เอกสารประกอบการเรยี น รหัสวิชา 30215-2106 วชิ า ระบบสารสนเทศเพื่อการจดั การ ระดบั ประกาศนยี บตั รวิชาชีพชน้ั สูง หนว่ ยท่ี 1 เรอ่ื งความรูเ้ บอื้ งตน้ เก่ยี วกับระบบสารสนเทศเพอื่ การจดั การ (Management Information System : MIS) ขอบข่ายเน้อื หา 1. ความหมายของระบบสารสนเทศเพ่อื การจดั การ (Management Information System : MIS) 2. สาเหตุในการนาระบบสารสนเทศเพ่อื การจัดการมาใชใ้ นองคก์ าร 3.ประโยชนข์ องระบบสารสนเทศเพ่อื การจัดการ 1. ความหมายของของระบบสารสนเทศเพอื่ การจัดการ (Management Information System : MIS) ระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การ (Management Information System: MIS) หมายถึง ระบบที่รวบรวมและ จดั เกบ็ ข้อมลู จากแหล่งขอ้ มลู ต่าง ๆ ทงั้ ภายใน และภายนอกองค์การอย่างมหี ลกั เกณฑ์ เพ่ือนามาประมวลผลและ จัดรปู แบบให้ได้สารสนเทศที่ชว่ ยสนับสนุนการทางาน และการตดั สินใจในด้านตา่ ง ๆ ของผู้บริหารเพอ่ื ใหก้ าร ดาเนินงานขององคก์ ารเป็นไปอย่างมีประสิทธภิ าพ โดยที่เราจะเหน็ วา่ MIS จะประกอบด้วยหนา้ ทหี่ ลัก 2 ประการ 1. สามารถเกบ็ รวบรวมข้อมลู จากแหลง่ ต่าง ๆ ทง้ั จากภายในและภายนอกองค์การมาไว้ดว้ ยกันอยา่ งเป็น ระบบ 2. สามารถทาการประมวลผลข้อมลู อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ เพ่อื ให้ได้สารสนเทศท่ีช่วยสนับสนนุ การ ปฏบิ ตั ิงานและการบรหิ ารงานของผูบ้ รหิ าร
2. สาเหตุในการนาระบบสารสนเทศเพอ่ื การจดั การมาใช้ในองค์การ 1. การเกิดข้ึนในระบบเศรษฐกจิ โลก (Global Economy) นัน่ คือ การดาเนนิ ธรุ กจิ ไมใ่ ชเ่ พียงในระดบั ท้องถนิ่ แต่เปน็ ระบบเศรษฐกิจทคี่ รอบคลุมโลก สืบเนอื่ งจาก 1.1 ธรุ กิจมกี ารขยายสาขา หรือหน่วยงานครอบคลุมโลก เกิดธรุ กจิ ในรปู แบบบริษัทข้ามชาติ (Multinational Corporation : MNC) โดยต้ังโรงงานในประเทศท่มี ีต้นทนุ การผลติ ต่า แลว้ ส่งสินค้าไปขายทต่ี า่ งๆใน โลก 1.2 การแข่งขันในตลาดโลก การผลติ ในปจั จบุ ันเปน็ การผลติ แบบปรมิ าณมาก (Mass Product) โดยใช้เครอ่ื งจักรในการผลิต เพอ่ื ให้สินค้ามคี ณุ ภาพตรงตามมาตราฐานสามารถแขง่ ขันไดใ้ นตลาดโลก ระบบ สารสนเทศ เป็นเครอื่ งมือหลักทจี่ ะสนบั สนนุ ให้ธรุ กจิ มคี วามสามารถในการวิเคราะห์ ประสานงาน ควบคมุ กระบวนการผลติ การใหบ้ ริการ 1.3 การประสานงานรว่ มกนั ระหวา่ งประเทศ ระบบสารสนเทศจะทาหน้าท่เี ป็นตวั กลางสาคญั ในการติดต่อสือ่ สาร แลกเปลี่ยน ความรู้ ขอ้ มูล วฒั นธรรม 2. ผลกระทบจาก \"โลกาภิวตั น์\" (Globalization) เป็นผลมาจากพฒั นาการดา้ นการติดต่อส่อื สาร ทีต่ ิดต่อถงึ กนั อยา่ ง \"ไรพ้ รมแดน\" ประชาชน ณ จดุ ตา่ งๆ บนโลกสามารถรบั รขู้ ่าวสาร ข้อมลู จากอกี ซกี โลกหนงึ่ ได้ในเวลา เกือบทันที 2.1 ผลกระทบจากเหตกุ ารณ์ตา่ งๆ เกดิ ขนึ้ อย่างรวดเร็ว เนอ่ื งจากเทคโนโลยสี ่ือสารทาให้ทัว่ โลก ไดร้ ับรเู้ หตกุ ารณ์ตา่ งๆ ในระยะเวลาอันสน้ั ดงั นนั้ ผลกระทบทเี่ กิดจากเหตุการณต์ า่ งๆ จึงรวดเร็วข้นึ เชน่ เกดิ การ จลาจล ประทว้ ง ระบบสารสนเทศจึงเขา้ มามบี ทบาทในการคน้ หา รวบรวม และประเมินผล ขอ้ มูลข่าวสาร เพอ่ื วเิ คราะห์แนวทางในการแก้ปัณหาในธรุ กจิ ใหท้ นั ต่อเหตุการณ์ 2.2 ลูกค้าให้ความสาคญั กบั คณุ ภาพของสนิ คา้ เนอื่ งจากการคมนาคมขนส่งท่สี ะดวกการส่งออก และนาเขา้ สะดวกข้ึนและการเปดิ เสรที างการค้า ระบบสารสนเทศจงึ เข้ามามีบทบาทตอ่ ธรุ กิจในเรอื่ งของการคดิ คน้ ผลติ ภณั ฑ์ ออกแบบ การควบคมุ กระบวนการผลิต การใหบ้ รกิ ารลกู คา้ 2.3 พฤตกิ รรมใช้คอมพิวเตอร์ของลูกคา้ ระบบสารสนเทศจึงเข้ามามบี ทบาทเกีย่ วกับชอ่ งทางการ จัดจาหน่าย เชน่ การขายสนิ ค้าบนอนิ เทอรเ์ นต็ การโฆษณาสินค้า เปน็ ตน้ 3. การเปล่ียนแปลงโครงสรา้ งขององคก์ าร การใช้ทรพั ยากรรว่ มกนั เพอ่ื ให้เกดิ ความประหยัด การประยกุ ต์ แนวคดิ \"องค์การแห่งการเรียนรู้\" (Learning Organization) เพอื่ ใหอ้ งคก์ รเกดิ ความต่นื ตวั พรอ้ มท่ีจะปรับตัวให้ทัน ต่อความเปลย่ี นแปลง การเปล่ียนแปลงโครงสรา้ งขององคก์ ารได้แก่
3.1 การออกแบบกระบวนการทางธรุ กิจใหม่ (Business Improving by Using Business Process Reengineering : BPR) คือ การนานวัตกรรมมาประยุกต์ในองค์การ โดยใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ 3.2 ลดตน้ ทนุ ในการผลิต ระบบสารสนเทศ ช่วยให้เกดิ การการประหยัดในทุกๆด้าน ทั้งในดา้ น ตน้ ทุน เวลา และพื้นทีใ่ นการทางาน 3.3 การเปลี่ยนวธิ ีทางาน การทางานในปัจจบุ ันจะเน้นการทางานทางไกลโดยใช้เทคโนโลยี เครือข่ายและการสื่อสารใหเ้ ป็นประโยชน์ 4. การเกดิ ขึน้ ขององคก์ รดจิ ิทลั องค์กรจานวนมากได้ปรับตวั โดยนาเทคโนโลยเี ครือขา่ ยและอนิ เทอรเ์ น็ต มาใชใ้ หเ้ ปน้ ประโยชน์ 5. นโยบายดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ 3.ประโยชน์ของระบบสารสนเทศเพือ่ การจดั การ 1.ผู้ใช้สามารถเข้าถึงสารสนเทศท่ตี ้องการได้อย่างรวดเรว็ และไดร้ ับขอ้ มูลท่ีทนั สมยั 2.ผใู้ ชส้ ามารถนาสารสนเทศทไ่ี ด้ มากาหนดเปา้ หมาย กลยุทธ์ และการวางแผนปฏิบตั กิ ารในการทางานได้ 3.ผู้ใช้สามารถนาสารสนเทศท่ีได้ มาใชใ้ นการตรวจสอบประเมนิ ผลการดาเนนิ งาน 4.ผู้ใชส้ ามารถนาสารสนเทศท่ไี ด้ มาใชใ้ นการศกึ ษาและวิเคราะห์สาเหตุของปญั หา หรืออปุ สรรคท่ีเกิดขึ้น การค้นหาสาเหตุ หรือขอ้ ผดิ พลาดทีเ่ กดิ ข้นึ ในการดาเนินงาน เพือ่ หาวธิ ีควบคมุ ปรบั ปรุง และแก้ไขปัญหา 5.ผู้ใช้สามารถนาสารสนเทศทีไ่ ด้ มาใช้ในการศกึ ษาและวเิ คราะหเ์ พ่ือช่วยลดคา่ ใช้จา่ ยตา่ ง ๆ ทเ่ี กิดขนึ้ ได้ สารสนเทศที่ไดจ้ ากระบบสารสนเทศเพอ่ื การจัดการ จะเปน็ ระบบท่ี สามารถสนับสนุนขอ้ มลู ให้ ผบู้ รหิ าร ท้งั สามระดบั คอื ท้งั ผูบ้ ริหารระดบั ต้น ผ้บู รหิ ารระดบั กลาง และผู้บริหารระดับสงู โดยสว่ นใหญ่รายงานที่ได้ จะ เปน็ ข้อมลู สรุปจากฐานข้อมูลทัง้ หมด เพอื่ ใหผ้ ู้บริหารสามารถมองเห็นแนวโน้ม และภาพรวมข้อมลู จากรายงานที่ ไดร้ บั
Search
Read the Text Version
- 1 - 3
Pages: