Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประวัติศาสตร์

ประวัติศาสตร์

Published by jengadisorn, 2019-12-12 03:15:19

Description: ประวัติศาสตร์

Search

Read the Text Version

อาณาจักรล้านนา อาณาจกั รล้านนา เรมิ่ กอ่ ตง้ั ขน้ึ เมอ่ื พญามังรายทรงสรา้ งเมืองเชยี งใหมใ่ น พ.ศ. 1839 เพอ่ื ใหเ้ ปน็ ศนู ย์กลางการปกครองของเมอื งทีอ่ ย่ภู ายใต้พระราชอานาจ ของพระองค์ และได้ดารงอยูต่ อ่ มา 600 ปีเศษจนถงึ พ.ศ. 2442 เมื่อพระบาทสม เด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยูห่ วั ทรงประกาศยกเลกิ หัวเมอื งประเทศราชให้อาณาจักร ลา้ นนาซง่ึ อยใู่ นฐานะเมืองประเทศราชเปลยี่ นฐานะเปน็ มณฑลพายัพ ผ้กู ่อต้ังอาณาจกั รลา้ นนาไดแ้ ก่ พญามงั ราย (พ.ศ. 1782 – 1854) ซ่งึ ตามตา นานพน้ื เมอื งเชยี งใหม่กลา่ วว่าเปน็ โอรสของลาวเมง กษัตรยิ อ์ งคท์ ่ี 24 แหง่ แควน้ หิ รญั นคร หรือเงนิ ยางเชียงแสนพระมารดาคอื นางอ้ัวมง่ิ จามเมือง หรือ นางเทพคาขา่ ย ซ่งึ เปน็ ธดิ าของทา้ วรงุ่ แก้นชาย กษัตรยิ ไ์ ทลอื้ แหง่ เมอื งเชยี งรุง้ เขตสบิ สองปันนา พญามังรายประสูตเิ มอ่ื พ.ศ. 1782 ตอ่ มาเม่อื พระบิดาสวรรคตกไ็ ดเ้ สวยราชย์ แทนใน พ.ศ. 1804 หลงั จากขนึ้ ครองราชแล้ว พญามงั รายมปี ระสงค์จะสรา้ งอาณา จกั รให้ยง่ิ ใหญ่จงึ ทรงรวบรวมเมอื งตา่ งๆ เขา้ ไวใ้ นอานาจ และทรงสรา้ งเมืองใหมแ่ ละ ยา้ ยราชธานมี ายงั เมอื งท่สี รา้ งใหมต่ ามลาดบั ดังน้ี พ.ศ.1805สรา้ งเมอื งเชียงราย พ.ศ.1816 สรา้ งเมอื งฝาง (อาเภอฝาง จงั หวดั เชียงใหม่ ในปัจจบุ นั ) พ.ศ. 1829 สรา้ งเวียงกมุ กาม (อยใู่ นอาเภอสารภี จงั หวดั เชยี งใหม)่ เมื่อรวบรวมเมอื งทางตอนบนในลมุ่ แมน่ า้ กกได้เรยี บรอ้ ยแลว้ พญามังรายก็ ขยายอานาจลงมาทางใต้ ลงสูล่ มุ่ แมน่ า้ ปงิ ตอนบน ทรงใชอ้ บุ ายสง่ คนไปเปน็ ไส้ศกึ ในแควน้ หรภิ ญุ ชยั นานถงึ 7 ปี คนของพระยามังรายยยุ งชาวหริภุญชยั ใหก้ ระดา้ ง กระเด่อื งตอ่ พญาญบี า กษัตรยิ แ์ ห่งหรภิ ุญชยั ไดส้ าเร็จ พญามังรายจงึ ยดึ เมอื งหรภิ ุญ ชัยได้โดยงา่ ยเม่ือ พ.ศ. 1835 ตอ่ มาพญามงั รายทรงเห็นวา่ พน้ื ทรี่ ะหวา่ งทร่ี าบลมุ่ แม่ น้าปงิ และดอยสเุ ทพมีชยั ภูมเิ หมาะสมจึงสรา้ งราชธานใี หม่ขน้ึ ขนานนามวา่ “นพบุรี ศรีนครพงิ คเ์ ชยี งใหม”่ ถือเป็นจดุ เร่ิมตน้ ของการสร้างอาณาจกั รลา้ นนาและพญา มงั รายทรงเป็นกษัตริยข์ องราชวงศ์มังรายแห่งล้านนา พญามังรายแหง่ ล้านนา พญางาเมอื งแหง่ พะเยา และพอ่ ขุนรามคาแหงแห่ง สุโขทยั เปน็ ศษิ ย์รว่ มสานกั นกั เรียนเดยี วกนั ทเ่ี มอื งละโว้ และเปน็ สหายร่วมสาบานกนั เมือ่ จะสรา้ งเมอื งเชยี งใหมพ่ ญามงั รายได้เชญิ สหายทง้ั สองพระองคม์ าปรกึ ษา หารอื ดว้ ย การทก่ี ษัตรยิ ์ชาวไทย 3 พระองคม์ คี วามสัมพนั ธ์อนั ดีตอ่ กนั เชน่ น้ี ทาใหร้ ัฐของ คนไทยมีความมน่ั คงและสามารถขยายอาณาเขตออกไปได้ เพราะไมต่ ้องหว่ งหนา้ พะ วงหลงั และเพอ่ื ปอ้ งกนั การรกุ รานของชาวจนี สมยั ราชวงศม์ องโก (เจง็ กสี ขา่ น) ที่ ขยายอานาจลงมาในภูมิภาคนพี้ ญามงั รายทรงควบคุมเมืองตา่ งๆ ใหอ้ ยใู่ นอานาจได้

อยา่ งสมบรู ณ์ อาณาเขตลา้ นนาในสมยั พญามงั ราย ทิศเหนอื คอื เชยี งรุง่ เชยี ง ตุง ทิศตะวนั ออกจดแมน่ ้าโขง ทศิ ใต้ถึงลาปาง ทิศตะวนั ตกถงึ แมน่ ้าสาละวิน ทางด้านการกอ่ สร้างเพ่ือสาธารณะประโยชน์ พญามงั รายทรงสรา้ งตลาดแล สะพานข้ามแมน่ ้าปิงทเี่ วยี งกุมกาม สรา้ งเหมืองฝายหลายแหง่ เพอ่ื ทดนา้ ไปใช้ใน การเกษตร สรา้ งทานบกนั้ นา้ ชนาดใหญย่ าวถึง 30 กิโลเมตรเพอื่ ปอ้ งกนั นา้ ทว่ ม เวียงกุมกาม ซึ่งถอื เปน็ การทา “ชลประทาน” คร้ังแรกของชนชาตไิ ทย ทางด้านการปกครอง เชียงใหมม่ ฐี านเป็นศนู ยก์ ลางของอาณาจกั ร พญามัง รายทรงบรหิ ารราชการบ้านเมอื งทเี่ ชยี งใหม่ ตลอดพระชมน์ชพี สว่ นเมอื งลาพนู ทรง แต่งตงั้ อา้ ยฟา้ ปกครอง โดยอยูใ่ นฐานะเปน็ เมอื งบริวารของเชียงใหม่ ซงึ่ เชยี งใหม่ ปกครองอยา่ งใกล้ชดิ เสมือนเมืองแฝด ระยะน้ีลาพนู เปน็ ศูนยก์ ลางทางศาสนา ขณะท่ี เชียงใหม่เปน็ ศนู ยก์ ลางการเมอื งการปกครอง ส่วนเมืองเชยี งรายมีความสาคญั อนั ดับ รองจากเมอื งเชียงใหม่ พญามงั รายจงึ สง่ ขนุ คราม โอรสไปปกครอง สมยั พญามงั รายพบวา่ ดนิ แดนล้านนาแบง่ เปน็ 2 สว่ น คอื ล้านนาตอนบน (แควน้ โยนก) มเี ชยี งรายเปน็ ศนู ยก์ ลาง สว่ นลา้ นนาตอนล่าง มเี ชียงใหมเ่ ปน็ ศูนย์ กลาง ลกั ษณะเช่นนสี้ บื มาอีกหลายสมยั นอกจากนั้นเมืองอน่ื ๆ จะส่งโอรสหรอื ญาติ ตลอดจนขนุ นางทไ่ี ว้วางใจไปปกครอง ตามลาดับความสาคัญของเมือง พญามังรายได้ ตรากฏหมายขนึ้ เพอ่ื ใช้เป็นหลกั ในการปกครองครองเรยี กวา่ “กฏหมายมังรายศาสตร์”นบั เปน็ กฏหมายทีเ่ ปน็ ลายลกั ษอ์ กั ษรฉบบั แรกของไทย และยังไดป้ ระดษิ ฐ์ตวั อกั ษรขน่ึ ใช้เอง คือ “อกั ษรไทยยวน” หรอื “ไทยโยนก” นับวา่ การเริ่มตน้ ของตวั อักษรของชนชาติไทยเปน็ ครังแรก ปัจจุบนั ตวั อกั ษรไทยยวน ได้ กลายสภาพเปน็ “อักษรคาเมอื ง” ของชาวพน้ื บา้ นในภาคเหนือของประเทศไทย และ ยังไดม้ ีการนาเอาพทุ ธศาสนาเข้ามาเผยแพรอ่ ย่างกว้างขวางในอาณาจกั รล้านนา นบั เป็นการเร่ิมตน้ ของพทุ ธศาสนาของชนชาตไิ ทย พญามังรายได้รับอทิ ธพิ ลพระพุทธศาสนาจากหริภุญไชย พระองคไ์ ดโ้ ปรดให้ สร้างเจดยี ก์ ู่คาเลยี นแบบเจดยี ก์ กู่ ุด (อยทู่ ี่ลาพูน) สรา้ งวัดกานโถม (วดั ชา้ งคา้ ) พรอ้ ม กบั สรา้ งเจดยี ์ สร้างพระพุทธรูป และกัลปนาทีด่ นิ และข้าพระด้วย พญามงั รายมคี วามสมั พนั ธ์ทด่ี ตี ่อพอ่ ขนุ รามคาแหง และพญางาเมอื ง (เจา้ เมืองพะเยา) กษตั ริยท์ ง้ั สามพระองคอ์ ยู่ในฐานะพระสหายรว่ มน้าสาบาน การเปน็ ไมตรที ่ดี ตี อ่ กันนนั้ กเ็ พื่อร่วมมอื กันตอ่ ตา้ นภยั จากมองโกล ซ่งึ กาลงั ขยายอานาจใน เวลาน้ัน กลา่ วคอื กองทัพมองโกลตไี ดน้ า่ นเจา้ พ.ศ. 1796 ไดฮ้ านอย(เวียตนาม) พ.ศ. 1800 และไดพ้ กุ าม (พมา่ ) พ.ศ. 1830 ซงึ่ ในปที ่ีพกุ ามแตก กษัตริยท์ ง้ั สาม พระองคไ์ ด้ทาสัญญาเปน็ ไมตรกี นั ในการปอ้ งกนั ภยั จากมองโกล นอกจากพญามัง

รายจะใชน้ โยบายเปน็ ไมตรกี บั สโุ ขทยั และพะเยาแลว้ ยงั ใชก้ ารทาสงครามอกี ด้วย การทาสงครามกับมองโกลมขี อ้ สงั เกตวา่ จะเกดิ ขึ้นหลงั กอ่ ตงั้ อาณาจกั รลา้ นนา เข้าใจ วา่ เป็นชว่ งอทิ ธิ พลของมองโกลลดลงอย่างมาก หลงั จากสิ้นพระชนมข์ องกุบไลขา่ น ในปี พ.ศ. 1837 เมือ่ ถงึ สมยั ธนบรุ ี ผูน้ าล้านนา ไดแ้ กพ่ ระเจา้ กาวลิ ะ และพญาจ่าบ้าน (บุญมา) ตอ้ งการเปน็ อสิ ระจากการยดึ ครองพมา่ ซง่ึ ไดย้ ึดครองสมยั พมา่ ยกทัพเขา้ ตกึ รงุ ศรี อยุธยาจงึ ได้สวามภิ ักด์ิตอ่ สมเด็จพระเจา้ ตากสนิ ขอกาลงั สนับสนนุ ไปตเี ชียงใหม่ สามารถยดึ เมอื งเชียงใหมก่ ลบั คืนมาได้ เมอื่ พ.ศ. 2317 สมเด็จพระเจา้ ตากสนิ ฯ จึง โปรดเกลา้ ให้เจา้ กาวลิ ะเปน็ เจา้ เมอื งลาปาง พญาจ่าบา้ นเป็นเจ้าเมืองเชยี งใหม่ ตอนปลายสมัยธนบุรี เมืองเชยี งใหมถ่ ูกท้ิงรา้ งจนถึงสมยั รชั กาลท่ี 1 แหง่ กรงุ รัตนโกสนิ ทร์ ฯ ไดโ้ ปรดเกล้าใหพ้ ระเจา้ กาวลิ ะไปเปน็ เจา้ เมอื งเชียงใหม่ แทนพญา จา่ บ้านทเี่ สยี ชวี ิตลง จนถีง พ.ศ. 2347 กองทพั ลา้ นนาได้ร่วมกบั กองทัพจากกรุง เทพฯ (รตั นโกสนิ ทร)์ ช่วยกันบขบั ไลพ่ ม่าออกจากเมอื งเชียงแสนได้สาเร็จ ทาให้ ลา้ นนาหลดุ พ้นจากการยดึ ครองของพม่าไดส้ าเรจ็ ลา้ นนาเปน็ ประเทศราชของไทย (กรงุ รตั นโกสินทร์ฯ ) เร่ือยมา จนกระทง่ั ถงึ สมยั รชั กาลที่ 5 แหง่ กรงุ รตั นโกสนิ ทร์ฯ ไดป้ ระกาศรวมอาณาจักรลา้ นนาเขา้ เปน็ ส่วน หนึ่งของกรงุ รตั นโกสนิ ทรฯ์ โดยสถาปนาเปน็ “มณฑลพายัพ” ของกรงุ รตั นโกสินทร์ฯ เมอ่ื พ.ศ. 2442 ทมี่ า: กลุม่ สาระสังคมศกึ ษา โรงเรยี นวัฒโนทยั พายพั จงั หวัดเชยี งใหม่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook