สรุปผลการดาเนินโครงการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน หน้าบ้านสวย หลงั บ้านสวน ในเรือนงาม หน้า 1 กศน.ตาบลดงมะไฟ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า
สรุปผลการดาเนินโครงการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน หน้าบ้านสวย หลงั บ้านสวน ในเรือนงาม หน้า 2 บทท่ี 1 บทนำ ควำมเป็นมำและควำมสำคัญ กำรศกึ ษำเพ่ือพฒั นำสังคมและชมุ ชนเป็นกำรจัดกำรศกึ ษำเพือ่ พัฒนำทกั ษะควำมสำมำรถและ ศกั ยภำพของ คนในชมุ ชน รวมทง้ั กลไกทุกภำคส่วนในชุมชนใหร้ ่วมกันรบั ผดิ ชอบและเห็นถงึ ควำมสำคญั ใน กำร ฟ้นื ฟูพัฒนำสังคม และชมุ ชนของตนเอง โดยหนว่ ยงำนสถำนศกึ ษำกำรศึกษำนอกระบบโรงเรยี นตอ้ งให้ ควำมสำคัญตอ่ กำรใช้ กระบวนกำรทำงกำรศกึ ษำสง่ เสริมใหป้ ระชำชน ชมุ ชน เกดิ กำรเรยี นรแู้ ละบูรณำกำร ควำมรู้ ประสบกำรณ์ เขำ้ มำใช้ ให้เกิดประโยชนต์ ่อกำรพัฒนำสังคมและชุมชนโดยรวม และบรบิ ทของชุมชน แต่ละพนื้ ทโ่ี ดยเน้นกำรสร้ำงจิตสำนึก ควำมเปน็ ประชำธปิ ไตย ควำมเปน็ พลเมอื งดี กำรบำเพ็ญประโยชน์ กำร เสริมสรำ้ งค่ำนยิ มควำมรักชำติ ควำมภมู ใิ จ ในควำมเป็นไทย ใฝ่หำควำมรู้ หมั่นศกึ ษำเลำ่ เรยี นทั้งทำงตรงและ ทำงอ้อม และกำรมีจิตอำสำสมัคร ใช้ควำมรู้ ควำมสำมำรถของตน ควำมรกั ควำมสำมัคคี กำรให้ กำรแบ่งปนั กำรมสี ว่ นร่วมในกำรพฒั นำชุมชน สังคม และ เฝำ้ ระวัง และหวงแหนสมบตั ขิ องชำติ โดยเห็นแกส่ ่วนรวมเป็น สำคัญ วตั ถุประสงค์ 1. เพ่อื เป็นกำรเสริมสร้ำงกระบวนกำรเรียนรู้ และพฒั นำสงั คมและชมุ ชนให้มคี วำมเข้มแข็งสำมำรถ พึ่งพำตนเองได้ 2. เพื่อเปน็ กำรค้นหำปัญหำ และกำหนดแนวทำงในกำรแกป้ ญั หำร่วมกันในชุมชนตำมวถิ ีควำมพอเพยี ง 3. เพอื่ สร้ำงจติ สำนกึ ควำมเป็นประชำธิปไตย ควำมเปน็ พลเมอื งดเี ศรษฐกิจชุมชน และกำรอนุรักษ์ พัฒนำทรพั ยำกรธรรมชำติและส่ิงแวดลอ้ ม เป้ำหมำย เชิงปริมำณ ประชำชนทั่วไปในพืน้ ท่ีตำบลดงมะไฟ จำนวน 36 คน ประกอบดว้ ย เชิงคุณภำพ ประชำชนรอ้ ยละ 80 ที่เข้ำรบั กำรอบรมมีจติ สำนกึ ของประชำชนในกำรสร้ำงควำมร้คู วำมเขำ้ ใจ ตำม หลกั สขุ ภำวะในบ้ำนของตนเองใหช้ มุ ชนมีส่วนรว่ มในกำรพฒั นำ ปรับปรงุ สภำพแวดล้อมในหมู่บ้ำนและบำ้ น ของตนเอง ให้เกดิ ประโยชนท์ ัง้ หนำ้ บำ้ น ในบ้ำน และหลงั บ้ำน เพ่ือให้เกดิ กำรควำมเขำ้ ใจและพัฒนำคุณคำ่ ของสถำนทส่ี ำคญั บุคคลสำคญั ของชมุ ชน สกู่ ำรสร้ำงควำม ภำคภูมใิ จในชมุ ชน สร้ำงจิตสำนกึ ควำมเปน็ พลเมอื งดีในระบอบประชำธปิ ไตย กศน.ตาบลดงมะไฟ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า
สรุปผลการดาเนินโครงการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน หน้าบ้านสวย หลงั บ้านสวน ในเรือนงาม หน้า 3 บทท่ี 2 เอกสำรทเี่ กยี่ วขอ้ ง กำรพฒั นำชมุ ชน ควำมหมำย มีผู้ใหค้ วำมหมำยของคำว่ำ “กำรพฒั นำชุมชน”ไวอ้ ยำ่ งหลำกหลำย พอสรปุ ได้บำงส่วนคอื T.R Batten : ขบวนกำรทีค่ นในชมุ ชนเลก็ ๆ ไดร้ ว่ มกนั ปรกึ ษำหำรอื ถงึ ควำมต้องกำรร่วมกนั วำงแผนและ ลงมอื ปฏิบัติรว่ มกันจนเปน็ ทพี่ อใจและสนองควำมต้องกำรของคนในชุมชน Dunham : กำรรว่ มดำเนินกำรปรับปรุงสภำพควำมเปน็ อย่ขู องชมุ ชนให้ชมุ ชนมีควำมเป็นปึกแผ่น และ ดำเนนิ กำรไปในแนวทำงท่ตี นต้องกำร กำรทำงำนในชั้นแรกต้องอำศยั ควำมร่วมแรงรว่ มใจของ ประชำชนในชุมชนนั้น ๆ โดยช่วยตัวเองและร่วมมือกันดำเนินงำน แต่มักจะได้รบั ควำมช่วยเหลอื ด้ำนวชิ ำกำร จำกหน่วยรำชกำร หรือองคก์ รเอกชนอนื่ ๆ องคก์ ำรสหประชำชำติ : เปน็ ขบวนกำรวมกำลงั ของประชำชนกับเจำ้ หน้ำที่ของรฐั บำล เพอื่ ปรบั ปรงุ สภำพ ทำงเศรษฐกจิ สงั คม วัฒนธรรมของชุมชนนัน้ ใหเ้ จริญยง่ิ ๆ ขน้ึ และผสมผสำนชมุ ชนน้ันเขำ้ เป็นชวี ติ ของชำติ และเพือ่ ให้ประชำชนสำมำรถอทุ ศิ ตนเอง เพอื่ ควำมกำ้ วหน้ำของประเทศชำตไิ ด้อย่ำงเตม็ ท่ี อยำ่ งไรก็ตำมอำจกล่ำวสรปุ ไดว้ ำ่ กำรพฒั นำชุมชนกค็ ือกำรพัฒนำคณุ ภำพชีวติ ซง่ึ หมำยถงึ ชีวติ ของบุคคล ท่สี ำมำรถดำรงชีวิตอย่รู ่วมกันในสังคมไดอ้ ยำ่ งเหมำะสม ไมเ่ ป็นภำระและไมก่ อ่ ให้เกิดปัญหำให้แก่สังคม เป็น ชีวติ ท่มี คี วำมสมบรู ณท์ ้ังทำงร่ำงกำย จิตใจ และสำมำรถดำเนินชีวิตที่ชอบธรรม สอดคล้องกบั สภำพแวดล้อม ค่ำนิยมของสังคม สำมำรถแกไ้ ขปัญหำ ตลอดจนกำรแสวงหำส่ิงที่ตนปรำรถนำใหไ้ ด้มำอย่ำงถกู ต้อง ภำยใต้ เครือ่ งมอื และทรพั ยำกรทีม่ ีอยู่ โดยมจี ดุ เน้นของคุณภำพชวี ิตเป็น 3 ประเด็น 1. ทำงด้ำนร่ำงกำย : บคุ คลตอ้ งมสี ุขภำพรำ่ งกำยที่สมบรู ณ์แขง็ แรง ปรำศจำกโรคภยั ไข้เจ็บ เปน็ ผลจำกกำร ไดร้ บั กำรตอบสนองทำงดำ้ นปัจจยั ควำมจำเป็นข้นั พื้นฐำนท่พี อเหมำะ 2. ทำงดำ้ นจติ ใจ : คือจะต้องมสี ภำพจติ ใจท่สี มบูรณ์รำ่ เรงิ แจ่มใส ไม่วติ กกังวล รู้สึกพอใจในชีวติ ของตน ครอบครวั และสงั คมในสภำพแวดลอ้ มที่ดี มคี วำมปลอดภยั ในชวี ติ และทรัพยส์ นิ 3. ดำ้ นสงั คม : บคุ คลทสี่ ำมำรถดำรงชีวติ ภำยใตบ้ รรทัดฐำน และค่ำนยิ มทำงสงั คมในฐำนะเปน็ สมำชิกของ สังคมได้อย่ำงปกตสิ ุข ณรงค์ เทียนสง่ ได้ระบุว่ำคุณภำพชวี ติ ของมนุษย์ ประกอบด้วย 1. บคุ คลได้สิ่งจำเป็นแกก่ ำรมีชีวติ ได้แกอ่ ำหำร ทอ่ี ยอู่ ำศัย เสือ้ ผ้ำ สขุ ภำพแขง็ แรง และมีควำมมัน่ คงในชีวิต 2. มคี ่ำนิยมท่ีเหมำะสมในกำรดำเนนิ ชีวิตทส่ี อดคล้องกับสังคม วัฒนธรรม กำรเมอื ง และสภำพแวดลอ้ มทำง เศรษฐกจิ ซ่งึ จะเปน็ รำกฐำนกำรตัดสนิ ใจทจ่ี ะนำไปสู่จุดหมำยปลำยทำงของกำรมชี ีวิตที่ดี คณะกรรมกำรประเมนิ ผลโครงกำรพฒั นำชนบทยำกจน ไดก้ ำหนดเกณฑพ์ ิจำรณำคุณภำพชวี ติ โดยดูจำก ควำมจำเป็นพ้ืนฐำน (จปฐ) ซึ่งเป็นเกณฑ์ในกำรประเมินคณุ ภำพชวี ิตขนั้ พน้ื ฐำนของคนไทย ไวด้ งั นี้ 1. ได้กนิ อำหำรทถี่ ูกสขุ ลกั ษณะในปรมิ ำณทีพ่ อเพยี ง กศน.ตาบลดงมะไฟ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า
สรุปผลการดาเนินโครงการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน หน้าบ้านสวย หลงั บ้านสวน ในเรือนงาม หน้า 4 2. มที ี่อยู่อำศัยและสภำพแวดลอ้ มกำรทำงำนที่เหมำะสม 3. มีงำนทำอยใู่ นสภำพแวดลอ้ มกำรทำงำนที่เหมำะสม 4. ได้บรกิ ำรขน้ั พืน้ ฐำนทจี่ ำเป็น 5. มคี วำมปลอดภยั ในชวี ิตและทรัพยส์ นิ 6. มกี ำรผลติ ท่พี อเพยี ง 7. มสี ว่ นร่วมในกำรปกครองทอ้ งถนิ่ 8. สำมำรถควบคุมชว่ งเวลำของกำรมบี ุตร และจำนวนบุตร 9. ประพฤติตำมธรรมเนยี ม ประเพณี หลักธรรมศำสนำ และรกั ษำสง่ เสรมิ กจิ กรรมทำงศิลปวฒั นธรรม เป้ำหมำยในกำรพฒั นำชมุ ชน กำรพัฒนำชุมชน มีเป้ำหมำยสำคัญทจ่ี ะตอ้ งพฒั นำ ดังน้ี 1. กำรพัฒนำคน คอื กำรทำให้คนในชุมชนนัน้ มีคณุ ภำพดขี ึน้ ทงั้ กำยใจและสตปิ ญั ญำ ซึ่งในแต่ละ แผนพัฒนำกำรเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชำติตำ่ งกม็ ีจุดมุ่งเนน้ ท่จี ะพฒั นำคนต่ำง ๆ กัน ไป แต่ท่ีปรำกฏชดั เจน เปน็ รูปธรรมคือในแผนพัฒนำกำรเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติฉบับท่ี 8 ได้ระบเุ ป้ำหมำยของกำรพัฒนำ คุณภำพคนไว้สำมลกั ษณะดงั น้ี เกง่ : มคี วำมสำมำรถและรู้จกั ควำมสำมำรถของตนเอง มแี รงจูงใจมุ่งมน่ั สจู่ ดุ หมำย สำมำรถตดั สนิ ใจได้ แกป้ ญั หำเป็น แสดงออกได้อย่ำงเหมำะสม มคี วำมยดื หยุน่ และมนษุ ย์สัมพนั ธด์ ีกบั คนอนื่ (IQ) ดี : รูจ้ กั ควบคุมอำรมณ์ตนเองได้ แสดงออกได้เหมำะสมกับบคุ คล โอกำสและสถำนท่ี รู้จักเห็นอกเห็นใจ คนอื่น มีควำมรับผดิ ชอบ รจู้ ักกำรให้และกำรรบั รู้จกั ยอมรบั ผิด ให้อภัย และเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม (EQ) สขุ : ภมู ใิ จในตัวเอง เห็นคุณค่ำและมีควำมเชือ่ มน่ั ตนเอง พอใจชวี ิต มองโลกในแงด่ ี มอี ำรมณ์ ขนั มคี วำม สงบทำงใจ ร้จู ักกำรผอ่ นคลำย กิจกรรมเสริมควำมสุข (กำรผสำนประโยชน์ระหว่ำง IQ กบั EQ) 2. กำรพฒั นำสิ่งแวดล้อม ซ่ึงจะตอ้ งคำนงึ ถึงส่ิงแวดล้อมท่ีเปน็ วัตถไุ ดแ้ กอ่ ำคำรสถำนท่ี สิง่ ปลกู สรำ้ งตำ่ ง ๆ และสภำพแวดลอ้ มตำมธรรมชำติ เป้ำหมำยสำคญั คอื จะตอ้ งพฒั นำใหส้ ภำพแวดลอ้ มไมถ่ กู ทำลำย มีวสิ ัยท่ีจะ รับภำระ (Carrying Capacety) ใหป้ ระโยชนแ์ กช่ มุ ชน ในปจั จุบนั สภำพส่งิ แวดล้อมธรรมชำติได้ถูกทำลำยลง ไปมำกทง้ั ในเชงิ คณุ ภำพ (อำกำศเป็นพษิ น้ำเสีย ขยะ ฯลฯ) และในเชงิ ปรมิ ำณ (ควำมหลำกหลำยทำงชวี ภำพ แรธ่ ำตทุ รพั ยำกรธรรมชำติบำงชนดิ ภำวะขำดแคลนนำ้ ฯลฯ) ซง่ึ สภำพกำรณเ์ หลำ่ นส้ี ่งผลกระทบโดยตรงตอ่ กำรดำรงชวี ิตของมนษุ ย์ หลักกำรพฒั นำชมุ ชน กำรดำเนนิ งำนพัฒนำชมุ ชนน้นั มีหลกั กำรสำคญั ทีเ่ ปน็ รำกฐำนในกำรดำเนินงำนอยู่ 3 ประกำรด้วยกนั คอื 1. ควำมคดิ ริเร่มิ มำจำกประชำชน กิจกรรมทุกกิจกรรมและทกุ ข้นั ตอนจะตอ้ งเกดิ จำกกำรคดิ ตัดสนิ ใจ วำงแผน และดำเนนิ กำรโดยประชำชน นกั พฒั นำต้องไม่เป็นผู้กำหนดกิจกรรม แผนงำน หรือโครงกำรไว้ กศน.ตาบลดงมะไฟ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า
สรุปผลการดาเนินโครงการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน หน้าบ้านสวย หลงั บ้านสวน ในเรือนงาม หน้า 5 ลว่ งหนำ้ แตน่ ักพฒั นำมหี น้ำทีก่ ระตุ้นให้ชำวบ้ำน กล้ำคดิ สำมำรถคน้ หำปญั หำและควำมต้องกำร และ ตัดสนิ ใจรเิ รมิ่ โครงกำรต่ำง ๆ ไดเ้ อง ซึ่งกำรทีน่ ักพฒั นำจะทำได้จำเปน็ ต้องเขำ้ ไปหำประชำชน กระตนุ้ ย่ัวยุโดย ใช้มำตรกำรต่ำง ๆ (กำรฝึกอบรม, ประชมุ กลุ่มอภิปรำย กลุ่มสัมพันธ์ กำรแสดงบทบำท ฯลฯ) ใหช้ ำวบำ้ นกล้ำ คิดกล้ำแสดงออก โดยนกั พัฒนำอำจให้ขอ้ มลู หรอื กำรช้แี นะที่จำเปน็ เพ่ือประกอบกำรตัดสินใจของชำวบำ้ น สญั ญำ สัญญำววิ ตั น์ ได้ระบวุ ่ำมมี ำตรกำรตำ่ ง ๆ ทอี่ ำจนำไปใช้ไดใ้ นกำรกระตุน้ ใหป้ ระชำชนเกิดควำมคดิ และตดั สินใจ ได้ ดงั ต่อไปน้ี 1. กำรใหก้ ำรศกึ ษำ ทำไดท้ งั้ ในระบบ (กำรจดั กำรศกึ ษำอย่ำงเป็นทำงกำร) และนอกระบบ ซึ่งเกิด จำกกำรเรยี นร้จู ำกประสบกรณ์ 2. กำรอภปิ รำยกล่มุ โดยมกี ำรรวมกลมุ่ กันระหวำ่ งคนทส่ี นใจ หรอื คนทม่ี ผี ลประโยชนร์ ่วมกัน โดยนกั พัฒนำ ต้องกระตนุ้ ให้สมำชกิ ในกลุ่มมกี ำรอภิปรำยแสดงควำมคดิ เหน็ แลกเปลยี่ นแนวคิด และประสบกำรณซ์ ่งึ กันและ กนั โดยตอ้ งสรำ้ งบรรยำกำศในกำรประชมุ ให้มคี วำมเป็นมติ ร ใหเ้ กยี รตแิ ละเคำรพควำมเหน็ ซ่ึงกันและกัน กำร ลงมตจิ ะตอ้ งเป็นไปโดยไมม่ อี ิทธพิ ลครอบงำ และควรใหส้ มำชิกส่วนใหญพ่ อใจ 3. กำรสำธติ เป็นวธิ ีทีจ่ ะแสดงให้เหน็ ถึงข้นั ตอน และผลของกำรปฏบิ ัติ โดยอำจเป็นวิธกี ำรใหม่ ๆ ทช่ี ำวบำ้ น ยงั ไมร่ จู้ กั หรอื รจู้ ักแล้วแตย่ ังทำไม่ได้ หลักสำคญั ในกำรสำธิตใหเ้ กดิ ผล ก็คือจะตอ้ งมที รัพยำกรหรอื ผสู้ ำธิตทีม่ ี ควำมรู้ ควำมชำนำญในเรื่องน้นั ๆ และเร่อื งที่สำธิตตอ้ งตรงกบั ควำมต้องกำร เกิดประโยชน์ และประชำชน สำมำรถนำไปปฏิบัตไิ ด้ 4. กำรประชมุ เปน็ กำรเรยี กประชุมใหช้ ำวบ้ำนมำรบั ทรำบข่ำวข้อมูล ควำมรูห้ รือเพื่อปรกึ ษำหำรอื กันใน กำรจัดกิจกรรมกำรพัฒนำ 5. กำรจดั นทิ รรศกำร เปน็ กำรนำสิง่ ของ กระบวนกำร และอุปกรณ์ตำ่ ง ๆ มำแสดงให้ชม เพื่อใหผ้ ชู้ มไดเ้ หน็ และเกดิ ควำมคดิ ท่จี ะนำไปใช้ประโยชน์ ทงั้ น้กี ำรจัดนทิ รรศกำรทดี่ ีนน้ั ผ้จู ัดจะตอ้ งกำหนดวัตถุประสงค์ให้ ชัดเจน ในปจั จุบนั กำรจัดนทิ รรศกำรใหญ่ ๆ ระดบั ชำติ จะใชบ้ ริษัทเอกชนทีเ่ ปน็ มอื อำชีพเปน็ ผ้จู ดั ซึ่งผลทีไ่ ด้ จะเกิดควำมสวยงำม น่ำดู เช่น นิทรรศกำรสนิ ค้ำ OTOP 6. ทศั นศึกษำ เปน็ วิธกี ำรที่ใช้มำในปัจจบุ ัน มกี ำรนำประชำชนกล่มุ หนง่ึ ไปดงู ำนยังต่ำงพนื้ ที่ ท้งั ในประเทศ และต่ำงประเทศ เพ่อื ให้เกิดควำมรู้ และควำมคดิ ได้เห็นแบบอยำ่ งที่มคี นทำและประสบควำมสำเร็จ ซึง่ จะเปน็ แรงกระตุน้ ให้นำไปใชใ้ นกำรพัฒนำชมุ ชนของตนเอง ปัจจบุ ันวธิ นี ี้เป็นที่แพร่หลำย และนยิ มของชำวบ้ำนมำก ชำวบ้ำนกลมุ่ ต่ำง ๆ มีกำรเดนิ ทำงไปดูงำนแลกเปลยี่ นควำมรู้ และประสบกำรณก์ นั มกี ำรสรำ้ งเครือข่ำยกำร ทำงำนรว่ มกัน เช่น เครือข่ำยกลุ่มทอผำ้ ในเขตจังหวัดภำคเหนอื สิง่ สำคญั ที่ตอ้ งพจิ ำรณำคือ วธิ กี ำรทีท่ ำแล้ว ประสบควำมสำเรจ็ ในพ้ืนทีห่ นงึ่ อำจใช้ได้หรือใชไ้ ม่ไดก้ บั อกี พื้นทหี่ น่งึ กไ็ ด้ ดังน้นั ผ้ทู ี่จะนำไปใช้จะต้องพิจำรณำ และปรบั ใชใ้ หเ้ หมำะสมกบั ชุมชนของตน 7. กำรรณรงค์ เหมำะสำหรบั กิจกรรมท่ตี อ้ งกำรเร่งรัดใหเ้ กิดผลสำเรจ็ ในระยะเวลำอันสัน้ ซึง่ ผเู้ ก่ยี วข้อง จะตอ้ งให้ควำมรู้ โฆษณำ ประชำสมั พันธ์อย่ำงดีในระดบั หนง่ึ ถึงควำมจำเป็น และลกั ษณะกจิ กรรมนน้ั ให้ ชำวบำ้ นรบั รู้ รับทรำบ เมื่อมกี ำรเร่ิมดำเนนิ กำร ชำวบ้ำนจะไดใ้ ห้ควำมรว่ มมอื กำรรณรงคน์ ั้นอำจใช้วิธีเกลี้ย กศน.ตาบลดงมะไฟ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า
สรุปผลการดาเนินโครงการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน หน้าบ้านสวย หลงั บ้านสวน ในเรือนงาม หน้า 6 กล่อม กำรสร้ำงกระแสนยิ มรักชำติ กำรใหผ้ ู้นำที่มีอิทธิพลเป็นผ้รู เิ ร่มิ ทำกอ่ นเปน็ ตวั อย่ำง รวมไปถงึ กำรโฆษณำ ประชำสัมพันธ์ ผ่ำนสื่อต่ำง ๆ เช่น โทรทัศน์ วทิ ยุ หนังสอื พิมพ์ เสียงตำมสำย ปำ้ ยประกำศ ใบปลวิ กำรแสดง มหรสพ ฯลฯ 2. หลักกำรให้ประชำชนมสี ว่ นรว่ ม กำรทป่ี ระชำชนเข้ำมำมีสว่ นร่วมในโครงกำรตำ่ ง ๆ จะกอ่ ให้ เกดิ ควำมรสู้ กึ เป็นเจ้ำของ มคี วำมรกั ผูกพนั ธต์ ่อโครงกำรนั้น ๆ จะช่วยเนน้ ย้ำใหเ้ กิดควำมรสู้ ึกวำ่ โครงกำรน้ันเปน็ ควำมรบั ผดิ ชอบ และเกดิ จำกน้ำพกั นำ้ แรงของพวกเขำเอง ซึ่งในกระบวนกำรพัฒนำชุมชนนัน้ ประชำชนจะมี สว่ นรว่ มในขั้นตอนต่ำง ๆ ดงั ตอ่ ไปน้ี 2.1 มสี ว่ นรว่ มในกำรคิดคน้ หำปญั หำและศึกษำสำเหตขุ องปัญหำ ขั้นตอนนถ้ี ึงเปน็ ข้ันตอนแรกที่มี ควำมสำคัญมำก เพรำะบำงครั้งปญั หำตำ่ ง ๆ ของชำวบำ้ น เป็นสงิ่ ท่ชี ำวบำ้ นตอ้ งพบสมั ผสั อยู่ทกุ วนั จนเกดิ ควำมเคยชินไม่คิดว่ำส่งิ นัน้ เป็นปญั หำ จึงไม่กระตือรนื ลน้ ทจ่ี ะหำทำงแกป้ ัญหำ 2.2 มสี ่วนรว่ มในกำรวำงแผนดำเนนิ กิจกรรม โดยท่ัวไปแล้วนักพฒั นำหรือนกั วชิ ำกำรมักจะคิดว่ำชำวบำ้ นไม่ มศี กั ยภำพพอทจ่ี ะวำงแผนดำเนนิ กิจกรรมดว้ ยตัวเองได้ ซึง่ ก็อำจมีควำมเป็นจริงแตเ่ พยี งบำงส่วน แตห่ ำก นกั พฒั นำมคี วำมเชอ่ื ม่นั ในศักยภำพของควำมเป็น “คน” ของทุกคนวำ่ มศี กั ยภำพที่จะพฒั นำได้ กเ็ ป็นหน้ำท่ี ของนกั พัฒนำทจ่ี ะเสริมควำมรู้ หรือใชเ้ ทคนคิ ตำ่ ง ๆ เพอ่ื หำแนวทำงในกำรจัดระบบควำมคิดของชำวบำ้ นให้ สำมำรถวำงแผนได้ 2.3 มีส่วนรว่ มในกำรลงทนุ และปฏบิ ัติ คำวำ่ ทุนในที่น้ีอำจไมไ่ ด้หมำยถงึ เฉพำะเงินทุนเท่ำนั้นแต่ชำวบ้ำนยงั มี ทรพั ยำกรทอี่ ำจหำมำได้เอง เช่น ทรัพยำกรธรรมชำติ (ทรำย หิน ไม้ไผ่ ฯลฯ) หรือวัสดตุ ำมธรรมชำติใน หมบู่ ้ำน และรวมถงึ แรงงำนของชำวบ้ำนเอง สว่ นในกำรปฏบิ ตั ินัน้ กเ็ ช่นกนั ชำวบำ้ นสำมำรถทจี่ ะเข้ำร่วม ดำเนินกำรในกจิ กรรมต่ำง ๆ ได้ ส่งิ เหลำ่ นีจ้ ะสง่ ผลให้เกิดควำมรสู้ ึกมสี ่วนร่วม เป็นเจำ้ ของและเห็นคณุ ค่ำ พรอ้ มท่จี ะดูแลรกั ษำ รวมทัง้ กำรได้เรียนร้กู ำรทำงำนในกจิ กรรมนนั้ ด้วย 2.4 มีสว่ นรว่ มในกำรติดตำมและประเมนิ ผลงำน ซ่ึงเปน็ ขนั้ ตอนสดุ ท้ำยทจี่ ำเป็นเพรำะ กำรประเมนิ ผลงำน จะช่วยให้ทรำบถึงข้นั ตอนกำรทำงำน ผลสำเร็จและหรอื ปญั หำอปุ สรรคตำ่ ง ๆ ทำใหส้ ำมำรถปรบั เปล่ียนแผน ใหเ้ กิดผลงำนทีด่ ที ่สี ดุ ตอบสนองควำมตอ้ งกำรของชุมชนอย่ำถกู จุด 3. หลกั กำรชว่ ยตวั เอง กำรพัฒนำชมุ ชนน้นั หลักสำคญั ที่สดุ และเปน็ เปำ้ หมำยสูงสุดดว้ ย กค็ ือกำรทจ่ี ะให้ ประชำชน มคี วำมเปน็ อยทู่ ีด่ ี สำมำรถพึ่งตวั เองไดอ้ ยำ่ งยง่ั ยืน อยำ่ งไรก็ตำมกำรส่งเสริมใหช้ ำวบ้ำนชว่ ยตวั เอง ได้น้นั ก็จำตอ้ งคำนึงถึงข้อจำกดั ของชำวบ้ำนเองด้วย โดยเฉพำะขอ้ จำกดั ดำ้ นเศรษฐกจิ กำรดำเนนิ งำนพฒั นำ ควรเรมิ่ จำกโครงกำรที่ไมใ่ หญจ่ นเกินกำลงั ชำวบำ้ น ชำวบ้ำนมศี ักยภำพพอทีจ่ ะดำเนินโครงกำรน้นั จนประสบ ควำมสำเรจ็ อำทิ เชน่ พัฒนำตัวเองและครอบครัวก่อน และในบำงกรณรี ฐั บำลหรอื หนว่ ยงำนทร่ี ับผิดชอบ โครงกำรน้นั อำจตอ้ งให้ควำมช่วยเหลอื สนบั สนนุ ด้ำนงบประมำณลงทุนประเดมิ ให้กอ่ น เช่น กำรสนับสนนุ พันธ์ววั ตน้ กล้ำผลไม้ และเมอื่ ชำวบำ้ นดำเนนิ โครงกำรประสบควำมสำเรจ็ กช็ ดชดใช้ทนุ คนื กศน.ตาบลดงมะไฟ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า
สรุปผลการดาเนินโครงการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน หน้าบ้านสวย หลงั บ้านสวน ในเรือนงาม หน้า 7 ปัจจัยแวดลอ้ มท่มี ีอทิ ธพิ ลต่อกำรพฒั นำชมุ ชน กำรพฒั นำที่จะประสบควำมสำเรจ็ ได้ จำตอ้ งอำศัยสภำพแวดลอ้ มทเ่ี อ้อื ตอ่ กำรพัฒนำ อันได้แก่ 1. ลักษณะทำงกำยภำพ ไดแ้ ก่ สภำพแวดล้อมดำ้ นวตั ถุ อนั ได้แก่ สิง่ กอ่ สรำ้ งพน้ื ฐำน : ถนน สะพำนคลองสง่ นำ้ และสภำพแวดลอ้ มตำมธรรมชำติ เชน่ ลักษณะภมู ิประเทศ อนั ได้แก่ สภำพดนิ แหล่งต้นนำ้ ลำธำร อุณหภูมิ ส่ิงเหลำ่ นจ้ี ะตอ้ งสง่ เสริมและเอ้ือให้กำรพฒั นำประสบควำมสำเร็จ เชน่ พน้ื ท่ีอดุ ม มีภมู อิ ำกำศ เหมำะสมกบั กำรปลูกพชื มรี ะบบกำรชลประทำน และแหลง่ น้ำหล่อเลี้ยงใหพ้ ชื เจริญเติบโต มีถนนลำเลียง ขนส่งผลผลติ และสินค้ำออกสตู่ ลำด 2. ลกั ษณะทำงเศรษฐกิจ หมำยถงึ ภำวะกำรถือครองท่ีดนิ ระบบกำรขำย-ซอื้ ผลผลิต ระบบรำคำ, ภำวะ หน้สี ิน ระบบกำรกยู้ มื และแหลง่ สนิ เชื้อ ควำมยำกจนของประชำชนในพน้ื ท่ี จะส่งผลต่อกำรลงทนุ ในกำรผลิต และนำไปสภู่ ำวะกำรสญู เสยี กรรมสิทธท์ิ ด่ี นิ ซ่ึงเปน็ ผลใหเ้ กดิ ควำมรู้สึกผูกพนั ตอ่ กำรพฒั นำ 3. สภำพแวดล้อมทำงกำรเมอื ง ได้แก่นโยบำยกำรพฒั นำของรัฐบำล ซ่งึ อำจแตกต่ำงกันไปตำมยุคสมัย เช่น สมยั พณ.จอมพลสฤษด์ิ ธนะรัชต์ เน้นกำรพฒั นำรำกฐำนของกำรพัฒนำประเทศ มีกำรลงทนุ ในสำธำรณูปโภค สำธำรณปู กำร สรำ้ งถนนสำยสำคญั สรำ้ งเข่ือนก้นั นำ้ โรงไฟฟ้ำ ฯลฯ ส่วนในยคุ ของ พณ. พลเอกชำติชำย ชณุ หวณั ก็เนน้ ดำ้ นเศรษฐกจิ “แปรสนำมรบให้เปน็ สนำมค้ำ” สมัย พณ. พลเอก ชวลติ ยงใจยุทธ เน้นควำม สงบร่มเยน็ จำกปญั หำผู้กอ่ กำรรำ้ ย “ใต้รม่ เย็น-อสี ำนเขยี ว” สมยั พณ. นำยชวน หลกี ภัย เนน้ กำรจดั ทดี่ นิ ทำ กนิ และสมัย พต.ท. ดร.ทักษณิ ชนิ วตั ร “เนน้ กำรฟื้นฟูเศรษฐกจิ ” เปน็ ตน้ 4. สภำพแวดลอ้ มทำงสังคมอันเปน็ เร่ืองท่เี ก่ียวกบั ควำมเชอ่ื ค่ำนิยมของคนในสงั คม ควำมสัมพันธ์ระหว่ำง บุคคล กำรรวมกล่มุ และอทิ ธิพลของกลุม่ ซ่งึ มผี ลต่อกำรดำเนินชวี ิต พฤตกิ รรมและควำมสัมพนั ธข์ องคนใน ชุมชน 5. สภำพแวดล้อมทำงเทคโนโลยี เปน็ ส่งิ ท่ีเกิดจำกกำรสรำ้ งสรรค์ปรุงแตง่ ของมนุษย์ ที่จะนำมำใชใ้ นกำร พฒั นำควำมเป็นอยขู่ องประชำชนใหม้ คี วำมสะดวกสบำยขึน้ สิง่ สำคญั คอื ต้องเลอื ก และนำเทคโนโลยีท่ี เหมำะสม (Appropriate technology) ไปใช้ โดยไมใ่ หเ้ กดิ ผลเสียต่อสง่ิ แวดลอ้ ม ประชำชน และ ควำมสมั พนั ธ์ระหวำ่ งประชำชน ซ่ึงในสังคมไทยเรำมีเทคโนโลยเี หมำะสมมำกมำย อนั ไดแ้ ก่ “ภูมิปญั ญำ ชำวบำ้ น” ที่นกั พฒั นำจะตอ้ งรูจ้ ักนำมำใช้และผสมผสำนกบั เทคโนโลยีสมัยใหมใ่ หเ้ กิดประโยชน์สูงสุด สภำพแวดลอ้ มทีค่ วรเป็น กำรพัฒนำต้องคำนงึ ถงึ กำรพัฒนำท่สี อดคลอ้ งกับสภำพควำม เรำอำจเปรยี บ ภูมิ ปญั ญำชำวบำ้ นเสมือน ตน้ ไมผ้ ลทอ้ งถนิ่ ทมี่ ีรำกแก้ว มีควำมทนทำนตอ่ สภำพส่ิงแวดล้อม สว่ นเทคโนโลยี สมัยใหม่ เปรยี บไดเ้ สมือน ก่งิ ตอนชนั้ ดี ท่ีเอำเข้ำไปติดตำทำบก่งิ เพอ่ื ใหอ้ อกดอกออกผลท่ีดี 6. สภำพแวดลอ้ มท่ีควรเปน็ กำรพัฒนำต้องคำนึงถงึ กำรพัฒนำท่ีสอดคล้องกบั สภำพที่เป็นจริงและเกดิ ประโยชน์แก่ประชำชนในชมุ ชนนน้ั เป็นส่วนใหญ่ อนั เกดิ จำกกำรผสมผสำนระหว่ำงสภำพแวดลอ้ มทัง้ 5 ข้อที่ กลำ่ วมำแลว้ ในขณะท่ีประชำชนมคี ุณภำพชวี ติ ทด่ี ี สังคมและส่ิงแวดลอ้ มกต็ อ้ งไมเ่ ส่อื มโทรม ประชำชน สำมำรถพง่ึ ตนเองได้ในที่สุด กศน.ตาบลดงมะไฟ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า
สรุปผลการดาเนินโครงการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน หน้าบ้านสวย หลงั บ้านสวน ในเรือนงาม หน้า 8 แผนพฒั นำกำรเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชำติ ประเทศไทยได้ประกำศใช้แผนพัฒนำกำรเศรษฐกิจและสงั คม ฉบบั แรกต้ังแต่ปี 2504 โดยอย่ใู นสมยั ของ พณ. นำยกรัฐมนตรจี อมพล สฤษิ ดิ์ ธนะรชั ต์ จนถงึ ปี พ.ศ. 2547 ประเทศไทยไดป้ ระกำศใชแ้ ผนพฒั นำกำร เศรษฐกจิ และสังคม มำแลว้ 9 ฉบับดว้ ยกัน โดยในแผนฯ แตล่ ะฉบบั มจี ดุ เน้นพอสรุปได้ดังน้ี แผนพฒั นำกำรเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2504 – 2509) เปน็ แผน ฯ ฉบับแรกและฉบับเดียวทม่ี รี ะยะเวลำของแผน 6 ปี จดุ เนน้ ของ แผน ฯ นค้ี ือ กำรปพู ืน้ ฐำนเพือ่ กำรเร่งรัดพฒั นำประเทศดำ้ นเศรษฐกจิ โดยเน้นลงทุนด้ำนโครงสร้ำงพ้ืนฐำน (Infrastructure Facilities) อันไดแ้ ก่กำรแร่งรัดสร้ำงระบบชลประทำน พลงั งำน ถนน ทำงรถไฟ และกำร คมนำคมอน่ื ๆ รวมทงั้ โครงกำรบริกำรตำ่ ง ๆ (Services Project) เชน่ โครงกำรวจิ ยั ทดลองด้ำนเกษตร อตุ สำหกรรม และโครงกำรพัฒนำกำรศึกษำสำธำรณสุข แผนพฒั นำกำรเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชำติ ฉบบั ท่ี 2 (พ.ศ. 2510 – 2514) เนน้ กำรพัฒนำสงั คม ยกระดับมำตรฐำนกำรครองชพี ขยำยพลงั กำรผลิต รกั ษำเสถียรภำพทำงเศรษฐกจิ ของประเทศ กระจำยกำรพฒั นำ และเรง่ รดั กำรพัฒนำส่ชู นบท แผนพฒั นำกำรเศรษฐกจิ และสังคม ฉบับท่ี 3 (พ.ศ. 2515 – 2519) ยังมีจุดเน้นด้ำนกำรกระจำยควำมเจรญิ สชู่ นบท พยำยำมลดชอ่ งวำ่ งคนรวยกับ คนจน ขยำยกำรผลิตและรกั ษำเสถยี รภำพทำงเศรษฐกจิ เน้นให้เอกชนเข้ำมำมีสว่ นร่วมในกำรพฒั นำประเทศ และใหค้ วำมสำคญั กับกำรวำงแผนครอบครวั และกำรมงี ำนทำเปน็ ครัง้ แรก แผนพัฒนำกำรเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชำติ ฉบับท่ี 4 (พ.ศ. 2520 – 2524) มกี ำรกระจำยกำรพฒั นำในรูปแบบภำค และภมู ิภำคเพือ่ กำรเพิ่มผลผลติ ทำง กำรเกษตร ปรับปรงุ โครงสรำ้ งอุตสำหกรรม มีโครงกำรผันเงิน อำสำพัฒนำชนบท กำรสร้ำงงำนในชนบท(กสช) โดยมีกำรเน้นกำรอนุรกั ษแ์ ละฟ้ืนฟทู รพั ยำกรธรรมชำตทิ สี่ ญู เสยี ไป แผนพฒั นำกำรเศรษฐกิจและสงั คม ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2525 – 2529) เปน็ แผนที่มกี ำรกำหนดกำรดำเนินงำนในเชิงรับ และเชิงรกุ เนน้ กำรแกป้ ญั หำ ควำมยำกจน โดยกำรกำหนดพน้ื ที่ตำมระดบั ควำมยำกจน มพี ืน้ ท่ีเปำ้ หมำย ชนบทยำกจนทัว่ ประเทศ 286 อำเภอ และรกั ษำวินยั ทำงกำรเงิน กำรคลงั แกป้ ญั หำกำรขำดดลุ กำรค้ำ กศน.ตาบลดงมะไฟ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า
สรุปผลการดาเนินโครงการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน หน้าบ้านสวย หลงั บ้านสวน ในเรือนงาม หน้า 9 แผนพัฒนำกำรเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ ฉบบั ที่ 6 (พ.ศ. 2530 – 2534) เปน็ แผนท่เี น้นกำรพฒั นำคณุ ภำพชวี ติ ส่งเสริมใหเ้ อกชนเข้ำมำมีบทบำทในกำร พฒั นำมำกขึ้น เน้นให้มีกำรกระจำยควำมเจริญสภู่ มู ภิ ำคและชนบทมำกขน้ึ แผนพัฒนำกำรเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชำติ ฉบับท่ี 7 (พ.ศ. 2535 – 2539) มงุ่ เนน้ กำรสร้ำงควำมสมดุลทำงเศรษฐกจิ กำรกระจำยรำยได้ กำรพัฒนำ ทรัพยำกรมนษุ ย์ และกำรพฒั นำคุณภำพส่ิงแวดลอ้ มควบค่กู ันไป แผนพัฒนำกำรเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชำติ ฉบับท่ี 8 (พ.ศ. 2540 – 2544) ในแผนน้ี กำหนดให้ คนเปน็ จุดหมำยหลักของกำรพัฒนำ เน้นเรอื่ งกำรพฒั นำ ทรัพยำกรมนษุ ย์ (Human Resource Development) เน้นกำรวำงแผนพฒั นำแบบองค์รวม หรือบรู ณำกำร ระหวำ่ งเศรษฐกจิ กับสังคมเขำ้ ดว้ ยกนั มุ่งเนน้ ควำมเป็นไทย และสำมำรถแข่งขนั ในเวทีโลกได้ แผนพัฒนำกำรเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชำติ ฉบับท่ี 9 (พ.ศ. 2544 – 2549) เปน็ แผนทม่ี ปี รชั ญำกำรพัฒนำบริ หำรประเทศตำมกระแสพระรำชดำรขิ อง พระบำทสมเด็จพระเจำ้ อยู่หัว เร่ือง เศรษฐกจิ แบบพอเพยี ง มุ่งเน้นกำรพฒั นำทีย่ งั่ ยืนดว้ ยกำรวำงรำกฐำนกำร พฒั นำประเทศใหเ้ ข้มแขง็ ยงั่ ยืน มีภมู ิค้มุ กนั ทำงเศรษฐกจิ ที่สำมำรถพึง่ ตนเองได้ รวมทง้ั ควำมเข้มแขง็ ของ ชุมชนและเครอื ข่ำยชมุ ชนให้เกดิ กำรเชือ่ มโยงกำรพฒั นำท้ังชนบทและเมอื งอย่ำงยั่งยนื มีกำรดแู ลจัดกำร ทรัพยำกร สงิ่ แวดลอ้ ม ควบคไู่ ปกับกำรพัฒนำวทิ ยำศำสตร์ และเทคโนโลยีทเ่ี หมำะสมกับสังคมไทย เปำ้ หมำย สำคญั ของแผนฯ ฉบบั นคี้ อื กำรสร้ำงดลุ ภำพทำงเศรษฐกจิ กำรยกระดับคณุ ภำพชวี ติ กำรบรหิ ำรจดั กำรระบบ รำชกำรทั้งส่วนกลำง ภูมภิ ำค และทอ้ งถนิ่ ท่ดี ี กระจำยอำนำจใหเ้ กดิ กำรบริหำรทโ่ี ปรง่ ใส ตรวจสอบได้ และ เน้นกำรปรำบปรำมกำรทุจรติ ประพฤติมิชอบให้เกิดผล มีกำรดำเนนิ กำรทำงเศรษฐกิจท่ีเอือ้ อำทรต่อคนจน เปิดโอกำสและสร้ำงศกั ยภำพในกำรพฒั นำใหค้ นจนมีควำมเขม้ แข็ง มีภูมคิ มุ้ กัน สำมำรถพ่งึ ตนเองได้ สำมำรถ ลดอตั รำคนจนให้เหลอื ไมเ่ กินรอ้ ยละ 12 ของประชำกรท้ังประเทศ ในปี พ.ศ. 2549 ซงึ่ เปน็ ปสี ้นิ สุดแผน กศน.ตาบลดงมะไฟ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า
สรุปผลการดาเนินโครงการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน หน้าบ้านสวย หลงั บ้านสวน ในเรือนงาม หน้า 10 บทท่ี 3 วธิ กี ำรดำเนนิ กำร ในกำรดำเนนิ งำนจดั โครงกำรหน้ำบำ้ นสวย หลงั บ้ำนสวน ในเรือนงำม กศน.ตำบลดงมะไฟ มรี ำยละเอียด ดงั ตอ่ ไปน้ี ขน้ั ตอนกำรวำงแผน (plan) ข้นั ตอนกำรลงมือทำ (Do) ขน้ั ตอนกำรตรวจสอบ (Check) ขน้ั ตอนกำรปรบั ปรุงแกไ้ ข (Act) ข้ันตอนกำรวำงแผน (plan) 1. ดำเนินกำรประชำคมกลมุ่ ผ้สู นใจเขำ้ รว่ มโครงกำร 2. ไดก้ ลมุ่ เปำ้ หมำย 3. เตรียมหลักสูตร เสนอโครงกำรเพือ่ ขออนมุ ตั ิ 4. แตง่ ต้ังคณะทำงำนภำยในตำบล คณะกรรมกำรนิเทศกจิ กรรม 5. ประสำนวิทยำกร ข้ันตอนกำรลงมอื ทำ (Do) 1. ดำเนินกำรประสำนงำนผ้ทู ีเ่ ก่ียวขอ้ ง ครู กศน.ตำบล ครู ศรช. ผู้นำชมุ ชน คณะกรรมกำรหมูบ่ ้ำนและชำวบ้ำนจัดเตรยี ม สถำนที่ 2. นำประชำชนท่ีสนใจมำเข้ำร่วมกิจกรรม 3. ประเมินผลโครงกำรโดยใหผ้ เู้ ขำ้ ร่วมโครงกำรออกแบบประเมนิ ควำมพึงพอใจในกำรเข้ำรว่ ม โครงกำร 4. รวบรวมขอ้ มูลจำกแบบประเมิน 5. สรปุ ผลควำมพึงพอใจของผูเ้ ข้ำรว่ มโครงกำร ขัน้ ตอนกำรตรวจสอบ (Check) 1.เครอ่ื งมือท่ใี ช้ในกำรตรวจสอบ แบบประเมนิ ควำมพงึ พอใจของผูเ้ ขำ้ รว่ มโครงกำร 2. กำรเก็บรวบรวมข้อมูล กศน.ตำบลดงมะไฟ ไดด้ ำเนนิ กำรเก็บรวบรวมขอ้ มลู จำกผู้เขำ้ ร่วมโครงกำร - ประชำชนกลมุ่ เปำ้ หมำย จำนวน 36 คน กศน.ตาบลดงมะไฟ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า
สรุปผลการดาเนินโครงการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน หน้าบ้านสวย หลงั บ้านสวน ในเรือนงาม หน้า 11 3.กำรวิเครำะห์ข้อมลู กำรประเมินผลกำรดำเนินงำนของโครงกำรหน้ำบำ้ นสวย หลงั บ้ำนสวน ใน เรอื นงำม กศน.ตำบลดงมะไฟ ดำเนินกำรวิเครำะห์ข้อมลู ดงั นี้ 3.1 แบบประเมนิ ตอนท่ี 1 ขอ้ มลู ท่วั ไป วเิ ครำะหห์ ำค่ำรอ้ ยละ 3.2 แบบประเมนิ ตอนท่ี 2 ควำมพึงพอใจตวั บง่ ช้ีของโครงกำร 3.2.1 ใหค้ ะแนนตำมน้ำหนักแบบประเมนิ ฉบบั สมบูรณ์ ตำมเกณฑ์ มำตรฐำนของ สมศ. โดยมีเกณฑใ์ หค้ ะแนน ดังน้ี ระดบั 5 หมำยถงึ ดำเนนิ งำนได้ตำมเกณฑข์ องตัวบ่งช้ดี มี ำก ระดับ 4 หมำยถึง ดำเนนิ งำนไดต้ ำมเกณฑ์ของตัวบง่ ชดี้ ี ระดับ 3 หมำยถึง ดำเนนิ งำนได้ตำมเกณฑข์ องตวั บ่งชี้พอใช้ ระดบั 2 หมำยถงึ ดำเนินงำนไดต้ ำมเกณฑ์ของตัวบง่ ชปี้ รับปรงุ ระดบั 1 หมำยถึง ดำเนินงำนได้ตำมเกณฑข์ องตวั บ่งชต้ี ้องปรับปรุง 1.2.2 วเิ ครำะห์ข้อมลู โดยกำรหำค่ำเฉลี่ยร้อยละควำมพงึ พอใจ 1.3 แบบประเมนิ ตอนที่ 3 ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะอ่ืนๆ วเิ ครำะหด์ ว้ ยเนอื้ หำ (Content analysis) กศน.ตาบลดงมะไฟ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า
สรุปผลการดาเนินโครงการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน หน้าบ้านสวย หลงั บ้านสวน ในเรือนงาม หน้า 12 บทที่ 4 ผลกำรดำเนนิ งำน กำรจดั กิจกรรมโครงกำรหนำ้ บ้ำนสวย หลังบำ้ นสวน ในเรอื นงำม ณ ศำลำประชำคมบ้ำนรำษฎร์ เกษมศรี หมู่ 7 ตำบลนำดี อำเภอสุวรรณคูหำ จงั หวัดหนองบวั ลำภู สรุปผลกำรดำเนนิ งำนไดด้ ังนี้ ชอื่ โครงกำร วันทด่ี ำเนินกำร เปำ้ ทไี่ ด้รบั จดั สรร ผล คดิ เปน็ รอ้ ยละ โครงกำรกำรหนำ้ 16-17 ธันวำคม 32 36 100 บำ้ นสวย หลังบ้ำน 2564 สวน ในเรอื นงำม กำรประเมินควำมพึงพอใจในกำรดำเนินงำนตำมโครงกำรหน้ำบำ้ นสวย หลงั บ้ำนสวน ในเรือนงำม กศน.ตำบลดงมะไฟ ของผรู้ บั บริกำรที่เขำ้ รว่ มโครงกำร โดยเสนอรำยละเอยี ดตำมลำดบั คือ สญั ลักษณ์ทีใ่ ช้ใน กำรวิเครำะห์ขอ้ มลู ลำดบั ข้นั ตอนในกำรวิเครำะห์ขอ้ มลู ผลกำรวิเครำะห์ขอ้ มูล และกำรแปลควำมหมำย ขอ้ มลู ดงั ต่อไปนี้ สัญลกั ษณท์ ใ่ี ชใ้ นกำรวเิ ครำะห์ข้อมูล กำรเสนอผลกำรประเมินครัง้ นไี้ ดก้ ำหนดสญั ลกั ษณท์ ี่ใชใ้ นกำรวเิ ครำะห์ข้อมูล ดงั น้ี N แทน ขนำดของกลมุ่ ผ้ปู ระเมนิ กำรใช้คมู่ อื (Sample size) % แทน คำ่ ร้อยละ (Percentage) ลำดบั ขัน้ ตอนในกำรวิเครำะหข์ ้อมลู กำรวเิ ครำะหข์ อ้ มลู ผู้ประเมนิ ไดเ้ สนอผลกำรวเิ ครำะหข์ อ้ มลู เปน็ ตอนๆ เรยี งลำดบั ดงั น้ี ตอนท่ี 1 กำรวเิ ครำะหข์ อ้ มลู เกยี่ วกบั ข้อมูลทว่ั ไป ตอนท่ี 2 กำรวเิ ครำะห์ขอ้ มูลดำ้ นควำมพงึ พอใจของผรู้ ับบรกิ ำร ตอนที่ 3 กำรวิเครำะหข์ อ้ มลู ขอ้ คดิ เห็นและข้อเสนอแนะอนื่ ๆ กศน.ตาบลดงมะไฟ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า
สรุปผลการดาเนินโครงการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน หน้าบ้านสวย หลงั บ้านสวน ในเรือนงาม หน้า 13 ในกำรสรปุ ผลกำรดำเนินงำนโครงกำรหนำ้ บำ้ นสวย หลงั บ้ำนสวน ในเรอื นงำม ณ ศำลำประชำคม บำ้ นรำษฎรเ์ กษมศรี ม.7 ตำบลนำดี อำเภอสวุ รรณคหุ ำ จงั หวัดหนองบัวลำภู ได้จดั ทำเครอ่ื งมือเปน็ แบบสอบถำม วดั ระดบั ควำมคิดเห็นและควำมพึงพอใจในกำรดำเนินกำรพัฒนำซงึ่ แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคอื ส่วนแรกเปน็ คำถำมปลำยเปิด มำตรำส่วนประมำณคำ่ (Rating scales) ส่วนท่ี 2 มำตรำส่วนประมำณ ค่ำของ ลเิ คิรท์ likert’s Scales 5 ระดบั สว่ นทสี่ ำมเปน็ คำถำมปลำยเปดิ ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ ส่วนทสี่ ำม เปน็ คำถำมปลำยเปิดเนื้อหำสำระทตี่ อ้ งกำรพัฒนำในครง้ั ต่อไป ซ่งึ ในกำรเก็บรวบรวมน้ัน ได้แจก แบบสอบถำมแกผ่ ูเ้ ขำ้ ร่วมโครงกำรหน้ำบำ้ นสวย หลังบำ้ นสวน ในเรอื นงำม จำนวน 36 คน ได้ แบบสอบถำมคืนจำนวน 36 ฉบบั จำกผเู้ ข้ำรว่ มโครงกำร คดิ เปน็ ร้อยละ 100 กระทำกำรวเิ ครำะห์ข้อมูล ตำมประเภทและลกั ษณะของข้อมูล โดยหำค่ำเฉล่ยี เป็นคำ่ ร้อยละ ซ่ึงไดว้ ัดระดบั ควำมคิดเหน็ และควำมพึง พอใจที่มตี อ่ โครงกำรจะปรำกฏดงั น้ี สรุปผลกำรวิเครำะห์ขอ้ มลู ควำมพึงพอใจ โครงกำรกำรบรหิ ำรจดั กำรขยะเพอื่ สง่ิ แวดลอ้ มในชมุ ชน ตอนท่ี 1 ข้อมลู ทว่ั ไป รำยกำรขอ้ มูลพื้นฐำน จำนวน ร้อยละ (ƒ) (%) 1.เพศ 1.1 ชำย 14 38.89 1.2 หญงิ 22 61.11 รวม 36 100.00 2.อำยุ 2.1 ต่ำกว่ำ 15 ปี 00 2.2 อำยุ 15 – 39 ปี 00 2.3 อำยุ 40 – 59 ปี 23 63.89 2.4 อำยุ 60 ปีข้ึนไป 13 36.11 รวม 36 100.00 3.ระดับกำรศกึ ษำ 17 47.22 3.1 ป.4 8 22.22 3.2 ป.6 4 16.12 3.3 ม.ตน้ 7 14.44 3.4 ม.ปลำย 00 3.5 ปวช. 00 3.6 ปวส. กศน.ตาบลดงมะไฟ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า
สรุปผลการดาเนินโครงการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน หน้าบ้านสวย หลงั บ้านสวน ในเรือนงาม หน้า 14 3.7 ปรญิ ญำตรี 0 0 3.8 อื่นๆ 0 0 รวม 36 100.00 4.อำชีพ 4.1 ผู้นำทอ้ งถิน่ 0 0 4.2 อบต/เทศบำล 0 0 4.3 พนกั งำนรฐั วิสำหกจิ 0 0 4.4 ทหำรกองประจำกำร 0 0 4.5 เกษตรกร 36 100 4.6 รบั รำชกำร 0 0 4.7 คำ้ ขำย 0 0 4.8 รบั จ้ำง 0 0 4.9 อสม. 0 0 4.10 แรงงำนต่ำงด้ำว 0 0 4.11 วำ่ งงำน 0 0 4.12 อืน่ ๆ 0 0 รวม 36 100.00 จำกตำรำง ผลกำรวเิ ครำะห์ข้อมูลควำมพึงพอใจของผเู้ ข้ำรว่ มโครงกำรหนำ้ บ้ำนสวย หลงั บ้ำนสวน ในเรอื น งำม ผลกำรวเิ ครำะห์ปรำกฏวำ่ ผเู้ ข้ำร่วมโครงกำร 36 คน เปน็ เพศหญิง จำนวน 22 คน คิดเป็นร้อยละ 61.11 เพศชำยจำนวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 38.89 ด้ำนอำยุ อำยุ 40-59 ปี จำนวน 23 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 63.89 อำยุ 60 ปี ข้ึนไป จำนวน 13 คน คิดเปน็ ร้อยละ 36.61 ตำมลำดับ ระดบั กำรศึกษำ ป. 4 จำนวน 17 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 47.22 ป.6 จำนวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 22.22 ม.ปลำย จำนวน 7 คน คดิ เป็นร้อยละ 14.44 และม.ตน้ จำนวน 4 คน คดิ เป็นร้อยละ 16.12 ตำมลำดับ ดำ้ นอำชีพ เกษตรกร จำนวน 36 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 100 กศน.ตาบลดงมะไฟ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า
สรุปผลการดาเนินโครงการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน หน้าบ้านสวย หลงั บ้านสวน ในเรือนงาม หน้า 15 สรุปผลกำรวเิ ครำะหข์ ้อมูลควำมพงึ พอใจ โครงกำรพฒั นำสงั คมและชมุ ชน หลักสตู รหนำ้ บำ้ นสวน หลงั บ้ำน สวน ในเรอื นงำม ตอนที่ 2 ควำมพงึ พอใจในกำรใหบ้ ริกำร ตำรำงท่ี 2.1 จดุ มงุ่ หมำย/เนอ้ื หำหลกั สตู ร ระดับควำมพงึ พอใจ/จำนวน หมำย ข้อ รำยกำรประเมนิ ควำมพงึ พอใจ มำก มำก ปำน น้อย นอ้ ย เหตุ ทสี่ ุด กลำง ทส่ี ดุ ตอนที่ ๑ ควำมพึงพอใจด้ำนเนอื้ หำ 1 เนื้อหำตรงตำมควำมตอ้ งกำร 34 2 94.44 5.56 2 เน้อื หำเพียงพอตอ่ ควำมต้องกำร 36 100 3 เนอื้ หำปจั จุบนั ทันสมยั 35 1 97.22 2.78 4 เนื้อหำมีประโยชนต์ ่อกำรนำไปใชใ้ นกำรพัฒนำคณุ ภำพ 36 ชวี ติ 100 ตอนท่ี ๒ ควำมพงึ พอใจด้ำนกระบวนกำรจดั กจิ กรรมกำรอบรม 5 กำรเตรียมควำมพรอ้ มก่อนอบรม 35 1 97.22 2.78 6 กำรออกแบบกิจกรรมเหมำะสมกบั วตั ถุประสงค์ 33 3 91.67 8.33 7 กำรจดั กิจกรรมเหมำะสมกบั เวลำ 36 100 8 กำรจดั กิจกรรมเหมำะสมกับกลุ่มเป้ำหมำย 36 100 9 วิธีกำรวัดผล/ประเมินผลเหมำะสมกับวัตถุประสงค์ 34 2 94.44 5.56 ตอนท่ี ๓ ควำมพึงพอใจต่อวทิ ยำกร 10 วทิ ยำกรมีควำมรคู้ วำมสำมำรถในเรือ่ งทถี่ ่ำยทอด 36 100 11 วิทยำกรมีเทคนคิ กำรถ่ำยทอดใชส้ ือ่ เหมำะสม 34 2 94.44 5.56 กศน.ตาบลดงมะไฟ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า
สรุปผลการดาเนินโครงการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน หน้าบ้านสวย หลงั บ้านสวน ในเรือนงาม หน้า 16 12 วทิ ยำกรเปดิ โอกำสให้มสี ่วนรว่ มและซกั ถำม 36 100 ตอนที่ ๔ ควำมพงึ พอใจด้ำนกำรอำนวยควำมสะดวก 13 สถำนที่ วสั ดุ อปุ กรณ์และสง่ิ อำนวยควำมสะดวก 36 100 14 กำรสอ่ื สำร กำรสรำ้ งบรรยำกำศเพ่อื ใหเ้ กิดกำรเรยี นรู้ 36 100 15 กำรบรกิ ำร กำรช่วยเหลือและกำรแก้ปญั หำ 34 2 94.44 5.56 สรปุ ควำมคิดเห็นและควำมพงึ พอใจของผูร้ บั บริกำร โครงกำรพัฒนำสังคมและชมุ ชน หลกั สตู รหนำ้ บ้ำนสวย หลงั บ้ำนสวน ในเรือนงำม สรุปไดด้ ังน้ี ตอนท่ี 1 ควำมพงึ พอใจด้ำนเนอื้ หำ ผู้ตอบแบบสอบถำมมคี วำมพงึ พอใจดำ้ นเน้ือหำ ดังน้ี เนอื้ หำมปี ระโยชนต์ ่อกำรนำไปใช้ในกำรพัฒนำ คณุ ภำพชวี ติ ตอบมำกท่สี ุดร้อยละ 100 เน้ือหำมีควำมเพยี งพอตอ่ ควำมตอ้ งกำร ตอบมำกทีส่ ุดรอ้ ยละ 100 เนอ้ื หำปัจจบุ นั ทันสมัย ตอบมำกท่สี ดุ รอ้ ยละ 97.22 ตอบมำกร้อยละ 2.78 .เนือ้ หำตรงตำมควำมต้องกำร ตอบมำกท่ีสุดรอ้ ย 94.44 และตอบมำกร้อยละ 5.56 ตำมลำดับ ตอนท่ี 2 ควำมพึงพอใจดำ้ นกำรจดั กจิ กรรมกำรอบรม ผู้ตอบแบบสอบถำมมคี วำมพงึ พอใจดำ้ นกำรจัดกจิ กรรมเหมำะสมกับกลุ่มเป้ำหมำย ตอบมำกทส่ี ดุ ร้อยละ 100 จัดกจิ กรรมเหมำะสมกบั เวลำ ตอบมำกที่สุดรอ้ ยละ 100 กำรเตรยี มควำมพรอ้ มก่อนกำร อบรม ตอบมำกทส่ี ุดรอ้ ยละ 97.22 ตอบมำกร้อยละ 2.78 และ วิธีกำรวดั ผล ประเมินผลเหมำะสมกับ วัตถุประสงค์ ตอบมำกทีส่ ุดรอ้ ยละ 94.44 ตอบมำกรอ้ ยละ 5.56 และกำรออกแบบกจิ กรรมเหมำะสมกบั วัตถุประสงค์ ตอบมำกท่ีสดุ ร้อยละ 91.67 ตอบมำกร้อยละ 8.33 ตำมลำดบั ตอนท่ี 3 ควำมพงึ พอใจต่อวทิ ยำกร ผู้ตอบแบบสอบถำมมคี วำมพงึ พอใจด้ำนวิทยำกรมีควำมร้คู วำมสำมำรถในเร่ืองทีถ่ ำ่ ยทอด ตอบมำก ท่ีสุดร้อยละ 100 วทิ ยำกรเปดิ โอกำสให้มสี ่วนร่วมและซกั ถำม ตอบมำกทส่ี ดุ รอ้ ยละ 100 วทิ ยำกรมี เทคนคิ กำรถำ่ ยทอดใช้ส่อื ทเ่ี หมำะสม ตอบมำกท่สี ุดรอ้ ยละ 94.44 และตอบมำกรอ้ ยละ 5.56 ตำมลำดบั ตอนที่ 4 ควำมพึงพอใจด้ำนกำรอำนวยควำมสะดวก ผตู้ อบแบบสอบถำมมคี วำมพึงพอใจด้ำนสถำนท่ี วสั ดุ อุปกรณแ์ ละสิง่ อำนวยควำมสะดวก ด้ำน กำรส่อื สำร กำรสรำ้ งบรรยำกำศเพอื่ ให้เกิดกำรเรียนรู้ ตอบมำกทีส่ ุดร้อยละ 100และด้ำนกำรบรกิ ำร กำร ชว่ ยเหลือและกำรแก้ปญั หำ ตอบมำกที่สดุ รอ้ ยละ 94.44 ตอบมำกรอ้ ยละ 5.56 กศน.ตาบลดงมะไฟ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า
สรุปผลการดาเนินโครงการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน หน้าบ้านสวย หลงั บ้านสวน ในเรือนงาม หน้า 17 บทที่ 5 สรปุ ผลและขอ้ เสนอแนะ กำรดำเนินงำนโครงกำรพฒั นำสังคมและชมุ ชน หลักสูตรหน้ำบ้ำนสวย หลงั บ้ำนสวน ในเรอื นงำม สรปุ ผลกำรดำเนนิ งำนไดด้ ังน้ี 1. เพ่ือเปน็ กำรเสริมสรำ้ งกระบวนกำรเรยี นรู้ และพัฒนำสังคมและชมุ ชนใหม้ ีควำมเขม้ แขง็ สำมำรถ พึ่งพำตนเองได้ 2. เพอื่ เป็นกำรคน้ หำปัญหำ และกำหนดแนวทำงในกำรแกป้ ญั หำรว่ มกันในชุมชนตำมวถิ ีควำมพอเพยี ง 3. เพ่อื สร้ำงจติ สำนึกควำมเป็นประชำธิปไตย ควำมเปน็ พลเมืองดเี ศรษฐกจิ ชุมชน และกำรอนุรกั ษ์ พฒั นำทรพั ยำกรธรรมชำตแิ ละสิง่ แวดล้อม เป้ำหมำย เชิงประมำณ ประชำชนตำบลดงมะไฟ จำนวน 36 คน เชงิ คณุ ภำพ ประชำชนที่เข้ำร่วมโครงกำรฯ ร้อยละ 80 ของกลุ่มเป้ำหมำย มีควำมรู้ทักษะด้ำนต่ำงๆท่ีผู้เข้ำร่วม กิจกรรมสำมำรถนำควำมรู้ท่ีได้รับมำใช้ให้เกิดประโยชน์ตอ่ ตนเองและสังคมนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันเพื่อแก้ไข ปญั หำของตนเองและทอ้ งถ่นิ ผลกำรดำเนนิ โครงกำร ประชำชนตำบลดงมะไฟ ที่เข้ำรว่ มโครงกำรหน้ำบ้ำนสวย หลงั บ้ำนสวน ในเรือนงำม มีควำมพอใจ ในกำรจดั กจิ กรรมในระดบั ดขี ้นึ ไป ร้อยละ 100 และประชำชนที่เข้ำรว่ มกิจกรรมสำมำรถนำควำมรทู้ ่ีไดไ้ ปใช้ ในชวี ติ ประจำวัน ปัญหำ-อปุ สรรค - แนวทำงแก้ไขปัญหำ ขอ้ เสนอแนะ ประชำชนที่เข้ำร่วมโครงกำรสำมำรถนำควำมรูท้ ไ่ี ดไ้ ปใชใ้ นชีวิตประจำวันได้ กศน.ตาบลดงมะไฟ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า
สรุปผลการดาเนินโครงการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน หน้าบ้านสวย หลงั บ้านสวน ในเรือนงาม หน้า 18 ภำคผนวก กศน.ตาบลดงมะไฟ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า
สรุปผลการดาเนินโครงการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน หน้าบ้านสวย หลงั บ้านสวน ในเรือนงาม หน้า 19 ภำพประกอบกิจกรรมกิจกรรมกำรศึกษำเพื่อพัฒนำสังคมและชมุ ชน โครงกำรหนำ้ บำ้ นสวย หลังบ้ำนสวน ในเรอื นงำม ดำเนินกำรระหวำ่ งวันที่ 16-17 ธนั วำคม พ.ศ. 2564 ณ ศำลำประชำคมบำ้ นรำษฎร์เกษมศรี ม.7 ตำบลนำดี อำเภอสวุ รรณคูหำ ลงทะเบียนผเู้ ขำ้ ร่วมโครกำรฯ กศน.ตาบลดงมะไฟ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า
สรุปผลการดาเนินโครงการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน หน้าบ้านสวย หลงั บ้านสวน ในเรือนงาม หน้า 20 นำยฤำชัย สำจันทร์ นำยกเทศบำลตำบลดงมะไฟ ให้เกียรติมำเป็นประธำนเปดิ โครงกำรฯ กศน.ตาบลดงมะไฟ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า
สรุปผลการดาเนินโครงการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน หน้าบ้านสวย หลงั บ้านสวน ในเรือนงาม หน้า 21 . วิทยำกรใหค้ วำมรู้ กศน.ตาบลดงมะไฟ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า
สรุปผลการดาเนินโครงการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน หน้าบ้านสวย หลงั บ้านสวน ในเรือนงาม หน้า 22 วิทยำกร กศน.ตาบลดงมะไฟ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า
สรุปผลการดาเนินโครงการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน หน้าบ้านสวย หลงั บ้านสวน ในเรือนงาม หน้า 23 ใหช้ ำวบ้ำนนำยำงรถยนตท์ ่ไี ม่ไดใ้ ช้แลว้ มำทำกระถำง เพือ่ ไปปลูกพืชผกั ต่ำงๆ กศน.ตาบลดงมะไฟ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า
สรุปผลการดาเนินโครงการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน หน้าบ้านสวย หลงั บ้านสวน ในเรือนงาม หน้า 24 กศน.ตาบลดงมะไฟ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า
สรุปผลการดาเนินโครงการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน หน้าบ้านสวย หลงั บ้านสวน ในเรือนงาม หน้า 25 กศน.ตาบลดงมะไฟ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า
สรุปผลการดาเนินโครงการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน หน้าบ้านสวย หลงั บ้านสวน ในเรือนงาม หน้า 26 กศน.ตาบลดงมะไฟ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: