กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศยั อำเภอสุวรรณคหู ำ
สรุปผลกำรดำเนนิ โครงกำรศูนยฝ์ กึ อำชพี ชุมชน รปู แบบช้นั เรยี นวิชำชีพ หลักสตู รกำรทอผำ้ พ้ืนเมอื ง ก คำนำ สรุปผลกำรดำเนินงำนโครงกำรศูนย์ฝึกอำชีพชนชน รูปแบบชั้นเรียนวิชำชีพ หลักสูตร กำรกำรจักสำนจำกไม้ไผ่ กศน.ตำบลดงมะไฟ จังหวัดหนองบัวลำภู ฉบับน้ีจัดทำขึ้นเพ่ือรวบรวมข้อมูลระดับ ควำมสำเร็จและควำมพึงพอใจท่ีมีต่อโครงกำร ปัญหำ อุปสรรค ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ เพื่อนำไปใช้เป็น ขอ้ มลู ประกอบในกำรดำเนนิ โครงกำรคร้งั ถดั ไป ศูนย์กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัยอำเภอสุวรรณคูหำ หวังเป็นอย่ำงยิ่งว่ำสรุปผลกำร ดำเนินงำนกำรจัดกิจกรรมดังกล่ำวจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ต้องกำรศึกษำ และจะเป็นแนวทำงในกำรนำไปพัฒนำ และปรบั ปรุงงำนกำรศึกษำนอกระบบในปีงบประมำณต่อไป กศน.ตำบลดงมะไฟ สิงหำคม 2565 กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศัยอำเภอสุวรรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนินโครงกำรศูนย์ฝกึ อำชพี ชุมชน รปู แบบชั้นเรียนวชิ ำชีพ หลกั สตู รกำรทอผำ้ พืน้ เมอื ง ข สารบญั รำยกำร หนำ้ คำนำ ก สำรบัญ ข บทท่ี 1 บทนำ 1 บทที่ 2 เอกสำรทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 3 บทท่ี 3 วธิ กี ำรดำเนนิ กำร 8 บทท่ี 4 ผลกำรดำเนนิ งำน 10 บทท่ี 5 สรปุ ผลและขอ้ เสนอแนะ 15 ภำคผนวก 17 รปู ภำพประกอบกจิ กรรม โครงกำร รำยมอื ชอ่ื ผเู้ ขำ้ รว่ มกจิ กรรม อ่นื ๆ คณะผจู้ ดั ทำ กศน.ตำบลดงมะไฟ ศูนย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศัยอำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนนิ โครงกำรศูนย์ฝึกอำชีพชุมชน รปู แบบชนั้ เรียนวิชำชีพ หลักสูตรกำรทอผ้ำพืน้ เมือง 1 บทท่ี 1 บทนำ ควำมเปน็ มำและควำมสำคญั จำกสถำนกำรณเ์ ศรษฐกจิ และควำมเหลื่อมลำ้ ท่ีมีอย่ใู นสงั คมปัจจบุ นั แสดงถงึ ฐำนเศรษฐกจิ ของประเทศ ท่ยี งั ไม่เข้มแขง็ ประชำชนระดับฐำนรำกยงั มีรำยไดน้ อ้ ย ส่วนใหญ่มอี ำชีพภำคกำรเกษตร จงึ ไมม่ ีโอกำสที่จะเตบิ โต เป็นชนชั้นกลำง กำรขำดโอกำสและควำมรเู้ ก่ียวกบั ทักษะด้ำนอำชีพทำให้เกิดปญั หำในกำรประกอบอำชีพ เพ่อื สรำ้ งรำยไดจ้ ำกผลผลติ ของตนเอง จำกสภำวะกำรดงั กลำ่ ว รฐั บำลจงึ ได้ใหค้ วำมสำคัญต่อกำรพัฒนำประเทศด้ำน เศรษฐกจิ พนื้ ฐำนของประชำชนกล่มุ ดงั กล่ำว โดยพยำยำมท่ีจะส่งเสรมิ อำชีพเพื่อสร้ำงงำนและผลผลิต ทมี่ ีคุณภำพ ให้แก่ประชำชนอยำ่ งท่ัวถึงและทกุ ระดบั ชนั้ ซึง่ กำรพฒั นำประเทศจะต้องพฒั นำทรพั ยำกรมนุษย์ ของประเทศ ดังนนั้ กำรจัดกำรศกึ ษำจึงเป็นปัจจยั สำคัญอันจะนำไปสู่กำรบรรลเุ ป้ำหมำยในกำรพฒั นำประเทศอยำ่ งมีคุณภำพ และยัง่ ยนื เพือ่ ตอบสนองยุทธศำสตร์ชำติ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) ดำ้ นกำรสร้ำงโอกำส และ ควำมเสมอภำคทำง สังคมเพื่อ เรง่ กระจำยโอกำสกำรพัฒนำให้ทวั่ ถึง ลดควำมเหล่อื มล้ำไปสู่สงั คมเสมอภำค และเปน็ ธรรม สำนักงำน กศน. ซ่งึ เป็นหนว่ ยงำนทำงกำรศึกษำทมี่ สี ถำนศึกษำตั้งอยู่ในระดับอำเภอ/เขต จำนวน 928 แห่ง และ กศน. ตำบล จำนวน 7,424 แห่ง ได้ขับเคลอ่ื นโครงกำรศูนย์ฝึกอำชพี ชุมชน เพือ่ พฒั นำควำมรูแ้ ละฝกึ อำชีพแก่ประชำชน โดยกำรจดั กจิ กรรมฝึกอำชีพภำยใต้ 5 หลักสูตรกลมุ่ อำชพี ไดแ้ ก่ กลุ่มอำชีพ ดำ้ นเกษตรกรรม กลมุ่ อำชพี ด้ำน อตุ สำหกรรมหรือหตั ถกรรม กลมุ่ อำชีพดำ้ นพำณชิ ยกรรมและบรกิ ำร กลมุ่ อำชีพด้ำนควำมคิดสรำ้ งสรรค์ และกลุ่ม อำชีพเฉพำะทำง เชน่ ช่ำงไฟฟำ้ ชำ่ งซ่อมแอร์ ฯลฯ โดยมงุ่ หวงั ใหป้ ระชำชน ทีเ่ ข้ำรับกำรฝกึ อำชีพสำมำรถนำ ควำมรไู้ ปใช้ประกอบอำชีพได้ มกี ำรพัฒนำต่อยอดผลติ ภณั ฑ์/บริกำร ใหม้ คี ณุ ภำพ เปน็ กำรสร้ำงมลู ค่ำเพ่ิม มี สง่ เสรมิ กำรขำยและขยำยช่องทำงกำรจำหน่ำยสนิ คำ้ ไปยงั ผ้บู รโิ ภคท่ีหลำกหลำย ภำยใต้ Brand กศน. ในอนำคต กศน.ตำบลดงมะไฟ สงั กดั ศูนยก์ ำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัยอำเภอสุวรรณ คูหำ ไดส้ ำรวจควำมต้องกำรดำ้ นอำชพี ของชุมชนตำบลดงมะไฟเรยี บร้อยแล้ว จงึ ได้ดำเนินงำนตำมโครงกำรข้ึน วตั ถปุ ระสงค์ของโครงกำร 1.เพ่อื ใหป้ ระชำชนมคี วำมรู้และทกั ษะในกำรประกอบอำชพี สำมำรถสร้ำงรำยไดท้ ี่มั่นคง มั่งค่ัง 2.เพื่อใชใ้ นกำรตดั สินใจประกอบอำชีพใหส้ อดคล้องกบั ศักยภำพของตนเอง ชุมชน สงั คม และส่ิงแวดล้อม อย่ำงมีคุณธรรมจริยธรรม 3.เพ่อื ให้ประชำชนมโี ครงกำรประกอบอำชีพเพ่ือใช้เปน็ แนวทำงในกำรพัฒนำอำชพี ของตนเอง กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัยอำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนินโครงกำรศนู ยฝ์ ึกอำชีพชุมชน รปู แบบชัน้ เรยี นวชิ ำชพี หลักสูตรกำรทอผำ้ พืน้ เมอื ง 2 ขอบเขตของโครงกำร 1. ดำ้ นเนอื้ หำ โครงกำรน้ีมุง่ ใหผ้ เู้ รียนกลุม่ เป้ำหมำยทเ่ี ข้ำรับกำรอบรมสำมำรถนำ ควำมรู้ ทักษะ และประสบกำรณก์ ำรเรียนรู้ต่ำงๆ ไปใช้ในกำรประกอบอำชพี ที่เป็นกำรเข้ำสอู่ ำชีพ สรำ้ งงำน สรำ้ ง รำยได้ หรอื พฒั นำอำชีพ หรือต่อยอดอำชีพเดิม 2. ด้ำนระยะเวลำ ระยะเวลำในกำรดำเนินงำน วนั ท่ี 16 สิงหำคม 2565 ถงึ 22 สิงหำคม 2565 ณ ศำลำประชำคม หม่ทู ่ี 9 ตำบลดงมะไฟ อำเภอสุวรรณคูหำ จังหวดั หนองบวั ลำภู 3. ด้ำนประชำกรและกลมุ่ ตวั อย่ำง ประชำชนตำบลดงมะไฟ จำนวน 11 คน และครู กศน.ตำบลดงมะไฟ จำนวน 3 คน ประโยชนท์ ค่ี ำดวำ่ จะไดร้ บั - ประชำชนตำบลดงมะไฟกลุ่มเป้ำหมำยมีอำชีพใหมม่ ีกำรพฒั นำตอ่ ยอดอำชีพเดิม เพิ่มทักษะกำรเป็น ผปู้ ระกอบกำร มีรำยได้ มงี ำนทำ มคี วำมม่นั คง ยั่งยืน - เพื่อให้ผู้เข้ำรับกำรอบรมสำมำรถนำควำมรู้ ทักษะ และประสบกำรณ์กำรเรียนรู้ต่ำงๆ ไปใช้ในกำร ประกอบอำชพี ท่ีเปน็ กำรเขำ้ สู่อำชพี สรำ้ งงำน สรำ้ งรำยได้ หรือพัฒนำอำชพี หรือตอ่ ยอดอำชพี เดิม ตัวช้วี ดั ตวั ชีว้ ดั ผลผลิต ร้อยละ 80 ของประชำชน ตำบลดงมะไฟ ที่เข้ำรว่ มโครงกำรมีอำชพี มีงำนทำ มีรำยได้ที่ม่นั คงยิ่งขน้ึ ตัวชี้วัดผลลัพธ์ ประชำชนตำบลดงมะไฟ ทีเ่ ข้ำร่วมโครงกำรมีควำมรู้ ทักษะ และประสบกำรณก์ ำรเรยี นร้ตู ่ำงๆ ไปใช้ใน กำรประกอบอำชพี ทีเ่ ปน็ กำรเข้ำสู่อำชพี สรำ้ งงำน สร้ำงรำยได้ หรือพฒั นำอำชีพ หรือต่อยอดอำชพี เดิม กศน.ตำบลดงมะไฟ ศูนยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศยั อำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรุปผลกำรดำเนินโครงกำรศนู ยฝ์ ึกอำชีพชมุ ชน รปู แบบชัน้ เรยี นวชิ ำชีพ หลักสูตรกำรทอผ้ำพืน้ เมอื ง 3 บทที่ 2 เอกสำรทเ่ี ก่ียวขอ้ ง ควำมหมำยและควำมสำคญั ของกำรพฒั นำอำชีพ โดยทั่วไป อำชีพ (Career) หมำยถึง สิ่งที่บคุ ลำกรทำเพ่ือกำรดำรงชีวติ โดยใช้ควำมรู้ ทกั ษะ และ ควำมสำมำรถของตนที่ไดร้ ับจำกกำรศึกษำและฝึกอบรม เช่น อำชีพแพทย์ พยำบำล นักวทิ ยำศำสตร์ ชำ่ ง ไฟฟำ้ ช่ำงไม้ เปน็ ต้น แตใ่ นที่นีจ้ ะใหค้ วำมหมำยของคำว่ำอำชพี คือ “ลำดับของตำแหนง่ ซงึ่ บุคคลดำรงอยู่ ภำยในชว่ งชวี ติ ของเขำ” (De Cenzo & Robbins, 1994) ดังน้ัน บุคลำกรทกุ คนทท่ี ำงำนโดยไดร้ ับหรอื ไมไ่ ด้รับ ค่ำตอบแทน จะถอื ว่ำเป็นบุคคลทมี่ อี ำชีพท้งั สิน้ กำรพฒั นำอำชีพ (Career development) จึงหมำยถงึ กระบวนกำรซึง่ องคก์ ำรจดั ขน้ึ เพื่อชว่ ยเหลอื บุคลำกรในกำรจัดกำรกับอำชีพของตนเอง (De Cenzo & Robbins, 1994) ซงึ่ อำจจะไดแ้ กก่ ำรประเมิน ศกั ยภำพของบุคคล กำหนดเส้นทำงอำชีพทเ่ี หมำะสม วำงแผน และฝึกอบรม เพื่อสง่ เสริมให้บุคลำกรมกี รพฒั นำ และควำมกำ้ วหนำ้ ในงำน ประโยชน์ของกำรพัฒนำอำชีพ กำรพฒั นำอำชพี ของบคุ ลำกร มคี วำมสำคญั และก่อให้เกิดประโยชนแ์ ก่องคก์ ำรหลำยประกำร ดงั ต่อไปนคี้ ือ - ชว่ ยรบั ประกันวำ่ บคุ ลำกรท่ีมคี วำมสำมำรถจะอยกู่ ับองคก์ ำรตอ่ ไป บคุ ลำกรท่ีมีควำมสำมำรถ และประสบกำรณ์ ย่อมเป็นที่ตอ้ งกำรขององค์กำรทกุ แหง่ และบุคคลเหลำ่ น้สี ำมำรถทจ่ี ะหำงำนใหม่ไดอ้ ย่ำงรวดเรว็ และง่ำยดำย หำกพวกเขำรสู้ ึกว่ำองค์กำรไมไ่ ดใ้ หค้ วำมสำคัญแก่พวกเขำ และไม่ได้รบั นโยบำยหรอื มำตรกำรใด ๆ ทจ่ี ะสง่ เสรมิ ควำมก้ำวหนำ้ ในอำชีพแก่พวกเขำแล้ว โอกำสทพ่ี วกเขำจะลำออกจำกงำนก็มสี ูง ย่ิงขน้ึ ดังนัน้ โครงกำรดำ้ นกำรพัฒนำอำชีพจะเปน็ ส่ิงเหน่ียวรั้งมิใหบ้ ุคลำกรท่มี คี วำมสำมำรถเหล่ำน้ีออกจำก องค์กำรไป - ชว่ ยใหอ้ งคก์ ำรสำมำรถดงึ บุคลำกรทม่ี คี วำมสำมำรถสูงเขำ้ มำทำงำนไดม้ ำกขนึ้ บคุ คลท่ีมี ควำมสำมำรถสงู มกั จะพิจำรณำเลือกทำงำนกบั องค์กำร ซงึ่ ใหค้ วำมสำคัญต่ออนำคตและควำมก้ำวหนำ้ ของ บุคลำกร ดงั น้นั หำกองค์กำรใดท่มี ีโครงกำรด้ำนกำรพฒั นำอำชีพ ก็ย่อมจะมีควำมไดเ้ ปรียบในกำรดงึ ดดู บคุ ลำกร เหล่ำนน้ั ใหเ้ ขำ้ มำทำงำนกบั ตนเอ - ชว่ ยสรำ้ งภำพลักษณ์ทดี่ ใี หก้ ับองคก์ ำร องค์กำรทีใ่ ห้ควำมสำคัญและควำมสนใจแก่อนำคตและ ควำมก้ำวหน้ำของบุคลำกร ย่อมจะทำให้ทั้งบุคลำกรภำยในองค์กำรและบุคลำกรภำยนอกองค์กำรนน้ั ด้วย ควำมรู้สึกทดี่ ี ซึ่งจะช่วยส่งเสริมภำพลกั ษณ์และช่ือเสยี งใหอ้ งค์กำรเป็นอย่ำงดี - ชว่ ยใหบ้ ุคลำกรมีกำรพฒั นำตนเองและลดควำมลำ้ สมยั กำรทำงำนในตำแหนง่ หนง่ึ ๆ อัน อำจจะทำให้บคุ ลำกรลำ้ หลังต่อควำมเปลย่ี นแปลงต่ำง ๆ ดงั น้นั กำรพฒั นำอำชพี จะชว่ ยให้บุคลำกรมีกำรพัฒนำ ตนเองอยู่ตลอดเวลำ ท้งั นี้เพรำะบุคลำกรเหลำ่ น้ันจำเปน็ ต้องเพ่ิมพนู ควำมรู้และควำมสำมำรถตำ่ ง ๆทจ่ี ำเปน็ กอ่ นที่จะสำมำรถก้ำวข้นึ ส่ตู ำแหน่งอน่ื ๆ กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัยอำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรุปผลกำรดำเนินโครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชีพชุมชน รูปแบบชัน้ เรียนวชิ ำชีพ หลักสูตรกำรทอผ้ำพื้นเมอื ง 4 ควำมหมำยและควำมสำคญั ของอำชีพ อำชีพ หมำยถึง กำรทำงำนซงึ่ มีผลตอบแทนออกมำในรปู ของรำยได้เพ่อื บุคคลนำไปดำรงชีพท้งั ของตนและครอบครัว ง นัน้ ต้องเปน็ งำนทส่ี ุจริต ก่อให้เกิดประโยชนแ์ ก่สังคมโดยสว่ นรวม โดยไมท่ ำใหต้ นเอง และผ้อู นื่ เดือดรอ้ น ควำมสำคญั ของกำรประกอบอำชพี 1. ทำใหม้ รี ำยได้ประจำเลีย้ งตนเองและครอบครวั โดยซือ้ หรือจัดหำสิ่งจำเป็นสำหรับกำรดำรงชวี ิต 2.ทำให้มีโอกำสใชค้ วำมรคู้ วำมสำมำรถที่มอี ยู่ทำงำนใหเ้ ปน็ ประโยชน์ตอ่ สงั คมและประเทศชำติ 3.ทำใหม้ ีโอกำสสรำ้ งชื่อเสียงให้แก่ตนเองและวงศ์ตระกูล เป็นท่ยี อมรบั ของบุคคลในสังคม 4.ทำใหม้ หี ลักฐำนม่ันคง เป็นทเี่ คำรพนับถือของบคุ คลอน่ื ๆ 5.ทำใหร้ ้จู กั ใชเ้ วลำวำ่ ให้เปน็ ประโยชน์ จะได้ไม่ประพฤติตนไร้สำระ 6.ทำให้บคุ คลเกดิ ควำมภำคภมู ิใจในตนเอง ทสี่ ำมำรถพึ่งตนเองได้ และยงั ทำประโยชน์แกส่ งั คมโดยส่วนร่วมดว้ ย เรื่อง ควำมสำคญั และควำมจำเปน็ ในกำรพฒั นำอำชพี ควำมสำคัญและควำมจำเป็นของกำรพฒั นำอำชพี วิเครำะหล์ ักษณะขอบขำ่ ยกำรงำนอำชีพ กระบวนกำร ทำงำน กำรบริหำรจดั กำรของอำชพี ตำ่ ง ๆ ในชมุ ชน สงั คม ประเทศ และโลก เพ่ือกำรพัฒนำอำชพี จำกกำรงำน อำชพี ต่ำงๆ กำรพฒั นำอำชีพ หมำยถึง กำรพฒั นำอำชีพที่ดำเนินอยใู่ หเ้ หมำะสมกับควำมต้องกำรของตลำด กำรพฒั นำอำชพี ท่ี มีประสทิ ธิภำพจะตอ้ งพัฒนำควำมรู้ ควำมสำมำรถในกำรวำงแผนกำหนดยทุ ธศำสตร์ตำ่ งๆ ทงั้ ด้วยตนเองและ กระบวนกำรกลมุ่ โดยเฉพำะผู้ประกอบอำชีพเดยี วกนั เพ่ือแลกเปลย่ี นเรียนรซู้ ง่ึ กันและกัน แล้วนำไปตดั สนิ ใจเพ่ือ นำไปสู่กำรปฏิบตั ิ นอกจำกน้ีควรมีกำรบรหิ ำรจัดกำรแบบองคร์ วมบูรณำกำรปจั จัยตำ่ งๆ ให้เปน็ หนึ่งเดยี ว สำมำรถ เกอ้ื หนุนซ่ึงกนั และกนั ได้ เช่น ทนุ ทำงสงั คม ทรัพยำกรตำ่ งๆ ไดแ้ ก่ ควำมรู้ ควำมสำมำรถในกระบวนกำรผลิต และ กระบวนกำรกำรตลำด กำรพัฒนำอำชีพมีควำมสำคัญและจำเป็น ดงั น้ี 1. ดำ้ นเศรษฐกจิ จำกกำรแข่งขันทำงธรุ กิจที่มกี ำรแข่งขันทำงกำรตลำดสูง จงึ เกดิ กำรรวมกลุ่ม กำรค้ำตำ่ งๆ เชน่ เขตกำรค้ำเสรีอำเซยี น เขตเศรษฐกจิ ยโุ รป ดงั นนั้ กำรพัฒนำอำชพี จึงจำเปน็ ตอ้ งมีกำรพัฒนำ สนิ ค้ำใหส้ ำมำรถเข้ำสตู่ ลำดกำรแขง่ ขนั และเป็นท่ียอมรับของตำ่ งประเทศ 2. ดำ้ นสงั คม ประเทศท่ีมเี ศรษฐกิจดีจะสง่ ผลให้สภำพของสังคมดขี ้ึน เช่น ปรำศจำกโจรผรู้ ้ำย 3. ด้ำนกำรศกึ ษำ ครอบครวั ท่ีมเี ศรษฐกิจดีจะสำมำรถสง่ บุตรหลำนเข้ำรบั กำรศึกษำไดต้ ำมควำม ตอ้ งกำร และในอนำคตเยำวชนเหลำ่ น้ีก็จะเป็นประชำกรที่มีคณุ ภำพ มีควำมสำมำรถในกำรประกอบอำชีพ ส่งผล ต่อเศรษฐกิจ สงั คมให้มคี วำมเจริญกำ้ วหนำ้ ต่อไป ควำมสำคญั ในกำรพฒั นำอำชพี กำรพัฒนำอำชพี เป็นสิ่งทีส่ ำคัญในวิถชี ีวติ และกำรดำรงชีพในปจั จุบนั เพรำะอำชีพเปน็ กำรสร้ำงรำยได้เพ่ือ เลย้ี งชพี ตนเองและครอบครวั อำชีพก่อใหเ้ กิดผลผลิตและกำรบริกำร ซึง่ สนองตอบต่อควำมต้องกำรของผบู้ ริโภค และท่ีสำคัญคือ กำรพัฒนำอำชพี มคี วำมสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศชำติ ควำมสำคัญจึงเป็นฟันเฟอื งในกำร พัฒนำคุณภำพชวี ติ เศรษฐกิจ ชุมชน ส่งผลถงึ ควำมเจริญก้ำวหนำ้ ของประเทศชำติ กศน.ตำบลดงมะไฟ ศูนยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั อำเภอสุวรรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนินโครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชพี ชุมชน รูปแบบชัน้ เรยี นวชิ ำชพี หลักสูตรกำรทอผำ้ พน้ื เมือง 5 อำชพี กบั กำรพฒั นำอำชพี เรือ่ งรำวของอำชีพ อำชพี ก็คือกำรหำเล้ียงชีวิตใหม้ ีกนิ มีอยู่ กำรเขำ้ รับศึกษำของทุกคน ๆ ก็เพื่อนำไป ประกอบอำชีพแต่ในยุคปจั จุบันอำชพี มีมำกมำย และอำชพี ใหม่ก็นำ่ สนใจมำกขน้ึ ในกำรพัฒนำอำชพี ของแตล่ ะ อำชพี นน้ั มีแนวทำงทต่ี ่ำงกันไปตำมสำยงำน แตท่ กุ อำชพี สำมำรถพฒั นำได้ทงั้ หมด นักเรียนนักศกึ ษำจบใหม่ๆ บำง คนอำจมีแนวคิดแปลกๆ ทีไ่ ม่เหมอื นคนอน่ื เช่น อยำกทำอำชพี อิสระ ซง่ึ คนปจั จุบันคิดแบบน้ีมำกขนึ้ เพรำะเหตุ ท่วี ำ่ อำชพี ในยุคปจั จบุ นั ไม่ถูกตีกรอบแคบๆ อกี ต่อไป อำชีพน้นั ไม่ว่ำจะเปน็ อำชีพอะไรก็ตำม ท้งั อำชพี ท่ีใชแ้ รงกำย อำชพี ที่ใช้แรงสมอง สำมำรถพัฒนำได้ทงั้ นั้น ทิศทำงกำรพฒั นำอำชพี 1. ต้องรู้จกั อำชีพของตนเองให้ดีพอ 2. รู้ทศิ ทำงของอำชีพของตน 3. ร้โู ลกท่เี ปลี่ยนแปลงตลอดเวลำ 4. วำงแผนชีวิตและกำรทำงำน 5. กำหนดนโยบำยกำรพฒั นำอำชพี ของตนเอง (มวี สิ ยั ทศั น)์ 6. ต้ังเป้ำหมำย แบง่ ระยะให้เห็นเป็นรูปธรรม 7. วำงกลยทุ ธพฒั นำอำชีพ 8. ลงมือปฏิบัติ 9. ประเมนิ ผลใหเ้ ปน็ 10. ปรับปรงุ 11. พัฒนำ แนวทำงกำรพฒั นำอำชพี ที่กล่ำวมำทจี่ รงิ แลว้ ก็คือหลกั พนื้ ฐำนท่วั ไป ซ่ึงคนประกอบอำชีพน้ันๆ ควรรู้ เชน่ อำชพี แมบ่ ำ้ น สำมำรถพฒั นำไดจ้ นถงึ ขนั้ สูง และเปน็ อำชีพที่ทรงคุณคำ่ ได้ เรียกว่ำ แม่บ้ำนมืออำชพี อำชีพแม่บำ้ นสมัยก่อน คอื อำชพี คนรับใช้ แตใ่ นยคุ ปจั จบุ ันอำชีพคนรบั ใชห้ รือคนทำควำม สะอำดภำยในบ้ำนไม่ใช่อำชีพที่ต้อยตำ่ อกี ต่อไป เพรำะปัจจุบันมีบริษทั เปดิ ใหบ้ ริกำรสำหรบั ลูกคำ้ ท่ีต้องกำร แมบ่ ้ำนแบบมอื อำชีพไป ชว่ ยเหลือในกำรจัดกำรภำยในบ้ำนหรอื อำคำรตำ่ ง ๆ ตลอดจนถึงโรงแรม ซ่งึ กำรเพ่มิ มูลคำ่ และคณุ คำ่ คือกำรพฒั นำอำชพี ของตนเอง กำรยกระดับแม่บ้ำนสู่กำรเป็นแม่บ้ำนมืออำชพี อย่ำงเช่น กำรจัดโต๊ะ กำรวำงช้อน กำรวำงผำ้ สำหรับโตะ๊ รบั ประทำนอำหำร มแี นวปฏิบตั ิทเ่ี ป็นแบบแผนสำกล กำรมีควำมร้ใู นด้ำนนีจ้ ึงมคี วำมจำเปน็ และในเรื่องอนื่ ๆ อีก อย่ำงเชน่ กำรปูผำ้ ปูเตยี งใหต้ ึงกม็ ีเทคนคิ กำรทำควำมสะอำดเครอ่ื งใช้ต่ำงๆ อยำ่ งเช่น เส้ือผ้ำไหม สทู หรือเส้ือผำ้ ทีท่ ำจำกขนสตั ว์กม็ เี ทคนคิ กำรดูแลพิเศษกว่ำผ้ำชนดิ อ่นื ๆ นีค้ ือแนวทำงกำรพัฒนำอำชีพให้เปน็ แบบมืออำชีพ แม่บำ้ นมืออำชีพสมยั นีต้ ้องชำนำญในเรื่องทก่ี ล่ำวมำ และมูลค่ำของคำ่ จำ้ งจงึ สูงกว่ำแม่บ้ำนแบบธรรมดำ เพรำะมี ควำมรู้ควำมชำนำญพิเศษ คำ่ แรงจงึ สงู ตำมไปดว้ ย เหน็ ดว้ ยหรอื ไมว่ ำ่ อำชพี ท่ีธรรมดำแต่ไม่ธรรมดำมลู ค่ำกเ็ พิ่มข้ึน ได้ เขำเรยี กวำ่ กำรพัฒนำสำยงำนของตนเอง กศน.ตำบลดงมะไฟ ศูนยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศัยอำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรุปผลกำรดำเนนิ โครงกำรศูนย์ฝึกอำชพี ชุมชน รปู แบบช้ันเรียนวิชำชพี หลักสูตรกำรทอผำ้ พน้ื เมอื ง 6 ฉะนน้ั ทุกสำยอำชีพสำมำรถพัฒนำได้หมด มีควำมก้ำวหน้ำไดท้ กุ หนทุกแหง่ อยำ่ ไดน้ ้อยใจวำ่ อำชพี ของเรำไม่มีคำ่ ไม่มีรำคำ ถำ้ เรำใสค่ วำมรู้ ใสค่ วำมรกั กบั งำน งำนท่ีเรำทำก็จะช่วยพัฒนำคุณภำพชวี ติ และ เจรญิ ก้ำวหน้ำได้ตลอดอำชพี ทุกอำชพี มหี นทำงพฒั นำในแบบของตน ควำมจำเปน็ ในกำรพฒั นำอำชีพ ควำมจำเป็นในกำรพัฒนำอำชีพในชุมชน สงั คม ประเทศ และโลก ทเี่ หมำะสมกบั ตนเอง วเิ ครำะหค์ วำม เปน็ ไปได้ตำ่ ง ๆ ได้แก่ กำรลงทนุ กำรตลำด กระบวนกำรผลติ กำรขนสง่ กำรบรรจุหีบห่อ กำรแปรรปู และ ผลกระทบต่อชุมชน และสิง่ แวดล้อม ควำมรูค้ วำมสำมำรถของตนเองต่อสิ่งทตี่ ้องกำรพัฒนำ กำรลำดบั ควำมสำคัญ ของกำรพฒั นำท่มี ีควำมเป็นไปได้ เพ่ือนำข้อมลู ท่ีวเิ ครำะห์ไว้นำไปปรึกษำผรู้ ู้ กำรตดั สนิ ใจเลือกพฒั นำอำชีพที่ เหมำะสมกับตนเอง โดยวเิ ครำะห์ควำมพรอ้ มของตนเอง ควำมตอ้ งกำรของตลำด เทคนิคควำมรู้ ทักษะในอำชพี และควำมรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม ทรัพยำกรธรรมชำติ และสง่ิ แวดลอ้ ม ประโยชนใ์ นกำรพฒั นำอำชพี 1. มีกำรใชท้ ุนทำงสังคมอยำ่ งคมุ้ คำ่ เนื่องจำกสำมำรถใชว้ ัสดทุ ดแทน ใชว้ ัสดทุ ้องถน่ิ ลดกำรขนสง่ และทุนบำงชนดิ สำมำรถใชร้ ว่ มกันได้ เชน่ เครื่องมือทำงกำรเกษตรสำมำรถใชใ้ นกจิ กรรมกำรเกษตรด้วยกัน เปน็ ตน้ 2. มกี ำรเพ่ิมผลผลิต เนอ่ื งจำกมีกำรพัฒนำสนิ ค้ำทีต่ รงควำมต้องกำรของลกู คำ้ ทำใหย้ อดจำหนำ่ ย มำกข้ึน 3. มกี ำรขยำยตลำด สำมำรถขยำยเครือขำ่ ยดำ้ นกำรตลำดให้กวำ้ งขึน้ โดยผู้ผลติ จะต้องมีกำร ประชำสัมพนั ธอ์ ย่ำงต่อเนอื่ ง 4. พฒั นำรูปแบบผลิตภณั ฑเ์ พ่ือบรรจุหบี หอ่ ต้องพฒั นำรปู แบบอย่ตู ลอดเวลำทำให้สนิ คำ้ มีกำร พฒั นำรูปแบบผลิตภัณฑห์ รือบรรจภุ ณั ฑอ์ ยู่เสมอ 5. เกิดเศรษฐกิจชมุ ชน จำกกำรท่ีมกี ำรพฒั นำผลติ ภัณฑส์ นิ ค้ำ ทั้งดำ้ นคุณภำพและปรมิ ำณทำให้ ตลำดกวำ้ งขวำงขึ้นเศรษฐกิจชุมชนเจรญิ เตบิ โต 6. ชุมชนเขม้ แข็ง เม่ือชุมชนมีเศรษฐกิจดีขน้ึ ส่งผลต่อกำรพัฒนำคณุ ภำพชวี ติ ดีข้ึน ครอบครัว อบอนุ่ ลกู หลำนไดเ้ รียนหนังสือ ปรำศจำกโจรผู้ร้ำยและยำเสพตดิ 7. มอี ำชพี ม่นั คง เนอื่ งจำกผปู้ ระกอบอำชีพมกี ำรพฒั นำอำชีพอยู่ตลอดเวลำในดำ้ นกำรใช้ทุน พฒั นำรูปแบบ จัดหำตลำดให้กว้ำงขวำง ทำให้มอี ำชีพมัน่ คง ประเภทของภูมปิ ญั ญำ 1. ภูมปิ ัญญำพนื้ บ้ำน เป็นองคค์ วำมรู้ ควำมสำมำรถและประสบกำรณ์ทส่ี ั่งสมและสืบทอดกนั มำ เป็น ควำมสำมำรถและศกั ยภำพในเชงิ กำรแก้ปญั หำ กำรปรับตัวเรยี นร้แู ละสืบทอดไปสูค่ นรุ่นต่อไปเพ่ือกำร ดำรงอยู่ของเผ่ำพนั ธ์ุ จงึ เปน็ มรดกทำงวฒั นธรรมชำติ ของเผ่ำพันธห์ุ รือเปน็ วิถชี ีวิตของชำวบำ้ น 2. ภูมปิ ญั ญำชำวบำ้ น เป็นวธิ กี ำรปฏบิ ัติของชำวบ้ำน ซึ่งได้มำจำกประสบกำรณ์ แนวทำงแกป้ ัญหำแตล่ ะ เร่อื งแตล่ ะประสบกำรณ์ แตล่ ะสภำพแวดลอ้ มซ่งึ จะมเี งื่อนไขปัจจยั เฉพำะแตกต่ำงกันไปนำมำใชแ้ ก้ไขปญั หำโดย กศน.ตำบลดงมะไฟ ศูนย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั อำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนินโครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชพี ชุมชน รปู แบบชน้ั เรียนวิชำชีพ หลักสูตรกำรทอผ้ำพน้ื เมอื ง 7 อำศยั ศกั ยภำพทีม่ ีอย่โู ดยชำวบำ้ นคดิ เองเป็นควำมรู้ท่สี รำ้ งสรรคแ์ ละมีสว่ นเสรมิ สร้ำงกำรผลติ หรอื เปน็ ควำมรขู้ อง ชำวบ้ำนท่ีผ่ำนกำรปฏบิ ัตมิ ำแลว้ อย่ำงโชกโชน เป็นสว่ นหนึ่งของมรดกทำงวฒั นธรรม เปน็ ควำมรทู้ ่ีปฏิบัตไิ ด้มีพลัง และสำคญั ย่งิ ชว่ ยใหช้ ำวบำ้ นมชี ีวติ รอดสร้ำงสรรค์กำรผลิตและชว่ ยในดำ้ นกำรทำงำน เป็นโครงสรำ้ งควำมรทู้ ีมี หลักกำร มเี หตุ มผี ลในตัวเอง 3. ภมู ปิ ํญญำท้องถน่ิ เป็นควำมรูท้ ีเ่ กิดจำกประสบกำรณ์ในชวี ิตของคน ผ่ำนกระบวนกำรศกึ ษำสงั เกตคิด วำ่ วเิ ครำะห์จนเกิดปัญญำและตกผลกึ เป็นองค์ควำมรู้ท่ปี ระกอบกนั ขนึ้ มำจำกควำมร้เู ฉพำะหลำยๆเร่ืองจดวำ่ เป็น พน้ื ฐำนขององคค์ วำมรูส้ มยั ใหม่ทจ่ี ะช่วยในกำรเรียนรู้ กำรแกป้ ัญหำจัดกำรและกำรปรบั ตัวในกำรดำเนนิ ชวี ิตของ เรำ ภมู ิปญั ญำท้องถิ่นเป็นควำมรู้ทม่ี ีอยู่ทวั่ ไปในสงั คมชุมชนและในตวั ผรู้ เู้ องจึงควรมกี ำรสืบค้น รวบรวม ศึกษำ ถ่ำยทอดพฒั นำและนำไปใช้ประโยชนไ์ ด้อยำ่ งกวำ้ งขวำง 4.ภูมปิ ญั ญำไทย หมำยถึง องค์ควำมรคู้ วำมสำมำรถ ทักษะของคนไทยท่เี กิดจำกกำรสง่ เสรมิ ประสบกำรณท์ ี่ผ่ำนกระบวนกำร กำรเลอื กสรร เรยี นร้ปู รงุ แตง่ และถำ่ ยทอดสืบต่อกันมำ เพ่ือใชแ้ ก้ไขปัญหำและพัฒนำวิถีชวี ิตของคนไทยให้สมดลุ กบั สภำพแวดลอ้ มและ เหมำะสมกับยคุ สมยั ลกั ษณะของภมู ปิ ัญญำท้องถิ่น ลกั ษณะสำคัญของภมู ิปญั ญำทอ้ งถ่ิน พอสรุปได้ดงั น้ี 1.เปน็ เรือ่ งรำวของกำรใช้ควำมรู้ ทักษะ ควำมเชื่อและพฤตกิ รรม 2. แสดงถงึ ควำมสัมพันธร์ ะหวำ่ ง คนกับคน คนกบั ธรรมชำติ คนกบั สิง่ เหนือธรรมชำติ 3. เป็นองค์รวมหรอื กิจกรรมทุกอยำ่ งใรวถิ ีชวี ิต 4. เป็นเร่ืองของกำรแก้ไขปญั หำ กำรจัดกำร กำรปรบั ตวั กำรเรยี นร้เู พอ่ื ควำมอยู่รอดของบคุ คลชุมชนและ สังคม 5.เป็นแกนหลักหรอื กระบวนทัศน์ในกำรมองชีวิตเป็นพน้ื ควำมรูใ้ นเร่อื งต่ำงๆ กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัยอำเภอสุวรรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนินโครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชีพชมุ ชน รูปแบบช้นั เรียนวิชำชีพ หลักสูตรกำรทอผ้ำพน้ื เมือง 8 ควำมสำคญั ของโครงงำนอำชพี โครงงำนมวี ตั ถปุ ระสงค์หลำกหลำยประกำร เช่น ตอ้ งกำรใหน้ กั เรียนมคี วำมรู้พืน้ ฐำนท่ีจำเปน็ เก่ยี วกับควำมเป็นอยู่ ในชีวติ ประจำวนั สำมำรถปฏบิ ตั งิ ำนได้ถกู ต้องตำมกระบวนกำร ประหยัด ปลอดภยั และได้ประโยชน์ โดยรจู้ กั วเิ ครำะห์และวำงแผนกำรทำงำน สำมำรถปรับปรงุ และพัฒนำงำนมวี ิสันทัศน์ที่กวำ้ งไกล รักกำรทำงำน ซง่ึ เปน็ รำกฐำนของกำรดำรงชพี สำมำรถพง่ึ พำตนเองไดร้ วมทั้งมีคุณธรรมในกำรทำงำน สำมำรถทำงำนรว่ มกับผอู้ ื่นได้ เป็นตน้ นกั เรยี นจะต้องศึกษำและฝกึ ปฏบิ ตั จิ ริงเพ่ิมเติม โดยอำศยั ควำมรพู้ ื้นฐำนจำกรำยวชิ ำอน่ื ๆ ในหมวด วิชำกำรงำนและอำชพี นักเรียนมีสทิ ธิเสรีภำพอย่ำงเต็มทใี่ นกำรตดั สินใจเลือกอย่ำงฉลำด ที่จะดำเนินงำนตำม ควำมถนดั และควำมสนใจของตน ในส่วนทีเ่ กย่ี วกบั โรงเรียนและครูอำจำรยน์ ัน้ จะไดป้ ระโยชน์อย่ำงยิง่ จำกกำรเปิด โอกำสใหน้ กั เรยี นไดฝ้ ึกปฏิบตั ิจรงิ ตำมจุด หมำยของหลกั สูตรและกำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนกำรสอน ทั้งในห้องเรียน และนอกหอ้ งเรยี น ซ่ึงจะก่อใหเ้ กดิ กำรประสำนสมั พันธ์อย่ำงแนน่ เหนียว ระหว่ำงนกั เรยี นและครูอำจำรย์ประจำ วิชำต่ำง ๆ รวมท้งั กำรใช้เคร่ืองมือและวัสดุอุปกรณ์ต่ำง ๆ ให้เป็นประโยชน์อย่ำงคุ้มคำ่ นอกจำกน้ีในสิง่ ทเ่ี ก่ยี วกบั ทอ้ งถ่ินและชุมชนย่อมจะไดป้ ระโยชนอ์ ย่ำงมำกมำย ในแง่ของกำรใหน้ กั เรียนไดม้ ีโอกำสร่วมพัฒนำอำชีพตำ่ ง ๆ ใน ท้องถ่นิ ซง่ึ เป็นผลพลอยได้ทีต่ ำมมำก็คอื ทำใหน้ กั เรียนเกิดควำมรกั ควำมภำคภมู ใิ จในท้องถนิ่ ของตนเองด้วย ในสว่ นของกำรจดั กำรเรียนกำรสอนและกำรจดั กิจกรรมตำมหลกั สูตรขน้ั พื้นฐำน พทุ ธศกั รำช 2544 ดงั น้ี คือ 1. ดำ้ นผ้เู รียน กอ่ ให้เกดิ คุณคำ่ ต่ำง ๆ ได้แก่ ชว่ ยสรำ้ งควำมหวงั ใหมใ่ นกำรรเิ ร่มิ งำน สรำ้ งเสรมิ ประสบกำรณ์จำกกำรปฏบิ ตั จิ รงิ ได้มโี อกำสทดสอบควำมถนัดของตนเอง ก่อใหเ้ กิดควำมรกั ควำมเข้ำใจและ ควำมสัมพนั ธ์อันดภี ำยในกลมุ่ พรอ้ มทง้ั เกดิ ควำมรทู้ ำงวชิ ำกำรที่กวำ้ งขวำงข้ึนและเกิดควำมภำคภมู ใิ จในควำม สำเรจ็ ของงำน 2. ดำ้ นสถำบันและครูอำจำรย์ทป่ี รึกษำกลมุ่ กอ่ ใหเ้ กดิ คุณคำ่ ทำงกำรประสำนงำน โดยเกิดควำม เข้ำใจที่ตรงกันว่ำกำรเรียนกำรสอนในปจั จุบันข้ึนอยู่กับกำร ปฏิบตั ิจริงในโครงงำนของผู้เรยี นมำกกว่ำท่ีจะเรียนอยู่ ในหอ้ งเรียนเท่ำนน้ั 3. ดำ้ นชมุ ชน / ทอ้ งถน่ิ ก่อให้เกดิ คณุ คำ่ ทำงกำรเผยแพร่และประชำสมั พันธช์ ุมชน อีกทง้ั ชมุ ชนไดม้ ี สว่ นรว่ มในกำรขยำยผลทำงควำมรู้ควำมสำมำรถทีม่ ีอยู่ ให้แก่ผู้เรยี นร่นุ ต่อไป โดยสรำ้ งนิสัยรกั กำรทำงำนเกดิ งำน อำชีพทห่ี ลำกหลำยและมกี ำรพฒั นำอำชีพในชุมชนดว้ ย หลกั กำรสำคญั ของกำรเขยี นโครงงำนอำชพี กำรปฏบิ ัตงิ ำนตำมโครงงำนอำชพี ของนกั เรียน เพอื่ ให้บรรลตุ ำมจดุ หมำยของหลกั สูตร และจุดม่งุ หมำยกำรจดั ทำ โครงงำน จงึ ได้กำหนดหลกั กำรทส่ี ำคัญเกี่ยวกับโครงงำน ไว้ดังน้ี 1. ใหน้ ักเรียนแต่ละกล่มุ มสี ทิ ธิและเสรภี ำพในกำรตดั สนิ ใจเลือกทำโครงงำนอำชีพใด ก็ได้ จำนวน 1 โครงงำน หรอื มำกกว่ำกไ็ ด้ ตำมควำมถนดั ควำมสนใจ และควำมพร้อมของนักเรียนในกรณีที่โครงงำนมีปริมำณงำนมำกก็ สำมำรถเลอื กได้โดย ตัดแบ่งข้ันตอนกำรปฏิบตั ิงำนออกเปน็ 2 สว่ นใหป้ ฏิบัติ 2 ภำคเรยี น หรือจะเลอื กโครงงำน กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศยั อำเภอสุวรรณคหู ำ
สรุปผลกำรดำเนินโครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชพี ชุมชน รูปแบบชน้ั เรียนวิชำชพี หลกั สูตรกำรทอผำ้ พื้นเมอื ง 9 อำชพี ใหม่ โดยไม่ซ้ำกันในแต่ละภำคเรยี นตลอดปีกำรศึกษำก็ได้ 2. นักเรยี นในห้องเรียนเดยี วกนั ควรเลือกโครงงำนอำชพี แตกตำ่ งกนั ไดต้ ำมควำมถนัด ควำมพร้อมและ ควำมสนใจ ตลอดจนคำนึงถงึ ตำมควำมจำเป็นในกำรใชป้ ระโยชน์ชนิ้ งำนหรือรำยได้จำกกำร ปฏิบัตงิ ำน 3. ให้คำนงึ ถึงทรัพยำกรในท้องถ่นิ ทั้งทรัพยำกรท่ีใช้เป็นวัตถุดิบในกำรผลติ ชน้ิ งำนและทรัพยำกรบุคคล ในท้องถ่ิน ตลอดจนภูมปิ ัญญำชำวบำ้ นเพือ่ กำรอนุรักษ์และพัฒนำเทคโนโลยีในท้องถ่ิน 4. นกั เรยี นสำมำรถนำทกั ษะกำรทำงำนพืน้ ฐำนหลำยประเภทรวมไว้ในโครงงำนเดยี วได้ เชน่ โครงงำน ปลูกกระเจยี๊ บ ใช้ทักษะกำรทำงำนด้ำนเกษตรและคหกรรมเกยี่ วกับคุณค่ำทำงโภชนำกำรมำผสมผสำนกัน ได้ 5. ในแตล่ ะโครงงำนอำจกำหนดคำบเวลำแตกต่ำงกนั ได้ตำมควำมยำกง่ำยของลักษณะงำน 6. ครูอำจำรยผ์ ้สู อนหรอื ทีป่ รึกษำ อำจจัดใหม้ สี ื่อกำรสอนในลักษณะใบงำนหรือใบควำมร้หู รือข้อมลู ทำง วชิ ำกำร เพอื่ ชว่ ยใหน้ ักเรยี นสำมำรถปฏบิ ัตงิ ำนได้ดว้ ยตนเองก็ได้ 7. ในกำรประเมนิ โครงงำน ให้ครูอำจำรย์ผู้สอนหรือท่ปี รกึ ษำเป็นผู้ประเมิน โดยคำนึงถงึ ควำมรู้ ควำม เขำ้ ใจ กระบวนกำรทำงำน เจตคติในกำรปฏบิ ัติงำน และกำรนำช้ินงำนไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวนั และตอ้ ง ประเมินผลกำรเรยี นเปน็ รำยภำคเรยี น สำหรับผเู้ รียนทเ่ี ลอื กหลำยโครงงำนใน ๑ ภำคเรียน ใหป้ ระเมนิ ผลโดยให้ คะแนนแตล่ ะโครงงำนก่อน แลว้ นำมำรวมกนั เพ่ือตดั สินให้ระดับคะแนนโดยคำนึงถึงคำบเวลำของแตล่ ะโครงงำน โดยจัดสดั ส่วนน้ำหนกั โครงงำนต่ำงกันตำมคำบเวลำ ผำ้ ทอพนื้ เมือง ประวตั ิที่ผ่ำนมำคนไทยยุคก่อน ประวัติศำตร์ รู้จักทอผ้ำใช้แล้ว โดยไดค้ ้นพบว่ำ แนวดินเผำทีใ่ ช้สำหรับ ปั่นเส้นด้ำย และยังพบรอ่ งรอยของเศษฝำ้ ย และไหมติดอยู่กบั กำไลและขวำนสำริด และขวำนสำรดิ ทีบ่ ำ้ นเชียง คุณภำพฝำ้ ย พบวำ่ ที่เกี่ยวกับกำรป่นั ดำ้ ยคือ กำลงั เกำะหรือยดึ เหนี่ยวต้องมมี ำกพอ เพรำะเสน้ ใยบิดพันกนั เป็น เกลยี วมีควำมละเอยี ด และควำมยำวพอดี ควำมโค้งอ่อนตัวปำนกลำง ยึดตวั ออกไดบ้ ำ้ ง มีข้ผี งึ้ ธรรมชำติ หุม้ ผิวเส้น ใย ผ้ำฝ้ำยมีเนือ้ สัมผัสนมุ่ เปน็ ฉนวนควำมรอ้ นดีเลิศ ดูดควำมชื้นไดม้ ำก ดูดสยี ้อมดี ควำมดีเหล่ำน้รี วมกับฝ้ำยมี รำคำค่อนข้ำงถูกทำให้ฝำ้ ยเป็นทีน่ ิยมใชก้ ันท่วั ไป กำรทอผำ้ เป็นงำนศิลปะพนื้ บำ้ นท่ีเปน็ งำนหัตถกรรมของไทยท่ีอำศยั แรงงำนและฝมี ือประดษิ ฐค์ ดิ ค้นอัน เปน็ ผลสืบเน่อื งมำจำกกำรสัง่ สมประสบกำรณ์ และอดุ มกำรณพ์ ้ืนฐำนในกำรดำรงชีวิต ศิลปะกำรทอผ้ำจึงเปน็ สงิ่ ท่ี มคี ุณคำ่ ทั้งยงั เปน็ เคร่ืองเตือนใจให้ตระหนกั ถงึ สภำพควำมเป็นอยูท่ ี่มเี อกลักษณ์ทำงวฒั นธรรมแบบไทยๆ อนั มี พฒั นำกำรสืบเนื่องมำนำนหลำยร้อยปี ก่อใหเ้ กิดควำมภมู ิใจ ในควำมเปน็ ไทย บทบำทของผ้ำทอต่อชวี ติ ของคนไทย ผำ้ ทอได้เขำ้ มำมีบทบำทในกำรดำรงชวี ติ ของมนุษยม์ ำกข้ึนเนือ่ งจำกผำ้ สำมำรถตอบสนองตอ่ ควำมจำเป็น ขนั้ พื้นฐำนของกำรดำรงชวี ติ เพรำะผำ้ ทอถือเป็นเครอื่ งนุ่งห่มที่เปน็ หน่งึ ในปัจจัยสี่และยงั สำมำรถบง่ บอกถึงกำรแบ่ง ภำระหน้ำท่ีระหวำ่ งชำยและหญิงอีกด้วย เนือ่ งจำกชำวชนบทสว่ นใหญม่ ีอำชีพเกษตรกรรมมำต้งั แต่โบรำณ ในยำม วำ่ งผ้หู ญงิ มกั จะทอผ้ำและผูช้ ำยก็จะจัดหำและเตรยี มเครอื่ งไม้เครื่องมอื ในกำรทำไรน่ ำและครวั เรือน กำรทอผำ้ จงึ แสดงใหเ้ ห็นถึงควำมเป็นหญงิ ได้อยำ่ งชดั เจน นอกจำกน้ผี ำ้ ทอยงั ปรำกฏอยใู่ นทกุ ช่วงอำยุ เชน่ กำรประกอบ พธิ กี รรมตงั้ แตเ่ กดิ จนกระทั่งตำย จะเห็นได้วำ่ ผ้ำไดเ้ ข้ำมำมีส่วนรว่ มในกำรดำรงชีวิตประจำวนั อยำ่ งหลีกเล่ียงไมไ่ ด้ กศน.ตำบลดงมะไฟ ศูนยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศัยอำเภอสุวรรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนินโครงกำรศูนย์ฝึกอำชีพชุมชน รปู แบบช้ันเรียนวชิ ำชพี หลกั สูตรกำรทอผำ้ พื้นเมอื ง 10 และกำรแต่งกำยยังเป็นสิง่ ทีแ่ สดงให้เห็นถงึ ฐำนะทำงสังคม กล่ำวคือชำวบ้ำนทัว่ ไปจะใช้ผ้ำฝ้ำยเพรำะมกี รรมวิธที ี่ ไม่ซบั ซ้อน สว่ นเจำ้ นำยหรอื ชนชน้ั สงู จะแต่งกำยด้วยผำ้ ไหมและมีลวดลำยสวยงำมวิจิตรบรรจง กำรใช้ผ้ำทอในพธิ กี รรม พธิ ีเกิด เป็นพิธสี ำคัญทมี่ ีผ้ำเข้ำมำเกยี่ วข้อง ผ้ทู เ่ี ป็นมำรดำจะต้องทอผ้ำเตรียมไว้สำหรับเปน็ ผำ้ ออ้ ม ผำ้ หม่ เสอื้ ผ้ำ ผำ้ หุ้มฟูกห้มุ ทีน่ อนสำหรบั เดก็ หลังจำกคลอดก็จะนำเด็กมำใสก่ ระดง้ โดยปูเบำะและผำ้ ขำวรองไว้ ซ่งึ ควำมหมำยของผ้ำขำวเปรยี บเสมือนชีวิตของเดก็ ท่ขี ำวบริสุทธิไ์ มม่ ีอะไรมำเปรอะเปือ้ น หำกเปน็ ลกู ผูห้ ญงิ จะใส่ด้ำย เข็มไวใ้ นกระด้งท่ีเด็กนอนเพรำะลูกผหู้ ญงิ จะตอ้ งเรียนรเู้ ร่ืองกำรเย็บปักถกั ร้อยเพื่อเตรียมตัวเปน็ แม่ศรีเรือน อีก หนง่ึ ควำมเช่อื ก็คือผู้เปน็ มำรดำตอ้ งทอผ้ำให้กบั หมอตำแยผู้ทำคลอดให้เพื่อเป็นกำรแสดงควำมขอบคณุ และสำนึก บญุ คณุ พธิ บี วช สงั คมไทยเป็นสงั คมที่นับถือศำสนำพุทธเปน็ ส่วนใหญ่ คนไทยถอื ว่ำกำรบวชเปน็ กำรสร้ำงกุศลเพื่อ ตอบแทนบุญคุณบิดำและมำรดำ จงึ มีควำมเช่ือกนั วำ่ ลูกชำยท่ีบวชเรยี นสำมำรถช่วยให้บดิ ำมำรดำไดเ้ กำะชำย ผำ้ เหลืองขึ้นสวรรค์ ผำ้ ทอได้มสี ว่ นเก่ยี วข้องกับพิธนี ีต้ ั้งแต่จุดเรม่ิ ตน้ ของพิธนี บั ตง้ั แต่ผ้ำทีแ่ ต่งตัวนำค มุ้งนอน ที่ นอน ผำ้ เหลอื งที่ใชใ้ นพิธีกรรม ในบำงพ้ืนทม่ี ผี ้ำคลุมศีรษะนำคดว้ ย พิธีแต่งงำน ผำ้ ได้เข้ำมำเกีย่ วข้องกบั พธิ ใี นเรื่องของผ้ำไหว้ ผำ้ ไหวเ้ ป็นผ้ำทค่ี บู่ ำ่ วสำวจะใชแ้ สดงควำมเคำรพญำติ ผู้ใหญ่ของท้ังสองฝ่ำย จะใชไ้ หว้ในวนั ทำพธิ ีแต่งงำนก็ได้ หรือกรำบไหวห้ ลังเสรจ็ สิ้นงำนแตง่ งำนแล้วก็ได้ ในพิธี แต่งงำนจะมีอีกหนึ่งพธิ ีกค็ ือพิธีกรำบหมอน ฝำ่ ยเจ้ำสำวจะตอ้ งเป็นผูจ้ ดั เตรยี มผำ้ ขำวจำนวน 2 ผนื ไดแ้ ก่ เสอื้ และ ผ้ำซน่ิ ทท่ี อด้วยผ้ำไหมเท่ำนั้น พธิ ีศพ ผำ้ เก่ียวข้องกบั พิธศี พ เพรำะผำ้ ขำวที่ใชห้ อ่ ศพเปรยี บเสมือนธรรมท่ีขำวสะอำดไม่มมี ลทิน กรรมวธิ ี ในกำรนุ่งผำ้ ให้ศพ ช้ันในนุง่ กลบั หลงั หมด ส่วนชนั้ นอกนุ่งอยำ่ งธรรมดำคือกระดมุ อย่ขู ำ้ งหนำ้ ซง่ึ หมำยควำมว่ำ คนเรำนนั้ ธรรมชำตเิ กดิ แลว้ ต้องตำย ตำยแลว้ ต้องเกิดวนเวียนอยู่ในวฏั สงสำรอยำ่ งไมม่ ีที่สน้ิ สดุ ส่วนผำ้ ท่ใี ชค้ ลมุ โลง ศพจะเป็นสง่ิ ที่แสดงถงึ ฐำนะของคนตำย ควำมสมั พนั ธร์ ะหวำ่ งคนไทยและผำ้ ทอนั้นมกี นั มำอย่ำงยำวนำนจนเกิดควำมคุ้นชินต่อคนไทยอย่ำงมำก นอกจำกจะเป็นเคร่ืองนุ่งหม่ แล้ว ผำ้ ทอยังเกย่ี วข้องกบั พิธกี รรม จะเห็นไดว้ ำ่ ผำ้ ทอได้มบี ทบำทสำคญั ในชวี ติ ของคน ไทย อีกท้งั ผำ้ ไหมไทยยังไดร้ บั กำรยกย่องว่ำเปน็ ผ้ำไหมที่เส้นไหมมีควำมงำมเป็นเอกลกั ษณ์ ลวดลำยบ่งบอกถงึ ควำมเปน็ ไทย ทำใหผ้ ้ำไหมไทยได้รับควำมนยิ มโด่งดงั ไปท่ัวโลก ปัจจบุ ันกำรใชผ้ ้ำทอในชีวิตประจำวันของคนไทยมี กำรเปล่ียนแปลงไปเมือ่ ประเทศไทยได้รับอิทธิพลของชำตติ ะวันตก ผ้ำทอจงึ ถูกนำมำออกแบบสรำ้ งสรรคใ์ นงำน ตำ่ ง ๆ อย่ำงต่อเนื่อง เชน่ เสอ้ื ผ้ำ เครอื่ งแต่งกำย เคร่ืองประดบั เฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ตกแต่งบำ้ น ผำ้ ทอ คือศลิ ปวฒั นธรรมไทยอีกหนง่ึ อย่ำงท่ีชำวไทยควรอนุรกั ษ์ไว้ มีกำรถำ่ ยทอดเรื่องรำวและควำมเช่อื ลงบนผนื ผำ้ เมือ่ นำมำสรำ้ งสรรคป์ ระยกุ ตร์ ่วมกบั กำรดำเนินชวี ิตผ้เู ขียนจงึ มีควำมประสงค์อยำกให้คนไทยเล็งเหน็ ประโยชน์ของผำ้ ทอไม่ว่ำจะเปน็ ผำ้ ไหมหรอื ผ้ำฝำ้ ยที่มมี ำอย่ำงยำวนำนและร่วมกันอนุรักษ์ผำ้ ทอไทยให้คงอยู่เปน็ มรดกอนั ลำ้ ค่ำคู่คนไทยสืบไป กศน.ตำบลดงมะไฟ ศูนย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศัยอำเภอสุวรรณคหู ำ
สรุปผลกำรดำเนนิ โครงกำรศนู ย์ฝึกอำชพี ชมุ ชน รปู แบบชนั้ เรียนวิชำชีพ หลกั สูตรกำรทอผ้ำพ้นื เมอื ง 11 บทที่ 3 วธิ กี ำรดำเนนิ กำร ในกำรดำเนินงำนจัดโครงกำร ศูนย์ฝึกอำชพี ชุมชน รูปแบบชนั้ เรียนวิชำชีพ หลกั สูตร กำรทอผ้ำพื้นเมือง กศน. ตำบลดงมะไฟ มีรำยละเอียดดงั ตอ่ ไปน้ี ขั้นตอนกำรวำงแผน (plan) ขน้ั ตอนกำรลงมือทำ (Do) ขนั้ ตอนกำรตรวจสอบ (Check) ขน้ั ตอนกำรปรบั ปรงุ แก้ไข (Act) ขัน้ ตอนกำรวำงแผน (plan) 1. ดำเนนิ กำรประชำคมกลมุ่ ผูส้ นใจพัฒนำอำชพี 2. ได้กลุ่มเป้ำหมำย 3. เตรยี มหลักสตู ร เสนอโครงกำรเพอื่ ขออนมุ ตั ิ 4. แต่งต้งั คณะทำงำนภำยในตำบล คณะกรรมกำรนเิ ทศกจิ กรรม 5. ประสำนวิทยำกร ขั้นตอนกำรลงมือทำ (Do) 1. ดำเนินกำรประสำนงำนผูท้ เ่ี กย่ี วข้อง ครู กศน.ตำบล ครู ศรช. ผนู้ ำชมุ ชน คณะกรรมกำรหมู่บำ้ นและชำวบ้ำนจัดเตรียมสถำนท่ี 2. นำประชำชนทสี่ นใจมำเขำ้ รว่ มกจิ กรรม 3. ประเมนิ ผลโครงกำรโดยให้ผ้เู ขำ้ รว่ มโครงกำรออกแบบประเมนิ ควำมพึงพอใจในกำรเข้ำรว่ ม โครงกำร 4. รวบรวมข้อมูลจำกแบบประเมิน 5. สรุปผลควำมพงึ พอใจของผู้เข้ำร่วมโครงกำร ขั้นตอนกำรตรวจสอบ (Check) 1.เครอ่ื งมือท่ีใช้ในกำรตรวจสอบ แบบประเมินควำมพึงพอใจของผู้เขำ้ รว่ มโครงกำร 2. กำรเก็บรวบรวมขอ้ มูล กศน.ตำบลดงมะไฟ ได้ดำเนินกำรเก็บรวบรวมข้อมลู จำกผู้เข้ำรว่ มโครงกำร - ประชำชนกลุ่มเปำ้ หมำย จำนวน 11 คน กศน.ตำบลดงมะไฟ ศูนย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัยอำเภอสุวรรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนินโครงกำรศนู ย์ฝึกอำชีพชมุ ชน รูปแบบชั้นเรยี นวิชำชีพ หลกั สูตรกำรทอผำ้ พืน้ เมอื ง 12 3.กำรวเิ ครำะห์ข้อมูล กำรประเมนิ ผลกำรดำเนนิ งำนของโครงกำร ศูนย์ฝึกอำชีพชมุ ชน หลกั สูตรพัฒนำ อำชพี กำรทำขนมไทย กศน.ตำบลดงมะไฟ ดำเนนิ กำรวเิ ครำะหข์ ้อมูล ดงั น้ี 3.1 แบบประเมนิ ตอนท่ี 1 ข้อมลู ทัว่ ไป วิเครำะหห์ ำค่ำร้อยละ 3.2 แบบประเมินตอนท่ี 2 ควำมพงึ พอใจตวั บ่งช้ีของโครงกำร 3.2.1 ใหค้ ะแนนตำมนำ้ หนักแบบประเมนิ ฉบับสมบรู ณ์ ตำมเกณฑ์ มำตรฐำนของ สมศ. โดยมีเกณฑ์ให้คะแนน ดงั นี้ ระดบั 5 หมำยถึง ดำเนนิ งำนได้ตำมเกณฑ์ของตวั บง่ ชี้ดีมำก ระดับ 4 หมำยถงึ ดำเนินงำนไดต้ ำมเกณฑข์ องตวั บง่ ช้ดี ี ระดบั 3 หมำยถึง ดำเนนิ งำนได้ตำมเกณฑ์ของตัวบ่งชี้พอใช้ ระดบั 2 หมำยถงึ ดำเนินงำนไดต้ ำมเกณฑข์ องตัวบง่ ชี้ปรับปรงุ ระดบั 1 หมำยถึง ดำเนินงำนได้ตำมเกณฑข์ องตัวบ่งชต้ี ้องปรับปรุง 3.2.2 วเิ ครำะห์ข้อมลู โดยกำรหำค่ำเฉลยี่ ร้อยละควำมพงึ พอใจ 3.3 แบบประเมินตอนที่ 3 ขอ้ คิดเห็นและข้อเสนอแนะอน่ื ๆ วเิ ครำะหด์ ว้ ยเนอื้ หำ (Content analysis) กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัยอำเภอสุวรรณคหู ำ
สรุปผลกำรดำเนนิ โครงกำรศนู ยฝ์ ึกอำชพี ชุมชน รูปแบบชน้ั เรยี นวิชำชีพ หลักสูตรกำรทอผ้ำพืน้ เมือง 13 บทท่ี 4 ผลกำรดำเนนิ งำน กำรจดั กิจกรรมโครงกำรศูนย์ฝกึ อำชพี ชมุ ชนหลกั สูตรพัฒนำอำชพี วชิ ำกำรทอผำ้ พน้ื เมอื ง ณ ศำลำ ประชำคม หมู่ 9 ตำบลดงมะไฟ อำเภอสุวรรณคูหำ จงั หวัดหนองบวั ลำภู สรุปผลกำรดำเนนิ งำนได้ดังน้ี ช่ือโครงกำร วันทด่ี ำเนนิ กำร เป้ำท่ีได้รับจดั สรร ผล คิดเป็นร้อยละ โครงกำร ศูนยฝ์ ึก 16-22 กรกฏำคม 11 11 100 อำชพี ชุมชน 2565 หลกั สูตรพฒั นำ อำชีพ วิชำกำรทอ ผำ้ พน้ื เมือง กำรประเมนิ ควำมพึงพอใจในกำรดำเนนิ งำนตำมโครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชีพชมุ ชน หลกั สูตรพฒั นำอำชีพ วิชำ กำรทอผำ้ พืน้ เมอื ง กศน.ตำบลดงมะไฟ ของผรู้ ับบริกำรท่ีเขำ้ รว่ มโครงกำร โดยเสนอรำยละเอียดตำมลำดบั คือ สญั ลักษณ์ทใ่ี ช้ในกำรวิเครำะหข์ ้อมลู ลำดบั ขั้นตอนในกำรวิเครำะห์ขอ้ มูล ผลกำรวิเครำะหข์ ้อมูล และกำร แปลควำมหมำยข้อมูลดังต่อไปน้ี สัญลกั ษณท์ ่ีใชใ้ นกำรวเิ ครำะหข์ ้อมูล กำรเสนอผลกำรประเมินคร้ังนีไ้ ดก้ ำหนดสญั ลักษณ์ที่ใชใ้ นกำรวเิ ครำะห์ขอ้ มูล ดงั นี้ N แทน ขนำดของกลุ่มผู้ประเมินกำรใช้คมู่ ือ (Sample size) % แทน ค่ำรอ้ ยละ (Percentage) ลำดบั ขนั้ ตอนในกำรวเิ ครำะหข์ อ้ มลู กำรวเิ ครำะห์ขอ้ มูล ผปู้ ระเมินไดเ้ สนอผลกำรวเิ ครำะหข์ ้อมูลเปน็ ตอนๆ เรยี งลำดับดังนี้ ตอนท่ี 1 กำรวเิ ครำะห์ข้อมูลเกย่ี วกบั ข้อมลู ทวั่ ไป ตอนที่ 2 กำรวเิ ครำะหข์ ้อมูลดำ้ นควำมพึงพอใจของผู้รบั บริกำร ตอนท่ี 3 กำรวิเครำะหข์ ้อมูล ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ในกำรสรุปผลกำรดำเนินงำนโครงกำร ศูนยฝ์ ึกอำชีพชมุ ชน หลักสูตรพฒั นำอำชีพ วชิ ำ กำรทอผ้ำ พื้นเมือง ณ ศำลำประชำคม ม.9 บำ้ นวงั หนิ ซำ ตำบลดงมะไฟ อำเภอสุวรรณคหุ ำ จังหวดั หนองบัวลำภู ได้ จดั ทำเครื่องมือเป็นแบบสอบถำม วัดระดับควำมคดิ เห็นและควำมพงึ พอใจในกำรดำเนินกำรพฒั นำซึ่งแบง่ ออกเปน็ 3 ส่วนคือ สว่ นแรกเปน็ คำถำมปลำยเปดิ มำตรำส่วนประมำณคำ่ (Rating scales) สว่ นท่ี 2 มำตรำสว่ นประมำณค่ำของ ลิเคิร์ท likert’s Scales 5 ระดบั สว่ นที่สำมเปน็ คำถำมปลำยเปิด ข้อเสนอแนะ อนื่ ๆ ส่วนทสี่ ำมเป็นคำถำมปลำยเปิดเน้อื หำสำระท่ีต้องกำรพฒั นำในคร้ังต่อไป ซ่งึ ในกำรเก็บรวบรวมนัน้ ได้แจก แบบสอบถำมแกผ่ ู้เข้ำร่วมโครงกำรศูนย์ฝึกอำชพี ชุมชน หลักสตู รพฒั นำอำชพี วิชำ กำรจกั สำนจำกไมไ้ ผ่ จำนวน กศน.ตำบลดงมะไฟ ศูนยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั อำเภอสุวรรณคหู ำ
สรุปผลกำรดำเนนิ โครงกำรศนู ย์ฝึกอำชพี ชุมชน รูปแบบชั้นเรยี นวชิ ำชีพ หลกั สูตรกำรทอผำ้ พน้ื เมือง 14 11 คน ไดแ้ บบสอบถำมคนื จำนวน 11 ฉบบั จำกผู้เข้ำรว่ มโครงกำร คิดเป็นร้อยละ 100 กระทำกำรวเิ ครำะห์ ขอ้ มูลตำมประเภทและลักษณะของข้อมูล โดยหำค่ำเฉลีย่ เปน็ ค่ำรอ้ ยละ ซ่ึงได้วดั ระดับควำมคดิ เห็นและควำมพงึ พอใจทมี่ ตี ่อโครงกำรจะปรำกฏดังน้ี สรปุ ผลกำรวิเครำะห์ข้อมูลควำมพงึ พอใจ โครงกำร ศนู ยฝ์ ึกอำชพี ชมุ ชน หลักสูตรพฒั นำอำชพี วชิ ำ กำรทอผำ้ พนื้ เมือง ตอนที่ 1 ข้อมลู ทวั่ ไป รำยกำรข้อมลู พืน้ ฐำน จำนวน ร้อยละ (ƒ) (%) 1.เพศ 1.1 ชำย o0 1.2 หญิง 11 100 รวม 11 100.00 2.อำยุ 2.1 ต่ำกว่ำ 15 ปี 00 2.2 อำยุ 15 – 39 ปี 00 2.3 อำยุ 40 – 59 ปี 6 54.55 2.4 อำยุ 60 ปีขึ้นไป 5 45.45 รวม 11 100.00 3.ระดบั กำรศึกษำ 5 45.45 3.1 ป.4 2 18.18 3.2 ป.6 1 9.10 3.3 ม.ต้น 3 27.27 3.4 ม.ปลำย 3.5 ปวช. 00 3.6 ปวส. 00 3.7 ปรญิ ญำตรี 00 3.8 อน่ื ๆ 11 100.00 รวม 4.อำชพี 00 4.1 ผู้นำท้องถน่ิ 00 4.2 อบต/เทศบำล 00 4.3 พนกั งำนรัฐวสิ ำหกจิ 00 4.4 ทหำรกองประจำกำร กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั อำเภอสุวรรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนินโครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชพี ชุมชน รปู แบบชนั้ เรียนวิชำชพี หลกั สูตรกำรทอผ้ำพื้นเมือง 15 4.5 เกษตรกร 11 100 4.6 รบั รำชกำร 00 4.7 ค้ำขำย 00 4.8 รับจำ้ ง 00 4.9 อสม. 00 4.10 แรงงำนตำ่ งด้ำว 00 4.11 ว่ำงงำน 00 4.12 อนื่ ๆ 00 รวม 11 100.00 จำกตำรำง ผลกำรวเิ ครำะห์ข้อมลู ควำมพงึ พอใจของผเู้ ขำ้ ร่วมโครงกำรศูนยฝ์ กึ อำชีพชมุ ชน หลกั สูตรพฒั นำอำชพี วชิ ำ กำรทอผำ้ พน้ื เมอื ง ผลกำรวิเครำะหป์ รำกฏวำ่ ผ้เู ขำ้ ร่วมโครงกำร 11 คน เปน็ เพศหญงิ จำนวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ดำ้ นอำยุ อำยุ 40-59 ปี จำนวน 6 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 54.55 อำยุ 60 ปีขนึ้ ไป จำนวน 5 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 45.45 ระดบั กำรศึกษำ ป.4 จำนวน 5 คน คดิ เป็นร้อยละ 45.45 ม.ปลำย จำนวน 3 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 27.27 ป.6 จำนวน 1 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 18.18 ม.ต้น จำนวน 1 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 9.10 ตำมลำดบั ดำ้ นอำชีพ เกษตรกร จำนวน 11 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 100 กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั อำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนนิ โครงกำรศนู ยฝ์ ึกอำชพี ชมุ ชน รปู แบบช้นั เรียนวิชำชพี หลักสูตรกำรทอผำ้ พน้ื เมือง 16 สรุปผลกำรวิเครำะหข์ ้อมูลควำมพงึ พอใจ โครงกำร ศูนยฝ์ ึกอำชีพชุมชน หลักสตู รพัฒนำอำชีพ วิชำ กำรทอผ้ำ พืน้ เมือง ตอนท่ี 2 ควำมพงึ พอใจในกำรใหบ้ รกิ ำร ตำรำงที่ 2.1 จดุ มุ่งหมำย/เนื้อหำหลกั สูตร ระดับควำมพงึ พอใจ/จำนวน หมำย ข้อ รำยกำรประเมนิ ควำมพงึ พอใจ มำก มำก ปำน นอ้ ย นอ้ ย เหตุ ทส่ี ุด กลำง ท่ีสุด ตอนท่ี 1 ควำมพงึ พอใจด้ำนเนื้อหำ 1 เนื้อหำตรงตำมควำมต้องกำร 10 1 2 เน้ือหำเพียงพอต่อควำมต้องกำร 10 1 3 เนื้อหำปัจจบุ นั ทันสมยั 10 1 4 เนื้อหำมีประโยชน์ต่อกำรนำไปใชใ้ นกำรพัฒนำคุณภำพชีวิต 11 ตอนท่ี 2 ควำมพงึ พอใจด้ำนกระบวนกำรจดั กจิ กรรมกำรอบรม 5 กำรเตรยี มควำมพร้อมกอ่ นอบรม 11 6 กำรออกแบบกิจกรรมเหมำะสมกับวตั ถุประสงค์ 10 1 7 กำรจัดกจิ กรรมเหมำะสมกบั เวลำ 11 8 กำรจดั กจิ กรรมเหมำะสมกับกลมุ่ เป้ำหมำย 11 9 วิธีกำรวัดผล/ประเมินผลเหมำะสมกับวตั ถุประสงค์ 10 1 ตอนท่ี 3 ควำมพงึ พอใจตอ่ วทิ ยำกร 10 วทิ ยำกรมีควำมรู้ควำมสำมำรถในเรอ่ื งที่ถ่ำยทอด 11 11 วทิ ยำกรมีเทคนิคกำรถ่ำยทอดใชส้ ่อื เหมำะสม 10 1 12 วทิ ยำกรเปิดโอกำสใหม้ ีสว่ นร่วมและซกั ถำม 11 ตอนท่ี 4 ควำมพงึ พอใจดำ้ นกำรอำนวยควำมสะดวก 13 สถำนที่ วสั ดุ อุปกรณ์และส่งิ อำนวยควำมสะดวก 11 14 กำรสอ่ื สำร กำรสร้ำงบรรยำกำศเพื่อให้เกดิ กำรเรียนรู้ 10 1 15 กำรบริกำร กำรช่วยเหลอื และกำรแก้ปัญหำ 10 1 กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั อำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรุปผลกำรดำเนนิ โครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชีพชมุ ชน รูปแบบช้ันเรยี นวิชำชพี หลกั สูตรกำรทอผำ้ พ้นื เมือง 17 สรปุ ควำมคดิ เห็นและควำมพึงพอใจของผูร้ บั บริกำร โครงกำรศูนย์ฝึกอำชีพชุมชน หลกั สตู รพฒั นำอำชพี วชิ ำ กำรทอผำ้ พื้นเมือง สรุปไดด้ ังนี้ ตอนที่ 1 ควำมพงึ พอใจดำ้ นเนอ้ื หำ ผู้ตอบแบบสอบถำมมีควำมพึงพอใจดำ้ นเนื้อหำ ดังน้ี เนื้อหำมีประโยชน์ตอ่ กำรนำไปใชใ้ นกำรพฒั นำ คุณภำพชวี ติ ตอบดีมำกร้อยละ 100 เนิ้อหำมีควำมเพยี งพอต่อควำมตอ้ งกำร ตอบดีมำกร้อยละ 85.71และ ตอบดี ร้อยละ 14.29 เนื้อหำทนั สมัย ตอบดีมำกร้อยละ 85.71 และตอบดรี ้อยละ 14.29 มเี น้ือหำเพียงพอ ตอ่ ควำมต้องกำร ตอบมำกท่ีสดุ คดิ เป็นรอ้ ยละ 71.43 ตอบมำก คิดเป็นร้อยละ 28.57. ตำมลำดบั ตอนท่ี 2 ควำมพงึ พอใจดำ้ นกำรจดั กจิ กรรมกำรอบรม ผตู้ อบแบบสอบถำมมคี วำมพึงพอใจดำ้ นกำรจัดกจิ กรรมเหมำะสมกบั กลุ่มเป้ำหมำย ตอบดมี ำกร้อยละ 100 วธิ กี ำรวัดผล ประเมนิ ผลเหมำะสมกับวตั ถปุ ระสงค์ ตอบดีมำกรอ้ ยละ 100 กำรจัดกิจกรรมเหมำะสมกบั เวลำ ตอบดมี ำกร้อยละ 100 กำรเตรียมควำมพร้อมกอ่ นกำรอบรม ตอบดีมำกร้อยละ 85.71 และตอบดีร้อยละ 14.29. และกำรออกแบบกิจกรรมเหมำะสมกบั วัตถปุ ระสงค์ ตอบดีมำกร้อยละ 71.43 และตอบดีร้อยละ 28.57 ตำมลำดับ ตอนท่ี 3 ควำมพงึ พอใจต่อวทิ ยำกร ผู้ตอบแบบสอบถำมมคี วำมพึงพอใจด้ำนวิทยำกรเปิดโอกำสให้มสี ว่ นรว่ มและซักถำม ตอบดีมำกรอ้ ยละ 100 วทิ ยำกรมีควำมรู้ควำมสำมำรถในเร่ืองท่ีถ่ำยทอด ตอบดมี ำกร้อยละ 85.71 ตอบมำก รอ้ ยละ 14.29 วิทยำกรมเี ทคนิคกำรถ่ำยทอดใช้สอ่ื ทีเ่ หมำะสม ตอบดมี ำกรอ้ ยละ 85.71 และตอบดีร้อยละ 14.29 ตอนท่ี 4 ควำมพงึ พอใจดำ้ นกำรอำนวยควำมสะดวก ผู้ตอบแบบสอบถำมมคี วำมพึงพอใจด้ำนสถำนท่ี วสั ดุ อุปกรณ์และส่งิ อำนวยควำมสะดวก ตอบดีมำก ร้อยละ 100 .ด้ำนกำรสือ่ สำร กำรสรำ้ งบรรยำกำศเพ่ือให้เกดิ กำรเรยี นรู้ ตอบมำกทสี่ ดุ ร้อยละ 85.71 ตอบดี ร้อยละ 14.29 กำรบรกิ ำร กำรชว่ ยเหลอื และกำรแก้ปัญหำ ตอบมำกท่สี ดุ ร้อยละ 71.43 ตอบดีรอ้ ยละ 28.57 ตำมลำดบั กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศัยอำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนินโครงกำรศนู ยฝ์ ึกอำชพี ชุมชน รูปแบบชั้นเรยี นวิชำชพี หลักสูตรกำรทอผ้ำพื้นเมอื ง 18 บทท่ี 5 สรปุ ผลและขอ้ เสนอแนะ กำรดำเนินงำนโครงกำร ศูนย์ฝึกอำชพี ชมุ ชน หลกั สตู รพฒั นำอำชพี รปู แบบชน้ั เรียนวชิ ำชีพ วิชำ กำร ทอผ้ำพนื้ เมือง สรุปผลกำรดำเนนิ งำนไดด้ ังนี้ วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงกำร 1.เพื่อให้ประชำชนมีควำมรู้และทกั ษะในกำรประกอบอำชีพ สำมำรถสร้ำงรำยไดท้ ี่มนั่ คง ม่งั คง่ั 2.เพอ่ื ใชใ้ นกำรตดั สินใจประกอบอำชีพใหส้ อดคล้องกบั ศักยภำพของตนเอง ชมุ ชน สังคม และสงิ่ แวดล้อม อย่ำงมีคุณธรรมจริยธรรม 3.เพื่อให้ประชำชนมีโครงกำรประกอบอำชีพเพ่ือใช้เปน็ แนวทำงในกำรพัฒนำอำชีพของตนเอง ขอบเขตของโครงกำร 1. ด้ำนเนอื้ หำ โครงกำรนม้ี ุ่งใหผ้ ู้เรียนกลมุ่ เปำ้ หมำยทเ่ี ขำ้ รับกำรอบรมสำมำรถนำควำมรู้ ทักษะ และประสบกำรณก์ ำรเรียนรูต้ ่ำงๆ ไปใช้ในกำรประกอบอำชีพทเี่ ป็นกำรเข้ำสู่อำชพี สร้ำงงำน สร้ำงรำยได้ หรือพัฒนำอำชีพ หรือต่อยอดอำชีพเดมิ 2. ด้ำนระยะเวลำ ระยะเวลำในกำรดำเนนิ งำน วนั ท่ี 16 สิงหำคม 2565 ถงึ 22 สงิ หำคม 2565 ณ ศำลำประชำคม หมู่ที่ 9 ตำบลดงมะไฟ อำเภอสวุ รรณคูหำ จังหวัด หนองบัวลำภู 3. ดำ้ นประชำกรและกลมุ่ ตวั อย่ำง ประชำชนตำบลดงมะไฟ จำนวน 11 คน ประโยชนท์ ่คี ำดวำ่ จะไดร้ บั - ประชำชนตำบลดงมะไฟกลุ่มเป้ำหมำยมีอำชพี ใหมม่ ีกำรพฒั นำต่อยอดอำชพี เดิม เพ่ิมทกั ษะกำรเปน็ ผู้ประกอบกำร มีรำยได้ มีงำนทำ มีควำมม่ันคง ยั่งยนื - เพ่ือให้ผู้เข้ำรับกำรอบรมสำมำรถนำควำมรู้ ทักษะ และประสบกำรณ์กำรเรียนรู้ต่ำงๆ ไปใช้ในกำร ประกอบอำชีพทีเ่ ป็นกำรเขำ้ สอู่ ำชพี สร้ำงงำน สร้ำงรำยได้ หรอื พัฒนำอำชีพ หรือต่อยอดอำชีพเดมิ ตวั ชว้ี ดั ตัวชีว้ ัดผลผลิต รอ้ ยละ 80 ของประชำชน ตำบลดงมะไฟ ท่เี ข้ำรว่ มโครงกำรมอี ำชีพ มีงำนทำ มรี ำยได้ที่มั่นคงยิ่งข้ึน ตัวชี้วดั ผลลัพธ์ ประชำชนตำบลดงมะไฟ ที่เข้ำร่วมโครงกำรมคี วำมรู้ ทกั ษะ และประสบกำรณ์กำรเรียนรตู้ ่ำงๆ ไปใช้ใน กำรประกอบอำชีพท่ีเป็นกำรเขำ้ ส่อู ำชพี สรำ้ งงำน สร้ำงรำยได้ หรือพฒั นำอำชีพ หรือต่อยอดอำชีพเดมิ กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั อำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนนิ โครงกำรศนู ย์ฝึกอำชพี ชมุ ชน รปู แบบชนั้ เรียนวชิ ำชีพ หลกั สูตรกำรทอผ้ำพนื้ เมือง 19 ผลกำรดำเนนิ โครงกำร ประชำชนตำบลดงมะไฟ ทเ่ี ข้ำร่วมโครงกำรศนู ยฝ์ กึ อำชพี ชมุ ชน หลักสตู รพฒั นำอำชพี กำรทอผำ้ พ้ืนเมือง มีควำมพอใจในกำรจดั กิจกรรมในระดับดีขึ้นไป ร้อยละ 100 และประชำชนท่เี ขำ้ ร่วมกจิ กรรมสำมำรถ นำควำมรู้ท่ไี ด้ไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ปัญหำ-อุปสรรค - แนวทำงแก้ไขปัญหำ -- ข้อเสนอแนะ เม่ือผู้เรียนได้เรยี นจบหลักสตู รไปแล้ว อยำกใหน้ ำควำมรทู้ ่ีไดไ้ ปใช้ในกำรพัฒนำอำชีพของตนเอง กศน.ตำบลดงมะไฟ ศูนย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศัยอำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนนิ โครงกำรศนู ยฝ์ ึกอำชพี ชมุ ชน รูปแบบช้นั เรยี นวิชำชพี หลักสูตรกำรทอผำ้ พน้ื เมือง 20 ภำคผนวก กศน.ตำบลดงมะไฟ ศูนย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศยั อำเภอสุวรรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนนิ โครงกำรศนู ย์ฝึกอำชีพชมุ ชน รปู แบบช้ันเรยี นวชิ ำชพี หลักสูตรกำรทอผ้ำพน้ื เมือง 21 รปู ภำพประกอบกจิ กรรม โครงกำรศนู ยฝ์ กึ อำชพี ชมุ ชน รปู แบบชน้ั เรยี นวชิ ำชพี หลกั สตู ร กำรทอผำ้ พน้ื เมอื ง จำนวน 31 ชัว่ โมง ระหวำ่ งวนั ที่ 16 – 22 สงิ หำคม 2565 ณ ศำลำประชำคม หมู 9 ตำบลดงมะไฟ กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศยั อำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนนิ โครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชีพชุมชน รูปแบบชน้ั เรยี นวชิ ำชีพ หลักสูตรกำรทอผ้ำพื้นเมือง 22 กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศัยอำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนนิ โครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชีพชุมชน รูปแบบชน้ั เรยี นวชิ ำชีพ หลักสูตรกำรทอผ้ำพื้นเมือง 23 กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศัยอำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนนิ โครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชีพชุมชน รูปแบบชน้ั เรยี นวชิ ำชีพ หลักสูตรกำรทอผ้ำพื้นเมือง 24 กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศัยอำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนนิ โครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชีพชุมชน รูปแบบชน้ั เรยี นวชิ ำชีพ หลักสูตรกำรทอผ้ำพื้นเมือง 25 กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศัยอำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนนิ โครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชีพชุมชน รูปแบบชน้ั เรยี นวชิ ำชีพ หลักสูตรกำรทอผ้ำพื้นเมือง 26 กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศัยอำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนนิ โครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชีพชุมชน รูปแบบชน้ั เรยี นวชิ ำชีพ หลักสูตรกำรทอผ้ำพื้นเมือง 27 กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศัยอำเภอสวุ รรณคหู ำ
สรุปผลกำรดำเนินโครงกำรศนู ย์ฝึกอำชีพชมุ ชน รูปแบบชน้ั เรียนวิชำชีพ หลักสูตรกำรทอผ้ำพ้ืนเมือง 28 ทป่ี รกึ ษำ คณะผจู้ ดั ทำคณ นำยวนิ ัย แสงใส ะทำงำน นำงสำวพชิ ชำพมิ พ์ เพ็ชรเวยี ง ผอู้ ำนวยกำร กศน.อำเภอเมืองหนองบวั ลำภู นำงสำวอำรยำ วชิ ำสวัสด์ิ รกั ษำกำร ผอู้ ำนวยกำร กศน.อำเภอสวุ รรณคหู ำ นำยวชรพล เพยี เทพ ครผู ู้ช่วย นำยอภิชำติ สทุ ธิโสม ครผู ูช้ ว่ ย นำงสุวรรณำ สทุ ธิโสม ครอู ำสำสมัครกำรศึกษำนอกโรงเรยี น ครูอำสำสมัครกำรศึกษำนอกโรงเรยี น ครูอำสำสมัครกำรศึกษำนอกโรงเรยี น คณะทำงำน ครู กศน.ตำบล ครู กศน.ตำบล นำงศุภัชญำ พรชยั ครูศูนย์กำรเรียนชุมชน นำยทรงศักดิ์ พรชยั นำงสำวปรียำรตั น์ ทนุ่ ใจ ผรู้ วบรวม/เรยี บเรยี ง/จดั รูปเลม่ ครู กศน.ตำบล ครู กศน.ตำบล นำงศภุ ัชญำ พรชยั ออกแบบปก นำงศภุ ัชญำ พรชัย เจำ้ ของเอกสำร กศน.ตำบลดงมะไฟ กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั อำเภอสุวรรณคหู ำ
สรปุ ผลกำรดำเนนิ โครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชีพชุมชน รูปแบบชน้ั เรยี นวชิ ำชีพ หลักสูตรกำรทอผ้ำพื้นเมือง 29 กศน.ตำบลดงมะไฟ ศนู ย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศัยอำเภอสวุ รรณคหู ำ
Search
Read the Text Version
- 1 - 32
Pages: