Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รวมไฟล์สมบูรณ์ สรุปโครงการโคก_merged (1)

รวมไฟล์สมบูรณ์ สรุปโครงการโคก_merged (1)

Published by wannipa6803, 2021-11-06 02:55:19

Description: รวมไฟล์สมบูรณ์ สรุปโครงการโคก_merged (1)

Search

Read the Text Version

ก คำนำ เอกสารสรุปผลโครงการเล่มนี้ จัดทาข้ึนเพ่ือสรุปผลการดาเนินงานปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะ จากการจดั กิจกรรมในโครงการพัฒนาหมบู่ ้านต้นแบบ โคกหนองนา โมเดล ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศัยอาเภอโชคชัย เพ่อื เปน็ ข้อมูลสาหรับใช้ในการพฒั นาการดาเนินงานในครัง้ ต่อไป คณะผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่าเอกสารเล่มน้ี จะเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริม และพัฒนา งานการศึกษาต่อเน่อื ง ดา้ นอื่น ๆ ต่อไป กศน.ตาบลทา่ เยี่ยม กรกฎาคม 2564

สำรบญั ข คำนำ หน้ำ สำรบญั ก บทที่ 1 บทนำ ข 1  หลกั การและเหตุผล 1  วตั ถปุ ระสงค์ 2  เป้าหมาย 2  ผู้รบั ผดิ ชอบโครงการ 2  ผลลัพธ์ 2  ดชั นีชีว้ ดั ผลสาเรจ็ ของโครงการ 2  การตดิ ตามและประเมินผล 2 บทที่ 2 เอกสำรกำรศกึ ษำและงำนวิจัยทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง 3  ความหมายของเศรษฐกจิ พอเพียง 4  ความหมายของหมู่บา้ นต้นแบบตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 6  ความหมายโคก หนองนา โมเดล 7  งานวจิ ัยที่เกี่ยวข้อง 7 บทท่ี 3 วธิ ีกำรดำเนนิ งำน 8 บทท่ี 4 ผลกำรวิเครำะห์ข้อมูล 12 บทท่ี 5 สรุปผล อภปิ รำยผล และขอ้ เสนอแนะ 18 บรรณำนุกรม ภำคผนวก  ภาพกิจกรรม  รายช่อื ผู้เข้าร่วมโครงการ ฯ  แบบประเมินโครงการฯ  ตารางวิเคราะหข์ ้อมลู โครงการฯ โดยใช้โปรแกรม SPSS  โครงการพฒั นาหม่บู า้ นตน้ แบบ โคกหนองนา โมเดล คณะผจู้ ัดทำ

บทท่ี 1 บทนา หลกั การและเหตผุ ล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั พระราชทานหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงให้กับปวงชนชาวไทยไวเ้ พอื่ เป็นแนวทางในการดาเนนิ ชีวิตโดยให้ตัง้ ม่ันอยู่ในความพออยู่ พอกนิ ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง สามารถใช้ได้กับ คนทกุ เพศ ทุกวัย ทกุ อาชีพ ไม่เวน้ แมแ้ ต่เกษตรกรโดยเฉพาะในยุคที่วกิ ฤติพิษภัยจากสารเคมี ส่งผลกระทบตอ่ เกษตรกรและผ้บู ริโภค รวมท้ังปัญหาดนิ เสือ่ มโทรมจากการใชส้ ารเคมเี กินความจาเป็นภมู ิปญั ญาเกษตรอินทรีย์ ตามแนวเศรษฐกจิ พอเพียงจึงเปน็ ทางเลอื กทย่ี ง่ั ยืนในการฟ้ืนฟูทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม พฒั นาคณุ ภาพ ชวี ติ เกษตรกร ตลอดจนสรา้ งความปลอดภยั ต่อผบู้ รโิ ภคและผูผ้ ลติ โคก-หนอง-นา โมเดล คอื การจัดการพนื้ ทซี่ ่ึง เหมาะกบั พนื้ ที่การเกษตร ซึง่ เป็นผสมผสานเกษตรทฤษฎใี หม่ เขา้ กับภมู ปิ ัญญาพ้นื บ้านท่ีอย่อู ยา่ งสอดคล้องกบั ธรรมชาติในพืน้ ทีน่ ัน้ ๆ โคก-หนอง-นา โมเดล เปน็ การทใี่ ห้ธรรมชาตจิ ัดการตัวมนั เองโดยมี มนุษย์เป็นสว่ นสง่ เสริม ให้มนั สาเร็จเรว็ ขึ้น อยา่ งเป็นระบบโคก-หนอง-นา โมเดล ซ่ึงเปน็ แนวทางทาเกษตรอนิ ทรีย์และการสร้างชีวติ ท่ี ยัง่ ยืน โคก-หนอง-นา โมเดล คอื การจัดการพืน้ ท่ีซ่งึ เหมาะกับพน้ื ทีก่ ารเกษตร ซ่งึ เป็นผสมผสานเกษตรทฤษฎี ใหม่ เข้ากับภูมิปญั ญาพืน้ บ้านทอ่ี ยู่อยา่ งสอดคลอ้ งกับธรรมชาตใิ นพ้ืนท่นี ้ันๆ โคก-หนอง-นา โมเดล เป็นการทใ่ี ห้ ธรรมชาตจิ ดั การตวั มนั เองโดยมี มนุษยเ์ ปน็ ส่วนสง่ เสริมให้มนั สาเร็จเร็วขึ้น อยา่ งเป็นระบบ อน่ึง กศน.ตาบลท่าเย่ียม ตระหนักถึงความสาคัญดังกล่าว จึงได้จัดโครงการพัฒนาหมู่บ้านต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล เพื่อเสริมทักษะให้ประชาชน ดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และปลูกผัก สวนครัวไว้รับประทาน ทาให้เกิดสุขภาพที่ดี สามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตสร้าง ความเขม้ แขง็ ให้กบั ชมุ ชน วตั ถุประสงค์ เพอื่ ใหป้ ระชาชนในเขตพืน้ ท่ีตาบลทา่ เยยี่ ม มีความรู้ ทักษะชวี ติ ในการดาเนินงาน โคกหนองนา โมเดล ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป้าหมาย เชงิ ปริมาณ ประชาชน ตาบลทา่ เย่ยี ม อาเภอโชคชยั จังหวัดนครราชสมี า จานวน 20 คน เชิงคุณภาพ ประชาชน ตาบลท่าเย่ียม ทเ่ี ข้าร่วมโครงการฯ ร้อยละ 100 มีส่วนรว่ มในการเรยี นรู้ โคก หนองนา โมเดล ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง และเกดิ ความรัก ความสามคั คีของคนในชมุ ชน สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการพฒั นาหมบู่ ้านตน้ แบบ โคกหนองนา โมเดล ปงี บประมาณ 2564 1

ผรู้ ับผิดชอบโครงการ ครู กศน.ตาบล ครู อาสาสมัคร กศน. นางสาววรรณนิภา สิทธิเจริญยศ นายสมชาย มุ่งภกู่ ลาง เครอื ข่าย -เทศบาลตาบลทา่ เยีย่ ม -ผนู้ าชมุ ชนตาบลท่าเยยี่ ม โครงการทเ่ี กยี่ วข้อง โครงการสง่ เสรมิ การเรียนรู้ โคกหนองนา โมเดล ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ผลลพั ธ์(Outcome) ประชาชนทีเ่ ข้ารว่ มโครงการฯ มีความรู้ ทักษะการดาเนนิ ชีวิตตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง การเรียนรู้ โคกหนองนา โมเดล ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง และเกิดความรัก ความสามัคคี ของคนในชมุ ชน ดัชนีช้วี ดั ผลสาเร็จของโครงการ ตวั ช้วี ดั ผลผลิต (Outputs) ประชาชนทเ่ี ขา้ รว่ มโครงการฯ จานวน 20 คน มีความรู้ ทกั ษะการเรียนรู้ โคกหนองนา โมเดล การดาเนินชีวติ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง การเรียนรู้ โคกหนองนา โมเดล ตัวชวี้ ดั ผลลัพธ์ (Outcomes) ประชาชนทีเ่ ข้ารว่ มโครงการฯ ร้อยละ 90 นาความรู้ ทกั ษะ โคกหนองนา โมเดล การดาเนนิ ชีวิตตาม หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง การเรยี นรู้ โคกหนองนา โมเดล การปลกู ผักไวร้ บั ประทานเอง ทาใหเ้ กิด คณุ ภาพชวี ติ ทีด่ ี ชุมชนเข้มแข็งอยา่ งยง่ั ยืนสรา้ งอาชพี สร้างรายได้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตสร้างความเข้มแขง็ ให้กับชุมชน การประเมนิ ผล -การสงั เกตพฤติกรรม การเข้าร่วมกจิ กรรม และการนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้ -แบบประเมินโครงการ สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการพฒั นาหมบู่ า้ นต้นแบบ โคกหนองนา โมเดล ปงี บประมาณ 2564 2

บทที่ 2 เอกสารการศึกษาและงานวิจยั ท่เี กย่ี วขอ้ ง ในการจัดทารายงานครงั้ น้ีได้ทาการศึกษาค้นควา้ เนื้อหาจากเอกสารการศึกษาและงานวิจัยทีเ่ กีย่ วข้อง ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. ความหมายของเศรษฐกจิ พอเพียง 2. ความหมายของหมบู่ ้านตน้ แบบตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 3. ความหมายโคก หนอง นา โมเดล 4. งานวิจัยทเ่ี กย่ี วข้อง 1. ความหมายของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เศรษฐกจิ พอเพียง เป็นปรัชญาช้ีถึงแนวการดารงอยู่ และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับตั้งแต่ระดับ ครอบครัว ระดับชุมชนจนถึงระดับรัฐ ท้ังในการพัฒนา และบริหารประเทศให้ดาเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพ่อื ใหก้ ้าวทนั ตอ่ โลกยุคโลกาภิวัตน์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจาเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกัน ในตัวท่ีดีพอสมควร ต่อการมีผลกระทบใด ๆ อันเกิดจากการเปล่ียนแปลงทั้งภายนอก และภายใน ทั้งนี้จะต้อง อาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างย่ิง ในการนาวิชาการต่าง ๆ มาใช้ในการวางแผน และการดาเนนิ การทุกขั้นตอน และขณะเดยี วกนั จะต้องเสริมสร้างพ้ืนฐานจิตใจของคนในชาติโดยเฉพาะเจ้าหน้าท่ี ของรัฐ นักทฤษฎี และนักธุรกิจในทุกระดับให้มีสานึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ ทีเ่ หมาะสม ดาเนนิ ชวี ติ ด้วยความอดทน ความเพียร มสี ติ ปญั ญา และความรอบคอบ เพ่ือให้สมดุล และพร้อมต่อ การรองรบั การเปลย่ี นแปลงอย่างรวดเร็ว และกว้างขวางทั้งด้านวัตถุ สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอก ได้เปน็ อย่างดี การนาปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงน้ี เป็นกรอบแนวความคิดและทิศทางการพัฒนาระบบเศรษฐกิจ มหภาคของไทย ซ่ึงบรรจุอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2550-2554) เพื่อมุ่งสู่ การพัฒนาที่สมดุล ยั่งยืน และมีภูมิคุ้มกัน เพื่อความอยู่ดีมีสุข มุ่งสู่สังคมท่ีมีความสุขอย่างยั่งยืน หรือท่ีเรียกว่า สังคมสีเขียว (Green Society) ด้วยหลักการดังกล่าว แผนพัฒนาฯฉบับที่ 10 น้ีจะไม่เน้นเรื่องตัวเลขการ เจริญเตบิ โตทางเศรษฐกิจ แต่ยังคงให้ความสาคัญต่อระบบเศรษฐกิจแบบทวิลักษณ์ หรือระบบเศรษฐกิจที่มีความ แตกต่างกันระหว่างเศรษฐกจิ ชมุ ชนเมืองและชนบท ดร.สมเกียรติ ออ่ นวิมล เรียกสิง่ นี้วา่ วกิ ฤตเศรษฐกจิ พอเพียง คือ ความไม่รู้วา่ จะนาปรัชญาน้ีไป ใช้ทาอะไร กลายเปน็ ว่าผนู้ าสังคมทุกคน ท้งั นักการเมืองและรัฐบาลใช้คาว่า เศรษฐกจิ พอเพียง เป็นข้ออ้างในการ ทากิจกรรมใด ๆ เพื่อใหร้ ู้สึกว่าไดส้ นองพระราชดารสั และให้เกดิ ภาพลกั ษณท์ ี่ดี หรอื พูดง่าย ๆ ก็คือ เศรษฐกิจ พอเพียง ถูกใช้เพื่อเปน็ เครอื่ งมอื เพ่อื ตวั เอง ซ่งึ ความไม่เข้าใจนีอ้ าจเกิดจากการสบั สนว่าเศรษฐกจิ พอเพียงกับ สรปุ ผลการดาเนนิ งาน โครงการพฒั นาหมู่บ้านตน้ แบบ โคกหนองนา โมเดล ปีงบประมาณ 2564 3

ทฤษฎใี หมน่ ้ันเป็นเรอื่ งเดียวกัน ทาใหม้ ีความเข้าใจวา่ เศรษฐกิจพอเพยี ง หมายถงึ การปฏเิ สธอตุ สาหกรรมแลว้ กลับไปสู่เกษตรกรรม ซ่ึงเปน็ ความเข้าใจทผี่ ิด ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงนี้ ได้รบั การเชดิ ชูสูงสุด จาก สหประชาชาติ (UN) โดยนายโคฟี อันนัน ในฐานะ เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ได้ทูลเกล้าฯถวายรางวัล The Human Development Lifetime Achievement Award แก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อ 26 พฤษภาคม 2549 และได้มีปาฐกถาถึงปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงว่าเป็นปรัชญาที่สามารถเริ่มได้จากการสร้างภูมิคุ้มกันในตนเอง สู่หมู่บ้าน และสู่เศรษฐกิจ ในวงกว้างข้ึนในที่สุด เป็นปรัชญาที่มีประโยชน์ต่อประเทศไทยและนานาประเทศ โดยที่องค์การสหประชาชาติได้ สนบั สนนุ ใหป้ ระเทศตา่ ง ๆ ท่ีเปน็ สมาชิก 166 ประเทศยดึ เปน็ แนวทางสูก่ ารพัฒนาประเทศแบบยั่งยืน หลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพยี ง คือการพฒั นาท่ีตงั้ อยู่บนพืน้ ฐานของทางสายกลาง และ ความไมป่ ระมาท โดยคานึงถึง ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล การสรา้ งภูมคิ ุม้ กันทีด่ ีในตวั ตลอดจนใช้ความรู้ ความรอบคอบ และคุณธรรม ประกอบการวางแผน การตดั สินใจ และการกระทา ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง มหี ลักพจิ ารณาอยู่ 5 ส่วน ดงั น้ี กรอบแนวคิด เปน็ ปรัชญาทช่ี ี้แนะแนวทางการดารงอยู่ และปฏบิ ตั ติ นในทางทคี่ วรจะเป็น โดยมี พนื้ ฐานมาจากวิถีชีวติ ดั้งเดิมของสังคมไทย สามารถนามาประยุกต์ใช้ไดต้ ลอดเวลา และเป็นการมองโลกเชิงระบบ ทมี่ ีการเปลย่ี นแปลงอยู่ตลอดเวลา และเปน็ การมองโลกเชิงระบบทีม่ ีการเปลย่ี นแปลงอยู่ตลอดเวลา ม่งุ เน้นการ รอดพ้นจากภัย และวกิ ฤต เพื่อความมั่นคง และความยั่งยืนของการพัฒนา คุณลกั ษณะ เศรษฐกจิ พอเพยี งสามารถนามาประยุกต์ใชก้ บั การปฏบิ ตั ิตนได้ในทุกระดับ โดยเน้น การปฏิบตั ิบนทางสายกลาง และการพฒั นาอย่างเปน็ ขัน้ ตอน คานิยาม ความพอเพยี งจะต้องประกอบด้วย 3 คณุ ลกั ษณะ พรอ้ ม ๆ กันดงั นี้ ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไมน่ อ้ ยเกินไป และไม่มากเกนิ ไปโดยไม่เบียดเบียน ตนเอง และผู้อน่ื เชน่ การผลิต และการบริโภคที่อยูใ่ นระดับพอประมาณ ความมีเหตผุ ล หมายถึง การตัดสนิ ใจเกย่ี วกับระดับของความพอเพียงนน้ั จะต้องเปน็ ไปอยา่ งมี เหตุผล โดยพจิ ารณาจากเหตุปจั จัยทเี่ ก่ยี วขอ้ งตลอดจนคานงึ ถงึ ผลทีค่ าดวา่ จะเกดิ ขน้ึ จากการกระทานัน้ ๆ อยา่ ง รอบคอบ การมภี ูมคิ ุ้มกนั ท่ีดใี นตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบ และการเปลย่ี นแปลงด้าน ตา่ ง ๆ ทจี่ ะเกิดข้นึ โดยคานงึ ถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดข้นึ ในอนาคตทั้งใกล้ และไกล เง่อื นไข การตดั สินใจและการดาเนินกจิ กรรมต่าง ๆ ให้อยู่ในระดบั พอเพยี งนั้น ตอ้ งอาศัยท้งั ความรู้ และคุณธรรมเปน็ พืน้ ฐาน กล่าวคือ สรปุ ผลการดาเนนิ งาน โครงการพฒั นาหมบู่ า้ นต้นแบบ โคกหนองนา โมเดล ปีงบประมาณ 2564 4

เงอื่ นไขความรู้ ประกอบดว้ ย ความรอบร้เู กยี่ วกบั วิชาการต่าง ๆ ทเี่ ก่ยี วข้องอยา่ งรอบด้าน ความรอบคอบที่จะนาความรเู้ หลา่ น้นั มาพจิ ารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผน และความระมดั ระวัง ในขั้นปฏบิ ตั ิ เงื่อนไขคุณธรรม ท่จี ะต้องเสริมสรา้ งประกอบด้วย มคี วามตระหนักในคณุ ธรรม มีความซือ่ สตั ย์ สุจรติ และมคี วามอดทน มีความเพยี ร ใช้สติปญั ญาในการดาเนินชีวติ แนวทางปฏิบัติ / ผลท่ีคาดว่าจะไดร้ บั จากการนาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกตใ์ ช้ คอื การพฒั นาท่สี มดุล และย่ังยืน พร้อมรบั ต่อการเปลยี่ นแปลงในทกุ ด้าน ทง้ั ดา้ นเศรษฐกจิ สงั คม ส่ิงแวดล้อม ความรู้ และเทคโนโลยี เศรษฐกิจพอเพียงกับทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดาริ เศรษฐกิจพอเพยี ง และแนวทางปฏิบัติของทฤษฎใี หม่ เป็นแนวทางในการพัฒนาท่ีนาไปสู่ ความสามารถในการพ่งึ ตนเอง ในระดับตา่ ง ๆ อย่างเป็นข้ันตอน โดยลดความเสียงเกยี่ วกับความผันแปรของ ธรรมชาติ หรอื การเปลย่ี นแปลงจากปจั จยั ตา่ ง ๆ โดยอาศัยความพอประมาณ และความมีเหตผุ ล การสร้าง ภูมิคุม้ กนั ทดี่ ี มคี วามรู้ ความเพียร และความอดทน สติ และปญั ญา การช่วยเหลือซ่ึงกนั และกนั และความสามัคคี เศรษฐกิจพอเพียงความหมายกว้างกวา่ ทฤษฎใี หม่ โดยทเ่ี ศรษฐกิจพอเพียงเป็นกรอบแนวคดิ ท่ี ชี้บอกหลักการ และแนวทางปฏิบัติของทฤษฎใี หม่ ในขณะที่ แนวพระราชดาริเกีย่ วกับทฤษฎีใหม่ หรอื เกษตร ทฤษฎีใหม่ ซ่ึงเปน็ แนวทางการพฒั นาการเกษตรอย่างเป็นข้ันตอนนน้ั เป็นตวั อย่างการใช้หลกั เศรษฐกจิ พอเพยี ง ในทางปฏบิ ตั ิ ท่ีเป็นรปู ธรรม เฉพาะในพน้ื ทที่ ีเ่ หมาะสม ทฤษฎีใหมต่ ามแนวพระราชดาริ อาจเปรียบเทียบกับหลัก เศรษฐกิจพอเพยี ง ซง่ึ มอี ยู่ 2 แบบ คือ แบบพื้นฐาน กบั แบบกา้ วหน้า ขั้นท่ี 1 ที่มุ่งแก้ปัญหาของเกษตรกรท่ีอยู่ห่างไกลแหล่งน้า ต้องพ่ึงน้าฝน และประสบ ความเสย่ี งจากการทน่ี ้าไม่พอเพียง แม้กระทั่งสาหรับการปลูกข้าวเพ่ือบริโภค และมีข้อสมมติว่า มีท่ีดินพอเพียงใน การขุดบอ่ เพือ่ แกป้ ญั หาในเร่ืองดังกลา่ ว จากการแก้ปัญหาความเสี่ยงเรื่องน้า จะทาให้เกษตรกรสามารถมีข้าวเพ่ือ การบริโภคยงั ชพี ในระดบั หนึง่ และใชท้ ด่ี นิ สว่ นอนื่ ๆ สนองความต้องการพน้ื ฐานของครอบครัว รวมท้ังขายในส่วน ที่เหลือเพ่ือมีรายได้ท่ีจะใช้เป็นค่าใช้จ่ายอ่ืน ๆ ท่ีไม่สามารถผลิตเองได้ ท้ังหมดนี้เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันในตัวให้ เกิดข้ึนในระดับครอบครัว อย่างไรก็ตาม แม้กระท่ัง ในทฤษฎีใหม่ข้ันท่ี 1 ก็จาเป็นที่เกษตรกรจะต้องได้รับความ ช่วยเหลือจากชุมชนราชการ มูลนิธิ และภาคเอกชน ตามความเหมาะสมความพอเพียงในระดับชุมชน และระดับ องค์กรเปน็ เศรษฐกจิ พอเพยี งแบบก้าวหนา้ ซ่งึ ครอบคลมุ ทฤษฎีใหม่ ขนั้ ที่ 2 เป็นเร่ืองของการสนับสนุนให้เกษตรกรรวมพลังกันในรูปกลุ่มหรือสหกรณ์ หรือ การที่ธุรกิจต่าง ๆ รวมตัวกันในลักษณะเครือข่ายวิสาหกิจ กล่าวคือ เมื่อสมาชิกในแต่ละครอบครัว หรือองค์กร ต่าง ๆ มีความพอเพียงขั้นพื้นฐานเป็นเบ้ืองต้นแล้วก็จะรวมกลุ่มกันเพื่อร่วมมือกันสร้างประโยชน์ให้แก่กลุ่ม และ ส่วนรวมบนพืน้ ฐานของการไม่เบียดเบยี นกัน การแบ่งปันช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน ตามกาลังและความสามารถของ สรปุ ผลการดาเนนิ งาน โครงการพฒั นาหมูบ่ ้านต้นแบบ โคกหนองนา โมเดล ปีงบประมาณ 2564 5

ตน ซึ่งจะสามารถทาให้ ชุมชนโดยรวม หรือเครือข่ายวิสาหกิจนั้น ๆ เกิดความพอเพียงในวิถีปฏิบัติอย่างแท้จริง ความพอเพียงในระดบั ประเทศ เป็นเศรษฐกิจพอเพยี งแบบก้าวหนา้ ซึง่ ครอบคลมุ ทฤษฎใี หม่ ขั้นท่ี 3 ซ่ึงส่งเสรมิ ใหช้ ุมชน หรือเครือข่ายวิสาหกิจ สร้างความรว่ มมือกบั องค์กรอ่ืน ๆ ในประเทศ เชน่ บรษิ ทั ขนาดใหญ่ ธนาคาร สถาบนั วจิ ยั เป็นตน้ การสรา้ งเครือขา่ ยความรว่ มมือในลักษณะเช่นน้ี จะเปน็ ประโยชน์ในการสืบทอดภูมิปัญญา แลกเปลยี่ น ความรู้ เทคโนโลยี และบทเรียนจากการพัฒนา หรือ รว่ มมือกนั พฒั นา ตามแนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี งทาให้ ประเทศอันเปน็ สงั คมใหญ่อันประกอบด้วยชมุ ชน องค์กร และธุรกิจต่าง ๆ ท่ีดาเนนิ ชีวิตอยา่ งพอเพยี งกลายเป็น เครือข่ายชมุ ชนพอเพียงท่ีเชือ่ มโยงกันด้วยหลักไม่เบยี ดเบียน แบ่งปนั และช่วยเหลอื ซึ่งกันและกนั ได้ในทสี่ ดุ ประการท่สี าคญั ของเศรษฐกิจพอเพยี ง พอมพี อกนิ ปลูกพชื สวนครวั ไวก้ ินเองบา้ ง ปลูกไมผ้ ลไว้หลงั บา้ น 2-3 ตน้ พอทีจ่ ะมไี ว้กินเองใน ครวั เรอื น เหลือจึงขายไป พออยู่พอใช้ ทาให้บ้านน่าอยู่ ปราศจากสารเคมี กล่ินเหม็น ใช้แต่ของท่ีเป็นธรรมชาติ (ใช้จุลินทรีย์ผสมน้าถูพื้นบ้าน จะสะอาดกว่าใช้น้ายาเคมี) รายจ่ายลดลง สุขภาพจะดีขึ้น (ประหยัดค่า รักษาพยาบาล) พออกพอใจ เราตอ้ งร้จู ักพอ รู้จักประมาณตน ไมใ่ คร่อยากใคร่มีเช่นผู้อ่ืน เพราะเราจะหลงติดกับ วัตถุ ปัญญาจะไม่เกิด \"การจะเป็นเสือน้ันมันไม่สาคัญ สาคัญอยู่ท่ีเราพออยู่พอกิน และมีเศรษฐกิจการเป็นอยู่แบบพอมีพอกิน แบบพอมีพอกิน หมายความว่า อุ้มชูตัวเองได้ ให้มีพอเพียงกับตัวเอง\" พระราชดารัสในพระบาทสมเด็จพระ เจา้ อยหู่ วั ฯ 2. ความหมายของหมูบ่ ้านต้นแบบตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ส่งเสรมิ การประยุกตใ์ ช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง เพ่อื ประกอบอาชีพ และดารงชีวิตใน 3 แผนงาน หลักคอื สง่ เสรมิ การประกอบอาชพี ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงแก่ครัวเรือนยากจน ส่งเสรมิ การจดั กจิ กรรมกลุ่ม องค์กร และเครือข่ายเศรษฐกิจชุมชนตามปรชั ญาของเศรษฐกิจ พอเพียง ส่งเสริมการจดั กิจกรรมในชุมชนตามปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ลักษณะกจิ กรรมเศรษฐกิจพอเพียงทด่ี าเนนิ การท้งั ในระดบั ครัวเรอื น และระดบั หมู่บา้ น มี 6 กิจกรรม ดังน้ี 1. การลดรายจ่าย 1.1 ทาสวนครัว 1.2 ลดละเลกิ อบายมขุ สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการพฒั นาหม่บู า้ นตน้ แบบ โคกหนองนา โมเดล ปงี บประมาณ 2564 6

2. การเพ่มิ รายได้ 2.1 มอี าชพี เสริม 2.2 ใช้เทคโนโลยี 3. การประหยดั 3.1 มีการออมเงนิ 3.2 มกี ลุ่มออมทรัพย์เพือ่ การผลติ 4. การเรยี นรู้ 4.1 ใชภ้ ูมิปญั ญาทอ้ งถิน่ 4.2 รพู้ อเพยี ง 5. การอนุรกั ษแ์ ละใช้ทรัพยากรและสิง่ แวดล้อม 5.1 ใชท้ รัพยากรย่ังยืน 5.2 รว่ มกันปลกู ตน้ ไม้ 6. การเอื้ออารี 6.1 ดูแลชว่ ยเหลอื กัน 6.2 รรู้ ักสามคั คี 3. ความหมายโคก-หนอง-นา โมเดล โคก-หนอง-นา โมเดล คอื การจัดการพนื้ ท่ีซ่ึงเหมาะกับพืน้ ท่กี ารเกษตร ซึง่ เปน็ ผสมผสานเกษตร ทฤษฎใี หม่ เขา้ กับภมู ิปัญญาพ้ืนบ้านท่ีอยูอ่ ย่างสอดคล้องกับธรรมชาติในพ้นื ท่นี น้ั ๆ โคก-หนอง-นา โมเดล เป็นการ ท่ีใหธ้ รรมชาติจดั การตัวมันเองโดยมี มนุษย์เป็นส่วนส่งเสริมให้มนั สาเร็จเรว็ ขนึ้ อยา่ งเป็นระบบ 4. งานวิจยั ทเ่ี กี่ยวข้อง ชูพักตร สุทธิสาและชุติมา เมฆวัน (2551, บทคัดยอ) ไดศึกษาเรื่องรูปแบบกระบวนการพัฒนาหมูบาน ตนแบบนาแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงสูการปฏิบัติศึกษากรณีบานหนองแขและบานดอนหนอง ตาบลขามเรียง อาเภอกันทรวชิ ัย จังหวัดมหาสารคาม เปนการวิจัยเชิงคุณภาพมีวัตถุประสงค์เพ่ือศึกษาวิธีการเผยแพรและสร้าง ความรูความเข้าใจเก่ียวกับแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงและเพ่ือหารูปแบบการพัฒนาท่ีนาแนวคิดเศรษฐกิจพอเพี ยง มาปรับใช ในการดาเนินชีวิตของตนเองครอบครัวและชุมชน กลุ มตัวอย างประชากรคือตัวแทนชุมชน บานหนองแข และบานดอนหนอง ตาบลขามเรียง อาเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม จานวน 55 คน ผลการวิจัยพบวาวิธีการเผยแพรและสรางความรูความเขาใจเกี่ยวกับแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงใชวิธีการเผยแพร โดยใชกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการอยางมีสวนรวม (Participatory Action Research: PAR) เร่ิมจากการเก็บ รวบรวมขอมูล การวิเคราะหขอมูล การปฏิบัติการ และการสรุปผล โดยทุกกระบวนการเนนกระบวนการเรียนรู และการมีสวนรวม สาหรับดานรูปแบบการพัฒนาที่นาแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใชในการดาเนินชีวิตของ ตนเอง ครอบครัว และชุมชนพบวาท้ังสองชุมชนไดนาแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใชในการดาเนินชีวิต สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการพฒั นาหมู่บา้ นตน้ แบบ โคกหนองนา โมเดล ปงี บประมาณ 2564 7

ใน 4 ดาน ไดแ้ ก่ 1) ดานการเพิม่ รายได้ โดยการผลิตผลิตภณั ฑเพื่อจาหน่ายเพ่ิมรายได 2) ด้านลดรายจ่ายโดยการ ผลิตของใชในครวั เรอื นขนึ้ ใช้เอง เชน น้ายาลางจาน 3) ดา้ นการสืบทอดความรูและการใช้ภูมิปญญาทองถ่ินในการ ผลิตผลิตภัณฑ 4) ดานการพัฒนาโดยการปรับปรุงและประยุกตความรูแนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพียง สูการปฏิบตั ทิ ี่เหมาะสมกบั ตนเอง ครอบครัวและชมุ ชน สเุ มธ ตนั ตเิ วชกุล, 2542 กล่าววา่ การนาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ และประพฤติ ปฏิบัติ เพื่อท่ีจะให้บรรลุผลสาเร็จในระยะเวลาอันส้ันน้ัน มิใช่เรื่องท่ีจะเป็นไปได้ง่าย ๆ ต้องให้ ความรู้ และสร้าง ความเข้าใจให้เกิดขึ้นกับประชาชนทุกระดับ โดยอาศัยความร่วมมือจาก ส่วนราชการ และทุกภาคส่วนของ ประเทศ และการประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง น้ัน มีแนวทางในการดาเนินชีวิตดังนี้ คือ ยึดความ ประหยัด ตัดทอนค่าใช้จ่ายในทุกด้าน ลดละ ความฟุ่มเฟือย ในการดารงชีพอย่างจริงจัง ดังที่มีกระแสพระราช ดารัสว่า “ความเป็นอยู่ ที่ต้องไม่ฟุ้งเฟ้อ ต้องประหยัดไปในทางท่ีถูกต้อง” ยึดถือการประกอบอาชีพด้วยความ ถกู ต้อง สจุ รติ แมจ้ ะตกอยู่ในภาวะขาดแคลนในการดารงชีพกต็ าม ดงั ที่มีกระแสพระราชดารัสว่า “ความเจริญของ คนทง้ั หลาย ย่อมเกดิ มาจากการประพฤตชิ อบและการหาเล้ยี งชพี ชอบ เปน็ สาคญั ” อดินันต พรหมพันธใจ (2550) ศึกษาเร่ืองการนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใชในชุมชน เพื่อการ จัดการทนประเทศเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยศึกษากรณีชุมชนเศรษฐกิจพอเพียงท่ีสามารถใชหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพยี งในการบริหารจัดการทนุ ชมุ ชน ชุมชนบานหนองกลางดงจังหวัดประจวบคีรีขันธและชุมชนวังลุม จังหวัดระนอง มีวัตถุประสงคเพ่ือศึกษาการนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชุมชน เพื่อการจัดการทุน ประเทศเพ่ือการพัฒนาท่ียั่งยืน และศึกษาวิธีคิดของชุมชน ตาง ๆ ในการนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไป ประยกุ ตใ์ ช้กับชุมชนของตนเอง สรปุ ผลการดาเนนิ งาน โครงการพฒั นาหมู่บ้านต้นแบบ โคกหนองนา โมเดล ปงี บประมาณ 2564 8

บทที่ 3 วิธีการดาเนนิ งาน การดาเนนิ งานโครงการพัฒนาหมบู่ า้ นตน้ แบบ โคกหนองนา โมเดล คณะทางานไดด้ าเนนิ งาน ดังนี้ 1. สารวจกลุ่มเปา้ หมาย ประชาชน บ้านหนองกระทุ่ม หมูท่ ี่ 3 ตาบลท่าเยี่ยม อาเภอโชคชัย จงั หวัดนครราชสีมา จานวน 20 คน 2. ประชมุ /ชี้แจงวางแผนการดาเนินงาน เพื่อกาหนดรูปแบบและวางแผนการดาเนนิ งาน เดอื นเมษายน 2564 ณ บา้ นหนองกระทุ่ม หมู่ท่ี 3 ตาบลท่าเย่ียม อาเภอโชคชัย จงั หวัดนครราชสมี า 3. จัดเตรยี มเอกสาร/วัสดอุ ุปกรณ์ และประสานสถานท่ี เพื่อเตรียมความพร้อมดา้ นเอกสารวสั ดุอปุ กรณ์ และสถานที่ เดอื นมิถุนายน 2564 ณ บ้านหนองกระทุ่ม หมู่ท่ี 3 ตาบลท่าเยี่ยม อาเภอโชคชยั จังหวัดนครราชสมี า 4. ดาเนินการจดั โครงการพัฒนาหมบู่ ้านตน้ แบบ โคกหนองนา โมเดล ในวันที่ 23 มถิ ุนายน 2564 โดยดาเนนิ กิจกรรม ดังน้ี เวลา 08.00 น. ณ บ้านหนองกระทุ่ม หมู่ท่ี 3 ตาบลท่าเย่ียม อาเภอโชคชัย จังหวดั นครราชสมี า จานวน 20 คน ลงทะเบยี นอยา่ งพร้อมเพรียง ดาเนินการจัดกิจกรรม ดงั น้ี กิจกรรมสง่ เสริมการจัดกระบวนการเรียนรู้ โดย - นายสมพงษ์ พวกกระโทก เปน็ วทิ ยากรบรรยายให้ความรู้เร่ือง โคกหนองนา โมเดล ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง/การประยุกต์ ใช้ ที่ดนิ ตามศาสตร์พระราชา “โคกหนองนา โมเดล” /การตรวจสภาพดินทเ่ี หมาะสมกบั การปลูกผกั การน้อมนาแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง มาใช้เปน็ แนวทางการดาเนนิ ชวี ิต 1. กระตนุ้ ให้หมบู่ ้าน ชุมชน ประชาชน นอ้ มนาแนวปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช้ในชีวิตประจาวนั - ขยายผลการบั รู้และเขา้ ใจปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงลงสู่หม่บู ้าน/ชมุ ชน และประชาชนในพน้ื ทใ่ี ห้ ครอบคลุม 2. การเกษตรแบบพึ่งพาตนเอง ไดแ้ ก่ - การทาไร่นาสวนผสมและการเกษตรแบบผสมผสาน - การปลกู พืชผกั สวนครัวเพอื่ ลดรายจ่าย - การทาปยุ๋ หมัก ปุ๋ยคอก และใชว้ ัสดุเหลอื ใช้เปน็ ปัจจยั การผลิตปยุ๋ เพ่ือลดค่าใชจ้ า่ ยและบารุงดนิ - การเพาะเหด็ ฟางจากวัสดเุ หลือใช้ในไรน่ า - การปลูกไม้ผกั สวนครวั ไม้ผลสวนหลงั บา้ น เพือ่ ประหยัดค่าใชจ้ ่ายในครัวเรอื น - การปลูกพชื สมุนไพรชว่ ยสง่ เสรมิ สุขภาพอนามัย สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการพฒั นาหมบู่ า้ นตน้ แบบ โคกหนองนา โมเดล ปีงบประมาณ 2564 9

- การเลีย้ งปลาในรอ่ งสวน ในนาข้าวและแหล่งน้า เพือ่ เปน็ อาหารโปรตีนและเป็นรายไดเ้ สรมิ - การเล้ียงไกพ่ ื้นเมืองและไก่ไข่ - การทาก๊าชชีวภาพจากมูลสัตว์ การปฏบิ ตั ิตามแนวทางเศรษฐกจิ พอเพียง 1. ยึดหลัก พออยู่ พอกิน พอใช้ 2. ยึดความประหยัด ตดั ทอนค่าใชจ้ ่าย ลดความฟุ่มเฟือย ในการดารงชีพ \"ความเป็นอยู่ที่ต้องไม่ฟ่มุ เฟือย ตอ้ งประหยดั ไปในทางท่ีถกู ต้อง\" 3. ยดึ ถือการประกอบอาชพี ด้วยความถูกต้องและสจุ รติ \"ความเจรญิ ของคนทั้งหลายยอ่ มเกิดมาจากการประพฤตชิ อบและการหาเลยี้ งชีพชอบเปน็ สาคญั \" 4. ละเลิกการแกง่ แย่งผลประโยชน์และแขง่ ขนั ในการค้าขายประกอบอาชีพแบบต่อสูก้ ันอย่างรนุ แรง \"ความสุขความเจริญอันแท้จริง หมายถึง ความสุข ความเจริญ ทบ่ี คุ คลแสวงหามาได้ดว้ ยความเป็นธรรม ท้งั ในเจตนาและการกระทา ไมใ่ ชไ่ ด้มาดว้ ยความบังเอิญหรือดว้ ยการแก่งแยง่ เบยี ดบงั จากผ้อู ื่น\" 5. มงุ่ เน้นหาขา้ วหาปลา ก่อนมงุ่ เน้นหาเงินหาทอง 6. ทามาหากินก่อนทามาค้าขาย 7. ภมู ิปญั ญาชาวบา้ นและที่ดนิ ทากนิ คอื ทุนทางสงั คม 8. ต้ังสตทิ มี่ ่นั คง ร่างกายทแ่ี ขง็ แรงปัญญาท่ีเฉียบแหลม 9. นาความร้คู วามเขา้ ใจอย่างลกึ ซึ้งเพื่อปรับวิถชี วี ติ สู่การพฒั นาทีย่ ง่ั ยืน เศรษฐกจิ พอเพียง คืออะไร “เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญาท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดารัสชี้แนะแนว ทางการดาเนินชีวิต แก่ พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า 25 ปี ตั้งแต่ก่อนวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ และเม่ือภายหลังได้ทรงเน้นย้าแนวทางการแก้ไขเพื่อให้รอดพ้น และสามารถดารงอยู่ได้อย่างม่ันคงและย่ังยืน ภายใต้กระแสโลกาภวิ ัตน์และความเปลยี่ นแปลงต่าง ๆ ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง \"เศรษฐกิจพอเพียง\" เปน็ ปรัชญาชี้ถงึ แนวการดารงอย่แู ละปฏิบัติตนของประชาชนในทกุ ระดับ ตั้งแต่ ระดับครอบครวั ระดบั ชุมชนจนถึงระดบั รฐั ทง้ั ในการพัฒนาและบรหิ ารประเทศใหด้ าเนนิ ไปใน ทางสาย กลาง โดยเฉพาะการพฒั นาเศรษฐกจิ เพื่อให้ก้าวทนั ต่อโลกยุคโลกาภิวตั น์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผลรวมถึงความจาเป็นท่ีจะต้องมีระบบ ภูมิคุ้มกันในตัวท่ีดีพอสมควร ต่อการมีผลกระทบใด ๆ อันเกิดจากการเปล่ียนแปลงท้ังภายนอกและภายใน ทั้งนี้ จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างย่ิง ในการนาวิชาการต่าง ๆ มาใช้ในการ วางแผนและการดาเนินการทุกขั้นตอน และขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติโดยเฉพาะ เจ้าหน้าที่ ของรฐั นกั ทฤษฎีและนกั ธุรกจิ ในทุกระดับให้มีสานึกในคุณธรรม ความซ่ือสัตย์สุจริตและให้มีความรอบรู้ สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการพฒั นาหมู่บา้ นต้นแบบ โคกหนองนา โมเดล ปงี บประมาณ 2564 10

ท่ีเหมาะสม ดาเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และความรอบคอบ เพ่ือให้สมดุลและพร้อมต่อ การรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ทั้งด้านวัตถุ สังคม ส่ิงแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลก ภายนอกได้เป็นอย่างดี (ประมวลและกลั่นกรองจากพระราชดารัสของพระ บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เร่ือง เศรษฐกิจพอเพียง ซึง่ พระราชทานในวโรกาสต่าง ๆ รวมทง้ั พระราชดารัสอื่น ๆ ที่เก่ียวข้อง โดยได้รับพระราชทาน พระบรมราชานุญาตให้นาไปเผยแพร่ เม่ือวันท่ี 21 พฤศจิกายน 2542 เพ่ือเป็นแนวทางปฏิบัติของทุกฝ่ายและ ประชาชนโดยทัว่ ไป) ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ประกอบไปดว้ ย 5 ส่วน ดังน้ี ส่วนท่ี 1. กรอบแนวคดิ เปน็ ปรชั ญาทช่ี ้ีแนะแนวทางการดารงอยู่ และปฏบิ ตั ิตนในทางท่ีควรจะเป็น โดยมีพืน้ ฐานมาจาก วิถชี ีวิตดัง้ เดมิ ของสงั คมไทย สามารถนามาประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลา และเปน็ การมองโลกเชิงระบบท่ีมีการ เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และเป็นการมองโลกเชิงระบบที่มกี ารเปลีย่ นแปลงอยตู่ ลอดเวลา มุ่งเนน้ การรอดพน้ จากภัย และวกิ ฤต เพื่อความม่นั คง และความยั่งยนื ของการพัฒนา ส่วนที่ 2. คณุ ลักษณะ เศรษฐกิจพอเพยี ง สามารถนามาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติตนได้ในทุกระดบั โดยเน้นการปฏบิ ตั ิ บนทางสายกลาง และการพฒั นาอย่างเป็นข้ันตอน สว่ นท่ี 3. คานยิ าม ความพอเพียงจะต้องประกอบด้วย 3 คณุ ลักษณะ ดงั นี้ ความพอประมาณ หมายถงึ ความพอดีทไี่ มน่ ้อยเกินไป และไมม่ ากเกนิ ไปโดยไม่ เบียดเบียนตนเอง และผ้อู นื่ เชน่ การผลิต และการบริโภคท่ีอยใู่ นระดับพอประมาณ ความมีเหตผุ ล หมายถึง การตัดสนิ ใจเกี่ยวกบั ระดับของความพอเพียงน้นั จะต้องเป็นไป อย่างมีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยทีเ่ กย่ี วข้องตลอดจนคานึงถึงผลท่ีคาดวา่ จะเกิดขึ้นจากการกระทานัน้ ๆ อยา่ งรอบคอบ การมีภมู ิคุ้มกนั ที่ดใี นตัว หมายถงึ การเตรยี มตัวให้พร้อมรับผลกระทบ และการ เปล่ียนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดข้ึนโดยคานงึ ถงึ ความเป็นไปได้ของสถานการณ์ ตา่ ง ๆ ที่คาดวา่ จะเกิดขนึ้ ใน อนาคตทงั้ ใกล้ และไกล ส่วนท่ี 4 เงอ่ื นไข การตัดสนิ ใจและการดาเนนิ กิจกรรมตา่ ง ๆ ให้อยใู่ นระดบั พอเพียงนน้ั ต้องอาศยั ท้งั ความรู้ และ คณุ ธรรมเปน็ พน้ื ฐาน 2 เง่ือนไข ดังน้ี เงอ่ื นไขความรู้ ประกอบดว้ ย ความรอบรเู้ ก่ยี วกบั วชิ าการต่าง ๆ ท่เี กี่ยวข้องอยา่ งรอบ ดา้ น ความรอบคอบที่จะนาความรูเ้ หลา่ น้นั มาพิจารณาใหเ้ ช่อื มโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผน และความ ระมดั ระวงั ในขน้ั ปฏิบตั ิ สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการพฒั นาหมูบ่ า้ นตน้ แบบ โคกหนองนา โมเดล ปีงบประมาณ 2564 11

เงอื่ นไขคุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้างประกอบดว้ ย มีความตระหนกั ในคณุ ธรรม มีความซ่ือสตั ย์สจุ รติ และมีความอดทน มีความเพยี ร ใชส้ ติปญั ญาในการดาเนินชีวติ ส่วนท่ี 5. แนวทางปฏบิ ัติ / ผลท่คี าดวา่ จะไดร้ ับ จากการนาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ คือ การพฒั นาทสี่ มดลุ และยั่งยืน พรอ้ ม รบั ต่อการเปล่ียนแปลงในทุกด้าน ทงั้ ด้านเศรษฐกจิ สังคม สิง่ แวดลอ้ ม ความรู้ และเทคโนโลยี โคก-หนอง-นา โมเดล โคก-หนอง-นา โมเดล คอื การจดั การพ้ืนที่ซ่งึ เหมาะกับพ้นื ทก่ี ารเกษตร ซึ่งเปน็ ผสมผสานเกษตรทฤษฎี ใหม่ เขา้ กับภมู ิปัญญาพืน้ บ้านทอ่ี ยู่อยา่ งสอดคลอ้ งกับธรรมชาติในพ้นื ทนี่ นั้ ๆ โคก-หนอง-นา โมเดล เป็นการท่ีให้ ธรรมชาตจิ ดั การตวั มันเองโดยมี มนุษยเ์ ปน็ สว่ นส่งเสรมิ ให้มันสาเร็จเร็วข้นึ อย่างเปน็ ระบบ โคก-หนอง-นา โมเดล ซง่ึ เปน็ แนวทางทาเกษตรอินทรยี แ์ ละการสรา้ งชวี ิตท่ียัง่ ยนื โดยมีองคป์ ระกอบดังน้ี 1. โคก: พ้นื ทสี่ ูง – ดนิ ที่ขดุ ทาหนองนา้ นนั้ ใหน้ ามาทาโคก บนโคกปลกู “ป่า 3อย่าง ประโยชน์ 4 อยา่ ง” ตามแนวทาง พระราชดาริ – ปลูกพืช ผกั สวนครวั เล้ยี งหมู เลี้ยงไก่ เลีย้ งปลา ทาให้พออยู่ พอกนิ พอใช้ พอรม่ เยน็ เปน็ เศรษฐกิจ พอเพียงขนั้ พ้นื ฐาน ก่อนเขา้ สู่ขัน้ ก้าวหนา้ คือ ทาบญุ ทาทาน เก็บรกั ษา คา้ ขาย และเชอ่ื มโยงเป็นเครือขา่ ย – ปลูกที่อยู่อาศัยให้สอดคล้องกับสภาพภูมปิ ระเทศ และภูมิอากาศ 2. หนอง: หนองนา้ หรอื แหล่งน้า – ขดุ หนองเพอ่ื กกั เก็บน้าไว้ใชย้ ามหนา้ แลง้ หรือจาเป็น และเปน็ ทร่ี บั น้ายามน้าท่วม (หลุมขนมครก) – ขดุ “คลองไสไ้ ก่” หรอื คลองระบายนา้ รอบพนื้ ทีต่ ามภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยขุดใหค้ ดเคี้ยวไปตามพื้นที่ เพื่อใหน้ ้ากระจายเต็มพน้ื ท่เี พ่ิมความชุ่มชน้ื ลดพลังงานในการรดน้าต้นไม้ – ทา ฝายทดน้า เพ่ือเกบ็ นา้ เขา้ ไวใ้ นพื้นท่ีใหม้ ากท่ีสุด โดยเฉพาะเม่ือพ้นื ที่โดยรอบไม่มีการกกั เก็บน้า นา้ จะหลากลงมายังหนองน้า และคลองไส้ไก่ ใหท้ าฝายทดน้าเกบ็ ไว้ใช้ยามหนา้ แลง้ – พฒั นาแหลง่ น้าในพ้นื ท่ี ทงั้ การขุดลอก หนอง คู คลอง เพ่ือกกั เก็บนา้ ไวใ้ ช้ยามหน้าแล้ง และเพ่ิมการ ระบายนา้ ยามน้าหลาก 3. นา – พน้ื ท่นี านัน้ ใหป้ ลกู ข้าวอนิ ทรีย์พน้ื บ้าน โดยเริม่ จากการฟื้นฟูดนิ ดว้ ยการทาเกษตรอินทรียย์ ง่ั ยนื คืน ชีวิตเลก็ ๆ หรือจุลนิ ทรีย์กลบั คืนแผ่นดนิ ใชก้ ารควบคุมปริมาณนา้ ในนาเพอื่ คมุ หญา้ ทาให้ปลอดสารเคมีได้ ปลอดภัยทง้ั คนปลูก คนกิน – ยกคนั นาให้มีความสูงและกวา้ ง เพอ่ื ใช้เปน็ ท่รี ับน้ายามน้าทว่ ม ปลกู พชื อาหารตามคนั นา โดย กรมการพฒั นาชมุ ชน กระทรวงมหาดไทย ได้มกี ารขบั เคลือ่ นโครงการ ตามแนวทาง “โคก หนอง นา โมเดล” ทกุ หมูบ่ า้ น สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการพฒั นาหมู่บ้านตน้ แบบ โคกหนองนา โมเดล ปงี บประมาณ 2564 12

บทที่ 4 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลคร้ังน้ี มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลกิจกรรมโครงการพัฒนาหมู่บ้านต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล จากผู้ตอบแบบประเมิน จานวน 20 คน เคร่ืองมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบ ประเมินโครงการ ได้นาเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลในแบบตารางความถ่ี ค่าเฉลี่ย และค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน (Standard deviation)ซึง่ ใชโ้ ปรแกรม SPSS เพอ่ื วเิ คราะห์ค่าสถติ ทิ งั้ หมด ดังมีรายละเอียดตอ่ ไปน้ี ตอนท่ี 1 วิเคราะห์ข้อมูลส่วนตัวของผู้ตอบแบบประเมินโครงการ โดยการแจกแจงความถี่และค่าร้อยละ ของตวั แปร ตอนที่ 2 วิเคราะห์ผลการประเมินกิจกรรมโครงการพัฒนาหมู่บ้านต้นแบบ โคกหนองนา โมเดล โดยการแจกแจงค่าเฉล่ยี ค่าเบยี่ งเบนมาตรฐาน ตอนท่ี 3 วเิ คราะห์ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะอนื่ ๆ ตอนที่ 1 วิเคราะห์ข้อมูลส่วนตัวของผู้ตอบแบบประเมินโครงการ โดยการแจกแจงความถี่และค่าร้อยละของ ตวั แปร ข้อมูลส่วนตัวของผู้ตอบแบบประเมินโครงการ ที่เข้าร่วมกิจกรรมตามโครงการพัฒนาหมู่บ้านต้นแบบ โคกหนองนา โมเดล โดยการแจกแจงความถี่และคา่ รอ้ ยละของตัวแปร ดงั ตารางที่ 1 ตารางที่ 1 จานวน และคา่ ร้อยละ ของผตู้ อบแบบประเมินโครงการ จาแนกตามเพศ อายุ ระดบั การศึกษา และอาชพี (N=20) ขอ้ มูลส่วนตัว จานวน รอ้ ยละ 1. เพศ ชาย 2 10.00 18 90.00* หญิง 2. อายุ 15 – 29 ปี รวม 20 100 30 – 49 ปี รวม - - 50 ปขี น้ึ ไป 9 45.00 11 55.00* 20 100 สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการพฒั นาหมบู่ ้านตน้ แบบ โคกหนองนา โมเดล ปีงบประมาณ 2564 13

3. ระดบั ขอ้ มูลส่วนตัว จานวน รอ้ ยละ การศึกษา ประถมศึกษา มธั ยมศกึ ษาตอนต้น 6 30.00 4. อาชีพ มัธยมศึกษาตอนปลาย 4 20.00 10 50.00* เกษตรกรรม คา้ ขาย 20 100 รบั จา้ ง 12 60.00* 3 15.00 5 25.00 รวม 20 100 หมายเหตุ : * หมายถึง ขอ้ มลู ส่วนใหญ่ จากตาราง ที่ 1 พบว่า ผู้ตอบแบบประเมินโครงการ จานวน 20 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จานวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 90.00 เพศชาย จานวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 10.00 ส่วนใหญ่มีอายุ 50 ปีข้ึนไป จานวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 55.00 รองลงมา คือ อายุ 30 – 49 ปี จานวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 45.00 ระดับการศึกษาสว่ นใหญ่ศกึ ษาอยู่ในระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย จานวน 10 คน คดิ เป็นร้อยละ 50.00 รองลงมา คือ ประถมศึกษา จานวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 30.00 และมัธยมศึกษาตอนต้น จานวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 20.00 สาหรับอาชีพ ส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพเกษตรกรรม จานวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 60.00 รองลงมา คือ อาชีพรับจ้าง จานวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 25.00 และอาชีพค้าขาย จานวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 15.00 ตามลาดับ ตอนท่ี 2 วเิ คราะหผ์ ลการประเมนิ กจิ กรรมโครงการพัฒนาหมบู่ ้านต้นแบบ โคกหนองนา โมเดล โดยการแจก แจงค่าเฉลี่ยคา่ เบ่ียงเบนมาตรฐาน การจาแนกระดับ ผลการประเมินโครงการ แบบมาตรฐานประมาณค่า (Rating Scale) มี 5 ระดับ ดังน้ี 5 คะแนน คอื ระดับผลการประเมินมากทสี่ ุด 4 คะแนน คอื ระดบั ผลการประเมนิ มาก 3 คะแนน คอื ระดบั ผลการประเมินปานกลาง 2 คะแนน คอื ระดบั ผลการประเมนิ น้อย 1 คะแนน คอื ระดบั ผลการประเมินน้อยทส่ี ุด N คอื จานวนผตู้ อบแบบประเมิน ̅ คือ ระดับคา่ เฉลยี่ ผลการประเมนิ S.D. (Standard deviation) คือ ค่าเบยี่ งเบนมาตรฐาน สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการพฒั นาหมู่บ้านตน้ แบบ โคกหนองนา โมเดล ปีงบประมาณ 2564 14

ค่าเฉลย่ี ระดับผลการประเมินของผตู้ อบแบบประเมินโครงการ ค่าเฉลี่ย 4.50 – 5.00 คะแนน หมายถงึ มีผลการประเมนิ อย่ใู นระดบั มากทสี่ ดุ คา่ เฉล่ีย 3.50 – 4.49 คะแนน หมายถึง มผี ลการประเมนิ อยู่ในระดบั มาก ค่าเฉลี่ย 2.50 – 3.49 คะแนน หมายถึง มีผลการประเมินอยูใ่ นระดบั ปานกลาง ค่าเฉลี่ย 1.50 – 2.49 คะแนน หมายถงึ มผี ลการประเมนิ อยู่ในระดบั น้อย ค่าเฉลีย่ 1.00 – 1.49 คะแนน หมายถงึ มผี ลการประเมินอยู่ในระดบั น้อยที่สดุ ตารางท่ี 2.1 คา่ เฉลีย่ คา่ เบ่ียงเบนมาตรฐาน และระดบั ผลการประเมนิ กจิ กรรมโครงการพฒั นา หมู่บ้านตน้ แบบ โคกหนองนา โมเดล ของผตู้ อบแบบประเมนิ โครงการ ในภาพรวม และจาแนกรายดา้ น ดงั น้ี รายการ N = 20 ระดับผลการประเมนิ ̅ S.D. 1. ดา้ นหลักสูตร 4.23 0.68 มาก 2. ดา้ นวิทยากร 4.03 0.66 มาก 3. ดา้ นสถานที่ ระยะเวลา และความพึงพอใจ มาก 4.33 0.69 มาก รวม 4.19 0.67 จากตารางที่ 2.1 พบว่าโครงการพัฒนาหมู่บ้านต้นแบบ โคกหนองนา โมเดล มีผลการประเมินโครงการ ในภาพรวม อยู่ในระดับมาก (̅= 4.19) เม่ือพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านสถานที่ ระยะเวลา และความพึง พอใจ มผี ลการประเมิน อยใู่ นระดับมาก (̅=4.33) รองลงมาคือ ด้านหลักสูตร มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.23) และดา้ นวทิ ยากร มีผลการประเมนิ อยู่ในระดับมาก (̅=4.03) ตามลาดับ สรปุ ผลการดาเนนิ งาน โครงการพฒั นาหมูบ่ า้ นต้นแบบ โคกหนองนา โมเดล ปีงบประมาณ 2564 15

ตารางท่ี 2.2 คา่ เฉล่ีย ค่าเบย่ี งเบนมาตรฐาน และระดบั ผลการประเมินกิจกรรมโครงการพฒั นา หมบู่ ้านต้นแบบ โคกหนองนา โมเดล ของผู้ตอบแบบประเมนิ โครงการด้านหลักสตู ร โดยจาแนกเป็นรายขอ้ ดงั นี้ รายการ N = 20 ระดบั ผลการประเมนิ ̅ S.D. ด้านหลักสูตร มาก 1. กจิ กรรมสอดคล้องกบั วัตถุประสงคข์ องหลกั สตู ร 4.25 0.78 มาก 2. เนื้อหาของหลักสตู รตรงกับความต้องการผ้รู ว่ มกิจกรรม 3.95 0.60 มาก 4.30 0.65 3. การจดั กิจกรรมส่งเสริมให้ผ้รู ว่ มกจิ กรรมสามารถ คดิ เป็น มาก ทาเปน็ แกป้ ญั หาเป็น 4.25 0.63 4. ผู้รว่ มกิจกรรมมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเหน็ ต่อการ มาก จัดทาหลกั สตู ร 4.40 0.75 5. ผูร้ ่วมกิจกรรมสามารถนาความรไู้ ปปรับใช้ในการ มาก ปฏิบตั งิ าน 4.23 0.68 รวม จากตารางท่ี 2.2 พบว่าโครงการพัฒนาหมู่บ้านต้นแบบ โคกหนองนา โมเดล มีผลการประเมินโครงการ ในดา้ นหลกั สตู ร อยูใ่ นระดับมาก (̅= 4.23) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ผู้ร่วมกิจกรรมสามารถนาความรู้ไป ปรับใช้ในการปฏบิ ัติงาน มผี ลการประเมนิ อยู่ในระดับมาก (̅=4.40) รองลงมาคือ การจัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้ ร่วมกจิ กรรมสามารถ คิดเป็น ทาเป็น แก้ปัญหาเป็น ผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.30) ผู้ร่วมกิจกรรมมี ส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อการจัดทาหลักสูตร กิจกรรมสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหลักสูตร มีผล การประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.25 ) และเนื้อหาของหลักสูตรตรงกับความต้องการผู้ร่วมกิจกรรม มีผลการ ประเมนิ อยใู่ นระดบั มาก (̅=3.95) ตามลาดบั สรปุ ผลการดาเนนิ งาน โครงการพฒั นาหมบู่ ้านตน้ แบบ โคกหนองนา โมเดล ปงี บประมาณ 2564 16

ตารางที่ 2.3 คา่ เฉลยี่ ค่าเบีย่ งเบนมาตรฐาน และระดับผลการประเมนิ กจิ กรรมโครงการพัฒนา หมบู่ ้านตน้ แบบ โคกหนองนา โมเดล ของผตู้ อบแบบประเมินโครงการดา้ นวทิ ยากร โดยจาแนกเป็นรายขอ้ ดังนี้ รายการ N = 20 ̅ S.D. ระดบั ผลการประเมิน ดา้ นวทิ ยากร 6. วทิ ยากรมีความรคู้ วามสามารถในการถา่ ยทอดองค์ 4.05 0.75 มาก ความรู้ 7. วิทยากรมเี ทคนิค วิธีการในการจัดการถ่ายทอดองค์ 3.85 0.58 มาก ความรู้ 8. วทิ ยากรมกี ารใช้ส่อื ที่สอดคล้องและเหมาะสมกบั 4.10 0.64 มาก กิจกรรม มาก 9. บคุ ลกิ ภาพของวิทยากร 4.15 0.67 มาก 4.03 0.66 รวม จากตารางที่ 2.3 พบว่าโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ โคกหนองนา โมเดล ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง มีผลการประเมินฯ ในด้านวิทยากร อยู่ในระดับมาก (̅=3.95) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า บุคลิกภาพของวิทยากร มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.15) รองลงมาคือ วิทยากรมีการใช้สื่อท่ี สอดคลอ้ งและเหมาะสมกับกิจกรรม มผี ลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.10) วิทยากรมีความรู้ความสามารถ ในการถ่ายทอดองค์ความรู้ มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.05)และวิทยากรมีเทคนิค วิธีการในการ จดั การถา่ ยทอดองคค์ วามรู้ มผี ลการประเมิน อยู่ในระดบั มาก (̅=3.85) ตามลาดบั สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการพฒั นาหมูบ่ า้ นตน้ แบบ โคกหนองนา โมเดล ปีงบประมาณ 2564 17

ตารางที่ 2.4 ค่าเฉลยี่ คา่ เบ่ยี งเบนมาตรฐาน และระดบั ผลการประเมนิ กิจกรรมโครงการพฒั นาหมูบ่ ้าน ตน้ แบบ โคกหนองนา โมเดล ของผู้ตอบแบบประเมินโครงการ ดา้ นสถานที่ ระยะเวลา และความพึงพอใจ โดยจาแนกเปน็ รายข้อ ดังนี้ รายการ N = 20 ̅ S.D. ระดบั ผลการประเมิน ด้านสถานที่ ระยะเวลา และความพงึ พอใจ 10. สถานทใี่ นการจัดกิจกรรมเหมาะสม 4.05 0.68 มาก 11. ระยะเวลาในการจัดกจิ กรรมเหมาะสม 4.40 0.75 มาก 12. ความพงึ พอใจในภาพรวมของผู้รว่ มกิจกรรมต่อการเขา้ 4.40 0.68 มาก รว่ มกจิ กรรม 13. ประโยชนท์ ี่ได้รับจากการเข้ารว่ มกิจกรรมตามหลักสตู ร 4.50 0.68 มากที่สดุ รวม 4.33 0.69 มาก จากตารางท่ี 2.4 พบว่าโครงการพัฒนาหมู่บา้ นตน้ แบบ โคกหนองนา โมเดล มีผลการประเมินฯ ในด้าน สถานที่ ระยะเวลา และความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก (̅=4.33) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ประโยชน์ท่ี ได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรมตามหลักสูตร มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมากที่สุด (̅=4.50) รองลงมาคือ ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม ความพึงพอใจในภาพรวมของผู้ร่วมกิจกรรมต่อการเข้าร่วมกิจกรรม มีผล การประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.40) และสถานท่ีในการจัดกิจกรรมเหมาะสม มีผลการประเมิน อยู่ในระดับ มาก (̅=4.05) ตามลาดับ ตอนท่ี 3 วิเคราะห์ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะอื่น - ควรสนับสนุนการทาปุ๋ยหมกั สรปุ ผลการดาเนนิ งาน โครงการพฒั นาหมู่บา้ นต้นแบบ โคกหนองนา โมเดล ปงี บประมาณ 2564 18

บทท่ี 5 สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ จากการวเิ คราะหข์ ้อมลู ผลการดาเนินงานโครงการพฒั นาหมบู่ า้ นต้นแบบ โคกหนองนา โมเดล สามารถ สรุปผล อภปิ รายผล และมีข้อเสนอแนะดังน้ี ตอนที่ 1 วเิ คราะหข์ ้อมลู สว่ นตัวของผ้ตู อบแบบประเมินในภาพรวม ผู้ตอบแบบประเมินโครงการ จานวน 20 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จานวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 90.00 เพศชาย จานวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 10.00 ส่วนใหญ่มีอายุ 50 ปีข้ึนไป จานวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 55.00 รองลงมา คือ อายุ 30 – 49 ปี จานวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 45.00 ระดับการศึกษาส่วนใหญ่ศึกษาอยู่ใน ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย จานวน 10 คน คิดเปน็ ร้อยละ 50.00 รองลงมา คอื ประถมศึกษา จานวน 6 คน คิด เปน็ ร้อยละ 30.00 และมธั ยมศึกษาตอนตน้ จานวน 4 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 20.00 สาหรับอาชีพ ส่วนใหญ่ ประกอบ อาชีพเกษตรกรรม จานวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 60.00 รองลงมา คือ อาชีพรับจ้าง จานวน 5 คน คิดเป็นร้อย ละ 25.00 และอาชพี คา้ ขาย จานวน 3 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 15.00ตามลาดบั ตอนที่ 2 วเิ คราะหผ์ ลการประเมินกจิ กรรมโครงการพฒั นาหม่บู า้ นตน้ แบบ โคกหนองนา โมเดล ตารางที่ 2.1 พบว่าโครงการพัฒนาหมู่บ้านต้นแบบ โคกหนองนา โมเดล มีผลการประเมินโครงการใน ภาพรวม อยใู่ นระดับมาก (̅= 4.19) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านสถานท่ี ระยะเวลา และความพึงพอใจ มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.33) รองลงมาคือ ด้านหลักสูตร มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.23) และดา้ นวิทยากร มผี ลการประเมิน อยู่ในระดบั มาก (̅=4.03) ตามลาดบั ตารางที่ 2.2 พบว่าโครงการพัฒนาหมู่บ้านต้นแบบ โคกหนองนา โมเดล มีผลการประเมินโครงการใน ด้านหลักสูตร อยู่ในระดับมาก (̅= 4.23) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ผู้ร่วมกิจกรรมสามารถนาความรู้ไป ปรบั ใช้ในการปฏิบัตงิ าน มีผลการประเมิน อยู่ในระดบั มาก (̅=4.40) รองลงมาคือ การจัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้ รว่ มกิจกรรมสามารถ คิดเป็น ทาเป็น แก้ปัญหาเป็น ผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.30) ผู้ร่วมกิจกรรมมี ส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อการจัดทาหลักสูตร กิจกรรมสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหลักสูตร มีผล การประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.25 ) และเน้ือหาของหลักสูตรตรงกับความต้องการผู้ร่วมกิจกรรม มีผลการ ประเมิน อย่ใู นระดับมาก (̅=3.95) ตามลาดบั ตารางท่ี 2.3 พบว่าโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ โคกหนองนา โมเดล ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง มีผลการประเมินฯ ในด้านวิทยากร อยู่ในระดับมาก (̅=3.95) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า บุคลิกภาพของวิทยากร มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.15) รองลงมาคือ วิทยากรมีการใช้ส่ือท่ี สอดคล้องและเหมาะสมกบั กิจกรรม มผี ลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.10) วิทยากรมีความรู้ความสามารถ สรปุ ผลการดาเนนิ งาน โครงการพฒั นาหมู่บ้านตน้ แบบ โคกหนองนา โมเดล ปีงบประมาณ 2564 19

ในการถ่ายทอดองค์ความรู้ มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.05)และวิทยากรมีเทคนิค วิธีการในการ จัดการถา่ ยทอดองค์ความรู้ มผี ลการประเมนิ อยใู่ นระดับมาก (̅=3.85) ตามลาดบั ตารางท่ี 2.4 พบว่าโครงการพัฒนาหมู่บ้านต้นแบบ โคกหนองนา โมเดล มีผลการประเมินฯ ในด้าน สถานท่ี ระยะเวลา และความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก (̅=4.33) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ประโยชน์ที่ ได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรมตามหลักสูตร มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมากท่ีสุด (̅=4.50) รองลงมาคือ ระยะเวลาในการจดั กิจกรรมเหมาะสม ความพึงพอใจในภาพรวมของผู้ร่วมกิจกรรมต่อการเข้าร่วมกิจกรรม มีผล การประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.40) และสถานท่ีในการจัดกิจกรรมเหมาะสม มีผลการประเมิน อยู่ในระดับ มาก (̅=4.05) ตามลาดบั ตอนท่ี 3 วิเคราะหค์ วามคดิ เห็นและข้อเสนอแนะอืน่ ๆ ควรส่งเสริมสนบั สนุนการทาปุ๋ยหมัก อภปิ รายผล จากการโครงการพัฒนาหมูบ่ า้ นต้นแบบ โคกหนองนา โมเดล มีผลการประเมินโครงการโดยภาพรวม อยู่ ในระดับมาก (̅=4.19) ทั้งน้ีเป็นเพราะ คณะทางาน ได้ประชุม/ช้ีแจงวางแผนการดาเนินงาน แก่บุคลากร กศน. อาเภอโชคชัย กาหนดรูปแบบ และแผนการดาเนินงาน การจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน จัดเตรียมความ พร้อมในการดาเนินงานโครงการ มีการนิเทศกิจกรรมโครงการอย่างต่อเนื่อง เพ่ือแก้ไขปรับปรุงให้เกิดความ เหมาะสม จากผลการประเมนิ ดงั กล่าว มปี ระเดน็ ท่นี า่ สนใจนามาอภิปรายผล ดังน้ี ประโยชน์ที่ได้รับจากการเข้าร่วม กิจกรรม มีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด (̅=4.50) ประชาชน ท่ีเข้าร่วมกิจกรรม นาความรู้ การปลูกสวน ครัว และนาทักษะไปใช้ในการดาเนินชีวิต มีจิตสานึกในการน้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การ ปฏิบตั ิ และเป็นหม่บู า้ นต้นแบบในการดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีความพร้อมนาไปปรับ ใช้ในชีวิตประจาวัน ดังนี้ ปลูกผักกินเอง ไม่ใช้จ่ายเกินตัว ไม่ลงทุนเกินขนาด คิดและวางแผนอย่างรอบคอบ มี ภูมิคุ้มกันไม่เส่ียงเกินไป เช่น ทาบัญชีรายรับรายจ่าย เพื่อท่ีจะจัดการการใช้จ่ายเงินได้อย่างเป็นระบบ มีจิตใจ เข้มแข็ง มีจิตสานึกที่ดี เอื้ออาทร เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่า ประโยชน์ส่วนตัว ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน รู้ รัก สามัคคี สร้างความเข้มแข็งให้ครอบครัว และชุมชน รู้จักใช้และจัดการอย่างฉลาดและรอบคอบ ฟื้นฟูทรัพยากร เพื่อให้เกิดความย่ังยืนและคงอยู่ ชั่วลูกหลาน เช่น การใช้น้าอย่างประหยัด ปิดไฟเม่ือไม่ใช้งาน เน้นการเรียนรู้ เกีย่ วกบั เศรษฐกจิ พอเพียง การดาเนินชวี ติ จากภมู ิปัญญาชาวบ้าน ในท้องถิ่น ซ่ึงสอดคล้องกับงานวิจัยของ สุเมธ ตันติเวชกุล, 2542 กล่าวว่า การนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ และประพฤติ ปฏิบัติ เพื่อที่จะให้บรรลุผลสาเร็จในระยะเวลาอันสั้นน้ัน มิใช่เร่ืองที่จะเป็นไปได้ง่าย ๆ ต้องให้ ความรู้ และสร้างความ เข้าใจใหเ้ กดิ ขึ้นกบั ประชาชนทุกระดับ โดยอาศัยความรว่ มมือจาก ส่วนราชการ และทุกภาคส่วนของประเทศ และ สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการพฒั นาหมู่บา้ นตน้ แบบ โคกหนองนา โมเดล ปงี บประมาณ 2564 20

การประยกุ ตใ์ ช้ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง น้ัน มแี นวทางในการดาเนินชีวิตดังนี้ คือ ยึดความประหยัด ตัดทอน คา่ ใช้จ่ายในทุกดา้ น ลดละ ความฟุม่ เฟอื ยในการดารงชีพอย่างจรงิ จัง ดงั ทมี่ กี ระแสพระราชดารัสว่า “ความเป็นอยู่ ทตี่ ้องไมฟ่ ุ้งเฟอ้ ต้องประหยัดไปในทางท่ีถูกตอ้ ง” ยดึ ถือการประกอบอาชพี ด้วยความถูกต้อง สุจริต แม้จะตกอยู่ใน ภาวะขาดแคลนในการดารงชพี ก็ตาม ดังท่ีมีกระแสพระราชดารัสว่า “ความเจริญของคนท้ังหลาย ย่อมเกิดมาจาก การประพฤติชอบและการหาเลย้ี งชพี ชอบ เป็นสาคญั ” ทั้งนี้ สง่ ผลให้ ผู้ร่วมโครงการ ฯ บ้านหนองกระทุ่ม หมู่ที่ 3 ตาบลทา่ เยย่ี ม อาเภอโชคชัย จงั หวดั นครราชสมี า พรอ้ มรับต่อการเปลีย่ นแปลงในทุกด้าน มุ่งเน้นให้ประชาชนนา หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปปรับใช้ในชีวิตประจาวันให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง และส่วนร่วมอย่างมี ประสทิ ธภิ าพมากขึน้ สง่ ผลให้โครงการ ฯ ประสบผลสาเร็จตามวัตถุประสงคท์ ก่ี าหนด ขอ้ เสนอแนะเพอ่ื การพัฒนาครัง้ ต่อไป ควรสง่ เสริมสนับสนุนสง่ เสรมิ ให้ความรู้วธิ กี ารทาปยุ๋ หมักชวี ภาพไวใ้ ชเ้ องให้กับประชาชนอยา่ งต่อเนื่อง สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการพฒั นาหมบู่ ้านต้นแบบ โคกหนองนา โมเดล ปงี บประมาณ 2564 21

ภาคผนวก

ภาพกิจกรรม โครงการพฒั นาหมู่บา้ นต้นแบบ โคกหนองนา โมเดล วันที่ 23 มถิ ุนายน 2564 ณ บา้ นหนองกระทุม่ หมู่ 3 ตาบลทา่ เยย่ี ม อาเภอโชคชยั จังหวัดนครราชสีมา

รายชอื่ ผเู้ ข้าร่วมโครงการพัฒนาหมู่บา้ นตน้ แบบ โคกหนองนา โมเดล วนั ที่ 23 มิถนุ ายน 2564 ณ บ้านหนองกระทมุ่ หมู่ 3 ตาบลทา่ เยีย่ ม อาเภอโชคชยั จังหวัดนครราชสีมา ที่ ชื่อ – สกลุ 1 นางสะอ้อน พวกกระโทก 2 นางสมภาส ดกึ กระโทก 3 นางเสวย หลอดทอง 4 นายเชน มจี ติ รเจริญ 5 นางมาลัย พอกระโทก 6 นายสอ้อน เพง็ กระโทก 7 นางชยันต์ ปยุ กระโทก 8 นางอดั ฉลิน ทองเกษม 9 นางสารอง ผังกระโทก 10 นางสมพิณ จนั ทร์วเิ ชียร 11 นางลาทวน ป๊ีบกระโทก 12 นางจันทร์ ไชยพูน 13 นางสาวสุภาพร ปี๊บกระโทก 14 นางนภาพร มมิ่ กระโทก 15 นางยพุ นิ พลยุทธภูมิ 16 นางละออง กรัดกลาง 17 นางนุช นัวกระโทก 18 นางสาวหนแู ดง พบกระโทก 19 นางสายมา่ น คีบกระโทก 20 นางแจ๋ว พวงกระโทก

ตารางวิเคราะห์ข้อมูลโครงการพฒั นาหมูบ่ า้ นตน้ แบบ โคกหนองนา โมเดล โดยใช้โปรแกรม SPSS Valid ชาย Frequenc เพศ Valid Cumulative หญิง y Percent Percent 2 Percent 10.0 Total 18 10.0 100.0 20 10.0 90.0 90.0 100.0 100.0 อายุ Frequenc Percent Valid Cumulative Percent Percent Vali 30-49 ปี y 45.0 45.0 d 50 ปี ข้ึนไป 9 55.0 45.0 100.0 11 55.0 100.0 Total 20 100.0 ระดบั การศึกษา Vali ประถมศึกษา Frequenc Percent Valid Cumulative d มธั ยมศึกษาตอนตน้ y Percent Percent 6 30.0 30.0 มธั ยมศึกษาตอนปลาย 4 20.0 30.0 50.0 10 50.0 20.0 100.0 Total 20 100.0 50.0 100.0 Vali เกษตรกรรม Frequenc อาชีพ Valid Cumulative d คา้ ขาย y Percent Percent 12 Percent 60.0 รับจา้ ง 3 60.0 40.0 5 60.0 15.0 100.0 Total 20 15.0 25.0 25.0 100.0 100.0

ข้อ 1 กจิ กรรมสอดคล้องกบั วตั ถปุ ระสงค์ของหลกั สูตร Vali ปานกลาง Frequenc Percent Valid Cumulative d มาก y Percent Percent 4 20.0 20.0 มากท่ีสุด 7 35.0 20.0 55.0 9 45.0 35.0 100.0 Total 20 100.0 45.0 100.0 ข้อ 2 เนื้อหาของหลกั สูตรตรงกบั ความต้องการผู้ร่วมกจิ กรรม Frequenc Percent Valid Cumulative Percent Percent Vali ปานกลาง y 20.0 20.0 d มาก 4 65.0 20.0 85.0 มากที่สุด 13 15.0 65.0 100.0 3 15.0 100.0 Total 20 100.0 ข้อ 3 การจดั กจิ กรรมส่งเสริมให้ผู้ร่วมกจิ กรรมสามารถ คดิ เป็ น ทาเป็ น แก้ปัญหาเป็ น Vali ปานกลาง Frequenc Percent Valid Cumulative d มาก y Percent Percent 2 10.0 10.0 มากที่สุด 10 50.0 10.0 60.0 8 40.0 50.0 100.0 Total 20 100.0 40.0 100.0 ข้อ 4 ผ้รู ่วมกจิ กรรมมสี ่วนร่วมในการแสดงความคดิ เห็นต่อการจดั ทาหลกั สูตร Vali ปานกลาง Frequenc Percent Valid Cumulative d มาก y Percent Percent 2 10.0 10.0 มากท่ีสุด 11 55.0 10.0 65.0 7 35.0 55.0 100.0 Total 20 100.0 35.0 100.0

ข้อ 5 ผ้รู ่วมกจิ กรรมสามารถนาความรู้ไปปรับใช้ในการประกอบอาชีพได้ Vali ปานกลาง Frequenc Percent Valid Cumulative d มาก y Percent Percent 3 15.0 15.0 มากที่สุด 6 30.0 15.0 45.0 11 55.0 30.0 100.0 Total 20 100.0 55.0 100.0 ข้อ 6 วทิ ยากรมคี วามรู้ความสามารถในการถ่ายทอดองค์ความรู้ Vali ปานกลาง Frequenc Percent Valid Cumulative d มาก y Percent Percent 5 25.0 25.0 มากท่ีสุด 9 45.0 25.0 70.0 6 30.0 45.0 100.0 Total 20 100.0 30.0 100.0 ข้อ 7 วทิ ยากรมเี ทคนคิ วธิ ีการในการจัดการถ่ายทอดองค์ความรู้ Vali ปานกลาง Frequenc Percent Valid Cumulative d มาก y Percent Percent 5 25.0 25.0 มากที่สุด 13 65.0 25.0 90.0 2 10.0 65.0 100.0 Total 20 100.0 10.0 100.0

ข้อ 8 วทิ ยากรมกี ารใช้สื่อทส่ี อดคล้องและเหมาะสมกบั กจิ กรรม Vali ปานกลาง Frequenc Percent Valid Cumulative d มาก y Percent Percent 3 15.0 15.0 มากท่ีสุด 12 60.0 15.0 75.0 5 25.0 60.0 100.0 Total 20 100.0 25.0 100.0 ข้อ 9 บุคลกิ ภาพของวทิ ยากร Vali ปานกลาง Frequenc Percent Valid Cumulative d มาก y Percent Percent 3 15.0 15.0 มากท่ีสุด 11 55.0 15.0 70.0 6 30.0 55.0 100.0 Total 20 100.0 30.0 100.0 ข้อ 10 สถานทใ่ี นการจดั กจิ กรรมเหมาะสม Vali ปานกลาง Frequenc Percent Valid Cumulative d มาก y Percent Percent 4 20.0 20.0 มากที่สุด 11 55.0 20.0 75.0 5 25.0 55.0 100.0 Total 20 100.0 25.0 100.0 ข้อ 11 ระยะเวลาในการจดั กจิ กรรมเหมาะสม Vali ปานกลาง Frequenc Percent Valid Cumulative d มาก y Percent Percent 3 15.0 15.0 มากท่ีสุด 6 30.0 15.0 45.0 11 55.0 30.0 100.0 Total 20 100.0 55.0 100.0

ข้อ 12 ความพงึ พอใจในภาพรวมของผู้ร่วมกจิ กรรมต่อการเข้าร่วมกจิ กรรม Vali ปานกลาง Frequenc Percent Valid Cumulative d มาก y Percent Percent 2 10.0 10.0 มากท่ีสุด 8 40.0 10.0 50.0 10 50.0 40.0 100.0 Total 20 100.0 50.0 100.0 ข้อ 13 ประโยชน์ทไ่ี ด้รับจาการเข้าร่วมกจิ กรรมตามหลกั สูตร Vali ปานกลาง Frequenc Percent Valid Cumulative d มาก y Percent Percent 2 10.0 10.0 มากท่ีสุด 6 30.0 10.0 40.0 12 60.0 30.0 100.0 Total 20 100.0 60.0 100.0

Descriptive Statistics N Minimum Maximum Mean Std. Deviation ข้อ 1 กิจกรรมสอดคลอ้ งกบั 20 3.00 5.00 4.2500 0.78640 วัตถปุ ระสงค์ของหลักสตู ร ขอ้ 2 เนอ้ื หาของหลักสตู รตรงกบั 20 3.00 5.00 3.9500 0.60481 ความตอ้ งการผรู้ ่วมกิจกรรม ข้อ 3 การจดั กิจกรรมส่งเสริมให้ผ้รู ว่ ม 20 3.00 5.00 4.3000 0.65695 กิจกรรมสามารถ คดิ เปน็ ทาเป็น แกป้ ญั หาเปน็ 20 3.00 5.00 4.2500 0.63867 ขอ้ 4 ผู้รว่ มกจิ กรรมมีส่วนรว่ มในการ แสดงความคดิ เห็นต่อการจดั ทา 20 3.00 5.00 4.4000 0.75394 หลกั สูตร ข้อ 5 ผูร้ ่วมกจิ กรรมสามารถนาความรู้ 20 3.00 5.00 4.0500 0.75915 ไปปรับใชใ้ นการประกอบอาชีพได้ ขอ้ 6 วิทยากรมคี วามรู้ความสามารถ 20 3.00 5.00 3.8500 0.58714 ในการถ่ายทอดองคค์ วามรู้ ข้อ 7 วิทยากรมเี ทคนคิ วิธีการในการ 20 3.00 5.00 4.1000 0.64072 จดั การถ่ายทอดองค์ความรู้ ข้อ 8 วทิ ยากรมีการใชส้ อ่ื ที่สอดคล้อง 20 3.00 5.00 4.1500 0.67082 และเหมาะสมกับกิจกรรม ขอ้ 9 บุคลิกภาพของวิทยากร 20 3.00 5.00 4.0500 0.68633 ข้อ 10 สถานทใี่ นการจัดกิจกรรม เหมาะสม 20 3.00 5.00 4.4000 0.75394 ข้อ 11 ระยะเวลาในการจัดกิจกรรม เหมาะสม 20 3.00 5.00 4.4000 0.68056 ข้อ 12 ความพงึ พอใจในภาพรวมของผู้ ร่วมกจิ กรรมต่อการเข้ารว่ มกิจกรรม 20 3.00 5.00 4.5000 0.68825 ขอ้ 13 ประโยชนท์ ่ไี ด้รบั จาการเข้าร่วม กิจกรรมตามหลกั สูตร

Valid N (listwise) 20

บรรณานกุ รม กรมการพฒั นาชมุ ชน. (2551). แนวทางส่งเสรมิ เศรษฐกจิ พอเพียงในชมุ ชนสาหรบั เจ้าหน้าท่ีพัฒนา ชุมชน. กรุงเทพมหานคร: บางกอกบลอ็ ก. เกษรา จทู อง. (2554). การนาแนวคดิ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในชีวติ ประจาวัน: กรณีศึกษา ประชาชนในตาบลวังตะกูอาเภอเมือง จังหวัดนครปฐม. วทิ ยานพิ นธ์ ปริญญาศิลปศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวชิ า การจัดการภาครฐั และภาคเอกชน บณั ฑิตวิทยาลยั มหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร. การน้อมนาแนวปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง มาใช้เปน็ แนวทางการดาเนนิ ชวี ิต. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงได้ จาก http://school.obec.go.th/sawatee/king_thai/justeconomic.htm (วันท่ีคน้ ขอ้ มูล วนั ท่ี 13 กรกฎาคม 2564). ชมุ ชนปฐมอโศก. (2556). รายงานการประชุมชุมชนปฐมอโศก วนั ที่ 16 กนั ยายน 2556. นครปฐม: ชมุ ชนปฐมอโศก. เศรษฐกิจพอเพียง [ออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก http://www.tupr.ac.th/sufficency1.php (วันท่คี น้ ข้อมูล วนั ที่ 13 กรกฎาคม 2564). สานกั งาน กศน. (2561). ยทุ ธศาสตรแ์ ละจุดเน้นการดาเนินงาน สานักงาน กศน. ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2561. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก http://ubon.nfe.go.th/Joomla/index.php?option=com_ content&view=article&id=1444:-2559&catid=39:plan&Itemid=56). (วันที่คน้ ข้อมลู วันที่ 13 กรกฎาคม 2564). สเุ มธ ตันตเิ วชกุล. (2552). การดาเนนิ ชวี ิตในระบบเศรษฐกิจแบบพอเพยี งตามแนว พระราชดาริ. วารสารนา, 20 (2), 249-250.

คณะผูจ้ ัดทำ ท่ีปรกึ ษำ วัฒนกสิการ ผู้อานวยการ กศน.อาเภอโชคชยั หาญกลา้ บรรณารกั ษ์ชานาญการพิเศษ นางจีระภา มงุ่ ภกู่ ลาง ครอู าสาสมัครการศึกษานอกโรงเรยี น นางสุวิมล เชือ่ ปัญญา ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรยี น นายสมชาย นางจงรกั ษ์ ครู กศน.ตาบล วิเครำะห์ขอ้ มูล เรียบเรยี งและทำตน้ ฉบบั นางสาววรรณนภิ า สิทธิเจริญยศ บรรณำธกิ ำร วฒั นกสกิ าร ผู้อานวยการ กศน.อาเภอโชคชัย เนื่องกระโทก เจา้ หน้าทีธ่ รุ การ นางจีระภา นางสาวอรอนงค์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook