ชิ้นงานท่ี 1 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ จัดทาโดย นางสาว ศศธิ ร บญุ นาค เลขท่ี 24 ปวส.1 คอมพิวเตอร์ธรุ กิจ 1 เสนอ อาจารย์ ทวีศักด์ิ หนูทิมงานชนิ้ น้ีเป็นส่วนหน่งึ ของวิชาการประกอบเคร่ืองคอมพวิ เตอร(์ 3204-2001) วิทยาลยั อาชีวศกึ ษานครศรธี รรมราช
องค์ประกอบของคอมพวิ เตอร์1.ฮาร์ดแวร์ ( Hardware ) ฮาร์ดแวร์เป็นองค์ประกอบของตัวเครื่องท่ีสามารถจับต้องได้ ได้แก่ วงจรไฟฟ้าตัวเคร่ือง จอภาพ เคร่อื งพิมพ์ คีย์บอรด์ เป็นตน้ ซง่ึ สามารถแบง่ สว่ นพืน้ ฐานของฮารด์ แวรเ์ ป็น 4 หนว่ ยสาคญั 1.1 หน่วยรับข้อมูลหรืออินพุต ทาหน้าที่รับข้อมูลและโปรแกรมเข้า เคร่ือง มีโครงสร้างดังรูป 1.3ไดแ้ ก่ คีย์บอร์ดหรือแปน้ พิมพ์ เมาส์ เครอ่ื งสแกน เครอื่ งรูดบตั ร Digitizer เป็นตน้ 1.2 ระบบประมวลผลกลางหรือซีพียู (CPU : Central Processing Unit) ทาหน้าท่ีในการทางานตามคาสัง่ ทีป่ รากฏอยใู่ นโปรแกรม ปัจจุบนั ซพี ียูของเครื่องพีซี ร้จู ักในนามไมโครโปรเซสเซอร์ ( Micro Processor)หรือ Chip ไมโครโปรเซสเซอร์ มีหน้าท่ีในการประมวลผลข้อมลู ในลักษณะของการคานวณและเปรียบเทียบโดยจะทางานตามจังหวะเวลาท่ีแน่นอน เรียกว่าสัญญาณ Clock เม่ือมีการเคาะจังหวะหนึ่งคร้ัง ก็จะเกิดกิจกรรม 1 คร้ัง เราเรียกหน่วย ที่ใช้ในการวัดความเร็วของซีพียูว่า “เฮิร์ท”(Herzt) หมายถึงการทางานได้ก่ีครั้งในจานวน 1 วินาที เชน่ ซีพยี ู Pentium4 มคี วามเรว็ 2.5 GHz หมายถงึ ทางานเรว็ 2,500 ล้านครัง้ ในหนึ่งวินาที กรณีที่สัญญาณ Clock เร็วก็จะทาให้คอมพิวเตอร์เคร่ืองนั้น มีความเร็วสูง และ ซีพียูที่ทางานเร็วมากราคากจ็ ะแพงข้นึ มากตามไปดว้ ย
1.3 หนว่ ยเก็บข้อมลู ( Storage ) ซ่ึงสามารถแยกตามหน้าท่ไี ดเ้ ปน็ 2 ลกั ษณะ คือ 1.3.1 หน่วยเก็บข้อมูลหลักหรือความจาหลัก ( Primary Storage หรือ MainMemory) ทาหน้าที่เก็บโปรแกรมหรือข้อมูลที่รับมาจากหน่วยรับข้อมูลเพ่ือเตรียมส่งให้หน่วยประมวลผลกลางทาการประมวลผล และรับผลลัพธ์ท่ีได้จากการประมวลผลเพ่ือส่งออกหน่วยแสดงข้อมูลต่อไปซึ่งอาจแยกได้เป็น 2ประเภท คือ RAM ( Random Access Memory ) ทส่ี ามารถอ่านและเขยี นขอ้ มลู ไดใ้ นขณะทเ่ี ปดิ เครอ่ื งอยู่ แต่เม่ือปิดเคร่ืองข้อมูลใน RAM จะหายไป และ ROM ( Read Only Memory ) จะอ่านได้อย่างเดียว เช่น BIOS(Basic Input Output system) โปรแกรมฝังไว้ใช้ตอนสตาร์ทเครื่อง เพื่อเครื่องคอมพิวเตอร์เร่ิมต้นทางานเปน็ ต้น 1.3.2 หน่วยเก็บข้อมูลสารอง ( Secondary Storage ) เป็นหน่วยที่ทาหน้าที่เก็บข้อมูลหรอื โปรแกรมทจ่ี ะปอ้ นเขา้ สู่หนว่ ยความจาหลกั ภายในเครอื่ งก่อนทาการประมวลผลโดยซพี ียู รวมทง้ั เป็นทเ่ี ก็บผลลัพธ์จากการประมวลผลด้วย ปัจจุบันรู้จักในนามฮาร์ดดิสก์ (Hard disk) หรือแผ่นฟร็อปปีดิสก์ (FloppyDisk) ซ่ึงเม่ือปิดเครือ่ งข้อมูลจะยังคงเก็บอยู่ 1.4 หน่วยแสดงข้อมูลหรือเอาต์พุต ( Output Unit ) ทาหน้าที่ในการแสดงผลลัพธ์ท่ีได้จากการประมวลผล ไดแ้ ก่ จอภาพ และเครอื่ งพิมพ์ เปน็ ต้น ท้งั 4 สว่ นจะเช่อื มต่อกันดว้ ยบัส ( Bus )2.ซอฟต์แวร์ ( Software ) คอื โปรแกรมหรอื ชุดคาส่งั ท่ีส่ังให้ฮาร์ดแวรท์ างาน รวมไปถึงการควบคุมการทางานของอปุ กรณ์แวดลอ้ มต่างๆ เชน่ ฮารด์ ดิสก์ ดิสก์ไดร์ฟ ซีดรี อม การ์ดอนิ เตอร์เฟสต่าง ๆ เปน็ ต้น ซอฟตแ์ วร์ เป็นสงิ่ ที่มองไม่เห็นจับต้องไม่ได้ แต่รับรู้การทางานของมันได้ ซึ่งต่างกับ ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ท่ีสามารถจับต้องได้ ซ่งึ แบ่งเป็น 2 ประเภทคอื
2.1 ซอฟต์แวร์ระบบ ( System Software ) คือโปรแกรม ที่ใช้ในการควบคุมระบบการ ทางานของเคร่ืองคอมพิวเตอรท์ ั้งหมด เช่น การบตู เครื่อง การสาเนาขอ้ มลู การจัดการระบบของดิสก์ ชุดคาสัง่ ที่เขียนเป็นคาส่ังสาเร็จรูป โดยผู้ผลิตเคร่ืองคอมพิวเตอร์ และมีมาพร้อมแล้วจากโรงงานผลิต การทางานหรือการประมวลผล ของซอฟตแ์ วรเ์ หล่านี้ ขน้ึ กบั เคร่ืองคอมพวิ เตอร์แต่ละเครอื่ ง ระบบของซอฟตแ์ วร์เหล่านี้ ออกแบบมาเพื่อการปฏิบัติควบคุม และมีความสามารถในการยืดหยุ่น การประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์ แบ่งออกเป็น 4 ประเภทคือ 2.1.1 โปรแกรมระบบปฏิบัติการ (Operating System) เป็นโปรแกรมที่ใช้ควบคุม และติดต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะการจัดการระบบของดิสก์ การบริหารหน่วยความจาของระบบ กล่าวโดยสรุปคือ หากจะทางานใดงานหนึ่ง โดยใช้คอมพวิ เตอรเ์ ป็นเครื่องมือ ในการทางาน แล้วจะต้องติดต่อกับซอฟต์แวร์ระบบก่อน ถ้าขาดซอฟต์แวร์ชนิดนี้ จะทาให้เคร่ืองคอมพิวเตอร์ ไม่สามารถทางานได้ ตัวอย่างของซอฟต์แวร์ประเภทนี้ได้แก่ โปรแกรมระบบปฏิบัติการ Unix Linux DOSและWindows (เวอร์ชนั่ ตา่ ง ๆ เช่น 95 98 me 2000 NT XP Vista ) เปน็ ต้น 2.1.2 ตัวแปลภาษา (Translator) จาก Source Code ให้เป็น Object Code (แปลจากภาษาท่ีมนุษย์เข้าใจ ให้เป็นภาษาท่ีเคร่ืองเข้าใจ เปรียบเสมือนล่ามแปลภาษา) เป็นซอฟต์แวร์ท่ีใช้ในการแปลภาษาระดับสูง ซึ่ง เป็นภาษาใกล้เคียงภาษามนุษย์ ให้เป็นภาษาเครื่องก่อนที่จะนาไปประมวลผล ตัวแปลภาษาแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ คอมไพเลอร์ (Compiler) และอินเตอร์พีทเตอร์ (Interpeter)คอมไพเลอร์จะแปลคาสั่งในโปรแกรมทง้ั หมดก่อน แล้วทาการล้ิงค์ (Link) เพอ่ื ให้ได้คาสัง่ ท่ีเครื่องคอมพิวเตอร์เข้าใจ ส่วนอินเตอร์พีทเตอร์จะแปลทีละประโยคคาส่ัง แล้วทางานตามประโยคคาสั่งน้ัน การจะเลือกใช้ตัวแปลภาษาแบบใดน้ัน จะขึ้นอยู่กับภาษาท่ีใช้ในการเขียนโปรแกรม ซึ่งมี 2 แบบได้แก่ ภาษาแบบโครงสร้างเช่น ภาษาเบสิก (Basic) ภาษาปาสคาล (Pascal) ภาษาซี (C) ภาษาจาวา(Java)ภาษาโคบอล (Cobol) ภาษาSQL ภาษา HTML เป็นต้น ภาษาแบบเชิงวัตถุ ( Visual หรือ Object Oriented Programming ) เช่นVisual Basic,Visual C หรอื Delphi เปน็ ตน้ 2.1.3 ยูติลิตี้ โปรแกรม (Utility Program) คือซอฟต์แวร์เสริมช่วยให้เครื่องทางานมีประสิทธิภาพ มากข้ึน เช่น ช่วยในการตรวจสอบดิสก์ ช่วยในการจัดเก็บข้อมูลในดิสก์ ช่วยสาเนาข้อมูล ช่วยซ่อมอาการชารุดของดิสก์ ช่วยค้นหาและกาจัดไวรัสฯลฯ เป็นต้นโปรแกรมในกลุ่มนี้ได้แก่ โปรแกรม NortonWinzip Scan virus Sidekick Scandisk Screen Saver ฯลฯ เปน็ ต้น 2.1.4 ติดตั้งและปรับปรุงระบบ (Diagonostic Program) เป็นซอฟต์แวร์ท่ีใช้ในการติดต้ังระบบ เพื่อใหค้ อมพิวเตอร์สามารถตดิ ต่อและใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ท่ีนามาติดต้ังระบบ ไดแ้ ก่ โปรแกรม Setupและ Driver ต่าง ๆ เช่น โปรแกรม Setup Microsoft Office โปรแกรม Driver Sound , Driver Printer ,Driver Scanner ฯลฯ เป็นตน้
2.2 ซอฟตแ์ วร์ประยุกต์ (Application Software)คือ ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมที่ทาให้คอมพิวเตอร์ทางานต่างๆ ตามท่ีผู้ใช้ต้องการ ไม่ว่าจะด้านเอกสาร บัญชีการจัดเก็บขอ้ มูล เปน็ ตน้ ซอฟต์แวรป์ ระยุกตส์ ามารถจาแนกได้เป็น 2 ประเภท คอื 2.2.1 ซอฟต์แวร์สาหรับงานเฉพาะด้าน (Special Purpose Software) คือ โปรแกรมซึ่งเขียนขึ้นเพ่ือการทางานเฉพาะอย่างที่เราต้องการ บางท่ีเรียกว่า User’s Program เชน่ โปรแกรมการทาบัญชีจา่ ยเงินเดอื น โปรแกรมระบบเช่าซื้อ โปรแกรมการทาสนิ ค้าคงคลัง เป็นตน้ ซ่ึงแตล่ ะโปรแกรมก็มักจะมเี งือ่ นไขหรือแบบฟอร์มแตกต่างกันออกไปตามความต้องการ หรือกฏเกณฑ์ของแต่ละหน่วยงานที่ใช้ ซ่ึงสามารถดดั แปลงแก้ไขเพ่ิมเตมิ (Modifications) ในบางส่วนของโปรแกรมได้ เพื่อให้ตรงกบั ความต้องการของผู้ใช้ และซอฟต์แวร์ประยกุ ตท์ ่เี ขียนขนึ้ น้โี ดยส่วนใหญม่ ักใชภ้ าษาระดบั สูงเป็นตัวพัฒนา 2.2.2 ซอฟต์แวร์สาหรับงานท่ัวไป (General Purpose Software) เป็นโปรแกรมประยุกต์ที่มีผู้จัดทาไว้ เพื่อใชใ้ นการทางานประเภทต่างๆ ท่ัวไป โดยผู้ใช้คนอ่ืนๆ สามารถนาโปรแกรมน้ไี ปประยกุ ต์ใช้กับขอ้ มูลของตนได้ แต่จะไม่สามารถทาการดัดแปลง หรือแก้ไขโปรแกรมได้ ผู้ใชไ้ ม่จาเป็นตอ้ งเขียนโปรแกรมเองซงึ่ เป็นการประหยดั เวลา แรงงาน และคา่ ใช้จ่ายในการเขยี นโปรแกรม นอกจากน้ี ยงั ไม่ตอ้ งเวลามากในการฝึกและปฏบิ ัติ ซึ่งโปรแกรมสาเร็จรูปน้ี มักจะมีการใช้งานในหน่วยงาน ซ่งึ ขาดบคุ ลากรที่มีความชานาญเปน็ พเิ ศษในการเขียนโปรแกรม ดังน้ัน การใช้โปรแกรมสาเรจ็ รปู จงึ เป็นสิ่งที่อานวยความสะดวกและเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ตัวอย่างโปรแกรมสาเร็จรูปท่ีนิยมใช้ได้แก่ MS-Office, Lotus, Adobe Photoshop, SPSS, InternetExplorer และเกมสต์ ่างๆ เป็นต้น โปรแกรมชุด Microsoft Office เชน่1. ไมโครซอฟท์ เวิร์ด (Microsoft word) เป็นโปรแกรมที่นิยมในการประมวลผลคา มีความสามารถในการจัดรปู แบบตัวอักษร ยอ่ หน้า ใสร่ ูปภาพ จดหมายเวยี น และอนื่ ๆ อีกมากมาย2. ไมโครซอฟท์ เอ็กเซล (Microsoft Excel) เปน็ โปรแกรมที่ใช้ในการจัดทาตารางงาน มคี วามสามารถในการคานวณสตู รต่างๆ พร้อมทั้งฟังก์ชันท่ีช่วยในการคานวณทางคณิตศาสตรอ์ ีกด้วย
3. ไมโครซอฟท์ แอคเซส (Microsoft Access) เป็นโปรแกรมฐานข้อมูล ที่เป็นที่นิยมสาหรับการทางานในระดับสานักงาน และ องค์กรขนาดเล็ก สามารถเก็บข้อมูล ประมวลผลข้อมูล ออกแบบฟอร์มเก็บข้อมูล พิมพ์รายงาน จัดทาเวบ็ ไซตใ์ นการรับ/ส่ง ขอ้ มลู และยังสามารถเขียนกลมุ่ โปรแกรม (Module) เพ่ือใชใ้ นการทางานได้4. ไมโครซอฟท์ พาวเวอร์พอยต์ (Microsoft Powerpoint) เป็นโปรแกรมนาเสนอผลงาน สามารถนาเสนอผลงานในแบบต่างๆ รวมถึงมีแม่แบบท่ีช่วยผู้ใช้ใช้งานอย่างง่ายดาย และมีแอฟเฟ็คแบบต่างๆ ช่วยตกแต่งให้งานนาเสนอมคี วามสวยงาม5. ไมโครซอฟท์ เอาท์ลุค (Microsoft Outlook) เป็นโปรแกรมรับ/ส่งอีเมล มีความสามารถในการเชื่อมต่อเคร่ืองแมข่ ่ายอเี มล แบบ IMAP, POP3 และ Microsoft Exchange Server6. ไมโครซอฟท์ พับบลิชเชอร์ (Microsoft publisher) เป็นโปรแกรมคล้าย ไมโครซอฟท์ เวิร์ด เช่นกัน แต่จะเน้นไปทางดา้ นการสรา้ งศลิ ปบ์ นสิง่ พิมพ์ทใ่ี ช้ในชวี ติ ประจาวนั มากกว่า เชน่ นามบตั ร
3.บคุ ลากร ( Peopleware ) บุคลากรจะเป็นสิ่งสาคัญที่จะเป็นตัวกาหนดถึงประสิทธิภาพถึงความสาเร็จและความคุ้มค่าในการใช้งานคอมพิวเตอร์ ซึง่ สามารถแบง่ บุคลากรตามหน้าท่เี กี่ยวข้องตามลักษณะงานได้ 6 ด้าน ดงั นี้ 3.1 นักวิเคราะห์และออกแบบระบบ (Systems Analyst and Designer : SA ) ทาหน้าที่ศึกษาและรวบรวมความต้องการของผู้ใช้ระบบ และทาหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างผู้ใช้ระบบและนักเขียนโปรแกรม(Programmer) หรือปรับปรุงคุณภาพงานเดิม นักวิเคราะห์ระบบต้องมีความรู้เก่ียวกับระบบคอมพิวเตอร์พ้นื ฐานการเขียนโปรแกรม และควรจะเปน็ ผมู้ ีความคิดรเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์มีมนษุ ย์สัมพันธ์ทีด่ ี 3.2 โปรแกรมเมอร์ ( Programmer ) คือบุคคลท่ีทาหน้าที่เขียนซอฟต์แวร์ต่างๆ(Software )หรือเขียนโปรแกรมเพ่ือสั่งงานให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทางานตามความต้องการของผู้ใช้ โดยเขียนตามแผนผังที่นักวิเคราะห์ระบบได้เขียนไว้ 3.3 ผู้ใช้ ( User ) เป็นผู้ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ ซ่ึงจะเป็นผู้ปฏิบัติหรือกาหนดความต้องการในการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ว่าทางานอะไรได้บ้าง ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ท่ัวไป จะต้องเรียนรู้วิธีการใช้เครื่อง และวิธีการใชง้ านโปรแกรม เพื่อใหโ้ ปรแกรมทม่ี ีอยสู่ ามารถทางานไดต้ ามที่ต้องการ 3.4 ผู้ปฏิบัติการ (Operator ) สาหรับระบบขนาดใหญ่ เช่น เมนเฟรม จะต้องมีเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ท่ีคอยปิดและเปิดเคร่ือง และเฝ้าดูจอภาพเม่ือมีปัญหาซึ่งอาจเกิดขัดข้อง จะต้องแจ้ง SystemProgrammer ซึง่ เป็นผู้ดแู ลตรวจสอบแกไ้ ขโปรแกรมระบบควบคุมเครื่อง (System Software) อกี ทีหน่งึ 3.5 ผู้บริหารฐานข้อมูล ( Database Administrator : DBA ) กลุ่มบุคคลที่ทาหน้าที่ดูแลข้อมูลผ่านระบบจัดการฐานข้อมูล ซ่ึงจะควบคุมให้การทางานเป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนีย้ ังทาหนา้ ท่ีกาหนดสิทธิการใช้งานข้อมูล กาหนดในเร่ืองความปลอดภัยของการใช้งาน พร้อมท้ังดูแลดาต้าเบสเซิร์ฟเวอร์ (DatabaseServer) ให้ทางานอยา่ งปกติดว้ ย 3.6 ผู้จดั การระบบ (System Manager) คือผู้วางนโยบายการใชค้ อมพวิ เตอรใ์ ห้เป็นไปตามเป้าหมายของหน่วยงาน เป็นผู้ท่ีมีความหมายต่อความสาเร็จหรือล้มเหลวของการนาระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้งานเปน็ อยา่ งมาก
4. ขอ้ มูลและสารสนเทศ 4.1 ข้อมูล (Data) หมายถึง ขอ้ เท็จจริงหรือเหตกุ ารณ์ท่เี กดิ ขน้ึ แลว้ ใช้ตวั เลขตวั อกั ษร หรือสัญลกั ษณ์ต่างๆ ทาความหมายแทนส่ิงเหล่านน้ั เชน่ 4.2 สารสนเทศ (Information) หมายถงึ ข้อสรปุ ตา่ งๆ ท่ีได้จากการนาขอ้ มลู มาทาการวิเคราะห์ หรือผ่านวธิ กี ารที่ ได้กาหนดข้ึน ทัง้ น้ีเพือ่ นาข้อสรุปไปใชง้ านหรอื อ้างอิง เช่น5. กระบวนการทางาน ( Procedure ) องค์ประกอบด้านน้ีหมายถึงกระบวนการทางานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ ในการทางานกับคอมพิวเตอร์ผู้ใช้จาเป็นต้องทราบขั้นตอนการทางานเพ่ือให้ได้งานท่ีถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจจะมีขัน้ ตอนสลับซับซ้อนหลายข้ันตอน ดังน้ันจึงมีความจาเป็นต้องมีคมู่ ือปฏิบัติงาน เช่น คู่มือผ้ใู ช้ (user manual)หรือคมู่ ือผู้ดูแลระบบ ( operation manual ) เป็นตน้
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: