กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศยั อำเภอสุวรรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนนิ โครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชพี ชมุ ชน รูปแบบช้ันเรยี นวิชำชีพ หลกั สูตรกำรจักสำนจำกไม้ไผ่ ก คำนำ สรุปผลกำรดำเนินงำนโครงกำรศูนย์ฝึกอำชีพชนชน รูปแบบช้ันเรียนวิชำชีพ หลักสูตร กำรกำรจักสำนจำกไม้ไผ่ กศน.ตำบลดงมะไฟ จังหวัดหนองบัวลำภู ฉบับนี้จัดทำข้ึนเพ่ือรวบรวมข้อมูลระดับ ควำมสำเร็จและควำมพึงพอใจท่ีมีต่อโครงกำร ปัญหำ อุปสรรค ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ เพ่ือนำไปใช้เป็น ขอ้ มลู ประกอบในกำรดำเนินโครงกำรครัง้ ถัดไป ศูนย์กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัยอำเภอสุวรรณคูหำ หวังเป็นอย่ำงย่ิงว่ำสรุปผลกำร ดำเนินงำนกำรจัดกิจกรรมดังกล่ำวจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ต้องกำรศึกษำ และจะเป็นแนวทำงในกำรนำไปพัฒนำ และปรบั ปรงุ งำนกำรศึกษำนอกระบบในปีงบประมำณต่อไป กศน.ตำบลดงมะไฟ มถิ นุ ำยน 2565 กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัยอำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรุปผลกำรดำเนินโครงกำรศูนย์ฝกึ อำชพี ชมุ ชน รูปแบบชนั้ เรยี นวชิ ำชีพ หลกั สตู รกำรจกั สำนจำกไมไ้ ผ่ ข สารบญั รำยกำร หนำ้ คำนำ ก สำรบัญ ข บทที่ 1 บทนำ 1 บทที่ 2 เอกสำรทเี่ กีย่ วข้อง 3 บทท่ี 3 วธิ กี ำรดำเนนิ กำร 8 บทท่ี 4 ผลกำรดำเนนิ งำน 10 บทท่ี 5 สรปุ ผลและข้อเสนอแนะ 15 ภำคผนวก 17 รปู ภำพประกอบกจิ กรรม โครงกำร รำยมือชอื่ ผเู้ ขำ้ รว่ มกจิ กรรม อน่ื ๆ คณะผจู้ ดั ทำ กศน.ตำบลดงมะไฟ ศูนย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศัยอำเภอสุวรรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนินโครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชีพชมุ ชน รปู แบบช้นั เรียนวิชำชีพ หลกั สูตรกำรจักสำนจำกไมไ้ ผ่ 1 บทท่ี 1 บทนำ ควำมเป็นมำและควำมสำคญั จำกสถำนกำรณเ์ ศรษฐกจิ และควำมเหล่ือมล้ำท่ีมอี ยูใ่ นสงั คมปจั จบุ นั แสดงถึงฐำนเศรษฐกิจของประเทศ ท่ยี งั ไมเ่ ข้มแขง็ ประชำชนระดับฐำนรำกยงั มีรำยได้นอ้ ย ส่วนใหญม่ ีอำชีพภำคกำรเกษตร จงึ ไมม่ โี อกำสทีจ่ ะเตบิ โต เป็นชนช้นั กลำง กำรขำดโอกำสและควำมรู้เกี่ยวกับทักษะด้ำนอำชพี ทำให้เกิดปัญหำในกำรประกอบอำชพี เพ่อื สรำ้ งรำยได้จำกผลผลติ ของตนเอง จำกสภำวะกำรดังกลำ่ ว รัฐบำลจึงไดใ้ ห้ควำมสำคัญต่อกำรพัฒนำประเทศด้ำน เศรษฐกิจพนื้ ฐำนของประชำชนกลุ่มดังกล่ำว โดยพยำยำมท่ีจะสง่ เสริมอำชีพเพ่ือสรำ้ งงำนและผลผลิต ทม่ี ีคุณภำพ ใหแ้ กป่ ระชำชนอยำ่ งทว่ั ถึงและทกุ ระดับชัน้ ซงึ่ กำรพัฒนำประเทศจะต้องพฒั นำทรัพยำกรมนษุ ย์ ของประเทศ ดังน้นั กำรจดั กำรศกึ ษำจงึ เป็นปจั จัยสำคัญอันจะนำไปสู่กำรบรรลุเป้ำหมำยในกำรพัฒนำประเทศอย่ำงมคี ุณภำพ และยง่ั ยืน เพื่อตอบสนองยุทธศำสตรช์ ำติ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) ดำ้ นกำรสร้ำงโอกำส และ ควำมเสมอภำคทำง สังคมเพ่ือ เรง่ กระจำยโอกำสกำรพัฒนำให้ทวั่ ถงึ ลดควำมเหลอ่ื มล้ำไปสสู่ ังคมเสมอภำค และเปน็ ธรรม สำนักงำน กศน. ซง่ึ เปน็ หน่วยงำนทำงกำรศกึ ษำทม่ี ีสถำนศกึ ษำตง้ั อยู่ในระดับอำเภอ/เขต จำนวน 928 แห่ง และ กศน. ตำบล จำนวน 7,424 แหง่ ได้ขบั เคลื่อนโครงกำรศูนย์ฝึกอำชพี ชุมชน เพ่อื พัฒนำควำมรูแ้ ละฝึกอำชีพแก่ประชำชน โดยกำรจัดกิจกรรมฝึกอำชีพภำยใต้ 5 หลักสูตรกลุ่มอำชพี ไดแ้ ก่ กลมุ่ อำชีพ ด้ำนเกษตรกรรม กลุ่มอำชีพดำ้ น อตุ สำหกรรมหรือหัตถกรรม กลมุ่ อำชีพดำ้ นพำณชิ ยกรรมและบรกิ ำร กลมุ่ อำชีพด้ำนควำมคิดสรำ้ งสรรค์ และกลุ่ม อำชพี เฉพำะทำง เช่น ช่ำงไฟฟำ้ ชำ่ งซ่อมแอร์ ฯลฯ โดยมงุ่ หวงั ให้ประชำชน ทเ่ี ขำ้ รบั กำรฝกึ อำชีพสำมำรถนำ ควำมรไู้ ปใช้ประกอบอำชีพได้ มีกำรพัฒนำต่อยอดผลติ ภัณฑ์/บรกิ ำร ใหม้ ีคณุ ภำพ เป็นกำรสรำ้ งมลู คำ่ เพ่ิม มี สง่ เสริมกำรขำยและขยำยช่องทำงกำรจำหน่ำยสนิ ค้ำไปยังผู้บรโิ ภคทห่ี ลำกหลำย ภำยใต้ Brand กศน. ในอนำคต กศน.ตำบลดงมะไฟ สงั กดั ศูนย์กำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศัยอำเภอสุวรรณ คูหำ ได้สำรวจควำมต้องกำรด้ำนอำชพี ของชุมชนตำบลดงมะไฟเรียบร้อยแล้ว จงึ ได้ดำเนินงำนตำมโครงกำรขึน้ วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงกำร 1.เพ่อื ใหป้ ระชำชนมีควำมรู้และทกั ษะในกำรประกอบอำชพี สำมำรถสรำ้ งรำยไดท้ ่ีมนั่ คง ม่งั ค่งั 2.เพือ่ ใชใ้ นกำรตัดสินใจประกอบอำชีพให้สอดคล้องกับศักยภำพของตนเอง ชมุ ชน สงั คม และสง่ิ แวดล้อม อย่ำงมีคณุ ธรรมจรยิ ธรรม 3.เพอ่ื ให้ประชำชนมีโครงกำรประกอบอำชีพเพื่อใช้เปน็ แนวทำงในกำรพัฒนำอำชพี ของตนเอง กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัยอำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรุปผลกำรดำเนินโครงกำรศนู ย์ฝึกอำชพี ชุมชน รูปแบบชัน้ เรยี นวชิ ำชีพ หลักสูตรกำรจกั สำนจำกไมไ้ ผ่ 2 ขอบเขตของโครงกำร 1. ดำ้ นเนือ้ หำ โครงกำรน้ีมุ่งใหผ้ ู้เรยี นกลมุ่ เป้ำหมำยทีเ่ ข้ำรับกำรอบรมสำมำรถนำ ควำมรู้ ทกั ษะ และประสบกำรณ์กำรเรยี นรู้ตำ่ งๆ ไปใชใ้ นกำรประกอบอำชีพทเี่ ปน็ กำรเข้ำสอู่ ำชีพ สรำ้ งงำน สร้ำง รำยได้ หรือพัฒนำอำชีพ หรือตอ่ ยอดอำชพี เดิม 2. ดำ้ นระยะเวลำ ระยะเวลำในกำรดำเนินงำน วนั ที่ 13 มถิ ุนำยน 2565 ถึง 19 มิถนุ ำยน 2565 ณ กศน.ตำบลดงมะไฟ หมู่ท่ี 9 ตำบลดงมะไฟ อำเภอสวุ รรณคหู ำ จงั หวัด หนองบวั ลำภู 3. ดำ้ นประชำกรและกลมุ่ ตวั อย่ำง ประชำชนตำบลดงมะไฟ จำนวน 11 คน และครู กศน.ตำบลดงมะไฟ จำนวน 3 คน ประโยชนท์ ค่ี ำดวำ่ จะไดร้ บั - ประชำชนตำบลดงมะไฟกลุ่มเปำ้ หมำยมีอำชีพใหมม่ ีกำรพฒั นำตอ่ ยอดอำชพี เดิม เพ่ิมทักษะกำรเป็น ผปู้ ระกอบกำร มีรำยได้ มีงำนทำ มีควำมมนั่ คง ย่ังยืน - เพ่ือให้ผู้เข้ำรับกำรอบรมสำมำรถนำควำมรู้ ทักษะ และประสบกำรณ์กำรเรียนรู้ต่ำงๆ ไปใช้ในกำร ประกอบอำชพี ทเ่ี ปน็ กำรเขำ้ สู่อำชพี สร้ำงงำน สรำ้ งรำยได้ หรอื พัฒนำอำชีพ หรือตอ่ ยอดอำชพี เดมิ ตวั ช้วี ัด ตัวช้วี ดั ผลผลิต ร้อยละ 80 ของประชำชน ตำบลดงมะไฟ ทเี่ ขำ้ ร่วมโครงกำรมอี ำชีพ มีงำนทำ มีรำยได้ท่ีมนั่ คงยิ่งขน้ึ ตวั ช้ีวดั ผลลัพธ์ ประชำชนตำบลดงมะไฟ ทเี่ ข้ำรว่ มโครงกำรมคี วำมรู้ ทกั ษะ และประสบกำรณ์กำรเรยี นรู้ตำ่ งๆ ไปใช้ใน กำรประกอบอำชีพที่เปน็ กำรเขำ้ สู่อำชพี สรำ้ งงำน สร้ำงรำยได้ หรอื พัฒนำอำชีพ หรือต่อยอดอำชพี เดมิ กศน.ตำบลดงมะไฟ ศูนย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศัยอำเภอสุวรรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนนิ โครงกำรศนู ย์ฝึกอำชีพชุมชน รปู แบบชัน้ เรยี นวิชำชีพ หลักสูตรกำรจกั สำนจำกไมไ้ ผ่ 3 บทท่ี 2 เอกสำรทเ่ี กีย่ วขอ้ ง ควำมหมำยและควำมสำคญั ของกำรพฒั นำอำชีพ โดยทั่วไป อำชีพ (Career) หมำยถงึ ส่งิ ทบ่ี คุ ลำกรทำเพื่อกำรดำรงชวี ติ โดยใช้ควำมรู้ ทกั ษะ และ ควำมสำมำรถของตนท่ีได้รับจำกกำรศกึ ษำและฝึกอบรม เช่น อำชีพแพทย์ พยำบำล นักวทิ ยำศำสตร์ ช่ำง ไฟฟำ้ ชำ่ งไม้ เปน็ ตน้ แตใ่ นทนี่ ี้จะใหค้ วำมหมำยของคำวำ่ อำชีพ คือ “ลำดบั ของตำแหนง่ ซง่ึ บคุ คลดำรงอยู่ ภำยในชว่ งชวี ติ ของเขำ” (De Cenzo & Robbins, 1994) ดงั น้ัน บุคลำกรทกุ คนท่ีทำงำนโดยได้รบั หรอื ไมไ่ ดร้ ับ ค่ำตอบแทน จะถือวำ่ เป็นบุคคลทีม่ อี ำชีพทงั้ สนิ้ กำรพฒั นำอำชพี (Career development) จงึ หมำยถงึ กระบวนกำรซง่ึ องคก์ ำรจดั ข้ึนเพื่อช่วยเหลือ บุคลำกรในกำรจัดกำรกบั อำชีพของตนเอง (De Cenzo & Robbins, 1994) ซึ่งอำจจะได้แก่กำรประเมนิ ศกั ยภำพของบคุ คล กำหนดเสน้ ทำงอำชพี ท่ีเหมำะสม วำงแผน และฝึกอบรม เพื่อส่งเสรมิ ให้บุคลำกรมีกรพัฒนำ และควำมกำ้ วหนำ้ ในงำน ประโยชน์ของกำรพัฒนำอำชีพ กำรพัฒนำอำชพี ของบคุ ลำกร มีควำมสำคัญและก่อให้เกดิ ประโยชน์แก่องค์กำรหลำยประกำร ดังต่อไปนค้ี ือ - ชว่ ยรบั ประกนั วำ่ บคุ ลำกรทีม่ คี วำมสำมำรถจะอยกู่ บั องค์กำรตอ่ ไป บุคลำกรที่มีควำมสำมำรถ และประสบกำรณ์ ย่อมเป็นที่ต้องกำรขององค์กำรทุกแห่งและบุคคลเหลำ่ น้สี ำมำรถที่จะหำงำนใหม่ได้อยำ่ งรวดเรว็ และงำ่ ยดำย หำกพวกเขำรสู้ ึกวำ่ องค์กำรไมไ่ ด้ใหค้ วำมสำคัญแก่พวกเขำ และไม่ไดร้ ับนโยบำยหรือมำตรกำรใด ๆ ท่จี ะสง่ เสริมควำมกำ้ วหน้ำในอำชพี แก่พวกเขำแลว้ โอกำสท่พี วกเขำจะลำออกจำกงำนก็มสี ูง ย่ิงข้ึน ดงั นนั้ โครงกำรดำ้ นกำรพัฒนำอำชีพจะเปน็ สงิ่ เหน่ยี วร้งั มิให้บุคลำกรท่มี ีควำมสำมำรถเหล่ำน้ีออกจำก องค์กำรไป - ชว่ ยใหอ้ งคก์ ำรสำมำรถดงึ บุคลำกรทมี่ คี วำมสำมำรถสูงเขำ้ มำทำงำนไดม้ ำกขน้ึ บคุ คลท่มี ี ควำมสำมำรถสูงมกั จะพิจำรณำเลือกทำงำนกับองค์กำร ซ่ึงให้ควำมสำคัญตอ่ อนำคตและควำมก้ำวหนำ้ ของ บุคลำกร ดังนนั้ หำกองคก์ ำรใดทมี่ โี ครงกำรด้ำนกำรพฒั นำอำชพี กย็ ่อมจะมีควำมไดเ้ ปรียบในกำรดึงดูดบุคลำกร เหล่ำน้ันใหเ้ ขำ้ มำทำงำนกับตนเอ - ชว่ ยสรำ้ งภำพลกั ษณ์ทด่ี ใี หก้ บั องคก์ ำร องค์กำรทใี่ ห้ควำมสำคัญและควำมสนใจแก่อนำคตและ ควำมกำ้ วหน้ำของบุคลำกร ยอ่ มจะทำให้ท้ังบคุ ลำกรภำยในองค์กำรและบุคลำกรภำยนอกองค์กำรนัน้ ดว้ ย ควำมรู้สกึ ที่ดี ซ่งึ จะชว่ ยสง่ เสริมภำพลักษณแ์ ละช่ือเสยี งใหอ้ งค์กำรเป็นอย่ำงดี - ชว่ ยใหบ้ คุ ลำกรมกี ำรพฒั นำตนเองและลดควำมลำ้ สมยั กำรทำงำนในตำแหนง่ หนึ่ง ๆ อัน อำจจะทำให้บคุ ลำกรลำ้ หลงั ต่อควำมเปลยี่ นแปลงต่ำง ๆ ดงั น้นั กำรพฒั นำอำชพี จะชว่ ยให้บคุ ลำกรมีกำรพฒั นำ ตนเองอยูต่ ลอดเวลำ ทง้ั นเ้ี พรำะบุคลำกรเหลำ่ นน้ั จำเปน็ ต้องเพิ่มพนู ควำมรแู้ ละควำมสำมำรถตำ่ ง ๆที่จำเป็น กอ่ นที่จะสำมำรถก้ำวข้นึ สู่ตำแหน่งอ่นื ๆ กศน.ตำบลดงมะไฟ ศูนยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศัยอำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรุปผลกำรดำเนนิ โครงกำรศนู ยฝ์ ึกอำชีพชุมชน รปู แบบช้ันเรยี นวิชำชีพ หลกั สูตรกำรจกั สำนจำกไม้ไผ่ 4 ควำมหมำยและควำมสำคญั ของอำชีพ อำชีพ หมำยถึง กำรทำงำนซึ่งมผี ลตอบแทนออกมำในรูปของรำยได้เพือ่ บุคคลนำไปดำรงชพี ทงั้ ของตนและครอบครวั ง นั้นตอ้ งเป็นงำนทีส่ ุจรติ ก่อให้เกดิ ประโยชนแ์ ก่สังคมโดยสว่ นรวม โดยไมท่ ำให้ตนเอง และผ้อู น่ื เดือดรอ้ น ควำมสำคัญของกำรประกอบอำชีพ 1. ทำให้มรี ำยได้ประจำเลีย้ งตนเองและครอบครัวโดยซ้ือหรือจดั หำสิ่งจำเป็นสำหรบั กำรดำรงชีวติ 2.ทำใหม้ ีโอกำสใชค้ วำมรูค้ วำมสำมำรถที่มอี ยู่ทำงำนใหเ้ ปน็ ประโยชนต์ อ่ สังคมและประเทศชำติ 3.ทำให้มีโอกำสสร้ำงชอ่ื เสียงใหแ้ ก่ตนเองและวงศต์ ระกลู เป็นที่ยอมรับของบุคคลในสังคม 4.ทำใหม้ หี ลกั ฐำนม่นั คง เปน็ ทเ่ี คำรพนับถือของบุคคลอน่ื ๆ 5.ทำให้รจู้ กั ใชเ้ วลำวำ่ ให้เป็นประโยชน์ จะได้ไมป่ ระพฤติตนไรส้ ำระ 6.ทำให้บคุ คลเกิดควำมภำคภมู ิใจในตนเอง ท่สี ำมำรถพ่ึงตนเองได้ และยงั ทำประโยชนแ์ กส่ งั คมโดยส่วนร่วมดว้ ย เรื่อง ควำมสำคญั และควำมจำเปน็ ในกำรพฒั นำอำชพี ควำมสำคญั และควำมจำเปน็ ของกำรพฒั นำอำชีพ วิเครำะห์ลกั ษณะขอบขำ่ ยกำรงำนอำชพี กระบวนกำร ทำงำน กำรบริหำรจัดกำรของอำชพี ตำ่ ง ๆ ในชมุ ชน สงั คม ประเทศ และโลก เพื่อกำรพัฒนำอำชพี จำกกำรงำน อำชีพตำ่ งๆ กำรพฒั นำอำชพี หมำยถึง กำรพฒั นำอำชีพท่ีดำเนินอย่ใู ห้เหมำะสมกบั ควำมตอ้ งกำรของตลำด กำรพัฒนำอำชพี ท่ี มปี ระสทิ ธิภำพจะต้องพัฒนำควำมรู้ ควำมสำมำรถในกำรวำงแผนกำหนดยุทธศำสตรต์ ่ำงๆ ท้งั ดว้ ยตนเองและ กระบวนกำรกล่มุ โดยเฉพำะผปู้ ระกอบอำชีพเดียวกนั เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนร้ซู ึง่ กันและกัน แล้วนำไปตดั สินใจเพื่อ นำไปสู่กำรปฏิบัติ นอกจำกน้ีควรมกี ำรบริหำรจัดกำรแบบองคร์ วมบูรณำกำรปัจจัยตำ่ งๆ ใหเ้ ป็นหนง่ึ เดยี ว สำมำรถ เกอ้ื หนนุ ซึ่งกนั และกนั ได้ เช่น ทนุ ทำงสงั คม ทรพั ยำกรต่ำงๆ ได้แก่ ควำมรู้ ควำมสำมำรถในกระบวนกำรผลิต และ กระบวนกำรกำรตลำด กำรพัฒนำอำชีพมีควำมสำคัญและจำเปน็ ดงั นี้ 1. ดำ้ นเศรษฐกจิ จำกกำรแข่งขันทำงธรุ กิจท่ีมีกำรแขง่ ขันทำงกำรตลำดสงู จงึ เกิดกำรรวมกลุ่ม กำรค้ำต่ำงๆ เชน่ เขตกำรค้ำเสรอี ำเซยี น เขตเศรษฐกิจยุโรป ดังนนั้ กำรพฒั นำอำชพี จึงจำเปน็ ตอ้ งมกี ำรพฒั นำ สนิ คำ้ ใหส้ ำมำรถเข้ำสตู่ ลำดกำรแขง่ ขัน และเปน็ ท่ยี อมรบั ของต่ำงประเทศ 2. ดำ้ นสังคม ประเทศที่มเี ศรษฐกิจดจี ะส่งผลให้สภำพของสงั คมดีขน้ึ เช่น ปรำศจำกโจรผรู้ ้ำย 3. ดำ้ นกำรศกึ ษำ ครอบครวั ที่มเี ศรษฐกิจดีจะสำมำรถสง่ บตุ รหลำนเข้ำรับกำรศึกษำได้ตำมควำม ต้องกำร และในอนำคตเยำวชนเหลำ่ นีก้ จ็ ะเป็นประชำกรท่ีมีคณุ ภำพ มีควำมสำมำรถในกำรประกอบอำชีพ ส่งผล ต่อเศรษฐกจิ สงั คมใหม้ คี วำมเจรญิ ก้ำวหนำ้ ต่อไป ควำมสำคญั ในกำรพฒั นำอำชพี กำรพัฒนำอำชีพเปน็ สงิ่ ที่สำคัญในวถิ ชี วี ติ และกำรดำรงชพี ในปัจจบุ ันเพรำะอำชพี เป็นกำรสร้ำงรำยได้เพ่ือ เลี้ยงชีพตนเองและครอบครัว อำชพี ก่อใหเ้ กิดผลผลติ และกำรบรกิ ำร ซ่งึ สนองตอบต่อควำมตอ้ งกำรของผูบ้ รโิ ภค และท่ีสำคัญคือ กำรพัฒนำอำชพี มคี วำมสำคัญตอ่ เศรษฐกิจของประเทศชำติ ควำมสำคัญจึงเปน็ ฟันเฟืองในกำร พัฒนำคุณภำพชวี ติ เศรษฐกิจ ชุมชน สง่ ผลถึงควำมเจรญิ ก้ำวหนำ้ ของประเทศชำติ กศน.ตำบลดงมะไฟ ศูนยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั อำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนินโครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชพี ชุมชน รปู แบบชน้ั เรยี นวชิ ำชีพ หลักสูตรกำรจกั สำนจำกไมไ้ ผ่ 5 อำชีพกบั กำรพฒั นำอำชพี เรอ่ื งรำวของอำชีพ อำชีพกค็ ือกำรหำเล้ยี งชีวติ ใหม้ ีกนิ มีอยู่ กำรเขำ้ รับศึกษำของทุกคน ๆ ก็เพื่อนำไป ประกอบอำชีพแต่ในยุคปจั จุบันอำชพี มีมำกมำย และอำชีพใหมก่ น็ ำ่ สนใจมำกข้ึน ในกำรพัฒนำอำชพี ของแตล่ ะ อำชีพน้นั มีแนวทำงที่ต่ำงกนั ไปตำมสำยงำน แตท่ ุกอำชพี สำมำรถพัฒนำได้ทง้ั หมด นกั เรียนนักศกึ ษำจบใหม่ๆ บำง คนอำจมีแนวคิดแปลกๆ ทไ่ี ม่เหมือนคนอน่ื เชน่ อยำกทำอำชพี อิสระ ซึง่ คนปัจจุบนั คิดแบบนมี้ ำกขนึ้ เพรำะเหตุ ทีว่ ่ำอำชีพในยุคปัจจบุ นั ไมถ่ ูกตีกรอบแคบๆ อกี ต่อไป อำชีพนัน้ ไมว่ ำ่ จะเปน็ อำชพี อะไรก็ตำม ทง้ั อำชพี ท่ีใชแ้ รงกำย อำชพี ท่ีใช้แรงสมอง สำมำรถพัฒนำได้ทั้งนน้ั ทิศทำงกำรพฒั นำอำชีพ 1. ต้องรู้จักอำชีพของตนเองใหด้ พี อ 2. รทู้ ิศทำงของอำชีพของตน 3. รโู้ ลกทเี่ ปล่ยี นแปลงตลอดเวลำ 4. วำงแผนชวี ิตและกำรทำงำน 5. กำหนดนโยบำยกำรพฒั นำอำชพี ของตนเอง (มวี ิสัยทศั น์) 6. ตงั้ เป้ำหมำย แบ่งระยะให้เหน็ เปน็ รูปธรรม 7. วำงกลยุทธพฒั นำอำชีพ 8. ลงมอื ปฏบิ ัติ 9. ประเมินผลให้เปน็ 10. ปรับปรุง 11. พฒั นำ แนวทำงกำรพฒั นำอำชพี ท่ีกล่ำวมำท่จี ริงแลว้ ก็คือหลกั พื้นฐำนท่วั ไป ซึง่ คนประกอบอำชีพน้ันๆ ควรรู้ เช่น อำชีพแมบ่ ำ้ น สำมำรถพฒั นำไดจ้ นถึงขน้ั สูง และเป็นอำชีพที่ทรงคุณค่ำได้ เรียกว่ำ แม่บำ้ นมืออำชพี อำชีพแมบ่ ้ำนสมัยก่อน คือ อำชีพคนรบั ใช้ แต่ในยคุ ปจั จบุ ันอำชพี คนรับใชห้ รือคนทำควำม สะอำดภำยในบ้ำนไม่ใชอ่ ำชีพทต่ี อ้ ยตำ่ อกี ต่อไป เพรำะปจั จุบนั มบี ริษทั เปดิ ให้บรกิ ำรสำหรบั ลูกคำ้ ทตี่ ้องกำร แม่บำ้ นแบบมืออำชีพไป ชว่ ยเหลือในกำรจัดกำรภำยในบ้ำนหรอื อำคำรตำ่ ง ๆ ตลอดจนถึงโรงแรม ซง่ึ กำรเพ่มิ มลู ค่ำและคุณคำ่ คือกำรพฒั นำอำชพี ของตนเอง กำรยกระดบั แม่บ้ำนสกู่ ำรเป็นแมบ่ ้ำนมืออำชีพ อย่ำงเชน่ กำรจดั โตะ๊ กำรวำงช้อน กำรวำงผำ้ สำหรับโตะ๊ รับประทำนอำหำร มีแนวปฏิบัตทิ เี่ ป็นแบบแผนสำกล กำรมีควำมรู้ในด้ำนนจ้ี ึงมีควำมจำเปน็ และในเรื่องอนื่ ๆ อีก อย่ำงเช่น กำรปูผำ้ ปูเตียงให้ตึงก็มีเทคนิค กำรทำควำมสะอำดเครือ่ งใช้ต่ำงๆ อย่ำงเช่น เส้ือผ้ำไหม สูท หรือเส้ือผำ้ ทท่ี ำจำกขนสตั ว์ก็มเี ทคนคิ กำรดแู ลพิเศษกว่ำผำ้ ชนดิ อืน่ ๆ นี้คอื แนวทำงกำรพฒั นำอำชพี ให้เป็นแบบมืออำชีพ แมบ่ ำ้ นมืออำชีพสมัยนีต้ ้องชำนำญในเรื่องท่ีกล่ำวมำ และมูลค่ำของค่ำจ้ำงจงึ สูงกว่ำแม่บ้ำนแบบธรรมดำ เพรำะมี ควำมรู้ควำมชำนำญพเิ ศษ คำ่ แรงจงึ สงู ตำมไปดว้ ย เหน็ ดว้ ยหรอื ไมว่ ำ่ อำชีพท่ีธรรมดำแต่ไม่ธรรมดำมลู คำ่ ก็เพิ่มข้ึน ได้ เขำเรยี กวำ่ กำรพัฒนำสำยงำนของตนเอง กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั อำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนินโครงกำรศนู ยฝ์ ึกอำชพี ชุมชน รูปแบบชั้นเรยี นวชิ ำชพี หลกั สูตรกำรจักสำนจำกไม้ไผ่ 6 ฉะน้ันทุกสำยอำชีพสำมำรถพัฒนำไดห้ มด มคี วำมก้ำวหนำ้ ไดท้ กุ หนทุกแห่ง อยำ่ ไดน้ ้อยใจว่ำ อำชพี ของเรำไม่มีค่ำ ไม่มีรำคำ ถำ้ เรำใสค่ วำมรู้ ใสค่ วำมรกั กบั งำน งำนที่เรำทำก็จะช่วยพัฒนำคุณภำพชวี ติ และ เจริญกำ้ วหนำ้ ได้ตลอดอำชีพทกุ อำชพี มีหนทำงพฒั นำในแบบของตน ควำมจำเปน็ ในกำรพฒั นำอำชีพ ควำมจำเป็นในกำรพัฒนำอำชีพในชุมชน สังคม ประเทศ และโลก ทเี่ หมำะสมกบั ตนเอง วิเครำะหค์ วำม เปน็ ไปได้ตำ่ ง ๆ ได้แก่ กำรลงทนุ กำรตลำด กระบวนกำรผลติ กำรขนสง่ กำรบรรจุหีบห่อ กำรแปรรูป และ ผลกระทบต่อชมุ ชน และสิ่งแวดล้อม ควำมรู้ควำมสำมำรถของตนเองต่อสิ่งท่ตี ้องกำรพัฒนำ กำรลำดบั ควำมสำคัญ ของกำรพฒั นำท่มี ีควำมเป็นไปได้ เพ่ือนำข้อมูลทวี่ ิเครำะห์ไว้นำไปปรึกษำผู้รู้ กำรตดั สินใจเลือกพัฒนำอำชีพที่ เหมำะสมกบั ตนเอง โดยวิเครำะห์ควำมพรอ้ มของตนเอง ควำมตอ้ งกำรของตลำด เทคนิคควำมรู้ ทกั ษะในอำชีพ และควำมรับผิดชอบต่อสังคม ทรพั ยำกรธรรมชำติ และส่งิ แวดลอ้ ม ประโยชนใ์ นกำรพฒั นำอำชพี 1. มกี ำรใชท้ ุนทำงสงั คมอยำ่ งคมุ้ คำ่ เน่ืองจำกสำมำรถใช้วสั ดทุ ดแทน ใช้วัสดุท้องถ่นิ ลดกำรขนส่ง และทุนบำงชนดิ สำมำรถใชร้ ว่ มกันได้ เช่น เคร่ืองมือทำงกำรเกษตรสำมำรถใชใ้ นกจิ กรรมกำรเกษตรด้วยกนั เปน็ ตน้ 2. มกี ำรเพ่ิมผลผลติ เนื่องจำกมีกำรพฒั นำสนิ คำ้ ท่ีตรงควำมต้องกำรของลกู ค้ำทำใหย้ อดจำหนำ่ ย มำกขนึ้ 3. มีกำรขยำยตลำด สำมำรถขยำยเครือข่ำยด้ำนกำรตลำดให้กว้ำงขึน้ โดยผ้ผู ลิตจะต้องมีกำร ประชำสมั พันธอ์ ย่ำงต่อเน่ือง 4. พฒั นำรูปแบบผลติ ภณั ฑเ์ พ่ือบรรจุหีบห่อ ต้องพัฒนำรปู แบบอยตู่ ลอดเวลำทำใหส้ นิ คำ้ มีกำร พัฒนำรูปแบบผลติ ภณั ฑห์ รือบรรจุภณั ฑ์อยเู่ สมอ 5. เกิดเศรษฐกิจชมุ ชน จำกกำรทม่ี กี ำรพฒั นำผลติ ภัณฑ์สินค้ำ ท้งั ด้ำนคุณภำพและปรมิ ำณทำให้ ตลำดกวำ้ งขวำงขึ้นเศรษฐกจิ ชุมชนเจรญิ เตบิ โต 6. ชมุ ชนเข้มแขง็ เมื่อชมุ ชนมีเศรษฐกิจดขี ึน้ ส่งผลต่อกำรพัฒนำคณุ ภำพชีวติ ดีขน้ึ ครอบครวั อบอุ่น ลกู หลำนไดเ้ รยี นหนงั สือ ปรำศจำกโจรผรู้ ำ้ ยและยำเสพติด 7. มอี ำชพี มัน่ คง เนื่องจำกผู้ประกอบอำชีพมกี ำรพัฒนำอำชีพอย่ตู ลอดเวลำในดำ้ นกำรใช้ทนุ พัฒนำรูปแบบ จัดหำตลำดใหก้ ว้ำงขวำง ทำให้มอี ำชีพมน่ั คง ประเภทของภมู ปิ ญั ญำ 1. ภูมิปัญญำพนื้ บ้ำน เปน็ องคค์ วำมรู้ ควำมสำมำรถและประสบกำรณ์ท่สี ั่งสมและสบื ทอดกันมำ เป็น ควำมสำมำรถและศกั ยภำพในเชงิ กำรแกป้ ญั หำ กำรปรับตวั เรียนร้แู ละสืบทอดไปสคู่ นรุ่นต่อไปเพ่ือกำร ดำรงอยู่ของเผ่ำพนั ธุ์ จึงเปน็ มรดกทำงวฒั นธรรมชำติ ของเผ่ำพนั ธ์หุ รือเปน็ วถิ ีชวี ติ ของชำวบำ้ น 2. ภมู ิปญั ญำชำวบำ้ น เปน็ วธิ กี ำรปฏิบัติของชำวบำ้ น ซ่งึ ได้มำจำกประสบกำรณ์ แนวทำงแกป้ ญั หำแตล่ ะ เร่อื งแต่ละประสบกำรณ์ แต่ละสภำพแวดลอ้ มซ่งึ จะมีเง่ือนไขปัจจยั เฉพำะแตกตำ่ งกันไปนำมำใช้แก้ไขปญั หำโดย กศน.ตำบลดงมะไฟ ศูนยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศัยอำเภอสุวรรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนินโครงกำรศนู ยฝ์ ึกอำชีพชุมชน รปู แบบช้ันเรยี นวิชำชพี หลักสูตรกำรจักสำนจำกไมไ้ ผ่ 7 อำศยั ศกั ยภำพทม่ี ีอยู่โดยชำวบำ้ นคดิ เองเป็นควำมรู้ท่ีสรำ้ งสรรคแ์ ละมีส่วนเสริมสร้ำงกำรผลติ หรอื เปน็ ควำมรขู้ อง ชำวบ้ำนทผ่ี ำ่ นกำรปฏบิ ตั ิมำแล้วอย่ำงโชกโชน เป็นส่วนหนึง่ ของมรดกทำงวัฒนธรรม เปน็ ควำมรทู้ ป่ี ฏบิ ตั ิได้มีพลัง และสำคัญยิ่ง ชว่ ยใหช้ ำวบำ้ นมชี ีวติ รอดสรำ้ งสรรค์กำรผลิตและช่วยในด้ำนกำรทำงำน เป็นโครงสรำ้ งควำมรู้ทีมี หลกั กำร มีเหตุ มีผลในตัวเอง 3. ภูมปิ ญํ ญำท้องถน่ิ เป็นควำมร้ทู ่เี กิดจำกประสบกำรณ์ในชวี ิตของคน ผำ่ นกระบวนกำรศกึ ษำสังเกตคิด วำ่ วเิ ครำะห์จนเกิดปัญญำและตกผลกึ เปน็ องคค์ วำมรู้ท่ีประกอบกนั ข้นึ มำจำกควำมรู้เฉพำะหลำยๆเรอ่ื งจดว่ำเปน็ พ้นื ฐำนขององค์ควำมรู้สมัยใหม่ท่จี ะช่วยในกำรเรียนรู้ กำรแกป้ ัญหำจดั กำรและกำรปรับตัวในกำรดำเนนิ ชวี ติ ของ เรำ ภูมปิ ัญญำท้องถนิ่ เปน็ ควำมรทู้ มี่ ีอยูท่ ั่วไปในสงั คมชุมชนและในตัวผรู้ ู้เองจึงควรมีกำรสืบค้น รวบรวม ศึกษำ ถ่ำยทอดพัฒนำและนำไปใชป้ ระโยชน์ได้อย่ำงกว้ำงขวำง 4.ภูมิปัญญำไทย หมำยถงึ องค์ควำมรู้ควำมสำมำรถ ทกั ษะของคนไทยท่ีเกดิ จำกกำรสง่ เสรมิ ประสบกำรณ์ทผี่ ำ่ นกระบวนกำร กำรเลือกสรร เรียนรู้ปรงุ แตง่ และถำ่ ยทอดสบื ต่อกันมำ เพื่อใชแ้ ก้ไขปญั หำและพัฒนำวิถีชีวิตของคนไทยใหส้ มดุลกับสภำพแวดลอ้ มและ เหมำะสมกับยคุ สมัย ลักษณะของภูมิปัญญำทอ้ งถิ่น ลกั ษณะสำคญั ของภมู ปิ ัญญำท้องถ่นิ พอสรปุ ได้ดงั นี้ 1.เปน็ เรื่องรำวของกำรใช้ควำมรู้ ทักษะ ควำมเชื่อและพฤติกรรม 2. แสดงถึงควำมสัมพันธร์ ะหวำ่ ง คนกับคน คนกบั ธรรมชำติ คนกบั สิง่ เหนอื ธรรมชำติ 3. เปน็ องค์รวมหรือกิจกรรมทุกอยำ่ งใรวถิ ชี ีวิต 4. เปน็ เรื่องของกำรแก้ไขปญั หำ กำรจดั กำร กำรปรับตวั กำรเรยี นรเู้ พื่อควำมอยู่รอดของบคุ คลชุมชนและ สงั คม 5.เป็นแกนหลกั หรอื กระบวนทัศนใ์ นกำรมองชีวติ เปน็ พ้นื ควำมรูใ้ นเรอ่ื งต่ำงๆ กศน.ตำบลดงมะไฟ ศูนย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั อำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรุปผลกำรดำเนนิ โครงกำรศนู ย์ฝึกอำชพี ชุมชน รปู แบบชัน้ เรียนวิชำชพี หลกั สูตรกำรจกั สำนจำกไม้ไผ่ 8 ควำมสำคญั ของโครงงำนอำชพี โครงงำนมวี ัตถุประสงคห์ ลำกหลำยประกำร เชน่ ต้องกำรใหน้ ักเรยี นมีควำมรู้พื้นฐำนท่จี ำเป็นเกี่ยวกับควำมเป็นอยู่ ในชวี ิตประจำวัน สำมำรถปฏิบตั ิงำนได้ถูกต้องตำมกระบวนกำร ประหยดั ปลอดภยั และได้ประโยชน์ โดยรู้จกั วิเครำะหแ์ ละวำงแผนกำรทำงำน สำมำรถปรบั ปรงุ และพัฒนำงำนมีวิสนั ทศั น์ที่กว้ำงไกล รักกำรทำงำน ซ่ึงเป็น รำกฐำนของกำรดำรงชพี สำมำรถพึง่ พำตนเองได้รวมทง้ั มคี ุณธรรมในกำรทำงำน สำมำรถทำงำนร่วมกบั ผ้อู ่นื ได้ เป็นต้น นกั เรยี นจะต้องศึกษำและฝึกปฏบิ ัตจิ ริงเพม่ิ เติม โดยอำศัยควำมรู้พน้ื ฐำนจำกรำยวิชำอ่นื ๆ ในหมวด วิชำกำรงำนและอำชพี นักเรยี นมีสิทธิเสรภี ำพอย่ำงเตม็ ทใ่ี นกำรตดั สนิ ใจเลือกอย่ำงฉลำด ทจี่ ะดำเนินงำนตำม ควำมถนดั และควำมสนใจของตน ในส่วนทีเ่ ก่ยี วกับโรงเรียนและครูอำจำรยน์ ั้น จะไดป้ ระโยชน์อยำ่ งยิง่ จำกกำรเปดิ โอกำสใหน้ กั เรยี นได้ฝึกปฏบิ ตั ิจรงิ ตำมจุด หมำยของหลกั สตู รและกำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนกำรสอน ทั้งในหอ้ งเรยี น และนอกหอ้ งเรยี น ซึ่งจะก่อใหเ้ กดิ กำรประสำนสมั พนั ธ์อย่ำงแน่นเหนยี ว ระหว่ำงนักเรียนและครูอำจำรย์ประจำ วชิ ำต่ำง ๆ รวมทงั้ กำรใชเ้ คร่ืองมือและวัสดอุ ปุ กรณ์ตำ่ ง ๆ ใหเ้ ป็นประโยชน์อยำ่ งคุ้มค่ำ นอกจำกนใี้ นสิ่งท่เี ก่ียวกบั ท้องถนิ่ และชุมชนย่อมจะได้ประโยชน์อย่ำงมำกมำย ในแง่ของกำรให้นักเรียนไดม้ โี อกำสร่วมพฒั นำอำชีพต่ำง ๆ ใน ทอ้ งถ่นิ ซง่ึ เป็นผลพลอยได้ทตี่ ำมมำก็คือ ทำใหน้ ักเรียนเกิดควำมรักควำมภำคภูมใิ จในท้องถิ่นของตนเองด้วย ในส่วนของกำรจดั กำรเรียนกำรสอนและกำรจดั กิจกรรมตำมหลกั สตู รขั้นพื้นฐำน พทุ ธศักรำช 2544 ดงั นี้ คอื 1. ด้ำนผู้เรียน กอ่ ใหเ้ กดิ คุณคำ่ ต่ำง ๆ ได้แก่ ชว่ ยสรำ้ งควำมหวังใหมใ่ นกำรริเริ่มงำน สร้ำงเสรมิ ประสบกำรณจ์ ำกกำรปฏิบตั ิจริง ไดม้ โี อกำสทดสอบควำมถนดั ของตนเอง กอ่ ให้เกดิ ควำมรักควำมเข้ำใจและ ควำมสัมพนั ธ์อนั ดภี ำยในกล่มุ พรอ้ มทั้งเกิดควำมรู้ทำงวิชำกำรทกี่ ว้ำงขวำงขน้ึ และเกิดควำมภำคภูมิใจในควำม สำเร็จของงำน 2. ดำ้ นสถำบนั และครูอำจำรย์ท่ปี รึกษำกลุ่ม ก่อใหเ้ กดิ คุณค่ำทำงกำรประสำนงำน โดยเกดิ ควำม เข้ำใจท่ตี รงกนั ว่ำกำรเรียนกำรสอนในปัจจบุ ันข้ึนอยู่กับกำร ปฏิบตั ิจริงในโครงงำนของผู้เรยี นมำกกว่ำท่ีจะเรียนอยู่ ในห้องเรียนเท่ำนัน้ 3. ดำ้ นชมุ ชน / ท้องถิน่ ก่อให้เกิดคุณคำ่ ทำงกำรเผยแพร่และประชำสัมพันธ์ชุมชน อีกทงั้ ชุมชนไดม้ ี ส่วนรว่ มในกำรขยำยผลทำงควำมร้คู วำมสำมำรถทม่ี ีอยู่ ให้แก่ผู้เรียนร่นุ ต่อไป โดยสร้ำงนิสัยรกั กำรทำงำนเกดิ งำน อำชพี ทหี่ ลำกหลำยและมกี ำรพัฒนำอำชีพในชมุ ชนดว้ ย หลักกำรสำคญั ของกำรเขยี นโครงงำนอำชพี กำรปฏบิ ตั ิงำนตำมโครงงำนอำชีพของนกั เรียน เพื่อให้บรรลตุ ำมจดุ หมำยของหลักสูตร และจุดมุ่งหมำยกำรจดั ทำ โครงงำน จงึ ได้กำหนดหลกั กำรทส่ี ำคัญเกย่ี วกับโครงงำน ไว้ดงั น้ี 1. ให้นักเรียนแตล่ ะกล่มุ มสี ทิ ธแิ ละเสรีภำพในกำรตัดสินใจเลือกทำโครงงำนอำชพี ใด กไ็ ด้ จำนวน 1 โครงงำน หรอื มำกกวำ่ ก็ได้ ตำมควำมถนดั ควำมสนใจ และควำมพร้อมของนักเรียนในกรณีที่โครงงำนมปี ริมำณงำนมำกก็ สำมำรถเลือกไดโ้ ดย ตดั แบ่งข้ันตอนกำรปฏิบัตงิ ำนออกเป็น 2 สว่ นใหป้ ฏิบัติ 2 ภำคเรยี น หรอื จะเลอื กโครงงำน กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั อำเภอสุวรรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนนิ โครงกำรศนู ยฝ์ ึกอำชีพชมุ ชน รูปแบบชน้ั เรียนวชิ ำชีพ หลกั สูตรกำรจักสำนจำกไม้ไผ่ 9 อำชีพใหม่ โดยไมซ่ ้ำกันในแต่ละภำคเรียนตลอดปีกำรศึกษำก็ได้ 2. นกั เรียนในห้องเรยี นเดยี วกนั ควรเลอื กโครงงำนอำชพี แตกตำ่ งกนั ได้ตำมควำมถนัด ควำมพร้อมและ ควำมสนใจ ตลอดจนคำนงึ ถงึ ตำมควำมจำเป็นในกำรใช้ประโยชน์ชิน้ งำนหรือรำยได้จำกกำร ปฏบิ ตั ิงำน 3. ใหค้ ำนึงถึงทรัพยำกรในท้องถนิ่ ทั้งทรัพยำกรที่ใชเ้ ป็นวัตถุดบิ ในกำรผลติ ชิ้นงำนและทรัพยำกรบุคคล ในทอ้ งถ่นิ ตลอดจนภมู ปิ ัญญำชำวบ้ำนเพื่อกำรอนรุ ักษ์และพฒั นำเทคโนโลยใี นท้องถ่ิน 4. นักเรียนสำมำรถนำทกั ษะกำรทำงำนพ้ืนฐำนหลำยประเภทรวมไวใ้ นโครงงำนเดยี วได้ เช่นโครงงำน ปลูกกระเจ๊ียบ ใช้ทักษะกำรทำงำนดำ้ นเกษตรและคหกรรมเกยี่ วกบั คุณคำ่ ทำงโภชนำกำรมำผสมผสำนกัน ได้ 5. ในแต่ละโครงงำนอำจกำหนดคำบเวลำแตกต่ำงกนั ไดต้ ำมควำมยำกง่ำยของลักษณะงำน 6. ครูอำจำรยผ์ ูส้ อนหรือท่ปี รึกษำ อำจจัดให้มสี ่ือกำรสอนในลกั ษณะใบงำนหรือใบควำมรหู้ รือข้อมูลทำง วชิ ำกำร เพือ่ ช่วยให้นกั เรียนสำมำรถปฏบิ ตั ิงำนไดด้ ้วยตนเองก็ได้ 7. ในกำรประเมนิ โครงงำน ให้ครูอำจำรย์ผสู้ อนหรือทปี่ รกึ ษำเป็นผปู้ ระเมิน โดยคำนึงถงึ ควำมรู้ ควำม เข้ำใจ กระบวนกำรทำงำน เจตคตใิ นกำรปฏบิ ัติงำน และกำรนำช้ินงำนไปใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจำวนั และตอ้ ง ประเมนิ ผลกำรเรยี นเป็น รำยภำคเรียน สำหรับผูเ้ รียนทเี่ ลอื กหลำยโครงงำนใน ๑ ภำคเรียน ใหป้ ระเมนิ ผลโดยให้ คะแนนแต่ละโครงงำนก่อน แลว้ นำมำรวมกันเพ่ือตัดสนิ ให้ระดับคะแนนโดยคำนึงถงึ คำบเวลำของแต่ละโครงงำน โดยจัดสัดส่วนนำ้ หนกั โครงงำนต่ำงกนั ตำมคำบเวลำ กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศัยอำเภอสุวรรณคหู ำ
สรุปผลกำรดำเนินโครงกำรศนู ย์ฝึกอำชพี ชมุ ชน รปู แบบชัน้ เรียนวิชำชพี หลกั สูตรกำรจักสำนจำกไมไ้ ผ่ 10 กำรทำเคร่อื งจกั สำน มีกำรทำสบื ต่อกนั มำต้งั แตส่ มัยก่อนประวตั ศิ ำสตร์นักโบรำณคดีได้พบหลักฐำน สำคญั เกยี่ วกบั กำรทำเคร่ืองจกั สำนในยคุ หินใหมท่ ่ีบรเิ วณถำ้ แหง่ หนึง่ ในเขต อำเภอศรสี วสั ดิ์ จ.กำญจนบุรี ซ่งึ ทำ ดว้ ยไม้ไผ่เป็นลำยขดั สองเสน้ ประมำณว่ำมีอำยรุ ำว 4,000 ปีมำแล้ว กำรทำเคร่อื งจกั สำนยคุ แรกๆ มนุษย์จะนำวัตถดุ ิบจำกธรรมชำติเท่ำท่ีจะหำได้ใกลต้ ัวมำทำใหเ้ กิดประโยชน์ เชน่ กำรนำใบไม้ กง่ิ ไม้ ตน้ ไม้ประเภทเถำนำมำสำนมำขัดเปน็ รปู ทรงง่ำยๆ เพื่อใช้เป็นภำชนะหรอื มำสำนขัดกนั เปน็ แผ่นเพื่อใช้สำหรับปู รองน่ัง รองนอน ก่อนทจี่ ะพัฒนำมำเป็นเครื่องจักสำนท่ีมีควำมประณตี ในยคุ ต่อๆ มำ เครอื่ งจักสำน เป็นงำน ศิลปหัตถกรรมที่มนุษยค์ ิดวธิ ีกำรต่ำงๆ ขน้ึ เพ่ือใช้สร้ำงเครื่องมือเครื่องใช้ในชวี ิตประจำวันดว้ ยวิธกี ำรสอดขดั และ สำนกันของวัสดทีเ่ ป็นเสน้ เป็นรวิ้ โดยสรำ้ งรปู ทรงของสงิ่ ท่ปี ระดิษฐข์ นึ้ น้นั ตำมควำมประสงคใ์ นกำรใช้สอยตำม สภำพภูมศิ ำสตร์ ประสำนกับขนบธรรมเนยี มประเพณีควำมเช่อื ศำสนำและวัสดุ ในทอ้ งถนิ่ น้ันๆ กำรเรยี กเครอื่ งจัก สำนวำ่ “จกั สำน” นนั้ เป็นคำท่ีเรยี กขึ้นตำมวธิ ีกำรท่ีทำให้เกิดเครื่องจักสำน เพรำะเครอื่ งจกั สำนต่ำงๆจะสำเรจ็ เปน็ รปู รำ่ งท่ี สมบรู ณ์ไดน้ ้นั ต้องผำ่ นกระบวนกำร ดงั น้ี 1.กำรจกั คอื กำรนำวัสดุมำทำใหเ้ ป็นเสน้ เป็นแฉก หรือเป็นร้ิวเพ่ือควำมสะดวกในกำรสำน ลักษณะของ กำรจักโดยท่ัวไปน้ันขึน้ อยู่กับลกั ษณะของวสั ดุ แตล่ ะชนิดซึ่งจะมีวิธกี ำรเฉพำะทแี่ ตกตำ่ งกนั ไป หรอื บำงครั้งกำรจัก ไมไ้ ผ่หรือหวำยมกั จะเรยี กวำ่ “ตอก” ซงึ่ กำรจักถือไดว้ ่ำเป็นขั้นตอนของกำรเตรียมวสั ดุใน กำรทำเคร่ืองจกั สำนขน้ั แรก 2.กำรสำน เป็นกระบวนกำรทำงควำมคิดสรำ้ งสรรค์ของมนุษย์ทนี่ ำวสั ดุธรรมชำตมิ ำทำประโยชนโ์ ดยใช้ ควำมคดิ และฝีมือมนุษยเ์ ป็นหลักกำรสำนลวด ลำยจะสำนลำยใดนั้นขน้ึ อยู่กบั ควำมเหมำะสมในกำรใช้สอย ซ่ึงมี ดว้ ยกนั 3 วิธี คอื - กำรสำนดว้ ยวิธสี อดขัด - กำรสำนด้วยวธิ กี ำรสอดขัดด้วยเส้นทแยง - กำรสำนด้วยวธิ ขี ดเป็นวง 3.กำรถัก เป็นกระบวนกำรประกอบทชี่ ่วยให้กำรทำครอ่ื งจกั สำนสมบูรณ์ กำรถักเคร่ืองจักสำน เช่น กำร ถกั ขอบของภำชนะจักสำนไม้ไผ่ กำรถักหภู ำชนะ เป็นตน้ กำรถักสว่ นมำกจะเป็นกำรเสริมควำมแข็งแรงของ โครงสรำ้ งภำยนอก เช่น ขอบ ขำ ปำก ก้น ของเครอ่ื งจักสำน และเป็นกำรเพมิ่ ควำมสวยงำมไปด้วย มลู เหตทุ ่ีทำใหเ้ กดิ เครือ่ งจกั สำนทสี่ ำคญั 3 ประกำรดังนี้ 1.มูลเหตจุ ำกควำมจำเปน็ ในกำรดำรงชวี ติ กำรดำรงชีวติ ในชนบทจำเป็นอยำ่ งย่ิงที่จะต้องอำศยั เคร่อื งมอื เคร่ืองใช้พนื้ บ้ำน ที่สำมำรถผลติ ได้เองมำช่วยให้ เกดิ ควำมสะดวกสบำย โดยเฉพำะผมู้ ีอำชีพเกษตรกรรม ซึง่ สำมำรถจำแนกออกเปน็ ประเภทตำ่ งๆ ตำมหน้ำท่ใี ชส้ อยดงั น้ี 1.1 เคร่ืองจักสำนที่ใชใ้ นกำรบริโภค ได้แก่ ซ้ำหวด กระติบ๊ แอบข้ำว หวดนงึ่ ข้ำวเหนียว ก่องขำ้ ว กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัยอำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรุปผลกำรดำเนินโครงกำรศูนย์ฝึกอำชพี ชมุ ชน รปู แบบชัน้ เรยี นวิชำชีพ หลกั สูตรกำรจักสำนจำกไม้ไผ่ 11 กระชอน กระดง้ ฯลฯ 1.2 เคร่ืองจักสำนทใ่ี ชเ้ ป็นภำชนะ ไดแ้ ก่ กระบงุ กระจำด ซ้ำกระทำย กระบำย กะโล่ กระด้ง ชะลอม ฯลฯ 1.3 เครื่องจักสำนที่ใชเ้ ป็นเคร่ืองตวง ได้แก่ กระออม กระชุ กระบงุ สดั ฯลฯ 1.4 เครอื่ งจักสำนทใี่ ชเ้ ป็นเครอ่ื งเรือนและเครอื่ งปูลำด ไดแ้ ก่ เส่ือต่ำง ๆ 1.5 เครอื่ งจักสำนที่ใชป้ อ้ งกันแดดฝน ได้แก่ หมวก กุบ๊ งอบ ฯลฯ 1.6 เครื่องจักสำนท่ใี ช้ในกำรดักจบั สตั ว์ ไดแ้ ก่ ลอบ ไซ อีจู้ ชะนำง จัน่ ฯลฯ 1.7 เครื่องจักสำนทใ่ี ชเ้ กยี่ วกับควำมเช่ือ ประเพณีและศำสนำ ไดแ้ ก่ ก่องขำ้ วขวัญ ซำ้ สำหรับใสพ่ ำน สลำก ฯลฯ 2.มลู เหตุทเี่ กดิ จำกสง่ิ แวดลอ้ มทำงธรรมชำตติ ำมสภำพภมู ศิ ำสตร์ เพรำะชำวไทยสว่ นใหญม่ ีอำชีพทำง เกษตรกรรม จึงจำเปน็ ต้องทำมำหำกินกนั ตำม สภำพสิง่ แวดลอ้ มและสภำพภมู ิศำสตร์ของท้องถ่นิ นัน้ ๆ ดงั นน้ั กำร ทำเครื่องจกั สำนที่เหน็ ไดช้ ดั คอื เครื่องมือเครื่องใช้ในกำรจับปลำและสตั ว์นำ้ จืด ไดแ้ ก่ ลอบ ไซ ชะนำง โดยทำด้วย ไม้ไผแ่ ละหวำย ซ่ึงรูปแบบและโครงสร้ำงจะสร้ำงขึ้นใหเ้ หมำะสมกับกำรใชส้ อย และครุ ใช้สำหรบั ตขี ำ้ วของทำง ภำคเหนือ เปน็ ตน้ 3.มลู เหตุทเ่ี กดิ จำกควำมเชอื่ ขบธรรมเนยี มประเพณี และศำสนำ เครือ่ งจักสำนจำนวนไม่น้อยเกิดข้นึ จำก ผลของควำมเช่ือของท้องถน่ิ ซง่ึ จะเหน็ ไดจ้ ำกกำร สำนเส่ือปำหนันเพ่อื ใชใ้ นกำรแตง่ งำนของภำคใต้ เป็นต้น นอกจำกข้อมลู อนั สำคัญทง้ั 3 ประกำรแล้ว ปจั จุบันพบว่ำในหลำยทอ้ งถนิ่ เคร่อื งจักสำนได้กลำยมำเปน็ อำชีพรองจำกกำรทำไร่ ทำนำ เพอ่ื จำหนำ่ ยเป็นรำยได้พิเศษในช่วงต่อไป วสั ดทุ ใี่ ชท้ ำเครอื่ งจกั สำน 1.ไมไ้ ผ่ เป็นไมท้ ี่ใชท้ ำเคร่ืองจักสำนมำกมำยหลำยชนิด มลี กั ษณะเปน็ ไมป้ ล้อง เปน็ ข้อ มีหนำม และแขนง มำก เม่ือแกจ่ ะมสี ีเหลือง โดยจะนำส่วนลำตน้ มำ ใช้จกั เปน็ ตอกสำหรบั สำนเปน็ ภำชนะต่ำงๆ 2.กก เป็นพันธ์ไุ มช้ นิดหนง่ึ ท่ีชอบข้ึนในทีช่ ื้นและมีขึ้นท่ัวไป เชน่ ในนำ ริมหนอง บงึ และที่นำ้ ทว่ มแฉะ ลำ ตน้ กลมหรอื สำมเหล่ยี มมที ั้งชนิดลำตน้ ใหญ่ยำว และลำต้นเลก็ และสน้ั ส่วนมำกนำมำทอเสื่อมำกกวำ่ นำมำสำน โดยตรง 3. แหยง่ มลี ักษณะคลำ้ ยไม้ไผแ่ ต่อ่อนนุ่มกว่ำ ไม่มีขอ้ แข็งกว่ำหวำยใช้ได้ทนกว่ำกก ชอบขึ้นตำมที่แฉะ มี ผวิ เหลอื งสวย ใช้สำนเสื่อ ทำฝำบำ้ น เป็นตน้ 4. หวำย จะข้ึนในป่ำเปน็ กอๆ ส่วนมำกจะใชป้ ระกอบเครื่องจักสำนอนื่ ๆ แตก่ ็มีกำรนำหวำยมำทำเคร่อื ง จกั สำนโดยตรงหลำยอย่ำง เช่น ตะกรำ้ หิว้ ถำด ผลไม้ เปน็ ต้น 5.ใบตำลและใบลำน ลำตน้ สูงคลำ้ ยมะพร้ำว ใบเป็นแผงใหญ่คล้ำยพดั จะนำมำทำเครอ่ื งจกั สำนโดยจกั ใน ออกเปน็ เสน้ คล้ำยเสน้ ตอก แตต่ ้องใชใ้ บอ่อน สว่ นใหญจ่ ะใช้สำนหมวกและงอบ 6.ก้ำนมะพร้ำว ใชก้ ้ำนกลำงใบของมะพร้ำว เหลำใบออกใหเ้ หลือแต่ก้ำน แลว้ นำมำสำนเชน่ เดยี วกบั ตอก สว่ นมำกสำนเปน็ ตะกรำ้ กระจำดผลไมเ้ ล็กๆ กศน.ตำบลดงมะไฟ ศูนย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัยอำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนนิ โครงกำรศูนย์ฝึกอำชีพชมุ ชน รปู แบบช้นั เรยี นวิชำชีพ หลักสูตรกำรจกั สำนจำกไม้ไผ่ 12 7.ย่ำนลเิ ภำ มลี กั ษณะเป็นเถำวัลย์ชนดิ หนงึ่ มีขนำดเท่ำหลอดกำแฟ ขึน้ ตำมภูเขำ เทือกเขำ และปำ่ ละเมำะ ในกำรใช้ต้องนำลำต้นมำลอกเอำแตเ่ ปลือกแล้ว จักเป็นเส้นๆ ย่ำนลิเภำสว่ นใหญ่จะนำมำสำนเปน็ ลำย เชีย่ นหมำก พำน เป็นต้น 8.กระจดู เปน็ พนั ธุไ์ มต้ ระกลู เดยี วกบั กก ชอบข้นึ ในที่ช้นื แฉะ ลกั ษณะลำต้นเป็นตน้ กลมๆ ขนำดนิว้ ก้อย กอ่ นนำมำสำนจะต้องนำลำต้นมำผง่ึ แดดแลว้ ทุบ ใหแ้ บนคลำ้ ยเสน้ ตอกก่อน แลว้ จึงสำน 9.เตยทะเล เปน็ ตน้ ไมจ้ ำพวกหนงึ่ ใบยำวคลำ้ ยใบสับปะรดหรอื ใบลำเจียกข้ึนตำมชำยทะเลใบมหี นำมก่อน นำมำสำนตอ้ งจักเอำหนำมริมใบออกแล้วยำ่ งไฟ แช่นำ้ แลว้ จงึ จกั เปน็ เส้นตอก 10. ลำเจยี ก หรือปำหนนั เป็นต้นไมจ้ ำพวกเดยี วกับเตย 11. คลำ้ เป็นต้นไม้ชนดิ หนึง่ คลำ้ ยต้นขำ่ หรอื กก มีผวิ เหนยี ว ใชส้ ำนภำชนะเชน่ เดยี วกบั หวำยและไม้ ไผ่ กศน.ตำบลดงมะไฟ ศูนย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศัยอำเภอสุวรรณคหู ำ
สรุปผลกำรดำเนินโครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชีพชุมชน รูปแบบชน้ั เรยี นวิชำชีพ หลกั สูตรกำรจักสำนจำกไมไ้ ผ่ 13 บทท่ี 3 วธิ กี ำรดำเนนิ กำร ในกำรดำเนนิ งำนจดั โครงกำร ศนู ย์ฝกึ อำชีพชุมชน รปู แบบชัน้ เรยี นวิชำชีพ หลกั สูตร กำรจักสำนจำกไม้ไผ่ กศน. ตำบลดงมะไฟ มีรำยละเอยี ดดังต่อไปนี้ ขั้นตอนกำรวำงแผน (plan) ขน้ั ตอนกำรลงมือทำ (Do) ขน้ั ตอนกำรตรวจสอบ (Check) ข้นั ตอนกำรปรับปรงุ แกไ้ ข (Act) ขน้ั ตอนกำรวำงแผน (plan) 1. ดำเนนิ กำรประชำคมกลุม่ ผสู้ นใจพัฒนำอำชีพ 2. ได้กลุ่มเป้ำหมำย 3. เตรียมหลักสตู ร เสนอโครงกำรเพ่อื ขออนมุ ตั ิ 4. แต่งต้ังคณะทำงำนภำยในตำบล คณะกรรมกำรนเิ ทศกจิ กรรม 5. ประสำนวทิ ยำกร ขน้ั ตอนกำรลงมือทำ (Do) 1. ดำเนนิ กำรประสำนงำนผทู้ เ่ี กี่ยวข้อง ครู กศน.ตำบล ครู ศรช. ผนู้ ำชุมชน คณะกรรมกำรหมู่บ้ำนและชำวบำ้ นจัดเตรียมสถำนท่ี 2. นำประชำชนทสี่ นใจมำเข้ำรว่ มกิจกรรม 3. ประเมนิ ผลโครงกำรโดยใหผ้ เู้ ขำ้ ร่วมโครงกำรออกแบบประเมินควำมพึงพอใจในกำรเข้ำร่วม โครงกำร 4. รวบรวมข้อมลู จำกแบบประเมิน 5. สรปุ ผลควำมพงึ พอใจของผ้เู ข้ำร่วมโครงกำร ขน้ั ตอนกำรตรวจสอบ (Check) 1.เครือ่ งมอื ทีใ่ ชใ้ นกำรตรวจสอบ แบบประเมินควำมพึงพอใจของผ้เู ข้ำร่วมโครงกำร 2. กำรเก็บรวบรวมขอ้ มูล กศน.ตำบลดงมะไฟ ได้ดำเนินกำรเก็บรวบรวมข้อมูลจำกผู้เข้ำร่วมโครงกำร - ประชำชนกล่มุ เปำ้ หมำย จำนวน 11 คน กศน.ตำบลดงมะไฟ ศูนย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั อำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนินโครงกำรศนู ย์ฝึกอำชพี ชมุ ชน รปู แบบช้นั เรียนวิชำชีพ หลักสูตรกำรจักสำนจำกไมไ้ ผ่ 14 3.กำรวเิ ครำะห์ข้อมูล กำรประเมินผลกำรดำเนินงำนของโครงกำร ศนู ยฝ์ กึ อำชีพชุมชน หลกั สตู รพัฒนำ อำชพี กำรทำขนมไทย กศน.ตำบลดงมะไฟ ดำเนินกำรวิเครำะหข์ ้อมลู ดังน้ี 3.1 แบบประเมินตอนที่ 1 ขอ้ มูลท่วั ไป วิเครำะห์หำค่ำร้อยละ 3.2 แบบประเมินตอนท่ี 2 ควำมพึงพอใจตัวบง่ ช้ขี องโครงกำร 3.2.1 ให้คะแนนตำมน้ำหนักแบบประเมนิ ฉบบั สมบูรณ์ ตำมเกณฑ์ มำตรฐำนของ สมศ. โดยมีเกณฑ์ใหค้ ะแนน ดงั น้ี ระดบั 5 หมำยถงึ ดำเนนิ งำนได้ตำมเกณฑข์ องตัวบง่ ชี้ดีมำก ระดับ 4 หมำยถึง ดำเนนิ งำนได้ตำมเกณฑข์ องตวั บง่ ชีด้ ี ระดับ 3 หมำยถึง ดำเนนิ งำนไดต้ ำมเกณฑข์ องตวั บง่ ชี้พอใช้ ระดบั 2 หมำยถงึ ดำเนินงำนได้ตำมเกณฑข์ องตัวบง่ ชี้ปรบั ปรุง ระดบั 1 หมำยถงึ ดำเนินงำนได้ตำมเกณฑข์ องตวั บ่งช้ีต้องปรบั ปรุง 3.2.2 วเิ ครำะหข์ ้อมูลโดยกำรหำค่ำเฉลี่ยร้อยละควำมพงึ พอใจ 3.3 แบบประเมินตอนที่ 3 ข้อคิดเหน็ และข้อเสนอแนะอืน่ ๆ วิเครำะห์ดว้ ยเนอ้ื หำ (Content analysis) กศน.ตำบลดงมะไฟ ศูนย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศยั อำเภอสุวรรณคหู ำ
สรุปผลกำรดำเนนิ โครงกำรศนู ย์ฝึกอำชีพชมุ ชน รปู แบบช้นั เรยี นวชิ ำชีพ หลกั สูตรกำรจักสำนจำกไม้ไผ่ 15 บทท่ี 4 ผลกำรดำเนนิ งำน กำรจัดกิจกรรมโครงกำรศนู ย์ฝกึ อำชีพชุมชนหลักสูตรพัฒนำอำชพี วิชำกำรจักสำนจำกไมไ้ ผ่ ณ กศน. ตำบลดงมะไฟ หมู่ 9 ตำบลดงมะไฟ อำเภอสุวรรณคหู ำ จงั หวดั หนองบวั ลำภู สรุปผลกำรดำเนนิ งำนได้ดังนี้ ช่ือโครงกำร วนั ท่ดี ำเนนิ กำร เป้ำท่ีได้รบั จดั สรร ผล คดิ เป็นร้อยละ โครงกำร ศนู ยฝ์ กึ 13-19 มถิ นุ ำยน 11 11 100 อำชพี ชมุ ชน 2565 หลกั สตู รพัฒนำ อำชพี วิชำกำรจกั สำนจำกไม้ไผ่ กำรประเมินควำมพงึ พอใจในกำรดำเนินงำนตำมโครงกำรศูนย์ฝกึ อำชพี ชมุ ชน หลักสตู รพัฒนำอำชีพ วชิ ำ กำรทำขนมไทย กศน.ตำบลดงมะไฟ ของผูร้ ับบริกำรทเ่ี ข้ำร่วมโครงกำร โดยเสนอรำยละเอียดตำมลำดบั คือ สัญลกั ษณท์ ใี่ ชใ้ นกำรวิเครำะห์ข้อมูล ลำดับขัน้ ตอนในกำรวิเครำะห์ขอ้ มูล ผลกำรวิเครำะหข์ ้อมูล และกำร แปลควำมหมำยข้อมลู ดังต่อไปน้ี สญั ลักษณท์ ี่ใช้ในกำรวิเครำะหข์ อ้ มลู กำรเสนอผลกำรประเมนิ ครัง้ นไี้ ดก้ ำหนดสัญลักษณ์ทใี่ ช้ในกำรวิเครำะห์ขอ้ มูล ดังน้ี N แทน ขนำดของกล่มุ ผ้ปู ระเมนิ กำรใชค้ ่มู ือ (Sample size) % แทน ค่ำรอ้ ยละ (Percentage) ลำดับขนั้ ตอนในกำรวเิ ครำะหข์ ้อมลู กำรวิเครำะห์ขอ้ มูล ผปู้ ระเมินได้เสนอผลกำรวิเครำะห์ข้อมลู เปน็ ตอนๆ เรยี งลำดบั ดังนี้ ตอนท่ี 1 กำรวเิ ครำะหข์ ้อมูลเก่ยี วกับข้อมูลท่ัวไป ตอนท่ี 2 กำรวเิ ครำะห์ข้อมูลดำ้ นควำมพงึ พอใจของผ้รู บั บริกำร ตอนที่ 3 กำรวเิ ครำะหข์ ้อมูล ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะอื่นๆ ในกำรสรปุ ผลกำรดำเนนิ งำนโครงกำร ศูนย์ฝึกอำชีพชมุ ชน หลกั สตู รพฒั นำอำชีพ วิชำ กำรจกั สำนจำก ไม้ไผ่ ณ กศน.ตำบลดงมะไฟ ม.9 บำ้ นวังหนิ ซำ ตำบลดงมะไฟ อำเภอสุวรรณคุหำ จังหวัดหนองบัวลำภู ได้ จัดทำเคร่ืองมือเป็นแบบสอบถำม วดั ระดบั ควำมคิดเห็นและควำมพึงพอใจในกำรดำเนินกำรพัฒนำซ่ึงแบง่ ออกเป็น 3 สว่ นคือ สว่ นแรกเปน็ คำถำมปลำยเปิด มำตรำส่วนประมำณคำ่ (Rating scales) สว่ นท่ี 2 มำตรำส่วนประมำณคำ่ ของ ลิเคริ ์ท likert’s Scales 5 ระดบั ส่วนท่สี ำมเป็นคำถำมปลำยเปดิ ขอ้ เสนอแนะ อืน่ ๆ สว่ นทสี่ ำมเปน็ คำถำมปลำยเปิดเนอื้ หำสำระทต่ี ้องกำรพัฒนำในครงั้ ต่อไป ซ่งึ ในกำรเก็บรวบรวมนัน้ ได้แจก แบบสอบถำมแก่ผูเ้ ข้ำร่วมโครงกำรศนู ย์ฝึกอำชีพชมุ ชน หลกั สูตรพฒั นำอำชพี วิชำ กำรจักสำนจำกไม้ไผ่ จำนวน กศน.ตำบลดงมะไฟ ศูนยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศยั อำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนนิ โครงกำรศูนย์ฝึกอำชพี ชุมชน รูปแบบชนั้ เรยี นวชิ ำชพี หลกั สูตรกำรจักสำนจำกไมไ้ ผ่ 16 11 คน ได้แบบสอบถำมคืนจำนวน 11 ฉบับ จำกผู้เข้ำรว่ มโครงกำร คิดเปน็ ร้อยละ 100 กระทำกำรวเิ ครำะห์ ขอ้ มลู ตำมประเภทและลกั ษณะของขอ้ มูล โดยหำคำ่ เฉลยี่ เปน็ ค่ำรอ้ ยละ ซง่ึ ไดว้ ดั ระดับควำมคิดเหน็ และควำมพงึ พอใจทม่ี ตี ่อโครงกำรจะปรำกฏดงั น้ี สรุปผลกำรวิเครำะหข์ ้อมลู ควำมพึงพอใจ โครงกำร ศนู ยฝ์ ึกอำชพี ชมุ ชน หลกั สตู รพฒั นำอำชีพ วชิ ำ กำรจกั สำนจำกไม้ไผ่ ตอนท่ี 1 ขอ้ มูลทว่ั ไป รำยกำรข้อมลู พ้ืนฐำน จำนวน รอ้ ยละ (ƒ) (%) 1.เพศ 1.1 ชำย o0 1.2 หญิง 11 100 รวม 11 100.00 2.อำยุ 2.1 ต่ำกวำ่ 15 ปี 00 2.2 อำยุ 15 – 39 ปี 1 9.09 2.3 อำยุ 40 – 59 ปี 4 36.36 2.4 อำยุ 60 ปีข้นึ ไป 6 54.55 รวม 11 100.00 3.ระดบั กำรศึกษำ 8 72.73 3.1 ป.4 1 9.09 3.2 ป.6 1 9.09 3.3 ม.ตน้ 1 9.09 3.4 ม.ปลำย 3.5 ปวช. 00 3.6 ปวส. 00 3.7 ปรญิ ญำตรี 00 3.8 อื่นๆ 11 100.00 รวม 4.อำชพี 00 4.1 ผนู้ ำทอ้ งถ่ิน 00 4.2 อบต/เทศบำล 00 4.3 พนักงำนรฐั วิสำหกจิ 00 4.4 ทหำรกองประจำกำร กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศัยอำเภอสุวรรณคหู ำ
สรุปผลกำรดำเนนิ โครงกำรศนู ยฝ์ ึกอำชีพชมุ ชน รปู แบบช้ันเรียนวชิ ำชีพ หลกั สูตรกำรจักสำนจำกไม้ไผ่ 17 4.5 เกษตรกร 11 100 4.6 รบั รำชกำร 00 4.7 คำ้ ขำย 00 4.8 รบั จ้ำง 00 4.9 อสม. 00 4.10 แรงงำนตำ่ งด้ำว 00 4.11 วำ่ งงำน 00 4.12 อน่ื ๆ 00 รวม 11 100.00 จำกตำรำง ผลกำรวิเครำะห์ข้อมลู ควำมพงึ พอใจของผู้เขำ้ ร่วมโครงกำรศูนย์ฝึกอำชีพชุมชน หลกั สูตรพัฒนำอำชพี วชิ ำ กำรจกั สำนจำกไม้ไผ่ ผลกำรวเิ ครำะหป์ รำกฏวำ่ ผู้เข้ำรว่ มโครงกำร 11 คน เปน็ เพศหญงิ จำนวน 11 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 100 ดำ้ นอำยุ อำยุ 60 ปีขึน้ ไป จำนวน 6 คน คิดเปน็ ร้อยละ 54.55 อำยุ 40-59 ปี จำนวน 4 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 36.36 อำยุ 15 – 39 ปี จำนวน 1 คน คดิ เป็นร้อยละ 9.09 ระดบั กำรศึกษำ ป.4 จำนวน 8 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 72.73 ป.6 จำนวน 1 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 29.09 ม.ต้น จำนวน 1 คน คดิ เป็นร้อยละ 9.09 และระดับม.ปลำย จำนวน 1 คน คดิ เป็นร้อยละ 9.09 ตำมลำดับ ด้ำนอำชพี เกษตรกร จำนวน 11 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 100 กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั อำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรุปผลกำรดำเนินโครงกำรศนู ยฝ์ ึกอำชีพชุมชน รูปแบบช้นั เรยี นวิชำชีพ หลกั สูตรกำรจกั สำนจำกไมไ้ ผ่ 18 สรุปผลกำรวเิ ครำะห์ข้อมลู ควำมพงึ พอใจ โครงกำร ศูนย์ฝึกอำชีพชมุ ชน หลกั สตู รพัฒนำอำชีพ วชิ ำ กำรจกั สำน จำกไม้ไผ่ ตอนที่ 2 ควำมพงึ พอใจในกำรใหบ้ รกิ ำร ตำรำงท่ี 2.1 จุดมุ่งหมำย/เน้อื หำหลักสูตร ระดบั ควำมพึงพอใจ/จำนวน หมำย ข้อ รำยกำรประเมินควำมพึงพอใจ มำก มำก ปำน นอ้ ย น้อย เหตุ ที่สดุ กลำง ทสี่ ุด ตอนท่ี 1 ควำมพงึ พอใจดำ้ นเนื้อหำ 1 เนอื้ หำตรงตำมควำมต้องกำร 10 1 2 เน้อื หำเพียงพอต่อควำมต้องกำร 10 1 3 เนอื้ หำปัจจุบนั ทนั สมัย 10 1 4 เนื้อหำมีประโยชนต์ ่อกำรนำไปใชใ้ นกำรพัฒนำคณุ ภำพชีวิต 11 ตอนที่ 2 ควำมพงึ พอใจด้ำนกระบวนกำรจดั กจิ กรรมกำรอบรม 5 กำรเตรยี มควำมพร้อมกอ่ นอบรม 11 6 กำรออกแบบกจิ กรรมเหมำะสมกบั วัตถุประสงค์ 10 1 7 กำรจดั กิจกรรมเหมำะสมกบั เวลำ 11 8 กำรจัดกจิ กรรมเหมำะสมกบั กลุ่มเป้ำหมำย 11 9 วธิ กี ำรวัดผล/ประเมินผลเหมำะสมกับวัตถปุ ระสงค์ 10 1 ตอนท่ี 3 ควำมพงึ พอใจตอ่ วทิ ยำกร 10 วิทยำกรมีควำมรู้ควำมสำมำรถในเร่อื งทถ่ี ่ำยทอด 11 11 วทิ ยำกรมีเทคนิคกำรถำ่ ยทอดใช้ส่อื เหมำะสม 10 1 12 วทิ ยำกรเปดิ โอกำสใหม้ ีสว่ นร่วมและซกั ถำม 11 ตอนท่ี 4 ควำมพงึ พอใจดำ้ นกำรอำนวยควำมสะดวก 13 สถำนที่ วัสดุ อปุ กรณ์และสง่ิ อำนวยควำมสะดวก 11 14 กำรสอ่ื สำร กำรสรำ้ งบรรยำกำศเพื่อให้เกดิ กำรเรียนรู้ 10 1 15 กำรบริกำร กำรชว่ ยเหลือและกำรแก้ปัญหำ 10 1 กศน.ตำบลดงมะไฟ ศูนยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั อำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนินโครงกำรศูนย์ฝึกอำชพี ชมุ ชน รปู แบบช้ันเรียนวชิ ำชพี หลกั สูตรกำรจักสำนจำกไม้ไผ่ 19 สรปุ ควำมคดิ เหน็ และควำมพึงพอใจของผู้รับบริกำร โครงกำรศนู ยฝ์ กึ อำชีพชุมชน หลกั สูตรพัฒนำอำชีพ วชิ ำ กำรจกั สำนจำกไม้ไผ่ สรปุ ได้ดงั นี้ ตอนที่ 1 ควำมพงึ พอใจดำ้ นเนอ้ื หำ ผ้ตู อบแบบสอบถำมมคี วำมพึงพอใจด้ำนเนื้อหำ ดงั น้ี เนือ้ หำมีประโยชนต์ อ่ กำรนำไปใชใ้ นกำรพฒั นำ คณุ ภำพชีวิต ตอบดีมำกร้อยละ 100 เนอ้ิ หำมีควำมเพยี งพอตอ่ ควำมต้องกำร ตอบดีมำกรอ้ ยละ 85.71และ ตอบดี รอ้ ยละ 14.29 เน้อื หำทันสมัย ตอบดีมำกร้อยละ 85.71 และตอบดีร้อยละ 14.29 มีเนอื้ หำเพียงพอ ตอ่ ควำมต้องกำร ตอบมำกที่สุด คดิ เป็นร้อยละ 71.43 ตอบมำก คดิ เป็นร้อยละ 28.57. ตำมลำดับ ตอนท่ี 2 ควำมพงึ พอใจดำ้ นกำรจดั กจิ กรรมกำรอบรม ผตู้ อบแบบสอบถำมมีควำมพึงพอใจดำ้ นกำรจัดกิจกรรมเหมำะสมกบั กลมุ่ เป้ำหมำย ตอบดีมำกร้อยละ 100 วิธกี ำรวัดผล ประเมินผลเหมำะสมกับวัตถุประสงค์ ตอบดีมำกรอ้ ยละ 100 กำรจัดกจิ กรรมเหมำะสมกบั เวลำ ตอบดมี ำกร้อยละ 100 กำรเตรยี มควำมพร้อมกอ่ นกำรอบรม ตอบดีมำกร้อยละ 85.71 และตอบดรี ้อยละ 14.29. และกำรออกแบบกิจกรรมเหมำะสมกับวตั ถุประสงค์ ตอบดมี ำกร้อยละ 71.43 และตอบดรี ้อยละ 28.57 ตำมลำดับ ตอนท่ี 3 ควำมพงึ พอใจต่อวทิ ยำกร ผตู้ อบแบบสอบถำมมคี วำมพึงพอใจดำ้ นวทิ ยำกรเปิดโอกำสใหม้ ีสว่ นร่วมและซักถำม ตอบดมี ำกร้อยละ 100 วทิ ยำกรมีควำมรคู้ วำมสำมำรถในเรื่องที่ถ่ำยทอด ตอบดีมำกร้อยละ 85.71 ตอบมำก ร้อยละ 14.29 วิทยำกรมเี ทคนิคกำรถ่ำยทอดใช้ส่ือทีเ่ หมำะสม ตอบดมี ำกรอ้ ยละ 85.71 และตอบดรี ้อยละ 14.29 ตอนที่ 4 ควำมพงึ พอใจดำ้ นกำรอำนวยควำมสะดวก ผตู้ อบแบบสอบถำมมีควำมพึงพอใจด้ำนสถำนท่ี วสั ดุ อุปกรณ์และสิ่งอำนวยควำมสะดวก ตอบดีมำก ร้อยละ 100 .ด้ำนกำรสื่อสำร กำรสร้ำงบรรยำกำศเพ่ือให้เกิดกำรเรยี นรู้ ตอบมำกท่สี ดุ ร้อยละ 85.71 ตอบดี ร้อยละ 14.29 กำรบรกิ ำร กำรชว่ ยเหลือและกำรแกป้ ัญหำ ตอบมำกทส่ี ดุ รอ้ ยละ 71.43 ตอบดีรอ้ ยละ 28.57 ตำมลำดับ กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศยั อำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรุปผลกำรดำเนินโครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชพี ชุมชน รูปแบบช้ันเรยี นวชิ ำชพี หลักสูตรกำรจกั สำนจำกไม้ไผ่ 20 บทท่ี 5 สรปุ ผลและขอ้ เสนอแนะ กำรดำเนินงำนโครงกำร ศนู ย์ฝึกอำชีพชมุ ชน หลักสูตรพัฒนำอำชีพ รูปแบบชนั้ เรยี นวิชำชพี วชิ ำ กำร จกั สำนจำกไม้ไผ่ สรุปผลกำรดำเนินงำนไดด้ ังนี้ วตั ถปุ ระสงค์ของโครงกำร 1.เพือ่ ใหป้ ระชำชนมคี วำมรู้และทกั ษะในกำรประกอบอำชีพ สำมำรถสร้ำงรำยได้ท่ีม่ันคง ม่งั คง่ั 2.เพอื่ ใช้ในกำรตัดสนิ ใจประกอบอำชีพให้สอดคลอ้ งกับศักยภำพของตนเอง ชุมชน สงั คม และสง่ิ แวดล้อม อย่ำงมีคุณธรรมจรยิ ธรรม 3.เพ่อื ให้ประชำชนมโี ครงกำรประกอบอำชีพเพ่ือใช้เปน็ แนวทำงในกำรพฒั นำอำชีพของตนเอง ขอบเขตของโครงกำร 1. ด้ำนเน้อื หำ โครงกำรน้มี ุ่งใหผ้ ้เู รยี นกล่มุ เป้ำหมำยท่เี ขำ้ รับกำรอบรมสำมำรถนำควำมรู้ ทกั ษะ และประสบกำรณก์ ำรเรียนรูต้ ำ่ งๆ ไปใชใ้ นกำรประกอบอำชีพที่เปน็ กำรเขำ้ สู่อำชพี สร้ำงงำน สรำ้ งรำยได้ หรอื พัฒนำอำชีพ หรอื ตอ่ ยอดอำชพี เดมิ 2. ด้ำนระยะเวลำ ระยะเวลำในกำรดำเนนิ งำน วนั ที่ 13 มถิ นุ ำยน 2565 ถึง 19 มิถนุ ำยน 2565 ณ กศน.ตำบลดงมะw หมู่ท่ี 9 ตำบลดงมะไฟ อำเภอสวุ รรณคูหำ จงั หวดั หนองบัวลำภู 3. ดำ้ นประชำกรและกล่มุ ตวั อย่ำง ประชำชนตำบลดงมะไฟ จำนวน 11 คน ประโยชนท์ คี่ ำดวำ่ จะไดร้ บั - ประชำชนตำบลดงมะไฟกลุ่มเปำ้ หมำยมีอำชีพใหมม่ ีกำรพัฒนำตอ่ ยอดอำชพี เดิม เพิ่มทกั ษะกำรเปน็ ผ้ปู ระกอบกำร มีรำยได้ มงี ำนทำ มคี วำมมัน่ คง ยงั่ ยนื - เพื่อให้ผู้เข้ำรับกำรอบรมสำมำรถนำควำมรู้ ทักษะ และประสบกำรณ์กำรเรียนรู้ต่ำงๆ ไปใช้ในกำร ประกอบอำชีพที่เป็นกำรเขำ้ สู่อำชพี สร้ำงงำน สร้ำงรำยได้ หรือพฒั นำอำชพี หรอื ต่อยอดอำชีพเดิม ตวั ช้ีวัด ตวั ช้วี ดั ผลผลิต รอ้ ยละ 80 ของประชำชน ตำบลดงมะไฟ ทีเ่ ขำ้ ร่วมโครงกำรมอี ำชพี มีงำนทำ มรี ำยไดท้ ่ีมน่ั คงย่ิงขึน้ ตวั ช้ีวดั ผลลัพธ์ ประชำชนตำบลดงมะไฟ ท่เี ข้ำร่วมโครงกำรมคี วำมรู้ ทกั ษะ และประสบกำรณ์กำรเรยี นรตู้ ่ำงๆ ไปใช้ใน กำรประกอบอำชพี ท่ีเปน็ กำรเข้ำสอู่ ำชพี สร้ำงงำน สร้ำงรำยได้ หรือพฒั นำอำชีพ หรือต่อยอดอำชพี เดิม กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั อำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนินโครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชีพชมุ ชน รปู แบบชน้ั เรยี นวิชำชีพ หลกั สูตรกำรจักสำนจำกไมไ้ ผ่ 21 ผลกำรดำเนนิ โครงกำร ประชำชนตำบลดงมะไฟ ทเ่ี ขำ้ รว่ มโครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชีพชมุ ชน หลกั สูตรพัฒนำอำชีพ กำรจักสำนจำก ไมไ้ ผ่ มีควำมพอใจในกำรจัดกิจกรรมในระดับดีขน้ึ ไป รอ้ ยละ 100 และประชำชนทเ่ี ขำ้ รว่ มกจิ กรรมสำมำรถนำ ควำมรทู้ ่ไี ด้ไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ปัญหำ-อปุ สรรค -กำรจกั ตอกทำไดย้ ำก เพรำะตงั้ ใชเ้ วลำ แนวทำงแก้ไขปัญหำ -ควรหำอุปกรณ์ในกำรชว่ ยจกั ตอกไม้ไผ่ ข้อเสนอแนะ เม่อื ผู้เรยี นได้เรยี นจบหลกั สตู รไปแลว้ อยำกใหน้ ำควำมรู้ท่ีไดไ้ ปใช้ในกำรพัฒนำอำชีพของตนเอง กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศัยอำเภอสุวรรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนนิ โครงกำรศนู ยฝ์ ึกอำชพี ชมุ ชน รปู แบบชน้ั เรียนวิชำชพี หลักสูตรกำรจักสำนจำกไม้ไผ่ 22 ภำคผนวก กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั อำเภอสุวรรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนนิ โครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชพี ชุมชน รปู แบบช้ันเรียนวชิ ำชีพ หลกั สูตรกำรจักสำนจำกไมไ้ ผ่ 23 รูปภำพประกอบกจิ กรรม โครงกำรศนู ย์ฝกึ อำชีพชมุ ชน รปู แบบชนั้ เรยี นวชิ ำชพี หลกั สตู ร กำรจกั สำนจำกไมไ้ ผ่ จำนวน 31 ชวั่ โมง ระหวำ่ งวนั ท่ี 13 – 19 มถิ นุ ำยน 2565 ณ กศน.ตำบลดงมะไฟ กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัยอำเภอสุวรรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนนิ โครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชีพชุมชน รูปแบบชน้ั เรยี นวชิ ำชีพ หลักสูตรกำรจกั สำนจำกไมไ้ ผ่ 24 กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศยั อำเภอสุวรรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนนิ โครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชีพชุมชน รูปแบบชน้ั เรยี นวชิ ำชีพ หลักสูตรกำรจกั สำนจำกไมไ้ ผ่ 25 กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศยั อำเภอสุวรรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนนิ โครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชีพชุมชน รูปแบบชน้ั เรยี นวชิ ำชีพ หลักสูตรกำรจกั สำนจำกไมไ้ ผ่ 26 กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศยั อำเภอสุวรรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนนิ โครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชีพชุมชน รูปแบบชน้ั เรยี นวชิ ำชีพ หลักสูตรกำรจกั สำนจำกไมไ้ ผ่ 27 กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศยั อำเภอสุวรรณคหู ำ
สรุปผลกำรดำเนินโครงกำรศนู ยฝ์ ึกอำชีพชมุ ชน รปู แบบชน้ั เรยี นวิชำชีพ หลักสูตรกำรจกั สำนจำกไม้ไผ่ 28 ทป่ี รึกษำ คณะผจู้ ดั ทำคณ นำยวินัย แสงใส ะทำงำน นำงสำวพชิ ชำพมิ พ์ เพ็ชรเวยี ง ผอู้ ำนวยกำร กศน.อำเภอเมืองหนองบวั ลำภู นำงสำวอำรยำ วิชำสวัสดิ์ รักษำกำร ผูอ้ ำนวยกำร กศน.อำเภอสุวรรณคูหำ นำยวชรพล เพียเทพ ครผู ู้ชว่ ย นำยอภชิ ำติ สทุ ธิโสม ครูผูช้ ว่ ย นำงสวุ รรณำ สุทธโิ สม ครูอำสำสมัครกำรศึกษำนอกโรงเรียน ครูอำสำสมัครกำรศึกษำนอกโรงเรยี น ครูอำสำสมัครกำรศึกษำนอกโรงเรยี น คณะทำงำน ครู กศน.ตำบล ครู กศน.ตำบล นำงศุภชั ญำ พรชัย ครูศูนยก์ ำรเรียนชมุ ชน นำยทรงศักด์ิ พรชัย นำงสำวปรียำรัตน์ ทนุ่ ใจ ผรู้ วบรวม/เรยี บเรยี ง/จดั รปู เลม่ ครู กศน.ตำบล ครู กศน.ตำบล นำงศภุ ชั ญำ พรชยั ออกแบบปก นำงศภุ ชั ญำ พรชัย เจำ้ ของเอกสำร กศน.ตำบลดงมะไฟ กศน.ตำบลดงมะไฟ ศูนยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั อำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนนิ โครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชีพชุมชน รูปแบบชน้ั เรยี นวชิ ำชีพ หลักสูตรกำรจกั สำนจำกไมไ้ ผ่ 29 กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศยั อำเภอสุวรรณคหู ำ
Search
Read the Text Version
- 1 - 32
Pages: