Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ใบงาน2222

ใบงาน2222

Published by Sinittha Khemtum, 2021-08-31 03:24:55

Description: ใบงาน2222

Search

Read the Text Version

ประเภทพฤติกรมมของสัตว์ พฤติกรรมของส่งิ มีชวี ติ การแสดงออกเพื่อโต้ตอบกับส่ิงเรา้ ท้ังภายใน และภายนอกด้วยวิธีการที่ แตกต่างกันออกไป โดย ส่งิ มีชีวติ รับสง่ิ เรา้ ดว้ ยหน่วยรับความร้สู ึก แลว้ แสดงพฤตกิ รรมโตต้ อบออกมาได้ พบได้ ต้ังแต่ โพรทิสต์ และเห็นได้ชัดเจนในสตั วแ์ ละพืช โดยการแสดงออกทางพฤติกรรมตา่ ง ๆ อาจอาศยั การ ทำงานของระบบประสาทหรอื ไมก่ ็ได้ แบ่งได้เป็น 2 ประเภทได้แก่ พฤตกิ รรมท่ีเปน็ มาแตก่ ำเนดิ และพฤตกิ รรมทีเ่ กดิ จากการเรียนรู้ 1. พฤติกรรมท่ีเป็นมาแต่กำเนิด (Inherited Behavior) พฤติกรรมที่สัตว์ทุกตัวในประชากรมักมี และแสดงออกเหมือนกันโดยไม่พึงประสบการณ์ เปน็ พฤติกรรมทตี่ ายตัวถาวรแม้ว่าสิ่งแวดล้อมจะเปลยี่ นปลงไป ถ่ายทอดทางพนั ธกุ รรม ไม่ไดเ้ กิดจากการเรยี นรู้ สง่ิ แวดล้อมมีผลตอ่ การแสดงออกน้อย มาก พบในสัตว์ที่มีวิวฒั นาการต่ำ มลี ักษณะเฉพาะของแตล่ ะ Species ทจี่ ะตอบสนองต่อสง่ิ เร้าน้ัน ๆ แบบเดียวกนั เรยี กวา่ Fixed Action Pattern (FAP) แบ่งเป็น 3 แบบคอื 1.1 โอเรยี เทชัน Orientation พบไดใ้ นโพรโตซัวและสตั ว์ ตอบสนองตอ่ ปจั จัยทางกายภาพท่ีมอี ยู่ หรอื อาจกล่าวได้วา่ พฤติกรรมง่าย ๆ ที่เป็นการจัดวางร่างกายใหอ้ ยู่ในสภาพวะที่เหมาะสมตอ่ การดำรงชีวิต เช่น แสง กระแสลม กระแสนำ้ การ บนิ เขา้ หาแสงของผเี สอื้ กลงคืน เป็นต้น Kinesis : เคลอ่ื นทีต่ อบสนองต่อสงิ เรา้ แบบไม่มีทศิ ทาง พบใน โพรทสิ ต์ สตั วไ์ ม่มกี ระดกู สนั หลังช้ันตำ่ เช่น - การเคลื่อนทีข่ องแมลงสาบ เมื่ออยใู่ นทโ่ี ลง่ จะเคล่ือนที่ รวดเร็วและไมม่ ที ศิ ทางแน่นอน - การเคล่ือนท่ีของพารามเี ซยี ม เพอ่ื หนีอุณหภูมิสูงหรอื ฟอง Taxis : เคลือ่ นท่ตี อบสนองตอ่ ส่ิงเรา้ แบบมที ศิ ทาง พบใน ส่งิ มชี ีวิตทีม่ ีหนว่ ยรบั ความรู้สกึ แบ่งเป็น 2 แบบ คือ เคลื่อนเขา้ หาส่งิ เร้า (Positive) และเคล่ือนทอ่ี อกจากสง่ิ เรา้ (Negative)

1.2 รีเฟล็กซ์ (Reflex) พฤติกรรมตอบสนองต่อสิ่งเร้าทันทีโดยไม่ต้องคิด พบหลงเหลือในสิ่งมีชีวิตที่มีสมองพัฒนาดีแล้ว นำส่งกระแสประสาทจากอวัยวะรับความรู้สึกต่างๆ ผ่านเข้าไขสันหลัง เป็นการกระทำไม่ผ่านสมอง เพราะ Reflex มีความสำคัญ ในการทำให้สงิ่ มีชวี ติ รอดพ้นจากอันตรายได้ การขดตวั ของก้ิงกือ การตะกุกขา รีเฟล็กซ์ต่อเนื่อง (Chain of Reflex) ประกอบด้วยพฤติกรรมแบบ Reflex ที่เกิดขึ้นอย่าง ต่อเนื่องกัน พบได้ทั้งในคน แมลง สัตว์ปีก สัตว์เลื้อยคลาย เช่น การดูดนมของทารก การสร้างรัง ของนก/แมลง การเกีย่ วพาราสีของสตั ว์ ปลากดั กอ่ หวอด เป็นตน้ 2. พฤตกิ รรมทเี่ กดิ จากการเรียนรู้ (Learned Bahavior) โดยอาศัยประสบการณ์ในอดีต ทำให้สภาพแวดล้อมมีผลมากกว่าพันธุกรรม พบใน สตั วท์ ีม่ ีวิวฒั นาการของระบบประสาทท่ีดี ยงิ่ วิวัฒนาการสูงมากขึ้น พฤตกิ รรมก็จะมีความซับซ้อน มากขน้ึ ตามไปดว้ ย เรม่ิ พบในหนอนตัวแบน แบ่งออกเปน็ 4 ประเภท • พฤติกรรมความเคยชิน (Habituation เป็นพฤติกรรมทเ่ี กิดจากการท่ีสตั วห์ ยุดตอบสนอง ต่อสิ่งเร้าที่ซ้ำ ๆ กัน เนื่องจากไม่ได้รับการตอบแทนที่เหมาะสม หรือเปลี่ยนพฤติกรรมหรือ การตอบสนองแบบเดมิ เนอื่ งจากความคุ้นชิน เช่น อกี าเลิกกลวั ห่นุ ไล่กา เมอื พบว่าหนุ่ ไล่กาไม่ สามารถทำอะไรอกี าได้

• พฤตกิ รรมการฝังใจ (Imprinting) : มีความใกล้เคียงกบั พฤติกรรมที่มมี าแต่กำเนิดมาก มกั พบในสัตว์ขณะยังเล็ก ทม่ี ชี ่วงฝังใจตอ่ สิ่งที่พบได้ เรยี กว่า ชว่ งวิกฤต (Critical Period) ซ่ึงมีช่วงเวลา จ ากดั เพราะหากเลยช่วงเวลาน้ไี ป พฤตกิ รรมกจ็ ะไม่ เกดิ ขึ้น โดยการฝังใจนี้อาจเกิดขนึ้ เพียง ระยะหนึ่งหรือ จำไปตลอดชีวติ • การเชือ่ มโยง (associative learning) : เป็นพฤติกรรมที่ เกดิ ขน้ึ หลังจากได้รับสง่ิ เรา้ ท่ที ำใหเ้ กดิ การตอบสนองแบบเดิม หลาย ๆ ครั้งจะทำให้เกดิ การเช่ือโยงกบั สง่ิ เรา้ ตา่ ง ๆ แบ่งเป็น 2 แบบ แบบมเี งอื่ นไข และการลองถกู ลองผิด แบบมีเงอ่ื นไข เป็นการเรยี นรขู้ องสตั ว์ โดยนำสิ่งเร้าชนิดหนึ่งเข้า ไปแทนส่ิงเรา้ เดิมเพื่อชักนำให้สตั วเ์ กิด การตอบสนองชนิดเดยี วกันขนึ้ เรยี กส่งิ เร้าท่ีแทนเขา้ ไปใหมว่ ่า ส่ิงเรา้ เทยี ม หรือ ส่ิงเรา้ มี เงื่อนไข (conditioned Stimulus) และส่ิงเร้าแทจ้ รงิ (Unconditioned Stimulus) • สนุ ขั หล่งั น้ำลายทุกคร้ัง เมื่อเห็น อาหาร อาหารเปน็ ส่ิงเรา้ ท่แี ทจ้ รงิ • ระหวา่ งให้อาหารสุนขั ทุกครงั้ จะสัน่ กระดิ่งควบคไู่ ปด้วย • ต่อมา เม่อื สน่ั กระด่ิง สุนัขก็หล่ังน้ำลาย กระดิ่งเป็นสิ่งเรา้ เทยี ม (สิ่งเร้ามเี ง่ือนไข)

การลองผดิ ลองถกู (Operant conditioning หรอื Trial and error) หมายถงึ การท่ีสัตวเ์ รยี นรู้ทจี่ ะเชื่อมโยงพฤติกรรมหนึ่ง กับการได้รางวัลหรือการถูกลงโทษ เม่ือได้รางวลั สัตว์ก็ จะแสดงพฤติกรรมนัน้ ซ้ำ ๆ แต่เมือ่ ถกู ลงโทษสตั ว์ก็จะ หลกี เลย่ี งทจี่ ะแสดงพฤตกิ รรมนัน้ อีก เช่น การเดินในทางวกวนไปหาอาหารของหนูและหนูสามารถ เดนิ ทางไปหาอาหารและหาทางออกได้ในระยะเวลาอันสั้น หลงั จากท่ีไดท้ ดลองเดนิ มากอ่ น • การใชเ้ หตุผล (Insight learning หรือ reasoning) หมายถงึ การที่ สตั วส์ ามารถแสดงพฤติกรรมได้ถกู ตอ้ งต้ังแตค่ รงั้ แรกถงึ แมว้ ่าสตั วน์ ีจ้ ะ ไมเ่ คยมีประสบการณ์มาก่อน นพฤติกรรมที่มีพฒั นาการสงู สุดของการเรียนรู้ เป็นการตอบสนอง ของสัตวท์ ี่มีระบบประสาท มีสมองสว่ นหนา้ เจริญดีมาก เชน่ กลมุ่ ของ สัตว์เลี้ยงลกู ด้วยนมชน้ั สูง - มนุษย์สามารถแก้ไขปัญหาตา่ ง ๆ ที่ประสบเจอใชีวิตประจำวันได้ โดย ใชเ้ หตุผลและประสบการณ์ในอดตี - ลงิ ซิมแพนซี สามารถเอากล่องมาตอ่ กันข้ึนไป เพอ่ื หยิบกล้วยท่ีแขวนไวบ้ นเพดานมากินเปน็ อาหารได้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook