Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือนิติเวช2562

คู่มือนิติเวช2562

Published by karunpich19, 2019-08-02 06:59:20

Description: คู่มือนิติเวช2562

Search

Read the Text Version



ชอื่ เรอ่ื ง คมู่ ือการปฏิบตั งิ านนติ เิ วช (สาหรบั แพทย์และบุคลากรทางการแพทย)์ 2562 ทปี่ รกึ ษา นพ. สมบตั ิ เตรียมแจ้งอรุณ บรรณาธกิ าร นางอรวรรณี สวนโคกกรวด พิมพค์ รัง้ ที่ 1 กรกฎาคม 2562 จดั พิมพ์โดย กลุม่ งานนติ เิ วช โรงพยาบาลขอนแก่น ข

ก คานา การปฏิบัติงานด้านนิติเวช เป็นการนาองค์ความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์ และความรู้ทางด้านการแพทย์ มา ประยุกต์ใช้ในงานด้านกระบวนการยุตธิ รรม ซ่งึ ในบางคร้ังหากผู้ปฏิบัติยังไม่เข้าใจอาจทาให้เกิดข้อผิดพลาดได้ อันเนื่องมาจากการขาดความรู้ ความชานาญและทักษะทางด้านนิติเวชศาสตร์ กลุ่มงานนิติเวช โรงพยาบาล ขอนแก่น จึงเห็นความสาคัญของการจัดทาคู่มือหรือแนวทางในการปฏิบัติงานด้านนิติเวช เพื่อเป็นแนว ทางการปฏิบตั งิ านให้แก่บุคลากร เพือ่ ให้เกดิ ประสิทธภิ าพและคุณภาพตามมาตรฐานวิชาชีพ คู่มือการปฏิบัติงานนิติเวช(สาหรับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์) จัดทาขึ้นเพ่ือให้บุคลากร ทางการแพทย์ ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน ทั้งงานด้านนิติพยาธิวิทยา เช่น การชันสูตรพลิกศพ ด้าน นิติเวชคลินิกสาหรับการตรวจผู้ป่วยคดี ด้านเวชศาสตร์ชันสูตรสาหรับการเก็บและแปลผลส่ิงส่งตรวจที่เป็น วตั ถุพยานทางการแพทย์ โดยคู่มือฉบับนี้ประกอบด้วยประกอบด้วย 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 ความรู้ทั่วไปด้าน นติ เิ วชศาตร์ และส่วนที่ 2 งานนติ เิ วชโรงพยาบาลขอนแกน่ ขอขอบคุณผู้ทรงคุณวุฒิ และขอบคุณคณะทางานที่ร่วมแรงร่วมใจในการจัดทาคู่มือการปฏิบัติงาน นติ ิเวช(สาหรบั แพทยแ์ ละบุคลากรทางการแพทย์) หวงั เปน็ อยา่ งยิ่งวา่ คู่มอื ฉบบั น้ีจะเป็นประโยชน์ต่อการการ ปฏิบตั งิ าน ของบคุ ลากรท่ีเกย่ี วข้อง อนั จะสง่ ผลให้เกิดผลลพั ธ์ทด่ี ตี อ่ ประชาชนผใู้ ช้บริการตอ่ ไป กลมุ่ งานนติ เิ วช โรงพยาบาลขอนแก่น กรกฎาคม 2562 คู่มอื การปฏบิ ตั ิงานนิติเวช (สาหรบั แพทย์และบคุ ลากรทางการแพทย์) 2562

สารบญั ข คานา หนา้ สารบญั ก ส่วนท่ี 1 ความรทู้ ่วั ไปด้านนติ ิเวชศาตร์ ข บทบาทหนา้ ทีข่ องนิตเิ วชคลินิก ส่วนที่ 2 การให้บรกิ ารงานด้านนติ ิเวช 1 ประเดน็ กฎหมายทีเก่ยี วข้อง 3 เอกสารอ้างอิง งานนิติเวชโรงพยาบาลขอนแก่น 3 ภาคผนวก บทบาทความรบั ผิดชอบ 15 ระบบบรกิ ารหอ้ งแก่นสขุ โรงพยาบาลขอนแกน่ 17 แผนภาพระบบบรกิ ารหอ้ งแกน่ สขุ กลมุ่ งานนติ เิ วช 17 11 โครงสร้างกลุ่มงานนิตเิ วช โรงพยาบาลขอนแกน่ 21 22 24 คมู่ อื การปฏิบตั ิงานนิตเิ วช (สาหรบั แพทยแ์ ละบุคลากรทางการแพทย์) 2562

1 นิติเวชวิทยา หรือ นิติเวชศาสตร์ (Forensic Medicine) เป็นวิชาแพทย์สาขาหน่ึงที่เก่ียวข้องกับกฎหมาย ซ่ึงนาเอาความรู้ของวิชาแพทย์ รวมท้ังวิทยาศาสตร์สาขาต่าง ๆ ไปประยุกต์เพื่อประโยชน์แก่กระบวนการ ยุติธรรม ในประเทศไทยมีนิตวิ ิทยาศาสตร์สมาคมแห่งประเทศไทย (The Forensic Science Association of Thailand) ซึ่งก่อต้ังเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ.2504 ปัจจุบันนิติเวชศาสตร์ มีการพัฒนามากขึ้น และได้แยก ออกเปน็ วชิ ายอ่ ยหลายสาขา ได้แก่ 1. นิติพยาธิวิทยา (Forensic Pathology) เป็นวิชาท่ีศึกษาถึงเร่ืองการตายต่าง ๆ ที่ผิดธรรมชาติ รวมทั้งการตายโดยธรรมชาติแบบกระทันหัน และไม่คาดคิด ซึ่งเป็นการตายท่ีส่วนใหญ่ยังไม่ทราบสาเหตุ เพ่ือแยกว่าไม่ใช่เป็นการตายท่ีผิดธรรมชาติ การ ตายทผ่ี ิดธรรมชาติในบางครั้งการชนั สตู รพลกิ ศพอย่างเดยี วก็ไม่สามารถบอกเหตตุ ายได้จาต้องทาการผ่าตดั หา เหตุตาย เช่น การตายจากยาบางชนิด เช่น กินยานอนหลับเกินขนาดต้องเอาของเหลวในกระเพาะอาหาร เลือด น้าปัสสาวะไปตรวจหายาที่เกินขนาดทางพิษวิทยา เป็นต้น การตรวจหาเหตุตายอย่างละเอียดร่วมกับ การไปตรวจสถานท่ีเกิดเหตุ และการซักประวัติสามารถจะบอกพฤติการณ์ท่ีตายได้ว่า การตายท่ีผิดธรรมชาติ น้ันเป็นการตายจากอุบัติเหตุ หรือทาอัตวินิบาตกรรม คือฆ่าตัวเองตายหรือถูกฆาตกรรมคือถูกผู้อ่ืนฆ่าได้ นอกจากน้นั ยังสามารถชว่ ยพนักงานสอบสวนในเร่อื งพิสจู น์ตวั บุคคลโดยตรวจศพและชิ้นส่วนของศพ ประมวล เวลาวา่ ศพท่ีตรวจนนั้ ตายมานานแล้วเทา่ ไร โดยอาศัยการเปล่ยี นแปลงของศพภายหลงั ตาย 2. นิติเวชคลินิก (Clinical Jurisprudence or Clinical Forensic Medicine) หรือบางคร้ังเรียกว่า ธรรมศาสตรค์ ลินกิ หมายถึง การตรวจผปู้ ่วยท่ีแพทย์ตรวจแลว้ ต้องให้ความเห็นแก่พนกั งานสอบสวนโดยอาศัย จากอาการและการตรวจร่างกาย และสิ่งตรวจพบ วัตถุพยานต่าง ๆ เช่น ผู้ป่วยถูกข่มขืนกระทาชาเรา ผู้ป่วย ได้รับอันตรายเกิดบาดแผลชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจากอุบัติเหตุ ทาตัวเอง หรือถูกทาร้ายจากบุคคลอ่ืน ผู้ป่วยถูก สารพิษชนิดต่าง ๆ ถกู สารทางกายภาพ เชน่ ความรอ้ น ไฟฟ้า เป็นต้น ได้รับอันตรายจากกลุ่มพวกขาดอากาศ เช่น จมน้า แขวนคอ เป็นต้น รวมทั้งบุคคลต่าง ๆ ท่ีพนักงานสอบสวนส่งมาให้แพทย์ทาการตรวจได้ เช่น คน ถูกวางยาสลบชนิดตา่ ง ๆ หญิงถูกข่มขนื กระทาชาเรา ตรวจอายบุ ุคคลวา่ อายุเทา่ ไร เปน็ ตน้ นอกจากน้ัน ผู้ป่วยที่อาจได้รับค่าชดเชยจากกรมแรงงาน แพทย์ก็จะต้องตรวจผู้ป่วยและให้ความเห็นแก่กรม แรงงานว่าการท่ีผู้ป่วยไดร้ ับอันตรายบาดเจ็บ ต้องพิการสูญเสียอวัยวะคิดเป็น ก่ีเปอร์เซ็นต์เพ่ือจ่ายเงินชดเชย ให้แก่ผู้บาดเจ็บ การตรวจผู้ป่วยคดีชนิดต่าง ๆ นี้ การท่ีแพทย์ให้ความเห็นแก่พนักงานสอบสวนในทาง คดีอาญาอาจนาไปใช้ในคดีแพ่งเก่ียวกับฟ้องร้องในเรื่องละเมิดได้อีกด้วย การทาพินัยกรรมของผู้ป่วยอาจจะ ต้องให้แพทย์เป็นพยานเพื่อรับรองว่าขณะทาพินัยกรรมผู้ป่วยมีสติสัมปชัญญะดี ไม่หมดสติ หรือสติฟั่นเฟือน หรือวิกลจริต 3. นิติจิตเวช (Forensic Psychiatry) เป็นหน่วยที่ใช้ความรู้ทางจิตเวช เพ่ือตรวจ และดูแลผู้ป่วย ทางจิตที่เป็นผู้ต้องหา หรือผู้ต้องขัง ทั้งน้ีเน่ืองจากกฎหมายมีความสนใจว่า การกระทาใดท่ีเป็นความผิดน้ัน ควรเกิดมาจากการกระทาท่ีมีเจตนา หรือเล็งวา่ จะเกิดผลนั้น แต่หากผู้กระทาไดก้ ระทาเรื่องน้ันไปในขณะที่ไม่ รู้ตัว ไมส่ ามารถควบคุมตนเองได้ หรือเกิดจากความหลงผดิ ทีม่ าจากความเจบ็ ปว่ ยทางจติ แลว้ ถือว่าขาดเจตนา ในการกระทานั้น จึงยังไม่ครบองค์ประกอบของการกระทาผิดตามกฎหมาย แต่ยังควรอยู่ในความดูแลของ คมู่ อื การปฏิบตั ิงานนิติเวช (สาหรบั แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์) 2562

2 แพทย์จนกว่าอาการเจบ็ ป่วยเช่นว่านั้นจะดขี ึ้น และไมก่ ่อให้เกิดอันตรายต่อบุคคลอ่ืนอีก ผ้ปู ฏิบตั ิจึงเป็นแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ 4. นิติทันตกรรม (Forensic Odontology) เป็นวิชาหนึ่งของวิชาทันตแพทย์ในเรื่องของการตรวจ ฟัน เช่น ตรวจเร่ืองอายุ การตรวจเพื่อพิสูจน์ตัวบุคคลโดยเปรียบเทียบกับการบันทึกของฟันขณะท่ีมีชีวิตอยู่ กบั ลกั ษณะฟนั ของคนตาย โดยเฉพาะในรายเน่ามาก ๆ หรอื ศพที่พบในกองเพลิง หรือเคร่ืองบินตกแล้วมีเพลิง ลุกไหม้ นิติพิษวิทยา (Forensic Toxicology) เป็นการตรวจหาสารพิษในอวัยวะต่าง ๆ ของคนตาย รวมท้ัง จากเลอื ด น้าดี น้าไขสนั หลงั และน้าปัสสาวะ ท่ีสงสัยว่าจะตายจากสารพิษ และที่ตายจากสารพิษ 5. พิษวิทยาคลนิ ิก (Clinical Toxicology) เป็นการตรวจหาสารพิษในผู้ป่วยท่ีถูกสารพิษวา่ มีขนาด มากนอ้ ยแค่ไหน โดยเฉพาะเปน็ สารพิษชนิดไหน เพอ่ื จะได้ใหย้ าแก้พิษที่ถูกตอ้ งรวมท้ังการรักษาทถ่ี ูกต้อง พิษวิทยาอุตสาหกรรม (Industrial Toxicology) เป็นการตรวจหาสารพิษในคนงานท่ีทางานใน โรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น โรงงานทาแบตเตอรี่ อาจมีอาการของพิษสารตะก่ัว โรงงานทาถ่านไฟฉาย อาจมอี าการของพิษสารแมงกานสี เปน็ ต้น พษิ วิทยาสิ่งแวดล้อม (Environmental Toxicology) เป็นการตรวจหาสารพิษจากส่ิงแวดล้อมต่าง ๆ เช่น อากาศเป็นพิษจากมีแก๊สคาร์บอนมอนน๊อกไซด์ มาจากท่อไอเสียของรถยนต์ มลภาวะไม่ดีจากโรงงาน ปล่อยของเสียออกจากโรงงาน ไม่ว่าจากน้าเสียหรือควันจากการเผาไหม้ ถ้าไม่มีการควบคุมโรงงานให้ดี อาจ เกิดพิษตอ่ สง่ิ แวดล้อม โดยเฉพาะคนท่อี าศัยอย่ใู กล้โรงงาน พิษวิทยาผู้อุปโภค (Consumer Toxicology) เป็นการตรวจหาสารพิษในอาหารต่าง ๆ เช่น นมจาก แถวประเทศสแกนดิเนเวียมีสารกัมมันตภาพรังสี ที่มีในนมอาจมีปริมาณท่ีเป็นอันตรายได้ถ้าอุปโภคไปบ่อย ๆ การใช้กรดซัลฟูริคแทนน้าส้มสายชู นอกจากนั้นยังมีสารพิษชนิดต่าง ๆ อาจปนมาโดยบังเอิญ หรือความ รู้เท่าไมถ่ งึ การณข์ องผู้ขายกไ็ พิษวิทยาอวกาศหรือการสงคราม (Aviation & Chemical Warfare Toxicology) เป็นการตรวจหา สารพิษท่ีใช้ในสงคราม เช่น ฝนเหลือง ท่ีอาจทาอันตรายต่อมนุษย์ สัตว์ และพืชพันธุ์ได้ที่เคยมีข่าวแถบ ชายแดนไทย-เขมรซึ่งเคยมีจรวดตกมาบริเวณชายแดนไทย เอาไปตรวจสอบพบว่ามีแก๊สพิษฟอร์มาลีนและ ไซยาไนด์ 6. นิติซีโรโลย่ี (Forensic Serology) เป็นวิชาที่ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในการตรวจเนื้อเย่ือของ ร่างกาย เลือด หรือสารคัดหลั่งต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ เป็นงานท่ีสนับสนุนงานการตรวจผู้ป่วย และการ ชันสูตรพลิกศพ เช่น การตรวจคราบอสุจใิ นคดขี ่มขืนกระทาชาเรา คดีฆาตกรรมทางเพศ การตรวจคราบเลือด การตรวจเส้นผม การตรวจหาสารพันธุกรร (DNA) เป็นต้น วัตถุพยานเหล่าน้ีอาจมาจากผู้ป่วย ศพ หรืออาจ เป็นวตั ถุพยานท่ีพนกั งานสอบสวนส่งมาตา่ งหาก กไ็ ด้ คู่มอื การปฏบิ ตั ิงานนิตเิ วช (สาหรบั แพทย์และบคุ ลากรทางการแพทย์) 2562

3 บทบาทหนา้ ทขี่ องนติ เิ วชคลินกิ มหี นา้ ท่ีความรบั ผิดชอบ ดงั นี้ (1) การตรวจร่างกาย ประเมินสภาพบาดแผลและการบาดเจ็บ เช่น กรณีทาร้ายร่างกาย กรณี ฆาตกรรม กรณีความผดิ ทางเพศ และการตรวจรา่ งกายอน่ื ๆ ท่เี ก่ยี วข้องกบั กระบวนการยุติธรรม (2) การจดั เกบ็ ชีววัตถุ วัตถุพยานจากบคุ คลเพือ่ ตรวจสารพนั ธุกรรม - เพื่อประกอบการดาเนนิ คดี - เพื่อยนื ยนั หรอื ปฏเิ สธความเปน็ บิดา-มารดา-บตุ ร และความเป็นเครอื ญาติ - เพ่อื การเปรยี บเทียบกับบุคคลสูญหาย (3) การจดั เก็บชวี วตั ถุ วตั ถพุ ยานจากบคุ คลเพ่ือตรวจสารพษิ สารเสพติด (4) การใหค้ าปรึกษาและให้ข้อมูลการตรวจทางนิติเวชคลนิ กิ แก่หน่วยงานที่รอ้ งขอ (5) การให้บริการด้านวชิ าการ และศกึ ษาดูงานทางนติ ิเวชคลนิ ิก (6) การดูแลช่วยเหลือ หรอื ใหก้ ารรักษาผปู้ ว่ ยคดี (7) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอ่ืนท่ีเกี่ยวข้องหรือ ท่ีได้รับ มอบหมาย การใหบ้ ริการงานดา้ นนิตเิ วช วิชานิติเวชศาสตร์ (Forensic Medicine) เป็นวิชาแพทย์สาขาหนึ่งของการแพทย์และเป็นส่วนหน่ึงของ นิติวิทยาศาสตร์ (Forensic Science) ซ่ึงหมายความว่าเอาความรทู้ างวิทยาศาสตร์ทุกสาขานามาประยุกต์ให้ เป็นประโยชน์กับกฎหมาย กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ (Law related to Medicine) ได้แก่ พระราชบัญญัติการประกอบวิชาชีพเวชกรรม พระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พระราชบัญญัติการ พยาบาลและผดุงครรภ์ พระราชบัญญตั ิยา เปน็ ต้น ในการสืบสวนสอบสวนของตารวจในคดีความต่าง ๆ เรียก วิชาการพิสูจน์หลักฐาน (Criminalistics) และกองหน่ึงของกรมตารวจ เรียกว่า กองพิสูจน์หลักฐาน การ ใหบ้ ริการงานด้านนิติเวช ได้แก่ 1. ก ารต รว จ ส ถ าน ที่ เกิ ด เห ตุ แ ล ะ ก ารถ่ าย รูป (Crime Scene Investigation and Forensic Photography) เพ่อื ประกอบคดีหาหลกั ฐานตา่ ง ๆ เพื่อนามาใชใ้ นคดี 2. การตรวจลายน้ิวมือ (Finger Prints) เพ่ือพิสูจน์ตัวบุคคล รวมทั้งลายนิ้วมือที่สงสัยในสถานท่ีเกิดเหตุ เพื่อนามาเปรยี บเทยี บกบั ลายนิ้วมอื ทมี่ ใี นแฟ้มประวตั ิของกรมตารวจเพื่อตรวจสอบ 3. การตรวจเอกสาร (Questioned Documents) เป็นการตรวจลักษณะและสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะ การตรวจธนบตั รปลอม เปน็ ต้น 4. การตรวจอาวุธปืน กระสุนปืน และวัตถุระเบิด (Firearms & Ballistics) เป็นการตรวจอาวุธปืนเพ่ือ พสิ ูจน์ปนื ของกลางในคดฆี าตกรรมต่าง ๆ 5. การตรวจทางเคมี (Forensic Chemical) เป็นการตรวจสารเคมี เช่น การตรวจวัตถุท่ีใช้ในการ วางเพลิง การตรวจสถานท่ีเกิดเหตทุ มี่ แี กส๊ คาร์บอนมอนน๊อกไซด์ เปน็ ตน้ 6. การตรวจทางฟิสิกส์ (Forensic Physics) เป็นการตรวจทางฟิสิกส์ เช่น การตรวจสถานท่ีเกิดเหตุไฟ ไหม้จากไฟฟ้าชอ็ ต การตรวจไฟเบอร์ชนดิ ต่าง ๆ โดยเฉพาะจากส่งิ ทอ เป็นตน้ คมู่ อื การปฏิบตั ิงานนิตเิ วช (สาหรบั แพทย์และบคุ ลากรทางการแพทย)์ 2562

4 ด้านนิติพยาธิวิทยา (Forensic Pathology) ประกอบด้วยการปฏิบัติงานในการชันสูตรพลิกศพ ณ ท่ี เกิดเหตแุ ละการผา่ ศพชันสตู ร (autopsy) ดงั รายละเอียด 1. การชนั สูตรพลิกศพ ณ ท่ีเกดิ เหตุ การชันสูตรพลิกศพ ณ ท่ีพบศพ เป็นการตรวจดูศพแต่เพียงภายนอก ซ่ึงกฎหมายมีเจตนารมณ์ให้ ดาเนินการในสถานท่ีพบศพ โดยห้ามเคลอื่ นยา้ ยศพ ยกเวน้ แต่ว่าเพอ่ื ป้องกนั อนั ตรายแก่อนามัยของประชาชน หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะอ่ืน ๆ เช่น ทาให้การจราจรติดขัดมาก หรืออาจจะเกิดการแพร่กระจายของ โรคติดต่อ หรือมีการเน่าเหม็น ซึ่งเป็นอันตรายต่อประชาชนทั่วไปก็สามารถเคลื่อนย้ายไปทายังสถานท่ีอ่ืนที่ เหมาะสมได้พนักงานผู้ชันสูตรพลิกศพ ในส่วนของแพทย์น้ัน ต้องเป็นแพทย์เรียงลาดับกันไปตามกฎหมาย บัญญัติดังน้ี (วิชาญ เปี้ยวน่ิม, 2544 และ2549) การชันสูตรพลิกศพน้ัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญาบัญญัติไว้ว่า ให้ทาการชันสูตรศพในที่พบศพในกรณีท่ีมีการตาย จากเหตุตายผิดธรรมชาติคือ ฆ่า ตัวตาย ถูกฆ่าตายตายจากอบุ ัติเหตุถูกสัตว์ทาร้ายตายหรือตายยัง ไม่ทราบเหตุและตายขณะท่ีอยู่ระหว่างการ ควบคุมของเจ้าพนักงาน ซึ่งเมื่อได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวน ว่ามีศพที่ต้องทาการชันสูตรให้เดินทางไปยัง สถานที่ที่พบศพโดยเร็ว การดาเนินการชันสูตร ต้องคานึงถึงวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกาหนดคือผู้ตายเป็น ใคร ตายท่ีไหน ตายนาน เทา่ ใด เหตุตายคืออะไร พฤติการณท์ ่ีตายเป็นอะไร และถา้ บอกว่าใครทาได้ให้ระบุลง ไปดว้ ยเท่าท่ที าไดก้ ารตรวจว่าผ้ตู ายเปน็ ใคร ตามกฎหมายไทยระบุให้ตารวจกบั แพทย์ ทาการชันสูตรพลกิ ศพในกรณตี ายผดิ ธรรมชาติ โดยกาหนด ใช้นิติเวชแพทย์ แพทย์ประจาโรงพยาบาลของรฐั นายแพทยส์ าธารณสุขจงั หวัด หรอื แพทย์ที่ขึน้ ทะเบียนไว้กับ กระทรวงสาธารณสุข การเตรียมความพร้อมแพทย์นิติเวช แพทย์ประจาโรงพยาบาลของรัฐหรือแพทย์อ่ืน ๆ ที่ต้องทาหน้าที่ชันสูตรพลิกศพ ณ ท่ีเกิดเหตุต้องปฏิบัตหิ น้าท่ีดังกล่าวตามท่ีกฎหมายกาหนดไว้และการงดเว้น การปฏิบัติอาจเป็นการผิดกฎหมาย แพทย์จึงควรเตรยี มความพรอ้ มไว้เสมอ เม่ือปฏิบัติหน้าที่จะได้ทาได้อย่าง ถูกต้อง สะดวก คลอ่ งตัวและปลอดภยั ซ่งึ มีขน้ั ตอนการปฏิบัตดิ ังน้ี 1.1 การเตรยี มความพรอ้ มก่อนออกปฏิบัตหิ นา้ ที่ 1.5.1 จัดทาตารางปฏิบตั กิ ารชนั สูตรพลิกศพ ณ ทเ่ี กดิ เหตุ 1.5.2 เตรียมการด้านยานพาหนะและอปุ กรณ์ ก. ยานพาหนะ หน่วยงานที่ได้จัดทาเวรชันสูตรศพ ณ ที่เกิดเหตุต้องบริหารการเตรียม ยานพาหนะ เพื่อการชันสูตร เช่น ใช้รถพยาบาล รถธุรการพร้อมพนักงานขับรถและ ค่าตอบแทน ข. อุปกรณก์ ารชนั สูตรทเ่ี กิดเหตุควรมีเครือ่ งมอื และอุปกรณ์อยา่ งน้อย ดังน้ี - กลอ้ งถ่ายรูป ที่สามารถถ่ายรูปในที่แคบ ถา่ ยรูปในที่มืด และควรมีระบบหาระยะชัด อตั โนมัติ - เครื่องมอื สือ่ สาร เช่น โทรศัพทม์ อื ถือ , วิทยสุ ่ือสาร - ถุงมอื ยาง 1 กลอ่ ง ไฟฉาย - ไมบ้ รรทัด สายวัดความยาว วัดไดอ้ ยา่ งนอ้ ย 5 เมตร วดั ได้ละเอียดเป็นเซนติเมตร คมู่ ือการปฏิบตั ิงานนติ ิเวช (สาหรบั แพทย์และบคุ ลากรทางการแพทย)์ 2562

5 - แบบรายงานการชันสูตร กระดาษเปล่า เคร่ืองเขียนหรืออุปกรณ์การบันทึกเอกสาร อ่ืน ๆ - ถุงพลาสติกหรือซองกระดาษ 2 ขนาด ขนาดเล็กและใหญ่สาหรับใส่วัตถุพยานตาม ขนาดทเ่ี หมาะสม และสาหรบั ใส่ชีววตั ถุพยานทั้งหมดทร่ี วบรวมได้ - Swab สาหรับเชด็ คราบต่างๆ จานวนมาก - ขวดใส่ NSS หรอื น้ากลน่ั สาหรบั ชุบ swab และ Forceps - กระดาษเปล่าสะอาด สาหรับหอ่ คราบเลอื ดทีข่ ูดออกมา - เทปเหนียวท่ีสามารถเขียนได้สาหรับตดิ และเขียนรายละเอยี ดของชีววัตถุพยาน - Syringe ขนาด 5 มล. พร้อมเข็มเบอร์ 20 สาหรับเจาะเลือดจาก femoral vessels และ vitreous humor และ syringe ขนาด 20 หรือ 50 มล. พร้อมเข็มเบอร์ 12 หรือ 14 ยาว 5 หรือ 6 นิ้ว สาหรับเจาะช่องอกและช่องท้องเพื่อตรวจดูเลือดออก และสาหรับเจาะเลือด ปัสสาวะ และกระเพาะอาหารเพ่ือนามาตรวจวิเคราะห์หา สารต่าง ๆ - หลอดแก้ว สาหรับใส่เลือดตรวจสารระเหย พร้อมแผ่นพาราฟินสาหรับพันที่รอยต่อ ระหว่างฝาจกุ และขวดเพื่อป้องกันการระเหย - ขวดแก้วสะอาดขนาดจุได้ 200 มล. สาหรับใส่เลือด ปัสสาวะ และสิ่งท่ีเจาะได้จาก กระเพาะอาหาร - ถุงกระดาษสาหรบั ห่อมือศพ หากตอ้ งนาศพกลับไปตรวจตอ่ ทโ่ี รงพยาบาลหรอื สง่ ศพ ไปตรวจต่อทีอ่ น่ื (อาจใช้ซองกระดาษสาหรับใสเ่ อกสารแทนได้) 1.5.3 บุคลากร นอกจากแพทยผ์ ้ชู นั สูตรแล้วควรเตรยี มบุคลากรอื่น ดังนี้ - พนักงานขับรถ - ผู้ช่วยแพทย์ตรวจศพ ทาหน้าท่ีถ่ายรูปด้วย ข้อควรระวังคือเร่ืองการทาลายสถานท่ี เกดิ เหตุจึงต้องช้ีแจงบุคลากรให้เข้าใจในเรอ่ื งน้ี 1.2 การตรวจเพ่ือพิสูจน์บุคคล กาหนดมาตรฐานขั้นต่าให้แพทย์ผู้ทาการชันสูตรพลิกศพกระทา โดยเฉพาะในกรณที ี่ศพทีพ่ บเป็นศพท่ียงั ไม่ทราบชอ่ื คือ ยังไม่มีใครแจ้งวา่ เป็นผใู้ ดหรือไม่มีใครรูจ้ ัก หรือช้นิ ส่วนของศพที่ยังไมท่ ราบว่าเปน็ ผู้ใด ซึง่ จะตอ้ งกระทา ดังตอ่ ไปน้ี - ถ่ายรูปศพเต็มตัวในสภาพทพ่ี บ ท้งั เส้ือผา้ ท่สี วมใสก่ ่อนการพลกิ ศพ - เมือ่ พลกิ ศพแลว้ ให้ถ่ายรปู เต็มตวั อีกคร้ังหนง่ึ ของศพ - บันทึกรายละเอียดรูปพรรณ เสื้อผ้า (ถ้ามี) พอสังเขป เช่น เส้ือเช้ิต เสื้อยืด คอปกคอกลม แขนสัน้ แขนยาว สี ลวดลาย กางเกงยนี ส์ขายาว สีเขม้ สีอ่อน เขม็ ขัด รองเท้า ถุงเท้า พรอ้ ม ถ่ายรปู ประกอบ - บนั ทกึ การประมาณอายุ เช่น วัยทารกแรกคลอด วัยทารก วัยเด็ก วัยฉกรรจ์ วัยกลางคน วัย ชรา ฯลฯ หรือไมส่ ามารถประมาณอายุได้ ถ่ายรูปใบหนา้ ดา้ นตรง 1 ภาพ เป็นอยา่ งน้อย ค่มู อื การปฏบิ ตั ิงานนติ ิเวช (สาหรบั แพทย์และบคุ ลากรทางการแพทย)์ 2562

6 - ถา้ มีเคร่อื งประดับที่เห็นชัด เช่น นาฬิกา สร้อยคอ สร้อยข้อมือ ตุ้มหู ให้บันทกึ ไว้และถ่ายรูป ประกอบ ซ่ึงพนกั งานสอบสวนจะเป็นผเู้ ก็บรักษาของเหล่าน้ี - การเก็บวัตถุพยานประกอบการพิสูจน์หลักฐานบุคคล ในกรณีท่ีเป็นวัตถุ เช่น เครื่องประดับ เอกสาร บัตรประชาชน บัตรอ่ืน ๆ เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ส่วนการเก็บชีววัตถุ อื่น ๆ ท่ีศพ หรือรอบ ๆ ศพ เช่น คราบเลือด วัสดุอ่ืน ๆ ที่เกิดเหตุให้เป็นหน้าท่ีของแพทย์ เกบ็ เพือ่ ตรวจทางห้องปฏบิ ตั กิ าร 1.3 การตรวจสภาพศพภายนอก ณ ท่ีเกดิ เหตุ เพือ่ หาเวลาตาย การตรวจหาเวลาตายเป็นส่ิงที่แพทย์ผู้ชันสูตรพลิกศพต้องให้ความสาคัญในการตรวจเป็นอย่างมาก โดยต้อง ตรวจให้ครบก่อนจะมีการเคล่ือนย้ายศพ โดยทาการตรวจดังน้ี (เลี้ยง หุยประเสริฐ, 2550) ตรวจศพว่า เร่ิม เขียวคลา้ หรือขึ้นอืด หรอื เนา่ แลว้ หรือไม่ - ถ้าศพยังไม่เน่า ให้ตรวจอุณหภูมิของศพเบ้ืองต้น โดยใช้หลังมือสัมผัสผิวของศพว่ารู้สึกอุ่น หรือไม่ ถา้ รู้สึกอุ่นแสดงว่าตายใหมๆ่ - ถ้าคดิ ว่าตายใหม่ๆ ควรตรวจปฏิกิรยิ าเหนอื ชีวิตด้วย - ตรวจความแข็งตัวของกล้ามเน้ือโดยเฉพาะกลา้ มเน้ือคอ โดยยกท้ายทอยถา้ พบวา่ ศพแข็งทื่อ ขนึ้ มา ทงั้ ตัว โดยคอไม่งอแสดงว่าแขง็ ตัวเตม็ ที่ เวลาตายประมาณ 6 –8 ชั่วโมง - ถ้าศรี ษะงอเขา้ หาลาตวั แสดงวา่ แขง็ ตวั ยงั ไมเ่ ต็มที่ เวลาตายยังไม่ถึง 6 ช่วั โมง - ตรวจการอยู่ตัวของเลือดท่ีตกสู่เบื้องล่างว่าอยู่ตัวหรือไม่ โดยการกดด้วยฝ่ามือถ้าสีซีด แปลว่ายังไม่อยู่ตัว เวลาตายประมาณ 4 –6 ชั่วโมง แต่ถ้าไม่ซีดหรือซีดเฉพาะขอบแต่ ศนู ยก์ ลางไมซ่ ีดถอื วา่ อยตู่ ัว เวลาตายประมาณเกิน 8 –12ช่วั โมง - ดูท่ที ้องน้อย ถา้ มสี ีเขียวปรากฏทท่ี ้องน้อยชัดเจน เวลาตายประมาณ 24 ชว่ั โมง - ถา้ ขึ้นอดื ชดั เจนล้ินจุกปาก ตาถลน เวลาตายประมาณ 3 – 4 วนั - ถา้ เน่าเนื้อเยอ่ื สลายตัว จนเหน็ กระดกู ใบหนา้ ตายมาประมาณ 1 สัปดาห์ - ถา้ เนา่ เนื้อเยอื่ สลายตวั จนเห็นกระดูกซโี่ ครง ตายมาประมาณ 2 สัปดาห์ - ถ้าเนา่ เน้ือเยอ่ื สลายตวั จนเห็นชอ่ งท้อง ลาไส้ตายมาประมาณ 3 สปั ดาห์ - ถ้าเน่าเนอ้ื เยือ่ สลายตัวหมด อาจมีเศษเหลือบางสว่ น ตายมาประมาณ 1 เดอื น - ถ้าไม่มีเนอ้ื เย่ือเหลอื เลย แตก่ ระดกู บางสว่ นยงั ยึดตดิ กนั ตายมาประมาณ 3 เดือน - ถ้ากระดูกหลุดจากกันเปน็ ชิน้ ๆ มีกลิน่ เหม็นอยู่บา้ ง ตายมาประมาณ 6 เดอื น - ถ้ากระดูกหลุดเปน็ ช้นิ ๆ ไม่มกี ล่ินเหมน็ เน่าเลย ตายมาประมาณ 1 ปี 1.4 การตรวจบาดแผล - เม่ือการตรวจเป็นไปเพ่ือการพิสูจน์บุคคลและตรวจหาเวลาตายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ตรวจ บาดแผลเพ่ือหาสาเหตุตาย โดยการตรวจดูบาดแผลว่ามีหรือไม่ อยู่ที่ส่วนใด เป็นบาดแผล ชนิดไหน เช่น บาดแผลถูกกระสุนปืนขนาดเท่าใด ถ้าไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไร ควรแนะนา พนักงานสอบสวน ให้สง่ ศพเพ่ือผา่ พิสูจน์ต่อไปในกรณีที่เชื่อวา่ เปน็ บาดแผลกระสุนปืน ยังไม่ ต้องระบุวิถีกระสุนหรือจานวนนัดท่ียิงก็ได้การพบบาดแผล ถ้าสามารถบอกเหตุตายได้โดย คู่มอื การปฏิบตั งิ านนติ ิเวช (สาหรบั แพทย์และบคุ ลากรทางการแพทย์) 2562

7 สนั นิษฐานว่าบาดแผลน้ันทาให้บาดเจบ็ ต่ออวัยวะภายในส่วนใด เชน่ สมอง หัวใจ ปอด เส้น เลือดแดงใหญก่ อ็ าจไม่ตอ้ งสง่ ศพผ่าพสิ ูจนก์ ็ได้ - หากไม่พบบาดแผลภายนอก ให้สังเกตบาดแผลบริเวณฝ่ามือหลังมือและเปิดหนังตา เพื่อดู ว่ามีเลือดออกท่ีตาขาวหรือไม่ ถ้าไม่พบบาดแผลใดและไม่มีเลือดออกที่ตาขาวอาจจะ สันนิษฐานสาเหตุตายเกิดจากโรคหรือการเจ็บป่วยก็ได้หากมีญาติผู้ตายอยู่ด้วยควรถาม ประวัติการเจบ็ ป่วย หรือการรักษาพยาบาลประกอบ แต่ถ้าไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้ ควรแนะนาใหพ้ นกั งานสอบสวนส่งศพเพือ่ ผา่ ชนั สูตรต่อไป การตรวจศพภายนอก (Examination of the body) มีความสาคัญมากในการชันสูตรพลิกศพและ ผ่าศพทางนิติเวช จะต้องตรวจอย่างละเอียดตั้งแต่ศีรษะจนถึงปลายเท้า โดยเฉพาะทางเปิดของร่างกาย และ อวัยวะบางอย่างที่จะต้องตรวจ เช่น ลูกตา เปลือกตา รูหู รูจมูก ภายในช่องปาก ทางทวารหนักและทางช่อง คลอด เป็นต้น โดยเฉพาะในศพที่ตายโดยผิดธรรมชาติ ที่มีบาดแผลต้องมีการตรวจบาดแผลอย่างละเอียด มี การถ่ายรูป การบันทึกเป็น diagram โดยใช้วิธีการตรวจบาดแผลอย่างละเอียดซ่ึงจะได้บรรยายอย่างละเอียด ในเรื่องของบาดแผลชนิดต่าง ๆ การเขียนรายงานการตรวจศพภายนอกก็ต้องบนั ทึกอายุ เพศ เช้ือชาติ ส่วนสูง และน้าหนักของศพ รวมทั้งลักษณะของร่างกาย อ้วน ผอม หรือขาดอาหารมีความพิการแต่กาเนิดและพิการ จากการเจ็บป่วยหรือได้รับอันตราย โดยเฉพาะในรายศพไม่ทราบว่าเป็นใคร ต้องบันทึกลักษณะของผม สีของ ตา ไฝ ก้อนเนื้อที่ผิดผกติ แผลเป็นต่าง ๆ และรอยสัก นอกจากนั้นยังต้องเก็บเส้ือผ้าและของใช้ติดตัวไว้ด้วย ถ่ายรูปหน้าตรง พิมพ์ลายนิ้วมือ และการตรวจฟัน ในรายที่เน่ามาก และเชื่อว่าอาจมีการบันทึการทาฟันไว้ เช่น ศพชาวต่างประเทศอาจต้องตัดขากรรไกรและส่วนบนของแมกซิล่าเพ่ือเก็บหลักฐานของฟันไว้ เปรียบเทียบกบั การบันทึกฟันของหมอฟัน รอยสกั ถงึ แม้จะเน่าถ้ารอยสักลกึ กจ็ ะเห็นได้ชัดเจนใต้ผวิ หนังได้ การ ตรวจอวัยวะเพศภายนอก เช่น ในรายฆ่าและข่มขืนต้องการดูว่าการร่วมประเวณีหรือไม่ รวมท้ังบาดแผลท่ี อวัยวะเพศอาจแสดงถึงการกระทาของคนท่ีมีวิปริตทางเพศทางทวารหนักอาจตรวจพบการร่วมประเวณีทาง ทวารหนักได้ในราย Homosexual หรือในรายผู้หญิงโดนร่วมประเวณีทางทวารหนักก็พบได้ เม่ือพบว่ามีการ ฆ่าและข่มขืนต้องดูตัวอสุจิโดยเก็บตัวอย่างจากปากช่องคลอดและทวารหนักมาย้อมดูและตรวจด้วยวิธีหา acid phosphatase ในศพหญิงดูรอยเป้ือนของซีเมนบริเวณหัวเหน่า หน้าท้อง และต้นขา ผมและขนเพชร ต้องเก็บตัวอย่างไว้ อาจพบขนเพชรแปลกปลอมติดอยู่ที่บริเวณของลับของคนตายโดยเฉพาะถ้าเชื้อชาติ แตกต่างกัน อาจพบว่าสีของขนเพชรมีสีไม่เหมือนกัน เล็บมือต้องตัดเพื่อนาเอาไปดูว่าพบร่องรอยเน้ือเย่ือของ ผิวหนังจากรอยขว่ นหรอื ไม่ ในกรณีติดยาเสพติดดูลักษณะแผลของการฉีดยาเข้าเส้นบริเวณ แขนและสะโพกอาจพบฉีดยา เข้าเส้นเลือดดาที่ต้นแขนท้ังใหม่และเป็นแผลเก่า ๆ ตามเส้นเลือดดา รอยแผลเป็นจากการฉีดยาที่กล้ามเนื้อ บ่อย ๆ ท่ีต้นแขนท้ังสองข้างอาจพบได้ในคนตายที่เป็นโรคหอบหืดเร้ือรังเป็นเวลานาน ๆ อวัยวะท่ีสาคัญที่ อาจตรวจไม่ละเอียดคือท่ีศีรษะ อาจพบบาดแผลอยู่ใต้ผมอาจมองเห็นลาบาก อาจพบเศษเขม่าดินปืนติดอยู่ท่ี ผม ลักษณะบาดแผลถกู ของมคี มและถูกตีดว้ ยแง่ไม้ อาจพบบาดแผลฉีกขาดคอ่ นข้างเรยี บ ถ้าเปน็ บาดแผลถูก ฟันส่วนมากมักขาดไปด้วย บาดแผลฆ่าตัวเองตายอีกชนิดคือ การยิงโดยอมปืนไว้ในปากต้องตรวจเพดานของ ปาก ในรายที่ไม่พบบาดแผลที่อ่ืน จากหลักการบันทึกบาดแผลจะต้องตรวจร่วมกับบาดแผลภายในร่างกาย คมู่ ือการปฏบิ ตั งิ านนิติเวช (สาหรบั แพทย์และบุคลากรทางการแพทย)์ 2562

8 ด้วยโดยเฉพาะบาดแผลถูกลกู กระสุนปนื บาดแผลถกู แทง และบาดแผลฉกี ขาดจากถูกของแข็ง ไม่มีคมจะต้อง บันทึกตาแหน่งอย่างละเอียดโดยอาจวัดและบันทึกไว้ใน diagram รูปภาพศพว่าบาดแผลอยู่ตาแหน่งไหน หัวนม ใต้กระดูกไหปลาร้า สะดือ และขาหนีบ เป็นต้น และวัดว่าตาแหน่งนั้นอยู่ห่างจากส่วนสูงท่ีสุดของหัวก่ี เซนติเมตร หรือวดั จากเท้าก่ีเซนติเมตร ตาแหน่งข้างซ้ายหรือข้างขวา ข้างหน้าหรือข้างหลัง และห่างจากแนว กึ่งกลาง ของลาตัวกี่เซนติเมตร บาดแผลของแขนและขาก็ใช้ตาแหน่งไหล่ ข้อมือ ข้อศอก ต้นขา เข่า และข้อ เทา้ เปน็ ต้น 1.5 การดาเนนิ การหลงั การชนั สตู ร ณ ทเี่ กดิ เหตุ 1.5.1 หลังการชันสูตรพลิกศพ อาจจะมอบศพให้ญาติรับไปต้ังแต่ชันสูตรเสร็จ ณ ที่เกิดเหตุ เพ่ือให้ญาตินาไปประกอบพิธีทางศาสนาได้หากไม่มีข้อสงสัยการตาย เช่น เป็นการตายจาก โรคหรือป่วยตาย ในกรณีมีประวัติการเจ็บป่วยเรื้อรังมานาน มีการรักษาตัวอย่างต่อเน่ือง ประกอบกับไม่พบบาดแผลภายนอกและญาติและพนักงานสอบสวนไม่ติดใจสงสัย ไม่มี ประกันชีวิต เป็นต้นท้ังน้ีแพทย์ต้องพิจารณาให้รอบคอบ เนื่องจากแพทย์ผู้ชันสูตรต้องลง ลายมือเกยี่ วกบั สาเหตกุ ารตายแต่ผู้เดยี ว แพทย์จงึ ต้องรบั ผดิ ชอบหากมคี วามผดิ พลาด 1.5.2 กรณีที่การตาย สงสัยว่าเกิดหรือเกิดจากการฆาตกรรมหรือผู้อื่นทาให้ตายให้แจ้งให้ พนักงานสอบสวนส่งศพไปผ่าศพตรวจต่อไปยังโรงพยาบาลของรัฐท่ีสามารถผ่าศพได้เช่น ภาควชิ านติ ิเวชศาสตรค์ ณะแพทยศาสตร์ตา่ ง ๆ สถาบนั นิติเวชวทิ ยา เป็นต้น 1.5.3 บันทึกรายละเอียดการชันสูตรพลิกศพ ณ ที่เกิดเหตุ เพ่ือส่งให้พนักงานสอบสวนซ่ึงต้อง กระทาทนั ทคี วรมีขอ้ ความอยา่ งน้อย ดังนี้ - เลขท่ีรายงานการชันสูตรพลิกศพ ณ ทเ่ี กดิ เหตขุ องหน่วยงานสามารถใช้เป็นเลขทศี่ พ ในกรณี เป็นศพที่ไม่ทราบช่ือ เพื่อให้ใช้อ้างอิงถึงศพรายนี้ตลอดไปจนกว่าจะสามารถตรวจสอบได้ว่า ผู้ตายเป็นใคร - ชื่อ อายุ เพศ ถ้าไม่ทราบให้ลงว่าไม่ทราบ หากเป็นการสันนิษฐานให้ลงว่า“สันนิษฐาน ว่า……………” - ตาบล ของสถานทีพ่ บศพ บา้ นเลขทฯี่ ลฯ - จดุ ทีพ่ บ เช่น บนถนนหนา้ บา้ น ในสวน ในทอ้ งร่อง ในแม่น้า ฯลฯ - วนั เวลา ท่ที าการชันสูตร - ลกั ษณะ ทา่ ทางของศพ พอสงั เขป - ลกั ษณะ ตาแหน่งของคราบเลอื ด หรือคราบเลอื ดอ่ืน ๆ ท่ีคาดวา่ เกีย่ วข้อง - การเปลี่ยนแปลงหลังตาย เช่น อัตราการแข็งตัวของกล้ามเน้ือ (ยังไม่แข็งตัวแข็งตัวบางส่วน แข็งตัวเต็มท่)ี ทอ้ งนอ้ ยเขยี ว เริ่มอืดเส้นเลือดเร่มิ ขึน้ เขียว ฯลฯการเกิดการตกลงส่วนล่างของ เลือด (เริ่มพบ มากไม่อยู่ตัว อยู่ตัว ฯลฯ) อัตราการเน่า สรุปประมาณเวลาตาย ในขณะเวลา ทีช่ นั สูตร คู่มือการปฏิบตั งิ านนติ เิ วช (สาหรบั แพทยแ์ ละบคุ ลากรทางการแพทย)์ 2562

9 - บาดแผลท่ีพบ เช่น บาดแผลกระสุนปืนที่ศีรษะหลายนัด (ยังไม่ต้องระบุจานวน ยังไม่ต้อง บอกทิศทางหรือวิถีกระสุนให้แน่นอน) บาดแผลถูกแทงที่อกสันนิษฐานว่าทะลุเข้าหวั ใจ เป็น ตน้ - หากไม่พบบาดแผลภายนอกใด ๆ ให้ระบุไว้และใหต้ รวจสภาพเลือดออกในตาขาวพบหรือไม่ (sub-conjunctival hemorrhage) - สันนฐิ านเหตุตาย เช่น ถูกกระสุนปืนเข้าสมอง ถกู แทงทะลหุ ัวใจ เปน็ ตน้ หรอื ยงั ไมท่ ราบเหตุ หรอื ยงั ไม่สามารถระบเุ หตตุ ายได้ - ไดด้ าเนินการกับศพอย่างไร เชน่ ส่งมอบศพใหญ้ าติหรือให้สง่ ศพไปผ่าตรวจต่อท่ีใด - ลงชื่อคุณวุฒิผู้ชันสูตรและชื่อตาแหน่งผู้ร่วมชันสูตร ซ่ึงอาจจะมีพนักงานสอบสวนหรือ พนกั งานอัยการและพนกั งานฝา่ ยปกครองดว้ ย แลว้ แตก่ รณี 2. การผ่าศพชันสตู ร (autopsy) การผ่าศพชันสูตร หรือการผ่าชันสูตรศพ หมายถึง การตรวจศพทั้งภายนอกและการผ่าศพเพ่ือตรวจ อวัยวะภายใน ตลอดจนการเก็บตัวอย่างเลือดหรือสารคัดหลั่ง ชิ้นเน้ือหรือส่วนของอวัยวะ เพื่อการตรวจทาง จุลพยาธิวิทยา การผ่าศพทางนิติเวชศาสตร์มีวิธีการเช่นเดียวกับการผ่าศพ ทางพยาธิวิทยา(pathological autopsy) คือเริ่มต้ังแต่การตรวจสภาพศพภายนอก ตรวจบาดแผล และการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆของร่างกาย ภายนอก แล้วจึงผ่าศพเพ่ือตรวจภายใน เพื่อหาสาเหตุการตาย กลไกในการตาย และในบางรายอาจจะช่ว ย เป็นแนวทางให้ทราบถึงพฤติการณ์ในการตายได้ส่วนวิธีการ ที่จะใช้มีดกรีดผิวหนังให้เป็นรูปร่างใด จาก ตาแหน่งใด ข้ึนอยู่กับความจาเป็นที่จะต้องเลือกใช้ในแต่ละรายให้เหมาะสม เพ่ือให้ได้รายละเอียดและข้อมูล ตามตอ้ งการ การผ่าศพทางพยาธิวิทยาจะเน้นไปทางด้านการเจบ็ ป่วยของผู้ตาย เพ่ือวินิจฉัยว่าปว่ ยเป็นโรคใด เหตุ ตายคืออะไร กลไกในการตายเป็นอย่างไร ซ่ึงการที่จะให้บรรลุวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ท่ีกล่าวมาเหล่านี้นั้น แพทย์ผ้รู ักษาต้องใหค้ วามรว่ มมือในการส่งรายละเอียดเก่ียวกับประวตั กิ าร รกั ษาพยาบาล เชน่ อาการของโรค การดาเนินโรค การรักษาพยาบาล ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ อาการท่ีเปล่ียนแปลงไประหว่างการรักษา ตลอดจนรายละเอียดการบริหารยาให้ผู้ป่วย ซ่ึงพยาธิแพทย์ จะได้นามาประมวลร่วมกับผลการตรวจพบทั้ง จากภายในและภายนอกร่างกาย รวมทั้งผลการตรวจช้ินเน้ือทางกล้องจุลทรรศน์ เพ่ือสรุปวา่ ผู้ป่วยตายเพราะ เหตุใด การวินิจฉัยหรือการรักษาพยาบาลที่ให้แก่ผู้ป่วยรายน้ีน่าจะมีความเหมาะสมหรือ ไม่อย่างไร เพื่อเป็น แนวทางในการรกั ษาพยาบาลผู้ป่วยรายอื่น ๆทีไ่ ด้รับการวินิจฉัยแบบ เดียวกัน หรือมอี าการคล้ายๆกัน ให้การ รกั ษาพยาบาลมีประสิทธภิ าพดขี น้ึ เป็นการพัฒนาความรู้ทางการแพทย์ การตรวจช้ินเนอ้ื ทางกล้องจุลทรรศน์ นอกจากจะมีประโยชน์ใน ด้านการวินิจฉัยแล้ว ยังมีประโยชน์ในด้านที่สามารถใช้เป็นส่ิงยืนยันพยาธิสภาพท่ี ตรวจพบ ไดอ้ ยา่ งถาวร ส่วนการผ่าศพทางนิติพยาธินั้นจะเน้นเกี่ยวกับพยาธิสภาพ ของบาดแผล เพราะเหตุตาย อันเป็น หน้าที่ของนิติพยาธิแพทย์ ซ่ึงมักเป็นการตายอย่างกะทันหัน เชน่ ถูกทารา้ ย อุบัติเหตุ ฆ่าตัวตาย หรือการตาย โดยไม่ทราบเหตุ ฉะน้ันประวัติด้านการรักษาพยาบาลอาจจะมีน้อย แต่ในบางราย ผู้ตายไม่ได้ตายทันทีหลัง ค่มู ือการปฏบิ ตั งิ านนติ เิ วช (สาหรบั แพทยแ์ ละบคุ ลากรทางการแพทย์) 2562

10 เกิดเหตุ อาจจะได้รับการรักษาพยาบาลมาช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งในกรณีอย่างนี้ แพทย์ผู้รักษาต้องให้ความร่วมมือ ในการส่งรายละเอียด การรักษาพยาบาล การดาเนินโรค การเปล่ียนแปลงของอาการตลอดจนผลการตรวจ ต่าง ๆทางห้องปฏิบัติการ เหมือนกับการส่งให้พยาธิแพทย์เช่นกัน และถือเป็นหน้าท่ีท่ีจะต้องปฏิบัติตาม กฎหมายด้วย พนักงานผู้ชนั สูตรพลิกศพสามารถสง่ หมายเรียกให้มาให้ปากคาได้ ถ้าแพทย์ผู้รกั ษาไม่ให้ความ รว่ มมอื การผ่ าศพคดีผู้ ผ่ าศพควรเป็ น นิ ติ เวชแ พท ย์ ห รือพย าธิแ พท ย์ และต้องท า การผ่ าศพใน สถาน ท่ี ที่ จดั เตรียมไว้เพ่ือการผ่าศพ ซึง่ การผ่าศพชนั สูตรควรมกี ารจัดการบรหิ ารในเรื่องต่าง ๆ ดังน้ี 1. สถานที่ที่ผ่าศพ 1.1 สถานทีร่ ับศพ บรเิ วณใหบ้ ริการ - สว่ นท่ีรบั ศพต้องอยู่พน้ จากสายตาบุคคลทวั่ ไป - ต้องมบี ริเวณให้ญาติหรอื ผมู้ ารับศพ อย่ตู า่ งหากจากบริเวณรับ – ส่งศพ และบรเิ วณผา่ ศพ - ต้องจดั ใหม้ ีทส่ี าหรบั ญาติดูศพ เพอื่ การพสิ ูจนบ์ ุคคล หรอื เพ่อื การอืน่ ๆ นอกหอ้ งผา่ ศพ - ต้องมีตู้เย็นเก็บศพให้พอเพียงกับศพที่จะจัดเก็บได้อย่างสะดวกและเป็นระเบียบ โดยเฉพาะ ตอ้ งระวังเรือ่ งสลบั ศพ 1.2 หอ้ งผา่ ศพ เคร่อื งมอื และอุปกรณป์ ระกอบด้วย - หอ้ งผ่าศพตอ้ งมหี ้องเปลย่ี นเส้อื ผ้าและหอ้ งอาบน้า สาหรับแพทยแ์ ละเจ้าหนา้ ท่ผี ู้ช่วยผ่าศพ - เตยี งผา่ ศพ ตอ้ งมีระบบน้าและไฟทใ่ี ห้ความสวา่ งได้อย่างพอเพียง - มอี ปุ กรณ์การผา่ ศพให้เพยี งพอ 1.3 บคุ ลากร - มพี นักงานชว่ ยผา่ ศพ เยบ็ ศพอยา่ งเพียงพอ - มพี นกั งานในการเกบ็ สิ่งส่งตรวจทางห้องปฏบิ ัตกิ าร และมโี ตะ๊ สาหรบั เขยี นเอกสารใบส่งตรวจ และฉลากติดภาชนะบรรจสุ ิง่ ส่งตรวจทีส่ ะดวก 2. การดาเนนิ การเกยี่ วกับการพิสจู นบ์ คุ คลภายในหอ้ งผ่าศพ - มีการถ่ายรูปศพ ท้งั ตัว ด้านหนา้ และดา้ นข้าง กอ่ นการถอดเสื้อผา้ รองเทา้ ถงุ เท้า ฯลฯ - มกี ารถ่ายรปู ศพ ทั้งตวั ด้านหน้า และด้านข้าง หลงั การถอดเสื้อผา้ แล้ว - มกี ารถ่ายรปู ตาหนบิ นรา่ งกาย เช่น แผลเป็น รอยสกั ไฝ ปาน เปน็ ตน้ - บนั ทึกการตรวจ สภาพฟนั เบื้องต้นไว้พอสงั เขป - อานวยความสะดวกในการพมิ พ์ลายนิว้ มือของพนักงานสอบสวน 3. การเกบ็ วตั ถุพยานเก่ียวกบั การพิสูจนบ์ คุ คล - มีการเก็บเส้ือผ้า เคร่ืองแต่งกาย เอกสาร เคร่ืองประดับที่ติดอยู่กับศพและถ่ายรูปไว้และทาบัญชี กอ่ นส่งใหพ้ นักงานสอบสวน - การส่งมอบวัตถุพยานให้พนักงานสอบสวนหรือผู้เกี่ยวข้องต้องกระทาเป็นลายลักษณ์อักษร และลง ลายมือชอ่ื ผู้รบั - ส่ง คู่มือการปฏบิ ตั งิ านนติ ิเวช (สาหรบั แพทยแ์ ละบุคลากรทางการแพทย)์ 2562

11 - มีบันทึก บรรยายสภาพรปู พรรณ ใบหนา้ รูปรา่ ง สีผิว สตี า ฯลฯ โดยละเอียด เสือ้ ผ้า เครอ่ื งประดับ เอกสารทพ่ี บ ตาหนิ แผลเป็น รอยสกั ไฝ ปาน ฯลฯ - มบี นั ทกึ การเกบ็ ชีวะวตั ถุ เพื่อการตรวจพสิ ูจนบ์ คุ คล เชน่ เลือด เสน้ ผม หวั เหน่า กระดกู เปน็ ต้น - เกบ็ ศพ หรือชน้ิ สว่ นของศพไวใ้ นทเ่ี หมาะสม ตามสภาพ 4. การตรวจสภาพศพภายนอก 4.1 สภาพศพภายนอก - บันทึกสภาพศพภายนอกให้ละเอียดเกี่ยวกับเพศ ประมาณอายุ ความยาว (ส่วนสูง) น้าหนักตัว ตรวจเสื้อผ้าศพ และบันทึกสภาพคราบเลือด การฉีก ขาดท่ีเกี่ยวกับบาดแผล ส่ิงท่ีติดมากับเสื้อผ้า เช่น ดนิ หญา้ ฯลฯ บนั ทกึ รอ่ งรอยการรักษาพยาบาล - บันทกึ สภาพการฉดี ยาศพ การแชเ่ ย็น การตกแต่งศพ ตลอดจนรอยสตั ว์กดั แทะศพภายหลงั การตาย 4.2 การเปลี่ยนแปลงหลงั ตาย - บันทึกการเปล่ียนแปลงหลังตาย ได้แก่ การเย็นตัว การแข็งตัว การปรากฏสีแดงท่ีผิวหนังของเม็ด เลอื ดที่ตกสูเ่ บอ้ื งตา่ หลงั ตาย การเน่า การพบหนอนแมลงวัน เปน็ ต้น 5. การตรวจเฉพาะสว่ น 5.1 การตรวจและบันทึกบาดแผล - ตรวจและบันทึกบาดแผลโดยละเอียดทกุ แห่ง บอกขนาด (ยาว กวา้ ง ลกึ )ทิศทาง ตาแหน่ง ลักษณะ และประเภทของบาดแผล - บาดแผลในตาแหนง่ ที่มีผมหรอื ขนหนาแน่นตอ้ งโกนผมหรือขนออกเพื่อใหเ้ หน็ บาดแผลให้ชดั เจน - ถ่ายรูปบาดแผลทุกแห่งถ้าทาได้ ถ้าทาไม่ได้ให้ถ่ายรูปบาดแผลท่ีจาเป็น เช่นบาดแผลที่แสดงชัดเจน ว่า ทาใหต้ าย บาดแผลทตี่ ้องแสดงเปรยี บเทียบ เชน่ ทางเขา้ – ออก กระสุนปืน ฯลฯ - บรรยายสภาพบาดแผลทีแ่ ขนและมือท้งั หลังมอื ฝ่ามอื ทุกราย - ควรถ่ายรปู ส่วนทไ่ี ม่มบี าดแผลในกรณที ่ีมีขอ้ สงสยั หรอื คาดวา่ จะเปน็ ประเด็นของคดี 5.2 การตรวจศพผู้หญิง กรณีสงสัยวา่ จะมกี ารถูกข่มขนื กระทาชาเราใหเ้ พมิ่ การตรวจต่อไปน้ี - ตรวจบาดแผลท่ีต้นขา หน้าขาและอวัยวะเพศภายนอก รวมท้ังคราบเลือดคราบสารคัดหลั่งคราบ อสจุ ิ - ตรวจวา่ มีเสน้ ผมหรอื เส้นขนแปลกปลอมทข่ี นหัวเหน่า และตัดเสน้ ขนหัวเหนา่ เพอ่ื เปรยี บเทยี บ - ถ่ายรปู บาดแผลทีอ่ วัยวะเพศเทา่ ทีจ่ าเป็น - ตรวจเล็บผู้ตายและตัดเก็บเพื่อการตรวจหาเน้ือเยื่อทางห้องปฏิบัติการDNA ซึ่งอาจจะได้เน้ือเย่ือ ของผูก้ ระทาผิด - ใช้สาลีพนั ปลายไมป้ ้ายภายในชอ่ งคลอด เพื่อตรวจหาตัวอสุจแิ ละนา้ อสจุ ิทางห้องปฏิบัตกิ าร ควรส่ง ตรวจด้วยวิธี Prostate specific Antigen (PSA) ด้วย เนื่องจากมีความไวและความจาเพาะดีก ว่า วธิ ี Acid phosphatase test 6. การตรวจสภาพศพภายในใหด้ าเนนิ การดงั นี้ (Knight B, 1997, DiMaio VJ,2001) 6.1 ศรี ษะและสมอง ค่มู ือการปฏบิ ตั งิ านนิติเวช (สาหรบั แพทยแ์ ละบุคลากรทางการแพทย์) 2562

12 - บนั ทกึ ลักษณะบาดแผลที่หนงั ศีรษะด้านในโดยละเอยี ด บอกความสัมพนั ธ์กับบาดแผลภายนอก - บันทึกการแตกของกะโหลกศีรษะ ในกรณีจาเป็นหรือคาดว่าจะมีประเด็นทางคดีให้บันทึกแนวการ แตก การแตกตอ่ เน่อื ง และความสมั พันธ์กบั บาดแผลภายนอก - บันทึกลักษณะและจานวนเลอื ดที่ออกเหนือเยื่อหุ้มสมองชั้นนอก ใต้เยื่อหุ้มสมองช้ันนอก ใต้เยื่อหุ้ม สมองชนั้ ใน - บรรยายสภาพของสมองทั่วไป เชน่ บวม ซีด เลือดค่ัง ฝ่อ ฯลฯ - บรรยายสภาพเส้นเลือดบรเิ วณฐานสมอง (Circle of Willis) - บรรยายการบาดเจ็บของเนอ้ื สมอง เช่น ฉีกขาดหรอื ช้า หรือสลายตัว บอกขนาดและตาแหนง่ - บรรยายตาแหน่งเลือดออกในสมอง (ถา้ ม)ี - บรรยายสรปุ บาดแผลจากภายนอกทเ่ี กี่ยวพันถงึ อวัยวะภายใน และทิศทางบาดแผลในสว่ นศรี ษะ 6.2 คอ - บรรยายการบาดเจ็บและบาดแผลของ ลิ้น กล่องเสียง หลอดลม หลอดอาหาร ต่อมไธรอยด์ กลา้ มเนือ้ บรเิ วณคอ กระดูกสนั หลังระดับคอ - บรรยายสรุปบาดแผลจากภายนอกทีเ่ กี่ยวพันถึงอวัยวะภายใน และทิศทางทางบาดแผลในส่วนคอ 6.3 ช่องอก - บรรยายลกั ษณะและจานวนเลอื ดหรือของเหลวท่ีปรากฎในชอ่ งเย่ือหุ้มปอดและชอ่ งเยอื่ หุ้มหวั ใจ - บรรยายลักษณะการหกั ของกระดูกซีโ่ ครง กระดกู สันอก กระดกู ไหปลารา้ กระดกู สนั หลงั ระดบั อก - บรรยายบาดแผลหรือการบาดเจบ็ และพยาธสิ ภาพของเย่ือหมุ้ ปอดและปอด - บรรยายบาดแผลหรือการบาดเจ็บและพยาธิสภาพของเย่ือหุ้มหัวใจ หัวใจเส้นเลือดเล้ียงหัวใจ ล้ิน หัวใจ และเสน้ เลอื ดใหญ่ในช่องอกและกระบงั ลม - บรรยายสรปุ บาดแผลจากภายนอกท่เี ก่ียวพันถึงอวยั วะภายใน และทิศทางบาดแผลในสว่ นชอ่ งอก 6.4 ชอ่ งทอ้ ง - บรรยายลักษณะและจานวนของเลอื ดหรือของเหลวท่ีปรากฎในช่องท้อง - บรรยายบาดแผล หรือการบาดเจ็บหรือพยาธิสภาพของเยื่อบุช่องท้องตับ ถุงน้าดี ม้าม กระเพาะ ลาไส้ เสน้ เลอื ดใหญใ่ นชอ่ งท้อง ไต กระเพาะปัสสาวะ มดลูก รังไข่ - บรรยายการบาดเจบ็ หรือแตกหกั ของกระดกู สนั หลังระดับเอว กระดูกเชิงกราน และก้นกบ - บรรยายสรปุ บาดแผลจากภายนอกที่เกย่ี วพันถงึ อวัยวะภายใน และทิศทางบาดแผลในสว่ นชอ่ งท้อง 7. การตรวจทางห้องปฏิบตั ิการ - ให้มีเจ้าหน้าท่ี สถานที่และอุปกรณ์สาหรับจัดเก็บอยู่ในห้องผ่าศพ เพ่ือทาการรวบรวมสิ่งส่งตรวจ ทางห้องปฏบิ ัติการทุกประเภท ปดิ ฉลากส่งิ ส่งตรวจและลงนามโดยแพทยผ์ ตู้ รวจศพ - มสี ถานทท่ี าการถ่ายภาพรงั สไี ดภ้ ายในหรือบรเิ วณหอ้ งผา่ ศพ - มกี ารบรหิ ารการตรวจหรอื ส่งตรวจชิ้นเนื้อทางจลุ พยาธิวิทยาจากศพสว่ นการเก็บชนิ้ เน้ือจากอวัยวะ ใดจากศพเพ่ือส่งตรวจทางจุลพยาธิวิทยาให้อยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ผู้ตรวจศพว่าควรจะเก็บ ค่มู ือการปฏิบตั งิ านนติ ิเวช (สาหรบั แพทย์และบุคลากรทางการแพทย)์ 2562

13 อะไรบ้างในรายนั้น ๆ การเก็บชิ้นเน้ือไมเ่ พียงพอแล้วมีผลเสียในการวินจิ ฉัยถือเป็นความรับผิดชอบ ส่วนตัวของแพทย์ผูต้ รวจศพแตล่ ะคน - มีการบรหิ ารการตรวจหรือสง่ ตรวจทางหอ้ งปฏิบัติการพิษวิทยา DNAหรืออนื่ ๆ ที่จาเป็น - มีสถานที่หรือพ้ืนท่ีส่วนท่ีสามารถเก็บรักษาวัตถุพยาน เช่น หัวกระสุนปืนเสื้อผ้า หรือช้ินส่วนศพ เทา่ ทีจ่ าเป็น 8. รายงานการผ่าศพ ต้องทารายงานการผ่าศพทุกรายในระยะเวลาตามท่ีกฎหมายกาหนด ลงนาม โดยแพทยผ์ ้ตู รวจศพ 8.1 การรายงานควรมีลักษณะ ดงั นี้ - ขอ้ มลู ครบถ้วน ตรงตามวัตถุประสงค์ - อา่ นเข้าใจงา่ ยและชัดเจน - จัดเรียงหวั ข้อตามลาดบั มีความเชอื่ มโยงและสอดคลอ้ งกบั ทัง้ ฉบบั - ต้องมสี าเนาเอกสารเก็บเป็นเอกสารไวภ้ ายในหนว่ ยงานที่ตรวจศพ - มีลักษณะเป็นรายงาน ไมใ่ ชเ่ ปน็ ลกั ษณะการเติมคา หรอื เช็คลสิ ต - แสดงรายละเอยี ดการบาดเจบ็ ให้ครบถ้วนและกระชับ 8.2 หัวข้อในรายงานการผ่าศพ - เลขทีร่ ายงานการผ่าศพของหนว่ ยงาน - ขอ้ มลู ของผตู้ าย เชน่ ชอ่ื เพศ อายสุ ัญชาติ ศาสนา ถา้ ไมท่ ราบหรือไมม่ ขี อ้ มลู ให้เวน้ ไว้ - วัน เวลา ท่ีรับศพ และวนั เวลา ทต่ี รวจศพ - บรรยายรายละเอยี ด สภาพศพภายนอก ควรมีแผนผัง (Diagram) ภาพของบาดแผลประกอบ - บรรยายรายละเอียดการตรวจสภาพศพภายใน - รายละเอียดการบาดเจ็บ บาดแผลและพยาธสิ ภาพของอวยั วะต่าง ๆ - ผลการตรวจทางห้องปฏบิ ัตกิ าร ระบุเลขท่ตี วั อยา่ ง ชนดิ ตัวอยา่ ง และผลการตรวจ - สรุปสาเหตุการตาย - อาจลงความเห็นเพ่ิมเติม ต่อท้ายเหตุตายได้ให้เหมาะสม เช่น พฤติการณ์การตาย วัตถุหรืออาวุธท่ี ทาให้ตาย (ถ้าไมส่ ามารถให้ความเห็นได้ก็ไมจ่ าเป็นต้องเขยี นไวใ้ นรายงาน) งานนิติเวชจะรวมถึงวิชาแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายรวมถึงวิชาแพทย์ในส่วนท่ีเก่ียวข้องกับ การแพทย์และการประกอบวิชาชีพแพทย์ด้วย จากขอบเขตงานนิติเวชและการดาเนินงานข้างต้น เห็นได้ว่า การบรหิ ารงานด้านนิติเวชศาสตรม์ คี วามจาเป็นต่อสถานพยาบาลทุกแหง่ โดยเร่ิมจากงานระดับนิติเวชพ้นื ฐาน ถึงระดับผู้เชี่ยวชาญ โดยใช้การประยุกต์วิชาแพทย์ทุกสาขาเพ่ือช่วยแก้ปัญหาทางกฎหมายหรือคดีโดยต้อง ประสานงานกบั งานนิตวิ ิทยาศาสตรเ์ พ่ือพสิ ูจนห์ ลกั ฐานการเกดิ เหตุและการตาย ดังกล่าวแล้วว่าการผ่าศพทางนิติพยาธิเน้นทางด้านบาดแผล ภายนอก แต่ไม่ได้หมายความว่านิติ พยาธิแพทย์สามารถละเลยรายละเอียดภายในได้ การผ่าศพ ตลอดจนการตัดชิ้นเนื้อเพ่ือตรวจทางกล้อง จุลทรรศน์ (microscopic examination)ยังมีความจาเป็นมาก ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่ผู้ตายมักจะตายในขณะเกิด เหตุ บาดแผลต่าง ๆมัก ไม่ทันมีการเปล่ียนแปลงทางกล้องจุลทรรศน์ แต่ยังมีผู้ตายในกรณีอ่ืนๆ เช่น ผู้ท่ีตาย ค่มู ือการปฏิบตั ิงานนติ ิเวช (สาหรบั แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์) 2562

14 อย่างกะทันหันและไม่คาดคิด หรือผู้ป่วยตายในระหว่างการควบคุมของเจ้าพนักงาน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการ ตายตามธรรมชาติ และการตัดช้ินเน้ือทางกลอ้ งจุลทรรศน์จะเป็นขอ้ มูลอันสาคัญ ในการวนิ ิจฉัย อกี กรณีหนึ่ง ซ่งึ พบมากข้ึนทุกที คือกรณีที่ญาติผู้ตายร้องเรียนว่าแพทย์ให้การรักษาพยาบาลไม่เหมาะสมเป็นเหตุ ให้ผู้ป่วย ถึงแก่ความตาย ทาให้การตายน้ันกลายเป็นคดีเข้าข่ายที่ต้องให้นิติเวชแพทย์เป็นผู้ตรวจทั้ง ๆ ที่เหตุตายเป็น การตายจากโรคทางธรรมชาติ ส่วนใหญ่ผู้ตายผิดธรรมชาติมักตายในขณะเกิดเหตุหรอื หลัง เกิดเหตุในเวลาสั้นๆและนิติพยาธิแพทย์ จะเน้นทางด้านบาดแผลดงั กล่าวแล้ว ประวัตหิ รอื เรอื่ งราวท่ีเกดิ เหตุจึงค่อนขา้ งสั้น และในหลายๆกรณสี ามารถ ตรวจสอบได้ง่ายเม่ือเห็นสถานที่เกิดเหตุ เช่น ในที่เกิดเหตุ พบผู้ตายแขวนคอตายที่ข่ือเพดานในห้องนอน โดย ท่ีประตูหน้าต่างห้องนอนปิดสนิท เครื่องปรับอากาศยังทางานอยู่ ในห้องมีสภาพเรียบร้อยไม่มีร่องรอยการ ต่อสู้ และมีจดหมายเขียนด้วยลายมือผู้ตายอ้างเหตุฆ่าตัวตายอยู่บนโต๊ะน่าจะเช่ือได้ ว่าผูกคอตนเองไปกว่า 80%แล้ว เมื่อร่วมกับการผ่าศพไม่พบมีบาดแผลใดใดในร่างกาย นอกจากแผลการรัดท่ีลาคอ การบาดเจ็บ ภายในลาคอกพ็ บน้อยมาก สามารถสันนษิ ฐานได้ว่าผตู้ ายผูกคอตนเอง อาจจะกล่าวได้ว่า\"การผ่าศพทางนิติพยาธิเร่ิมต้ังแต่ที่เกิดเหตุ\"( Forensic autopsy begins at crime scene) นอกจากน้ันการดูศพตั้งแต่ที่เกิดเหตุ ยังทาให้สามารถดาเนินการป้องกันหรือรักษาสภาพ บางสว่ นของศพเปน็ พเิ ศษได้ เช่นเมอ่ื มีเหตุยงิ กันตายและผู้ตายมสี ว่ นร่วมในการยงิ กนั ด้วย ควรรกั ษามือทใ่ี ช้ยิง เป็นกรณีพิเศษ เชน่ ใช้ถุงหุ้มมือข้างนั้นไมใ่ ห้มีการปนเป้ือนและไมใ่ ห้มีการพิมพ์ลายพิมพ์น้ิว มือก่อนจะทาการ ตรวจเขมา่ ดินปืนเป็นต้น หรือในรายที่เกิดการข่มขืนและฆ่า ก็ควรห่อหุ้มมอื ท้ัง2ขา้ งในลกั ษณะที่จะรักษาสง่ิ ท่ี อาจจะอยู่ในมือผู้ตาย ซ่ึงสามารถใช้เป็นวัตถุพยานได้ รวมท้ังการห่อศพด้วยความระมัดระวังไม่ให้สิ่งที่ติดอยู่ กับศพสูญหายไป หรือปนเป้ือนส่ิงที่ไม่ได้ติดมากับศพในที่เกิดเหตุมาปนเป้ือนในภายหลัง การท่ีนิติพยาธิเน้น ทางดา้ นบาดแผล ทาใหต้ อ้ งเนน้ ไปถงึ เสื้อผ้าเครอ่ื งนุ่งหม่ ด้วย เนือ่ งจากเสื้อผ้าที่หอ่ ห้มุ ร่างกายจะรองรับอาวุธ หรือ วัตถุท่ีก่อให้เกิดบาดแผลก่อน ร่องรอยของอาวุธอาจจะปรากฏบนเส้ือผ้าแทนท่ีจะไปปรากฏบนบาดแผล ก็ได้ นอกจากนนั้ บาดแผลท่ที ะลุผา่ นเสือ้ ผ้ากับบาดแผลทไ่ี ม่ทะลผุ ่านเสือ้ ผา้ กม็ ีความหมายตา่ งกนั เช่น ถา้ เป็น การฆ่าตวั ตาย บาดแผลจะเกดิ ทส่ี ว่ นของร่างกายที่เลือกสรรแลว้ และไมท่ ะลผุ า่ นเสื้อผา้ ตนเอง ความแตกต่างอีกประการหน่ึงระหว่างพยาธิและนิติพยาธิคือ พยาธิแพทย์มักไม่ต้องเกี่ยวข้องกับการ ประเมินระยะเวลาในการตายของผู้ตาย เนื่องจากผู้ตายส่วนใหญ่จะตายในโรงพยาบาลและทราบเวลาตายที่ แนน่ อน หลงั ตายกส็ ามารถเก็บศพไว้ในต้เู ย็น โอกาสของพยาธิแพทย์ท่ีจะไดร้ บั ศพท่ีมกี ารเปลี่ยนแปลงจากการ เนา่ สลายตัวแทบจะ ไม่มี ส่วนนิติพยาธแิ พทย์จะต้องพบศพทเี่ น่าสลายตัวทกุ รูปแบบ และจาเปน็ ต้องพยายาม ประเมินระยะเวลาตายใหไ้ ดใ้ กลเ้ คียง เพอื่ ประโยชนใ์ นการสืบสวนสอบสวน บทบาทของงานทางด้านนติ เิ วชศาสตรท์ ี่เก่ยี วข้องกับกระบวนการยตุ ิธรรม 1. เพอ่ื นาเสนอข้อมูลทางการแพทยเ์ พ่อื ประกอบในกระบวนการยุติธรรม อาทิเช่น การให้ข้อมลู เก่ียวกับ บาดแผลที่ทาให้เกิดการเสียชีวิต ลักษณะอาวุธท่ีเข้ากันได้ และอาจบอกถึงเจตนาในการกระทา ความผิดไดอ้ กี ดว้ ย คมู่ อื การปฏบิ ตั งิ านนิตเิ วช (สาหรบั แพทย์และบคุ ลากรทางการแพทย)์ 2562

15 2. เพอ่ื อานวยความยุติธรรม แก่ผมู้ ไิ ด้กระทาความผิด อาทิเช่น การนาผลการตรวจสารพันธุกรรม (ดเี อ็น เอ) เพ่อื ยืนยันผู้กระทาความผดิ ท่ีแท้จรงิ อนั ทาให้ผู้ต้องสงสยั ทมี่ ิไดก้ ระทาความผิดได้รับการปลอ่ ยตัว อยา่ งทันเวลา 3. เพอ่ื เปน็ ข้อมูลเก่ียวกบั การป้องกนั โรคและสุขอนามยั แกป่ ระชาชนโดยทว่ั ไป อาทิเชน่ การตรวจพบเช้ือ โรคระบาด ในศพผู้เสียชีวิตกรณีมิทราบเหตุ ก็จะได้ทาการประสานแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพ่ือดา เนนิ การปอ้ งกนั โรคระบาดดังกล่าว อนั ทาให้สังคมและประชาชนมีความปลอดภัย 4. เพ่ือประกอบการรับเงินชดเชยหรือสินไหมทดแทนต่าง ๆ อาทิเช่น ตรวจพิสูจน์ว่าสาเหตุการเสียชีวิต น้ัน ๆ เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุทางจราจร โดยมีหรือไม่มีแอลกอฮอล์ในเลือด แม้แต่การตรวจพิสูจน์ว่า การบาดเจบ็ หรอื การเสียชวี ติ นัน้ เก่ยี วขอ้ งกับการทางาน ตามกฎหมายแรงงานหรือไม่ ประเดน็ ทางกฎหมายทีเ่ กยี่ วขอ้ ง (Law related to Medicine) ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ว่าด้วย การชันสูตรพลิกศพ โดยมาตราท่ีเกี่ยวข้องคือ ม.148 , ม.149 , ม.150 , ม.151 , ม.152 , ม.153, ม.154 , ม.155 , ม.156 โดยประเดน็ สาคัญคือ 1) กรณีที่ต้องทา การชันสูตรพลิกศพ คือ 1. ตายผิดธรรมชาติ 2. ตายในระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงาน 2) การ ตายผิดธรรมชาติ ไดแ้ ก่ 1. ฆ่าตวั ตาย 2. ถูกผ้อู ่ืนทาให้ตาย 3. ถูกสัตว์ทาร้ายตาย 4. ตายโดยอบุ ัติเหตุ 5. ตาย โดยยังมปิ รากฏเหตุ ซง่ึ ผู้มหี น้าท่ีชันสตู รพลกิ ศพในกรณนี ค้ี อื พนักงานสอบสวนและแพทย์ ดังรายละเอียด 1. ประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความอาญามาตรา 148 บญั ญตั ิว่า \"เม่ือปรากฏแนช่ ัด หรือมีเหตุอันควร สงสัยว่า บุคคลใดตาย โดยผิดธรรมชาติ หรือตายในระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงาน ให้มีการ ชันสูตรพลิกศพ เว้นแต่ตาย โดยการประหารชีวติ ตามกฎหมาย\" 2. มาตรา 150 \"ให้พนักงานสอบสวนแห่งท้องท่ี ที่ศพนั้นอยู่กับสาธารณสุขจังหวัด หรือแพทย์ประจา สถานีอนามัยหรือแพทย์ประจาโรงพยาบาล เป็นผู้ชันสูตรพลิกศพโดยเร็ว และให้ทาบันทึกรายละเอียดแห่ง การชันสูตรนั้นไว้ ถ้าบุคคลดังกล่าวไม่มีหรือไม่อาจ ปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ใช้เจ้าหน้าท่ีกระทรวงสาธารณสุข ประจาท้องท่ีหรือแพทย์ประจาตาบล ให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน แจ้งแก่ผู้ มีหน้าที่ไปทาการชันสูตร พลกิ ศพทราบ...\" 3. มาตรา 151 \"ในเม่ือมีการจาเป็นเพ่ือพบเหตุของการตาย เจ้าพนักงานผู้ทาการชันสูตรพลิกศพ มี อานาจสั่งให้ผ่าศพแล้วแยกธาตุส่วนใด หรือจะให้ส่งทั้ง ศพหรอื บางส่วนไปยังแพทยห์ รือพนกั งานแยกธาตุของ รฐั บาลก็ได้\" 4. มาตรา 152 \"ให้แพทยห์ รอื พนกั งานแยกธาตุ ของรฐั บาลปฏิบตั ดิ งั นี้ 1) ทารายงานถึงสภาพของศพ หรือส่วนของ ศพตามท่ีพบเห็นหรือท่ีปรากฏจากการตรวจ พร้อม ทง้ั ให้ความเห็นในเร่อื งนัน้ 2) แสดงเหตทุ ตี่ ายเทา่ ท่ีจะทาได้ 3) ลงวันเดอื นปี และลายมือชือ่ ในรายงาน แลว้ จัดส่งไปยงั เจา้ พนักงานผทู้ าการชนั สูตรพลิกศพ\" 5. มาตรา 154 \"ให้ผู้ชันสูตรพลิกศพทาความเห็น เป็นหนังสือแสดงเหตุและพฤติการณ์ที่ตาย ผู้ตายคือ ใคร ตายท่ไี หน เมือ่ ใด ถ้าตายโดยคนทาร้ายให้กลา่ วว่าใคร หรอื สงสยั วา่ ใครเปน็ ผู้กระทาผดิ เท่าท่ีจะทราบได้\" คู่มือการปฏบิ ตั งิ านนิติเวช (สาหรบั แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์) 2562

16 การตามแพทย์มาเพ่ือทาการรว่ มชันสูตร มีลาดับการตามดังต่อไปน้ี ซึ่งหากแพทย์ในลาดับก่อนหน้า ไม่มี หรือปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ีไม่ได้ ใหต้ ามในลาดับตอ่ ๆ ไป 1) แพทยท์ างนติ ิเวชศาสตร์ซง่ึ ไดร้ บั วุฒบิ ตั รหรืออนุมัติบตั รจากแพทยสภา 2) แพทยป์ ระจาโรงพยาบาลของรฐั 3) แพทยป์ ระจาสานักงานสาธารณสุขจังหวดั 4) แพทย์ประจาโรงพยาบาลเอกชนหรือแพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมท่ีข้ึนทะเบียนเป็น แพทย์อาสาสมัครตามระเบียบของกระทรวงสาธารณสขุ แพทย์ผู้ทาการชันสูตรศพจะทาความเห็นเป็นหนังสือแสดงรายละเอียดต่าง ๆ ในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้ ว่า ผู้ตายคือใคร ตายท่ีไหน ตายเม่ือใด เหตุตาย และพฤติการณ์ที่ตาย (ฆ่าตัวตาย ถูกผู้อื่นทาให้ตาย ถูกสัตว์ ทาร้ายตาย อุบัติเหตุ หรือโรคธรรมชาติ) ถ้าตายโดยคนทาร้าย ให้กล่าวว่าใครหรือสงสัยว่าใครเป็นผู้กระทา ความผิดเท่าท่ีทราบ (ในทางปฏิบัติะมีการให้ข้อมูลในประเด็นของอาวุธที่ใช้ บาดแผลที่เกิด และความเข้ากัน ได้กับอาวุธที่ใช้ หากเป็นกรณีอาวุธปืน ก็จะมีการระบุขนาดของกระสุน ระยะยิง และวิถีกระสุน)โดยการ ชันสูตรพลิกศพนั้นไม่จาเป็นต้องกระทาการผ่าศพเสมอไป ขึ้นกับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนและแพทย์ ร่วมกัน ท้ังน้ีในการชันสูตรพลิกศพผู้นับถือศาสนาอิสลาม ถ้าไม่จาเป็นจะต้องทาการผ่าศพ ก็ให้พยายาม หลีกเล่ียง ท้ังนี้เพ่ือมิให้เป็นการละเมิดข้อบัญญัติของศาสนาอิสลาม ตามประมวลระเบียบการตารวจเกี่ยวกับ คดี ลักษณะ 10 การชันสูตรพลิกศพ บทท่ี 1 อานาจและหนา้ ท่ใี นการชนั สตู ร ข้อ 6 วรรค 5 ในการชันสูตรพลิกศพคดีโดยปกติจะมีพนักงานสอบสวนกับแพทย์เป็นเจ้าพนักงานชันสูตรพลิกศพ ตามกฎหมาย แต่หากว่าการตายที่ผู้ตายอยู่ระหว่างการควบคุมของเจ้าพนักงานเช่น เป็นนักโทษในเรือนจํา หรือผู้ต้องหาท่ีถูกควบคุมในสถานีตารวจ ฯลฯ หรือการตายท่ีเกิดจากเจ้าพนักงาน ท่ีอ้างว่าปฏิบัติตามหน้าท่ี เจ้าพนักงานผู้ชันสูตรพลิกศพ จะมีพนักงานฝ่ายอัยการและพนักงานฝ่ายปกครองระดับปลัดอาเภอหรือ เทียบเท่าข้นึ ไปเข้าชันสูตรด้วย รวมเป็น 4 ฝ่าย คอื ตารวจ แพทย์อัยการและฝ่ายปกครองโดยพนักงานอัยการ จะเป็นหัวหน้าคณะพนักงานชันสูตรพลิกศพ อย่างไรก็ตาม กฎหมายได้ให้อานาจแพทย์สามารถมอบหมายให้ เจา้ หนา้ ทีไ่ ปรว่ มชนั สูตรศพในท่เี กดิ เหตแุ ทนไดซ้ ึง่ มเี งื่อนไข ดังน้ี 1) ตอ้ งเปน็ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลของรัฐหรือสังกดั สาธารณสขุ จงั หวดั 2) ต้องผ่านการอบรมทางนติ ิเวชศาสตร์ 3) ออกไปชันสตู รฯ แทนแพทย์ไดเ้ ฉพาะการตายผดิ ธรรมชาติจากถูกสตั ว์ทาร้ายตาย 4) ตายโดยอุบัตเิ หตุตายโดยมปิ รากฎเหตุ 5) แพทย์ท่มี อบหมายมีเหตุจาเป็นไมส่ ามารถออกไปชันสูตรฯ ได้ 6) ตอ้ งไมใ่ ชแ่ พทยเ์ อกชนท่ีอาสา 7) ผอู้ อกไปชันสตู รฯ ตอ้ งรีบรายงานผลให้แพทย์ทราบโดยเร็ว แต่การเขียนรายงานต่าง ๆ และ การเป็นพยานศาลยังเปน็ หน้าท่ีของแพทยท์ ี่มอบหมาย คมู่ ือการปฏบิ ตั งิ านนิติเวช (สาหรบั แพทยแ์ ละบุคลากรทางการแพทย)์ 2562

17 กลุ่มงานนิตเิ วชโรงพยาบาลขอนแก่น กล่มุ งานนิติเวชโรงพยาบาลขอนแก่นประกอบด้วยบุคลากร ภารกจิ ความรับผิดชอบของบคุ ลากร โครงสรา้ งภายในกลุ่มงานนิติเวช ประกอบด้วย 3 งานหลัก ได้แก่ 1) งานนิติเวช 2) งานนิติพยาธิ และ 3) งาน นติ ิวทิ ยาศาสตร์ บุคลากรในหนว่ ยงาน ประกอบด้วย 1. นายแพทย์ (นติ ิเวช) 2. นักวทิ ยาศาสตร์การแพทย์ 3. นักนิตวิ ิทยาศาสตร์ 4. เจ้าพนกั งานวิทยาศาสตร์การแพทย์ 5. พนักงานรกั ษาศพ บทบาทความรับผิดชอบของ 3 งานหลัก ไดแ้ ก่ 1. งานนติ ิเวช (Forensic Medicine) 1.1 การให้บรกิ ารตรวจพิสูจน์บุคคลจาก ศพ ชิ้นส่วนของศพในกรณีดังนี้ 1.1.1 ตายโดยผดิ ธรรมชาติ ไดแ้ ก่ - ฆ่าตัวตาย - ถูกผอู้ น่ื ทาใหต้ าย - ถกู สัตว์ทาร้ายตาย - ตายโดยอุบตั ิเหตุ - ตายโดยยังมิปรากฏเหตุ เชน่ DOA คูม่ อื การปฏิบตั ิงานนติ ิเวช (สาหรบั แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์) 2562

18 1.1.2 ตายในระหว่างอยใู่ นความควบคุมของเจ้าพนักงาน 1.2 ตดิ ต่อประสานงานเร่อื งคดีความของผเู้ สยี ชวี ิตและรบั ศพไม่มีญาตสิ ่งต่อมลู นธิ ิ 1.3 การให้บรกิ ารฉดี ยาศพเพอื่ ป้องกันการเน่าเส่อื มสลายของเซลล์อวยั วะตา่ งๆ 1.4 การรบั และการจาหน่ายศพ 1.5 การแจง้ การตาย 1.6 การตรวจอายุในคนมีชวี ติ 1.7 การตรวจพสิ ูจน์ความเปน็ พ่อ แม่ ลูก 1.8 การตรวจเอกลกั ษณข์ องศพ ในกรณี อุบตั ภิ ัย วินาศภัย 1.9 การตรวจพิสูจน์เอกลกั ษณข์ องบุคคล และใหค้ าแนะนา ปรกึ ษา 1.10 ให้ความเห็นและคาปรกึ ษาตามหลักวชิ านติ เิ วชศาสตร์ การเรยี น การสอน ศึกษาอบรมวิจยั 1.11 การใหค้ วามเห็นทาง คลินกิ ในการพิสจู นบ์ คุ คล และทีอ่ นื่ ๆทผ่ี บู้ งั คับบญั ชามอบหมาย 1.12 การปฏิบัตหิ นา้ ทอ่ี ื่นๆ ทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย 2. งานนติ พิ ยาธิ (Forensic pathology) 2.1 การตรวจชน้ิ เนอ้ื ของอวยั วะต่าง ๆ โดยวธิ ี จุลพยาธิวิทยา 2.2 การส่งตัวอย่างทไี่ ด้จากศพ ไปตรวจตามงานต่าง ๆตามแต่ข้อบ่งช้ี 2.3 การอบรมผลการตรวจทางจุลพยาธสิ ่งพนักงานสอบสวน 2.4 การปฏิเสธสิ่งสง่ ตรวจทางนติ ิพยาธิ 2.5 การส่งทาลายส่ิงสง่ ตรวจของผู้ป่วยเสยี ชวี ิต 2.6 การปฏิบตั ิงานร่วมกับหน่วยงานอน่ื หรือสนับสนนุ การปฏบิ ัติงานของหน่วยงานอ่ืนทเ่ี กยี่ วข้อง 2.7 การปฏิบตั ิหนา้ ทอ่ี น่ื ๆ ทไ่ี ด้รับมอบหมายจากผูบ้ ังคบั บัญชา 3. งานนิตวิ ิทยาศาสตร์ (Forensic science) 3.1 การตรวจพิสจู นท์ างวิทยาศาสตร์เกย่ี วกับวตั ถตุ ่าง ๆ และคดคี วามเช่นทางฟสิ ิกส์ เคมี ชีวเคมี 3.2 การศึกษาเกี่ยวกับฤทธ์ิและผลของสารพิษ ท้ังในบุคคลที่มีชีวิตและศพ เช่น การตรวจ แอลกอฮอล์ ในเลือด ปัสสาวะ สารพิษ สารเสพติดจากศพ เพ่อื หาสาเหตุการตาย 3.3 การศึกษาเก่ียวกบั นา้ เหลือง และ เลอื ด 3.4 การตรวจหา คราบเลือด คราบอสุจิ คราบนา้ ลาย 3.5 การถ่ายภาพศพ และวัตถุพยานท่มี คี วามสาคญั กับคดี และชน้ิ สว่ นของวัตถุระเบิด 3.6 การออกชนั สตู รพลิกศพนอกสถานที่ กับ แพทยแ์ ละพนกั งานสอบสวน 3.7 การตรวจทางรังสี วินิจฉยั (X-Ray) 3.8 การขนึ้ พยานศาลในกรณีศพคดี 3.9 การให้คาแนะนา และให้คาปรกึ ษาเกย่ี วกบั ด้วยนิตวิ ิทยาศาสตร์ 3.10 การปฏบิ ัตหิ นา้ ทีอ่ ื่น ๆ ทไ่ี ด้รับมอบหมายจากผบู้ ังคบั บัญชา ค่มู อื การปฏบิ ตั งิ านนติ เิ วช (สาหรบั แพทยแ์ ละบคุ ลากรทางการแพทย)์ 2562

19 ระบบบริการหอ้ งแก่นสขุ มีขั้นตอนการปฏิบัติงานเมอ่ื มผี เู้ สยี ชวี ิต ดงั น้ี ข้ันตอนการปฏิบัติงานเม่ือมีผู้เสียชีวิต ซ่ึงเป็นกรณีการตายผิดธรรมชาติ กลุ่มงานิติเวช ได้มีการ กาหนดแนวปฏิบตั ิ และได้จัดทาเป็นแผนผังระบบบริการห้องแก่นสุข โรงพยาบาลขอนแกน่ ดงั รายละเอียด 1. พยาบาลประจาตึกผปู้ ว่ ย มีหน้าทีแ่ จง้ พนักงานสอบสวน (0 4322 1162) 2. พยาบาลตรวจสอบเอกสารสิทธิการรกั ษาพยาบาล/คา่ ใชจ้ ่าย/ประกนั ชีวิต (ตาม Check list) 3. พยาบาลเตรยี มเอกสารดงั ตอ่ ไปน้ี 3.1 แบบตรวจสอบเอกสารสทิ ธกิ ารรักษาพยาบาล/คา่ ใช้จ่าย/ประกันชวี ติ (ตาม Check list) 3.2 ขอ้ มูลการรักษาของผเู้ สียชีวิต ( ไดแ้ ก่ ประวัตผิ ปู้ ่วย ผลการตรวจร่างกาย ผลการทดสอบทาง ห้องปฏิบตั กิ าร ฯลฯ ) 4. พยาบาลแจง้ พนกั งานรักษาศพ ณ ห้องแก่นสุขเพอ่ื มารบั ศพ 5. พนักงานรกั ษาศพรบั ศพมายังห้องแกน่ สุข แลว้ ลงบนั ทกึ ในสมดุ ลงทะเบียนการผา่ ชนั สูตรพลกิ ศพ 6. พนกั งานรักษาศพตดิ ตอ่ แผนกยานยนต์ เพ่อื รับศพไปยังโรงพยาบาลศรีนครนิ ทร์ 7. เจา้ หน้าท่ผี ู้รับผิดชอบการสง่ ศพไปชันสตู รพลิกศพทโี่ รงพยาบาลศรีนครนิ ทร์ เตรียมเอกสารดังน้ี 7.1 เอกสารเก่ียวขอ้ งกบั ผเู้ สยี ชีวติ ดงั ขอ้ 3 7.2 บันทึกลงประวตั กิ ารปฏบิ ตั ิงานนาส่งเอกสารผูเ้ สยี ชวี ติ ไปยังรพ.ศรีนครินทร์ (Logbook) 7.3 แบบบันทกึ การขอรบั บริการผา่ ชนั สตู รพลกิ ศพ คมู่ อื การปฏบิ ตั งิ านนติ ิเวช (สาหรบั แพทย์และบคุ ลากรทางการแพทย์) 2562

20 7.4 รายงานการชันสูตรพลิกศพ ออกโดยพนังงานสอบสวน 7.5 สมุดลงทะเบียนการผ่าชันสตู รพลกิ ศพ 8. แนบเอกสารท่รี ะบใุ นขอ้ 7 และส่งศพไปยังโรงพยาบาลศรนี ครินทร์ พรอ้ มญาตผิ ู้เสยี ชวี ิต ผู้รบั ผิดชอบการสง่ ศพไปชนั สูตรพลกิ ศพทีโ่ รงพยาบาลศรีนครนิ ทร์ 8.1 นายปรวิ รรธ คมวชั ระ นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ 8.2 นางสาวจุฑามาศ สีหานาทัง พนกั งานประจาหอ้ งทดลอง * หมายเหตุ - ในเวลา 08.00-24.00 น. นาสง่ ศพพรอ้ มเอกสารดงั ขอ้ 3 ไปยังโรงพยาบาลศรนี ครินทร์ - ในเวลา 00.01-07.59 น. นาส่งศพพร้อมรายงานการชันสูตรพลิกศพ ไปยังโรงพยาบาล ศรีนครินทร์ ในวนั และเวลา 8.00-2400 น. ถัดไป 9. แพทย์นิตเิ วชชนั สตู รพลกิ ศพ และออกหนงั สอื รบั รองการตาย (มรณะบัตร) 9.1 นพ. ธิตชิ ัย เวียงสมิ มา (โทร. 06 1935 4399) 9.2 นพ. สมบัติ เตรียมแจ้งอรณุ (โทร. 08 1871 7145) 9.3 นพ. วริ จุ น์ คุณกติ ติ (โทร. 08 1739 9863) 10. โรงพยาบาลศรีนครินทร์ออกหนังสือรับรองการตาย (มรณะบัตร) และจาหน่ายศพให้แก่ญาติ ผเู้ สยี ชีวติ เมือ่ ชาระค่าใช้จา่ ยเสร็จสนิ้ 11. เจ้าหน้าที่กลุ่มงานนิติเวช (ตามข้อ 8.1-8.2) ขอรับหนังสือรับรองการตาย (มรณะบัตร) รายงานการ ชันสูตรพลิกศพ ร่วมท้ังเอกสารเกี่ยวกับกับคดีจากภาควิชานิติเวช โรงพยาบาลศรีนครินทร์กลับมา โรงพยาบาลขอนแกน่ 12. เจ้าหน้าท่ีตึกผู้ป่วยและศูนย์บริการหลักประกันสุขภาพ (จุดบริการแจ้งเกิด-ตาย) ติดต่อรับสาเนา หนังสอื รบั รองการตาย ที่กลมุ่ งานนติ ิเวช ชัน้ 2 อาคารสิรินธร โรงพยาบาลขอนแกน่ 13. พนักงานสอบสวน และญาติผู้เสียชีวิตติดต่อรับรายงานการชันสูตรพลิกศพงานนิติเวช ได้ท่ีช้ัน 2 อาคารสริ ินธร โรงพยาบาลขอนแกน่ ดงั แผนภาพระบบบริการห้องแก่นสุข กล่มุ งานนติ เิ วช โรงพยาบาลขอนแก่น ค่มู อื การปฏบิ ตั ิงานนิติเวช (สาหรบั แพทยแ์ ละบุคลากรทางการแพทย)์ 2562

21 ER ตายผดิ ธรรมชาติ ตายธรรมชาติ แจง้ พนักงานรกั ษาศพ ณ ห้องแก่นสขุ และตดิ ต่อแผนกยานยนต์ แพทย์ออกหนังสอื รบั รองการตาย มรณะบตั ร เพือ่ รับศพไปรพ ศรนี ครินทร์ ( ) ตรวจสอบเอกสารสิทธิการรักษา/ค่าใช้จ่าย/ ประกันชวี ติ ตาม Check List) ตรวจสอบเอกสารสทิ ธกิ ารรกั ษา คา่ ใช้จา่ ย ประกนั ชีวิต ตาม Check List พนกั งานรักษาศพ รบั ศพมายงั ห้องแกน่ สขุ พยาบาลประจาตกึ โทรแจ้งพนกั งานสอบสวน เพื่อมาทาคดี โทร 0 4322 1162) แจง้ พนกั งานรักษาศพ ห้องแกน่ สขุ พนักงานรกั ษาศพ รบั ศพมายังหอ้ งแกน่ สขุ จาหนา่ ยศพใหญ้ าติผู้เสยี ชวี ิตมารบั ศพไปบาเพ็ญกศุ ล แนบเอกสารทีเ่ กย่ี วขอ้ งกบั ผู้เสียชีวิตพรอ้ มส่งศพไปยังรพ ศรี สน้ิ สุดการใหบ้ รกิ าร นครินทร์ •แบบตรวจสอบรายการ check list คา่ ใช้จ่าย เจ้าหนา้ ที่ติดตอ่ รับเอกสารเก่ียวขอ้ งกลบั มายงั รพ •เอกสารข้อมลู ผู้เสยี ชีวติ อาทิ ประวัติผตู้ าย ผลการตรวจร่างกาย ขอนแก่น ผลการทดสอบทางหอ้ งปฏิบัติการ ฯ พร้อม Logbook •สาเนาหนงั สือรบั รองการตาย •ใบขอนาสง่ ศพ เพื่อขอตรวจชันสตู รพลิกศพท่ี รพ ศรีนครนิ ทร์ •รายงานการชนั สตู รพลิกศพ •รายงานการชันสูตรพลกิ ศพ ออกโดย พนักงานสอบสวน •เอกสารขอ้ มูลผู้เสยี ชีวิต สง่ ศพไปชันสูตรพลิกศพที่รพ ศรนี ครนิ ทร์ภายใน ชว่ั โมง •ส่งคนื เอกสารขอ้ มูลผูเ้ สียชวี ิต ณ ตกึ ผู้ป่วย •ติดต่อรับสาเนาหนังสอื รับรองการตายมอบให้แก่ แพทยน์ ติ ิเวชชนั สูตรพลกิ ศพ และออกหนังสอื รบั รองการตาย มรณะบัตร กลมุ่ งานนิตเิ วช ช้นั อาคารสริ ินธร นพ ธติ ิชยั เวยี งสมิ มา โทร ไม่มีคา่ ใช้จ่าย ศนู ย์บรกิ ารหลักประกันสุขภาพ - นพ สมบัติ เตรยี มแจ้งอรุณ โทร จดุ บรกิ ารแจง้ เกดิ ตาย ชน้ั อาคารสิรนิ ธร ตกึ ผ้ปู ว่ ย นพ วริ ุจน์ คุณกติ ติ โทร หมายเหตุ กรณีญาตผิ เู้ สยี ชวี ิตจดั การคา่ ใชจ้ ่ายไม่เสร็จสิ้น จะต้องติดตอ่ ชาระคา่ ใช้จา่ ยทรี่ พ ขอนแกน่ ให้แลว้ เสรจ็ จึง ญาติผเู้ สยี ชวี ติ ตดิ ต่อรับหนงั สอื ญาตผิ ูเ้ สยี พนักงานสอบสวนชีวติ จะสามารถตดิ ต่อขอ ใบขอรบั ศพ ณ รพ ศรีนครนิ ทร์ รับรองการตายและนาศพไปบาเพ็ญ ตดิ ต่อรับรายงานการชันสตู รพลกิ กุศล ศพ ณ รพ ศรีนครนิ ทร์ ณ รพ ขอนแก่น สน้ิ สุดการใหบ้ ริการ แผนภาพระบบบริการหอ้ งแก่นสขุ กล่มุ งานนติ ิเวช คมู่ ือการปฏบิ ตั งิ านนติ เิ วช (สาหรบั แพทยแ์ ละบุคลากรทางการแพทย์) 2562

22 เอกสารอา้ งอิง วชิ าญ เปี้ยวนิม่ . (2544). บทบาทของแพทยต์ ามกฎหมายว่าด้วยการชันสตู รพลกิ ศพทแ่ี ก้ไขใหม่. ธรรมศาสตร์เวชสาร; 1 : 66-76. วชิ าญ เป้ียวนมิ่ . (2549). การประเมินบาดแผล การชนั สตู รพลกิ ศพและกฎหมายท่เี กยี่ วขอ้ ง. ใน: ฉตั รสุมน พฤฒภิ ญิ โญ, บรรณาธิการ. บริหารกฎหมายการแพทย์และสาธารณสขุ . พิมพค์ รงั้ ที่ 1. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยมหดิ ล ; 269-301. วฑิ ูรย์ องึ้ ประพนั ธ์. (2524) ค่มู ือการชันสตู รพลิกศพ. พิมพค์ รั้งท่ี 1. กรงุ เทพ : พฆิ เณศ ; 6-10. วิฑรู ย์ อ้งึ ประพันธ์. (2548) นิตเิ วชศาสตร์. พมิ พ์คร้ังที่ 8. กรงุ เทพมหานคร: สานกั พมิ พม์ หาวทิ ยาลยั รามคาแหง ; 5-7. พรทิพย์ โรจนสนุ ันท์. (2545). นิตเิ วชศาสตรก์ ารชนั สตู รศพ. พมิ พ์ครงั้ ท่ี 4 กรุงเทพฯ : วิญญชู น ;16. ไพฑูรย์ ณรงค์ชัย. (2548). นิติพิษวิทยา. พิมพค์ รงั้ ที่ 1. เชยี งใหม่; คณะแพทยศาสตรม์ หาวทิ ยาลัยเชียงใหม่: 5. ธีระพล อรุณะกสิกร, และคณะ. (2551). ประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณาความอาญา ฉบบั ทันสมัย แกไ้ ขเพ่ิมเติม. พมิ พค์ รั้งที่ 1. กรุงเทพฯ : วญิ ญูชน ; 2551. 30-1. เล้ียง หยุ ประเสรฐิ (2550). นติ ิเวชศาสตร์สาหรบั พนักงานสืบสวนสอบสวน.พิมพ์ครัง้ ท่ี 1. กรุงเทพฯ : สานักพมิ พ์สตู รไพศาล; 37-8. สานักงานปลัดกระทรวง.(2560). คู่มือการปฏิบัติงานนิติเวช (สาหรับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์) กระทรวงสาธารณสขุ สานกั งานบริหารการสาธารณสขุ สานักงานปลัดกระทรวง คมู่ อื การปฏบิ ตั ิงานนติ ิเวช (สาหรบั แพทย์และบคุ ลากรทางการแพทย์) 2562

23 ภาคผนวก ค่มู ือการปฏบิ ตั งิ านนติ เิ วช (สาหรบั แพทยแ์ ละบุคลากรทางการแพทย)์ 2562

24 โครงสรา้ งกลุม่ งานนติ ิเวช โรงพยาบาลขอนแก่น นายแพทยช์ าญชยั จันทร์วรชัยกลุ ผอู้ านวยการโรงพยาบาลขอนแกน่ นายแพทย์เสกสรร สุวรรณแพง รองผ้อู านวยการโรงพยาบาลขอนแกน่ นางอรวรรณี สวนโคกกรวด นกั วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ชานาญการพเิ ศษ หวั หน้ากลุ่มงานนิติเวช งานนิตเิ วช งานนติ พิ ยาธิ งานนิตวิ ิทยาศาสตร์ นายแพทยธ์ ิตชิ ยั เวียงสิมมา นางอรวรรณี สวนโคกกรวด นางอรวรรณี สวนโคกกรวด แพทยน์ ติ ิเวช โรงพยาบาลศรีนครินทร์ นักวิทยาศาสตรก์ ารแพทยช์ านาญการพิเศษ นักวทิ ยาศาสตร์การแพทยช์ านาญการพเิ ศษ นายแพทย์วิรุจน์ คุณกิตติ นายปริวรรธ คมวัชระ นางสาวสินีนาฏ ศริ จิ นิ ตนา แพทยน์ ติ ิเวช โรงพยาบาลศรนี ครินทร์ นักวิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ นกั นติ ิวทิ ยาศาสตร์ นายแพทยส์ มบตั ิ เตรยี มแจ้งอรณุ นายแพทย์ธติ ิชยั เวียงสมิ มา นายแพทยธ์ ติ ิชยั เวยี งสิมมา แพทย์นติ เิ วช โรงพยาบาลศรีนครนิ ทร์ พนักงานประจาห้องทดลอง พนักงานประจาห้องทดลอง นายปริวรรธ คมวัชระ นักวิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ นายสนธยิ า สอนทา้ ว พนักงานรักษาศพ นายบรรจง เต๊ะเสน พนักงานรักษาศพ นายตี แม้นภูเวียง พนักงานรกั ษาศพ นายธงไชย ชาญศรี พนักงานรกั ษาศพ นายอนุสษิ ฐ์ พรมแพง พนักงานรักษาศพ นายกิตตศิ ักด์ิ พลมาตย์ พนักงานรักษาศพ ค่มู ือการปฏิบตั งิ านนติ เิ วช (สาหรบั แพทย์และบคุ ลากรทางการแพทย์) 2562

I ค่มู อื การปฏบิ ตั ิงานนติ เิ วช (สาหรบั แพทยแ์ ละบคุ ลากรทางการแพทย)์ 2562


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook