Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นิทานอีสปภาษาอังกฤษ

นิทานอีสปภาษาอังกฤษ

Published by pannita.ptt, 2020-04-16 05:15:10

Description: นิทานอีสปภาษาอังกฤษ จัดทำโดยห้องสมุดประชาชน " เฉลิมราชกุมารี " อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง

Search

Read the Text Version

นทิ านอีสป ภาษา อังกฤษ ห้องสมุดประชาชน \" เฉลิมราชกมุ าร\" อาํ เภอห้วยยอด จงั หวัดตรัง

ห่านกับไขท่ องคํา The Goose with The Golden Egg กาลครงั หนึงนานมาแล้ว ชาวนาคนหนึงได้ไปยงั รงั หา่ นของเขา แล้ว พบไข่ฟองหนึงเปนสเี หลอื งส่องแสงแวววาว  เมอื เขาหยบิ มนั ขนึ มาก็ รสู้ ึกว่ามันหนักพอๆ กับตะกัว  เขานํามันกลับบา้ นและทันใดก็พบว่ามัน เปนไข่ทองคําบรสิ ุทธ ิ ทกุ เช้าเหตกุ าลเดยี วกนั ก็เกดิ ขนึ และในไม่ช้าเขา กก็ ลายเปนคนมังมีจากการขายไขท่ องคํา เมือเขายิงรารวยขึนเขาก็ยิง โลภมากขึน และคิดหาทางทีจะไดข้ ายไข่ทงั หมดทีหา่ นสามารถให้ไดใ้ น คราวเดยี ว เขาจงึ ฆา่ มัน ผ่าทองมนั แลว้ เขากพ็ บแตค่ วามว่างเปลา่ Once upon a time a farmer going to the nest of his goose found there an egg all yellow and glittering.When he took it up it was as heavy as lead.He took it home and soon found that it was an egg of pure gold.Every morning the same thing occurred, and he soon became rich by selling his eggs.As he grew rich he grew ; and thinking to get at once all the gold the goose give, he killed it and opened it only to find-nothing. นิทานเรืองนีสอนให้รู้ว่า 'ความโลภไม่เคยให้ความมังมีแก่ใคร' 'Greed never gave anyone richness.'

แมส่ ุนขั จิงจอกกบั แมส่ ิงโต The vixen and the lioness เช้าวันหนึงขณะทแี ม่สนุ ัขจงิ จอกกาํ ลังนําลูก ๆ ของมันออกจากทีหลบ ซ่อน มันเหน็ แม่สงิ ตัวหนึงกับลกู แมส่ นุ ัขจงิ จอกจงึ เอย๋ ถามขนึ ว่า “ทําไมเธอถงึ มีลูกแคต่ ัวเดียวละ่ จ๊ะ”ดูสุขภาพของฉันและลกู ๆ จาํ นวนมากของฉันนีสิ และ ลองจนิ ตนาการดูว่า ถา้ เธอสามารถทาํ ไดอ้ ยา่ งฉันเธอจะภาคภมู ิใจในความเปน แม่สักแคไ่ หนแม่สิงโตตอบอยา่ งสงบวา่ “มันก็จรงิ อยา่ งทีเธอบอก หากดูเพียง แค่การรวมเปนกล่มุ กอ้ นอยา่ งสวยงาม พวกเขาคืออะไรหละ่ สนุ ัขจิงจอกงนั หรอื ถึงแม้ว่าฉันมลี กู เพียงแคต่ ัวเดยี ว แต่จําไวว้ า่ นันคอื สงิ โตตวั หนึง” One morning when a vixen was taking her babies out of the lair, she saw a lioness and her cub.'Why do you have only one child, dear dame?' asked the vixen. “Look at my healthy and numerous children here, and imagine, if you are able, how a proud mother should feel.'The lioness said calmly, 'Yes, just look at that beautiful collection. What are they? Foxes! I've only one, but remember, that one is a lion.' นิทานเรืองนีสอนให้รู้ว่า 'คุณภาพดีกว่าปริมาณ' 'Quality is better than quantity.'

คนตัดฟนกับงพู ิษ The Woodman and the Serpent วันหนึงในฤดูหนาว ขณะทีคนตัดฟนผหู้ นึงกําลังเดินกลับบ้านหลังจากเสรจ็ งาน เขาเหลอื บไปเห็นอะไรบางอยา่ งสดี าํ ทอดตัวอยู่ในหมิ ะ เมอื เขาเข้าไปใกล้ มันเขากเ็ หน็ ว่ามันคืองูตัวหนึง ลกั ษณะเหมอื นตาย แตเ่ ขากจ็ ับมันขึนมา แล้ว เอาแนบอกเพือทําความอบอนุ่ ใหก้ ับมนั ตลอดเวลาทีเขารบี รดุ กลับบา้ นพอเขา เขา้ ไปในบ้าน เขาก็เอางนู ันวางลงทีเตาผิง หน้ากองไฟ ลูกๆ ของเขาเฝาดูมัน และเห็นว่ามันคอ่ ยๆ ฟนขึนอกี อยา่ งช้าๆแล้วลกู คนหนึงของเขากก็ ้มลงเพอื เขีย มันดู แต่งตู วั นัน มนั ชูหวั ขนึ แยกเขยี ว และกําลังจะฉกเดก็ คนนันใหถ้ งึ ตายดงั นัน คนตัดฟนจงึ คว้าขวานมา ฟนฉับเดยี วงูนันกข็ าดเปนสองทอ่ น One wintry day, a Woodman was tramping home from his work when he saw something black lying on the snow.When he came closer he saw it was a Serpent to all appearance dead. But he took it up and put it in his bosom to warm while he hurried home.As soon as he got indoors he put the Serpent down on the hearth before the fire.The children watched it and saw it slowly come to life again.Then one of them stooped down to stroke it, but the Serpent raised its head and put out its fangs and was about to sting the child to death.So the Woodman seized his axe, and with one stroke cut the Serpent in two. 'Ah,' said he. นิทานเรืองนีสอนให้รู้ว่า 'ทําคุณบูชาโทษ' 'No gratitude from the wicked.'

กากับเหยือกนํา The Crow and Pitcher กาตัวหนึงกําลงั จะตายเพราะการกระหายนา มองเหน็ เหยอื กนาสูงใบหนึง และ หวังว่าคงจะได้พบนา จึงบินตรงไปทเี หยอื กนาอย่างกระหาย อยา่ งไรก็ตามเมอื มันบนิ ไปถงึ ทีเหยือกนามันก็รสู้ กึ เสียใจเปนอย่างมากทีพบว่าในเหยือกนามนี าอย่นู ้อยนิด เหลือเกนิ จนมันไมส่ ามารถจะกนิ ได้ถึงดว้ ย จงอย ปากสนั ๆ ของมนั  มันพยายามทุก อยา่ งซึงมันคิดได้ เพอื จะได้กนิ นา แตว่ า่ การพยายามทุกอย่างของมนั ก็ไรผ้ ล ในทสี ดุ มันก็ไดค้ วามคิดอยา่ งหนึง จึงรวบรวมหนิ ให้มากทีสุดเท่าทมี นั จะสามารถขนมาได้ มนั จงึ หย่อนหินลงไปในเหยือกทลี ะกอ้ น ๆ จนกระทังสามารถทาํ ให้ระดับนาสงู ขึน จนถงึ ขอบเหยอื กซึงทําให้มันสามารถกินนาไดโ้ ดยสะดวก A crow dying from thirst saw a tall pitcher and hoping to find water, flew to it eagerly.When he reached it, however, he discovered to this great distress that it contained so little water that he could not possibly reach it with his hort beack.He tried everything he could think of get at the water, but all his efforts were in vain.   At last he had an idea. Collecting many stones as he could carry, he bropped them one by one into the pitcher until he raised the water to the brim of the vessel, from which he could now drink in comfort. นิทานเรืองนีสอนให้รู้ว่า 'ความจําเปน เปนต้นกําเนิดแห่งการค้นพบสิงใหม่ ๆ' 'Necessity is the mother of invention.'

สงิ โตกบั หนู The Lion and The Mouse สิงโตตัวหนึงถูกปลุกให้ตนื ขึน จากการนอนหลบั อนั แสนบรมสขุ โดยหนูทบี ่มุ บ่ามตัวหนึง วิงขนึ ไปบนหน้าของมนั   มันทะลึงลุกขนึ ด้วยความโกรธจัดและจับหนูไว้ไดก้ ําลงั ทจี ะฆ่าเสยี ให้ ตายนัน หนูก็รอ้ งออกมาวา่ “หากว่าท่านจะไว้ชีวติ ฉัน ฉันแน่ใจว่าสักวนั หนึงฉันคงตอบแทน ความกรณุ าของทา่ นได”้   สิงโตหวั เราะความคดิ ของหนูทีว่าจะสามารถช่วยมันได้ แต่เปน เพราะว่าวันนันเปนวันดี มันจึงตัดสินใจปลอ่ ยหนูเปนอสิ ระไป  แลว้ กบ็ ังเอญิ เหลอื เกนิ ทีหลงั จากนันไม่นานนัก สิงโตตวั นีถกู นายพรานพวกหนึงจับได้ เขาผกู มันไว้บนพืนดว้ ยเชือกทีเหนียว แน่น  สิงโตส่งเสยี งคํารามรอ้ งก้องดว้ ยความโกรธ และหนูจาํ เสยี งของมนั ได้ กต็ รงเขา้ มากดั เชือกขาดออกด้วยฟนอนั แหลมคมของมนั เมอื สงิ โตได้รบั อสิ รภาพแลว้ หนูจงึ กล่าวกับสงิ โตว่า “ท่านหัวเราะฉันเมือฉันบอกทา่ นวา่ สกั วนั หนึง ฉันคงจะสามารถ ช่วยท่านได้ แต่ตอนนีท่านกร็ ู้ แล้วว่าบางครงั มันกเ็ ปนไปได้เหมือนกันทวี ่า แม้หนูก็สามารถทจี ะช่วยสิงโตได้” A lion was awakened from a very satisfying sleep by an impudent mouse running over his face. Rising up in anger, he caught him and was about to kill him when the mouse cried out; “If you only spare me life, I will surly be able to repay your kindness one pay” The lion laughed at the idea of a mere mouse ever being able to help him, because it was a nice day he decided to let him go free. It so happened that shortly after this the lion was caught by some hunters who bound him with strong ropes and tied him to the ground. The lion roared and roared with anger, and the mouse recognizing his voice, come up and gnawed through the ropes with his sharp teeth, When the lion was free, the mouse said to him; “You laughed when I said that one day I would be able to help you. But now you know that sometimes it is possible for even a mouse to help a lion” นิทานเรืองนีสอนให้รู้ว่า 'อย่าดูหมินผู้ทีต้อยตากว่า เพราะสักวันหนึง เราอาจต้องพึงพา อาศัยเขา ทุกชีวิตในโลกล้วนต่างต้องพึงพาซึงกันและกัน' 'No one is too weak to do good.'

หวั ขโมยหนุม่ กบั แม่ The Young Thief and His Mother มีหนุ่มน้อยคนนึงถูกจับในข้อหาลักทรพั ย์ และถกู ตดั สนิ ประการชีวติ เขาบอกว่าเขา ต้องการพบแม่ของเขา และพูดคุยกับแม่ก่อนทีเขาจะถูกประหารชีวิตและเขากไ็ ดร้ บั อนุญาตให้พบแม่ตามทีขอ เมือแมข่ องเขาเขา้ มาหา เคา้ กบ็ อกแมว่ ่า “ผมอยากกระซิบแม”่ และให้แม่เอาหูมาใกลๆ้ ๆ เขาหน่อย เขาเขา้ ไปใกล้ชิดกบั แม่และกดั หูแม ่ ผู้คนทไี ดเ้ หน็ ต่าง รสู้ ึกกลัว และเอย๋ ถามเขาวา่ เขาทาํ เช่นนันทาํ ไม มนั ช่างโหดรา้ ย และการทาํ แบบนีกไ็ ม่แตก ต่างอะไรกบั สตั ว์ “นีคอื การลงโทษ” เขาตอบ ตอนฉันเปนเดก็ ฉันเรมิ ทีจะลกั เล็กขโมยน้อย และ เอาของมาให้แม่ทบี ้านแทนทีแมจ่ ะวา่ และทาํ โทษฉัน แม่กลบั หวั เราะและพดู วา่ ดีแล้ว ทีไม่มีใครเห็นเปนเพราะแม่ ทีทําให้ผมมาตายทนี ี... เขาทํากับแมเ่ ช่นนันเปนเรอื งทถี ูกตอ้ ง แล้ว บาทหลวงพดู และผู้คมุ กม็ คี วามเห็นเช่นเดยี วกนั A young Man had been caught in a daring act of theft and had been condemned to be executed for it.He expressed his desire to see his Mother, and to speak with her before hewas led to execution, and of course this was granted. When his Mother came to him he said: 'I want to whisper to you,' and when she brought her ear near him, he nearly bit it off.All the bystanders were horrified, and asked him what he could mean by such brutal and inhuman conduct.'It is to punish her,' he said. 'When I was young I began with stealing little things, and brought them home to Mother.Instead of rebuking and punishing me, she laughed and said: 'It will not be noticed.'It is because of her that I am here today. 'He is right, woman,' said the Priest; 'the Lord hath said: นิทานเรืองนีสอนให้รู้ว่า 'ควรสังสอนลูกไปในทางทีถูกต้อง และเมือเขาโตขึนเขาจะ ปฏิบัติในสิงทีถูกต้อง' 'Train up a child in the way he should go; and when he is old he will not depart therefrom.'

ลมกบั ดวงอาทติ ย์ The Wind and The Sun วันหนึงลมกับดวงอาทติ ย์โตเ้ ถยี งกนั วา่ ใครมกี ําลังมากกว่ากัน ทันใดนันพวกเขากเ็ ห็น คนเดินทางคนหนึงกําลังเดินมาตามถนน แลว้ ดวงอาทติ ย์ก็พูดขนึ วา่  “ขา้ พบวธิ ทีี ีจะตดั สนิ การโต้เถียงของเราแล้ว ไมว่ า่ ใครก็ตามทีสามารถทําให้คนเดินทางผูน้ ันถอดเสอื คลมุ ได้ จะ ถูกนับว่าเปนผู้ทแี ขง็ แรงกวา่ ท่านเรมิ ก่อนน่ะ”ดังนันดวงอาทิ ติ ยจ์ งึ หลบไปอย่หู ลังก้อนเมฆ แล้วลมกเ็ รมิ พัดคนเดินทางแรงทีสุดเทา่ ทีจะสามารถทาํ ได้ แต่ยิงลมพัดแรงเทา่ ไรคนเดิ ิน ทางก็ยงิ คลุมรา่ งกายมิดชิดมากขึนเทา่ นัน จนกระทงั ในทสี ุดลมกห็ มดหวัง จากนันดวง อาทิตยก์ ็ออกมาและส่องแสงสว่างเต็มกําลงั ไปยังคนเดนิ ทางผู้นัน ไมน่ านเขาก็เรมิ รสู้ กึ รอ้ น เกนิ กว่าจะเดนิ ตอ่ ไปพรอ้ มกับถอดเสือคลุมออกดว้ ย One day the wind and the sun were disputing which was the stronger.Suddenly they saw a traveler coming down the road, and the sun said:“I see a way to decide our dispute. Whichever of us can cause that traveler to take off his cloak shall be regarded as the stronger. You begin.”So the sun got behind a cloud. And the wind began to blow as hard as it could upon the traveler.But the harder he blew the more closely did the traveler wrap his cloak round him, till at last the wind had to give in despair.Then the sun came out and shone in all his glory upon the traveler, who soon found it too hot to walk with his cloak on. นิทานเรืองนีสอนให้รู้ว่า 'ความอ่อนโยนได้ผลกว่าความรุนแรง' 'Kindness affects more than severity.'


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook