บช.บ. บญั ชีบณั ฑติ 11 นายจรวุ ฒั เสมอใจ 5550500149620 20 / 11 / 2522 ศศ.บ. รฐั ศาสตร๑ 12 นางสาวมยุรา ถือแกว๎ 1540400056643 21 / 08 /2530 คบ. สงั คมศกึ ษา 7. ทรัพยากรและสิง่ อานวยความสะดวกในการจัดการศกึ ษา ศูนย๑การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอปัว มีอาคารสานักงานประจาอาเภอ จานวน 1 แหํง สภาพอาคารเป็นอาคารคอนกรีตถาวรช้ันเดียว มุงกระเบื้อง มีห๎องน้าห๎องส๎วม จานวน 2 ห๎อง เป็นอาคารทถ่ี าวรม่ันคงแขง็ แรง ภายในอาคารประกอบดว๎ ยสื่อ อุปกรณ๑ครบถ๎วนตามแนวนโยบายของ สานักงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยทุกประการ ในสานักงานมีเคร่ืองคอมพิวเตอร๑ สาหรับใช๎ในงานธุรการและงานบริการสืบค๎นอินเตอร๑เน็ต จานวน 9 เคร่ือง สาหรับบันทึกข๎อมูลทะเบียน IT นักศึกษาจานวน 2 เครื่อง อาคารห๎องสมุดประชาชนอาเภอปัว เป็นอาคารไม๎ช้ันเดียว มุงกระเบ้ือง มีห๎องน้า จานวน 2 ห๎อง เป็นอาคารท่ีถาวรม่ันคง แข็งแรงภายในอาคาร ประกอบด๎วยหนังสือ สื่อแบบเรียน สื่อ อิเล็คทรอนิคส๑ ส่ือ อุปกรณอ๑ ่นื ๆ มีเคร่ืองคอมพิวเตอร๑รวมท้ังหมด จานวน 13 เคร่ือง สาหรับให๎บริการสืบค๎นอินเตอร๑เน็ต จานวน 10 เครื่อง และสาหรบั ใชใ๎ นโปรแกรมบริหารงานห๎องสมุด PLS จานวน 3 เครอื่ ง ในปีงบประมาณ 2553 กศน.อาเภอปัว ได๎รับการอนุมัติให๎ดาเนินการจัดตั้งศูนย๑เรียนร๎ู ICT ชุมชน อาเภอปัว โดยใช๎ กศน. ตาบลปัว เป็นสถานท่ีจัดตั้งศูนย๑การเรียนร๎ูดังกลําว โดยมีเครื่องคอมพิวเตอร๑สาหรับ ใหบ๎ รกิ ารแกํประชาชนในการสบื ค๎นขอ๎ มลู จานวน 6 เคร่อื ง เครือ่ งปร้นิ เตอร๑ จานวน 1 เครอื่ ง เอกสารประกอบการพิจารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 5
ในปีงบประมาณ 2555 กศน.อาเภอปัว ได๎รับการอนุมัติให๎ดาเนินการจัดสร๎าง ศูนย๑ กศน. ตาบล จานวน 1 แหํง คือ กศน. ตาบลวรนคร โดยใช๎งบประมาณในการจัดสร๎าง จานวน 8,000,000 บาท ในศูนย๑การเรียน มีส่ืออุปกรณ๑ สาหรับจัดการเรียนการสอน คือ สื่อหนังสือ สื่อเทคโนโลยี มีคอมพิวเตอร๑ สาหรับให๎บริการแกํประชาชนในการสืบค๎นข๎อมูล จานวน 6 เคร่ือง เครื่องปริ้นท๑เตอร๑ จานวน 1 เครื่อง โทรทศั น๑ จานวน 1 เครือ่ ง ในปีงบประมาณ 2556 กศน. อาเภอปัว ได๎รับการอนุมัติให๎ดาเนินการกํอสร๎าง ศูนย๑การเรียนชุมชน ชาวไทยภูเขา “ แมํฟูาหลวง” บ๎านจูน ในการกํอสร๎างอาคารเฉลิมพระเกียรติ ฯ เพ่ือเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ๎าอยูํหัวและสมเด็จพระนางเจ๎าพระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ๎าอยํูหัว ครบ 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 จานวน โดยใช๎ช่ือวํา อาคาร เฉลมิ พระเกียรตินวมินทราธิราชและบรมราชินีนาถ โดยใช๎งบประมาณจากรัฐสภา จานวน 1,580,000 บาท ภายในอาคารเรียน มีวัสดุ ครุภัณฑ๑ และส่ือการเรียนการสอน ดังนี้ โต๏ะ / เก๎าอี้ สาหรับนักเรียน จานวน 120 ชดุ คอมพวิ เตอร๑ สาหรบั ใชจ๎ ัดการเรยี นการสอน จานวน 1 เครื่อง เครื่องพิมพ๑เลเซอร๑ จานวน 1 เครือ่ ง เครอื่ งคอมพวิ เตอรโ๑ น๎ตบุคส๑ จานวน 1 เครอ่ื ง โทรทศั น๑สี แอล ซีดี จานวน 1 เครื่อง ชุดจานดาวเทียมเพื่อการศึกษา จานวน 1 ชุด เคร่ืองฉายโปรเจคเตอร๑ ขนาด 2600 ANSI Lumens และ จอรับภาพแบบ INTERACTIVE จานวน 1 ชดุ 8. แหลง่ การเรียนรแู้ ละเครอื ข่าย 8.1 แหล่งเรียนรู้ 8.1.1 กศน.ตาบล ชอ่ื กศน.ตาบล ทีต่ ้ัง ผู้รบั ผดิ ชอบ กศน. ตาบลเจดียช๑ ยั กศน. ตาบลแงง บ๎านนาวงค๑ ม. 8 ต. เจดียช๑ ัย นายจรวุ ัฒ เสมอใจ กศน. ตาบลปัว กศน. ตาบลไชยวัฒนา วัดพาน ม. 4 ต. แงง นางจารุวรรณ จันตะ๏ วงค๑ กศน. ตาบลสถาน บ๎านขอน ม. 1ต. ปัว นางสาวธญั ญ๑รภสั อัครวิรชั ยก๑ ลุ กศน. ตาบลสกาด บา๎ นเสี้ยว ม.6ต.ไชยวัฒนา(โรงเรียนบา๎ น นางสาวมยุรา ถอื แกว๎ กศน. ตาบลวรนคร เสี้ยว ) บา๎ นพรสวรรค๑ ม. 10 ต. สถาน นางสาวมาลนิ ี ญาณะคา บ๎านสกาดกลาง ม. 3 ต. สกาด นายศริ ิรตั น๑ โนพวน ( บริเวณ อบต. สกาด) บา๎ นมอน ม.3 ต. วรนคร นางลัดดาวลั ย๑ จิรนันทนุกุล เอกสารประกอบการพจิ ารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 6
ชอื่ กศน.ตาบล ทีต่ ้ัง ผู้รับผดิ ชอบ กศน. ตาบลศลิ าแลง บา๎ นฝาย ม. 7 ต. ศลิ าแลง กศน. ตาบลปาุ กลาง บ๎านหว๎ ยสะนาว ม. 2 ต. ปาุ กลาง นางมลิวัลย๑ ต๏ะเสาร๑ กศน. ตาบลศิลาเพชร บา๎ นปุาตองพัฒนา ม. 9 ต. ศิลาเพชร กศน. ตาบลอวน บ๎านทุํงกลาง ม. 2 ต.อวน นายครรชิต ต๏ะเสาร๑ กศน. ตาบลภูคา บ๎านเต๐ยกลาง ม. 6 ต. ภคู า นางสาวอรพนิ ท๑ ไชยวงค๑ นางสาวรัชดาพร เมฆยะ นายภทั รพล ตนะทพิ ย๑ 8.1.2 ศูนย์การเรียนชมุ ชนชาวไทยภเู ขา “แมฟ่ า้ หลวง”( ศศช. ) ชอ่ื ศศช. ท่ีตง้ั ผ้รู ับผิดชอบ ศศช. “ แมฟํ าู หลวง” บ๎านขุนกนู บ๎านขุนกนู ม. 2 ต. ภูคา นางสาวนิภาพรรณ จันทนา ศศช. “ แมํฟูาหลวง” บ๎านนา้ ขวา๎ ง บา๎ นนา้ ขวา๎ ง ม. 3 ต. ภูคา นางทพิ ยว๑ ลั ย๑ ไชยสลี ศศช. “ แมํฟูาหลวง” บา๎ นแจรงหลวง บา๎ นแจรงหลวง ม. 4 ต.ภูคา นางสาวทิพยส๑ ุดา ดีปานา ศศช. “ แมํฟาู หลวง” บ๎านตาน๎อย บา๎ นตานอ๎ ย ม. 5 ต. ภูคา นายศุภกฤต ศิริคาม ศศช. “ แมํฟูาหลวง” บ๎านนา้ ย๎อ-ขนุ ดนิ บา๎ นนา้ ยอ๎ -ขนุ ดนิ ม. 8 ต. ภคู า นางสาวนันยดา สธุ รรมแปง ศศช. “ แมฟํ าู หลวง” บ๎านแจลง บ๎านแจลง ม. 8 ต. ภูคา นางจฑุ ารัตน๑ ศวิ ะศลิ ปป์ ระศาสน๑ ศศช. “ แมฟํ ูาหลวง” บ๎านกอก บา๎ นกอก ม. 11 ต. ภคู า นายเอกราช สุวรรณ ศศช. “ แมํฟูาหลวง” บา๎ นจูน บา๎ นจนู ม. 11 ต. ภูคา นายวีรชาติ สนุ นั ท๑ ศศช. “ แมฟํ าู หลวง” บ๎านน้าปวั พฒั นา บ๎านน้าปัวพฒั นา ม. 12 ต. ภูคา นางสาวองั สุมาลี ใจการณ๑ ศศช. “ แมฟํ าู หลวง” บา๎ นนา้ ดัน้ บา๎ นน้าดน้ั ม. 13 ต. ภคู า นางนงลักษณ๑ คามงคล 8.1.3 ภูมปิ ัญญาทอ้ งถิ่น ช่ือภูมิปัญญาท้องถิ่น ความสามารถและประสบการณ์ ทอี่ ย/ู่ ทตี่ ้งั นายนาชยั จารุศิลากลุ การทาเครื่องเงิน 5 หมูํท่ี 1 ตาบล ปุากลาง การทาชุดประจาเผํา 162 หมํูที่ 1 ตาบล ปาุ กลาง นางอรทัย อินรัง การตีเหลก็ 162 หมูทํ ่ี 1 ตาบล ปาุ กลาง นายเลาเปา แซโํ ซ๎ง การจักสาน 97 หมทูํ ี่ 1 ตาบล ปุากลาง นายก่ี แซํมา๎ การปักผา๎ 57 หมูทํ ่ี 1 ตาบล ปุากลาง นางศศิธร ทรงสิริกลุ เอกสารประกอบการพิจารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 7
ชอื่ ภูมปิ ัญญาท้องถน่ิ ความสามารถและประสบการณ์ ที่อยู่/ที่ตั้ง การทาชุดประจาเผาํ 200 หมูท่ี 1 ตาบล ปาุ กลาง นางชนาภา แสนนิทรา ผา๎ เขียนเทียน 260 หมทูํ ี่ 1 ตาบล ปุากลาง 49 หมูํท่ี 6 ตาบล ปาุ กลาง นายผดั ศลิ ปท์ า๎ ว การทาเคร่ืองประดับทองเหลืองชุบเงนิ 49 หมํูที่ 6 ตาบล ปาุ กลาง การทาเคร่ืองประดบั ทองเหลืองชุบเงิน นางรตั นาภรณ๑ กาญจนเวโรจน๑ 56 หมทํู ี่ 1 ตาบล อวน ดีดพิณ / สีสะล๎อ 24 หมูํท่ี 2 ตาบล อวน นายพินิจ กาญจนเวโรจน๑ ดดี พิณ / สีสะล๎อ 95 หมูทํ ่ี 5 ตาบล อวน 117 หมํทู ่ี 7 ตาบล อวน นายผํอง ต๏ะแกว๎ ชาํ งซอ 65 หมูํที่ 9 ตาบล อวน การจกั สาน 42 หมูํที่ 2 ตาบล อวน นายเลย พรมคา จอ๏ ย คาํ ว ซอ 3 หมทูํ ี่ 8 ตาบล อวน บ๎านทุํงใหมํ หมํูที่ 11 ตาบล อวน นางคาหมัน้ เตชะ จักสาน บา๎ นทงุํ ใหมํ หมูํท่ี 11 ตาบล อวน ดนตรพี ืน้ เมือง 71 หมูํที่ 11 ตาบล อวน นายเปลํง คนั ทะลือ ปยุ๋ หมกั แบบเติมอากาศ บ๎านหว๎ ยหาด หมูทํ ่ี 7 ตาบลอวน ปยุ๋ หมักชวี ภาพ บา๎ นห๎วยหาด หมูํ 7 ตาบล อวน นายบญุ ลอย ธรรมดลุ ย๑ การเพาะเห็ดนางฟูา – นางรม 106 หมทํู ่ี 1 ตาบลอวน การทาไม๎กวาดดอกหญ๎า 97 หมํทู ี่ 2 ตาบล วรนคร นายเสาร๑ นรินทร๑ การทอผา๎ พน้ื เมือง บ๎านร๎องแง หมํูที่ 7 ตาบลวรนคร การแปรปู อาหาร (น้าพรกิ ตํางๆ) บา๎ นรอ๎ งแง หมํูท่ี 7 ตาบลวรนคร นายจานง ทปิ ะกะ การยอ๎ มผ๎าดว๎ ยสธี รรมชาติ บา๎ นรอ๎ งแง หมูํ ท่ี7 ตาบลวรนคร 102 หมทํู ่ี 4 ตาบล แงง นายสาราญ นนั ศริ ิ การทอผา๎ 52 หมํู ที่1 ตาบล แงง การทอผ๎า 51 หมูทํ ี่ 1 ตาบล แงง นายสมคั ร ธรรมดลุ หมอสํขู วัญ ,สานสุมํ ไกํ 66 หมทํู ี่ 2 ตาบล แงง จกั สานไม๎ไผํ 134 หมูํที่ 2 ตาบล แงง นางสะอ้ิง อุดพรม หมอสูํขวญั ซอพ้นื เมือง 37 หมํทู ่ี 4 ตาบลแงง นางขันแก๎ว ทปิ ะกะ หมอสํขู วญั 135 หมํูที่ 4 ตาบล แงง จกั สาน 85 หมํูที่ 5 ตาบล แงง นางถนอม ใหมนํ อ๎ ย จกั สาน 101 หมํูที่ 5 ตาบล แงง หมอสํูขวัญ 243 หมูทํ ี่ 5 ตาบล แงง นางอไุ ร บุญทอง ฟูอนเจงิ นางศดานันท๑ เนตรทพิ ย๑ สีซอ จ๏อย คาํ ว นางวิไล จันทร๑ผง นางเตียม เนตรทิพย๑ นายประดิษฐ๑ สถุ าลา นายบุญ แก๎วโก นายวงค๑ อินต๏ะกัน นายแกว๎ แก๎วโก นายตา๐ มบี ุญ นายชน่ื สมมตุ ิ นายบญุ แกว๎ โก๐ นายเผชิญ ไชยชนะ นายขําย โนจิตร นายขําย ไชยยะ นายหวัน เตชะนันท๑ เอกสารประกอบการพิจารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 8
ช่ือภมู ิปัญญาท้องถิ่น ความสามารถและประสบการณ์ ท่ีอยู่/ทต่ี งั้ หมอสํูขวัญ 76 หมูํท่ี 6 ตาบล แงง นายคามลู มาอินทร๑ จกั สาน 5 หมทํู ่ี 7 ตาบล แงง 113 หมูํท่ี 6 ตาบล ปวั นายเฉลย ไชยชนะ ยาหม๎อ – ยาสมุนไพร 308 หมํูท่ี 4 ตาบล ปัว การนวดแผนโบราณ 31 หมํทู ี่ 7 ตาบล ปวั นายแป๋ง สทุ ธหลวง 71 หมทูํ ่ี 7 ตาบล ปัว จกั สาน 64 หมทูํ ี่ 1 ตาบล ปวั นางพัสราภรณ๑ ธรรมชยั การทาขนมจีน 10 หมํูท่ี 5 ตาบล สถาน การนวดแผนโบราณ 1 หมํทู ี่ 8 ตาบล สถาน นายจันทร๑ พนั ชน การทาไม๎กวาดดอกหญา๎ การจกั สานและการทาเคร่ืองออกกาลงั 50 หมูทํ ่ี 4 ตาบลสถาน นางสมยงค๑ สุทธหลวง 48 หมูํท่ี 5 ตาบล สถาน กาย 10 หมํทู ่ี 2 ตาบล สถาน นางเยาวลกั ษณ๑ เชียงราบ การสํขู วัญ ไลผํ ี ขา๎ วจา้ 53 หมูทํ ่ี 9 ตาบลเจดยี ๑ชยั 82 หมทํู ่ี 2 ตาบลเจดีย๑ชยั นายวัชรพล คาเทพ หมอพ้ืนบา๎ น การจกั สาน 84 หมํทู ่ี 8 ตาบลเจดีย๑ชัย นายพร่า ไชยวงค๑ หมอสูํขวญั , สูํขวญั ขา๎ ว สํูขวัญควาย บา๎ นศาลา หมทํู ี่ 4 ตาบลเจดียช๑ ยั ดนตรีพื้นเมือง , หมอสูํขวัญ นายหนํอ ไชยวงค๑ สงเคราะห๑ 34 หมูํที่ 8 ตาบลเจดยี ๑ชัย นายสจุ นิ ต๑ สวุ รรณ ภาษาล๎านนา ( ภาษากาเมือง ) 32 หมทํู ่ี 1 ตาบลเจดียช๑ ยั นายแก๎ว อดุ อ๎าย การตกี ลองปจูุ า หมอไสยศาสตร๑ 26 หมทํู ่ี 1 ตาบลไชยวัฒนา นายสมหมาย มบี ุญ เขยี นคาํ ว จอ๏ ย 39 หมูํท่ี 2 ตาบลไชยวฒั นา นายสวัสดิ์ ไชยยา การทอผา๎ พืน้ เมือง 35 หมทํู ่ี 3 ตาบลไชยวัฒนา หมอสขํู วัญสะเดาะเคราะห๑ 25 หมูํท่ี 3 ตาบลไชยวัฒนา นายเกษตร เตชนนั ท๑ หมอสูํขวญั สะเดาะเคราะห๑ 60 หมทํู ี่ 3 ตาบลไชยวัฒนา นายสขุ โนจติ ร การจักสานไมไ๎ ผํ 38 หมูํท่ี 4 ตาบลไชยวัฒนา นายเปง็ เตชนันท๑ การทอผา๎ ออกแบบลายผ๎า 23 หมูํท่ี 7 ตาบลไชยวฒั นา นางบวั คา วงั สาร การทอผ๎า การย๎อมสธี รรมชาติ 62 หมูํท่ี 7 ตาบลไชยวัฒนา นายฤทธ์ิ ไชยศลิ ป์ ฟอู นดาบ 21 หมทํู ี่ 7 ตาบลไชยวฒั นา นายเติง ปัญญาภู ประดิษฐเ๑ คร่ืองดนตรีไทย 58 หมูทํ ่ี 7 ตาบลไชยวฒั นา นางก่า ยาอดุ ประดษิ ฐเ๑ ครื่องดนตรีไทย นางแวํน ใจการณ๑ ผน๎ู าศาสนา / ประเพณที ๎องถ่ิน นางศรคี า ไชยศิลป์ หมอพื้นเมือง นายบญุ มี ยงั ลอื นายจันทร๑ บุญเทพ นายสมัคร อุทธวงค๑ นายทองคา วุฒิ นางอ่นิ อุทมุ พร เอกสารประกอบการพิจารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 9
ชอ่ื ภมู ิปัญญาท้องถิ่น ความสามารถและประสบการณ์ ทอ่ี ยู่ นางเตียง รกไพร จักสาน 74 หมํูที่ 1 ตาบลสกาด นายนิคม นาคชัยวงษ๑ ตีพิ 124 หมทูํ ่ี 1 ตาบลสกาด นายกอ๐ ง รกไพร ตีพิ 87 หมทํู ี่ 1 ตาบลสกาด นายจนั ทร๑ รกไพร จักสาน 37 หมูํท่ี 1 ตาบลสกาด นายแดง รกไพร การทาไมก๎ วาดดอกหญา๎ 103 หมํูที่ 4 ตาบลสกาด นายบุญ รกไพร จักสาน 8 หมํูท่ี 4 ตาบลสกาด นางแหนํง มิสละ การทอผา๎ 9 หมทํู ่ี 2 ตาบลศิลาเพชร นายประดิษฐ๑ พรมปา หมอสูํวญั 52 หมทูํ ี่ 2 ตาบลศิลาเพชร นายสนทิ ปัญญาวรรณรักษ๑ เกษตร 11 หมทํู ่ี 1 ตาบลศลิ าเพชร นายเสรมิ ตะ๏ แกว๎ ปาุ ชุมชน บ๎านดอนไชย หมทํู ี่ 3 ตาบลศลิ าแลง นางแพว คาภานชุ การย๎อมสีและการแปรรูปผ๎าทอ บ๎านเฮยี้ หมํูท่ี 1 ตาบลศลิ าแลง นางแจํมใส ตะ๏ แกว๎ การออกแบบและแปรรูปผ๎าทอ บา๎ นดอนไชย หมทูํ ่ี 3 ตาบลศิลาแลง นางเครือวลั ย๑ หาญยทุ ธ การออกแบบลายผ๎า บ๎านหัวนา้ หมทูํ ่ี 5 ตาบลศิลาแลง นายสมฤทธิ์ เนตรทิพย๑ คาํ ว จ๏อย ซอ บ๎านเฮี้ย หมูํที่ 1 ตาบลศิลาแลง นายสละ จาปาเงนิ การเพาะเห็ดนางฟาู -นางรม บ๎านหัวดอย หมูทํ ่ี 6 ตาบลศิลาแลง นายเสาร๑ อินปา จักสาน 43 หมํทู ี่ 6 ตาบลภคู า นายถึง ณชน ยาสมุนไพร 82 หมทูํ ่ี 6 ตาบลภคู า นายขอด อินปา จกั สาน 26 หมํูที่ 7 ตาบลภูคา นายมา ทาแปง จกั สาน บ๎านแจรงหลวง หมูํท่ี 4 ตาบลภูคา เอกสารประกอบการพิจารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 10
ช่ือภมู ปิ ัญญาท้องถ่นิ ความสามารถและประสบการณ์ ท่ีอยู่ นายหลา๎ ทาแปง จักสาน บ๎านแจรงหลวง หมูํที่ 4 ตาบลภคู า นายดว๎ ง ทาแปง จกั สาน บา๎ นแจรงหลวง หมทูํ ่ี 4 ตาบลภคู า นายวนั ยก ทาแปง หมอสูขํ วญั ,หมอตาแย บา๎ นแจรงหลวง หมูทํ ี่ 4 ตาบลภูคา นายผดั ชาติปราโมทย๑ หมอตาแย , หมอสมุนไพร 30 หมํทู ่ี 2 ตาบลภูคา นายเขยี น วรรณชน หมอสูํขวัญ , หมอตาแย 61 หมูํท่ี 2 ตาบลภคู า นายสวย อนิ ปา จักสาน , ข๎าวจา้ พปิ ระจาหมบํู ๎าน 4 หมทํู ี่ 2 ตาบลภูคา นายถงึ อนิ ปา ตเี หล็ก 26 หมทํู ่ี 2 ตาบลภคู า นายวิทย๑ อนิ ปา การสานแห 46 หมทูํ ่ี 2 ตาบลภูคา นายจันทร๑ อนิ ปา จักสาน 1 หมทํู ่ี 2 ตาบลภคู า นายผดั วรรณชน ชํางไม๎ 109 หมูํที่ 3 ตาบลภคู า นายทอง จอมจันทร๑ ชํางไม๎ , ชาํ งปนู 118 หมํทู ่ี 3 ตาบลภคู า นายคา ทนุ ชาํ งตดั ผม , สานกระด๎ง 112 หมํูที่ 3 ตาบลภคู า นายสาร จอมจันทร๑ ชาํ งไม๎ 127 หมทํู ี่ 3 ตาบลภูคา นายจาย วรรณชน ทากบั ดักสตั ว๑ 99 หมทํู ี่ 3 ตาบลภูคา นางคา วรรณชน สานสวิง 104 หมูทํ ี่ 3 ตาบลภูคา นายกอ๐ ง ไชยะ หมอชาวบ๎าน 10 หมํูที่ 11 ตาบลภูคา นายต๎ุย ไชยะ หมอชาวบา๎ น 70 หมูทํ ี่ 11 ตาบลภคู า นางสาวเสาร๑ ไชยะ ทอผา๎ 71 หมทูํ ี่ 11 ตาบลภคู า นายสวย พนะสันต๑ จักสาน , หมอสมุนไพร 18 หมํทู ่ี 11 ตาบลภคู า เอกสารประกอบการพจิ ารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 11
ช่ือภูมปิ ัญญาท้องถิน่ ความสามารถและประสบการณ์ ท่อี ยู่ นายจอ๐ ย พนะสันต๑ นายเงนิ พนะสันต๑ หมอขวญั , จักสาน 38 หมทํู ี่ 11 ตาบลภูคา นายเสาร๑ พนะสนั ต๑ นายสวัสดิ์ ใจปิง จกั สานกระบุง กระด๎ง 18 หมทูํ ่ี 11 ตาบลภูคา นายไสว เนตรแสงศรี นายประเทือง ใจปงิ ชํางปูน , ชํางไม๎ 31 หมูํท่ี 11 ตาบลภคู า นางใบ อักขระ นางบุ๏ก อักขระ จกั สานไม๎ไผํ 46 หมูํท่ี 13 ตาบลภูคา นางอ๏ุด ใจปงิ นายตัน ณะชน ชํางตเี หลก็ 37 หมูํท่ี 13 ตาบลภูคา นายยศ ณชน นายซอน ณชน ชาํ งตีเหลก็ 43 หมทํู ี่ 13 ตาบลภูคา นายผาย ณชน นายหนํอ ณชน สานสวิง 54 หมูํท่ี 13 ตาบลภคู า นางเอยี่ ม ณะชน นายผดั ทาแปง หมอตาแย 2 หมทูํ ่ี 13 ตาบลภูคา นายขัน ทาแปง นายวัน จอมจนั ทร๑ ถกั สวิง 24 หมํูที่ 13 ตาบลภูคา หมอตาแย 45 หมูํที่ 5 ตาบลภคู า ถกั สวงิ 46 หมูํท่ี 5 ตาบลภูคา ชาํ งไม๎ 56 หมูํท่ี 5 ตาบลภูคา ชํางปนู 43 หมทํู ี่ 5 ตาบลภูคา หมอตาแย 15 หมูํท่ี 5 ตาบลภูคา ถักไมก๎ วาด 42 หมํทู ี่ 5 ตาบลภูคา จักสาน 48 หมทํู ี่ 8 ตาบลภูคา จักสาน 17 หมํทู ่ี 8 ตาบลภูคา ตเี หล็ก 106 หมํูท่ี 8 ตาบลภคู า เอกสารประกอบการพิจารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 12
ช่ือภมู ิปัญญาท้องถิ่น ความสามารถและประสบการณ์ ทอ่ี ยู่ นายป่ัน ทาแปง นายสมจิตร อนิ ปา จักสาน 11 หมูํท่ี 8 ตาบลภูคา นายถึง ทาแปง นายแหลง จอมจันทร๑ ตเี หล็ก , ชํางไม๎ 30 หมทํู ี่ 8 ตาบลภูคา นายคา จอมจนั ทร๑ นายติบ๊ จอมจันทร๑ จักสาน 76 หมูทํ ่ี 8 ตาบลภูคา นายสวงิ อนิ ปา นายขัน จอมจันทร๑ ตีเหลก็ 118 หมํทู ่ี 8 ตาบลภคู า นายจันทร๑ อนิ ปา นายเลา ณะชน จักสาน 22 หมูํท่ี 8 ตาบลภคู า นายยา ณชน นางเพียร จ๐อมจนั ทร๑ จักสาน 51 หมูํที่ 8 ตาบลภูคา นายพธุ ณะชน นางศรอี อน ยอดออน จกั สาน 63 หมทํู ่ี 8 ตาบลภคู า จกั สาน 58 หมทํู ี่ 8 ตาบลภคู า จกั สาน , หมอตาแย , หมอผีประจาบ๎าน 68 หมํทู ี่ 8 ตาบลภูคา ตเี หลก็ 13 หมทํู ่ี 12 ตาบลภคู า ชาํ งไม๎ , ชํางปนู 30 หมูํท่ี 12 ตาบลภูคา สานสวิง 38 หมูํที่ 12 ตาบลภคู า หมอสขํู วัญ 42 หมทํู ี่ 12 ตาบลภคู า ดนตรพี ื้นบา๎ น 49 หมทูํ ี่ 12 ตาบลภคู า เอกสารประกอบการพิจารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 13
8.1.4 แหลง่ เรยี นรู้อน่ื ชอ่ื แหลง่ เรยี นรู้อน่ื ประเภทแหล่งเรยี นรู้ ทีต่ ัง้ บ๎านแกม๎ หมทํู ี่ 5 ตาบลวรนคร วดั พระธาตุเบ็งสะกดั สถาปตั ยกรรมไทล้ือ บา๎ นตน๎ แหลง หมูํที่ 2 ตาบลไชยวฒั นา วัดปรางค๑ หมํทู ี่ 3 ตาบล ปวั วัดตน๎ แหลง สถาปตั ยกรรมไทลื้อ วดั ปรางค๑ หมูทํ ่ี 3 ตาบล ปัว บ๎านดอนสถาน หมูํที่ 12 ตาบลสถาน ตน๎ ดิกเดยี ม วดั ปรางค๑ ต๎นไม๎มหัศจรรยผ๑ ิดธรรมชาติ บ๎านมอน หมํูท่ี 3 ตาบล วรนคร วัดศาลา หมทํู ่ี 4 ตาบลเจดียช๑ ัย พระธาตบุ ุนนาค โบราณสถาน บ๎านปงหน่ึง หมทูํ ่ี 9 ตาบลเจดียช๑ ยั บา๎ นปงหนึ่ง หมํูที่ 9 ตาบลเจดีย๑ชยั พระธาตุจอมทอง โบราณสถาน บา๎ นปงหนง่ึ หมทํู ่ี 9 ตาบลเจดีย๑ชยั บ๎านวงั มวํ ง หมูํท่ี 9 ตาบลเจดียช๑ ัย พระธาตจุ อมแจ๎ง โบราณสถาน บา๎ นทํงุ กวาง หมูํที่ 1 ตาบลแงง บา๎ นทาํ ล๎อ หมูทํ ่ี 2 ตาบลแงง พระธาตุดินไหว โบราณสถาน บ๎านหนองเงือก หมูํที่ 3 ตาบลแงง บา๎ นพาน หมํทู ี่ 4 ตาบลแงง พระธาตุจอมศรีครี ีชัย โบราณสถาน บ๎านหัวเมอื ง หมูํท่ี 5 ตาบลแงง บ๎านดอนมลู หมูํท่ี 6 ตาบลแงง ศนู ยเ๑ รยี นร๎บู ุคคลตน๎ แบบ บคุ คลตน๎ แบบ บ๎านหัวเมอื ง หมทูํ ี่ 5 ตาบลแงง ศนู ยเ๑ รียนรู๎เศรษฐกจิ พอเพียง กลมํุ อาชีพ ศนู ยฝ๑ ึกอาชีพชมุ ชนการเพาะเหด็ กลุํมอาชีพ วดั ทํุงกวาง โบราณสถาน วัดทาํ ลอ๎ โบราณสถาน วดั หนองเงือก โบราณสถาน วดั พาน โบราณสถาน วัดหัวเมอื ง โบราณสถาน วดั ดอนมลู โบราณสถาน ศนู ย๑เรียนรเ๎ู ศรษฐกจิ พอเพียง กลุํมอาชีพ เอกสารประกอบการพิจารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 14
ชอ่ื แหล่งเรียนรู้อน่ื ประเภทแหลง่ เรียนรู้ ท่ีต้งั วหิ ารวดั ต๎นแหลง แหลงํ เรยี นรท๎ู างสถาปัตยกรรม บา๎ นต๎นแหลง หมูํท่ี 2 ตาบลไชยวฒั นา เสาดนิ หว๎ ยปาุ ปู แหลํงเรียนรต๎ู ามธรรมชาติ บ๎านหว๎ ยทาํ ง หมํูที่ 5 ตาบลไชยวัฒนา วดั นาง้ิว แหลํงเรียนรู๎ทางศาสนา บ๎านนาง้วิ หมํทู ่ี 1 ตาบลไชยวฒั นา วดั ศรสี ระวงค๑ แหลํงเรยี นร๎ูทางศาสนา บา๎ นทําควาย หมํูท่ี 3 ตาบลไชยวฒั นา วดั หนาด แหลํงเรยี นร๎ูทางศาสนา บ๎านหนาด หมูทํ ่ี 4 ตาบลไชยวฒั นา วดั เสีย้ ว แหลงํ เรียนรู๎ทางศาสนา บา๎ นเสีย้ ว หมูทํ ี่ 6 ตาบลไชยวัฒนา โบสถ๑ครสิ ตจกั ร แหลํงเรียนรู๎ทางศาสนา บ๎านแดนพนา หมูํท่ี 7 ตาบลไชยวฒั นา วดั นาปุาน โบราณสถาน บา๎ นนาปาุ น หมูํที่ 1 ตาบลสถาน วดั ส๎าน โบราณสถาน บ๎านสา๎ น หมูทํ ่ี 2 ตาบลสถาน วดั ส๎านเหลาํ โบราณสถาน บา๎ นสา๎ นเหลาํ หมทูํ ี่ 3 ตาบลสถาน วัดดอนสถาน โบราณสถาน บา๎ นดอนสถาน หมูํท่ี 4 ตาบลสถาน วดั ห๎วยลา๎ โบราณสถาน บา๎ นหว๎ ยลา๎ หมูํท่ี 5 ตาบลสถาน วัดนาฝาง โบราณสถาน บา๎ นนาฝาง หมทูํ ่ี 6 ตาบลสถาน วัดปาุ เหียง โบราณสถาน บา๎ นปุาเหียง หมูํท่ี 7 ตาบลสถาน วัดใหมชํ ัยเจรญิ โบราณสถาน บา๎ นใหมํชัยเจรญิ หมทูํ ี่ 8 ตาบลสถาน วัดสันตสิ ุข โบราณสถาน บ๎านสนั ติสุข หมํทู ี่ 9 ตาบลสถาน คริสตจกั ร พรสวรรค๑ คริสตจักร บ๎านพรสวรรค๑ หมทูํ ี่ 10 ตาบลสถาน ฝายลาน้าปัว สถานทท่ี ํองเท่ยี ว บา๎ นนาฝาง หมํทู ี่ 7 ตาบลสถาน ตน๎ ยวนผง้ึ สถานทีท่ ํองเทยี่ ว บา๎ นสา๎ นเหลาํ หมูํที่ 3 ตาบลสถาน เอกสารประกอบการพิจารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 15
ช่ือ แหล่งเรียนรอู้ ่นื ประเภทแหล่งเรยี นรู้ ทต่ี งั้ องค๑การบริหารสวํ นตาบลอวน ศนู ย๑ถํายทอดเทคโนโลยีทางการ แหลงํ เรยี นรู๎ดา๎ นการเกษตร เกษตร บา๎ นทงํุ ใหมํ หมํูที่ 11 ตาบลอวน บ๎านทุํงกลาง หมูํท่ี 4 ตาบลอวน วัดทงํุ เฮา๎ โบราณสถาน บา๎ นไรํ หมูํที่ 1 ตาบลอวน บา๎ นทุํงฆ๎อน หมูทํ ่ี 2 ตาบลอวน วัดทงุํ กลาง โบราณสถาน บ๎านนา้ ยาว หมํูท่ี 3 ตาบลอวน บ๎านดอนนา้ ยาว หมูทํ ี่ 10 ตาบลอวน วัดไรํ โบราณสถาน บา๎ นทงํุ ใหมํ หมํูท่ี 11 ตาบลอวน บ๎านสกาดกลาง หมํู 2 ตาบลสกาด วดั ทงุํ ฆอ๎ น โบราณสถาน บา๎ นสกาดกลาง หมูํ 2 ตาบลสกาด วดั น้ายาว โบราณสถาน บา๎ นสกาดกลาง หมํู 2 ตาบลสกาด บา๎ นสกาดใต๎ หมํู 3 ตาบลสกาด วดั ดอนน้ายาว โบราณสถาน บ๎านสกาดใต๎ หมํู 3 ตาบลสกาด บ๎านสกาดกลาง หมูํ 2 ตาบลสกาด นา้ ตกตาดหลวง ทรัพยากรธรรมชาตสิ ง่ิ แวดล๎อม บา๎ นเก็ต หมํู 2 ตาบลวรนคร บ๎านดอนแก๎ว หมทํู ี่ 8 ตาบลวรนคร โรงพยาบาลสงํ เสรมิ สขุ ภาพตาบล แหลํงเรียนรูด๎ า๎ นสุขภาพ บ๎านเก็ต หมํูท่ี 2 ตาบลวรนคร สกาด ห๎องสมุดประชาชนตาบลสกาด แหลงํ เรยี นรู๎ประเภทสอื่ สง่ิ พมิ พ๑ โรงเรียนสกาดพัฒนา สถานศกึ ษา โรงเรียนสกาดใต๎ สถานศึกษา อาศรมพระธรรมจาริกบ๎านสกาดใต๎ โบราณสถาน อบต. สกาด โบราณสถาน วัดภูเกต็ พิธกี รรมทางศาสนา พระธาตุจอมแจ๎ง พิธกี รรมทางศาสนา แหลงํ เรยี นรทู๎ อผา๎ บา๎ นเก็ต การยอ๎ มผ๎าดว๎ ยสธี รรมชาติ เอกสารประกอบการพจิ ารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 16
ชอื่ แหล่งเรยี นรู้อื่น ประเภทแหล่งเรยี นรู้ ทตี่ ง้ั แหลํงเรยี นรทู๎ อผ๎าบ๎านร๎องแง การยอ๎ มผา๎ ด๎วยสธี รรมชาติ บ๎านดอนแกว๎ หมทํู ี่ 2 ตาบลวรนคร ศาลพญาแก๎ว พิธกี รรมพ้นื บ๎าน บา๎ นดอนแกว๎ หมทํู ่ี 2 ตาบลวรนคร ( ศาลเจา๎ พํอพญาแก๎ว ) โรงเรียนชาวนา แหลํงเรียนรู๎เรือ่ งการทานา บ๎านนาคา หมูํท่ี 1 ตาบลศลิ าเพชร (วิถีชีวติ ) กลมํุ แปรรูปพริก การแปรรปู ผลิตภณั ฑ๑ บา๎ นปุาตองพัฒนา หมทํู ่ี 9 ตาบลศิลาเพชร กลํมุ แปรรูปข๎าว การแปรรูปผลิตภณั ฑ๑ บ๎านปาุ ตองพฒั นา หมํทู ่ี 9 ตาบลศลิ าเพชร ฟาร๑มเห็ดบ๎านหวั นา้ แหลํงเรยี นรู๎เร่อื งเหด็ บ๎านหัวน้า หมํทู ่ี 5 ตาบลศิลาแลง บ๎านเฮ้ยี หมํูท่ี 2 ตาบลศิลาแลง แพวผ๎าฝาู ย แหลํงเรยี นร๎เู รอื่ งการแปรรูปผ๎า ไรํอัมฤทธิ์ หมทูํ ี่ 1 ตาบลปุากลาง ศนู ย๑เรยี นรเู๎ ศรษฐกิจพอเพยี ง เศรษฐกิจพอเพียง บา๎ นห๎วยสะนาว หมํทู ี่ 2 ตาบลปุากลาง ( ไรอํ ัมฤทธิ์ ) บา๎ นน้าเปนิ หมูทํ ่ี 1 ตาบลปาุ กลาง บ๎านนา้ เปิน หมูทํ ่ี 1 ตาบลปาุ กลาง อาศรมพระธรรมจารกิ บา๎ นปาุ กลาง ศาสนา อทุ ยานแหงํ ชาติดอยภูคา บา๎ นเตย๐ ก่วิ เห็น หมํทู ่ี 7 ตาบลภคู า ผา๎ เขียนเทยี น ศลิ ปะการทาผ๎าเขียนเทียน บ๎านแจรงหลวง หมทํู ่ี 4 ตาบลภูคา เคร่ืองเงนิ ศิลปะการทาเคร่ืองเงนิ อุทยานแหงํ ชาติดอยภคู า แหลงํ ทํองเทีย่ วธรรมชาติ นา้ ตกต๎นตอง แหลํงทํองเที่ยวธรรมชาติ ถ้าเสือดาว แหลํงทํองเทีย่ วธรรมชาติ เอกสารประกอบการพจิ ารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 17
ชอ่ื แหล่งเรยี นรู้อื่น ประเภทแหล่งเรียนรู้ ท่ตี ้ัง โครงการขยายผลบ๎านปางยาง ปาุ ชมุ ชนนา้ ขว๎าง แหลงํ เรียนรูเ๎ ศรษฐกิจพอเพียง บ๎านขุนกูน หมํูท่ี 2 ตาบลภูคา นาขั้นบนั ได ฝายชะลอน้า แหลงํ ศกึ ษาธรรมชาติ พันธไ๑ุ ม๎ตาํ งๆ บา๎ นนา้ ขว๎าง หมํูที่ 3 ตาบลภคู า สถานปฏบิ ัตธิ รรมบา๎ นนา้ ดัน้ ถ้าผาฆ๎อง เกษตร บา๎ นกอก –จูน หมูํท่ี 11 ตาบลภคู า ถา้ สายไท ถา้ พระ การอนรุ ักษ๑ทรัพยากรธรรมชาติ บ๎าน กอก- จูน หมํทู ่ี 11 ตาบลภูคา ด๎านศาสนา บ๎านน้าดน้ั หมทํู ี่ 13 ตาบลภูคา แหลํงทํองเที่ยวศกึ ษาธรรมชาติ บา๎ นใหมํภคู า หมูํที่ 14 ตาบลภูคา ศึกษาธรรมชาติ บา๎ นนา้ ปวั พฒั นา หมํูที่ 12 ตาบลภูคา 8.2 ภาคเี ครอื ข่าย ทต่ี ้งั /ทีอ่ ยู่ บ๎านแกม๎ ตาบลวรนคร ชอ่ื ภาคเี ครือขา่ ย บา๎ นแก๎ม ตาบลวรนคร ปกครองอาเภอปัว บา๎ นแกม๎ ตาบลวรนคร สานักงานพฒั นาชุมชนอาเภอปัว บา๎ นแกม๎ ตาบลวรนคร สานักงานเกษตรอาเภอปัว บา๎ นปรางค๑พัฒนา 2 ตาบลปวั สานักงานปศสุ ัตว๑อาเภอปวั บา๎ นแก๎ม ตาบลวรนคร โรงเรยี นปวั บ๎านมอน ตาบลวรนคร โรงเรียนวรนคร บา๎ นขอน ตาบลปวั โรงเรยี นจอมแจ๎งวทิ ยาคาร บา๎ นหวั ดอย ตาบลศิลาแลง โรงเรียนบา๎ นขอน บ๎านปรางค๑ ตาบลปัว โรงเรียนชุมชนศลิ าแลง บา๎ นสวนดอก ตาบลวรนคร สานกั งานสาธารณสขุ อาเภอปัว บา๎ นปาุ ตอง ตาบลศิลาเพชร โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปวั โรงพยาบาลสงํ เสรมิ สุขภาพชุมชนตาบลศลิ าเพชร เอกสารประกอบการพจิ ารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 18
ชื่อ ภาคีเครือขา่ ย ทีต่ งั้ /ทอ่ี ยู่ สถานีตารวจภธู รปวั บ๎านแก๎ม ตาบลวรนคร เทศบาลตาบลปัว บา๎ นปรางค๑พัฒนา 2 ตาบลปัว เทศบาลตาบลศิลาแลง บา๎ นฝาย ตาบลศิลาแลง องค๑การบริหารสํวนตาบลศิลาเพชร บ๎านนาคา ตาบลศิลาเพชร องค๑การบริหารสวํ นตาบลเจดีย๑ชยั บ๎านนาวงค๑ ตาบลเจดียช๑ ยั องค๑การบริหารสํวนตาบลแงง บ๎านทงํุ กวาง ตาบลแงง องค๑การบริหารสํวนตาบลอวน บา๎ นไรํ ตาบลอวน องค๑การบรหิ ารสวํ นตาบลสถาน บา๎ นสนั ตสิ ขุ ตาบลสถาน องค๑การบรหิ ารสํวนตาบลสกาด บา๎ นสกาดกลาง ตาบลสกาด องค๑การบริหารสํวนตาบลไชยวฒั นา บา๎ นหว๎ ยทําง ตาบลไชยวฒั นา องค๑การบรหิ ารสวํ นตาบลวรนคร บา๎ นมอน ตาบลวรนคร องค๑การบริหารสวํ นตาบลปุากลาง บ๎านนา้ เปิน ตาบลปาุ กลาง องค๑การบรหิ ารสํวนตาบลภูคา บ๎านเตย๐ กลาง ตาบลภูคา เอกสารประกอบการพจิ ารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 19
ส่วนท่ี 2 เอกสารทเี่ ก่ยี วขอ้ ง นโยบายและจดุ เนน้ การดาเนนิ งาน สานักงาน กศน.ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 วิสยั ทัศน์ คนไทยทุกชํวงวัยไดร๎ บั โอกาสทางการศกึ ษาและการเรียนรู๎ตลอดชีวติ อยํางมีคณุ ภาพ มีทักษะท่ีจาเปน็ และสมรรถนะท่สี อดรับกบั ทิศทางการพัฒนาประเทศ สามารถดารงชวี ิตได๎อยํางเหมาะสมบนรากฐานของหลัก ปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพยี ง พันธกจิ 1. จัดและสํงเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่มีคุณภาพ สอดคล๎อง กับหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และความเปล่ียนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม เพ่ือยกระดับการศึกษา และ พัฒนาสมรรถนะ ทักษะการเรียนร๎ูของประชาชนกลํุมเปูาหมายให๎เหมาะสมในแตํละชํวงวัย ให๎พร๎อมรับ การ เปลี่ยนแปลงและการปรับตัวในการดารงชีวิตได๎อยํางเหมาะสม ก๎าวสํูการเป็นสังคมแหํงการเรียนร๎ูตลอดชีวิต อยาํ งยัง่ ยืน 2. พัฒนาหลักสตู ร รปู แบบการจดั กิจกรรมการเรียนรู๎ ส่อื และนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการศึกษา การ วัดและประเมินผลในทุกรูปแบบให๎มีคุณภาพและมาตรฐานสอดคล๎องกับรูปแบบการจัดการเรียนร๎ูและบริบท ในปจั จุบนั 3. สํงเสริมและพัฒนาเทคโนโลยีทางการศึกษา และนาเทคโนโลยีมาพัฒนาเพื่อเพ่ิมชํองทางและ โอกาส การเรียนร๎ู รวมถงึ การเพิม่ ประสทิ ธิภาพในการจดั และให๎บริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศัย ใหก๎ ับประชาชนกลํุมเปูาหมายอยาํ งทว่ั ถงึ 4. สํงเสริมสนับสนุน แสวงหา และประสานความรํวมมือเชิงรุกกับภาคีเครือขําย ให๎เข๎ามามีสํวนรํวม ในการสนับสนุนและจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และการเรียนรู๎ตลอดชีวิตในรูปแบบ ตาํ ง ๆ ใหก๎ บั ประชาชน 5. พฒั นาระบบการบรหิ ารจดั การภายในองคก๑ รให๎มีเอกภาพ เพอื่ การบริหารราชการที่ดี บนหลัก ของ ธรรมาภิบาล มปี ระสิทธิภาพ ประสทิ ธผิ ล และคลอํ งตัวมากย่ิงขึน้ 6.ยกระดับการบริหารและการพัฒนาศักยภาพบุคลากรให๎มีความร๎ู ทักษะ สมรรถนะ คุณธรรม และ จริยธรรมทีด่ ี เพือ่ เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพของการให๎บริการทางการศึกษาและการเรยี นร๎ูทีม่ ีคุณภาพมากย่ิงข้นึ เอกสารประกอบการพจิ ารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 20
เป้าประสงค์ 1. ประชาชนผ๎ูด๎อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษารวมท้ังประชาชนทั่วไปได๎รับโอกาส ทาง การศึกษาในรูปแบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน การศึกษาตํอเน่ือง และการศึกษา ตาม อัธยาศัยท่ีมีคุณภาพอยํางเทําเทียมและท่ัวถึง เป็นไปตามบริบท สภาพปัญหาและความต๎องการของแตํละ กลมุํ เปาู หมาย 2. ประชาชนได๎รบั การยกระดับการศึกษา สร๎างเสริมและปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม หน๎าที่ความเป็น พลเมืองท่ีดีภายใต๎การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย๑เป็นประมุข ท่ีสอดคล๎องกับหลัก ปรชั ญา ของเศรษฐกิจพอเพยี ง อันนาไปสูํการยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมสร๎างความเข๎มแข็งให๎ชุมชน เพื่อ พฒั นา ไปสูํความมั่นคงและย่งั ยนื ทางด๎านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ประวัตศิ าสตร๑ และสงิ่ แวดลอ๎ ม 3. ประชาชนได๎รับการพัฒนาทักษะการเรียนรู๎และแสวงหาความรู๎ด๎วยตนเองผํานแหลํงเรียนรู๎ ชํอง ทางการเรียนรู๎ และกิจกรรมการเรียนรู๎รูปแบบตําง ๆ รวมท้ังมีเจตคติทางสังคม การเมือง วิทยาศาสตร๑ และ เทคโนโลยีท่ีเหมาะสม สามารถคิดวิเคราะห๑ แยกแยะอยํางมีเหตุผล และนาไปประยุกต๑ใช๎ในชีวิตประจาวัน รวมถงึ การแกป๎ ัญหาและพฒั นาคุณภาพชวี ติ ได๎อยํางสรา๎ งสรรค๑ 4. หนํวยงานและสถานศึกษา กศน. มีหลักสูตร สื่อ นวัตกรรม ชํองทางการเรียนร๎ู และกระบวนการ เรียนรู๎ในรูปแบบที่หลากหลาย ทันสมัย และรองรับกับสภาวะการเรียนร๎ูในสถานการณ๑ตําง ๆ เพื่อแก๎ปัญหา และพัฒนาคุณภาพชีวิตตามความต๎องการของประชาชนและชุมชน รวมทั้งตอบสนองกับการเปลี่ยนแป ลง บริบท ด๎านเศรษฐกิจ สงั คม การเมอื ง วัฒนธรรม ประวตั ศิ าสตร๑ และส่งิ แวดลอ๎ ม 5. หนํวยงานและสถานศึกษา กศน. สามารถนาเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยีดิจิทัล มา พัฒนาเพ่ือเพิ่มชํองทางการเรียนร๎ู และนามาใช๎ในการยกระดับคุณภาพในการจัดการเรียนร๎ูและโอกาสการ เรียนรู๎ ให๎กับประชาชน 6. ชุมชนและภาคีเครือขํายทุกภาคสํวน มีสํวนรํวมในการจัด สํงเสริม และสนับสนุนการศึกษา นอก ระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย รวมท้ังการขบั เคล่อื นกิจกรรมการเรียนรูข๎ องชมุ ชน 7. หนํวยงานและสถานศึกษามีระบบการบริหารจัดการองค๑กรที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และเป็นไป ตามหลกั ธรรมาภิบาล 8. บุคลากร กศน. ทุกประเภททุกระดับได๎รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มทักษะและสมรรถนะในการ ปฏิบัติงาน และการให๎บริการทางการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย รวมถึงการปฏิบัติงานตาม สายงานอยาํ งมี ประสทิ ธภิ าพ จุดเนน้ การดาเนนิ งานประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 1. น๎อมนาพระบรมราโชบายด๎านการศึกษาสูกํ ารปฏบิ ัติ 1.1 สืบสานศาสตรพ๑ ระราชา โดยการสร๎างและพัฒนาศูนย๑สาธติ และเรียนร๎ู “โคก หนอง นา โมเดล” เพื่อเปน็ แนวทางในการจัดการบรหิ ารทรัพยากรรูปแบบตําง ๆ ท้งั ดิน นา้ ลม แดด รวมถึงพืชพันธ๑ุ ตําง ๆ และสงํ เสรมิ การใชพ๎ ลังงานทดแทนอยํางมปี ระสิทธิภาพ เอกสารประกอบการพิจารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 21
1.2 จดั ใหม๎ ี “หน่ึงชมุ ชน หนึง่ นวัตกรรมการพฒั นาชมุ ชน” เพอื่ ความกินดี อยดํู ี มงี านทา 1.3 การสร๎างกลมุํ จติ อาสาพฒั นาชุมชน รวมท้งั ปลกู ฝงั ผู๎เรียนใหม๎ ีหลักคดิ ท่ถี กู ต๎องดา๎ น คุณธรรม จริยธรรม มีทัศนคติท่ีดีตํอบ๎านเมือง และเป็นผ๎ูมีความพอเพียง ระเบียบวินัย สุจริต จิตอาสา ผําน กิจกรรมการพฒั นา ผเ๎ู รียนโดยการใช๎กระบวนการลูกเสอื และยุวกาชาด 2. สํงเสริมการจัดการศกึ ษาและการเรียนรูต๎ ลอดชวี ิตสาหรับประชาชนทเ่ี หมาะสมกับทกุ ชํวงวัย 2.1 สํงเสริมการจดั การศึกษาอาชพี เพ่อื การมีงานทา ในรูปแบบ Re-Skill& Up-Skill และ การสร๎าง นวัตกรรมและผลิตภัณฑ๑ท่ีมีคุณภาพ มีความหลากหลาย ทันสมัย และตอบสนองความต๎องการของ ประชาชน ผูร๎ บั บริการ และสามารถออกใบรบั รองความรค๎ู วามสามารถเพ่ือนาไปใชใ๎ นการพัฒนาอาชีพได๎ 2.2 สงํ เสริมและยกระดบั ทักษะภาษาอังกฤษให๎กบั ประชาชน (English for ALL) 2.3 สํงเสรมิ การเรียนการสอนทเี่ หมาะสมสาหรบั ผ๎ูทเี่ ข๎าสูํสังคมสูงวยั อาทิ การฝกึ อบรม อาชีพ ที่เหมาะสมรองรับสังคมสูงวัย หลักสูตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสํงเสริมสมรรถนะผู๎สูงวัย และ หลักสูตร การดูแลผู๎สูงวัย โดยเน๎นการมีสํวนรํวมกับภาคีเครือขํายทุกภาคสํวนในการเตรียมความพร๎อมเข๎าสํู สังคมสูงวยั 3. พัฒนาหลกั สตู ร ส่อื เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษา แหลํงเรียนรู๎ และรูปแบบ การจัดการ ศึกษาและการเรียนรู๎ ในทุกระดับ ทุกประเภท เพ่ือประโยชน๑ตํอการจัดการศึกษาท่ีเหมาะสม กับทุก กลํุมเปูาหมาย มีความทันสมัย สอดคล๎องและพร๎อมรองรับกับบริบทสภาวะสังคมปัจจุบัน ความต๎องการ ของ ผเ๎ู รียน และสภาวะการเรียนร๎ใู นสถานการณต๑ ําง ๆ ทีจ่ ะเกดิ ข้นึ ในอนาคต 3.1 พฒั นาระบบการเรียนรู๎ ONIE Digital Leaming Platform ที่รองรับ DEEP ของ กระทรวงศกึ ษาธิการ และชอํ งทางเรยี นรู๎รูปแบบอืน่ ๆ ทงั้ Online On-site และ On-air 3.2 พฒั นาแหลํงเรียนร๎ูประเภทตําง ๆ อาทิ Digital Science Museum/ Digital Science Center/ Digital Library ศูนย๑การเรยี นรท๎ู ุกชวํ งวยั และศูนย๑การเรียนรู๎ต๎นแบบ กศน. (Co-Learning Space) เพือ่ ให๎สามารถ “เรยี นร๎ูไดอ๎ ยาํ งท่วั ถงึ ทุกท่ี ทกุ เวลา” 3.3 พฒั นาระบบรับสมัครนกั ศึกษาและสมคั รฝกึ อบรมแบบออนไลน๑ มรี ะบบการเทียบโอน ความรู๎ ระบบสะสมหนํวยการเรียนรู๎ (Credit Bank System) และพัฒนา/ขยายการให๎บริการระบบทดสอบ อิเลก็ ทรอนกิ ส๑ (E-exam) 4. บรู ณาการความรํวมมอื ในการสํงเสรมิ สนบั สนุน และจัดการศึกษาและการเรียนรู๎ให๎กับ ประชาชน อยํางมคี ณุ ภาพ 4.1 รํวมมือกับภาคีเครอื ขํายท้ังภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม และองคก๑ รปกครองสวํ นท๎องถนิ่ รวมทั้ง สํงเสริมและสนับสนุนการมีสํวนรํวมของชุมชน อาทิ การสํงเสริมการฝึกอาชีพท่ีเป็นอัตลักษณ๑และ บริบทของชมุ ชน สํงเสริมการตลาดและขยายชอํ งทางการจาหนาํ ยเพ่อื ยกระดับผลิตภัณฑ/๑ สนิ ค๎า กศน. 4.2 บรู ณาการความรวํ มมอื กับหนวํ ยงานตําง ๆ ในสังกดั กระทรวงศกึ ษาธิการ ท้ังใน สวํ นกลาง และภมู ิภาค 5. พฒั นาศักยภาพและประสิทธิภาพในการทางานของบุคลากร กศน. เอกสารประกอบการพิจารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 22
5.1 พฒั นาศกั ยภาพและทกั ษะความสามารถดา๎ นเทคโนโลยีดจิ ิทัล (Digital Literacy & Digital Skills) ใหก๎ บั บุคลากรทุกประเภททุกระดบั รองรับความเป็นรัฐบาลดิจิทัลอยํางมีประสิทธิภาพ รวมท้ัง พัฒนาครูให๎มีทักษะ ความร๎ู และความชานาญในการใช๎ภาษาอังกฤษ การผลิตส่ือการเรียนรู๎และการจัดการ เรียนการสอนเพือ่ ฝึกทกั ษะ การคิดวิเคราะห๑อยาํ งเป็นระบบและมเี หตุผล เป็นขั้นตอน 5.2 จัดกจิ กรรมเสริมสร๎างความสัมพนั ธ๑ ของบุคลากร กศน.และกจิ กรรมเพิ่มประสทิ ธภิ าพ ในการทางานรํวมกันในรูปแบบตําง ๆ อาทิ การแขํงขันกีฬา การอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาประสิทธิภาพ ใน การทางาน 6. ปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างและระบบบริหารจัดการองค์กร ปัจจัยพื้นฐานในการจัด การศึกษา และการประชาสมั พันธ์สรา้ งการรบั รู้ตอ่ สาธารณะชน 6.1 เรงํ ผลักดนั ราํ งพระราชบญั ญัตสิ งํ เสรมิ การเรยี นร๎ู พ.ศ. ... ใหส๎ าเร็จ และปรับโครงสร๎าง การบริหารและอัตรากาลังให๎สอดคล๎องกับบริบทการเปลี่ยนแปลง เรํงการสรรหา บรรจุ แตํงตั้งท่ีมี ประสทิ ธิภาพ 6.2 นานวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช๎ในการบรหิ ารจดั การ พฒั นาระบบการทางาน และข๎อมูล สารสนเทศด๎านการศึกษาที่ทันสมัย รวดเร็ว และสามารถใช๎งานทันที โดยจัดตั้งศูนย๑ข๎อมูลกลาง กศน. เพือ่ จัดทา ข๎อมูล กศน. ท้ังระบบ (ONE ONIE) 6.3 พฒั นา ปรับปรุง ซํอมแซม ฟ้นื ฟูอาคารสถานท่ี และสภาพแวดล๎อมโดยรอบของ หนํวยงาน สถานศกึ ษา และแหลํงเรียนรท๎ู ุกแหงํ ให๎สะอาด ปลอดภยั พรอ๎ มให๎บรกิ าร 6.4 ประชาสัมพนั ธ/๑ สรา๎ งการรับรใ๎ู ห๎กับประชาชนทั่วไปเกย่ี วกับการบริการทางวิชาการ/ กิจกรรม ด๎านการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และสร๎างชํองทางการแลกเปล่ียนเรียนร๎ูด๎าน วิชาการ ของหนํวยงานและสถานศึกษาในสังกัด อาทิ ขําวประชาสัมพันธ๑ ผํานส่ือรูปแบบตําง ๆ การจัด นทิ รรศการ/มหกรรม วชิ าการ กศน. ภารกจิ ตอ่ เนอื่ ง 1. ดา้ นการจดั การศึกษาและการเรยี นรู้ 1.1 การศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน 1) สนับสนุนการจดั การศึกษานอกระบบต้ังแตปํ ฐมวยั จนจบการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐานโดย ดาเนินการ ให๎ผ๎ูเรียนได๎รับการสนับสนุนคําจัดซื้อหนังสือเรียน คําจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู๎เรียน และคํา จัดการเรยี น การสอนอยํางท่ัวถงึ และเพยี งพอเพ่ือเพิ่มโอกาสในการเข๎าถึงบริการทางการศึกษาที่มีคุณภาพโดย ไมํเสียคาํ ใช๎จาํ ย 2) จัดการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้ันพืน้ ฐานใหก๎ บั กลุํมเปาู หมายผดู๎ อ๎ ย พลาด และ ขาดโอกาสทางการศกึ ษา ผํานการเรียนแบบเรยี นรูด๎ ว๎ ยตนเอง การพบกลํุม การเรียนแบบชั้นเรียน และการจัด การศึกษาทางไกล 3) พฒั นาประสทิ ธภิ าพ คณุ ภาพ และมาตรฐานการจัดการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษา เอกสารประกอบการพิจารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 23
ขั้นพ้ืนฐาน ทั้งด๎านหลักสูตรรูปแบบ/กระบวนการเรียนการสอน ส่ือและนวัตกรรม ระบบการวัดและ ประเมินผล การเรียน และระบบการใหบ๎ ริการนักศกึ ษาในรูปแบบอ่ืน ๆ 4) จัดให๎มีการประเมนิ เพื่อเทยี บระดบั การศกึ ษา และการเทยี บโอนความรแ๎ู ละประสบการณ๑ ท่ีมีความโปรํงใส ยุติธรรม ตรวจสอบได๎ มีมาตรฐานตามท่ีกาหนด และสามารถตอบสนองความต๎องการ ของ กลมํุ เปาู หมายได๎อยาํ งมีประสทิ ธิภาพ 5) จดั ให๎มีกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผ๎ูเรยี นทีม่ คี ุณภาพทผ่ี ู๎เรยี นต๎องเรยี นรูแ๎ ละเข๎ารํวมปฏบิ ตั ิ กิจกรรม เพื่อเป็นสํวนหนึ่งของการจบหลักสูตร อาทิ กิจกรรมเสริมสร๎างความสามัคคี กิจกรรมเก่ียวกับการ ปูองกัน และแก๎ไขปัญหายาเสพติดการแขํงขันกีฬา การบาเพ็ญสาธารณประโยชน๑อยํางตํอเนื่อง การสํงเสริม การปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย๑ทรงเป็นประมุข กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี และ ยุวกาชาด กจิ กรรม จติ อาสา และการจัดตั้งชมรม/ชุมนุม พร๎อมทั้งเปิดโอกาสให๎ผู๎เรียนนากิจกรรมการบาเพ็ญ ประโยชนอ๑ ื่น ๆ นอกหลกั สตู รมาใชเ๎ พมิ่ ชวั่ โมงกิจกรรมใหผ๎ เู๎ รยี นจบตามหลักสตู รได๎ 1.2 การสง่ เสรมิ การรหู้ นงั สือ 1) พฒั นาระบบฐานข๎อมลู ผูไ๎ มรํ ๎ูหนังสือ ใหม๎ ีความครบถ๎วน ถกู ตอ๎ ง ทันสมยั และเปน็ ระบบ เดียวกัน ท้งั สํวนกลางและสํวนภมู ิภาค 2) พัฒนาและปรบั ปรุงหลกั สูตร สอื่ แบบเรยี นเครอ่ื งมอื วัดผลและเครือ่ งมอื การดาเนนิ งาน การ สงํ เสรมิ การรู๎หนงั สอื ทสี่ อดคล๎องกบั สภาพและบรบิ ทของแตลํ ะกลมํุ เปูาหมาย 3) พัฒนาครู กศน. และภาคเี ครอื ขํายท่ีรํวมจดั การศึกษา ให๎มีความร๎ูความสามารถ และ ทักษะการ จัดกระบวนการเรียนรู๎ให๎กับผ๎ูไมํรู๎หนังสืออยํางมีประสิทธิภาพ และอาจจัดให๎มีอาสาสมัครสํงเสริม การรหู๎ นังสอื ใน พ้นื ทที่ ม่ี ีความต๎องการจาเปน็ เปน็ พเิ ศษ 4) สงํ เสรมิ สนับสนนุ ใหส๎ ถานศกึ ษาจดั กจิ กรรมสงํ เสริมการรู๎หนังสือ การคงสภาพการรู๎ หนังสือ การพัฒนาทักษะการรู๎หนังสือให๎กับประชาชนเพื่อเป็นเครื่องมือในการศึกษาและเรียนร๎ูอยํางตํอเนื่อง ตลอดชีวิต ของประชาชน 1.3 การศึกษาตอ่ เนอื่ ง 1) จัดการศึกษาอาชีพเพ่อื การมีงานทาอยํางยั่งยืน โดยให๎ความสาคญั กับการจัดการศึกษา อาชพี เพอื่ การมีงานทาในกลํุมอาชีพเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม คหกรรม และอาชีพเฉพาะทาง หรือการบริการ รวมถึงการเน๎นอาชีพชํางพ้ืนฐาน ที่สอดคล๎องกับศักยภาพของผ๎ูเรียน ความต๎องการและ ศักยภาพของแตลํ ะพ้นื ที่ มีคุณภาพได๎มาตรฐานเป็นท่ียอมรับ สอดรับกับความต๎องการของตลาดแรงงาน และ การพัฒนาประเทศ ตลอดจน สร๎างความเข๎มแข็งให๎กับศูนย๑ฝึกอาชีพชุมชน โดยจัดให๎มีการสํงเสริมการ รวมกลํุมวิสาหกิจชุมชน การพัฒนา หนึ่งตาบลหน่ึงอาชีพเดํน การประกวดสินค๎าดีพรีเมี่ยม การสร๎างแบรนด๑ ของ กศน. รวมถงึ การสํงเสริมและจัดหาชํองทางการจาหนํายสินค๎าและผลิตภัณฑ๑ และให๎มีการกากับ ติดตาม และรายงานผลการจัดการศกึ ษาอาชพี เพือ่ การมีงานทาอยํางเป็นระบบและตํอเน่ือง 2) จัดการศกึ ษาเพอื่ พฒั นาทักษะชีวติ ใหก๎ ับทุกกลมํุ เปาู หมาย โดยเฉพาะคนพิการ ผสู๎ ูงอายุ ท่ี เอกสารประกอบการพิจารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 24
สอดคล๎องกับความต๎องการจาเป็นของแตํละบุคคล และมุํงเน๎นให๎ทุกกลุํมเปูาหมายมีทักษะการดารงชีวิต ตลอดจน สามารถประกอบอาชีพพ่ึงพาตนเองได๎มีความร๎ูความสามารถในการบริหารจัดการชีวิตของตนเองให๎ อยูํในสังคม ได๎อยํางมีความสุขสามารถเผชิญสถานการณ๑ตําง ๆ ท่ีเกิดขึ้นในชีวิตประจาวันได๎อยํางมี ประสทิ ธิภาพ และเตรยี มพร๎อมสาหรับการปรับตัวให๎ทันตํอการเปล่ียนแปลงของขําวสารข๎อมูลและเทคโนโลยี สมัยใหมํในอนาคต โดยจัดกิจกรรมท่ีมีเน้ือหาสาคัญตําง ๆ เชํน การอบรมจิตอาสา การให๎ความรู๎เพ่ือการปูอง การการแพรํระบาด ของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COMID - 19) การอบรมพัฒนาสุขภาพกายและสุขภาพจิต การอบรมคุณธรรม และจริยธรรม การปูองกันภัยยาเสพติด เพศศึกษา การปลูกฝังและการสร๎างคํานิยมที่พึง ประสงค๑ ความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย๑สิน ผํานการอบรมเรียนรู๎ในรูปแบบตําง ๆ อาทิ คํายพัฒนาทักษะ ชีวิต การจดั ตั้งชมรม/ชมุ นมุ การอบรมสํงเสรมิ ความสามารถพเิ ศษตําง ๆ เป็นตน๎ 3) จดั การศกึ ษาเพอื่ พฒั นาสังคมและชุมชน โดยใชห๎ ลักสตู รและการจัดกระบวนการเรยี นร๎ู แบบบูรณาการในรูปแบบของการฝึกอบรมการประชุม สัมมนา การจัดเวทีแลกเปล่ียนเรียนร๎ูการจัดกิจกรรม จติ อาสา การสร๎างชุมชนนกั ปฏบิ ตั ิ และรูปแบบอนื่ ๆ ท่ีเหมาะสมกับกลมุํ เปูาหมาย และบรบิ ทของชุมชน แตํละ พน้ื ที่ เคารพความคิดของผ๎ูอื่น ยอมรับความแตกตาํ งและหลากหลายทางความคิดและอุดมการณ๑ รวมทั้งสังคม พหุวัฒนธรรม โดยจัดกระบวนการให๎บุคคลรวมกลุํมเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนร๎ูรํวมกันสร๎างกระบวนการจิต สาธารณะ การสร๎างจติ สานึกความเป็นประชาธิปไตย การเคารพในสิทธิและเสรีภาพ และรับผิดชอบตํอหน๎าท่ี ความเป็นพลเมือง ที่ดีภายใต๎การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย๑เป็นประมุข การสํงเสริม คุณธรรม จริยธรรม การเป็นจิตอาสา การบาเพ็ญประโยชน๑ในชุมชนการ บริหารจัดการํน๎า การรับมือกับสา ธารณภัย การอนุรักษ๑พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล๎อม การชํวยเหลือซ่ึงกันและกันในการพัฒนา สังคมและชมุ ชนอยาํ งยง่ั ยนื 4) การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู๎ตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งผาํ นกระบวนการเรียนร๎ู ตลอดชีวิต ในรปู แบบตําง ๆ ให๎กบั ประชาชน เพอ่ื เสริมสรา๎ งภมู ิคุ๎มกัน สามารถยืนหยัดอยํูได๎อยํางมั่นคง และมี การบรหิ ารจดั การ ความเส่ยี งอยํางเหมาะสม ตามทศิ ทางการพฒั นาประเทศสํคู วามสมดุลและยง่ั ยืน 1.4 การศึกษาตามอธั ยาศยั 1) พัฒนาแหลงํ การเรียนร๎ทู ่ีมีบรรยากาศและสภาพแวดลอ๎ มที่เอ้ือตอํ การอํานและพัฒนา ศักยภาพ การเรียนรู๎ให๎เกิดขึ้นในสังคมไทย ให๎เกิดข้ึนอยํางกว๎างขวางและท่ัวถึง เชํน การพัฒนา กศน. ตาบล ห๎องสมุด ประชาชนทุกแหํงให๎มีการบริการที่ทันสมัย สํงเสริมและสนับสนุนอาสาสมัครสํงเสริมการอําน การ สร๎างเครือขําย สํงเสริมการอําน จัดหนํวยบริการห๎องสมุดเคลื่อนที่ ห๎องสมุดชาวตลาด พร๎อมหนังสือและ อุปกรณ๑เพ่ือจัดกิจกรรม สํงเสริมการอํานและการเรียนรู๎ที่หลากหลายให๎บริการกับประชาชนในพ้ืนท่ี ตําง ๆ อยํางทั่วถึง สม่าเสมอ รวมทั้ง เสริมสร๎างความพร๎อมในด๎านบุคลากร สื่ออุปกรณ๑เพื่อสนับสนุนการอําน และ การจดั กจิ กรรมเพือ่ สงํ เสริมการอําน อยาํ งหลากหลายรปู แบบ 2) จดั สรา๎ งและพฒั นาศูนยว๑ ทิ ยาศาสตร๑เพือ่ การศกึ ษา ให๎เป็นแหลงํ เรียนร๎วู ิทยาศาสตรต๑ ลอด ชีวิต ของประชาชน เป็นแหลํงสร๎างนวัตกรรมฐานวิทยาศาสตร๑และเป็นแหลํงทํองเที่ยวเชิงศิลปะวิทยาการ ประจาทอ๎ งถ่นิ โดยจดั ทาและพฒั นานทิ รรศการสอ่ื และกจิ กรรมการศกึ ษาท่ีเน๎นการเสริมสร๎างความร๎ูและสร๎าง เอกสารประกอบการพิจารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 25
แรงบนั ดาลใจ ดา๎ นวทิ ยาศาสตร๑สอดแทรกวธิ ีการคดิ เชิงวิเคราะห๑ การคิดเชิงสร๎างสรรค๑ และปลูกฝังเจตคติทาง วิทยาศาสตร๑ ผํานการกระบวนการเรียนรู๎ท่ีบูรณาการความรู๎ด๎านวิทยาศาสตร๑ ควบคํูกับเทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร๑และคณิตศาสตร๑ รวมท้ังสอดคล๎องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง บริบทของชุมชน และประเทศ รวมทง้ั ระดับภมู ภิ าค และระดับโลกเพอ่ื ใหป๎ ระชาชนมีความรแ๎ู ละสามารถนาความรู๎และทักษะไป ประยุกต๑ใช๎ในการดาเนินชีวิต การพัฒนา อาชีพ การรักษาส่ิงแวดล๎อม การบรรเทาและปูองกันภัยพิบัติทาง ธรรมชาติ รวมท้ังมีความสามารถในการปรับตัวรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของโลกท่ีเป็นไปอยําง รวดเร็วและรนุ แรง (Disruptive Changes) ไดอ๎ ยาํ ง มปี ระสิทธภิ าพ 3) ประสานความรํวมมือหนวํ ยงาน องคก๑ ร หรือภาคสํวนตําง ๆ ทม่ี แี หลงํ เรียนร๎ูอื่น ๆ เพอ่ื สํงเสริม การจัดการศึกษาตามอัธยาศัยให๎มีรูปแบบที่หลากหลาย และตอบสนองความต๎องการของประชาชน เชนํ พพิ ธิ ภณั ฑ๑ ศูนย๑เรยี นรู๎ แหลํงโบราณคดี วดั ศาสนาสถาน ห๎องสมุด รวมถึงภูมิปัญญาทอ๎ งถนิ่ เปน็ ต๎น 2. ด้านหลักสูตร สือรูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลงานบริการ ทาง วิชาการ และการประกันคุณภาพการศึกษา 2.1 สงํ เสริมการพฒั นาหลักสตู ร รปู แบบการจดั กระบวนการเรียนรู๎และกจิ กรรมเพือ่ สงํ เสริม การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยท่ีหลากหลาย ทันสมัย รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรฐาน สมรรถนะ และ หลกั สูตรท๎องถน่ิ ทีส่ อดคล๎องกบั สภาพบรบิ ทของพืน้ ทแ่ี ละความต๎องการของกลํุมเปูาหมายและ ชมุ ชน 2.2 สํงเสรมิ การพัฒนาสอื่ แบบเรยี น สอ่ื อิเล็กทรอนกิ สแ๑ ละสื่ออ่ืน ๆ ท่เี อื้อตอํ การเรยี นรข๎ู อง ผเู๎ รยี น กลํุมเปูาหมายทวั่ ไปและกลํมุ เปาู หมายพเิ ศษ เพื่อใหผ๎ ๎เู รยี นสามารถเรียนรไ๎ู ด๎ทกุ ท่ี ทุกเวลา 2.3 พัฒนารูปแบบการจดั การศึกษาทางไกลให๎มีความทันสมยั หลากหลายชํองทางการเรยี นรู๎ ด๎วยระบบหอ๎ งเรียนและการควบคมุ การสอบรปู แบบออนไลน๑ 2.4 พัฒนาระบบการประเมนิ เพื่อเทียบระดับการศึกษา และการเทียบโอนความรูแ๎ ละ ประสบการณ๑ เพ่ือให๎มีคุณภาพ มาตรฐาน และสามารถตอบสนองความต๎องการของกลํุมเปูาหมายได๎อยํางมี ประสทิ ธิภาพ รวมท้ัง มกี ารประชาสมั พันธ๑ใหส๎ าธารณชนได๎รบั รู๎และสามารถเข๎าถงึ ระบบการประเมนิ ได๎ 2.5 พฒั นาระบบการวดั และประเมนิ ผลการศึกษานอกระบบทกุ หลกั สูตร โดยเฉพาะหลกั สูตร ในระดบั การศึกษาขน้ั พืน้ ฐานให๎ได๎มาตรฐานโดยการนาแบบทดสอบกลาง และระบบการสอบอิเลก็ ทรอนกิ ส๑ (e-Exam) มาใชอ๎ ยํางมีประสิทธิภาพ 2.6 สํงเสรมิ และสนบั สนนุ การศกึ ษาวิจยั เพือ่ พัฒนาหลักสตู ร รปู แบบการจดั กระบวนการ เรียนรู๎ การ วัดและประเมนิ ผล และเผยแพรรํ ูปแบบการจดั สํงเสริม และสนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบ และการศกึ ษา ตามอัธยาศัย รวมทั้งใหม๎ กี ารนาไปสกูํ ารปฏิบัติอยํางกว๎างขวางและมีการพัฒนาให๎เหมาะสมกับ บริบทอยํางตอํ เน่ือง 2.7 พฒั นาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศกึ ษาให๎ไดม๎ าตรฐาน มีการพัฒนาระบบการ ประกัน คณุ ภาพภายในท่สี อดคล๎องกบั บริบทและภารกจิ ของ กศน. มากขึ้น เพ่ือพร๎อมรับการประเมินคุณภาพ ภายนอก โดยพัฒนาบุคลากรให๎มีความรู๎ ความเข๎าใจ ตระหนักถึงความสาคัญของระบบการประกันคุณภาพ เอกสารประกอบการพจิ ารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 26
และสามารถ ดาเนินการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาได๎อยํางตํอเน่ืองโดยใช๎การประเมินภายในด๎วย ตนเอง และจัดให๎มี ระบบสถานศึกษาพี่เล้ียงเข๎าไปสนับสนุนอยํางใกล๎ชิด สาหรับสถานศึกษาท่ียังไมํได๎เข๎ารับ การประเมินคุณภาพ ภายนอก ให๎พฒั นาคุณภาพการจัดการศึกษาให๎ได๎คณุ ภาพตามมาตรฐานท่ีกาหนด 3. ดา้ นเทคโนโลยีเพ่อื การศึกษา 3.1 ผลิตและพฒั นารายการวิทยุและรายการโทรทัศน๑เพือ่ การศกึ ษาเพ่ือใหเ๎ ชื่อมโยงและ ตอบสนอง ตํอการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของสถานศึกษาเพื่อกระจาย โอกาสทางการศึกษา สาหรับกลุํมเปูาหมายตําง ๆ ให๎มีทางเลือกในการเรียนรู๎ท่ีหลากหลายและมีคุณภาพ สามารถพัฒนาตนเองให๎รู๎เทําทัน สื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการสื่อสาร เชํน รายการพัฒนาอาชีพเพ่ือ การมีงานทา รายการติวเข๎มเตมิ เต็มความรู๎ รายการ รายการทากินกไ็ ด๎ ทาขายกด็ ี ฯลฯ เผยแพรํทางสถานีวิทยุ ศึกษา สถานีวทิ ยโุ ทรทัศนเ๑ พื่อการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ (ETV) และทางอินเทอร๑เนต็ 3.2 พฒั นาการเผยแพรํการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยโดยผาํ นระบบ เทคโนโลยีดิจิทัล และชํองทางออนไลน๑ตําง ๆ เชํน Youtube Facebook หรือ Application อื่น ๆ เพื่อ สํงเสริม ให๎ครู กศน. นาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช๎ในการสร๎างกระบวนการเรียนร๎ูด๎วยตนเอง (Do It Yourself : DIY) 3.3 พฒั นาสถานีวทิ ยศุ กึ ษาและสถานโี ทรทัศน๑เพ่ือการศึกษาเพ่อื เพมิ่ ประสทิ ธิภาพการผลติ และการออกอากาศให๎กลํุมเปูาหมายสามารถใช๎เป็นชํองทางการเรียนร๎ูท่ีมีคุณภาพได๎อยํางตํอเน่ืองตลอดชีวิต โดยขยายเครือขํายการรับฟงั ใหส๎ ามารถรับฟงั ได๎ทกุ ท่ี ทกุ เวลา ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศและเพิ่มชํองทาง ให๎ สามารถรับชมรายการโทรทศั น๑ไดท๎ ั้งระบบ Ku - Band C - Band Digital TV และทางอินเทอร๑เน็ต พร๎อมท่ีจะ รองรบั การพฒั นาเปน็ สถานวี ิทยโุ ทรทศั นเ๑ พื่อการศึกษาสาธารณะ (Free ETV) 3.4 พฒั นาระบบการให๎บริการสื่อเทคโนโลยีเพ่ือการศกึ ษาเพ่ือให๎ได๎หลายชํองทางท้ังทาง อินเทอร๑เน็ต และรูปแบบอ่ืน ๆ อาทิ Application บนโทรศัพท๑เคลื่อนท่ี และ Tablet รวมทั้งส่ือ Offline ใน รูปแบบ ตําง ๆ เพ่ือให๎กลํุมเปูาหมายสามารถเลือกใช๎บริการเพื่อเข๎าถึงโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู๎ได๎ ตามความตอ๎ งการ 3.5 สารวจ วิจัย ติดตามประเมนิ ผลดา๎ นการใชส๎ อื่ เทคโนโลยีเพอื่ การศึกษาอยาํ งตํอเนือ่ งเพ่ือ นาผล มาใช๎ในการพัฒนางานให๎มีความถูกต๎อง ทันสมัยและสามารถสํงเสริมการศึกษาและการเรียนร๎ูตลอด ชวี ิต ของประชาชนไดอ๎ ยาํ งแทจ๎ ริง 4. ด้านโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดาริ หรือโครงการอันเก่ียวเนอื่ งจากราชวงศ์ 4.1 สงํ เสรมิ และสนบั สนนุ การดาเนินงานโครงการอนั เน่ืองมาจากพระราชดาริหรือโครงการ อนั เกย่ี วเนื่องจากราชวงศ๑ 4.2 จดั ทาฐานขอ๎ มลู โครงการและกิจกรรมของ กศน.ที่สนองงานโครงการอนั เน่อื งมาจาก พระราชดาริหรือโครงการอนั เก่ียวเนื่องจากราชวงศเ๑ พือ่ นาไปใช๎ในการวางแผน การติดตามประเมินผลและการ พัฒนางานได๎อยาํ งมปี ระสทิ ธิภาพ 4.3 สํงเสรมิ การสรา๎ งเครือขํายการดาเนินงานเพ่อื สนบั สนนุ โครงการอนั เนอื่ งมาจาก เอกสารประกอบการพจิ ารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 27
พระราชดาริ เพอ่ื ให๎เกิดความเขม๎ แข็งในการจัดการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั 4.4 พฒั นาศูนย๑การเรยี นชมุ ชนชาวไทยภูเขา “แมํฟูาหลวง”เพอื่ ใหม๎ คี วามพรอ๎ มในการจัด การศกึ ษา นอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ตามบทบาทหนา๎ ที่ทก่ี าหนดไว๎อยํางมปี ระสิทธภิ าพ 4.5 จัดและสงํ เสรมิ การเรียนร๎ตู ลอดชีวติ ใหส๎ อดคลอ๎ งกับวถิ ชี ีวติ ของประชาชนบนพน้ื ทีส่ ูง ถ่ิน ทรุ กนั ดาร และพนื้ ทีช่ ายขอบ 5. ดา้ นการศกึ ษาในจังหวดั ชายแดนภาคใต้ พ้ืนทเ่ี ขตเศรษฐกจิ พิเศษและพื้นทีบ่ ริเวณ ชายแดน 5.1 พฒั นาการจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ในจงั หวัดชายแดน ภาคใต้ 1) จัดและพฒั นาหลกั สตู ร และกิจกรรมสํงเสรมิ การศกึ ษาและการเรียนรู๎ที่ตอบสนองปัญหา และความต๎องการของกลุํมเปูาหมายรวมทั้งอัตลักษณ๑และความเป็นพหุวฒั นธรรมของพ้นื ท่ี 2) พัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้นื ฐานอยํางเข๎มข๎นและตํอเนอ่ื ง เพ่ือให๎ ผูเ๎ รียนสามารถนาความรูท๎ ไี่ ดร๎ ับไปใช๎ประโยชนไ๑ ด๎จริง 3) ให๎หนํวยงานและสถานศกึ ษาจดั ใหม๎ มี าตรการดูแลรักษาความปลอดภัยแกบํ คุ ลากรและ นักศึกษา กศน.ตลอดจนผูม๎ าใชบ๎ รกิ ารอยาํ งท่วั ถึง 5.2 พฒั นาการจัดการศึกษาแบบบูรณาการในเขตพฒั นาเศรษฐกิจพิเศษ 1) ประสานความรวํ มมือกับหนวํ ยงานท่เี ก่ียวขอ๎ งในการจัดทาแผนการศึกษาตามยุทธศาสตร๑ และบรบิ ทของแตลํ ะจังหวัดในเขตพฒั นาเศรษฐกิจพเิ ศษ 2) จัดทาหลกั สูตรการศึกษาตามบรบิ ทของพืน้ ที่ โดยเน๎นสาขาที่เป็นความต๎องการของตลาด ให๎เกิดการพัฒนาอาชีพไดต๎ รงตามความต๎องการของพ้นื ที่ 5.3 จัดการศึกษาเพ่ือความม่นั คงของศนู ย์ฝกึ และพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณ ชายแดน(ศฝช.) 1) พัฒนาศนู ยฝ๑ ึกและพัฒนาอาชพี ราษฎรไทยบรเิ วณชายแดน เพื่อใหเ๎ ปน็ ศูนยฝ๑ ึกและสาธิต การประกอบอาชีพด๎านเกษตรกรรม และศูนย๑การเรียนร๎ูต๎นแบบการจัดกิจกรรมตามแนวพระราชดาริปรัชญา เศรษฐกจิ พอเพยี ง สาหรับประชาชนตามแนวชายแดนด๎วยวิธกี ารเรียนร๎ูทีห่ ลากหลาย 2) มุงํ จัดและพัฒนาการศกึ ษาอาชีพโดยใช๎วธิ กี ารหลากหลายใช๎รปู แบบเชิงรุกเพอื่ การเข๎าถึง กลํุมเปูาหมาย เชํน การจัดมหกรรมอาชีพ การประสานความรํวมมือกับเครือขําย การจัดอบรมแกนนาด๎าน อาชีพ ทเี่ น๎นเร่อื งเกษตรธรรมชาติท่ีสอดคลอ๎ งกบั บรบิ ทของชมุ ชนชายแดน ให๎แกํประชาชนตามแนวชายแดน 6. ด้านบคุ ลากรระบบการบริหารจดั การ และการมสี ่วนรว่ มของทุกภาคส่วน 6.1 การพฒั นาบุคลากร 1) พฒั นาบคุ ลากรทกุ ระดับทุกประเภทให๎มสี มรรถนะสงู ข้ึนอยํางตอํ เนื่อง ท้งั กํอนและ ระหวาํ ง การดารงตาแหนํงเพ่ือให๎มเี จตคติทดี่ ใี นการปฏิบัติงานให๎มีความรูแ๎ ละทักษะตามมาตรฐานตาแหนํง ให๎ ตรงกับสายงาน ความชานาญ และความต๎องการของบุคลากรสามารถปฏิบัติงานและบริหารจัดการการ เอกสารประกอบการพจิ ารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 28
ดาเนินงานของหนํวยงานและ สถานศึกษาได๎อยํางมีประสิทธิภาพรวมท้ังสํงเสริมให๎ข๎าราชการในสังกัดพัฒนา ตนเองเพอ่ื เล่ือนตาแหนงํ หรือเล่อื นวิทยฐานะโดยเน๎นการประเมนิ วทิ ยฐานะเชิงประจกั ษ๑ 2) พฒั นาศึกษานิเทศก๑ กศน. ให๎มีสมรรถนะท่จี าเปน็ ครบถ๎วน มีความเปน็ มอื อาชพี สามารถ ปฏิบัติการนิเทศได๎อยํางมีศักยภาพ เพื่อรํวมยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษานอกระบบและ การศึกษา ตามอัธยาศัยในสถานศึกษา 3) พัฒนาหัวหน๎า กศน.ตาบล/แขวงให๎มสี มรรถนะสงู ขึน้ เพ่ือการบริหารจัดการ กศน. ตาบล/แขวง และการปฏบิ ัติงานตามบทบาทภารกจิ อยาํ งมีประสิทธภิ าพ โดยเน๎นการเป็นนกั จัดการความร๎ูและ ผูอ๎ านวย ความสะดวกในการเรยี นรูเ๎ พ่อื ใหผ๎ เู๎ รียนเกิดการเรยี นร๎ทู ่ีมีประสิทธิภาพอยาํ งแทจ๎ ริง 4) พฒั นาครู กศน. และบคุ ลากรท่เี ก่ียวข๎องกับการจดั การศึกษาใหส๎ ามารถจัดรูปแบบการ เรียนร๎ู ได๎อยํางมีคุณภาพโดยสํงเสริมให๎มีความร๎ูความสามารถในการจัดทาแผนการสอน การจัดกระบวนการ เรียนร๎ู การวัด และประเมนิ ผล และการวิจัยเบ้อื งต๎น 5) พฒั นาศักยภาพบุคลากร ที่รบั ผดิ ชอบการบรกิ ารการศึกษาและการเรยี นร๎ู ใหม๎ ีความร๎ู ความสามารถและมคี วามเปน็ มืออาชพี ในการจดั บรกิ ารสํงเสริมการเรยี นรต๎ู ลอดชวี ติ ของประชาชน 6) สํงเสริมให๎คณะกรรมการ กศน. ทกุ ระดบั และคณะกรรมการสถานศึกษา มีสํวนรํวมใน การ บรหิ ารการดาเนินงานตามบทบาทภารกจิ ของ กศน.อยํางมีประสทิ ธภิ าพ 7) พัฒนาอาสาสมัคร กศน. ให๎สามารถทาหน๎าทส่ี นับสนุนการจดั การศกึ ษานอกระบบและ การศึกษาตามอธั ยาศยั ได๎อยาํ งมปี ระสิทธิภาพ 8) พัฒนาสมรรถนะและเสริมสรา๎ งความสัมพนั ธ๑ระหวาํ งบุคลากรรวมท้งั ภาคเี ครอื ขํายทัง้ ใน และตํางประเทศในทุกระดับ โดยจัดให๎มีกิจกรรมเพื่อเสริมสร๎างสัมพันธภาพและเพิ่มประสิทธิภาพในการ ทางาน รํวมกันในรูปแบบที่หลากหลายอยํางตํอเน่ืองอาทิ การแขํงขันกีฬา การอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนา ประสิทธภิ าพ ในการทางาน 6.2 การพฒั นาโครงสร้างพ้ืนฐานและอตั รากาลงั 1) จดั ทาแผนการพัฒนาโครงสร๎างพ้นื ฐานและดาเนินการปรับปรุงสถานท่ีและวัสดอุ ุปกรณ๑ ให๎มี ความพรอ๎ มในการจดั การศึกษาและการเรียนรู๎ 2) สรรหา บรรจุ แตงํ ตั้ง และบริหารอัตรากาลังทม่ี ีอยูทํ ง้ั ในสํวนทเ่ี ปน็ ขา๎ ราชการ พนกั งาน ราชการ และลกู จ๎าง ให๎เปน็ ไปตามโครงสรา๎ งการบรหิ ารและกรอบอัตรากาลัง รวมท้ังรองรับกับบทบาทภารกิจ ตามทก่ี าหนดไว๎ ให๎เกิดประสิทธภิ าพสงู สุดในการปฏิบตั ิงาน 3) แสวงหาความรํวมมือจากภาคีเครอื ขาํ ยทุกภาคสํวนในการระดมทรัพยากรเพื่อนามาใช๎ ในการปรับปรุงโครงสร๎างพ้ืนฐานให๎มีความพร๎อมสาหรับดาเนินกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศัย และการสํงเสรมิ การเรียนรูส๎ าหรับประชาชน 6.3 การพฒั นาระบบบริหารจดั การ 1) พัฒนาระบบฐานข๎อมูลให๎มีความครบถ๎วน ถูกต๎อง ทนั สมยั และเช่ือมโยงกันท่ัวประเทศ เอกสารประกอบการพิจารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 29
อยํางเป็นระบบเพ่ือให๎หนํวยงานและสถานศึกษาในสังกัดสามารถนาไปใช๎เป็นเคร่ืองมือสาคัญในการบริหาร การวางแผน การปฏิบัติงาน การติดตามประเมินผล รวมท้ังจัดบริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัย อยํางมีประสทิ ธภิ าพ 2) เพิ่มประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารจัดการงบประมาณ โดยพฒั นาระบบการกากบั ควบคมุ และ เรํงรดั การเบิกจาํ ยงบประมาณให๎เป็นตามเปาู หมายท่ีกาหนดไว๎ 3) พัฒนาระบบฐานขอ๎ มลู รวมของนกั ศกึ ษา กศน. ให๎มีความครบถว๎ น ถกู ต๎อง ทันสมยั และ เช่ือมโยงกันท่ัวประเทศ สามารถสืบค๎นและสอบทานได๎ทันความต๎องการเพ่ือประโยชน๑ในการจัดการศึกษา ใหก๎ ับ ผูเ๎ รยี นและการบรหิ ารจดั การอยํางมปี ระสิทธิภาพ 4) สงํ เสรมิ ให๎มีการจดั การความรู๎ในหนวํ ยงานและสถานศกึ ษาทุกระดับ รวมทง้ั การศกึ ษา วิจัย เพื่อสามารถนามาใช๎ในการพัฒนาประสิทธิภาพการดาเนินงานที่สอดคล๎องกับความต๎องการของ ประชาชน และชุมชนพร๎อมทัง้ พัฒนาขดี ความสามารถเชงิ การแขงํ ขันของหนวํ ยงานและสถานศึกษา 5) สร๎างความรวํ มมอื ของภาคเี ครอื ขาํ ยทุกภาคสํวน ทง้ั ภาครฐั เอกชน ประชาสงั คมทั้งใน ประเทศ และตํางประเทศ รวมท้ังสํงเสริมและสนับสนุนการมีสํวนรํวมของชุมชนเพื่อสร๎างความเข๎าใจ และให๎ เกิดความรวํ มมอื ในการสํงเสริม สนบั สนุน และจดั การศึกษาและการเรียนร๎ใู หก๎ บั ประชาชนอยาํ งมคี ุณภาพ 6) สงํ เสริมการใช๎ระบบสานักงานอเิ ล็กทรอนิกส๑ (e-office) ในการบรหิ ารจดั การ เชนํ 7) ระบบการ ลา ระบบสารบรรณอเิ ลก็ ทรอนิกส๑ ระบบการขอใชร๎ ถราชการ ระบบการขอ ใช๎ห๎องประชุม เปน็ ต๎น 8) พฒั นาและปรบั ระบบวิธกี ารปฏิบตั ริ าชการให๎ทันสมัย มีความโปรํงใส ปลอดการทุจริต และประพฤติมชิ อบ บริหารจัดการบนขอ๎ มลู และหลักฐานเชงิ ประจักษ๑ มุงํ ผลสัมฤทธิ์มคี วามโปรํงใส 6.4 การกากบั นิเทศติดตามประเมนิ และรายงานผล 1) สรา๎ งกลไกการกากับ นเิ ทศ ตดิ ตาม ประเมิน และรายงานผลการดาเนนิ งานการศึกษา นอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศยั ใหเ๎ ชอ่ื มโยงกบั หนวํ ยงาน สถานศกึ ษา และภาคเี ครือขํายท้ังระบบ 2) ใหห๎ นํวยงานและสถานศกึ ษาท่เี กย่ี วขอ๎ งทกุ ระดบั พัฒนาระบบกลไกการกากับ ตดิ ตาม และ รายงานผลการนานโยบายสกํู ารปฏิบัติ ให๎สามารถตอบสนองการดาเนินงานตามนโยบายในแตํละเรื่องได๎ อยํางมี ประสิทธิภาพ 3)สํงเสรมิ การใชเ๎ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร และสอ่ื อนื่ ๆ ทเี่ หมาะสม เพ่อื การ กากบั นิเทศ ติดตาม ประเมินผล และรายงานผลอยํางมปี ระสิทธิภาพ 4) พัฒนากลไกการติดตามประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ริ าชการตามคารบั รองการปฏิบัตริ าชการ ประจาปี ของหนํวยงาน สถานศึกษา เพื่อการรายงานผลตามตัวช้ีวัดในคารับรองการปฏิบัติราชการประจาปี ของสานักงาน กศน.ให๎ดาเนนิ ไปอยาํ งมปี ระสทิ ธภิ าพ เปน็ ไปตามเกณฑ๑ วธิ ีการ และระยะเวลาทกี่ าหนด 5) ใหม๎ กี ารเชื่อมโยงระบบการนิเทศในทุกระดับ ท้งั หนวํ ยงานภายในและภายนอกองคก๑ ร ต้ังแตํ สํวนกลาง ภูมิภาค กลุํมจังหวัด จังหวัด อาเภอ/เขต และตาบล/แขวง เพ่ือความเป็นเอกภาพในการใช๎ ข๎อมลู และการพัฒนางานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั เอกสารประกอบการพิจารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 30
การวิเคราะห์สภาพแวดลอ้ ม สถานศึกษาได๎ประชุมบุคลากรเพื่อรํวมกันประเมินสถานภาพของสถานศึกษาโดยใช๎การวิเค ราะห๑ สภาพแวดล๎อม (SWOT Analysis) ในการกาหนดจุดแข็งและจุดอํอนจากสภาพแวดล๎อมภายในสถานศึกษา รวมท้ังโอกาสและอุปสรรคจากสภาพแวดล๎อมภายนอกสถานศึกษาอันเป็นปัจจัยตํอการจัดการศึกษาของ สถานศกึ ษาตลอดจนนาข๎อเสนอแนะการพัฒนาและทิศทางการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสานักงานรับรอง มาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา ( องค๑การมหาชน ) และโดยต๎นสังกัดของสถานศึกษาไปใช๎ในการ กาหนดทศิ ทางการดาเนนิ งานของสถานศึกษา ซง่ึ ได๎ผลการประเมินสถานการณ๑ของสถานศึกษาดังนี้ ดังน้ี 1. จุดแขง็ ( Strengths )สภาพแวดลอ๎ มภายใน 1.1 ด๎านนโยบาย 1) มีโครงสรา๎ งทชี่ ัดเจน 2) มนี โยบายและการมอบหมายงานตามโครงสรา๎ งทช่ี ัดเจน 3) มพี ระราชบญั ญัติสงํ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย 4) มกี ารกาหนดนโยบายระดับสานกั ระดับจงั หวัด และระดบั อาเภอ 5) มีแผนพฒั นาคุณภาพการศกึ ษา และแผนปฏบิ ัตกิ ารประจาปี 6) มีการกาหนดกจิ กรรม เปูาหมาย ตรงตามสภาพปัญหาและความต๎องการ 1.2 ดา๎ นการบริการการจัดการเรียนการสอนและคณุ ภาพผ๎ูเรียน 1) มี กศน. ตาบล และบคุ ลากรพรอ๎ มใหบ๎ ริการครบทกุ ตาบล 2) จัดกิจกรรมการเรียนการสอนทีเ่ น๎นผเู๎ รียนเป็นสาคัญ 3) มรี ูปแบบในการจัดการเรียนการสอนท่หี ลากหลาย 4) ผลผลติ จากการจดั กิจกรรม กศน. มีความหลากหลาย ท้ังการศึกษาข้ันพื้นฐาน การศึกษาตํอเนื่อง เพอ่ื การมงี านทา และการศึกษาตามอธั ยาศัย 5) ผ๎เู รยี นมีคุณธรรม จริยธรรม (ดี) 1.3 ดา๎ นบุคลากร 1) มีบคุ ลากรรบั ผดิ ชอบงานทกุ ตาบล 2) บคุ ลากรสวํ นใหญํเป็นคนในพืน้ ที ทาให๎การประสานงานเป็นไปด๎วยดแี ละมีประสิทธภิ าพ 3) บุคลากรสามารถนาสื่อเทคโนโลยีมาใชใ๎ นการปฏบิ ัตงิ านได๎เป็นอยํางดี 4) บคุ ลากรได๎รับการพฒั นาความรอ๎ู ยํางตํอเน่ือง 5) มีการทางานเปน็ ทีม เอกสารประกอบการพจิ ารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 31
1.4 ดา๎ นวัสด/ุ อปุ กรณ๑ หนา้ 32 1) มวี ัสดอุ ปุ กรณท๑ เี่ พยี งพอตํอการปฏบิ ัตงิ านและการจดั กจิ กรรม กศน. 1.5 ดา๎ นงบประมาณ 1) มกี ารจดั สรรงบประมาณตามกิจกรรม 2) มีการใชจ๎ าํ ยงบประมาณตามแผน อยํางเหมาะสมและคม๎ุ คาํ 1.6 ด๎านการบรหิ ารจดั การ 1) ใช๎ กศน. เป็นฐานในการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั 2) มกี ารบรหิ ารจดั การตามหลักธรรมาภบิ าล 3) มีการสารวจความตอ๎ งการของผู๎เรยี น/ผ๎ูรบั บรกิ าร 4) มีแผนการปฏิบัตงิ านทชี่ ัดเจน 5) มเี อกภาพในการปฏิบัติงาน 6) มกี ารกระจายอานาจในการบรหิ ารจัดการแกบํ ุคลากร 7) มีหลกั สูตรที่หลากหลาย 8) มกี ารบริหารงบประมาณอยาํ งค๎มุ คํา 2. จดุ อ่อน ( สภาพแวดลอ้ มภายใน ) 2.1 ด๎านนโยบาย 1) นโยบายบางอยาํ งลาํ ชา๎ ทาใหไ๎ มสํ ามารถดาเนินการได๎ตามกาหนด 2) กจิ กรรมบางกิจกรรมเปน็ เร่ืองเรงํ ดวํ น มปี ัญหาตอํ การปฏิบตั ใิ นระดับพน้ื ท่ี 3) นโยบายบางนโยบายไมชํ ดั เจนทาให๎การปฏบิ ัตงิ านเกดิ ความผิดพลาด 2.2 ดา๎ นการบริหารจัดการการจดั การเรยี นการสอนและคุณภาพผ๎ูเรียน 1) การจัดกจิ กรรม กศน. ยังยดึ ตดิ รปู แบบเดมิ 2) นักศกึ ษา กศน. มชี วํ งวยั วุฒิ คุณวุฒแิ ละการเรียนร๎ูท่ีแตกตาํ งกัน 3) มีการกาหนดกลุํมเปูาหมายเข๎ารํวมกิจกรรมมากเกินไป 4) คณุ ภาพของผลผลติ ไมเํ ปน็ ไปตามเกณฑม๑ าตรฐาน 2.3 ดา๎ นบคุ ลากร 1) บุคลากรขาดความกระตอื รอื รน๎ ในการปฏบิ ัติงาน 2) การปฏบิ ัตงิ านของบุคลากรไมํเป็นไปตามแผนทีก่ าหนด 3) บคุ ลากรมีจิตอาสาน๎อย 4) บคุ ลากร ใช๎สื่อ วัสดุ อุปกรณ๑ ในการจัดกจิ กรรม กศน. ไมํคมุ๎ คํา 2.4 ดา๎ นวัสดุ / อุปกรณ๑ เอกสารประกอบการพจิ ารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว
1) วัสดุอปุ กรณ๑ดา๎ น ICT มไี มํเพียงพอตํอการปฏิบตั ิงานและการจัดกจิ กรรม 2) ไมํมหี ๎องปฏิบตั ิการทางวทิ ยาศาสตร๑ 2.5 ด๎านงบประมาณ 1) งบประมาณในการจดั กิจกรรมไมเํ พียงตํอความต๎องการของกลํมุ เปูาหมาย 2.6 ด๎านการบรหิ ารจัดการ 1) การบริหารจดั การไมํเป็นไปตามข้นั ตอนการปฏบิ ัติงาน 2) การมอบหมายงานและกระจายงานไมํทวั่ ถงึ 3) ไมมํ กี ารประเมนิ ผลการจดั กิจกรรมและผเู๎ รยี น 4) การนิเทศติดตามผลการจดั กิจกรรมไมํเปน็ ไปตามแผนที่กาหนด 3. โอกาส (สภาพแวดล้อมภายนอก ) 3.1 ด๎านสังคมและวฒั นธรรม 1) มีการประชุมการปฏบิ ัติงานและการทา MOU รํวมกับภาคีเครือขําย 2) ภาคีเครอื ขําย ชมุ ชน ให๎ความอนเุ คราะหส๑ ถานทตี่ ัง้ กศน. ตาบลและคําสาธารณูปโภค 3) ได๎รับการยอมรับการปฏิบัติงาน กศน. จากชมุ ชนและภาคีเครอื ขําย 4) มีภูมิปญั ญาทอ๎ งถิ่น แหลงํ เรยี นรู๎ ทหี ลากหลาย 5) มีวฒั นธรรมทอ๎ งถิน่ ประเพณที อ๎ งถ่นิ และภาษาท๎องถิ่น ท่หี ลากหลาย 6) ชุมชนมีสวํ นรวํ มในการจัดการศกึ ษาตํอเน่ือง และพัฒนาผ๎เู รียน 3.2 ด๎านเทคโนโลยี 1) หนวํ ยงานในพ้นื ที่ มสี อื่ เทคโนโลยที ีบ่ รกิ ารประชาชนในการแสวงหาความร๎ู 2) กศน. ตาบลบางแหงํ สามารถเชื่อมตอํ ระบบอินเตอร๑เนต็ จากหนวํ ยงานภาคีเครอื ขาํ ยใกล๎เคยี งได๎ 3.3 ดา๎ นเศรษฐกจิ 1) โครงการของรัฐบาลกระตุน๎ ให๎ประชาชนมีอาชีพ มรี ายได๎ มีการรวมกลํุมอาชพี ตํางๆ 3.4 ด๎านการเมืองการปกครอง 1) ผ๎นู าชุมชน องคก๑ รปกครองสํวนท๎องถ่ิน องค๑อ่ืนๆชุมชน เข๎ามามีสํวนรํวมเป็นคณะกรรมการ กศน. ตาบล และ กศน. อาเภอ 2) องค๑กรปกครองสํวนท๎องถน่ิ มสี ํวนรวํ มในการจัดทาเวทีประชาคม ในชุมชน 3) นโยบายของรัฐบาลสนับสนุนในด๎านการศึกษา เชํน โครงการเรียนฟรี 15 ปี การบริการ อินเตอรเ๑ น็ตตาบล การเรียนการสอน ETV 4) รฐั ธรรมนูญ พระราชบญั ญตั ิ ระเบียบ คาสั่ง ข๎อบงั คบั ที่สนับสนุนด๎านการศึกษา 4. อปุ สรรค ( สภาพแวดล๎อมภายนอก ) หนา้ 33 4.1 ดา๎ นสงั คมและวัฒนธรรม เอกสารประกอบการพจิ ารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว
1) ผู๎นาชุมชนบางสํวนและประชาชนไมํเห็นความสาคัญของการศึกษา 2) ขาดการประสานทดี่ ีระหวําง ผู๎นาชมุ ชน ภาคเี ครอื ขําย ชมุ ชน 3) วฒั นธรรมทีห่ ลากหลายทาให๎ยากตอํ การจดั กิจกรรม กศน. 4) สภาพทางภูมิศาสตร๑ การตั้งถิ่นฐาน อยํูกระจัดกระจายและหํางไกล เป็นอุปสรรคตํอการจัด กิจกรรม 4.2 ด๎านเทคโนโลยี 1) สภาพพ้ืนท่ีบางแหงํ ไมสํ ามารถรับสัญญาณสื่อเทคโนโลยีได๎ 2) สอื่ เทคโนโลยีมไี มเํ พียงพอตํอความต๎องการในการใชบ๎ รกิ ารของกลุํมเปาู หมาย 3) งบประมาณในการสนบั สนุนสื่อเทคโนโลยีมไี มํเพียงพอ 4.3 ด๎านเศรษฐกิจ 1) อาชีพทางการเกษตรตอ๎ งพ่งึ จากธรรมชาติประกอบกับราคาผลผลิตต่า ทาให๎เกิดการบุกรุกและเผา ปาุ ทาใหข๎ าดกาลังในการศึกษาหาความร๎ู 2) กจิ กรรมกลํมุ อาชพี ตํางๆ ไมยํ ่งั ยนื ขาดงบประมาณสนับสนุนตํอเน่ือง 3) การขาดแคลนท่ีทากนิ และแหลํงน้าในการประกอบอาชพี ทางการเกษตร 4.4 ด๎านการเมอื งการปกครอง 1) การเปลย่ี นแปลงทางการเมือง ทาใหน๎ โยบายตาํ งๆเปลีย่ นแปลงตามไปดว๎ ย 2) องค๑กรปกครองสํวนท๎องถ่นิ ไมมํ งี บประมาณสนบั สนุนในการจัดกจิ กรรม กศน. เอกสารประกอบการพิจารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 34
สว่ นท่ี 3 ขอ้ มลู พน้ื ฐาน กศน.ตาบลป่ากลาง ท่ตี ง้ั ตาบลปุากลาง อาเภอปวั จังหวัดนําน ได๎รับการยกฐานะจัดตัง้ เปน็ องค๑การบริหารสวํ นตาบล เมือ่ วันที่23 กมุ ภาพนั ธ๑ 2540 เป็นองค๑การบริหารสํวนตาบลชั้นที่ 5 ระยะหํางจากอาเภอปัว ประมาณ 5 กิโลเมตร มอี าณาเขตตดิ ตํอดงั น้ี ทิศเหนอื ติดตํอกบั ตาบลศิลาแลง , วรนคร ทศิ ใต๎ ตดิ ตอํ กับ ตาบลศลิ าเพชร ทิศตะวันออก ตดิ ตอํ กับ ศิลาแลง ทศิ ตะวันตก ตดิ ตอํ กบั เทศบาลตาบลปัว , ยม ( อ.ทาํ วังผา ) เน้อื ท่ี ตาบลปาุ กลางมีเนื้อท่ีทงั้ หมดประมาณ 21.87 ตารางกิโลเมตร ( 13,670.99 ไรํ ) ภูมิประเทศ ลักษณะภูมิประเทศ เปน็ ที่ราบสูงเชงิ เขาขาดแคลนน้า ตามธรรมชาติ ร๎อยละ10 ของ พื้นทเ่ี ปน็ ที่อยํูอาศยั ร๎อยละ 90 เป็นทด่ี นิ เพ่ือการเกษตร ลักษณะภมู ิอากาศ ฤดรู ๎อน ตง้ั แตเํ ดือน มนี าคม – พฤษภาคม อากาศรอ๎ นจัด อณุ หภูมิโดย เฉล่ีย 30 องศา ฤดูฝน ต้ังแตํเดือน มิถนุ ายน – ตุลาคม ปรมิ าณนา้ ฝนโดยเฉลย่ี 10.390 มม. / ปี ฤดหู นาว ต้งั แตํเดอื น พฤศจกิ ายน – กมุ ภาพนั ธ๑ อณุ หภูมิโดยเฉลี่ย 15 องศา จานวนหมู่บ้าน มี 7 หมู่บ้าน จานวนหมํูบ๎านในเขต อบต. เตม็ ทัง้ หมูํบ๎าน 7 หมูบํ า๎ น – บา๎ นนา้ เปิน หมํูที่ 1 – บา๎ นห๎วยสะนาว หมํูท่ี 2 – บ๎านค๎างฮํอ หมํูที่ 3 – บ๎านจูน หมทํู ี่ 4 – บ๎านตาหลวง หมูํที่ 5 – บา๎ นสวนทราย หมทูํ ี่ 6 – บ๎านปาุ กลาง หมํูที่ 7 ประชากรมจี านวน ทั้งสนิ้ 8,354 คน แยกเปน็ ชาย 4,200 คน คิดเปน็ ร๎อย เอกสารประกอบการพจิ ารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 35
ละ 50.27 หญิง 4,154 คน คิดเปน็ ร๎อยละ 49.63 (**ข๎อมูลจากสานกั บรหิ ารการทะเบยี นกรมการ ปกครอง ณ 30 กันยายน พ.ศ. 2559 อนเุ คราะหข๑ ๎อมลู จาก สานกั ทะเบียน อาเภอ ปัว ) จุดเดน่ ของพ้นื ท่ี (ทเ่ี อือ้ ต่อการพฒั นาตาบล) ตาบลปุากลาง ประกอบด๎วยชาวไทยภูเขา 3 เผําม๎ง เผําเมี่ยน และเผําลั๊วะ ทาให๎มีความ หลากหลายในด๎านวัฒนธรรมประเพณี เชํนประเพณีปีใหมํม๎งประเพณีปีใหมํเม่ียน ประเพณีกินสะโหลด ตีพิ ในด๎านการประกอบอาชีพสํวนใหญํประกอบอาชีพเกษตรกรรม ตาบลปุากลางถือได๎วําเป็นแหลํงผลิตไม๎ ผลท่ีสาคัญของอาเภอปัว ไม๎ผลที่ปลูก ได๎แกํ มะมํวง ล้ินจ่ี มะขาม ลาไย นอกจากน้ี ยังมีหัตถกรรมใน ครัวเรือนของชาวเขาเผําม๎ง และเผําเม่ียน เชํนหัตถกรรมผ๎าปักชาวเขา ผ๎าเขียนลายข้ีผึ้ง และหัตถกรรม เคร่ืองเงนิ ซ่งึ ผลติ ภัณฑต๑ าํ งๆ เหลาํ นี้ มีความประณตี และสวยงาม ทาให๎ตาบลปุากลางเป็นที่รู๎จักแพรหลาย ในฐานะเป็นแหลํงผลิตเครื่องเงินที่มี ชื่อเสียง แหลํงหนึ่งของจังหวัดนําน ซ่ึงจะพัฒนาให๎เป็นแหลํงทํองเที่ยว ทางวัฒนธรรมของอาเภอและจงั หวัดตํอไป ข๎อมลู ประวัติสํวนตัว ครูกศน.ตาบลปาุ กลาง ช่อื นายครรชิต ต๏ะเสาร๑ ชื่อเลน่ ยาว วันเกดิ วนั ที่ 22 เดอื น ธันวาคม พ.ศ. 2521 สัญชาติ ไทย เช้อื ชาติ ไทย ศาสนา พทุ ธ เบอร์โทรศพั ท์ 082-195-9713 ความสามารถพเิ ศษ : 1. ความสามารถด๎านการใชค๎ อมพิวเตอร๑ 2. วิทยากรสอนการทากรอบรูปวทิ ยาศาสตร๑ 3. วิทยากรสอนการเลี้ยงจง้ิ หรดี 4. งานเชื่อมโลหะ E-mail : [email protected] คตสิ ่วนตวั : งานหนักไมเํ คยฆาํ คน ที่อยู่ 70 หมูํ 2 ตาบลศลิ าเพชร อาเภอปัว จังหวัดนาํ น 55120 ประวตั กิ ารศึกษา ระดับ ช่อื สถานศกึ ษาสถาบนั การศกึ ษา พ.ศ. วฒุ ทิ ่ไี ด้รบั ระบวุ ชิ าเอก การศกึ ษา (ถา้ มี) ประถมศกึ ษา โรงเรยี นบา้ นนา้ ครั่ง ต.วังบาล อ.หล่มเกา่ 2534 - จ.เพชรบูรณ์ มธั ยมศึกษาตอนต้น 2537 - มัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนบา้ นไรด่ ง 2540 อุตสหกรรมศลิ ป์ ต.นา้ ดิบ อ.ปา่ ซาง จ.ลาพูน ครุศาสตรบ์ ณั ฑติ วิชาเอกสังคมศึกหษนาา้ 36 โรงเรยี นจกั รคาคณาธร จงั หวดั ลาพูน เอกสารปปรรญิ ะญกอาบตรกี ารพจิ ารณา Best Praสcถtาiบcนัeโราคชรภงฎักลาราปผาา้ งเขียนเทียนศิลปะชนเผา่2ม5ง้44กศน.อ.ปัว
ประวัติการทางาน ตาแหน่ง สถานทที่ างาน ระยะเวลา(ป)ี ครูศนู ยก๑ ารเรียนชมุ ชนตาบลวรนคร ศูนยก์ ารศกึ ษานอกโรงเรยี น 1 ปี พ.ศ. อาเภอปวั 1 ปี 9 เดอื น พ.ค 2544 – เม.ย. 2545 ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกโรงเรียน 2 ปี 6 เดือน 2 ปี 4 เดือน พ.ค. 2545 – ก.พ. 2546 ครศู ูนยก๑ ารเรียนชมุ ชนตาบลอวน อาเภอปวั ศนู ย์การศกึ ษานอกโรงเรียน 4 เดือน ม.ี ค. 2546 – ก.ย. 2548 ครูศูนยก๑ ารเรยี นชุมชนตาบลภูคา อาเภอปวั 1 เดือน ต.ค. 2548 – ก.พ. 2551 ครูศูนย๑การเรียนชุมชนตาบลวรนคร ศนู ย์การศกึ ษานอกโรงเรียน 1 ปี 7 เดอื น ม.ี ค. 2551 – ม.ิ ย. 2551 ปฏิบัติราชการแทนประจาศูนย๑ ศศช. “ แมํฟูา อาเภอปัว 9 เดอื น หลวง ” บ๎านน้าย๎อ – ขุนดิน (ครูประจาศูนย๑ ลา กศน.อาเภอปวั 7 ปี 6 เดอื น ก.ค. 2551 – ส.ค. 2551 ปุวยรักษาโรคมะเรง็ เต๎านม) ก.ย. 2551 – เม.ย. 2553 กศน.อาเภอปัว 1 พ.ค. 2553 – 9 ม.ค. 54 ปฏิบัติราชการแทนประจาศูนย๑ ศศช. “ แมํฟูา 10 ม.ค. 2554 – ปจั จุบัน หลวง ” บา๎ นขนุ กนุ (ลาคลอดบตุ ร) กศน.อาเภอปัว กศน.อาเภอปัว ครูศูนยก๑ ารเรยี นชมุ ชนตาบลอวน กศน.อาเภอปัว ครูศูนย๑การเรียนชมุ ชนตาบลปาุ กลาง ครู กศน.ตาบล ปาุ กลาง รางวลั ท่ไี ดร๎ บั พ.ศ. 2555 รางวัลที่ได้รบั รบั เขม็ พระราชทานเครือ่ งหมาย พอ.สว. อาสาสมัคร พอ.สว. ทุกตาแหน่ง ปฏบิ ัตงิ าน 15 คร้ัง 2555 เข็มเชดิ ชูเกียรตเิ ขม็ ทองแดง 2560 เข็มเชิดชเู กยี รติเข็มเงนิ 2560 2560 รบั เข็มพระราชทานทีร่ ะลกึ แกผ่ ู้บริจาคโลหิต ครบ 36 ครง้ั ,ปจั จบุ ัน 45 คร้ัง 2560 เคร่ืองราชอสิ รยิ าภรณเ์ หรียญเบจมาภรณช์ า้ งเผอื ก(บ.ช.) รับของพระราชทานจิตอาสา งานพระราชพธิ ถี วายพระเพลิงพระบรมศพ ร.9 เอกสารประกอบการพิจารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 37
ส่วนท่ี 4 ความเปน็ มากลุ่มทาผ้าเขียนเทยี น ประวัติความเปน็ มากลุ่มทาผ้าเขียนเทียน เนอ่ื งจากพนื้ ทตี่ าบลปาุ กลางมปี ระชากรสวํ นใหญเํ ปน็ ชาวเขาเผาํ ม๎ง เมี้ยนและล๊ัวะ ซง่ึ สวํ นใหญํจะ ประสบปัญหาเก่ียวกับพ้ืนท่ีทาการเกษตร ทาให๎มีการเข๎าไปจับจองพ้ืนที่ตัดไม๎ทาลายปุาเพื่อสร๎างพ้ืนท่ีทาง การเกษตรใหก๎ บั ตนเองและครอบครวั ซ่งึ พืน้ ทเ่ี หลํานี้สํวนใหญํจะใช๎เป็นพื้นที่เพาะปลูกลิ้นจี่ และปลูกข๎าวหรือ ทาไรํเล่ือนลอย ตํอมาได๎มีการประกาศเขตพ้ืนท่ีอนุรักษ๑ของกลํุมประชาชนในพ้ืนท่ีทาให๎พ้ืนท่ีเพาะปลูกล้ินจ่ี ที่อยูํในเขตการประกาศอนุรักษ๑ปุานั้นถูกตัดทาลาย ไปมากจึงทาให๎ประชาชนสํวนใหญํท่ีถือครองพ้ืนที่เหลําน้ี ขาดรายได๎และประกอบกับประชาชนเหลําน้ีไมํมีพื้นฐานความรู๎ในการประกอบอาชีพอ่ืน จึงเกิดปัญหาในด๎าน การพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยูํ จากการศึกษาชุมชนพบวํา ในชุมชนท่ีมีความหลากหลายของชาติพันธ๑ท่ี เป็นเอกลักษณ๑ของชุมชน พบวําในชุมชนสํวนหนึ่งมีความสามารถในการทาผ๎าเขียนเทียนลายชาวเขาแตํขาด กระบวนการในการจดั กิจกรรมการเรยี นร๎ู และจะจากดั ในวงครัวเรือนซ่ึงทาให๎รอยตํอของการทาผ๎าเขียนเทียน เริ่มขาดหายไป ซ้ายังไมํนิยมสอนหรือสืบสานให๎บุคคลอื่น จึงทาให๎ผ๎าเขียนเทียนจากัดอยํูในวงแคบและคํอย จางหายไปอีกทั้งภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจท่ีซบเซาทาให๎การจาหนํายลดลงจึงทาให๎คนหนุํมสาวหันหน๎าเข๎าสูํ เมืองหลวงเพ่ือขายแรงงาน ทาง กศน.ตาบลปุากลางได๎เข๎ารับทราบปัญหา จึงมีการประชุมรวบรวมกลํุมกัน เพอ่ื ที่จะศกึ ษาและเรยี นรูใ๎ นการทาผา๎ เขียนเทียนลายเพื่อให๎เป็นการสืบสานวัฒนธรรม เพ่ือเป็นอาชีพเสริมและ ใหผ๎ า๎ เขียนเทยี นคงคูอํ ยกูํ บั ชุมชนตอํ ไป การเขา๎ ไปเสริมสร๎างและพฒั นาศักยภาพชมุ ชน โดยยึดหลักในการสงํ เสรมิ กระบวนการมีสํวนรํวม และกระบวนการเรียนรู๎ ของประชาชน เพื่อนาไปสํูชุมชนเข๎มแข็ง คนในชุมชน ตระหนักในคุณคําและพัฒนา ศักยภาพของครอบครัว และรํวมกันจัดการแก๎ไขปัญหาของชุมชน คนในชุมชนได๎รํวมกันค๎นหาศักยภาพ ของชุมชนและนามาใช๎ในการพิจารณาแนวทางแก๎ไขปัญหาของชุมชนตํอไป แตํชุมชนจะเข๎มแข็งได๎ จะต๎องมี การนาแผนไปสํูการปฏิบัติ และมีการสํงเสริมกระบวนการมีสํวนรํวมและกระบวนการเรียนรู๎ เพ่ือพัฒนา คุณภาพแผนชุมชน อยํางตํอเนื่อง จนเกิดพลังชุมชน ที่สามารถใช๎ในการพัฒนาชุมชนได๎อยํางเข๎มแข็ง และ นาไปสูํชุมชนพ่ึงตนเองได๎อยํางย่ังยืน เพ่ือให๎การจัดการศึกษาในกิจกรรมการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ ให๎ สอดคล๎องกับศักยภาพและความต๎องการของชุมชนในการพัฒนาตนเอง ตามนโยบายการจัดการศึกษาของ สานักงานสงํ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย กศน.ตาบลปุากลาง จึงไดร๎ ํวมกบั กลํุมนกั ศกึ ษาและประชาชนทั่วไป ในพ้นื ท่ีตาบลปุากลาง อาเภอปัว จังหวัดนําน จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพให๎กับนักศึกษาและประชาชนในชุมชน โดยการเรียนร๎ูใน ภาคทฤษฎีและการปฏิบัติจริง เพ่ือให๎เกิดความรู๎ความชานาญ และสอดคล๎องกับวิถีชีวิตความเป็นอยํูของ ชุมชนตาบลปุากลาง อาเภอปัว จังหวัดนําน เพื่อชํวยพัฒนาคุณภาพชีวิตให๎กับกลุํมคนในชุมชนท่ีมีความ เอกสารประกอบการพิจารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 38
สนใจในการทาผ๎าเขียนเทียนลายชาวเขา ซ่ึงสอดคล๎องกับการเรียนร๎ูและสามารถนาความร๎ูท่ีได๎รับไปพัฒนา ตนเองและสงั คมตํอไป ด้านการผลติ 1.1 แหล่งทขี่ องวัตถดุ บิ ใช๎วตั ถดุ ิบในชมุ ชน/ท๎องถ่นิ ท่ีมีอยูํมากกวํา 80% วัสดุแบํงเปน็ 2 ประเภท คือ 1.วสั ดุสิน้ เปลอื ง ทม่ี ใี นทอ๎ งถิ่น เชํน ผ๎าฝูายดิบ เทยี น คราม สีมวํ ง ถาํ น วัสดทุ ซ่ี อื้ หรอื นาเขา๎ จากทอ่ี ืน่ คือ สารกนั ตก 2. วสั ดถุ าวร เชนํ เตาถําน กระทะตม๎ ผ๎า กะละมงั ผ๎ากันเป้ือน 1.2 การขยายการผลติ มีการขยายการผลิตมากกวํา 30 % ในการผลิตสินค๎า โดยการฝึกอบรมให๎ความรแ๎ู กํสมาชกิ กลุมํ สตรที ม่ี คี วามสนใจในการทาผ๎าเขียนเทยี น และได๎มีการกระจายข้ันตอนการผลิตผ๎าเขียนเทียนให๎กับสมาชิกใน กลุํมไปทาท่ีบ๎านเป็นรายชิ้นและนาผลงานมาให๎กับตัวแทนในกลํุมเพื่อทาการจาหนําย และแปรรูปเป็น ผลติ ภัณฑอ๑ ืน่ เชนํ เส้อื ผา๎ กระเปา๋ ผ๎าพันคอ กระเป๋าสตางค๑ ข้ันตอนการผลิตภณั ฑผ๑ า๎ เขยี นเทียน เอกสารประกอบการพจิ ารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 39
ขัน้ ตอนการผลติ สินคา้ 1. เตรยี มอุปกรณ๑วสั ดุในการทาผา๎ เขียนเทียน ประกอบด๎วย ผา๎ ดบิ ตวั เขยี น เทียน กะละมงั ถาํ น ขเี้ ถา๎ ไม๎บรรทัด ดินสอหรือปากกา และหมักข้ีเถ๎าไว๎ 1 คืน กรองเอาน้าออกด๎วยผ๎า เอาเศษถํานขี้เถ๎าทิ้งต้ังกะละมัง ต๎มเทียนให๎ละลายพอดี รํางภาพโดยใช๎ดินสอหรือปากกาขีดเส๎นบนผ๎าดิบตามขนาดและลายผ๎าท่ีต๎องการ ทา การเขียนลายเทียนบนผ๎าท้ังผืนให๎ท่ัว โดยใช๎ตัวเขียน (ซันต่ิง ) หรือแมํพิมพ๑จุํมลงไปในกะละมังต๎มเทียนแล๎ว นามาเขียนท่ีผ๎าท่ีเตรียมไว๎ เมื่อเขียนลายเสร็จแล๎วไป แชนํ า้ 1 คนื 2. เตรยี มนา้ แชคํ รามในถังหรือโอํงให๎พอดีกับผ๎าที่เตรยี มไว๎ จากนน้ั ตม๎ นา้ ร๎อนและเตรยี มสีคราม มาละลายในน้าต๎ม ผสมให๎เข๎ากันและเทลงไปในโอํงหรือถังท่ีเตรียมไว๎แล๎วนาผ๎าดิบท่ีทาการเขียนเทียนลง ลวดลายทีต่ อ๎ งการแล๎ว มาแชํในโอํงหรอื ถังสคี ราม ขยา้ ใหท๎ ว่ั โดยใช๎มือหรือไม๎คนกไ็ ด๎แชํไวป๎ ระมาณ 30 นาที เอกสารประกอบการพิจารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 40
3. นาผา๎ ท่ีแชํสคี รามออกมาปนั้ ให๎นา้ ออกจากผา๎ จากน้ันนาไปตากให๎แห๎ง( ไมํควรตากแดดจดั ) ให๎วิธี ตากลมหรือในท่ีรํมก็ได๎ พอแห๎งแล๎วนามาย๎อมตามขั้นตอนท่ี 5 อีกครั้ง ทาซ้า 4 – 5 ครั้งหรือจนกวําจะได๎สี ครามตามทต่ี ๎องการ แล๎วตากใหแ๎ ห๎ง 4. นาผา๎ มาพกั ไวป๎ ระมาณ 2 – 3 วัน แล๎วนาไปสูํขน้ั ตอนการตม๎ เทยี น โดยการท่เี ราต๎มนา้ ให๎เดือด แล๎ว นาเอาผา๎ เขยี นเทยี นทีย่ อ๎ มสีครามเสรจ็ เรยี บร๎อยแลว๎ ไปจํุมน้าเย็นกํอนนาไปต๎มในน้าร๎อนให๎ทั่วผืน เพ่ือเป็นการ ละลายเทียนทต่ี ดิ อยทูํ ่ผี ๎าให๎ออกใหห๎ มด ( สังเกตวําไมมํ ีเทียนติดอยูํทผี่ า๎ แล๎ว ) จึงนาผา๎ ออก 5. ขณะที่ตม๎ ผา๎ ในน้าร๎อนอยํนู ้นั ให๎เตรยี มน้าใสกํ ะละมังไว๎ ประมาณ 3 กะละมัง เพื่อเอาผ๎าท่ีทา การตม๎ เสรจ็ แล๎วออกมาแชํในน้าเย็น เพอ่ื ล๎างเทยี นที่อาจติดผา๎ อยอูํ อกให๎หมดทั้งสองดา๎ น ใชม๎ ือลูบออกจนหมด ทวั่ ทง้ั ผนื แลว๎ นาไปตากใหแ๎ ห๎งไมํควรตากในเวลาทีแ่ ดดจัด 6. เตรียมน้าร๎อนไว๎ แล๎วเอาแปูงมันละลายในน้าเย็น แล๎วเทลงในน้าร๎อนที่เตรียมไว๎คนให๎เข๎ากันไมํให๎เหนียว หรือจางเกินไปให๎พอดีๆ แล๎วนาผ๎าที่ล๎างเ ทียนออก หมดแล๎วมาแชํไว๎ประมาณ 5 นาที แล๎วนาไปตากให๎แห๎ง (ไมคํ วรตากในเวลาทีแ่ ดดจัด ) เมื่อแห๎งแล๎วนามาพับเก็บไว๎ เพ่ือรอนาไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ๑อื่นๆ เชํน นาไปตัดเย็บ เป็นเสือ้ หรือกระโปรง เอกสารประกอบการพิจารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 41
1.3 ศักยภาพด้านการผลติ สามารถผลิตได๎ในปริมาณและมคี ณุ ภาพมากกวําของเดิม โดยปัจจุบันได๎รับการคดั สรรเปน็ ผลติ ระดับสี่ดาว ประเภทผ๎า เครื่องแตํงกาย ตามโครงการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตาบลหน่ึงผลิตภัณฑ๑ไทย ปี พ.ศ. 2562 เอกสารประกอบการพิจารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 42
ประเดน็ ท่ี 2 ด้านการพัฒนาผลติ ภณั ฑ์ 2.1 การพฒั นารปู แบบผลติ ภณั ฑ์ พัฒนาจากแนวคิดของตนเอง ซ่ึงเดิมทีการทาผ๎าเขียนเทียนนั้นจะเน๎นการใช๎ชันติ่ง สาหรับจุํม เทียนร๎อนมาเขียนลงบนผ๎า ซ่ึงจะได๎ปริมาณงานท่ีน๎อย ตํอมาเมื่อตลาดมีความต๎องการมากย่ิงข้ึน จึงได๎คิดทา แมํแบบหรือตัวป๊ัมเองเพ่ือเพ่ิมผลผลิตให๎มากกวําเดิม จึงมีการพัฒนาและสร๎างตัวป๊ัมแทนโดยคิดออกแบบ ลวดลาย และสร๎างแบบข้ึนมาด๎วยตนเองจากน้ันก็ใช๎วิธีการเชื่อมแก๏สเพื่อตํอเป็นลวดลายตํางๆ ตามความ ตอ๎ งการ โดยผ๎ูออกแบบและคิดลวดลาย คือนายผดั ศิลปท์ า๎ ว รปู ท่ี 1 รูปที่ 2 รปู ท่ี 3 กระบวนการและขน้ั ตอนการทาตวั ปั๊มหรือพิมพ์ในการทาผลติ ภณั ฑผ์ ้าเขียนเทยี น 1. นาลวดทองเหลอื งมาตดั และม๎วนเปน็ รปู แบบตามท่ตี ๎องการตามรูปท่ี 1 2. เมื่อตดั ทองเหลืองได๎ตามทีต่ ๎องการแล๎วมาวางบนก๎อนอิฐหรือแผนํ กระเบอื้ งทเ่ี รยี บ ตามรูปที่ 2 3. จากนั้นใชค๎ วามร๎อนจากเครอ่ื งเชื่อมแก๏สเผาใหร๎ อ๎ นเชื่อมด๎วยน้ายาประสานลวดคํอยๆเช่ือมตํอข้นึ รปู ไปทลี ะจดุ ตามรปู ที่ 3 4. เมอื่ ข้นึ รปู ราํ งแล๎ว ตดั ลวดขน้ึ รปู เปน็ ดา๎ มจับ ดงั รูปท่ี 4 เสรจ็ แลว๎ ใช๎เศษผ๎าพันโดยรอบเพ่ือทาเป็นด๎าม จบั อีกที ดังรูปที่ 5 รูปท่ี 4 รปู ท่ี 5 การพัฒนารปู แบบลวดลาย ของผลติ ภณั ฑ์ผา้ เขียนเทียนให้ทันสมัยและมีรูปแบบทแ่ี ปลกใหมก่ วา่ เดมิ เอกสารประกอบการพจิ ารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 43
มลู นิธริ กั ษไ๑ ทยหนํวยงานภาคเี ครอื คํายของ กศน. เข๎าจดั กจิ กรรมขยายผลการอบรมอาชีพตัดเยบ็ เสอื้ ผ๎าให๎กบั สมาชิกกลํมุ ผลิตภณั ฑ๑ผา๎ เขยี นเทียนในเรอ่ื งการออกแบบเส้อื ผ๎า 2.2 การพัฒนาบรรจภุ ัณฑ์ มีการพัฒนารปู แบบของบรรจุภณั ฑแ๑ ตํไมสํ ม่าเสมอ โดยไดร๎ ับการสนบั สนุนโดยหนวํ ยงานพัฒนาชมุ ชน และสานักงานอตุ สาหกรรมจงั หวดั นาํ น เอกสารประกอบการพจิ ารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 44
2.3 รูปแบบของบรรจภุ ณั ฑ์ มีบรรจุภัณฑเ๑ บื้องตน๎ เปน็ ถงุ กระดาษ ถุงพลาสตกิ และกระดาษหํอ ดา้ นการตลาดและความเป็นมาของผลิตภัณฑ์ ประเดน็ ที่ 1 ดา้ นการตลาด 1.1 แหลง่ การตลาด มีการจัดจาหนํายสินค๎าทั้งในชุมชนโดยช่ือร๎านรัตนพรผ๎าเขียนเทียน ต้ังอยํูบ๎าน สวนทราย หมํูท่ี 6 ตาบลปุากลาง อาเภอปัว จังหวัดนําน นอกจากนี้ยังจัดจาหนํายผํานชํองทาง https://web.facebook.com/รัตนพรผ๎าเขียน-1430000733954295 , นอกจากนี้ยังมีการนาสินค๎าและ ผลติ ภัณฑท๑ ่ีไดจ๎ ากผา๎ เขยี นเทียนไปจัดแสดงและจาหนําย 1.2 ช่องทางในการจาหน่ายผลติ ภณั ฑ/์ บริการ ในการจาหนํายผลิตภัณฑ๑ของรัตนพรผ๎าเขียนเทียน นอกจากมีการจาหนํายทางร๎านของ ตนเองแล๎วยังมีชํองทางการจาหนํายอีกชํองทางหน่ึงคือ https://web.facebook.com/รัตนพรผ๎าเขียน- 1430000733954295 เอกสารประกอบการพจิ ารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 45
1.3 ความต่อเน่อื งของตลาด ในการจาหนํายสนิ คา๎ ในชวํ งสถานการณ๑แพรรํ ะบาดของโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)น้ันทาการ จาหนาํ ยมยี อดจาหนาํ ยท่ีลดลงแตกํ ็ยังมีการส่ังซ้ือเข๎ามาทั้งจากลูกค๎าเกําและลูกค๎าใหมํ ซ่ึงมาจากชํองทางออนไลน๑ เอกสารประกอบการพิจารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 46
สว่ นที่ 5 ผลงานที่ผ่านมาของผลติ ภัณฑผ์ า้ เขยี นเทียน วันที่ 9 กรกฎาคม 2557 คณะกรรมการประเมินภายในสถานศึกษา สานักงาน กศน.จังหวดั นา่ น เขา้ เยี่ยมชมกลุ่มผา้ เขียนเทียนใน พื้นท่ีเพ่อื ดูข้อมูลเชงิ ประจักษใ์ นด้านการจดั การศึกษา ดกู ารดาเนินงานกจิ กรรมการทาผ้าเขียนเทยี น บา้ นนา้ เปนิ หมู่ 1 ต.ป่ากลาง เอกสารประกอบการพจิ ารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 47
นายครรชติ ตะ๊ เสาร์ ครู กศน.ตาบลปา่ กลาง ไดเ้ ป็นตัวแทนสานักงาน กศน.จังหวัดน่านใหน้ าผลิตภัณฑ์ สนิ ค้าของ กศน.อาเภอปัวและ สนิ คา้ สานักงาน กศน.จงั หวดั นา่ น เพื่อเขา้ ร่วมจดั แสดง/จาหนา่ ยในงาน “ การศกึ ษาสรา้ งชาติ ตลาดคลองผดงุ ฯ...สร้างสุข ” ระหวา่ งวันที่ 1 – 6 เมษายน 2559 ณ บรเิ วณข้างทาเนยี บรัฐบาล กรุงเทพมหานคร เอกสารประกอบการพจิ ารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 48
วันท่ี 11 - 15 พฤษภาคม 2562 ประสานความรํวมมือระหวําง กศน.ตาบลปุากลางและศูนย๑พัฒนา ฝีมอื แรงงานจังหวัดนําน จัดกิจกรรมให๎ความรู๎เรื่องการทาผ๎าเขียนเทียนให๎กับกลุํมสตรีและผ๎ูมีบัตรสวัสดิการ แหงํ รฐั บ๎านสวนทราย หมูํที่ 6 ตาบลปุากลาง อาเภอปัว จงั หวัดนําน เพอื่ เปน็ ฐานการผลิตของกลุมํ ตอํ ไป ต๎อนรบั คณะผู๎ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ นายเฉลมิ ชนม๑ แนนํ หนา และคณะ ประจาปีงบประมาณ 2562 เขตตรวจราชการที่ 16 ในการเยยี่ มชมแหลํงเรียนร๎ูภูมปิ ญั ญาการทาผ๎าเขียนเทียน ในพนื้ ทตี่ าบลปุากลาง และต๎อนรบั คณะ ณ กศน.อาเภอปวั เอกสารประกอบการพจิ ารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 49
เอกสารประกอบการพจิ ารณา Best Practiceโครงการผา้ เขียนเทียนศิลปะชนเผา่ มง้ กศน.อ.ปัว หนา้ 50
Search