ถ้ำสอบแก้ตัวแล้วยังได้ระดับผลกำรเรียน “0”อีก ถ้ำเป็นรำยวิชำพื้นฐำนให้เรียนซ้ำใน รำยวิชำนัน้ ถ้ำเป็นรำยวิชำเพิ่มเติมใหอ้ ยู่ในดุลยพินิจของผูอ้ ำนวยกำรโรงเรียนให้เรียนซ้ำรำยวิชำ หรือเปลี่ยน รำยวิชำใหม่ 2. การเปลยี่ นผลการเรยี น “ร”แยกเป็น 2 กรณี ดังน้ี 2.1 กรณีได้ผลการเรียน “ร” เพรำะเหตุสุดวิสัย เมื่อผู้เรียนได้เข้ำสอบหรือส่งผลงำนที่ ติดค้ำงอยู่เสร็จเรียบร้อยแล้ว หรือแก้ไขปัญหำเสร็จสิ้นแล้ว ให้ได้ระดับผลกำรเรียนตำมปกติ (ตั้งแต่ 0 - 4) 2.2 กรณีได้ผลการเรียน “ร” โดยสถำนศึกษำพิจำรณำแล้วเห็นว่ำไม่ใช่เหตุสุดวิสัย เมื่อผู้เรียนได้เข้ำสอบหรือส่งผลงำนที่ติดค้ำงอยู่เสร็จเรียบร้อยแล้ว หรือแก้ไขปัญหำเสร็จสิ้นแล้วให้ได้ระดับ ผลกำรเรียน 0 หรือ 1 ถ้ำผู้เรียนไม่ดำเนินกำรแก้ไข “ร” ให้ผู้สอนนำข้อมูลที่มีอยู่ตัดสินผลกำรเรียน ยกเว้น มีเหตุสุดวิสัยให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้อำนวยกำรโรงเรียนที่จะขยำยเวลำในกำร แก้“ร” ออกไปอีก ทั้งนี้ต้อง ดำเนินกำรภำยในปีกำรศกึ ษำนนั้ เมื่อพน้ กำหนดน้ี ตอ้ งเรยี นซำ้ รำยวิชำนี้ 3. การเปล่ยี นผลการเรียน “มส”แยกเป็น 2 กรณี ดงั น้ี 3.1) กรณีที่ผู้เรียนได้ผลการเรียน “มส” เพราะมีเวลาเรียนไม่ถึงร้อยละ 80 ของเวลา เรียนทั้งหมด แต่ไม่น้อยกว่ำร้อยละ60 ของเวลำเรียนทั้งหมดในรำยวิชำนั้น โรงเรียนจะจัดให้ผู้เรียน เรียนเพิ่มเติม โดยใช้ชั่วโมงสอนซ่อมเสริม หรือเวลำว่ำง หรือวันหยุด หรือมอบหมำยงำนให้ศึกษำด้วยตนเอง จนมีเวลำเรียนครบร้อยละ 80 ของเวลำเรียนทง้ั หมด แล้วจึงจดั สอบให้เป็นกรณีพิเศษ ผลกำรสอบแก้ตัว “มส” ให้ได้ระดับผลกำรเรยี นไมเ่ กิน “1” และหำกได้ผลกำรเรียน “0” ให้ดำเนนิ กำรแก้ “0” ตำมระเบยี บวดั ผล กำรแก้“มส” ในกรณีนี้ให้ดำเนินกำรได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ทั้งนี้ต้องดำเนินกำรให้เสร็จสิ้นภำยใน ภำคเรียนถัดไป โดยต้องดำเนินกำรครั้งท่ี 1 ให้เสร็จสิ้นภำยใน 1 เดือน หลังจำกเปิดภำคเรียน ถ้ำผู้เรียนยังไม่ ดำเนินกำรติดต่อขอสอบแก้ตัวภำยในระยะเวลำที่โรงเรียนกำหนด หรือดำเนินกำรไม่เรียบร้อยโดยมีเหตุ สุดวิสยั ให้อยู่ในดลุ ยพินจิ ของผูอ้ ำนวยกำรโรงเรยี นขยำยเวลำออกไปได้ไม่เกนิ 1 ภำคเรยี น 3.2 กรณีผู้เรียนได้ผลการเรียน “มส” เพราะมีเวลาเรียนไม่ถึงร้อยละ 60 ของเวลาเรียน ทั้งหมด ถ้ำเป็นรำยวิชำพื้นฐำนให้เรียนซ้ำในรำยวิชำนั้น ถ้ำเป็นรำยวิชำเพิ่มเติมให้อยู่ในดุลยพินิจของ ผู้อำนวยกำรโรงเรยี นใหเ้ รยี นซ้ำในรำยวิชำนน้ั หรือเปลี่ยนรำยวิชำใหม่แล้วแต่กรณี 4. การเปลี่ยนผลการเรียน “มผ” เปน็ “ผ” ให้ผู้เรียนทำกิจกรรมเสริมเพื่อให้ผ่ำนตำมเกณฑ์ที่กำหนด โดยให้ผลกำรประเมินเป็น “ผ” ระยะเวลำในกำรแก้“มผ” ให้ดำเนินกำรได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ทั้งนี้ให้ดำเนินกำรให้เสร็จสิ้นภำยในภำคเรียนถัดไป ถำ้ ผเู้ รียนยังไม่ดำเนนิ กำรตดิ ต่อขอแกต้ ัวตำมระยะเวลำทีโ่ รงเรยี นกำหนด หรอื ดำเนินกำรไมเ่ รยี บร้อยโดยมีเหตุ สุดวิสัย ให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้อำนวยกำรโรงเรียนขยำยเวลำออกไปได้ แต่ไม่เกินอีก 1 ภำคเรียน หำกไมด่ ำเนินกำรอกี ตอ้ งเรียนซ้ำในรำยวชิ ำนี้ คมู่ อื นักเรียนและผ้ปู กครอง ปกี ารศกึ ษา 2565 I 46
การอนมุ ตั กิ ารจบหลักสตู ร 1. ผู้เรียนที่จะได้รับการพิจารณาอนุมัติให้จบระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ต้องผ่านเกณฑ์ ดังนี้ 1.1 ผู้เรียนเรียนรำยวิชำพื้นฐำนและเพิ่มเติม โดยเป็นรำยวิชำพื้นฐำน 66 หน่วยกิต รำยวิชำ เพ่มิ เติมตำมทีโ่ รงเรยี นกำหนด 1.2 ผู้เรียนต้องได้หน่วยกิตตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่ำ 77 หน่วยกิต โดยเป็นรำยวิชำพื้นฐำน 66 หน่วยกิต และรำยวชิ ำเพ่ิมเตมิ ไม่น้อยกว่ำ 11 หน่วยกติ 1.3 ผู้เรียนผ่ำนกำรประเมินกำรอ่ำน คิดวิเครำะห์ และเขียนตำมที่โรงเรียนกำหนด โดยมี ระดับผลกำรประเมินเป็น “ดเี ยยี่ ม” “ด”ี หรือ“ผำ่ น” 1.4 ผู้เรียนผ่ำนกำรประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตำมที่โรงเรียนกำหนด โดยมีระดับ ผลกำรประเมินเปน็ “ดีเย่ียม” “ด”ี หรอื “ผ่ำน” 1.5 ผู้เรียนเข้ำร่วมกิจกรรมพัฒนำผู้เรียน มีผลกำรประเมินผ่ำนเกณฑ์กำรประเมินตำมท่ี โรงเรยี นกำหนด 2. ผเู้ รยี นท่จี ะได้รับการพิจารณาอนมุ ัตใิ หจ้ บระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย ตอ้ งผา่ นเกณฑ์ ดงั นี้ 2.1 ผู้เรียนเรียนรำยวิชำพื้นฐำนและเพิ่มเติม โดยเป็นรำยวิชำพื้นฐำน 41 หน่วยกิต และรำยวชิ ำเพ่มิ เติมตำมทโ่ี รงเรยี นกำหนด 2.2 ผู้เรียนต้องได้หน่วยกิตตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่ำ 77 หน่วยกิต โดยเป็นรำยวิชำพื้นฐำน 41 หน่วยกติ และรำยวชิ ำเพิม่ เติมไม่น้อยกวำ่ 36 หน่วยกิต 2.3 ผู้เรียนผ่ำนกำรประเมินกำรอ่ำน คิดวิเครำะห์และเขียนตำมท่ีโรงเรียนกำหนด โดยมีระดับ ผลกำรประเมนิ “ดเี ยยี่ ม” “ดี” หรอื “ผำ่ น” 2.4 ผู้เรียนผ่ำนกำรประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตำมที่โรงเรียนกำหนด มีระดับ ผลกำรประเมนิ “ดีเยย่ี ม” “ด”ี หรือ“ผำ่ น” 2.5 ผู้เรียนเข้ำร่วมกิจกรรมพัฒนำผู้เรียน มีผลกำรประเมินผ่ำนเกณฑ์กำรประเมิน ตำมที่โรงเรียนกำหนด คู่มอื นกั เรียนและผู้ปกครอง ปกี ารศกึ ษา 2565 I 47
การเทียบโอนผลการเรียน กำรเทียบโอนผลกำรเรียน เป็นผลกำรเรียนซึ่งเป็นควำมรู้ ทักษะ และประสบกำรณ์ของผู้เรียน ที่เกิดจำกกำรศึกษำในระบบ กำรศึกษำนอกระบบ และกำรศึกษำตำมอัธยำศัย มำประเมินเป็นส่วนหนึ่งของ กำรศึกษำตำมหลักสูตรของโรงเรียน แนวดำเนินกำรเทียบโอนผลกำรเรียนให้เป็นไปตำมระเบียบว่ำด้วยกำร เทียบโอนผลกำรเรียน ดงั น้ี 1. กำรเทียบโอนผลกำรเรียนให้ดำเนินกำรในรูปของคณะกรรมกำรเทียบโอนผลกำรเรียน จำนวนไม่น้อยกวำ่ 3 คน แต่ไม่เกิน 5 คน 2. ผู้ขอเทียบโอนต้องขึ้นทะเบียนเป็นนักเรียนของโรงเรยี น จึงดำเนินกำรเทียบโอนผลกำรเรยี น ในภำคเรยี นทีข่ ึน้ ทะเบียนเป็นนักเรียน 3. จำนวนรำยวิชำที่จะรับเทียบโอนและอำยุของผลกำรเรียนที่จะนำมำเทียบโอนให้อยู่ ในดุลยพินิจของคณะกรรมกำรเทียบโอนผลกำรเรียน ทั้งนี้เมื่อเทียบโอนแล้ว ผู้ขอเทียบโอนต้องมีเวลำเรียน อยู่ในโรงเรียนทีร่ ับเทยี บโอนอยำ่ งนอ้ ย 1 ภำคเรียน 4. กำรเทียบโอนผลกำรเรียนให้นำรำยวิชำที่มีเนื้อหำสอดคล้องกันไม่น้อยกว่ำร้อยละ 60 มำเทียบโอนผลกำรเรยี นได้ และพิจำรณำให้ระดบั ผลกำรเรยี นใหส้ อดคล้องกบั หลักสตู รท่รี ับเทียบโอน 5. กรณีกำรเทียบโอนควำมรู้ ทักษะ และประสบกำรณ์ให้พิจำรณำจำกเอกสำรหลักฐำน กำรทดสอบ กำรสัมภำษณ์โดยให้มีกำรประเมินด้วยเครื่องมือที่หลำกหลำย และให้ระดับผลกำรเรียน ตำมเกณฑ์กำรประเมินผลกำรเรยี นของหลกั สูตรทร่ี บั เทยี บโอน 6. กรณีกำรเทียบโอนนกั เรียนที่เข้ำโครงกำรแลกเปลี่ยนต่ำงประเทศให้ดำเนินกำรตำมประกำศ กระทรวงศึกษำธิกำรเรื่องหลักกำรและแนวปฏิบัติกำรเทียบชั้นกำรศึกษำ สำหรับนักเรียนที่เข้ำร่วมโครงกำร แลกเปลย่ี น คู่มือนกั เรียนและผูป้ กครอง ปีการศึกษา 2565 I 48
งานทะเบียน งานทะเบยี น 1. การมอบตัว การลงทะเบียนรายวิชา ผู้ปกครองจะต้องนำนักเรียนมำมอบตัวด้วยตนเอง และปฏบิ ัตติ ำมขัน้ ตอนต่อไปน้ี 1.1 เตรียมเอกสารที่ถูกต้อง ได้แก่ ใบ ปพ.1: ป (นักเรียนชั้น ป.6) และ ใบปพ.1: บ (นักเรียนชั้นม.3) พร้อมฉบับถ่ำยเอกสำร สำเนำทะเบียนบ้ำนของนักเรียน บิดำ มำรดำ ถ้ำผู้ปกครองไม่ใช่ บิดำ มำรดำ ต้องนำบัตรประชำชนของผปู้ กครองมำด้วย พรอ้ มฉบับถำ่ ยเอกสำร 1.2 ผู้ทาหน้าที่มอบตัวนักเรียน ต้องเป็นบิดำ มำรดำ หรือผู้ปกครอง ซึ่งดูแลรับผิดชอบ นกั เรยี นโดยแท้จริง มีชอ่ื อยูใ่ นสำเนำทะเบียนบ้ำนเดียวกับนักเรียน และบรรลนุ ิติภำวะ กรณีท่ีบิดำมำรดำไม่มี ชื่ออยู่ในสำเนำทะเบียนบ้ำนเดียวกับนักเรียนก็สำมำรถมอบตัวได้ แต่ต้องมีผู้ที่อยู่ในสำเนำทะเบียนบ้ำน เดยี วกับนักเรียน และดแู ลรับผดิ ชอบนักเรยี นได้เปน็ ผูป้ กครองคนที่1 ซึ่งตอ้ งมลี ำยเซ็นอย่ใู นใบมอบตัว 1.3 การบันทึกในประวัตินักเรียน ให้กรอกรำยละเอียดให้ครบถ้วน พร้อมหลักฐำนมอบตัว ดงั ท่ีระบไุ ว้ในข้อ 1.1 2. การจ าหน่ายนักเรียน โรงเรียนจะจ ำหน่ำยนักเรียนออกจำกโรงเรียนในกรณีต่อไปนี้ 2.1 เรียนจบหลักสตู รกำรศึกษำภำคบังคับ (ม.3) และจบหลักสตู รกำรศึกษำขนั้ พื้นฐำน (ม.6) 2.2 ลำออกโดยผปู้ กครองยืน่ คำรอ้ งลำออก 2.3 ขำดเรียนนำนเกินสมควร และผู้ปกครองมิได้มำติดต่อหรือชี้แจงให้โรงเรียนทรำบเป็น ลำยลักษณอ์ ักษร 3. การลาออกจากโรงเรียน ผู้ปกครองต้องมำยื่นคำร้องขอลำออกที่งำนทะเบียน พร้อมรูปถ่ำย ขำว-ดำ หรือรูปสี ที่แต่งเครื่องแบบนักเรียนโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบวรนิเวศศำลำยำ ในพระสังฆรำชูปถัมภ์ขนำด 1.5 นิ้ว จำนวน 4 ใบ เพื่อใช้ติดหลักฐำน นักเรียนที่ลำออก (ในกรณีนักเรียน ช้นั มัธยมศกึ ษำตอนตน้ ย้ำยออกกลำงคนั ตอ้ งแนบใบตอบรบั จำกโรงเรียนปลำยทำงทีน่ กั เรยี นยำ้ ยไป) 4. การขอลาพักการเรียน นักเรียนที่จะขอลำพักกำรเรียนเพื่อไปศึกษำต่อต่ำงประเทศ หรือมีปัญหำ เกี่ยวกับสุขภำพให้ยื่นคำร้องพร้อมแนบหลักฐำนที่งำนทะเบียน เมื่อนักเรียนได้รับอนุญำตให้ลำพักแล้ว งำนทะเบียนแจ้งให้ครูผู้สอนทุกท่ำนทรำบกำรลำพักกำรเรียนแต่ละครั้ง และจะลำได้ครั้งละไม่เกิน 1 ปี กำรศึกษำ และเมื่อครบกำหนดลำพักแล้วผู้ปกครองนักเรียนต้องมำติดต่อยื่นคำร้องขออนุญำตให้นักเรียน กลบั เขำ้ เรียนต่อในชว่ งวันท่ี 1-5 พฤษภำคมของทกุ ปี 5. การผ่อนผันเวลาเรยี น นักเรียนทม่ี ีควำมจำเป็นต้องขำดเรยี น เนื่องจำกเปน็ ตวั แทนของโรงเรียนไป ทำกิจกรรมต่ำง ๆ เชน่ แข่งขันกีฬำตอบปญั หำ หรอื ประกวดแขง่ ขันในงำนตำ่ ง ๆ ให้นักเรียนติดตอ่ ขอรับใบลำ พิเศษท่ีห้องวิชำกำร พรอ้ มแนบหลักฐำน (ถำ้ มี) และแจง้ ใหค้ รผู สู้ อนในแตล่ ะรำยวชิ ำทขี่ ำดเรียนรับทรำบ ค่มู อื นักเรยี นและผู้ปกครอง ปกี ารศกึ ษา 2565 I 49
6. การขอแก้ วัน เดอื น ปีเกดิ 6.1 ยื่นคำร้องขอแกว้ ัน เดอื น ปีเกดิ ท่ีงำนทะเบียน 6.2 นำสตู ิบตั รและสำเนำทะเบยี นบ้ำนมำแสดงเปน็ หลกั ฐำน 7. การขอเปลีย่ น ช่อื -สกลุ บิดา มารดา หรอื นักเรียนท่ีได้รับอนุญาตใหเ้ ปลี่ยนชื่อ หรือช่ือสกุลจาก กระทรวงมหาดไทยแล้วประสงคจ์ ะเปลี่ยนช่ือ หรือ ชอื่ สกุลทโ่ี รงเรยี นให้ดาเนนิ การ ดงั นี้ 7.1 ยื่นคำร้องขอเปลี่ยน ชื่อ-สกุล ที่งำนทะเบียน ภำยในวันที่ 31 ธันวำคม ของทุกปี 7.2 นำใบสำคัญกำรเปลี่ยนชื่อ-สกุล สำเนำทะเบียนบ้ำน ที่ได้แก้ไข ชื่อ-สกุล และฉบับถ่ำย เอกสำรมำแสดงเป็นหลกั ฐำน 8. การเปลี่ยนยศบิดา-มารดา หรือผู้ปกครอง ในกรณีที่ผู้ปกครองของนักเรียน บิดำ-มำรดำ ซึ่งรับรำชกำรทหำร-ตำรวจ เมื่อได้รับพระรำชทำนเลื่อนยศให้ตรงกับควำมเป็นจริง ยื่นคำร้องที่งำนทะเบียน พรอ้ มหลักฐำน 9. การขอหลักฐานการศึกษา รูปถ่ำยที่ใช้จะต้องเป็นภำพ ขำว-ดำ หรือภำพสี ห้ำมใช้โพลำรอยด์ ถ้ำเป็นใบรับรองภำษำไทย ใบ ปพ. 1 ใช้ขนำด 1.5 นิ้ว หรือ 3×4 เซนติเมตร จ ำนวน 1 ใบ 9.1 กำรขอใบรับรองกำรเป็นนักเรียน หรือใบรับรองผลกำรเรียน (ปพ.7) นักเรียนที่มีควำม ประสงค์จะให้โรงเรียนออกใบรับรองว่ำเป็นนักเรียนโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบวรนิเวศศำลำยำ ในพระสังฆรำชูปถัมภ์จริง เพื่อนำไปใช้ในกำรรับทุนกำรศึกษำ หรือสมัครเรียนต่อที่อื่น ให้ยื่น คำร้องพร้อม รูปถ่ำยขำว-ด ำ หรือภำพสีขนำด 1.5 นิ้ว หรือ 3×4 เซนติเมตร จ ำนวน 1 ใบ และมำรับหลังจำก ยื่นคำรอ้ งเแล้ว 3 วันทำกำร ใบรับรองน้จี ะมผี ลใชภ้ ำยใน 60 วนั นับต้งั แต่วนั ท่อี อกให้ 9.2 ใบรับรองภำษำอังกฤษ ให้ยื่นคำร้อง โดยต้องสะกดชื่อ-สกุล ให้ตรงกับหนังสือเดินทำง (PASSPORT) และมำรบั ไดห้ ลงั จำกย่ืนคำรอ้ งแลว้ 7 วันทำกำร 9.3 ใบระเบียนแสดงผลกำรเรียน (ติด ปพ.1) ปพ.1 เป็นหลักฐำนแสดงผลกำรเรียนแต่ละ รำยวิชำ ทำงโรงเรียนจะออกให้เมื่อนักเรียนจบกำรศึกษำแต่ละช่วงชั้น สำหรับนักเรียนชั้น ม.6 ที่ต้องกำร ใช้ ปพ.1 ในกำรสมัครโควตำ หรอื สอบตรงของแต่ละมหำวิทยำลัย ทำงโรงเรียนจะออกสำเนำ ปพ.1 ให้ ในกรณที ่นี ักเรยี นจบกำรศึกษำไปแล้ว ต้องกำรขอ ปพ.1 ฉบบั ที่ 2 ให้ยน่ื คำร้อง ใบแจ้งควำม พร้อมแนบรูปถ่ำยขำว-ดำ หรอื ภำพสขี นำด 1.5 นวิ้ หรือ 3×4 เซนตเิ มตร และใหม้ ำรับหลังจำกย่ืนคำร้องแล้ว 3 วันทำกำร (นักเรียนที่จบจำกโรงเรียนไปแล้ว ถ้ำต้องกำร ปพ.1 ฉบับที่ 2 ให้ใช้รูปถ่ำยใส่เสื้อเชิ้ตสีขำว ถำ่ ยมำแล้วไม่เกนิ 6 เดอื น) 9.4 ใบรำยงำนผลกำรเรียนเป็นภำษำอังกฤษ ( TRANSCRIPT) เป็นหลักฐำนแสดง ผลกำรเรียน แต่ละวิชำเป็นภำษำอังกฤษ ให้นักเรียนยื่นคำร้องพร้อมรูปถ่ำยขนำด 1.5 นิ้วเท่ำกับจำนวน ชดุ ที่ขอและอกี 1 รูป สำหรับติดตน้ ฉบับ และให้มำรับได้หลังจำกท่ยี ่นื คำรอ้ งแล้ว 7 วันทำกำร คมู่ อื นกั เรียนและผ้ปู กครอง ปีการศกึ ษา 2565 I 50
9.5 ใบรับรองจำกหน่วยงำนต่ำง ๆ ที่นำมำให้ทำงโรงเรียนรับรอง ให้นักเรียนนำแบบคำร้อง มำติดต่อที่งำนทะเบียน โดยไม่ต้องเขียนข้อควำมใด ๆ ในเอกสำรเพื่องำนทะเบียนจะได้จัดพิมพ์เสนอท่ำน ผู้อำนวยกำรลงนำม ใบรับรองนี้ให้มำรับไดห้ ลงั จำกยน่ื คำรอ้ งแลว้ 3 วันทำกำร คาแนะนาในการขอหลกั ฐานการศึกษา 1. การยื่นคาร้อง นักเรียนควรยื่นคำร้องขอหลักฐำนล่วงหน้ำอย่ำงน้อย 3 วันทำกำร ยกเว้น TRANSCRIPT ภำษำองั กฤษ ตอ้ งย่ืนล่วงหน้ำอยำ่ งนอ้ ย 7วนั ทำกำร 2. รูปถ่าย รูปถ่ำยที่นำมำให้ทำงโรงเรียนจะต้องเป็นภำพ ขำว-ดำ หรือภำพสี ขนำด 1.5 นิ้ว หำ้ มใช้ โพลำรอยด์ ไม่ไดต้ ดั มำจำกรปู ถ่ำยอน่ื ๆ และถำ่ ยมำแลว้ ไมเ่ กนิ 6 เดอื น 3. การแตง่ กาย - รูปถ่ำยของนกั เรยี นปัจจุบันต้องแต่งกำยเครือ่ งแบบนกั เรียน โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบวรนิเวศ ศำลำยำ ในพระสังฆรำชูปถมั ภ์ - นักเรยี นท่ีจบกำรศึกษำจำกโรงเรยี นแล้ว หรอื ศิษย์เก่ำใหใ้ ชเ้ ส้อื เชิ้ตสีขำว คูม่ ือนักเรยี นและผปู้ กครอง ปกี ารศึกษา 2565 I 51
งานห้องสมุด หอ้ งสมุดเฉลิมพระเกียรตสิ มเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี ขอบข่ำยงำนห้องสมุดและแนวปฏบิ ัติเม่ือนกั เรยี นเขำ้ ใช้บริกำรศึกษำคน้ คว้ำ หรือสืบคน้ ขอ้ มลู ขอบข่าย 1. เปิดให้บริกำรเวลำ 07.30 น. - 16.00 น. 2. เวลำให้บริกำรยืม - คนื หนงั สือ ม.ตน้ เวลำ 11.10 น. – 12.10 น. ม.ปลำย เวลำ 12.10 น. – 13.10 น. 3. ใหบ้ ริกำรสบื ค้นข้อมูลและจัดกำรเรียนกำรสอนในห้องแหล่งเรียนรู้ 3 หอ้ ง โดยทำบันทกึ กำรขอใชห้ ้อง ตำมรปู แบบที่กำหนด 4. ใหบ้ ริกำรหน่วยงำน ชุมชนที่เข้ำมำขอใชบ้ ริกำรตำมรำยกรณี เช่น แนะแนวกำรศึกษำ อบรม ประชมุ ย่อย จดั กิจกรรมทำงกำรศึกษำ เปน็ ตน้ 5. ให้บริกำรพมิ พข์ ้อมลู และพิมพเ์ อกสำร แนวปฏิบตั ิ 1. เข้ำใช้บริกำรตำมเวลำท่กี ำหนดหรือขออนุญำตตำมแต่กรณี 2. ยืม-คนื หนังสอื ตำมเวลำ โดยยมื ได้ครงั้ ละ 3 เลม่ /คน มกี ำหนดยืมได้ครัง้ ละ 3 วัน 3. ก่อนเขำ้ ใชห้ ้องแหลง่ เรียนรู้ต้องขออนุญำตกับเจ้ำหน้ำที่เพ่ือทำกำรให้บริกำรและบันทึกลงในแบบฟอรม์ 4. ไมน่ ำหนงั สอื วสั ดุ อุปกรณท์ ุกชนิดออกนอกหอ้ งสมุดก่อนได้รบั อนญุ ำต 5. ถอดรองเท้ำวำงไวบ้ นชั้นวำงรองเทำ้ ใหเ้ ปน็ ระเบียบทุกครัง้ ก่อนเข้ำหอ้ งสมุด 6. ไม่นำเคร่ืองดื่ม อำหำรทกุ ชนดิ เขำ้ มำรบั ประทำน และไมพ่ กพำอำวุธ สง่ิ เสพตดิ เขำ้ มำภำยในหอ้ งสมดุ 7. ไมพ่ ูดคยุ สง่ เสียงดัง ชำร์จแบตเตอร่ี อุปกรณ์อเิ ลก็ ทรอนิกส์ หรือส่ือตำ่ งๆ ทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ เสยี งดงั รบกวนผู้ใช้บริกำร 8. ไม่ทิ้งขยะ หรือขีดเขียนโต๊ะ เก้ำอี้ หนังสือ และวัสดุ อุปกรณ์ทุกชนิดภำยในห้องสมุ ด 9. เม่อื อ่ำนหนงั สอื แล้วนำไปเกบ็ ไวท้ ่ีช้ันเดิม ค่มู อื นกั เรียนและผูป้ กครอง ปีการศกึ ษา 2565 I 52
กลุ่มบรหิ ารงานบุคคล ว่าด้วยเร่ืองระเบียบวินัย และการปฏิบตั ิตนของนักเรียนและผปู้ กครอง นายสมเกียรติ ฐานบัญชา รองผ้อู านวยการกลุ่มบริหารงานบคุ คล โทร. 02-4821154 ค่มู ือนักเรียนและผปู้ กครอง ปกี ารศกึ ษา 2565 I 53
ระเบยี บโรงเรยี นรตั นโกสนิ ทรส์ มโภชบวรนเิ วศศาลายา ในพระสังฆราชูปถัมภ์ วา่ ดว้ ยแนวปฏิบตั ิตนของนักเรียน พ.ศ. 2558 (ปรบั ปรงุ แก้ไข พ.ศ. 2563) อาศัยอานาจตามความในมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กและกฎกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง กาหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2548 โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบวรนิเวศ ศาลายา ในพระสงั ฆราชูปถมั ภ์ จึงวางระเบียบดังต่อไปน้ี 1. บททวั่ ไป 1.1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบวรนิเวศศาลายา ในพระสงั ฆราชูปถัมภว์ า่ ด้วยแนวปฏิบัตติ นของนักเรียน พ.ศ. 2558 (ปรับปรงุ แก้ไข พ.ศ.2563)” 1.2 ให้ยกเลิกระเบียบ ข้อบังคับ คาสั่งโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบวรนิเวศศาลา ยา ในพระสังฆราชปู ถัมภ์ท่ขี ัดต่อระเบียบน้ี 1.3 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับแก่นักเรียนโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบวรนิเวศศาลายา ในพระสงั ฆราชปู ถัมภ์ ทกุ คน 2. เวลาเรยี น โรงเรียนจัดการเรียนการสอน 2 ภาคเรียน โดยกาหนดให้เรียนสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 8 คาบ คาบละ 60 นาที (รวมคาบโฮมรูมและพักกลางวัน) เข้าเรียน เวลา 08.10 น. เลิกเรียนเวลา 16.10 น. วันหยดุ เรียนประจาสัปดาหค์ ือวนั เสาร์และวันอาทิตย์ 3. การมาโรงเรยี น นกั เรยี นทกุ คนตอ้ งมาโรงเรยี นให้ทนั เขา้ แถวชกั ธงชาตขิ ึ้นสูย่ อดเสา เวลา 07.50 น.ถ้าเลยกาหนดน้ี ถอื ว่ามาโรงเรยี นสาย 4. การกลบั บา้ น หลงั เลิกเรียนแลว้ นกั เรยี นจะอยู่ในบรเิ วณโรงเรียนได้ไม่เกินเวลา 17.00 น. ยกเว้นมีกิจกรรมพิเศษ ท่ีไดร้ บั มอบหมาย โดยครูผรู้ ับผดิ ชอบในกจิ กรรมน้นั ๆ ตอ้ งแจ้งให้ครูเวรประจาวนั และฝ่ายปกครองทราบ 5. การลา 5.1 การลาปว่ ย เม่อื นักเรยี นคนใดป่วยไม่สามารถมาโรงเรยี นได้ ใหผ้ ู้ปกครองแจ้งให้โรงเรียนทราบ โดยด่วนเมื่อนักเรียนหายป่วยและกลับมาเรียนได้ตามปกติ ต้องมีใบลาที่ผู้ปกครองลงชื่อรับรองการลา ในวัน แรกที่มาโรงเรียนต่องานกิจการนักเรียนและครูที่ปรึกษา ซึ่งลายเซ็นผู้ปกครองต้องตรงกับใบมอบตัวของ โรงเรยี น คมู่ ือนกั เรียนและผูป้ กครอง ปกี ารศกึ ษา 2565 I 54
5.2 การลากจิ นกั เรียนจะต้องสง่ ใบลาทมี่ ีผู้ปกครองลงช่อื รับรองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วนั ก่อนหยุด เรียน ในกรณีที่ไม่สามารถส่งใบลาล่วงหน้าได้เมื่อกลับมาเรียนให้รีบส่งใบลาทันทีกับงานกิจการนักเรียน และครูที่ปรึกษาในการลาตามข้อ 5.1 และ 5.2 เมื่อส่งใบลากับครูที่ปรึกษาแล้วครูที่ปรึกษาเก็บไว้ เป็นหลักฐาน 1 ภาคเรียน และตอ้ งใช้แบบใบลาของโรงเรียนเท่าน้นั 5.3 การขออนุญาตออกนอกบริเวณโรงเรียน เมื่อนักเรียนเข้าไปในโรงเรียนแล้วห้ามออก นอกบริเวณโรงเรียนจนกว่าโรงเรียนจะเลิก หากมีกิจธุระจาเป็น ต้องออกนอกบริเวณโรงเรียน ต้องได้รับ อนุญาตจากรองผู้อานวยการกลุ่มบริหารงานบุคคล หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น และต้องมีบัตรอนุญาต ออกนอกโรงเรียน และกลับเข้าโรงเรียนตามเวลาทีก่ าหนด ในกรณีที่ออกนอกบริเวณโรงเรียนและจะไม่กลับเข้าโรงเรียนอีกต้องมี จดหมายของผู้ปกครอง มาแสดงด้วย หรือผู้ปกครองมาติดต่อขอรับนักเรียนด้วยตนเองที่งานกิจการนักเรียน จึงอนุญาตให้ออก นอกบริเวณโรงเรยี นได้ 5.4 การขออนุญาตออกนอกห้องเรียน เมื่อนักเรียนมีความจาเป็นจะต้องออกนอกห้องเรียน ในขณะที่มีการเรียนการสอนให้ขออนุญาตจากครูประจาวิชา เมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงออกนอกห้องเรียนได้ และต้องกลับเข้าห้องเรียนตามที่ครูประจาวิชาอนุญาต นักเรียนคนใดออกนอกห้องเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาต ถอื ว่า หลบหนกี ารเรยี น 6. การปฏบิ ัติตนของนักเรยี นตง้ั แตเ่ ขา้ โรงเรียนถงึ โรงเรยี นเลกิ 6.1 นักเรยี นทกุ คนตอ้ งไม่หลบเลยี่ งการเข้าแถว 6.2 นกั เรยี นต้องเข้าห้องเรยี นให้ตรงเวลา ถา้ เข้าห้องเรยี นหลังจากเร่ิมทาการสอนไปแลว้ 10 นาที ใหถ้ ือว่า ขาดเรียนในคาบเรียนนัน้ 6.3 กอ่ นเข้าหอ้ งเรียนต้องแต่งกายให้เรยี บร้อย 6.4 นักเรียนจะนาบุคคลภายนอกเข้ามาในโรงเรียนไม่ได้ ยกเว้นบุคคลนั้นมาติดต่อราชการและ ต้องแต่งกายสภุ าพ 6.5 นักเรียนทุกคนต้องแต่งกายให้ถูกต้องตามระเบียบของโรงเรียน ห้ามใช้เครื่องประดับทุกชนิด ถา้ ฝา่ ฝนื ระเบยี บเม่อื เกิดสญู หายขึน้ โรงเรียนจะไม่รบั ผดิ ชอบ 6.6 นกั เรยี นตอ้ งมกี ิรยิ าวาจาสภุ าพ 6.7 นักเรียนต้องมีความสามัคคี รักใคร่กลมเกลียวกัน ไม่ก่อการทะเลาะวิวาทไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งน้ี รวมไปถึงการทะเลาะวิวาทกับบุคคลภายนอกโรงเรียนด้วย ซึ่งโรงเรียนถือเป็นความผิดร้ายแรง อาจจะ ถกู ลงโทษให้ออกจากโรงเรยี น คู่มือนกั เรยี นและผู้ปกครอง ปกี ารศกึ ษา 2565 I 55
6.8 นกั เรียนต้องมีคุณธรรม ศลี ธรรม ความสามคั คี นาช่อื เสยี งในทางท่ดี มี าส่โู รงเรยี น เม่ือนักเรียน ได้รับความเดือดร้อนเพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือเพราะเหตุอื่นใดซึ่งไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยตนเองได้ ให้นักเรียนปรึกษากับครูที่ปรึกษา ครูฝ่ายแนะแนว รองผู้อานวยการกลุ่มบริหารงานบุคคล หรือผู้อานวยการ โรงเรยี น 6.9 นักเรียนต้องมีบัตรประจาตัวทุกคน และต้องพกติดตัวทุกครั้งที่แต่งเครื่องแบบนักเรียน บัตรนม้ี ีอายุ 3 ปี หากเกดิ การสญู หายต้องขอทาบตั รใหม่โดยดว่ นที่งานกจิ การนกั เรียน 6.10 ถา้ นักเรียนเจบ็ ปว่ ยภายในโรงเรยี นให้ติดต่อทห่ี ้องพยาบาล เพือ่ การปฐมพยาบาล หรือนาส่ง โรงพยาบาล ห้ามนักเรียนหยิบยารับประทานเอง หากนักเรียนต้องการพักในห้องพยาบาล ครูพยาบาลเท่าน้ัน ทจี่ ะพิจารณาอนญุ าต 6.11 เมื่อเก็บสิ่งของได้ให้นาส่งที่งานประชาสัมพันธ์หรืองานกิจการนักเรียน เพื่อประกาศ หาเจ้าของต่อไป 6.12 ไม่ลักขโมยของเพื่อนและผู้อื่น ซึ่งถือเป็นความผิดร้ายแรงอาจจะต้องถูกดาเนินคดี ตามกฎหมายด้วย 6.13 ช่วยรักษาพัสดุและครุภัณฑ์ของโรงเรียน ถ้าผู้ใดทาเสียหายต้องชดใช้ หรือซ่อมแซมให้ดี ดงั เดิม การใชน้ ้า ไฟฟ้าของโรงเรยี นต้องใช้อย่างประหยัด ปิดก๊อกนา้ สวติ ซไ์ ฟ เมอื่ พบว่าไมม่ ผี ้ใู ช้ควรปดิ ทุกคร้ัง 6.14 นักเรียนต้องไม่ประพฤติตนฝ่าฝืนกฎกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับท่ี 1 (พ.ศ. 2515) ซึ่งออก ความตามในประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 2 ลงวนั ท่ี 22 เมษายน พ.ศ. 2515 7. การใชอ้ าคารเรยี น 7.1 การเดินขึ้น-ลงอาคารเรียน ให้เดินชิดขวาตลอดและต้องไม่ส่งเสียงดัง ให้เดินอย่างมีระเบียบ ในกรณีเดินเป็นแถว เช่น ย้ายห้องเรียน เดินแถวจากสนามขึ้นห้องเรียน เดินแถวเข้า-ออก ห้องประชุม ฯลฯ ตอ้ งเดนิ เปน็ แถว อยา่ งเปน็ ระเบยี บเรียบร้อย 7.2 หา้ มเคลือ่ นย้ายโตะ๊ เก้าอ้ีในหอ้ งเรียน โดยไม่ไดร้ บั อนุญาต 7.3 ไม่นั่งในที่ที่ไม่ควรนั่ง เช่น บนโต๊ะครู โต๊ะนักเรียน โต๊ะปิงปอง โต๊ะอาหาร วงกบอาคาร พนักพิงระเบยี งอาคาร เป็นตน้ 7.4 หา้ มขดี เขยี นหรือแกะสลัก กระทาการใด ๆ ให้เกดิ ความเสียหายต่อทรพั ยส์ ินของโรงเรียน 7.5 ห้ามนาอาหาร เครื่องดืม่ หรือของขบเคย้ี วข้ึนไปรับประทานบนอาคารเรียน 7.6 หา้ มนาอุปกรณก์ ีฬาทกุ ชนดิ ข้นึ ไปบนอาคารเรยี น 7.7 ก่อนเรียนต้องจัดโต๊ะเก้าอี้ให้เป็นระเบียบ ถ้ามีขยะในโต๊ะ พื้นห้องเรียน ต้องนาไปทิ้งถังขยะ และเมือ่ เรียนหมดคาบเรยี นแล้ว ใหส้ ารวจความเรียบร้อยอีกครัง้ ก่อนออกจากห้องเรียน คมู่ อื นักเรียนและผปู้ กครอง ปีการศกึ ษา 2565 I 56
7.8 เมื่อเรียนถึงคาบเรียนสุดท้ายของแต่ละวันให้ทาความสะอาดห้องเรียนด้วยความระมัดระวัง ไม่ให้โต๊ะเก้าอีช้ ารดุ เสียหาย 8. การรับประทานอาหาร นักเรยี นตอ้ งรบั ประทานอาหารตามเวลาท่โี รงเรียนกาหนด และให้รับประทานอาหารในโรงอาหาร ของโรงเรยี นเทา่ นั้น ไมน่ าอาหารและภาชนะใสอ่ าหารออกนอกโรงอาหารโดยเด็ดขาด 9. การใชห้ อ้ งสุขา อ่างล้างมือ ต้นู ้าเย็น 9.1 นกั เรยี นตอ้ งใช้ห้องสุขา อ่างล้างมือ และตนู้ ้าเยน็ เฉพาะท่ีโรงเรยี นจัดไวใ้ หส้ าหรับนักเรยี นเทา่ นั้น 9.2 ต้องชว่ ยกนั รักษาความสะอาด ไมท่ ิง้ เศษขยะลงในอา่ งล้างมือ ใหท้ ิ้งขยะลงในถงั ขยะ 9.3 หากพบขอ้ บกพรอ่ งใดๆ ใหร้ บี แจ้งงานสถานทีเ่ พ่ือดาเนินการแกไ้ ข 10. การใช้ห้องเรยี น 10.1 ห้ามวิ่งเล่นบนอาคารเรียน หรือในห้องเรียน ไม่ทาเสียงอึกทึกในห้องเรียนหรือบนอาคาร เรียน ตลอดจนการใช้วาจาที่ไม่สุภาพ 10.2 ไม่ใช้หอ้ งเรียน หอ้ งประชมุ เป็นที่เลน่ กีฬา ให้เล่นในสถานทีท่ ่ีจดั ไว้เท่าน้นั 10.3 หา้ มออกไปเลน่ ท่กี นั สาดหรอื ระเบียงอาคาร หา้ มปีนปา่ ยหนา้ ต่างออกไปนอกอาคารเรียน 10.4 สถานท่ตี อ่ ไปน้ีเป็นสถานทห่ี า้ มเลน่ 1) พื้นทห่ี อประดษิ ฐานสมเดจ็ พระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส 2) สระนา้ ทกุ แห่ง 3) โรงอาหารและใต้ถนุ อาคาร 4) พ้นื ทจี่ อดรถ 10.5 ห้ามเล่นการพนันทุกชนิด ซึ่งนอกจากจะผิดระเบียบของโรงเรียนอย่างร้ายแรงแล้วอาจถูก ดาเนนิ คดตี ามกฎหมายดว้ ย 11. การแสดงความเคารพ 11.1 ตอนเช้าก่อนเข้าแถวจะมีครูเวรยืนอยู่หน้าประตูโรงเรียน หรือตามจุดต่าง ๆ ที่โรงเรียน กาหนด เมอ่ื นกั เรยี นเดนิ ผ่านตอ้ งแสดงความเคารพทุกครง้ั ด้วยการไหว้ 11.2 เมื่อนกั เรยี นพบครคู วรแสดงความเคารพดว้ ยการไหว้ 11.3 ไม่ลอ้ เล่น หรือกลา่ วคาไมส่ ุภาพตอ่ ครู 11.4 ตอ้ งเคารพสถานที่ รวู้ ่าอะไรควรทาหรือควรงดเวน้ 11.5 ในกรณีที่พบผู้ตรวจเยี่ยม หรือผู้มาเยี่ยมโรงเรียน หรือผู้ที่ควรเคารพอื่น ๆ ภายในบริเวณ โรงเรียน ให้ทาความเคารพดว้ ยการไหว้ คมู่ ือนกั เรียนและผปู้ กครอง ปกี ารศกึ ษา 2565 I 57
12. การเปล้อื งพนั ธะของงานกจิ การนักเรยี น เมื่อนักเรียนจบหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้นหรือมัธยมศึกษาตอนปลาย จะต้องให้งานกิจการ นักเรียนลงลายมือชื่อในใบเปลื้องพันธะเพื่อแสดงว่านักเรียนไม่มีพันธะกับงานกิจการนักเรียน กรณีไม่เปลื้อง พันธะใหก้ บั นกั เรียนมีดังนี้ 12.1 นกั เรียนไม่นาผู้ปกครองพบกบั งานกจิ การนักเรียน เมอื่ มหี นังสือเชิญผูป้ กครอง 12.2 นกั เรยี นมีภาระกับฝ่ายปกครอง เชน่ ยมื ชุดนักเรียน ชุดกีฬา กระเปา๋ นกั เรียน ฯลฯ จากฝ่าย ปกครองแลว้ ไมน่ ามาคนื 12.3 นกั เรยี นมีพฤติกรรมทาผดิ ซ้าซากไม่ไดร้ ับการแก้ไขจากนักเรียนและผูป้ กครอง 12.4 นักเรยี นไม่พบกบั ฝ่ายปกครองในกรณที ี่ทาผดิ เมอื่ ฝา่ ยปกครองเชิญใหพ้ บ ถ้านักเรียนดาเนินการตามระเบียบของโรงเรียนและข้อตกลงของงานกิจการนักเรียน งานกิจการ นักเรียนจึงจะเปลื้องพันธะให้ งานกิจการนักเรียนจะไม่ออกหลักฐานใบเปลื้องพันธะให้กับนักเรียนจนกว่า จะดาเนินการเปล้ืองพันธะให้เสรจ็ เรยี บร้อย 13. การโดยสารรถไป-กลับของนักเรยี น การเดินทางมาโรงเรียนของนักเรียนโดยใช้รถโดยสารไม่ประจาทางและรถโดยสารส่วนบุคคล ซึ่งทางโรงเรียนจะรับผิดชอบในการแนะนาเส้นทางและประสานงานกับรถโดยสารส่วนบุคคลเพื่ออานวย ความสะดวกให้นักเรียนมีรถโดยสารไป-กลับเพียงเท่านั้น ส่วนการชาระเงินให้กับรถโดยสารส่วนบุคคลหรือ กรณีอุบัติเหตุต่างๆ ในการเดินทางไป-กลับ หรือมีข้อพิพาทระหว่างการเดินทาง ทางโรงเรียนจะไม่รับผดิ ชอบ ให้ผปู้ กครองเป็นผ้ปู ระสานงานกบั เจา้ ของรถเอง 14. ความรับผดิ ชอบของโรงเรียนในกรณีทน่ี กั เรยี นอยู่นอกบริเวณโรงเรยี น ถา้ นกั เรยี นไมอ่ ยู่ในโรงเรยี นในชว่ งเวลาเรียนดว้ ยเหตผุ ลเพราะหนีโรงเรียน หรอื ไปทากิจธุระนอก บรเิ วณโรงเรียน (ยกเวน้ การไปร่วมกิจกรรมทีท่ างโรงเรียนดาเนินการ) ทางโรงเรียนจะไม่รบั ผิดชอบในทุกกรณี 15. การตรวจหาสารเสพติด ทางโรงเรยี นจะดาเนนิ การตรวจหาสารเสพติดนักเรยี นทุกคนตลอดปีการศึกษา โดยอาจมีการสุ่ม ตรวจเปน็ รายบุคคลเปน็ ระดบั ชัน้ หรอื ทัง้ หมด ทางโรงเรยี นจึงขอแจง้ ใหผ้ ู้ปกครองทุกท่านรบั ทราบไว้ ณ โอกาส น้ีถา้ หากพบวา่ นักเรียนมปี ญั หาเก่ียวกับเร่ืองนที้ างโรงเรียนจะเชญิ ผ้ปู กครองมาดาเนนิ การแก้ไข ค่มู อื นักเรียนและผปู้ กครอง ปกี ารศึกษา 2565 I 58
16. การนารถจกั รยานยนตม์ าโรงเรียน โรงเรยี นไม่สนบั สนนุ ใหน้ ักเรียนนารถจกั รยานยนตม์ าโรงเรียน แตถ่ ้าผู้ปกครองมีความจาเป็นต้อง ให้นักเรียนนารถจักรยานยนต์มาโรงเรียนด้วยสาเหตุบ้านไกล ไม่มีรถประจาทาง การเดินทางไม่สะดวก โรงเรียนจัดสถานที่ให้จอดภายในโรงเรียน แต่ทางโรงเรียนจะไม่รับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น และผู้ปกครองต้อง ประสานกับงานกจิ การนักเรียนกอ่ นนารถจักรยานยนตม์ าโรงเรยี น ประกาศ ณ วนั ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2563 ว่าทีร่ ้อยตรี (พิษณุพล แตงอ่อน) ผอู้ านวยการโรงเรยี นรตั นโกสินทรส์ มโภชบวรนิเวศศาลายา ในพระสงั ฆราชปู ถัมภ์ คมู่ ือนักเรียนและผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2565 I 59
ระเบียบโรงเรยี นรตั นโกสินทร์สมโภชบวรนิเวศศาลายา ในพระสังฆราชปู ถมั ภ์ ว่าด้วยการแต่งกายของนักเรียน พ.ศ. 2558 (ปรับปรุงแกไ้ ข พ.ศ. 2563) ด้วยโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชน์บวรนิเวศศาลายา ในพระสังฆราชูปถัมภ์ เป็นโรงเรียนเฉลิม พระเกียรติในโอกาสฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี และเป็นโรงเรียนในพระสังฆราชูปถัมภ์ โรงเรียน จงึ ออกระเบยี บเพือ่ ความเหมาะสมกับสถานภาพของโรงเรียน และเพอื่ ความเปน็ ระเบียบเรียบรอ้ ยของนักเรียน จงึ วางระเบยี บปฏิบตั ิ ดงั นี้ ข้อ 1 เครอื่ งแบบนกั เรียนชาย 1.1 เสื้อ 1) เสื้อเชิ้ตสีขาวเกลี้ยง ไม่บางจนเกินไป ต่อบ่าหลัง ไม่มีจีบหลัง ไม่ต่อเติม หรือมีลวดลายใด ๆ บนตวั เส้ือไมค่ บั หรอื หลวมจนเกนิ ไป 2) ผ่าอกตลอด ใช้กระดุมขาวกลมแบนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 1 เซนติเมตร จานวน 5 เมด็ มีสาบเส้อื กวา้ ง 3 เซนตเิ มตร 3) แขนส้ันเหนอื ข้อศอกพองาม ปลายแขนพับเขา้ ด้านใน ตะเขบ็ เดย่ี ว ไมผ่ า่ ปลายแขน 4) มีกระเป๋าไม่มีฝาติดแนวราวนมด้านซ้าย 1 ใบ ขนาดกว้างประมาณ 8-12 เซนติเมตร ลกึ ประมาณ 10-15 เซนติเมตร 5) ปักอักษรย่อ รส.บศ. ขนาดเท่ากับแบบพิมพ์ตรายางของโรงเรียนด้วยไหมสีน้าเงินเข้ม ที่หน้าอกด้านขวา หรือระดับราวนมไม่ต่ากว่าปากประเป๋า ห้ามปักบนเนื้อผ้าอื่นแล้วนาไปเย็บติดภายหลัง และห้ามใช้สติ๊กเกอร์ติด สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายติดเข็มเครื่องหมายตราโรงเรียนไว้ เหนืออกั ษรย่อ รส.บศ. ประมาณ 1 เซนติเมตร 6) ใหป้ ักช่อื –สกุล ดว้ ยไหมสนี า้ เงนิ เข้ม เหนอื กระเป๋าเสอื้ ด้านซา้ ยประมาณ 1 เซนตเิ มตร 7) ให้ปักเครือ่ งหมายระดับชั้นด้วยไหมสนี ้าเงินเข้มตรงกลาง เหนอื ชอ่ื -สกุล ขนาด 0.6 ซม. 1.2 กางเกง 1) กางเกงผ้าสีดา ขนาดได้สัดส่วนกับร่างกาย มีจีบข้างละ 2 จีบ ไม่เย็บตาย (ห้ามใช้ผ้าลูกฟูก ผา้ ยนี ส์ผ้าเวสปอยท)์ 2) ขาสนั้ เหนอื เข่าพ้นกลางลูกสะบ้าหัวเขา่ ประมาณ 5 เซนติเมตร เมือ่ ยนื ตรงยาวกว่าได้เล็กน้อย แต่ตอ้ งไม่สน้ั กวา่ น้ี 3) ส่วนกว้างของกางเกง เมื่อยืนตรงห่างจากขา 8-12 เซนติเมตร ปลายขาพับเข้าข้างใน กว้าง 5 เซนติเมตร 4) ผา่ ตรงส่วนหนา้ ใชซ้ ิบซ่อนไว้ข้างใน คู่มอื นกั เรียนและผูป้ กครอง ปกี ารศึกษา 2565 I 60
5) มีกระเปา๋ ตามแนวตะเขบ็ ข้างละ 1 ใบ ไมม่ กี ระเปา๋ หลงั และกระเปา๋ พิเศษทมี่ องเหน็ 6) ขอบกางเกงมีหูสาหรบั สอดเขม็ ขดั 6-7 หู ขนาดกว้างไม่เกิน 1 เซนตเิ มตร 1.3 เข็มขดั 1) เข็มขัดหนังสีดาขนาดกว้าง 3-4 เซนติเมตร หัวเข็มขัดเป็นโลหะสีเงินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มุมมน ชนิดหวั กลัดเดยี ว 2) ไม่ตัดปลาย หรอื เขียนลวดลาย หรือตอกป่มุ ใด ๆ บนเข็มขัด 3) คาดพอตึง มองเห็นหัวเข็มขัดติดขอบกางเกง ให้สอดในหูกางเกงให้เรียบร้อย ต้องมองเห็น เขม็ ขัดได้รอบเอวไม่ดงึ เสื้อมาปิดเข็มขัด 1.4 ถงุ เทา้ 1) ถงุ เท้าแบบธรรมดาสีขาว แถบดา-เหลือง (ตามแบบทโ่ี รงเรียนกาหนด) ไมพ่ ับ ไม่มว้ น 2) ไม่สวมถงุ เทา้ 2 ชัน้ หรือมากกว่าน้นั 1.5 รองเท้า 1) รองเทา้ ผ้าใบสีดา ไม่มลี วดลาย หุ้มส้น ไม่หมุ้ ถึงตาตุ่ม ชนดิ มีเชือกผูกสีดา 2) สน้ ตรงปกติ ไมเ่ รยี วสูง ส้นสงู ไมเ่ กนิ 3 เซนตเิ มตร 1.6 ทรงผมนักเรียนชาย จะไว้ผมสน้ั หรอื ผมยาวก็ได้ กรณไี ว้ผมยาว ด้านขา้ ง ด้านหลงั ตอ้ งยาวไม่เลยตนี ผม ดา้ นหนา้ และ กลางศีรษะให้เป็นไปตามความเหมาะสมและมีความเรียบร้อย โดยมีข้อห้ามคือ ห้ามดัดผม ย้อมสีผมให้ผิดไป จากเดมิ ไว้หนวดหรือเครา การตดั แตง่ ทรงผมเป็นรูปทรงสัญลักษณ์หรือเป็นลวดลาย หากมีความจาเป็นท่ีต้อง ไว้ผมแบบอื่นที่ต่างจากข้างต้น เพื่อปฏิบัติตามหลักศาสนาหรือการดาเนินกิจกรรมของสถานศึกษา ใหข้ ออนุญาตหวั หนา้ สถานศึกษาหรือผไู้ ด้รับมอบหมายเปน็ ผพู้ ิจารณาอนุญาต ขอ้ 2 เครือ่ งแบบนักเรยี นหญงิ 2.1 เสอ้ื นักเรียนหญงิ ช้นั ม.ตน้ ใช้ผ้าขาวเกลี้ยงไม่บางจนเกินไป เป็นเสื้อคล้ายคอพับในตัว สวมศีรษะได้สะดวก ปกด้านหลัง เป็นแบบทหารเรือวัดจากต้นคอลงไปพองาม ไม่ตื้นหรือลึกเกินไป ใช้ผ้าสองชิ้นเย็บแบบเข้าถ้า แขนยาวเหนือ ข้อศอกเล็กน้อย ปลายจีบประกอบด้วยผ้าสองชั้นกว้าง 3 เซนติเมตร และความกว้างของตัวเสื้อให้พอเหมาะ กับลาตัว ไม่รัดเอว ริมขอบล่างด้านขวาติดกระเป๋ามีขนาดพองาม ปากกระเป๋าพับริมประมาณ 2 เซนติเมตร และให้มีเสื้อชั้นในชนิดคอกระเช้าสีขาวทับเสื้อชั้นในปกติอีกชั้นหนึ่ง มีโบหูกระต่าย ใช้ผ้าสีกรมท่า ขนาดมาตรฐานตามที่โรงเรียนกาหนด และผูกห้อยโบว์ให้เรียบร้อย ชายเป็นสามเหลี่ยมกว้างไม่เกิน 10 เซนติเมตร ผูกรอบคอแบบเงอ่ื นกะลาสี และใหป้ กั อักษรยอ่ เคร่อื งหมายตา่ ง ๆ เช่นเดยี วกับนกั เรยี นชาย คมู่ อื นกั เรยี นและผปู้ กครอง ปกี ารศกึ ษา 2565 I 61
2.2 เสอ้ื นักเรยี นหญงิ ชน้ั ม.ปลาย ใช้ผ้าขาวเกลี้ยงไม่บางจนเกินไป คอเชิ้ต ผ่าอกตลอด ที่อกเสื้อทาเป็นสาบตลบเข้าด้านในกว้าง 3 เซนติเมตร แขนยาวเพียงเหนือข้อศอกเล็กน้อย ปลายแขนมีจีบหกจีบ ซ้ายและขวาข้างละ 3 จีบ การสวมให้ชายเสื้ออยู่ในกระโปรง และให้มีเสื้อชั้นในชนิดคอกระเช้าสีขาวทับเสื้อชั้นในปกติอีกชั้นหน่ึง และใหป้ ักอักษรยอ่ เคร่ืองหมายต่าง ๆ เช่นเดยี วกบั นกั เรียนชาย 2.3 กระโปรง ใช้ผ้าสีกรมท่าเนื้อเกลี้ยง ด้านหน้าและด้านหลังพับเป็นกลีบด้านละ 6 กลีบ โดยหันกลีบออก ด้านซ้ายขวาด้านละ 3 กลีบ แต่ละกลีบลึก 3.5 เซนติเมตร เอวเหนือสะดือจากขอบเอวด้านล่างตีเกล็ดยาว ไมเ่ กนิ 9 เซนตเิ มตร และยาวคลมุ เขา่ เลก็ นอ้ ยประมาณ 5 เซนติเมตร ชายกระโปรงพบั เขา้ ด้านใน 5 เซนตเิ มตร 2.4 เขม็ ขัดใชส้ าหรบั นกั เรียนหญงิ ชนั้ ม.ปลาย เป็นเข็มขัดหนังสีดา ไม่มีลวดลายกว้าง 3-4 เซนติเมตร พอเหมาะกับตัวนักเรียน หัวเป็นแบบ สี่เหลี่ยมผืนผ้า หัวกลัดใช้หนังหรือผ้าสีดาหุ้ม มีปลอกหนังสีเดียวกันขนาด 1 เซนติเมตร สาหรับแบบของ โรงเรยี นกาหนดสอดปลายเข็มขดั ให้คาดทบั ขอบกระโปรง 2.5 ถุงเท้า แบบธรรมดาสขี าวแถบดา-เหลอื ง (ตามแบบที่โรงเรยี นกาหนด) ไมพ่ ัน ไมม่ ้วน 2.6 รองเท้า ใช้รองเทา้ หุ้มสน้ สีดา ไม่มีลวดลาย มีสายหนังรดั หลงั เท้า ส้นสูงไม่เกิน 3 เซนติเมตร ใช้ประกอบ กับถุงเท้า ตามข้อ 2.5 เมื่อสวมให้พับถุงเท้าลงมาสองชั้นกว้างประมาณ 3 เซนติเมตร และถุงเท้าไม่สั้น จนพับไม่ไดต้ ามทกี่ าหนด 2.7 ทรงผมนักเรียนหญิง จะไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ กรณีไว้ผมยาว ให้เป็นไปตามความเหมาะสมและรวบให้เรียบร้อย โดยมีข้อห้าม คือห้ามดัดผม ย้อมสีผมให้ผิดไปจากเดิม การตัดแต่งทรงผมเป็นรูปทรงสัญลักษณ์ หรือเป็นลวดลาย หากมีความจาเป็นที่ต้องไว้ผมแบบอื่นที่ต่างจากข้างต้นเพื่อปฏิบัติตามหลักศาสนา หรือการดาเนินกิจกรรมของสถานศึกษา ให้ขออนุญาตหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ได้รับมอบหมาย เปน็ ผู้พิจารณาอนญุ าต ข้อ 3 กระเปา๋ หนังสือ นักเรียนทุกคนต้องมีกระเป๋าใส่หนังสือเรียนสีด าตามระเบียบ กระทรวงศึกษาธิการ (ไม่นอ้ ยกวา่ เบอร์ 6) หรอื กระเปา๋ สะพายหลังของโรงเรียน นอกนัน้ ห้ามใช้ ไมต่ ดิ หรือประดับตกแต่งลวดลายตา่ ง ๆ คู่มอื นักเรียนและผู้ปกครอง ปีการศกึ ษา 2565 I 62
ขอ้ 4 ห้ามนกั เรยี นใชเ้ ครื่องประดบั และของมคี า่ ใด ๆ ห้ามนักเรียนใช้เครื่องประดับและของมีค่าใด ๆ ตกแต่งเครื่องแบบนักเรียนหรือร่างกาย มาโรงเรียน ยกเว้น นาฬิกาข้อมือที่มีลายสุภาพ และห้ามตกแต่งร่างกายด้วยเครื่องสาอาง หรือสิ่งปลอม เพื่อการเสริมสวย เช่น สักยันต์หรือเจาะส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย อนุญาตให้สวมสายสร้อยสแตนเลส ชนิดธรรมดาสาหรับห้อยพระ เมื่อสวมแล้วมองไม่เห็นสายสร้อยและพระ โทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป และ ของมคี า่ ทกุ ชนิดหา้ มนามาโรงเรยี น ขอ้ 5 เครอ่ื งแบบพลศกึ ษา 5.1 กางเกงวอร์มสดี าตามแบบของโรงเรียน 5.2 เสอ้ื โปโลสีเหลอื งตามแบบของโรงเรยี น ห้ามดดั แปลง ให้ปกั ชอื่ -สกุล เครอื่ งหมายระดับช้ัน ด้วยไหมสีน้าเงินเข้ม ขนาดสูง 1 เซนติเมตร เหนือกระเป๋าเสื้อด้านซา้ ย และปักเครื่องหมายระดับช้ันดว้ ยไหม สีนา้ เงนิ เขม้ ตรงกลาง เหนือชอื่ -สกุล ขนาดเท่าทโ่ี รงเรยี นกาหนด 5.3 นกั เรยี นชายสวมถุงเทา้ สีขาวแถบดา-เหลือง (ตามแบบทโี่ รงเรยี นกาหนด) และสวมรองเท้า ผ้าใบสีดา 5.4 นักเรียนหญิงสวมถุงเท้าสีขาวแถบด า-เหลือง (ตามแบบที่โรงเรียนก าหนด) และสวมรองเทา้ ผา้ ใบสขี าว 5.5 ใหแ้ ตง่ เฉพาะวนั ทีม่ กี ารเรยี นการสอนพลศกึ ษาเท่าน้ัน ขอ้ 6 เครอ่ื งแบบลกู เสือ เนตรนารี ยวุ กาชาด และผ้บู าเพ็ญประโยชน์ ให้ใช้ตามระเบียบของคณะลูกเสือแห่งชาติ ยุวกาชาด และผู้บาเพ็ญประโยชน์ โดยให้แต่ง ในวนั ทีม่ กี ารเรียนกิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ยวุ กาชาด และผู้บาเพ็ญประโยชน์ หรือวนั ทโี่ รงเรยี นกาหนดให้แตง่ ขอ้ 7 เครือ่ งแบบนักศกึ ษาวิชาทหาร ให้ใช้เครื่องแบบตามระเบียบของกรมการรักษาดินแดน ติดเครื่องหมายโรงเรียน (อาร์ม) ท่ตี ้นแขนเส้ือดา้ นขวา หา่ งจากตะเข็บไหล่ 5 เซนติเมตร ขอ้ 8 การแต่งกาย 8.1 ในโอกาสที่แต่งเครื่องแบบนักเรียนทั้งในและนอกสถานที่ นักเรียนต้องแต่งกายให้ถูกต้อง ตามระเบียบของโรงเรียนว่าดว้ ยเครื่องแบบนกั เรยี น ให้เรียบร้อย 8.2 เมื่อแต่งเครื่องแบบนักเรียน ห้ามใช้เครื่องประดับหรืออาภรณ์ใด ๆ ไม่ตกแต่งใบหน้าด้วย เคร่ืองสาอาง 8.3 ไมใ่ ช้เครอื่ งแบบนักเรียนในทางที่เสยี หายใหเ้ กดิ ความเสื่อมเสีย ต่อชอื่ เสียงโรงเรียน 8.4 ไมส่ วมรองเทา้ แตะมาโรงเรียนทง้ั ในวันเรียนปกติหรือวันหยดุ ท่ีมาติดต่อกับโรงเรยี น ยกเว้น นักเรียนทีไ่ ด้รับบาดเจบ็ ทเ่ี ท้าจนไม่สามารถสวมรองเท้านักเรียนได้ ให้สวมรองเทา้ แตะทสี่ ุภาพ คมู่ ือนกั เรียนและผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2565 I 63
8.5 ไม่สวมเส้อื นักเรียนรว่ มกับเครื่องแต่งกายท่ไี ม่ใช่เคร่อื งแบบนักเรยี น 8.6 แต่งกายใหถ้ ูกกาลเทศะ ถกู วฒั นธรรม เหมาะสมแก่สุภาพชน 8.7 หา้ มสวมหมวกท่ีไมไ่ ดร้ ะบวุ ่าเป็นเครื่องแบบใด ๆ นกั เรียนคนใดท่ีแต่งกายผิดไปจากระเบียบ ที่โรงเรยี นกาหนดไว้ โรงเรียนจะยึดไว้และให้ผูป้ กครองมารบั คืน ข้อ 9 ให้รองผู้อานวยการกลุ่มบริหารงานบุคคล หรือผู้ที่ผู้อานวยการแต่งตั้งรักษาการ ใหเ้ ปน็ ไปตามระเบยี บนี้และให้มีอานาจตดิ ตามและวนิ จิ ฉัยปัญหาเกยี่ วกับการปฏิบตั ิตามระเบียบนี้ ประกาศ ณ วนั ท่ี1 เมษายน พ.ศ. 2561 ว่าท่ีร้อยตรี (พษิ ณพุ ล แตงอ่อน) ผอู้ านวยการโรงเรยี นรัตนโกสินทร์สมโภชบวรนิเวศศาลายา ในพระสงั ฆราชูปถมั ภ์ คู่มือนกั เรยี นและผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2565 I 64
ค่มู ือนกั เรยี นและผ้ปู กครอง ปีการศึกษา 2565 I 65
ค่มู ือนกั เรยี นและผ้ปู กครอง ปีการศึกษา 2565 I 66
ค่มู ือนกั เรยี นและผ้ปู กครอง ปีการศึกษา 2565 I 67
ระเบียบวา่ ดว้ ยการทาความเคารพ จุดมุ่งหมาย : เพื่อกล่าวย้าระเบียบข้อบังคับของโรงเรียน ให้นักเรียนทาความเคารพครูหรือผู้ที่ควร เคารพตามโอกาสและสถานที่อนั สมควร และปฏบิ ตั ใิ ห้ถูกต้อง เน้ือหา : จากระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าดว้ ยการทาความเคารพของนักเรยี นและนักศึกษา พ.ศ. 2530 ประกาศ ณ วนั ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2530 นกั เรยี นต้องแสดงความเคารพครใู นโรงเรียนทกุ คน ท้ังในและ นอกโรงเรยี น และการแสดงความเคารพผู้ทค่ี วรเคารพ โดยให้นกั เรียนถือปฏิบัติ ดังน้ี 1. การทาความเคารพในห้องเรียน 1.1 เมื่อครูเข้ามาในห้องเรียน ให้หัวหน้าห้องเป็นผู้บอกทาความเคารพ โดยใช้คาบอก “นักเรียน” ให้นักเรียนทุกคนนั่งตัวตรง หัวหน้าห้องบอกต่อว่า “เคารพ” ให้นักเรียนทุกคนยกมือไหว้ และกล่าวคาว่า “สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ” เมื่อหมดชั่วโมง ครูจะออกมาจากห้องเรียนให้หัวหน้าห้ องบอก เช่นเดยี วกับตอนที่ครูเข้าห้องเรยี น นักเรียนทุกคนยกมอื ไหวแ้ ละกลา่ วคาว่า “ขอบคณุ ครบั / ขอบคุณคะ่ ” 1.2 กรณที ่ีผ้ตู รวจเยยี่ มหรอื ผู้ควรเคารพอ่นื ๆ เขา้ มาในหอ้ งเรยี น ให้ครูผูค้ วบคมุ ชน้ั ในขณะน้นั เป็น ผ้บู อกทาความเคารพและรายงานตวั ถ้าไม่มคี รคู วบคุมช้นั อยู่ในขณะน้ัน ให้หัวหนา้ ชั้นเปน็ ผ้บู อกทาความเคารพ 1.3 เมื่อนักเรยี นยนื พูดกบั ครู ให้ยืนตรงดว้ ยอาการสารวม เมอ่ื กลับมาท่โี ตะ๊ เรยี นใหย้ กมอื ไหว้ 2. การทาความเคารพนอกหอ้ งเรียน (ในบริเวณโรงเรียน) 2.1 เม่ือนักเรยี นอย่ใู นแถวใชค้ าบอกว่า “ทง้ั หมด แถวตรง” นกั เรียนทกุ คนยืนตรง 2.2 การทาความเคารพผคู้ วรเคารพในทางศาสนาใหท้ าความเคารพตามประเพณีนิยม 2.3 เมื่อผทู้ ค่ี วรเคารพผา่ นมา ให้ยนื ตรงแล้วไหว้ 2.4 เมื่อเดินสวนกับผู้ควรเคารพ นักเรียนต้องหยุดหันไปทางผู้ควรเคารพ ยืนตรงแล้วไหว้ เมื่อผู้ ควรเคารพผา่ นไปแลว้ จงึ เดินตอ่ ไป 2.5 เมื่อผู้ควรเคารพอยู่กับที่ นักเรียนจะเดินผ่านไปให้หยุดยืนตรงแล้วไหว้ แล้วจึงเดินผ่านไปโดย กม้ ตัวเลก็ น้อย 3. การทาความเคารพครูเวรประจาวันท่ีหน้าประตูโรงเรียนและตามจดุ ตา่ ง ๆ เมื่อนักเรียนเดินผ่านประตูโรงเรียนพบครูเวรให้นักเรียนหยุดยืนตรง ห่างจากครูพอสมควร แลว้ ยกมือไหว้ แลว้ กลา่ วคาวา่ “สวัสดีครบั ” “สวสั ดคี ่ะ” 4. การทาความเคารพนอกบริเวณโรงเรยี น เมือ่ นักเรียนพบครนู อกโรงเรียน ให้ทาความเคารพโดยการยกมอื ไหว้ หรือตามความเหมาะสม คูม่ อื นักเรยี นและผู้ปกครอง ปกี ารศึกษา 2565 I 68
ระเบียบว่าด้วยการเขา้ แถว จุดมุ่งหมาย : เพื่อกล่าวย้าระเบียบข้อบังคับของโรงเรียน เพื่อให้นักเรียนประพฤติปฏิบัติถูกต้อง ตามระเบียบก าหนด ให้นักเรียนมาเข้าแถวทันเวลาร้องเพลงชาติ ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี รอ้ งเพลงประจาโรงเรยี น กล่าวคาปฏิญาณตน ไหว้พระสวดมนต์ นัง่ สมาธิ แผ่เมตตา กิจกรรมนอ้ งไหวพ้ ี่ เนอ้ื หา : เพ่ือให้การเขา้ แถวรวดเรว็ และเรยี บรอ้ ยนักเรียนตอ้ งปฏบิ ัติ ดังต่อไปน้ี 1. นักเรียนตอ้ งมาโรงเรยี นให้ทนั เวลา 1.1 เวลา 07.40 น. จะมีเพลงมาร์ชบวรให้นักเรียนรบี ทาภารกจิ สว่ นตัวใหเ้ รียบร้อย และรีบไปเข้า แถวหน้าเสาธงโดยไมช่ กั ช้า 1.2 เวลา 07.50 น. นักเรียนทกุ คนเขา้ แถวเสร็จเรยี บร้อยพรอ้ มจะทากจิ กรรมรว่ มกัน 1.3 การเข้าแถวทุกครั้งต้องเรียงจากต่าไปสูง พร้อมทั้งจัดแถวโดยยึดหัวแถวเป็นหลักหัวแถว ทุกแถวตอ้ งตรงกนั 1.4 เวลา 08.00 น. ชกั ธงชาติข้นึ สูย่ อดเสา ใหน้ ักเรยี นทุกคนร้องเพลงชาติดว้ ยความตั้งใจ 1.5 การไหว้พระสวดมนต์ การแผเ่ มตตา การปฏญิ าณตน และรอ้ งเพลงประจาโรงเรยี น (บวรท่ีรัก) นกั เรียนต้องกระทาดว้ ยความตั้งใจและสารวม 2. การมาโรงเรยี นไมท่ นั เข้าแถว (มาสาย) 2.1 นักเรียนที่เดินเข้าประตูโรงเรียนขณะที่นักเรียนในแถวกาลังทากิจกรรมตอนเช้าอยู่ นักเรียน ผู้นั้นต้องหยุดที่ประตูตามที่ครูเวรกาหนดให้และให้นักเรียนผู้นั้นทากิจกรรมตอนเช้าไปพร้อมกับนักเรียน ในแถวการมาโรงเรียน ในกรณนี ีถ้ ือวา่ มาไมท่ ันเข้าแถว 2.2 นักเรียนที่มาโรงเรียนหลังจากทากิจกรรมในตอนเช้าเสร็จเรียบร้อยไปแล้วถือว่ามาสาย นักเรยี นผ้นู ้นั ตอ้ งปฏิบัติตอ่ ไปนี้ 1) ไปพบครูเวรงานกิจการนักเรียนเพื่อขอรับใบอนุญาตเข้าห้องเรียน และนาไปแสดงต่อครู ประจาวิชา 2) ครูเวรทาโทษว่ากล่าวตักเตือนจนถึงขั้นทาโทษด้วยการทากิจกรรมสาธารณประโยชน์ และเชิญผู้ปกครองไปพบ และงานกิจการนักเรียนจะบันทึกไว้ในทะเบียนประวัติของนักเรียน เพื่อตัดคะแนน ความประพฤติ 3. การเดินแถว 3.1 เดินแถวเข้าหอ้ งเรียนตอ้ งเดนิ เป็นแถว และเดินด้วยความสงบเรยี บรอ้ ย 3.2 การเดินขึน้ -ลงบนั ไดอาคารเรียน ให้เดนิ ชิดขวามือของตนเอง คูม่ อื นกั เรยี นและผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2565 I 69
ระเบยี บโรงเรียนรตั นโกสินทรส์ มโภชบวรนเิ วศศาลายา ในพระสงั ฆราชูปถัมภ์ ว่าดว้ ย เรอื่ ง คณะกรรมการนกั เรียน พ.ศ. 2554 (ปรับปรงุ แกไ้ ข พ.ศ. 2558) เพื่อเป็นการปลูกฝังประชาธิปไตยในโรงเรียนซึ่งเป็นการส่งเสริมและฝึกอบรมให้นักเรียนได้มีส่วน พฒั นาตนเองและพัฒนาสังคม ให้เรยี นรกู้ ารอยรู่ ว่ มกัน ดว้ ยความรกั ความสามัคคี บาเพญ็ ประโยชน์ ช่วยเหลือ ผู้อื่นและสังคม ทั้งยังเป็นการสนองนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการที่มุ่งปลูกฝังประชาธิปไตยในโรงเรียนจึง ตราระเบียบโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบวรนิเวศศาลายา ในพระสังฆราชูปถัมภ์ว่าด้วยเรื่อง คณะกรรมการ นกั เรยี น พ.ศ.2554 ข้นึ บังคับใช้ ดังตอ่ ไปน้ี ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบวรนิเวศศาลายา ในพระสังฆราชปู ถัมภ์ วา่ ด้วยเรือ่ งคณะกรรมการนักเรียน พ.ศ. 2554 (ปรบั ปรงุ แก้ไข พ.ศ.2558)” ขอ้ 2 ให้ใช้ระเบียบฉบับนี้นบั ตง้ั แต่ผูอ้ านวยการโรงเรียนลงนามประกาศใชเ้ ปน็ ต้นไป ข้อ 3 เมื่อระเบียบนี้มีผลบังคับใช้ ระเบียบหรือข้อบังคบั ใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการซึ่งขัดแย้ง กบั ระเบียบฉบับนถี้ กู ยกเลิกไปสิน้ ข้อ 4 ให้รองผู้อานวยการกลุ่มบริหารงานบุคคลรักษาการให้เป็นไปตามระเบียบฉบับนี้ และให้มี อานาจจดั ให้มีการยกเลิกแต่งต้ังถอดถอนแก้ไขเปล่ียนแปลงยบั ย้งั ซง่ึ กจิ การใดเกีย่ วด้วยคณะกรรมการนักเรียน โดยความเหน็ ชอบของผอู้ านวยการโรงเรียนลงนามประกาศตอ่ ไป หมวดท่ี 1 บททั่วไป ขอ้ 5 ในระเบยี บฉบบั นี้ โรงเรยี น หมายถงึ โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบวรนเิ วศศาลายา ในพระสงั ฆราชูปถมั ภ์ ผู้อานวยการโรงเรียน หมายถึง ผู้อานวยการโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบวรนิเวศศาลายา ในพระสังฆราชูปถมั ภ์ ครู หมายถงึ ครโู รงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบวรนเิ วศศาลายา ในพระสังฆราชูปถมั ภ์ นักเรียน หมายถึง นักเรียนปัจจุบันโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบวรนิเวศศาลายา ในพระสังฆราชูปถัมภ์ คณะกรรมการนักเรียน หมายถึง คณะกรรมการนักเรียนชุดปัจจุบัน โรงเรยี นรัตนโกสนิ ทรส์ มโภชบวรนิเวศศาลายา ในพระสังฆราชปู ถัมภ์ ข้อ 6 คณะกรรมการนักเรียนโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบวรนิเวศศาลายา ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ตั้งข้นึ โดยวัตถุประสงค์ ดังน้ี 6.1 ฝกึ ให้นักเรยี นเป็นผู้นา ผู้ตาม รจู้ ักรบั ผิดชอบต่อหน้าที่ที่ไดร้ บั มอบหมาย 6.2 ทาหน้าที่เป็นตัวแทนนักเรียนในการเสนอความคิดเห็นและร่วมมือกับทางโรงเรียนใน การทากิจกรรมตา่ ง ๆ เพื่อประโยชนข์ องโรงเรียนและนักเรียน คมู่ อื นกั เรยี นและผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2565 I 70
6.3 ฝึกให้นักเรียนมีประสบการณ์ด้านการบริหารและการปกครองนักเรียน โดยนักเรียน และเพื่อนนักเรียน 6.4 ปลูกฝังให้นักเรียนเข้าใจระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้การดาเนินงานของคณะกรรมการ นักเรยี นไมข่ ้องเก่ียวกับการเมืองและการบรหิ ารงานของโรงเรียน หมวดท่ี 2 องค์คณะกรรมการนกั เรยี น ขอ้ 7 คณะกรรมการนกั เรยี น ประกอบด้วย 7.1 คณะกรรมการนกั เรียน 7.2 คณะกรรมการท่ปี รกึ ษา ข้อ 8 คณะกรมการนกั เรยี น มจี านวน 15 คน ประกอบดว้ ย 8.1 ประธานนกั เรียน 1 คน 8.2 รองประธานนักเรยี น 1 คน 8.3 ผแู้ ทนคณะสี 4 คน 8.4 หวั หน้าฝ่ายปกครอง 1 คน 8.5 หัวหนา้ ฝ่ายวิชาการ 1 คน 8.6 เหรญั ญกิ 1 คน 8.7 หัวหน้าประชาสัมพนั ธ์ 1 คน 8.8 ผชู้ ่วยประชาสัมพันธ์ 1 คน 8.9 หัวหนา้ กจิ กรรม 1 คน 8.10 ผ้ชู ่วยกจิ กรรม 1 คน 8.11 เลขานกุ าร 1 คน 8.12 ผชู้ ว่ ยเลขานุการ 1 คน ข้อ 9 คณะกรรมการทป่ี รกึ ษา จานวน 9 คน ประกอบด้วย 9.1 ผู้อานวยการโรงเรยี น 1 คน 9.2 รองผูอ้ านวยการโรงเรียน 4 คน 9.3 ครทู ีไ่ ดร้ บั การแต่งต้ัง 3 คน 9.4 หวั หนา้ งานคณะกรรมการนกั เรียน 1 คน ข้อ10 คณุ สมบตั ิของคณะกรรมการนกั เรียน 10.1 คณุ สมบตั ิทวั่ ไป 1) ตอ้ งเป็นนกั เรยี นปัจจุบนั ไม่นอ้ ยกวา่ 1 ปีการศึกษา 2) ตอ้ งเป็นผทู้ ่ีมีความประพฤตเิ รยี บร้อย ไม่เคยตอ้ งโทษทางวินยั ถงึ ขั้นภาคทัณฑ์ คู่มือนักเรยี นและผปู้ กครอง ปีการศกึ ษา 2565 I 71
3) ต้องได้รับการรับรองจากครูที่ปรึกษานักเรียน หัวหน้าระดับชั้น รองผู้อานวยการ กลุม่ บรหิ ารวชิ าการ รองผูอ้ านวยการกลมุ่ บริหารงานบคุ คล 10.2 คณุ สมบตั ิเฉพาะตาแหนง่ 1) ต าแหน่งประธานนักเรียนและรองประธานนักเรียน ต้องเป็นนักเรียน ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 ของโรงเรยี น 2) ต้องเป็นประธานคณะสีของโรงเรียน หมวดที่ 3 การเลือกตง้ั และการแตง่ ตัง้ ข้อ 11 คณะกรรมการนักเรียน ให้ได้มาจากการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งโดยตรงจากนักเรียนทั้ง โรงเรยี น ข้อ 12 ผูแ้ ทนคณะสใี หไ้ ดม้ าจากการเลือกต้งั จากคณะสี ข้อ 13 คณะกรรมการตาแหน่งอื่น ๆ ให้ได้มาจากการแต่งตั้งจากประธานนักเรียนและรองประธาน นักเรยี นเป็นผู้แต่งต้ัง ข้อ 14 คณะกรรมการทั้ง 15 ตาแหน่ง ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการที่ปรึกษาและ เสนอผอู้ านวยการลงนามแตง่ ตั้งต่อไป ข้อ 15 การเลือกตั้งคณะกรรมการนักเรียนตามข้อ 11 ให้คณะกรรมการชุดที่จะหมดวาระ จัดการเลอื กตงั้ ให้เสร็จส้ินภายในเดอื นพฤษภาคมของทกุ ปี ข้อ 16 ให้ดาเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการนักเรียนชุดใหม่ให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน หลังจาก การเลือกตง้ั หมวดท่ี 4 อานาจหนา้ ทข่ี องคณะกรรมการนกั เรยี น ข้อ 17 คณะกรรมการนักเรียนมีหน้าที่จัดการประชุมเพื่อฟังความคิดเห็น วางแผนงาน และ ดาเนินงานตา่ ง ๆ โดย 17.1 จัดให้มีการประชุมสามัญอย่างนอ้ ยภาคเรยี นละ 1 ครั้ง โดยก่อนการประชุมเลขานกุ าร คณะกรรมการนักเรียนต้องแจ้งให้องค์คณะกรรมการนักเรียนทราบลว่ งหน้าอย่างน้อย 3 วัน โดยระบุวันเวลา สถานทีป่ ระชมุ และวาระการประชมุ 17.2 จดั ให้มีการประชุมวสิ ามัญโดยทนั ทถี ้า 1) คณะกรรมการนักเรียน 1 ใน 3 มีความเหน็ ใหเ้ รียกประชุม 2) ประธานคณะกรรมการทปี่ รกึ ษามคี วามเห็นให้เรียกประชมุ 17.3 การจัดประชุมสามัญหรือวิสามัญต้องมีคณะกรรมการเข้าประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหน่ึง จงึ จะถอื ว่าครบองคป์ ระชุม คู่มอื นักเรียนและผปู้ กครอง ปกี ารศกึ ษา 2565 I 72
17.4 การลงมติใด ๆ ต้องมีคะแนนเสียงข้างมากไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง จึงจะถือว่ามตินั้น เหน็ ชอบ 17.5 มติใด ๆ ที่ได้รับความเห็นชอบจากการประชุมจะดาเนินการได้ก็ต่อเมื่อได้รับ ความเหน็ ชอบจากผอู้ านวยการโรงเรยี น ข้อ 18 วางแผนดาเนินกิจกรรมนักเรียน กิจกรรมวันไหว้ครู กิจกรรมกีฬา กิจกรรมปัจฉิมนิเทศ ภายใน กิจกรรมวันเดก็ กจิ กรรมนิทรรศการ ฯลฯ โดยความเห็นชอบจากผอู้ านวยการ ข้อ 19 เสนอแนะแก่โรงเรยี นในเรอ่ื งความมวี นิ ยั ความสะอาด และสวสั ดิการของนักเรยี น ข้อ 20 ประสานงานระหวา่ งโรงเรียนกบั นักเรียน และหน่วยงานอ่ืนท่เี ก่ียวขอ้ งในการจดั กิจกรรมนกั เรยี น ขอ้ 21 หน้าทขี่ องคณะกรรมการนกั เรียนตาแหนง่ ตา่ ง ๆ 21.1 ประธานนกั เรียนมีหนา้ ที่ 1) เป็นหัวหน้านักเรียน 2) เป็นตัวแทนนักเรียนทั้งโรงเรียนในการติดต่อสัมพันธ์ ทั้งภายนอกและภายใน โรงเรยี น ทัง้ ท่เี ปน็ เป็นพิธีการและไม่เป็นพธิ ีการ 3) เป็นหัวหน้าในการกากับดูแลการดาเนนิ กิจกรรมของกรรมการในแต่ละตาแหนง่ ให้ เปน็ ไปด้วยความเรยี บรอ้ ย 21.2 รองประธานนักเรียน มีหน้าที่ทาการแทนประธานนักเรียน เมื่อประธานนักเรียน ไมส่ ามารถปฏิบัตหิ นา้ ทไี่ ด้ 21.3 ผแู้ ทนคณะสี มหี นา้ ทีป่ ระสานงานการจดั กจิ กรรมทเี่ กยี่ วขอ้ งกับคณะสที ุกกจิ กรรม 21.4 เหรัญญิก มหี น้าท่ี 1) เก็บรักษาเงินของคณะกรรมการนักเรียนในวงเงินที่คณะกรรมการนักเรียนกาหนด แต่ไม่เกนิ 500 บาท 2) ทาบญั ชีรายรับ-จา่ ย และบัญชที รพั ย์สนิ ของคณะกรรมการนกั เรียน 3) ปฏบิ ัติหนา้ ทีอ่ ่ืนตามทไี่ ด้รับมอบหมาย 21.5 หวั หน้าประชาสมั พันธม์ ีหนา้ ที่ 1) ประชาสมั พนั ธง์ านของคณะกรรมการนกั เรียน 2) ประสานงานกับงานประชาสัมพันธ์ของโรงเรียนเพื่อช่วยเหลืองานด้านประชาสัมพันธ์ กจิ กรรมต่าง ๆ ของโรงเรียน 3) ปฏิบัตหิ นา้ ทีต่ ามท่ไี ดร้ ับมอบหมาย 21.6 ผูช้ ว่ ยประชาสัมพันธ์มีหนา้ ท่ี ชว่ ยหัวหนา้ งานประชาสมั พันธต์ ามท่ีได้รับมอบหมาย คมู่ อื นกั เรียนและผปู้ กครอง ปีการศกึ ษา 2565 I 73
21.7 หัวหน้ากิจกรรม มหี น้าทีร่ บั ผิดชอบในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียน เช่น วันไหว้ครู กฬี าภายใน นทิ รรศการ ฯลฯ โดยประสานงานกบั ฝ่ายต่าง ๆ ทรี่ บั ผดิ ชอบ 21.8 หัวหน้าฝ่ายปกครอง มีหน้าที่ดูแล ช่วยเหลือ และสนับสนุนให้นักเรียนปฏิบัติตนตาม ระเบยี บของโรงเรียน 21.9 หัวหน้าฝ่ายวิชาการ มีหน้าที่ส่งเสริม สนับสนุน และช่วยเหลือนักเรียนในด้านความรู้ การพัฒนาตนดา้ นวิชาการ 21.10 ผู้ช่วยกจิ กรรม มหี นา้ ท่ี ช่วยหัวหนา้ งานฝ่ายกจิ กรรมตามท่ีได้รับมอบหมาย 21.11 เลขานุการ มีหนา้ ที่ 1) รวบรวม เก็บรักษาเอกสารของคณะกรรมการนักเรยี น 2) แจง้ ระเบียบวาระการประชมุ ใหค้ ณะกรรมการนักเรียนทราบ 3) จดบนั ทกึ การประชุม 4) จดั เตรยี มสถานทป่ี ระชุม 5) ปฏิบตั ิหนา้ ทอ่ี ่ืนตามท่ไี ด้รับมอบหมาย 21.12 ผู้ช่วยเลขานุการ มหี น้าที่ช่วยเลขานุการและงานอนื่ ตามท่ไี ด้รับมอบหมาย ขอ้ 22 การเงินของคณะกรรมการนักเรียน 22.1 การเงินของคณะกรรมการนักเรียน ได้มาจาก 1) เงินสนบั สนุนจากโรงเรียน 2) เงนิ บริจาค 3) เงนิ ที่ไดม้ าจากการทากิจกรรมต่าง ๆ 22.2 การเก็บรักษาเงิน ให้มีคณะกรรมการเก็บรักษาเงินจานวน 3 คนประกอบด้วย ประธานนักเรียน เหรัญญิก และครูที่ปรึกษาที่ได้รับมอบหมาย เป็นผู้เก็บรักษาเงินโดยฝากไว้ในตู้นิรภัย ของโรงเรียน หรือฝากธนาคารพาณิชย์ นอกเหนอื จากเงนิ สดท่ีถือไว้ในมือเหรญั ญิกไมเ่ กิน 500 บาท 22.3 อานาจการใชจ้ า่ ยเงนิ ให้เปน็ ไปโดยมตขิ องคณะกรรมการนักเรียน หมวด 5 สมาชกิ ภาพคณะกรรมการนกั เรียน ข้อ 23 คณะกรรมการนกั เรียนทกุ ตาแหน่งจะต้องอยู่ในตาแหน่งตามวาระ วาระละ 1 ปีการศึกษา ขอ้ 24 นอกจากพน้ วาระตามขอ้ 23 แลว้ กรรมการนักเรียนจะพ้นตาแหนง่ เมอ่ื 24.1 ตาย 24.2 ลาออก 24.3 คณะกรรมการนักเรยี น จานวน 2 ใน 3 มมี ติให้ออก 24.4 ขาดคุณสมบตั ิตามข้อ 10.1 คู่มอื นกั เรียนและผปู้ กครอง ปีการศกึ ษา 2565 I 74
ข้อ 25 เมื่อกรรมการตาแหน่งใดว่าง ลงผู้อานวยการโรงเรียนอาจจะสั่งการให้มีการเลือกตั้งซ่อม หรือแตง่ ต้งั ผู้อนื่ แทนกไ็ ด้ และผ้ทู ่ีรบั เลอื กต้ังหรอื แตง่ ตง้ั จะอยูใ่ นตาแหนง่ ได้ตามวาระทีเ่ หลอื เท่านนั้ ข้อ 26 ให้แต่งตั้งหัวหน้าห้องเรียนทุกห้องเพื่อเป็นคณะอนุกรรมการโดยตาแหน่ง เมื่อมีการเปลี่ยน หวั หน้าห้องเรยี นใหเ้ ปล่ียนได้ตามจริง หมวดที่ 6 การแก้ไขระเบียบ ข้อ 27 ระเบียบของคณะกรรมการนักเรยี นจะแก้ไขได้ก็ตอ่ เม่ือท่ปี ระชมุ คณะกรรมการนักเรียนมีมติเห็นชอบ ข้อ 28 การขอแก้ไขระเบียบจะกระทาได้ก็ต่อเม่ือกรรมการนักเรียนจานวน 2 ใน 3 เสียงเสนอขอแก้ไข ข้อ 29 เมื่อที่ประชุมคณะกรรมการมีมติให้แก้ไข ให้ประธานนักเรียนเสนอให้ผู้อานวยการโรงเรียน พิจารณาและลงนามประกาศตอ่ ไป หมวดที่ 7 บทเฉพาะกาล ข้อ 30 เนื่องจากระเบียบนี้มีผลบังคับใช้เมื่อวนั ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2558 คณะกรรมการนักเรียนให้ ดาเนินการให้แล้วเสรจ็ ภายในเดือนมิถนุ ายน 2558 และในเดือนมถิ นุ ายนของทกุ ปี ข้อ 31 ให้ใชร้ ะเบยี บนี้ตงั้ แตป่ ีการศกึ ษา 2558 เป็นตน้ ไป ประกาศ ณ วนั ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2558 ว่าท่ีรอ้ ยตรี (พิษณุพล แตงอ่อน) ผ้อู านวยการโรงเรียนรัตนโกสินทรส์ มโภชบวรนิเวศศาลายา ในพระสงั ฆราชูปถมั ภ์ คู่มือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ปกี ารศึกษา 2565 I 75
ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ผ้ปู กครองนกั เรียน นกั ศึกษา โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงประกาศกระทรวงศึกษาธิการเรื่องผู้ปกครอง นักเรียนให้เหมาะสม ยิ่งขึ้น ฉะนั้นอาศัยอานาจตามความในข้อ 23 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 216 ลงวันที่ 26 กันยายน 2515 จึงได้ยกเลิกประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ผู้ปกครองนักเรียน ลงวันที่ 19 มกราคม พุทธศักราช 2505 และให้ผู้ปกครองนักเรียน นักศึกษาที่กาลังรับการศึกษาระดับต่ากว่าปริญญาตรีใน สถานศึกษาของ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ปฏบิ ัติ ดังนี้ 1. “ผู้ปกครอง” หมายความว่า บุคคลซึ่งรับนักเรียน นักศึกษาไว้ในความปกครอง หรืออปุ การะเลี้ยงดู หรอื บุคคลทนี่ กั เรียนนักศึกษาอาศัยอยดู่ ้วย 2. ให้นักเรียนนักศึกษาที่กาลังรับการศึกษาในระดับหลักสูตรระดับ ปวส. ปกศ.สูง หรือเทียบเท่า ลงมาในสถานศึกษาในสังกัด หรือในความควบคุมดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ เว้นแต่การศึกษาผู้ใหญ่ มผี ปู้ กครองตลอดระยะเวลาทศ่ี ึกษาอยู่ 3. ในวนั มอบตวั นักเรียน นกั ศึกษาใหม่ ให้ผู้ปกครองมามอบตัวนกั เรียน นกั ศกึ ษาพร้อมกบั ส่งหลักฐาน เอกสารต่าง ๆ ตามที่สถานศึกษากาหนด ถ้าผู้ปกครองไม่อาจมามอบตัวนักศึกษาได้ตามกาหนด ให้ผู้ปกครอง ตกลงกับหัวหน้าสถานศกึ ษากาหนดวันมอบตวั นักเรียน นักศึกษาใหม่ 4. ผู้ปกครองจะต้องร่วมมือกับสถานศึกษาเพื่อควบคุมความประพฤติ และการศึกษาเล่าเรียนต่อ โดยให้นักเรียน นักศึกษา แต่งกาย แต่งเครื่องแบบและประพฤติตนตามระเบียบข้อบังคับหรือคาส่ัง ของสถานศึกษา และหรอื ของกระทรวงศกึ ษาธิการตามท่ีกฎหมายกาหนด 5. ผู้ปกครองควรติดต่อกับสถานศึกษาอยู่เสมอเพื่อจะได้ทราบปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับการศึกษาของ นักเรยี น นกั ศึกษา และจะไดช้ ่วยสถานศึกษาแกป้ ญั หาน้นั ๆ 6. เมื่อผู้ปกครองย้ายที่อยู่ หรอื ความเปน็ ผู้ปกครองสิ้นสุดลงด้วยประการใด ๆ ให้ผู้ปกครองแจง้ ให้สถานศึกษาทราบ 7. สาหรับนักเรียน นักศึกษา ที่รับการศึกษาอยู่สถานศึกษาแล้ว ให้สถานศึกษาตรวจสอบติดตาม หลักฐานการเป็นผู้ปกครองนักเรียน นักศึกษา หากเห็นว่านักเรียน นักศึกษาคนใดไม่มีผู้ปกครอง หรอื ผปู้ กครองไม่เหมาะสมกใ็ หส้ ถานศึกษา ดาเนนิ การให้เปน็ ไปตามประกาศน้ี ประกาศ ณ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2522 กอ่ สวัสดิพาณชิ ย์ (นายก่อ สวัสดิพาณิชย)์ รัฐมนตรชี ่วยวา่ การปฏิบตั ิราชการแทนรฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศึกษาธกิ าร คู่มอื นักเรียนและผปู้ กครอง ปกี ารศกึ ษา 2565 I 76
แนวปฏบิ ตั ใิ นการลงโทษนกั เรียนโดยการตดั คะแนนความประพฤติ ความผดิ ต่าง ๆ ทนี่ ักเรียนกระทา พอแบ่งประเภทต่าง ๆ ไดด้ ังน้ี คือ ก. ความผดิ สถานเบา ตดั คะแนน 5 คะแนน ไดแ้ ก่ ความผิดแสดงถึง พฤตกิ รรมอันมีอุปนสิ ัยไมด่ ี เช่น 1. แต่งกายผิดระเบียบของโรงเรยี น - ผมยาวหรือทรงผมผิดระเบียบ - เสื้อไม่ปกั รส.บศ., ช่อื -สกุล, เครอื่ งหมายช้นั ปี หรอื ปักผดิ แบบอกั ษรที่กาหนดไว้ - กางเกง กระโปรงผิดระเบยี บ เช่น สนั้ พอง เอวลอย ผดิ ทรงนกั เรียน - เขม็ ขดั ผดิ ระเบียบ - รองเท้า ถุงเทา้ ผดิ ระเบียบ 2. หนีเรียน แตไ่ ม่ออกนอกบรเิ วณโรงเรียน 3. จอด ขับขี่ จกั รยานยนต์ ไมถ่ ูกต้องตามระเบยี บ 4. ส่งเสียงเอะอะบนอาคารเรียน หรอื ห้องเรียนโดยไม่มีเหตผุ ล 5. เล่นเกมต่าง ๆ บนอาคารเรียน 6. ไมร่ กั ษาความสะอาดของเครอื่ งแต่งกาย รา่ งกาย ห้องเรียน หรืออาคารเรียนโดยไมม่ ีเหตผุ ล 7. ปกปิดความลับของนกั เรยี นผูก้ ระทาความผิด โดยนงิ่ เงียบท้ัง ๆ ทรี่ ู้ 8. มาโรงเรยี นสายโดยไม่มีเหตจุ าเป็น 9. แสดงกิริยาวาจา หยาบคาย 10. ขดั คาสง่ั ของครูในเรือ่ งที่เกย่ี วกบั กระบวนการเรยี นการสอน 11. หลกี เลี่ยง หลบซอ่ น ไม่เข้าแถวเคารพธงชาตใิ นตอนเช้า 12. ไม่ให้ความร่วมมือตอ่ สว่ นรวม ข. ความผิดสถานกลางตัดคะแนน 10 คะแนน ได้แก่ ความผิดที่อาจทาใหเ้ กดิ ความเส่ือมเสยี ช่ือเสียง ต่อโรงเรยี น หรอื เกดิ ความเสยี หายตอ่ สว่ นรวม ไม่รา้ ยแรง หรือเป็นความผิดที่อาจเป็นเหตใุ ห้เกดิ ความผิดระดับ รา้ ยแรงต่อไปได้ 1. สบู บหุ ร่ี หรือมีบุหร่ใี นครอบครอง 2. หนีออกนอกบริเวณโรงเรยี น 3. ทาลายสง่ิ ของท่เี ปน็ ประโยชนต์ อ่ ส่วนรวม (ต้องชดใชค้ ่าเสยี หายด้วย) 4. ขีดเขียนขอ้ ความ หรือรปู บนฝาผนงั หรอื ส่ิงกอ่ สรา้ งของโรงเรยี น 5. ประพฤตติ นส่อไปในทางชูส้ าว 6. แสดงกิรยิ าวาจาไมส่ มควรต่อครู 7. พดู จาขู่กรรโชก เพ่อื นนักเรยี น คมู่ ือนักเรียนและผู้ปกครอง ปกี ารศกึ ษา 2565 I 77
8. เทยี่ วเวลากลางคืนเป็นนิจ หรอื เขา้ ไปในสถานที่ไม่เหมาะสม 9. แต่งกายฝ่าฝนื ระเบียบโดยเจตนา 10. ทะเลาะวิวาทกับเพ่อื นนักเรียน 11. เลน่ การพนันทัง้ ในโรงเรียนและนอกโรงเรยี น ค. ความผดิ สถานหนัก ตดั คะแนน 20 คะแนน ไดแ้ ก่ ความผดิ ทั้งหลายท่ีนาความเสื่อมเสียร้ายแรงมา สู่โรงเรียนและสว่ นรวม หรอื ความผิดทก่ี ระทบกระเทือนตอ่ ระเบยี บวินัยของส่วนรวม 1. เจตนาขโมย ยักยอก ขู่กรรโชกทรพั ย์สนิ หรือส่ิงของของผ้อู ืน่ 2. ด่มื สุรา เครอ่ื งดองของเมา 3. เสพฝนิ่ กญั ชา เฮโรอีน หรือยาเสพตดิ อนื่ ๆ หรอื มีไว้ในครอบครอง 4. แสดงอาการกระดา้ งกระเดื่องต่อครู 5. เป็นผยู้ ยุ งใหเ้ กิดการแตกความสามัคคี หรือต่อต้านระเบยี บวนิ ยั ของโรงเรยี น 6. กอ่ การทะเลาะวิวาทกันเป็นพวกเป็นหมู่ 7. ประพฤติตนในทานองชสู้ าวทม่ี ีหลักฐาน 8. มอี าวธุ วัตถุระเบิด ไวใ้ นครอบครอง หรือพกพาอาวุธมาโรงเรยี น 9. ก่อการทะเลาะววิ าทภายนอกโรงเรยี นทาใหเ้ ส่อื มเสียชือ่ เสียงโรงเรยี น 10. ทาลายทรัพยส์ ินของโรงเรยี น 11. เปน็ นกั เลงการพนัน ง. ความผิดขนั้ รา้ ยแรง ตดั คะแนน 50-100 คะแนน 1. มีพฤติกรรมชู้สาว 2. ขโมยทรพั ย์สินของโรงเรียนโดยมหี ลักฐาน จบั ของกลางไดเ้ ดน่ ชัด 3. การกระทาใด ๆ อันเปน็ ความผดิ ทางอาญา จนถูกเจ้าหน้าท่ีตารวจดาเนินคดี ส่งฟ้องศาลแล้วมี ความผิดจรงิ ตามข้อกล่าวหา การลงโทษนกั เรยี น ทางโรงเรียนจะลงโทษนักเรียนตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ“ว่าด้วยการลงโทษนักเรียน นักศึกษา”ที่เป็นปัจจุบัน โดยอยู่ในดุลยพินิจของหัวหน้าสถานศึกษา หรือครูที่สถานศึกษามอบหมาย และ ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลงทไ่ี ด้กระทาไว้กบั ผู้ปกครองนกั เรยี นในวันมอบตวั นักเรียน คู่มือนักเรยี นและผปู้ กครอง ปีการศึกษา 2565 I 78
ระเบยี บกระทรวงศึกษาธิการ ว่าดว้ ยการลงโทษนกั เรียนและนกั ศกึ ษา พ.ศ. 2548 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 6 และมาตรา 65 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จงึ วางระเบียบวา่ ดว้ ยการลงโทษนักเรยี นและนักศกึ ษาไว้ดังต่อไปน้ี ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ.2548” ขอ้ 2 ระเบยี บนใ้ี ห้ใช้บังคับต้ังแตว่ ันประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปน็ ต้นไป ขอ้ 3 ให้ยกเลกิ ระเบยี บกระทรวงศึกษาธกิ ารว่าดว้ ยการลงโทษนักเรยี นหรือ นกั ศึกษา พ.ศ. 2543 ขอ้ 4 ในระเบียบน้ี “ผู้บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกษา” หมายความว่า ครูใหญ่ อาจารย์ใหญ่ ผู้อานวยการ อธิการบดี หรือหัวหน้าของโรงเรยี นหรือสถานศึกษา หรือตาแหน่งท่ีเรียกชอื่ อย่างอนื่ ของโรงเรยี นหรือสถานศกึ ษานั้น “กระทาความผิด” หมายความว่า การที่นักเรียนหรือนักศึกษาประพฤติฝ่าฝืน ระเบียบ ข้อบังคับ ของสถานศึกษา หรือของกระทรวงศึกษาธิการ หรือกฎกระทรวง ว่าด้วยความประพฤติของนักเรียนและ นกั ศกึ ษา “การลงโทษ” หมายความว่า การลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษาที่กระทา ความผิด โดยมี ความม่งุ หมายเพอ่ื การอบรมสงั่ สอน ขอ้ 5 โทษทีจ่ ะลงโทษแก่นกั เรียนหรอื นักศึกษาที่กระทาความผิด มี 4 สถาน ดังนี้ 1) วา่ กลา่ วตักเตอื น 2) ทาทณั ฑบ์ น 3) ตัดคะแนนความประพฤติ 4) ทากจิ กรรมเพ่ือให้ปรับเปลย่ี นพฤติกรรม ข้อ 6 ห้ามลงโทษนักเรยี นและนักศกึ ษาด้วยวิธีรนุ แรงหรือแบบกล่นั แกลง้ หรือลงโทษดว้ ยความโกรธ หรือด้วยความพยาบาท โดยให้คานึงถึงอายุของนักเรียน หรือนักศึกษาและความร้ายแรงของพฤติการณ์ ประกอบการลงโทษดว้ ย การลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษาใหเ้ ปน็ ไปเพ่ือเจตนาทีจ่ ะแก้นิสัยและความประพฤติ ไม่ดขี องนักเรียนหรือนักศึกษาให้รสู้ านึกในความผดิ และกลับประพฤติตนในทางที่ดตี ่อไป ใหผ้ ู้บริหารโรงเรียน หรือสถานศึกษา หรือผู้ที่ผู้บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกษามอบหมายเป็นผู้มีอานาจในการลงโทษนักเรียน นกั ศกึ ษา ข้อ 7 การว่ากลา่ วตักเตอื นใช้ในกรณนี กั เรยี นหรือนกั ศกึ ษากระทาความผิดไมร่ ้ายแรง คู่มือนักเรยี นและผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2565 I 79
ขอ้ 8 การทาทณั ฑบ์ น ใชใ้ นกรณีนักเรยี นหรือนกั ศึกษาที่ประพฤติตน ไม่เหมาะสมกบั สภาพนักเรียน หรือนักศึกษา ตามกฎกระทรวงวา่ ดว้ ยความประพฤติ นักเรียนและนักศึกษา หรือกรณีทาให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และเกียรติศักด์ิของสถานศึกษา หรือฝา่ ฝืนระเบยี บของสถานศึกษา หรอื ได้รับโทษว่ากล่าวตักเตือนแล้ว แต่ยัง ไม่เข็ดหลาบ การทาทัณฑ์บนให้ทาเป็นหนังสือ และเชิญบิดามารดาหรือผู้ปกครอง บันทึกรับทราบความผิด และรับรองการทาทณั ฑบ์ นไวด้ ว้ ย ข้อ 9 การตัดคะแนนความประพฤติให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติว่าด้วย การตัดคะแนน ความประพฤตนิ ักเรียนและนักศึกษาของแตล่ ะสถานศกึ ษากาหนด และให้ทาบันทกึ ข้อมลู ไวเ้ ปน็ หลกั ฐาน ข้อ 10 ทากิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใช้ในกรณีที่นักเรียนและนักศึกษากระทาความผิด ทสี่ มควรต้องปรับเปลยี่ นพฤติกรรม การจดั กจิ กรรมใหเ้ ป็นไปตามแนวทางที่กระทรวงศึกษาธิการกาหนดน้ีและ ใหม้ อี านาจตีความ และวินจิ ฉยั ปญั หาเก่ียวกบั การปฏิบัตติ ามระเบียบนี้ ประกาศ ณ วนั ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2548 อดศิ ยั โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร คู่มอื นกั เรยี นและผ้ปู กครอง ปกี ารศกึ ษา 2565 I 80
ผปู้ กครองควรบอกอะไรให้โรงเรียนทราบบา้ ง เมื่อผู้ปกครองนานักเรียนมาเข้าโรงเรียน หรือมอบให้กับโรงเรียนแล้วก็กลับไปโดยไม่มาโรงเรียนอีก เลยซึ่งทางโรงเรียนโดยเฉพาะครูประจาชั้นครูประจาวิชา ต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับเด็กนักเรียนเอง ซึ่งบางครั้ง กว่าจะทราบข้อเท็จจริงก็อาจจะสายเกินไป ด้วยเหตุนี้ผู้ปกครองควรมีส่วนช่วยให้โรงเรียนรู้จักเด็กนักเรียน เสียตงั้ แต่แรกเขา้ โรงเรยี นจึงควรจะ บอกให้ทางโรงเรียนทราบ เช่น 1. เดก็ มีความผิดปกติทางสายตาหรอื ไม่ 2. เด็กมีความพิการเกี่ยวกบั หูหรอื ไม่ 3. เด็กมโี รคประจาตวั หรือไม่ 4. เดก็ มีปัญหาในครอบครัวหรือไม่ 5. เดก็ กาพรา้ พอ่ แม่หรือไม่ 6. เดก็ มนี สิ ัยหวาดกลัวง่ายหรือไม่ 7. เด็กมีปมด้อยหรือไม่ 8. เด็กมปี มเด่นหรือไม่ 9. เด็กมนี สิ ัยชอบเกเรเพื่อน หรือรังแกน้องหรือไม่ 10. เดก็ มคี วามผิดปกติทางสติปัญญาหรือไม่ 11. เด็กมีสภาพอารมณ์ผดิ ปกติหรือไม่ 12. เดก็ มีความผดิ ปกติทางจิตหรือไม่ 13. เดก็ มีนสิ ยั เงียบขรึม ไม่ชอบคบเพ่ือนหรือไม่ 14. เด็กมีนิสัยชอบคุย พูดมากหรือไม่ 15. เด็กมภี าระต้องชว่ ยงานบา้ นหรอื ไม่ ฯลฯ เท่าท่ีกล่าวมานเ้ี ป็นเพียงตวั อย่างให้เห็นถงึ ปัญหาต่าง ๆ ของเดก็ นกั เรยี นที่โรงเรยี นและครูควรทราบ ตง้ั แต่แรก ซ่ึงถา้ เดก็ ของทา่ นมีปัญหาดงั ที่กลา่ วมาแลว้ หรือทานองเดียวกนั นี้ก็ควรแจ้งใหโ้ รงเรียนหรือครูทราบ เพอ่ื ชว่ ยป้องกนั และขจัดปญั หาสว่ นตวั ของนักเรยี นตอ่ ไป การขอพบนักเรยี น 1. ผู้ปกครองมคี วามประสงคจ์ ะขอพบนกั เรียน ให้ถือปฏิบัติดงั น้ี 1.1 แจ้งชือ่ ระบุชนั้ /หอ้ งของนักเรยี นทจ่ี ะมาขอพบ 1.2 แจ้งความเก่ยี วพนั ระหว่างผขู้ อพบและนักเรยี น 1.3 ตดิ ต่อขอพบนกั เรยี นไดท้ ่ีห้องปกครองเท่านั้น 1.4 เวลาทีข่ ออนญุ าตให้พบจะตอ้ งเป็นเวลาพักเวลาเปลี่ยนคาบเรียน หรือเวลาทีจ่ าเปน็ จริง ๆ เทา่ น้นั คมู่ อื นักเรยี นและผ้ปู กครอง ปกี ารศึกษา 2565 I 81
2. บุคคลภายนอก โรงเรียนไม่ประสงคใ์ ห้นักเรียนใชส้ ถานทีข่ องโรงเรยี นเป็นที่ตดิ ต่อกับบุคคลภายนอก หากมีกิจธุระ จาเป็นจริง ๆ นักเรียนต้องแจ้งฝ่ายปกครอง หรือครูที่ปรึกษาด้วยตนเอง และให้บุคคลภายนอกที่จะมาติดต่อ รอทฝ่ี ่ายปกครองเทา่ นน้ั บคุ คลภายนอกทม่ี าขอพบนักเรียนอาจไม่ได้รบั การอนญุ าตให้มาพบ หากพิจารณาว่า ไม่เหมาะสมหรือไมจ่ าเป็น หากนักเรยี นแอบพาบุคคลภายนอกที่ไม่ไดร้ ับการอนุญาตเข้ามาภายในโรงเรยี น จะไดร้ ับการลงโทษ ตามระเบียบของโรงเรียน ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของนักเรียนที่จะต้องแจ้งให้บุคคลภายนอกที่จะมาติดต่อ ให้ทราบและเข้าใจว่า จะเข้ามาในโรงเรียนตามความพอใจไม่ได้ ทั้งนี้เพื่อความสงบเรียบร้อยและ ความปลอดภัยของนักเรียน คู่มอื นกั เรียนและผ้ปู กครอง ปีการศกึ ษา 2565 I 82
กลุ่มบรหิ ารทั่วไป งานอาคารสถานท่ี งานประชาสมั พนั ธ์ และงานอนามัย นางสาวอิสรีย์ ดา่ นพชิ ติ ชัยศ์ รองผ้อู านวยการกลุม่ บริหารท่ัวไป โทร. 02-4821153 คูม่ ือนักเรียนและผู้ปกครอง ปกี ารศกึ ษา 2565 I 83
ระเบยี บวา่ ดว้ ยการรับประทานอาหาร จดุ มงุ่ หมาย : เพือ่ ให้นักเรยี นได้ทราบระเบียบเกย่ี วกบั การใช้โรงอาหาร และมมี ารยาทในการรับประทาน อาหาร เนือ้ หา : การมมี ารยาทในการซื้อ การรับประทานอาหาร และการใชโ้ รงอาหาร นกั เรยี นต้องปฏิบัติ ดงั นี้ 1. นักเรียนต้องซื้ออาหารเฉพาะร้านที่ทางโรงเรียนจัดไว้ให้เท่านั้น ห้ามซื้ออาหารจากร้านภายนอก โรงเรยี น ยกเวน้ อาหารที่นกั เรยี นนามาจากบา้ น 2. ในการซ้อื อาหาร นักเรยี นควรเข้าแถวตามลาดับก่อนหลัง 3. การซ้ืออาหาร เคร่ืองดมื่ กระทาไดต้ ามเวลาที่โรงเรียนกาหนด 4. รบั ประทานอาหารเฉพาะในโรงอาหาร หรือสถานที่ที่โรงเรียนจัดไว้ให้ 5. ต้องรับประทานอาหารด้วยการสารวม ระมัดระวังไม่ให้หกเรี่ยราด และนักเรียนควร เก็บเศษอาหารซ่งึ นักเรียนทาหกไวใ้ ห้เรยี บรอ้ ย 6. ไม่นาอาหาร ขนม เครื่องดื่ม ออกนอกบริเวณโรงอาหาร และไม่เดินรับประทานอาหารทุกชนิด 7. หลังรับประทานอาหารแล้ว นักเรียนต้องเก็บภาชนะใส่อาหาร เช่น จาน ชาม ถ้วย แก้ว ไปไว้ในสถานทีท่ ่ีโรงเรยี นจัดไวใ้ หเ้ รียบรอ้ ย หา้ มวางทง้ิ ไวบ้ นโต๊ะท่รี บั ประทานอาหาร 8. ถ้วยกระดาษ หลอดกาแฟ ถุงพลาสติก ไม้เสียบอาหาร เศษขยะที่หุ้มห่อ ให้ทิ้งลงในถังขยะ ทโ่ี รงเรียนจดั ไว้ให้ 9. เมอ่ื นักเรียนรับประทานเสร็จเรียบร้อยแลว้ ควรรีบออกจากโรงอาหารทนั ที เพื่อให้นักเรยี น คนอน่ื ใช้โรงอาหารตอ่ ไป คมู่ อื นักเรียนและผู้ปกครอง ปกี ารศึกษา 2565 I 84
งานอาคารสถานท่ี แผนผังอาคารสถานที่ของโรงเรียน ค่มู อื นกั เรยี นและผ้ปู กครอง ปีการศกึ ษา 2565 I 85
งานประชาสมั พันธ์ งานประชาสมั พันธ์เปน็ หน่วยงานหน่งึ ของกลุ่มบริหารท่ัวไปเพื่อให้บริการ แกน่ ักเรียน ผู้ปกครอง และครู ตลอดจนบุคคลอน่ื ๆ ที่มาติดต่อกับทางโรงเรียน หน้าทีค่ วามรบั ผิดชอบ 1. ให้คาปรึกษาและแนะนาแกบ่ ุคคลที่มาตดิ ต่อกับทางโรงเรียน 2. เผยแพร่ข่าวสารความรู้ที่เกีย่ วกับกิจกรรมภายในโรงเรียนและภายนอกโรงเรียน - บรกิ ารเสยี งตามสาย ช่วงเช้าเวลา 07.00 - 07.50 น. - จัดทาวารสารประชาสัมพันธ์ “บวรศาลายาสาร” ปกี ารศึกษาละ 1 เลม่ - จัดทาป้ายประกาศตา่ ง ๆ 3. ชว่ ยประสานความคิดเห็นและสร้างความเข้าใจในหมคู่ ณะ 4. ใหค้ วามรว่ มมอื กับฝ่ายตา่ ง ๆ ท่เี กย่ี วข้องกบั การประชาสัมพันธ์ 5. จดั สรรผูเ้ ปน็ พธิ กี รในกิจกรรมตา่ ง ๆ ของโรงเรียน 6. ปฏบิ ัตงิ านพเิ ศษอื่น ๆ ตามที่ผู้บรหิ ารมอบหมาย การบริการของงานประชาสัมพนั ธ์ 1. การรับฝากของ หากท่านต้องการฝากสิ่งของให้กับครูหรือนักเรียน ทางห้องประชาสัมพันธ์ จะมสี มุดให้ทา่ นกรอก และเจ้าหนา้ ท่ีจะตดิ ตอ่ ให้ครูหรอื นกั เรียนผนู้ น้ั มารับของและให้ลงช่อื ไว้เป็นหลักฐาน 2. การรับแจ้งของหาย นักเรียนท่ีทาของใด ๆ หาย ให้มาติดต่อที่ห้องประชาสัมพันธ์ โดยแจ้ง ชื่อ-สกุล ชั้น สิ่งของที่หาย ส่วนนักเรียนที่เก็บของได้ ให้นาส่งที่ห้องประชาสัมพันธ์ เพ่ือจะได้ติดต่อเจ้าของ มารบั คืน 3. หน้าห้องประชาสมั พนั ธ์ จะมบี อร์ดแจ้งในกรณที ่ีพบส่ิงของต่าง ๆ ในแต่ละสปั ดาห์ คูม่ ือนักเรยี นและผู้ปกครอง ปกี ารศกึ ษา 2565 I 86
งานอนามยั (พยาบาล) ขอบข่ายงานอนามัยและขั้นตอนแนวปฏิบัติ เมื่อนักเรียนเกิดอาการ เจ็บป่วย หรือได้รับอุบัติเหตุ ในโรงเรียน ขอบขา่ ย 1. งานประจาวัน คือ ใหบ้ รกิ ารปฐมพยาบาล อาการเจ็บป่วยเบอ้ื งต้น 2. สง่ ตอ่ สถานพยาบาลในกรณีทจ่ี าเป็นหรือฉุกเฉนิ 3. ใหภ้ มู ิคุม้ กันตามสถานการณก์ ารระบาดของโรค โดยรว่ มมือกับเจ้าหนา้ ท่ีสาธารณสุข 4. ใหค้ วามรดู้ า้ นสขุ ภาพอนามัยดว้ ยสอ่ื ตา่ ง ๆ เชน่ แผนภาพ แผน่ พบั เอกสาร และตารา เป็นตน้ 5. จัดทาบนั ทกึ สขุ ภาพประจาปี พรอ้ มทัง้ ตรวจสุขภาพประจาปี โดยรว่ มมอื กับเจ้าหน้าท่สี าธารณสุข 6. จัดทาประกนั อุบตั ิเหตุใหก้ ับนกั เรยี น การใช้ห้องพยาบาล 1. ขออนุญาตครปู ระจาวิชาเพื่อเขา้ รับการใช้บรกิ ารห้องพยาบาล 2. แจง้ ครปู ระจาห้องพยาบาลให้ทราบถึงอาการเจบ็ ป่วย 3. เมอ่ื รบั ยาเรียบรอ้ ยแล้วให้เขยี นบันทึกลงในแบบบันทกึ 4. หากจาเปน็ ตอ้ งนอนพกั จะตอ้ งขออนุญาตคุณครปู ระจาวชิ า แล้วเขียนแบบบนั ทึกทห่ี อ้ งพยาบาล 5. กอ่ นนอนพกั ให้ถอดถุงเท้า และเมอื่ ลกุ จากเตียง ให้จัดท่นี อนให้เรียบร้อย 6. ถ้านักเรียนมีอาการป่วยและมีความประสงค์จะกลับบ้าน จะต้องดาเนินการขออนุญาตกลับบ้าน กบั ฝ่ายปกครอง และตดิ ต่อผ้ปู กครองให้มารับ 7. หา้ มใช้บรกิ ารกอ่ นไดร้ บั อนุญาต คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ปีการศึกษา 2565 I 87
ค่มู ือนกั เรยี นและผ้ปู กครอง ปีการศึกษา 2565 I 88
ค่มู ือนกั เรยี นและผ้ปู กครอง ปีการศึกษา 2565 I 89
ค่มู ือนกั เรยี นและผ้ปู กครอง ปีการศึกษา 2565 I 90
ค่มู ือนกั เรยี นและผ้ปู กครอง ปีการศึกษา 2565 I 91
ค่มู ือนกั เรยี นและผ้ปู กครอง ปีการศึกษา 2565 I 92
ภาคผนวก • บทสวดมนตไ์ หว้พระประจาวัน (ตอนเช้า) (ผแู้ ทนนักเรยี นสวดนำ ผ้อู ่นื สวดตำม) อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พระผ้มู ีพระภำคเจำ้ เป็นพระอรหันต์ ดับเพลงิ กเิ ลสเพลิงทุกขส์ ้ินเชงิ ตรัสรชู้ อบได้โดยพระองคเ์ อง พทุ ธัง ภะคะวนั ตัง อภิวาเทมิ ข้ำพเจ้ำ อภวิ ำทพระผูม้ ีพระภำคเจ้ำ ผ้รู ู้ ผู้ตืน่ ผู้เบิกบำน (กรำบ) สวากขาโต ภะคะวะตา ธมั โม พระธรรม เป็นธรรมท่ีพระผู้มีพระภำคเจ้ำ ตรัสไว้ดีแล้ว ธมั มงั นะมัสสามิ ขำ้ พเจำ้ นมสั กำรพระธรรม (กรำบ) สปุ ะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ พระสงฆ์ สำวกของพระผูม้ ีพระภำคเจำ้ ปฏบิ ตั ิดแี ลว้ สังฆงั นะมามิ ขำ้ พเจำ้ นอบน้อมพระสงฆ์ (กรำบ) • บทแผ่เมตตาสวดพร้อมคาแปล สพั เพ สตั ตา สัตวท์ ัง้ หลำยทเี่ ปน็ เพื่อนทุกข์ เกดิ แก่ เจบ็ ตำย ดว้ ยกนั ท้ังหมดทั้งสิ้น อะเวรา โหนตุ จงเป็นสขุ เปน็ สุขเถิด อยำ่ ไดม้ ีเวรแก่กันและกันเลย อพั ยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อยำ่ ได้พยำบำทเบยี ดเบยี นซง่ึ กันและกันเลย อะนฆี า โหนตุ จงเปน็ สขุ เป็นสขุ เถดิ อยำ่ ได้มีควำมทุกข์กำย ทกุ ขใ์ จเลย สขุ ี อัตตานงั ปะรหิ ะรนั ตุ จงมคี วำมสุขกำยสุขใจ รักษำตนให้พ้นจำกทุกขภ์ ัยทั้งสิน้ เทอญ สมำธปิ ฏบิ ตั ิ 3 นำที • คาปฏญิ าณตน เรำคนไทย ใจกตัญญู รคู้ ุณชำติ ศำสนำ พระมหำกษัตริย์ เรำนักเรียน จักต้องประพฤติ ตนให้อยูใ่ นระเบียบวนิ ัยของโรงเรียน มีควำมซื่อสัตยต์ ่อตนเองและผูอ้ ่นื เรำนักเรียน จักไมท่ ำตน ให้เปน็ ท่เี ดอื ดรอ้ นต่อตนเองและผู้อ่นื คู่มอื นักเรยี นและผูป้ กครอง ปีการศกึ ษา 2565 I 92
• สวดมนตไ์ หวพ้ ระประจาสปั ดาห์ (ใหน้ ักเรยี นน่งั คกุ เข่ำลงพร้อมกัน โดยนกั เรยี นชำยน่ังท่ำเทพบตุ ร และนักเรียนหญงิ นง่ั ท่ำ เทพธิดำ ประนมมือ ให้หัวหน้ำนำสวด และคนอื่นว่ำตำม) อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธงั ภะคะวนั ตงั อภิวาเทมิ (กราบ) สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธมั มงั นะมัสสามิ (กราบ) สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ สังฆัง นะมามิ (กราบ) (ให้นักเรยี นลกุ ข้ึนยนื พรอ้ มกัน ประนมมือ) • บทสวดนมัสการ (สวดทานองสังโยค) (ผู้นำวำ่ ) นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต (รับพร้อมกนั ) อะระหะโต สัมมำสมั พุทธสั สะ (3จบ) • สวดพระพุทธคณุ (สวดทานองสังโยค) (ผู้นำวำ่ ) อติ ิปโิ สภะคะวำ (รับพร้อมกนั ) อะระหงั สมั มำสมั พุทโธ วิชชำจะระณะสมั ปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปรุ ิสะทมั มะสำระถิ สัตถำ เทวะ มนสุ สำนงั พทุ โธ ภะคะวำติ (สวดทานองสรภญั ญะ) (ผู้นำว่ำ) องค์ใดพระสัมพุทธ (รับพร้อมกัน) สวุ สิ ุทธสันดำน ตัดมลู กิเสสมำร บ มิหม่นมหิ มองมวั หน่งึ ในพระทัยท่ำน ก็เบกิ บำนคอื ดอกบวั รำคบี พ่ ันพัว สุวคนธะกำจร องค์ใดประกอบดว้ ย พระกรุณำดงั สำคร โปรดหมปู่ ระชำกร มะละโอฆะกันดำร ชท้ี ำงบรรเทำทุกข์ และช้สี ุขเกษมศำนต์ ชท้ี ำงพระนฤพำน อนั พน้ โศกวโิ ยคภัย พร้อมเบญจะพิธจัก- ษจุ รสั วมิ ลใส เห็นเหตทุ ีใ่ กล้ไกล ก็เจนจบประจกั ษจ์ รงิ กำจัดน้ำใจหยำบ สันดำนบำปแห่งชำยหญิง สตั วโ์ ลกได้พึง่ พิง มละบำปบำเพญ็ บญุ ขำ้ ฯ ขอประณตน้อม ศริ เกลำ้ บงั คมคุณ สมั พุทธะกำรุญ- ญะภำพนนั้ นิรนั ดร (กรำบ) คู่มือนกั เรียนและผู้ปกครอง ปกี ารศกึ ษา 2565 I 93
• สวดพระธรรมคุณ (สวดทานองสงั โยค) (ผู้นำว่ำ) สวำกขำโต (รับพรอ้ มกัน) ภะคะวะตำ ธมั โม สันทิฏฐิโก อะกำลโิ ก เอหิปสั สโิ ก โอปะนะยโิ ก ปัจจตั ตัง เวทติ พั โพ วิญญูหี ติ (สวดทานองสรภญั ญะ) (ผ้นู ำวำ่ ) ธรรมะคือคุณำกร (รับพร้อมกัน) สว่ นชอบสำธร ดจุ ดวงประทีปชัชวำล แหง่ องค์พระศำสดำจำรย์ สอ่ งสตั ว์สันดำน สวำ่ งกระจ่ำงใจมล ธรรมใดนบั โดยมรรคผล เป็นแปดพึงยล และเก้ำนับทงั้ นฤพำน สมญำโลกอดุ รพสิ ดำร อันลกึ โอฬำร พสิ ทุ ธพ์ิ เิ ศษสุกใส อีกธรรมตน้ ทำงครรไล นำมขนำนขำนไข ปฏบิ ตั ิปริยตั ิเป็นสอง คือทำงดำเนนิ ดจุ ครอง ใหล้ ่วงลุปอง ยงั โลกอุดรโดยตรง ข้ำฯ ขอโอนอ่อนอตุ มงค์ นบธรรมจำนง ด้วยจิตและกำยวำจำ (กรำบ) • สวดพระสังฆคุณ (สวดทานองสงั โยค) (ผ้นู ำวำ่ ) สปุ ะฏิปนั โน (รับพรอ้ มกัน) ภะคะวะโต สำวะกะสังโฆ อุชุปะฏปิ นั โน ภะคะวะโต สำวะกะสังโฆ ญำยะปะฏปิ ันโน ภะคะวะโต สำวะกะสังโฆ สำมีจปิ ะฏปิ นั โน ภะคะวะโต สำวะกะสังโฆ ยะททิ งั จัตตำริ ปุริสะยคุ ำนิ อัฏฐะ ปรุ สิ ะปคุ คะลำ เอสะ ภะคะวะโต สำวะกะสงั โฆ อำหเุ นยโย ปำหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณโี ย อนุตตะรัง ปญุ ญกั เขตตงั โลกัสสำติ คมู่ อื นกั เรียนและผู้ปกครอง ปกี ารศกึ ษา 2565 I 94
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111