Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ร่างพระจริยวัตรด้านการทรงงาน พันเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ปีพุทธศักราช ๒๕๖๔ – ๒๕๖๕

ร่างพระจริยวัตรด้านการทรงงาน พันเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ปีพุทธศักราช ๒๕๖๔ – ๒๕๖๕

Published by qacavalry, 2022-09-01 08:12:50

Description: ร่างพระจริยวัตรด้านการทรงงานพันเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ปีพุทธศักราช ๒๕๖๔ – ๒๕๖๕

Search

Read the Text Version

พระจรยิ วตั รดา้ นการทรงงาน พนั เอกหญิง สมเดจ็ พระเจ้าลูกเธอ เจา้ ฟา้ สิริวัณณวรี นารีรตั นราชกัญญา ปีพทุ ธศักราช ๒๕๖๔ – ๒๕๖๕ (ฉบบั รา่ ง)







พนั เอกหญิง สมเด็จพระเจา้ ลกู เธอ เจ้าฟา้ สิริวณั ณวรี นารีรตั นราชกญั ญา



คำนำ พันเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณ ณ วรี นารีรัตนราชกัญ ญา ปัจจุบัน ทรงดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองการศึกษา โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า ทรงปฏิบัติหน้าที่ ด้วยพระวิรยิ อุตสาหะ อนั เนื่องดว้ ยทรงให้ความสําคัญกบั การฝกึ ม้าและกาํ ลังพล ทรงจดั แนวทางการฝึก กําลังพลและพัฒนาหน่วยอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันและส่งเสริมกําลังพลให้มีโอกาสได้ก้าวเข้าสู่กา ร แข่งขันกีฬาขี่ม้าในระดับนานาชาติ สามารถนำองค์ความรู้ท่ีได้รับมาขยายผลภายในกองทัพบก และวงการขี่ม้าของประเทศ รวมท้ังเสด็จทรงตรวจเยี่ยมหน่วยกองพันทหารม้าท่ี ๒๙ รักษาพระองค์ฯ เพื่อให้พร้อมปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ที่ได้รับมอบหมายอย่างมีประสิทธิภาพและสง่างาม ซึ่งนับว่า เกดิ คุณูปการและผลสมั ฤทธิ์เป็นภาพรวมของกองทพั บก ด้ ว ย น้ ำ พ ร ะ ทั ย ท่ี ท ร งมี ต่ อ ส วั ส ดิ ภ า พ ข อ งม้ า แ ล ะ ก า ร รั ก ษ า ส่ิ งแ ว ด ล้ อ ม เพ่ื อ ป ร ะ โย ช น์ ต่อส่วนรวม ทรงให้ความสำคัญด้านการสัตวบาลและโครงการบ้านพักม้าชราในพระอุปถัมภ์ฯ เพ่ือให้ม้ามีคุณภาพชีวิตที่ดีหลังจากการปลดประจําการ รวมถึงการสร้างศูนย์บริการสุขภาพ และเวชศาสตร์ฟื้นฟูม้า เพ่ือให้เป็นสถานที่บริการสุขภาพของม้า ทั้งด้านการรักษา รวมท้ังเป็น ศูนย์การศึกษาและฝึกงานของบุคลากรด้านสัตวแพทย์ในประเทศไทย การพัฒนาระบบการบริการ ทันตกรรมม้า พระดำริโครงการจิตอาสาพระราชทานเพื่อช่วยเหลือและดูแลตัวม้า คอกม้า เพ่ือสวัสดิการที่ดีของม้า รวมทั้งทรงแนะนําการบริหารจัดการคอกม้าต่าง ๆ ให้ทันสมัย ทัดเทียมกับ นานาประเทศ พระกรุณาธิคุณท่ี พันเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานแก่กำลังพลและหน่วยงานของกองทัพบก จะทำให้กองทัพบก ตลอดจนผู้ที่เก่ียวข้องกับ วงการข่ีม้ามีรากฐานที่ดี มีองค์ความรู้ทางวิชาการท่ีเป็นมาตรฐานเกี่ยวกับการขี่ม้า รวมถึงองค์ความรู้ ท่ีเกี่ยวข้องกับม้าและการดูแลม้า สามารถนำมาพัฒนาให้ทัดเทียมนานาประเทศ ซึ่งจะเป็นผลดี ตอ่ กองทัพบกและประเทศชาติต่อไป พลเอก (ณรงค์พนั ธ์ จิตตแ์ กว้ แท้) ผู้บญั ชาการทหารบก



สารบัญ หน่วยม้าทรงประจำพระองคฯ์ หนา้ ❖พระอัจฉริยภาพทางการกีฬาเพื่อพัฒนากีฬาขี่มา้ ตามมาตรฐานสากล ๑ ❖ผลงานจากพระดำรเิ ปน็ คู่มือการปฏิบัติบำรงุ ม้าเบือ้ งต้น (RSUT HORSE CARE) ๒ ❖ศนู ยบ์ ริการสขุ ภาพมา้ และเวชศาสตร์ฟืน้ ฟมู า้ และการพฒั นาวิทยาการทางดา้ นสตั วแพทย์ ๘ เพื่อคุณภาพชวี ิตของมา้ ในประเทศไทย ๑๐ ❖น้ำพระทัยทท่ี รงมีต่อสวสั ดิภาพของมา้ และการรักษาสิง่ แวดล้อมเพื่อประโยชน์ต่อสว่ นรวม ๒๐ ❖การจัดการแขง่ ขนั กีฬาขีม่ า้ รายการ Princess’s Cup Thailand 2022 ๓๓ ศนู ยก์ ารทหารมา้ ๓๙ ❖เสด็จเปน็ องค์ประธานงานวนั ทหารม้า ประจำปี ๒๕๖๔ และปี ๒๕๖๕ ๔๐ ❖หลักสูตรอบรมสำหรบั ผู้ดแู ลม้า ประจำปงี บประมาณ ๒๕๖๔ ๔๒ ❖พระดำรใิ หป้ รับปรุงตำราเกีย่ วกับมา้ ๔๖ กรมการสตั วท์ หารบก ๕๑ ❖โครงการบา้ นพักมา้ ชราในพระอุปถมั ภส์ มเดจ็ พระเจ้าลูกเธอ เจา้ ฟ้าสิริวัณณวรี นารีรตั นราชกญั ญา ๕๒ ❖การบริการทนั ตกรรมมา้ เคลื่อนท่เี พือ่ ดแู ลฟันและสขุ ภาพภายในชอ่ งปากมา้ ทใ่ี ช้งานของกองทพั บก ๕๗ ❖การจดั ทำคณุ ลักษณะเฉพาะของสิ่งอุปกรณส์ ายการสัตว์ประจำศนู ยบ์ ริการสุขภาพ และเวชศาสตร์ฟืน้ ฟมู า้ ๖๐ ❖การติดตามความคืบหน้าของโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า (African Horse Sickness) ๖๔ กองพลทหารมา้ ที่ ๒ รกั ษาพระองคฯ์ ๗๓ ๗๔ ❖เสด็จทรงตรวจเยย่ี มหนว่ ยกองพันทหารม้าท่ี ๒๙ รกั ษาพระองคฯ์



๑ หน่วยม้าทรงประจำพระองคฯ์

๒ พระอจั ฉริยภาพทางการกีฬาเพื่อพฒั นากีฬาขี่มา้ ตามมาตรฐานสากล ด้วยพระอัจฉริยภาพทางด้านกีฬาของ พันเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ให้ความสนพระทัยทางด้านกีฬาข่ีม้ามาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ และประกอบกับ ทรงมีพระวิริยอุตสาหะในการทุ่มเทพระวรกายฝึกซ้อมการทรงม้าอย่างเต็มพระกำลัง จนในที่สุด พระปรีชาสามารถเป็นที่ประจักษ์ ด้วยการทรงเป็นนักกีฬาทีมชาติไทย สร้างชื่อเสียงในระดับนานาชาติ อกี ทง้ั ยังทรงมพี ระปณธิ านทจ่ี ะพัฒนากฬี าข่ีมา้ ให้ไดต้ ามมาตรฐานสากล เม่ือครั้งท่ี พันเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จทรง ศึกษาต่อและทรงงานด้านแฟชั่น ที่กรุงปารีส สาธารณรัฐฝร่ังเศส ได้ทอดพระเนตรเห็นคนในเมือง ปารีสช่ืนชอบการขี่ม้า รวมทั้งพระสหายชาวต่างประเทศทูลเชญิ ให้ทรงม้า ทำให้พระองค์ทรงรำลึกถึง การทรงม้าเมื่อคร้ังพระเยาว์ โดยทรงได้รับแรงบันดาล พระทัยจาก สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิ ราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณี สิริพั ชร มหาวัชรราชธิดา ทำให้ทรงกลับมาสนพระทัยด้านการ ทรงม้าอกี คร้งั หลังจากเสดจ็ กลบั ประเทศไทย ได้กลับมาทรงม้า ณ กองพลทหารม้าที่.๒.รักษาพระองค์ฯ ทรงมุ่งม่ัน ฝึกซ้อมอย่างจริงจังและได้เข้าร่วมการแข่งขันในระดับ สโมสรภายในประเทศในนามชมรมข่ีม้าหน่วยม้าทรง ประจำพระองค์ฯ ด้วยพระปรีชาสามารถทรงชนะเลิศ ประเภทศิลปะบังคับม้า (Dressage) ระดับ Novice ในการแข่งขันชงิ ชนะเลศิ แหง่ ประเทศไทยปี ๒๕๕๕

๓ หลงั จากนนั้ พันเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลกู เธอ เจ้าฟา้ สิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงเข้า ศึกษาต่อด้านการข่ีม้าช้ันสูง ประเภทศิลปะบังคับม้า (Dressage) และกระโดดข้ามเคร่ืองกีดขวาง (Show Jumping) ในหลักสูตร Internationale de Moniteur D’Equitation เป็นเวลา ๑ ปี ณ โรงเรียน เลอ กาเดรอะ นัวร์ เมืองโซมูร์ สาธารณรัฐฝร่ังเศส (Le Cadre Noire de Saumur in France) ซง่ึ เป็นโรงเรียนสอนข่ีม้า ติดอนั ดับ ๑ ใน ๑๐ ของโลก โดยทรงศึกษาท้ังการเป็นครูฝึกสอนข่ีม้าและ ทรงเป็นนักกีฬา ประเภทศิลปะบังคับม้า (Dressage) และกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง (Show Jumping) รวมถึงทรงเรียนรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการคอกม้า ด้วยพระทัยอันมุ่งมั่นและพระวิริยอุตสาหะ จึงทรงสำเร็จการศึกษาจากสถาบันดงั กล่าว ต่อมากองทัพบกได้กำหนดแผนการศึกษาด้านการทรงม้า ถวายแด่ พันเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในห้วงเดือน มีนาคมถึงตุลาคมของทุกปี (ประมาณ ๗ เดือน) ซึ่งปัจจุบัน ทรงศึกษาด้านศิลปะบังคับม้า กับโค้ช Matthias Alexander Rath (มัทเธอัส อเลก็ ซานเดอร์ ราธ) ณ คอกม้า ชาฟโฮฟ (Gestüt Schafhof) เมอื งโครนแบร์ก สหพนั ธส์ าธารณรัฐเยอรมนี พนั เอก สมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เจ้าฟ้าสิรวิ ัณณวรี นารรี ตั นราชกัญญา ทรงศกึ ษาด้านการทรงม้าเพ่มิ เตมิ กบั โคช้ มทั เธอัส อเล็กซานเดอร์ ราธ

๔ ในระหว่างที่ทรงศึกษาด้านศิลปะบังคับม้าได้ทรงเป็น นักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันกีฬ าซีเกมส์ ครั้งท่ี.๒๗.ที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ถือเป็นการกลับมา ร่วมแข่งขันซีเกมส์อีกครั้งในฐานะนักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทย ห ลั งจ า ก ท่ี ท ร งเป็ น นั ก กี ฬ า ที ม ช าติ ไท ย ใน กี ฬ าแ บ ด มิ น ตั น ทรงเข้าร่วมการแข่งขัน ในประเภทศิลปะการบังคับม้า (Dressage) เป็นตัวแทนนักกีฬาทีมชาติไทย ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ตอ่ ดว้ ยการแข่งขันกีฬาเอเช่ียนเกมส์ คร้ังที่ ๑๗ ณ เมอื งอินชอน สาธารณรัฐเกาหลี เม่ือปี ๒๕๕๗ และการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ ๒๙ ปี ๒๕๖๐.ท่ีกรุงกัวลาลัมเปอร์ สหพันธรัฐมาเลเซีย ในการแข่งขันประเภทศิลปะบังคับม้า (Dressage) ประเภททีม พัน เอก หญิ ง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณ ณ วรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงม้า Prince Charming WPA นำทีม ชาติไทยลงชิงชัย ผลปรากฎว่า ทีมชาติไทยคว้าอันดับ ๒ ได้เหรียญเงินมาครอง ยังความปล้ืมใจให้กับประชาชนชาวไทย เปน็ อย่างยิ่ง รวมไปถึงชยั ชนะล่าสุดท่ีทรงได้รับเหรียญทองประเภททีม ศิลปะบังคับม้า.(Dressage).จากการเข้าร่วมแข่งขันในรายการ “ The 1st FEI Asian Championships 2019”.ที่ จั ด ข้ึ น ใ น ประเทศไทย ณ สนามไทยโปโล แอนด์ อเี ควสเทรยี่ นคลับ พทั ยา นอกจากจะทรงเป็นนักกีฬาแล้ว พันเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ยังทรงเป็นผู้จัดการทีมกีฬาขี่ม้าและผู้ฝึกสอนทีมกีฬาข่ีม้าทีมทหารไทยในการ เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาทหารโลก ซ่ึงจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๙-๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ ณ มหาวิทยาลัย ธุรกิจอู่ฮ่ัน เมืองอู่ฮั่น มณฑลหู่เป่ย สาธารณรัฐประชาชนจีน ซ่ึงพระองค์ทรงวางแผนการฝึกซ้อม การคดั ตัวนกั กฬี าดว้ ยพระองค์เอง

๕ อี ก ท้ั ง ยั ง ท ร ง ส นั บ ส นุ น ก ำ ลั ง พ ล ข อ ง ห น่ ว ย ม้ า ท ร ง ประจำพระองค์ฯ ที่มคี วามสามารถทางด้านกฬี าขีม่ ้า ใหท้ ำการ ฝึกและคัดตัวในการเป็นนักกีฬาข่ีม้าทีมชาติไทยในการแข่งขัน กีฬาระดับนานาชาติ เช่น กีฬาซีเกมส์ กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ กีฬาทหารโลกเพื่อเป็นการสร้างช่ือเสียงให้กับประเทศชาติ ตลอดจนเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ โดยในปี ๒๕๖๔ กำลังพลของหน่วยม้าทรงประจำพระองค์ฯ ได้ทำการฝึกกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง (Show Jumping) ณ ศูนย์ฝึกขี่ม้า Haras deFonetainbelu และฝึกศิลปะการ บั งคั บ ม้ า (Dressage) ณ ศู น ย์ ฝึ กขี่ ม้ า Pamfou.Dressage สาธารณรัฐฝรั่งเศส ในปี.๒๕๖๕ ได้ทำการฝึกและเก็บตัว ณ คอกมา้ Ecurie Livio เมอื งโซมรู ์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยในการแข่งขันกีฬาเอเช่ียนเกมส์คร้ังท่ี ๑๙ ที่เมือง หาวโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่กำลังจะจัดขึ้น หน่วยม้าทรง ประจำพระองค์ฯ ได้ส่งนักกีฬาทำการคัดตัวและมีรายชื่อ เป็นนักกีฬาข่ีม้าทีมชาติไทย ประเภทอีเวนต้ิง (Eventing) จำนวน ๒ นาย

๖ นอกจากพระองค์ทรงให้ความสำคัญ กับนักกีฬาแล้ว ยังทรงให้ความสำคัญกับการดูแลม้า การทำเกือกม้า และการรักษาม้า โดยในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ได้ส่งกำลังพลของหน่วยเข้าฝึกอบรมผู้ดูแลม้า ณ คอกม้า Ecurie Livio เมืองโซมูร์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส ระยะเวลา ๔ เดือน ต้ังแต่วันที่ ๙ มกราคม – ๓๐ เมษายน ๒๕๖๕ และได้รับ ใบรับรองการเป็นผู้ดูแลม้า ซึ่งเป็นเคร่ืองยืนยันความสามารถของ ผู้ดูแลม้าของไทยและจะสนับสนุนให้เป็นผู้ดูแลม้าในการแข่งขัน ระดับนานาชาติ เพ่ือเพิ่มพูนประสบการณ์ของกำลังพลต่อไป ในเรื่องของช่างเกือกม้า ได้ส่งกำลังพลของหน่วยเข้าไปฝึกงาน ณ คอกม้า Ecurie Livio เมืองโซมูร์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส ระยะเวลา ๑ เดือน ตั้งแต่วันที่ ๑๖ ตุลาคม – ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ เพ่ือเพ่ิมพูนความรู้และศึกษาเทคโนโลยีการทำเกือกม้าแบบใหม่ ๆ เพื่อน ำมาป ระยุก ต์ใช้และพัฒ น าก ารท ำเกือกม้ าขอ งหน่วย ต่อไป ในเร่อื งการรักษาม้าได้ส่งสัตวแพทย์ของหน่วยไปทำการศึกษาดูงาน ณ โรงพยาบาลสัตว์ Bailly Vétérinaires เมือง เมอลัง สาธารณรัฐฝรั่งเศส ในระหว่างวันท่ี ๒๖ – ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๕ เพื่อจะได้นำความรู้ ท่ีได้ มาดูแลม้าที่หน่วย ตลอดจนการถ่ายทอดความรู้สู่หน่วยงาน ภายนอกต่อไป สัตวแพทย์ของหน่วยไปทำการศกึ ษาดงู าน ณ โรงพยาบาลสตั ว์ ใบรับรองความสามารถสำหรบั ผู้ปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ดี ูแลมา้ Bailly Veterinaires เมือง เมอลัง สาธารณรฐั ฝรงั่ เศส

๗ จวบจนปัจจบุ ัน พันเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ยังทรงทำการ ฝึกซ้อมอย่างหนักและแข่งขันในระดับ “Prix St George” และ “Intermediate I” ด้วยพระวิริยอุตสาหะท่ีทรงมีต่อ การพัฒนาการทรงม้า จึงได้มีการฝึกฝนเพ่ิมพูนทักษะ ในระดับที่สูงข้ึน ในระดับ Grand Prix เเละ ระดับ Grand Prix Special.ซึ่ งนั บเป็ นระดั บที่ สู งท่ี สุ ดในการแข่ งขั นศิ ลปะ บั งคั บม้ า (Dressage) เพ่ื อเข้าร่วมการเเข่งขันในระดั บ International เเละการคัดเลือกท่ีจะมีขึ้นในอนาคตสำหรับ การแข่งขันมหกรรมกีฬา “ปารีส โอลิมปิกเกมส์ 2024” (Paris Olympic Games 2024) โดยทรงมี พระปณิ ธานอั น แน่วแนใ่ นการพฒั นาฝมี ือ เพ่อื สรา้ งช่อื เสียงให้กบั ประเทศไทย

๘ ผลงานจากพระดำรเิ ป็นคู่มอื การปฏบิ ัตบิ ำรุงม้าเบ้อื งตน้ (RSUT HORSE CARE) เป็นที่ประจักษ์กันดีว่า พันเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงเป็นเจ้าหญิงที่เป่ียมด้วยพระอัจฉริยภาพหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นกีฬา ดนตรี หรือแฟช่ัน อีกทั้ง พระองค์ยังทรงมุ่งมั่นในการฝึกฝน เพื่อเพิ่มพูนพระทักษะในด้านต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมออีกด้วย ซึ่งกีฬาข่ีม้า นับเป็นอีกหนึ่งกีฬาที่พระองค์ทรงสนพระทัยเป็นอย่างมาก โดยทรงเป็ นองค์อุปถัมภ์ กีฬาขี่ม้าของประเทศไทย และทรงเป็นองค์อุปถัมภ์หน่วยม้าทรงประจำพระองค์ฯ ด้วยพระองค์ทรงมี พระปณิธานอันแรงกล้าที่จะพัฒ นาการปฏิบัติบำรุงม้าในประเทศไทย ให้มีความก้าวหน้า อยู่บนหลักวิชาการ ผ่านการแสวงหาองค์ความรู้เกี่ยวกับม้า นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงเป็น ผูส้ รา้ งแรงบนั ดาลใจและแบง่ ปันองค์ความร้ใู หแ้ ก่นักกีฬาขมี่ ้าของหน่วยอกี ด้วย ด้วยพระปรชี าสามารถในการข่มี า้ และทรงมคี วามเข้าใจอย่างแท้จริงในการดูแลม้า ทรงเลง็ เห็น ถึงองค์ความรู้ต่าง ๆ ท่ีได้จากประสบการณ์ในการถวายงานการทรงม้าทั้งภายในและต่างประเทศ ของกำลังพลหน่วยม้าทรงประจำพระองค์ฯ ซ่ึงดูแลม้าทรงประจำพระองค์ฯ มาเป็นระยะเวลานาน และสามารถดูแลมา้ ทรงประจำพระองค์ฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จงึ มีพระประสงค์ให้ทำการรวบรวม องค์ความรู้ในการปฏิบัติบำรุงม้าเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อเผยแพร่ให้กับผู้ที่สนใจได้ ทำการศึกษา และเป็นแนวทางในการดูแลม้าในประเทศไทย ภายหลังจึงได้มีการรวบรวมองค์ความรู้เหล่าน้ันเพื่อให้ นำไปถ่ายทอด อีกทั้งยังทรงให้เพ่ิมพูนความรู้ใหม่ ๆ ที่ได้มาจากการฝึกศึกษาของกำลังพลที่ได้ไป ต่างประเทศนอกจากนี้ยังมีการปฏิบัติที่สำคัญอันเกิดจากประสบการณ์ที่ หน่วยม้าทรงประจำพระองค์ฯ ไดม้ โี อกาสเรยี นรกู้ บั โค้ชชาวต่างชาติและผูด้ ูแลมา้ มืออาชพี ในการดแู ลม้าซง่ึ ใช้เปน็ หลักปฏบิ ัติสากล

๙ จนได้กลายมาเป็น คู่มือการปฏิบัติบำรุงม้าเบ้ืองต้น Horse Care โดยในคู่มือได้รวบรวม เน้ือหาทั้งจากตำราท่ีเกี่ยวข้องในการปฏิบัติบำรุงม้าในเรื่อง การปฏิบัติบำรุงม้าทั้งก่อนและ หลังการใช้งาน รวมทั้งเรื่องต่าง ๆ ท่ีผู้ดูแลม้าจำเป็นต้องรู้ เป็นขั้นตอน เข้าใจง่ายและเห็นภาพ การปฏิบัติท่ีชัดเจน สามารถปฏิบัติตามได้ และสามารถนำไปเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ให้กับหน่วยงานอื่นได้ โดยเนื้อหาภายในไดก้ ล่าวถึงวิธกี ารต่าง ๆ ในการดูแลม้า อาทิ การตรวจม้าก่อนการใช้งาน การใช้เครื่องสัตวภัณฑ์ การใช้อุปกรณ์ ในปฏิบัติบำรุงม้าและการยืดกล้ามเนื้อม้า เป็นต้น ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ก็เพื่อใช้เป็นแนวทางสำหรับผู้ที่สนใจในเรื่องม้าได้ศึกษา และ เป็นแนวทางในการดูแลม้าในประเทศไทย ซ่ึงจะเป็นการเสริมสร้างนักกีฬาข่ีม้า ให้มีนิสัยรักม้าด้วยการดูแลม้าท่ีถูกต้องและให้นักกีฬาสามารถใช้ม้าได้อย่างเต็ม ประสิทธิภาพ จึงจะมีความสุขท้ังผู้ขี่และม้า ด้วยทรงเป็นตัวอย่างที่น่ายกย่อง ในความเป็นนักกฬี าทีร่ กั และดแู ลมา้ เปน็ อย่างดี ดง่ั คำท่ีว่า “ม้าทเ่ี ก่งยอ่ มมาจากการดูแลม้าท่ีดี” QR Code E-Book

๑๑๐๐ ศูนย์บริการสขุ ภาพและเวชศาสตรฟ์ ื้นฟมู า้ และการพฒั นาวิทยาการทางด้านสัตวแพทย์เพอื่ คณุ ภาพชีวิตของมา้ ในประเทศไทย “หน่ึงบวกหนึ่ง เท่ากับหนึ่ง” คำกล่าวน้ีหากฟังดูอย่างผิวเผินอาจจะไม่ถูกต้องนัก แต่สำหรับนักกีฬาข่ีม้า คงจะมีความเข้าใจกับคำกล่าวน้ี เพราะกีฬาข่ีม้าเป็นกีฬาที่ต้อง ผสมผสานความสามารถของท้ังคนและม้าเข้าด้วยกนั อาศัยความเชื่อใจกนั ท้ังสองส่วนจะต้อง เป็นส่วนท่ีเติมเต็มซ่ึงกนั และกัน และรวมกนั เป็นหนึ่งเดียว และจากการท่ี พันเอกหญิง สมเด็จ พระเจ้าลกู เธอ เจา้ ฟา้ สิรวิ ณั ณวรี นารีรตั นราชกัญญา ทรงเปน็ นกั กฬี าขมี่ ้า จงึ ทรงมีความเข้าใจ และเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพม้า เพราะม้าเปรียบเสมือนคู่ชีวิตท่ีต้องปฏิบัติงาน ร่วมกัน ทรงเล็งเห็นถึงปัญหาด้านสุขภาพของม้าท่ีต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและท่ัวถึง จึงมีพระดำริและกระแสรับสั่งให้จัดตั้ง “ศูนย์บริการสุขภาพและเวชศาสตร์ฟื้นฟูม้า” ขึ้นภายในหน่วยม้าทรงประจำพระองค์ฯ มีที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร ใจกลางของประเทศ และมคี วามพรอ้ มในการปฏบิ ตั งิ าน ซ่ึงการสร้างศูนย์บริการสุขภาพฯ ดังกล่าว จัดตั้งขึ้นภายใต้แนวคิดแห่งการเป็นศูนย์ ในการดูแลสุขภาพม้าที่ใหญ่ท่ีสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถท่ีจะช่วยดูแลสุขภาพ และพัฒนาคุณภาพชีวิตม้าในประเทศไทย ท้ังม้าทรงประจำพระองค์ฯ ม้าของส่วนราชการ ทั้งในและนอกกองทัพบก รวมไปถึงม้าของภาคเอกชน อีกท้ังยังเป็นแหล่งในการพัฒนา วิทยาการทางด้านสัตวแพทย์ ท้ังน้ี พันเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ได้พระราชทานนามของศูนย์บริการสุขภาพและเวชศาสตร์ฟ้ืนฟูม้าเป็น ภาษาองั กฤษวา่ “Royal Stable Unit Equine Medical and Rehabilitation Service Centre”

๑๑ การพัฒนาศักยภาพบคุ ลากรสัตวแพทยข์ องกองทพั บก สำหรบั การฝกึ ศึกษาและดงู านในต่างประเทศ เพ่อื ก้าวทนั วทิ ยาการใหม่ ๆ นำมาใช้ในหนว่ ยงาน พันเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ท ร ง ใส่ พ ร ะ ทั ย แ ล ะ ต ร ะ ห นั ก ใ น เรื่ อ ง ข อ ง สุ ข ภ า พ ม้ า แ ล ะ ส วั ส ดิ ภ า พ ม้ า โดยมีพระประสงค์ให้ม้าทุกตัวมีสขุ ภาพท่ีดี ซ่ึงมา้ จะมีสขุ ภาพที่ดีได้น้ันจะตอ้ ง มบี ุคลากรท่ีมีความรู้ ความสามารถ มีความเข้าใจในการเลี้ยงม้าและการดูแล สุขภาพม้า โดยทรงเล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาความรู้ความสามารถ ของกำลังพลท่ีปฏิบัติงานเก่ียวกับม้า โดยเฉพาะผู้ที่มีหน้าที่ในการดูแล สุขภาพและการรักษาพยาบาลม้า ซึ่งเป็นบุคลากรท่ีมีความสำคัญ ในการช่วยเหลือม้าท่ีเจ็บป่วยให้กลับมามีสุขภาพแข็งแรง รวมทั้งวางแผน ทางด้านการเวชกรรมป้องกันไม่ให้ม้าเกิดการเจ็บป่วยและมีสุขภาพท่ีดี ทรงมุ่งมั่นท่ีจะพัฒ นาศักยภาพบุคลากรสัตวแพทย์ของกองทัพบก ให้มีความรู้ความสามารถ และมีมาตรฐานในการปฏิบัติงานทัดเทียม นานาประเทศ ได้รับการยอมรับจากสากล เพราะบุคลากรดังกล่าว ถอื เป็นหวั ใจสำคญั ในการดแู ลม้า จึงมีพระดำริให้ส่งนายสัตวแพทย์ของหน่วยม้าทรงประจำพระองค์ฯ ไปฝึกศึกษาดูงานและสังเกตการณ์ ณ โรงพยาบาลสัตว์ที่ให้การรักษาม้า ท่ีมีมาตรฐานในต่างประเทศ เพื่อจะได้นำองค์ความรู้ประสบการณ์ ในการศกึ ษาดูงานมาพฒั นาการปฏิบัติงานภายในหน่วย รวมท้งั วางระบบงาน ในการก่อตั้งศูนย์บริการสุขภาพและเวชศาสตร์ฟื้นฟูม้า เพื่อให้ม้าภายใน หน่วยงานทหารและม้าของประชาชนท่ัวไปได้รับการรักษาท่ีทัดเทียม กบั นานาประเทศ

๑๒ จากการที่ พันเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยี ในการรักษาพยาบาลม้า ให้มีความทัดเทียม กับนานาประเทศ จึงมีรับสั่งให้หน่วยม้าทรงประจำพระองค์ฯ เชิญผู้ท่ีมีความเชี่ยวชาญ ในด้านการรักษาพยาบาลม้าจากต่างประเทศเข้ามาเป็นท่ีปรึกษาในการดำเนิ นการจัดต้ัง ศูนย์บรกิ ารสุขภาพและเวชศาสตร์ฟ้ืนฟูม้า ซึ่งบุคคลดังกล่าวได้แก่ Dr. Anthony Siegel เจ้าของโรงพยาบาลม้า Bailly Vétérinaires ต้ังอยู่ที่ เมืองเมอลัง สาธารณรัฐฝรั่งเศสโดยท่ีปรึกษาท่านนี้จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สัตวแพทยศาสตรบัณ ฑิตจาก สถาบัน École Nationale.Vétérinaire.d’Alfort โดยท่าน มีประสบการณ์ในการรักษาม้ามากกว่า ๒๐ ปี และได้รับมอบหมายให้ดูแลสุขภาพม้าทรง ประจำพระองคฯ์ ที่เดนิ ทางไปฝึกเพ่มิ เติม ณ สาธารณรัฐฝรง่ั เศส ซึ่งหนว่ ยม้าทรงประจำพระองค์ฯ ได้มีการประสานข้อมูล คำแนะนำและแนวทางในการจัดตั้งศูนย์ฯ และได้เชิญ Dr. Anthony Siegel ให้เดินทางมาประเทศไทย เพื่อเข้าเยี่ยมชมหน่วยม้าทรงประจำพระองค์ฯ รวมทั้งตรวจดูความคืบหน้า การกอ่ สรา้ งและให้คำแนะนำในการจดั ตง้ั ศูนย์ฯ ด้วยตวั เองอกี ด้วย

๑๓ ในการนี้หน่วยม้าทรงประจำพระองค์ฯ ได้สนองพระดำริ โดยการส่งนายสัตวแพทย์ของหน่วย เข้าฝึกศึกษาดูงานและสังเกตการณ์ ณ โรงพยาบาลสัตว์ Bailly Vétérinaires เมืองเมอลัง สาธารณรัฐฝรั่งเศส ซ่ึงทางโรงพยาบาลสัตว์ดังกล่าวถือเป็นโรงพยาบาลสัตว์ขนาดใหญ่ สำหรับม้าโดยเฉพาะ ซึ่งมีศักยภาพในการรักษาพยาบาลม้าด้วยเครื่องมือ ท่ีครบครันและทันสมัย รวมท้ังมีทีมสัตวแพทย์ที่มีความรู้ความสามารถ และมีความเชี่ยวชาญหลากหลายสาขา สามารถให้บริการในด้านต่าง ๆ ได้แก่ การตรวจรักษาทางอายุรกรรมท่ัวไป การรักษาด้วยการศัลยกรรม การรับม้าป่วยเข้าพกั ค้างคนื เพ่ือทำการรักษา การออกรักษาม้าปว่ ยนอกพื้นที่ โดยได้ศึกษาถึงขั้นตอนในการตรวจวนิ ิจฉัยเทคนิคและวธิ ีการในการตรวจ เพื่อรักษา การใช้เครื่องมือพิเศษมาช่วยในการวินิจฉัย สำหรับการศึกษา ในด้านศัลยกรรมนั้น ได้ศึกษาในเร่ืองของอุปกรณ์พ้ืนฐานและสิ่งจำเป็น ทใ่ี ชใ้ นห้องศัลยกรรม ขนั้ ตอนและวธิ ีการวสิ ัญญีทางสัตวแพทย์ การจัดการ ในการฟื้นจากสลบ ซึ่งได้มีการฝึกปฏิบัติการใช้งานกับสัตว์ป่วยจริง โดยมที ีมสตั วแพทย์ของทางโรงพยาบาลสัตว์คอยให้คำแนะนำอยา่ งใกล้ชิด

๑๔ นอกจากนี้ สัตวแพทย์ของหน่วย ยังได้ศึกษาถึงระบบการบริหารจัดการโรงพยาบาลสัตว์ ในด้านต่าง ๆ อาทิ การจัดการพื้นท่ีภายในโรงพยาบาลสัตว์ โดยมีการแบ่งเป็นพื้นท่ีต่าง ๆ ได้แก่ พ้ืนที่สำนักงาน พื้นท่ีสำหรับการซักประวัติและการตรวจทั่วไป พ้ืนที่สำหรับตรวจการเคล่ือนที่ของม้า พ้ืนท่ีสำหรับการวินิจฉัยด้วยภาพ พ้ืนที่สำหรับทำการรักษาและการทำหัตถการ พื้นท่ีสำหรับ การทำศัลยกรรมและวางยาสลบ พ้ืนท่ีสำหรับห้องปฏิบัติการ พ้ืนท่ีสำหรับจัดเก็บยาและเวชภัณฑ์ พื้นท่ีสำหรับสัตว์ป่วยพักค้างคืน และศึกษาเก่ียวกับการจัดการม้าป่วยและขั้นตอนการให้บริการ แก่ม้าป่วยที่เข้ารับการรักษา รวมไปถึงระบบการจัดการในการตรวจทางห้องปฏิบัติการ การจัดการ คลังยาและเวชภัณฑ์ ซึ่งถือเป็นการพัฒนาความรู้ความสาม ารถ รวมท้ังเพ่ิมประสบการณ์ ให้กับบุคลากรสัตวแพทย์ของกองทัพบก ทำให้ได้เห็นถึงระบบและขั้นตอนในการปฏิบัติงาน การบรหิ ารงานโรงพยาบาลสัตว์ของตา่ งประเทศทีม่ ีประสทิ ธิภาพ ได้เรียนรู้การนำเครอ่ื งมอื และอุปกรณต์ า่ ง ๆ ท่ที นั สมยั มาใช้ในการตรวจ วนิ จิ ฉัยและการนำยาและเวชภณั ฑ์ทีม่ ีประสทิ ธภิ าพสูงมาใช้ในการรกั ษา จากการไปศึกษาดงู านในคร้งั นท้ี ำให้บุคลากรสตั วแพทย์ของกองทัพบก ไดม้ ีการพฒั นาศกั ยภาพของตนเอง สามารถนำแนวคดิ และความรู้ใหม่ ๆ ท่ไี ดร้ บั มาใชใ้ นการพัฒนาประสทิ ธภิ าพของการปฏบิ ัติงาน ภายในหนว่ ยงาน รวมไปถึงนำองคค์ วามรู้ท่ไี ด้รบั จัดทำ เป็นขอ้ มูลเพอื่ เผยแพรใ่ หแ้ ก่หน่วยงานทีเ่ ก่ียวขอ้ ง สำหรบั นำไปใชป้ ระโยชนใ์ นการพัฒนาศกั ยภาพบคุ ลากรสัตวแพทย์ และพัฒนาระบบการจัดการโรงพยาบาลสัตว์ทม่ี ีประสทิ ธภิ าพ เพ่ือสง่ ผลต่อสวสั ดิภาพทีด่ ีของมา้ ต่อไป

๑๕ การคิดคน้ พฒั นาเคร่อื งอบหญา้ ดว้ ยไอน้ำอย่างงา่ ย เพอื่ สขุ ภาพมา้ ทดี่ ี พนั เอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงให้ความสำคัญ กับสุขภาพม้า สุขลักษณะในการเล้ียงดูม้า เพื่อให้ม้าได้รับการดูแลท่ีดี มีสุขภาพที่สมบูรณ์และมี สวัสดิภาพท่ีดี และในฐานะท่ีพระองค์ทรงเป็นนักกีฬาขี่ม้าทำให้พระองค์ทรงมีความเข้าใจถึงปัจจัย ท่ีมผี ลต่อความสำเร็จในกีฬาขีม่ ้า ซ่ึงการท่ีม้ามีสุขภาพที่ดีน้ันถือเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญลำดับต้น ๆ ท่ีส่งผลต่อความ สำเร็จดังกล่าว พระองค์จึงมีความมุ่งมั่นท่ีจะพัฒนามาตรฐานในการเล้ียงดูม้าของหน่วยม้าทรง ประจำพระองค์ฯ และหน่วยต่าง ๆ ในกองทัพบกให้มีมาตรฐานที่ดีข้ึนและเป็นสากลเทียบเท่า ต่างประเทศ ทั้งนี้ทรงมีพระดำริให้มีความระมัดระวังเร่ืองการให้หญ้าแก่ม้า และทรงให้แนวคิดว่า ม้าเป็นสัตว์ท่ีต้องกินหญ้าอยู่ตลอดเวลา โอกาสท่ีจะมีสิ่งปนเป้ือนไป กับหญ้าที่กินไปน้ันมีความ เป็นไปได้สูง ดังนั้นหญ้าที่จะนำมาให้ม้ากินนั้นควรมีความสะอาด ซ่ึงหากไม่มีการจัดการเร่ืองความ สะอาดและสงิ่ ปนเปอื้ นในหญา้ แลว้ อาจส่งผลตอ่ สขุ ภาพของม้าและทำใหม้ ้าป่วยได้ หน่วยม้าทรงประจำพระองค์ฯ ได้น้อมนำพระดำริเร่ืองการให้หญ้ามาใช้กับม้าของหน่วย โดยเร่มิ จากการจัดหาเครื่องอบหญา้ ด้วยไอนำ้ จากตา่ งประเทศนำมาใช้งานด้วยวตั ถปุ ระสงค์ตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ ๑. เพ่ือช่วยลดฝุ่นละออง และสปอร์ของเช้ือราที่อยู่ในหญ้าฟ่อนแห้ง ท่ีจะสามารถเข้าสู่ ร่างกายมา้ ผ่านทางการหายใจ ๒. เพื่อช่วยลดแบคทีเรียและเช้ือรา ที่อยู่ในหญ้าฟ่อนแห้ง ที่อาจเข้าสู่ร่างกายม้าทางการกิน ซงึ่ อาจสง่ ผลทำให้ม้าเจ็บป่วยได้ ๓. ช่วยป้องกันปญั หาสขุ ภาพทางเดินอาหารของม้า เชน่ อาการเสยี ด หรือแผลในกระเพาะอาหาร ๔. เพ่อื ช่วยเพม่ิ ปริมาณนำ้ ในหญ้าแหง้ ทำให้เพิ่มปริมาณนำ้ ทีม่ ้า ได้รบั มากข้ึนถึง ๓ เท่า จากการให้หญ้าแหง้ ปกติ ๕. เพ่ือช่วยเพิม่ ความน่ากินให้กับหญ้าแห้ง ทำใหม้ า้ สามารถเพิม่ ปรมิ าณการกนิ หญ้าตอ่ วันได้

๑๖ เครื่องอบหญ้าด้วยไอน้ำ ผลิตจากวัสดุผสมใช้พลังไฟฟ้าในการต้มน้ำ และมีท่อต่อนำไอน้ำ เข้าไปยังถังอบ โดยมีอุณหภูมิที่ใช้ในการอบอยู่ที่ ๘๐-๑๐๐ องศาเซลเซียส ซ่ึงเม่ือมีการ นำเคร่ืองดังกล่าวมาใช้ทำใหห้ ญ้าท่ีให้กับมา้ มีความสะอาดและปลอดภัยมา้ มีสขุ ภาพท่ีดีขึน้ ยงั ส่งผลให้ อัตราการเจ็บป่วยจาก โรคต่าง ๆ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่มีงบประมาณในการจัดหาที่สูง ซึ่งเป็น ปัจจัยทำใหเ้ กิดการคิดค้นเครอ่ื งอบหญ้าดังกล่าวประดิษฐ์ขึน้ จากถังน้ำมันสองร้อยลิตร หน่วยม้าทรง ประจำพระองค์ฯ ยังมีการพัฒนาอย่างต่อเน่ืองที่จะใช้วิธีการในการอบหญ้าในรูปแบบต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ภายในหน่วย ซึ่งทำให้เกิดการคิดค้น พัฒนาเครื่องอบหญ้าด้วยไอน้ำอย่างง่ายขึ้น โดยการพัฒนาเครื่องอบหญ้าจากถังน้ำมันสองร้อยลิตร โดยทำฝาเปิด - ปิดทางด้านบนของถัง ที่ก้น ถัง ดัด แ ป ล ง ใ ห้ส า ม า ร ถ ว า ง ภ า ช น ะ ส ำ ห รับ ต้ม น้ำ ไ ด้ แ ล ะ มีต ะ แ ก ร ง ส ำ ห รับ ว า ง ห ญ ้า พร้อมท่อโลหะสำหรับนำไอน้ำเข้าไปในฟ่อนหญ้า นอกจากนี้ยังมีการติดตั้ง เครื่องวัดอุณหภูมิ ท่ฝี าถังเพอ่ื ใชต้ รวจสอบอณุ หภมู ิ โดยหน่วยม้าทรงประจำพระองค์ฯ ได้มีการจัดแสดงและประชาสัมพันธ์ เคร่ืองอบหญ้า ด้วยไอน้ำอยา่ งงา่ ย ในโอกาสต่าง ๆ เพอื่ เป็นแนวทางให้หน่วยต่าง ๆ ในกองทัพบก รวมถึงหน่วยงาน รฐั อื่น ๆ และภาคเอกชน ท่ีมหี น้าท่ีในการดูแลม้า ได้นำแนวความคดิ น้ีไปใช้ประโยชน์ และพฒั นาการ ให้หญ้าแก่ม้าของตนเอง เพือ่ ใหม้ า้ ในประเทศไทย มีสุขภาพและสวัสดภิ าพทด่ี ี สมดงั พระปณธิ านต่อไป

ศนู ยบ์ ริการสุขภาพและเวชศาสตร์ฟ้ืนฟมู ้า ๑๗ กองทัพบก โดย กองพลทหารม้าท่ี ๒ รักษาพระองค์ฯ ได้น้อมเกล้าฯ ถวายพืน้ ที่ประมาณ ๕ ไร่ สำหรบั การก่อสร้างอาคารพื้นที่ศูนยบ์ รกิ ารสขุ ภาพและ เวชศาสตรฟ์ ้ืนฟูม้า ซ่ึงกองทัพบก ได้เรมิ่ ดำเนินการก่อสร้างต้ังแต่วันท่ี ๗ ตุลาคม ๒๕๖๔ และแล้วเสร็จเม่ือ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๕ ตามสัญญาจ้างเลขที่ ๑๕๒/๖๔ ลง ๓๐ ก.ย. ๖๔ โดยอาคารดังกล่าวเป็นอาคารสองช้ันซึ่งประกอบไปด้วยส่วนต่าง ๆ ทีอ่ อกแบบมาให้มีความเหมาะสมในการรักษาพยาบาลม้า ได้แก่ ห้องตรวจรักษา ห้องวิสัญ ญี ทางสัตวแพทย์ เพื่อการเตรียมตัวสำหรับการทำศัลยกรรม ห้องศัลยกรรมสำหรับม้า ซึ่งโครงสร้างอาคารออกแบบมาให้มีระบบรอกสำหรับ เคล่ือนย้ายม้าท่ีอยู่ในภาวะสลบได้อย่างปลอดภัย และสะดวกในการปฏิบัติงาน นอกจากนี้ยงั มีห้องตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัตกิ ารห้องสำหรับการทำเวชศาสตร์ ฟื้นฟูให้กับม้า เช่น ห้องลู่ว่ิงสำหรับฟื้นฟูร่างกายม้าซ่ึงรองรับการใช้งานท้ัง ลวู่ งิ่ ออกกำลังกายสำหรบั ม้าชนดิ ไมใ่ ช้น้ำและลู่วิ่งออกกำลังกายสำหรบั ม้าชนิดใชน้ ้ำ ห้องสำหรับทำการอบอุ่นกล้ามเนื้อหลังของม้าด้วยแสงอินฟราเรด และยังมีคอก พักม้าสำหรับทำการดูแลรักษาม้า ท่ีต้องทำการรักษาต่อเนื่อง ส่วนในชั้นสองนั้น ยังมีห้องประชุมท่ีสามารถรองรับการประชุมหรือสัมมนาทางวิชาการขนาดเล็กได้ รวมไปถึงจัดให้มีห้องสมุดและศูนย์การเรียนรู้ สำหรับใช้เป็นท่ีศึกษาค้นคว้าและ พัฒนาวิทยาการต่าง ๆ ทางด้านสตั วแพทย์ อาคารทรงงานสมเด็จพระเจา้ ลูกเธอ เจ้าฟา้ สริ ิวณั ณวรี นารีรัตนราชกญั ญา ศนู ย์บริการสุขภาพและเวชศาสตรฟ์ ื้นฟมู า้ บริการดา้ นการตรวจสุขภาพใหก้ บั ม้าป่วยและม้าปกติ การวนิ ิจฉยั โรคและการรักษาพยาบาล

๑๘ ด้านเคร่ืองมอื เครือ่ งใช้และเทคโนโลยี ในการเตรียมการด้านเครื่องมือเครื่องใช้ภายในศูนย์บริการสุขภาพและเวชศาสตร์ ฟ้ืนฟูมา้ น้นั หนว่ ยม้าทรงประจำพระองค์ฯ ไดม้ ีการทำงานร่วมกับ กรมการสตั ว์ทหารบก ในการ หาข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องมือเคร่ืองใช้ในการรักษาพยาบาลม้า โดยมีการศึกษาข้อมูลจาก โรงพยาบาลสัตว์ของคณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยต่าง ๆ รวมท้ังหาข้อมูลจากโรงพยาบาลสัตว์ ในต่างประเทศ เพ่ือให้ได้เคร่ืองมือเครื่องใช้ที่มีความทันสมัยในระดับช้ันนำของภูมิภาค อาทิ เคร่ืองให้การวินิจฉัยด้วยภาพถ่ายรังสี (X-RAY) เคร่ืองให้การวินิจฉัยด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound) เครื่องให้การรักษาด้วยเลเซอร์กำลังสูง เคร่ืองให้การรักษาด้วยคลื่นกระแทก รวมไปถึงเครื่องมือเคร่ืองใช้ในการทำศัลยกรรม ได้แก่ เครื่องดมยาสลบสำหรับสัตว์ใหญ่ เตียงผ่าตัดสัตว์ใหญ่ และระบบไฟส่องสว่างสำหรับห้องผ่าตัด ที่มีมาตรฐานทัดเทียม กับต่างประเทศ โดยท่ีผ่านมาได้มีการจัดทำคุณลักษณะเฉพาะสิ่งอุปกรณ์ตา่ ง ๆ เป็นที่เรียบร้อย ให้มีความพร้อมในการดำเนินการของศูนย์ฯ ต่อไป เครือ่ งเลเซอรเ์ พอ่ื ใชใ้ นการรกั ษา (Laser Therapy) เครือ่ งให้การบำบัดด้วยการสั่นสะเทือนจากพน้ื สำหรบั สตั ว์ (Therapeuric Vibration Plate) การบำบัดด้วยลวู่ ่งิ ออกกำลงั กายสำหรับม้าชนิดใชน้ ำ้ เครื่องสำหรับอบอนุ่ กลา้ มเนอ้ื หลงั ของม้า (Solarium)

๑๙ การขยายผลสู่การเปน็ ศูนย์การเรยี นรแู้ ละพฒั นาวิทยาการทางด้านสัตวแพทย์ อกี เหตุผลหน่ึงในการจัดตัง้ ศูนย์บริการสุขภาพและเวชศาสตรฟ์ ้ืนฟูม้านน้ั คือทรงมีแนวความคิด ท่จี ะพัฒนาศูนย์ฯ แห่งน้ีให้เป็นศูนย์การเรียนรู้และพัฒนาวิทยาการทางด้านสัตวแพทย์ โดยทรงเห็นว่า การศึกษาทางด้านสัตวแพทย์ในปัจจุบัน มีความจำเป็นอย่างย่ิงที่จะต้องให้นิสิต นักศึกษา ในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ได้มีโอกาสในการฝึกปฏิบัติงาน และเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง โดยมีผู้ท่ีมี ความรู้ความสามารถคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด เพ่ือสร้างประสบการณ์ และทักษะในการทำงาน ในอนาคต หน่วยม้าทรงประจำพระองค์ฯ ได้สนองพระดำริ โดยการรับ นิสิต นักศึกษา จากคณะ สัตวแพทยศาสตร์ ของสถาบันการศึกษาต่าง ๆ เข้ามาฝึกปฏิบัติงาน และสังเกตการณ์การทำงาน ทางด้านสัตวแพทย์และการจัดการดูแลสุขภาพม้าภายในหน่วย ซึ่งในการฝึกการปฏิบัติการฝึกงานนั้น จะมีการฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับการดูแลม้า การปฏิบัติบำรุงม้า การฝึกข่ีม้าเบื้องต้น รวมไปถึงความรู้ที่ เก่ียวข้องกับวิชาชีพสัตวแพทย์ เช่น การตรวจและวินิจฉัยม้าป่วยเบ้ืองต้น การจับบังคับและความ ปลอดภัยในการปฏบิ ตั งิ านกับม้า ยาและเวชภัณฑ์ การบรหิ ารยาในมา้ การวนิ ิจฉัยและรักษาฟน้ื ฟูของหน่วยฯ โดยมนี ายสัตวแพทย์ของหน่วยฯ เปน็ ผู้ดูแล และให้คำแนะนำในการปฏิบัติ รวมถึงปลูกฝังค่านิยม ในด้านจิตอาสาในกิจกรรม อาชาบำบัดเพ่ือเด็กพิเศษของกองทัพบก ซึ่งความรู้และประสบการณ์ท่ีนิสิตได้รับน้ัน สามารถนำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานในอนาคตได้ นอกจากน้ียังทรงมีแนวคิด ให้ศูนย์บริการสขุ ภาพและเวชศาสตร์ฟ้ืนฟูม้าแห่งนี้เป็นศูนย์รวมในการสรา้ งเครือข่าย การประสานงานรวมถึงเป็นแหล่งในการสนับสนุนข้อมูลทางด้านวิทยาการทางด้าน สัตวแพทย์ การจัดประชุมสัมมนาวิชาการเพ่ือถ่ายทอดความรู้ให้กับสัตวแพทย์ ผปู้ ฏิบตั ิงานทางดา้ นมา้ และบุคลากรอื่น ๆ ที่ปฏิบัติงานเกีย่ วขอ้ งกับม้า ของประเทศ ไทยต่อไป

๒๐ น้ำพระทัยทท่ี รงมตี ่อสวัสดภิ าพของมา้ และการรกั ษาสิง่ แวดลอ้ มเพอ่ื ประโยชน์ต่อส่วนรวม พันเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีความห่วงใย และมีพระเมตตาแก่ม้าเป็นอย่างมากและทรงเล็งเห็นถึงปัญหาด้านสุขภาพของม้า ท่ีต้องได้รับการ ดูแลอย่างใกล้ชิดและทั่วถึง และด้วยสายพระเนตรอันยาวไกลในการท่ีจะพัฒนาวงการขี่ม้าของ ประเทศไทย ให้มีความทันสมัยและมีองค์ความรู้ที่ถูกต้องตามหลักสากล รวมท้ังการใช้ม้าเพื่อ ประโยชน์ต่อส่วนรวม นับเป็นพระกรุณาธิคุณท่ีพระองค์พระราชทานแก่ม้า กำลังพล หน่วยงานของ กองทัพบก ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องกับวงการข่ีม้า มีรากฐานที่ดี มีองค์ความรู้ทางวิชาการท่ีเป็น มาตรฐานเก่ียวกับการข่ีม้า รวมถึงองค์ความรู้ท่ีเก่ียวข้องกับม้าและการดูแลม้า ซ่ึงสามารถนำมา พัฒนาให้ทัดเทียมนานาประเทศ ซ่ึงจะเป็นผลต่อกองทัพบก และประเทศชาติต่อไป จึงมีพระดำริให้ หน่วยมา้ ทรงประจำพระองค์ฯ ดำเนินการจัดทำโครงการ และกจิ กรรมตา่ ง ๆ ดงั นี้

๒๑ “โครงการจติ อาสาพระราชทาน” หน่วยม้าทรงประจำพระองค์ฯ ได้น้อมรับพระดำริ และริเริ่มในการจัดกิจกรรมโครงการจิต อาสาพระราชทาน เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้และให้ความช่วยเหลือในเรื่องต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องกับม้า การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคกาฬโรคในม้าตามคอกม้าต่าง ๆ โดยการนำ สัตวแพทย์ไปให้คำแนะนำเร่ือง สุขอนามัยในคอกม้า รวมท้ังตรวจสุขภาพม้าและสุขภาพฟันม้า การนำช่างเกือกไปให้ความรู้เร่ืองการทำเกือกและการดูแลรักษากีบม้าพร้อมทั้งบริการทำเกือกม้า การบริจาคส่งิ ของทจี่ ำเป็นตอ่ การดแู ลทำความสะอาดม้ารวมไปถงึ เวชภณั ฑ์และอาหารม้า “ประชาสมั พนั ธ์ใหค้ วามรูแ้ ก่หน่วยงานรวมถงึ องคก์ รท่ีใช้ม้าในกิจการของหนว่ ย” “การบรจิ าคสิ่งของทจี่ ำเปน็ ตอ่ การดูแลม้ารวมไปถึงเวชภณั ฑแ์ ละอาหารม้า”

๒๒ “การนำชา่ งเกอื กไปใหค้ วามรเู้ รอ่ื งการทำเกือกและการดูแลรกั ษากบี มา้ พร้อมท้งั บริการทำเกอื กมา้ ” “ การตรวจสขุ ภาพมา้ และทำฟนั มา้ ” “การนำชา่ งเกือกไปใหค้ วามรู้เร่อื งการทำเกอื กและการดแู ลรักษากบี ม้า”

๒๓ “กาฬโรคแอฟรกิ าในม้า (African Horse Sickness)” ในช่วงเดือน มีนาคม ๒๕๖๓ นั้น มีการแพร่ระบาดของ โรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า (African Horse Sickness) ซึ่งโรคระบาดดงั กลา่ วส่งผลกระทบต่อวงการม้าในไทยเป็นอย่างมาก และ มีม้าจำนวนมากที่เสียชีวิตลงจากการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว พระองค์ทรงมีพระดำรัส ให้หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องเร่งรัดแก้ปัญหา และยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโดยมอบหมาย ให้ กรมปศุสัตว์ท่ีเป็นหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรง ร่วมกับหน่วยม้าทรงประจำพระองค์ฯ ในการติดตาม ปัญหาและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับโรค วิธีการป้องกันการแพร่ระบาด รวมถึงมาตรการต่าง ๆ ในการยับย้ังการระบาดของ โรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า (African Horse Sickness) หน่วยม้าทรง ประจำพระองค์ฯ และส่วนราชการท่ีเกี่ยวข้อง จึงดำเนินการประชาสัมพันธ์ ข้อมูลการแพร่ระบาด และมาตรการการป้องกันโรค ให้กับภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ หน่วยงานราชการที่ใช้ม้า ในกิจการ สโมสรขี่ม้า รวมถึงคอกม้าเอกชน จากผลการดำเนินงานดังกล่าว ทำให้การแพร่ระบาด ของโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า (African Horse Sickness) น้ันมีวงจำกัดมากข้ึน และสามารถ หยดุ การแพรร่ ะบาดได้ในที่สุด “การประชาสัมพันธใ์ หข้ ้อมลู การแพรร่ ะบาด โรคกาฬโรคแอฟริกาในมา้ (African Horse Sickness)”

๒๒๔๔ “การฉีดพน่ ฆา่ เชอื้ ตามโรงเรือนตาม มาตรการการป้องกันโรค”

๒๕ “กรมปศสุ ัตวแ์ ละหนว่ ยม้าทรงประจำพระองค์ฯ ประชาสมั พนั ธข์ อความร่วมมือภาคสว่ นต่าง ๆ ในการป้องกนั การแพร่ระบาดตาม มาตรการป้องกันโรคกาฬโรคแอฟริกาในมา้ (African Horse Sickness)”

๒๖ “ม้ากไ็ ม่ต่างอะไรจากคน” ม้ า ที่ ป ล ด ป ระ จ ำ ก า ร ต า ม เก ณ ฑ์ อ า ยุ ห รือ มี อ า ก าร บ า ด เจ็ บ จนไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติน้ันคนส่วนใหญ่มักมองข้ามและ ไม่ให้ความสนใจ เพราะคิดว่าไม่สามารถทำประโยชน์ได้แล้ว แต่ความเป็นจริงนั้น สัตว์ก็มีต้องการไม่ต่างจากคนเลย ทั้งความ เอ าใจใส่ ก ารดู แ ล รัก ษ าเมื่ อ เจ็บ ป่ วย แ ล ะ ก ารใช้ ชี วิต ตามความคุ้นเคยในธรรมชาติเช่นเดียวกัน พระองค์มีสายพระเนตร และเล็งเห็นความสำคัญด้านสวัสดิภาพของม้า จึงมีรับส่ังมอบหมายให้ กองทัพบก โดยกรมการสัตว์ทหารบก จัดตั้งโครงการบ้านพักม้าชรา สำหรบั ดูแลมา้ ท่ปี ลดประจำการ ตามเกณฑ์อายุ หรือมอี าการบาดเจบ็ จนไมส่ ามารถใชง้ านได้ เพื่อใหม้ ้ามีความเป็นอยทู่ ด่ี ีขน้ึ ท้งั ในด้าน สุขภาพ ส่ิงแวดล้อม โครงการบ้านพักม้าชรา อยู่ในพื้นที่ของ กองการสัตว์และเกษตรกรรม ท่ี ๒ ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอปากช่อง จังหวดั นครราชสมี า โดยได้พัฒนาพ้ืนที่ให้มคี วามเหมาะสม เป็นธรรมชาติ และสอดคล้องกับการดำเนินชีวิตของม้า มีพ้ืนที่สำหรับให้ม้าเดิน แปลงหญ้า สระว่าย น้ำสำหรับออกกำลงั กาย และสถานพยาบาลรักษาม้า มีการปรับภูมิทัศน์ปลูกไมย้ ืนต้นให้มีความรม่ ร่ืน และใกลเ้ คยี งธรรมชาติมากทส่ี ดุ “การนำม้าออกกำลงั กายโดยใช้สระว่ายนำ้ ในการบำบดั ”

๒๗ “การปลูกต้นไม้ในพ้ืนทโ่ี ครงการบา้ นพักม้าชราเพือ่ ใหเ้ กิดความรม่ ร่นื ” “ การปรบั ภูมิทศั น์ใหม้ ีความเหมาะสมและสอดคลอ้ งกับการดำเนนิ ชวี ิตของม้า”

๒๘ “โครงการอาชาบำบดั ” ม้าเป็นที่รู้จักกันดีว่า อยู่คู่กับมนุษย์เป็นระยะเวลานานนับพันปี เริ่มต้นจากการเลี้ยงเพื่อใช้ ในการเกษตรกรรม และพัฒนามาเดินสัตว์พาหนะจนกระทั่งวิวัฒนาการที่ทันสมัยขึ้น การใช้งานม้า ในปัจจุบันจึงถูกปรับเปล่ียนมาเป็นเร่ืองของกีฬา และทางการแพทย์ ในประเทศไทยนั้นมีการใช้ม้า ในวงการกีฬาอย่างกว้างขวาง ส่วนทางการแพทย์น้ัน ก็เป็นเรื่องการผลิตเซรุ่ม แต่ยังมีการใช้ม้าเพื่อ การบำบัดรักษาเด็กท่ีมีปัญหาด้านพฒั นาการและสติปัญญา รวมไปถงึ ความบ่งพร่องของร่างกาย หรือ ท่ีเรียกว่า กลุ่มผู้ที่มีความต้องการพิเศษ โดยได้เร่ิมนำม้าเข้ามาบำบัดและพ้ืนฟู และดำเนินการ เก็บข้อมูลเพ่ือนำมาวิเคราะห์ทางด้านพัฒนาการ ผลลัพธ์ที่ได้เป็นท่ีน่าพอใจว่ากลุ่มผู้มีความต้องการ พิเศษ มีการตอบสนองและมีพัฒ นาการที่ดีข้ึ น เม่ือใช้ม้าในการบำบัดประกอบกับการ ทำกิจกรรมอื่นรว่ มดว้ ย ทำให้มกี ารยอมรับและเผยแพรไ่ ปในวงกวา้ ง รวมเรียกโครงการน้ีว่า โครงการ อาชาบำบดั พระองค์ทรงให้ความสำคัญและมีรับสั่งให้สนับสนุนโครงการและดูแลม้าที่อยู่ในโครงการซ่ึง เป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินกิจกรรม การที่เราดูแลม้าในโครงการได้ดี ก็ย่อมส่งผลให้ผลของการ ดำเนินกิจกรรมน้ันออกมาเรียบร้อย ตรงตามวัตถุประสงค์ และเป็นการช่วยเหลือกลุ่มผู้มีความ ต้องการพเิ ศษ ใหม้ พี ฒั นาการทีด่ ีข้ึน สามารถดำเนนิ ชีวิตรว่ มกบั คนในสงั คมไดอ้ ย่างปกติ “กิจกรรมโครงการอาชาบำบัดสำหรบั เดก็ ก่อนวยั เรียนเพอ่ื เนน้ พัฒนาทักษะ และสมาธ”ิ

๒๙ “การดำเนินกจิ กรรมเพื่อพฒั นาการรบั รู้ แก่กลุ่มผู้มีความตอ้ งการพเิ ศษ” “การขยายผลและแลกเปล่ยี นองค์ความร้ดู ้านโครงการ อาชาบำบัด แก่หนว่ ยงานท่เี ก่ียวขอ้ ง”

๓๐ “การให้ความรคู้ วามเข้าใจทีถ่ กู ต้องแกห่ น่วยในการดแู ลเกอื กม้า” “มอบเคร่อื งมา้ อาหาร และส่งิ อุปกรณ์ สนบั สนนุ โครงการ อาชาบำบัด ทณั ฑสถานเปดิ หว้ ยโปร่ง”

๓๑ ข้อมลู ทางวชิ าการผลผลิตมูลมา้ ในระยะเวลา ๑ วนั สำหรับม้าหนึ่งตัวท่ีมีน้ ำหนักเฉลี่ย ๔๕๐ กิโลกรัม จะมีปริมาณมูลม้าเฉล่ีย ๑๘ - ๒๓ กิโลกรัมและสามารถ ผลิตมูลม้าได้ ปริมาณ ๑ ตัน ภายในระยะเวลา ๑ เดือน ดังนั้น หากการจัดการของเสียจากมูลม้าและส่ิงปูรองคอกม้า ไม่มีความเหมาะสมหรือมีการนำมูลม้าปริมาณจำนวนมาก จากฟารม์ เลย้ี งม้าไปกำจัดท้ิงโดยไมไ่ ดน้ ำมลู มาใชป้ ระโยชน์ ในทางด้านอ่ืน ๆ จะก่อให้เกดิ ปัญหามลพิษจากสง่ิ แวดล้อม ตามมา เช่น ปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์ ปัญหาจุลชีพใน มูลม้าที่จะส่งกระทบต่อส่ิงแวดล้อมตามมาเป็นอย่างมาก สามารถพ บ ปั ญ หาดังกล่าวใน ฟ าร์มม้าหลายแห่ ง ทวั่ ประเทศ ด้วยพระปรีชาสามารถกับพระวิสัยทัศน์ท่ีสนพระทัยต่อสิ่งแวดล้อม ของพันเอกหญิง สมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เจ้าฟ้าสิรวิ ัณณวรี นารรี ตั นราชกัญญา มีรับสง่ั ให้หน่วยม้าทรงประจำพระองค์ฯ ใหม้ ีการทดลองการผลิตปยุ๋ อินทรียจ์ ากมูลม้า (compost) โดยการนำมูลมา้ ภายในหน่วยและสงิ่ ปรู อง คอกม้าที่ถูกกำจัดออกมาภายในรูปของเสียท่ีเป็นขยะ รวมถึงเศษใบไม้ เศษพืชนำมาใช้ประโยชน์ ผ่านกระบวนขั้นตอนการหมักย่อยสลายแบบใช้ออกซิเจนตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้ปุ๋ย อนิ ทรยี ์ท่ีมผี ลผลิตคลา้ ยฮิวมสั มีสีดำนมุ่ เบา ไมม่ ีกล่ิน และสามารถเกบ็ ไดน้ านโดยไม่เกิดปฏิกิริยาขึ้น ภายหลัง มาใช้ประโยชน์กับพืชสวนครัว ไม้ประดับที่อยู่รอบบริเวณอาคารหน่วยม้าทรงประจำ พระองค์ฯ รวมถึงช่วยในการลดปริมาณมูลม้าท่ีเป็นขยะโดยการนำมูลม้าและของเสียจากคอกม้า มาประยุกต์ใชใ้ หเ้ กดิ ผลติ ภัณฑใ์ หม่ตามหลักแนวทางการลดขยะให้เปน็ ศูนย์ (Zero waste)

๓๒ พร้อมท้ังเป็นการลดมลภาวะของเสียต่อสิ่งแวดล้อม โดยเป็นการลดแร่ธาตุ คาร์บอน จุลชีพและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์จากมูลม้ารวมถึงลดค่าใช้จ่ายในการ ดำเนนิ การซื้อปุ๋ยเพ่อื มาใช้ในหน่วยอีกดว้ ย อีกทง้ั โครงการนีส้ ามารถเป็นต้นแบบ ของ องค์ความรู้ให้กับหน่วยงานราชการท่ีมีการเล้ียงม้า ฟาร์มเล้ียงม้า สโมสรข่ีม้าใน ประเทศ ใหเ้ ห็นคุณค่าของมูลม้าและปญั หาส่ิงแวดลอ้ มทีเ่ กดิ จากมูลม้า เป็นต้น ข้อดีของปุ๋ยอินทรีย์จากมูลม้ามีหลายประการ เช่น คุณภาพอินทรียวัตถุจาก การผลิตปุ๋ย การลดต้นทุนการผลิตจากการซื้อปุ๋ยเคมี สามารถแก้ไขปัญหาดิน เป็นกรดหรือปัญหาดินท่ีเกิดจากการใช้ปุ๋ยเคมีอย่างต่อเน่ืองมาอ ย่างยาวนาน โดยเมื่อมีการทำการเกษตรในพื้นท่ีอย่างยาวนาน เช่น การปลูกพืชผัก ข้าวหรือพืชไร่ พืชสวน แล้วทำการเก็บผลผลิต อินทรียวัตถุ จุลธาตุและธาตุอาหารรองจะถูกดึงออก จากพื้นที่อย่างต่อเน่ือง เกษตรกรส่วนใหญ่จะละเลยการเติมองค์ประกอบเหล่าน้ี จะมีการเติมธาตุอาหารหลัก ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโปแทสเซียมลงไปเท่าน้ัน จนทำให้ดินที่เพาะปลูกขาดความสมบูรณ์ ขาดอินทรียวัตถุ โครงสร้างดินเสียและ ดนิ เป็นกรดไมเ่ หมาะสมกบั การเพาะปลกู ดังนั้นการใชป้ ๋ยุ อินทรยี ์จะสามารถแก้ปญั หา ดนิ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี ปัจจุบันหน่วยม้าทรงประจำพระองค์ฯ ได้ดำเนินการทดลองการทำ ปุ๋ยอินทรีย์จากมูลม้า โดยใช้องค์ความรู้จากคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ “สูตรวิศวกรรมแม่โจ้ ๑” โดยเป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่ไม่มีผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อม มีค่ามาตรฐานอินทรียวัตถุมากกว่าค่ามาตรฐานปุ๋ยอินทรีย์ท่ีกำหนด โดยใช้วัตถุดิบคือ มูลม้า เศษฟางจากคอกม้า เศษใบไม้ เศษหญ้า เป็นต้น โดยมีปัจจัย ท่สี ำคญั ๔ ปจั จยั ในกระบวนการผลิต ดังน้ี ๑. จลุ ินทรยี ์ ๒. ความชนื้ ๓. ออกซิเจน ๔. สัดสว่ นคารบ์ อนตอ่ ไนโตรเจน (C/N ratio) ระยะขน้ั ตอนในการดำเนินการผลิตป๋ยุ อนิ ทรีย์เปน็ ระยะเวลา ๖๐ วัน เมื่อดำเนินการผลติ ปยุ๋ เรยี บร้อยในแต่ละคร้ัง หนว่ ยจะสง่ ตวั อย่างปยุ๋ เพื่อตรวจหาคา่ มาตรฐานป๋ยุ อนิ ทรยี ์ของกรมวิชาการเกษตรเพือ่ ประเมินค่าคณุ ภาพปยุ๋ และคา่ แร่ธาตุอาหารต่าง ๆ ท่จี ำเป็นต่อการเจรญิ เตบิ โตของพืชหลงั จากนั้นจะดำเนนิ การทดลองใช้กบั พชื ผกั สวนครัว ไมย้ นื ตน้ ภายในหนว่ ยรวมถงึ บนั ทกึ โครงการและดำเนินการแจกจา่ ยสำหรบั หนว่ ยงานทสี่ นใจสบื ต่อไป

๓๓ การจดั การแขง่ ขันกีฬาขีม่ ้า รายการ Princess’s Cup Thailand 2022 สืบ เน่ื อ งจาก สมเด็จพ ระเจ้าลูก เธอ เจ้าฟ้ าพั ชรกิ ติย าภ า นเรน ทิราเท พยวดี กรมหลวงราชสาริณี สิริพั ชร มหาวัชรราชธิดา มีพระประสงค์ให้จัดการแข่งขันกีฬาขี่ม้ารายการ Princess's Cup และ ทรงเป็นองค์ประธานจัดการแข่งขัน สโมสรและชมรมข่ีม้าต่าง ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศได้เข้าร่วมในการตัดสินการแข่งขันเป็นจำนวนมาก รวมถึง การชิงถ้วยรางวัลหลายประเภท ณ บริเวณหน่วยม้าทรงประจำพระองค์ฯ และสนามข่ีม้ากองพันทหารม้าท่ี ๒๙ รักษาพระองค์ ซึ่งจัด มาแล้ว ๓ ครั้ง (ปี ๒๕๔๔ – ๒๕๔๗) ต่อมาเมื่อ พันเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารรี ัตนราชกัญญา ได้ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ ของหน่วยม้าทรงประจำพระองค์ฯ พระองค์ได้ทรงสืบสานต่องานหน่วยม้าทรงประจำพระองค์ฯ และมีการจัด การแข่งขันรายการ Princess's Cup ณ สนามข่ีม้ากองพลทหารม้าท่ี ๒ รกั ษาพระองคฯ์ ดำเนินการจัดมาแล้ว ๔ ครั้ง (ปี ๒๕๕๙ – ๒๕๖๒) การแข่งขันขี่ม้าคร้ังน้ีเป็นคร้ังท่ี ๘ ภายใต้แนวคิด \"TOGETHER, WEAREONE\" สื่อให้เห็นถึงความผูกพัน และความเช่ือมโยงของสองหัวใจ ระหวา่ งผู้ขมี่ ้าและม้าที่หลอมเปน็ หน่ึงเดยี ว ซึ่งเป็นจดุ เด่นของกีฬาข่ีม้า อีกท้ัง เป็นการกลับมาจัดการแข่งขันหลังจากการจัดงานเม่ือปี ๒๕๖๒ เนื่องจาก สถานการณ์ COVID-19 และการระบาดของกาฬโรคแอฟริกาในม้า (African..Horse..Sickness) ทำให้เกิดผลกระทบในการเคลื่อนย้ายม้ากีฬา และไม่สามารถจัดการแข่งขนั ในปี ๒๕๖๓ - ๒๕๖๔ ได้

๓๔ พันเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีความห่วงใย และตระหนักในเรื่องการระบาดของโรค \"กาฬโรคแอฟริกาในม้า\" (African Horse Sickness) ทรงมีกระแสรับส่ังให้ หน่วยม้าทรงประจำพระองค์ฯ ร่วมกับกรมปศุสัตว์และสมาคมขี่ม้าแห่งประเทศไทยประชาสัมพันธ์ให้ ความรู้และแนะนำวิธีการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคกาฬโรคในม้าพร้อมท้ังฉีดพ่นสารฆ่าเช้ือบริเวณ ฟารม์ ม้าเพื่อปอ้ งกนั การแพร่เช้ือของพาหะต่าง ๆ ซ่ึงการแพร่ระบาดอย่างหนักในปี ๒๕๖๓ ส่งผล กระทบต่อวงการม้าในไทยเป็นอย่างมาก และมีม้า จำนวนมากที่เสียชีวติ ลง พระองคท์ รงมพี ระดำรัสให้ หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องเรง่ รัดแก้ปัญหา และยบั ยงั้ การ แพร่ระบาดของโรค รวมถึงติดตามปัญหาของโรค ก า ฬ โร ค แ อ ฟ ริ ก า ใ น ม้ า จ าก ผ ล ก า ร ด ำ เนิ น ง า น ดังกล่าว ทำให้การแพร่ระบาดของโรคกาฬโรค แอฟริกาในม้ามีวงจำกัดมากขึ้น และสามารถหยุด การแพร่ระบาดได้ในทีส่ ดุ สำหรับในปี ๒๕๖๕ มีพระประสงค์ให้จัดการแข่งขัน CSIJ-B Bangkok2022 ระหว่างวันที่ ๑๙ –๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ซึ่งเป็นการแข่งขันกีฬาข่ีม้ากระโดดข้ามเคร่ืองกีดขวางของเยาวชนระดับนานาชาติ ประเภททีมและประเภทบุคคล โดยมีชมรมขี่ม้า สโมสรข่ีม้า ทั้งในและต่างประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน ๙ ทีม ดังนี้ กัมพูชา เขตบริหารพิเศษฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ จีนไทเป ฟิลิปปินส์ และไทย จำนวน ๒ ทีม ผลคะแนนรวมประเภททมี ๓ ลำดบั แรก ดังนี้ เหรียญทอง ได้แก่ ประเทศไทย เหรียญเงนิ อนิ โดนีเซยี เหรียญทองแดง มาเลเซีย ตามลำดบั

๓๕ และการแข่งขัน Princess’s Cup Thailand 2022 จัดข้ึนระหว่าง วันท่ี ๒๑ - ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ โดยมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง การท่องเท่ียวและกีฬา เป็นประธานคณะกรรมการจัดงาน ซึ่งวัตถุประสงค์ เพ่ือส่งเสริมกีฬาขมี่ ้าและเพิ่มพูนทักษะ รวมถึงประสบการณ์การแข่งขัน ตลอดจนเป็นการเช่ือมสัมพันธ์อันดีของนักกีฬาข่ีม้ากับสโมสรกีฬาข่ีม้า ต่าง ๆ ให้มีความแน่นแฟ้น อีกท้ัง ยังเป็นการคัดเลือกบุคคลท่ีมี ความสามารถเปน็ ตวั แทนในการแข่งขันในระดับสงู ตอ่ ไป การแข่งขันแบ่งออกเป็น ๕ ประเภท ได้แก่ การกระโดดข้ามส่ิงกีดขวาง (Jumping), ศิลปะการบังคับม้า (Dressage), อีเวนต้ิง (Eventing), การแข่งขันสุดยอดช่างเกือก (Best Farrier) และการแข่งขันสุดยอด ผู้ดูแลม้า (Best Groom) เนื่องจากทรงให้ความสำคัญกับทุกหน้าท่ี ซึ่งในส่วนของกรรมการตัดสินได้เชิญผู้เชี่ยวชาญระดับสหพันธ์กีฬาขี่ม้า นานาชาติเขา้ ร่วมการตัดสิน วนั ท่ี ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ พนั เอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลกู เธอ พระองค์เจา้ สริ ิวณั ณวรี นารรี ตั นราชกัญญา เสดจ็ เปน็ องค์ประธานในพิธเี ปิดการแข่งขัน Princess’s Cup Thailand 2022 และมอบเหรียญรางวลั ใหก้ ับนักกฬี า ทไ่ี ด้รับรางวลั ผลคะแนนรวมประเภทบุคคลในการแขง่ ขัน CSIJ-B Bangkok 2022

๓๖ พระประสงค์ของการแข่งขันคร้ังนี้ เพื่อพัฒนาศักยภาพ นักกีฬาและบุคลากรทางการสัตวแพทย์ โดยการจัดอบรมคลินิก ทางสัตวแพทย์ โดย Dr. Anthony Siegel และ Dr. Audrey Pinoteau เจา้ ของโรงพยาบาลม้า Bailly Veterinaires สาธารณรฐั ฝรงั่ เศส ในหัวข้อเรือ่ ง “การตรวจวินิจฉัยภาวะขากะเผลกในม้า” ผู้เข้าร่วมการอบรมประกอบด้วย นายทหารสัตวแพทย์จากหน่วย ต่าง ๆ ของกองทัพบกและสัตวแพทย์จากมหาวทิ ยาลัยต่าง ๆ ซึ่งได้ ให้ ค ว า ม รู้ เกี่ ย ว กั บ ก า ร ต ร ว จ วิ นิ จ ฉั ย ภ า ว ะ ข า ก ะ เผ ล ก ใ น ม้ า โดยใช้เครื่องอัลตร้าซาวด์ รวมถึงได้แนะนำการใช้เคร่ืองอลั ตร้าซาวด์ กำหนดตำแหน่งในการฉีดยาเข้าข้อต่อ อีกท้ัง Dr. Anthony Siegel และยังร่วมเป็นกรรมการตัดสินการแข่งขันสุดยอดช่างเกือก (Best Farrier) นอกจากการแข่งขันเกี่ยวกับม้าแล้ว ในงานยังมีการจัด กิจกรรมนิทรรศการแสดงผลงานตามพระดำริที่เป็นประโยชน์ ต่อ กองทัพบกและประเทศชาติ เพื่อให้นักท่องเที่ยวและประชาชน ช่ืนชมพระปรีชาสามารถ ในด้านกีฬาขี่ม้าและด้านการทหาร อีกทั้งยังมีกิจกรรมหลายอย่าง เช่น ซุ้มกิจกรรมสำหรับเด็ก การประกวดสุนัขประเภทต่าง ๆ การว่ิงกับสุนัขคู่ใจ การออกร้าน ขายสินค้า กวา่ ๘๐ ร้านคา้ จัดขึน้ ในงานอกี ด้วย

๓๗

๓๘

๓๙ ศนู ย์การทหารมา้

๔๐ เสด็จเป็นองคป์ ระธานงานวนั ทหารม้า ประจำปี ๒๕๖๔ และ ๒๕๖๕ ศูนย์การทหารม้า ได้จัดงานวันทหารม้าข้ึนเป็นประจำทุกปี เพ่ือน้อมรำลึกในพระมหา กรุณาธิคุณ พระปรีชาสามารถ และวีรกรรมอันกล้าหาญของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในการ ตอ่ สกู้ บั ข้าศกึ บนหลงั ม้าเม่อื วันอาทติ ย์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนยี่ ปจี อ อัฐศก จุลศกั ราช ๑๑๒๘ ตรงกับวนั ที่ ๔ มกราคม ๒๓๐๙ ณ บา้ นพรานนก ซ่ึงอยู่ในพื้นท่ีอำเภออุทัย จังหวดั พระนครศรีอยุธยา ในปัจจุบัน โดยพระองค์พร้อมด้วยทหารเอกคู่พระทัยอีก ๔ นาย เข้าต่อสู้กับข้าศึกจำนวน ๓๐ นาย จนได้รับชัย ชนะอย่างเด็ดขาด ทหารม้าได้เทิดทูนพระองค์เป็นบูรพาจารย์การรบบนหลังม้า และเป็นพระบิดา ของเหล่าทหารม้า จงึ ถอื เอาวนั ที่ ๔ มกราคมของทกุ ปีเป็นวันทหารม้า ในการนี้ศูนยก์ ารทหารม้า ขอพระราชทานพระราชานุญาตกราบทูลเชญิ พันเอกหญิง สมเด็จ พระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรวิ ัณณวรี นารีรตั นราชกัญญา เสด็จเป็นองค์ประธาน ในพธิ ีสงฆ์ เน่ืองในงาน วันทหารม้า ประจำปี ๒๕๖๔ และ ๒๕๖๕ ณ ศนู ยก์ ารทหารมา้ คา่ ยอดิศร จงั หวดั สระบุรี