ก คำนำ เอกสารสรุปผลโครงการเล่มนี้ จัดทาข้ึนเพ่ือสรุปผลการดาเนินงานปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะ จากการจัดกิจกรรมใน โครงการพัฒนาทักษะชีวิตนักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้สู่ชีวิตพอเพียง ภาคเรียนท่ี 1/2565 ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอโชคชยั คณะผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารเล่มนี้ จะเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริม และพัฒนางานการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน ดา้ นอื่น ๆ ต่อไป ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอโชคชัย พฤษภาคม 2565
ข สำรบญั หนำ้ คำนำ ก สำรบัญ ข บทที่ 1 บทนำ 1 1 หลักการและเหตุผล 2 2 วัตถุประสงค์ 2 2 เป้าหมาย 3 3 ผรู้ ับผิดชอบโครงการ 4 4 ผลลัพธ์ 6 7 ดชั นีชี้วัดผลสาเร็จของโครงการ 9 10 การติดตามและประเมนิ ผล 15 16 บทที่ 2 เอกสำรกำรศกึ ษำและงำนวิจัยท่ีเกยี่ วขอ้ ง 32 39 ความหมายของการศกึ ษา การศกึ ษาตามอัธยาศยั ความสาคญั ทกั ษะดิจทิ ัล การเรยี นการสอนแบบออนไลน์ (Online learning) คืออะไร การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั ยทุ ธศาสตร์และจดุ เนน้ การดาเนนิ งาน สานกั งาน กศน.ประจาปีงบประมาณ 2565 บทที่ 3 วิธกี ำรดำเนินงำน บทท่ี 4 ผลกำรวิเครำะหข์ อ้ มูล บทท่ี 5 สรปุ ผล อภปิ รำยผล และขอ้ เสนอแนะ บรรณำนกุ รม ภำคผนวก ภาพกจิ กรรม รายชอ่ื ผ้เู ขา้ ร่วมโครงการ ฯ ตารางวเิ คราะหข์ ้อมลู โครงการ ฯ แบบประเมินโครงการ โครงการพฒั นาทกั ษะชีวติ นกั ศึกษา กศน.อาเภอโชคชยั นาความรสู้ ่ชู ีวติ พอเพียง ภาคเรยี นที่ 1/2565
บทที่ 1 บทนำ หลักกำรและเหตผุ ล แผนการศึกษาแห่งชาติฉบับปรับปรุง (พ.ศ. 2560 – 2574) กาหนดวิสัยทัศน์ให้คนไทยได้เรียนรู้ ตลอดชวี ติ อย่างมีคณุ ภาพ โดยจุดมุ่งหมายท่ีสาคัญของแผนคือ การมุ่งเน้นการประกันโอกาส และความเสมอภาค ทางการศกึ ษา การพฒั นาคุณภาพและมาตรฐานการศกึ ษา และการศึกษาเพื่อการมีงานทาและสร้างงานได้ภายใต้ บริบท เศรษฐกิจและสังคมของประเทศและของโลกที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งมี ความเป็นพลวัต ภายใต้สังคมแห่ง ปัญญา สังคมแห่งการเรียนรู้ และการสร้างสภาพแวดล้อมท่ีเอ้ือต่อการเรียนรู้ ตามศกั ยภาพสาหรับประชากรทกุ ชว่ งวัย ต้ังแต่เกิดจนตลอดชวี ติ ท่ปี ระชาชนสามารถแสวงหาความรู้และเรียนรูไ้ ด้ ด้วยตนเองอยา่ งตอ่ เนอื่ งตลอดชีวิต และมีเป้าหมายของการพัฒนาการศึกษา 5 ประการ ได้แก่ การเข้าถึง ความ เท่าเทียม คุณภาพประสิทธิภาพ และการตอบโจทย์บริบทท่ีเปลี่ยนแปลง ภายใต้บริบทเศรษฐกิจและสังคมของ ประเทศและของโลกที่เป็นพลวัต ซ่ึงกาหนดวิสัยทัศน์จุดมุ่งหมาย ความคาดหวัง เป้าหมาย สุดท้ายของแผน หลักการ/แนวคิด และยุทธศาสตร์/มาตรการ เพ่ือการบรรลุเป้าหมายให้พลเมืองสามารถแสวงหา ความรู้และ เรยี นรไู้ ดด้ ้วยตนเองอยา่ งตอ่ เนือ่ งตลอดชีวติ สานักงาน กศน. จัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยเน้นการฝึกกระบวนการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการ “คิดเป็น” ให้ผู้เรียนฝึกคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และแสวงหาความรู้ด้วยตนเองจากส่ือ เช่น สถานการณ์จริง ข่าว บทความ ท่ีเก่ียวข้องกับเนื้อหา รายวิชา ทก่ี าลงั เรยี นรู้ ครูมหี นา้ ท่เี ป็นผกู้ ระตุน้ เสรมิ แรง ใช้กระบวนการเรยี นรู้ แบบมสี ่วนร่วม ให้ผเู้ รียนทุกคนได้ แลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกันตลอดช่วงเวลาการพบกลุ่ม โดยครูตั้งคาถามปลายเปิดให้ผู้เรียนได้คิดร่วมอภิปราย เพื่อ หาคาตอบจากประเด็นปัญหา และพยายามเช่ือมโยงเร่ืองท่ีเรียนรู้จากรายวิชาน้ันเข้าสู่วิถีชีวิตความพอเพียงของ ผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนได้มองเห็นประโยชน์จากการมาพบกลุ่ม การนาเสนอโครงงานเป็นอีกรูปแบบวิธีเรียน ท่ีให้ ผู้เรียนนาเสนอความคิด และความก้าวหน้าในการทาโครงงานต่อกลุ่มใหญ่ เพื่อให้ผู้เรียนคนอ่ืน และครูช่วยกัน วิเคราะหซ์ กั ถาม ใหข้ อ้ เสนอแนะ คาแนะนา ทาให้เกิดการแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ เป็นการต่อยอดทางความคิด นาไปสู่ การพัฒนาโครงงานของนักศึกษา และส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ส่ือเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อสร้างความพร้อม และ ความเขม้ แข็งของชุมชนในการรองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดจิ ิทลั นาองค์ความรู้รอบตัวโดยการท่องโลก อินเทอรเ์ นต็ มาประยกุ ต์ใช้งานไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง พัฒนาทกั ษะดา้ นตา่ ง ๆ จากการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเองผ่านกระบวนการ สื่อออนไลน์ การขายสินค้าออนไลน์โดยไม่ต้องเดินทางไกล เพื่อโปรโมทสินค้าในชุมชนท้องถิ่นได้อย่างเหมาะสม สอดคลอ้ งกับสถานการณ์ พน้ื ทใ่ี นชมุ ชน การดารงชวี ติ ตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ตรงตามความต้องการ ของประชาชน และตลาดการคา้ ออนไลนใ์ นประเทศ 1 สรุปผลการดาเนินงานโครงการพัฒนาทกั ษะชวี ิตนกั ศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรูส้ ู่ชวี ติ พอเพยี ง ภาคเรียนที่ 1/2565
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอโชคชัย ได้ตระหนักถึงความสาคัญ ของการพัฒนาทักษะความรู้ การจัดทาโครงงาน และความสามารถด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (ICT) ให้กับ นักศึกษา ท้ังการปลูกฝังคุณธรรม และจริยธรรม มุ่งเน้นให้นักศึกษาพัฒนาทักษะกระบวนการคิด วิเคราะห์ การดารงชีวติ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงมากขน้ึ จึงได้จัดโครงการพฒั นาทักษะชีวติ นักศึกษา กศน.อาเภอ โชคชัย นาความรู้สู่ชีวติ พอเพียง ภาคเรียนที่ 1/2565 ขนึ้ วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือส่งเสริมให้นักศึกษา มีความรู้ ความเข้าใจในการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ กระบวนการจัดทา โครงงาน และกระบวนการคิด วิเคราะห์ ค้นคว้าหาคาตอบด้วยตนเอง ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับ การศกึ ษา ข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 2. เพือ่ ให้นักศึกษา กศน. มีความรู้ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อการเรียนรู้ การพัฒนา ตนเอง ชุมชน สงั คม การทางาน และการดารงชีวติ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งได้อย่างมคี วามสุข เป้ำหมำย เชิงปรมิ ำณ นกั ศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย จานวน 250 คน เชงิ คณุ ภำพ นกั ศกึ ษา กศน. ท่ีเขา้ รว่ มโครงการฯ ร้อยละ 90 ได้รบั การพัฒนาทักษะการเรียนรู้ กระบวนการ จดั ทาโครงงาน กระบวนการคดิ วิเคราะห์ ค้นคว้าหาคาตอบด้วยตนเอง ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับ การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 และมีความรู้ ความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อการเรียนรู้ สามารถพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สังคม และนาไปใช้ในการดาเนนิ ชวี ติ ตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งได้ ผ้รู ับผิดชอบโครงกำร ครู กศน.ตาบล นางสาววรรณนภิ า สิทธเิ จริญยศ นางสาวอณัญญา คณู เพ่มิ พูนทอง ครูประจาศนู ยก์ ารเรียนชุมชน เครือข่ำย - โรงเรียนโชคชยั พรหมบุตรบรหิ าร ตาบลโชคชยั อาเภอโชคชยั จงั หวดั นครราชสีมา โครงกำรที่เกี่ยวขอ้ ง โครงการจดั การศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน 2 สรุปผลการดาเนนิ งานโครงการพฒั นาทกั ษะชวี ิตนกั ศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรสู้ ่ชู วี ติ พอเพยี ง ภาคเรียนท่ี 1/2565
ผลลัพธ์ (Outcome) นักศึกษา กศน. อาเภอโชคชยั ท่ีเขา้ ร่วมโครงการฯ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ พัฒนาทักษะกระบวนการจัดทา โครงงาน ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 และมีความรู้ ความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อการเรียนรู้ สามารถพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม และนาไปใช้ใน ชีวิตประจาวนั ตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ ดชั นีชวี้ ดั ควำมสำเรจ็ ของโครงกำร ตัวชว้ี ดั ผลผลิต ( Outputs ) นักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย จานวน 250 คน มีการพัฒนา ความรู้ และเข้าใจกระบวนการ จัดทาโครงงาน และกระบวนการคิด วิเคราะห์ ค้นคว้าหาคาตอบด้วยตนเอง และรู้เท่าทันส่ือเทคโนโลยีดิจิทัล ตามหลักสตู รการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ตวั ชวี้ ดั ผลลัพธ์ ( Outcomes ) นักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย ท่ีเข้าร่วมโครงการฯ ร้อยละ 90 นาความรู้ด้านทักษะ กระบวนการคิด วิเคราะห์ ค้นคว้าหาคาตอบด้วยตนเองไปใช้ในการพัฒนาตนเอง และจัดทาโครงงาน ตาม หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐานพุทธศักราช 2551 และนาความรู้ส่ือเทคโนโลยีดิจิทัล ไป ใช้ในชวี ติ ประจาวันตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ กำรตดิ ตำมและกำรประเมินผลโครงกำร - แบบประเมนิ โครงการ - สังเกตการมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรม 3 สรุปผลการดาเนนิ งานโครงการพฒั นาทกั ษะชวี ิตนกั ศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรูส้ ชู่ ีวติ พอเพยี ง ภาคเรียนที่ 1/2565
บทที่ 2 เอกสำรกำรศกึ ษำและงำนวจิ ัยทเี่ กีย่ วขอ้ ง ในการจดั ทารายงานคร้งั น้ไี ดท้ าการศกึ ษาค้นควา้ เน้อื หาจากเอกสารการศกึ ษาและงานวิจัยทีเ่ กย่ี วข้อง ดังตอ่ ไปนี้ 1. ควำมหมำยของกำรศึกษำ 2. กำรศึกษำตำมอัธยำศัย 3. ควำมสำคญั ของทกั ษะดจิ ิทัล 4. กำรเรียนกำรสอนแบบออนไลน์ (Online learning) คืออะไร 5. กำรใช้เทคโนโลยีสำรสนเทศอยำ่ งปลอดภยั 6. ยทุ ธศำสตร์ และจดุ เนน้ กำรดำเนนิ งำน สำนกั งำน กศน. ประจำปงี บประมำณ 2565 1. ควำมหมำยของกำรศกึ ษำ การศกึ ษา (Education)ในมาตรา 4 ของพระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 นยิ าม ความหมาย ของการศกึ ษา มคี วามหมายว่า \"กระบวนการเรียนรูเ้ พ่อื ความเจรญิ งอกงามของบุคคลและสงั คมโดยการถ่ายทอด ความรู้ การฝกึ การอบรม การสืบสานทางวฒั นธรรมการสร้างสรรค์จรรโลงความกา้ วหนา้ ทางวชิ าการ การสรา้ ง องค์ความรู้อันเกิดจากการจดั สภาพแวดล้อม สงั คมการเรียนรู้ และปจั จยั เกอื้ หนุนให้บคุ คลเรียนรอู้ ยา่ งตอ่ เน่ือง ตลอดชวี ติ \" และมาตรา 15 ได้กาหนดระบบการศึกษา ในการจัดการศกึ ษามีสามรูปแบบ คือ การศกึ ษาในระบบ การศกึ ษานอกระบบ และการศึกษาตามอธั ยาศัย พระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 มาตรา 4 ได้บัญญัตคิ วามหมายของการศกึ ษาตลอดชีวติ ไว้ ว่า หมายถึงกำรศกึ ษำท่ีเกิดจำกกำรผสมผสำนระหวำ่ งกำรศกึ ษำในระบบกำรศึกษำนอกระบบ และกำรศกึ ษำ ตำมอัธยำศัย เพ่ือใหส้ ำมำรถพัฒนำคุณภำพชีวิตได้อย่ำงตอ่ เนื่องตลอดชีวิต นอกจากน้ใี น พระราชบญั ญัตสิ ่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั พ.ศ. 2551 มาตรา 8 การสง่ เสริมและสนับสนนุ การศึกษาตามอธั ยาศยั กไ็ ด้ใหค้ วามสาคัญตอ่ ผูเ้ รยี น โดยไดร้ ะบไุ วว้ า่ \"ผูเ้ รียนไดร้ ับ ควำมรแู้ ละทักษะพื้นฐำนในกำรแสวงหำควำมรทู้ ่ีจะเอ้ือต่อกำรเรียนร้ตู ลอดชวี ติ \" ในความหมายของการศกึ ษาตลอดชีวติ ดงั กลา่ ว สอดคล้องกับความหมายของการศกึ ษา ซึ่งมสี ถานทีแ่ ละ ระยะเวลาเช่นเดยี วกัน คอื เปน็ การศึกษาท่เี กิดในทกุ สถานที่ และตลอดระยะเวลาในชวี ติ ของบุคคลบคุ คลหนึ่ง นอกจากนี้ การศึกษาตลอดชวี ติ ยังจะต้องเป็นการผสมผสานกันระหวา่ งการศกึ ษาในระบบการศกึ ษานอก ระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศัยอกี ดว้ ย ในการจดั การศึกษาของประเทศจึงให้ความสาคญั กบั การศกึ ษาตลอด ชีวติ เปน็ อยา่ งสงู โดยเหน็ ไดจ้ ากความหมายของการศกึ ษา และความหมายของการศกึ ษาตลอดชวี ติ ดงั กลา่ ว พระราชบัญญัติการศกึ ษาแหง่ ชาตเิ องกไ็ ด้บญั ญัตไิ ว้ในมาตรา 8 โดยในการจัดการศกึ ษาให้ยดึ หลัก 3 ประการคือ เป็นการศกึ ษาตลอดชีวติ สาหรับประชาชน ให้สังคมมีส่วนรว่ มในการจดั การศกึ ษา และพัฒนาสาระและ 4 สรุปผลการดาเนนิ งานโครงการพฒั นาทักษะชวี ิตนกั ศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความร้สู ชู่ ีวติ พอเพียง ภาคเรียนที่ 1/2565
กระบวนการเรียนรใู้ ห้เปน็ ไปอยา่ งต่อเนือ่ ง ในหนงั สือ คาภรี ์ กศน ไดใ้ หค้ วามหมายของ การศกึ ษาตลอดชวี ิต ไว้ วา่ • การศกึ ษาท่ีเกดิ ขน้ึ จากการผสมผสานระหว่างการศกึ ษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศกึ ษา ตามอัธยาศัย เพอื่ ให้สามารถพัฒนาคณุ ภาพชวี ิตได้อยา่ งตอ่ เน่ืองตลอดชวี ติ • การศึกษาท่ีเกดิ ขนึ้ อยา่ งต่อเนอ่ื ง ตง้ั แตเ่ กิดจนตาย • พัฒนาคนใหไ้ ดเ้ รยี นร้ใู นรปู แบบตา่ งๆตามความสามารถของตนเอง เพื่อกา้ วทันการเปลีย่ นแปลงของโลก สามารถทางานและอยู่รว่ มกันในสังคม กำรเรียนรตู้ ลอดชีวิต หมายถึง การรบั รคู้ วามรู้ ทกั ษะ และเจตคติ ตัง้ แตเ่ กดิ จนตายจากบคุ คลหรอื สถาบนั ใดๆ โดยสามารถ จะเรียนรู้ดว้ ยวธิ ีเรยี นต่างๆ อย่างมรี ะบบหรอื ไมม่ รี ะบบ โดยต้ังใจหรอื โดยบังเอิญกไ็ ด้ ทงั้ น้สี ามารถทาให้บคุ คลน้ันเกิดการพัฒนาตนเอง กำรศึกษำตลอดชีวติ (Lifelong Education) หมายถงึ การจดั กระบวนการทางการศกึ ษา เพอ่ื ให้เกดิ การเรียนรตู้ ลอดชีวติ เปน็ การจดั การศกึ ษาในรูปแบบของการศึกษาในระบบโรงเรยี น (Formal Education) การศกึ ษานอกระบบโรงเรียน (Non - Formal Education) และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั (Informal Education) โดยมุ่งให้ผู้เรียนเกิดแรงจูงใจทจ่ี ะเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง (Self - directed Learning) มงุ่ พฒั นาบุคคลให้สามารถ พัฒนาตนเอง และปรบั ตนเองให้ก้าวทันความเปล่ียนแปลงของสังคมการเมอื งและเศรษฐกิจของโลก กำรศึกษำตลอดชวี ติ หมายถงึ การศกึ ษาที่เกดิ จากการผสมผสานระหวา่ งการศกึ ษาในระบบ การศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย เพอื่ ใหส้ ามารถพัฒนาคุณภาพชวี ติ ไดอ้ ยา่ งต่อเนื่องตลอดชีวติ การศึกษาใน ระบบ เป็นการศกึ ษาท่กี าหนดจุดม่งุ หมาย วิธกี ารศึกษา หลักสูตร ระยะเวลาของการศกึ ษา การวดั และประเมนิ ผล ซึ่งเป็นเงือ่ นไขสาคัญของการสาเร็จการศึกษาทแ่ี นน่ อน การศกึ ษานอกระบบ เปน็ การศึกษาท่มี คี วามยดื หยุน่ ใน การกาหนดจดุ มุ่งหมาย รูปแบบ วิธีการจดั การศกึ ษา ระยะเวลาของการศึกษา การวัดผลประเมนิ ผล ซึง่ เปน็ เงือ่ นไขสาคัญของการสาเรจ็ การศึกษา โดยเน้ือหาและหลกั สตู รจะตอ้ งมคี วามเหมาะสม สอดคล้องกับสภาพ ปัญญาและความต้องการของกล่มุ แต่ละกลุม่ กำรศึกษำตลอดชีวิต Phillip H. Coombs (ผู้เขียนหนังสือ The World Crisis in Education : The View from the Eighties) พบว่ารูปแบบการศึกษาในระบบโรงเรียนของประเทศด้อยพัฒนา และประเทศกาลัง พฒั นา ไมส่ ามารถให้บริการแกป่ ระชาชน ไดอ้ ยา่ งทั่วถึงทาให้เกดิ วกิ ฤตการณท์ างการศึกษา (Educational Crisis) เพราะประชาชนทีม่ ฐี านะดีเท่าน้ันท่ีมีโอกาสได้รับการศึกษา ส่วนคนยากจนจะขาดโอกาสในการศึกษา แม้รัฐบาล ตา่ งๆ ได้ทุ่มเทงบประมาณด้านการศึกษาสูงมากก็ตาม แต่การศึกษาไม่สามารถช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตการศึกษา ของประชาชน โดยเฉพาะผูอ้ ยูใ่ นท้องถิน่ ห่างไกล รฐั บาลย่งิ พฒั นาคนรวยกลบั รวยยงิ่ ขึน้ คนจนกลับจนลง จึงทาให้ มีการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการศึกษา หมายเหตุ : หนังสือที่กล่าวถึงในข้างบน แปลเป็นภาษาไทยในชื่อ วิกฤตกำรณ์ของโลกในทำงกำรศึกษำ : ทัศนะในทศวรรษ 1980 ซึ่งเป็นหนังสือแปล อันดับที่ 87 ของ กรม วิชาการ กระทรวงศกึ ษาธิการ กรงุ เทพฯ ปี 2535 โดย ดร. ก่อ สวัสดิพาณชิ ย์ 5 สรุปผลการดาเนนิ งานโครงการพฒั นาทักษะชวี ิตนักศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรสู้ ชู่ ีวิตพอเพยี ง ภาคเรียนท่ี 1/2565
2. กำรศึกษำตำมอธั ยำศัย “กำรศึกษำตำมอธั ยำศยั หมายถงึ วธิ ีการท่ีหลากหลายท่ีนาไปสกู่ ารเรยี นร้อู าจเกดิ ขน้ึ โดยการถกู ผลักดนั ใหเ้ กิดข้นึ ผา่ นกระบวนการสนทนา เกยี่ วขอ้ งกบั การสารวจ และขยายประสบการณ์ โดยไมอ่ าจทานายล่วงหนา้ ได้ เปน็ ส่งิ ท่บี งั เอญิ เกดิ ข้ึนอุบัตขิ น้ึ (วิศนี ศลิ ตระกูล และอมรา ปฐภิญโญบูรณ์, 2544 : 2-3)” จีระ งอกศลิ ป์ และคณะ (2550) กล่าววา่ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั หมายถึง การศกึ ษาทใี่ หผ้ เู้ รยี น ได้เรยี นรู้ดว้ ยตนเองตามความสนใจ ศักยภาพ ความพร้อม และโอกาส โดยศึกษาจากบุคคล ประสบการณ์ สังคม สภาพแวดล้อม สอื่ หรอื แหลง่ เรียนร้อู ืน่ ๆ สถานศกึ ษาอาจจดั การศึกษาในรูปแบบใดรปู แบบหนงึ่ หรอื ทั้งสาม รูปแบบกไ็ ด้ ให้มกี ารเทียบโอนผลการเรยี นที่ผ้เู รยี นสะสมไวใ้ นระหว่างรูปแบบเดยี วกนั หรอื ตา่ งรูปแบบได้ไม่ว่าจะ เปน็ ผลการเรยี นจากสถานศกึ ษาเดยี วกันหรือไมก่ ต็ าม รวมทั้งจากการเรยี นรนู้ อกระบบ ตามอธั ยาศยั การฝกึ อาชพี หรือประสบการณ์การทางาน อุดม เชยกวี งศ์ (2551) กลา่ ววา่ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั หมายถึง กิจกรรมการเรยี นรใู้ นวิถี ชีวติ ประจาวนั ของบุคคล ซ่ึงสามารถเลือกทีจ่ ะเรยี นรไู้ ดอ้ ย่างตอ่ เน่ืองตลอดชีวติ ตามความสนใจ ความตอ้ งการ โอกาสความพร้อม และศักยภาพในการเรียนรู้ของแตล่ ะบุคคล กำรศึกษำตำมอธั ยำศยั หมายถึง การศึกษาท่ีเกดิ ข้นึ ตามวถิ ชี วี ติ ทเี่ ปน็ การเรียนร้จู ากประสบการณ์ จาก การทางาน จากบคุ คล จากครอบครวั จากชุมชน จากแหล่งความรูต้ า่ ง ๆ เพ่อื เพม่ิ พนู ความรู้ ทกั ษะ ความบนั เทิง และการพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ โดยมลี ักษณะทสี่ าคญั คอื ไมม่ หี ลักสตู ร ไม่มเี วลาเรียนทแี่ น่นอน ไม่จากดั อายุ ไมม่ กี าร ลงทะเบียน และไม่มกี ารสอน ไมม่ ีการรบั ประกาศนียบตั ร มีหรอื ไมม่ สี ถานทแ่ี นน่ อน เรียนที่ไหนก็ได้ ลกั ษณะการ เรียนสว่ นใหญ่เป็นการเรียนเพือ่ ความรู้และนนั ทนาการ อกี ทง้ั ยังไมจ่ ากดั เวลาเรยี น สามารถเรียนได้ตลอดเวลา และเกิดข้ึนในทุกชว่ งวยั ตลอดชวี ิต (กรมการศกึ ษานอกโรงเรยี น, 2538 : 83) ศนู ย์สง่ เสรมิ การศึกษาตามอธั ยาศยั กรมการศกึ ษานอกโรงเรียน (2544) ใหน้ ยิ ามการศึกษาตามอธั ยาศัยว่า เปน็ การจดั สภาพแวดลอ้ ม สถานการณ์ ปจั จัยเกอ้ื หนนุ สือ่ แหล่งความรู้ และบคุ คล เพอ่ื ส่งเสรมิ ใหบ้ ุคคลได้เรียนรู้ ตามความสนใจ ในมาตรา 15 ของพระราชบญั ญตั ิการศกึ ษาแห่งชาติ ฉบับ พทุ ธศกั ราช 2542 นยิ ามว่า การศกึ ษาตาม อธั ยาศยั เป็นการศกึ ษาท่ใี ห้ผเู้ รยี นได้เรยี นรู้ดว้ ยตนเอง ตามความสนใจ ศักยภาพ ความพร้อมและโอกาส โดย ศกึ ษาจากบคุ คล ประสบการณ์ สงั คม สภาพแวดล้อม สือ่ หรือแหลง่ ความร้อู ื่น ๆ (พระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาตพิ ทุ ธศักราช 2542 : 13) นักกำรศึกษำคนสำคัญช่อื Coombs และ Ahmed (1974)ให้ความหมายวา่ เป็นกระบวนการเรียนรตู้ ลอด ชีวติ ซึง่ บคุ คลแสวงหาและรบั ความรู้ ทักษะ ทัศนคตคิ วามเขา้ ใจท่ีกระจา่ งชัดที่เก่ยี วกับประสบการณ์ใน ชีวติ ประจาวัน และการแสดงออกตอ่ ส่งิ แวดลอ้ มรอบ ๆ ตวั บุคคล (La Belle, 1982 : 161) 6 สรุปผลการดาเนินงานโครงการพฒั นาทักษะชีวติ นักศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรสู้ ูช่ ีวติ พอเพยี ง ภาคเรียนท่ี 1/2565
กำรศึกษำตำมอธั ยำศยั หมายถึงผลของการเรียนรอู้ ันเกิดจากสถานการณ์ท่ีผู้เรียน หรอื แหล่งความรอู้ ยา่ ง ใดอย่างหน่ึง มีเจตจานงเพื่อสง่ เสรมิ การเรียนรู้ แต่ไม่ใช่ทั้งสองปัจจัยเกิดตรงกัน (Evan, 1981 : chapter II) กำรศึกษำตำมอธั ยำศยั ถอื ว่าเปน็ ส่วนหนึง่ ของ การเรียนรตู้ ลอดชวี ิต (Lifelong learning) ทเ่ี ตมิ เต็ม ความตอ้ งการของปัจเจกที่ตอ้ งการเรียนรูป้ ระสบการณต์ ่าง ๆ นอกเหนือการเรียนในระบบโรงเรยี น โอกาสของ การเรียนรตู้ ามอธั ยาศยั เกิดขนึ้ ในสถานท่ีตา่ ง ๆ และจากส่ือตา่ ง ๆ (ตวั อยา่ งเช่น รายการกระจายเสยี ง ภาพยนตร์ CD) นยิ ามของการศกึ ษาตามอธั ยาศยั สามารถอธบิ ายได้ 2 มิติ คอื มิตขิ องผเู้ รยี นและมติ ิของผู้จดั /หรือ สภาพการทีเ่ ออ้ื ตอ่ การเรยี นรู้ ดังนี้ ผเู้ รียน : ผ้เู รยี นควบคุมวิธกี ารเรยี นเอง มวี ธิ กี ารเรยี นทีห่ ลากหลายทีน่ าไปส่กู ารเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง กระบวนการเรยี นรแู้ ละผลของการเรยี นร้เู ก่ียวขอ้ งกับประสบการณ์ และสรา้ งเสรมิ ประสบการณ์โดยตรง ผูเ้ รียนสรา้ งความหมายตามความเข้าใจ และเปน็ กระบวนการตอ่ เน่ืองตลอดชีวติ ผู้จัด/หรือสภาพการที่เอือ้ ต่อการเรียนรู้ : สง่ เสรมิ ใหผ้ ู้เรียนควบคมุ วธิ ีการเรยี นรู้ดว้ ยตนเองจากบคุ คล จากครอบครัว จากชุมชน จากสังคม จากประสบการณ์ จากการทา งาน และจากการดา รงชีวติ ประจา วัน จากสภาพแวดล้อมทง้ั ท่ีมอี ยตู่ ามธรรมชาติและมีการดาเนินการใหม้ ขี นึ้ ไม่ว่าโดยมนุษย์ หรือสงิ่ มชี วี ติ อน่ื ๆ จากปจั จยั เกือ้ หนนุ ต่าง ๆ จากสถานการณ์ และสือ่ ตา่ ง ๆ การศึกษาตามอัธยาศัย(informal education) จึงมุ่งให้เกิดการเรียนรู้ตามอัธยาศัย (informal learning) โดย เก้ือหนุนให้ผู้เรียนกาหนด/เลือกวิธีการเรียนเอง หรือตามวัตถุประสงค์ของสถาบันหรือแหล่งความรู้น้ัน ๆ ผู้เรียน สามารถเรียนได้ตลอดเวลา โดยมีเป้าหมายเพ่ือทาให้บุคคลมีโอกาสแสวงหาและรับความรู้ ทักษะ ทัศนคติ ความ เข้าใจ อนั จะนาไปสู่การพฒั นาตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน และสังคม การเรียนรู้ตามอัธยาศัยและการเรียนรู้ด้วยตนเองควบคู่กับคาว่า “การศึกษาตามอัธยาศัย” (informal education) ก็คือ การเรียนรู้ตามอัธยาศัย (Informal Learning) ซึ่งเป็นการอธิบายการเรียนรู้ในมิติ ของผเู้ รยี น “การเรียนรตู้ ามอธั ยาศัย” น้ี Livington7 (1999) นยิ ามว่าเปน็ กิจกรรมท่ีเกี่ยวข้องความเข้าใจ ความรู้ หรอื ทกั ษะ ทีเ่ กิดขึ้นโดยไม่ต้องสนอโดยผ่านหลักสูตรหรือโปรแกรมจากสถาบันการศึกษาในระบบหรือนอกระบบ และในความพยายามในการจาแนกประเภท (taxonomy) ของการเรียนรู้ตามอัธยาศัย นั้น Schugurensky (2000) เสนอแนะว่ามี 3 ชนิด คือ การเรียนรู้ด้วยการนาตนเอง(Selfdirected learning) การเรียนรู้ท่ีเกิดข้ึนโดย บงั เอิญ (Incidental learning) และการเรียนรู้ในชีวิตประจาวนั 3. ควำมสำคญั ของทักษะดิจิทลั ในยคุ โควิด 19 ทาให้ต้องปรบั การใช้ชวี ิตหลายอยา่ ง ท้ังการดูแลตนเอง การใชด้ จิ ิทลั ออนไลน์ เพ่ือการทา กิจกรรมต่าง ๆ การเรียนรู้ทักษะท่ีจาเป็นต่อการปรับตัวในกิจกรรมออนไลน์ เช่น การทางานที่บ้าน การเรียนที่ บ้าน การสัง่ ของออนไลน์ การใชเ้ งนิ แบบดจิ ทิ ัล จงึ อาจกลา่ วได้ว่า นอกจากทกั ษะพ้นื ฐานท่จี าเปน็ ท่ีทุกคนได้ศึกษา เลา่ เรียนมาคือ 3Rs = การอ่าน-Read การเขยี น-wRite และการคิดเลข-aRithematics แล้ว ยังต้องมองหาทักษะ ใหมท่ ่ีจาเปน็ สาหรับอนาคต ที่หลายคนต้องหาทักษะการดาเนินชีวิตด้วยการใชด้ ิจิทลั 7 สรุปผลการดาเนินงานโครงการพัฒนาทกั ษะชวี ติ นักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความร้สู ชู่ ีวติ พอเพียง ภาคเรียนที่ 1/2565
อย่างไรก็ดีคนรุ่นใหม่ หรือ พวกชาวพื้นเมืองดิจิทัล (Digital native) สามารถเข้าถึง อ่าน เขียนดิจิทัล สารสนเทศได้มากและเร็ว ใช้ออนไลน์ ใช้สมาร์ทโฟน เพ่ือการรับรู้ข่าวสาร ชาวพื้นเมืองดิจิทัลจึงแตกต่างกับ คนรุ่นเก่าท่ีอาจเรยี กได้ว่าเปน็ ผูอ้ พยพดิจทิ ัล (Digital immigrant) รูปแบบการเขียนการอ่านจึงเปลี่ยนไปจากเดิม มาก คนร่นุ ใหมร่ ับรู้และเรยี นรู้ได้เรว็ การอ่านออกเขียนได้ทางดิจิทัลสาหรับคนรุ่นใหม่จึงเป็นทักษะอย่างหนึ่งที่จะไปใช้ชีวิตในอนาคต กรอบทักษะพ้นื ฐานทใี่ หค้ นในยุควิถใี หม่ตอ้ งมี คอื อา่ นออกเขียนไดท้ างดจิ ิทัล ซึง่ เป็นพ้ืนฐานการสร้างทักษะดิจิทัล เพ่ือว่าในอนาคต การก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย จะเกี่ยวกับการใช้ดิจิทัลอยู่มาก กรอบความรู้ภายใต้ ทกั ษะการใชด้ ิจทิ ลั ประกอบด้วย การรู้และใช้สื่อ (Media literacy) คือทักษะในการรู้เท่าทันสื่อ สามารถสร้างสรรค์ สร้างส่ือ ใช้สื่อ เพ่ือการส่ือสาร เพื่อการเรียนรู้ และสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง สังคม แยกแยะส่ือที่เป็นความจริง (Fact) และ ความเห็น (Opinion) ออกจากกันได้ รูผ้ ลกระทบ และ ผลทีต่ ดิ ตามมาจากการใชส้ ่ือ 8 สรุปผลการดาเนนิ งานโครงการพฒั นาทักษะชวี ติ นักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้สชู่ วี ิตพอเพยี ง ภาคเรียนท่ี 1/2565
4. กำรเรียนกำรสอนแบบออนไลน์ (Online learning) คืออะไร การเรยี นการสอนแบบออนไลน์ (Online learning) จะเปน็ เรยี นทางผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยอยใู่ น รูปแบบของคอมพวิ เตอร์ เปน็ การใชเ้ ทคโนโลยีสมยั ใหม่ บวกเข้ากับเครอื ข่ายอนิ เทอร์เนต็ สรา้ งการศึกษาท่มี ี ปฏสิ ัมพันธค์ ุณภาพสงู โดยไม่จาเปน็ ต้องเดนิ ทาง เกิดความสะดวกและเข้าถึงไดอ้ ย่างรวดเรว็ ทกุ สถานท่ี ทกุ เวลา เปน็ การสรา้ งการศกึ ษาตลอดชีวติ ให้กบั ประชากร การเรียนการสอนแบบออนไลน์ เป็นการศกึ ษาผ่านเครอื ขา่ ยอินเทอรเ์ นต็ ดว้ ยตนเอง ผูเ้ รยี นสามารถเลือก เรยี นตามความชอบของตนเอง ในสว่ นของเนอื้ หาของเรยี น ประกอบด้วย ข้อความ , รูปภาพ , เสียง , VDO และ Multimedia อน่ื ๆ ส่งิ เหลา่ น้จี ะถูกสง่ ตรงไปยงั ผู้เรยี นผา่ น Web Browser ทง้ั ผ้เู รยี น , ผสู้ อน และเพื่อนรว่ มช้ัน ทุกคน สามารถตดิ ตอ่ สอ่ื สาร ปรกึ ษา แลกเปล่ียนความคิดเห็นแบบเดยี วกับการเรียนในชั้นเรยี นทว่ั ไป โดยการใช้ E-mail, Chat, Social Network เป็นตน้ ดว้ ยเหตนุ ้ีการเรยี นรแู้ บบออนไลน์ จงึ เป็นเหมาะสาหรบั ทกุ คน , เรยี น ได้ทุกเวลา ลักษณะสำคัญของกำรเรยี นกำรสอนแบบออนไลน์ (Online learning) -ผเู้ รียนเป็นใครก็ได้ อยทู่ ใ่ี ดกไ็ ด้ เรยี นเวลากใ็ ด เอาตามความสะดวกของผูเ้ รยี นเป็นสาคัญ เนือ่ งจาก โรงเรียนออนไลน์ไดเ้ ปดิ เวบ็ ไซต์ให้บริการตลอด 24 ชว่ั โมง -มีส่อื ทุกประเภททีน่ าเสนอในเวบ็ ไซต์ ไม่ว่าจะทงั้ ข้อความ , ภาพน่ิง , ภาพเคลื่อนไหว , เสยี ง , VDO ซ่ึง จะช่วยกระตุน้ ความสนใจ ในการเรยี นรูข้ องผเู้ รยี นได้เปน็ อย่างดี อีกท้งั ยังทาให้เหตภุ าพของเนื้อหาตา่ งๆงา่ ยดาย มากขึ้น -ผเู้ รียนสามารถเลือกวิชาเรียนไดต้ ามความตอ้ งการ ประโยชน์ของกำรเรียนกำรสอนแบบออนไลน์ (Online learning) -ชว่ ยเพ่มิ ประสทิ ธิภาพในการเรียนการสอน เนื่องจากไม่ไดจ้ ากดั อยูใ่ นสถานทเี่ ดียวเท่านั้น -เกดิ เครือข่ายความรู้ โยงใยออกไปไกล -เนน้ การเรียนแบบผเู้ รียนเปน็ ศนู ย์กลาง -ชว่ ยลดช่องวา่ งระหวา่ งการเรยี นรใู้ นเมอื งกบั ทอ้ งถิน่ สรุปแล้ว การเรียนรแู้ บบการเรยี นร้แู บบออนไลน์ เปน็ การเรียนทีม่ ีความมคี วามยึดหย่นุ สงู เพราะฉะนัน้ ผ้เู รียนจาตอ้ งมีความรับผิดชอบในการเรียนมากกวา่ ปกติ เพราะไมม่ ีใครมานั่งจา้ จจ้ี า้ ไช ยิ่งเรยี นยิง่ ได้กบั ตวั เอง อีก ทง้ั ยงั ทราบผลย้อนกลบั ของการเรียน ท้งั จาก E-Mail , การประเมนิ ย่อย , การประเมินผลหลกั โดยใชเ้ ว็บไซต์เปน็ ท่สี อบ รวมทั้งการประเมนิ ผลรวมตามการสอบ เพอื่ เปน็ การเชค็ ว่าผูเ้ รยี นไดเ้ ข้ามาเรยี นจริง สามารถทาข้อสอบได้ มคี วามเข้าใจในเนอ้ื หา เป็นต้น 9 สรปุ ผลการดาเนินงานโครงการพฒั นาทักษะชีวิตนกั ศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้ส่ชู ีวิตพอเพยี ง ภาคเรียนท่ี 1/2565
5.กำรใช้เทคโนโลยสี ำรสนเทศอยำ่ งปลอดภัย เทคโนโลยี (Technology) ตามพจนานุกรมราชบณั ฑิตยสถาน คอื วทิ ยาการทนี่ าเอาความรูท้ าง วทิ ยาศาสตร์มาใชใ้ ห้เกิดประโยชนใ์ นทางปฏิบัติ เช่น อุตสาหกรรม เปน็ ต้น สารสนเทศ (Information) ตามพจนานกุ รมราชบัณฑติ ยสถาน คอื การแสดงหรือชแ้ี จงข่าวสาร ข้อมูลตา่ ง ๆ เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT : Information Technology) หมายถงึ การนาวทิ ยาการท่กี า้ วหน้าทางด้าน คอมพิวเตอร์และ กรสอื่ สารมาสรา้ งมูลคา่ เพิม่ ใหก้ ับสารสนเทศ ทาใหส้ ารสนเทศ มีประโยชน์และใช้งาน ไดก้ ว้างขวางมากข้ึนในปจั จุบันเทคโนโลยมี บี ทบาทในชวี ิตประจาวัน ของเราทุกคน เราจึงจาเปน็ ตอ้ งมีความรคู้ วาม เข้าใจ ในการใชเ้ ทคโนโลยใี ห้ถูกตอ้ งปลอดภัย ท้งั กับตนเองและผอู้ น่ื ภัยคกุ คามจากการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ และการปอ้ งกันปัจจบุ นั อนิ เทอร์เน็ตเขา้ มามีบทบาทในการใชช้ ีวติ ประจาวัน ไมว่ ่าจะเปน็ ดา้ นการศึกษา การ ดารงชวี ติ การสอ่ื สาร การศึกษา และอ่ืน ๆ อกี มากมาย เมื่อมคี วามสะดวกสบายมากเทา่ ใด ความปลอดภยั ของ ข้อมลู ทเี่ ราจะนาเขา้ ในระบบย่งิ เป็นส่งิ ทส่ี าคัญ การเผยแพร่ การนาเข้าขอ้ มลู ต่าง ๆ กเ็ ชน่ กัน ดงั นั้นจงึ มีความ จาเปน็ ทจี่ ะต้องเรียนร้แู ละทาความเข้าใจ 1. วธิ คี กุ คำมทำงเทคโนโลยี 1.1 การคกุ คามโดยใชห้ ลักจติ วทิ ยา เปน็ การคกุ คามทีใ่ ช้การหลอกลวงเพ่ือให้ได้ขอ้ มูลทต่ี อ้ งการ โดยไม่ตอ้ งใชค้ วามชานาญด้านไอที เช่น การใช้กลวิธกี ารตา่ ง ๆ เพอื่ ใหไ้ ดร้ หสั ผา่ นหรือส่งข้อมูลทสี่ าคญั ให้ โดย หลอกวา่ จะไดร้ ับรางวัลแตต่ อ้ งทาตามเง่ือนไขท่กี าหนด ซงึ่ ส่ิงทีเ่ กิดขน้ึ อาจปอ้ งกนั ไดย้ ากเพราะเกดิ จาก ความเช่ือใจ แตป่ ้องกนั ไดโ้ ดยให้นักเรียนระมัดระวงั ในการให้ขอ้ มลู ส่วนตัวกบั บคุ คลอื่น 1.2 การคุกคามดว้ ยเนอื้ หาทไ่ี ม่เหมาะสม ขอ้ มลู และเนอื้ หาทีม่ ีอยใู่ นแหล่งตา่ งๆ บนอนิ เทอรเ์ น็ต มเี ปน็ จานวนมากเพราะสามารถสรา้ งและเผยแพรไ่ ด้ง่าย ทาให้ขอ้ มูลอาจไมได้รบั การตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และความเหมาะสม ดงั นน้ั ขอ้ มลู บางสว่ นอาจกอ่ ให้เกดิ ปัญหากบั นกั เรยี นได้แหล่งขอ้ มลู ที่มีเนอ้ื หาไมเ่ หมาะสม ไดแ้ ก่ แหลง่ ขอ้ มูลทเี่ กี่ยวขอ้ งกับความรนุ แรง การยุยงใหเ้ กิดความแตกแยก วุ่นวายในสงั คม การพนนั สือ่ ลามก อนาจาร เนือ้ หาท่เี ป็นการหมิ่นประมาท และการกระทาท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั สิง่ ที่ผิดตอ่ กฎหมายและจรยิ ธรรม 1.3 การคกุ คามโดยใชโ้ ปรแกรม เป็นการคกุ คามโดยใช้โปรแกรมเปน็ เคร่ืองมือสาหรบั ก่อปญั หา ด้านไอท่ี โปรแกรมดงั กลา่ วเรยี กวา่ มัลแวร์ (malicious software: malware) ซ่งึ มหี ลายประเภท เช่น ไวรัส คอมพวิ เตอร์ (Computer Virus), เวิร์ม (Worm), มา้ โทรจนั (Trojan Horse Virus) สป่ายแวร์ (Spyware) โปรแกรมโฆษณา (Advertising Supported Software: Adware) และ โปรแกรมเรยี กคา่ ไถ(่ Ransomware) 2. กำรป้องกันภัยคุกคำม การป้องกนั ภยั คกุ คามดา้ นเทคโนโลยี เราสามารถทาได้โดย การตรวจสอบและยืนยันตวั ตนของตวั ผ้ใู ชง้ านก่อนเริม่ ใชง้ าน ซ่งึ มดี ้วยกัน 3 รูปแบบคือ 2.1 ตรวจสอบจากสิ่งที่ผใู้ ช้รู้ เชน่ ช่ือผูใ้ ช้และรหสั ผา่ น (Username & password) วิธีน้ไี ดร้ บั ความนยิ มสูงสุด 10 สรุปผลการดาเนนิ งานโครงการพัฒนาทักษะชวี ิตนักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้ส่ชู วี ติ พอเพยี ง ภาคเรียนท่ี 1/2565
2.2 ตรวจสอบจากสิ่งทผ่ี ใู้ ชม้ ี เปน็ การตรวจสอบตวั ตนจากอุปกรณ์ทีผ่ ใู้ ช้งานต้องมี เช่น บตั ร สมาร์ตการด์ 2.3 ตรวจสอบจากสงิ่ ทีเ่ ปน็ สว่ นหน่งึ ของผูใ้ ช้ เป็นการตรวจสอบข้อมลู ชีวมาตร เช่น ลายนว้ิ มอื มา่ นตา ใบหน้า เสยี ง 3. กำรตัง้ รหสั ผ่ำน รหสั ผ่านถือเป็นสง่ิ สาคญั ในยคุ ของเทคโนโลยี การเขา้ ใชง้ านระบบตา่ ง ๆ บนอินเทอร์เนต็ จาเป็นตอ้ งมชี อ่ื ผใู้ ช้และหสั ผา่ นเพ่ือเขา้ ใช้งาน การตั้งรหสั ผ่าน จาเป็นต้องมคี วามปลอดภัยกบั เจา้ ของ เพือ่ ปอ้ งกัน การรัว่ ไหลของขอ้ มลู หรอื การใชแ้ อคเคาน์ ไปในทางที่ผดิ ดงั น้นั ในการตั้งรหสั ผ่านให้มีความปลอดภัย สามารถปฏบิ ตั ิได้ดงั น้ี บัญชีรายช่ือผใู้ ชแ้ ต่ละระบบ ควรใชร้ หัสผา่ นท่ีแตกต่างกนั โดยเฉพาะบญั ชีทใ่ี ชเ้ ขา้ ถงึ ขอ้ มลู ทีม่ ี ความสาคญั เช่น รหสั ผา่ นท่ใี ชใ้ นการเขา้ ถึง ขอ้ มลู ท่มี คี วามสาคญั เช่น รหสั ผา่ นของบตั รเอทีเอม็ หลายใบใหใ้ ชร้ หสั ผา่ นต่างกัน - หลีกเลยี่ งการใชร้ หัสผ่านโดยใชว้ ัน เดอื น ปีเกดิ ช่อื ผู้ใช้ ชอื่ จงั หวัด ชอื่ ตัวละคร ช่ือสิ่งของต่าง ๆ ท่ี เกีย่ วขอ้ ง หรอื คาทีม่ อี ยใู่ นพจนานกุ รมรหสั ผ่านท่มี ีความยาว 10 ตัวอกั ษรน้นั เดายากกวา่ รหัสผ่าน 8 ตัวอักษรถงึ 4 พันเท่า ถ้าเดารหัสผ่าน8 ตัวอักษรใช้เวลา 1 วัน เดารหัสผ่าน 10 ตัวอักษรก็ต้องใช้เวลา 4000 วัน เว็บไซต์ในทุก วันนม้ี ักจะตอ้ งการรหัสผ่านความยาว 8 ตัวอักษรเปน็ ขั้นตา่ อยแู่ ลว้ แตถ่ า้ ต้องการความปลอดภัยจรงิ ๆ 10 ตัวอักษรจะดีกว่าผสมผสานท้ังตัวเลข เคร่ืองหมาย ตัวอักษรใหญ่ และตัวอักษรเล็ก เมื่อเราใช้ตัวอักษรใหญ่ เล็ก ตัวเลขและเคร่ืองหมายต่าง ๆ ลงในรหสั ผา่ น โอกาสท่ีจะเดารหัสผา่ นถูกจะมแี ค่ 1 ในหลายแสนลา้ น -ไม่บันทกึ รหสั ผ่านแบบอัตโนมัตบิ นโปรแกรม Browser โดยเฉพาะหากเครื่องคอมพวิ เตอรน์ ั้นเปน็ เครื่องท่ีใช้ร่วมกับผู้อื่นหลีกเล่ียงการบันทึกรหัสผ่านลงในกระดาษ รวมทั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ด้วย หากจาเป็นตอ้ งบันทกึ กค็ วรจดั เกบ็ ไวใ้ นท่ที ่ีปลอดภยั - ไมบ่ อกรหสั ผา่ นของตนเองกับผูอ้ ่ืน ไม่วา่ กรณีใด ๆ - หม่ันเปลี่ยนเป็นประจา อาจกระทาทุก 3 เดือนออกจากระบบทุกคร้ังท่ีเลิกใช้บริการต่าง ๆ บนอินเทอรเ์ นต็ กำรใชเ้ ทคโนโลยสี ำรสนเทศอยำ่ งมีควำมรบั ผดิ ชอบ 1. แนวทางการปฏิบัติเมื่อพบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ปฏิเสธการรบั ข้อมูล ทาได้โดยไม่เปดิ ดู ไมบ่ นั ทกึ เก็บไว้ และไมก่ ดไลค์ (Like) - ไม่ส่งต่อ ไมแ่ ช ไมผ่ ยแพร่ เพราะนอกจากจะทาใหผ้ ้อู ่นื เดือดร้อนกับข้อมูลท่ีไมเ่ ปน็ ความจรงิ แล้ว ยัง อาจจะผดิ พ.ร.บ. วา่ ดว้ ยการกระทาผิดเกยี่ วกับคอมพิวเตอร์ ซงึ่ มโี ทษทงั้ จาท้ังปรบั - แจ้งครู หรือ ผู้ปกครองแจ้งผู้เกี่ยวข้องที่ดูแลเว็บไชต์น้ัน เช่น Facebook YouTube เพ่ือให้เจ้าของเว็บไชต์ ลบ เนื้อหา หรืตดั สทิ ธิ์ (block) หรือจากัดสทิ ธกิ์ ารใช้งานแจ้งเจ้าหน้าทีร่ ฐั หรือตารวจ เพ่อื ดาเนนิ การตามกฎหมาย 11 สรุปผลการดาเนินงานโครงการพัฒนาทกั ษะชวี ติ นกั ศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรสู้ ชู่ วี ิตพอเพียง ภาคเรียนท่ี 1/2565
2. ผลกระทบกำรเผยแพรข่ อ้ มูลทไ่ี มเ่ หมำะสม 2.1 ด้านจิตใจ -ต่อผู้เผยแพร่ รู้สึกผิดกับการกระทาของตนเอง หรือรู้สึกเสียใจเม่ือผู้อ่ืนมีพฤติกรรมเลียนแบบ การกระทาที่ไมเ่ หมาะสม - ต่อผู้อื่น เกิดความเสยี ใจ ทาให้เกดิ ความรู้สกึ อับอาย ไมป่ ลอดภยั กลวั รู้สึกไม่มนั่ คง มบี าดแผล ทางจิตใจ ได้รบั ความเกลยี ดชัง สญู เสียการยอมรบั จากผู้อื่น -ตอ่ ผูเ้ ผยแพร่ รู้สกึ ผดิ กบั การกระทาของตนเอง หรือรสู้ ึกเสียใจเม่ือผูอ้ ่นื มีพฤตกิ รรมเลียนแบบ การกระทาที่ไมเ่ หมาะสม - ต่อผูอ้ ืน่ เกดิ ความเสยี ใจ ทาใหเ้ กิดความรสู้ กึ อับอาย ไมป่ ลอดภยั กลัว รสู้ ึกไมม่ น่ั คง มบี าดแผล ทางจิตใจ ไดร้ ับความเกลยี ดชงั สญู เสียการยอมรบั จากผู้อน่ื 2.2 ด้านสังคม - ต่อผูเ้ ผยแพร่ ถกู สงั คมลงโทษ ไดร้ ับการประณาม หรือเกลียดชังจากสงั คม - ตอ่ ผอู้ ่นื ได้ผลกระทบดา้ นการใชช้ วี ติ ประจาวนั ครอบครวั เดอื ดรอ้ น ถกู ประณามจากสงั คม 2.3 ด้านกฎหมาย ต่อผูเ้ ผยแพร่ ไดร้ บั โทษ เนอ่ื งจากข้อมูลเหล่านั้นอาจผดิ ระเบียบ กฎเกณฑ์ หรือ กฎหมาย ทาให้ เสยี เวลา และเสยี คาใชจ้ า่ ยจากการดาเนินคดตี ามกฎหมาย 2.4 การงานและธรุ กจิ ต่อผ้อู ืน่ อาจถูกให้ออกจากงานเพราะบรษิ ทั เกิดความเขา้ ใจผิดจากข้อมูลทไี่ ด้รับ เสีย ผลประโยชน์ทางธรุ กจิ เชน่ ผ้แู สวงหาผลประโยชน์ หรอื คู่แข่งทางธรุ กจิ อาจสรา้ งข่วลวง โฆษณาชวนเชอื่ เพอื่ สร้างความเสียหายให้กับธรุ กจิ คู่แขง่ 3. แนวทำงกำรพิจำรณำเน้อื หำก่อนกำรเผยแพรข่ ้อมูลก่อนท่จี ะเผยแพร่ข้อมูลลงในอินเทอร์เน็ตตอ้ งพิจำรณำ ส่ิงต่อไปน้ี 3.1 ความเป็นสว่ นตัว (privacy) ตอ้ งทราบวา่ ขอ้ มูลนั้นเกี่ยวข้องกบั ใครหรอื องคก์ รใดบา้ ง สามารถ เปิดเผยตอ่ ผอู้ นื่ ไดห้ รือไม่ 3.2 ความถูกต้อง (accuracy) ข้อมลู ทีใ่ ชต้ ้องมคี วามถกู ตอ้ ง มคี วามนา่ เช่ือถอื 3.3 ทรัพยส์ ินหรือความเป็นเจ้าของ ต้องรู้ว่าใครเปน็ เจา้ ของข้อมูล มคี วามสาคญั หรือมลู คา่ มากนอ้ ย เพยี งใด 3.4 การเข้าถึง เป็นการกาหนดหรือระบใุ หบ้ คุ คลหรอื องคก์ รใดท่มี สี ิทธ์ใิ นการเขา้ ถึง 12 สรปุ ผลการดาเนนิ งานโครงการพัฒนาทกั ษะชวี ิตนกั ศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรสู้ ูช่ วี ิตพอเพยี ง ภาคเรียนท่ี 1/2565
4. มำรยำทในกำรตดิ ต่อส่อื สำร 4.1 มารยาทในการใชอ้ ีเมล - ใช้ภาษาสภุ าพ ชดั เจน ตรงประเดน็ เหมาะสมกบั กาลเทศะหรอื ผทู้ จ่ี ะสื่อสารดว้ ย - ใช้อักษรตัวหนาเฉพาะขอ้ ความที่ต้องการเนน้ เท่าน้นั - ระบหุ ัวเรื่อง ช่อื ผทู้ ่จี ะสอื่ สาร และระบตุ วั ตนของผู้สง่ ใหช้ ดั เจน - ระบชุ ือ่ หรอื ตาแหน่งของผ้ทู จี่ ะสอ่ื สารใหถ้ กู ต้องเหมาะสม - ขอ้ ความในอีเมลไม่ควรมขี ้อความแสดงถึงเจตนาในทางเสอ่ื มเสยี มใชข้ ้อความท่ีกากวม แสดง ถงึ การตาหนิ ดูถูก ใสร่ า้ ยผอู้ ่นื ให้ได้รับความเสียหาย - ไมล่ กั ลอบสง่ อเี มลโดยการปลอมแปลงชอ่ื ผ้สู ่งจนทาให้ผู้รับเขา้ ใจผิด - ไม่ส่งตอ่ อีเมลลกู โซ่ไมส่ ง่ อเี มลขายสนิ คา้ โฆษณา หรอื ข้อความรบกวนผอู้ ่ืน 4.2 มารยาทในการใช้แชทและเครือขา่ ยสังคมออนไลน์ เครือข่ายสงั คมออนไลน์ หรือ โซเชียลมเี ดยี (Social Media) คอื ไดว้ ่าเปน็ เครือข่ายสงั คม ออนไลน์ทเ่ี ช่อื มโยงคนหลายคนเขา้ ไว้ด้วยกันผา่ นอินเตอรเ์ น็ต มอี ิทธพิ ลตอ่ การดาเนนิ ชีวิตของผู้คนเกอื บทกุ ๆ ดา้ นซึ่งเครอื ขา่ ยสังคมออนไลน์มที ั้งข้อดี ข้อเสยี ซึ่งผู้ใช้มกี ารเผยแพรข่ ้อมลู สว่ นตวั ออกไป และทกุ คนสามารถ เข้าถงึ ขอ้ มูลของใครก็ได้ ข้อมลู ของท่ีเผยแพรอ่ อกไปจะมีความเส่ยี งทจ่ี ะโดนแอบอา้ งหรอื ขโมยความเปน็ ส่วนตัว หรือขโมยความเป็นตัวตนบนโลกออนไลน์และอาจเป็นอันตรายตอ่ ตวั เรามากกว่าทค่ี ดิ ฉะนัน้ เรา ต้องดูแลตวั เอง ป้องกันไมใ่ ห้เราเกิดภัยเนอื่ งจากการแชรข์ อ้ มลู ส่วนตวั บนโลกออนไลน์ ซ่งึ มรี ายละเอียด ดงั น้ี - ไม่ควรต้งั โปรไฟล์เป็นสาธารณะ - ไมใ่ หข้ ้อมูลส่วนตัวมากเกนิ ไป ไม่วา่ จะเปน็ วนั เดือนปีเกดิ เบอร์โทรศัพท์ ท่ีอยู่ บตั รประจาตวั ประชาชน หรอื บัตรครดติ ลงในโชเชียล ไมว่ า่ จะอยู่ในรูปแบบข้อความ หรอื รูปภาพ คิดให้ รอบคอบกอ่ นโพสตข์ ้อมลู ใด ๆ - คดั กรองคนทขี่ อเปน็ เพอ่ื น เราควรศึกษาดี ๆ ตอ้ งเชค็ ใหด้ ีก่อน วา่ คนนัน้ เปน็ ใครเป็นเพอ่ื นของ - เพ่อื นจรงิ หรอื เปลา่ และแอดเราเปน็ เพ่อื นเพื่อวัตถุประสงคใ์ ด ถา้ ไมเ่ ปน็ เพือ่ นของเพือ่ นจรงิ เราก็ ไม่ขอรบั เพ่ือนดกี ว่าเพราะว่าเขาอาจมีวตั ถปุ ระสงคอ์ ืน่ ในการทีเ่ ขา้ มาเป็นเพือ่ นกับเรา - การเช็คอนิ ในสถานทต่ี ง่ ๆ เป็นการบอกวา่ ตอนนค้ี ณุ อยทู่ ่ไี หน บางครง้ั การโพสรปู ของเราว่าไป เทย่ี วอยจู่ ะกลับบ้านวันนน้ั วนั นีถ้ า้ เปน็ การแชร์กนั ระหว่างเพอื่ นกไ็ ม่เป็นไร แตว่ ่าถ้าคนอ่ืนท่ีไมไ่ ด้ เป็นเพื่อนเราจริง ๆ ก็อาจจะเข้ามาประสงคร์ า้ ยได้ -ใช้ความระมดั ระวงั ในการคลิกลิงก์ตา่ ง ๆ ท่มี ากบั การแชรห์ รือขอ้ ความ หลกี เลีย่ งลงิ กแ์ ปลกปลอม หรอื มาจากคนทไี่ มร่ จู้ กั ซึง่ โลกออนไลน์เดยี๋ วนไ้ี มค่ ่อยมกี ารกลั่นกลองขา่ วสารทดี่ ีพอ เพราะ อาจจะไปเจอลงิ กข์ ่าวปลอม หรืออาจเปน็ ลงิ กท์ ี่นาไปสู่ไวรัสหรือชอ่ งทางขโมยข้อมลู ของเหลา่ แฮกเกอรไ์ ด้ 13 สรปุ ผลการดาเนนิ งานโครงการพฒั นาทักษะชวี ิตนกั ศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้ส่ชู ีวิตพอเพียง ภาคเรียนที่ 1/2565
- ไมใ่ ห้เบาะแสของรหัสผา่ นกับคนอืน่ หลายคนอยากจะแชรว์ า่ หมาของเราช่ือวา่ อะไร เราชอบกีฬา ประเภทไหน แต่ส่ิงเหลา่ น้ีอาจจะเปน็ คาถามเม่อื เราลมื รหสั ผา่ น เข้าอเี มลตา่ ง ๆ ซ่งึ ถา้ มผี ไู้ ม่ประสงคด์ ีเข้ามาคอย ตดิ ตามกอ็ าจจะรวู้ า่ เราชอบอะไรมีสัตว์เลี้ยงตวั ไหน ชอบกีฬางานอดเิ รกอะไร และเขาก็สามารถเอาไปใช้เพื่อทจี่ ะ ได้เอารหัสผ่านมาได้ - ไมโพสตร์ ปู ทีไ่ มเ่ หมาะสม เช่น โพสตร์ ปู ตวั เองเมา หรอื โพสตร์ ปู ตวั เองกาลังถือปนื หรือโพสตร์ ปู ทีส่ อื่ ไปทางอนาจาร หรืออน่ื ๆ เพราะส่งิ เหลา่ นอ้ี าจเปน็ ผลกระทบกบั ภาพลักษณ์ของตัวเอง - เปดิ ใชง้ าน Do Not Track เพ่ือป้องกนั การตดิ ตามและการเกบ็ ข้อมลู ของผใู้ หบ้ รกิ าร ซ่งึ อาจรวม ไปถงึ ผ้ไู ม่หวังดีท่ลี กั ลอบเขา้ มาขโมยข้อมูลดว้ ย - ใชว้ จิ ารณญาณอยา่ งสูงในการรับขา่ วสาร และอยา่ ปักใจเชือ่ ข้อมลู ที่เผยแพร่เขา้ มาในทนั ที รวมทง้ั การกลา่ วอา้ งถงึ แหล่งท่ีมาของขอ้ มลู นั้น ๆ เพราะอาจมีการสวมรอย หรอื สมอา้ งจากผ้ไู ม่หวังดี เพือ่ สร้างข่าว หรือสร้างความเสอื่ มเสียตอ่ แหลง่ ทม่ี านน้ั ได้ - ไมโพสต์เรื่องดรามา่ ตา่ ง ๆ เปน็ เรือ่ งเกย่ี วกับชวี ิตสว่ นตวั เช่น วา่ แฟนนอกใจ ทะเลาะกบั เพื่อน ไม่ พอใจเพ่อื นรว่ มงานอะไรต่าง ๆ กรโพสต์แบบน้ีจะเปน็ การพาดพิงถงึ บุคคลทสี่ าม อาจจะทาให้ เกดิ เรื่องบานปลายได้ - ยคุ น้เี ปน็ สังคมเสรี มอี สิ ระทางความคดิ เห็น แม้ว่าทกุ คนจะมีสทิ ธใ์ิ นการแสดงความคดิ เห็น แตท่ กุ คาพูดและการกระทาที่ไม่เหมาะสมกส็ ามารถเป็นเหตใุ นการฟ้องรอ้ งได้ และศาลกอ็ าจจะรับฟงั คารอ้ งดว้ ย รวมถงึ มี พ.ร.บ.ทางคอมพิวเตอร์ดว้ ย - ไม่ใช้ขอ้ ความทเี่ ปน็ ชนวนก่อใหเ้ กดิ ปญั หาระหวา่ งบคุ คลและกลมุ่ หลีกเลีย่ งการใชอ้ ารมณ์หรอื ความรู้สึก ทมี่ ากจนเกนิ ไปทงั้ ในการอา่ นหรอื แสดงความคดิ เห็นไมส่ วมรอยหรอื แอบอ้างโดยใชช้ อ่ื บคุ คลอน่ื ในการแชท แสดง ความคดิ เห็น หรอื ทาใหผ้ อู้ ื่นไดร้ บั ความเสยี หาย เพราะเปน็ การกระทาท่ีผดิ กฎหมาย - ไมใชถ้ ้อยคาท่ยี ่ัวยหุ รอื ท้าทาย เพ่ือแสดงความคดิ เหน็ หรือความคิดเหน็ ทข่ี ดั แยง้ กบั ผู้อื่น 14 สรุปผลการดาเนนิ งานโครงการพัฒนาทกั ษะชวี ิตนกั ศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรสู้ ่ชู วี ติ พอเพยี ง ภาคเรียนที่ 1/2565
6. ยุทธศำสตร์ และจดุ เนน้ กำรดำเนินงำน สำนักงำน กศน. ประจำปีงบประมำณ 2565 ภำรกิจตอ่ เนื่อง ดำ้ นกำรจดั กำรศึกษำและกำรเรียนรู้ กำรศกึ ษำนอกระบบระดับกำรศกึ ษำขน้ั พืน้ ฐำน -สนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบต้ังแต่ปฐมวัยจนจบการศึกษาข้ันพ้ืนฐานโดย ดาเนินการให้ผู้เรียนได้รับการสนับสนุนค่าจัดซื้อตาราเรียน ค่าจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และค่าเล่าเรียน อย่างท่ัวถึง และเพยี งพอเพ่อื เพม่ิ โอกาสในการรบั การศึกษาทมี่ คี ุณภาพโดยไม่เสยี คา่ ใชจ้ า่ ย -จัดการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาข้นั พืน้ ฐานให้กับกลุ่มเปา้ หมายผ้ดู อ้ ย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษา ทั้งระบบการใหบ้ ริการ ระบบการเรียนการสอน ระบบการวดั และประเมินผล การเรยี น ผา่ นการเรียนแบบเรยี นรดู้ ้วยตนเอง การพบกลุ่ม การเรียนแบบชน้ั เรียน และการจัดการศึกษา ทางไกล -จัดให้มีการประเมินเพ่ือเทียบระดับการศึกษา และการเทียบโอนความรู้ และ ประสบการณ์ที่มีความโปร่งใส ยุติธรรม ตรวจสอบได้ มีมาตรฐานตามท่ีกาหนดและสามารถตอบสนองความ ตอ้ งการของกลุ่มเปา้ หมายไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ -ส่งเสรมิ ใหผ้ ูเ้ รียนตอ้ งเรยี นรูแ้ ละปฏิบัตกิ ิจกรรมพฒั นาคุณภาพชวี ิตเพ่อื ดาเนนิ กจิ กรรม เสริมสร้างความสามคั คี บาเพญ็ สาธารณประโยชนอ์ ยา่ งต่อเน่อื ง และส่งเสรมิ การปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เช่น กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี และยุวกาชาด กิจกรรมจิตอาสา การจัดต้ัง ชมรม/ชุมนุม และเปิดโอกาสให้ผู้เรียนนากิจกรรมการบาเพ็ญประโยชน์อ่ืน ๆ นอกหลักสูตรมาใช้เพิ่มชั่วโมง กิจกรรมใหผ้ เู้ รียนจบตามหลักสูตรได้ -จัดตั้งศูนย์แนะแนว และประสานการศึกษาพิเศษอาเภอ/เขต ให้ครบทุกอาเภอทั่ว ประเทศ 15 สรุปผลการดาเนินงานโครงการพัฒนาทกั ษะชีวติ นักศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้สชู่ ีวิตพอเพียง ภาคเรียนที่ 1/2565
บทที่ 3 วิธีกำรดำเนนิ งำน การดาเนินงานโครงการพัฒนาทักษะชีวิตนักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้สู่ชีวิตพอเพียง ภาคเรยี นท่ี 1/2565 คณะทางานไดด้ าเนินงาน ดงั น้ี 1. สารวจกลมุ่ เป้าหมาย นักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย จานวน 250 คน 2. ประชุม/ชแี้ จงวางแผนการดาเนนิ งาน แก่บคุ ลากร กศน.อาเภอโชคชัย เพื่อกาหนดรูปแบบ และวางแผนการดาเนินงาน ในวนั ที่ 25 เมษายน 2565 ณ ห้องประชมุ กศน.อาเภอโชคชยั 3. จดั เตรยี มเอกสาร/วัสดอุ ุปกรณ์ และประสานสถานท่ี เพือ่ เตรียมความพรอ้ มดา้ นเอกสารวัสดอุ ปุ กรณ์ และสถานท่ี เดือนพฤษภาคม 2565 ณ หอประชมุ โรงเรียนโชคชยั พรหมบุตรบริหาร ตาบลโชคชยั อาเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสมี า 4. ดาเนินการจดั โครงการพฒั นาทกั ษะชวี ิตนกั ศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้ ส่ชู ีวติ พอเพยี ง ภาคเรียนท่ี 1/2565 โดยดาเนนิ กิจกรรม ดงั นี้ เวลา 08.00 น. นักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการอย่างพร้อม เพรียงกัน เวลา 09.00 น. นายสันติ จิรพรเจริญ ท่ีปรึกษาคณะกรรมการสถานศึกษา เป็นประธาน และนางจรี ะภา วฒั นกสกิ าร ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอโชคชยั กลา่ วรายงาน และในการนไี้ ด้มกี ิจกรรมรบั วุฒิบัตร ผู้สาเร็จการศึกษา หลักสูตร การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ณ หอประชุม โรงเรยี นโชคชัยพรหมบตุ รบรหิ าร ตาบลโชคชัย อาเภอโชคชยั จังหวัดนครราชสมี า หลังจากพธิ เี ปิด คณะทางานได้ดาเนินกิจกรรมการศกึ ษาสกู่ ารเรียนรู้ตลอดชวี ติ เพอ่ื ให้ นกั ศึกษาทราบถงึ โครงสร้างหลกั สูตร การจัดกระบวนการเรยี นรู้ กิจกรรมพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ การวัดและ ประเมินผล ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 กิจกรรมให้ความรู้ ดงั น้ี -กจิ กรรมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม และกฎหมายทีค่ วรรคู้ โู่ ลกออนไลน์ -กิจกรรมการเรยี นร้เู พอ่ื สง่ เสริมการคดิ เปน็ แกป้ ญั หาด้วยกระบวนการ “โครงงาน” -กิจกรรมรเู้ ทา่ ทนั ขอ้ มูลข่าวสารบนโลกออนไลน์ และการพฒั นาทักษะการเรียนรสู้ อ่ื เทคโนโลยีดจิ ทิ ลั - เสน้ ทางแห่งความสาเรจ็ สู่การดารงชวี ิตตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 16 สรปุ ผลการดาเนนิ งานโครงการพัฒนาทักษะชวี ิตนักศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรสู้ ชู่ วี ติ พอเพยี ง ภาคเรียนที่ 1/2565
1. กิจกรรมคุณธรรมจรยิ ธรรม และกฎหมำยท่คี วรรคู้ โู่ ลกออนไลน์ โดยคณะครู กศน.ตำบล/ ครศู รช. เปน็ วทิ ยำกรใหค้ วำมรู้ ดงั น้ี โครงสร้ำงหลกั สูตร เพื่อให้การจัดการศึกษาเป็นไปตามหลักการ จุดหมายและมาตรฐานการเรียนรู้ที่กาหนดไว้ ให้ สถานศึกษาและภาคีเครือข่าย มีแนวปฏิบัติในการจัดหลักสูตรสถานศึกษา จึงได้กาหนดโครงสร้างของหลักสูตร การศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 ไวด้ งั นี้ 1. ระดับกำรศึกษำ ระดบั การศกึ ษา แบง่ ออกเป็น 3 ระดบั ดงั นคี้ อื 1.1 ระดบั ประถมศกึ ษา 1.2 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น 1.3 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย 2. สำระกำรเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ประกอบดว้ ย 5 สาระ ดังนี้ 2.1 สำระทักษะกำรเรียนรู้ เป็นสาระเก่ียวกับการเรียนรู้ด้วยตนเอง การใช้แหล่งเรียนรู้ การ จัดการความรู้ การคิดเปน็ และการวจิ ยั อยา่ งงา่ ย 2.2 สำระควำมรพู้ นื้ ฐำน เป็นสาระเกยี่ วกบั ภาษาและการสอื่ สาร คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี 2.3 สำระกำรประกอบอำชพี เปน็ สาระเก่ยี วกบั การมองเห็นช่องทางและการตัดสินใจประกอบ อาชีพ การมีทักษะในอาชีพ การจดั การอาชพี อยา่ งมีคณุ ธรรม และการพฒั นาอาชีพให้มคี วามมัน่ คง 2.4 สำระทักษะกำรดำเนินชีวิต เป็นสาระเกี่ยวกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สุขภาพอนามัย และความปลอดภัยในการดาเนนิ ชีวติ ศลิ ปะและสุนทรียภาพ 2.5 สำระกำรพฒั นำสงั คม เป็นสาระเกย่ี วกับภมู ิศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครอง ศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี หนา้ ทพี่ ลเมอื ง และการพฒั นาตนเอง ครอบครวั ชุมชน สังคม 17 สรุปผลการดาเนนิ งานโครงการพัฒนาทกั ษะชวี ิตนกั ศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้สู่ชวี ิตพอเพียง ภาคเรียนท่ี 1/2565
โครงสรำ้ งหลกั สูตรกำรศกึ ษำนอกระบบระดับกำรศกึ ษำข้ันพ้นื ฐำน พทุ ธศกั รำช 2551 ท่ี สำระกำรเรยี นรู้ ประถมศึกษำ จำนวนหนว่ ยกติ มธั ยมศึกษำ มธั ยมศึกษำ ตอนปลำย 1 ทกั ษะการเรยี นรู้ วชิ า วิชาเลอื ก ตอนต้น วิชา วชิ า 2 ความรพู้ นื้ ฐาน บังคบั วชิ า วิชาเลอื ก บงั คบั เลอื ก 3 การประกอบอาชพี 5 4 ทักษะการดาเนนิ ชีวิต 5 บังคับ 5 การพัฒนาสงั คม 12 20 8 5 รวม 5 8 6 16 5 กิจกรรมพฒั นาคณุ ภาพชวี ิต (กพช.) 36 12 48 หนว่ ยกิต 8 6 200 ชัว่ โมง 44 32 5 76 หนว่ ยกิต 6 200 ชวั่ โมง 40 16 56 หน่วยกิต 200 ชว่ั โมง หมำยเหตุ 1. จานวนหน่วยกติ ในแตล่ ะระดับ แบง่ เป็น ดงั นี้ 1.1 ระดบั ประถมศกึ ษา ไม่น้อยกวา่ 48 หนว่ ยกติ แบ่งเป็นวิชาบังคบั 36 หนว่ ยกติ และวชิ าเลอื กไมน่ ้อยกว่า 12 หน่วยกติ 1.2 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ไม่น้อยกวา่ 56 หน่วยกิต แบ่งเป็นวชิ าบงั คับ 40 หน่วยกิต และวิชาเลือกไมน่ อ้ ยกวา่ 16 หน่วยกติ 1.3 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ไม่นอ้ ยกว่า 76 หน่วยกิต แบ่งเป็นวิชาบังคับ 44 หนว่ ยกิต และวชิ าเลอื กไม่นอ้ ยกวา่ 32 หน่วยกติ 2. จานวนหนว่ ยกิตวชิ าเลอื ก ผูเ้ รียนสามารถเลือกเรียนได้ตามความต้องการ โดยเลือกสาระการเรียนรู้ใด สาระการเรยี นรู้หน่งึ หรอื หลายๆ สาระการเรยี นรู้กไ็ ด้ ใหค้ รบตามจานวนหนว่ ยกิตท่ีกาหนดในแต่ละระดบั 3. วิชาเลือกในแต่ละระดบั สถานศึกษาต้องจัดใหผ้ ู้เรยี น เรยี นรจู้ ากการทาโครงงาน จานวนอยา่ งน้อย 3 หน่วยกติ 18 สรปุ ผลการดาเนินงานโครงการพัฒนาทกั ษะชวี ติ นกั ศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้ส่ชู วี ิตพอเพียง ภาคเรียนที่ 1/2565
คณุ ธรรม และจริยธรรมในกำรใชเ้ ทคโนโลยี จึงเปน็ เรือ่ งทส่ี าคัญไมแ่ พก้ นั มรี ายละเอียดดังน้ี 1. ไมค่ วรให้ขอ้ มลู ที่เปน็ เทจ็ 2. ไม่บดิ เบือนความถูกตอ้ งของข้อมลู ให้ผรู้ ับคนต่อไปไดข้ อ้ มลู ทีไ่ ม่ถูกต้อง 3. ไมค่ วรเข้าถงึ ข้อมลู ของผู้อนื่ โดยไม่ไดร้ บั อนุญาต 4. ไมค่ วรเปิดเผยขอ้ มลู กับผ้ทู ี่ไมไ่ ด้รบั อนุญาต 5. ไมท่ าลายข้อมลู 6. ไมเ่ ขา้ ควบคมุ ระบบบางส่วน หรอื ทั้งหมดโดยไมไ่ ด้รบั อนญุ าต 7. ไมท่ าใหอ้ กี ฝา่ ยหน่งึ เข้าใจวา่ ตวั เองเปน็ อกี บุคคลหน่งึ ตวั อยา่ งเช่น การปลอมอเี มล์ของผสู้ ง่ เพื่อใหผ้ รู้ ับ เข้าใจผดิ เพื่อการเขา้ ใจผดิ หรือ ต้องการลว้ งความลบั 8. การขดั ขวางการให้บรกิ ารของเซิรฟ์ เวอร์ โดยการทาให้มกี ารใช้ทรัพยากรของเซริ ์ฟเวอร์จนหมด หรอื ถึงขีดจากัดของมนั ตวั อยา่ งเชน่ เวบ็ เซริ ์ฟเวอร์ หรอื อเี มล์เซิร์ฟเวอร์ การโจมตจี ะทาโดยการเปิดการเช่อื มต่อกบั เซิร์ฟเวอร์จนถงึ ขีดจากดั ของเซริ ์ฟเวอร์ ทาให้ผู้ใชค้ นอื่นๆไม่สามารถเข้ามาใชบ้ รกิ ารได้ 9. ไม่ปล่อย หรอื สรา้ งโปรแกรมประสงคร์ ้าย (Malicious Program) ซึ่งเรยี กยอ่ ๆวา่ (Malware) เป็น โปรแกรมท่ีถูกสรา้ งขนึ้ มาเพอื่ ทาการ ก่อกวน ทาลาย หรือทาความเสียหายระบบคอมพวิ เตอร์ เครือขา่ ย โปรแกรมประสงค์รา้ ยท่ีแพรห่ ลายในปจั จบุ ันคอื ไวรสั เวริ ์ม และม้าโทรจัน 10.ไม่ก่อความราคาญใหก้ ับผูอ้ ืน่ โดยวิธกี ารต่างๆ เช่น สแปม (Spam) (การส่งอเี มลไปยงั ผู้ใชจ้ านวนมาก โดยมจี ดุ ประสงคเ์ พ่ือการโฆษณา) 11. ไม่ผลติ หรอื ใช้สปายแวร์ (Spyware) โดยสปายแวรจ์ ะใช้ชอ่ งทางการเช่ือมตอ่ ทางอินเตอร์เน็ตเพอื่ แอบสง่ ข้อมูลสว่ นตวั ของผนู้ ั้นไปให้กบั บุคคลหรือองคก์ รหนงึ่ โดยที่ผูใ้ ช้ไมท่ ราบ 12. ไมส่ ร้างหรอื ใชไ้ วรสั จรยิ ธรรมและคุณธรรมในกำรใช้เทคโนโลยีสำรสนเทศ ผูใ้ ชอ้ ินเทอร์เน็ตมเี ป็นจานวนมากและเพ่มิ ขึ้นทกุ วัน การใชง้ านระบบเครือขา่ ยท่อี อนไลน์และสง่ ขา่ วสาร ถึงกนั ยอ่ มมผี ทู้ ี่มคี วามประพฤติไมด่ ปี ะปนและสร้างปัญหาใหก้ บั ผ้ใู ช้อ่ืนอยเู่ สมอ หลายเครอื ขา่ ยจึงไดอ้ อก กฏเกณฑก์ ารใชง้ านภายในเครอื ข่าย เพื่อใหส้ มาชกิ ในเครอื ข่ายของตนยึดถอื ปฏิบตั ติ ามกฏเกณฑ์และได้รบั ประโยชนส์ ูงสดุ ดังนน้ั ผใู้ ช้อนิ เทอรเ์ นต็ ทุกคนทเี่ ป็นสมาชกิ เครือข่ายจะตอ้ งเขา้ ใจกฏเกณฑข์ อ้ บังคับของ เครือข่าย นนั้ มคี วามรบั ผดิ ชอบต่อตนเองและผ้รู ว่ มใชบ้ ริการคนอ่ืนและจะตอ้ งรบั ผดิ ชอบตอ่ การกระทาของตนเองทเ่ี ขา้ ไป ขอใชบ้ รกิ ารตา่ งๆ บนเครือข่ายบนระบบคอมพวิ เตอร์ เครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ทีผ่ ูใ้ ช้อินเทอร์เน็ตเรยี กเข้ามไิ ด้เปน็ เพยี งเครือข่ายขององค์กรท่ีผู้ใชส้ ังกดั แตเ่ ปน็ การเช่อื มโยงของเครอื ข่ายต่างๆ เขา้ หากนั หลายพนั หลายหมน่ื เครือข่ายมขี ้อมูลข่าวสารอยรู่ ะหว่างเครือขา่ ยเป็นจานวนมาก การส่งข่าวสารในเครอื ข่ายนั้นอาจทาให้ขา่ วสาร กระจายเดินทางไปยังเครอื ขา่ ยอนื่ ๆ อกี เปน็ จานวนมากหรือแมแ้ ต่การส่งไปรษณยี ์อิเล็กทรอนกิ สฉ์ บบั หน่ึงก็ อาจจะต้องเดนิ ทางผา่ นเครือข่ายอีกหลายเครอื ขา่ ยกวา่ จะถึงปลายทาง ดงั นั้นผู้ใช้บริการต้องให้ความสาคญั และ 19 สรุปผลการดาเนนิ งานโครงการพฒั นาทักษะชวี ิตนกั ศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้สชู่ วี ติ พอเพยี ง ภาคเรียนท่ี 1/2565
ตระหนักถงึ ปญั หาปริมาณขอ้ มูลข่าวสารทวี่ งิ่ อยบู่ นเครือข่ายการใชง้ านอยา่ งสร้างสรรค์และเกดิ ประโยชน์จะทาให้ สังคมอินเทอร์เน็ตน่าใช้และเป็นประโยชน์ร่วมกันอย่างดี กิจกรรมบางอยา่ งที่ไม่ควรปฏิบัติจะต้องหลีกเลี่ยง เช่นการสง่ กระจายข่าวไปเป็นจานวนมากบนเครือข่าย การส่งเอกสารจดหมายลูกโซ่ ฯลฯ สงิ่ เหล่านจี้ ะเป็นผลเสีย โดยรวมต่อผู้ใช้และไม่เกดิ ประโยชนใ์ ด ๆ ต่อสงั คมอนิ เทอร์เนต็ ลินดำ เฮอร์นดอน บัญญัติ 10 ประกำรของกำรใชค้ อมพิวเตอร์ไว้ดงั นี้ 1. ไมใ่ ช้คอมพิวเตอร์ทาร้ายผ้อู ่ืน 2. ไมร่ บกวนจนงานคอมพิวเตอรข์ องผูอ้ น่ื 3. ไมแ่ อบดแู ฟม้ ข้อมลู ของผอู้ น่ื 4. ไม่ใชค้ อมพวิ เตอรเ์ พอ่ื ลกั ขโมย 5. ไมใ่ ชค้ อมพวิ เตอรเ์ พ่ือเปน็ พยานเท็จ 6. ไมใ่ ช้หรอื ทาสาเนาซอฟต์แวรท์ ี่ตนไม่ได้ซือ้ สิทธิ์ 7. ไม่ใช้คอมพิวเตอร์ของผอู้ ่ืนโดยไมม่ อี านาจหนา้ ที่ 8. ไมฉ่ วยเอาทรัพยท์ างปัญญาของผู้อนื่ มาเปน็ ของตน 9. คิดถงึ ผลตอ่ เนือ่ งทางสงั คมของโปรแกรมท่ีเขียน 10. ใช้คอมพิวเตอร์ในทางท่ีแสดงถึงความใคร่ครวญและเคารพ จรรยาวิชาชีพ ของสมาชิกสมาคม เครื่องจักรกลคอมพิวเตอร์ (Association of ComputerMachinery ACM Code of Conduct) ซึ่งเป็นสมาคม วิชาชพี นักคอมพิวเตอรท์ ่ีมชี ือ่ เสียงทีส่ ดุ แหง่ หน่งึ มีดงั นี้ กฎขอ้ บงั คบั ทำงศีลธรรมท่วั ไป 1. ทาประโยชน์ให้สังคมและความผาสุกของมนุษย์ ข้อนี้เกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกคน คุ้มครองหลักสิทธิมนุษยชน ขั้นพ้ืนฐาน เคารพความหลากหลายของวัฒนธรรมท้ังหมด ลดผลด้านลบของระบบ คอมพิวเตอร์ทมี่ ตี อ่ สขุ ภาพอนามัยและความปลอดภยั รับผิดชอบตอ่ สงั คม และสิง่ แวดลอ้ ม 2. ไม่ทาอันตรายแก่ผู้อ่ืน อันตรายหมายรวมถึง การบาดเจ็บหรือผลต่อเนื่องด้านลบ เช่น การสูญเสีย ขอ้ มลู อันเปน็ ท่ไี ม่พงึ ปรารถนา ทรัพยส์ นิ สูญหายหรอื เสยี หาย ผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อมท่ีไม่พึงปรารถนา หลักการ ขอ้ นห้ี ้ามการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศไปทาอันตรายต่อผใู้ ช้สาธารณชน พนกั งานและนายจา้ งอันตรายนี้รวมถึงการ จงใจทาลายหรือแก้ไขข้อมูลในแฟ้มข้อมูลและโปรแกรมท่ีทาให้สูญเสีย หรือเสียเวลาและความพยายามของ บคุ ลากรทีจ่ าเปน็ ตอ้ งใชท้ าลายไวรสั คอมพวิ เตอรใ์ นสภาพแวดล้อมที่ทางาน นักวชิ าชีพคอมพวิ เตอรจ์ ะต้องรายงาน สัญญาณอันตรายท่ีอาจก่อให้เกิดผลต่อความเสียหายของสังคมและบุคคล แม้ว่าหัวหน้างานจะไม่ลงมือแก้ไขหรือ ลดทอนอันตรายนน้ั กอ็ าจจาเปน็ ต้องแจง้ ให้ผ้อู ่ืนทเี่ ก่ียวข้องทราบโดยอาจอาศยั ผู้รว่ มวชิ าชีพเปน็ ผู้ใหค้ าปรึกษา 3. ซ่ือสตั ยแ์ ละไวว้ างใจได้ นักคอมพวิ เตอร์ทีซ่ ือ่ สัตย์นอกจากจะไม่จงใจแอบอ้างระบบหรือการออกแบบที่ หลอกลวงอันเป็นเท็จแล้ว ยังจะต้องเปิดเผยอย่างเต็มท่ีให้เห็นข้อจากัดและปัญหาท่ีเก่ียวข้องกับระบบท้ังหมดอีก ด้วย 20 สรปุ ผลการดาเนินงานโครงการพฒั นาทกั ษะชวี ิตนักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรูส้ ชู่ วี ติ พอเพียง ภาคเรียนที่ 1/2565
4. ยุติธรรมและการกระทาที่ไม่แบ่งแยกกีดกัน ข้อบังคับข้อน้ีใช้คุณค่าของความเสมอภาค ความใจกว้าง ให้อภัย เคารพในผู้อ่ืน ความเท่ียงธรรม การแบ่งแยกกีดกันโดยเชื้อชาติ เพศ ศาสนา อายุ ความพิการ สัญชาติ หรอื ปจั จยั อืน่ เปน็ สิง่ ทไ่ี มอ่ าจยอมรบั ได้ 5. ให้เกยี รติสิทธิในทรพั ย์สนิ รวมทงั้ ลิขสทิ ธแิ์ ละสทิ ธบ์ิ ตั ร แม้วา่ สง่ิ ซึ่งมีลิขสิทธ์ิ สิทธบิ ตั ร ความลบั ทางการ ค้า การละเมิดข้อตกลงการใช้สิทธิ จะได้รับการคุ้มครองทางกฏหมายอยู่แล้ว แม้แต่ซอฟต์แวร์ท่ีไม่ได้รับการ คมุ้ ครอง การละเมิดก็ถือว่าเป็นการขดั ตอ่ การประพฤติทางวิชาชพี การลอกหรือทาสาเนาซอฟต์แวร์จะต้องทาโดย มีอานาจหน้าท่เี ท่าน้ัน การทาสาเนาวัสดุใด ๆ เป็นสิ่งทีใ่ หอ้ ภยั ไม่ได้ 6. ใหเ้ กยี รติแกท่ รัพย์สินทางปญั ญา นักวชิ าชีพคอมพิวเตอรจ์ ะต้องปอ้ งกนั หลักคณุ ธรรมของทรัพย์สินทาง ปญั ญา แม้วา่ งานนน้ั จะไม่ไดร้ ับการป้องกนั อย่างเปดิ เผยก็ตาม เชน่ งานอันมลี ิขสทิ ธห์ิ รือสิทธิบัตร 7. เคารพความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น หลักการนี้ยังหมายถึง การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ในระบบเท่าท่ี จาเป็น มรี ะยะเวลากาหนดการเก็บรักษาและทิ้งอย่างชัดเจน และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด การรวบรวมข้อมูลไว้ เพือ่ วัตถปุ ระสงค์หนงึ่ ขอ้ มลู นน้ั จะถกู นาไปใช้ เพ่อื การอืน่ โดยไม่ได้รบั คายนิ ยอมจากผูน้ ้นั มไิ ด้ 8. ใหเ้ กียรติในการรักษาความลับ หลกั แห่งความซ่ือสัตย์ข้อนี้ขยายไปถึงความลับของข้อมูลที่ไม่ว่าจะแจ้ง โดยเปิดเผยหรือสัญญว่าจะปกปิดเป็นความลับ หรือโดยนัยเม่ือข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ของผู้น้ัน ปรากฏข้ึน จริยธรรมข้อนี้เกี่ยวข้องกับการเคารพข้อบังคับทั้งหลายที่เกี่ยวกับความลับของขายจ้าง ลูกค้า ผู้ใช้ เวน้ เสียแต่เปิดเผยโดยกฏหมายบงั คับ 21 สรุปผลการดาเนนิ งานโครงการพัฒนาทกั ษะชวี ิตนกั ศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้ส่ชู ีวิตพอเพียง ภาคเรียนท่ี 1/2565
2. กิจกรรมกำรเรียนรู้เพื่อส่งเสริมกำรคิดเป็น แก้ปัญหำด้วยกระบวนกำร “โครงงำน” โดยคณะครู กศน. ตำบล/ ครูศรช. เปน็ วทิ ยำกรให้ควำมรูด้ ังน้ี วิธีกำรจัดกำรเรยี นรู้ กศน.อาเภอโชคชัย จัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยกาหนดให้มีวิธีจัดการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ 1. กำรเรียนรู้ด้วยตนเอง เป็นวิธีการจัดการเรียนรู้ท่ีผู้เรียนกาหนดแผนการเรียนรู้ของตนเอง ตามรายวิชาท่ีลงทะเบียนเรียน โดยมีครูเป็นที่ปรึกษาและให้คาแนะนาในการการศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง ภมู ิปญั ญา ผรู้ ู้ และสือ่ ต่าง ๆ 2. กำรเรียนรู้แบบพบกลุ่ม เป็นวิธีการจัดการเรียนรู้ท่ีกาหนดให้ผู้เรียนมาพบกันโดยมีครูเป็น ผดู้ าเนินการให้เกดิ กระบวนการกลุ่ม เพือ่ ใหม้ ีการอภปิ รายแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ และหาขอ้ สรุปร่วมกัน 3. กำรเรียนรู้แบบทำงไกล เป็นวิธีการจัดการเรียนรู้จากส่ือต่าง ๆ โดยที่ผู้เรียนและครูจะ สอ่ื สารกนั ทางสอ่ื อิเล็กทรอนิกสเ์ ปน็ สว่ นใหญ่ หรือถา้ มคี วามจาเป็นอาจพบกนั เป็นครงั้ คราว 4. กำรเรียนรู้แบบชั้นเรียน เป็นวิธีการจัดการเรียนรู้ที่สถานศึกษากาหนดรายวิชา เวลาเรียน และสถานท่ี ทีช่ ดั เจน ซง่ึ วธิ ีการจดั การเรียนรเู้ หมาะสาหรับผูเ้ รียนทมี่ ีเวลามาเขา้ ชั้นเรียน 5. กำรเรียนรู้ตำมอัธยำศัย เป็นวิธีการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ตาม ความต้องการ และความสนใจ จากสื่อเอกสาร ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ หรือจากการฝึกปฏิบัติตามแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ แล้วนาความรู้และประสบการณ์มาเทียบโอนเข้าสู่หลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 6. กำรเรียนรู้จำกกำรทำโครงงำน เป็นวิธีการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนกาหนดเร่ืองโดย สมัครใจ ตามความสนใจ ความต้องการ หรือสภาพปัญหา ท่ีจะนาไปสู่การศึกษาค้นคว้า ทดลอง ลงมือปฏิบัติจริง และมี การสรุปผลการดาเนินการตามโครงการ โดยมีครูเป็นผู้ให้คาปรึกษา แนะนา อานวยความสะดวกในการเรียนรู้ และกระตนุ้ เสริมแรงให้เกิดการเรยี นรู้ 7. กำรเรียนรู้รูปแบบอ่ืน ๆ สถานศึกษาสามารถออกแบบวิธีการจัดการเรียนรู้ในรูปแบบ อื่น ๆ ได้ตามความตอ้ งการของผูเ้ รียน วิธกี ารจัดการเรยี นรู้ดังกลา่ วขา้ งตน้ สถานศึกษาและผ้เู รยี นร่วมกันกาหนดวธิ ีเรียนโดยเลือกเรียน วิธีใดวิธีหน่ึง หรือหลายวิธีก็ได้ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของเน้ือหา และสอดคล้องกับวิถี ชีวิต และการทางานของ ผู้เรียน โดยขณะเดียวกันสถานศึกษาสามารถจัดให้มีการสอนเสริมได้ทุกวิธีเรียน เพ่ือเติมเต็มความรู้ให้บรรลุ มาตรฐานการเรยี นรู้ 22 สรปุ ผลการดาเนินงานโครงการพฒั นาทักษะชวี ิตนักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรสู้ ชู่ วี ติ พอเพียง ภาคเรียนท่ี 1/2565
กำรจัดกระบวนกำรเรยี นรู้ การจัดกระบวนการเรียนรู้ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนสู่ความเป็นคน “คิดเป็น”โดยเน้นพัฒนาทักษะการแสวงหาความรู้ ประยุกต์ใช้ความรู้ และสร้างองค์กรความรู้สาหรับตนเอง และชุมชน สังคม ซึ่งกาหนดการจัดกระบวนการเรียนรู้ กศน. หรอื ONIE MODEL ซง่ึ เป็นกระบวนการเรียนรทู้ ่ีจัดขึ้นอยา่ งเปน็ ระบบตามปรัชญา “คิดเป็น” ประกอบด้วย 4 ขัน้ ตอน ดงั นี้ 1. ข้นั กาหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O : Orientation) 2. ข้นั แสวงหาข้อมลู และจดั การเรียนรู้(N : New ways of learning) 3. ขนั้ ปฏบิ ัตแิ ละนาไปประยกุ ตใ์ ช(้ I : Implementation) 4. ข้นั ประเมินผลการเรียนรู้(E : Evaluation) ขั้นที่ 1 กำหนดสภำพ ปญั หำ ควำมต้องกำรในกำรเรียนรู้ (O : Orientation) เป็นการเรียนรู้จากสภาพ ปัญหา หรือความต้องการของผู้เรียน และชุมชน สังคม โดยให้ เชื่อมโยงกบั ประสบการณ์เดิม และสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนรู้ของหลกั สูตร ขั้นตอนกำรเรียนรู้ 1. ครูและผู้เรียนร่วมกันกาหนดสภาพ ปัญหา ความต้องการในการเรียนรู้ ซึ่งอาจจะได้มาจาก สถานการณ์ในขณะนั้น หรือเป็นเร่ืองที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง หรือเป็นประเด็นที่กาลังขัดแย้ง และกาลังอยู่ในความ สนใจของชมุ ชน ซง่ึ จะชว่ ยกระตนุ้ ให้ผเู้ รยี นกระตอื รอื รน้ ทค่ี ิดจะหาทางออกของปัญหา หรอื ความต้องการนน้ั ๆ 2. ทาความเข้าใจกับสภาพ ปัญหา ความต้องการในสิ่งที่ต้องการเรียนรู้ โดยดึงความรู้และ ประสบการณ์เดิมของผู้เรียน เน้นการมีส่วนร่วม มีการแลกเปล่ียนเรียนรู้สะท้อนความคิดและอภิปรายโดยให้ เช่ือมโยงกับความรู้ใหม่ 3. วางแผนการเรียนรู้ที่เหมาะสม โดยกิจกรรมการเรียนรู้ที่กาหนดสามารถมองเห็นแนวทางใน การค้นพบความรหู้ รอื คาตอบได้ดว้ ยตนเอง ขัน้ ท่ี 2 ข้ันแสวงหำข้อมูลและจัดกำรเรียนรู้ (N : New ways of learning) การแสวงหาข้อมูล และจัดการเรียนรู้ โดยศึกษา ค้นคว้าหาความรู้ และรวบรวมข้อมูลของตนเอง ข้อมูล ของชุมชน สังคม และข้อมูลทางวิชาการ จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายมี การระดมความคิดเห็น วิเคราะห์ สังเคราะหข์ ้อมูล และสรปุ เปน็ ความรู้ ขัน้ ตอนกำรเรียนรู้ 1. ผู้เรียนแสวงหาความรู้ตามแผนการเรียนรู้ที่กาหนดไว้ โดยเน้นการเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ กระบวนการกลมุ่ ศกึ ษาจากผ้รู ู้ / ภูมิปญั ญา และวธิ อี น่ื ๆ ท่เี หมาะสม 2. ครูและผู้เรียนร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสรุปความรู้เบ้ืองต้น โดยใช้คาถามปลายเปิดใน การชวนคิด ชวนคยุ เป็นเคร่อื งมือ ด้วยกระบวนการการระดมสมอง สะท้อนความคดิ และอภปิ ราย 3. ผู้เรียนนาความรู้ที่ได้ไปตรวจสอบความถูกต้อง เพื่อประเมินความเป็นไปได้โดย 23 สรุปผลการดาเนินงานโครงการพฒั นาทักษะชีวิตนักศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้สชู่ ีวิตพอเพยี ง ภาคเรียนท่ี 1/2565
วิธีตา่ ง ๆ เชน่ การทดลอง การทดสอบ การตรวจสอบกับผรู้ ู้ ขัน้ ที่ 3 กำรปฏบิ ตั แิ ลละนำไปประยุกต์ใช้ ( I : Implementation) นาความรทู้ ่ไี ดไ้ ปปฏิบตั ิ และประยกุ ต์ใชใ้ หส้ อดคล้องกับสถานการณ์ เหมาะสมกบั วัฒนธรรมและ สังคม ขัน้ ตอนกำรเรยี นรู้ ผูเ้ รียนปฏิบตั ิตามขนั้ ตอน โดยสังเกตปรากฏการณ์ จดบันทกึ และสรุปผล เก็บรวบรวมไว้ในแฟ้ม สะสมงาน ระหวา่ งดาเนนิ การต้องมกี ารตรวจสอบหาขอ้ บกพร่อง และรวบรวมไว้ในแฟม้ สะสมงาน ข้นั ท่ี 4 กำรประเมินผลกำรเรียนรู้ (E : Evaluation) ประเมนิ ทบทวน แก้ไขขอ้ บกพร่อง ผลจากการนาความรไู้ ปประยุกต์ใช้แล้วสรุปเป็นความรู้ใหม่ พร้อมกบั เผยแพร่ผลงาน ขั้นตอนกำรเรยี นรู้ 1. ครู และผ้เู รียนนาแฟ้มสะสมงาน และผลงานท่ีได้จากกการปฏิบัติมาใช้เป็นสารสนเทศในการ ประเมนิ คณุ ภาพการเรยี นรู้ 2. ครู และผู้เรียนร่วมกันสร้างเกณฑ์การประเมินคุณภาพการเรียนรู้ครู ผู้เรียนและผู้เกี่ยวข้อง รว่ มกันประเมิน พฒั นาการเรียนรู้ให้เป็นไปตามเกณฑค์ ณุ ภาพการเรียนรู้ ทั้ง 4 ข้ันตอนเป็นวงจรของกระบวนการเรียนรู้ ตามปรัชญาคิดเป็น ซึ่งสถานศึกษาสามารถปรับ ใช้ ขัน้ ตอนการเรียนรูไ้ ด้อยา่ งเหมาะสมตามสภาพของรายวชิ า หรอื เงอื่ นไขอน่ื ๆ ตามความต้องการของผู้เรยี น สือ่ กำรเรียนรู้ ในการจดั การเรียนรมู้ ุ่งเนน้ ให้ผู้เรยี นแสวงหาความรดู้ ว้ ยตนเอง โดยการใชส้ อ่ื หลากหลายลกั ษณะของสอ่ื ท่ี จะนามาใช้ในการจัดการเรียนรู้ เชน่ สอื่ ส่งิ พมิ พ์ สื่ออเิ ล็กทรอนิคส์ สื่อบคุ คล ภมู ิปัญญา แหล่งการเรียนรู้ ที่มีอยู่ใน ทอ้ งถิน่ ชุมชน และแหล่งอื่น ๆ ผ้เู รยี น ผู้สอน สามารถจดั ทาและพัฒนาส่อื การเรียนรขู้ ้ึนเองหรือนาสื่อต่างๆที่มีอยู่ รอบตัว และระบบสารสนเทศมาใชใ้ นการเรยี นรู้ โดยใชว้ ิจารณญาณในการเลือกใชส้ อื่ ตา่ ง ๆ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ การเรียนรู้เป็นไปอย่างมีคุณค่า น่าสนใจ ชวนคิด ชวนติดตาม เข้าใจง่าย รวมท้ังกระตุ้นให้ผู้เรียนรู้จักวิธีการ แสวงหาความรู้ เกดิ การเรียนรู้อยา่ งกวา้ งขวาง ลึกซงึ้ และต่อเนือ่ งตลอดเวลา กำรเทียบโอน สถานศึกษาต้องจัดให้มีการเทียบโอนผลการเรียนหรือเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ของผู้เรียน ให้ เป็นสว่ นหนึ่งของผลการเรียนตามหลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 โดย สถานศึกษาต้องจัดทาระเบียบหรือแนวปฏิบัติการเทียบโอนให้สอดคล้องกับแนวทางการเทียบโอนที่สานักงาน กศน. กาหนด 24 สรุปผลการดาเนนิ งานโครงการพัฒนาทกั ษะชีวิตนกั ศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้ส่ชู ีวิตพอเพยี ง ภาคเรียนที่ 1/2565
กจิ กรรมพัฒนำคุณภำพชวี ติ คืออะไร กจิ กรรมพฒั นาคณุ ภาพชวี ิต หรอื กพช. หมายถงึ กิจกรรมที่สง่ เสรมิ สนบั สนนุ ใหน้ กั ศกึ ษาเป็นผู้รจู้ กั คดิ รจู้ กั ทา เปน็ ผคู้ ิดเปน็ ทาเปน็ และแก้ปัญหาเป็น โดยนักศึกษาสามารถเลือกทากจิ กรรมพฒั นาคุณภาพชวี ติ ไดต้ าม ความสนใจ หรอื ความถนัด เนน้ การนาความรู้ ทกั ษะ และประสบการณท์ ีไ่ ดจ้ ากการศึกษาเรียนรไู้ ปสูก่ ารปฏบิ ัติท่ี สอดคลอ้ งกับวิถี ชวี ติ เพอ่ื พฒั นาตนเอง ครอบครวั ชมุ ชน สงั คม และส่งิ แวดล้อม รวมถงึ มกี ารปลกู ฝังคณุ ลักษณะ อันพงึ ประสงค์ ในแต่ละระดบั การศกึ ษาจะตอ้ งปฏิบัตกิ จิ กรรมพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ รวมแลว้ ไมน่ อ้ ย กวา่ 200 ชว่ั โมง โดยมีขอบข่ายเนือ้ หาทั้งในภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ มคี วำมจำเป็นอย่ำงไร กจิ กรรมพัฒนาคณุ ภาพชีวิตเป็นเง่อื นไขในการจบหลักสูตร ซ่ึงกาหนดไวไ้ มน่ อ้ ยกว่า 200ชวั่ โมงในแตล่ ะ ระดบั วัตถปุ ระสงค์ - เพือ่ ให้ผู้เรียนมีโอกาสใช้กระบวนการกลุ่มแลกเปลีย่ นความรู้ ประสบการณ์ โดยฝกึ ทักษะการคดิ การ แกป้ ญั หา และความมีเหตุผล - เพอื่ ปลูกฝังให้ผเู้ รียนมีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และสามารถอยูร่ ว่ มกนั กบั ผอู้ นื่ ไดอ้ ยา่ งมีความสุข - เพอ่ื สง่ เสรมิ ให้ผเู้ รยี นไดพ้ ัฒนาตนเองและมีสว่ นร่วมในการพัฒนา ครอบครวั ชุมชน และสงั คม ทาให้ เกดิ ความร้สู ึกผูกพนั เป็นส่วนหน่ึงของชมุ ชนและสังคม องคป์ ระกอบกิจกรรมพฒั นำคณุ ภำพชีวิต ประกอบด้วย 1. ความรพู้ ้นื ฐาน เปน็ กจิ กรรมการเรียนรูท้ ี่มีขอบขา่ ยเนอ้ื หาเก่ยี วกบั โครงสรา้ งและประโยชนข์ อง กพช. แนวทางการพฒั นาตนเอง ครอบครวั ชุมชน สงั คม กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดเปน็ ทาเปน็ แก้ปัญหาเป็น และการนาไปใชใ้ นการดาเนนิ ชีวิต การประสานเครือข่าย การเปน็ ผ้นู า ผูต้ าม การวางแผน และประโยชนข์ องการวางแผน มนษุ ยสมั พันธ์ การเขยี นโครงการ 2. กิจกรรมโครงการ เป็นกจิ กรรมการเรียนร้ทู ใ่ี หผ้ ู้เรียนได้ลงมอื ปฏบิ ัตจิ รงิ ในการทากิจกรรม โครงการที่ เก่ียวกบั การพฒั นาตนเอง ครอบครวั ชมุ ชน และสงั คม 25 สรปุ ผลการดาเนินงานโครงการพฒั นาทกั ษะชีวติ นกั ศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้สูช่ วี ิตพอเพยี ง ภาคเรียนท่ี 1/2565
ลักษณะกจิ กรรมพฒั นำคณุ ภำพชวี ิต แบง่ เป็น 2 ประเภท ดงั นี้ 1. กจิ กรรมกำรเรยี นรทู้ ม่ี ุ่งเนน้ กำรพัฒนำทกั ษะชวี ิตของตนเองและครอบครัว โดยใชก้ ระบวนการ เรยี นรู้แบบมีสว่ นร่วมของผเู้ รียน และต้องพจิ ารณาในประเด็นสาคญั ๆ ดงั นี้ ประโยชนท์ ต่ี นเอง ครอบครวั ไดร้ ับ ซงึ่ เปน็ กิจกรรมที่สามารถสรา้ ง/พฒั นาทกั ษะการดาเนนิ ชวี ิต ให้ตนเอง / ครอบครวั อยู่ไดอ้ ย่างมีความสุข การมีสว่ นรว่ มของผเู้ รียนและครอบครวั เปน็ กิจกรรมทดี่ าเนนิ การแล้วผ้เู รยี นและครอบครวั เหน็ ความสาคญั และใหค้ วามรว่ มมอื การใช้กระบวนการกลุม่ เป็นกจิ กรรมท่ีทาให้เกิดความรว่ มมอื ในการดาเนินงาน มกี าร ประสานงาน ความรบั ผดิ ชอบ เสยี สละ และจติ บริการ ความเหมาะสมในการใชร้ ะยะเวลาในการปฏิบตั งิ านตามโครงการ ปัจจยั ท่เี อื้อต่อความสาเรจ็ ไดแ้ ก่ ความรู้ แหล่งข้อมูล วัสดุ งบประมาณและการเลอื กใช้ ทรัพยากรไดอ้ ย่างเหมาะสม ประหยัด ความคดิ ริเร่ิมสรา้ งสรรค์ เป็นการคดิ สิ่งใหม่ๆ ท่ีเป็นประโยชนต์ ่อการพัฒนาตนเองและ ครอบครัว 2. กจิ กรรมกำรเรยี นรทู้ ม่ี ่งุ เน้นกำรพัฒนำชุมชนและสงั คม โดยใช้กระบวนการมสี ว่ นรว่ มของชมุ ชน และ พจิ ารณาในประเดน็ สาคญั ๆ ดังนี้ ประโยชนท์ ่ชี มุ ชนและสงั คมจะไดร้ ับหรอื บรกิ ารทช่ี ่วยเสรมิ หรอื พฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ทางดา้ น เศรษฐกจิ สังคม การเมือง การปกครอง ตลอดจนสนับสนนุ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตาม อธั ยาศัย และอื่นๆ ทต่ี อบสนองนโยบายการพฒั นาประเทศ การมสี ว่ นรว่ มของคนในชุมชน เปน็ กิจกรรมทด่ี าเนนิ การแลว้ คนในชุมชนเหน็ ความสาคญั และให้ ความรว่ มมอื ทัง้ ดา้ นความคดิ แรงงาน วสั ดุอปุ กรณ์ และอน่ื ๆทีเ่ กย่ี วขอ้ ง การใชก้ ระบวนกลุ่ม เปน็ กิจกรรมทีท่ าใหเ้ กดิ ความร่วมมือในการทางาน เสียสละ จิตบริการตามวถิ ี ประชาธิปไตย การใช้ระยะเวลาในการปฏิบัตงิ าน เป็นกิจกรรมทใ่ี ชร้ ะยะเวลาในการปฏิบตั ิงานใหม้ ีความ เหมาะสมกับกจิ กรรมโครงงานท่นี าเสนอ ปัจจยั ท่ีเอ้อื ตอ่ ความสาเรจ็ ในการจัดกจิ กรรม เช่น บุคคลากร วัสดุ งบประมาณ และการใช้ ทรพั ยากรท่ีมีอยู่ในชุมชนใหเ้ ป็นไปอยา่ งประหยัด และประยกุ ตใ์ ช้อยา่ งเหมาะสม มคี วามคดิ รเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ เป็นการคิดสงิ่ ใหม่ๆ ทเ่ี ป็นประโยชน์และทาใหเ้ กดิ การพัฒนาได้อย่าง ต่อเนือ่ งและอยา่ งย่ังยืน 26 สรุปผลการดาเนินงานโครงการพัฒนาทักษะชีวติ นักศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้สูช่ วี ติ พอเพียง ภาคเรียนที่ 1/2565
ข้ันตอนกำรดำเนนิ กิจกรรมพฒั นำคุณภำพชีวิต มีขั้นตอนดังน้ี 1. ผู้เรียนลงทะเบียนกิจกรรมพฒั นาคุณภาพชวี ิต (แบบ กพช 1) 2. ผู้เรยี นดาเนินการตามโครงการ พร้อมทงั้ บนั ทกึ กิจกรรม หรอื การปฏิบัติงานเปน็ รายบุคคล 3. ผู้เรียนจัดทาเอกสารรายงานผลการดาเนินงานตามโครงการส่งเม่ือสิน้ สุดโครงการ เกณฑก์ ำรผำ่ นกจิ กรรมพัฒนำคุณภำพชวี ติ 1. ผู้เรยี นตอ้ งเข้ารว่ มกจิ กรรมพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตและปฏบิ ตั ิโครงการไมน่ อ้ ยกวา่ 200 ชั่วโมง 2. โครงการต้องบรรลวุ ตั ถุประสงค์ โดยมีชน้ิ งาน รอ่ งรอย และหรือเอกสารรายงาน 3. เกณฑ์การพจิ ารณาตดั สินการประเมินโครงการพฒั นาคุณภาพชวี ติ ผู้เรยี นต้องไดค้ ะแนนรวมไมน่ ้อยกว่า 70 จึงจะถือวา่ “ผ่าน” 3. กิจกรรมรู้เท่ำทัน ข้อมูลข่ำวสำรบนโลกออนไลน์ และกำรพัฒนำทักษะกำรเรียนรู้ส่ือเทคโนโลยีดิจิทัล โดยคณะครู กศน.ตำบล/ ครศู รช. เป็นวทิ ยำกรให้ควำมรู้ ดงั นี้ การวัดและประเมินผลเป็นกระบวนการที่ให้ผู้สอนใช้พัฒนาคุณภาพผู้เรียน เพราะจะช่วยให้ได้ข้อมูล สารสนเทศท่ีแสดงถึงการพัฒนาความก้าวหน้า และความสาเร็จทางการเรียนรู้ของผู้เรียน รวมทั้งข้อมูลที่จะเป็น ประโยชน์ต่อการส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาและเรียนรู้เต็มศักยภาพ ซึ่งสถานศึกษาในฐานะผู้รับผิดชอบการ จัดการศึกษา จะต้องจัดทาระเบียบ และแนวปฏิบัติในการวัดและประเมินผลการเรียนของสถานศึกษา เพ่ือให้ บคุ ลากรทเ่ี ก่ยี วข้องทกุ ฝา่ ยถอื ปฏิบัตริ ว่ มกนั และเป็นไปในมาตรฐานเดียวกัน กำรวดั และประเมินผลระดับสถำนศึกษำ เปน็ การประเมนิ ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนของผเู้ รียนมจี ุดหมาย ทส่ี าคัญ คือมุง่ หาคาตอบวา่ ผเู้ รยี นมคี วามกา้ วหนา้ ทัง้ ด้านความรู้ ทกั ษะ กระบวนการคุณธรรม และคา่ นิยมอันพงึ ประสงค์ อนั เปน็ ผลเนอ่ื งจากการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้หรอื ไมเ่ พยี งใด ดังนั้นการวดั และประเมนิ จึงต้องใชว้ ธิ ีการที่ หลากหลาย เน้นการปฏบิ ัตใิ ห้สอดคลอ้ งและเหมาะสมกบั สาระการเรียนรู้ กระบวนการเรียนรู้ของผเู้ รยี น และ สามารถดาเนินการอยา่ งต่อเนือ่ ง ควบคไู่ ปกับการจัดกิจกรรมการเรยี นร้ขู องผู้เรยี น โดยประเมนิ จากความ ประพฤติ พฤตกิ รรม การเรียน การรว่ มกิจกรรมและผลงานจากโครงงานหรอื แฟ้มสะสมผลงาน ผู้เรียนจะทราบ ระดบั ความกา้ วหน้า ความสาเรจ็ ของตน ครู จะเขา้ ใจความต้องการของผเู้ รียนแตล่ ะคน แต่ละกลมุ่ สามารถ ประเมินผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรขู้ องตนเองได้ กำรประเมินคุณภำพกำรศึกษำระดับชำติ (National Test) สถานศึกษาจัดให้ผู้เรียน เข้ารับการ ประเมินคุณภาพการศึกษาระดับชาติ โดยให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายนอกโรงเรียนไม่เน้นความรู้ ความจา เป็น การประเมินเชิงคุณภาพ เพ่ือนาข้อมูลไปใช้ในการวางแผนปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนของ สถานศึกษาต่อไป ท้ังนี้ ไมม่ ีผลตอ่ การไดห้ รือตกของผ้เู รียน 27 สรปุ ผลการดาเนินงานโครงการพัฒนาทกั ษะชีวติ นักศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความร้สู ชู่ วี ิตพอเพียง ภาคเรียนท่ี 1/2565
กำรจบหลกั สตู ร ผู้จบการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในแต่ละ ระดับต้องผ่านเกณฑก์ ารจบหลกั สูตร ดงั น้ี 1. ผ่านการประเมิน และได้รับการตัดสินผลการเรียนตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากาหนดทั้ง 5 สาระ การเรยี นรู้และได้ตามจานวนหน่วยกติ ทก่ี าหนดในโครงสรา้ งหลกั สูตร 2. ผา่ นกระบวนการประเมนิ กิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวติ ไม่นอ้ ยกวา่ 200 ชวั่ โมง 3. ผา่ นกระบวนการประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม 4. เข้ารับการประเมนิ คุณภาพการศึกษาระดับชาติ (National Test) เอกสำรหลกั ฐำนกำรศกึ ษำ เอกสารหลักฐานการศึกษาให้เป็นไปตามที่กระทรวงศึกษาธิการกาหนด สถานศึกษาทุกแห่งต้องใช้ เหมือนกัน เพ่ือประโยชน์ในการสอื่ ความเขา้ ใจทตี่ รงกันและการส่งต่อ ไดแ้ ก่ 1. ระเบยี นแสดงผลการเรยี น 2. หลกั ฐานแสดงวฒุ กิ ารศกึ ษา (ประกาศนยี บตั ร) 3. แบบรายงานผูส้ าเรจ็ การศกึ ษา เอกสารหลักฐานการศึกษาอื่น ๆ สถานศึกษาต้องพิจารณาจัดทาเพื่อใช้ประกอบการจัดการศึกษาตาม หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ตามท่ีเห็นสมควร เช่น แบบ ประเมินผลกจิ กรรมพัฒนาคณุ ภาพชวี ิต กจิ กรรมทกั ษะกำรเรยี นรู้สื่อเทคโนโลยีดจิ ิทลั จากสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคตอิ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แนะนาการเรียนการ สอนผา่ นออนไลน์ ผา่ นโปรแกรม Zoom , โปรแกรม Meet ,Google Form , You Tube Line, Facebook, Messenger ทาให้เกิดความสะดวกตอ่ ครูผสู้ อนและนกั ศึกษาดว้ ย กจิ กรรม “รกั การอ่านผา่ น facebook” แนะนาหนงั สอื หรอื กิจกรรมส่งเสริมการอา่ นของ หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอโชคชัย ผา่ น facebook ของผู้ท่ีเข้ารับบริการ โดยใชส้ ่ือนวตั กรรมชว่ ยสง่ เสรมิ การอา่ น ผา่ นระบบลงิ ค์ Google form ข้อดีของกำรเรยี นออนไลน์ 1. มคี วำมสะดวกในกำรเรียน ในการเรยี นออนไลนเ์ ราสามารถเรียนไดท้ กุ ท่ี ไมจ่ าเป็นตอ้ งไป เรยี นทโ่ี รงเรยี น วนั ไหนท่ีเรามธี รุ ะ เราก็สามารถเข้าเรยี นออนไลนไ์ ด้ โดยไมต่ อ้ งโดยเชค็ ขาดหรือลาผสู้ อน 2.สำมำรถเรียนซ้ำได้ โปรแกรมตา่ ง ๆ หรอื แอพพลเิ คช่นั ในการเรียนออนไลน์ในปจั จบุ ันมคี วาม ทันสมยั มากคะ่ สามารถบันทึกการเรยี นการสอนได้ ในบางครั้งเราอาจจะมีปัญหาทางด้านอนิ เตอรเ์ นต็ เสียง รบกวนหรอื เราอาจไม่มีสมาธิในการเรยี น เรากส็ ามารถเปดิ เรียนยอ้ นหลงั ได้ 3. ประหยดั คำ่ ใช้จำ่ ย เน่ืองจากการเราไมต่ ้องเสียเงนิ ในการเดนิ ทาง การซือ้ อาหารกลางวัน การ ถา่ ยเอกสารใบงานตา่ ง ๆ เพราะอาจารยส์ ่วนมากจะส่งเปน็ ไฟล์มาใหท้ าคะ่ ซง่ึ ช่วยประหยัดคา่ ใช้จา่ ยได้ 28 สรุปผลการดาเนินงานโครงการพัฒนาทกั ษะชวี ิตนักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรสู้ ู่ชวี ิตพอเพียง ภาคเรียนท่ี 1/2565
4. ได้ฝกึ กำรใชเ้ ทคโนโลยี เราจะต้องฝกึ ในการใชโ้ ปรแกรมตา่ ง ๆ หรอื แอพพลเิ คชนั่ ในการเรียน ออนไลน์ บางคนอาจจะแชร์หน้าจอไมเ่ ป็น ก็ได้มกี ารฝึกแชร์หน้าจอจนคลอ่ งแคล่ว อกี ทง้ั ไดฝ้ ึกและไดเ้ รียนรูก้ ารใช้ เทคโนโลยีผา่ นแอพลิเคชนั และโปรแกรมในการเรยี นออนไลน์ต่าง ๆ 5. ลดควำมเสย่ี งในกำรตดิ โควดิ -19หรือโรคติดต่ออนื่ ๆ การเรยี นในสถานศึกษา เราจะตอ้ ง เจอคนเยอะ ทาใหเ้ ราเส่ยี งในการตดิ โรคตดิ ต่อตา่ ง ๆ ไมใ่ ชเ่ พียงแคโ่ รคโควดิ -19 เท่านน้ั แตโ่ รคอน่ื ๆ กส็ ามารถตดิ ไดเ้ ช่นกัน เช่น โรคไข้หวดั โรคมอื เท้า ปาก โรคไขเ้ ลอื ดออก เป็นตน้ ข้อเสียของกำรเรยี นออนไลน์ . 1. สัญญำณอนิ เตอรเ์ น็ต ในบางครง้ั สญั ญาณอนิ เตอรเ์ นต็ อาจไม่ดี ทาใหเ้ สียงทีผ่ สู้ อนพดู อาจไม่ ชัดเจนหรือสะดุด บางครง้ั เราอาจมขี อ้ สงสัยต้องถามและสัญญาณไม่ดี จึงทาใหเ้ ปน็ ปญั หาในการเรียนออนไลน์ 2. ไม่มีสมำธใิ นกำรเรยี น การท่ีเราเรียนออนไลน์ เราอาจมธี ุระทต่ี ้องเดนิ ทางหรอื เรียนใน สถานท่ีทไ่ี ม่อานวย อาจจะมีเสยี งดัง ต้องทาอยา่ งอืน่ ประกอบไปด้วย ทาใหเ้ ราไม่มีสมาธิจดจ่อกับเรื่องเรยี น ทาให้ เรียนไมร่ ู้เร่ือง 3. ควำมสัมพนั ธ์ของผสู้ อนและผเู้ รียนห่ำงเหินกัน เนอื่ งจากการเรียนออนไลน์ เราไมส่ ามารถที่ จะเห็นหนา้ ของเพ่ือน ๆ และผู้สอนไดต้ ลอดเวลา ในการพูดคุยปรกึ ษากัน จึงไม่สนิทสนมเหมือนเรียนในชั้นเรยี น 4. อุปกรณก์ ำรส่อื สำรไมอ่ ำนวย ในการสอบผูส้ อนบางคนอาจจะให้เปิดกลอ้ งและทาขอ้ สอบไป ด้วย จาเปน็ ตอ้ งใชอ้ ปุ กรณ์สือ่ สาร 2 เคร่อื ง จงึ มปี ญั หาในดา้ นนห้ี รอื บางคร้ังผสู้ อนอาจจะมเี กมการศึกษามาให้เลน่ เชน่ Kahoot ผูเ้ รียนจะตอ้ งใชอ้ ุปกรณส์ ่อื สาร 2 เครอ่ื ง โดยอกี เครือ่ งหนึง่ จะใช้ดูโจทย์ อีกเครือ่ งหนง่ึ จะตอ้ งใชส้ ่ง คาตอบ ผเู้ รียนบางคนอาจมีอปุ กรณ์เพยี งเคร่ืองเดยี ว ทาให้ไม่ไดร้ ว่ มกิจกรรมดว้ ย 4. เส้นทำงแห่งควำมสำเรจ็ ส่กู ำรดำรงชีวิตตำมหลักปรชั ญำเศรษฐกจิ พอเพยี ง โดยคณะครู กศน.ตำบล/ ครู ศรช. เปน็ วทิ ยำกรใหค้ วำมรู้ ดงั นี้ ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ท่ที รงปรับปรุงพระราชทานเป็นทมี่ าของนยิ าม \"3 หว่ ง 2 เง่อื นไข\" ท่ีคณะอนกุ รรมการขบั เคลอ่ื นเศรษฐกิจพอเพียง สานักงานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ นามาใชใ้ นการรณรงค์เผยแพรป่ รัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งผา่ นชอ่ งทางสอ่ื ต่าง ๆ อยู่ในปัจจุบัน ซ่ึงประกอบดว้ ย ความ \"พอประมาณ มีเหตุผล มีภมู คิ ุ้มกนั \" บนเงื่อนไข \"ความร\"ู้ และ \"คุณธรรม\" เศรษฐกิจพอเพียงมุ่งเน้นให้บุคคลสามารถประกอบอาชพี ได้อย่างยงั่ ยืน และใช้จา่ ยเงนิ ใหไ้ ด้มา อย่างพอเพยี งและประหยัด ตามกาลังของเงนิ ของบคุ คลน้ัน โดยปราศจากการกู้หน้ียมื สิน และถ้ามเี งนิ เหลือ กแ็ บง่ เกบ็ ออมไวบ้ างสว่ น ช่วยเหลอื ผอู้ ่นื บางส่วน และอาจจะใชจ้ า่ ยมาเพือ่ ปัจจัยเสริมอกี บางส่วนสาเหตทุ ี่แนวทางการ ดารงชีวติ อยา่ งพอเพียง ได้ถกู กลา่ วถึงอย่างกวา้ งขวางในขณะนี้ เพราะสภาพการดารงชวี ิตของสังคมทุนนิยม 29 สรปุ ผลการดาเนินงานโครงการพฒั นาทกั ษะชีวิตนกั ศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรสู้ ู่ชีวติ พอเพียง ภาคเรียนที่ 1/2565
ในปัจจุบนั ได้ถกู ปลกู ฝงั สร้าง หรอื กระตุ้น ให้เกิดการใชจ้ ่ายอย่างเกนิ ตวั ในเรอ่ื งทไ่ี มเ่ กย่ี วขอ้ ง หรอื เกินกว่าปัจจัยในการดารงชวี ติ เช่น การบรโิ ภคเกินตัว ความบันเทิงหลากหลายรูปแบบ ความสวยความงาม การแต่งตัวตามแฟช่ัน การพนนั หรอื เสีย่ งโชค เปน็ ต้น จนทาให้ไมม่ ีเงนิ เพยี งพอเพอ่ื ตอบสนองความต้องการ เหล่านัน้ สง่ ผลให้เกิดการกหู้ น้ยี มื สิน เกดิ เปน็ วฏั จักรท่บี คุ คลหนง่ึ ไมส่ ามารถหลุดออกมาได้ ถ้าไมเ่ ปล่ียนแนวทาง ในการดารงชวี ติ ปรชั ญำเศรษฐกจิ พอเพียง 3 หว่ ง ห่วง 1. ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดที ไี่ ม่นอ้ ยเกนิ ไปและไมม่ ากเกินไป โดยไม่เบียดเบียนตนเอง และผู้อ่ืน หว่ ง 2. ความมีเหตุผล หมายถึง การตดั สินใจเก่ียวกบั ระดบั ของความพอเพียงนน้ั จะตอ้ งเปน็ ไปอย่างมี เหตุผล โดยพจิ ารณาจากเหตปุ จั จัยทีเ่ กยี่ วขอ้ งตลอดจนคานงึ ถงึ ผลท่คี าดวา่ จะเกดิ ขึน้ ห่วง 3. การมีภมู คิ ุ้มกันทด่ี ใี นตวั หมายถึงการเตรยี มตวั ให้พรอ้ มรับผลกระทบ และการเปลี่ยนแปลงด้าน ต่าง ๆ ที่จะเกดิ ขน้ึ โดยคานงึ ถงึ ความเปน็ ไปไดข้ องสถานการณ์ตา่ ง ๆ ที่คาดวา่ จะเกดิ ข้นึ ในอนาคตท้งั ใกลแ้ ละไกล ปรัชญำเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2 เงื่อนไข 1. เงื่อนไข ความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่าง ที่เก่ียวข้องอย่างรอบด้าน ความรอบคอบท่ีจะนาความรู้เหล่าน้ันมาพจิ ารณาให้เชือ่ มโยงกนั เพอื่ ประกอบการวางแผนและความระมดั ระวงั ใน ขน้ั ปฏบิ ตั ิ 2. เงอ่ื นไข คุณธรรม ที่จะตอ้ งเสรมิ สรา้ งประกอบดว้ ย มีความตระหนักในคุณธรรม มีความชื่อสัตย์สุจริต และความอดทน มีความพากเพียร ใชส้ ตปิ ัญญาในการดาเนินชวี ติ เศรษฐกจิ พอเพยี งเรม่ิ ท่ตี ัวเอง การนาหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้นน้ั ขนั้ แรก ต้องยดึ หลัก \"พง่ึ ตนเอง\" คอื พยายามพึ่งตนเองให้ได้ก่อน ในแต่ละครอบครัวมีการบริหารจัดการอย่างพอดี ประหยัดไม่ฟุ่มเฟือย สมาชิกในครอบครัวแต่ละคนต้องรู้จัก ตนเอง เช่น ข้อมลู รายรบั -รายจ่าย ในครอบครัวของตนเอง สามารถรกั ษาระดับการใชจ้ ่ายของตน ไมใ่ หเ้ ปน็ หนี้ และรู้จักดึงศักยภาพในตัวเองในเร่ืองของปัจจัยสี่ให้ได้ในระดับหน่ึง การพัฒนาตนเองให้สามารถ \"อยู่ได้อย่าง พอเพียง\" คือ ดาเนินชีวติ โดยยดึ หลกั ทางสายกลางให้อยไู่ ดอ้ ยา่ งสมดลุ คอื มีความสุขทแ่ี ท้ ไม่ให้รู้สึกขาดแคลน จนต้องเบยี ดเบียนตนเอง หรอื ดาเนินชีวิตอยา่ งเกินพอดี จนต้องเบยี ดเบยี นผู้อื่น หรือเบียดเบยี นสงิ่ แวดล้อม โดย - ยดึ หลกั พออยู่ พอกนิ พอใช้ - ยึดความประหยัด ตดั ทอนค่าใชจ้ า่ ย ลดความฟมุ่ เฟือยในการดารงชีพ - ยดึ ถอื การประกอบอาชพี ดว้ ยความถูกตอ้ งและสจุ รติ - ละเลกิ การแกง่ แย่งผลประโยชน์และแข่งขันในการคา้ ขาย - มุ่งเนน้ หาขา้ วหาปลา กอ่ นมุ่งเน้นหาเงนิ หาทอง - ทามาหากินก่อนทามาคา้ ขาย 30 สรุปผลการดาเนินงานโครงการพฒั นาทกั ษะชีวิตนักศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรสู้ ชู่ ีวติ พอเพยี ง ภาคเรียนที่ 1/2565
- ภมู ิปญั ญาชาวบ้านและท่ีดินทากนิ คอื ทนุ ทางสงั คม - ตงั้ สติที่มนั่ คง รา่ งกายทแ่ี ข็งแรง ปญั ญาท่ีเฉยี บแหลม นาความรู้ ความเข้าใจอย่างลกึ ซง้ึ เพื่อปรบั วิถีชวี ิต สู่การพัฒนาทย่ี ั่งยนื แนวทำงกำรใช้ชีวิตอยำ่ งพอเพียง 1. เพิ่มรายได้ ลดรายจา่ ย 2. ฉลาดซือ้ ฉลาดใช้ – ลสิ ต์รายการของท่ีจาเปน็ ต้องซื้อ และเลอื กซื้อสนิ ค้าท่คี มุ้ ค่าและมีประโยชน์ 3. จดบญั ชรี ายรับรายจา่ ยอย่างสมา่ เสมอ 4. มีเปา้ หมายในการออม จากนัน้ จึงกาหนดรายจา่ ยในแต่ละวนั แลว้ จงึ ประหยดั รายจา่ ยดว้ ยการจา่ ยน้อย กวา่ หรือเท่ากับเป้าหมายทีก่ าหนด หลงั จากน้ันให้นกั ศึกษา พบครปู ระจาตาบล ครู กศน.ตาบล / ครู ศรช. เพ่ือนัดหมายการดาเนินกิจกรรม ของ กศน.ตาบลตอ่ ไป 31 สรุปผลการดาเนินงานโครงการพัฒนาทักษะชวี ิตนักศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความร้สู ู่ชีวติ พอเพียง ภาคเรียนท่ี 1/2565
บทที่ 4 ผลกำรวิเครำะห์ขอ้ มลู การวิเคราะห์ขอ้ มลู ครั้งนี้ มวี ัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลกิจกรรมสรุปโครงการพัฒนาทักษะชีวิตนักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความร้สู ูช่ ีวิตพอเพียง ภาคเรยี นที่ 1/2565 จากผู้ตอบแบบประเมิน จานวน 250 คน โดย สุ่มตัวอย่างประชากร ตารางของ Krejcie & Morgan ตอบแบบประเมิน จานวน 152 คน เคร่ืองมือท่ีใช้ใน การเก็บรวบรวมข้อมลู คือ แบบประเมินโครงการ ได้นาเสนอผลการวิเคราะหข์ ้อมลู ในแบบตารางความถี่ ค่าเฉลี่ย และค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) ซึ่งใช้โปรแกรม SPSS เพื่อวิเคราะห์ค่าสถิติท้ังหมด ดังมี รายละเอยี ดต่อไปน้ี ตอนท่ี 1 วิเคราะห์ข้อมูลส่วนตัวของผู้ตอบแบบประเมินโครงการ โดยการแจกแจงความถ่ีและค่าร้อยละ ของตวั แปร ตอนท่ี 2 วิเคราะห์ผลการประเมินกิจกรรมโครงการพัฒนาทักษะชีวิตนักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้สูช่ วี ิตพอเพียง ภาคเรยี นท่ี 1/2565 โดยการแจกแจงค่าเฉลย่ี คา่ เบี่ยงเบนมาตรฐาน ตอนที่ 3 วิเคราะห์ความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะอืน่ ๆ ตอนที่ 1 วิเครำะห์ข้อมูลส่วนตัวของผู้ตอบแบบประเมินโครงกำร โดยกำรแจกแจงควำมถี่และค่ำร้อยละของ ตวั แปร ขอ้ มูลส่วนตวั ของผ้ตู อบแบบประเมนิ โครงการ ทเี่ ข้าร่วมกจิ กรรมตามโครงการพัฒนาทักษะชวี ิตนกั ศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้สู่ชีวิตพอเพียง ภาคเรียนท่ี 1/2565 โดยการแจกแจงความถี่และค่าร้อยละของตัว แปร ดังตารางที่ 1 ตำรำงที่ 1 จำนวน และคำ่ ร้อยละ ของผู้ตอบแบบประเมนิ โครงกำร จำแนกตำมเพศ อำยุ ระดบั กำรศึกษำ และอำชีพ (N=152) ข้อมูลสว่ นตวั รวม จานวน ร้อยละ 1. เพศ ชาย รวม 64 42.10 88 57.90* หญงิ 152 100 2. อายุ 15 – 29 ปี 99 65.10* 30 – 49 ปี 46 30.30 50 ปีขึน้ ไป 7 4.60 152 100 32 สรปุ ผลการดาเนินงานโครงการพฒั นาทกั ษะชีวติ นักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรสู้ ชู่ วี ิตพอเพียง ภาคเรียนท่ี 1/2565
3. ระดบั ข้อมลู สว่ นตัว จานวน ร้อยละ การศกึ ษา ประถมศกึ ษา 2 1.30 มธั ยมศึกษาตอนตน้ 77 50.70* มัธยมศึกษาตอนปลาย 73 48.00 4. อาชพี เกษตรกรรม 152 100 รบั จา้ ง 12 7.90 อ่ืน ๆ ไม่ได้ประกอบอาชีพ 74 48.70* 66 43.40 รวม 152 100 หมายเหตุ : * หมายถงึ ข้อมลู ส่วนใหญ่ จากตาราง ที่ 1 พบว่า ผู้ตอบแบบประเมินโครงการ จานวน 152 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จานวน 88 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 57.90 เพศชาย จานวน 64 คน คดิ เป็นร้อยละ 42.10 ตามลาดับ ส่วนใหญ่มีอายุ 15 – 29 ปี จานวน 99 คน คิดเป็นร้อยละ 65.10 รองลงมา คือ 30 - 49 ปี จานวน 46 คน คิดเป็นร้อยละ 30.30 และอายุ 50 ปขี น้ึ ไป จานวน 7 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 4.60 ระดับการศกึ ษาส่วนใหญ่ศึกษาอยู่ในระดับ มัธยมศึกษา ตอนต้น จานวน 77 คน คิดเป็นร้อยละ 50.70 รองลงมา คอื มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย จานวน 73 คน คดิ เปน็ ร้อย ละ 48.00 และระดับประถมศึกษา จานวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 1.3 สาหรับอาชีพ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ รับจ้าง จานวน 74 คน คิดเป็นร้อยละ 48.70 รองลงมา คือส่วนใหญ่ประกอบ อื่น ๆ (ไม่ได้ประกอบอาชีพ) จานวน 66 คน คิดเป็นร้อยละ 43.40 และเกษตรกรรม จานวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 7.90 ตามลาดบั 33 สรุปผลการดาเนินงานโครงการพัฒนาทักษะชีวติ นกั ศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรูส้ ่ชู วี ิตพอเพียง ภาคเรียนท่ี 1/2565
ตอนท่ี 2 วิเครำะหผ์ ลกำรประเมินกิจกรรมโครงกำรพฒั นำทกั ษะชีวติ นกั ศกึ ษำ กศน.อำเภอโชคชัย นำควำมรู้ ส่ชู วี ติ พอเพียง ภำคเรยี นท่ี 1/2565 โดยกำรแจกแจงคำ่ เฉล่ียค่ำเบ่ยี งเบนมำตรฐำน การจาแนกระดบั ผลการประเมนิ โครงการ แบบมาตรฐานประมาณค่า (Rating Scale) มี 5 ระดับ ดงั นี้ 5 คะแนน คอื ระดบั ผลการประเมินมากทสี่ ดุ 4 คะแนน คอื ระดับผลการประเมินมาก 3 คะแนน คือ ระดับผลการประเมินปานกลาง 2 คะแนน คือ ระดบั ผลการประเมินน้อย 1 คะแนน คือ ระดับผลการประเมนิ น้อยที่สดุ N คอื จานวนผ้ตู อบแบบประเมิน ̅ คอื ระดบั คา่ เฉลี่ยผลการประเมนิ S.D. (Standard deviation) คอื คา่ เบยี่ งเบนมาตรฐาน คา่ เฉล่ียระดบั ผลการประเมนิ ของผูต้ อบแบบประเมนิ โครงการ ค่าเฉลีย่ 4.50 – 5.00 คะแนน หมายถึง มีผลการประเมินอยูใ่ นระดบั มากที่สดุ ค่าเฉลยี่ 3.50 – 4.49 คะแนน หมายถึง มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 2.50 – 3.49 คะแนน หมายถงึ มีผลการประเมินอยู่ในระดับปานกลาง คา่ เฉล่ีย 1.50 – 2.49 คะแนน หมายถงึ มีผลการประเมนิ อยู่ในระดับน้อย ค่าเฉล่ีย 1.00 – 1.49 คะแนน หมายถึง มผี ลการประเมนิ อยู่ในระดับน้อยทสี่ ุด 34 สรุปผลการดาเนนิ งานโครงการพัฒนาทกั ษะชีวิตนักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้ส่ชู วี ติ พอเพียง ภาคเรียนท่ี 1/2565
ตำรำงท่ี 2.1 ค่ำเฉลี่ย คำ่ เบี่ยงเบนมำตรฐำน และระดบั ผลกำรประเมินกิจกรรมโครงกำรพัฒนำทกั ษะ ชีวิตนกั ศึกษำ กศน.อำเภอโชคชัย นำควำมรสู้ ชู่ วี ิตพอเพียง ภำคเรียนที่ 1/2565 ของผู้ตอบแบบประเมิน โครงกำร ในภำพรวม และจำแนกรำยด้ำน ดังนี้ รำยกำร N = 152 ระดับผลกำรประเมิน ̅ S.D. 1. ด้ำนหลักสตู ร 4.23 0.75 มำก 2. ด้ำนวทิ ยำกร 4.13 0.74 มำก 3. ด้ำนสถำนท่ี ระยะเวลำ และควำมพงึ พอใจ มำก 4.10 0.84 มำก รวม 4.15 0.77 จากตารางที่ 2.1 พบว่าโครงการพัฒนาทักษะชีวิตนักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้สู่ชีวิตพอเพียง ภาคเรียนท่ี 1/2565 มีผลการประเมินโครงการในภาพรวม อยู่ในระดับมาก (̅=4.15) เม่ือพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านหลกั สูตร มผี ลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.23) รองลงมาคือ ด้านวิทยากร มีผการประเมิน อยู่ ในระดับมาก (̅=4.13) และด้านสถานที่ ระยะเวลา และความพึงพอใจ มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.11 ) ตามลาดบั 35 สรุปผลการดาเนินงานโครงการพฒั นาทกั ษะชีวติ นักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้สู่ชีวติ พอเพยี ง ภาคเรียนท่ี 1/2565
ตำรำงท่ี 2.2 ค่ำเฉลยี่ ค่ำเบ่ียงเบนมำตรฐำน และระดับผลกำรประเมินกจิ กรรมโครงกำรพฒั นำทักษะ ชีวิตนกั ศกึ ษำ กศน.อำเภอโชคชัย นำควำมรสู้ ่ชู ีวติ พอเพยี ง ภำคเรยี นที่ 1/2565 ของผตู้ อบแบบประเมิน โครงกำรดำ้ นหลกั สตู ร โดยจำแนกเปน็ รำยขอ้ ดังน้ี รำยกำร N =152 ระดบั ผลกำรประเมิน ̅ S.D. ด้ำนหลกั สตู ร มาก 1. กิจกรรมสอดคลอ้ งกบั วัตถุประสงคข์ องโครงการ 4.34 0.86 มาก 2. เนือ้ หาของหลกั สตู รตรงกับความตอ้ งการผู้รว่ มกจิ กรรม 4.39 0.77 มาก 3. การจัดกจิ กรรมส่งเสรมิ ให้ผรู้ ว่ มกจิ กรรมสามารถ คดิ เป็น 4.29 0.79 มาก ทาเป็น แกป้ ญั หาเปน็ มาก 4. ผรู้ ว่ มกจิ กรรมมสี ว่ นรว่ มในการแสดงความคิดเห็นต่อการ 4.05 0.66 มำก จัดทาโครงการ 5. ผรู้ ว่ มกจิ กรรมสามารถนาความร้ไู ปปรับใช้ในการ 4.09 0.69 ปฏิบัตงิ าน 4.23 0.75 รวม จากตารางท่ี 2.2 พบว่าโครงการพัฒนาทักษะชีวิตนักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้สู่ชีวิตพอเพียง ภาคเรยี นท่ี 1/2565 มผี ลการประเมินโครงการในด้านหลกั สตู ร อยู่ในระดับมาก (̅=4.23) เมื่อพิจารณาเป็นราย ข้อพบว่า เนื้อหาของหลักสูตรตรงกับความต้องการผู้ร่วมกิจกรรม มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.39) รองลงมาคอื กิจกรรมสอดคลอ้ งกบั วัตถปุ ระสงค์ของโครงการ มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.34 ) การ จัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้ร่วมกิจกรรมสามารถ คิดเป็น ทาเป็น แก้ปัญหาเป็น มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.29) ผู้ร่วมกิจกรรมสามารถนาความรู้ไปปรับใช้ในการปฏิบัติงาน มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.09) และผู้ร่วมกิจกรรมมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อการจัดทาโครงการ มีผลการประเมิน อยู่ใน ระดบั มาก (̅=4.05) ตามลาดบั 36 สรุปผลการดาเนินงานโครงการพฒั นาทกั ษะชีวติ นกั ศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้สชู่ วี ติ พอเพยี ง ภาคเรียนที่ 1/2565
ตำรำงที่ 2.3 ค่ำเฉลี่ย คำ่ เบย่ี งเบนมำตรฐำน และระดบั ผลกำรประเมนิ กจิ กรรมโครงกำรพัฒนำทักษะ ชวี ติ นักศกึ ษำ กศน.อำเภอโชคชยั นำควำมรสู้ ชู่ วี ติ พอเพยี ง ภำคเรียนที่ 1/2565 ของผูต้ อบแบบประเมิน โครงกำรด้ำนวทิ ยำกร โดยจำแนกเป็นรำยขอ้ ดังนี้ รำยกำร N =152 ระดบั ผลกำรประเมิน ̅ S.D. ด้ำนวิทยำกร 6. วิทยากรมคี วามรู้ความสามารถในการถ่ายทอดองค์ 4.08 0.69 มาก ความรู้ 7. วทิ ยากรมเี ทคนิค วธิ กี ารในการจัดการถา่ ยทอดองค์ 4.09 0.71 มาก ความรู้ 8. วทิ ยากรมกี ารใชส้ ื่อทสี่ อดคลอ้ งและเหมาะสมกับ 4.14 0.71 มาก กจิ กรรม 9. บคุ ลิกภาพของวทิ ยากร 4.21 0.86 มาก 4.13 0.74 มำก รวม จากตารางที่ 2.3 พบว่าโครงการพัฒนาทักษะชีวติ นักศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้สชู่ ีวติ พอเพยี ง ภาคเรยี นท่ี 1/2565 มผี ลการประเมนิ ฯ ในดา้ นวิทยากร อยใู่ นระดบั มาก (̅=4.13) เมื่อพจิ ารณาเป็นรายขอ้ พบวา่ บุคลกิ ภาพของวทิ ยากร มผี ลการประเมนิ อยู่ในระดบั มาก (̅=4.21) รองลงมาคอื วทิ ยากรมีการใช้สือ่ ท่ี สอดคล้องและเหมาะสมกับกิจกรรม มผี ลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.14) วทิ ยากรมีเทคนคิ วธิ ีการใน การจดั การถา่ ยทอดองคค์ วามรู้ มผี ลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.09) และวิทยากรมีความรคู้ วามสามารถ ในการถ่ายทอดองค์ความรู้ มผี ลการประเมนิ อยใู่ นระดบั มาก (̅=4.08) ตามลาดบั 37 สรุปผลการดาเนินงานโครงการพฒั นาทกั ษะชีวิตนักศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความร้สู ชู่ ีวิตพอเพยี ง ภาคเรียนท่ี 1/2565
ตำรำงที่ 2.4 ค่ำเฉลีย่ คำ่ เบี่ยงเบนมำตรฐำน และระดบั ผลกำรประเมนิ กิจกรรมโครงกำรพฒั นำทกั ษะชีวิต นักศึกษำ กศน.อำเภอโชคชยั นำควำมรู้สู่ชวี ิตพอเพยี ง ภำคเรยี นที่ 1/2565 ของผตู้ อบแบบประเมินโครงกำร ดำ้ นสถำนท่ี ระยะเวลำ และควำมพงึ พอใจ โดยจำแนกเปน็ รำยขอ้ ดังน้ี รำยกำร N = 152 ระดับผลกำรประเมนิ ̅ S.D. ดำ้ นสถำนที่ ระยะเวลำ และควำมพงึ พอใจ 10. สถานท่ใี นการจดั กิจกรรมเหมาะสม 3.91 0.84 มาก 11. ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม 4.08 0.94 มาก 12. ความพงึ พอใจในภาพรวมของผรู้ ว่ มกิจกรรมต่อการเขา้ 4.21 0.86 มาก ร่วมกจิ กรรม 13. ประโยชนท์ ี่ไดร้ บั จากการเข้ารว่ มกิจกรรมตามโครงการ 4.23 0.73 มาก รวม 4.10 0.84 มำก จากตารางท่ี 2.4 พบว่าโครงการพัฒนาทักษะชีวิตนักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้สู่ชีวิตพอเพียง ภาคเรียนที่ 1/2565 มผี ลการประเมนิ ฯ ในดา้ นสถานท่ี ระยะเวลา และความพงึ พอใจ อยูใ่ นระดบั มาก (̅=4.10) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ประโยชน์ท่ีได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรมตามโครงการ มีผลการประเมิน อยู่ใน ระดับมาก (̅=4.23) รองลงมาคือ ความพงึ พอใจในภาพรวมของผู้ร่วมกิจกรรมต่อการเข้าร่วมกิจกรรม มีผลการ ประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.21) ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.08) และสถานท่ีในการจดั กิจกรรมเหมาะสม มผี ลการประเมนิ อยู่ในระดับมาก (̅=3.91ตามลาดับ ตอนท่ี 3 วิเครำะห์ควำมคิดเหน็ และข้อเสนอแนะอน่ื ๆ 1. ควรใหจ้ ดั กจิ กรรมแบบน้ีอยา่ งตอ่ เนื่อง 2. ควรจัดกจิ กรรมให้เพ่ิมฐานการเรยี นรู้ ให้หลากหลาย ใชส้ ่อื เทคโนโลยใี นการสอนใหม้ ากช้ึน 38 สรปุ ผลการดาเนนิ งานโครงการพัฒนาทกั ษะชวี ติ นกั ศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรสู้ ู่ชวี ติ พอเพียง ภาคเรียนที่ 1/2565
บทที่ 5 สรุปผล อภปิ รำยผล และข้อเสนอแนะ สรุปผล ผลการวิเคราะห์ สามารถสรุปไดด้ งั น้ี ตอนที่ 1 วิเคราะห์ขอ้ มูลส่วนตัวของผตู้ อบแบบประเมินโครงการ ตอนท่ี 2 วิเคราะห์ผลการประเมินกจิ กรรมโครงการพัฒนาทกั ษะชวี ติ นักศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชยั นาความรูส้ ชู่ วี ติ พอเพยี ง ภาคเรยี นท่ี 1/2565 ตอนที่ 3 วเิ คราะห์ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะอน่ื ๆ ตอนท่ี 1 วิเครำะหข์ อ้ มลู ส่วนตัวของผตู้ อบแบบประเมินในภำพรวม ผู้ตอบแบบประเมินโครงการ จานวน 152 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จานวน 88 คน คิดเป็นร้อยละ 57.90 เพศชาย จานวน 64 คน คิดเป็นร้อยละ 42.10 ตามลาดับ ส่วนใหญ่มีอายุ 15 – 29 ปีจานวน 99 คน คิดเป็นร้อยละ 65.10 รองลงมา คือ 30 - 49 ปี จานวน 46 คน คิดเป็นร้อยละ 30.30 และอายุ 50 ปีขึ้นไป จานวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 4.60 ระดับการศึกษาส่วนใหญ่ศึกษาอยู่ในระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น จานวน 77 คน คิดเป็นร้อยละ 50.70 รองลงมา คือ มัธยมศึกษาตอนปลาย จานวน 73 คน คิดเป็นร้อยละ 48.00 และระดบั ประถมศกึ ษา จานวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 1.3 สาหรับอาชีพ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้าง จานวน 74 คน คิดเป็นร้อยละ 48.70 รองลงมา คือส่วนใหญ่ประกอบ อ่ืน ๆ (ไม่ได้ประกอบอาชีพ) จานวน 66 คน คิด เปน็ รอ้ ยละ 43.40 และเกษตรกรรม จานวน 12 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 7.90 ตามลาดับ ตอนที่ 2 วิเครำะห์ผลกำรประเมินกจิ กรรมโครงกำรพัฒนำทกั ษะชีวิตนกั ศึกษำ กศน.อำเภอโชคชัย นำควำมร้สู ู่ ชีวติ พอเพยี ง ภำคเรียนท่ี 1/2565 ตารางท่ี 2.1 พบวา่ โครงการเปดิ โลกการศกึ ษาส่สู งั คมดจิ ิทลั นกั ศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย ภาคเรียนที่ 2/2564 มีผลการประเมินโครงการในภาพรวม อยูใ่ นระดับมาก (̅=4.15) เม่ือพิจารณาเปน็ รายด้านพบวา่ ดา้ น หลักสตู ร มีผลการประเมนิ อย่ใู นระดับมาก (̅=4.23) รองลงมาคือ ดา้ นวทิ ยากร มผี ลการประเมิน อย่ใู นระดับ มาก (̅=4.13) และดา้ นสถานที่ ระยะเวลา และความพึงพอใจ มผี ลการประเมิน อย่ใู นระดับมาก (̅=4.11 ) ตามลาดับ 39 สรปุ ผลการดาเนนิ งานโครงการพฒั นาทกั ษะชวี ิตนกั ศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้สู่ชวี ติ พอเพยี ง ภาคเรียนท่ี 1/2565
ตารางที่ 2.2 พบว่าโครงการเปิดโลกการศึกษาสู่สังคมดิจิทัล นักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย ภาคเรียนที่ 2/2564 มีผลการประเมินโครงการในด้านหลักสูตร อยู่ในระดับมาก (̅=4.23) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า เนื้อหาของหลักสูตรตรงกับความต้องการผู้ร่วมกิจกรรม มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.39) รองลงมา คือ กิจกรรมสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการ มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.34 ) การจัด กิจกรรมส่งเสริมให้ผู้ร่วมกิจกรรมสามารถ คิดเป็น ทาเป็น แก้ปัญหาเป็น มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.29) ผู้ร่วมกิจกรรมสามารถนาความรู้ไปปรับใช้ในการปฏิบัติงาน มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.09) และผู้ร่วมกิจกรรมมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อการจัดทาโครงการ มีผลการประเมิน อยู่ใน ระดับมาก (̅=4.05) ตามลาดับ ตารางท่ี 2.3 พบวา่ โครงการพฒั นาทกั ษะชวี ติ นักศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชยั นาความรู้ส่ชู วี ิตพอเพยี ง ภาคเรยี นที่ 1/2565 มีผลการประเมนิ ฯ ในดา้ นวิทยากร อยใู่ นระดบั มาก (̅=4.13) เมื่อพจิ ารณาเป็นรายข้อ พบว่า บคุ ลิกภาพของวิทยากร มผี ลการประเมนิ อยใู่ นระดบั มาก (̅=4.21) รองลงมาคอื วทิ ยากรมกี ารใชส้ ่ือท่ี สอดคล้องและเหมาะสมกบั กจิ กรรม มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.14) วทิ ยากรมีเทคนคิ วธิ กี ารใน การจดั การถ่ายทอดองคค์ วามรู้ มผี ลการประเมนิ อยใู่ นระดับมาก (̅=4.09) และวิทยากรมีความรคู้ วามสามารถ ในการถา่ ยทอดองคค์ วามรู้ มผี ลการประเมิน อยใู่ นระดบั มาก (̅=4.08) ตามลาดับ ตารางท่ี 2.4 พบว่าโครงการพัฒนาทักษะชีวิตนักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้สู่ชีวิตพอเพียง ภาคเรียนที่ 1/2565 มีผลการประเมินฯ ในด้านสถานที่ ระยะเวลา และความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก (̅=4.10) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ประโยชน์ที่ได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรมตามโครงการ มีผลการ ประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.23) รองลงมาคือ ความพึงพอใจในภาพรวมของผู้ร่วมกิจกรรมต่อการเข้าร่วม กิจกรรม มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.21) ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม มีผลการประเมิน อยู่ในระดับมาก (̅=4.08) และสถานทีใ่ นการจดั กิจกรรมเหมาะสม มผี ลการประเมนิ อยู่ในระดบั มาก (̅=3.91 ตามลาดบั ตอนท่ี 3 วเิ ครำะห์ควำมคิดเห็นและข้อเสนอแนะอน่ื ๆ 1. ควรใหจ้ ดั กจิ กรรมแบบนี้อยา่ งต่อเน่ือง 2. ควรจดั กจิ กรรมให้เพ่มิ ฐานการเรยี นรู้ ให้หลากหลาย ใช้สอื่ เทคโนโลยใี นการสอนใหม้ ากชน้ึ อภปิ รำยผล จากการสรุปผลการประเมินโครงการพัฒนาทักษะชีวิตนักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้สู่ชีวิต พอเพียง ภาคเรียนที่ 1/2565 มีผลการประเมนิ โครงการโดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (̅=4.15) ทั้งนี้เป็นเพราะ คณะทางาน ได้ประชุมชีแ้ จงวางแผนการดาเนินงาน แกบ่ ุคลากร กศน.อาเภอโชคชัย กาหนดรปู แบบ และแผนการ ดาเนินงาน การจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน จัดเตรียมความพร้อมในการดาเนินงานโครงการ มีการนิเทศ 40 สรุปผลการดาเนนิ งานโครงการพัฒนาทกั ษะชวี ิตนักศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรสู้ ่ชู ีวติ พอเพียง ภาคเรียนที่ 1/2565
กจิ กรรมโครงการอย่างตอ่ เน่ือง เพอ่ื แก้ไขปรบั ปรุงใหเ้ กดิ ความเหมาะสม จากผลการประเมินดังกล่าว มีประเดน็ ท่ีน่าสนใจนามาอภิปรายผล ดังน้ี พบว่า ประโยชน์ที่ได้รับจากการ เขา้ รว่ มกิจกรรมตามโครงการ มผี ลการประเมินอย่ใู นระดบั มาก (̅=4.23) ซง่ึ นักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย ท่ีเข้า ร่วมกจิ กรรม นาความรู้ ตระหนกั ถงึ ความสาคัญของการเรียนการสอน มีทักษะกระบวนการคิด วิเคราะห์ ค้นคว้า หาคาตอบด้วยตนเอง และนาไปพัฒนาตนเอง พัฒนางานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากย่ิงข้ึน ซ่ึงสอดคล้องกับ นโยบาย สานักงาน กศน. ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาบูรณาการเช่ือมโยง กับระบบฐานข้อมูลของกระทรวงและหน่วยงานต่าง ๆ ที่ครอบคลุมด้านสาธารณสุข สังคม ภูมิสารสนเทศ และการศึกษา จะเปน็ เคร่ืองมือสาคัญในการจัดระบบดแู ลและพฒั นาคนทกุ คนอย่าง รอบด้าน เพื่อกระจายโอกาส และความเสมอภาคในการรับบริการการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิต ลดความเหล่ือมล้าทางการศึกษา โดยใช้ หลักสูตรและการจัดกระบวนการเรียนรู้ท่ีตอบสนองความต้องการของผู้เรียน ชุมชน สังคมและประเทศชาติ ผ่าน ระบบเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงรูปแบบและช่องทางการเรียนรู้กับการเปล่ียนแปลงบริบทด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และส่ิงแวดล้อม ในรูปแบบที่หลากหลาย ทาให้นักศึกษา คิดเป็นวิเคราะห์ได้ ตัดสินใจภายใต้ฐานข้อมูลท่ีถูกต้อง ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ จิรวัฒน์ วีรังกร (2542 : 3-4) กล่าวไว้ว่า ประโยชน์ที่ได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรม มุมมองของนักศึกษาผู้ร่วมกิจกรรม และ นักศึกษาผู้จัดกิจกรรมที่ว่า ทางมหาวทิ ยาลัยมีกิจกรรมหลายด้าน ทาให้นักศกึ ษามีพฒั นา การดา้ นสติปญั ญา ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ และการ อยู่ในสังคม ได้รับหลักการคิดสาหรับการดาเนินชีวิตและการทางานใน อนาคต ตลอดจนถ้ามีการจัดกิจกรรม นักศึกษาท่ีถูกต้องและ เหมาะสมนั้น จะช่วยพัฒนานักศึกษาหลายประการ ทั้งด้าน ความคิด ทัศนคติ พฤติกรรม ตลอดจนความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ เพื่อท่ีจะสร้างและหล่อหลอมให้เป็นบุคคล ท่ีมีคุณภาพ คือเป็น ทง้ั คนดคี นเกง่ สามารถออกไปใช้ชีวติ อยู่ ในสงั คมได้อย่างมีความสุข ทาให้ผู้เข้าร่วมโครงการมีความรู้ ความเข้าใจ พัฒนาทกั ษะการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยผ่านกระบวนการ โครงการพัฒนาทักษะชีวิตนักศึกษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้สู่ชีวิตพอเพียง ภาคเรียนท่ี 1/2565 และเป็น การจดั การศึกษาให้บรรลุเป้าหมายการพฒั นาประเทศได้ ส่งผลให้โครงการ ฯ ประสบผลสาเร็จตามวัตถุประสงค์ท่ี กาหนดไว้ ข้อเสนอแนะเพ่อื กำรพัฒนำครัง้ ต่อไป -ควรจัดกิจกรรมสานสมั พันธ์ระหวา่ งครูกบั ผู้เรยี น เชน่ กิจกรรมต้อนรับนกั ศกึ ษาใหม่ เปน็ ประจาทุกปี 41 สรุปผลการดาเนนิ งานโครงการพัฒนาทกั ษะชีวิตนกั ศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรูส้ ชู่ ีวติ พอเพยี ง ภาคเรียนที่ 1/2565
บรรณนานุกรม สำนักงำน กศน. (2558). กรอบการจดั กจิ กรรมพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี นตามนโยบายการจัดการศึกษา นอกระบบระดบั การศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน สานักงาน กศน. [ออนไลน]์ เข้ำถึงไดจ้ ำก http://sukho.nfe.go.th/UserFiles/File/download/2558/Conceptual_%20Framework.pdf (วนั ทค่ี ้น ข้อมลู วนั ท่ี 25 มถิ นุ ำยน 2565). สำนักงำน กศน. (2565). ยทุ ธศาสตรแ์ ละจุดเนน้ การดาเนนิ งาน สานกั งาน กศน. ประจาปี งบประมาณ พ.ศ. 2565. [ออนไลน์]. เขำ้ ถึงไดจ้ ำก http://nakhonsi.nfe.go.th//contents/pages/2021- 11-02/4.1ONIE_Pol65-Draft.pdf (วนั ทค่ี น้ ขอ้ มูล วันท่ี 25 มถิ ุนำยน 2565).
ภาคผนวก
โครงการพฒั นาทักษะชวี ติ นกั ศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชยั นาความรู้สชู่ วี ติ พอเพียง ภาคเรยี นท่ี 1/2565 วันที่ 29 พฤษภาคม 2565 กศน.อาเภอโชคชัย จัดโครงการพัฒนาทักษะชีวิตนักศึกษา กศน.อาเภอ โชคชัย นาความรู้สู่ชีวิตพอเพียง ภาคเรียนท่ี 1/2565 โดยได้รับเกียรติจาก นายสันติ จิรพรเจริญ ท่ีปรึกษา คณะกรรมการสถานศึกษา เป็นประธาน และนางจีระภา วัฒนกสิการ ผู้อานวยการ กศน.อาเภอโชคชัย กล่าวรายงาน และในการนี้ได้มีกิจกรรมรับวุฒิบัติผู้สาเร็จการศึกษา หลักสูตร การศึกษานอกระบบระดับ การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ณ โรงเรียนโชคชัยพรหมบุตรบริหาร อาเภอโชคชัย จังหวัด นครราชสีมา
รายชอ่ื ผรู้ ว่ มโครงการพฒั นาทักษะชวี ติ นักศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรสู้ ชู่ วี ติ พอเพยี ง ภาคเรียนที่ 1/2565 วันอาทติ ยท์ ่ี 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 ณ หอประชมุ โรงเรียนโชคชยั พรหมบตุ รบริหาร ตาบลโชคชัย อาเภอโชคชยั จงั หวัดนครราชสีมา ลาดบั ที่ เลขประจาตวั นกั ศกึ ษา ชอื่ -สกลุ หมายเหตุ 1 6512000010 นางสาวกนกวรรณ พนั ธสกลุ 2 6512000029 นายศุภนฐั กาวกระโทก 3 6512000038 นายนพคุณ วรรณบดุ ดี 4 6512000047 นางสาวอารยี า ไฟกระโทก 5 6512000056 นายภาณพุ งศ์ ภกั เกษม 6 6512000065 นางสาวรัตนาภรณ์ ภมู ี 7 6512000074 นางสาวปยิ พร เบ็ญมาส 8 6512000083 นางสาวเณรญั ญา ออ่ นสมยั 9 6512000092 นางสาวนาตาลี โบกลาส 10 6512000104 นางสาวองั ศวุ รี ์ อินกา๋ 11 6512000113 นางสาวกนกวรรณ กรพนั ธกลุ 12 6512000122 นางสาวสุภสั สรา เพช็ รดอน 13 6512000131 นายชนะชัย เซกระโทก 14 6512000140 นางสาวณชิ นนั ทน์ มุง่ แฝงกลาง 15 6512000159 นายคณาธิป ถงุ กง่ิ 16 6512000168 นายพลพล เม่ือยกระโทก 17 6512000177 นายกฤตภาศ วงศ์เมือง 18 6512000186 นายจิรเดช เนาว์ขุนทด 19 6512000195 นางสาวอศิ รา แบนอภยั 20 6512000207 นางสาววยิ ดา ทศิ กระโทก 21 6512000216 นายนัฐวฒุ ิ ชั้นกระโทก 22 6512000225 นายสิทธิโชติ ศรสี วุ รรณสิริ 23 6512000234 นายศุภกจิ ชว่ งครบรุ ี 24 6512000243 นางสาวศริ ประภา พงิ ผกั แวน่ 25 6512000252 นางสาวรงุ่ นภา อาลยั ดี 26 6512000261 นายสรุ ชาติ งาผกั แวน่ 27 6512000270 นางสาวปานรวี เจนปรุ 28 6512000289 นายธันวา ปลอ้ งกระโทก 29 6512000298 นายชาญณรงค์ คาแหงพล 30 6512000010 นางสาวกนกวรรณ พันธสกุล
รายช่ือผ้รู ่วมโครงการพฒั นาทกั ษะชวี ติ นกั ศกึ ษา กศน.อาเภอโชคชัย นาความรู้สูช่ ีวติ พอเพยี ง ภาคเรยี นท่ี 1/2565 วันอาทติ ยท์ ี่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 ณ หอประชมุ โรงเรียนโชคชยั พรหมบตุ รบริหาร ตาบลโชคชัย อาเภอโชคชยั จังหวดั นครราชสีมา ลาดบั ที่ เลขประจาตวั นักศกึ ษา ชอ่ื -สกลุ หมายเหตุ 31 6512000300 นายอภลิ กั ษณ์ สืบจะบก 32 6512000319 นายยทุ ธนา บญุ อ่อน 6512000328 33 นายธนฐั ชาลวนั กุมภรี ์ 34 6512000337 นายเกยี รติชาย การบรรจง 35 6512000346 นางสาวอรกช หมก่ี ระโทก 36 6512000355 นายฉตั รชัย ค้อนกระโทก 37 6512000364 นางสาวสุนสิ า รวยสนั เทียะ 38 6512000373 นางสาวศศพิ มิ พ์ หลงพลบั พลา 39 6512000382 นายธรี วฒั น์ ภ่แู ดง 40 6512000391 นายอภิรักษ์ ปอ้ กระโทก 41 6512000403 นางสาวกัญฐญารตั น์ บดกระโทก 42 6512000412 นายชัยวฒั น์ จนั ทร์ผกั แว่น 43 6512000421 นางสาวณฐั ชา บุญทศั น์ 44 6512000430 นางสาวรัตนา ม่ังสูงเนิน 45 6512000449 นายทกั ษพร ผดุงกิง่ 46 6512000458 นางสาวทพิ กฤตา แชกระโทก 47 6512000467 นายกิตตทิ ตั เพง็ สะเทยี ม 48 6512000476 นายปวรศิ เจียรส์ ุคนธ์ 49 6512000485 นายกษิเดช ฉากกระโทก 50 6512000494 นายสงกรานต์ จ้อกระโทก 51 6512000506 นางสาวเกวลี ป่วงกระโทก 52 6512000515 นายภาคิน แสงเดือน 53 6512000524 นางสาวชลดา บญุ ทอง 54 6512000533 นายขัตตยิ ะ ยน่ื กระโทก 55 6512000542 นายสุทธิพัฒน์ หงทอง 56 6512000551 นางสาวรุง่ ฤดี ทองซ้อน 57 6512000560 นายภธู เนศ ดวงจาปา 58 6512000579 นายปิยชาติ แปน้ กระโทก 59 6512000588 นางสาวชาลิสา กระพนื้ นอก 60 6512000597 นางสาวฟา้ ประธาน ไชยกระโทก
Search