การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมaaaaaaaaaaaaaaaaa

การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม วตั ถุประสงค์ เน้ือหา/ระดบั ช้นั จดั ทาโดย กิจกรรมการเรียน การสอน

วตั ถุประสงค์หลงั จากท่ีนกั เรียนไดศ้ ึกษาเร่ือง การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมแลว้นกั เรียนจะสามารถ1.นกั เรียนเขา้ ใจในเน้ือหาของเร่ืองการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม2.นกั เรียนสามารถจาแนกความแปรผนั ทางพนั ธุกรรมไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง3.นกั เรียนสามารถแบ่งกฎของเมนเดลอยา่ งชดั เจนและถูกตอ้ ง

เน้ือหา/ระดบั ช้นั1. เร่ืองการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม2. จาแนกความแปรผนั ทางพนั ธุกรรม3. แบ่งกฎของเมนเดล

จดั ทาโดย นาย วัชระพล พูลทอง รหัส 6021156007 สาขา เทคโนโลยีและส่ื อสารการศึ กษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัย ราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา

เข้าสู่บทเรียนความหมายของพนั ธุกรรมความแปรผนั ทางพนั ธุกรรม กฎของเมนเดล กจิ กรรมหลงั การเรียนรู้ เกมส์

ความหมายของพนั ธุกรรม พนั ธุกรรม (Heredity)หมายถึงการถ่ายทอดลกั ษณะของสิ่งมีชีวติ จากรุ่นหน่ึงไปยงั รุ่นหน่ึงหรือจากบรรพบุรุษไปสู่ ลูกหลาน เช่น ลกั ษณะสีผวิลกั ษณะเส้นผม ลกั ษณะสีตา เป็นตน้

ความแปรผนั ทางพนั ธุกรรม ความแตกต่างเกิดข้ึนจากความแปรผนั ภายใน สิ่งมีชีวติ ชนิดเดียวกนั ไดแ้ ต่จะมีความแตกต่างนอ้ ยกวา่ ท่ีเกิดข้ึนระหวา่ ง ส่ิงมีชีวติ ต่างชนิดกนั เรา ท้งั หลายถูกจดั อยใู่ นกลุ่มของ มนุษยเ์ น่ืองจากเรามีลกั ษณะหลายอยา่ ง เหมือนกนั และ มนุษยแ์ ต่ละคนมีความแตกต่างกนั แมแ้ ต่ฝาแฝดท่ีเป็นแฝด ร่วมไข่ถึงแมว้ า่ จะมีหนา้ ตาใกลเ้ คียงกนั มากทที่สุดก็ยงั มี ลกั ษณะแตกต่างกนั ความแตกต่างดงั กล่าวเรียกวา่ “ความแปรผนั ทางพนั ธุกรรม” (genetic variable) ความแปรผนั ทางพนั ธุกรรม จาแนกได้ 2 ประเภท ดงั นี้ ลกั ษณะที่มคี วามแปรผนั แบบไม่ต่อเน่ือง ลกั ษณะท่ีมคี วามแปรผนั แบบต่อเน่ือง

ลกั ษณะที่มคี วามแปรผนั แบบไม่ต่อเนื่อง ลกั ษณะที่มีความแปรผนั แบบไม่ต่อเนื่อง (discontinuous variation)เป็นเป็นลกั ษณะทางพนั ธุกรรมที่สามารถแยกความ แตกต่างไดอ้ ยา่ งชดั เจนลกั ษณะความแปรผนั ไม่ต่อเน่ืองเกิด จากอิทธิพลทางพนั ธุกรรมพียงอยา่ งเดียวเช่น ลกั ษณะลกั ยมิ้ (มีลกั ยมิ้ หรือไม่มีรักยมิ้ ) ต่ิงหู (มีติ่งหูหรือไม่มีต่ิงหู) ห่อลิ้น (ห่อลิ้นไดห้ รือห่อลิ้นไม่ได)้ เป็นตน้

ลกั ษณะทีม่ ีความแปรผนั แบบต่อเน่ือง ลกั ษณะที่มีความแปรผนั แบบต่อเนื่อง (continuousvariation) เป็นลกั ษณะทางพนั ธุกรรมที่ไม่สามารถแยกความแตกต่างไดเ้ ด่นชดั เช่น ความสูง น้าหนกั โครงร่าง สีผวิ ซ่ึงเป็นลกั ษณะที่ไดร้ ับอิทธิพลจากพนั ธุกรรม และสิ่งแวดลอ้ มร่วมกนั เช่นความสูงของคน ถา้ เราไดร้ ับอาหารที่ถูกหลกั โภชนาการ มีการออกกาลงั กาย จะทาให้เรามีร่างกายสูงข้ึนได้

กฎของเมนเดล เมนเดล (Gregor Johann Mendel) บาทหลวงชาวออสเตรเลีย ผไู้ ดช้ ่ือวา่ เป็น “บิดาแห่งวิชาพนั ธุศาสตร์” ไดศ้ ึกษาเกี่ยวกบั การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม และไดต้ ้งั กฎไว้ 2ขอ้1.กฎแห่งการแยกตวั 2.กฎแห่งการรวมกลุ่มอยา่ งอิสระ

1.กฎแห่งการแยกตวั กล่าวไว้ว่า ยีนในส่ิงมีชีวติจะอยู่เป็ นคู่ เมื่อมีการสร้างเซลล์สืบพันธ์ุยีนเหล่านี้จะแยกออกจากกันอย่างอิสระไปสู่เซลล์สืบพันธ์ุแต่ละเซลล์

2.กฎแห่งการรวมกลุ่มอยา่ งอิสระ ยนี แต่ละยนี จะสามารถรวมตวักบั ยนี อ่ืนไดอ้ ยา่ งอิสระ ยนี ควบคุมความสูงของตน้ ถวั่ ลนั เตาลกั ษณะเด่น สามารถไปอยเู่ ซลลเ์ ดียวกบั ยนีควบคุมสีเมลด็ ลกั ษณะดอ้ ยได้ ไม่จาเป็นวา่ จะตอ้ งอยกู่ บั เฉพาะยนี เด่นเท่าน้นั นน่ั คือยนี มีการร่วมกลุ่มกนัอยา่ งอิสระ

กจิ กรรมหลงั การเรียนรู้จงเลือกข้อทถ่ี ูกต้อง1.จงบอกความหมายของพนั ธุกรรมก. การสืบทอดวิถีชีวิต ข.การแบง่ เซลล์ค. การถ่ายทอดลกั ษณะของสิ่งมีชีวติ ง.ถูกทุกขอ้2.ความแปรผนั ทางพนั ธุกรรมมีกี่ประเภทก.1 ขอ้ ข. 2 ขอ้ค.3 ขอ้ ง.ไมม่ ีขอ้ ถูก

3.อะไรคือลกั ษณะท่ีมีความแปรผนั แบบไม่ต่อเน่ืองก.สูง ข.ตวั เล็กค.อว้ นเหมือนพอ่ ง.มีลกั ย้ิม4.อะไรคือลกั ษณะที่มีความแปรผนั แบบต่อเน่ืองก.ความสูง ข.ตาค.ลกั ย้ิม ง.จมูกโดง่5.กฎของเมนเดลมีก่ีขอ้ก.1ขอ้ ข.2ขอ้ค.3ขอ้ ง.4ขอ้

เกมส์จบั คู่พาเพลินลกั ษณะทมี่ คี วามแปรผนั แบบไม่ต่อเนื่อง ลกั ษณะทม่ี คี วามแปรผนั แบบต่อเน่ืองความสูง โครงร่าง สีผิว ลกั ย้ิม หอ่ ล้ิน