โรงเรียนทหารมา้ วิชา การใชแ้ ละการซ่อมบำรุง เล่มท่ี ๕ รหสั วิชา ๐๑๐๒๒๔๐๖๐๕ หลกั สตู ร นายสบิ ยานยนต์ แผนกวชิ ายานยนต์ กศ.รร.ม.ศม. ปรชั ญา รร.ม.ศม. “ฝกึ อบรมวิชาการทหาร วิทยาการทันสมัย ธำรงไวซ้ ง่ึ คณุ ธรรม”
ปรชั ญา วิสยั ทศั น์ พันธกิจ วัตถปุ ระสงคก์ ารดำเนินงานของสถานศึกษา เอกลกั ษณ์ อัตลักษณ์ ๑. ปรชั ญา ทหารม้าเป็นทหารเหล่าหนง่ึ ในกองทัพบกที่ใช้ม้าหรอื สิ่งกำเนิดความเรว็ อื่นๆ เปน็ พาหนะเปน็ เหล่าท่มี ีความสำคัญ และจำเป็นเหล่าหน่ึง สำหรับกองทหารขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับเหล่าทหารอื่น ๆ โดยมีคุณลักษณะที่มีความ คล่องแคล่ว รวดเร็วในการเคล่ือนท่ี อำนาจการยิงรุนแรง และอำนาจในการทำลายและข่มขวัญ อันเป็น คณุ ลกั ษณะที่สำคัญและจำเปน็ ของเหล่า โรงเรยี นทหารมา้ ศูนย์การทหารมา้ มีปรชั ญาดงั น้ี “ฝึกอบรมวชิ าการทหาร วทิ ยาการทนั สมยั ธำรงไว้ซึง่ คุณธรรม” ๒. วสิ ยั ทัศน์ “โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้วิชาการเหล่าทหารม้าท่ีทันสมัย ผลิตกำลังพลของเหลา่ ทหารม้า ใหม้ ีลกั ษณะทางทหารท่ดี ี มคี ุณธรรม เพ่ือเป็นกำลงั หลกั ของกองทพั บก” ๓. พันธกจิ ๓.๑วจิ ัยและพฒั นาระบบการศกึ ษา ๓.๒ พฒั นาคุณภาพครู อาจารย์ และบคุ ลากรทางการศกึ ษา ๓.๓ จดั การฝกึ อบรมทางวิชาการเหลา่ ทหารม้า และเหล่าอ่ืนๆ ตามนโยบายของกองทพั บก ๓.๔ผลติ กำลงั พลของเหลา่ ทหารม้า ให้เปน็ ไปตามวัตถุประสงค์ของหลกั สตู ร ๓.๕ พฒั นาสอ่ื การเรียนการสอน เอกสาร ตำราของโรงเรยี นทหารม้า ๓.๖ปกครองบังคับบัญชากำลังพลของหน่วย และผู้เข้ารับการศึกษาหลักสูตรต่างๆ ให้อยู่บนพื้นฐาน คุณธรรม จริยธรรม ๔. วตั ถุประสงค์ของสถานศกึ ษา ๔.๑เพื่อพัฒนาครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ให้มีความรู้ความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ให้กบั ผู้เข้ารบั การศึกษาได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ๔.๒ เพ่ือพัฒนาระบบการศึกษา และจัดการเรียนการสอนผ่านส่ืออิเล็กทรอนิกส์ ให้มีคุณภาพอย่าง ตอ่ เนื่อง ๔.๓ เพื่อดำเนินการฝึกศึกษา ให้กับนายทหารช้นั ประทวน ที่โรงเรียนทหารม้าผลิต และกำลังพลท่ีเข้ารับ การศึกษา ให้มคี วามรคู้ วามสามารถตามทีห่ น่วย และกองทพั บกตอ้ งการ ๔.๔ เพือ่ พัฒนาระบบการบรหิ าร และการจัดการทรพั ยากรสนบั สนุนการเรยี นรู้ ให้เกิดประโยชนส์ งู สดุ ๔.๕ เพ่อื พฒั นาปรบั ปรุงส่ือการเรียนการสอน เอกสาร ตำรา ใหม้ ีความทนั สมัยในการฝึกศึกษาอยา่ งต่อเน่ือง ๔.๖เพอื่ พฒั นา วจิ ัย และให้บริการทางวชิ าการ ประสานความร่วมมอื สร้างเครอื ข่ายทางวิชาการกับ สถาบันการศึกษา หนว่ ยงานอ่ืนๆ รวมทั้งการทำนบุ ำรงุ ศลิ ปวฒั ธรรม ๕. เอกลกั ษณ์ “เป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ทางวิชาการ และผลิตกำลังพลเหล่าทหารม้าอย่างมีคุณภาพเป็นการ เพม่ิ อำนาจกำลงั รบของกองทพั บก” ๖. อัตลกั ษณ์ “เดน่ สงา่ บนหลังม้า เกง่ กลา้ บนยานรบ”
สารบัญ หน้า 1 ลำดบั วิชา 15 1 การใช้และการ ซบร. รยบ. ๑/๔ ตัน เอม็ ๑๕๑ 57 2 การใชแ้ ละการ ซบร. รยบ. ๑ ๑/๔ ตัน ฮมั ว่ี 65 3 การใชแ้ ละการ ซบร. รยบ. ๑ ๑/๔ ตัน ยูนิมอ๊ ก 91 4 การใชแ้ ละการ ซบร. รยบ. ๒ ๑/๒ ตัน เอ็ม ๓๕ เอ๒ 121 5 การใช้และการ ซบร. รถเกราะ วี – ๑๕๐ 6 การใช้และการ ซบร. รถกู้ ๕ ตัน เอ็ม ๕๔๓ ...................................................
หน้า |1 วชิ า การใช้และซ่อมบารุง รยบ. 1/4 ตัน 4 X 4 เอม็ 151 แผนกวชิ ายานยนต์ กองการศึกษา โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดศิ ร สระบุรี
หน้า |2 แผนกวิชายานยนต์ กองการศึกษา โรงเรยี นทหารม้า ศนู ยก์ ารทหารมา้ ค่ายอดศิ ร สระบุรี ---------- คท.9-20-218-10, ม.ี ค.2514, ก.ย.2526 วิชา คุณลักษณะ และมาตราทาน รยบ.1/4 ตัน 4x4 M151, M151A2 1. คณุ ลกั ษณะโดยท่วั ไป รยบ.1/4 ตนั 4x4 ตระกลู M151 เปน็ รถใช้งานในราชการทั่วไป ออกแบบเพอ่ื ใช้ กับสภาพถนนทุกประเภท ในภูมิประเทศและในทุกสภาพอากาศ รถแบบนี้ขับเคลื่อนได้ท้ัง 4 ล้อ โดย สามารถขับเคลื่อนล้อหน้าได้ตามสภาพของถนนและภูมิประเทศ แต่ควรจะปลดการขับล้อหน้าออกขณะวิ่งบน ถนนพ้ืนแข็งและราบเรียบ กำลังที่ใช้ในการขับเคล่ือนรถได้จากเคร่ืองยนต์ แก๊สโซลีน 4 สูบเรียงแถวเด่ียว ระบายความร้อนดว้ ยของเหลว ระบบห้ามล้อเป็นระบบทำงานด้วยน้ำมันท้ัง 4 ล้อ และมีห้ามล้อมือ ซึ่งทำงาน ดว้ ยปลอกรัดจานห้ามล้ออยู่ระหว่างเคร่ืองเปล่ียนความเร็วและเคร่ืองเพ่ิมเพลาขับ (หีบเฟืองช่วย) หูห่วงท่ีติด อย่ดู ุมล้อทั้งส่ีมีไว้เพื่อใชย้ ึดรถให้ติดกับแท่นในการส่งทางอากาศ ท่ีดา้ นหน้าและด้านหลังรถจะมีห่วงลากจูงอยู่ ดา้ นละ 2 ตัว และยงั มีขอพ่วงอย่ทู ้ายรถเพ่ือลากจงู รถพว่ ง รยบ.1/4 ตัน 4x4 M151 นี้ สามารถใช้ลุยข้ามน้ำท่ีมีพ้ืนในใต้น้ำแข็งได้ลึก 21 นิ้วและถ้าประกอบ อปุ กรณ์ที่ใช้ลุยข้ามน้ำลึกเขา้ ไปดว้ ย จะลยุ ข้ามน้ำได้ลกึ 5 ฟตุ เนื่องจากรถชนิดนี้มีน้ำหนักเบา มีความคล่องตัว และความเร็วสูงจึงควรขับรถด้วยความระมัดระวังจนกว่าพลขับจะคุ้นเคยกับการบังคับควบคุมรถในภารกรรม ตา่ ง ๆ รถในตระกูล M151 น้ี ได้สร้างและพฒั นาขึ้นตามลำดับ โดยมีความมุ่งหมายใชง้ านในภารกจิ ต่าง ๆ คือ 1.1 รยบ.1/4 ตัน 4x4 M151, M151A1 และ M151A2 เป็นรถเอนกประสงคใ์ ช้ในราชการทัว่ ไป เพือ่ บรรทกุ บุคคลหรือสัมภาระ สามารถบรรทุกบุคคลและยุทโธปกรณ์ประจำกายได้ 4 นาย รวมท้ังพลขับ รถ M151 และ M151A1 รุ่นแรก จะไม่มีไฟสัญญาณเลี้ยว ส่วน M151A2 จะมีไฟเลี้ยว และไฟท้ายขนาดใหญ่ ข้อ แตกต่างที่สำคัญระหว่าง M151A1 และ M151A2 ก็คือระบบพยุงตัวรถของ M151A2 มีประสิทธิภาพและ ความแข็งแรงมากกว่า 1.2 รยบ.1/4 ตัน 4x4 M151A1C และ M825 จะใช้ติดตั้งปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลัง ขนาด 106 มม.บน ฐานตดิ ตั้ง แบบ M79 และสามารถบรรทุกกระสุนได้ 6 นัด และเครื่องมือประจำอาวุธ ท่ีจำเป็น เพื่อให้เป็น ระบบอาวุธที่สามารถเคล่อื นยา้ ยได้อย่างสมบูรณ์ 1.3 รถพยาบาลแนวหน้า ขนาด รยบ.1/4 ตัน M718 และ M718A1 ออกแบบเพื่อบรรทุกคนปว่ ยท่ีต้อง ใช้เปล และคนป่วยท่ีเดินได้ ตัวรถพยาบาล M718 และ M718A1 จะมีความยาวและสูงกว่า M151 เพ่ือการ บรรทุกเปลและคนป่วย พลขับควรระมัดระวังเร่ืองขนาดและน้ำหนักรถท่ีเพิ่มข้ึน ซ่ึงจะทำให้ศูนย์ถ่วงและการ ควบคมุ รถแตกตา่ งกนั ไป 1.4 รถ M151A2,M825 และ M718A1 ซ่ึงเป็นรถรุ่นล่าสุดในตระกูล M151 จะได้รับการติดต้ังเคร่ืองปัด น้ำฝนทำงานด้วยมอเตอรไ์ ฟฟ้าแบบปรับความเรว็ ได้ พร้อมดว้ ยเครื่องฉดี น้ำลา้ งกระจก และเปลยี่ นปม๊ั น้ำมัน เชอื้ เพลิงจากไฟฟา้ มาเป็นป๊มั แบบทำงานทางกลแบบธรรมดา หรอื เอซี ปั๊ม 1.5 เครื่องยนต์เป็นเคร่ืองยนต์แก๊สโซลีน, 4 สูบ ลิ้นไอดีและไอเสียอยู่บนฝาสูบ ระบายความร้อนด้วย ของเหลว มีกำลัง 71 แรงม้า เม่ือเครื่องยนต์หมุน 4,000 รอบ/นาที ระบบหล่อลื่นเป็นระบบใช้แรงดันโดย ตลอด ตัวหม้อกรองและไส้กรองเป็นหน่วยเดียวกัน และเป็นหม้อกรองแบบถอดทิ้งเมื่อสกปรก หรือชำรุด นอกจากน้ี กำลังดันของน้ำมันเคร่ืองยนต์ ยังใช้ควบคุมการทำงานของสวิตช์นิรภัยป๊ัมน้ำมันเช้ือเพลิงซ่ึงทำ หนา้ ทปี่ อ้ งกนั ไม่ใหป้ ม๊ั น้ำมันเชื้อเพลิงทำงาน เม่ือเปิดสวติ ช์จุดระเบิดคา้ งไว้ และถ้าแรงดนั ของนำ้ มันเคร่ืองยนต์
หน้า |3 ลดลงต่ำกว่าเกณฑ์ปลอดภัยในการใช้งาน สวิตช์นิรภัยของปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงจะตัดวงจรไฟฟ้าของปั๊มฯ ทำให้ ป๊ัมฯ หยุดทำงานและเม่ือไม่มีเชื้อเพลิง เคร่ืองยนต์ก็จะดับ เคร่ืองยนต์แบบน้ีใช้การระบายอากาศในห้องข้อ เหวย่ี งเขา้ ไปยังท่อรว่ มไอดี เพ่ือขจดั ปญั หานำ้ เขา้ เมือ่ ใช้รถลยุ นำ้ ถังน้ำมันเช้ือเพลิงติดตั้งอยู่ใต้ท่ีนั่งพลขับ และมีจุกถ่ายอยู่ท่ีก้นถัง ฝาปิดถังน้ำมันของรถM151 และ M151A1 จะมลี ้นิ ระบายอากาศอยภู่ ายใน ซึ่งลิน้ นี้จะต้องอยใู่ นตำแหนง่ ปิดเมือ่ ลยุ ขา้ มน้ำลึก ปั๊มน้ำมันเช้ือเพลิง, ตัวปั๊มไฟฟ้า และใส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงของรถ M151 และM151A1 จะ ประกอบรวมเป็นหน่วยเดียวกันภายในถังน้ำมันเชื้อเพลิง ส่วนปม๊ั น้ำมันเช้ือเพลิงของรถ M151A2 ซึ่งเป็นปั๊ม แบบทำงานทางกล จะตดิ ตั้งอยกู่ ับเครื่องยนตท์ างดา้ นขวา และมไี สก้ รองอยู่ในถังนำ้ มันเชื้อเพลงิ 1.6 ระบบไฟฟา้ ของรถเป็นแบบ 24 โวลท์ โดยมีแบตเตอร่ี ขนาด 12 โวลท์ 2 หม้อ ต่อวงจรแบบอันดบั ข้ัว ลบลงดิน ติดต้ังอยู่ภายในห้องเก็บแบตเตอร่ีใต้ท่ีนั่งพลขับผู้ช่วยองค์ประกอบที่สำคัญของระบบไฟฟ้าเช่น เคร่ืองกำเนิดไฟฟ้า,เคร่ืองควบคุมเครื่องกำเนิดไฟฟ้า,มอเตอร์หมุนเคร่ืองยนต์และจานจ่ายไฟ ออกแบบให้ สามารถกนั นำ้ ไดอ้ ยา่ งสมบูรณ์ 1.7 ระบบพยุงตัวรถ เป็นระบบพยุงตัวรถแบบล้ออิสระทั้ง 4 ล้อ กงล้อทำด้วยเหล็กกล้าและยึดติดกับจาน ห้ามล้อด้วยแป้นเกลียว 5 ตัว แป้นเกลียวยึดกงล้อทุกล้อเป็นเกลียวเวียนขวา สามารถสับเปล่ียนกันได้ ทง้ั ซ้ายและขวา และยางเป็นยางแบบนำ้ หนกั เบา ความดันลมยางต่ำ ดอกยางเปน็ แบบบ้งั ลายขวาง สำหรับใช้ งานในภมู ปิ ระเทศ และมีขนาด 7.00 x 16 2. รายละเอียด และมาตราทานรถ ความเรว็ สูงสดุ ท่ีอนุมตั ิใชง้ านบนถนน M151,M151A1,M151A2 55 ไมล์/ชม. ( 88 กม./ชม. ) M151A1C,M825 50 ไมล์/ชม. ( 80 กม./ชม. ) รถพยาบาล M718A1 55 ไมล์/ชม. ( 88 กม./ชม. ) ชนดิ ของน้ำมันเชื้อเพลิง แก๊สโซลีน,อ๊อกเทน 91 (ต่ำสุด) ความจุ ถงั นำ้ มันเช้อื เพลงิ 17 แกลลอน ( 64 .3 ลติ ร ) หม้อกรองอากาศ 2.5 ไปนท์ ( 1.18 ลติ ร ) อ่างน้ำมันเครอื่ งยนต์ ( ไมร่ วมหม้อกรอง ) 4 ควอท ( 3.7 ลติ ร ) ( รวมหมอ้ กรอง ) 5 ควอท ( 4.7 ลิตร ) หีบเฟอื งทดเลยี้ ว 2 ไปนท์ ( 0.94 ลิตร ) เครอ่ื งเปลี่ยนความเร็ว 5.5 ไปนท์ ( 2.6 ลิตร ) ระบบระบายความร้อน 9 ควอท ( 8.5 ลติ ร ) ยาง จำนวนชนั้ ผา้ ใบ 4 - 6 ชัน้ ขนาด 7.00 x 16 จำนวน 4 เสน้ ความดันลมยาง (เปน็ ปอนด/์ ตร.นว้ิ ) ยางหน้า M151, M151A1, M151A2, M718 และ M718A1 M151A1C และ M825 - บนถนน 20 25 - ในภมู ิประเทศ 20 25 - ในโคลน,ทราย,หิมะ 15 20
ยางหลงั หน้า |4 - บนถนน 25 40 40 - ในภมู ิประเทศ 20 35 - ในโคลน,ทราย,หมิ ะ 15 132.7 นิ้ว 143.5 นว้ิ ขนาด 143.0 น้ิว ความยาว 64.0 นว้ิ 64.3 นว้ิ M151, M151A1, M151A2 76.5 นว้ิ M151A1C, M825 71.0 น้ิว 77.2 นว้ิ M718, M718A1 76.3 นิ้ว ความกวา้ ง 4 นาย 2 นาย M151, M151A1 5 นาย M151A2 300 ไมล์ 275 ไมล์ M151A1C, M825 300 ไมล์ ความสงู 21 นว้ิ 60 นว้ิ M151, M151A1, M151A2 18.5 ฟุต M151A1C, M825 1,200 ปอนด์ 1,730 ปอนด์ M718, M718A1 900 ปอนด์ พลประจำรถ 800 ปอนด์ 1,730 ปอนด์ พลขบั พลประจำรถ และคนปว่ ย 900 ปอนด์ 10.3 นวิ้ M151, M151A1, M151A2 M151A1C, M825 M718,M718A1 ระยะปฏบิ ตั กิ าร (ไมม่ ีน้ำหนักลากจงู ) M151, M151A1, M151A2 M151A1C, M825 M718, M718A1 การลุยข้ามน้ำลึก - ไม่มีอปุ กรณล์ ุยขา้ ม - มีอุปกรณล์ ยุ ขา้ ม รศั มวี งเล้ียว นำ้ หนกั บรรทกุ (รวมทัง้ พลประจำรถ) บนถนน M151, M151A1, M151A2 M151A1C, M825 M718, M718A1 ในภูมปิ ระเทศ M151, M151A1, M151A2 M151A1C, M825 M718, M718A1 ระยะพน้ พื้นดินตำ่ สุด
หน้า |5 เครื่องยนต์ แกส๊ โซลีน, 4 สบู , เรยี งแถวเดย่ี ว ระบายความร้อนด้วยของเหลว, แรงม้า จดุ ระเบิดด้วยหัวเทยี น,ล้ินอย่บู นฝาสบู ลำดบั การจุดระเบิด 71 แรงม้า เม่ือเครื่องยนตห์ มนุ 4,000 รอบ/นาที อณุ หภมู ิใช้งาน 1-3-4-2 อตั ราส่วนกำลงั อดั 180 องศา F. ระบบไฟฟา้ 7.5 ตอ่ 1 แบตเตอร่ี (แบบ 2 HN) 24 โวลท์ การตอ่ วงจร จำนวน 2 หม้อ ระยะหา่ งหนา้ ทองขาว แบบอันดับ, ขวั้ ลบลงดิน ระยะห่างเขยี้ วหัวเทียน 0.017-0.022 นว้ิ 0.028-0.032 นวิ้ ( ระบบจุดระเบดิ แบบธรรมดา) ระยะหา่ งลิ้นไอด-ี ไอเสยี (ร้อน) กำลังอดั 0.032- 0.036 น้ิว ( ระบบจุดระเบิดแบบอิเล็กทรอนิกส์) ความตึงหย่อนของสายพานพัดลม ระยะวา่ งของแป้นห้ามล้อ 0.015 นว้ิ ระยะว่างของแปน้ คลตั ช์ 135 - 145 ปอนด์/ตร.นว้ิ 1/2 นว้ิ 1/4 - 7/8 นว้ิ 1 1/8 - 1 1/2 นว้ิ *************
หน้า |6 แผนกวิชายานยนต์ กองการศึกษา โรงเรยี นทหารม้า ศนู ย์การทหารมา้ คา่ ยอดิศร สระบรุ ี ---------- คท.9-2320-218-10, ม.ี ค.2526 เอกสารเพิ่มเตมิ วิชาเครอ่ื งควบคุม, คันบังคับฯ และเครื่องวดั ฯ การใชง้ านและการปรนนบิ ตั ิบำรงุ รยบ.1/4 ตัน 4x4 , M151, M151A2 1. กล่าวทั่วไป ในลำดับต่อไปนี้ จะกล่าวถึงตำแหน่งติดต้ัง,หน้าท่ี และรายละเอียดขององค์ประกอบต่าง ๆ ของเคร่ืองควบคุม, คนั บังคบั และเคร่อื งวัด ของ รยบ.1/4 ตนั 4x4 M151 2. เครื่องควบคุมและคันบังคับ เครอื่ งควบคมุ และคันบงั คับทีใ่ ชใ้ นการขับรถ มีดงั น้ี 2.1 คนั บังคับเคร่ืองเพิ่มเพลาขับ (TRANSFER) คันบงั คับนจ้ี ะใชเ้ พ่อื ต่อ หรือปลด การขบั เคล่ือนล้อหนา้ คัน บังคบั นม้ี ี 2 ตำแหน่ง คอื \"เข้า\" (IN) และ \"ปลด\" (OUT) เท่านัน้ การขับด้วยล้อหนา้ น้ี สามารถเข้าและปลดได้ ในระหว่างการใชง้ านโดยไมต่ ้องหยดุ รถและเหยยี บคลตั ช์ แตค่ วรจะ กระทำในขณะที่รถเคลือ่ นทช่ี า้ ๆ เท่านั้น หมายเหตุ - การขับด้วยลอ้ หนา้ ให้ใชเ้ ฉพาะในสภาพที่จำเปน็ ตอ้ งใชก้ ำลงั ฉดุ ลากเพ่มิ เติมเป็นพิเศษ - เม่ือสภาพภูมิประเทศจำเป็นต้องขับด้วยล้อหน้าให้เข้าเพลาขับล้อหน้า ก่อนที่จะขับรถเข้าไปในภูมิประเทศ เชน่ นน้ั - ในสภาพปกติ และถนนเรยี บใหป้ ลดการขบั ด้วยลอ้ หนา้ - อยา่ เข้าเพลาขับล้อหนา้ ในขณะทล่ี อ้ หลังลอ้ ใดล้อหนงึ่ หรือทง้ั สองล้อยังหมนุ ฟรอี ยู่ 2.2 สวิตช์หมุนเคร่ืองยนต์ สวิตช์หมุนเคร่ืองยนตเ์ ปน็ สวิตชแ์ บบปุ่มกดด้วยเท้า ติดตงั้ อยู่บนพื้นรถใต้แป้น คลัตช์ถัดจากสวิตช์เลือกลำแสง สูง-ต่ำ และสวิตช์หมุนเคร่ืองยนต์นี้จะบังคับใช้ในลักษณะ ต้องเหยียบแป้น คลตั ช์ลงไปกอ่ นเปน็ การช่วยลดความปลอดภยั มากข้นึ 2.3 คันเร่งน้ำมันมือ มีความมุ่งหมายให้ใช้สำหรับใช้ต้ังความเร็วของเครื่องยนต์ไว้ ท่ีรอบใดหน่ึงหน่ึง ใน ระหว่างการติดเครื่องยนตแ์ ละอ่นุ เคร่อื งยนต์ หมายเหตุ การใช้งานจะต้องบิดคันเรง่ ฯ ตามเข็มนาฬิกา คำว่า \"THROTTLE\" อยูท่ างด้านบน เพ่ือให้แหนบยึด เกาะเข้ากบั ร่องฟนั บนกา้ นคันเรง่ ฯ 2.4 สวติ ชไ์ ฟแสงสว่าง เปน็ สวิตชแ์ บบมกี ้านสวติ ช์ 3 อนั คือ 2.4.1 อันบน เปน็ ก้านสวติ ช์เลอื กตำแหนง่ ไฟแสงสวา่ งภายนอกรถ ซ่งึ จะมี 5 ตำแหน่ง ดังน้ี เมอ่ื บิด ตามเขม็ นาฬิกา จากตำแหนง่ ปดิ \"OFF\" - STOP เปน็ ตำแหนง่ ใชง้ านเพ่ือขับรถในเวลากลางวนั เพื่อให้ไฟห้ามลอ้ และ ไฟเล้ียวทำงาน - SERDRIVE เป็นตำแหนง่ เปดิ ไฟใหญ่ บดิ ทวนเขม็ นาฬกิ าเปน็ ตำแหนง่ ปิด \"OFF\" - B.O.MARKER เปน็ ตำแหนง่ ไฟพรางจอด - B.O.DRIVE เป็นตำแหน่งไฟพรางขับ หมายเหตุ การบิดสวิตช์จากตำแหน่งปิด \"OFF\" ไปยังตำแหน่งใช้งานต่าง ๆ จะต้องปลดกลอนยึดสวิตช์ เสียกอ่ น นอกจากตำแหน่ง \"B.O.MARKER\" และจากตำแหนง่ ใชง้ านอ่ืนกลบั มายังตำแหนง่ บิด \"OFF\"
หน้า |7 2.4.2 อันล่างขวา เป็นกลอนยดึ สวติ ชเ์ พ่ือยดึ สวติ ช์เลือกตำแหน่งใชง้ านใหอ้ ยใู่ นตำแหนง่ ที่เลือกไว้ และ ป้องกันไมใ่ หส้ วติ ช์เลือ่ นไปยงั ตำแหนง่ อ่นื โดยบังเอิญ 2.4.3 อนั ล่างซา้ ย เปน็ สวิตชไ์ ฟจอดและสวติ ช์ไฟส่องหน้าปดั เคร่อื งวัด มตี ำแหนง่ ใช้งานดงั น้ี - OFF เป็นตำแหนง่ ปดิ - DIM เปน็ ตำแหนง่ ไฟส่องหนา้ ปัดหรี่ - BRT เป็นตำแหน่ง ไฟส่องหน้าปัดสว่าง - PARK เป็นตำแหนง่ ไฟจอด การใช้ไฟจอด ให้บิดสวิตช์เลือกไฟแสงสว่างไปยังตำแหน่งไฟใหญ่ \"SERDRIVE\" ก่อน จึงบิดสวิตช์ไฟ จอดไปท่ีตำแหน่งจอดรถ \"PARK\" ไฟใหญ่หน้ารถจะดบั ลงแต่ไฟจอดหน้ารถและไฟทา้ ยจะติดอยู่ 2.4.5 สวิตช์ไฟเล้ียว จะติดอยู่ทางด้านซ้ายของปลอกแกนพวงมาลัย เมื่อกดลงด้านล่างไฟเลี้ยวด้านซ้าย ของรถจะติดกระพริบ และเม่ือผลกั ขนึ้ ข้างบนไฟเลยี้ วดา้ นขวาจะติดกระพริบ หมายเหตุ สำหรับสวิตช์ไฟเลี้ยวรุ่นใหม่ เม่ือปลดกลอนและผลักสวิตช์ข้ึนในตำแหน่งสูงสุด ะทำให้ ไฟเล้ยี วทุกดวงทำงาน เพอื่ ใชเ้ ปน็ ไฟแจง้ เหตุอนั ตราย หรอื เตือนเหตุฉุกเฉนิ 2.4.6 ไฟพรางห้ามล้อ (B.O.STOP) ไฟพรางห้ามล้อ จะติดตั้งไว้ที่ท้ายรถด้านขวา และที่ท้ายรถ จะมีโคมไฟ 2 ชดุ และดวงไฟภายในโคมไฟแตล่ ะขา้ งจะทำหน้าท่เี ป็นไฟพรางจอด,ไฟห้ามลอ้ ,ไฟท้าย และไฟเลี้ยว 2.7 เครื่องควบคมุ และคนั บงั คบั อ่นื ๆ 2.7.1 สวิตชล์ ำแสงไฟสงู -ตำ่ 2.7.2 แป้นคลตั ช์ 2.7.3 แป้นห้ามล้อ 2.7.4 คนั เร่งเคร่ืองยนต์ 2.7.5 คนั ห้ามล้อมอื 2.7.6 คนั บังคบั เครอ่ื งเปล่ียนความเร็ว 2.7.7 สวติ ช์บงั คับเครือ่ งปัดนำ้ ฝน 2.7.8 สวิตชแ์ ตร 2.7.9 สวติ ชจ์ ุดระเบิด 2.7.10 โช๊ค 2.7.11 พวงมาลยั บังคับเล้ยี ว 3. เคร่ืองวัด เคร่ืองวัดต่าง ๆ ของ รยบ.1/4 ตัน M151 จะติดตั้งอยู่บนแผงเคร่ืองวัดซึ่งมีเคร่ืองวัด และไฟ แสดงการทำงาน ดงั นี้ 3.1 เครอื่ งวัดแบตเตอร่ีและเครอื่ งกำเนดิ ไฟฟา้ เครอื่ งวดั นเ้ี ป็นเครอื่ งวดั ท่แี สดงคา่ ด้วยแถบสีเพ่อื แสดงสภาพ ของแบตเตอรแ่ี ละเครอื่ งกำเนิดไฟฟา้ - เมื่อเคร่ืองยนต์ดับ และสวิตช์จุดระเบิดอยู่ในตำแหน่งเปิด “ON” เคร่ืองวดั นี้จะแสดงค่าของประจุไฟใน แบตเตอรี่ - เมือ่ เครอ่ื งยนตต์ ิดและเดินด้วยรอบสงู พอควร เครอื่ งวัดน้ีจะแสดงการทำงานของเครือ่ งกำเนดิ ไฟฟา้ 3.2 ไฟแสดงการใช้ไฟสูง ถา้ ไฟดวงน้ตี ดิ เมอื่ ปิดไฟใหญ่แสดงว่าสวติ ชเ์ ลอื กลำแสงอย่ใู นตำแหน่งใชไ้ ฟสูง 3.3 เคร่อื งวดั ความดันน้ำมันเครอ่ื ง เครื่องวัดน้ีจะแสดงความดนั ในระบบน้ำมันหล่อลื่นเคร่ืองยนต์ความดัน ปกตใิ นรอบอ่นุ เครอื่ งยนต์ 15-30 ปอนด์/ตร.น้ิว และความดันปกติในขณะรถใชง้ าน 35-45ปอนด/์ ตร.นว้ิ 3.4 เครื่องวัดอุณหภูมิ เครื่องวัดน้ีจะแสดงอุณหภูมิของน้ำในระบบระบายความร้อนของเคร่ืองยนต์ อณุ หภูมปิ กติ 180 องศา - 200 องศา F.
หน้า |8 3.5 เครื่องวัดความเร็ว เครื่องวัดนี้จะแสดงความเร็วท่ีรถวิ่งเป็นไมล์/ชม.และใต้เข็มเคร่ืองวัดจะเป็นแถบ ตวั เลขของเครอ่ื งบนั ทกึ ระยะทาง ซึง่ แสดงจำนวนไมลท์ ีร่ ถใชง้ าน 3.6 เครื่องวัดน้ำมันเช้ือเพลิง เคร่ืองวดั น้ีจะแสดงระดับของน้ำมันเชื้อเพลิงในถังด้วยสัญญาณจากชดุ ลูกลอย วดั ระดบั นำ้ มันทถี่ งั นำ้ มันเชือ้ เพลงิ 3.7 ไฟสอ่ งหน้าปดั ไฟสอ่ งหน้าปดั จะมี 2 ดวง เพ่ือชว่ ยให้สามารถอา่ นเครอ่ื งวัดต่าง ๆ ได้ในเวลากลางคืน การใชง้ านรถในสภาพปกติ 1. กล่าวท่ัวไป รยบ.1/4 ตัน 4x4 M151 และรถอื่น ๆ ในตระกูลน้ีเป็นรถท่ีมีน้ำหนักเบา ว่องไว มี จุดศูนย์ถ่วงต่ำ,เลี้ยวในรัศมีแคบได้และยังตอบสนองการเร่งได้ดกี ว่ารถยนต์ประเภทอนื่ ๆ ระบบพยุง ตวั รถของ แต่ละล้อเป็นอิสระแก่กันเพื่อช่วยให้นั่งได้สบายขึ้นเม่ือวิ่งในภูมิประเทศ นับเป็นลักษณะพิเศษ จึงจำเป็นที่พล ขับหรือผู้ใช้รถ จะต้องได้รับการฝึกให้มีความเคยชนิ และปฏิบัติตามคำเตือนต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด เพ่ือให้ใช้รถ ได้ปลอดภัย คำเตอื นในการใชร้ ถ 1.1 ควรใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เมื่อขับ รยบ.1/4 ตัน 4x4 M151 และรถอ่ืน ๆ ในตระกูลน้ี เพราะรถในตระกูลน้ีจะตอบสนองการบังคับเล้ียวและการเร่งน้ำมันได้เร็วกว่ารถอ่ืนๆ โดยเฉพาะในขณะเล้ียว จะต้องระมัดระวังความเร็วเป็นพิเศษ การหักเล้ียวขวาหรือเลี้ยวซ้ายอย่างกระทันหันนั้น แม้รถจะมีความเร็ว เพยี ง 20 ไมล์/ชม.กท็ ำให้รถพลิกควำ่ หรอื สูญเสียการบังคบั ได้ 1.2 อยา่ ใชค้ ลัตชเ์ มอ่ื ลงลาด เว้นแตจ่ ำเป็นต้องเปล่ียนเปน็ เกยี ร์ตำ่ 1.3 อยา่ งเหยยี บคลัตช์เพียงครง่ึ ๆ กลาง ๆ 1.4 อย่าเรง่ เครอื่ งยนตด์ ้วยการปมั๊ คนั เร่ง โดยเฉพาะเม่อื รถไม่มนี ้ำหนกั บรรทุก 1.5 อยา่ เติมน้ำระบายความร้อนในขณะเครอ่ื งยนตร์ อ้ นจดั 1.6 ใชค้ วามดันลมยางตามเกณฑท์ ่กี ำหนดใหใ้ ช้ 1.7 อย่าใช้สวิตช์หมุนเครื่องยนต์ แต่ละคราวนานกว่า 30 วินาที และให้เว้นระยะห่าง 15 วินาทีเป็นอย่าง น้อย เม่ือจะใชง้ านซำ้ อีก 1.8 อยา่ ใชก้ ารขับเคล่ือนดว้ ยลอ้ หนา้ เมื่อใชง้ านรถบนถนนผวิ แข็ง นอกจากวิ่งขึ้นทางลาดสูงชนั 1.9 กอ่ นจะใช้เกยี รถ์ อยหลัง จะต้องให้รถหยดุ สนทิ เสยี ก่อน 1.10 อย่าเขา้ เพลาขับลอ้ หน้าในขณะทล่ี ้อหลังล้อใดล้อหนง่ึ หรอื ทัง้ 2 ล้อหมุนฟรอี ยู่ 1.11 พลขับ ควรฝึกตนเองให้เคยชินกับการหม่ันสังเกตเคร่ืองวัดความเร็ว ก่อนเลี้ยวโค้ง จะต้องพิจารณา สภาพโค้งให้ดี และปรับความเร็วของรถให้เหมาะสมด้วย การหักเลี้ยวอย่างเร็ว ไม่วา่ จะอยู่ในความเร็วเท่าใดก็ ตามถือวา่ เปน็ อันตราย 1.12 เม่ือลากจูงรถพ่วงจะต้องระมัดระวังเป็นพเิ ศษ เนื่องจากน้ำหนักลากจูงที่เพ่ิมข้ึนจะทำให้วงเลี้ยวผิดไป จากปกติ 1.13 การขับรถที่ไม่มีน้ำหนักบรรทุกให้ใช้ความเร็วต่ำ กว่าเมื่อมีน้ำหนักบรรทุก เมื่อยู่ในสภาพใช้งาน เช่นเดียวกัน การติด-ดบั เครือ่ งยนต์ 1. การปฏิบตั ิกอ่ นติดเครอ่ื งยนต์ ก่อนติดเครื่องยนต์ให้ทำการตรวจและบริการก่อนใช้งานตามท่ีกำหนดไว้ในตารางการปรนนิบัติบำรุงและ บริการ ( PMCS ) 2. การติดเครอื่ งยนต์ วธิ ปี ฏบิ ตั ิ และข้นั ตอน
หน้า |9 2.1 ปรบั ทีน่ ่ังพลขบั ใหเ้ หมาะสม กับรา่ งกาย 2.2 ใสห่ า้ มล้อมอื ดว้ ยการดึงมายังขา้ งหลงั ให้สุด 2.3 เข้าเกยี รเ์ ครือ่ งเปลยี่ นความเรว็ ไวใ้ นตำแหนง่ \"ว่าง\" (N) 2.4 ดึงปุม่ โชค๊ ถ้าจำเป็นตอ้ งใช้ 2.5 หมุนสวติ ช์จดุ ระเปดิ ไปยงั ตำแหน่ง \"เปิด\" (ON) 2.6 เหยยี บแปน้ คลัตช์ และกดสวิตชห์ มุนเครื่องยนตด์ ้วยปลายเท้า เมอ่ื เคร่ืองยนต์ติดแลว้ ใหป้ ลอ่ ย สวิตชท์ ันที 2.7 ปรับคันเรง่ นำ้ มันมือ ตามรอบความเรว็ ท่ีต้องการ 3. การดบั เคร่อื งยนต์ วธิ ปี ฏบิ ตั ิ และข้นั ตอน 3.1 หยุดรถ 3.2 เขา้ เกียร์เครอ่ื งเปล่ียนความเร็ว ไวใ้ นตำแหน่ง \"ว่าง\" (N) 3.3 ใส่หา้ มล้อมือ 3.4 หมุนสวติ ชจ์ ุดระเบดิ ทวนเขม็ นาฬิกา มาท่ีตำแหนง่ \"ปิด\" (OFF) การขับรถ วิธีปฏบิ ัติ และขัน้ ตอน 1. หมุนสวิตช์ไฟแสงสว่างให้อยูใ่ นตำแหน่ง \"ไฟห้ามล้อ\" (STOP) เมื่อขับรถในเวลากลางวนั หรือในตำแหน่งที่ กำหนดไว้ สำหรบั การขบั รถในเวลากลางคืน 2. เหยยี บแปน้ คลัตช์ 3. ผลักคันเกยี ร์เปลยี่ นความเร็วให้อยู่ในตำแหน่งเกียร์ (1) หมายเหตุ อาจออกรถด้วยเกียร์ 2 ได้ หากใช้รถในถนนผิวเรียบแข็ง โดยน้ำหนักบรรทุกน้อยและรถได้ถูกใช้ งานมาแล้วมากกวา่ 500 ไมล์ 4. ปลดหา้ มลอ้ มือ ด้วยการผลักคนั ห้ามล้อมอื ไปข้างหนา้ จนสุด 5. ผ่อนแปน้ คลัตชช์ า้ ๆ พร้อมกับคอ่ ย ๆ กดคนั เร่ง เพือ่ เร่งความเรว็ ให้รถเคล่ือนทีอ่ ย่างนมิ่ นวล 6. ในขณะที่รถเพ่มิ ความเร็วข้ึนให้เปล่ียนเกียร์ให้สูงข้ึนไปตามลำดับจนถึงเกียร์ 4 ดว้ ยการใช้ คลัตช์ และให้ ผอ่ นคันเรง่ ฯ ทกุ คร้งั ระหวา่ งเปล่ียนเกียร์ ข้อควรระวัง ระบบพยุงตวั รถแบบอสิ ระทง้ั 4 ลอ้ จะชว่ ยลดแรงกระแทกได้มากจนพลขับอาจไม่รู้สกึ ว่ารถกำลงั วิง่ ด้วยความเรว็ เทา่ ใด ด้วยเหตุน้ีจึงมกั หลงเหยยี บคนั เร่งจนเลยความเรว็ ที่ กำหนดไวเ้ พือ่ ความปลอดภยั การหยดุ รถ วิธีปฏิบัติ และขน้ั ตอน 1. ปลอ่ ยคนั เร่งเคร่ืองยนต์ และใช้เทา้ เหยียบคันเร่งเบา ๆ 2. ก่อนหยุดรถ ให้เหยียบแป้นคลัตช์ และผลักคันเกียร์เครื่องเปล่ียนความเร็วมายังตำแหน่งว่าง (N) ปล่อย แปน้ คลตั ช์และใส่ห้ามล้อมือ การถอยหลงั วิธีปฏิบตั ิ และขน้ั ตอน 1. หยุดรถให้สนิท 2. ปล่อยให้เคร่ืองยนต์เดินเบา,เหยยี บแปน้ คลตั ช์และเข้าเกยี ร์ถอยหลงั แล้วผอ่ นคลัตช์ใหร้ ถถอยหลัง ช้า ๆ
ห น ้ า | 10 ข้อควรระวัง ความเรว็ ถอยหลัง กำหนดไวไ้ มเ่ กนิ 8 ไมล์/ชม. การจอดรถ วิธปี ฏิบัติ และขน้ั ตอน 1. จดั สวติ ชต์ า่ ง ๆ ไวใ้ นตำแหนง่ ปดิ \"OFF\" ถา้ สถานการณ์ทางยทุ ธวธิ ีไม่ต้องการให้ปฏบิ ัติเปน็ อย่างอน่ื 2. ใส่ห้ามลอ้ มอื และหมนุ ลอ้ ไว้ หากจอดรถบนลาดชัน 3. จงหลีกเล่ียงการจอดรถไว้ในโคลน หรือนำ้ ถ้ามีพนื้ ทใ่ี หเ้ ลอื กจอดได้ การลากจูงรถ 1. การลากจงู เพ่ือติดเคร่ืองยนต์ วิธปี ฏิบัติ และขนั้ ตอน 1.1 ตอ่ สายเชือกลากจงู เขา้ กบั ห่วงลากจูงท่กี นั ชนหน้ารถ 1.2 เข้าเกียร์สูง (เกียร์ 4) 1.3 เหยยี บแปน้ คลตั ช์ไว้ และเร่ิมทำการลากจงู 1.4 เมือ่ ได้ความเร็ว 5-10 ไมล์/ชม.ใหเ้ ปดิ สวติ ชจ์ ุดระเบดิ ไปยงั ตำแหนง่ \"ON\" ผ่อนแปน้ คลตั ช์ช้า ๆ และเหยยี บคันเรง่ ฯ ใหใ้ ชโ้ ชค๊ ตามความจำเปน็ 2. การลากจูงรถชำรดุ ข้อควรระวงั อยา่ พยายามลากจงู รถดว้ ยลวดลากจงู หรือโซล่ ากจูง โดยใช้ห่วงลากจงู เพียงข้างเดยี วหรือ ลากจงู โดยใช้การพันลวดหรอื โซ่รอบตอนกลางของกันชน วิธปี ฏบิ ตั ิ 2.1 ถา้ ไม่มีความเสยี หายใด ๆ เกิดข้ึนในขบวนกำลังจากล้อไปยังเคร่อื งเพ่ิมเพลาขับและสามารถปลดการขับ ลอ้ หน้า และปลดเกียรเ์ ครื่องเปล่ยี นความเรว็ ให้อยู่ในตำแหน่งว่าง อนุมตั ิให้ลากจูงรถได้โดยไม่ตอ้ งยกล้อหนา้ ให้พน้ พน้ื 2.2 ถ้าจะเกิดความเสียหายถึงเพลาล้อหน้า, เพลาล้อหลัง, ข้อต่ออ่อน หรือหีบเฟืองทดเล้ียวท้ังสองตัว ให้ ถอดเพลาขับล้อหน้า หรอื เพลาขบั ลอ้ หลังออก แลว้ จะลากจูงโดยไม่ตอ้ งยกลอ้ หน้ากไ็ ด้ 2.3 การลากจูงโดยยกล้อหน้าพ้นพื้นให้ปลดการขับล้อหน้า ด้วยการจัดคันบังคับเคร่ืองเพิ่มเพลาขับไว้ใน ตำแหน่ง ปลด \"OUT\" 2.4 ในทุกกรณี เม่ือจะทำการลากจูงรถชำรุด ต้องปลดคันเกียร์เคร่ืองเปลี่ยนความเร็วไว้ในตำแหน่งว่าง “N” และปลดการขบั ล้อหน้า การใชร้ ถลุยน้ำ 1. กลา่ วทั่วไป ในการลยุ นำ้ รถอาจจะจมลงไปในระดบั ความลึกตา่ ง ๆ กันจากระยะเพยี ง 2-3 น้ิวจนถงึ ระดับ ลึกมากจนพอท่ีจะท่วมรถท้ังคัน ส่ิงสำคัญที่จะต้องพิจารณาคือ ระวังการกระจายของน้ำด้านหน้า และทางสอง ข้างของรถ 2. การลุยน้ำตามปกติ องค์ประกอบสำคัญทั้งหมดของรถได้รับการผนึกแน่น และมีเครื่องป้องกันน้ำเข้าไว้ แล้วจากโรงงานผลิต เพ่ือให้สามารถลุยน้ำได้ลึกถึง 21 น้ิว ( 53 ซม. ) สำหรับการลุยน้ำท่ีลึกกว่านี้ จำเป็นต้อง ใช้ชดุ อุปกรณส์ ำหรบั ลยุ น้ำลึก 3. การลุยนำ้ กอ่ นนำรถลยุ นำ้ ให้ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ควรระวัง และคำแนะนำ ตอ่ ไปนี้ 3.1 สำรวจความลึกของน้ำที่จะนำรถลยุ ขา้ ม อยา่ ใหเ้ กิน 21 น้ิว ( 53 ซม. ) 3.2 ต้องม่ันใจวา่ เครอ่ื งยนต์ทำงานไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
ห น ้ า | 11 3.3 เขา้ เกยี รเ์ ครือ่ งเปลย่ี นความเร็วในตำแหง่ เกียร์ 1 และเข้าเพลาขับลอ้ หนา้ ด้วย 3.3 ขับรถลงน้ำชา้ ๆ และระวังอย่าให้เครอื่ งยนตด์ ับ 3.4 ถ้าเครอ่ื งยนตด์ บั ให้ตดิ เครอื่ งยนตต์ ามวธิ ีปกติ 3.5 ใชค้ วามเร็วไมเ่ กนิ 3 - 4 ไมล์/ชม. ( 5 - 6 กม./ชม.) 3.6 หลกี เลย่ี งการใชค้ ลัตชโ์ ดยไม่จำเปน็ 3.7 อยา่ ไว้ใจหา้ มล้อ คำเตือน อยา่ ไว้ใจหา้ มลอ้ จนกวา่ จะได้ทดสอบการทำงานและพบวา่ ทำงานไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพแลว้ 4. การปฏบิ ัติหลังจากการลยุ นำ้ ตามปกติ 4.1 เม่ือรถพ้นจากน้ำและรถเกาะพื้นดินแข็งได้ตามปกติแล้วให้ปลดการขับล้อหน้า และย้ำห้ามล้อ หลาย ๆ คร้งั เพอ่ื ช่วยใหผ้ า้ หา้ มล้อแหง้ แล้วทดสอบการทำงานของห้ามล้อ 4.2 ทำความสะอาดรถตามความจำเป็น 4.3 ตรวจว่ามีน้ำร่ัวไหลเข้าไปในเครื่องยนต์ เครื่องเปล่ียนความเร็ว เคร่ืองเพิ่มเพลาขับ และหีบเฟือง ทดเลยี้ ว หรอื ไม่ ถ้าพบวา่ มนี ำ้ ปะปนอยใู่ นน้ำมันหล่อลืน่ ให้รายงานช่างยานยนตป์ ระจำหน่วย 4.4 ทำความสะอาดรถ และให้การหลอ่ ล่ืนตามทก่ี ำหนดไว้ใน คล.9-2320-218-12 4.5 ทดสอบว่าห้ามล้อสามารถทำงานได้โดยไม่เกิดอาการห้ามล้อติด ถ้าพบวา่ ห้ามล้อทำงานบกพร่อง ใหร้ ายงานช่างยานยนต์ประจำหน่วย 4.6 แม้ว่าเครื่องวัดต่าง ๆ จะได้รับการผนึกแน่นไว้แล้ว แต่การได้รับความเย็นในทันทีทันใดอาจทำให้ เกดิ ฝา้ ไอนำ้ ขนึ้ ในเครื่องวดั ซง่ึ กำจดั ให้หายไปไดโ้ ดยการจอดรถไวใ้ นทมี่ อี ากาศอบอ่นุ 4.7 ตรวจระดับน้ำยาในแบตเตอร่ีแต่ละช่อง ถ้าพบว่ามีระดับสูงผิดปกติ ให้รายงานช่างยานยนต์ ประจำหนว่ ย 4.8 ตรวจหม้อกรองอากาศของเครอื่ งยนต์ ถ้าพบว่ามนี ำ้ ปะปนอยู่ ใหท้ ำสะอาด และเติมน้ำมันใหม่ 5. การจมน้ำโดยอุบัตเิ หตุ ในกรณีทเ่ี กิดการจมน้ำโดยอุบัติเหตุให้รีบกู้รถขึน้ จากน้ำ โดยเร็วท่ีสุด แลว้ ส่งรถน้ัน ใหช้ ่างยานยนตป์ ระจำหน่วยดำเนนิ การซ่อมบำรงุ อย่างสมบรู ณ์ตอ่ ไป *************
ห น ้ า | 12 ตารางที่ 1 รายการตรวจ,บรกิ าร และการปรนนบิ ตั บิ ำรุง ( PMCS ) รยบ.1/4 ตัน 4x4 M151 ก = ก่อนใชง้ าน, ข = ขณะใช้งาน, ล = หลงั ใช้งาน ระยะเวลาและลำดับ สิ่งทต่ี ้องตรวจ วิธีปฏิบัติ กขล 1 น้ำระบายความรอ้ น ตรวจและเติมน้ำให้ต่ำกว่าระดับคอหม้อน้ำเล็กน้อย ตรวจการขนั แนน่ ของลนิ้ ถ่ายนำ้ ,ปลอกรัดท่อน้ำ, รงั ผงึ้ และกรอบพดั ลม ดรู อยร่ัวต่าง ๆ 2 ระดบั นำ้ มันเครอื่ งยนต์ ตรวจระดบั นำ้ มนั เครอื่ ง และเตมิ ตามความต้องการแต่ อยา่ ให้เกินขดี ตามความตอ้ งการแตอ่ ยา่ ใหเ้ กินขีด \"เตม็ \" (FULL) ตรวจการขันแน่นของจุกเกลยี วถ่าย นำ้ มันเครือ่ ง 3 หอ้ งเครื่องยนต์ ตรวจการร่ัวไหลของน้ำมันเชื้อเพลิงน้ำมันเครื่องและ น้ำมันห้ามล้อที่อาจมองเห็นได้,ตรวจความเรียบร้อย และการต่อไว้ถูกต้องของสายไฟต่างๆ, เก็บส่ิง แปลกปลอมต่าง ๆ ออกให้หมด, ตรวจการอุดตันของ รูระบายท่ีฝาปิดแม่ปั๊มห้ามล้อ และตรวจดูรอย แตกร้าวท่ีหมุดย้ำใบพดั ลมระบายความร้อน 4 เค รื่ อ ง มื อ แ ล ะ คู่ มื อ ตรวจเคร่ืองมือประจำรถทุกชิ้นว่ามีครบในสภาพ ประจำรถ สะอาดใช้การได้ และเก็บไว้ในห้องเก็บเคร่ืองมือ ตรวจส่วนประกอบของหลังคา ถ้าไม่ใช้ต้องพับเก็บไว้ ให้ เรี ย บ ร้ อ ย ต ร ว จ ค ำสั่ งก า ร ห ล่ อ ลื่ น ,คู่ มื อ เท ค นิ ค ประจำรถ,แบบฟอร์มต่าง ๆ และว่ามีเก็บอยู่ในช่อง เก็บหลงั ทีน่ ่งั พลขบั หรอื ไม่ 5 แบตเตอรี่ ตรวจระดับน้ำยาในแบตเตอร่ี,ตรวจสภาพและการขัน แนน่ ขั้วแบตเตอร่ี 6 ยาง วัดความดันลมยาง รวมทั้งยางอะไหล่ด้วยและเติมให้ ถูกต้องตามเกณฑ์ที่กำหนดดึงวัตถุที่ตกค้างอยู่ในยาง ออก เช่น ตะปู,แกว้ และหนิ ฯลฯ หมายเหตุ ถ้าความดันลมยางต่ำ ให้ตรวจลิ้นเติมลม ยาง ตารางท่ี 1 รายการตรวจ,บริการ และการปรนนบิ ัติบำรุง ( PMCS ) รยบ.1/4 ตัน 4x4 M151 ก = กอ่ นใชง้ าน, ข = ขณะใช้งาน, ล = หลงั ใชง้ าน ระยะเวลาและลำดบั ส่งิ ที่ต้องตรวจ วธิ ปี ฏบิ ตั ิ กขล 7 อปุ กรณ์ ตา่ ง ๆ ให้ตรวจด้วยสายตา เพ่ือดูความม่ันคงในการติดต้ัง และการชำรดุ ของส่งิ ต่อไปน้ี ตัวรถ,ขอพ่วง,
ห น ้ า | 13 ของส่ิงต่อไปน้ี ตัวรถ,ขอพ่วง, ห่วงลากจูง,เหล็กยึดล้อ อะไหล่, เข็มขัดรัดถังน้ำมันเชื้อเพลิง, กระจกสะท้อน แสง,เครื่องมือโยธาสนาม,เคร่อื งดบั เพลิง (หากติดต้ังไว้),บานพับกระจกบังลม,สลักยึดต่างๆ และถ้ารถติดหลังคาผา้ ใบใหต้ รวจการยดึ ตรึงของ เข็มขัด และหมุดยึดทุกตัวว่ารัดไว้แน่น และใส่ไว้ เรยี บร้อย ตรวจเข็มขดั นิรภัยของทน่ี ั่งผู้โดยสาร วา่ ใชก้ ารได้หรอื ไม่ 8 น้ำมันเชือ้ เพลิง เติมน้ำมันเชื้อเพลิง และเติมถังน้ำมันอะไหล่ตาม ตอ้ งการ ตรวจความสะอาดของกรวยกรองนำ้ มัน เชอ้ื เพลงิ ข้อควรระวงั การตรวจกรวยกรองให้กระทำด้วยการถอดออกมา ตรวจนอกรถ เว้นแต่จะตรวจในเวลากลางวัน อย่าใช้ เปลวไฟส่องเพ่อื ตรวจกรวยกรองฯ ท่ปี ากถังเป็น อนั ขาด 9 การร่ัวไหลต่าง ๆ และ ตรวจรอยรั่วไหลท่ีหีบเฟืองทดเล้ียว, เครื่องเปล่ียน บรเิ วณใตต้ ัวรถ ความเร็ว,ท่อน้ำมนั เชอ้ื เพลงิ ,ท่อนำ้ มนั ห้ามล้อ, หารอยน้ำมนั หรือรอยนำ้ ทป่ี รากฏอยู่บนพืน้ ดนิ เพ่ือ หาจดุ รว่ั ไหลที่รถ หมายเหตุ รอยซึมรอบ ยางกนั รั่วต่าง ๆ ถอื เปน็ ธรรมดา ทำความสะอาดโคลน,ทราย และสิ่งสกปรกต่างๆ ท่ี เกาะอยใู่ ตท้ ้องรถ, เพลาตา่ ง ๆ ระบบพยงุ ตัวรถ และล้อรถ ตารางท่ี 1 รายการตรวจ,บรกิ าร และการปรนนิบัตบิ ำรงุ ( PMCS ) รยบ.1/4 ตัน 4x4 M151 ก = ก่อนใชง้ าน, ข = ขณะใช้งาน, ล = หลังใช้งาน ระยะเวลาและลำดบั สง่ิ ที่ตอ้ งตรวจ วธิ ีปฏิบตั ิ กขล 10 17 เครอื่ งวัดต่าง ๆ เปิดสวิตช์จดุ ระบดิ ไว้ในตำแหนง่ \"ON\" และสังเกตการ ทำงานของเครอื่ งวัดต่างๆ วา่ ทำงานถูกตอ้ งหรอื ไม่,ตดิ เครื่องยนต์ ตรวจการทำงานของเคร่ืองวัดอีก ถ้า แรงดันน้ำมันเคร่ืองอ่านค่าได้ ศูนย์ “ O ”ให้ดับ เคร่อื งยนตท์ นั ทีและตรวจหาสาเหตุ 11 16 ห้ามลอ้ กอ่ นใชร้ ถ ให้ตรวจการทำงานของแป้นห้ามล้อ,ตรวจดู ระยะวา่ งของแป้นห้ามล้อ และตรวจไฟห้ามล้อ ตรวจ
ห น ้ า | 14 หา้ มลอ้ มอื ว่ามคี วามตึงพอเหมาะหรือไม่ และปรบั ตาม ความจำเป็น ในระหว่างใช้งานห้ามล้อเท้า ให้สังเกต การทำงานของห้ามล้อว่าทำงานได้ดีหรือไม่ ให้ ทดสอบห้ามล้อมือบนทางลาด 12 เครื่องปัดน้ำฝน, ไฟส่อง ตรวจการทำงานของเครื่องปัดน้ำฝนและแตร ถ้า สวา่ งและแตร สถานการณ์ทางยุทธวิธี อำนวยให้ ตรวจไฟส่องสวา่ ง และไฟเลยี้ ว 13 กระจกกันลมและกระจก ตรวจและทำความสะอาดกระจกกันลม และกระจก มองหลงั มองหลงั ,ปรบั กระจกมองหลังตามความต้องการ 14 15 เครือ่ งควบคมุ และ ตรวจการทำงานของสวิตช์หมุนเครื่องยนต์และสังเกต คนั บังคับฯ ว่าเคร่อื งยนตต์ ดิ ทันที โดยไม่มีเสียงผดิ ปกติในขณะอุ่น เครอื่ งยนต์ ให้ตรวจการทำงานของโชค๊ คันเรง่ เคร่ืองยนต์ และคันเรง่ มือ ในระหว่างใช้งานให้สังเกตเสียงผิดปกติท่ีเกิดขึ้น ในขณะท่ีรถต้องออกแรงฉุดลาก ตรวจการทำงาน ของคลัตช์,การเปล่ียนเกียร์ และการบังคับเล้ียว,ให้ บนั ทึกการทำงานผิดปกตเิ ช่น การลืน่ การสัน่ เขา้ เกยี รย์ ากฯลฯ ตารางท่ี 1 รายการตรวจ,บรกิ าร และการปรนนิบตั ิบำรุง ( PMCS ) รยบ.1/4 ตนั 4x4 M151 ก = ก่อนใช้งาน, ข = ขณะใชง้ าน, ล = หลังใชง้ าน ระยะเวลาและลำดับ สง่ิ ทต่ี อ้ งตรวจ วธิ ปี ฏิบตั ิ กขล 14 15 เครื่องควบคมุ และ และถ้าสถานการณ์อำนวยให้เร่งความเร็วในขณะขับ คันบังคบั ฯ ( ตอ่ ) รถบนทางผิวเรียบ และไม่มีส่ิงกีดขวางเพื่อทดสอบว่า รถสามารถใชค้ วามเร็วไดต้ ามกำหนดหรือไม่ ข้อควรระวัง อย่าเร่งความเร็วจนเกินความเร็วอนุมัติ ใช้งาน 18 ภายนอกรถ ตรวจสภาพทั่ว ๆ ไปของตัวรถ ตรวจความม่ันคงของ ขอลากจูง ตรวจสลักและเครื่องยึดตรึงต่างๆว่ามั่นคง หรือไม่ ล้างหรือเชด็ ตวั รถดว้ ยผ้าน่มุ ๆ ท่ีสะอาด 19 แหนบและใต้ทอ้ งรถ ตรวจความชำรุดเสียหายใต้ท้องรถโดยเฉพาะท่ีแหนบ และเคร่ืองผอ่ นแรงสะเทือน ตรวจรอยร่วั ต่าง ๆ เช็ดโคลน รอยคราบหรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ ท่ี สะสมอยู่ใต้ทอ้ งรถใหส้ ะอาด หมายเหตุ การปรนนิบัติบำรุงก่อนใช้งาน ถือเป็นส่วน หน่ึงที่ต้องกระทำซ้ำอีกเม่ือปรนนิบัติบำรุงหลังใช้งาน และอย่าวัดความดันลมยางในขณะทีย่ างรอ้ น
ห น ้ า | 15 วชิ า การใช้และซ่อมบารุง รยบ. 1 1/4 ตัน 4 X 4 ฮัมวี แผนกวชิ ายานยนต์ กองการศึกษา โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดศิ ร สระบุรี
ห น ้ า | 16 แผนกวชิ ายานยนต์ กองการศกึ ษา โรงเรียนทหารมา้ ศนู ย์การทหารม้า คา่ ยอดศิ ร สระบุรี ----------------------------------------- รยบ.1 1/4 ตัน 4 X4 , HMMWV “ฮัมว”ี ( คท.9-2320-280-10 ฉบบั ม.ิ ย.1991 และใบแกท้ ่ี 1-5 ) 1. คุณลักษณะโดยท่ัวไป รยบ.1 1/4 ตัน 4X4 ตระกูล M998A1, HMMWV “ฮัมวี” เป็นยานยนต์ ประเภทล้อใชง้ านทั่วไปท่ีมีความคล่องแคล่วในการเคล่ือนท่ีสูง ออกแบบให้สามารถใช้ไดใ้ นทุกสภาพถนน และ ในทุกสภาพอากาศ รถแบบนี้ในขณะว่ิงใช้งานจะมีการขับเคลื่อนทั้ง 4 ล้อ กำลังที่ใชใ้ นการขับเคล่ือนรถไดจ้ าก เคร่ืองยนตด์ ีเซล V-8 ระบายความร้อนดว้ ยน้ำ มกี ำลงั 150 แรงมา้ ระบบห้ามล้อแบบจานทำงานด้วยน้ำมัน มี เครื่องทวกี ำลังห้ามล้อด้วยแรงดันไฮดรอลิก และมีห้ามล้อจอดรถแบบทำงานทางกล ระบบบงั คับเล้ยี ว มีเครื่อง ทวกี ำลังบงั คับเลี้ยวด้วยแรงดันไฮดรอลิกเช่นเดียวกนั บริเวณตวั รถจะมหี ูพว่ งเพ่อื ใชย้ ดึ รถใหต้ ิดกับแทน่ เมือ่ ต้อง ส่งทางอากาศ และขนย้ายแบบอืน่ ๆ ทด่ี ้านหน้า และดา้ นหลังจะมหี ่วงลากจงู อย่ดู า้ นละ 2 ตวั และมขี อพ่วง 1 ตวั อยดู่ ้านทา้ ยรถเพอ่ื ลากจงู รถพ่วง รยบ.1 1/4 ตัน 4X4 ตระกูล M998A1 “ฮัมวี” สามารถลุยข้ามน้ำที่มีพื้นดินใต้ท้องน้ำแข็งแรงได้ลึก 30 น้ิว ( 76 ซม.) และเมอื่ ประกอบกับชุดลุยข้ามน้ำลกึ จะสามารถลุยได้ลึก 60 นิว้ ( 152 ซม.) เนือ่ งจากรถนี้มี น้ำหนักเบา มีความคล่องตัว และความเรว็ สูง แม้ว่าระบบขบั เคลื่อนและระบบพยุงตัวรถ ตลอดจนช่วงล้อได้รับ การออกแบบมาอย่างทันสมัย ตามแบบของยานยนต์ทหารยุคใหม่ ให้มีเครื่องช่วยความปลอดภัยมากข้ึน แต่ ระบบขับเคลอ่ื นมลี ักษณะการทำงานที่แตกต่างจากรถยนตท์ หารรุน่ ก่อน ๆ ผู้ใชจ้ ึงตอ้ งศึกษาให้คนุ้ เคยกบั ระบบ ควบคุม และเคร่ืองบังคับตา่ ง ๆ และควรขับรถด้วยความระมัดระวัง และฝึกฝนให้คุ้นเคยกับการบังคับควบคุม รถในสภาพตา่ ง ๆ 2. ความแตกต่างระหว่างรถ รยบ.1 1/4 ตัน 4X4 “ฮัมวี” ได้รับการพัฒนาข้ึนมาตามลำดับจากรถต้นแบบ M998 โดยมีความมงุ่ หมายเพื่อสนองความตอ้ งการใช้งานในภารกิจต่าง ๆ ทางทหารพอสรปุ ได้ ดงั นี้ 2.1 รถบรรทุกทหารและสัมภาระ M998 และ M998A1 รถ M1038 และ M1038A1 2.2 รถบรรทุกทหารและสัมภาระหนกั M1097 และ M1097A1 2.3 รถติดตั้งระบบอาวุธจรวดนำวิถีต่อสู้รถถัง “TOW” M996, M996A1, M1036, M1036A1, M1045 และ M1045A1 2.4 รถติดต้ังระบบอาวุธปืนกล และเครื่องยิงลูกระเบิดอัตโนมัติ M1025, M1025A1, M1026 และ M1026A1 2.5 รถติดต้ังตู้อุปกรณ์ซ่อมบำรุง S250 แบบ M1037 และ M1042 รถพยาบาลขนาด 2 เปล M996 และ M996A1 2.6 รถพยาบาลขนาด 4 เปล M997 และ M997A1 รยบ.1 1/4 ตัน “ฮัมวี” ทุกแบบที่กล่าวมาน้ีใช้การวางระบบขับเคล่ือนแบบธรรมดา คือวางเครื่องยนต์ ไวท้ างหน้ารถ ใช้เคร่ืองเปล่ียนความเร็วอัตโนมัติ ความเร็วเดินหน้า 3 เกียร์, ถอยหลัง 1 เกียร์ และว่าง 1 เกียร์ ประกอบกับหีบเฟืองช่วย ซ่ึงมีตำแหน่งเกียร์ใช้งาน 4 ตำแหน่ง คือ เกียร์สูง, เกียร์สูง/ล็อก, เกียร์ต่ำ และเกียร์ ว่าง การเลือกตำแหน่งใช้งานของเคร่ืองเปลี่ยนความเร็ว และหีบเฟืองช่วย กระทำด้วยคันบังคับในห้องพลขับ
ห น ้ า | 17 รถบางแบบจะติดต้ังกว้านหน้า ซึ่งเป็นกว้านหน้าขับด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 24 โวลท์จากแบตเตอรี่ประจำรถ และ ควบคมุ การทำงานของกว้านดว้ ยชดุ ควบคมุ ทางไฟฟ้าระยะไกล (REMOTE CONTROL) 3. มาตราทานรถ และรายละเอยี ดของรถ ตารางที่ 1 ความจุ ความจุ แบบรถ องค์ประกอบ ระบบ ระบบเมตรกิ ทุกแบบ ระบบระบายความร้อน มาตรฐาน 24.6 ลติ ร ทุกแบบ อา่ งนำ้ มันเครอื่ งยนต์ 6.6 ลิตร ทุกแบบ อ่างนำ้ มันเครื่องยนต์ และหม้อกรองฯ 26 ควอต 7.6 ลติ ร ทุกแบบ หีบเฟืองทดเล้ยี ว (ตัวละ) 7 ควอต 1.9 ลิตร ทุกแบบ เคร่ืองเปลย่ี นความเรว็ (ถา่ ย/เติมใหม่) 8 ควอต 5.7 ลิตร ทุกแบบ หีบเฟอื งช่วย 2 ควอต 3.3 ลติ ร ทกุ แบบ ถังน้ำมนั เช้อื เพลงิ 6 ควอต 94.6 ลิตร ทกุ แบบ ระบบบงั คบั เลย้ี ว 3.5 ควอต 0.95 ลติ ร ทกุ แบบ ระบบบังคบั เลยี้ ว และชุดระบายความรอ้ นน้ำมันฯ 25 แกลลอน 1.18 ลิตร 1 ควอต 1.25 ควอต
ห น ้ า | 18 ตารางที่ 1 ความจุ ความจุ แบบรถ องคป์ ระกอบ ระบบ ระบบเมตริก ทกุ แบบ ยกเวน้ แม่ปม๊ั ห้ามล้อ มาตรฐาน 0.33 ลิตร M1097 และ 0.69 ไพนต์ M1097A1 แมป่ ๊มั ห้ามลอ้ M1097 และ น้ำมันหา้ มล้อทั้งระบบ 1.12 ไพนต์ 0.53 ลติ ร M1097A1 1.2 ไพนต์ 0.56 ลิตร ทกุ แบบ ยกเวน้ นำ้ มันห้ามลอ้ ทงั้ ระบบ M1097 และ อ่างฉดี นำ้ ล้างกระจก 1.63 ไพนต์ 0.78 ลิตร M1097A1 หบี เฟอื งทดปลายเพลา M1097 และ 1 ควอต 0.95 ลิตร M1097A1 1 ไพนต์ 0.47 ลิตร ทกุ แบบ ทกุ แบบ ตารางท่ี 2 น้ำระบายความรอ้ น, สารหล่อลื่น, น้ำมนั ห้ามลอ้ และน้ำล้างกระจก * ใช้ในอุณหภมู ิตำ่ กวา่ – 20ฟ.(-20 ซ.) แบบรถ องคป์ ระกอบ ยา่ นอุณหภูมิ +15 ฟ. ถึง -15 +40 ฟ. ถึง -65 สูงกว่า+15 ฟ. ฟ. ฟ. ทกุ แบบ ระบบระบายความร้อน น้ำ 3/4 ส่วน +น้ำยา น้ำ 3/5 ส่วน+น้ำยา น้ำ 2/5 ส่วน+น้ำยา กันสนิม 1/4 สว่ น กนั สนมิ 2/5 ส่วน กันสนมิ 3/5 สว่ น ทุกแบบ เครื่องยนต์ OE/HDO 30 OE/HDO 10 OEA ทุกแบบ น้ำมนั เชอ้ื เพลิง ดเี ซล DF1,DF2 ดเี ซล DF1 ดีเซล DF1,DFA ทุกแบบ หบี เฟอื งทดเลีย้ ว GO 80/90 GO 80/90 GO 75 ทุกแบบ หีบเฟืองทดปลายเพลา GO 80/90 GO 80/90 GO 75
ห น ้ า | 19 ตารางที่ 2 นำ้ ระบายความรอ้ น, สารหล่อล่ืน, นำ้ มนั ห้ามล้อ และน้ำลา้ งกระจก * ใชใ้ นอณุ หภมู ติ ำ่ กวา่ – 20 ฟ.(-20 ซ.) ความจุ แบบรถ องคป์ ระกอบ ระบบ ระบบเมตริก มาตรฐาน ทุกแบบ เครอื่ งเปลีย่ นความเร็ว DEXRON II DEXRON II DEXRON II ทุกแบบ หีบเฟอื งช่วย ทกุ แบบ หีบเฟืองพวงมาลัย DEXRON II DEXRON II DEXRON II ทกุ แบบ ระบบห้ามล้อ ทกุ แบบ อ่างนำ้ ลา้ งกระจก DEXRON II DEXRON II DEXRON II ซิลิโคน DOT5(BFS) ซลิ โิ คน DOT5(BFS) ซลิ โิ คน DOT5(BFS) น้ำ 2/3 ส่วน + น้ำยา น้ ำ 1/2 ส่ ว น + น้ ำ 2/3 ส่ ว น + ล้างกระจก 1/3 สว่ น น้ำยาล้างกระจก 1/2 น้ำยาล้างกระจก 1/3 สว่ น สว่ น ตารางท่ี 3 เครอ่ื งยนต์ ดเี ซล, 6.2 ลติ ร, ระบายความร้อนดว้ ยน้ำ 8(V) ชนดิ 150 แรงม้า ณ 3,600 รอบ/นาที จำนวนกระบอกสูบ แรงม้า 650 25 รอบ/นาที รอบเดินเบา 1,500 – 2,300 รอบ/นาที รอบใชง้ าน 15 ปอนด/์ ตร.นว้ิ แรงดันนำ้ มันเคร่อื งยนต์ (เดินเบา) 40 – 50 ปอนด/์ ตร.นว้ิ แรงดนั นำ้ มนั เครอื่ งยนต์ (รอบใช้งาน) ความดนั ลมยาง (ยางเรเดยี ล) ยางหนา้ (ปอนด/์ ตร.นว้ิ ) ยางหลงั (ปอนด/์ ตร.นว้ิ ) แบบรถ บนถนน ในภมู ิประเทศ บนถนน ในภมู ิประเทศ M966,M997,M998,M1026A1 20 16 22 18
ห น ้ า | 20 ตารางท่ี 4 ระบบระบายความร้อน แรงดนั ฝาปดิ หมอ้ น้ำลน้ 15 ปอนด/์ ตร.นวิ้ ( 103 กโิ ลปาสกาล ) ล้ินควบคมุ อุณหภมู ิ 190 ฟ. ( 88 ซ.) เรม่ิ เปิด 212 ฟ. ( 100 ซ.) เปิดสดุ หลอดน้ำไหลลง หม้อนำ้ รงั ผง้ึ 10 ใบ, ขนาด 19 นว้ิ พัดลม 190 ฟ. – 230 ฟ. ( 88 ซ. - 110 ซ.) อณุ หภมู ใิ ช้งานปกติ ตารางที่ 5 เคร่ืองเปลี่ยนความเร็ว เทอรโ์ บ ไฮดรา-แมติก 400 อตั โนมตั ิ 3 ความเรว็ ข้อมลู ทวั่ ไป เด็กซ์รอน 2 แบบ ชนดิ นำ้ มันหล่อลนื่ การเลือกตำแหน่งใชง้ านเครอื่ งเปลีย่ นความเร็ว ตำแหน่งคันเกียร์ การใชง้ าน คำแนะนำ และขอ้ ควรปฏบิ ตั ิ “ R ” ถอยหลัง ตรวจการจราจร สิ่งกดี ขวาง และควรมีผ้ใู ห้สญั ญาณ “ N ” วา่ ง รถหยดุ และใสห่ า้ มล้อจอดรถไว้ “ D ” ขบั ปกติ ขับในสภาพปกติ และเมอื่ ลยุ น้ำ “ 2 ” เกียร์ 2 ไตล่ าดชัน และหา้ มลอ้ รถด้วยเครือ่ งยนต์เพอื่ ชะลอความเร็วในขณะลงลาดชัน “ 1 ” เกยี ร์ 1 ไตล่ าดชันมาก และขบั รถผ่านโคลน ทราย หรอื หมิ ะ และให้กำลงั หา้ มลอ้ รถดว้ ย เครอื่ งยนตเ์ พ่ือชะลอความเรว็ ในขณะลงลาดชันมากท่ีสดุ ตารางที่ 6 หบี เฟอื งชว่ ย ขอ้ มลู ทัว่ ไป แบบ นวิ โพรเซส เกียร์ 242 (MOD) ชนิด 2 ความเรว็ , ขบั ทุกลอ้ นำ้ มันหลอ่ ล่ืน เดก็ ซร์ อน 2
ห น ้ า | 21 ขอ้ ควรระวัง 1. ขบวนกำลังขับเคลื่อนรถ อาจชำรุดเสียหายหากเลือกตำแหน่งใช้งานของหีบเฟืองช่วยไม่ถูกต้อง และไม่ ปฏิบัตติ ามคำแนะนำทก่ี ำหนดไว้ในเรอ่ื งการออกรถ และเร่อื งการใช้รถในภมู ปิ ระเทศยากลำบาก 2. ในกรณีที่สงสัยว่ารถจะสามารถไต่ขึ้น-ลงลาดชันนั้นได้หรือไม่ ควรเปล่ียนเป็นเกียร์ต่ำ “ L” ให้เสร็จก่อนขับ รถข้ึนลาดชันน้ัน หากจำเป็นต้องเปล่ียนเป็นเกียร์ต่ำ “ L ” ในระหวา่ งการขึ้น-ลง ลาดชันจะต้องตรวจให้แน่ใจ ว่าการเข้าเกียร์แล้วเสร็จสมบูรณ์ก่อนออกรถต่อไปหลังจากเปลี่ยนเกียร์แล้ว โดยการปล่อยให้รถเคล่ือนท่ีไป ประมาณ 1 ฟุต (30.5 ซม.) ก่อนเร่งเครื่องยนต์ หากไม่ปฏิบัติตามนี้ อาจทำให้ขบวนกำลังขับเคล่ือนรถชำรุด เสียหาย 3. ไฟเตอื นท่ีอยู่หน้าคันเกียร์ชว่ ย จะติดสว่างข้ึนเมื่อคันเกียร์ชว่ ยอยู่ในตำแหน่งเข้าเกียร์ต่ำ “ L” อย่างสมบูรณ์ ถ้าไฟเตือนดวงน้ีไม่ติดขึ้นเมื่อเข้าเกียร์ต่ำ “ L ” แล้ว จะต้องผ่อนคันเร่ง เพื่อทำให้เกิดการล็อกของเกียร์ และ อาจต้องผอ่ นคนั เรง่ ถึง 2 ครั้ง การเลอื กตำแหนง่ ใช้งานหีบเฟอื งชว่ ย “ H ” เกยี ร์สงู ควรเลือกใช้ตำแหน่งเกียร์นี้ในทุกสภาพการขับรถถ้ากระทำได้ เช่นการขับรถบนถนน พน้ื แข็ง ชัน้ 1 หรือชั้น 2 หรือการขับรถในภมู ิประเทศราบเรียบ เมื่อล้อรถไม่มีการลื่น ไถล หรือมีการลื่นน้อยมาก และควรเลือกตำแหน่งเกียร์นี้เช่นเดียวกันเม่ือจะเลี้ยวโค้ง มุมแคบ หรือตอ้ งเลี้ยวรถตอ่ เน่ืองกันไป “ H/L ” เกยี รส์ งู /ล็อก ควรเลือกใช้ตำแหน่งเกียร์น้ีเมื่อพบว่าล้อรถเกิดการล่ืนไถลหรือหมุนฟรีอย่าง ต่อเนื่องกันเท่าน้ัน และเมื่อต้องขับรถผ่านโคลน, ทราย, หิมะ หรือน้ำแข็ง หรือเม่ือ ตอ้ งการกำลังเกาะพนื้ ดนิ ของล้อรถเพิ่มขึ้น “ L ” เกยี ร์ต่ำ ควรเลือกใช้ตำแหน่งเกียร์น้ีเมื่อใช้เกียร์สูงแล้ว รถไม่มีกำลังพอที่จะไต่ข้ึน-ลงลาดชัน และควรใช้เมอื่ รถเกิดติดหลม่ แลว้ ขน้ึ จากหลม่ ไมไ่ ดด้ ว้ ยเกยี รส์ ูง “ล็อก” “ N ” เกียรว์ ่าง ควรเลือกตำแหน่งเกยี รน์ เ้ี มอื่ รถใชก้ ารไมไ่ ด้ และจะตอ้ งลากจงู รถไป ตารางที่ 7 ตำแหน่งเกยี รห์ บี เฟอื งชว่ ย ตำแหน่งเกยี ร์ เปลย่ี นความเรว็ “L” เกียร์ต่ำ “H” เกยี รส์ งู “H/L” เกียรส์ ูงลอ็ ก “R” ถอยหลงั 11 ไมล์/ชม.(18 กม./ชม.) 29 ไมล์/ชม.(47 กม./ชม.) 11 ไมล์/ชม.(18 กม./ชม.) “D” ขับปกติ “2” เกียร์ 2 27 ไมล์/ชม.(43 กม./ชม.) 55 ไมล์/ชม.(88 กม./ชม.) 55 ไมล์/ชม.(88 กม./ชม.) “1” เกยี ร์ 1 19 ไมล์/ชม.(31 กม./ชม.) 48 ไมล์/ชม.(77 กม./ชม.) 48 ไมล์/ชม.(77 กม./ชม.) 11 ไมล์/ชม.(18 กม./ชม.) 29 ไมล์/ชม.(47 กม./ชม.) 29 ไมล์/ชม.(47 กม./ชม.)
ห น ้ า | 22 ตารางท่ี 8 ขนาดรถ * ความสงู ของรถมูลฐานเทา่ นั้น ** ความสงู เมอ่ื ถอดอาวธุ ประจำรถออก แบบรถ ความยาว ความสงู * ความสงู ที่ลดลงได้ นว้ิ ซม. นว้ิ ซม. นว้ิ ซม. M966/966A1 180 457 73 185 71 180 69** 175 M996/M966A1 202 513 86 218 77 196 M998/M998A1 180 457 69 175 55 140 M1025/M1025A1 180 457 73 185 71 180 69** M1026/M1026A1 185 470 73 185 71 180 69** M1035/M1035A1 180 457 69 175 M1036 185 470 73 185 71 180 69** M1037 189 480 69 175 55 140 M1038/M1038A1 185 470 73 175 55 140 M1042 185 470 69 175 55 140 M1043/M1043A1 180 457 73 185 71 180 69** M1044/M1044A1 185 470 73 185 71 180 69** M1045/M1045A1 180 457 73 185 71 180 69** M1046/M1046A1 185 470 73 185 71 180 M1097/M1097A1 180 457 69** 175 55 140 ความกวา้ ง ความสูงใตท้ ้องรถ แบบรถ ใตเ้ พลาลอ้ ใตโ้ ครงรถ นว้ิ ซม. นว้ิ ซม. นว้ิ ซม. ทุกแบบ 85 216 16 41 24 61
ห น ้ า | 23 ตารางท่ี 9 นำ้ หนกั รวม และระยะปฏิบัตกิ าร หมายเหตุ เมือ่ ขบั รถบนถนนพืน้ เรียบผิวแข็ง และในบริเวณพืน้ ท่เี ปน็ ลาดเนินดว้ ยความเรว็ 30-40 ไมล/์ ชม. ( 48- 64 กม./ชม.) และรถน้ันใช้ยางชนิดช้ันผ้าใบธรรมดา “BIAS PLY TIRES” ระยะปฏิบัติการของรถสามารถ เพมิ่ ขนึ้ อกี ประมาณ 30 ไมล์ ( 48.3 กม.) เม่อื รถนน้ั ใช้ยางเรเดยี ล แบบรถ นำ้ หนกั รวม (GVW) ระยะปฏบิ ัตกิ าร M998, M1035, M1038 7,700 ปอนด์ (3,493 กก.) 337 ไมล์ (542 กม.) M966, M1025, M1026, 8,200 ปอนด์ (3,719 กก.) 320 ไมล์ (515 กม.) M1036 8,400 ปอนด์ (3,810 กก.) 312 ไมล์ (502 กม.) M1043, M1044, M1045, M1046 8,660 ปอนด์ (3,928 กก.) 300 ไมล์ (483 กม.) 9,100 ปอนด์ (4,128 กก.) 275 ไมล์ (442 กม.) M996, M1037, M1042 10,000 ปอนด์ (4,540 กก.) 275 ไมล์ (442 กม.) M997 M1097 M998A1, M1035A1, 7,880 ปอนด์ (3,578 กก.) 337 ไมล์ (542 กม.) M1038A1 8,380 ปอนด์ (3,805 กก.) 320 ไมล์ (515 กม.) 8,580 ปอนด์ (3,895 กก.) 312 ไมล์ (502 กม.) M966A1, M1025A1, M1026A1 8,840 ปอนด์ (4,013 กก.) 300 ไมล์ (483 กม.) M1043A1, M1044A1,M1045A1 M1046A1 M996A1 M997A1 9,280 ปอนด์ (4,213 กก.) 275 ไมล์ (442 กม.) M1097A1 10,000 ปอนด์ (4,540 กก.) 275 ไมล์ (442 กม.) ตารางท่ี 10 กวา้ นหน้า รายละเอียด ความสามารถในการดงึ แบบรถ M1026, M1036, M1038 ฉดุ ลาก นน.สูงสดุ ห น่ ว ย หนว่ ยเมตรกิ M1042, M1044, M1046 ( ลวดกวา้ นชัน้ ท่ี 5 “บนสดุ ” ) มาตราฐาน M 1026A1, M1038A1 3,360 ปอนด์ 1,542 กก. M1044A1, M1046A1 ฉดุ ลาก นน.สงู สดุ ( ลวดกวา้ นชั้นที่ 4 ) 3,780 ปอนด์ 1,715 กก.
ห น ้ า | 24 ฉดุ ลาก นน.สูงสดุ 4,310 ปอนด์ 1,955 กก. ( ลวดกวา้ นช้นั ที่ 3 ) 5,020 ปอนด์ 2,277 กก. 6,000 ปอนด์ 2,722 กก. ฉุดลาก นน.สงู สดุ ( ลวดกว้านชน้ั ที่ 2 ) ฉดุ ลาก นน.สงู สดุ ( ลวดกวา้ นชั้นที่ 1 “ล่างสดุ ” ) ตารางท่ี 11 น้ำหนักรถเปล่า แบบรถ นน.รถเปลา่ (ปอนด)์ แบบรถ นน.รถเปลา่ (ปอนด)์ M998 5,200 M977 7,180 6,438 M1038 5,327 M1045 6,565 6,411 M996 6,015 M1046 6,538 5,297 M1025 5,960 M1043 5,561 5,600 M1026 6,087 M1044 7,360 6,618 M1037 5,425 M1035 6,745 6,591 M996 6,748 M1042 6,718 5,457 M1036 6,178 M1097 M1038A1 5,380 M997A1 M998A1 5,507 M1045A1 M996A1 6,231 M1046A1 M1025A1 6,140 M1043A1 M1026A1 6,267 M1044A1 M996A1 6,928 M1035A1 M1097A1 5,600 หมายเหตุ ขอ้ มลู เกีย่ วกับน้ำหนักรถพ่วงศึกษาไดจ้ าก รส.5-36 ตารางที่ 12 ช้นั สะพานของรถ แบบรถ รถเปลา่ บรรทกุ น้ำหนกั สูงสดุ 3 ในภูมิประเทศ บนถนน M966,M966A1,M996,M996A1, M997,M997A1,M998,M998A1, 2 44 2 M1025,M1025A1,M1026,M1026A1, 33 M1036,M1044,M1044A1,M1045, 42 M1045A1,M1046,M1046A1 M1035,M1035A1 M1037,M1038M1038A1,M1042, M1043,M1043A1,M1907,M1907A1
ห น ้ า | 25 4. คำแนะนำในการใช้งาน รายละเอยี ด การใช้เครือ่ งบงั คับ และเคร่ืองชีส้ อบต่าง ๆ ของพลขับ 4 -1. พลขับตอ้ งรจู้ ัก เคร่ืองบงั คับ และเครอื่ งชสี้ อบ ต่าง ๆ ก่อนที่พลขับจะพยายามใชง้ านรถหรืออปุ กรณ์ใด ๆ ของรถ พลขับจะตอ้ งม่ันใจว่าตนเองรู้จักตำแหน่ง ที่อยู่ ตลอดจนหน้าที่และวตั ถุประสงค์การใช้งานของเครื่องบังคับ และเครื่องช้สี อบ ต่าง ๆ ของรถอยา่ งถ่องแท้ ตำแหน่งทีอ่ ยู่ หน้าท่ีและวัตถุประสงค์การใชง้ านของสิ่งท่ีกล่าวมาแล้ว จะมีคำอธบิ ายและภาพแสดงไวใ้ นบท น้ี คำเตอื น * รถในตระกูลM998 \"HMMWV\" ฮัมวี ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยและมี ประสิทธิภาพภายในขอบเขต ตามท่ีกำหนดไว้ในคู่มือเล่มนี้ และห้ามใช้งานใด ๆ นอกเหนือไปจาก ขอบเขตดงั กลา่ วโดยไม่ได้รบั คำรบั รองเปน็ ลายลักษณอ์ ักษรจากผบู้ ังคับบญั ชา * ภายหลังการลุยน้ำ ห้ามใช้คันเร่งมือเป็นเครื่องต้ังความเร็วเดินทางของรถ (CRUISE CONTROL) เนอื่ งจากคันเร่งมือของรถจะไม่ถูกปลดโดยอัตโนมัตเิ มื่อพลขับเหยียบห้ามล้อ ซึ่งจะทำให้ระยะหยุดรถ เพ่ิมข้ึน นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุ และเป็นการใช้รถอย่างไม่ปลอดภัยและอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บ ทำใหย้ ทุ โธปกรณ์ หรือทรพั ยส์ ิน ต่าง ๆ ชำรดุ เสียหายได้ หมายเหตุ * หน้าที่และวัตถุประสงค์การใช้งานของเครื่องบังคับ และเครื่องช้ีสอบ ต่าง ๆ ที่กล่าวไว้ในบทน้ีใช้ กับรถทกุ แบบที่ระบุไวใ้ นคมู่ อื เล่มนี้ เว้นแต่จะมหี มายเหตุกำหนดไวเ้ ป็นอย่างอน่ื *ในคู่มือเล่มน้ี \" ด้านซ้าย \" หมายถึงด้านซึ่งที่น่ังพลขับติดตั้งอยู่ และ \" ด้านขวา\" หมายถึงด้านที่อยู่ ตรงข้าม 4.2 เคร่ืองบังคับ เครอ่ื งชส้ี อบตา่ ง ๆ และอปุ กรณป์ ระจำรถ 4.2.1 หอ้ งพลขบั
ห น ้ า | 26 ลำดบั อปุ กรณ์ หนา้ ทีแ่ ละการใชง้ าน 1. สวิตช์หมุนเครอ่ื งยนต์ เป็นสวิตชล์ กู บิดมี 3 ตำแหน่ง คอื - ENGINE STOP “ ดบั เครอ่ื งยนต์ ” - RUN “ เดนิ เคร่ืองยนต์และติดชุดอุ่นไอดี ” - START “ หมนุ เครื่องยนต์ ” 2. ไฟเตือนชุดอุน่ ไอดี ไฟเตือนนี้จะติดขึ้นเมื่อเร่ิมจ่ายกระแสไฟให้ชดุ อุ่นไอดี และ เม่ือดบั ลง แสดงวา่ เคร่ืองยนตพ์ ร้อมตดิ เครือ่ งแล้ว 3. ไฟเตอื นระบบห้ามลอ้ ไฟเตือนนี้เม่ือติดข้ึนแสดงว่าใส่ห้ามล้อจอดรถไว้ หรือ แรงดนั น้ำมันในระบบห้ามล้อ ระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง ไม่ สมดลุ เนอื่ งจากเกิดการรว่ั ไหล เปน็ ต้น 4. เคร่ืองวัดการอุดตันของหม้อกรอง แสดงให้พลขับทราบถึงสภาพการอดุ ตันของไสก้ รองใน อากาศ หม้อกรองอากาศ 5. เครอ่ื งวดั แรงดันนำ้ มนั เครื่องยนต์ แสดงค่าแรงดันน้ำมนั หล่อลน่ื เครือ่ งยนตข์ ณะเดินเครอื่ ง 6. ไฟเตอื นไฟสงู ตดิ สว่างขึ้นเมอ่ื สวิตชเ์ ลอื กลำแสงอยู่ในในตำแหน่งไฟสูง 7. เครื่องวดั อณุ หภมู ิเครอ่ื งยนต์ แสดงคา่ อุณหภมู ิของน้ำระบายความร้อนเคร่ืองยนต์ 8. ปมุ่ กำจดั ฝา้ ไอนำ้ เปดิ อากาศรอ้ นใหเ้ ป่าไปที่กระจกหน้ารถเพ่อื ขจัดฝา้ ไอนำ้ 9. ไฟสอ่ งแผงเครอื่ งวัด สอ่ งสวา่ งหน้าปัดเคร่ืองวดั ตา่ ง ๆ 10. ปุม่ ควบคมุ เครือ่ งทำความอบอุ่น ปรบั อุณหภูมิอากาศจากเครื่องทำความอบอ่นุ 11. ปุ่มควบคุมพัดลมเคร่ืองทำความ ควบคมุ ความเรว็ ของพัดลม มี 3 ตำแหนง่ คอื “ HI, OFF, อบอ่นุ LO ” ใช้ควบคุมท้ังความเร็วลมท่ี เป่าออกจากเคร่ืองทำ ความอบอนุ่ และลมท่ี เปา่ กำจัดฝ้าไอน้ำ 12. เครอื่ งวดั แรงดนั ไฟฟา้ แสดงค่าแรงดันในการประจุไฟของเคร่ืองกำเนิดไฟฟ้า และ ค่า แรงดันของแบตเตอร่ี 13. เคร่ืองวัดความเร็วและบันทึ ก แสดงความเร็วของรถ และบนั ทึกระยะทางทรี่ ถไดว้ ่ิงมาแลว้ ระยะทาง 14. เคร่ืองวัดนำ้ มันเชื้อเพลงิ แสดงระดบั นำ้ มนั เช้อื เพลิงในถัง 15 คนั เรง่ มือ ควบคุมความเร็วของเครื่องยนต์ สำหรับใช้เมื่อติด เครื่องยนต์ในอากาศเย็นจัด เม่ือใช้กว้านหน้า เม่ือลุย นำ้ ลกึ และเมือ่ ตอ้ งการ ใช้ ก ำ ลั งไฟ ฟ้ า สู งสุ ด จ า ก เค ร่ื อ งก ำ เนิ ด ไฟ ฟ้ าใน ข ณ ะ ใช้ เคร่ืองมือติดต่อสื่อสาร หรืออุปกรณ์ไฟฟ้า ต่าง ๆ ของรถ แต่ห้ามใช้เป็นเครื่องควบคมุ ความเร็วเดนิ ทาง 16. คนั เร่งเคร่ืองยนต์ ควบคุมความเร็วเครอ่ื งยนต์ด้วยเท้า 17. คนั ห้ามลอ้ ชะลอความเร็ว หรอื หยุดรถ 18. สวติ ชเ์ ลอื กลำแสง เลอื กลำแสงไฟใหญใ่ นตำแหนง่ ไฟสงู หรือไฟต่ำ 19. สวิตชค์ วบคุมแสงสวา่ ง ควบคมุ การใชง้ านเครือ่ งใหแ้ สงสวา่ งทงั้ ไฟปกติและไฟพราง 20. ไฟเตือนไฟเลีย้ ว ติดสว่างขึน้ เม่ือใช้งานสวิตช์ไฟเลยี้ ว
ห น ้ า | 27 ลำดับ อปุ กรณ์ หนา้ ที่และการใชง้ าน 1. สวติ ช์ไฟเลย้ี ว แสดงทศิ ทางทีต่ ้องการเล้ียวรถ 2. กลอนบงั คบั ไฟฉกุ เฉิน ดงึ เพอื่ ปลดกลอน เม่ือต้องการยกสวติ ช์ไฟเลี้ยวใหถ้ ึงตำแหนง่ ไฟฉุกเฉิน 3. สวิตช์แตร กดเม่อื ต้องการใชเ้ สยี งแตร 4. คันเปิดช่องอากาศ เปดิ -ปิด อากาศจากเคร่อื งทำความอบอุ่นเข้าสู่ห้องพลขับ 5. คันระบายอากาศ เปดิ -ปิด อากาศทีร่ บั จากภายนอกรถ 6. เต้าเสียบชดุ สายไฟ ต่อชดุ สายไฟของเครอื่ งตรวจวเิ คราะหเ์ ครอื่ งยนต“์ STEICE ” 7. คันเกยี รเ์ ปล่ยี นความเร็ว เลือกตำแหน่งใช้งานของเคร่ืองเปลี่ยนความเร็ว มี 4 ตำแหนง่ คอื 8. คันเกียรช์ ่วย - R “ ถอยหลงั ” N “ ว่าง ” D “ ขับปกติ 8.1 ไฟเตอื นเกยี รต์ ่ำ 2 “ เกียร์ 2 ” และ 1 “ เกยี ร์ 1 เลอื กตำแหนง่ ใช้งานของหบี เฟอื งชว่ ย มี 4 ตำแหน่ง คอื 9. คันห้ามล้อจอดรถ - L “ เกียรต์ ำ่ ” H “ เกียรส์ ูง ” 10. ล้ินควบคมุ ระบบลุยน้ำลกึ N “เกียร์ว่าง H/L “ เกียร์สูงลอ็ ก 11. ลวดคลอ้ งพวงมาลยั รถ ติดสว่างข้ึนเมื่อหีบเฟืองช่วยอยู่ในตำแหน่งเกียร์ต่ำอย่าง สมบูรณ์ ใส่และปลดห้ามล้อจอดรถ ( คันห้ามล้อแบบใหม่จะต้องปลด กลอน ยึดคันหา้ มลอ้ เสยี กอ่ น จึงจะปลดห้ามลอ้ ได้ ) ( เมือ่ รถมีชุดลุยนำ้ ลกึ ประกอบอยูเ่ ทา่ นนั้ ) ใชค้ ล้องเพ่ือใส่กุญแจพวงมาลัย ป้องกันการใช้รถโดยไม่ได้รับ อนญุ าต
ห น ้ า | 28 ลำดับ อุปกรณ์ หนา้ ที่และการใชง้ าน 12. สวิตช์เครอื่ งปัดนำ้ ฝนและฉีดนำ้ ล้าง ควบคุมการทำงานของมอเตอร์เคร่ืองปัดน้ำฝน มี 2 ความเร็ว กระจก และ ฉดี น้ำลา้ งกระจกเม่ือกดปุ่ม 13. ที่น่ังผู้ช่วยพลขับ เป็นที่นั่งผู้ช่วยพลขับ สามารถถอดออกได้ เม่ือจะปฏิบัติงาน กบั แบตเตอรี่ 14. ขอยดึ ฝาปดิ หบี แบตเตอร่ี เกาะยึด ฝาปิดหีบแบตเตอร่ี เมื่อจะปฏิบัติงานกับแบตเตอรี่ ใหป้ ลดขอยดึ นอี้ อก และถอดท่นี ่งั ผชู้ ว่ ยพลขับออกเสียก่อน 15. ชดุ แบตเตอรี่ จา่ ยกระแสไฟตรง 25 โวลท์ ใหร้ ะบบไฟฟ้าของรถ 16. เต้าพ่วงไฟ อยู่ข้างห้องแบตเตอร่ี เป็นที่ต่อสายพว่ งไฟเม่ือจำเป็นต้องพ่วง ไฟเขา้ มาตดิ เครือ่ งยนต์ หรอื พว่ งไฟออกไปใหร้ ถคันอื่น 16 2 7 3 54
ห น ้ า | 29 หลักการทำงานของระบบ ตา่ ง ๆ ของ รยบ. 1 1/4 ตนั “ฮมั ว”ี 1. ระบบส่งกำลังขับเคลื่อน (DRIVE TRAIN) ระบบส่งกำลังขับเคล่ือน ของ รยบ. 1 1/4 ตัน “ฮัมวี” จะ ประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญเหมือนกันทุกแบบ และมีหน้าท่ีถ่ายทอดกำลังขับเคล่ือนจากเคร่ืองยนต์ไป ขับเคลอื่ นล้อให้รถเคล่อื นที่ไปได้ ระบบส่งกำลังขบั เคล่ือนรถประกอบดว้ ยสิ่งต่าง ๆ ดงั นี้ A เครื่องยนต์ เป็นเคร่ืองยนต์ดีเซล GM. V-8 ขนาด 6.2 ลิตร ระบายความร้อนด้วยน้ำ มีกำลัง 150 แรงม้า เม่อื เครอื่ งยนตห์ มุน 3,600 รอบ/นาที B เคร่ืองเปลี่ยนความเร็ว ทำหน้าท่ีปรับเปล่ียนกำลังขับเคล่ือนของเคร่ืองยนต์ให้เหมาะสมกับ ความเร็ว ภารกรรมของรถ และความต้องการใช้งานของพลขับ เป็นเคร่ืองเปลี่ยนความเร็วอตั โนมัติ มีความเร็ว เดินหน้า 3 เกียร์ ถอยหลัง 1 เกียร์ และ วา่ ง 1 เกียร์ ที่เรือนคันเกียร์จะมีสวิตช์นิรภัยเพ่ือปอ้ งกันไม่ให้มอเตอร์ หมนุ เคร่ืองยนตท์ ำงานในตำแหน่งเกียร์ ต่าง ๆ นอกจากเกยี รว์ า่ ง C หีบเฟืองช่วย หรือเครื่องเพิ่มเพลาขับ ทำหน้าท่ีถ่ายทอดและปรับเปล่ียนกำลังขับจากเคร่ือง เปล่ียนความเร็วไปขับเคลื่อนล้อท้ัง 4 พร้อม ๆ กัน ซ่ึงหมายความว่าล้อท้ัง 4 จะได้รับกำลังขับเคล่ือน ตลอดเวลา ผ่านทางชุดเฟืองทดเล้ียวหน้า-หลัง เพลาขับ และหีบเฟืองทดปลายเพลา หีบเฟืองชว่ ย มีตำแหน่ง ใช้งานขับเคล่ือนรถ 3 ตำแหน่ง ว่าง 1 ตำแหน่ง รายละเอียดในการใช้งาน หีบเฟืองช่วยจะอธบิ ายไว้ในตาราง ท่ี 1-6 และ 1-7 D เพลาขับ, เพลากลาง, เพลาท้าย และข้อต่ออ่อน ทำหน้าท่ีถ่ายทอดกำลังขับจากหีบเฟืองช่วยไป ยัง ชุดเฟืองทดเลี้ยว เพลาขับหน้าและเพลาขับหลัง ให้เป็นไปอย่างสะดวกและต่อเนื่อง ไม่ว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ จะตดิ ตัง้ เป็นมุมต่างกันอยา่ งไร E ชุดเฟืองทดเลี้ยว ทำหน้าที่ถ่ายทอดกำลังและเปลี่ยนมุมขับท่ีได้รับจากเพลาขับ โดยชุดเฟืองทด เล้ยี วแบบนีจ้ ะมลี กั ษณะพิเศษ จะสามารถถ่ายทอดกำลงั ขบั ไปยังลอ้ ท่เี กาะพื้นดินอยู่ไมว่ า่ ลอ้ ตรงข้ามจะหมุนฟรี หรือไมก่ ต็ าม เรยี กวา่ “TORQUE BIASING” (การส่งแรงบดิ ต่อเนอื่ ง) F เพลาขับล้อหน้า และเพลาขับล้อหลัง ทำหน้าท่ีถ่ายทอดกำลังขับจากชุดเฟืองทดเล้ียว และส่ง ต่อไปหีบเฟอื งทดปลายเพลา G หีบเฟืองทดปลายเพลา ทำหน้าที่เป็นสะบ้าเลี้ยวของล้อหน้า และเป็นชุดเฟืองขับขั้นสุดท้ายของ ลอ้ หน้า และล้อหลงั
ห น ้ า | 30 2. ระบบน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบน้ำมนั เชอ้ื เพลงิ ดีเซลของรถฮัมวี มอี งคป์ ระกอบต่าง ๆ เหมือนกันทุกแบบ และ ทำหน้าที่เก็บน้ำมันเช้ือเพลิง, ทำความสะอาด และจัดส่งน้ำมันเช้ือเพลิงให้ตามความต้องการของเคร่ืองยนต์ องค์ประกอบสำคญั ของระบบน้ำมันเชอ้ื เพลงิ ไดแ้ ก่ A ปัม๊ นำ้ มันเช้อื เพลิง ทำหน้าท่ีสูบนำ้ มนั เช้อื เพลงิ จากถงั ส่งตามท่อไปยังหมอ้ กรองนำ้ มนั เชือ้ เพลิง B ทอ่ น้ำมันไหลกลับ สง่ นำ้ มนั เช้อื เพลงิ ท่ีเหลอื ใช้จากปัม๊ สูบฉดี ฯ กลบั ไปยังถังนำ้ มนั เชือ้ เพลงิ C ทอ่ ส่งน้ำมนั สง่ นำ้ มันเชือ้ เพลิงจากถงั ไปยงั ระบบ D ถังนำ้ มันเชื้อเพลงิ เก็บนำ้ มนั เช้ือเพลิงดีเซล 25 แกลลอน E ฝาปดิ ถังนำ้ มันเชอ้ื เพลิง อยทู่ างด้านหลงั ขวาของรถเปดิ ออกเมือ่ ต้องการเตมิ นำ้ มันเชอ้ื เพลงิ ลงในถัง F หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง ติดตั้งอยู่บนฝาสูบของเครื่องยนต์ ใต้ท่อร่วมไอดี รับน้ำมันเช้ือเพลิงท่ีถูกทำ ใหเ้ กิดแรงดันสูง และวัดปรมิ าณแล้ว ฉีดเป็นละอองฝอยเขา้ ไปในห้องเผาไหม้ของแต่ละกระบอกสบู ภายในเวลา ที่กำหนดไว้ G หม้อกรองน้ำมันเช้ือเพลิง/เครื่องแยกน้ำ ทำหน้าท่ีกรองน้ำและส่ิงสกปรกต่าง ๆ ออกจากน้ำมัน เชอ้ื เพลิง กอ่ นทนี่ ำ้ มนั เชอ้ื เพลงิ จะถกู สง่ ไปยงั ปมั๊ สูบฉีดฯ H ปมั๊ สูบฉดี น้ำมันเชื้อเพลงิ ทำหนา้ ทวี่ ัดปรมิ าณน้ำมันเช้ือเพลิง, สรา้ งแรงดนั สงู และส่งไปยงั หวั ฉดี ฯ ท้งั 8 ตามความตอ้ งการของเคร่ืองยนต์ และตามระยะเวลาท่ีกำหนด 3. ระบบระบายความร้อน ระบบระบายความร้อนทำหน้าท่ีกำจัดความร้อนเกินความต้องการออกจาก เครื่องยนต์, น้ำมันเครื่องยนต์, น้ำมันหีบเฟืองช่วย และน้ำมันเครื่องเปล่ียนความเร็ว ระบบระบายความร้อน ของรถฮมั วี ทุกแบบ มีองคป์ ระกอบสำคญั เหมือนกัน และประกอบด้วยสิ่งต่าง ๆ ดังนี้ A สวิตช์วัดอุณหภูมิเคร่ืองยนต์ ส่งสัญญาณไฟฟ้าแสดงค่าอุณหภูมิ ของน้ำระบายความร้อน เครือ่ งยนต์ให้แกเ่ คร่ืองวัดอณุ หภูมิเครือ่ งยนต์
ห น ้ า | 31 B สวิตช์คลัตช์พัดลม ส่งสัญญาณไฟฟ้ากระตุ้นการทำงานของลิ้นควบคุมระบบไฮดรอลิก สวิตช์พัด ลม โดยการต่อวงจรไฟฟ้าของลิน้ ควบคมุ เม่อื อณุ หภมู ขิ องเครือ่ งยนตส์ ูงกว่า 220 ฟ. (104 ซ) และตัดวงจรไฟฟา้ เมอ่ื อุณหภูมิของเคร่อื งยนตต์ ่ำกว่า 190 ฟ. (88 ซ.) C ท่อน้ำ เช่ือมต่อทางเดินของน้ำระบายความร้อนจากฝาสูบทั้ง 2 ข้างให้ไหลผ่านเรือนลิ้นควบคุม อุณหภูมเิ พ่อื ไหลเวยี นสูร่ ะบบระบายความรอ้ นต่อไป D ลิ้นควบคุมอุณหภูมิ ควบคุมอุณหภูมิของน้ำระบายความร้อน โดยการปิดไม่ให้น้ำจากเคร่ืองยนต์ ไหลผา่ นหมอ้ น้ำรงั ผง้ึ จนกวา่ อณุ หภูมิของนำ้ จะสงู ถงึ 190 ฟ. (88 ซ.) E หม้อน้ำรังผึ้ง เก็บน้ำระบายความร้อนและปล่อยน้ำให้ไหลผ่านชุดหลอดน้ำ ซ่ึงมีครีบระบายความ ร้อนติดอยู่ เพื่อให้อากาศท่ีสัมผัสผิวครีบเหล่านี้ พาความร้อนออกไป ทำให้น้ำเย็นลงก่อนไหลเวียนกลับสู่ เครอื่ งยนตอ์ ีก F เคร่ืองระบายความร้อนน้ำมันเครื่อง ส่งน้ำมันเครื่องยนต์ (ครีบล่างของเคร่ืองระบายความร้อน) และน้ำมันเครื่องเปล่ียนความเร็ว (ครีบบนของเคร่ืองระบายความร้อน) ให้ไหลผ่านชุดหลอดน้ำมันซ่ึงมีครีบ ระบายความร้อนติดอยู่ เพื่อให้อากาศที่สัมผัสผิวครีบเหล่าน้ี พาความร้อนออกไปทำให้น้ำมันเคร่ืองของแต่ละ ระบบเย็นลง G หมอ้ เก็บน้ำล้น เป็นท่ีรับน้ำระบายความร้อนที่ขยายตวั จากระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ และเปน็ ท่ีตรวจ/เตมิ นำ้ ระบายความร้อนเครอ่ื งยนต์ H เครอ่ื งทำความอบอุน่ ทำความอบอนุ่ ให้แกอ่ ากาศภายในหอ้ งพลประจำรถ เมื่อเปิดใชง้ าน 4. ระบบระบายความร้อน (ตอ่ ) A พัดลมระบายความรอ้ น ดูดอากาศเยน็ ภายนอกรถให้ไหลผ่านหมอ้ นำ้ รังผงึ้ เพื่อระบายความร้อน ออกจากน้ำ B ล้ินควบคุมคลัตช์พัดลม เปดิ -ปดิ แรงดันน้ำมันไฮดรอลกิ ท่ีไหลผ่านไปกระต้นุ การทำงานของคลตั ช์ พัดลมตามความตอ้ งการ โดยอุณหภูมิของเครอื่ งยนต์ แรงดันไฮดรอลิกกระตุ้นการทำงานของคลตั ชพ์ ัดลมได้มา จาก ปมั๊ ไฮดรอลิกระบบบงั คับเลี้ยว
ห น ้ า | 32 C ชุดควบคุมการทำงาน ถ่วงเวลาในการส่งกระแสไฟฟ้าไปควบคุมการทำงานของโซลีนอยด์ลิ้น ควบคมุ คลัตชพ์ ัดลมไว้ เพ่อื สงวนกำลงั เคร่อื งยนตท์ ำใหก้ ารเรง่ เครอ่ื งยนตเ์ ปน็ ไปอย่างรวดเร็ว D โซลีนอยด์ลิ้นควบคุมคลัตช์พัดลม ควบคุมการทำงานของล้ินควบคุมคลัตช์พัดลม โดยสัญญาณ จากสวติ ชค์ ลตั ช์พดั ลม E ป๊ัมน้ำ ขบั หมนุ ดว้ ยสายพานรูปตัว V จำนวน 4 เสน้ ทำให้เกิดการไหลเวยี นของน้ำในระบบระบาย ความรอ้ นเครื่องยนต์ F คลัตช์พัดลม จะถูกกระตุ้นให้ทำงานด้วยแรงดันไฮดรอลิก ด้วยล้ินควบคุมคลัตช์พัดลม แรงดันไฮ ดรอลิกได้มาจากปัม๊ ไฮดรอลิกระบบบังคบั เล้ียว G ลนิ้ ถ่ายน้ำ ถ่ายน้ำระบายความรอ้ นออกจากหมอ้ นำ้ รังผ้งึ และระบายความร้อนเครอ่ื งยนต์ H กรอบพดั ลม บงั คับอากาศทถ่ี กู ดูดด้วยพัดลมใหไ้ หลผ่านหม้อน้ำรงั ผ้งึ อยา่ งเต็มท่ี 5. ระบบหมุนเครื่องยนต์ ระบบหมุนเคร่ืองยนต์ของ รยบ.1 1/4 ตัน “ฮัมวี” จะประกอบด้วยองค์ประกอบ ตา่ ง ๆ เหมือนกันทกุ แบบ และประกอบด้วยส่งิ ตา่ ง ๆ และวงจรไฟฟ้าดงั นี้ A สวิตช์หมุนเคร่ืองยนต์ เม่ือถูกหมุนจนถึงตำแหน่งหมุนเคร่ืองยนต์ “START” จะส่งกระแสไฟจาก แบตเตอร่ีไปยังโซลินอยด์ต่อมอเตอร์หมุนเครื่องยนต์ และสวิตช์นิรภัยวงจรหมุนเครื่องยนต์ทางวงจรหมายเลข 14 B สวิตช์นิรภัยวงจรหมุนเคร่ืองยนต์ เมื่อคันเกียร์เคร่ืองเปลี่ยนความเร็วอยู่ในตำแหน่งว่าง “N” สวิตช์นี้จะต่อวงจรไฟฟ้าหมายเลข 14 ให้กับรีเลย์ในหีบควบคุมวงจรไฟฟ้าซ่ึงทำหน้าที่ป้อนกระแสไฟจาก แบตเตอรี่ใหก้ ับ โซลนิ อยด์มอเตอรห์ มุนเคร่อื งยนต์ C หีบควบคุมวงจรไฟฟ้า ควบคุมการทำงานของวงจรมอเตอร์หมุนเคร่ืองยนต์ และป้องกันไม่ให้ มอเตอร์หมนุ เคร่อื งยนตท์ ำงานในขณะเครือ่ งยนต์ติด
ห น ้ า | 33 D โซลินอยด์มอเตอร์หมุนเคร่ืองยนต์ เป็นสวิตช์แม่เหล็กไฟฟ้าทำหน้าที่ต่อวงจรไฟหลัก 24 โวลท์ จากแบตเตอร่ีของรถให้แก่มอเตอร์หมุนเคร่ืองยนต์ และดึงแท่งเลื่อนเฟืองขับของมอเตอร์หมุนเครื่องยนต์ ให้ เฟืองขับเขา้ ขบกับเฟืองลอ้ ตุนกำลงั E มอเตอรห์ มนุ เครือ่ งยนต์ หมนุ ติดเครื่องยนตโ์ ดยกำลงั ไฟฟ้า แรงดนั 24 โวลท์ จากแบตเตอรีข่ องรถ ทางวงจรหมายเลข 6 A 6. ระบบประจุไฟ ระบบประจุไฟ 60 แอมแปร์ ของ รยบ.1 1/4 ตนั “ฮัมว”ี จะประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบตา่ ง ๆ เหมือนกันทุกแบบ เว้นแต่รถพยาบาลขนาด 4 เตียง M 997 และ M 996 โดยประกอบด้วยสิ่งต่าง ๆ และ วงจรไฟฟ้า ดังนี้ A เครื่องวัดไฟฟ้า แสดงค่าแรงดันไฟฟ้าในระบบจ่ายกระแสไฟ โดยต่อเข้ากับระบบทางวงจร หมายเลข 567 (27) B เครื่องกำเนดิ ไฟฟา้ (ขนาด 100 แอมแปร์) ทำหน้าท่ีประจุให้กบั แบตเตอรี่ และจ่ายไฟให้อุปกรณ์ ไฟฟ้า มีความสามารถในการจ่ายกระแสไฟ 100 แอมแปร์, 28 โวลท์ ควบคุมการทำงานด้วยเคร่ืองควบคุม ภายนอก C เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (ขนาด 60 แอมแปร์) ทำหน้าท่ีประจุให้กับแบตเตอร่ี และจ่ายไฟให้อุปกรณ์ ไฟฟ้า มีความสามารถในการจ่ายกระแสไฟ 60 แอมแปร์, 28 โวลท์ ควบคุมการทำงานด้วยเคร่ืองควบคุม ภายใน D วงจรหมายเลข 3 เป็นวงจรสายไฟลบ (สายดิน) ของเคร่ืองกำเนิดไฟฟ้า E วงจรหมายเลข 5 เป็นวงจรสายไฟบวกที่ต่อออกไปประจุแบตเตอร่ี และ จ่าย/รักษาแรงดันไฟฟ้า ของระบบประจไุ ฟ F วงจรหมายเลข 568 เป็นวงจรกระตุ้นกระแสฟีลด์ของเคร่ืองกำเนิดไฟฟ้า เพื่อให้เคร่ืองกำเนิด กระแสไฟเริม่ ต้นการผลิตกระแสไฟได้
ห น ้ า | 34 7. ระบบแบตเตอร่ี ระบบแบตเตอร่ีของ รยบ.1 1/4 ตัน “ฮัมวี” จะประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ เหมอื นกันทุกแบบ โดยประกอบด้วยส่ิงต่าง ๆ และวงจรไฟฟา้ ดังนี้ A วงจรหมายเลข 6 A ต่อวงจรระหว่างข้ัวบวกมอเตอร์หมุนเครื่องยนต์ กับข้ัวบวกแบตเตอรี่ และ วงจรควบคมุ การทำงานของมอเตอรห์ มุนเคร่อื งยนต์ในหีบควบคุมหลกั ทางสายไฟหมายเลข 17 A B แบตเตอรี่ เป็นแบตเตอร่ี 6 TN จำนวน 2 หม้อ ต่ออันดับ ใช้ขั้วลบลงดิน เพ่ือจ่ายกระแสไฟ 24 โวลท,์ 100 แอมแปร์ ให้แก่ระบบหมุนเครอ่ื งยนต์ C เต้าพ่วงไฟ รับ/จ่ายกระแสไฟ 24 โวลท์ระหว่างรถ เพื่อใช้ในการหมุนติดเคร่ืองยนต์ด้วยการพ่วง ไฟเมื่อแบตเตอรีป่ ระจำรถมีไฟนอ้ ย D ตัวขนาน ใช้เม่อื ตอ้ งการวัดคา่ กระแสทถ่ี ูกจ่ายออกจากแบตเตอรี่ เม่ือทดสอบด้วยเครือ่ ง STE/ICE E หบี ควบคุมวงจรไฟฟ้า ปอ้ งกันวงจรต่าง ๆ ในระบบไฟฟ้าของรถเมอ่ื เกิดการตอ่ แบตเตอรกี่ ลับขั้ว F สวิตช์หมุนเครอื่ งยนต์ เมื่อสวติ ช์อยู่ในตำแหน่งหมุนเคร่อื งยนต์ “START” จะกระตนุ้ ใหโ้ ซลนิ อยด์ มอเตอร์หมุนเคร่ืองยนต์ทำงานทางวงจรหมายเลข 11A และเมื่อสวิตช์อยู่ในตำแหน่งเดินเครื่อง “RUN” จะ กระตนุ้ ให้เคร่อื งวัดตา่ ง ๆ ทที่ ำงานด้วยกระแสไฟฟ้าทำงานทางวงจรหมายเลข 27 G วงจรหมายเลข 7 A ต่อวงจรระหวา่ งขั้วลบของแบตเตอรี่ และโครงรถซ่งึ ทำหน้าทเี่ ป็นสายดนิ H โซลินอยด์มอเตอร์หมุนเคร่ืองยนต์ ดึงแท่งเล่ือนเฟืองขับล้อตุนกำลังของเคร่ืองยนต์ และต่อวงจร ไฟหลักของมอเตอรห์ มุนเครื่องยนต์
ห น ้ า | 35 8. ระบบเคร่ืองปัดน้ำฝนและฉีดล้างกระจก องค์ประกอบและวงจรไฟฟ้าของระบบน้ีจะไม่มีกล่าวครอบคลุม ไวใ้ นระบบอนื่ ๆ A มอเตอร์เคร่ืองปัดน้ำฝน เม่ือสวิตช์ถูกบิดไปตำแหน่งช้า “LOW” หรือตำแหน่งเร็ว “HIGH” จะ จ่ายกระแสไฟ 24 โวลท์ จากแบตเตอรี่ไปยังมอเตอร์เครอื่ งปดั นำ้ ฝน ทางวงจรหมายเลข 27 B วงจรหมายเลข 57 เป็นวงจรสายดินของมอเตอร์เคร่ืองปดั น้ำฝน C มอเตอร์เคร่ืองฉีดน้ำล้างกระจก เม่ือปุ่มสวิตช์ท้ายมอเตอร์ ถูกกดจะกระตุ้นให้มอเตอร์ทำการฉีด น้ำลา้ งกระจกด้วยวงจรหมายเลข 71
ห น ้ า | 36 9. ระบบห้ามล้อจอดรถ ระบบห้ามลอ้ จอดรถของ รยบ.1 1/4 ตนั “ฮัมวี” จะมีองค์ประกอบสำคัญเหมอื นกัน ทุกแบบ กล่าวคือเป็นอุปกรณ์ทำงานด้วยระบบกลไก เพอื่ ยึดรถไวก้ ับท่ีเม่ือรถหยดุ แล้ว และช่วยหยุดรถในกรณี ฉกุ เฉินเมือ่ ระบบห้ามล้อหลักใช้การไม่ได้ ระบบหา้ มล้อจอดรถประกอบด้วยสิง่ ตา่ ง ๆ ดังน้ี A จานห้ามล้อ ติดอยู่กับหน้าแปลนของชุดเฟืองทดเล้ียวตัวหลัง จานห้ามล้อจะป้องกันไม่ให้หน้า แปลนจานรับกำลังเขา้ ของชุดเฟอื งทดเลย้ี วหมนุ ตัว เมอื่ คนั ห้ามล้อจอดรถถูกดงึ B แผน่ ผ้าห้ามล้อ ทำใหเ้ กดิ ความฝืดต่อจานหา้ มลอ้ เมอื่ คันหา้ มลอ้ จอดรถถูกดึง C ขาหา้ มล้อ บงั คับใหผ้ า้ ห้ามลอ้ กดเข้ากบั จานห้ามลอ้ เมื่อคันหา้ มล้อจอดรถถูกดึง D สายลวดหา้ มลอ้ ต่อเชอื่ มโยงขาหา้ มลอ้ กบั กระเด่ืองห้ามล้อท่ีโครงรถดา้ นซา้ ย E กระเด่ืองห้ามล้อ ต่อเชื่อมโยงการทำงานระหวา่ งสายลวดห้ามล้อกับคันห้ามล้อจอดรถ ด้วยก้ามปู ปรบั ได้ F คันหา้ มลอ้ จอดรถ อำนวยใหพ้ ลขับ ใส่/ปลดห้ามล้อจอดรถได้ G ปลอกเกลยี วปรับห้ามลอ้ จอดรถ อำนวยใหพ้ ลขับสามารถปรับความตึงของขาห้ามล้อจอดรถได้ 10. ระบบห้ามล้อหลัก ระบบห้ามล้อหลักของ รยบ.1 1/4 ตัน “ฮัมวี” ทุกแบบจะมีองค์ประกอบหลัก และ การทำงานเหมือนกันทุกแบบ กล่าวคือเป็นระบบห้ามล้อแบบจาน ทำงานด้วยน้ำมันมีเครื่องทวีกำลังห้ามล้อ ของแมป่ ม๊ั ห้ามลอ้ ดว้ ยแรงดันไฮดรอลกิ และมสี ว่ นประกอบต่าง ๆ ดงั นี้ A เครื่องทวีกำลังห้ามล้อ เปลี่ยนแรงดันไฮดรอลิกจากป๊ัมระบบบงั คับเลี้ยวให้เป็นแรงกลเพ่ือช่วยทวี กำลังห้ามล้อของแม่ปัม๊ หา้ มลอ้ ใหม้ ีประสิทธิภาพมากขึน้ ในระหว่างห้ามล้อรถ B แม่ปั๊มห้ามล้อและอ่างเก็บน้ำมัน เก็บน้ำมันห้ามล้อ และเปล่ียนแรงกลจากการเหยียบคันห้ามล้อ ให้เป็นแรงดันไฮดรอลกิ C ล้ินปรับแรงดันน้ำมันห้ามล้อ ทำให้เกิดความสมดุลของแรงดันในระบบน้ำมันห้ามล้อ ระหว่างล้อ หน้ากับล้อหลัง และกระตนุ้ ใหส้ วิตชไ์ ฟเตอื นระบบห้ามล้อทำงาน ในกรณที ่ีระบบน้ำมนั ห้ามลอ้ เกดิ ข้อบกพรอ่ ง D หม้อตุนกำลัง เก็บแรงดันไฮดรอลิกไว้สำหรับชว่ ยทวกี ำลังห้ามล้อ ในกรณีท่ีเกิดการสูญเสียแรงดัน ขึ้นในระบบบงั คบั เลีย้ ว E คันห้ามล้อ สำหรบั ใหพ้ ลขบั ควบคุมการทำงานของระบบหา้ มล้อ ให้รถชะลอความเร็วหรอื หยดุ รถ F กา้ นโยงคนั ห้ามลอ้ เชอ่ื มโยงการทำงานระหว่างคนั หา้ มล้อกับเคร่อื งทวีกำลังหา้ มลอ้ G ทอ่ น้ำมนั ห้ามล้อ สง่ แรงดนั น้ำมนั หา้ มล้อจากแม่ป๊ัมห้ามล้อไปยังลูกปม๊ั หา้ มลอ้ ท้งั 4
ห น ้ า | 37 H ลกู ปัม๊ ห้ามลอ้ เปลยี่ นแรงดันน้ำมนั ห้ามลอ้ ให้เปน็ แรงกลเพ่อื กดดันผา้ ห้ามลอ้ ใหต้ ดิ กบั จานหา้ มลอ้ I จานห้ามล้อ ยึดติดอยู่กับหน้าแปลนของจานเพลาส่งกำลังออกแต่ละด้านของชุดเฟืองทดเล้ียวตัว หนา้ และตวั หลงั โดยจานห้ามลอ้ จะปอ้ งกนั ไมใ่ หเ้ พลาส่งกำลงั ออกหมนุ เมื่อพลขบั เหยียบห้ามลอ้ J ผ้าหา้ มล้อ ทำใหเ้ กิดความฝดื ตอ่ จานห้ามลอ้ เม่ือพลขบั เหยียบห้ามลอ้ ระบบห้ามล้อหลัก ( SERVICE BRAKE SYSTEM )
ห น ้ า | 38 11. ระบบบังคับเล้ียว ระบบบังคับเลี้ยวของ รยบ.1 1/4 ตัน “ฮัมวี” ทุกแบบจะมีองค์ประกอบหลักและการ ทำงานเหมือนกันทุกแบบ กล่าวคือเปน็ ระบบบงั คับเล้ียวที่มีเครื่องทวีกำลังบังคับเลี้ยวด้วยกำลังไฮดรอลิก และ มสี ว่ นประกอบตา่ ง ๆ ดังนี้ A ล้ินควบคุมไฮดรอลิก ควบคุมการส่งแรงดันไฮดรอลิกไปกระตนุ้ การทำงานของคลัตช์พัดลมระบาย ความรอ้ นด้วยอณุ หภมู ขิ องเครอื่ งยนต์ แรงดนั ไฮดรอลกิ นไ้ี ด้จากป๊มั ระบบบังคบั เล้ียว B เคร่ืองทวีกำลังห้ามล้อ เปลี่ยนแรงดันไฮดรอลิกจากปั๊มระบบบังคับเล้ียวให้เป็นแรงกล เพื่อทวี กำลงั ห้ามล้อให้มปี ระสิทธิภาพย่ิงข้ึนเม่อื เหยยี บคนั ห้ามลอ้ C สายพาน ส่งกำลงั ขบั จากรอกเพลาขอ้ เหวี่ยงให้กบั รอกปั๊มนำ้ มนั บงั คับเลย้ี ว D อ่างน้ำมนั บังคับเล้ียว และป๊ัมระบบบังคับเล้ียว เป็นอุปกรณ์ท่ีรวมอยู่เปน็ หน่วยเดียวกัน โดยอ่าง น้ำมันจะเป็นท่ีเก็บ/เติม/ตรวจระดับน้ำมันบังคับเล้ียว ให้แก่ป๊ัมและปั๊มทำหน้าท่ีส่งแรงดันน้ำมันไฮดรอลิก สำหรับอำนวยการทำงานของระบบบังคบั เลยี้ ว, เคร่ืองทวกี ำลังหา้ มลอ้ และกระตุ้นการทำงานของคลตั ช์พัดลม E คลตั ชพ์ ดั ลม ถกู กระต้นุ ให้ทำงานด้วยแรงดันไฮดรอลกิ จากการควบคมุ ของล้ินควบคุมคลัตช์พัดลม F พวงมาลยั รถ มีไว้เพ่อื ให้พลขับควบคุมการบงั คบั ได้ดว้ ยมอื G แกนพวงมาลัย ถา่ ยทอดกำลังหมุนจากพวงมาลยั รถไปยังแกนพวงมาลัยท่อนกลาง H แกนพวงมาลัยทอ่ นกลาง อำนวยใหส้ ามารถถา่ ยทอดแรงบดิ ไปยงั ชดุ เฟอื งพวงมาลัยเป็นมมุ ต่าง ๆ I ชุดเฟืองพวงมาลัย เปล่ียนกำลังดันไฮดรอลิกจากป๊ัมระบบบังคับเลี้ยว ให้เป็นแรงกลส่งออกท่ีแขน คันชัก J แขนคนั ชัก ถา่ ยทอดกำลงั บงั คับเลย้ี วจากชดุ เฟอื งบงั คับเลยี้ วไปยังคันชัก
ห น ้ า | 39 K คันส่ง ถ่ายทอดกำลงั บังคบั เลย้ี วจากคันชกั ไปสะบา้ เลย้ี วท่ีชดุ เฟอื งขับปลายเพลา L ชุดเฟืองขบั ปลายเพลา ทำหนา้ ท่ีเป็นสะบา้ เลีย้ วของล้อหนา้ จากการบงั คบั ของคนั สง่ M คันชัก ถา่ ยทอดกำลังบังคับเลย้ี วจากแขนคันชักไปยังคนั สง่ N แขนพยุงคนั ชัก รองรับปลายก้านยาวซ่งึ อยทู่ างขวาของคนั ชกั 12. ระบบเครอ่ื งพยุงตวั รถ ระบบเครื่องพยงุ ตวั รถของ รยบ.1 1/4 ตนั “ฮัมว”ี จะมีองคป์ ระกอบสำคญั ตา่ ง ๆ เหมอื นกนั ทุกแบบ กล่าวคือเป็นระบบล้ออสิ ระทง้ั 4 ลอ้ ทรงตวั ด้วยแหนบขด และมสี ว่ นประกอบต่าง ๆ ดังน้ี A ลูกหมากสะบ้าเลี้ยว เช่อื มตอ่ หีบเฟืองปลายเพลาเข้ากับปีกนกตัวบน และปีกนกตัวล่าง และทำให้ เกิดการเบี่ยงเบนเป็นมุมต่าง ๆ ได้ระหว่างปีกนกกับหีบเฟืองทดปลายเพลา เมื่อรถเคล่ือนท่ีไปในภูมิประเทศ ต่าง ๆ B ปกี นกตวั บน เช่อื มต่อหบี เฟืองขบั ปลายเพลาทสี่ ะบ้าเลย้ี วตัวบนเข้ากับโครงรถ C เหลก็ กนั โคลง (ด้านหนา้ รถเทา่ น้นั ) ป้องกนั ไมใ่ หร้ ถเกดิ การโคลงในขณะเลีย้ ว D หีบเฟืองทดปลายเพลา ใช้เป็นท่ีติดต้ังกงล้อและยางรถ และทดเกียร์ในอัตรา 1.92 : 1 เพ่ือเพิ่ม แรงบดิ ขั้นสดุ ทา้ ยในการขับหมนุ กงลอ้ และยางรถ E ปีกนกตัวล่าง เชื่อมต่อหบี เฟืองขับปลายเพลาทสี่ ะบ้าเลีย้ วตวั ล่างเข้ากับโครงรถ F เคร่ืองผ่อนแรงสะเทือน ผ่อนคลายความสะเทือนอันเกิดจากพ้ืนภูมิประเทศเมื่อเครื่องพยุงตัวรถ เคลื่อนท่ผี ่านไป และจำกดั ระดับการเคลอื่ นทข่ี องเครือ่ งพยุงตัวรถ
ห น ้ า | 40 G แหนบรถ เป็นแหนบขดทำหน้าที่รองรับน้ำหนักรถ และอำนวยให้เคร่ืองพยุงตัวรถเคล่ือนที่ไปได้ สะดวกในภมู ิประเทศต่าง ๆ กัน และตามลักษณะการบรรทุกนำ้ หนกั ของรถ H กา้ นโยงลอ้ หลงั ยึดหีบเฟืองขบั ปลายเพลาด้านหลังเขา้ กบั โครงรถ เพือ่ รกั ษาแนวรถดา้ นทา้ ย ตอนท่ี 4 การปรนนิบตั ิบำรงุ การตรวจ และการบริการ (PMCS) ข้ันที่ 2
ห น ้ า | 41 4-1. กล่าวทั่วไป วิธีที่ดีท่ีสุดในการบำรุงรักษารถตามที่กล่าวครอบคลุมไว้ในคู่มือฉบับนี้ ก็คือการตรวจและ การบริการตามระยะเวลาอย่างสม่ำเสมอ เพอื่ ให้สามารถตรวจพบส่ิงบกพร่อง หรือการชำรุดเสียหายเล็กน้อยที่ เร่ิมเกิดขึ้น แล้วดำเนินการแก้ไขให้ทันท่วงทีก่อนที่การชำรุดเสียหายนั้นจะลุกลามขยายตัวตอ่ ไปจนต้องเปลี่ยน ชนิ้ สว่ นอุปกรณ์ หรือต้องส้นิ เปลอื งเวลามากในการซ่อม หรอื เกดิ อบุ ัตเิ หตจุ นบุคคลบาดเจบ็ ตาย หรือเกิดความ เสียหายตอ่ ทรัพยส์ นิ 4-2. ช่วงระยะเวลา (1) การปรนนิบัติบำรุงการตรวจและการบริการ (PMCS) รถฮัมวี ขั้นท่ี 2 ซ่ึงกระทำโดยช่างยาน ยนต์ประจำหน่วยประจำหน่วย โดยมีพลขับ/พลประจำรถ เป็นผู้ช่วยน้ีได้จัดทำไว้อย่างเป็นระบบโดยกำหนด ลำดบั ขน้ั การปฏิบัตไิ วเ้ ป็นลำดบั หวั ขอ้ ในตารางท่ี 2-1 ตามชว่ งระยะเวลา ดังนี้ ค กระทำทุก ๆ 6 เดอื น หรือ 3,000 ไมล์ (4,827 กม.) แล้วแตอ่ ย่างไหนจะถงึ ก่อน 12 กระทำทุก ๆ 12 เดอื น หรือ 6,000 ไมล์ (9,654 กม.) แลว้ แต่อยา่ งไหนจะถึงกอ่ น 24 กระทำทกุ ๆ 24 เดือน หรือ 12,000 ไมล์ (19,308 กม.) แลว้ แต่อย่างไหนจะถึงก่อน (2) เม่ือครบกำหนดช่วงระยะเวลาการปรนนิบัติบำรุง 12 เดือน ให้ทำการปรนนิบัติบำรุงประจำ 6 เดือน จนแล้วเสร็จสมบูรณ์ก่อนที่จะทำการปรนนิบัติบำรุงประจำ 12 เดือนต่อไป และในทำนองเดียวกันเมื่อ ครบกำหนดชว่ งระยะเวลาการปรนนิบัติบำรุง 24 เดือน ให้ทำการปรนนิบัติบำรุงประจำ 6 เดือน, 12 เดือนจน แล้วเสรจ็ สมบรู ณ์ก่อนทจี่ ะทำการปรนนิบตั ิบำรงุ 24 เดอื นต่อไป 4-3. การรายงาน โดยปกติขอ้ บกพร่องหรือการชำรุดเสยี หายต่าง ๆ ท่ีตรวจพบ จะต้องถูกบนั ทึกรายงานไว้ใน แบบพมิ พ์ ทบ.468-361 (สพ.461) ทนั ทีก่อนดำเนนิ การแก้ไขข้อบกพรอ่ งทตี่ รวจพบ 4-5. การบริการโดยทัว่ ไป และการดำเนนิ การตรวจพบ (1) พลขับ/พลประจำรถ มักจะไม่ตระหนักถึงข้อบกพร่องต่าง ๆ ที่ค่อย ๆ สะสมข้ึนทีละน้อย ดังนั้น หากสถานการณ์อำนวยให้กระทำได้ ช่างยานยนต์ควรทำการว่ิงลองเคร่ืองรถ เม่ือรถเข้ารับการปรนนิบัติบำรุง ประจำ 6 เดือน และในขณะทำการตรวจจะต้องมั่นใจว่าส่ิงต่าง ๆ ได้ประกอบไว้อย่างถูกต้อง, มั่นคง, ไม่สึก หรอเกนิ ควร, ไม่รัว่ ไหล, อยใู่ นสภาพใช้การได้ และได้รับการหลอ่ ล่นื พอเพยี งตามคำจำกดั ความ ต่อไปน้ี 1.) ประกอบถูกต้อง โดยปกตเิ ป็นการตรวจดว้ ยสายตา วา่ อุปกรณ์ได้ประกอบ หรือติดตัง้ อยู่ ตามตำแหน่งปกติในรถ โดยมีชิน้ สว่ นประกอบครบถว้ น 2.) มัน่ คงและขันแน่น เม่ือลวดกันคลาย, สายไฟ, แป้นเกลียว, แหวนรอง, ท่อยาง หรือสิง่ ยดึ ตรึงตา่ ง ๆ ไมส่ ามารถทำให้เคลื่อนได้ดว้ ยมอื เปลา่ หรอื กุญแจแสดงวา่ สง่ิ นัน้ ๆ มสี ภาพมงั่ คงและขันแน่น 3.) สึกหรอมาก การสึกหรอมากของช้ินส่วนท่ีประกบติดกัน หรือต่อโยงกันจะสังเกตเห็นได้ จากการเกิดมีระยะว่าง หรือคลอนตัวมากจนไม่ทำให้เกิดการทำงานตามปกติ และยังหมายถึงการลบเลือนจน อา่ นไมช่ ัดเจนของเครื่องหมาย แผ่นปา้ ยคำแนะนำ ขอ้ มูล ขอ้ ควรระวงั ฯลฯ 4.) ใช้การไม่ได้ หมายถึงการสึกหรอเกินพิกัดที่กำหนดไว้สำหรับการใช้งานโดยปลอดภัย หรือสึกหรอมากจนเกินความสามารถที่ซ่อมแก้ หรือจะเกิดความล้มเหลวในการทำงานของส่ิงน้ัน ๆ ก่อนท่ีจะ ถึงกำหนดเวลาในการตรวจสภาพครัง้ ตอ่ ไป 5.) การร่ัวไหล หมายถึงการรั่วไหลตามคำจำกัดความที่กำหนดไว้ใน คท.9-2320-280-10 คือ การรั่วไหล ระดับ 1, ระดับ 2 และ ระดับ 3 ตลอดจนผลกระทบท่ีจะเกิดข้ึนกับรถอันเนื่องมาจากการ รัว่ ไหล น้นั ๆ 6.) ความพอเพียงในการหล่อล่ืน หากส่ิงต่าง ๆ ไดร้ ับการหล่อลื่นอย่างถูกต้องตามท่ีกำหนด ไวใ้ น คล.9-2320-280-12 กแ็ สดงว่ารถน้ันไดร้ ับการหลอ่ ล่ืนอย่างพอเพยี งแลว้ (2.) คำแนะนำว่า \" ขันแน่น\" หมายความว่าการตรวจนั้นให้กระทำโดยการขันแน่นด้วยกุญแจจนได้ แรงบิดที่ ถกู ต้องถึงแมว้ า่ สิง่ อปุ กรณ์ช้นิ นนั้ จะดเู หมอื นว่ายังมสี ภาพแนน่ หรอื ม่ันคง
ห น ้ า | 42 ขอ้ ควรระวงั การทำความสะอาดองค์ประกอบหรอื ชิ้นส่วนต่าง ๆ จะตอ้ งปฏบิ ัตติ ามคำแนะนำ ท่กี ำหนดไวใ้ นตารางที่ 14 เรือ่ งการทำความสะอาดโดยทั่วไป 4-6. การกำหนดข้นั ตอนในวธิ ีการปฏบิ ัติ (1.) การปรนนิบัติบำรุง การตรวจ และการบริการ (PMCS) ข้ันที่ 2 ซ่ึงเป็นหน้าท่ีและความ รับผิดชอบของช่างยานยนต์ประจำหน่วย ตามท่ีกำหนดไว้ในตารางที่ 15 น้ันจะเป็นการปฏิบัติตามลำดับหัวข้อ เพื่อใหเ้ กดิ ความสะดวกในการปฏบิ ัติ และสิน้ เปลอื งเวลาในการปฏิบัตินอ้ ยทสี่ ุด (2.) ในตารางที่ 15 จะประกอบดว้ ยชอ่ ง ต่าง ๆ ดงั น้ี 1.) ลำดับ จะกำหนดไว้เป็นตัวเลขต่อเน่ืองกันไปแสดงการปฏิบัติที่ต้องกระทำต่อเน่ืองไป ตามหัวขอ้ ท่ลี ำดบั ไว้ และเลขลำดับยังใชเ้ ปน็ หลักฐานอ้างอิงในการบนั ทึกรายงานเมอ่ื เกิดข้อบกพรอ่ งขึ้น 2.) ชว่ งระยะเวลา แสดงช่วงระยะเวลาทก่ี ำหนดให้ปฏิบตั ิ โดยแสดงไวด้ ้วย เครื่องหมาย * (ดอกจันทร์) และอาจมีเครื่องหมาย * ซ้ำกันในช่องข้างเคียง ซ่ึงแสดงว่าการปฏิบัติในลำดับ หัวข้อนัน้ จะต้องกระทำอีกเมือ่ ครบระยะเวลาทก่ี ำหนด ช่วงระยะเวลากำหนดไว้ดงั น้ี ค = 6 เดือน หรอื คร่ึงปี 12 = 12 เดือน หรือประจำปี 24 = 24 เดือน หรอื ประจำ 2 ปี 3.) สิ่งท่ีต้องตรวจ จะเป็นรายการของระบบ, ชื่อ และตำแหน่งหรือบริเวณของสิ่งอุปกรณ์ท่ี ต้องทำการตรวจ 4.) วิธีการปฏิบัติ จะเป็นคำแนะนำวิธีปฏิบัติในการตรวจ, การบริการ, การเปลี่ยนชิ้นส่วน หรือการจัดปรับ ต่าง ๆ และในบางกรณจี ะแนะนำให้สง่ สิ่งอปุ กรณ์นน้ั ไปซอ่ มแก้ทีห่ นว่ ยซอ่ มบำรุงข้ันสูงกว่า หมายเหตุ ช่างยานยนต์ ควรดำเนินการปรนนิบัติบำรงุ ตรวจ และบริการ ไปตามลำดับ หวั ขอ้ ทีก่ ำหนดไวใ้ หใ้ นตารางท่ี 15 จนคุ้นเคยและเกดิ เป็นนิสยั แลว้ กจ็ ะทำให้ ชา่ งยานยนตส์ ามารถตรวจพบขอ้ บกพร่อง ตา่ ง ๆ ทีเ่ กดิ ขน้ึ กบั รถได้อยา่ งรวดเร็ว ------------------------------
ตารางท่ี 15 การปรนนบิ ัติบำรุง การตรว ค = 6 เดอื น หรอื คร่งึ ปี 12 = 12 เดือน ลำดับ ช่วงระยะเวลา สง่ิ ที่ต้องตรวจ ค 12 24 1* มอเตอร์หมุนเครอื่ งยนต์ ก่อนวิ่งลองเครอื่ ง 2* เครื่องยนต์ ใหท้ ำการ ปบ.กอ่ นใ 3* หอ้ งพลประจำรถ การตรวจ และการบริการ 4* คันเรง่ เครอ่ื งยนต์ การว่งิ ลองเครอื่ ง ให้ทำการ ปบ.ขณ (PMCS) ของ คท.9-2320 สงั เกตการทำงาน และกา หรอื ไม่ (1.) ฟังเสียงท่ีแสดงการท เร่งเครือ่ งยนต์ (2.) จงต่นื ตวั ตอ่ การส่ันสะ สังเกตการทำงานของสิง่ ต ทำงานถกู ต้อง คอื (1.) แตรรถ (2.) เครอ่ื งปดั น้ำฝนและเค (3.) เข็มขัดนริ ภยั และเคร ทดสอบการตอบสนองต่อ
ห น ้ า | 43 วจ และการบรกิ าร (PMCS) ขัน้ ที่ 2 รถฮมั วี หรอื ประจำปี 24 = 24 เดอื น หรือประจำ 2 ปี วธิ ีการปฏบิ ัติ ใชง้ าน (ก) และประจำสปั ดาห์ (ส) ตามท่ีกำหนดไวใ้ น ตารางการ ปบ. ร (PMCS) ของ คท.9-2320-280-10 จนครบถว้ นทกุ รายการ ณะใช้งาน (ข) ตามท่ีกำหนดไว้ในตารางการ ปบ. การตรวจ และการบริการ 0-280-10 ารเข้าขบกันของเฟอื งขบั วา่ น่ิมนวล และหมุนเคร่ืองยนต์ไดด้ ้วยความเรว็ ปกติ ทำงานผิดปกติของเคร่ืองยนต์ในรอบเดินเบา,ในรอบความเร็วสูง และในขณะ ะเทือนผิดปกติ,กลน่ิ น้ำมนั เชอื้ เพลงิ ,น้ำมนั หล่อล่นื และกลิ่นไอเสยี ตอ่ ไปนร้ี วมทัง้ เครือ่ งควบคมุ ฯ ว่ามคี วามมนั่ คง,ใชง้ านได้สะดวกและ ครื่องฉีดน้ำล้างกระจก รือ่ งยดึ ตรึง อการเร่งเครื่องยนต์ สังเกตการตดิ ขดั ไมค่ ลอ่ งตวั ในการทำงานของคนั เรง่
ตารางที่ 15 การปรนนิบัติบำรงุ การตรว ค = 6 เดือน หรอื ครง่ึ ปี 12 = 12 เดอื น ลำดับ ช่วงระยะเวลา สง่ิ ท่ีตอ้ งตรวจ ค 12 24 5* ห้ามล้อ (1.) เหยียบคันห้ามล้อด้ว ข้างหนึ่ง หรือมีการกระตกุ 6* เครื่องเปลีย่ นความเร็ว (2.) ปล่อยคันหา้ มล้อ ห้าม 7* หบี เฟอื งชว่ ย (3.) ห้ามล้อรถจนหยุดสน 8* การบงั คบั เลย้ี ว กบั ที่ (1.) ตรวจการตอบสนองต 9* เครือ่ งพยงุ ตัวรถ (2.) จงตน่ื ตวั ต่อเสยี งผดิ ป (1.) ตรวจการตอบสนองต (2.) จงต่ืนตัวต่อเสยี งผดิ ป (1.) ในขณะท่ีรถว่ิงด้วยค ทางขวาเพื่อสังเกตความ พวงมาลัย และรถควรตอบ (2.) ในขณะทร่ี ถวงิ่ อยใู่ นท สงั เกตวา่ รถถูกดงึ ไปทางใด สังเกตการตอบสนองของร อยา่ งตอ่ เน่อื งอนั แสดงถึงค
ห น ้ า | 44 วจ และการบรกิ าร (PMCS) ขนั้ ที่ 2 รถฮมั วี หรือประจำปี 24 = 24 เดอื น หรือประจำ 2 ปี วธิ ีการปฏิบัติ วยแรงกดท่ีสม่ำเสมอ รถควรวิ่งช้าลง และหยุดโดยไม่มีการแฉลบ,เฉไปข้างใด ก มลอ้ ควรปลดตวั ทนั ทีโ่ ดยมมี คี วามลำบาก นิท ใส่ห้ามล้อจอดรถ เมื่อคันเกียร์อยู่ในตำแหน่งขับปกติ “D” รถควรหยุดอยู่ ตอ่ การเปล่ียนตำแหนง่ เกยี ร์ และความราบรื่นในการทำงานทกุ ย่านความเรว็ ปกติ และความยากลำบากในการเปล่ียนเกียรท์ ุกย่านความเรว็ ตอ่ การเปลยี่ นตำแหนง่ เกียร์ และความราบรืน่ ในการทำงานทุกย่านความเร็ว ปกติ และความยากลำบากในการเปลยี่ นเกยี ร์ทกุ ตำแหนง่ ความเร็ว 5 ไมล์/ชม.(8 กม./ชม.) ให้หมุนพวงมาลัยไปทางซ้าย และกลับมา มยากลำบากในการบังคับเลี้ยว, ระยะฟรีของพวงมาลัย การเต้นหรือสั่นของ บสนองตอ่ การหมนุ พวงมาลัยในทันที่ ทางตรง พ้นื ดินได้ระดับและราบเรยี บ ให้ใช้มือแตะพวงมาลัยรถไว้ แลว้ ด หรอื วง่ิ สา่ ยไปมาหรอื ไม่ รถตอ่ การกระแทกกระเทอื นของถนน การโคลง หรอื การเต้นข้ึนลง ความบกพรอ่ งของเคร่อื งพยุงตัวรถ
ตารางที่ 15 การปรนนบิ ตั ิบำรุง การตรว ค = 6 เดอื น หรอื ครง่ึ ปี 12 = 12 เดือน ลำดบั ชว่ งระยะเวลา สง่ิ ทต่ี ้องตรวจ ค 12 24 10 * แบตเตอรี่ หลงั การว่ิงลองเครอ่ื ง ให้ทำการ ปบ.หลังใช้ง 11 ภายนอกรถ * ตัวรถ และการบรกิ าร ของ คท.9 * คำเตือน * * อย่าทำการตรวจ หรือ * กระทำใน บริเวณที่มปี ระก เสยี หาย,บุคคลบาดเจ็บหร 12 * * ให้ถอดเคร่ืองประดับ เสียก่อน หากเคร่ืองประด ไฟฟ้าอยา่ งรุนแรง ทำใหบ้ ทำการ ปบ.แบตเตอรต่ี าม ทำการตรวจความเรยี บร (1.) กระจก ตา่ ง ๆ (2.) บานพบั (3.) แผงเครือ่ งวัด และแผ (4.) แผน่ ปา้ ยขอ้ มูล, มาตร (1.) กำจดั สง่ิ สกปรกทส่ี ะส
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155