FMS_A5

FMS REFORMS ยกระดับ เพ่อ� ปรบั เปล่ียน ผชู ว ยศาสตราจารย ดร.ณฐั กติ ต์ิ อินทรสวรรค

ประวัตแิ ละผลงาน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณฐั กติ ต์ิ อนิ ทร์สวรรค์ ชื่อ-นามสกลุ (ภาษาไทย) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ณฐั กติ ต์ิ อนิ ทร์สวรรค์ (ภาษาองั กฤษ) Asst. Prof. Dr. NATTAKIT INSAWAN ตำ� แหน่งบรหิ ารปัจจบุ ัน 1. กรรมการสภามหาวทิ ยาลยั ราชภัฏนครราชสีมาผู้ด�ำรงตำ� แหน่งบริหาร 2. ผอู้ ำ� นวนการสำ� นกั ศลิ ปะและวฒั นธรรมมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครราชสมี า 3. ประธานสภาผอู้ ำ� นวยการสำ� นกั ศลิ ปะและวฒั นธรรมมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั แหง่ ประเทศไทย กล่มุ ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ 4. หวั หนา้ หนว่ ยอนรุ กั ษท์ รพั ยากรทางธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มทางศลิ ปกรรม จงั หวัดนครราชสีมา 5. หนา้ หนว่ ยอนรุ กั ษท์ รพั ยากรทางธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มทางศลิ ปกรรม (กลุ่ม 8 นครชัยบรุ ินทร์) นครราชสีมา ชัยภมู ิ บรุ ีรัมย์ และสุรนิ ทร์

ประวัติการศกึ ษา ปริญญาตร ี 2538 ศศ.บ. (นิเทศศาสตร์) มหาวิทยาลัยราชภฏั พบิ ูลสงคราม จ.พษิ ณโุ ลก ปรญิ ญาโท 2541 บธ.บ. (การตลาด) มหาวทิ ยาลยั ศรีปทุม ปริญญาเอก 2550 กจ.ด. (การจดั การการสอ่ื สาร) มหาวิทยาลยั สวนดสุ ติ (ดษุ ฎีนิพนธ์ยอดเยี่ยม) Certificate: “Strategic Management” University of California Berkeley, USA Certificate: “English for Academic and Research Communication” (Higher Intermediate Level) The University of Queensland, Australia ประสบการณ์ด้านการบริหาร การบริหารองค์กร ปจั จบุ นั ผอู้ �ำนวยการสำ� นกั ศิลปะและวฒั นธรรม (วาระที่ 2) มหาวิทยาลัยราชภฏั นครราชสมี า 2557-2560 ผ้อู ำ� นวยการสำ� นกั ศลิ ปะและวัฒนธรรม (วาระท่ี 1) มหาวิทยาลัยราชภฏั นครราชสีมา 2553-2556 รองผู้อำ� นวยการสำ� นกั ศลิ ปะและวัฒนธรรม (วาระที่ 2) มหาวิทยาลัยราชภฏั นครราชสีมา 2549-2552 รองผอู้ ำ� นวยการสำ� นกั ศลิ ปะและวัฒนธรรม (วาระท่ี 1) มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา การบรหิ ารหลักสูตร 2554-2557 ประธานหลักสูตรนเิ ทศศาสตรมหาบัณฑติ (การจัดการส่ือสารแบบบรู ณาการ) 2551-2554 ประธานหลกั สตู รบริหารธรุ กจิ (การตลาด)

ผลงานวชิ าการและงานวิจยั เอกสาร/ตำ� รา (1) การจดั การการสอื่ สารทางการตลาด (2) การเป็นผูป้ ระกอบการสมยั ใหม่ (3) พฤตกิ รรมผู้บรโิ ภค (4) หลักการตลาด งานวจิ ยั (1) การศึกษาและจัดท�ำคู่มือประเมินขีดความสามารถในการรองรับของแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม. (2563). ส�ำนักงานพัฒนา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยแี หง่ ชาติ (สวทช.) (2) การสร้างมูลค่าเพ่ิมผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยเอกลักษณ์และส่ิงบ่งช้ีทางภูมิศาสตร์ (GI) ของผลิตภัณฑ์ต่อการยกระดับการท่องเที่ยว เชิงธรณีของอทุ ยานธรณีโคราช (Khorat Geopark). (2563) (3) พฤตกิ รรม ความตอ้ งการของนกั ทอ่ งเทยี่ ว และปจั จยั ทางการตลาดในมติ เิ อกลกั ษณแ์ ละสงิ่ บง่ ชที้ างภมู ศิ าสตร์ (GI) ผลติ ภณั ฑช์ มุ ชน ของนักทอ่ งเที่ยวตอ่ การยกระดบั การท่องเทย่ี วเชิงธรณขี องอุทยานธรณโี คราช (Khorat Geopark). (2562) (4) การศึกษาพฤติกรรมและความต้องการของนักท่องเท่ียวชาวต่างชาติต่อการท่องเท่ียวเชิงการแพทย์ในประเทศไทย. (2554). สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม

(5) การศึกษาพฤติกรรมและความต้องการท่ีมีต่อการใช้รถบรรทุกขนาดเล็ก “รถบ๊ิคอัพ” ในเขตภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. (2554). บรษิ ัท โตโยตา้ มอรเ์ ตอร์ ประเทศไทย จ�ำกดั (6) การวิจัยและพัฒนาเพ่ือการแก้ไขปัญหาความยากจนของชุมชนในแหล่งอารยธรรมตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง. (2553). ส�ำนักงาน คณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) (7) การศกึ ษาเพอ่ื พฒั นาศนู ยก์ ารเรยี นรทู้ อ้ งถนิ่ แหลง่ อารยธรรมบา้ นโนนวดั ตำ� บลพลสงคราม อำ� เภอโนนสงู จงั วดั นครราชสมี า. (2550) (8) การศึกษาเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนต�ำบลพลสงคราม เพ่ือรองรับการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ท้องถิ่น แหล่งอารยธรรมบ้านโนนวัด ตำ� บลพลสงคราม อ�ำเภอโนนสูง จงั หวัดนครราชสีมา. (2550) (9) การพฒั นาการประชาสมั พันธก์ ารท่องเทยี่ วของ อบต.ในกลมุ่ อีสานใต.้ (2550). สำ� นักงานคณะกรรมการวิจัย แห่งชาติ (วช.)

ผลงานและความสำ� เรจ็ ระดบั ชาตแิ ละนานาชาติ TIMELINE ความท้าทายภายหลังจากเข้ารับต�ำแหน่งผู้อ�ำนวยการส�ำนักศิลปะและวัฒนธรรม เม่ือปี พ.ศ. 2557 ในฐานะผู้อ�ำนวยการส�ำนักศิลปะและวัฒนธรรมคนแรกท่ีมาจากสายงาน “บริหารธุรกิจ” ส่ิงแรกที่คิดคือ ปฏิรูปการท�ำงานส�ำนักฯ ใหม่ท้ังหมด แต่ไม่ใช่การเร่ิมต้นท่ีจะปฏิรูปที่ตัวบุคคลแต่เป็นการเริ่มต้นด้วย “การวางเป้าหมายความสำ� เรจ็ ตามเส้นทางการพฒั นา” หรือที่เรียกวา่ “Timeline แหง่ ความสำ� เรจ็ ” โดยระบุ ความสำ� เร็จเชงิ ประจกั ษด์ ้วยผลสัมฤทธิ์เปน็ รายปี โดยมผี ลลัพธ์ความสำ� เรจ็ ดังน้ี พ.ศ. 2556 ยกระดับปรับปรุง “พิพิธภัณฑ์เมืองนครราชสีมา” เป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม เพยี งแหง่ เดยี วในจงั หวดั นครราชสมี า ทเ่ี ลา่ เรอื่ งเมอื งโคราช พ.ศ. 2557 เปน็ เจา้ ของเทศกาลทางศลิ ปวฒั ธรรม ระดับโลก “เทศกาลโคราชศิลปะและวัฒนธรรมนานาชาติ” โดยมีการจัดติดต่อกัน 5 ปี อย่างต่อเน่ือง พ.ศ. 2558 ยกระดับมรดกภูมิปัญญา “ประกวดหมอเพลงโคราช ชิงถ้วยพระราชทานฯ” พ.ศ. 2559 พัฒนา แหล่งเรียนรู้มีชีวิต “เรือนโคราช” พ.ศ. 2560 ยกระดับการสร้างมูลค่าเพิ่มทางศิลปวัฒนธรรมด้วยการ “พัฒนาศูนย์ประสานงานด้านการท่องเท่ียวเชิงวัฒนธรรม” พ.ศ. 2561 ได้รับรางวัลพระราชทานจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ “รางวัลอนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรมดีเด่น ประจ�ำปี 2561” พ.ศ. 2562 จัดท�ำวารสารวิชาการ “ศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน” นับเป็นวารสารทางศิลปวัฒนธรรมฉบับแรกของ ประเทศไทย ท่ีเกิดจากความร่วมมือของมหาวิทยาลัยราชภัฏในกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้ง 11 แห่ง พ.ศ. 2563 พัฒนาพิพิธภัณฑ์ “วิถีชีวิตคนโคราช” เป็นการพัฒนาพิพิธภัณฑ์ส่วนต่อขยายจากส่วนเดิม ที่เป็นเร่ืองประวัติศาสตร์เมืองโคราช พ.ศ. 2564 ส�ำนักศิลปะและวัฒนธรรม ม.ราชภัฏนครราชสีมา ได้รับ การจัดอันดับจาก Times Higher Education : THE สถาบันจัดอันดับมหาวิทยาลัยท่ีมีชื่อเสียงของโลก โดยผลงานของสำ� นกั ศลิ ปะและวฒั นธรรม มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครราชสมี า เปน็ 1 ใน 8 มหาวทิ ยาลยั ของเอเชยี ทม่ี ผี ลงานเปน็ เลศิ ดา้ นนวตั กรรมทางศลิ ปะ นบั เปน็ มหาวทิ ยาลยั จากประเทศไทยเพยี งแหง่ เดยี วท่ีไดร้ บั รางวลั น้ี



แวล�สะยั แทนศั วนทางการบรห� าร 1 2 3 FMS RANKING RESEARCH GRADUATES คณะว�ทยาการจดั การ & INNOVATION LEADERSHIP ผชู ว ยศาสตราจารย ดร. ณฐั กิตติ์ อนิ ทรส วรรค การเปน คณะวช� าทม่ี หี ลกั สตู ร การสรางผลงานว�จยั การผลติ บณั ฑติ ทม่ี คี ณุ ภาพ เปนท่ยี อมรบั ระดับประเทศ ท่มี ีคุณภาพในระดับสงู ทัง้ Hard Skills ดวยความมุงมั่นที่จะพัฒนาใหคณะว�ทยาการจัดการ มีผลกระทบในระดับสากล และ Soft Skills มหาวท� ยาลัยราชภฏั นครราชสมี า เปนมหาวท� ยาลัยช้นั นำดา น ในดา นใดดานหนึ่ง ว�ทยาการจัดการของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือและเปน “ที่พ�่งของทองถิ�น” ตอการขับเคลื่อนพัฒนาใหทองถิ�นมีความ ไดร ับการจดั อนั ดบั คณุ ภาพ มนี วัตกรรม มบี ณั ฑิตที่มภี าวะ มั่นคงอยางยั่งยืน แตดวยกระแสแหงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดข�้น จากสถาบันจดั อนั ดับ ทนี่ ำไปใชพฒั นาทอ งถ�นิ ความเปนผูน ำสูง มจี ิตอาสา สงผลตอการพัฒนาในทุกมิติ คณะว�ทยาการจัดการจึงตอง ไดอยางเปน รปู ธรรม เรงพัฒนาเพ�่อ “ยกระดับ” และปรับเปลี่ยนการพัฒนา ทเ่ีปน ทย่ี อมรบั ในระดบั ประเทศ และทำงานรวมกับชุมชน คณะว�ทยาการจัดการ เพ�่อสรางความไดเปร�ยบเชิงกลยุทธ หร�อระดับสากล ไดเ ปน อยางดี ดวย “ความทาทายเชิงกลยทุ ธ” ใน 9 มติ ิ ประกอบดวย

4 5 BIG 6 7 8 9 FINANCIAL SUFFICIENCY INTERNATIONAL FMS SUSTAINABILITY QUALITY DATA ECONOMY COMPETITION BRANDING ACCREDITATION สรา งใหค ณะวท� ยาการจดั การ FOR STRATEGICPROPOSE สงเสรม� สนับสนุน คณะวท� ยาการจดั การ มคี วามมน่ั คงทางดา นการเงน� การแขง ขันในทกุ ระดับ การเขาสมู าตรฐาน ไดรบั การยอมรบั มฐี านขอมลู ทเ่ี ปน ประโยชน ปลูกผงั หลักปรชั ญา ทง้ั ระดบั ชาติ และสากล ในระดบั สากล และการคลงั ถกู ตองและเปนปจ จบ� ัน เศรษฐกจิ พอเพย� ง มีภาพลกั ษณที่มีคุณคา อนั เปนแนวทางทเ่ี หมาะสม ทง้ั ดานการเรย� นการสอน และนา เชือ่ ถือ มุงแสวงหารายได สามารถนำฐานขอ มูล ในสถานการณป จจบ� ัน และการบรห� ารจัดการ ในหลากหลายมิติ ไปใชเ พ่อ� การตัดสนิ ใจ และแสวงหาโอกาส ประยกุ ตใ ชใ นการบรห� ารจดั การ ไดรับการรับรอง เพ่อ� กอ ใหเ กิด ความคมุ คา มาตรฐานสำคัญๆ ในมติ อิ ื่นๆ ได ทัง้ ในระดับชาติ และสากล มีเหตผุ ล มถี ูมิคุม กัน มคี วามรู และคณุ ธรรม ความทา ทายเชิงกลยทุ ธ FMS CHALENGE

เป้าประสงคห์ ลกั (Goal) “FMS Recognition and Destination” เป็นคณะที่ได้รับ การยอมรับและเป็นจุดหมายปลายทางของการเรียนรู้วิทยาการจัดการ ในระดับภมู ิภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื ” วสิ ยั ทัศน์ (VISION) “ขยายโอกาสทางการศึกษาอย่างไร้ขีดจ�ำกัด พัฒนาให้ FMS เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต จัดการศึกษาเชิงบูรณาการ กบั การทำ� งานจรงิ พฒั นากำ� ลงั คนทกุ ชว่ งวยั ใหเ้ ปน็ คนดี คนเกง่ มคี ณุ ภาพ ตรงกับความต้องการของประเทศในอนาคต ด้วยฐานความรู้ และ ฐานความคิดท่ีเป็นสหวิทยาการ” โดยมีแพลตฟอร์ม (Platforms) 5 แพลตฟอร์ม ในการบรหิ ารคณะวทิ ยาการจดั การ ดังน้ี

FMS Platforms FMS Academic FMS Research FMS Student & EducationReforms & InnovationREFORM affairs Reforms ยกระดับการจดั การเรย� นการสอน สง เสรม� ใหม ผี ลงานการวจ� ยั และนวตั กรรม สรา งนกั ศกึ ษานกั คดิ สบู ณั ฑติ นกั พฒั นา FMS Life Long Learning ท่ีไดรบั การยอมรับ มคี ุณภาพสูง ทม่ี คี วามรู มที กั ษะศตวรรษท่ี 21 จรรยาบรรณวช� าชพี ดว ยการจดั การศกึ ษาเชิงประสบการณ และมีประสทิ ธิภาพ สกู ารพฒั นาเชงิ พ�น้ ที่ (Experiential Education) กอใหเ กิดการกระจายความเจร�ญ และมคี ณุ ลกั ษณะของการเปน ผปู ระกอบการ ท้ังมิติทางสังคม รวมถงึ มติ ริ ายได สามารถบรู ณาการศาสตรต า งๆ บนระบบนเิ วศการเร�ยนรทู มี่ ีศกั ยภาพ อันจะนำไปสูค วามเขมแขง็ ตอ การสรา งบัณฑิตคุณภาพ ของเศรษฐกจิ ทองถน�ิ ไดอ ยางย่ังยนื เพอ่� การยกระดบั สกู ารพฒั นาทง้ั ตนเอง อาชพี ชมุ ชน ตลอดจนสงั คมได ใหเ ปน ทง้ั คนเกง คนดี มจี ติ อาสา และทนั สมยั FMS Administrative FMS Branding systemReforms มุง ไปสคู ณะที่ไดรบั ความชน่ื ชม ออกแบบโครงสราง ยกยองดว ยคุณภาพของบัณฑิต และระบบการปฏบิ ัติงานของคณะ และการบรก� ารว�ชาการ ทตี่ อบสนองตอ พันธกจิ หลกั ในระดบั ชาติและสากล ในขณะทต่ี องขับเคลอื่ นยทุ ธศาสตร ผานการเผยแพรข อมูลและการสือ่ สาร และจ�ดเนนของคณะ ดว ยทรัพยากรบุคคล องคก รเชงิ รกุ สกู ลุมเปา หมาย ทมี่ ีคุณภาพและส�งิ สนบั สนุนที่เหมาะสม ภายใตแ นวคดิ FMS Excellence แบบบูรณาการ



Platform 1 FMS Academic & Education Reforms คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาต้องเป็น “องค์กรการศึกษาด้านวิทยาการจัดการส�ำหรับทุกช่วยวัยของชีวิต” หรือ FMS Life Long Learning ตอ้ งเปดิ มมุ มองใหม่ว่าลูกค้าหรือนักศึกษาของ FMS จะไมใ่ ชแ่ คน่ ักเรยี นทเ่ี ขา้ มาเรียน 2-4 ปี อกี ต่อไป แตจ่ ะเปน็ นักศกึ ษาท่ีสามารถเรียนได้ตลอดเวลาโดยไมม่ ขี อ้ จำ� กดั ว่าจะจบอะไรมา อายเุ ทา่ ไร แตส่ ามารถทจ่ี ะเข้ามาในคณะเพือ่ “อพั เกรด” หรอื “ยกเคร่ือง” ความร้หู รือทักษะของตนเองได้ตลอดเวลา โดยมกี ลยุทธ์การบรหิ ารวชิ าการและจดั การศกึ ษา ดังน้ี 1. พัฒนาหลักสูตรที่ตอบสนองต่อยุทธศาสตร์ชาติ ปรับปรุงหลักสูตรให้มีความทันสมัยและมีความน่าสนใจอยู่ตลอดเวลา ทั้งด้านเนื้อหา และ ดา้ นทกั ษะใหม่ โดยเฉพาะการพฒั นาและเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพทรพั ยากรมนษุ ยส์ ำ� หรบั นกั ศกึ ษา ศษิ ยเ์ กา่ บคุ คลทว่ั ไป เชอื่ มโยง (NeEC, Startup) และวิสาหกจิ ฐานนวัตกรรม (Innovation-driven Enterprises: IDEs) เปน็ ตน้ 2. จัดต้ังหน่วยงานที่คอยติดตาม-ตอบสนองลูกค้า หรือผู้เรียนอยู่ตลอดเวลาผลักดันให้หลักสูตรได้รับการรับรองตามเกณฑ์มาตรฐาน ระดบั สากล เชน่ U-Multi Rank, Times Higher Education 3. มีหน่วยสนับสนุนการจัดการศึกษาเชิงประสบการณ์ของคณะ หรือ FMS Experiential Education Center ท่ีท�ำหน้าที่ขับเคลื่อนออกแบบ และสนบั สนนุ ให้หลกั สูตรจัดการศึกษาควบคู่ไปกับการทำ� งานจรงิ 4. พฒั นาและยกระดบั ระบบการจดั การเรยี นการสอนเพอ่ื สง่ เสรมิ การเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ (LifeLongLearning)และทกั ษะเพอื่ อนาคตเพอื่ เพมิ่ พนู สมรรถนะใหมๆ่ รองรบั อาชพี ทเ่ี ปลย่ี นแปลงไปดว้ ยการพฒั นาโปรแกรมการศกึ ษาและการฝกึ อบรมผา่ นการศกึ ษาในระบบปกติ (FormalEducation) การศึกษานอกระบบ (Informal Education) และการศึกษาตามอธั ยาศัย (Non-formal Education) ดงั ต่อไปนี้

ยกระดบั ศกั ยภาพการเรยี นการสอนออนไลน์ เพมิ่ หลกั สตู รออนไลน์ 100% โดยเฉพาะหลกั สตู รระยะสน้ั และหลกั สตู รประเภท Non-degree ระบบพัฒนาความรู้และทักษะส�ำหรับศิษย์เก่า บคุ ลากรวยั ทำ� งานและผสู้ ูงวัยผา่ นการฝกึ อบรมระยะสน้ั (Upskill & Reskill) และการพฒั นา หลกั สูตรการเรยี นแบบระยะสน้ั แบบ Nano-degree พัฒนาหลักสูตรออนไลน์แล้วเปิดให้เรียนฟรีแนว Massive Open Online Courses: MOOCs ซึ่งเป็นหลักสูตรท่ีเน้นเนื้อหาง่ายๆ ใชเ้ วลาเรยี นไมน่ าน การปรับระบบการศึกษาให้รองรับความต้องการของคนท�ำงานและเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีโอกาสเทียบโอนรายวิชา เช่น การพัฒนาระบบ ธนาคารหน่วยกจิ (National Credit Bank System) 5. ยกระดับศักยภาพของอาจารย์และบุคลากรและนักศึกษา ด้วยระบบนิเวศท่ีเอ้ือต่อการเรียนรู้ ด้วยเทคโนโลยีท่ีทันสมัย มีบรรยากาศ ความเป็นธุรกิจ ให้เป็น FMS Smart Faculty ท่ีประกอบด้วย ICT based, Co-working Space, Intelligent Library, Inter Campus Communication, International Center, Educational Management Information System

Platform 2 FMS Research & Innovation REFORM ดว้ ยเปา้ หมาย Reinventing University ต่อการสรา้ งและพฒั นาคนในศตวรรษที่ 21 ด้วยองคค์ วามร้แู ละนวัตกรรมเพือ่ ขับเคล่ือนประเทศ ตามแนวทาง Value-based Economy โดยการทำ� เนนิ งานแบบจตรุ ภาคี (Quadruple Helix) ตอ่ การพฒั นา “นวตั กรทางธรุ กจิ และนวตั กรชมุ ชน” โดยมขี อบข่ายดังนี้ 1. พัฒนาศักยภาพและเพ่ิมขีดความสามารถด้านการวิจัย ด้วยการสร้างกลุ่มวิจัยหลายรุ่นท่ีมีลักษณะเป็นสหสาขา (Multi-generation Researcher and Multidisciplinary) โครงการ FMS Research & Innovation Train the Trainer 2. สง่ เสรมิ สนับสนุนใหเ้ กดิ Global Connectivity ด้วยการสรา้ งความร่วมมอื วจิ ัยกับสถาบนั /โครงการวจิ ัยระดับนานาชาติแบบ “สหสถาบัน” ท่มี ี Global Impact โดยใช้ศกั ยภาพบุคลากรและ Resources จากภายในและภายนอกคณะวทิ ยาการจัดการ 3. สรา้ งระบบสนบั สนนุ การวจิ ยั ทค่ี รบวงจรจากตน้ นำ้� ถงึ ปลายนำ้� (Research Value Chain) ดว้ ยการวจิ ยั แบบ Demand-driven ท่ีไดข้ อ้ มลู ค�ำแนะน�ำจากผูเ้ ชย่ี วชาญ/ภาคเอกชน/ผู้ใชผ้ ลงานวิจัยจากชมุ ชนมีชอ่ื เสียงและประสบความสำ� เรจ็ จาก ในระดับประเทศ และต่างประเทศ พฒั นาองคก์ รระดบั หนว่ ยงาน เพอื่ สนบั สนนุ การวจิ ยั และการพฒั นานวตั กรรมระดบั คณะตอ่ การออกแบบระบบสนบั สนนุ การวจิ ยั ครบวงจร จนถึงการพฒั นาระบบสนับสนุนการวิจัยปลายน�ำ้ ทเ่ี นน้ การใชป้ ระโยชน์โดยตรงท้ังในเชงิ พานชิ ย์หรือการพัฒนาเชงิ พน้ื ท่โี ดยตรง พัฒนาระบบการถ่ายทอดเทคโนโลยี หรือองค์ความรู้ในมิติต่างๆ ในรูปแบบของหลักสูตรเพ่ือ Upskill/Reskill และระบบเก็บรวมรวมข้อมูล เพื่อการใชป้ ระโยชน์ในอนาคตเปน็ สารสนเทศเพือ่ การตดั สินใจทางธุรกจิ หรอื เปน็ ฐานข้อมลู เพ่อื การพัฒนา FMS Big Data for Business and Area-based Development

4. สร้างระบบนิเวศการวิจัยและนวัตกรรม ที่ท�ำให้เกิดการสร้างผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในสังคมและเชิงพาณิชย์แบบครบวงจร ด้วยการ สนับสนุนบุคลากรท่ีมีศักยภาพ ครุภัณฑ์ และสถานที่ในรูปแบบของการพัฒนา Research & Innovation Complex ท่ีประกอบด้วย Open (multidisciplinary) lab, Technology Transfer Office, Co-working Space, Business, Co-Product Design, Design Thinking พฒั นาระบบนเิ วศการวจิ ยั และนวตั กรรมคณะวทิ ยาการจดั การ : FMS Research & Innovation Ecosystem ทมี่ เี ปา้ หมายรว่ มกนั ระหวา่ ง นกั ศกึ ษา อาจารย์ และบคุ ลากร ต่อการพัฒนาโจทย์การวิจัยด้วยเทคโนโลยแี ละนวัตกรรมการศึกษาแบบ Sandbox สร้างบรรยากาศการวิจัยและการพัฒนานวัตกรรมในคณะวิทยาการจัดการให้มีบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ และการสร้างสรรค์ทางธุรกิจ ภายใต้แนวคิด Startup Thailand, Thailand 4.0 และ Smart SMEs ห้องเรียนในคณะวิทยาการจัดการจึงไม่ใช่แค่ห้องเรียนปกติธรรมดา แต่มันคือบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ทางธุรกิจ ภายใต้สภาพแวดล้อมแห่งความคิดสร้างสรรค์ (Smart Idea) และการแลกเปล่ียนเรียนรู้ และเป็นเวทแี ห่งการฉายแสงของบรรดานวัตกร Platform 3 FMS Student affairs Reforms ปรชั ญาสำ� คญั ของแนวคดิ ตามแพลตฟอรม์ นค้ี อื “FMS สรา้ งนกั ศกึ ษานกั คดิ สบู่ ณั ฑติ นกั พฒั นา” ทม่ี คี วามรู้ มคี วามคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์ มที กั ษะเชงิ นวตั กรรมในศตวรรษที่ 21 ยดึ มั่นในจรรยาบรรณวิชาชพี มีคณุ ลักษณะของการเป็นผู้ประกอบการ โดยมีแนวทางการพัฒนาดังนี้ 1. การส่งเสรมิ การพฒั นานักศกึ ษาแบบองคร์ วม (Holistic Education) ระหวา่ ง Soft Skills ที่บรู ณาการกับ Hard Skills อย่าสมดลุ สง่ เสรมิ รปู แบบการสอนแบบ Project based Learning โดยการออกแบบการเรยี นการสอนแบบกจิ กรรมรว่ มหลกั สตู ร (Co-Curriculum) และกจิ กรรม เสริมหลักสูตร (Extra-Curriculum) ร่วมกับการก�ำหนดแผนพัฒนาอาจารย์ท่ีรวมเร่ืองการพัฒนานักศึกษาอย่างชัดเจน ด้วยการก�ำหนด นโยบาย มาตรการ หรือแนวทาง (Guidelines) ในการพัฒนานักศกึ ษาแบบองคร์ วม

2. สร้างระบบนิเวศน์การพัฒนานักศึกษา (Student affairs Ecosystem) ประกอบด้วย การมีส่วนร่วมของผู้ที่เกี่ยวข้อง (Stakeholder Engagement) ในการสร้างระบบการ เรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง การส่งเสริมเครือข่ายหรือแกนน�ำอาจารย์เพ่ือพัฒนาระบบการเรียนรู้สู่ การเปลี่ยนแปลง สร้างความร่วมมือระหว่างอาจารย์ นักศึกษา บุคลากร และผู้ประกอบการหรือภาคเอกชน ในการจัดกิจกรรมร่วมหลักสูตร และกิจกรรมเสรมิ หลักสูตรอย่างสมดุล (Balance out of classes) 3. การสร้างคุณลักษณะ (Characters) ของนักศึกษาและบัณฑิตที่พึงประสงค์ มีลักษณะของการเป็นผู้ประกอบการ มีความรู้ควบคู่คุณธรรม เปน็ ผนู้ ำ� การเปลยี่ นแปลงทตี่ อบสนองตอ่ สงั คมทศิ ทางการพฒั นาประเทศและความเปน็ พลเมอื งโลกและทกั ษะ21stCenturySkills,Entrepreneur, Internationalization, and Management of Educational and Student Affairs 4. การพัฒนา “นักศึกษานักนวัตกร” ส่งเสริมร่วมมือกับหลักสูตรในคณะในการส่งเสริมให้นักศึกษาได้มีโอกาสคิด สร้าง พัฒนา นวัตกรรมสู่ การพัฒนาชุมชนเชิงพ้ืนที่ ด้วยการจัดเวที “นักศึกษานักคิดสู่บัณฑิตนักพัฒนา” คัดสรรค์นวัตกรรมนักศึกษาที่เป็นไปได้สู่การหาทุนต่อยอด เพอ่ื การพฒั นาตอ่ ไปอย่างเปน็ ระบบ 5. ส่งเสริมเชิงรุกและสนับสนุนเครือข่ายศิษย์เก่าสัมพันธ์ เพ่ือร่วมพัฒนานักศึกษาและมหาวิทยาลัย ด้วยการต่อยอดศักยภาพศิษย์เก่า ดว้ ยกระบวนการจดั กจิ กรรมในรปู แบบ Upskill/Reskill ใหต้ อบสนองตอ่ การเปน็ Global Citizen เพอ่ื หนนุ เสรมิ ศกั ยภาพของคณะอนั จะนำ� ไปสู่ การยกระดบั สมาคมหรอื ชมรมศษิ ยเ์ กา่ สมั พนั ธค์ ณะวทิ ยาการจดั การ สรา้ งศกั ยภาพเชงิ บรหิ ารจดั การ และมบี ทบาทสำ� คญั ในการพฒั นาคณะ ท่หี ลากหลาย มีการด�ำเนินกจิ กรรมเชิงสรา้ งสรรคอ์ ย่างต่อเนอื่ งเพอ่ื ภาพลักษณเ์ ชิงคณุ ภาพสสู่ าธารณะ

Platform 4 FMS Administrative system Reforms สร้างความเขม้ แข็งด้านการบรหิ ารจดั การคณะโดยยดึ “หลกั ธรรมาภิบาล” เปน็ ที่ต้ัง ดว้ ยการออกแบบโครงสรา้ งและระบบการปฏบิ ัตงิ าน ตอ่ การขบั เคลือ่ นยุทธศาสตร์และจดุ เน้นของคณะ ด้วยทรัพยากรที่มีทง้ั หมดภายใต้แนวคิด FMS Excellence เปน็ องค์กรขนาดจ�ำกดั ทยี่ ืดหยุน่ (Small but Smart) 1. ปรับโครงสร้างหน่วยงานสนับสนุนของคณะ ที่สะท้อนจุดเน้นของคณะ เช่น หน่วยพัฒนานวัตกรรมทางธุรกิจ หน่วยเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อการเรียนรู้และตัดสินใจทางธุรกิจ หน่วยสื่อสารและสื่อสร้างสรรค์เพ่ือการส่ือสารและสร้างภาพลักษณ์องค์กร โดยใช้แนวคิดทางธุรกิจ (Business-oriented) ทมี่ ีความเปน็ พลวัตตามเวลาทเี่ หมาะสม 2. บรหิ ารการเงนิ ทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพ มคี วามมนั่ คง เพยี งพอและยงั่ ยนื มงุ่ สกู่ ารจดั หารายไดจ้ ากทรพั ยากรทมี่ อี ยู่ เพอ่ื ตอบสนองตอ่ ความเปน็ เลศิ ในการสนับสนุนพันธกจิ และจุดเน้นของคณะวทิ ยาการจัดการ ต้งั แต่พฒั นาแผนแมบ่ ททางการเงนิ การจดั หารายไดท้ ้ังระยะสั้นระยะยาว 3. สรา้ งเสรมิ บคุ ลากรของคณะใหม้ ศี กั ยภาพสงู เพอ่ื รองรบั ตอ่ ความเปลยี่ นแปลงและสอดคลอ้ งกบั จดุ เนน้ ของคณะ ดว้ ยการสรา้ ง“ชมุ ชนวชิ าการ” ในการแลกเปลย่ี นเรยี นรูท้ ้งั มติ ิวชิ าการและปฏบิ ัติการ 4. ยกระดับคุณวุฒิและต�ำแหน่งทางวิชาการของอาจารย์และส่งเสริมความก้าวหน้าของสายสนับสนุน ด้วยจัดท�ำแผนพัฒนาบุคลากร แบบรายบคุ คล หรือ Individual Development Plan: IDP ทัง้ คณุ วฒุ แิ ละตำ� แหน่งทางวชิ าการทต่ี ้องท�ำควบคกู่ นั แล้ว ยังต้องทำ� “แผนพฒั นา อาจารยแ์ บบมุง่ เป้า” โดยแยกการพฒั นาเป็นรายหลกั สตู รทีเ่ หมาะสมสอดคล้องกบั ความสามารถแต่ละกล่มุ 5. พฒั นา FMS Big data ระบบสารสนเทศเพอ่ื การบรหิ ารงานวจิ ยั การเรยี นการสอน การบรกิ ารสงั คม และการบรหิ ารเชงิ กลยทุ ธ์ (FMS Strategic Information System) บูรณาการส่กู ารพฒั นาและมลู ค่าเพ่มิ เชิงเศรษฐกิจท้องถ่นิ

6. ยกระดับขีดความสามารถของโครงสร้างพ้ืนฐานด้านกายภาพของคณะ ด้วยการจัดท�ำแผนแม่บทการพัฒนาพ้ืนท่ีและทรัพย์สินของคณะ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งเชิงวิชาการและเชิงพาณิชย์ รวมไปถึงการสร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่ดีก่อให้เกิดสุนทรียภาพในด้านการเรียน การสอนและการปฏิบตั งิ าน 7. บริหารภายใต้หลักธรรมาภิบาล นอกจากส่งเสริมประสิทธิภาพและยกระดับการปฏิบัติงานแล้วส่ิงส�ำคัญคือการท�ำงานอย่าง “มีความสุข” ด้วยการสร้างส�ำนึกที่ดีร่วมกันในการปฏิบัติงาน มีประสิทธิภาพ ไม่สิ้นเปลือง มีความโปร่งใส ค�ำนึงถึงผู้ที่เก่ียวข้องท่ีจะได้รับผลกระทบ ทั้งทางตรงและทางออ้ ม

Platform 5 FMS Branding มุ่งไปสู่คณะท่ีได้รับความชื่นชมยกย่องด้วยคุณภาพของบัณฑิต และการบริการวิชาการเพ่ือยกระดับชุมชนในมิติเศรษฐกิจและรายได ้ ดว้ ยการเผยแพรข่ ้อมลู การสอ่ื สารผลงานของคณะด้านต่างๆ สสู่ าธารณะและกลมุ่ เป้าหมายอยา่ งเป็นระบบและตอ่ เนอ่ื งไปยังกลุม่ เปา้ หมายตา่ งๆ ทง้ั ภายในและภายนอกมหาวทิ ยาลยั ไดร้ บั รู้โดยมงุ่ เนน้ การสอ่ื สารแบบบรู ณาการ(Integrated University Communication) รวมทง้ั มกี ารตดิ ตาม ประเมนิ ผลการรบั รู้ และระดบั ของความช่นื ชมยกย่อง 1. มงุ่ สกู่ ารยอมรบั ในระดบั ชาตแิ ละสากล การประชาสมั พนั ธอ์ งคก์ รอาจนอ้ ยไป ในโลกยคุ แหง่ การแขง่ ขนั นค้ี งตอ้ งใช้ “การสอ่ื สารทางการตลาด” ดว้ ยการศกึ ษา วเิ คราะห์ ตดิ ตามความเคลอื่ นไหวของการจดั อนั ดบั สถาบนั การศกึ ษา และกำ� หนดเสน้ ทางการพฒั นาศกั ยภาพควบคกู่ บั การสรา้ ง ภาพลักษณ์ของคณะสมู่ าตรฐานและการยอมรับในระดบั ชาติ และสากล ภายใต้กระบวนการรบั รู้ของกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก 2. สรา้ งสัมพนั ธภาพกบั คู่พันธมติ รทางยทุ ธศาสตร์ (Strategic Partner) ด้วยการสรา้ งความสมั พันธแ์ ละจดั การเครือข่ายความร่วมมือกับ ผู้มีส่วนไดส้ ่วนเสีย เชน่ ศิษยเ์ ก่า ผ้ปู กครอง ชุมชน มหาวทิ ยาลัย เครอื ขา่ ย หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพอื่ เป็นขอ้ มลู พืน้ ฐานต่อการวางแผน กลยุทธ์ การบริหารความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ก่อให้เกิดการร่วมมือกันด้านวิชาการ การวิจัย การเรียน การสอน และบริการสังคม อันจะนำ� ไปสภู่ าพลักษณแ์ ละความน่าชน่ื ชม ยกยอ่ ง ต่อไป