บทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา - ตำนานดอกกุหลาบ - ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ นางสาวศศิกานต์ หนูเกตุ รหัสฯ 034 สาขาวิชาภาษาไทย (ค.บ.)
ผู้แต่ง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระองค์ทรงมีพระนามเดิมว่า สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ พระราชนิพนธ์จากจินตนาการ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๖
ผลงานพระราชนิพนธ์ เช่น ศกุนตลา รามเกียรติ์ และอื่น ๆ กว่า ๒๐๐ เรื่อง ทรงใช้นามปากกาต่าง ๆ ตามแนว เรื่องที่ทรงพระราชนิพนธ์ อาทิ \"อัศวพาหุ\" \"รามจิตติิ\" \"พันแหลม\" \"ศรีอยุธยา \"นายแก้วนายขวัญ\"
ชื่ อเรื่อง กุพฺชก อ่านว่า กุบ-ชะ-กะ แปลว่า กุหลาบ กุพฺชกา อ่านว่า กุบ-ชะ-กา แปลว่า นางค่อม
ชื่ อเรื่อง มทน = ความลุ่มหลง พาธา = ความเดือดร้อน \"มัทนะพาธา\" = ความลุ่มหลง ความเจ็บปวด เดือดร้อนเพราะความรัก
บทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา ประกอบด้วย ๕ องก์ แต่งด้วยฉันท์และกาพย์ แบ่งเป็นภาคสวรรค์และภาคพื้นดิน ฉันท์ส\"ลเคัรบำียฉกกันาพท์ย\"์ สมมติว่าเกิดเรื่องในอินเดียโบราณ
จุดประสงค์ของการแต่ง บทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา รัชกาลที่ ๖ ตั้งพระทัยให้เป็นหนังสืออ่าน กวีนิพนธ์ เพื่อความสนุกสนานในด้านเนื้อหา และสอนในโดยให้เห็นถึงพลังอานุภาพ แห่งความรัก ซึ่งไม่ได้มีเพียงแต่ความสุขสมหวังเท่านั้น แต่ความรักความสามารถ สร้างความทุกข์ ความเจ็บปวด เหมือนที่เราชอบพูดกันว่า \"ที่ใดมีรักที่นั่นที่ทุกข์\" ถ้ารักในทางที่ดี ก็จะมีสุข ทางรักในทางที่ผิดไม่ฟังคำตักเตือนก็อาจทำให้มีทุกข์ได้ ดังคำต่อไปนี้
จุดประสงค์ของการแต่ง คำว่า \"ความรักทำให้คนตาบอด\" ดังคำพระกาละทรรศิน กล่าวว่า ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมน ไม่ยินและไม่ยล อุปสัคคะใดใด ความรักเหมือนโคถึก กำลังคึกผิขังไว้ ก็โลดจากคอกไป บ่ยอมอยู่ ณ ที่ขัง ถึงหากจะผูกไว้ ก็ดึงไปด้วยกำลัง ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง บ่หวนคิดถึงเจ็บกาย (หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย : วรรณคดีวิจักษ์ ม.5, 2564, น.73)
ลักษณะคำประพันธ์ บทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา ประกอบด้วย กาพย์ ๓ ชนิด ได้แก่ กาพย์ยานี ๑๑ กาพย์ฉบัง ๑๖ กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ ฉันท์ ๒๑ ชนิด เช่น วิชชุมมาลาฉันท์ ๘ อิทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ อุปชาติฉันท์ ๑๑ ภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒ อินทวงศ์ฉันทร์ ๑๒ วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ เป็นต้น
เนื้อเรื่องโดยสั งเขป ภาคสวรรค์ สุเทษณ์เทพบุตรหลงรักเทพธิดามัทนา แต่นางไม่ปลงใจด้วย สุเทษณ์เทพบุตรจึงขอให้วิทยาธรมายาวินใช้ เวทมนตร์สะกดเรียกนางมา เมื่อโดนมนตร์สะกด นางมัทนาก็เจรจาตอบสุเทษณ์อย่างคนไม่รู้สึกตัว สุเทษณ์เทพบุตร จึงไม่โปรด เมื่อขอให้มายาวิน คลายมนตร์ นางมัทนาก็รู้สึกตัวและตอบปฏิเสธความรักของสุเทษณ์เทพบุตร ทำให้สุเทษณ์โกรธมากจึงสาปให้นางจุติไปเกิดบนโลกมนุษย์ นางมัทนาขอไปเกิดเป็นดอกกุพฺชะกะหรือดอกกุหลาบ สุเทษณ์เทพบุตรจึงกำหนดว่า ดอกกุหลาบดอกนั้นจะกลายเป็นมนุษย์ได้เฉพาะในวันเพ็ญคืนเดียว ต่อมาเมื่อ นางมัทนามีความรักจึงจะพ้นคำสาป และหากเมื่อใดนางเกิดความทุกข์เพราะรัก ก็ให้นางวิงวอนต่อพระองค์ แล้วพระองค์ก็จะทรงช่วยเหลือ
ภาคมนุษย์ เนื้อเรื่องโดยสั งเขป ณ กลางป่าหิมะวัน ฤๅษีกาละทรรศินได้พบต้นกุหลาบ จึงขุดไปปลูกไว้ที่อาศรม เมื่อนางมัทนา กลายเป็นมนุษย์ก็เลี้ยงดูรักใคร่เหมือนลูก จนเมื่อท้าวชัยเสนกษัตริย์แห่งเมืองหัสตินาปุระ เสด็จไปล่าสัตว์ได้พบนางมัทนาก็เกิดความรัก นางมัทนาก็มีใจเสน่หาต่อท้าวชัยเสนด้วยเช่นกัน ทั้งสองจึงสาบานรักต่อกันทำให้นางมัทนาพ้นคำสาป ไม่ต้องกลับไปเป็นดอกกุหลาบอีก แต่เมื่อท้าวชัยเสนพานางมัทนาไปยังเมืองหัสตินาปุระของพระองค์ พระนางจัณฑีมเหสีของ ท้าวชัยเสนเกิดความหึงหวงเละแค้นใจมาก พระนางจึงขอให้พระบิดาซึ่งเป็นพระราชาแห่งแคว้นมคธ ยกทัพมาตีหัสตินาปุระ อีกทั้งพระนางจัณฑียังใช้ให้นางข้าหลวงค่อมทำกลอุบายว่านางมัทนาลอบรัก กับศุภางค์ ทหารเอกของท้าวชัยเสน ทำให้ท้าวชัยเสนหลงเชื่อจึงสั่งประหารนางมัทนาและศุภางค์
เนื้อเรื่องโดยสั งเขป ภาคมนุษย์ แต่ต่อมาเมื่อท้าวชัยเสนรู้ว่านางมัทนาและศุภางค์ไม่มีความผิดก็เสียใจมาก อำมาตย์เอกจึงทูล ความจริงว่ายังมิได้สังหารนางมัทนา โดยศิษย์ของฤๅษีได้พานางกลับไปอยู่ ณ ป่าหิมะวัน ส่วนศุภางค์ก็เป็นอิสระเช่นกันและได้ออกต่อสู้กับข้าศึกจนตัวตายอย่างทหารหาญ ท้าวชัยเสนรู้ดัง นั้นจึงยกขบวนเดินทางไปรับนางมัทนา ขณะนั้นเองนางมัทนาได้ทูลขอให้สุเทษณ์เทพบุตรรับนาง กลับไปสวรรค์ สุเทษณ์เทพบุตรรับคำขอของนาง แต่มีข้อแม้ว่านางจะต้องตอบรับรักตนก่อน ครั้น นางมัทนาปฏิเสธสุเทษณ์จึงกริ้วและสาปให้นางมัทนากลายเป็นกุหลาบตลอดไป เมื่อท้าวชัยเสนเดินทางมาถึง แต่ไม่ทันการณ์จึงทำได้เพียงแต่นำต้นกุหลาบที่ต้องคำสาปกลับ ไปดูแล ณ เมืองหัสตินาปุระ ด้วยความเสียพระทัย
อ้างอิง กระทรวงศึกษาธิการ. (๒๕๖๔). พิมพ์ครั้งที่ ๗. หนังสือเรียน รายวิชาภาษาไทย วรรณคดีวิจักษ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพร้าว ภาสกร เกิดอ่อน และคณะ. (๒๕๕๑). พิมพ์ครั้งที่ ๖. ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ม.๕. กรุงเทพฯ: อักษรเจริญทัศน์ อจท. จำกัด. มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ. (๒๕๕๔). บทละคอนพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา. กรุงเทพฯ: ศิลปากรบรรณาคาร.
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: